ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ตำนานนักรัก ตอนที่ 7

เริ่มโดย suckzeed, กุมภาพันธ์ 18, 2016, 04:50:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed



สองสาวใช้ประจำบ้าน สาลีและมะลิ

ผมยกถ้วยข้าวต้มมาให้ลุงเสงี่ยมทานในห้องนอนส่วนตัวของแก พร้อมนั่งเฝ้าดูแกทานไปช้าๆจนอิ่ม ก็ดึงชามข้าวต้มออกมาจากโต๊ะเตี้ยๆตรงหน้าของแก แล้วเดินเอาออกไปวางที่ซิ้งค์ล้างจานในครัว ก่อนจะเดินกลับมาสอบถามแกว่าอยากออกไปเดินเล่นบ้างมั๊ย

"เออ...ดีเหมือนกัน นอนอุดอู้มาทั้งวันแล้ว..." ลุงเสงี่ยมตอบตกลงพร้อมทำท่าขยับจะลุกขึ้น จนผมต้องร้องห้าม

"เดี๋ยวก่อนครับลุง  ผมไปหารองเท้าที่เหมาะกับการเดินออกกำลังกายมาให้ก่อน..ลุงมีบ้างมั๊ยล่ะ.." ผมร้องถาม เพราะเพิ่งมาอยู่วันแรก ยังไม่รู้ว่าลุงแกเก็บข้าวของไว้ที่ใดบ้าง

"มีสิวะ...ทองดีไปถามแม่หงุ่นหรือพวกนังสาวๆดูแล้วกัน พวกนั้นมันเก็บไว้ให้ชั้น...."

เมื่อผมรู้ว่าลุงเสงี่ยมแกมีรองเท้าเดินอยู่แล้ว จึงเดินออกจากห้องไปถามกับบรรดาสาวใช้ของแก ก็พบว่ามะลิสาวใช้คนน้อง กำลังปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่อยู่พอดี

"มะลิใช่มั๊ยครับ..ผมมาหารองเท้าเดินให้ลุงเสงี่ยมน่ะครับ..." ผมร้องทักชื่อออกไป แม้เสียงไม่ได้ดังอะไรสักนิด แต่แม่มะลิก็ตกใจหันขวับมาทางผม

"อ่ะ...คุณทองดีเอง...มะลิตกใจหมดเลย..." มะลิกล่าวยิ้มๆอายๆ

"อ้าว..ผมทำให้มะลิตกใจหรือครับ..ขอโทษด้วย.."

"ไม่เป็นไรค่ะคุณทองดี ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ..มะลิขี้ตื่น ตกใจง่าย โดยเฉพาะไม่ค่อยได้ยินเสียงผู้ชายในบ้านมานานแล้ว..."

มะลิให้เหตุผลเสียงอุ๊บอิ๊บอายๆ แล้วถามย้ำผมกลับมาอีกครั้ง ว่าผมต้องการอะไร พอผมบอกว่ากำลังมองหาร้องเท้าให้ลุงเสงี่ยม มะลิสาวใช้หน้าตาดีกว่าสาลี่ผู้พี่สาวเล็กน้อย ก็รีบเดินค้อมหลังผ่านตัวผมไป จนผมมองตาม ก็เห็นก้นอวบกลมของมะลิบิดส่ายไปมา ในผ้าซิ่สีน้ำเงิน เธอเดินไปเปิดประตูห้องเก็บของ แล้วหยิบรองเท้าผ้าใบสำหรับใส่เดินใส่วิ่ง กลับออกมายื่นส่งให้ ด้วยทีท่าอายๆเขินๆ

ผมยื่นมือไปรับแล้วกล่าวขอบใจเบาๆ มะลิฉีกยิ้มจนตาหยี ด้วยท่าทีอายๆ เสร็จแล้วผมก็นำรองเท้ากลับมาใส่ให้ลุงเสงี่ยมจนเรียบร้อยก็พยุงพาแกเดินออกมาจากห้อง ผ่านห้องรับแขก จนออกประตูหน้าบ้าน ไปถึงสนามหญ้าเขียวขจี จึงปล่อยมือ ปล่อยให้แกเดินแกว่งแขนวนไปวนมาตามลำพัง แต่ก็อยู่ในสายตาของผมตลอด จนร่วมครึ่งชั่วโมง ลุงเสงี่ยมจึงเดินมาหาผม

"พาลุงไปสระน้ำมั่ง..."

