ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_punyang

The New World : จอมคนโลกใหม่ 13

เริ่มโดย punyang, เมษายน 10, 2016, 08:07:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

punyang

ขอเล่าก่อน

"สุดท้ายเลยนะ ข้าพเจ้าไม่ได้ใจดี กลัวผู้อ่านรอนานหรอก ข้าพเจ้าแค่อยากเขียนปลดล็อกจินตนาการของข้าพเจ้า"

ไรท์เตอร์สาย Vit+Agi ครับผสม Dex นิดหน่อย แต่ Int น้อยมาก คือโง่ตั้งนาน หลายวันมานี่เพ็งเขียนนานๆ แล้วโดยแสงขาว
หน้ากระดาษ Word เล่นซะแสบตา ลองหาตั้งค่าหน้ากระดาษ โอ้ยยย ปรับเป็นหน้ากระดาษเทา สบายตาขึ้นเยอะ
ของ ab พลีสแล้วปั่นได้ยาวๆ

ไม่ใช่ไรหรอก อยากเครียร์ปมของพวกสาวๆให้จบไวๆ จะเข้าเนื้อหาช่วงสุดท้ายแล้ว อยากเขียนช่วงสุดท้ายแล้วขอเผยไต๋
นิดนึง อยากให้ทุกท่านจับตา ทิวา ไว้ให้ดี

ปล.สารภาพเลย โม้เยอะไปหน่อย คำนวณดูแล้วตัดจบไม่ลง เนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายอาจจะใช้เวลาถึง 3-4 ตอน รวมๆแล้วซี่รี่ย์นี้น่าจะประมาณ 16-17 ตอนอ่าครับ คงไม่เกินนี้แล้ว


.......
หลายวันมานี้ ผมง้วนอยู่กับการกระจายสินค้าล็อตใหญ่ที่เพิ่งรับมา ร้านเราที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วเนื่องจากเปิดเป็นแห่งแรกๆ แต่ติดปัญหาตรงก่อนหน้านี้ผมหายตัวไปและสินค้าขาดแคลน ทำให้ร้านร่วงเจ้าอื่นๆสบช่องโอกาสเปิดค้าแข่งขัน ผมตัดสินใจเปิดร้านด้วยการกระหน่ำลดราคาลงให้ถูกว่าเจ้าอื่นๆ นี่น่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นครั้งแรกของเมือง

ผลที่ตามมาคือชาวเมืองต่างตื่นเต้นปากต่อปากและแวะเวียนเข้ามาที่ร้านผมเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เราไม่เหมือนครั้งอื่น เพราะผมไม่ได้มีเพียง 4-5 คนอีกแล้ว ผมเกณฑ์พวกบ่าวไพร่ที่เป็นลูกหาบติดขบวนมาจากหมู่บ้านมาช่วยเป็นลูกมือสาวๆค้าขาย โดยมีพวกของ ริน เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ตอนนี้ผมไม่ต้องกลัวผู้ใดอีกแล้ว

จุดเด่นของสินค้าร้านผมคือ ของเรามีคุณภาพสูง หรือ บางอย่างเทียบเท่ากับร้านอื่นๆ แต่ต้นทุนเราถูกกว่าเพราะตัดวงจรพ่อค้าคนกลางออกไป หมู่บ้านของกีช่าเป็นแหล่งผลิตชั้นเลิศ ผมรับมาขายโดยตรงชนิดแทบไม่ได้จ่ายตังพวกเธอด้วยซ้ำ เพียงแต่ของที่ขายได้กลับไปผมควรแบ่งพวกเธออย่างเท่าเทียม

มินตราจับไข้ไป 2 วันเต็มๆ ตอนนี้เธอเริ่มดีขึ้นแล้ว ผมยิ่งต้องใช้ผลคลุ้มคลั่งอย่างระมัดระวังกว่าเดิม เพราะผลยังไม่รู้แน่ชัดว่ามันมีผลข้างเคียงที่มองไม่เห็นอีกหรือเปล่า แต่ลึกๆก็ยังนึกแปลกใจ เธอป่วยเพราะผลคลุ้มคลั่งหรือโดนเย็ดหนักจนไม่สบาย ผมยังติดใจผลข้างเคียงที่ทำให้น้ำนมหญิงสาวไหลออกมา แต่ตอนนี้ผลประหลาดนั่นมันเหี่ยวเน่าไปหมดแล้วครับ กะไว้ว่าไปหมู่บ้านรอบใหม่จะขอเก็บกลับมาอีกครั้ง

ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ ทหารทางการกลุ่มใหญ่มุ่งตรงมาที่ร้าน ผมรู้สึกใจคอไม่ดีเท่าไหร่  หัวหน้าพวกหล่อนเดินตรงเข้ามาหาผมและเอ่ยอย่างดุดันว่า

นายท่าน นำสินค้าเข้ามาขายเยอะขนาดนี้ ท่านมีใบอนุญาตขนถ่ายสินค้าหรือไม่  เธอเอ่ยขึ้น

ใบอนุญาตขนถ่ายสินค้าอะไรวะ  ผมนึกในใจ ตั้งแต่มาอยู่เห็นกองคาราวานตั้งกี่เจ้าขนของผ่านไปผ่านมา ไม่เห็นมีใครเคยถูกเรียกตรวจใบขนถ่ายสินค้า ผมเหลือบมองไปหลังขบวนก็ต้องลอบร้องผิดท่าในใจ ชายวัยกลางคนท่าทางเจ้าเล่ห์ยืนหลบๆมุมอยู่ด้านท้าย ไม่แปลกใจเลย

ผมจำได้!! มันน่าจะเป็นเจ้าของร้านที่เปิดแข่งและกีดกันทางการค้า ง่ายๆเป็นคู่แข่งกับร้านของผมนั่นเอง ริน เริ่มอยู่ไม่สุข เธอพร้อมชักอาวุธขึ้นมาทุกเมื่อ ผมโบกมือบอก ริน หยุดไว้ ผมมีสติแจ่มใส เอ่ยขึ้นอย่างแช่มช้าว่า

