ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ขุนช้างขุนแผน (Copy) ตอนที่ 2  (การพลัดพราก) คุณ jookie1414

เริ่มโดย สองyu, เมษายน 22, 2016, 08:42:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

สองyu

ในที่สุดวันที่สมเด็จพระพันวษา จะเสด็จมาประพาสล่าควายป่าก็มาถึง สมเด็จท่านมีพระพักตร์สี่เหลี่ยม คิ้วดกหนา จมูกโด่งตั้งตรง
ริมฝีปากบาง แสดงให้เห็นถึงลักษณะของคนที่มีอารมณ์ร้อน แต่เป็นคนตรงและมีความจริงใจเป็นที่ตั้ง ท่านเสด็จมา
ประพาสยังเมืองสุพรรณบุรีนี้แห่งนี้ ก็เพราะว่าท่านอยากจะได้เจอกับขุนไกรพลพ่าย ซึ่งเคยเป็นทหารที่ตามรับใช้ท่านมาตั้งแต่
สมัยที่ท่านยังเป็นเพียงรัชทายาท เท่านั้น ขุนไกรเป็นนายทหารที่มีความเก่งกาจ คาถาอาคมก็ขมังนัก นิสัยก็เป็นคนซื่อสัตย์ไม่โลเล
ดังนั้นท่านจึงเลือกที่จะเสด็จมายังที่แห่งนี้ เพื่อมาพบกับขุนไกรโดยเฉพาะ

วันนั้นขณะที่ขุนไกรได้ล่ำลาเมียรักจนฉ่ำเยิ้มเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะไปรับเสด็จสมเด็จพระพันวษา
ทิ้งให้นางทองประศรีนอนอยู่เพียงคนเดียวในห้อง ซี่งขณะที่ขุนไกรกำลังจะเดินออกจากบ้านนั้น ก็ปรากฏลางร้ายเกิดขึ้นคือ

จิ้งจกตัวหนึ่ง ได้ตกลงมาตายต่อหน้าขุนไกร ทำให้ขุนไกรซึ่งรอบรู้ในเรื่องไสยเวทย์ต่างๆ ต้องหยุดชะงักและต้องมาทำนาย
ทายทักตัวเอง โดยหยิบเอากระดานชนวนขึ้นมา แล้วเริ่มทำนายตามหลักโหราศาสตร์ที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี แต่ต่อให้ขุนไกร
ขีดเขียนและทำนายตนเองอย่างไร ก็ไม่ปรากฏผล เหมือนดังกับมันไม่มีอะไรให้ทำนาย สร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ขุนไกรอย่างยิ่ง

ดังนั้นขุนไกรจึงลุกขึ้นยืนและลงจากเรือนไป ซึ่งขณะนั้นนางทองประศรีได้ลุกขึ้นมาส่งสามีที่หน้าต่าง แต่นางทองประศรี
ก็พบว่า สามีไม่มีเงาหัว เหมือนดังกับมีใครตัดศรีษะของสามีไปฉะนั้น นางขยี้ตาอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดศรีษะของขุนไกร
ก็กลับมาอีกครั้ง นางศรีประจันรู้สึกไม่สบายใจ และไม่อยากจะให้สามีของนางจากไปเลย รู้สึกอ้างว้างไม่อยากให้สามีจากไปเลย

ณ ที่ประทับของสมเด็จพระพันวษา ขุนไกรได้เดินทางมาถึงพร้อมกับทหารในสังกัด เมื่อมาถึงแท่นที่ประทับขุนไกรและทหาร
ติดตามก็ลงจากหลังมา และคลานมาเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน

"เออ ว่าไงวะ ไอ้ขุนไกร ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะ ฮ่ะ ฮ่ะ ข้าละดีใจที่ได้เจอเอ็ง เป็นไงได้ข่าวว่าได้ลูกชายใช่มั้ย
เอ็งมันโชคดีจริงๆ เลยว่ะ ข้าเองยังไม่มีซักคน มีแต่อีสาวๆ ทั้งนั้น" สมเด็จพระพันวษาตรัสทักทายขุนไกร
"ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าพระพุทธเจ้า มีบุตรชายคนหนึ่ง ชื่อพลายแก้วพระเจ้าข้า เนื่องจากตอนที่ภรรยาของ
ข้าพระพุทธเจ้าตั้งท้องนั้น ฝันว่ามีช้างพลายเผือกวิ่งมาเข้าในท้องพระเจ้าข้า เลยตั้งชื่อตามนั้น" ขุนไกรถวายบังคับตอบ
"เรอะ งั้นลูกเอ็งก็มีบุญไม่เบา วันหลังเอ็งพามาเข้าเฝ้าข้าซิ แล้วข้าจะตั้งให้มันเป็นมหาดเล็ก จะได้รู้จักเข้าเจ้า เข้านายได้
ดีมั้ย ไอ้ขุนไกร" สมเด็จพระพันวษาตรัส พลางมองลงมาที่ตัวขุนไกรที่กำลังหมอบอยู่ด้านล่าง พลางเสด็จลงจากแท่นที่ประทับ