ลุงเสงี่ยมร้องบอก ผมก็พยุงแกเดินไปจนถึงสระน้ำ ก่อนจะช่วยพยุงแขนแกเดินขึ้นบรรไดสองสามขั้น จนไปถึงพื้นที่รอบๆสระ คราวนี้
ได้พบคุณกานดาอีกครั้ง แต่เธอไม่ได้มานอนเล่นเหมือนเดิม กลับลอยคออยู่ในสระน้ำใสๆสีฟ้า ว่ายไปว่ายมาคนเดียว

"อ่ะ..แม่ดาอยู่ที่นี่ซะด้วย..."

ลุงเสงี่ยมรำพึงเสียงเบาๆ ขณะที่คุณกานดากำลังมุดหน้าว่ายน้ำไปอีกฟากหนึ่งของสระ จึงยังไม่ทันเห็นว่าผมกับลุงเสงี่ยมขึ้นมายืนอยู่ริมขอบสระว่ายน้ำ

"ทองดี..แกว่าแม่ดานี่หุ่นดีมั๊ยวะ.."

จู่ๆลุงเสงี่ยมก็กระซิบถามผมเสียงเบาๆ แต่ทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ไม่รู้ว่าแกถามแบบนี้ออกมาทำไม แล้วก็ไม่อยากคิดต่อไปเลยว่า หรือคุณกานดาจะเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ลุงเสงี่ยมแกมีอะไรด้วย

"เอ้า..ถามแค่นี้ทำไมต้องตกใจด้วยวะ..." ลุงเสงี่ยมย้ำถามอีกครั้ง ในขณะที่คุณกานดาว่ายไปแตะขอบสระ แล้วมุดน้ำหมุนกลับตัวแล้วถีบขอบสระว่ายน้ำกลับมาที่ผมยืนอยู่

"ก็ดีครับ.."

ผมตอบสั้นๆ เบาๆ บังคับสุ้มเสียงไม่ให้มีพิรุธ แต่สายตาก็ยังไม่สามารถละมาจากร่างเพรียวสูงสมส่วนของคุณกานดาได้ จนคุณกานดาว่ายกลับมาได้ครึ่งสระ เธอคงเห็นว่าเราสองคนยืนมองอยู่ จึงหยุดว่าย แล้วร้องทักออกมาด้วยเสียงหวานๆสดใส

"ตื่นแล้วหรือคะคุณพ่อ.."

ร้องทักถามพร้อมกับเดินฝ่าน้ำตัดไปข้างสระ ตรงที่มีบันไดสแตนเลส แล้วโหนตัวจับราว ก้าวขาเดินขึ้นมา  ก่อ่นจะวิ่งเหยาะๆจนนมอวบกลมสองข้างกระเพื่อมไหว เข้ามาหา ด้วยทีท่าปรกติไม่เคอะเขิน  แต่คนที่ใจเต้นผิดปรกติกลับเป็นผม เมื่อแลมองไปตลอดเรือนร่างเพรียวสูงขาวผ่องในชุดวันพีชลายสีสดใส เนื้อผ้าบางๆทั้งเว้าทั้งรัดในช่วงสะโพกและขอบขา รวมถึงทรวงอก จะมันดันผุดออกมาเป็นก้อนเล็กๆสวยงาม เนอูมๆที่หว่างขาก็เป็นเส้นเรียวยาว แบ่งแคมทั้งสองออกเป็นซีกยากจะหักใจละสายตาออกมา จนได้ยินเสียงลุงเสงี่ยมกระแอมเบาๆ นั่นแหละผมจึงตกใจลนลานรีบเบนสายตากลับมามองเท้าตนเอง

"ยังไงแม่ดา..ยังออกกำลังกายว่ายน้ำทุกเย็นเหมือนเคยเลยนะ..." ลุงเสงี่ยมร้องทักลูกสาว แล้วสะกิดแขนให้ผมพาแกเดินไปนั่งพักที่เก้าอี้ คุณกานดาก็วิ่งเข้ามาถึง

[post]"ไม่เหมือนเคยแล้วค่ะคุณพ่อ พอดีวันนี้ดาหยุดงาน ก็เลยมาออกกำลังกายสักหน่อย..."

คุณกานดาพูดพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งไขว้ขาบนเก้าอี้ข้างๆบิดาของเธอ พร้อมถอดหมวกว่ายน้ำออกมาสลัดผมยาวสลวยดำขลับจนปรกหน้าปรกตา ก่อนจะเสยรวบจัดทรงแล้วหันมาร้องบอกผม

"นั่งก่อนสิคะทองดี..." แล้วเลยหันมาบอกผม ที่ยังยื่นเก้กัง ทำอะไรไม่ถูก

"ครับ.."