เจ้าถามหาใบอนุญาต ทำไมไม่ไปถามท่านหญิงลินดาเสียละ  ผมเอ่ยอ้างชื่อหล่อนขึ้นอย่างดังกังวาน

ทหารหญิงผู้นั้น มีสีหน้าแตกตื่นรนราน  ผมเห็นเครื่องแต่งกายเธอคล้ายๆทหารของลินดา เลยคิดอ้างเธอไว้เป็นไม้กันหมา

สี่สาวของผมทำสีหน้าเลิกลั่กอย่างตกใจ พวกเธอรู้อยู่แล้วครับว่าผมกำลังโกหก แต่สิ่งที่โกหกกลับเอ่ยอ้างลูกสาวเจ้าเมืองเสียนิ เธออ้าปากค้างอย่างตื่นตกใจ เพราะการเอ่ยอ้างแบบนี้มันหาอันตรายใส่ตัวชัดๆ

มีแต่ ริน ที่ยิ้มเหยาะอย่างภาคภูมิใจ ไม่เสียแรงเลยที่ชายผู้นี้จะมาเป็นหัวหน้าชนเผ่าของพวกเธอ เขาทั้งเจ้าเล่ห์ ฉลาดและหลักแหลม

ทหารกลุ่มใหญ่ เริ่มแตกตื่นซุบซิบกันอย่างแปลกใจ ก่อนจะหันไปหา ตาแก่เจ้าเล่ห์หลังขบวน พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า

ไหนเจ้าบอกว่า นี่เป็นสินค้าที่ถูกปล้นมาไง ถึงให้เรามาตรวจสอบ   ทหารหญิงเอ่ยตวาดขึ้นอย่างสงสัย

ผมลอบร้องหวาดเสียวในใจ อันที่จริงมีสินค้าที่พวกกีช่าปล้นมาอยู่ที่หมู่บ้านนั่นแหละ แต่ผมสองจิตสองใจไม่กล้านำมาจัดวางเพื่อออกขาย แต่เพราะความลังเลอันนั้นคงต้องขอบคุณฟ้าดิน ผมภาวนาอย่างให้มันดื้อดึงขอตวรจไม่งั้นงานเข้าแน่ๆ

ก่อนที่จะมีใครลังเล ผมเอ่ยขึ้นอย่างดุดันว่า ถ้าเจ้าอยากตวรจค้นดูก็เชิญเถอะ หลังจากตรวจเสร็จก็เตรียมหัวหลุดจากบ่าได้เลย แล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือน  ท่านหญิงลินดาอยากขายสินค้าล็อตนี้ให้เร็วที่สุด เจ้าอยากจะทำอะไรก็เชิญ

ผมเชื้อเชิญในอารมณ์ข่มขู่  ริน เป็นเพียงคนเดียวที่แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ ส่วนสี่สาวเหงื่อแตกอย่างมีพิรุธ

ทหารหญิงหันปรึกษากันอย่างแตกตื่น ก่อนที่สถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายลง

หัวหน้าพวกหล่อน โค้งขอโทษผมก่อนจะพาทหารกลุ่มใหญ่นั้นล่าถอยไป   ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก

.....
นายท่านอ้างอย่างนั้นได้อย่างไร  ท่านลินดารู้เข้า ท่านจะโกรธเอาง่ายๆ

ลินดาชึ้นชื่อเรื่องความแปรปรวนของอารมณ์ เธอใหญ่พอดูเลยครับในเมืองนี้ เธอเป็นลูกสาวคนโตผู้ทรงเสน่ห์ ผมยังไม่ค่อยได้ยินเรื่องของเจ้าเมืองเท่าไหร่ รู้จักแต่เพียงลูกสาวของเจ้าเมือง และก็เห็นลินดาเนี่ยแหละที่ชอบเที่ยวไปเที่ยวมาระหว่างเมืองชั้นนอกกับชั้นในบ่อยๆ

บ่ายวันนั้นผมบอกสาวๆว่า มีธุระต้องไปทำ ผมคงต้องเข้าไปหาลินดาสักหน่อย

....
พักหลังๆ ผมเข้าออกบ้านหลังใหญ่ของลินดาเป็นว่าเล่น ครั้งนี้ผมบอกให้พวกรินไม่ต้องติดตามมาครับ กลัวเป็นเรื่องอีก ทหารหน้าประตูมองผมอย่างหวาดหวั่น พวกเธอเลิกลั่กมองซ้ายขวา จนผมต้องบอกว่า   เรามาคนเดียว

พวกเธอถึงได้ปล่อยให้ผมเข้าไป ผมเดินเตร่ๆเข้าไปด้านในก่อนจะถึงศาลากลางน้ำที่ประจำของลินดา จู่ๆผมก็สะดุดกับเสียงคุ้นหูเสียงหนึ่ง กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า

นี่เจ้าไม่เข้าใจอีกหรอ เราอธิบายตั้งเท่าไหร่ ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าใจ  เสียงทุ่มๆของวัยหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด

บ่าวขอโทษ นายน้อยพูดเรื่องประหลาดนิคะ บ่าวจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว  เสียงหวาดๆอีกหนึ่งเสียงผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี มันเป็นเสียงหวานใสของ ชิงชิง นั่นเอง

ผมสาวเท้าก้าวเข้าไปหาต้นเสียง หนึ่งหนุ่มน้อยกับหนึ่งเด็กสาว กำลังนั่งหน้านิ่วด้วยกันทั้งคู่

ทั้งสองคนเห็นผู้ที่มาเยือนต่างโผลร้องอย่างตกอกตกใจพร้อมกันว่า   "นายท่าน"  "พี่ชาย"

ผมลอบหัวเราะในใจ โลกนี้ช่างกลมแท้
....

