ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เพื่อนรักหักเหลี่ยมสวาท ตอนที่39-40

เริ่มโดย suckzeed, มีนาคม 08, 2016, 12:16:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

กุ๊กกิ๊กกับบทรักบทพิสวาทหวานแหววกันมาร่วม10ตอนแล้ว
เบื่อหรือยังครับ น่าจะเบื่อแล้วนะ...คราวนี้จะเริ่มเข้าสู่โหมดหักเหลี่ยมกันแล้ว
ดราม่าบ้างเป็นบางตอน ฮาร์ดคอร์เล็กๆ บ้างเป็นบางตอน
ใครใจอ่อนก็หาคนมานั่งอ่านเป็นเพื่อนนะครับ

 
suckzeed..................................
  อ่านก่อนอ่านผลงาน http://xonly69.com/read-xonly-tid-159448.html  
ตอนที่ 39
 
เมื่อผมกับเพลงไปถึงโรงพยาบาลก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว เราสองคนจึงเร่งรีบขึ้นไปยังห้องพักของบี ช่วงเดินผ่านเคาน์เตอร์
ของพยาบาลประจำตึก เห็นพยาบาลสูงวัยกำลังจะร้องทัก แต่ความรีบร้อนของผมจึงรีบเดินไปยังห้องพักของบีเสียก่อน
ครั้นพอเปิดประตุเข้าไปปรากฎว่าในห้องว่างเปล่า บีไม่ได้อยู่ในนั้น ผมจึงเดินกลับมาสอบถามพยาบาลที่ประจำเวร ที่อยู่หน้าเค้าน์เตอร์ จึงได้ทราบว่ามีคนมารับบีกลับไปตั้งแต่10โมงกว่าแล้ว
 
ผมได้ยินเช่นนั้นแล้วก็ใจหายวูบเหมือนมีรางสังหรณ์ ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับตัวเธอ ครั้นพอซักถามว่าพยาบาลจึงได้ทราบว่า
คนที่มารับนั้นเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเพียงคนเดียว และดูท่าทางก็สนิทกับบีดี ซึ่งคงเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้คุณเอกอย่าง
แน่นอน แต่ผมยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า แล้วมันรู้ได้อย่างไรว่าบีพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ เพราะผมไม่ได้เป็นคนบอกมัน น่าจะเป็น
การคาดเดาและหรือโทรศัพท์เข้ามาหาบีโดยตรง
 
แล้วผมก็ใจหายวาบอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เมื่อเช้าตอนที่กดปุ่มปิดสายจากบี เธออาจได้ยินเสียงร้องจากเพลงก็ได้ แต่ผม
ไม่มีเวลามานั่งนึกถึงเหตุผลอื่นๆอีก รีบโทรศัพท์ไปหาไอ้คุณเอกมันทันที รอสายอยุ่นานกว่ามันจะรับ
 
"คุณเอก...มารับบีไปใช่มั๊ยครับ..." ผมถามอย่างร้อนรนขณะเดินกลับไปที่รถโดยมีเพลงเดินเคียงอยู่ใกล้ๆ
 
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เออสิวะห่าชัย...ก็เมียกู..กูก็ต้องไปรับกลับสิวะ...แล้วมึงหายหัวไปไหนทั้งคืน...ไปนอนกกยัยซูซี่อยู่หรือวะ...."
 
ไอ้คุณเอกตอบกลับมาอย่างกวนๆ แต่คำพูดประโยคท้ายของมันที่บอกว่าผมไปนอนกกเพลงมาทั้งคืนนั้นสิทำให้ผมกังวลว่า
ถ้าบีอยู่ใกล้ๆแล้วได้ยินเธอจะคิดเช่นไร ผมไม่ได้ต้องการปิดบังบีในเรื่องที่ผมกับเพลงมีความสัมพันธ์กัน แต่ผมอยากบอกบี
ด้วยปากของตนเองมากกว่าที่จะให้เธอได้ยินจากปากคนอื่น ผมจึงรีบตัดสายเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าทันที
 
"เพลง...ชัยต้องไปที่คอนโดก่อนนะ..เพลงกลับไปรอที่บ้านอาภพนะครับ..." ผมพูดเสร็จก็เตรียมเดินผละออกไป แต่เพลงกับ
คว้าข้อมือผมยึดไว้แน่น
 
"ไม่นะ...เพลงไม่ให้ชัยไปคนเดียว..ไม่รุ้อาคุยกับพวกนายเฉินเรียบร้อยหรือยัง..ถ้าชัยไปอาจมีเรื่องกัน.." เพลงยึดข้อมือผมแน่น
ไม่ยอมปล่อย
 
"แต่ถ้าชัยไม่ไปบีอาจ..เอ่อ..." ผมไม่อยากนึกถึงเลยว่าพวกไอ้แจ็คและไอ้เฉินจะทำอะไรกับบีบ้าง..จึงพูดไม่ออก
 
"งั้นรอแปบนะคะ..เพลงโทรหาอาก่อนว่ายังไง..ชัยอย่าเพิ่งใจร้อนสิคะ..."
 
