ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เพื่อนรักหักเหลี่ยมสวาท ตอนที่11-12

เริ่มโดย suckzeed, กุมภาพันธ์ 12, 2016, 11:24:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

มีเพื่อนคนหนึ่งตั้งรีพายผมดังนี้....

2.ผมจะไม่ซ่อนข้อความใดๆทั้งสิ้น ปล่อยให้ท่านอ่านกันอย่างเสรี เพื่อมิให้ท่านต้องรีพายขอบคุณเพียงแค่อยากเปิดข้อความ
ที่ถูกซ่อนเอาไว้ แฟร์ดีมั๊ยครับ

แต่หลังๆ เห็นซ่อนทุกกระทู้เลยนี่ครับ

หรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ขอทราบด้วยนะครับ


.ใครก็ได้ที่เป็นแฟนคลับอ่านเรื่องที่ผมเขียนมาตั้งแต่แรก ช่วยตอบแทนผมทีครับ ว่าทำไมผมจึงต้องกลับมาซ่อนข้อความอีกครั้ง
หลังจากที่ปล่อยให้อ่านกันแบบไม่ซ่อนข้อความมา3ตอน ถ้าไม่มีใครตอบ คนที่ถามผมลองกลับไปย้อนดูว่าระหว่างตอนที่1-3
กับตอนที่4-10 มันมีอะไรที่แตกต่างจากกัน คุณก็จะรู้คำตอบเองครับ


suckzeed........http://xonly69.com/read-xonly-tid-159448.html.........

ยัยบียัยบีดันทะลึ่งไปเสนอตัวรับคำ พร้อมกับลุกขึ้นมายืนประกบตัวผม มือซ้ายเธอคล้องบ่าคล้องไหล่ดึงหน้าผมลง แล้วเขย่งตัวขึ้นประกบปากแนบจูบ ส่วนมือขวาลูบไล้ตามแผ่นหลังกว้าง ลงมาถึงก้นปอดๆเล็กๆคัดแข็งของผมช้าๆ ชวนสยิว จากนั้นก็วกมือกลับมาด้านหน้าคว้าลำของผมบีบลูบเบาๆ สักครู่จนมันเริ่มพองสู้มือเธอ ปากที่ประกบจุบนั้นก็เริ่มเร่าร้อนรุนแรงขึ้น

จนผมได้กลิ่นเบียร์ระเหยออกมาจากลมหายใจของยัยบี ก่อนที่เธอจะแลบลิ้นชอนไชเข้ามาในปากของผม แล้วมือข้างขวานั้นก็ค่อยจับขอบกางเกงในผมถลกรั้งลง จนท่อนลำของผมเด้งออกมาส่ายโงนเงน ยิ่งพอโดนมือนุ่มนิ่มของยัยบีรูดเล่น มันก็ยิ่งพองแข็งยืดยาวขยายใหญ่จนอุ้งนิ้วของยัยบีจับไม่รอบ

"พอแล้วบี.."

ผมผละหน้าถอนปากออกมาจากการจูบกับยัยบี แล้วกระซิบเบาๆ จากนั้นดึงกางเกงในขึ้นมาคลุมท่อนลำตามเดิม ก่อนจะก้มลงช้อนวงแขนอุ้มร่างบางๆเพรียวๆยัยบี ลอยขึ้นมา

"ผมขอไปต่อกันในห้องนะพี่เกศ..."

[post]ผมอุ้มยัยบีเดินออกจากห้องรับแขก ไม่ฟังเสียงแซวไล่หลังของพี่เกศ พอเข้ามาในห้องนอนของผมแล้ว ผมก็ปล่อยวางร่างยัยบียืนอยุ่ตรงหน้าประตู หลังจากที่ปิดล็อคเรียบร้อยแล้ว ผมผละเดินไปทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้แต่งตัวหน้ากระจกเงาบานใหญ่ มองภาพสะท้อนเห็น
ยัยบียืนหันรีหันขวาง ก่อนจะค่อยๆเดินไปทรุดนั่งที่ขอบเตียงห้อยเท้าสองข้างลงมาแกว่งเล่นสลับไปมาอย่างไม่รุ้ว่าจะทำอะไรต่อดี

"ชัย...บี.เอ่อ..ขอโทษนะที่ทำให้ชัยมีอารมณ์.."

