ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ศึกหมอผี ตอนที่ ๑๑ ( Origins.)

เริ่มโดย นีโอ, มีนาคม 10, 2016, 07:44:19 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

นีโอ

ขอบคุณพิเศษ ท่านไวไฟ จัดทำภาพประกอบ



ศึกหมอผี ตอนที่ ๑๑


(  Exorcist   Saga.  )
  
รุ่งอรุณของผู้กล้า....

แสงทองสาดส่องท้องฟ้าเจิดจ้าในยามเช้า ที่ขอบเหวหมอผีหนุ่มปีนขึ้นมาจากเบื้องล่าง  เมื่อขึ้นมาได้เขาก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องบน  มองไปรอบๆด้วยแววตาสมหวังแล้วเขายืดกายขึ้นสูดอากาศและกางแขนรับแสงอบอุ่น  ด้านหลังเจ้าหญิงแห่งแดนสมิงปีนตามขึ้นมา  หมอผีหนุ่มหันไปดึงขึ้นมา  ทั้งสองอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเสื้อผ้าขาดวิ่น  หลังจากร่วงหล่นลงไปเมื่อคืนจากการต่อสู้  ทั้งสองรอดได้ราวปาฏิหาริย์   และหาทางปีนป่ายกลับขึ้นมาจนได้

"ฮื่อ.อ.อ...ขึ้นมาจนได้นะพี่สิน...." เจ้าหญิงทรุดกายลงนั่งอย่างอ่อนร้า

หมอผีหนุ่มนั่งลงข้างประคองอย่างห่วงใย "ทรงเจ็บตรงไหนบ้างพะย่ะค่ะ..."

"พูดกับหญิงธรรมดาๆก็ได้  อย่างพูดอย่างงั้นเลย..." เจ้าหญิงแดนสมิงทรงตำหนิ

"เอ่อ...มันไม่บังควร..."

"แต่หญิงจะให้พูดอย่างนั้นนี่..."

หมอผีหนุ่มถอนหายใจ "ก็ได้ๆๆๆ  ตามพระทัย...."

"เอาอีกแล้ว...."

"อย่ามัวคุยกันอยู่เลย  เราไปตามหาสินธุและคนอื่นๆกันเถอะ..."หมอผีหนุ่มตัดบท

ทั้งสองเดินไปตามทุ่งหญ้าราบซึ่งเป็นสมรภูมินองเลือดเมื่อคืนนี้   มีควันจากการเผาไหม้เป็นแห่งๆ  และหมอผีสินก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้พบซากร่างกระจัดกระจายของเหล่าทหารกู้แผ่นดินกลาดเกลื่อนสยดสยอง  และไม่ห่างจากตรงนั้นมีร่างของสินธุนอนหมดลมหายใจอยู่  ร่างกายของเขาเขียวช้ำเพราะโดนพิษที่หวังใช้ปลิดชีพของราชินี  แม้นจะไร้ลมหายใจแต่สีหน้าของเขากลับเปี่ยมสุขเหมือนทำการสมหวัง  ทั้งสองรีบเข้าไปประคองดูทันที

หมอผีหนุ่มประคองร่างนักรบตัวอ้วนขึ้นมาเขย่าเรียก "สินธุๆๆๆๆ ...."

"เขาตายแล้ว.!!!..เขาตายแล้ว..!!!  ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ....."เจ้าหญิงทรงกรรแสง

"ฮึ่ม.ม.ม.ม.ม์...ไม่น่าเลย คนดีๆอย่างเขาไม่น่าตายเลย...." หมอผีหนุ่มรำพึง

เจ้าหญิงผุดยืนขึ้นหันมองไปทั่วๆ  " แล้วเด็ดพ่อหล่ะ...."

"ไม่อยู่แถวนี้อาจจะหนีไปไกลแล้ว  เราคงต้องออกตามหา  แต่ก่อนเราจะไปตามหา  ต้องจัดการศพของเหล่าผู้กล้านี่กันก่อนเขายอมสละชีวิตเพื่อพวกเรา  ต้องจัดการศพของพวกเขาให้สมเกียรติเท่าที่เราจะทำได้...." หมอผีหนุ่มบอก

"หญิงเห็นชอบด้วย......"

ทั้งสองช่วยกันเก็บซากร่างของเหล่านักรบมาขุดหลุมฝังรวมกันไว้  เมื่อกลบดินแล้วหมอผีหนุ่มก็ทำปักป้ายไว้เหนือหลุมเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้เหล่าผู้กล้าที่พลีชีพเพื่อแผ่นดินอย่างกล้าหาญ  หมอผีหนุ่มนั่งสวดมนต์บทนำทางให้เหล่าดวงวิญญาณ  เมื่อเสร็จเรียบร้อยทั้งสองก็ออกเดินทางด้วยความเศร้าสะเทือนใจ  เพื่อติดตามองค์ราชาไปยังจุดที่นัดหมายกันไว้แต่แรก...

ทั้งสองดั้นด้นเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งมาถึงที่เทือกเขาแห่งหนึ่ง  เจ้าหญิงเดินไม่ไหวหมอผีหนุ่มจึงแบกขึ้นหลังและพาเดินต่อไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งลุพ้นชายป่าก็ได้พบกองกำลังของชมผาที่ตั้งค่ายอยู่แถวนั้น  และเมื่อถูกพาไปพบพระราชาที่เสด็จมาถึงก่อนหน้า  เจ้าหญิงก็วิ่งไปกอดพระบิดา  ชมผาและหมอผีหนุ่มถอนหายใจที่ภารกิจชิงตัวพระราชาและพระธิดาสำเร็จ  แต่ก็ต้องแลกด้วยการสูญเสียชีวิตผู้กล้าไปมากมาย โดยเฉพาะสินธุ....