เสียงพูดของเพลงมีแววกังวลอย่างชัดเจน พูดจบก็กดโทรศัพท์หาอาภพทันที คุยกันสักครู่ แม้ผมไม่ได้ยินเสียงตอบโต้จาก
อาภพ แต่คาดการณ์ว่าเรื่องคงไม่ง่ายๆแน่ เพราะสังเกตุสีหน้าของเพลงที่ดูซีเลียสก็พอเดาออกได้ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพลงบอกว่าอาคุยแล้วพวกไอ้เฉินมันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผมและเพลงแค่สองคนเท่านั้น แต่เรื่องของคนอื่น ซึ่งน่าจะเป็นบี มัน
บอกว่าห้ามเราไปยุ่งกับมันเช่นกัน
 
แต่ผมคงยอมไม่ได้เป็นแน่ จึงบอกให้บีกลับบ้านไปผมต้องไปหาบีก่อน ต้องช่วยเธออกมาจากเงื้อมมือของไอ้แจ็คและพรรค
พวกให้ได้
 
"ไม่นะ..ชัยไปคนเดียวไม่ได้...ถ้าไปก็ไปด้วยกัน..เพลงไม่ให้ชัยไปคนเดียว.."
 
คำพูดของเพลงดูเด็ดเดี่ยวเชื่อมั่น แต่ผมไม่อยากให้เธอต้องเข้าไปเสี่ยงอันตรายด้วยเลย แม้พวกไอ้เฉินจะรับปากว่าไม่ยุ่ง
เกี่ยวกับเราสองคนก็จริง แต่ครั้งนี้ผมเข้าไปช่วยบีซึ่งเท่ากับไปยุ่งเกี่ยวกับมันเอง ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นมา มันสามารถอ้างได้ว่า
เป็นเพราะตัวผมแส่หาเรื่องพวกมันก่อนนั่นเอง
 
"เพลงปล่อยชัยเหอะ..มันคุ้มกันหรือที่จะไปเสี่ยงอันตรายน่ะ...ชัยไม่ได้รักเพลงนะจำไว้สิ...ปล่อย..."
 
เสียงผมแข็งกร้าว เพื่อหวังทำให้เพลงโกรธ เธอจะได้ปล่อยผมไปคนเดียวโดยเฉพาะผมเน้นย้ำคำว่าผมไม่ได้รักเพลงนะจำ
ไว้สิ..ผมรู้ดีว่าแม้จะเป็นการทำร้ายความรุ้สึกของเพลง แต่ผมก็จำเป็นต้องทำ เพราะไม่อยากให้เธอเดือดร้อนเป็นอันตราย
 
"ค่ะ..ชัยพูดถูก...มันไม่คุ้มเลย ถ้าเพลงต้องไปเสี่ยงอันตรายกับผู้ชายที่เขาไม่ได้รักเพลง.."
 
เพลงอึ้งไปชั่วครู่ ผมมองเห็นตาเธอแดงๆ น้ำเสียงของเพลงที่พูดออกมาก็สั่นเครือ จนทำให้ผมใจสั่นเพราะมันแฝงความรุ้สึก
ปวดร้าวใจออกมาอย่างชัดเจน จนผมต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเธออีกครั้ง แม้ไม่เห็นน้ำตาของเพลง แต่ในแววตานั้นมันฉาย
ความรุ้สึกเจ็บปวดร้าวออกมาอย่างเด่นชัด เพลงค่อยๆปล่อยมือผมออก ผมก็วิ่งออกจากลานจอดรถเพื่อไปที่ถนนแล้วเรียกรถ
รับจ้าง ส่วนเพลงกลับขึ้นรถ แล้วขับผ่านตัวของผมไปอย่างช้าๆ
 
เมื่อผมไปยืนเรียกรถรับจ้างที่ริมฟุตบาทหน้าโรงพยาบาลแล้วก็ใจหายวูบ เมื่อเอื้อมมือคลำหากระเป๋าเงินในกางเกง แต่มันไม่มี
ทำให้ผมนึกได้ว่ามันคงอยู่ในกางเกงตัวเก่าที่อยู่บ้านอาภพนั่นเอง ขณะที่ผมยืนหันรีหันขวางอยู่นั้น รถสปอร์ตสีขาวก็แล่นมา
จอดข้างหน้า เพลงนังทำหน้าตึงอยู่ที่นั่งคนขับ
 
"รีบไปก็ขึ้นมาสิ...ไม่ได้เอาตังค์มาละสิ......"
 