ยัยบีพูดเบาๆ แต่ตาจ้องมองภาพสะท้อนในกระจกตรงมาที่ท่อนลำแข็งโปนในกางเกงในผม ผมจึงลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มานุ่งขมวดปมที่เอวจนเรียบร้อย พร้อมหันหน้ากลับไปหายัยบี

"ช่างมันเถอะบี..ถ้าไม่ทำอย่างนี้ พี่เกศคงไม่เชื่อ..ชัยคิดว่าคราวนี้เขาคงเชื่อแน่แล้ว ไม่มาตามตอแยบีอีกแล้วละ.." ผมทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อีกครั้ง พยายามใช้มือกดลำที่แข้งดันเนื้อผ้าฟูๆขึ้นมาจนโด่ให้สงบลง

"ชัย...เอ่อ..ให้บีช่วยมั๊ย..." ยัยบีจ้องมาที่กลางลำตัวของผมแล้วตัดสินใจพูดขึ้นช้าๆ หน้าแดงๆไม่รุ้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรืออะไรกันแน่

"ไม่ต้องหรอกบี..เดี่ยวมันก็สงบ.." ผมปฎิเสธออกไป

"ชัยคงทรมานใช่ป่าว...ให้บีช่วยได้นะ..." ยัยบียังดื้อตื้อไม่เลิก

"ไม่ต้อง..เดี๋ยวมันก็สงบ.." ผมปฎิเสธไปเป็นครั้งที่สองด้วยเสียงที่เข้มขึ้น แม้ใครจะว่าผมบื่อผมโง่ก็ตาม แต่ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆที่
ปฎิเสธยัยบี หาใช่เป็นการเล่นตัวของผม

"เพราะเรื่องของบีแท้ๆ..ทำให้ชัยต้องทรมานแบบนี้ บีเคยได้ยินพวกผู้ชายเขาบอกว่า ถ้ามีอารมณ์แล้วเอ่อ..ไม่ได้ปลดปล่อยมันจะทรมานไม่ใช่หรือคะ..ให้บีช่วย..เอ่อ..ช่วยใช้มือทำให้ชัยปลดปล่อยได้นะ..."

สายตาที่ยัยบีจ้องมองสบตากับผมนั้นบอกความจริงใจ ว่าเธอต้องการช่วยเหลือให้ผมพ้นจากความทรมานด้านอารมณ์จริงๆ หาใช่พูดด้วยความรุ้สึกด้านกามารมณ์เลยแม้สักนิด

"ขอบใจนะบี..ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวมันก็สงบเอง เชื่อสิ..ชัยไม่เจ็บปวดทรมานหรอก.."

ผมพูดพร้อมกับลุกเดินเลี่ยงไปที่ม่านริมเทอร์เรส พอเปิดม่านออกก็เหม่อมองทิวทัศน์กรุงเทพยามราตรี เห็นตึกรามสุงใหญ่มีแสงไฟประดับอย่างสวยงาม พร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆสามสี่ครั้ง ท่อนลำที่แข็งโปนก็ค่อยๆอ่อนสงบลงช้าๆ จนเป็นเหมือนปรกติ จากนั้นจึงหันหน้าเดินกลับมานั่งที่ขอบเตียงห่างจากตัวยัยบีสักช่วงแขน

"แล้วเราจะต้องอยู่ในห้องกันแบบนี้อีกนานมั๊ยชัย..." หลังจากนั่งกันนิ่งๆไปพักใหญ่ ต่างคนต่างใช้ความคิดไปเรื่อยๆ จนยัยบีพูดขึ้นมา ผมจับน้ำเสียงได้ว่าเธอดูเหงาเศร้าอย่างไรชอบกล

"ก็จนกว่าพี่เกศจะกลับมั้ง.." ผมตอบออกไปตามความรุ้สึกว่าคงจะต้องเป็นเช่นนี้

"แล้วถ้าพี่เกศไม่กลับล่ะ..บีต้องนอนกับชัยในห้องนี้ด้วยหรอ.."