แล้วเสด็จดำเนินไปขึ้นม้าพระที่นั่ง พลางพยักพระพักตร์ให้ขุนไกรแล้วตรัสอีกว่า

"มา เอ็งไปต้อนควายป่ามาให้ข้าล่าได้เล้ว เดี๋ยวเสร็จแล้วไปกินข้าวกะข้า"

ขุนไกรรับคำ แล้วลุกขึ้นเรียกบรรดาทหารคนสนิทให้ขึ้นม้า แล้วกระตุ้นม้าควบนำหน้าหายเข้าไปในป่า สักพักเดียวก็ได้ยินเสียง

ป่าแตกครืนครั่นมาแต่ไกล บัดดลก็ปรากฏฝูงควายป่าวิ่งแตกตื่นมายังด้านหน้าของที่ประทับของสมเด็จพระ พันวษา
แต่ไม่มีสักตัวเดียวที่ยอมวิ่งมาเข้าในคอก เหมือนกับรู้ว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ในคอกนั้น มันจะไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมาสู่ป่าอีกเลย
เมื่อฝูงควายป่าตัวหน้าๆ ไม่ยอมเข้าคอกแต่แตกตื่นหนีออกมาด้านข้างนั้น ก็ทำให้บรรดาทหารของขุนไกร ระส่ำระสาย
เนื่องจากจะฆ่ามันก็กลัวพระอาญา แต่ถ้าไม่ฆ่ามันก็จะโดนมันฆ่า สุดท้ายก็เลยแตกฮือ เป็นฝึ้งแตกรัง ปล่อยให้ฝูงควายป่า
วิ่งหนีออกไปจากวงล้อม สร้างความพิโรธ แก่สมเด็จพระพันวษาเป็นยิ่งนัก จึงตะโกนด้วยความโกรธว่า

"ไอ้ขุนไกร มึงทำงานกันยังไงหา ฝูงความป่ามันแตกหนีไปหมดแล้ว ถ้ากูไม่ได้ล่ามัน มึงต้องโดนกูลงโทษแน่ รีบๆ ไปต้อนมัน
กลับมาเดี๋ยวนี้"

ขุนไกรได้ฟังรับสั่งดังนั้น ก็ตกใจตัวสั่น รีบชักม้าเข้าไปต้อนความป่าเหล่านั้นกลับมา แต่บรรดาควายป่าเหล่านั้นไม่ยอมกลับมา
แถมยังพยายามจะขวิดขุนไกรด้วย แต่ไม่เข้า ด้วยขุนไกรมีอาคมขลัง ขุนไกรจึงเอาหอกแทง แต่ด้วยความซวยมาถึง ทำให้แทงไป
ทีไรโดนจุดตายทุกตัว ควายป่าล้มตายไปหลายตัว ที่เหลือก็แตกฮือหนีเข้าป่าไป สร้างความพิโรธให้แก่สมเด็จพระพันวษาเป็น
อย่างยิ่ง

ขุนไกรเมื่อไม่ สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จ จึงขี่ม้าอย่างเหงาหงอย กลับมายังหน้าพระที่นั่ง แล้วคลานเข้ามากราบทูลว่า

"ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า ความป่าเหล่านั้นมันไม่ยอมจะเข้ามาในคอกพระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจึงต้องฆ่ามันพระเจ้าข้า"
"เออ กูเห็นแล้ว มึงฆ่าควายป่าของกูตายเกลี้ยง ไม่เหลือให้กูฆ่าเลย มึงเป็นบ้าไปแล้วใช่มั้ย หา ไอ้ขุนไกร เอา เอา ถ้ามึงต้องการฆ่า
กูก็จะสงเคราะห์มึง เฮ้ย ทหาร เอาตัวไอ้ขุนไกรไปตัดหัวซะ" สมเด็จพระพันวษาตรัสด้วยความโกรธกริ้วอย่างแรง จึงทรงรับสั่งไปโดยไม่ยั้งคิด