คืนนั้น.....ภายในกระโจมที่ประทับ  พระราชาพยัคฆราชทรงประทับบนบัลลังก์ไม้ ยามนี้พระองค์ทรงดูมีอำนาจบุคลิกภาพน่าเกรงขาม   มีเหล่าข้าราชการผู้ภัคดีหลายสิบคนหมอบนิ่งเรียงแถวยาวอยู่เบื้องหน้า  ด้านข้างมีร้านนั่ง ซึ่งมีหมอผีหนุ่มได้รับเกียรติให้นั่งคู่กับเจ้าหญิง  ชมผาขุนทหารผู้จงรักภัคดีต่อเหนือหัวตนยิ่งชีวิตหมอบก้มอยู่เบื้องหน้าเพื่อรอถวายรายงานเหตุการณ์ทั้งหลาย  ซึ่งได้เกิดขึ้นระหว่างที่ราชาแดนดินนี้ถูกยึดอำนาจและจองจำ

พระราชาทอดพระเนตรข้าราชบริพารแล้วตรัสขึ้น "ขอบน้ำใจสูทุกคนยิ่งนักที่ยังจงรักภัคดีแก่ข้าแม้นสิ้นวาสนาไปแล้ว  หากข้าสามารถชิงอำนาจจากนางกาลกิณีได้เมื่อใด  ข้าจะตอบแทนพวกสูด้วยลาภยศและทรัพย์สินอย่างสมเกียรติ...."

"ขอเดชะอาญามิพ้นเกล้า  พวกกระหม่อนทำการนี้หาได้หวังลาภยศใดๆ  พวกเราทำการด้วยความจงรักภัคดีเป็นที่ตั้ง  และพร้อมเสี่ยงภัยโดยไม่อาลัยแก่ชีวิตเพื่อรักษาบัลลังก์และปกป้องเชื้อพระวงค์ทุกพระองค์ไว้  เนื่องจากเหนือหัวคือราชาผู้ทรงทศพิศราชธรรม  ที่หมู่เราเคารพและเทิดทูลเสมอพะย่ะค่ะ..." ชมผากราบทูลเสร็จพระราชาทรงตื้นตันพระราชหฤทัยยิ่งนัก

"คำของสูต้องใจข้ายิ่งนัก  มิเสียแรงที่เคยอุปถัมภ์อวยยศให้เบี้ยหวัดผ้าปี  มีพวกสูจำนวนไม่น้อยที่สละชืพไปเพื่อให้ข้ากลับมาอยู่ตรงนี้ ข้าจะไม่ทำให้ความตั้งใจของพวกสูเจ้าสูญเปล่า  ชมผาขุนทหารของข้า  จงแจ้งมาว่านอกจากสูผู้ภัคดีที่ยังมีลมหายใจแล้วยังเหลือผู้ใดอยู่อีกบ้าง..."

ชมผากราบทูลทันที "เหล่าผู้ภัคดีจากแดนเหนือ – ใต้ พร้อมยกกำลังมาประชุมทัพทันที  หากพระทรงมีพระราชสาส์นส่งไปถึง  ยามนี้ที่พวกเขานิ่งเฉยเพียงเพราะขาดผู้นำ  ยามนี้หม่อมฉันส่งข่าวไปทั่วแผ่นดินแล้วว่าพระองค์พ้นจากการจองจำ  และกำลังรอผู้กล้ามาร่วมกู้แผ่นดิน..."

"ดี...ดีมาก....เจ้าจงนำตราของเราไปประทับที่ราชสาส์นทุกฉบับ  ให้ทุกประเทศราชในอาณัติของข้าจงยกกำลังมาประชุมทัพกันที่แดนศรีโพธิ์  ภายในเวลาสามราตรี  เมื่อพร้อมเราจะยกไปยังนคราของเราเพื่อชิงเอาบัลลังก์คืน..." พระราชาตรัสสั่งด้วยพระสุระเสียงทรงอำนาจและเด็ดขาด....

"รับบัญชาพะย่ะค่ะ..." ชมผากราบถวายบังคมลาแล้วรีบออกไปดำเนินตามรับสั่ง

เมื่อชมผาออกจากกระโจมที่ประทับไปแล้ว พระราชาก็สั่งเลิกประชุมขุนนางและให้ทุกคนแยกย้ายออกไปพักผ่อน  หมอผีหนุ่มขยับจะเดินตามทุกคนออกไป  พระราชาทรงตรัสเรียกไว้  "เดี๋ยวก่อนท่านสิน....."

หมอผีหนุ่มหันมาคุกเข่าถวายบังคมแล้วเอ่ยว่า "อาญามิพ้นเกล้า..ทรงเรียกหม่อมฉันว่าสินเฉยๆเถอะ  หม่อมฉันเป็นเพียงมนุษย์สามัญหาได้มียศฐาอันใด..."

"ฮึ..ฮึ..ฮึ...ช่างสมเป็นผู้กล้าที่น่ายกย่อง อ่อนน้อมถ่อมตนไม่โอ้อวด  สูช่วยเราสองพ่อลูกไว้มาก  บำเหน็จรางวัลใดก็ไม่อาจตอบแทนได้  อีกไม่กี่ราตรีข้าจะยกทัพใหญ่ไปรบเอานครของข้าคืน  คงจะเป็นมหาสงครามที่มีการรบอันดุเดือดนองเลือดเป็นมั่นคง  สูจักเป็นกำลังสำคัญของข้าหากการนี้สำเร็จ  สูต้องการสิ่งใดเป็นบำเหน็จแล้วไซร้จงเรียกร้องได้ตามประสงค์.." ตรัสจบแล้วพระราชา ทรงแย้มพระสรวลทอดพระเนตรไปยังพระธิดา ซึ่งหลบสายตาท่าทางเอียงอาย

"ขอเดชะ...การศึกยังมิได้เริ่มเลย  และจะจบเยี่ยงไรก็ยังมิอาจทราบบทสรุป   เรื่องบำเหน็จศึกเอาไว้เอ่ยกันเมื่อมีชัยดีกว่าพะย่ะค่ะ....." หมอผีหนุ่มกราบทูล

"ฮ่าๆๆๆ....นี่สิ...ยอดนักรบโดยแท้...ลูกหญิงเอ้ย  สืบไปภายภาคหน้าถ้าจะหาคู่สยุมพร เจออย่างเจ้าหนุ่มคนนี้จงเลือกเป็นคู่ครองอย่าช้าทีเลยนะ..."

เจ้าหญิงทรงเอียงอาย พลางตรัสอย่างขัดเขิน "เด็ดพ่อ...ตรัสอะไรก็ม่ายรุ้....."

