ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ร้อยรักวัยสวาท ตอนที่16-17

เริ่มโดย suckzeed, กุมภาพันธ์ 17, 2016, 12:10:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

ตอนที่16

เสียงหวานๆของพี่หน่อย ทำให้จิตใจผมเคลิบเคล้ม รสสัมผัสจากเรียวนิ้วที่ลูบเบาๆบนแผงอก และสะกิดเล่นที่หัวนม มันทำให้ผม
ขนลุกจนเสียวสยิว ตัวผมเหมือนตุ๊กตายางไม่มีกระดูก จนไม่สามารถพยุงร่างนั่งเฉยๆได้ จึงค่อยๆเอนร่าง ลงนอนกับฟูก โดยมีพี่หน่อยเอนตัวตามลงมานอนเบียด อกอวบของพี่หน่อยทาบบนแผงอกของผมจนรุ้สึกได้ว่ามันอวบใหญ่นุ่มนวลขนาดไหน ปากเรียวๆเคลือบ
สิปสติคสีสด ตามจูบไล่บนแผงอกซอกคอผมไม่ลดละ

ผมได้แต่ปล่อยจิตใจให้เคลิบเคลิ้ม มองเพดานห้องสีขาวอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่จะกวาดสายตาไล่ไปตามผนังห้องสีเดียวกัน แล้ว
สายตาผมก็สะดุดเข้ากับกรอบรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า แม้ไม่ได้เพ่งมอง ผมก็จำได้ว่ามันคือรูปของตัวผมเอง ที่น้องกันทิมาวาดให้ สติผมก็กลับคืน ในจังหวะเดียวกับที่พี่หน่อยป่ายมือมาสัมผัสเป้ากางเกงของผมพอดี

"อื้ออ...ใหญ่เหมือนกันนี่คะ.." เสียงหวานๆของพี่หน่อยกระซิบสั่นๆ แล้วทำท่าจะแกะเข็มขัดผมออก ผมรีบป่ายมือไปยึดจับข้อมือพี่หน่อยแน่น

"พี่..ยะ..อย่าครับ..." ผมพูดเสียงสั่นๆ พยามจับมือพี่หน่อยให้ออกมาจากเป้ากางเกงตุงๆของผม แต่พี่หน่อยขืนมือไว้ แล้วกำมือบีบ
ลงไปที่ท่อนลำของผมเน้นๆ

"ไม่ต้องกลัวหรอกจ๊ะชาย..พี่หน่อยจะทำให้ชายมีความสุข..." พี่หน่อยพูดเสียงหวานๆ แต่ก็สั่นๆไม่แพ้กันกับผม

"ไม่ครับพี่..ผมไม่ได้กลัว..แต่ผมยังไม่พร้อม..."

ผมพูดเสียงเข้มๆ ปัดมือพี่หน่อยออกจากการเกาะกุม แล้วรีบผุดลุกขึ้นนั่ง มองเห็นพี่หน่อยทำหน้าเหว๋อๆ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมทำ
แต่เพียงครู่เดียวพี่หน่อยก็ฉีกยิ้ม มองผมตาวาวๆเยิ้มๆ

"จ๊ะ..ไม่เป็นไร...เมื่อชายยังไม่พร้อมสำหรับคืนนี้ งั้นพี่กลับก่อนนะคะ..." พี่หน่อยพูดจบก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรง มือแตะเรือนผมตบๆให้
หายยุ่ง ก่อนจะค่อยๆผุดลุกขึ้นยืน

ผมรีบเอื้อมมือไปยึดจับมือพี่หน่อยไว้แน่น เงยหน้ามองสบตาเธอ ส่งสายตาขอโทษไปอย่างจริงจัง ด้วยเกรงว่าการกระทำของผม
ครั้งนี้ จะทำให้พี่หน่อยโกรธ แต่เห็นเธอส่งยิ้มกลับมาอย่างอ่อนโยน แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่สดใสมีความสุขเหมือนเมื่อตอนที่เข้ามาใน
ห้องผมใหม่ๆ ก็ตามที

"แล้วพี่จะกลับยังไงครับ มันดึกแล้ว..."ผมเอ่ยถามเบาๆ ไม่กล้าสบตาพี่หน่อยอีก

"เอ้อ..ไม่เป็นไรจ๊ะชาย..พี่หน่อยกลับแท็กซี่ได้...."