ยัยบีพูดอ้อมแอ้มเสียงเบาหวิว ใบหน้าเริ่มแดงๆอายๆ ผมไม่รู้ว่าเธอนึกอะไร อายอะไรกัน ในเมื่อร่างสาวของเธอนั้นผ่านสายตาของผม
มาแล้วแทบทุกซอกทุกมุม

"อืมมมม..คงงั้นละ..แต่บีไว้ใจเราได้นะ.." ผมรีบบอกกลัวว่ายัยบีจะคิดมาก

"อืม..บีไม่กลัวชัยปล้ำหรอก..เพราะรู้ว่าชัยเป็นคนดี..เป็นผู้ชายที่น่ารัก..หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้..." ยัยบีคงเริ่มอารมณ์ดีขึ้น จึงหัวเราะเบาๆขำๆ

"เดี่ยวออกไปดูก่อนนะว่าสองคนทำอะไรกันอยุ่..."

หลังจากที่นิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ๆ ผมก็พูดขึ้นมาเพราะเริ่มอึดอัดที่จู่ๆมีหญิงสาวสวยมานั่งเคียงคุ่กันอยู่บนเตียงนั้น แม้ผมจะไม่ได้คิดอะไรกับยัยบี แต่ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนหรือนักบวชนักพรตที่บรรลุโสดาบรรณตัดแล้วซึ่งกิเลสกามารมณ์

หลังจากที่ผมเปิดประตูห้องนอนชะโงกหน้าออกไปมองดูที่ห้องรับแขก ไม่มีวี่แววของคนทั้งสอง มีเพียงเสียงแหลมสูงระริกระรี้ดังลอดออกมาจากห้องนอน พร้อมเสียงร้องครางดังแผ่วๆออกมา ผมก็รีบหดหัวกลับเข้ามาในห้องพร้อมบอกให้ยัยบีรับรู้ว่าทั้งไอ้คุณเอกและพี่เกศไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกแล้ว ปล่อยให้เธอรู้ด้วยตัวเองดีกว่าว่าทั้งสองคนหายไปอยุ่ที่ไหน

"ชัยคะ..บีขอยืมผ้าเช็ดตัวสักผืนได้มั๊ยคะ..ของบียังอยุ่ในกระเป๋า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยรื้อมาใช้.."

เมื่อผมได้ยินดังนั้นก็เปิดตุ้เสื้อผ้าบานใหญ่ที่บิ้วอินติดกับผนังห้อง ดึงผ้าเช็ดตัวสำรองที่อยู่บนชั้นวางด้านบนตุ้ออกมายื่นส่งให้กับมือของยัยบี เธอรับมันไปถือกอดไว้ แล้วเดินออกจากห้อง

"บีไปอาบน้ำก่อนนะคะ..เหนียวตัวจังเลย..มึนๆด้วยอ่ะ..."

 ร่างบางๆเพรียวๆของยัยบีค่อยๆเดินออกไปจากห้อง สักพักใหญ่ๆก็กลับเข้ามาในห้องผมอีกครั้งด้วยผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดผืนใหญ่ห่อหุ้มร่างสาวที่มีหยาดน้ำเกราะพราวเต็มตัวเข้ามา ใบหน้างดงามสดใสยามล้างเครื่องสำอางค์ออกนั้นช่างดูงดงามเหมือนเด็กน้อยวัยบริสุทธิ์สดใสยิ่งนัก แต่ใครจะรุ้ว่าสาวน้อยบริสุทธิ์สดใสคนนี้เพิ่งผ่านอะไรมาบ้างนอกเสียจากผมคนเดียวเท่านั้น

"บีแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนนะ เดี๋ยวเรามา..."