เด็กสาวมองผมด้วนสายตาดั่งคนรัก เด็กหนุ่มมองผมด้วยสายตาเหลื่อมใส

ผมเพิ่งรู้ฐานะที่แท้จริงของ ทิวา สรุปแล้วเขาคือลูกชายของเจ้าเมืองอีกคน เป็นน้องชายแท้ๆของลินดา ผู้ที่เป็นตัวเต็งซึ่งจะขึ้นเป็นเจ้าเมืองคนถัดไป  แท้จริงแล้วเจ้าเมืองมีบุตรสาวอยู่มากมาย แต่กับลินดาผู้นี้ได้รับการยกย่องกว่าใครๆเพราะมีน้องผู้เป็นสายเลือดแท้ๆเป็นผู้ชาย  แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว ทิวา คือจะได้รับสืบถอดการเป็นเจ้าเมืองแห่งนี้โดยอัตโนมัติ  ผมไม่แปลกใจเลยเหตุใด ลินดา ถึงได้ใหญ่นักในเมืองนี้

แต่สิ่งที่ผมยังทึ้งในตัวเด็กหนุ่มคนนี้เพราะผมพบว่า ทิวา ถือเป็นอัจฉริยะที่ไม่รู้กี่ปีถึงจะถือกำเนิดขึ้น ทิวา ไม่ได้มีความสนใจและมักมากในกามเหมือนเด็กหนุ่มทั่วๆไป เขาสนใจอะไรที่แตกต่าง ผมจำได้ว่าผมเพิ่งยกนาฬิกาให้เขาไปไม่พ้นอาทิตย์ ทิวา นำนาฬิการูปทรงสี่เหลี่ยมซึ่งทำด้วยไม้เป็นหลักมาอวดผม

มันทำงานด้วยกลไกลของการไขลาน และทำงานในแบบฉบับของนาฬิกาลานแบบเป๊ะๆ นี่คือสิ่งประดิษฐ์แรกในวัย 17 ปี จะไม่ให้เรียกว่านี่คือ อัจฉริยะแล้วจะเรียกว่าอะไร ทิวา อวดผมอย่างภาคภูมิใจ ทำเอาชิงชิง งุนงง ไม่หาย เหตุใดพวกเขาถึงรู้จักกัน เพราะ ทิวา เพิ่งกลับมาพร้อมกับพ่อในการไปเยือนเมืองอื่นๆ เมื่อ 2 วันก่อน แต่ทั้งคู่ดูเข้ากันอย่างสนิทสนม

ชิงชิง เหม่อมองผมอย่างหวาบหวามใจ ทิวา เล่าให้เธอฟังอย่างตื่นเต้นถึงสิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ที่เธอไม่มีวันเข้าใจ แต่เมื่อรู้ว่านี่เป็นความคิดริเริ่มของ นายท่าน ผู้ทำให้เธอรู้จักความเสียวเป็นครั้งแรก เธอลอบตื้นตันใจไม่น้อย เธออิจฉาบ่าวสาวของพวกเขา เธออิจฉาไลลาอยู่ทุกวี่วัน เธอกับไลลา โตมาพร้อมๆกัน ไลลาเป็นเด็กที่ประหลาดกว่าใครๆ เธอคิดว่าไลลาโชคร้าย แต่ยอมนี้กลับรู้สึกอิจฉา ไลลา ขึ้นมาจับใจ ที่ได้อยู่เป็นทาสปรนนิบัตินายท่านคนนี้
เสียง 2 บุรุษคุยฟุ้งกันอย่างคุ้นเคย ก่อนจะมีเสียงหวานๆนุ่มลึกทรงเสน่ห์ ลอยมาตามลมอย่างขุนเคือง

ท่านตัวร้าย ท่านเอาสิ่งใดมาหลอกล่อน้องของเราอีก  ลินดากล่าวอย่างแช่มช้า เดินเฉิดฉายมาตามทาง และนั่งลงด้วยอิริยาบถที่งดงาม

ผ้าแพรราคาแพงของเธอดูพลิ้วไหว ชับเน้นเรือนร่างให้ดูโดดเด่นงามสง่ากว่าผู้ใด นับวันเธอยิ่งเปร่งรัศมี ผมแอบเสียดายลึกๆที่วันนั้นไม่พรากพรมจรรย์ของเธอ

ท่านตัวร้าย จะอธิบายเราอย่างไร ท่านเอาชื่อเราไปแอบอ้างในตลาดได้อย่างไร ท่านรู้ไหมเราสั่งประหารท่านได้ง่ายๆ เธอเอ่ยขึ้นอย่างเย็นวาบ

ผมลอบเปลี่ยนความคิดในใจ และบอกตัวเองว่า ดีแล้วแหละ ขืนลงมือพรากสวาทเธอไป ไม่รู้จะโดนตัดดุ้งทิ้งเมื่อไหร่ เล่นกับคนมีอำนาจยังน่ากลัวยิ่งกว่า กีช่า ว่าร้ายแล้ว นี่ร้ายกว่า เธอร้ายลึกดูไม่โจ่งแจ้ง เสมือนใบมีดอาบน้ำผึ้งที่หอมหวานแต่กรีดแทงเอาชีวิตผู้คน

ท่านพี่ โกรธเคืองอะไรนักหนา แล้วนี่พวกท่านรู้จักกันด้วยหรอ ดีจังที่พวกท่านเป็นสหายกัน เรานับถือเขาเป็นพี่ชายอีกคน ทิวาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ดูสถานการณ์เอาเสียเลย

นายน้อย  เจ้าอย่างหลงคารม คนผู้นี้ลิ้นพลิกแพลงนัก หลอกล่อผู้คนมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เจ้าอย่าไปหลงกลเขามาก คำหลังๆผมว่าเธอใช่อารมณ์พูดอย่างเห็นได้ชัด

ผมสังเกตว่า แม้ลินดาจะเป็นพี่ แต่เธอกลับเรียกน้องชายเธอว่า นายน้อย นี่คงเป็นการวางศักดิ์ฐานะของการเป็นเจ้าชายคนใหม่ในอนาคตข้างหน้า

ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ท่านพี่หยอกล้อกันเหมือนคู่รักไม่มีผิด  เราชักอยากรู้ซะแล้วสิว่าพวกท่านรู้จักกันได้อย่างไร

เจ้า!!!  ลินดาดูเสียอาการตวาดน้องชายอย่างฉุนเฉียว   ผมลอบยิ้มมุมปากเล็กๆ เจ้าเด็กนี้มันร้ายจริงๆ

เจ้ายิ้มอะไร ลินดาหันมาตวาดผม   

ผมได้แต่ส่ายหน้า ทำไขสือต่อไป

.....