"เอาละ...เรามีการณ์ใหญ่ต้องตระเตรียมอยู่อีกมากมาย  สูเจ้าทั้งสองจงแยกย้ายไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัยเถิด  ข้าจะไปปรึกษากับพวกเสนาธิการเรื่องการจัดทัพก่อน  ..." พระราชาตรัสจบก็เสด็จไปพร้อมทหารองครักษ์

หมอผีหนุ่มลุกขึ้นยืนประสานสายตากับเจ้าหญิงอย่างลึกซึ้งในความหมาย  หมอผีหนุ่มเดินไปใกล้ๆ แล้วกระซิบบอก "เราตรากตรำกันมามากเหลือเกิน  คืนนี้แยกกันไปพักผ่อนก่อนเถิด..."

"ไม่เอา..วันนี้พี่สินต้องอยู่ที่กระโจมของหญิง..." เจ้าหญิงเดินมาเกาะแขนอ้อนราวเด็กน้อย

หมอผีหนุ่มแกะแขนเด็กสาวออก "อย่าทรงทำอย่างนี้มันไม่เหมาะ  หากใครมาเห็นพระเกียรติยศจะมัวหมอง.."

"ช่างมัน..หญิงไม่แค่...นะ..นะ...คืนนี้พักกระโจมของหญิงนะ...." เจ้าหญิงยังอ้อนไม่ยอมฟังเหตุผล

หมอผีหนุ่มถอนหายใจ "เอาอย่างนี้  คืนนี้เราแยกกันพักก่อน  พรุ้งนี้หม่อมฉันจะอยู่ถวายการรับใช้ทั้งราตรีเลย..."

"..คืนนี้ไม่ได้หรอ....แต่..อื่อ.อ.อ..เอาก็เอา...แล้วอย่าลืมนะ..." ตรัสจบเจ้าหญิงก็ประกบปากจูบหมอผีหนุ่ม ก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังกระโจมที่ประทับ  หมอผีหนุ่มยิ้มมองตามไปอย่างเอ็นดู....  



ไม่ห่างจากที่ตั้งกระโจม  หมอผีหนุ่มยืนลำพังเขามองไปบนฟ้าที่มีแสงเดือนส่องสลัวๆ  ใจฉุดคิดถึงภพภูมิที่ตนจากมาและเหล่านางผีสาวที่ภัคดีทั้งสามซึ่งเฝ้ารอการกลับไปของเขาอยู่เบื้องนอกนั่น  ทั้งเรื่องเด็กสาวเจ้าหญิงที่เขาบอกไม่ถูกว่ารู้สึกด้วยอย่างไร  และเรื่องที่ถูกขอร้องให้ช่วยรบเพื่อกู้ราชบัลลังก์ของกษัตริย์สมิงอีก  การเดินทางครั้งนี้ช่างพิศวงและถลำลึกเหลือเกิน  เขายืนคิดอยู่เพลินๆ  ชมผาก็เดินมายืนข้างๆเขาพร้อมส่งมวนยาสูบให้  หมอผีหนุ่มยิ้มรับมาสูบแล้วพ่นควันออกมาโขมง  รสชาติยาสูบเผ่าสมิงก็ไม่เลวเหมือนกัน เขาคิดในใจ...

"ขอบน้ำใจสูมากที่ช่วยเหลือหมู่เรา..." ชมผาเอ่ยขึ้น

หมอผีหนุ่มสูบยามวนแล้วพ่นควันต่อ "ไม่เป็นไร  ข้ายินดีช่วยเหลือผู้ประกอบกรรมดีแต่ถูกความชั่วระรานเสมอ..."

"ท่าทางในภพของสู  คงมีแต่คนยกย่อง..."

"ไม่ถึงขนาดนั้นดอก...."

ชมผาสูบยามวนแล้วพ่นควันคลุ้ง " น่าเสียดายที่สินธุต้องพลีชืพ  เขาไม่สมควรต้องตายอย่างนั้น..."

"แต่ตอนพบศพ ข้าเห็นรอยปรีดาบนใบหน้าของเขา  ข้าว่าเขาคงเต็มใจในการเสียสละ..."หมอผีหนุ่มบอกแล้วถอนหายใจ

"ทุกครั้งที่ออกไปสู้รบกับหมู่ราชินี  สหาย ญาติๆ คนใกล้ตัวและคุ้นเคยของข้าก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆ  เมื่อไหร่หนอจะสิ้นสุดยุคเข็ญนี่สักทีหนา..." ชมผาพูดจบก็ถอนหายใจ

หมอผีหนุ่มมองสหายอย่างเห็นใจ "ฮึ..ฮึ...ท่านอย่าเพิ่งท้อ  เป้าประสงค์ของท่านก็ใกล้เข้ามาแล้ว  เมื่อรวมกองทัพได้  เราจะยกไปจัดการราชินีโฉดนั่น  แล้วสันติธรรมจะกลับมา...."

"ลำพังกองทัพแลทหารของพระนางหาใช่สิ่งที่ต้องกังวลไม่..." ชมผาบอกแล้วอัดยามวนหนักๆ

"แล้วสิ่งใดเล่าที่ท่านเป็นกังวล ..." หมอผีหนุ่มถามอย่างสงสัย

ชมผาระบายลมหายใจหนักๆ "ก็ตัวของพระนางนั่นแหล่ะที่ร้ายกาจจนยากสยบลงได้..."

"แล้วนางเป็นใคร มาจากไหนฤา...แล้วมายึดอำนาจได้อย่างไร...."

"อื่อ.อ.อ...เพราะสูคงยังไม่ทราบความเบื้องหลัง  ข้าจะเล่าเฉลยแก่สูให้สิ้นเนื้อเรื่อง  ปฐมเหตุนี้มันเกิดขึ้นเมื่อองค์ราชาไปเจอพระนางเมื่อครั้งไปรบปราบเผ่าสมิงเถื่อน  องค์ราชาต้องพระทัยจึ่งรับพระนางมาเป็นสนม   แต่เพราะนางถวายงานรับใช้ได้อย่างดี  จึงต้องพระราชหฤทัยจึงได้รับการสถาปนาอภิเสกเป็นพระมเหสี  หลังจากนั้นพระนางก็ลอบกุมอำนาจโดยติดต่อคบค้ากับพวกอวิชาให้แทรกซึมเข้ามาอยูในวังด้วยการอวยยศรับราชการในตำแหน่งสำคัญๆ   กว่าทุกคนจะทันเฉลียวพระนางก็ยึดนครและจับกุมองค์ราชาจองจำไว้  พวกที่ภัคดีพยายามขัดขวางแตก็ถูกเข่นฆ่าไล่ตีแตกซ่าน  เพิ่งมีครั้งนี้เองที่หมู่เราทำได้สำเร็จ  เป็นเพราะสูมาช่วยแท้ๆ.."