ขุนไกรตัวสั่นด้วยกลัวพระอาญา ใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงลูกเมียอย่างเหลือแสน บรรดาทหารก็ฉุดกระชากลากถูให้ขุนไกรมายัง
ลานกว้าง แล้วให้นั่งรอ ขณะนั้นเพชฌฆาตก็ออกมาพร้อมกับดาบเล่มใหญ่ ขุนไกรก็นั่งลงน้อมรับอาญาอย่างไม่ส่งเสียงอันใด

ขณะนั้นเองสมเด็จพระพันวษาก็ทรงตรัสกับขุนไกรว่า

"มึงมีอะไรจะขอกูเป็นครั้งสุดท้ายมั้ยวะ ไอ้ขุนไกร"
ขุนไกรเงยหน้าขึ้นแล้วทูลสมเด็จพระพันวษาว่า
"ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าขอสั่งเสียกับทหารคนสนิทสักหน่อยเถิดพระเจ้าข้า"

สมเด็จพระพันวษาก็พยักพระพักตร์ ให้ทหารคนสนิทของขุนไกรเข้าไปรับฟังคำสั่งเสียของขุนไกร เมื่อทหารคนสนิทเดินมาถึง
ขุนไกรก็กระซิบกับทหารคนสนิทเบาๆ แล้วทหารคนสนิทก็เดินออกมา แล้วกระโดดขึ้นควบมาจากไปทันที

"ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าสั่งเสียเรียบร้อยแล้วพระเจ้าข้า" ขุนไกรทูลตอบแล้วก้มหน้าลงรอรับคมดาบ ซึ่งขณะเดียวกันนั้น
ขุนไกรก็พนมมือบริกรรมอาคม แล้วลูบไปยังที่คอของตนแล้วนั่งนิ่งอยู่ เพชฌฆาตก็เงื้อดาบขึ้นสุดมือ แล้วฟันลงสุดกำลัง !!!
เฮือก นางทองประศรีสะดุ้งตื่นจากความฝัน มันช่างเป็นความฝันที่เหมือนจริงเสียนี่กระไร นางลุกขึ้นยืนแล้วเดินลงเรือนมา
พร้อมกับเรียกหาบุตรชายของนางพลายแก้ว ขณะนั้นเอง นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้นมา นางจึงหันไปดู เห็นนายทวนทหาร
คนสนิทของขุนไกรควบม้าเข้ามาที่บ้านของนาง แล้วลงจากม้า พร้อมกับบอกกับนางว่า

"เรียนนายหญิง ข้านำข่าวจากพี่ขุนไกรมา พี่ขุนไกรทำความผิดต้องพระอาญาของพระเจ้าอยู่หัว ต้องโดนตัดหัว แต่พี่ขุนไกรได้
สั่งข้าให้พานายหญิง กับนายน้อย เดินทางหนีไปอยู่ที่อื่น เพื่อหนีพระอาญา ไม่ต้องโดนนำตัวไปเป็นทาสขอรับ"

นางทองประศรีได้ฟังดัง นั้นแล้ว ก็ล้มลงสลบเป็นลมในทันที ร้อนถึงนายทวนทหารคนสนิท ต้องรีบอุ้มนางขึ้นบนเรือนแล้วทำ
การปฐมพยาบาลให้นางฟื้นขึ้นมา ขณะที่นายทวนกำลังปฐมพยาบาลให้นางทองประศรีฟื้นขึ้นนั้น ผ้าแถบของนางก็หลุดออก
เผยให้เห็นนมทั้งสองเต้า ขาวลออ อยู่ตรงหน้า หัวนมสีน้ำตาลอ่อน ตั้งอยู่บนยอดสุด นมของนางถึงแม้จะคล้อยมาบ้างเนื่องมา
จากการใช้งานหนัก แต่ยังทรงเสน่ห์ ทำให้นายทวนทหารคนสนิทหยุดชะงัก จ้องมองจนตาแทบจะถลนออกมา สองมือสั่นเทา
ยกขึ้นมาจับที่เต้าเต่งของนางทองประศรี แล้วค่อยๆ เคล้นคลึง เต้าของนางแม้จะไม่สู้มือเหมือนกับเต้าของหญิงสาวรุ่นกำดัด
แต่ยังดีดสะท้อนมือดีอยู่ นายทวนทหารคนสนิทก็ใช้นิ้วมือ คีบดึงเบาๆ ที่หัวนมของนาง ทำให้มันเขม็งตึงชี้ชูชันขึ้นมา