ลินดาไม่ได้คิดจะเอาเรื่องผม เพียงแต่บอกว่าท่านอย่าเอาเราไปอ้างแบบนั้นอีก ต่อไปมันจะเป็นอันตรายต่อเจ้า ผมเริ่มรู้สึกว่าลึกๆแล้วเธอก็เป็นห่วงผมไม่น้อย ผมเริ่มเข้าเรื่องเริ่มเอ่ยในท่าทางจริงจังว่า

แทนที่จะห้ามเราไม่ให้อ้างท่านอีก ทำไมท่านไม่เป็นหุ้นส่วนกับเราไปเลยละ ท่านช่วยเราเรื่องเอกสารบ้าอะไรนั่น อำนวยความสะดวกเราเรื่องผ่านเข้าออก เรายินดีแบ่งผลกำไรกับท่านตามส่วนที่เหมาะสม

เธอขมวดคิ้วเหมือนประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยว่า

เราเป็นลูกเจ้าเมือง เงินทองทุกอย่างเรามีมากมายอยู่แล้ว เหตุใดเราต้องช่วยท่าน  เธอเอ่ยขึ้น

ข้อนี้ผมคิดอย่างอับจนปัญญามาแล้วครับ ยังหาเหตุผลดีๆไม่ได้เหมือนกัน ได้แต่อวดอ้างตัวเองอย่างเลื่อนลอยออกไปว่า

เรารู้ว่าท่านไม่ต้องการเงินทอง เรารู้ว่าท่านก็รู้ว่าเราพิเศษกว่าคนอื่น เรายินดีช่วยเหลือท่านทุกเรื่องขอเพียงท่านมีปัญหาและบอกกล่าวกับเรา ต่อให้แลกด้วยชีวิต เราก็จะช่วยเหลือท่านอยู่ดี

ลินดา สะท้านขึ้นคร่าหนึ่ง น้ำเสียงของเขาช่างดูทรงพลังและหนักแน่น เธอรู้อย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าเขาต้องช่วยเหลือเธอได้จริงๆในอนาคต อันที่จริงเธอกำลังบ่งสร้างความมั่นคงให้กับน้องชายเธอไปด้วย เนื่องจากพ่อของเธอซึ่งเป็นเจ้าเมืองมีนางสนมซึ่งตั้งท้องอยู่อีกมากมาย บุตรชายคนใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่มีใครรู้ ก่อนที่ทิวาจะเติบใหญ่ แม่เธอสั่งไว้ว่าในฐานะพี่สาวเธอควรสร้างความมั่นคงในตำแหน่งให้กับน้องเมื่อมีโอกาส

เธอยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เหตุใดถึงเชื่อมั่นในชายผู้นี้ แต่ด้วยกลวิธีต่างๆที่เขาใช้ประกอบกิจการ ทั้งความใกล้ชิดติดเตียงที่เคยพลาดพลั้ง เธอรู้สึกไปด้วยตัวเองว่าชายคนนี้จะสำคัญต่อ ทิวา ในอนาคต

ดีเลย เราตกลง  ทิวาประกาศลั่นชนิดที่ไม่รอพี่สาวเธอตอบ

เทียบกันโดยฐานะแล้วเพียงผมได้ ทิวา เป็นผู้อำนวยความสะดวกมันน่าจะเพียงพอแล้ว แต่ผมรอฟังคำตอบของลินดา เป็นการให้เกียรติเธอมากกว่า

โลกมันไม่โหดร้ายกับผมเท่าใดนัก ลินดา ลงมือจรดน้ำหมึกลงลายมืออย่างแช่มช้า เหมือนเป็นประกาศิตสวรรค์ เธอพับใบประกาศนั้นส่งต่อให้ชิงชิง ชิงชิงรับมาแล้วยื่นต่อให้ผมด้วยรอยยิ้มสดใส ผมลอบดีใจจนอยากจะดึงเธอเข้ามาโอบกอด

ลินดาเอ่ยกับผมทิ้งท้ายก่อนผลักไส้ผมออกมาว่า ท่านอย่าลืมที่สัญญากับเราแล้วกัน

.....

ทิวา ตามผมมาอย่างตื่นเต้น หนุ่มน้อยคนนี้ดูติดผมแจ ชวนผมพูดคุยถึงเรื่องต่างๆอย่างสงสัย เขาสงสัยเรื่องเหตุใดนกจึงบินในอากาศได้  เขาหวังจะได้คำตอบดีๆจากผมอีกสักครั้ง อันนี้บอกตรงๆผมไม่มีความรู้เหมือนกัน ผมอธิบายเพียงว่า เนื่องจากใช้แรงลมพยุงตัวไว้ในอากาศ ทิวา ยังทำหน้าสงสัย

สุดท้ายผมหมึกปากกาขึ้นแล้ว จรดน้ำหมึกเขียนภาพ ว่าว ให้แก่เข้า ผมวาดไม้ไผ่เป็นเส้นโค้งตัดกัน และอธิบายให้เขาลองสร้างสิ่งนี่ขึ้นมา ทิวา เอ่ยถามอย่างงุนงงว่า สิ่งนี้มันจะบินในอากาศได้จริงหรือ

ผมพยักหน้าตอบกลับไป เพราะสมัยเด็กๆผมทำเล่นบ่อย ทิวาฟังดังนั้นก็เอ่ยขอบคุณจากใจ เขาเอ่ยกับผมว่า ท่านพี่ช่างหลักแหลมนัก ทำสิ่งมหัศจรรย์นี้เล่นตั้งแต่วัยเด็ก เราเพิ่งรู้ว่าโลกมันช่างกว้างใหญ่นัก เด็กหนุ่มนำสิ่งนำและปรี่กลับบ้านไปอย่างว่องไว  ผมได้แต่ถอดถอนใจ นี่นะหรอเจ้าเมืองในอนาคต

.....

