ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

LoSo ตอนที่ ๒ ตัวสำรอง (แนวเกมออนไลน์เรื่องแรก)

เริ่มโดย นีโอ, พฤษภาคม 04, 2016, 05:08:35 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

นีโอ

คุยก่อนอ่าน

ขอบคุณสำหรับการตอบรับเรื่องใหม่ แม้จะน้อยไปบ้างแต่ก็ทำใจไว้แล้วว่าคงจะมี
คนตอบระดับนี้ หลายท่านกังวนว่า ผมจะเขียนไม่จบ เลิกเขียน!
อยากจะบอกว่า ผมมีความรับผิดชอบ เขียนจบทุกเรื่อง
แต่นักอ่านบางคนต่างหาก ได้อ่านไม่จบ เพราะอะไรคงไม่ต้องอธิบายนะ

สำหรับฉากเสียว ในตอนนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว แต่รับปากว่าตอนหน้ามีแน่ๆ
อ่านแล้ว ชอบไม่ชอบก็ติชมกันได้ แล้วพบกันตอนหน้านะครับ

ด้วยไมตรีจิต นีโอ



Legend Of Survivors Online.
[size=8][backcolor=#ffff66]กดอ่านก่อนอ่านผลงาน[/backcolor][/size]  
ตอนที่ ๒ : ตัวสำรอง


-----------------------



เสกไม่ได้เจอกับกฤชนานร่วมเดือนมาแล้ว หลังจากที่เจอกับเขาที่หน้าอาคารศูนย์จำหน่ายเกมออนไลน์เสมือนจริงริมถนนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงปลายเดือนก่อน เวลาเสกเดินผ่านหน้าร้านกาแฟที่เขาเคยนั่งเป็นประจำ และมองเข้าไปข้างใน  ก็ไม่มีเขาแต่อย่างใด มันทำให้เขารู้สึกว่าน่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา ลางสังหรณ์บอกว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องดี


กฤชยังคงหายสาบสูญราวกับถูกใครลักพาตัวไปจากชีวิตของเสก บางครั้งเวลาที่เสกจำเป็นผ่านศูนย์บริการเกมออนไลน์ที่กฤชใช้บริการเขา ก็อดที่จะชะเง้อมองผ่านประตูกระจกเข้าไปในนั้นไม่ได้  และบ่อยครั้งพนักงานสวยน่ารักก็จะเดินออกมาพูดคุยถามไถ่ และชักชวนเข้าไปดูเกมออนไลน์ตัวใหม่ นั่นทำให้เสกต้องรีบขอตัวเพื่อจบการสนทนาและเดินหนีมาในทันที และเขาเองก็ไม่กล้าที่จะถามพนักงานสาวคนนั้นว่าเห็นกฤชบ้างไหม ด้วยเกรงว่าเธอจะเข้าใจคลาดเคลื่อน และเขาระหว่างนั้นก็ได้รู้ว่าเกมออนไลน์ Legend Of Survivors Online.กำลังได้รับความนิยมสูง ตัวละครของผู้สมัคร IDที่เข้าไปเล่นล้วนได้รับความนิยม มีแฟนคลับ มีการโหวตและมีการติดตามในอินตาแกมส่วนตัวด้วย

'ตัวละครที่เลเวลสูงสุดสัปดาห์นี้ นักฆ่าหมายเลขแปด ติด TopTen มาสี่สัปดาห์ซ้อน สูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้เล่น ครอบครองอาณาจักรโยธกาที่อุดมสมบูรณ์ มีชุดเกราะปราบสมิงขาว – ดาบประกายฟ้า – อาชาภูผา มูลค่าไอเท็มสูงถึง เจ็ดหมื่นหกพันล้านเซนัล(ค่าเงินในเกม – ผู้เขียน) โอ้โห้! ใครกันหว่า เก่งขนาดนั้น'