นายทวน ทนไม่ไหวก้มตัวลงดูดเต้านมของนาง เม้มหัวนมเข้ามาในปากดูดเม้มด้วยไรฟันเบาๆ ทำให้นางทองประศรีส่งเสียง
ครางออกมาเบาๆ แล้วเอามือกดหัวของนายทวนให้แนบติดกับเต้านมของนาง ทำให้นายทวนได้ใจ เอามือดึงผ้านุ่งของนาง
ทองประศรีออกมา แล้วใช้มือจับไปบนโคกของนางที่ปกคลุมด้วยพงขนดำขลับ พร้อมกับใช้นิ้วกลางเกี่ยวดึงเอาเม็ดแตดของ
นางทองประศรี จนมันแข็งเด่สู้มือ และตรงรูก็เริ่มมีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มออกมา

นายทวนก็ถอยตัวลงมาก้มหน้าลงใช้ลิ้นเสียไปยังแคมหีของนาง พร้อมกับดูดเม้มที่ยอดแตดของนางที่ขณะนี้ขยายใหญ่จนแทบ
จะมีขนาดเท่ากับเม็ด ถั่วลิสงแล้ว ทำให้นางทองประศรี ยิ่งครางออกมา บิดตัวไปมา แล้วบอกกับนายทวนว่า

"ทวนจ๋า เมียทนไม่ไหวแล้ว เอาควยแทงเข้ามาเถอะ อย่าทรมานเมียอยู่เลย"

นายทวนได้ยินดังนั้น ก็รู้ว่านางทองประศรีพร้อมแล้ว จึงลุกขึ้นถอดเสื้อ และถอดกางเกงออกปล่อยให้ควยขนาด 7 นิ้ว
ดำมะเมื่อม ตะปุ่มตะป่ำไปทั้งอัน ออกมาผงกอยู่ข้างหน้านางทองประศรี ทำให้นางทองประศรีตะลึงไปว่า นี่มันควยของคน
หรือของม้ากันนี่ แต่นางก็ไม่กลัว ยื่นมามาจับควยของนายทวนดูดเข้าปาก แต่เข้าได้เพียงแต่ดรึ่งเดียวก็รู้สึกติดในคอ

นายทวนจับหัวของนางทองประศรี ให้รูดควยของเขาเข้าๆ ออกๆ อยู่สักพัก ก็ดึงหัวของนางออก แล้วจับขานางถ่างออก
แทรกตัวเข้าไปตรงกลาง จับหัวบานสีม่วงคล้ำจ่อกับรูหีที่สั่นระริกของนางทองประศรี แล้วกดกระแทกตัวเข้าไปเต็มที่ กึกก
หัวควยบานเข้าไปจุกอยู่กับปากมดลูกของนาง ทำให้นางทองประศรีหวีดร้องออกมาด้วยความจุก ปนความเจ็บ และความเสียว

"โอ้ย ทวนขา เบาๆ หน่อยซิคะ หีเมียพังหมดแล้ว เบาๆ นะคะ เดี๋ยวเมียจะตอดให้ทวนเสร็จเลย" ทองประศรีออดอ้อนชายชู้
"ขอรับ นายหญิง ข้ากำลังเงี่ยนเลยทำแรงไปหน่อย นายหญิงอภัยให้ข้าด้วยนะขอรับ" นายทวนกระหืดหระหอบตอบด้วยอารมณ์
กระสันเป็นกำลัง เนื่องจากรูหีของนางทองประศรีรัดควยของเขา แน่นมากๆ จนเขาแทบจะเสร็จเลยในทีเดียว

เขาจึงแช่อยู่พักหนึ่ง แล้วค่อยๆ ดึงควยออกช้าๆ จนถึงเงี่ยงหยัก ทำให้นางทองประศรีแอ่นตูดตามขึ้นมาด้วยความเสียวที่โดน
หัวควยครูด แล้วนายทวนก็แทงสวนกลับไปดังฟุบ พร้อมกับก้มลงดูดฟันนมทั้งสองเต้าของนางทองประศรี ที่เด้งกระเพื่อมไปมา
ล่อตาล่อปากยิ่งนัก ควยอันใหญ่โตวิ่งเข้าวิ่งออก แต่ละครั้งก็ทำให้แคมของนางทองประศรี ยู่เข้ายู่ออก ตามจังหวัด น้ำเงี่ยนไหล
ทะลักไม่ขาดสาย ชโลมอยู่บนลำควยเป็นมันเลื่อม แตดของนางชี้เด่ออกมา ขี่อยู่บนควยของนายทวน ทำให้นางทองประศรีรู้สึก
เสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยมาก่อนตั้งแต่ได้ผัวมา