สี่สาวของผม ร้องโฮอย่างตกใจ นายท่านทำได้อย่างไร

ริน นั่งมองอยู่เงียบๆ เธอไม่แปลกใจเลยในความสามารถของชายที่เธอตกหลุมรัก

ริน มักทำตัวห่างเหินกับผมอย่างมีความนัย ซึ่งตอนนี้ก็ดีอยู่หรอก เพราะ มินตราดูจะเบาใจลงบ้างที่เห็นผมกับ ริน ไม่ได้แสดงความสนิทสนมกันออกนอกหน้า

อาทิตย์ถัดมา ผมบอกสาวๆว่าผมคงต้องกลับไปนำสินค้ามาเพิ่ม พวกเธอต่างฉุดรั้งไม่อยากให้ผมไป ผมบอกพวกเธอไม่ต้องห่วง ผมขอให้ ริน ทิ้งนักรบสาวไว้อยู่ดูแลร้านค้า แต่ลึกๆคือให้ดูแลพวกสาวๆนั่นแหละ รินก็จัดแจงให้อย่างไม่ปริปากบ่น

ในคาราวานขากลับนี่ ผมหอบสินค้าจากในเมืองไปด้วย ส่วนมากเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะถ้าขนมากไปมันจะกินเวลาเดินทางค่อนข้างนานหน่อย

ระหว่างทางผมฉุดรินมาแอบหลังต้นไม้ เพื่อหลบสายตาเหล่าบริวารคนอื่นๆ ผมระดมพรมจูบไซร้ต้นคอนักรบสาวเหมือนคนอดอยาก เอาจริงๆก็คิดถึงรินเหมือนกัน ผมตะบปหน้าอกคู่งามในชุดรัดรูป

อย่านายท่าน ไม่เอาว อย่านะ  อื้อออ เธอดิ้นไปร้องห้ามไป เหมือนไม่ยินยอม 

ทำไมละริน ไม่คิดถึงผมบ้างหรอ ผมอยากจะแย่อยู่แล้วนะ ผมเอ่ยถามริน

นายท่านอย่ามาป้อคำหวานกับบ่าวเลย นายท่านมีสาวงามปรนนิบัติตั้ง 4 คน เธอเอ่ยตัดพ้อ

ก็นี่ไง เราคิดถึงรินนิน่า  ผมเอ่ยกับเธอขณะพยายามล้วงเข้าไปใต้ร่มผ้าสัมผัสหน้าอกเธอเต็มๆ

โอ้ยยย นายท่านอย่า ขอร้อง เราไม่อยากผิดคำสัญญากับท่านกีช่า  เธอเอ่ยเฉลยในที่สุด

สุดท้ายเธอยอมเล่าให้ผมฟังว่า กีช่า ขอร้องเธอว่าอย่างร่วมรักกับผมอีก เพราะตอนนี้ผมเป็นของเธอแล้ว  ผมลอบหวาดเสียวในใจ อะไรนักหนาเนี่ย สรุปผมถูกกีดกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้มินตราจะขี้หวงเอาเรื่อง แต่สุดท้ายเธอไม่สามารถทำอะไรผมได้อยู่ดี นอกจากงอนไปวันๆ แต่กับ กีช่า มันไม่อย่างนั้นนะสิ เธอมีลูกน้องมากมาย ผมขัดใจเธอเมื่อไหร่เธอสั่งฆ่าผมง่ายๆ คิดแล้วมันก็หดเหมือนกันครับ

แต่ลองมาคิดดูอีกที ตอนนี้ ยายเฒ่ายกฐานะให้ผมเป็นหัวหน้าเผ่าเชียวนะ ผมเริ่มนึกหาวิธีซื้อใจลูกน้องมาจากเธอ อีกอย่างด้วยอำนาจของการเป็นหัวหน้าเผ่า ผมต้องหาทางกำหลาบเธอให้ได้สิ ไม่ใช่มากลัวหงออยู่แบบนี้

ผมนึกได้อย่างนั้น ผมปลดกางเกงออก โชว์ดุ้นเอ็นผงาดต่อหน้านักรบสาว ผมบอกกับเธอว่า กีช่า ไม่ใช่ร่วมรักก็ไม่เป็นไร แต่รินต้องช่วยผมหน่อย

นักรบสาวผู้ห้าวหาญ สะท้านขึ้นคราใหญ่ เมื่อผมเอาดุ้นหันเอ็นบานๆ จิ้มที่ริมฝีปากเธอ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่มันถูกต้องหรือไม่ แต่เธอก็มีความปรารถในตัวของบุรุษที่เธอรักไม่ต่างกัน เธอเผยปากออก ก่อนที่เขาจะแทงสวนเข้ามาในริมฝีปากเธอทีเดียวมิดด้าม

อื้อออ อื้อออ แคก แคก ริน ไอในลำคอเหมือนจะสำลัก 

อูยยย ผมจิกหัวเธอเป่าปากอย่าง ตื่นเต้น ปากฟิตจริงๆ 

อื้อออ ผมกดหัวเธอโยกกระเด้าปากถี่ยิบ หญิงสาวหัวสั่นหัวคลอน ผมจิกให้เธอแน่น เธอตีผมเหมือนบอกให้เบาๆ ผมประคองจังหวะช้าลงให้เธอได้หายใจ หญิงสาวจับที่ฐานไว้มั่น เธอตวัดลิ้นเลียไปมาอย่างน่าหวาดเสียว เธอลากลิ้นเลียดุ้นให้ผมตั้งแต่หัวยันโคน เธอถอกหัวควยผมออก บดลิ้นที่หัวอย่างเร่าร้อน