เพลงหันมาเรียกผมขึ้นรถ แล้วยิ้มทำหน้าเป็น แม้ในสถานการณ์ที่ดูตึงเครียด ผมจึงจำใจต้องเปิดประตุรถขึ้นไปนั่งข้างเพลง
แล้วเธอก็ออกรถไปอย่างรวดเร็ว
 
".ชัยพูดถูกค่ะว่า..ไม่คุ้มเลยที่จะไปเสี่ยงกับผู้ชายที่เขาไม่ได้รักเพลง...แต่มันคุ้มสำหรับเพลงที่ต้องไปเสี่ยงกับผุ้ชายที่เพลง...
รัก...ใช่มั๊ยคะ...."
 
ผมได้ยินชัดเต็มสองหูกับคำพูดนี้ของเพลง กำแพงความระแวงที่ผมตั้งกั้นไว้ว่า เพลงรักมาทำดีกับผมมาบอกรักผมง่ายๆนั้น
จะเป็นเพราะมีอะไรเคลือบแฝงไว้บ้างหรือเปล่า ก็ทลายลงไปในพริบตานั้นทันที ผมหันกลับไปมองจ้องหน้าของเธอ ด้วย
สายตาที่เปลี่ยนไปทันที
..........................................................................................
 
ไม่ถึง30นาทีเพลงก็ขับรถเข้ามาจอดที่คอนโดของไอ้คุณเอก ผมกับเพลงเร่งรีบขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องพัก แล้วเคาะประตุเรียกดังๆ
สักครุ่ประตุก็เปิดออกมา ผมยืนประจันหน้ากับบีที่เป็นผุ้เดินมาเปิดประตูให้ แต่เธอยังยืนขวางทางเข้าไว้ไม่ยอมขยับ ผมสอด
สายตาเข้าไปในห้องรับแขก ยังอยู่กันครบทั้งไอ้คุณเอกพี่เกศและไอ้แจ็คกับไอ้เฉิน
 
"บีขอทางให้ชัยเข้าไปหน่อย..." ผมร้องบอกบีไปเธอก็ขยับเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้ผมกับเพลงเบียดตัวเข้าไปกันได้
 
"อ้าวห่าชัย...นึกว่าจะมาคนเดียว..พาเมียมาด้วยรึ...ฮ่าๆๆๆๆๆ" เสียงไอ้คุณเอกมันพูดกลั้วหัวเราะเยาะๆใส่ผม แต่ผมไม่ตอบโต้
คว้าข้อมือของบีไว้
 
"บีไปกับชัยเถอะ...."
 
ผมตัดสินใจพูดออกไปทั้งๆที่ตนเองยังไม่รู้เลยว่าจะพาบีไปอยุ่ที่ไหน แล้วตนเองจะมีปัญญาหาเงินส่งเสียให้บีได้เรียนได้หรือไม่
ผมคงไม่สามารถพึ่งเพลงในเรื่องนี้ได้แน่ เพราะผมไม่ใช่แมงดาที่จะเกาะผู้หญิงกิน เพียงแค่ว่าผมได้ตัดสินใจแล้วว่าต้องพาบี
ไปให้พ้นจากไอ้คนกลุ่มนี้แค่นั้น แต่บีกลับสบัดแขนหลุดออกจากการเกาะกุมของผมแล้วเดินกลับไปนั่งรวมกลุ่มกับไอ้คุณเอก
 
"บีไม่ไปหรอก..ไปกับชัยแล้วชัยจะเอาอะไรมาเลี้ยงดูส่งเสียให้บีเรียน และอีกอย่างชัยก็มีซูซี่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ..."
 
ทั้งคำพูดและการกระทำของบี ทำให้ผมชะงัก เพราะมันคือความจริงที่ลำพังผมตัวคนเดียว ยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะเอาบีไปเพิ่ม
เป็นภาระอีกคนได้อย่างไร
 
"บี..อย่าพูดเช่นนั้นสิ...ชัยเค้ารักเธอนะ..."
 
เพลงพูดแทรกขึ้นมาเบาๆ แต่พอบีได้ยิน กลับหันมาจ้องตาวาวใส่เพลงเหมือนโกรธแค้น จนเพลงต้องหยุดชะงักคำพูดที่เธอ
กำลังจะพูดเพิ่มเติมไว้ในปาก จากนั้นบีก็ล้วงมือลงไปในซอกเบาะโซฟา ขยุ่มของสิ่งหนึ่งออกมาปาใส่หน้าเพลง จนมันหล่น
ลงพื้น ผมก็เห็นว่ามันเป็นจีสตริงของเพลงนั่นเอง
 
"บีรู้ความจริงทุกอย่างจากพี่เอกแล้วว่าชัยไม่เคยรักบี แม้แต่ที่เรามีความสัมพันธ์กันนั้นก็ไม่ใช่เกิดจากความรัก...ชัยทำไปเพราะ
ต้องทำตามที่พี่เอกสั่งใช่มั๊ยคะ..."
 