หมอผีหนุ่มยิ้มแล้วบอกอย่างถ่อมตน "  อย่ายกย่องข้ามากเกินไปเลย มันมาจากความเพียรของท่านต่างหาก..."

"อื่อ.อ.อ..ข้าเห็นควรว่าสูต้องพักผ่อนบ้างแล้ว  หมู่เรายังต้องพึ่งความสามารถของสูอีกมาก.." ชมผาบอกหมอผีหนุ่ม

"ท่านเองก็เช่นกัน พักผ่อนบ้างเพราะตรากตรำมาไม่น้อยกว่าข้า..."

ชมผายิ้มอย่างซาบซึ้ง "บนพิภพนี้จะมีใครผู้ใดหนอ  ที่เป็นทุกข์แทนผู้อื่นเยี่ยงสู..."

"ก็ท่านไง ชมผา....." หมอผีหนุ่มตอบพร้อมรอยยิ้มจริงใจ

ทั้งสองหัวเราะให้แก่กัน  แล้วมองไปบนฟ้าเบื้องบน  แสงดาวล้อมเดือนคืนนี้ช่างระยิบระยับสวยงามยิ่งนัก  

......................................................................................................




ขบวนหามเกี้ยวของวังหลวงมีทหารหลายร้อยนายคุ้มกัน  ตัวเกี้ยวคลุมผ้ามิดชิดไม่อาจทราบได้ว่าใครนั่งอยู่ในนั้น  แต่ผู้นั่งอยู่ต้องมียศสูงส่งอย่างแน่นอน  ขบวนเกี้ยวเคลื่อนไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งมาถึงทางโล่งก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาขวางจากข้างทาง  เหล่าทหารสั่งหยุดขบวนและชักดาบออกมาเตรียมระวังป้องกันขบวน  ชายผู้เข้ามาขวางก็คือหมอผีชาตินั่นเอง   มันสะพายฝักดาบพิเศษเป็นที่เสียบดาบไว้ถึงหกเล่มซึ่งมีขนาดใหญ่และรูปร่างต่างๆกัน

หัวหน้าทหารคุ้มกันขบวนเดินมายืนเบื้องหน้าหมอผีชาติแล้วร้องถาม "สูมาขวางขบวนเกี้ยวด้วยประสงค์ใด..."

"ข้าต้องการตัวผู้อยู่บนเกี้ยว...."


นายทหารคุ้มกันตวาดทันที "บังอาจ  สูรู้หรือไม่  ว่าผู้อยู่ในเกี้ยวนั้นคือใคร...!!!???..."

"ข้ารู้สิ....และขอให้พวกเจ้าทุกคนจงทิ้งเกี้ยวไว้ที่นี่  จากนั้นจงรีบไสหัวไปให้พ้น..."


นายทหารคุ้มกันกัดฟันกรอด "สูจะโอหังมากเกินไปแล้ว  เกี้ยวนี้เป็นเกี้ยวประจำตำแหน่งของนางสนองพระโอษฐ์องค์ราชินีเจ้าชีวิตพยัคฆานครเชียวนะ  ท่าทางของสูคงเบื่อชีวิตแล้วกระมัง  จึงกล้าลุยเดี่ยวคิดมาปล้นชิง..."

"คำเตือนสุดท้ายจากข้า  จงวางเกี้ยวลงไว้ที่นี่  หาไม่ชีวิตของเจ้าทั้งนายและบ่าวจะบรรลัยก์สิ้นที่นี่...."

นายทหารคุ้มกัน โบกมือให้ทหารองครักษ์ทั้งหมดเข้าล้อมหมอผีชาติ "โทษของความโอหังครั้งนี้ของสูคือต้องถูกกุดหัวและเสียบประจานไว้ที่นี่เพื่อมิให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง..."

"อย่านึกว่ามีคนมากแล้วข้าจะกลัวนะ  ในสายตาของข้าพวกเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกดอก..." หมอผีชาติประกาศทำเอาทุกคนถึงกับโทสะพุ่งสูงสุด

"อย่าเอามันไว้เลย  กุดหัวแล้วสับร่างมันอย่าให้กากินต้องเคืองแค้น...." ทหารคนหนึ่งชักดาบปรี่เข้ามาหาหมอผีชาติทันที

"ใช่..กุดหัวมันเลย...!!!..."

ผ้ากั้นหน้าของเกี้ยวถูกเปิดออก  นางสนองพระโอษฐ์ที่นั่งอยู่ข้างในเงยหน้ามอง พอเจอผู้เปิดม่านเข้ามาหา  นางถึงเบิกตากว้างอุทานอย่างตกใจ  เพราะเป็นหมอผีชาติคนที่นางเข้าใจว่าตายไปแล้ว "หมอผีชาตินี่เจ้า..!!!....."

"แปลกใจที่เป็นข้าหรือ..หึๆๆ.."


นางสนองพระโอษฐ์ตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมองออกไปรอบๆเกี้ยว ทหารคุ้มกันตายบาดเจ็บล้มตายเกลื่อน  เหล่านางข้ารับใช้หายไปสิ้น  เหลือเพียงนางคนเดียวลำพังในบริเวณนั้น "จะ..เจ้า...ยังไม่ตายอีกหรือ ........."

"ทำไม !? ผิดหวังหรือที่ข้ายังมีชีวิตอยู่  คนอย่างหมอผีชาติไม่ตายง่ายๆหรอก  นรกยังคุ้มหัวเสมอ..."

"แล้วเจ้าทำแบบนี้ต้องการอะไร!?"

"ข้าคิดถึงเจ้าน่ะสิ.....หึ...หึ..หึ..."


 หมอผีชาติพูดจบก็เข้ามานั่งคู่นางในเกี้ยว  พลางโอบกอดร่างของนางไว้ นางสนองพระโอษฐ์พยายามสะบัดแต่ก็สู้แรงของหมอผีโฉดไม่ได้

"ปะ..ปล่อยข้านะ...เจ้าจะทำอะไร?..."

"ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ข้าเพียงแต่อยากมาถามว่า ราชินีของเจ้าอยู่ไหน?"

นางสนองพระโอษฐ์ตอบอย่างหวั่นๆ "เอ่อ.อ.อ.อ...ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน.."

"ไม่รู้ได้อย่างไง  ก็เจ้าเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดนี่..บอกข้ามาเดี๋ยวนี้...."

"คือว่านับตั้งแต่เมื่อคืนวันก่อนที่พระนางเสร็จติดตามเชลยไป  ก็เงียบหายไป  และเหล่าทหารที่ติดตามไปก็ไม่มีใครกลับมาส่งข่าวเลยสักคน  ข้าจึงต้องออกมาตามหานี่ไง...." นางสนองพระโอษฐ์ตอบแต่ไม่กล้าสบตาหมอผีชาติ

"จริงหรือ...." หมอผีชาติเน้นเสียงถาม

นางสนองพระโอษฐ์ตอบเสียงสั่นๆ "จะ..จริง....ข้าจะโกหกเจ้าไปใย...."

หมอผีชาตินิ่งคิดสักครู่ " หึ...แสดงว่าราชินีของเจ้าอาจกำลังยุ่งกับการจัดการไอ้สิน  เลยขาดการติดต่อไป  ดี..ระหว่างรอนางกลับมาให้ข้าแก้แค้นนี่......."

นางสนองพระโอษฐ์มองหมอผีชาติอย่างหวาดๆ "ใยเจ้าจ้องมองข้าเยี่ยงนั้น...."

"ยังจำเรื่องที่ดาดฟ้าและระหว่างเดินทางมาดินแดนพยัคฆาได้ไหม?..."

"ถามทำไม..เรื่องบัดสีพรรค์นั้นข้าจำไม่ได้แล้ว...."

หมอผีชาติยิ้มอย่างน่าเกลียด ส่งสายตาเล้าโลมร่างจนนางรู้สึกอึดอัด มันยื่นมือมาจับเส้นผมสลวยของนางขึ้นไปดมพลางเอ่ยวาจาแทะโลม  "จำไม่ได้หรือ..งั้นข้าจะขอทบทวนความทรงจำให้ตรงนี้ก็แล้วกันนะ..."

"อย่านะ...เจ้าอย่ารังแกข้าอีกนะ..." แต่ไม่ทันเอ่ยจบ  ร่างสวยสะอางค์ของนางสนองพระโอษฐ์ถูกหมอผีชาติดึงไปกอดจูบไม่เลือก นางพยายามผลักไสป้องกันตัวเท่าที่ทำได้

แต่หมอผีชาติอาศัยพละกำลังที่เหนือกว่าจับรั้งจนร่างนั้นไม่อาจขัดขืน "ยอมดีๆ อย่าต้องให้ข้าใช้กำลัง  อยากเจ็บตัวหรือไง  ทำเป็นไม่เคยไปได้..."

"ฮึ่ม.ม.ม.ม์...ไอ้......."

หมอผีชาติจ้องตานางดุๆ  พลางเอ่ยสำทับ"ถ้าด่าข้าแม้นแต่เพียงคำเดียวให้ได้ยิน  เจ้าได้เจ็บตัวแน่..."

".......!!!........." นางสนองพระโอษฐ์จำใจต้องนิ่ง  ยอมปล่อยให้หมอผีชาติข่มเหงย่ำยีร่างกายของนางได้ตามใจอีกครั้ง

หมอผีชาติซุกไซร้ร่างของนางสนองพระโอษฐ์ สัมผัสกลิ่นหอมจากเรือนร่างและสัดส่วนที่ลงตัวอย่างเพลินใจ

"อื่อ.อ.อ..รูปกายของเจ้านี่..ช่างเย้ายวนข้าเสมอเลยนะ..ฮึ..ฮึ..ฮึ..."

"ชริ..!.."
นางสนองพระโอษฐ์ทอดร่างให้หมอผีชาติเคล้าคลึงพลางเหลือบมองอย่างชิงชัง

หมอผีชาติจับร่างอวบๆของนางสนองพระโอษฐ์ให้นอนลงบนพื้นเกี้ยวที่ปูด้วยฟูกหนา  มันค่อยๆถอดอาภรณ์ของนางออกทีละชิ้นแม้นไม่เต็มใจแต่นางก็ไม่อาจขัดขืนพลังและอำนาจของมันได้   หมอผีชาติยามนี้คืนฟื้นพลังหมดแล้วทั้งมวล ทั้งพลังเวทย์และพลังหื่น  ยิ่งครั้งนี้อดอยากมาหลาทิวาพอเห็นร่องอกขาวสะอาดยวนใจ  มันจึงใช้นิ้วมือไล้ไปตามร่องอกขาวคู่นั้นอย่างลืมตัว หน้าอกของนางนั้นกลมเป็นกระเปาะและยังแข็งเป็นไตด้วยความที่ผ่านมือชาย เพียงนับครั้งได้ ความนุ่มหยุ่นมือของหน้าอกคู่นั้นทำให้หมอผีโฉดถึงกับลืมตัว  หื่นกระหายใคร่อยากสัมผัสเป็นที่สุด

"อะ...อื่อ..อ.อ..อ.อ....อู้ย.ย.ย.ย.ย์........บะ.....เบาหน่อยสิ...อูย.ย.ย.ย์.."  

"ทำไม....บีบอย่างนี้ไม่ได้แล้วหรอ.....ไม่ชอบแล้วหรอ?...หรือว่ามันห่างไม้ห่างมือไปนาน......"

"ชริ....อู้อ.อ.อ.อ.อ...อื่อ.อ.อ.อ.อ...ข้าเจ็บนะ...เจ้าบีบขยำราวข้าไม่มีเลือดเนื้อ....."