ผมตอบเบาๆ แล้วเหมือนเช่นเคย คือนั่งตัวลีบหนีบขา เก็บแขน ก้มมองพื้น แต่ก็มีหลายครั้งที่ลอบเหลือบตาขึ้นไปมองหน้าคุณกานดา ระหว่างที่เธอคุยกับลุงเสงี่ยม จะคุยเรื่องราวอะไรผมจับใจความไม่ได้เลยครับ เพราะมัวแต่มองคุณดาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆเช็ดเรือนผม ช่วงที่คุณกานดายกแขนนั้น ทำให้ผมแลลึกรอดใต้รักแร้ขาวเนียน เข้าไปถึงทรวงอกอวบอิ่ม ที่มันล้นทะลักออกจากกรวยบรา นอกจะรู้เพียงว่าพรุ่งนี้ช่างสม จะมาทำห้องให้ผมเท่านั้น

"กลับกันได้แล้วทองดี.."

เสียงพูดเบาๆของลุงเสงี่ยม ทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง เพราะสายตาพอดีกับเหลือบขึ้นไปมองเรียวขาขาวๆยาวๆที่โผล่พ้นชุดวันพีชสีสดใสของคุณกานดาพอดี พร้อมกับได้ยินเสียงเธอหัวเราะขำๆเบาๆ

"คิดอะไรเพลินอยู่หรือคะทองดี..คุณพ่อเรียกแค่นี้ ถึงกับสะดุ้ง" ผมก้มหน้าอายๆ เมื่อได้ยินเสียงหวานๆของคุณกานดาเย้าแหย่ ไม่กล้าตอบออกไปหรอกครับว่าสะดุ้งเพราะกำลังมองเรียวขาสวยของคุณอยู่  

เมื่อลุงเสงี่ยมขยับตัว ผมก็รีบลุกขึ้นไปพยุงแขน พาแกเดินลงมาจากสระ จนถึงพื้นราบจึงค่อยปล่อย ให้แกเดินโดยใช้ไม่เท้าสามขาพยุงจนกลับเข้ามาภายในบ้าน แล้วผ่านห้องรับแขก ที่เห็นยัยเด็กเจนหันมามอง ด้วยสายตาขุ่นขวาง แล้วกลับไปสนใจแชทไลน์ต่อ  และที่สำคัญกว่า คือเธอไม่ร้องทักทายกับผู้เป็นตาแม้แต่คำเดียว

"เด็กสมัยนี้...มันแย่..ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่...แม่ดาก็ไม่รู้จักสั่งสอนลูกหลาน" ลุงเสงี่ยมบ่นให้ผมฟังเมื่อกลับเข้ามาในห้อง ผมก็เพียงแต่รับฟังไว้เท่านั้น ไม่กล้าต่อปากต่อคำวิจารณ์ลูกหลานของแก จีงรีบเปลี่ยนเรื่องถามแกทันที

"เหงื่อแห้งแล้ว..ลุงอาบน้ำเลยมั๊ยครับ..เดี๋ยวผมไปเตรียมน้ำให้.." ลุงแกพยักหน้า ผมเลยหมุนตัวเตรียมเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อผสมน้ำอุ่นๆ ลงอ่างให้แกนอนแช่ แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงห้องน้ำ แกก็พูออกมาเสียก่อน

"ทองดี..แกเอาใจใส่ลุงแบบนี้..จนลุงอยากได้แกเป็นลูกเป็นหลานจริงๆเลยว่ะ..."

"ลูงพูดตลกละครับ..ผมก็ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง..."

ผมร้องตอบแก แล้วก็ผลุบเข้าไปไขน้ำร้อนน้ำเย็นลงอ่าง จุ่มมือลงไปวัดอุณหภูมิว่าพอดีแล้วก็นั่งรออยู่ในนั้น รุ้สึกแปลกๆเหมือนกันที่ต้องมาอาบน้ำให้คนแก่ เพราะตอนอยู่ในศูนย์ มีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่โดยเฉพาะอยู่แล้ว แต่เอาเถอะ ในเมื่อผมมาอยู่กับลุงเสงี่ยมที่บ้านแบบนี้แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง

กำลังนั่งนึกเพลินๆ บานประตูสไล้ด์ก็เลื่อนออก ลุงเสงี่ยมเตรียมย่างเท้าเข้ามา ผมรีบผุดลุกขึ้นไปพยุงแขนแกอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าแกจะลื่นล้ม

"ลุงไม่ถอดเสื้อผ้าก่อนล่ะครับ..." ผมร้องถามเมื่อเห็นว่าลุงเสงี่ยมแกเดินเข้ามาทั้งที่ยังอยู่ในชุดเสื้อผ้าเดิมๆ

"เอ้อ..ลุงลืมว่ะ ปรกติตอนอยู่ที่นั่น แม่หยาดเข้าทำให้ลุงทุกที..."