บีพูดพร้อมทำตาแดงๆ ส่วนผมพูดไม่ออก ไม่นึกเลยว่าไอ้เอกมันจะเอาคำพูดนี้มากรอกหูทำให้เธอเข้าใจเช่นนั้น ซึ่งมันก็เป็น
ความจริง แต่เป็นความจริงเพียงครึ่งแรกครึ่งเดียว ที่ผมมีความสัมพันธ์กับบีครั้งแรกนั้น เป็นเพราะผมทำตามที่ไอ้คุณเอกมัน
บอกแกมบังคับว่าถ้าผมไม่เย็ดบี มันจะพาเธอไปให้คนอื่นเย็ด แต่หลังจากครั้งนั้น ผมทำกับบีด้วยความรัก หาใช่ความจำยอม
แต่อย่างใด นี่แหละคือความจริงอีกครึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกบีไป
 
"บี..เธอเชื่อซูซี่นะ..อย่าอยุ่ที่นี่เลยมันอันตรายกับตัวเธอ..."
 
เพลงพยายามร้องเตือนบีด้วยความหวังดี ไม่แสดงอารมณ์โกรธแม้สักนิดที่ถูกบีเขวี้ยงจีสตริงใส่หน้า แต่ชั่วโมงนี้ดูเหมือนบี
จะกลายเป็นคนไร้เหตุผล เธอแปลเจนตนาของเพลงไปในทางที่เลวร้ายไม่ยอมฟังคำเตือน
 
"อันตรายอันใดมิทราบครับน้องซูซี่คนสวย..." ไอ้แจ็คมันพูดแทรกขึ้นมา แล้วพากันหัวเราะอย่างขบขัน
 
"ก็พวกนายวางแผนกันจะพาบีไปเล่นหนังเอวีที่ญี่ปุ่นไม่ใช่หรือ..." เพลงโพล่งพูดออกไปด้วยเสียงดังด้วยความโมโหที่เธอ
โดนพวกมันหัวเราะเยาะ...เช่นนั้น
 
"zusi..you.crazy..."
 
ไอ้เฉินมันพูดแทรกขึ้นด้วยภาษาอังกฤษ พร้อมหัวเราะกันหนักขึ้นเสมือนเป็นเรื่องขบขัน ทำเอาเพลงหน้าเหวอ รีบหันมามอง
ผมแล้วพูดอุ๊บอิ๊บเบาๆกับผมว่าเธอพูดความจริงนะ..ด้วยเกรงว่าผมจะเข้าใจเธอผิดไปด้วย ซึ่งผมก็สามารถตัดสินใจได้ทันที
นั้นว่าคำพูดของเพลงนั้นน่าเชื่อถือมากกว่า
 
"สรุปบีจะเอายังไง จะอยู่ที่นี่หรือจะไปกับชัย..."
 
ผมร้องถามบีอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไอ้คุณเอกมันดึงร่างบีไปนั่งซ้อนตักพร้อมสองมือโอบกอดรอบราวอกของบีแน่น พอสิ้นเสียงร้อง
ถาม บีก็ส่ายหน้าพร้อมเอนตัวลงไปแนบแผ่นหลังกับอกของไอ้เอกมันไว้ด้วยท่าทีพิสวาท เหมือนคู่รักกันก็ไม่ปาน ผมตลึงมอง
จ้องการกระทำของบีอย่างคาดไม่ถึงในสมองหมุนเคว้งมึนงงผิดหวังหดหู่ จนไม่รุ้สึกตัวเลยว่าโดนเพลงดึงแขนลากออกมาจาก
ห้องตอนไหน
 
ตอนที่40
 
"ชัย...กลับกันไปตั้งหลักที่บ้านอาภพกันก่อนค่ะ..."
 
[post]
เป็นเพราะเสียงและอาการท่าทีของเพลงที่แสดงความเป็นห่วงออกมานั่นแหละที่ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ หลังจากที่โดนเพลง
จูงแขนจูงมือออกมาจากห้องภายในคอนโดจนถึงลานจอดรถ
 
"ไม่ได้หรอกเพลง...บีกำลังลังเข้าใจผิด...ชัยเป็นห่วงเค้า.." ผมแข็งขืนตัวไม่ยอมขึ้นรถทั้งๆที่เพลงพยายามดุนหลัง
 
"ไปคุยตอนนี้บีก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ..เขากำลังเข้าใจชัยผิด อีกทั้งโกรธเพลง..เชื่อเพลงสิคะ..ไปปรึกษาอาของเพลงก่อนว่าจะ
หาทางช่วยยังไงดี.."
 