"เงียบไปเลย...ยามนี้ข้าจะทำอะไรก็ได้....ข้าจะบีบสองเต้าเจ้าให้เละคามือเลย...แล้วหากเจ้ายังพูดมาก...ข้าจะกัดหัวถันให้ขาดเลย..มีหน้าที่นอนให้ข้าเอาอย่างเดียวพอ..อย่าพูดขัด...มันเสียอารมณ์ของข้า....." หมอผีชาติบอกแล้วซุกหน้าลงกลางร่องอก มันดูดขบอย่างคนอดอยากปากแห้งมานาน
 
แล้วมันยังส่งมือเข้าไปสัมผัสกับโคก อวบใหญ่ซึ่งปกคลุมด้วยเส้นขนละเอียดนุ่ม  มันลูบไล้ควานนิ้วมือเข้าไปอย่างช้าๆ แคมโคกของนางสนองโอษฐ์เปียกเยิ้มด้วยน้ำหล่อลื่นที่เริ่มรินไหลออกมาเป็นมัน  หมอผีโฉดใช้นิ้วชี้สะกิดเม็ดเสียวของนางอย่างช้าๆ มันเริ่มแข็งตัวด้วยความกระสันที่เริ่มก่อตัวช้าๆ  หมอผีชาติยังเริ่มแยงแหย่เข้าไปในรูสวาทของนาง   แม้นจะไม่ค่อยเต็มใจแต่พอเจอลีลาของหมอผีชาติเล้าโลมเข้า  นางก็เผลอขมิบช่องสวาทอันเยิ้มไปด้วยน้ำเมือกของนางสู้มือของหมอผีโฉดอย่างลืมตัว

"ตอดสู้นิ้วดีจังเลย...ฮึ..ฮึ...ปล่อยน้ำออกมาเยอะๆ....เวลาโดนท่อนกระดอลงยันต์ของข้าเจ้าจะได้สุขหฤหรรษ์ไปกับข้า  ไม่ใช่นอนทื่อเป็นท่อนไม้   เจออย่างนั้นทีไรข้าแทบหมดอารมณ์ทุกที...." หมอผีชาติสาวนิ้วเข้าๆออกๆไปบอกไป

"ชริ...หมดอารมณ์..อื่อ.อ.อ.อ..อู้ออ..อ.อ...ข้าเห็นเจ้ากระแทกจนน้ำแตกทุกที..อื่อ.อ.อ...คนอัปลักษณ์ใจโฉดเยี่ยงเจ้า...ข้า..อ้า..ร์..หาภิรมณ์ยามเสพสังวาสไม่..อ้า..ร์...อ้า..ร์....." ตอบไปนางกระตุกหงึกๆเพราะเจอจี้ถูกจุดเสียวเข้า

"ไม่มีอารมณ์...เหอะ..เหอะ...เหอะ...แค่แหย่ควานแค่นี้ยังตอดนิ้วบีบนิ้วของข้าแทบขาด  ปากแข็งจริงนะ...อย่างนี้ต้องสั่งสอนอบรบให้พูดเพราะกว่านี้สักหน่อย....." หมอผีชาติชักนิ้วออกจากร่องสวาทแล้วขยับยืนขึ้น

หมอผีชาติถอดเสื้อผ้าของตนออกจนกายคล้ำๆอวบอ้วนเปลือยเปล่า  ท่อนกระดอของมันชูโด่ปลายหัวส่ายหงึกๆมีน้ำเยิ้มตรงส่วนรู   หัวหยักบานดำคล้ำ  รอบๆลำตุ่มขึ้นเต็มจาการฝังมุก  นางสนองพระโอษฐ์จ้องแล้วใจหาย  นี่นางจะต้องโดนอีกแล้วหรือ  แม้นจะเคยมันส์เคยเสียวจนติดใจก็จริง   ทว่าเวลาโดนเสร็จแต่ละครั้งนางแทบจะหุบขาไม่ลง หมอผีชาติยิ้มขยับเข้ามาหาและเชยคางนางขึ้น  มันจับหน้าของนางไปถูกับท่อนลึงค์ของมันแล้วกระเด้าใส่ใบหน้าหมดจดแรงๆ  หมอผีหื่นหลับตาสูดปากอย่างสะใจที่คนใบหน้าหยาบกร้าน รูปร่างท้วมๆอย่างมันสามารถเอาท่อนลึงค์ถูหน้าสวยๆของผู้หญิงที่งดงามอย่างนางได้

"อื่อ.อ.อ.อ.อ...บะ..เบา...พอแล้ว..อ้า..อื่อ.อ.อ.อ.อ....พอ..พอ...พะ...พอก่อน...." นางสนองพระโอษฐ์เจอท่อนลึงค์อุ่นๆถูหน้าไปมาและกระเด้ากระแทกก็เล่นเอาหายใจแทบไม่ทัน  นางเอาสองมือดันสะโพกอวบเนื้อของหมอผีชาติพยายามดึงหน้าของตัวเองกลับมา  แต่ก็ถูกมือทรงพลังของหมอผีชาติตรึงหัวเอาไว้  และกระเด้าใส่หน้านางอย่างเมามันไม่หยุด

"อื่อ.อ.อ.อ..เป็นไงเล่าแม่นางผู้สูงส่ง  เจอควยของคนอัปลักษณ์เยี่ยงข้าถูหน้ากระเด้าหน้าเป็นไงบ้าง  ข้าชอบจริงๆที่ทำอย่างนี้  มันสะใจจริงๆ  ฮะ..ฮะ...ฮะ...."

"พอแล้ว...พอเถอะ...หมอผีชาติ...จะทำอะไรข้าก็รีบทำเหอะ....อย่ามาทรมานข้าอย่างนี้เลย...อื่อ..อ.อ.อ.อ.อ.อ.อ.อ.อ...บะ..เบา..ก่อน..อ้า..ร์....."
นางสนองพระโอษฐ์พยายามดิ้นเอาหน้าออกจากท่อนลึงค์ที่ถูไถ น้ำใสๆเหนียวๆจากปลายหัวหยักเปื้อนเต็มใบหน้าขาวๆสวยๆ

หมอผีชาติหยุด แล้วมองหน้านางยิ้มๆ "งั้นถ้าข้าหยุด เจ้าต้องใช้ปากมันนะ..."

"หา..ให้ข้าใช้ปากอีกแล้วหรือ....."

"จะทำให้ข้าไหม...ไม่งั้นข้าก็จะกระเด้าใส่หน้าเจ้าให้เละเลย......"