"ไม่ดีหรอกครับ ดึกแล้ว ผมเกรงว่ามันจะอันตราย...." ผมพูดออกไปตามความรุ้สึกเป็นห่วงจริงๆ การที่จะให้ผู้หญิงสาวๆ สวยๆอย่าง
พี่หน่อยกลับบ้านไปด้วยรถรับจ้างนั้น ผมว่ามันไม่ควร

"อื้อ..ชายห่วงพี่ด้วยหรือจ๊ะ..น่ารักจัง..." คราวนี้เสียงและรอยยิ้มของพี่หน่อยค่อยดูสดใสขึ้น เมื่อได้ยินสิ่งผมบอก

"เอาอย่างนี้สิครับ..พี่หน่อยขับรถผมกลับไปบ้านก็ได้ รถอยู่กับผมก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะผมยังขับไม่เป็น..." ผมบอกพี่หน่อย
ไปตามที่คิด แต่พี่หน่อยยืนนิ่งเหมือนเธอกำลังตัดสินใจสักครู่

"เอางั้นก็ได้จ๊ะ..แล้วพรุ่งนี้พี่จะขับเอามาคืน พร้อมสอนให้ชายขับรถไปด้วยเลย ดีมั๊ยคะ..."

"ขอบคุณมากเลยครับพี่..."

ผมรู้สึกขอบคุณพี่หน่อยจริงๆ ที่นอกจากที่เธอจะไม่โกรธที่โดนผมปฎิเสธความสุขที่เธอตั้งใจจะมอบให้แล้ว ยังกรุณาจะสอนขับรถให้
ผมอีก ผมเลยลุกขึ้นยืนล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบพวงกุญแจยื่นส่งให้พี่หน่อย  แต่พี่หน่อยไม่ได้คว้าเพียงแค่พวงกุญแจ เธอกลับดึงแขนผมจนเซถลาเข้ามาหา พร้อมยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมแรงๆ แล้วหัวเราะคิกๆเสียงใสๆขี้เล่นๆ อย่างมีความสุข

"เจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ เด็กน้อย.."

เมื่อพี่หน่อยเดินออกจากห้องผมไปแล้ว ผมก็หันไปยิ้มให้กับรูปที่แขวนบนผนัง พร้อมสาวเท้าเดินเข้าไปหา ผมยื่นมือลูบกระดาษสีเหลืองๆ เบาๆ ที่ชื่อของยัยกันที่ปรากฏอยู่ที่มุมล่างด้านขวา นึกแปลกใจตนเองว่าทั้งชื่อทั้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ก็ปรากฏให้เห็น
อย่างชัดเจน แต่ทำไมผมไม่เคยคิดจะติดต่อยัยเด็กคนนี้เลยสักครั้ง ผมเพียงได้แต่ฝันถึงเธอบ่อยๆ เท่าที่จำได้อย่างน้อยก็เดือนละ
ครั้งที่ผมนอนหลับแล้วฝันถึงกันทิมา ป่านนี้เธอคงเติบโตกว่าภาพที่ผมเคยฝัน เธอคงไม่ได้ผูกเปียสองข้างอีกแล้ว และน่าจะกำลัง
เรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยที่ใดสักแห่ง

ผมแอบอมยิ้มด้วยความรุ้สึกอายๆ เมื่อนึกถึงยัยกัน จึงรีบเดินกลับไปที่ห้องน้ำ มองเห็นกางเกงนอนตัวเมื่อคืนที่ยังไม่ได้ซัก วางกอง
อยุ่ในตะกร้า ผมหยิบมันขึ้นมาดู พร้อมยิ้มและหัวเราะเบาๆให้กับตนเอง เมือแลเห็นเป้ากางเกงเป็นคราบแข็งๆ ใครๆมองเห็นคราบนั้น
ก็คงรู้ว่าเมื่อคืนผมฝันถึงยัยเด็กน้อยนั้นด้วยเรื่องอันใด ผมโยนกางเกงลงตะกร้าอีกครั้งแล้วเดินกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนหลังเก่าแก่
ที่มีความผูกพันธ์ทางด้านจิตใจกับตนเอง