ผมพูดจบก็เดินออกจากห้องนอน ไปยังห้องครัวเปิดตู้เย็นมองหาน้ำดื่ม ก่อนหยิบมาเปิดขวดยกดื่มด้วยความกระหายจนหมดเกลี้ยง
แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ด้วยนึกว่ายัยบีคงแต่งตัวเสร้จเรียบร้อยแล้ว

"ว๊าย..ชัย..."

ยัยบีผวาร้องว๊ายเบาๆ เมื่อผมเปิดประตุเข้าไป มองเห็นร่างสาวขาวผ่องทางเบื้องหลังที่เปลือยเปล่ากำลังโก่งโค้งรูดดึงชั้นในให้เข้าที่ ผมรีบกล่าวขอโทษพร้อมปิดประตูเดินออกมานั่งที่โซฟารับแขก อารมณ์ตื่นเพริดจนตนเองแปลกใจ ใช่ว่าร่างเปลือยของยัยบีผมจะไม่เคยเห็นเคยสัมผัส ช่วงอาบน้ำให้นั้นทั้งสัมผัสทั้งจับต้อง แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไร ไม่ตื่นเต้นจนใจเต้นโครมครามเช่นครั้งนี้ จนยัยบีเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นเกย์ไปเสียด้วยซ้ำ

"เรียบร้อยแล้วชัย....."

ยัยบีโผล่หน้าออกมาจากประตูแก้มสาวไร้เครื่องสำอางค์แดงปลั่งด้วยความอาย..ยัยบีนี่ก็แปลกครั้งผมเห็นร่างเปลือยของเธอเต็มๆตานั้นเธอกลับไม่เอียงอาย แต่พอมาโดนผมเห็นวับๆแวมๆเช่นครั้งนี้ เธอกลับอายจนหน้าแดงปลั่ง

ผมกลับเข้าไปในห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียงทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ยัยบีนั่งอยุ่บนเก้าอี้หน้ากระจกเงาบานใหญ่ สางผมสีน้ำตาลเข้มๆยาวๆ ของเธอช้าๆ ภาพเบื้องหน้าที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาดูสวยงามยิ่งนัก ผมไม่กล้ามองนานนักจึงค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เพียงสักครู่ก็รู้สึกเตียงข้างตัวขยับยุบ จึงลืมตาขึ้นมองเห็นยัยบีนั่งลงมาในท่าเดิมคือห้อยขาไว้เบื้องล่างเตะสลับกวัดไกวอย่างที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี

"ง่วงแล้วหรอ.."ผมพูดจบก็ขยับร่างไปอีกด้านของเตียงใหญ่ พอเหลือที่ให้ยัยบีเอนตัวลงมาช้าๆ พร้อมแบ่งหมอนให้เธอหนุนหัว

"ยังหรอกชัย..แต่ไม่รุ้จะทำอะไรน่ะ.."

ยัยบีล้มตัวลงนอนหงายมือสองข้างแนบข้างลำตัว ลืมตามองเพดานห้องแล้วพูดกับผมเบาๆ ผมหยิบหมอนข้างมาวางแบ่งกั้นอาณาเขต แล้วนอนหงายยกมือก่ายหน้าผาก ในห้วงคำนึงนึกคิด นับจากนี้ชีวิตของผมในห้องนอนคงไร้อิสระเสรีแล้วเป็นแน่

ตอนที่12

"บี...เราถามอะไรสักเรื่องได้มั๊ย...ถ้าบีไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ..." หลังจากที่ยัยบีกับผมนอนกันอยู่นเตียงไปได้พักใหญ่ ก็ยัง
ไม่มีทีท่าว่าพี่เกศจะกลับบ้าน

"ได้สิชัย...เธอเป็นผู้ชายคนเดียวที่บีไว้ใจนะ..ถามมาเถอะ บีจะตอบทุกคำถามเลย..."