ใช่เลยครับคำพูดของเพลงก็ดูมีเหตุผล จากทีท่าที่บีแสดงออกมาในครั้งนี้มันบ่งชี้ชัดว่าตอนนี้เธอปักใจเชื่อด้านไอ้คุณเอกเข้า
ไปหมดใจแล้ว แม้ผมจะกลับขึ้นไปอธิบายอย่างไรเธอก็คงไม่เชื่อใจผม ด้วยความคิดที่ฝังหัวเอาไว้แล้วว่า ที่ผมมีความสัมพันธ์
ด้วยนั้นเป็นเพราะไอ้เอกมันบอก มันสั่ง หาได้ทำด้วยความรักตามที่บีคิดไว้แต่แรก อีกทั้งยังมั่นใจว่าผมกับเพลงมีอะไรกันแล้ว
 
แต่ผมกลับรั้นด้วยใจที่ขาดสติ แทนที่จะเชื่อฟังเพลง จึงทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายมากขึ้นเมื่อผมกลับเข้าไปในห้องพักที่คอนโด
อีกครั้ง พร้อมกำชับไม่ให้เพลงตามขึ้นไป
 
"เพลง..รอชัยที่รถนะ..ถ้าเห็นว่านานเพลงค่อยขึ้นไปตาม แต่ถ้าเพลงไม่ฟัง...ยังขืนตามขึ้นไปเพลงจะไม่เจอหน้าชัยอีกเลย...
โอเคมั๊ย..."
 
เมื่อเพลงรักได้ยินน้ำเสียงที่ดูเอาจริงของผมพร้อมคำขู่ เพลงเลยไม่กล้าที่จะขัดคำพูดของผม เธอได้แต่นั่งรออยู่ในรถ ด้วย
ความอึดอัดและเสียใจพร้อมเป็นห่วง ผมกลับขึ้นไปที่ห้องอีกครั้งแล้วเคาะประตูเรียก คราวนี้ไอ้เฉินมันเป็นผู้มาเปิด พร้อมกับ
ชกใส่หน้าผมดังเปรี้ยงจนผมเซถลาพร้อมกับมึนงงเพราะไม่ทันตั้งตัว มารู้สึกตัวหายมึนงงเมื่อไอ้แจ็คกับไอ้เฉินช่วยกันลาก
ผมกลับเข้าห้อง
 
พร้อมคล่อมตัวทับมัดมือมัดเท้าผมไว้ทิ้งให้นอนอยู่กลางห้องรับแขกผมสบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความมึนงงพร้อมความเจ็บปวด
ที่กระโดงคาง สักครู่ ค่อยมีสติมองผ่านเข้าไปในห้องนอนของไอ้เอกที่เปิดประตูอ้าไว้ เห็นบีนอนหงายชันเข่าอยุ่บนเตียงโดย
มีหัวดำๆขอไอ้เอกมันซุกอยู่ตรงหว่างขา ส่วนไอ้แจ็คไอ้เฉินก็กำลังเปลื้องเสื้อผ้าของตนเอง แล้วขยับตัวเข้าไปลุมจูบเคล้านม
สองเต้าของบีกันคนละข้าง โดยมีพี่เกศนั่งมองยิ้มๆ อย่างสะใจที่เก้าอี้หน้าโต๊ะแต่งตัว
 
"ไอ้เอก...มึงอย่าทำกับบีอย่างนั้นนะ..ขอร้องละ..." ผมตะโกนเสียงดังลั่น
 
"บีเป็นเมียของกู มึงเสือกอะไรห่าชัย..."
 
ไอ้เอกมันเงยหน้าขึ้นมาจากหว่างขาของบีแล้วร้องตอบผม เสร็จแล้วก็ก้มหน้าลงไปซบอีกครั้ง ผมไม่เห็นบีจะมีท่าทีขัดขืนแม้
สักนิด ด้วยมองไม่เห็นใบหน้าของเธอเพราะถูกไอ้เฉินและไอ้แจ็คบังอยู่ แต่เธอก็ไม่ร้องห้ามปราม กลับมีเสียงครางแผ่วๆแว่ว
ออกมา บ่งบอกถึงอารมณ์เสียวซ่านที่เธอกำลังได้รับอยู่
 
"ไอ้เอก...มึงสัญญาแล้วไงว่าถ้ากูยอมเย็ดบีแล้ว มึงจะไม่เอาบีไปทำแบบนี้อีก..."
 
ผมไม่รุ้จะหาเหตุผลอันใดไปร้องขอให้ไอ้เอกมันหยุดการกระทำ จึงโพล่งออกไปอย่างไม่ยั้งคิด ลืมไปเสียสนิทว่าบีเข้าใจผม
ผิดในเรื่องนี้อยุ่ พอผมพูดจบบีก็ผุดลุกขึ้นนั่ง จ้องมาทางผมด้วยแววตาที่โกรธเกลียด
 
"นั่นไง..ชัยยอมรับออกมาจากปากเองแล้วใช่มั๊ยว่า..ที่ทำกับบีเพราะยังงี้..."
 