ปล่อยจิตให้เลื่อนลอยไปถึงยัยเด็กกันทิมา พร้อมตั้งใจไว้ว่า คราวนี้ผมคงไม่มีเหตุผลแก้ต่างให้กับตนเองอีกแล้ว ที่ไม่ยอมติดต่อกับ
ยัยกัน เพราะผมไม่ใช่นายสมชายนักเรียนคนเก่าที่เคยเป็นกระเป๋ารถเมล์แต่อย่างใด คืนนั้นผมไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองเคลิ้มหลับไปตอนไหน ทั้งๆที่น้ำก็ไม่ได้อาบ

จวบจนรุ่งเช้าได้ยินเสียงไก่ขันเจื้อยแจ้ว นั่นแหละผมจึงตกใจตื่น รีบผุดลุกขึ้นนั่ง ส่ายหัวไปมาเพราะรุ้สึกมึนๆ คงเพราะในงานเลี้ยงเพื่อนๆยัดแก้วเหล้าบังคับให้ผมดื่มไปสองสามแก้วนั่นเอง จึงส่งผลมาถึงตอนเช้า

ผมรีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปจัดการธุระในห้องน้ำ พร้อมกับอาบน้ำอย่างอ้อยอิ่งเนิ่นนานกว่าทุกวัน แล้วอมยิ้มด้วยความสุข เมือจำได้เมื่อคืนผมฝันเรื่องอะไร แม้จะรุ้สึกว่าอวัยวะส่วนนั้นผมตื่นตัวขึ้นมานิดๆ เพราะความฝันเมื่อคืนเป็นต้นเหตุ แต่ผมก็ไม่ได้มีอารมณ์ทำอะไรกับมัน จนอาบน้ำเรียบร้อยก็เดินออกมา ได้ยินเสียงเคาะประตูดังก็อกๆๆ

ผมรีบผวาคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมานุ่ง ปรกติผมไม่เคยมีแขกมาหาจึงรู้สึกแปลกใจเสียงเคาะประตุก็ยังคงดังก็อกๆๆ เร่งให้ผมเดินไปเปิดดู แล้วก็พบว่าบุคคลที่มาเยี่ยมห้องผมแต่เช้านั้นก็คือพี่หน่อยนั่นเอง

"รอเดี๋ยวนะครับพี่..." ผมรีบร้องบอก แล้วพยายามปิดประตู เพราะตัวเองยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย มีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนใหญ่นุ่งไว้เท่านั้น แต่พี่หน่อยกลับแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ตาเธอจ้องรูปร่างของผมเขม็ง เล่นเอาผมอายจนต้องงอตัวเอามือกุมเป้า เดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง แล้วก็เหว๋อ เพราะในห้องน้ำหาได้มีเสื้อผ้าชุดใหม่แต่อย่างใด ส่วนชุดที่ใส่เมื่อวาน ก็กูกถอดกองไว้ข้างฟูก ใกล้ๆกับที่พี่หน่อยยืนอยู่

"เอ้อ..พี่ครับ..ผมขอแต่งตัวแป๊บเดียวครับ ไม่รู้ว่าพี่จะมาแต่เช้า.." ผมหันกลับมาพูด เพื่อให้พี่หน่อยออกจากห้องไปก่อน รู้สึกอายๆ
เมื่อสายตาพี่หน่อยจ้องมองรุปร่างผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

"ก็แต่งตัวสิคะ..เป็นผุ้ชายจะอายทำไม..พี่ยังไม่อายเลยที่เห็นแบบนี้...."

พี่หน่อยพูดแบบนี้พร้อมจิกตามาที่กึ่งกลางลำตัวผมเขม็ง ผมเลยพอมีเวลาที่จะมองกลับไปสำรวจตัวพี่หน่อย ก็เห็นว่าเธอใส่กางเกง
ยีนส์ขาสั้นๆสีขาวๆ ขามันสั้นจนเลยง่ามเธอลงมานิดเดียว กับเสื้อเชิร์ตแขนยาวลายสวยๆ ตัวใหญ่ๆ ที่เธอพับแขนม้วนขึ้นไปถึงข้อศอก วันนี้พี่หน่อยแต่งหน้ามาอ่อนๆ ไม่เข้มเหมือนทุกวัน ทำให้ผมแลเห็นว่าใบหน้าสดๆของเธอก็นวลเนียนดีเช่นกัน มันรับกับปาก
บางๆรูปกระจับ ที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติคสีอ่อนๆ ดูไปแล้วเหมือนสาวรุ่นๆ ไม่น่าจะอายุถึงเลขสามตามที่เธอบอกเลย

"เอ้า..จ้องพี่อยู่ได้..รีบๆแต่งตัวสิคะ..จะได้ออกไปหัดขับรถกัน..." พี่หน่อยพอเห็นผมมองจ้องรูปร่างหน้าตาอย่างตื่นตะลึง เธอก็เอ็ดเสียวเขียวๆพร้อมจิกตาดุๆใส่

"พี่ออกไปก่อนได้มั๊ยครับ ผมอาย..ไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าผู้หญิง..."