อูยยยย ผมตัวงอเลยครับ ไปฝึกมาจากไหนนิ  โอ้ยยย ริน เบาๆ ผมเสียว

หญิงสาว เอานิ้วมือเรียวยาวสาวลำดุ้น ตำน้ำพริกอย่างรุนแรง สุดท้ายผมทนต่อไปไม่ไหว ฉีดน้ำขาวๆเต็มหน้าและชุดนักรบสีดำสง่าของเธอ  เธอดูดเลียทำความสะอาดให้ ผมขอโทษเธอที่ทำชุดสีดำเธอเปอะกรังไปด้วยคราบน้ำขาวๆขุ่น เธอตีผมอย่างเง้างอน ก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าที่ลำธาร

ระหว่างทางผมดึงรินมานั่งที่ม้าตัวเดียวกันอย่างตอนนั้น ฟินสิครับ ผมนัวนักรบสาวทรงโตไปตลอดทางอย่างไม่อายสายตาชาวบ้านชาวช่อง

รินแอบกระตุก นั่งอิงพิงผม เธอแตกคามือผมบนหลังม้าเรียบร้อยแล้วครับ

.....

รินกับผมแยกจากกัน ทำตัวเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ร่องเธอคงแฉะไปหมดแล้วนั่นแหละครับ

ผมนำข้าวของเครื่องใช้ที่ติดขบวนกลับมาแจกจ่ายให้กับชาวหมู่บ้าน พวกเธอดีใจยกใหญ่ ผมเริ่มดำเนินตามแนวทางที่วางไว้คือแจกจ่ายเงินเป็นเบี้ยเลี้ยงเล็กๆให้กับคนที่ทำงานในหมู่บ้าน ทาสสาวทุกคนโห่ร้องด้วยความดีอกดีใจ นี่เป็นเงินก้อนแรกในชีวิตที่พวกเขาได้รับ

กีช่า นั่งมองผมด้วยอาการยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ เธอแช่มช้าเข้ามาโอบผมจากด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยว่า

ท่านไม่มีรางวัลให้เราบ้างหรอ  เธอเอ่ยอย่างชวนหวาบหวาม

ผมหันกลับไปหาเธอ กีช่า ไม่เหลือเคล้าของความดุดัน เธอเป็นหญิงที่เปิดเผยไม่เกรงกลัวคน เธอกอดผมอย่างแนบแน่น เหมือนไม่อยากให้ผมจากไปไหนอีก

เราคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านทำไมไปนานจัง เธอคลอเคลียผมอย่างอ่อนหวาน ผมลอบมองที่ริน เธอหลบสายตาลงต่ำไม่มองที่เรา ผมอับจนปัญญาที่จะละลายพฤติกรรมของพวกเธอคู่นี้

เหมือน กีช่า จะสังเกตเห็น เธอหันไปกล่าวเสียงแข็งกับรินว่า เจ้ามัวยืนเหม่ออะไรอยู่เล่า คืนนี้เจ้าต้องเข้าพิธีกรรมมิใช่หรอ เหตุใดจึงยังไม่ไปเตรียมตัวอีก    เธอเอ่ย

!!!!! อะไร  พิธีกรรมอะไรอีก   ผมร้องอย่างตกใจ

....
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่อาจขัดขวางได้ คือพิธีกรรมบ้าๆ ครั้งที่แล้วเพราะผม พิธีกรรมมันถึงได้ล่มลง ครั้งนี้หวนกลับมาใหม่ในคืนที่จันทร์กระจ่าง ริน ต้องกลับเข้าแก้ตัวด้วยพิธีกรรมเหล่านั้นอีกครั้ง คือรินจะต้องไปให้ผู้ชายที่ไหนเย็ดเนี่ยนะ ผมนึกแล้วทำใจยอมรับไม่ได้ ผมขอให้แม่เฒ่ายกเลิกพิธีกรรมนั้นเสีย

แต่เธอบอกทำไม่ได้ มันคือสิ่งที่สอบทอดมาหลายชั่วอายุคน กีช่าดูจะหัวเสียไม่น้อย เธอถามว่าท่านมีเหตุผลอะไร อย่าบอกนะว่าเพราะริน  ผมไม่อยากให้เธอเดือดร้อน เลยอ้างไปว่าไม่ใช่อย่างนั้น ผมกล่าวด้วยเหตุผลว่าไม่อยากให้พวกเธอฆ่าคน ผมเริ่มอธิบายว่าผมพยายามจะนำชนเผ่าออกจากเงามืด สู่ความรุ่งเรือง บางอย่างที่ดูป่าเถื่อนจำเป็นต้องยกเลิกไปบ้าง

กีช่า เสนอกลับว่า งั้นไม่ฆ่าผู้คน แต่พิธีกรรมยังต้องดำเนินต่อไป  เธอเอ่ย

ยกเลิกไม่ได้จริงๆ หรอ ผมเอ่ยถามอีกครั้ง 

กีช่า ขุ่นเคืองมองผมด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะเอ่ยถามว่า ท่านคิดจะร่วมรักกับทุกคนในชนเผ่าเสียเองหรืออย่างไร 

ผมลอบเสียววาบที่สันหลัง น้ำเสียงประกาศิตชัดๆ ว่าจะทำให้เธอหงอ แต่กลับหงอซะเองอีกแล้ว ผมยังมีสติแจ่มใส ก่อนจะพยายามต่อปากสู้กับเธอต่อไปว่า

งั้นรินต้องไม่ร่วมพิธี   ผมเอ่ยอย่างจิงจัง

ทำไม  กีช่าตะคอกกลับ

เพราะรินกำลังตั้งท้องกับผมแล้ว   ผมเอ่ยอย่างแช่มช้าแต่หนักแน่นทุกคนพูด

.....