ยัยบีจากท่านอนหงายก็ขยับมานอนตะแคง แต่เธอช่างไม่ระมัดระวังตัวเสียบ้างเลย จังหวะที่พลิกตัวตะแคงหันมาทางผมนั้น มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหันศรีษะไปทางด้านเธอพอดี แล้วไอ้ชุดนอนแบบชุดยาวๆ สีอ่อนๆ ผ้าพริ้วๆลื่นๆนั้น เวลานอนตะแคงข้าง คอเสื้อมันก็ย้วยห้อยตกลงมาจนอกอวบกลมที่ดูเหมือนจะไม่มีบราสวมอยู่ด้านในเสียด้วย มันก็เลยปลิ้นหลุดออกมายั่วสายตาผมเกือบครึ่งเต้า
ดีนะที่ยังไม่เห็นหัวจุกสีแดงๆของเธอ แต่แค่นั้มันก็ทำให้ผมตื่นเต้นจนรีบหันหน้ากลับมาตามเดิม

"เอ่อ....บีย้ายมาอยู่แบบนี้ ไม่กลัวพ่อแม่รุ้หรอ..."

ผมถามไปด้วยความอยากรู้ รอสักครู่ยัยบีก็ยังไม่ตอบกลับมา ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิด มันนานจนผมนึกว่าเธอคงไม่อยากตอบ ผมเลยหันหน้ากลับไปมองหน้ายัยบีอีกครั้ง  คราวนี้ก็ได้เห็นว่านัยต์ตาเธอกำลังแดงๆ เหมือนกำลังจะร้องไห้ ผมตกใจรีบกล่าวขอโทษเธอ แล้วบอกว่าไม่ต้องตอบคำถามก็ได้ แต่สักครู่ยัยบีก็เริ่มเล่าเรื่องราวให้ผมฟัง

"บี..ไม่มีพ่อแม่แล้วละชัย..." เธอพูดแล้วหยุดชะงัก จนผมได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ  แต่ผมก็ยังไม่แทรก ปล่อยให้เธอระบายความรุ้สึกอัดอั้นออกมาก่อนจนหมด

"บีอยู่กับแม่มาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ..จนบีได้สัก10ขวบมั้ง..แม่ก็มีพ่อใหม่ให้บี..แม่มีน้องชายกับน้องสาวอีกอย่างละคนกับพ่อใหม่ของบี..พ่อเลี้ยงไม่ค่อยดีกับบีนักหรอกค่ะ..เขาไม่สนับสนุนเรื่องที่บีต้องการมาเรียนต่อในกรุงเทพ..แต่แม่บีสนับสนุน แต่ก็ไม่มีเงินทองส่งเสียบี ช่วงที่บีจบมอปลายแล้วเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย บีก็เลยออกทำงานเพื่อเก็บเงิน..มาเรียนต่อ...บีทำงานในผับที่เชียงใหม่ เอ้อ...เป็นสาวนั่งดริ้ง.." คราวนี้ยัยบีหยุดนิ่งไปเป็นช่วงๆ

"มันก็ได้เงินดีนะชัย แต่บีไม่ออกไปกับแขกที่มาเที่ยว..ชัยพอรู้มั๊ยว่าสาวนั่งดริ้งเขาทำอะไรบ้าง.."

เมื่อผมสั่นหัวเพราะในชีวิตนี้ไม่เคยเข้าไปเที่ยวในสถานที่แบบนั้นแม้สักครั้ง แต่ก็พอคาดเดาได้จากชื่อตำแหน่ง..สาวนั่งดริ้ง..ก็คงนั่งเป็นเพื่อนดื่มเหล้ากับแขกหรือชงเหล้าให้แขกทำนองนั้นแน่

"ก็นั่งเป็นเพื่อคนที่มาเที่ยวน่ะ..ชงเหล้าให้เขาบ้าง ดื่มเป้นเพื่อนเขาบ้าง..เราก็ได้ค่าคริ้งตามจำนวนเวลาที่เรานั่งกับแขก.."