ผมร้องบอกเสียงเบาๆ เหมือนเกรงใจ แต่พี่หน่อยนอกจากไม่ยอมเดินออกจากห้อง เธอยังหัวเราะขันๆเสียงคิกๆ จิกถลึงตาจ้องผมเขม็ง พร้อมทำเสียงจิ๊กๆๆเบาๆ

ผมเลยกลั้นใจเดินไปหยิบกางเกงชั้นในสีขาวๆ แล้วเดินตัวลีบๆ งอๆ เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ พอกลับออกมาอีกที พี่หน่อยก็ไม่ได้ยืนอยู่ในห้องเสียแล้ว

ตอนที่ 17

"ต๊าย...ทำอะไรนี่ชาย..."

เสียงแหลมๆของพี่หน่อยที่จู่ๆก็โผล่หน้าเข้ามาในห้องน้ำ ในขณะที่ผมกำลังเอาก้อนสารส้มถูรักแร้ ดับกลิ่นตัวพอดี ที่หน้ากระจกภาย
ในห้องน้ำ ทำให้ผมสดุ้งตกใจ คาดไม่ถึงว่าเธอจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ออกไปดูไม่เห็นว่าเธออยู่ในห้อง อารามตกใจทำให้ผมทำก้อนสารส้มที่กำลังถูรักแร้นั้นหล่นลงพื้นแตกกระจาย ด้วยความเสียดาย ผมรีบก้มลงไปเก็บอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ในตอนนั้น มีเพียงผ้าเช็ดตัวและกางเกงชั้นในบางๆเท่านั้นที่ผมสวมอยู่

อาการเงอะๆงะๆของผม ทำให้พี่หน่อยขำ จนหัวเราะเสียงคิกๆ แล้วยื่นมือมาตีก้นแน่นๆของผม ดังเปี๊ยะ! เพื่อล้อเล่น เมื่อเธอเห็นว่ามันโก่งโด่งอยู่ใกล้ๆมือของเธอ

"พี่.." ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่งเสียงเรียกเฉยๆ ด้วยความรู้สึกเขินๆอายๆ และอึดอัด

พี่หน่อยยิ่งหัวเราะเสียงดังขำๆ เมื่อเห็นว่าผมอายจนหน้าแดง ที่โดนเธอแกล้งเช่นนี้ ยิ่งตอนที่เธอยืนหัวเราะนั้น ตัวเธอโคลงไปมา จนทรวงอกใหญ่ๆกระเพื่อมเด้งเป็นจังหวะขึ้นๆลงๆ ผมมองเห็นอยู่แว๊บเดียวก็ไม่กล้ามองอีก

"ก้นชายนี่มันแน่นน่าตีจริงๆ อิอิ..." แม้ผมจะรีบปิดประตุห้องน้ำเพื่อแต่งตัว ก็ยังได้ยินเสียงยั่วแหย่ขำๆดังอยู่หน้าประตุลอดเข้ามา

"พี่หน่อยเล่นแบบนี้ผมตกใจหมด...."

ผมตะโกนจากในห้องน้ำออกไป แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ความรุ้สึกที่มันปั่นปวน จนเห็นว่ามันสงบลงแล้ว จึงเปิดประตูออกมา
ต่อว่าเธอแบบขำๆ พร้อมคิดในใจว่าผมจะต้องระวังตัวให้ดี ไม่ปล่อยให้พี่หน่อยได้ใกล้ชิดมากนัก เพราะผมอาจเผลอใจไปเหมือน
เมื่อวาน จนทำเรื่องไม่ควรกับพี่หน่อยไป เพราะบัดนี้ผมตระหนักแล้วว่าในหัวใจของผมมีเพียงคนวาดรูปที่ติดอยู่บนผนังข้างฝาเท่านั้นเพียงคนเดียว

"โถ..ขวัญอ่อนจริงนะหนุ่มน้อยของพี่..."