ภาพของนักรบหล่อล่ำท่วงท่าห้าวหาญเขาในชุดเกราะรูปเสือสีเงิน ถือดาบเล่มใหญ่นั่งอย่างสง่างามบนหลังม้าสีขาวปรากฏเต็มจอโปรเจ็คเตอร์หน้าตึก นี่คือตัวละครที่ครองความนิยมอันดับหนึ่งมาตลอดตั้งแต่เขาเริ่มเข้าเล่นเกมนี้ มูลค่าไอเท็มในเกมสูงกว่าใครๆ เสกคิดคร่าวๆว่าถ้าจำนวนเงินในเกมมาแลกเงินจริงนอกเกม น่าจะได้ราวเจ็ดพันล้าน นึกๆแล้วให้อิจฉาว่าเจ้าของ ID.คนนี้ขึ้นมา  แต่เรื่องแบบนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัว คนเก่งจริงก็สมควรได้รับรางวัลในความเก่ง

ระหว่างยืนดูภาพฉายบนจอก็เรียงลำดับตัวละครที่มีอันดับความนิยมลดหลั่นกันลงมา แต่พิจารณาเลเวลและไอเท็มแล้ว ช่างแตกต่างกันอย่างน่าเกลียด เพราะเอาเลเวนอับดับ ๒ – ๑๐ มารวมกันยังไม่ถึงครึ่งของอันดับ ๑ ด้วยซ้ำ

'เขากลับมาแล้ว นักฆ่าหมายเลขแปดในตำนาน'

'เก่งอย่างนี้เอารางวัลชนะเลิศไปเลยดีกว่ามั้ง  ยากจะหาใครมีฝีมือเทียบเทียมได้จริงๆ'

'อยากจะรู้จริงๆว่าเขามีเคล็ดลับอะไร ทำไมเขาถึงได้เก่งกาจอย่างนี้นะ'


เป็นเสียงบรรดาคอเกมเมอร์ทั้งหลายที่จับกลุ่มอยู่ด้านหลังของเสกเอ่ยปากวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเซ็งแซ่ บางคนที่ออกจะเกรียนๆก็บอกว่านักล่าหมายเลขแปดยังไม่เจอของจริง กลุ่มหนึ่งที่เข้าข้างก็บอกว่าคนอื่นๆที่เข้าแข่งต่างหากล้วนไม่ใช่ของจริงทั้งนั้น แต่อีกกลุ่มที่หมั่นไส้เพราะอิจฉาที่เก่งเกินก็บอกว่าระยะเวลาของเกมยังอีกหลายเดือน คนเก่งๆอาจจะซุ่มอยู่ก็ได้ ให้จับตาดูกันยาวๆ ก็เกิดการโตเถียงตามมายืดยาว

'สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร'

'นับศพรอได้เลย ไม่ต้องเสียเวลานับทีหลัง รับรองว่าเขา (นักล่าหมายเลขแปด) นำโด่งยันจบเกมแน่ๆ'


นอกจากการพูดคุยของชาวเกมเมอร์ทั่วๆไป ในเว็บไซต์ของเกมนี้ก็มีคนคลิกเข้าไปชื่นชมนักฆ่าหมายเลขแปดในหัวข้อกระทู้แนะนำตัวละคร ซึ่งมีประวัติตั้งแต่เริ่มเข้ามาออนไลน์ พัฒนาการต่างๆ มีการโพสอัพเดทข้อมูลตัวละครทุกระยะ ซึ่งทั้งผลงาน สเตตัสต่างๆ ได้ถูกอัพจนเกือบเต็มและไอเท็มของชุดที่สวมใส่ล้วนสุดยอดทุกชุด

'สมกับเป็นนักฆ่าหมายเลขแปด ตำนานของเกม Kingdom Of The Medallion'

'ว้าวว...ว่าแล้ว คนที่จะพิชิตดันเจี้ยนหมาป่าสีเงิน ต้องเป็นเขาแล้วได้หนังหมาป่ากับดาบเขี้ยวพระจันทร์มาด้วย'

'เห็นว่าจะจัดตั้งกองทัพเข้าเมืองหลวงแล้วนะ กองทัพเขามีพวกเอลฟ์สาวๆร่วมอยู่ด้วย'