กีช่าเหมือนสะท้านขึ้นไปทั่วร่าง เธอแทบยืนไว้ไม่อยู่ เธอสับสนชนิดที่เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน

ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายจนเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะ กีช่า เองก็ไม่ยอมลดลาวาศอก

เอาละ เอาละ  ยายเฒ่า เอ่ยขึ้นขัดจังหวะ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงต้องตามนั้น ถ้ารินกำลังตั้งท้องเพราะมีบุตรก็ไม่ต้องร่วมพิธี พวกเจ้ามีสิ่งใดจะพูดต่ออีกหรือไม่

ความเงียบกัดกลืนไปทั่วบริเวณ กีช่าเหมือนหุ่นที่ถูกสต๊าฟเอาไว้ ผมมองเธอด้วยความกังวลใจ รู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่ผมพูดมันไม่ใช่ แต่ผมจะปล่อยให้ ริน เข้าพิธีได้อย่างไร

......

ผมปล่อยให้ยายเฒ่านำร่วมพิธีไปอย่างทุกครั้ง ผมขอไม่เข้าร่วมด้วยในครั้งนี้ อ้างว่าเหนื่อยจากการเดินทาง ดูเหมือน กีช่า ก็ไม่ไปเช่นกัน ผมมุ่งตรงไปหา กีช่า เป็นอันดับแรกๆ หวังจะปรับความเข้าใจกับเธอเสียใหม่ คุยกันในฐานะหัวหน้าเผ่ามันเข้าใจกันยากเสียจริงๆ คุยกันบนเตียงน่าจะง่ายกว่า ผมหายไปเป็นอาทิตย์ยามนี้เธอคงกลัดมันน่าดูแล้ว

แต่แล้ว กีช่า ก็ยังเป็น กีช่า ฐิทิสูง ไม่ยอมลดราวาศอกเหมือนเดิม เธอไม่ยอมให้ผมเข้าพบ

ผมถอดใจล่าถอยกลับ ระหว่างทางกลับกระโจมที่พักส่วนตัว ผมเจอ ริน ขวางทางอยู่

ใบหน้าเธอนิ่งเฉย เหมือน อมโลกไว้ทั้งใบ ความสับสนในจิตใจเธอแสดงออกมาทางแววตาให้เห็นอย่างเด่นชัด

นายท่านทำแบบนี้ทำไม  เธอเอ่ยถามผมอย่างสับสน

ผมอับจนไม่มีอะไรจะบอกมากไปกว่าว่า ผมไม่อยากให้เธอเป็นของใคร

รินสะท้านขึ้นคราหนึ่ง ก่อนจะบอกกับผมอย่างปวดใจว่า นายท่านไม่น่าทำแบบนี้  ริน เข้าใจกฎของชนเผ่าดี เธอบอกว่าเธอรับได้ เธอบอกผมว่าแม้เธอจะร่วมรักกับคนอื่น แต่ทั้งใจของเธอเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น

แม้เธอจะพูดอย่างนั้นก็จริง แต่ผมบอกว่า ผมรับไม่ได้นิ ที่รินจะไปทำอย่างนั้นกับคนอื่น

เธอทั้งเสียใจ ทั้งดีใจ ความรักเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยฝันไว้เลยในชีวิต ซึ่งเธอกลับพบเจอมันจนได้ แต่ทำไมทวยเทพทั้งหลายต้องเล่นตลกกับเธอ ให้เธอมีรักแล้ว ทำไมต้องให้เขาเป็นหัวหน้าเผ่า ทำไมต้องให้เขาเป็นคู่ครองของนายหญิงที่เธอเคารพรัก เธอปล่อยน้ำตาเอ่อล้นออกมาทางดวงตา เธอหนีหน้าผมอย่างสิ้นหวัง

ผมก่นด่าทวยเทพทุกองค์ที่ทำให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น และสุดท้ายเล่นตลกร้ายกับเราและทำให้เราอยู่ร่วมกันไม่ได้

....

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ผมได้ข่าวสำคัญว่า กีช่า เรียก ริน เข้าไปหา

นาย กับ บ่าว ยืนคุยกันอย่างเคร่งเครียด  เมื่อกีช่า เห็นผม เธอตวาดดังก้องว่า เราไม่ได้เชิญท่านเข้ามา ท่านเข้ามาทำไม

ก่อนจะสั่งให้ทหารของเธอลากตัวผมออกไป  แต่ ณ ตอนนี้ ทหารของเธอกลับเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าทำตามคำสั่ง เพราะสถานะผมตอนนี้ คือหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบัน

ผมไม่อยากสร้างความลำบากใจให้พวกทหาร ผมโบกมือเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่ต้อง เดี๋ยวกูเดินออกเอง

ริน กับ กีช่า คุยกันอยู่ในกระโจมพักใหญ่ ก่อนที่ ริน จะ เดินออกมาก่อน เธอมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ครั้งแรกที่เธอเห็นหน้าผม เธอมีสีหน้านิ่งสงบไร้อารมณ์ความรู้สึก

เธอผละเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว ผมวิ่งตามไปฉุดแขนเธอไว้ และเอ่ยถามว่า

เจ้าจะไปไหน   ผมเอ่ยถาม

บ่าวจะไปเตรียมขบวน สินค้าล็อตใหม่  นายท่านวางใจได้ นายหญิงเข้าใจดีแล้ว  เธอเอ่ยอย่างเป็นปริศนา ก่อนจะผละจากไป

ชั่วอึดใจไม่กี่นาที กีช่า เดินตามหลังรินออกมา และสะบัดข้อมือตบหน้าผมฉาดใหญ่

ผมหน้าชา ไปถึงใบหู  นี่เป็นตบครั้งที่สองจากเธอ รักมากก็แค้นมากสินะ ควรจะซาบซึ้งใจหรือเปล่า

ท่านหลอกเรา  เธอทั้งขุนเคือง ทั้งดูโล่งอก

เธอบอกกับผมว่า เธอเค้นความจากรินแล้ว รินบอกความจริงว่าเธอไม่ได้ท้องสักหน่อย ท่านหลอกเราเพื่อไม่ให้เธอเข้าพิธี  ผมได้แต่เบือนหน้าหนีแห้งๆ เธอเป็นพวกขวานผ่าซากเสียจริงๆ เธอค้างคาใจเรื่องใด เธอไม่เคยปล่อยผ่าน เธอมันจะจบมันลงด้วยความชัดเจนแบบนี้เสมอ 