บีพูดจบก็ผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินมานั่งบนโซฟารับแขก โดยมีไอ้เอกเดินตามมาประกบชิด พอบีนั่งลงไอ้เอกมันก็ทรุดตัวลงที่
พื้นห้องจับขาบีแยกออก แล้วถลกกระโปรงขึ้นไปกองที่เอวอีกครั้ง อวดเนินโคกอวบๆเป็นกระเปาะของบีให้ผมเห็น แล้วมัน
ก็ซบหน้าลงไปใช้ลิ้นโลมเลียอีกครั้ง ส่วนไอ้แจ็คกับไอ้เฉินเดินตามออกมามันขยับขึ้นไปยืนบนเบาะโซฟาแล้วยื่นควยยาวๆ
แดงๆไปตรงหน้าบี
 
"เอามาใส่ปากบีสิคะพี่แจ็ค.."
 
เสียงพูดของบีนั้นทำให้ผมใจสลาย นี่เธอร่ำร้องขออมควยของไอ้แจ็คเองด้วยซ้ำ หาใช่มันบังคับข่มขืนใจ เสียงไอ้แจ๊คกับ
ไอ้เฉินหัวเราะกันลั่น เสียงมันเสียดแทงเข้าไปในหัวใจที่แหลกสลายของผม เหมือนโดนขยี้ซ้ำจนแหลกเป็นชิ้นเล็กๆ ผม
หลับตากัดฟันกรอดด้วยความคลั่งแค้น พยายามจะดิ้น แต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งบาดข้อมือเข้าไปทุกทีๆ
 
"ไอ้ห่าชัย...เป็นไรไม่กล้ามองรึ...นี่กูไม่ได้วางยาน้องบีเลยนะโว๊ยยย..ฮ่าๆๆๆเธอเต็มใจเอง..มึงเห็นมั๊ยวะ..นั่นๆ อมควยไอ้
แจ็คใหญ่เลย...ฮ่าๆๆๆมันส์โว๊ยงานนี้...."
 
ไอ้เอกมันย้ำซ้ำอีกครั้งจนผมคลั่ง ร้องด่าพวกมันโหวกเหวก พยายามตะโกนให้เสียงดังลั่นหวังให้ห้องข้างๆได้ยินเพื่อเรียก
ตำรวจมาจัดการว่าห้องเราส่งเสียงรบกวน แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้าง เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา เพื่อนๆข้างห้องต่างออกไป
ทำงานกันจนหมดจึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องตะโกนของผมแม้สักคนเดียว
 
เสียงไอ้เอกมันพร่ำพูดบรรยายผ่านเข้าโสตประสาทหูของผมอย่างต่อเนื่อง ว่าตอนนี้บีกำลังทำอะไรกับพวกมัน เพราะผมปิด
ตาแน่นไม่อยากมองภาพที่เห็น มันจึงตอกย้ำผมด้วยการพร่ำพูดบรรยายความจนผมรุ้ว่าตอนนี้ไอ้เฉินกำลังจะเริ่มสอดควย
ของมันเย็ดบีอยู่แล้ว
 
"ไอ้ห่าชัย...กูเป็นเพื่อนมึง..เป็นคนมีบุญคุณท่วมหัวมึง..มึงรู้ใช่มั๊ย...มึงเสือกทรยศกับกูก่อน แทนที่จะทำตามที่กูขอว่าให้เย็ดบี
แล้วให้มาสวิงกับกู มึงเสือกมารัก มาแสดงอาการเป็นเจ้าของ ทั้งๆที่มึงไม่มีสิทธิ์ บีเป็นของกู..มึงจำใส่หัวกระบาลของมึงไว้
ไอ้ส้นตีน..."
 
ไอ้เอกมันไม่เพียงแค่พูด มันกลับยื่นตีนมาถีบที่กลางหลังผมดังอึก แม้จะเจ็บจะจุกแต่ผมไม่ร้องสักคำ คงกัดฟันกำมือแน่นด้วย
ความแค้นเคือง
 
เสียงโรมรันร่วมรักของหญิงสองกับชายสามคนดังสนั่นเสียดแทงความรุ้สึกของผมจนผมอยากให้ตนเองหมดสติรับรู้เสียจริงๆ
แต่มันก็ไม่สามารถบังคับร่างกายได้ ยังคงได้ยินเสียงร้องครางของผู้หญิงสองคนดังสลับกับเสียงหื่นกระหายใคร่กามของไอ้
เอกไอ้แจ็ค และไอ้เฉิน ทั้งเสียงครางเสียงพูดบรรยายเสียงเยาะเย้ยผม ดังสลับกันอยุ่พักใหญ่ ก่อนที่จะมีเสียงตบเคาะประตุ
ห้องดังปังๆๆๆๆๆ ถี่ยิบ พร้อมเสียงตะโกนดังลั่นออกมาจากนอกห้องว่านี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เปิดประตุเดี๋ยวนี้
 