'ถ้าเป็นคนอื่นๆจะรวบรวมกองทัพได้ขนาดนี้ ต้องใช้เวลาออนไลน์หลายเดือน'

'ไอ้หมอนี่มันเก่งหรือเกมมันอ่อนกันแน่ แล้วคนที่สมัครเข้าเล่นคนอื่นๆมันมีแต่พวกกากๆหรือเปล่า ฉันอยากรู้จริงๆ ทำไมมันถึงไล่ไม่ทันปล่อยเขาเก็บเลเวลเอาง่ายๆอยู่คนเดียว'


แต่ในจำนวนผู้ชื่นชมก็ยังกลุ่มคนพยายามจับผิดความเก่งกาจของผู้เล่นรายนี้ บ้างก็กล่าวหาว่าเขารู้กันกับ GM. ช่วยกันโกงเกมเพื่อหวังส่วนแบ่งจากเงินรางวัลและเงินพิเศษจากผู้เล่นที่หวังสร้างชื่อเสียง บางคนก็ว่ามีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างผู้เล่นกับทีมงาน GM เพื่อสร้างกระแสให้เกมโด่งดังด้วยการดันผู้เล่นให้โดดเด่น

'ดิฉันนางสาวเรวดี จิรานันท์ หัวหน้าฝ่าย GM ของเกมของยืนยันว่า พวกเราต่างทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์โปร่งใส ไม่มีนอกมีในกับผู้เล่นคนไหนทั้งสิ้น หากใครตั้งโพสกล่าวหาทีมงานของเราในทางเสื่อมเสีย จะถูกทีมงานฝ่ายกฎหมายของเราจัดการดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท และเอาผิดทาง พรบ.คอมพิวเตอร์ให้ถึงที่สุด'

ซึ่งทีมงาน GM. ก็รีบออกมาแถลงการณ์ทันที เพราะข้อกล่าวหานี้รุนแรงและสร้างความเสียหายให้แก่ภาพพจน์ของเกมออนไลน์มูลค่าสูงเกมนี้ เมื่อทีมงาน GM ประกาศอย่างเฉียบขาด ทำให้พวกที่ตั้งกระทู้หรือคอมเม้นท์เหล่านี้ต้องรีบลบและเลิกกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยไป...และท้ายที่สุดพวกเขาต่างก็ต้องยอมรับในความสามารถของผู้เล่นรายนี้

'หมอนี่มันเป็นของจริง ไม่ใช่ของปลอมทำเหมือน'

'ฉันสงสัยจริงๆนะ ว่าเขามีไอคิวเท่าไหร่ น่าจะฉลาดพอๆกับไอน์สไตล์ด้วยซ้ำ แต่อย่างว่านะ เขาเคยเป็นเจ้าพ่อเกม MMORPG มาแล้ว มันคงไม่ยากที่จะมาเป็นเจ้าพ่อเกมออนไลน์เสมือนจริงได้อีกครั้ง'


เริ่มแรกที่ตัวละครนี้โดดเด่นขึ้นมาภายในเกม เต็มไปด้วยคำครหาและความประหลาดใจของผู้เล่นคนอื่นๆรวมทั้งบรรดาผู้สันทัดกรณีที่เฝ้าดูรอบนอก หลายคนได้พยายามเฝ้าจับผิด แต่พอเวลาผ่านไปล้วนต้องยอมรับกับความเป็นจริง จากการดูแครนในครั้งแรกๆที่เขาลงสู่เกมต่อมาผู้เล่นในเกมเริ่มหันมาจับตาดู และต่างก็ได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของผู้เล่นคนนี้ ดันเจี้ยนไหนว่าโหด เควสไหนว่ายาก ผู้เล่นคนนี้ตะลุยปราบได้อย่างราบคาบ อัพสเตตัส รับไอเทม เพิ่มเลเวลเป็นว่าเล่นจนผู้เล่นคนอื่นๆได้แต่มองด้วยสายตาร้อนผ่าวๆ