"อืมมมม..แค่นั้นเองหรอ..ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่..." ผมพูดออกไปเพราะความไม่เข้าใจจริงๆ

"มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกชัย..แขกที่มาเที่ยวผับแบบนี้ ชัยรู้มั๊ยว่าเขาไม่ได้มาเพื่อดื่มเหล้าเท่านั้น..เขามาเพื่อ...เอ้อ..จับเด็กไปนอนด้วย..ถ้าใครไม่ไปเขาก็จะไม่ค่อยเรียกมานั่งดื่ม...ตะ..แต่บีโชคดี ที่สาวกว่าสวยกว่าพนักงานที่อยู่ในร้าน เลยมีแขกมาหาบีเยอะ แม้จะรู้ว่าบี
ไม่ออกไปกับแขกที่มาเที่ยว..ตะ..แต่เขาก็ลวนลามบีตลอดเวลาที่ยังนั่งกับเขา.." เสียงของยัยบีช่างเศร้าเสียเหลือเกิน

"บีทนทำงานเพื่อเก็บเงินได้สองเดือนก็พอได้ค่าใช้จ่ายเพื่อมาเรียนต่อ พร้อมทำเรื่องกู้เงินกยศ.มาไว้จ่ายค่าหน่วยกิต..แต่ค่าเช่าหอ
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนั้น บีก็อาศัยเงินที่หามาได้ตอนเป็นเด็กนั่งดริ้งนั่นแหละ..แต่พอใกล้จะเข้ามาเรียน แม่ของบีก็เสีย.."

คราวนี้ผมได้ยินเสียงยัยบีร้องไห้สะอื้นออกมาดังๆ เมื่อเล่าถึงตอนที่แม่ของเธอเสีย จนผมต้องขยับตัวนั่งเอนพิงพนักหัวเตียง เอื้อมมือไปลูบผมของยัยบีเบาๆ ด้วยความรู้สึกสงสารชีวิตของเธอจับใจ นึกว่าเรื่องร้ายๆกับเธอคงมีเพียงเท่านี้ จนเธอหายสะอื้น ก็เอื้อมมือมา
จับมือผมบีบ ส่งยิ้มแสนเศร้าให้กับผม แล้วเล่าเรื่องต่อ[/post]"หลังจากทำงานศพแม่เรียบร้อย พ่อเลี้ยงของบีก็เข้ามาหาบีในห้องในคืนวันก่อนที่บีจะเดินทาง..เขายื่นข้อเสนอว่าถ้าบียอมเป็นเมียเค้า เขาก้จะส่งเสียให้บีเรียนต่อได้..แต่บีไม่ยอม..เขาก็ปล้ำบี..บีสู้แรงเขาไม่ได้ก็ส่งเสียงร้อง พอดีน้องตื่นเลยเดินเข้ามาดู พ่อเลี้ยงก็เลยหยุดการกระทำ พอรุ่งเช้าบีก็หนีมาอยู่ที่กรุงเทพ แล้วก็มาพักอยู่ที่หอนั่นแหละ.."

พอยัยบีเล่าเรื่องจบ เธอก็ถอนหายใจเอือกมือที่จับมือผมนั้นบีบกระชับเบาๆ ส่งสายตายิ้มๆ แต่ดูแล้วมันทั้งเศร้าทั้งเหงาเสียยิ่งนัก จนผมต้องบีบมือกลับให้กำลังใจหล่อน

"แล้วชัยล่ะ..เป็นเพื่อกับพี่เอกแบบไหน ดูๆแล้วเหมือน.เอ่อ..ชัย.."

ยัยบีไม่กล้าพูดต่อซึ่งผมคาดว่าเธอคงจะถามว่า เหมือนชัยเป็นขี้ข้าไอ้คุณเอกมากกว่าเป็นเพื่อนกัน ผมก็เลยเล่าเรื่องของผมตามความจริงให้ยัยบีฟังทั้งหมด หลังจากที่เล่าจบผมก็คิดว่าชีวิตของตนเองกับยัยบีนั้นหาได้แตกต่างกันเลย ผมเป็นทาสรับใช้ไอ้คุณเอก ส่วนยัยบีเป็นทาสกามของมัน

"แล้วช่วงที่เปิดเทอม..นี่บีกินอยู่ยังไงหรอ..." หลังจากที่ผมฟังคำเล่าต่อของยัยบีแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธออดทนใช้ชีวิตแบบนี้ได้อย่างไรจนผ่านมาได้เกือบครึ่งปี