นางสนองพระโอษฐ์เม้มปากจ้องตามันอย่างขุ่นแค้น "เจ้านี่ช่างโฉดชั่วยิ่งนัก  บังคับขืนใจเยี่ยงโจรปล้นสวาทชั้นต่ำ..."

"ฮึ..ฮึ...ฮึ...ด่าไปเถอะ ข้าไม่สะทบสะท้านหรอก  แล้วเวลาใช้ปากกับข้าอย่าลูกไม้นะ  ใช้ดีๆถ้ากัดละก้อ...คงรู้นะว่าจะโดนอะไร ให้บทนี้มันจบสวยๆอย่างนองเลือดเลย...."

"ชริ...ข้าอยากฆ่าเจ้ายิ่งนัก..."


หมอผีชาติระเบิดหัวเราะอย่างสะใจ "ฮะ..ฮะ...ฮะ...คิดฆ่าข้าหรอ...ฮะ..ฮะ...ข้ากำลังจะทำให้เจ้ามีความสุขถึงสวรรค์กลับคิดจะฆ่ากัน...เอาเถอะ..เจ้าก็ได้แต่คิดแหละ  เพราะเจ้าทำได้แค่ถ่างขาให้ข้ายามที่อยากเท่านั้น..ฮะ..ฮะ..ฮะ...."

นางสนองพระโอษฐ์มองท่อนกระดอของหมอผีชาติที่โด่เด่อยู่ตรงหน้า   นางจ้องอยู่ครู่แล้วกลั้นใจเอื้อมมือไปจับแล้วรูดช้าๆ   ลำลึงค์ยาวใหญ่แข็งตัวเต็มที่ หัวถอกสีคล้ำกระดกหงึกๆอย่างเงี่ยนง่าน  นางเหลือบตามองด้วยอารมณ์บอกไม่ถูก  หัวเงี่ยงบานใหญ่พองเปร่งอวดขนาดสู้มือนางเต็มที่  และรับรู้ถึงความร้อนผะผ่าวจากลำลึงค์แม้นรอบๆจะเต็มไปด้วยตุ่มไต  นางจับเต็มๆมือแล้วคุกเข่าลงไป   ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออ้าอมหัวถอกอย่างข่มใจ  หมอผีชาติหลับตาพริ้มอ้าปากเมื่อความอุ่นจากอุ้งปากแผ่ซ่านขึ้นมาช้าๆตามลำลึงค์ที่ค่อยๆหายเข้าไปในอุ้งปากนางทีละน้อยๆ

" อู้ย.ย.ย.ย..ย.ย์... ... ซี๊ด.ส..ส.ส.ส.ส์.... ... ซี๊ด.ส.ส..ส.ส์.... อย่างนั้นแหละ ดูดแรงๆ....อ้า..ร์...สมเป็นนางสนองพระโอษฐ์..อู้ว.ว.ว..ว.ว์...ดูดีจริงๆ...อ้า..ร์...อมเข้าไปลึกๆ....อ้า...ร์...อย่างนั้น....อื่อ.อ.อ.อ..อ....."

นางสนองพระโอษฐ์หลับตาพริ้มขณะอ้าปากของนางอมท่อนกระดอที่ใหญ่คับปากเข้าไปช้าๆ  ริมฝีปากอวบอิ่มของนางเบลอบานออกแล้วหุบเข้าอย่างน่าดูขณะที่หัวเงี่ยงบานใหญ่ผ่านเข้า  มันเข้าออกเป็นจังหวะพร้อมๆกระพุงแก้มที่ยุบพองตามจังหวะการดูด  หมอผีโฉดก้มลงมองดูหน้าสวยของนางซึ่งเหลือบตาปรือขึ้นมามองสบตา โดยที่ท่อนกระดอยาวใหญ่ยังคาอยู่ในปากของนาง หมอผีชาติยืนตัวเกร็งไปด้วยความเสียวสะท้าน   รู้สึกสาสมใจยิ่งนักยามที่ปากสวยได้รูปของนางก็ต้องอ้าออกและหุบเข้าช้าๆตามจังหวะที่มันกระเด้าใส่เป็นบางจังหวะ   นางสนองพระโอษฐ์เองต้องจำใจปล่อยให้มันทำเกร็งริมฝีปากของนางรับจนปลิ้นเข้าออกตามลำกระดอที่ชักเข้าออกอย่างสนุกของหมอผีชาติ  นอกจากกระเด้าปากเล่นแล้วหมอผีหื่นยังเอื้อมมือลงไปบีบบี้หัวนมของนางอย่างเพลิดเพลิน หน้าอกของนางอวบใหญ่แต่ไม่คล้อย ยังแข็งเป็นไตบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเรือนร่างเจ้าของว่ามีการดูแลเป็นอย่างดี

"อ้า..ร์..อื่ม.ม.ม.ม.ม์...ดะ...ดี...อมได้เก่งนี่...อื่อ.อ.อ.อ...น่านๆๆๆ....เอาริมฝีปากรูดมุกของข้าด้วย...อู้ว.ว.ว.ว.ว์...ดี...ดี...ข้าชอบ...อู้ว.ว.ว.ว.ว์....เอาให้แตกคาปากไปเลยก็ได้...โอ้ว.ว.ว.ว.ว.ว์....."

" พอหรือยัง...แผล่บ...แผล่บ....หมอผีหื่น...ข้าอมจนปวดกรามไปหมดแล้ว...แผล่บ..แผล่บ...."
นางสนองพระโอษฐ์ถอนอุ้งปากออกจากท่อนกระดอ พลางถามหมอผีชาติ

ไม่มีคำตอบนอกจากมือของมันที่กดศรีสะของนางให้ทำต่อ  นางจึงก้มเข้าหาแล้วเลียไล้ไปตามกระดอที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำลายของนางต่อ  นางเลียไล่ลงมาข้างล่างจน ถึงลูกกระโปกสองใบที่ยุบๆพองๆ  แล้วเริ่มเม้มริมฝีปากส่งลิ้นเลียไปตามผิวอันขรุขระด้านหนาจนหมอผีชาติหลับตาอ้าปากเพราะเสียววูบ

" ทำเก่งที่สุดเลย ปากของเจ้านี่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย.... อู้ย.ย.ย.ย.ย.ย.ย์... ดูดลูกกระโปกอย่างนั้น... ซี๊ด..ด...ด...ด์...สุดยอด....."