นายทวน กระเด้านางทองประศรีได้สักพัก รู้สึกว่าจะเสร็จก็หยุด แล้วจับนางทองประศรีคลานสี่ขา ท่านี้ทำให้แคมหีของนาง
ทองประศรีย้อยมาด้านหลัง นายทวนก็จ่อทวนคู่กาย แล้วกระแทกอัดเข้าไปในรูของนางทองประศรีที่เยิ้มเปียกอยู่ในทันที
เสียงดังฟุบ น้ำเงี่ยนแตกกระจายออกมาบนที่นอน เพราะรูหีโดนหัวควยขนาดใหญ่ตอกเข้าไปกระทันหัน ส่งผลให้นางทองประ
ศรีร้องครางออกมาดังๆ ด้วยความเงี่ยน

นายทวนไม่ฟังเสียง กระแทกควยเข้าออกหีของนางอย่างไม่กลัวฟัง พวงไข่กระแทกตูดนางดังแปะ แปะ นายทวนกระแทกถี่ยิบ
ทำให้นางทองประศรีเสียวจนทนไม่ไหวชิงเสร็จไปก่อนแล้วหนึ่งที แต่นายทวนก็ยังไม่เสร็จ จับนางทองประศรียืนขึ้น แล้วช้อนขา
ของนางขึ้นข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งจับควยจ่อเข้าไปที่รูที่ที่อ้าโบ๋ เพราะโดนควยขนาดใหญ่ทะลวง แล้วกระเด้าควยเข้าไปในรูหีที่ขมิบ
ยวบๆ อยู่อย่างเร่งร้อน นางทองประศรีซึ่งขณะนั้นเสร็จไปแล้ว ไม่เคยเจอกับลีลาขนาดนี้ ถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่อาย
แล้วจับบ่าของนายทวนไว้ ตูดก็เด้งรับการกระแทกของนายทวนอย่างไม่หยุดยั้ง จนในที่สุด นายทวนก็ทนไม่ไหว กระแทกสุดแรง
เกิดจนหัวควยมุดไปจอดที่หน้ามดลูกของนางทองประศรีแล้วส่งน้ำควย เข้าไปอาบมดลูกของนาง นางทองประศรีรู้สึกอุ่นวาบที่
มดลูกก็เสร็จไปอีกครั้งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

หลังจากเสร็จกามกิจแล้ว นายทวนก็เร่งให้นางทองประศรี รีบเก็บข้าวของแล้วย้ายหนีไปโดยทันที แล้วนายทวนก็จากไป
ทิ้งให้นางทองประศรีเรียกหาพลายแก้ว แต่พลายแก้วก็เหลือเกินตอนนี้ไม่รู้ไปไหน ทิ้งให้นางเก็บข้าวของอยู่คนเดียวขณะที่
นางเก็บข้าวของอยู่นั้น พลายแก้วก็เดินขึ้นเรือนมา นางเข้ามากอดพลายแก้วแล้วร้องไห้ เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่พ่อขุนไกรต้องอาญา
แผ่นดิน โดนตัดหัวไปแล้ว แล้วให้ทหารคนสนิทมาเตือนให้นางแม่ลูกหนีอาญาแผ่นดิน พลายแก้วได้ฟังดังนั้นในหัวใจดวงน้อยๆ
ของเด็ก 9 ขวบ รู้สึกเสียใจร่ำไห้ แต่ก็เข้มแข้ง จูงมือแม่พาลงจากเรือน แล้วถามแม่ว่าเราจะไปที่ไหน นางทองประศรีระงับความ
เศร้าโศกแล้วก็คิดถึงว่า นางมีญาติผู้พี่อยู่คนหนึ่ง อยู่ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี เห็นทีนางจะต้องไปขอพึ่งพาให้เขาช่วย
อุปการะครอบครัวนาง แล้วนางจึงจูงพลายแก้วออกเดินทางไปสู่จังหวัดกาญจนบุรีทันที

ppherbalife