เธอไม่รอผมพูดอะไรต่อด้วยซ้ำ กีช่า แสดงความใจกว้างให้ผมเห็นเป็นครั้งแรก เธอบอกว่าอย่างนี้แล้วกัน เธอรู้หมดแล้วว่าผมก็รักรินไม่ต่างจากที่รักเธอ เธอบอกต่อไปว่า พ่อของเธอก็เป็นแบบนี้ เรียกหญิงสาวในชนเผ่าเข้าปรนนิบัติไม่ซ้ำหน้า ขอเพียงท่านอย่าเกินเลยจนมีบุตรกับพวกนางก็พอแล้ว

ผมแสร้งเอ่ยออกไปว่าแบบนี้หมายความว่ากีช่ายอมให้ผมสามารถเรียกหาสาวๆในชนเผ่าเข้าปรนนิบัติได้ใช่ไหม

เธอชักมีดออกมาเป็นคำตอบ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นวาบกับผมว่า ท่านอยากให้เราเฉือนมันทิ้งใช่ไหม เธอจ้องผมด้วยแววตาทอประกายดุดัน และขยับมีดทาบลงต่ำที่ดุ้นเอ็นผม ผมรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาจับใจ ผมชักเริ่มรู้สึกกลัวเธอขึ้นมาทุกขณะ ไฟก็คือไฟ อยู่ใกล้สิ่งใดก็ไม่วายที่จะมอดไหม้

จริงๆพรุ่งนี้ บ่ายวันนี้ผมต้องออกไปกับขบวนสินค้าที่จะขนเข้าเมืองล็อตใหม่  แต่กีช่าบอกให้ผมค้างที่นี่อีกคืน พรุ่งนี้ตอนเช้าควบม้าตามคาราวานสินค้าไปก็น่าจะตามทัน

อันที่จริงผมตั้งท่าจะเอ่ยถึง 4 สาวทาสสวาทของผมให้เธอรับรู้ไว้ด้วย แต่คิดไปคิดมา อย่าเพิ่งดีกว่าเมียดุๆคนนี้ คุยที่อื่นไม่รู้เรื่องครับ คงต้องคุยกันบนเตียงเท่านั้น

....

ผมตามรินไปตรวจดูสินค้าล็อตใหม่ ก่อนจะไปสะดุดตากับสินค้าตกค้างที่เคยปล้นมาและกำลังจะนำออกไปขาย มันเป็นผ้าตาข่ายบางๆ สีดำสนิท พวกบรรดาทาสที่ทำงานบอกกับผมว่า นี่เป็น ผ้าตาข่ายที่ปกปิดใบหน้าสำหรับพวกนักบวช คล้ายๆธรรมเนียมการปิดบังใบหน้าไว้ไม่ให้ผู้ใดเห็นหน้าของพวกมุสลิม

ผมดึงผ้าล็อตนั้นออกมา พร้อมเอ่ยถามว่าพวกเธอว่า นำผ้าพวกนี้มาตัดเป็นชุดให้เราได้หรือไม่

ทาสสาวหน้าแดงฉาน ก่อนจะถามผมว่า นายท่านจะเอาผ้าแบบนี้ไปตัดเป็นเสื้อผ้าได้อย่างไร มันปกปิดอะไรไม่ได้สักอย่าง เธอเอ่ยถามกับผม ผมบอกเธอว่าทำมาเถอะน่า

....

ความหื่นระดับจิตเริ่มทำงานขึ้นอีกครั้ง ขบวนสินค้าของรินล่วงหน้าไปแล้ว ทาสสาวผู้นั้น นำชุดผ้าตาข่ายเนื้อบางเบาสีดำสนิทสุดเซ็กซี่ตัวแรกของโลกมายื่นให้กับผม เธอถามผมว่า ชุดคลุมแบบนี้บ่าวว่าคงขายไม่ได้หรอกนายท่าน ใครจะกล้าใส่ชุดน่าอายเช่นนี้

ผมลอบแอบยิ้มในใจ คงไม่ต้องบอกว่าเหยื่อคนนั้นคือใคร ผมนึกถึงการแก้แค้นที่สาสม โทษฐานที่ข่มขู่ผัวคนนี้ดีนัก

.....

 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Wolf Stranger

สนุกมาก ...
ขอบคุณมากครับ สำหรับงานเขียนที่ให้อรรถรส ทางอารมณ์ และทางกายภาพ

applej2k


voimaster39

 ::Fighto::กี่ช่าต้องปราบให้ได้นะคนนี้ไม่งั้นอดฮาเรมเผ่านะ

gritkin

งานดีเหมือนเดิมครับ ผมเม้นไว้ตั้งเเต่เว็บเก่าเเล้ว เเต่พอเปลี่ยนเม้นหายไปด้วยเลยต้องเม้นใหม่ครับ 555

asper


yui10139

ขอ อนุญาตกลับมาอ่านใหม่อีกรอบครับ

ursula.aki

เนื้อหาน่าติดตามจริงๆครับ แต่แอบเสียดายที่ใกล้อ่านถึงตอนสุดท้ายแล้ว

somc217

ผู้หญิงทั้งโลกก็คงเหมือนกันในเรื่องหึงหวงครับ
ผู้เขียน เขียนเรื่องนี้ได้เป็นธรรมชาติมาก
ชอบครับ
ขอบคุณมาก

tueytuey

ได้เวลาปราบสาวอดีตหัวหน้าเผ่าแล้วรวมทั้งเผ่าทีหลัง  ::Evil:: ::Evil::

pjny

จบไป12ตอนแล้วยังสนุกเรื่อยๆเลยครับ

tkatlek

พระเอกหื่นเกินจ้องหาโอกาสทุกสถานะกาณย

aoshinobu


Nanashi

สนุกครับ เขียนเร้าจินตนาการได้ดี

chonsit

อ่านสนุก แล้วต้องลุ้นไปด้วย ให้กำลังใจให้ครับ