พี่หน่อยพูดพร้อมยื่นมือทั้งสองข้างเดินตรงเข้ามาหาผม เพื่อจะดึงเข้าไปกอด แต่ครั้งนี้ผมกลับขืนตัวไว้ ไม่เผลอตัวใจอ่อนไปกับ
เสน่ห์ที่เย้ายวนของเธออีกต่อไปแล้ว

ดูเหมือนอาการแข็งขืนของผมจะทำให้พี่หน่อยชงัก เธอหน้าเสียไปแว๊บเดียว ก็กลับมาเหมือนเดิม ส่งยิ้มให้เมื่อผมไม่ยอมพาตัวเข้า
ไปสู่อ้อมกอดของเธอ

"รังเกียจพี่หรือจ๊ะ..ชาย.. "

แม้สีหน้าพี่หน่อยจะปรับได้อย่างรวดเร็วก็จริง แต่น้ำเสียงของเธอกลับปรับไม่ได้เหมือนเดิม จนผมฟังออกได้ว่า เธอกำลังรุ้สึกผิดหวังเสียใจ เมื่อถามคำถามนั้นออกมา

"เอ้อ..ป่าวครับพี่..ไม่ใช่อย่างนั้น..ผม..เอ้อ..."

ผมรีบตอบปฏิเสธ แล้วพยายามจะอธิบายให้เธอฟังว่าเป็นเพราะเหตุใด ที่ผมกลับเปลี่ยนไปจากเมื่อวันวาน แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค พี่หน่อยก็ชิงพูดสวนขึ้นมาก่อนว่า

"หรือเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นจ๊ะ..ที่ทำให้ชายไม่เหมือนเดิม.." พี่หน่อยพูด พร้อมกับหันหน้าไปมองรูปเหมือนของผม ที่แขวนไว้ที่
ข้างฝา

"ครับพี่..ผมขอโทษ..ที่เมื่อวาน ผมเผลอตัว ทำสิ่งที่ไม่ควรให้อภัยกับพี่ ...ในใจของผม มีแต่น้องกันคนเดียวเท่านั้นครับ..."

ผมสารภาพความรุ้สึกในใจไปให้พี่หน่อยฟัง แม้จะค่อนข้างยากกว่าที่จะพูดจบประโยด แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว เสมือนหนึ่งผมได้ยก
ภูเขาออกไปจากอก มันรู้สึกหายอึดอัดได้อย่างรวดเร็ว แต่พี่หน่อยกลับอึ้งไปครู่ใหญ่ เธอเดินไปยืนมองภาพวาดใบนั้นอีกครั้ง พร้อม
พรึมพรำออกมาเบาๆ...กันทิมา...

"ชื่อเพราะดีนี่จ๊ะชาย..ท่าทางคงจะสวย น่ารัก จนชายของพี่หลงรัก...ขนาดนี้..." น้ำเสียงเรียบๆใสๆ หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับ แต่งแต้มลิปสติคสีอ่อนๆคู่นั้น ไม่มีแววอิจฉาแต่อย่างใด

"ครับพี่..ผมไม่รุ้ตัวเลยว่า ผมหลงรักน้องกันได้อย่างไร และตอนไหน .รู้แต่เพียงว่า จิตผมผูกพันธ์กับเธอมาก จนฝันถึงเธอมาตลอดหลายๆปีที่ผ่านมา..."

"ฝันถึง..บ่อยๆ มาตลอดหลายปี...ชายพูดเหมือนกับว่าไม่เคยเจอน้องคนนี้เลยงั้นแหละ...." พี่หน่อยถามยิ้มๆ  ความเฉลียวฉลาด
ของเธอที่สามารถเดาเรื่องได้ถูก ทำให้ผมอดทึ่งไม่ได้

[post]"ครับพี่...ตั้งแต่ผมออกจากมัธยมปลาย ผมก็ไม่เคยไปหาน้องกันเลยสักครั้ง..." ผมสารภาพไปตามตรง

"ตายจริง..อะไรกันนี่ น้องชาย..มีทั้งชื่อ ทั้งเบอร์โทรและที่อยู่..แต่ชายไม่เคยติดต่อไปหาสาวคนรัก...เป็นไปได้อย่างไร ถ้าคนอื่น
พูด..พี่หน่อยไม่เชื่อแน่..."