"บีก็ใช้เงินที่หามาได้จ่ายเฉพาะค่าหอ เก็บไว้ใช้ไว้กินเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็เป็นมาม่านั่นแหละอิอิ..แต่ก็ยังดีนะที่มีผุ้ชายมาเป็นสปนอร์เซอร์เลี้ยงข้าวเลี้ยงอาหารให้บีบ่อยๆ..ก็พวกนิสิตชายนั่นแหละชัย..มาจีบบี พาไปเลี้ยงข้าว ซื้อของมาให้ใช้บ้าง อะไรแบบนี้.."

เล่ามาถึงช่วงนี้ยัยบีค่อยดูสดใสขึ้น เล่าไปขำไปน้อยๆ คงนึกถึงเรื่องที่บรรดาผู้ชายที่มาจีบเธอนั่นแหละ..ที่พยายามเอาอกเอาใจพาไปเลี้ยง พาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆนาที่จำเป็น

"แล้วทำไมบีถึงมาคุยกับคุณเอกเขาล่ะ...รู้จักกันตอนไหนหรอ..ชัยไม่เห้นเคยรู้มาก่อน..."

"ก็หลายเดือนแล้วละ..ที่พี่เอกมาจีบมาคุยกับบี แต่ส่วนมากจะคุยกันทางโทรศัพท์.. "

"แล้วบีไม่รุ้มาก่อนรึว่าเอ้อ...คุณเอกมีผู้หญิงเยอะ..."

"ก็พอรู้นะ...แต่ก็นะ..บีไม่มีช้อยให้เลือกมากนัก...ก็พยายามคุยกับพี่เอกเค้าแบบระวังตัวเช่นกัน ไม่เคยไปไหนกันมาก่อนเลยสักครั้ง จนมาครั้งนี้แหละที่บีพลาด..."

ผมไม่กล้าซักถามว่าไอ้คุณเอกมันเสนออะไรให้ยัยบีบ้าง แต่ก็คงมากพอจนเธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กับมันแน่ ที่สำคัญเธอก็รุ้อยู่ว่าการมาอยู่แบบนี้ยังมีพี่เกศที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของไอ้คุณเอกมันอยู่ทั้งคนคอยขัดขวาง

"ชัยคะ...บีไม่คิดอะไรหรอกค่ะ จุดมุ่งหมายในชีวิตของบี คือต้องการเรียนให้จบ แม้ว่าพี่เอกจะให้ทำอะไรวิตถารไปบ้าง บีก็ไม่สน"

"ไม่สน..ไม่สนถึงกับยอมให้คุณเอกบังคับให้เอ่อ...ทำกับเราแบบนั้นเลยหรือ.."

คราวนี้ยัยบีถึงกับอึ้งไปสักพักเมื่อผมถามถึงเรื่องที่ข้องใจว่าการที่เธอยอมทำกับผมขนาดนั้น เพราะเธอเพียงต้องการทำเพื่อเอาใจไอ้คุณเอกมันเท่านั้นเองหรือ แต่คำตอบที่ผมได้รับนั้น ถ้ายอนเวลาได้ ผมคงไม่ถามไปแน่ เพราะมันทำให้ผมรุ้สึกอึดอัดใจที่ได้ยิน

"กับผู้ชายคนอื่น บีคงไม่ยอมตามใจพี่เอกเขาขนาดนั้นหรอกชัย...แต่กับชัย..บีเอ้อ..ไม่บอกได้มัยคะ..."