แล้วภายในห้องก็ชุลมุนวุ่นวายในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พังประตุเข้ามาในห้อง ผมมองเห็นเพลงยืนอยู่ในกลุ่มของเจ้าหน้าที่
ตำรวจ เธอรีบวิ่งตรงมาหาผมแล้วช่วยแก้เชือกให้อย่างทุลักทุเล ส่วนกลุ่มของไอ้เอกต่างถูกเจ้าหน้าที่จับกุมคุมตัวไปที่สถานนี่
ตำรวจรวมทั้งผมด้วยที่ติดร่างแหไปด้วย ส่วนเพลงนั้นนายตำรวจหัวหน้าชุดได้กันตัวออกไปไม่ให้ไปที่โรงพัก
 
สักครุ่กองทัพนักข่าวต่างก็ทยอยมาลุมทำข่าวฉาวโฉ่กันอย่างสนุกสนาน มีการถ่ายรูปรัวกันอย่างปืนกล แม้ตำรวจจะพยายาม
กันไว้อย่างเต็มความสารถแล้วก็ตาม หลังจากนั้นทั้งไอ้แจ้คไอ้เฉินและไอ้เอก ต่างก็มีคนมาประกันตัวออกไป คงรวมทั้งบีและ
พี่เกศด้วย เพราะเธอถูกแยกขังคนละที่กับผม ส่วนผมกลับนั่งจับเจ่าอยู่ในลุกกรงอย่างเดียวดาย ทุกคนโดนตั้งข้อหาร่วมกัน
มั่วสุมในเรื่องทางเพศจัดให้มีกิจกรรมทางเพศแบบผิดกฎหมาย
 
ส่วนตัวผมนั้นโดนข้อหาบุกรุกพ่วงไปด้วย เพราะไอ้เอกมันเป็นเจ้าของห้อง ได้แจ้งความเอาไว้เช่นนั้น จนกระทั่งเย็นจึงมีคน
มาประกันตัวผมออกไป โดยที่ผมไม่รู้จัก จากนั้นก็พาผมกลับไปบ้านอาภพ ซึ่งเพลงรออยู่ที่นั่นความกระวนกระวายใจ ทันที
ที่เพลงเห็นหน้าผม เธอก็ร้องไห้พร้อมวิ่งถลาเข้ามากอดแน่นต่อหน้าต่อตาผู้เป็นอาของเธอ โดยไม่เกรงสายตาของผู้ใหญ่
แม้แต่น้อย
 
"เป็นไงบ้างหลานชาย..อาขอโทษนะที่ไปประกันตัวเราช้ากว่าคนอื่น เพราะไม่อยากให้กองทัพนักข่าวมันเจาะเรื่องมาถึงน่ะ..."
 
ผมได้ยินเสียงอาภพอธิบายเรื่องราวก็ทรุดตัวลงไปกราบท่านด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทั้งๆที่ผมไม่ใช่ลูกหลานแต่ท่านก็ยัง
กรุณาเป็นธุระประกันตัวของผมออกมาด้วย
 
"พาเพื่อนไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก..."
 
เสียงอาภพร้องบอกอีกครั้ง เพลงก็พาผมกลับมาที่ห้องที่ผมอาศัยนอนเมื่อคืน พอเธอเห็นแผลแตกเล็กๆที่ปลายคางของผม
เธอก็ตกใจหน้าเสียรีบไปหาชุดพยาบาลมาจัดการชำระล้างแผลให้พร้อมปิดพลาสเตอร์ไว้ เท่านั้น เพราะมันเป็นเพียงรอยปริ
เล็กๆ พอมีเลือดซึมๆเท่านั้น
 
"เพลงรุ้มัยว่าบี..เป็นไงบ้าง.."
 
หลังจากผมเข้ามาในห้องพักครุ่ใหญ่ๆ สิ่งแรกที่ผมอยากรู้ คือเรื่องของบี เลยสอบถามจากเพลงขึ้นมา เธอเม้มปากแน่นไม่ตอบ
ในทันที แต่ยกสำรับชุดพยาบาลไปเก็บในตู้ ก่อนจะเดินกลับมาบอกผมว่าเธอไม่ทราบเรื่องเลย เพราะอาไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง
กลัวเรื่องจะลามไปถึงป๊า ทำให้เสียชื่อเสียง ผมเลยสงสัยว่าป๊าของเพลงนั้นเป็นใครกันแน่ แต่คาดเดาว่าคงเป็นคนที่มีชื่อเสียง
อย่างแน่นอน จึงระมัดระวังเรื่องฉาวโฉ่แบบนี้ไม่ให้ลูกหลานเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ผมก็ไม่ได้ซักถามอะไรออกไป
 
คืนวันนั้นผ่านไปอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งรุ่งขึ้น เพลงก็หยิบหนังสือพิมพ์ติดมือเข้ามาให้ผมอ่าน ผมเห็นรูปของผมไอ้เอกไอ้แจ็ค
และไอ้เฉินหราอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนพี่เกศกับบีนั้นมีผ้าลายๆปิดหน้าปิดหัวเอาไว้ มองไม่ออกว่าเป็นใคร พร้อมขาวพาดหัว
ตัวเป้งๆว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยดังจับกลุ่มสวิงมั่วเซ็กส์ จากนั้นก็เป็นเนื้อข่าวซึ่งผมไม่อยากอ่านมันเลยสักนิด
 