"เอ้อ...คือว่า..." ผมอยากอธิบายเรื่องราวแต่กลับพูดออกมาไม่ได้ง่ายๆเลย

"คือผมรู้สึกว่า..ผมคงไม่คู่ควรกับน้องกันน่ะครับ..." ในที่สุดผมก็ตัดสินใจพูดออกมาจนได้ พี่หน่อยได้ยินถึงกับอึ้ง..ทำตาโต

"ใครเป็นคนบอกคะ ว่าไม่คู่ควร..หรือชายรู้สึกไปเอง....." ผมพยักหน้าตอบให้พี่หน่อยทราบว่า มันเป็นความรุ้สึกของผมเอง

"พี่จะสอนให้จ๊ะ...ความรักน่ะ มันอยู่ที่คนสองคนเท่านั้น ตราบใดที่น้องกันไม่ได้บอกว่าชายไม่คุ่ควรกับเธอ นั่นย่อมหมายถึงว่าเธอ..
ยอมรับชายได้ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด..รุ้มั๊ยคะ..."

คำพูดของพี่หน่อยทำให้ผมฉุกคิด นึกย้อนไปถึงอดีต น้องกันรู้ดีว่าผมมีฐานะเช่นใด ยากจนแสนเข็ญจนต้องไปทำงานตอนปิดเทอม
แต่เธอก็ไม่เคยรังเกียจ แสดงออกมาด้วยการให้ความสนิทสนมกับผม แนะนำตัวผมให้พ่อแม่เธอรุ้จักด้วยทีท่าชื่นชมอย่างเปิดเผย
ทั้งๆที่รอบข้างเธอยังมีเอกเพื่อนผมที่เห็นๆอยู่ว่ามีฐานะใกล้เคียงกับเธอเสียด้วยซ้ำ มันทำให้ผมรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาทันที ที่ก้าวเดิน
ออกไปตามหาหัวใจ ที่ฝากไว้ที่น้องกัน

"ขอบคุณพี่หน่อยมากๆเลยครับ ผมมัวแต่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆด้วย.." ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่หน่อย จึงเผลอตัวจับมือเรียวเล็กของเธอขึ้นมาเขย่าด้วยความดีใจ

"อีกอย่างนึง ชายตอนนี้ ก็แตกต่างกับอดีตแล้วไม่ใช่หรือจ๊ะ...ชายมีงานทำ มีรถ มีเงินเดือน ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบปริญญาด้วยซ้ำ..พี่ว่าน้องกันคงดีใจและภูมิใจในตัวชายอย่างแน่นอน..."

ผมฟังคำพูดและน้ำเสียงของพี่หน่อยแล้ว ว่าเธอพูดออกมาด้วยความรุ้สึกจริงใจจริงๆ ไม่ได้แอบเคลือบแฝงเล่ห์เหลี่ยมอันใดเลย ทั้งๆ
ที่เมื่อวานนี้เอง เธอเพิ่งบอกว่าเธอยินดีที่จะเป็นแม่ย่านางรถให้ผม แต่กลับมาพูดสนับสนุนน้องกันแบบนี้ ทำให้ผมคิดมากกับเรื่องพี่หน่อย ไม่เข้าใจเธอเลยสักนิดว่าเธอทำแบบนี้ทำไม จึงเปลี่ยนเรื่องชวนเธอให้ไปสอนขับรถให้ผมดีกว่า เพราะว่ามันเริ่มสายแล้ว

เริ่มแรกพี่หน่อยเป็นคนขับรถ พาผมออกมาจากที่พัก แล้วแวะทานข้าวเช้ากันที่ร้านข้างทาง จากนั้นขับพาไปทางฝั่งธน ที่ยวดยานต์รถยนต์ไม่หนาแน่นเหมือนฝั่งกรุงเทพ เธอขับพาผมไปช้าๆ พร้อมกับกับอธิบายเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ และป้ายสัญญาณจราจรต่างๆ ซึ่งผมทราบเป็นอย่างดีแล้ว จนเธอเลี้ยวรถเข้าไปในถนนเล็กๆแห่งหนึ่งย่านบางกรวย ใกล้ๆโรงไฟฟ้าฝ่ายผลิต ถนนเส้นเล็กๆ
แต่คดเคี้ยวนั้น มีรถบางตามากๆ นานๆจึงจะขับสวนมาสักคันสองคัน