แม่หยาดที่ลุงเสงี่ยมพูดถึง คือแม่บ้านคนหนึ่งของศูนย์ ที่มีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดห้องพัก และอาบน้ำชำระร่างกายให้คนแก่ เมื่อ
ลุงเสงี่ยมลืมทำด้วยตนเอง ผมก็ลากเก้าอี้ขาเหล็กมาให้แกนั่ง แล้วลงมือถอดเสื้อแกออกทันที โดยที่ลุงแกมีท่าทางเหนี่ยมอาย บิดตัว
ยุกยิกๆ เขินๆ

"ลุงจะเขินผมทำไมครับ ผู้ชายเหมือนกัน..." ผมร้องถามแกขำๆ[/post]"ก็เพราะเอ็งเป็นผู้ชายสิวะ..ลุงเลยเขิน..ยังไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าผู้ายดัวยกันสักที...."

ผมเลยถึงบางอ้อ เข้าใจเลยว่าที่แกเขินเพราะเหตุนี้เอง สงสัยจะแก้ผ้าต่อหน้าผู้หญิงจนชินละมั้งลุงเรา จึงหัวเราะขำๆ แล้วลงมือรูดกางเกงขอบยางยืดหลุดออกมาตัวแกทันที แม้จะมีกลิ่นฉุนๆของฉี่ลอยออกมาเข้าจมูก ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะเคยชินกับกลิ่น
แบบนี้ ของคนแก่ในศูนย์แล้วอย่างดี แต่ทันที่ที่กางเกงนอกและกางเกงในแกหลุดออกมาจากตัวลุงเสงี่ยมนั่นแหละ ผมถึงกับอุทาน
ด้วยความตกใจ

"โอ้โห..ลุง..." เมื่อผมจ้องไปที่ควยเหี่ยวๆของลุงเสงี่ยม จะไม่ให้ผมตกใจได้ยังไงครับ เพราะขนาดที่มันเหี่ยวๆแบบนั้น ขนาดความยาวของมัน ยังกว่า4นิ้ว ความอวบใหญ่ไม่ต้องพูดถึง ผมว่าตอนหนุ่มๆถ้ามันแข็ง คงกำไม่รอบเป็นแน่

"ตกใจอะไรวะ..ไอ้ทองดี..." ลุงเสงี่ยมแกพูดขำๆ พร้อมก้าวขาข้ามขอบอ่างอาบน้ำที่มีฟองขาวโพลน จากสบู่ผงที่ผมโรยลงไป โดยมีผงยึดแขนพยุงตัวแกไว้แน่น

"ก็ของลุง..ขนาดนี้... มิน่าถึงลุยมาได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ...สาวๆคงหลงลุงแน่เลย..." ผมไม่ได้พูดเกินความจริงเลยแม้แต่นิด ไม่ได้ยกยอปอปั้น แต่พูดตามความรู้สึกที่สายตามองเห็น เล่นเอาลุงเสงี่ยมหัวเราะฮาๆ ลั่นห้องน้ำ

"ทำไห้สาวรักสาวหลง มันไม่ได้อยู่ที่ขนาดหรอกว่ะทองดี มันอยู่ที่เท็คนิคต่างหาก แต่ขนาดที่ใหญ่กว่า มันก็ช่วยให้ดีขึ้น สาวๆตืนเต้นขึ้นเทานั้นแหละ..."

ลุงเสงี่ยมแกพูดขำๆ แม้ผมจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่อยากค้าน ปล่อยให้แกนอนแช่ตัวขัดขี้ไครด้วยตนเอง ในอ่างน้ำอุ่นครู่ใหญ่ ก็ล้วงมือ
ลงไปดึงสะดืออ่างให้ทิ้งน้ำออก แล้วเปิดน้ำจากฝักบัวล้างตัวแกอีกรอบ ก็พาแกขึ้นมาแต่งตัวหวีผมผัดแป้งใหม่ จนหอมฟุ้ง ลุงเสงี่ยมก็ไล่ให้ผมออกไปทานข้าว

"ไปทานข้าวเย็นก่อนเหอะทองดี..เดี๋ยวกลับมาลุงจะเล่าเรื่องหลานสาวลุงให้ฟังต่อ"