ยัยบีไม่ยอมพูด แต่มือกลับบีบกระชับกับมือผมรุนแรงขึ้น ใบหน้าขาวใสก็แดงระเรื่อ เห้อออยัยบีเอ๊ยยยย..รุ้มัยว่าทำแบบนี้ ใจไอ้ชัยมันตื่นเต้นแค่ไหน ผมแอบเอื้อมมือไปหยิกท้องน้อยของตนเองจนเจ็บจี๊ดดดด จากนั้นก็หันกลับมานอนหงายก่ายหน้าผากอีกครั้ง แต่มือของผมยังโดนมือยัยบีบบีบกระชับไม่คายปล่อย

จนผมเกือบจะเริ่มเคลิ้มหลับแต่ยัยบีนั้นนอนตะแคงกอดหมอนข้างหลับปุ๋ยไปเสียนานแล้ว ผมเลยค่อยๆ แกะมือเธอออกแล้วขยับลุกขึ้นนั่ง เพิ่งมองใบหน้าสวยหวานของยัยบี แล้วเกิดความรู้สึกสงสารเธอจับใจ ชีวิตของเธอกับผมต่างต้องยอมตนเป็นทาสให้ไอ้คุณเอกทั้งคู่ เพราะจุดมุ่งหมายสำคัญในชีวิตที่เราจำต้องอดทน

ผมโชคดีกว่าที่เป็นผู้ชาย ยอมรับใช้มันแบบทาส ทำทุกอย่างให้มัน แต่ยัยบีเป็นผู้หญิง เธอจะตกเป็นทาสกามารณ์ของมันอีกนานแค่ไหน และนานวันไปมันจะยิ่งวิตถารมากขึ้นหรือเปล่า..ผมสาบานกับตัวเองว่า ถ้าผมยังอยู่ ยังใช้ชีวตอยู่ในแวดวงของไอ้คุณเอกกับยัยบี ผมจะไมมีวันยอมให้มันทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้ในแบบวิตถารเด็ดขาด

ผมขยับลุกขึ้นไปอาบน้ำ พยายามทำตัวให้เงียบที่สุดจากนั้นก็เดินออกไปจากห้องนอน พอเข้าห้องน้ำได้ชั่วครุ่ได้ยินเสียงก็อกแก๊กๆ
ที่ห้องรับแขก จึงเปิดประตุห้องน้ำแง้มชะโงกหน้าออกมาดู เห็นพี่เกศกำลังกลับบ้านเธอพอดี โดยมีไอ้คุณเอกเดินออกมาส่งที่หน้าประตุห้อง พอพี่เกศพ้นออกจากประตุไปแล้วไอ้คุณเอกก็จะเดินมาเข้าห้องน้ำ จึงเห็นผมพอดี มันยักคิ้วให้อย่างทะลึ่งทะเล้น แล้วเดินกลับไปทางห้องนอนของผม ส่วนผมก็ไม่ได้สนใจอาบน้ำต่อไปอย่างช้าๆพร้อมความคิดที่โลดแล่นเรื่อยเปือย จนอาบน้ำเสร็จ แต่งตัวที่ในห้องน้ำจนเรียบร้อยด้วยบล็อคเซอร์ยานๆย้วยๆตัวเก่งที่ชอบใส่นอนเสมอกับเสื้อยืดบางๆ แล้วจึงเดินกลับไปที่ห้อง พอเปิดประตุเข้าไปก็เห็นไอ้คุณเอกมันกำลังขึ้นคล่อมยัยบีบนเตียงนอนของผม ผมรู้โดยไม่ต้องมีคนมาบอก ว่าไอ้คุณเอกมันกำลังลักหลับยัยบีอย่างแน่นอน

"ไปทำที่ห้องคุณเอกสิ...." ผมกระซิบบอกมันไปเบาๆ แต่ไอ้คุณเอกยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากส่งสัญญาณให้ผมเงียบๆ จากนั้นค่อยๆขยับเอวขยับก้นเปลือยดันท่อนลำเข้าไปที่หอยอวบอุมของยัยบีช้าๆ


mu


devilzoa

ยังจะแอบมาลักหลับอีกหื่นได้หื่นดีจริงๆไอ้คุณเอก

rahoo99

พล๊อตเรื่องดีมาก ผสมผสานบทเสียวและดรามาได้ลงตัวจนเป็นอีโรติก เอก+เกศ ชัย+บี สร้างความสนุก รอตัวละครอื่นๆ