ผ่านไปอีกวันที่ผมยังพักอยู่ที่บ้านอาภพ เพลงก็เอาโน๊ตบุคมาเปิดให้ผมดูที่เวบไซ้ท์ ของมหาวิทยาลัยที่ประกาศเรียกตัวของผม
กับไอ้คุณเอก พร้อมบีเข้าไปหา ตามวันเวลาที่ระบุไว้ ผมคิดว่าผมคงเจอกับบีได้อีกครั้งที่มหาวิทยาลัย
 
แต่ปรากฎว่าทั้งไอ้คุณเอกและบีต่างไม่ยอมมา มีผมเพียงคนเดียวที่ไปพบและถูกลงโทษไล่ออกจากมหาวิทยาลัยในข้อหาทำให้
เป็นที่เสื่อมเสียชื่อเสียง ประพฤติตัวไม่อยู่ในกรอบศิลธรมมอันดีงามที่นักศึกษาพึงปฎิบัติ
 
ผมก้มหน้ารับโทษโดยไม่คิดโต้แย้ง เพราะรู้เลยว่าชีวิตที่ผมฝันไว้มันจบสิ้นไปเสียแล้ว นอกจากโทษของมหาวิทาลัย ยังมีโทษ
ของบ้านเมืองติดตัวมาอีก ดีแต่ว่าเป็นการลงโทษโดยเสียค่าปรับ และภาคทัณฑ์ไว้เท่านั้น
 
พอเรื่องทุกอย่างสิ้นสุดลง ผมเห็นว่าตนเองคงไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยอยุ่ที่บ้านอาภพอีกต่อไปแล้ว คืนหนึ่งเมื่อเจอท่านผม
จึงเข้าไปเรียนบอกอาภพตามตรงว่าขอออกไปพักที่อื่น ทั้งๆที่ยังมืดแปดด้านเลยว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็คงสู้หน้า
แม่ไม่ได้ ไหนจะพ่อของไอ้คุณเอกอีกคงไม่ยินยอมต้อนรับผมแน่ เพราะผมทำให้ลูกชายเขาหมดอนาคตทางการศึกษาไปด้วย
 
ช่วงที่ผ่านมาร่วมสองเดือนหลังจากเกิดเหตุขึ้น ผมกับเพลงพบกันเพียงไม่กี่ครั้งเป็นการพบกันในช่วงเวลาสั้นๆที่บ้านอาภพ
เท่านั้นเอง พอรุ่งขึ้นผมเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากบ้านอาภพ แม้ท่านจะทัดทานให้อยู่ต่อ แต่ผมก็เกรงใจและละอายใจจน
ไม่สามารถสนองตอบได้ ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากบ้านอาภพนั้น เพลงก็ขับรถสวนเข้ามา แล้วเรียกผมให้ขึ้นรถ บอกว่าจะ
ไปส่งตามที่ผมบอกว่าอยากไปไหน
 
[/post]"จะไปไหนคะชัย..เดี่ยวเพลงไปส่ง..."
 
เสียงของเพลงพูดมาราบเรียบไม่ไพเราะหวานแหววเหมือนหมดเยื่อหมดใยในตัวผมเสียแล้ว แม้ผมฟังแล้วจะรุ้สึกสะดุดหู แต่
ผมก็ไม่ได้โกรธเพลงแม้สักนิด ผมคิดได้ว่าบัดนี้เพลงคงเปลี่ยนไปด้วยอีกคนเป็นแน่ เธอคงไม่ได้รุ้สึกกับผมเหมือนครั้งก่อน
เสียแล้ว ซึ่งก็หาใช่ความผิดของเธอแม้แต่อย่างใด คงเป็นเพราะตัวผมเองต่างหากที่ไม่เคยแสดงออกมาสักครั้งว่า ผมรักเธอ
เช่นกัน ครั้นพอมารุ้สึกตัวมันก็สายไปเสียแล้ว มันสายไปจนผมไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกให้เพลงรับรู้ ว่าผมรักเธอ
 


devilzoa


non5432112345

fc บี    บอกความรู้สึกไม่ถูกเลย  ตอนนี้   คำจำกัดความสั้น ๆ  "โอ้ยยยยย  เออออ"

rahoo99

สลับกับดรามาครบรส มีบทตำรวจให้ได้พอสยองนิดๆ แต่ก่อนจบตอนชัยกับเพลงดรามาน้ำเน่าตามสูตรสำเร็จที่ต้องดำเนินต่อไป ก็จะหักมุมอะไรกันนัก ตกใจนะ

Jimpongth