หมอผีโฉดร้องลั่นด้วยความเสียวซ่านเพราะนางสนองพระโอษฐ์เริ่มอ้าปากอวบอิ่มของนาง  อ้าอมลูกกระโปกของมันพลางดูดดุนไปมา   เจ้าหมอผีหื่นบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน  เพราะนางยังใช้ลิ้นของเลียรอบๆไข่ทั้งสองใบจนเปียกน้ำลายเยิ้ม    ลำลึงค์ยาวใหญ่กระดกหงึกหงักอย่างลำพองใจ ขณะที่นางสนองพระโอษฐ์ฉกลิ้นแลบเลียตามลำที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นปูดโปนและตุ่มมุกนับไม่ถ้วน   อีกสองมือก็ประคองที่พวงสวรรค์บีบนวดไปมา  นางกระทำอย่างจำใจเพื่อรักษาชีวิตของตนไว้  และคิดเสียว่าทำบุญทำทานไป  เพราะนางก็โดนหมอผีชาติทำมาหลายครั้งแล้ว  จะโดนอีกสักครั้งคงไม่เป็นไร  ซึ่งครั้งนี้ก็อยากจะขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเสียที      

" พะ..พอ...ข้าจะไม่อยากแตกในปากของเจ้าแล้ว ขอข้าใส่ในช่องสังวาสของเจ้าเถอะ..."

" จะเอาทำอย่างไรก็จงเร่งๆกระทำเถิด  สมใจเจ้าแล้วก็จงรีบปล่อยข้าไปสักที...."

"นั่นขึ้นอยู่กับว่า  เจ้าทำให้ข้าพอใจแค่ไหน...."

"ชริ...."

หมอผีหื่นเลื่อนกายเข้าแทรกตรงกลางหว่างขาของนาง  มันจ้องมองเนินอวบใหญ่ที่ขณะนี้เต็มไปด้วยน้ำสวาทเอ่อปากรูเยิ้ม  เจ้าหมอผีโฉดก้มหน้าลงไปดู โคกนั่นพลางใช้นิ้วเขี่ยร่องรูแคมอย่างช้าๆ แคมหีสีชมพูเรื่อๆของนางยังสนิทชิดกัน มีแต่น้ำเมือกสวาทไหลเยิ้ม ส่งกลิ่นคาวเล็กน้อยแต่มันทำให้มันเกิดอารมณ์เงี่ยนง่านมากยิ่งขึ้น  แต่ก่อนที่มันจะรีบสอดใส่อย่างทันใดมันกลับกระตุ้นอารมณ์ของคู่สวาทให้มีอารมณ์ร่วมไปด้วยการบีบบี้สองเต้านมขาวอวบกลมที่พุ่งชูชันเม็ดหัวนมสีชมพู  มันแข็งตัวสู้มือหมอผีหื่นที่บีบเคล้นอย่างสนุกจนปลิ้นตามรูปรอยมือของมัน   แลต่ำลงมาคือหน้าท้องขาวเนียนละเอียดเป็นลอน ปราศจากไขมันส่วนเกิน  สะดือได้รูปผสานเอวที่คอดกิ่วรับกับสะโพกผายกว้าง   ที่ยามนี้เริ่มบิดไปมาอย่างเร่าร้อนเมื่อถูกหมอผีชาติกระตุ้นไฟราคะ

" ... อูย... พอเถอะ.. ข้าเจ็บระบมไปหมดแล้ว... ซี๊ด..ด...ด์..เจ้าทำรุนแรงเหลือเกิน..รีบๆทำๆให้เสร็จๆไปเถอะ....ข้า..อ้า..ร์..จะทนไม่ไหวแล้ว.ว.ว.ว์..รีบๆ..อื่อ.อ.อ.อ.... เอาๆดีกว่า... ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว... ซี๊ด..ด...ด..ด์... "

" เสี้ยนอยากจนออกอาการ  แล้วยังจะปากแข็งว่ารักษาภาพอีกนะ  ไม่ต้องห่วง เจ้าโดนแน่ โดนชนิดจำจนตายเลย ฮึ..ฮึ...."

หมอผีชาติพูดพลางจับลำลึงค์ของตนที่เบ่งพองใหญ่ผงาด  โดยเฉพาะตรงเงี่ยงของมันบานร่าผงกหัวไปมาอย่างไม่หยุดยั้ง หัวถอกสีคล้ำตรงปลายมีน้ำเงี่ยนไหลเยิ้ม มันเต้นตุบๆอย่างดีใจ เพราะอีกสักครู่มันจะได้เข้าไปอยู่ในรูสวาทอันร้อนผะผ่าวที่เห็นอยู่ตรงข้างหน้านี้แล้ว  มันจับนางสนองพระโอษฐ์อ้าขาออกกว้างให้พร้อมที่จะรองรับท่อนเอ็นของมัน โคกแคมสีชมพูของนางแบะอ้าออกน้ำเมือกเยิ้มปริ่มรูล่อตา  หมอผีชาติจ้องมองเนินพิศวงของนางอย่างกระหาย  เพราะที่เห็นมันช่างน่าสอดใส่อะไรเช่นนี้  โคกอวบขาวแคมทั้งสองข้างแบะ ออกน้อยๆ ทำให้เห็นเนื้อในสีชมพูเรื่อๆเป็นมันเยิ้ม  ขมุบขมิบไปมาน่าชมดู  หมอผีชาติอดมาหลายเพลาแล้วมาเจอของดีๆที่ห่างหาย  มันก็จับท่อนลำลึงค์ของตัวเองเข้าประกบตรงปากรูแล้วเอาส่วนปลายถูไถไปมาตามร่องสวาทแล้วแฉลบขึ้น ไ


pangtong

ตอนหน้าออกศึกแล้วกลับมาจัดหนักๆ

samransathu

เนื้อหาแต่ละตอนไม่ต่อกัน น่าจะขาดหายไป ต้องทำอย่างไรค่ะ

นัทโตะ

มาไม่ครบตอนคร้าบบบ T T
กำลังอ่านเพลินอยู่เลย


suriyamahajit

หมอผีชาตินี่โหดทั้งชาติที่แล้วจนชาติใหม่

Fireknight1