พอเข้ามาได้สักหน่อย พี่หน่อยก็จอดรถข้างทางพร้อมเปิดไฟกระพริบ จากนั้นบอกให้ผมเดินอ้อมมาทำหน้าที่คนขับ ส่วนตัวพี่หน่อย กลับปีนข้ามเบาะไปนั่งยังที่ของผม เคยบอกแต่แรกแล้วว่าวันนี้ พี่หน่อยสวมกางเกงยีนส์สีขาวขาสั้นๆ ปิดแค่โคนขาและโค้งสะโพกกลมกลึงของเธอเท่านั้น จังหวะที่ผมเปิดประตูเตรียมเข้าที่คนขับ พี่หน่อยก็ฉีกขากว้างเพื่อปีนข้ามเบาะไปยังอีกด้านนั้น แม้ผมเห็น
เพียงแว๊บเดียวว่าช่วงจังหวะฉีกขานั้น ขอบขามันกินลึกเข้าไปถึงหว่างขา จนผมแลเห็นสิ่งที่ไม่น่าจะควรเห็นของพี่หน่อยอีกครั้ง เล่นเอาใจเต้นตูมๆๆ เหมือนกลองเพล

เมื่อผมเข้าไปนั่งประจำที่คนขับได้แล้ว พอสตาร์ทเครื่อง เท้าซ้ายเหยีบครัช แล้วเข้าเกียร์1 เตรียมตัวที่จะ ค่อยๆถอนเท้าขวาออกจากเบรค แต่พี่หน่อยกลับเอนโน้มตัวเข้ามาหา จนอกอวบใหญ่ตูมๆสองเต้า แนบกับซี่โครงผมเต็มๆ ผมจ้องมองหน้าพี่หน่อยด้วยความตกใจ ในขณะที่เธอกลับช้อนตาเงยสบตาผม ด้วยดวงตาที่สวยหยาดเยิ้ม แล้วสอดมือล้วงไปข้างประตู จัดการดึงเข็มขัดนิรภัยออกมา สอดคาดให้ผม

"กฎข้อที่1..ทุกครั้งที่นั่งขับรถ ก่อนเดินเครื่องยนต์ชายต้องคาดเข็มขัดก่อนนะจ๊ะ.."

ริมฝีปากเรียวบางรูปกระจับ แย้มยิ้มพร้อมอธิบายเสียงหวาน อยู่ห่างหน้าผมไม่กี่นิ้ว จนผมได้กลิ่นหอมระรวยโชยออกมาจากซอกคอและเนินอกอวบของพี่หน่อยจนหอมฟุ้ง

"คะ..ครับ..." ผมตอบรับเสียงสั่นๆ แม้ใจยังผูกพันธ์รักใคร่ในตัวสาวชื่อกันทิมา แต่ร่างกายอาบสเน่ห์ ที่ชิดใกล้ขนาดนี้ มันทำให้ผมอดเคลิบเคลิ้มหวั่นไหวไม่ได้จริงๆเลยครับ[/post]

johnywalker

นี่ก็ยั่วเหลือเกิน อยากเปิดซิงหนุ่มน้อยน่ารักของเราละสิ

swbkk

จะตามมาดูครับว่าน้องชายจะมีขันติได้อีกนานเท่าไหร่ กว่าจะไหลลื่นตามพี่หน่อย.....

jubjub00

เฮ้อ แล้วก็ยังอีกเช่นเคย ชอบให้ลุ้นอยุ่เรื่อย

knight18

อดทนๆไม้นะ พ่อยอดชาย น้ำแรกต้องเก็บไว้ให้นานๆ สำหรับน้องกัน ::Confident::

aeadza

รักแท้ยังไงก็แพ้ทางคนอยู่ใกล้ใช่ไหมครับ

paradrop


PEE WAII

พี่หน่อยเปิดช่องโหว่ ที่พร้อมจะฝ่าเข้าไปได้ตลอดเวลาเลยนะครับ พ่อพระของเราก็ใจเย็นเหลือเกิน

leopoldi

เห้อ  บางทีก็หงุดหงิดพระเอกเว้ย ทำไมมันดีจริงๆหว่า 55 

suteeboonmark

ลีลาการถ่ายทอดความรู้เรื่องการจูบและการสร้างอารมย์ให้อีกฝ่ายของพี่นั้นอุทาหรณ์  มีทั้งการบรรยายและการสาธิตในเวลาเดียวกัน..

เฉลิมพล พรมจันทร์