ลุงเสงี่ยมแกเล่นทิ้งท้ายไว้แบบนี้ ผมก็หูผึ่งสิครับ รีบเดินออกไปที่ห้องรับแขก จนผ่านไปถึงห้องอาหาร ก็เห็นคุณดากับยัยหนูเจนนั่งรออยู่แล้ว

"เชิญค่ะทองดี..มาทานข้าวด้วยกัน.." คุณกานดารีบร้องเชิญเสียงหวานๆ แต่ยัยหนูเจนกับชักสีหน้า

"อะไรกันคะคุณแม่..ให้เจนนั่งรอเพื่อทานข้าวร่วมโต๊ะกับคนใช้หรือ...." ผมหยุดชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงแหวๆจากหล่อน

"คนใช้ที่ไหนลูกเจน..ทองดีเขาไม่ใช่คนใช้นะคะ..เป็นคนดูแลคุณตา เป็นเพื่อนกับคุณตา..อย่าเสียมารยาท..นั่งก่อนสิคะทองดี.." คุณกานดาดุลูกสาวของเธอเบาๆ พร้อมหันมาเชื้อเชิญให้ผมนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะอีกครั้ง

"ไม่ค่ะ..เจนรับไม่ได้..ถ้านายนี่ร่วมโต๊ะด้วย...เจนก็ไม่ทาน..."

เสียงแหวๆของยัยคุณหนูจอมหยิ่งยังอาระวาดไม่เลิก พูดเสร็จก็ทำท่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วจิกตามองหน้าผมอย่างเอาเรื่องแค้นเคือง ทั้งๆที่นับจากเจอกันเป็นครั้งที่สองผมยังนึกไปออกเลยว่า ไปทำความขุ้นข้องหมองใจให้ยัยหนูเจนเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่อยากให้คุณกานดากับลูกสาวมีปากเสียงกัน ผมเลยร้องบอก

"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณกานดา ผมไปทานในห้องครัวป้าหงุ่นก็ได้ครับ"

ผมบอกเสร็จก็เดินผ่านโต๊ะอาหารต่อไปที่ห้องครัว แม้จะมีเสียงร้องทัดทานจากคุณกานดาก็ตาม ผมก็ไม่หยุด เพราะไม่อยากให้สองคนแม่ลูกมีปัญหาทุ้มเถียงกันจากสาเหตุที่ตัวผม จนสักพักเสียงดุลูกสาวจากคุณกานดาก็เงียบลง ป้าหงุ่นก็ตักข้าวมาให้ผมทานในห้องครัวพร้อมกระซิบบอกให้ผมใจเย็นๆ อย่าไปถือสาคุณหนูเจนของเธอ เนื่องจากเธอยังเด็ก ผมน่ะอยากเถียงป้าหงุ่นจนคันปาก ที่บอกว่ายัย
หนูเจนยังเด็ก ไม่ควรถือสา อยากจะบอกอยากจะค้านว่ายัยหนูเจนของป้าหงุ่นนั้น ไม่ใช่เด็กแล้ว ทั้งนมทั้งก้นอวบอิ่มใหญ่กว่าผู้เป็นแม่เสียด้วยซ้ำไป


เมื่อผมทานข้าวเสร็จ สองแม่ลูกก็คงทานกันอิ่มแล้ว จึงไม่เห็นทั้งคู่ที่โต๊ะอาหาร จนเดินมาที่ห้องรับแขกจึงเห็นคุณกานดานั่งอยู่ตามลำพัง พอเธอได้ยินเสียงฝีเท้าผมก็เงยหน้าหันมามอง

"ดาขอโทษเรื่องยัยเจนด้วยนะคะทองดี..."

"ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยคุณดาอย่าใส่ใจเลยครับ.."

ผมตอบเสียงเรียบๆธรมดาๆ ไม่มีทีท่าจะโกรธหรืออาฆาตมาดร้าย จนคุณดาส่งยิ้มหวานมาให้ แล้วชวนผมนั่งดูทีวีด้วยกันกับเธอ แต่ผมตอบปฏิเสธเบาๆด้วยความเกรงใจ และมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำต่อไป คือการไปนั่งฟังลุงเสงี่ยมเล่าเรื่องหลานสาวของแกนั่นแหละ

Polaee Kongsompong

อยากจะบอกอยากจะค้านว่ายัยหนูเจนของป้าหงุ่นนั้น ไม่ใช่เด็กแล้ว.
^^^^ Imagine ^^^^^ Excellent.
I'm sorry Professor.
My iPad just English keyboard  (x)only.
Language in RE: from my maid.
Thank you.

คนธรรมดา ธรรมดา

ทำไมทองดีไม่อัดกับคุ
ณกานดาซะเลย

Joe555