'ตัวละครตัวนี้ เป็นคนเดียวกับนักฆ่าหมายเลขแปดในตำนาน  โด่งดังมากสมัยเกม MMORPGไม่ผิดตัวแน่ๆ'

'ถ้าไม่ใช่เขา ก็คงจะไม่มีใครทำได้แน่ๆ อัจฉริยะแท้ๆ เก่งโคตรๆ'

'ไอเทมต่างๆของเขาแทบจะล้นแล้ว อีกไม่ช้าคงจะตันเหมือนที่เขาเคยทำไว้'


นักฆ่าหมายเลขแปดเล่นเกมลำพัง ไม่เข้าปาร์ตี้กับใคร ดันเจี้ยนง่ายๆไม่เคยเฉียดเข้าหา สั่งสมกองกำลังเงียบๆสร้างอาณาจักรในพื้นที่กันดาร ใช้ทรัพยากรทุกอย่างคุ้มค่า และโดดเด่นเรื่องการค้าขายในเกมจนอาณาจักรของเขามั่งคั่งร่ำรวย เนื่องจากอาณาจักรของเขาเป็นเมืองท่าสำคัญของบรรดาพ่อค้าวาณิชหัวเมืองต่างๆ ทำให้มีรายได้จากการเก็บภาษีบรรดาเรือเดินทะเล และยังเป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่มั่นคงยากจะถูกโจมตียึดครอง ตัวเมืองตั้งอยู่ลึกจากชายฝั่งทะเลเข้าไปในหุบเขา แวดล้อมด้วยเนินเขา แม่น้ำใหญ่สองสายขนาบข้าง  มีกำแพงเมืองสูงใหญ่ล้อมรอบราชอาณาจักรซึ่งประกอบด้วยค่ายคูประตูหอรบและเชิงเทินอันแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ชื่อเสียงของเขาก็เลื่องลือระบือไปทั่ว สามารถปราบมอนสเตอร์ดุร้ายระดับบอสใหญ่ๆที่ยกพวกข้ามจากทวีปที่ไม่ได้ปลดล็อกมารังควาญชาวเมืองได้หลายต่อหลายตัว ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆยามถูกพวกมอนสเตอร์พวกนี้รุกรานมักต้องย้ายเมืองหนี ส่วนพวกที่สู้ก็ถูกกวาดล้างทำลายตายซ้ำตายซากจนกระทั่งหมดสิทธิ์เล่นเกมต่อ

แม้ว่าจะเริ่มต้นเล่นเกมอย่างเงียบๆ แต่ทว่าฝีมือและความสามารถไม่สามารถซุกซ่อนปกปิดไว้ได้

เมื่อนามของนักฆ่าหมายเลขแปดกลับมาโด่งดังอีกครั้ง บรรดาเกมเมอร์กล่าวขวัญสรรเสริญถึงเขาสนั่นโลกเกมออนไลน์ มีเพียงเสกเท่านั้นที่ไม่รู้เพราะไม่เคยมีโอกาสสัมผัสเกมเสมือนจริงแบบนี้ อีกทั้งต้องคร่ำเคร่งทำงานหนักกว่าเดิมโดยเฉพาะต้องทำ OT.หาเงินส่งส่งทางบ้านเนื่องจากแม่เขาป่วย จึงไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องที่เขาเห็นว่าไร้สาระและไม่ได้สร้างรายได้ใดๆให้นอกจากความสิ้นเปลืองอย่างเกมประเภทนี้

"หื้อ...นักฆ่าหมายเลขแปด ตัวละครสุดเจ๋งของเกม Loso..."

 "ใช่! กำลังฮอตสุดๆเลยนะเพ่..."

เด็กเนิร์ดคนหนึ่งเอ่ยบอกเสกที่ยืนพึมพำๆอยู่ตรงข้ามตึกที่ฉายภาพจอโปรเจ็คเตอร์

"ถ้าเป็นเขาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรเลยสักนิด...."





เมื่อได้ยินกิตติศัพท์ของนักฆ่าหมายเลขแปดที่กำลังโด่งดังอีกครั้ง เสกเดาได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของกฤชที่หวนกลับคืนวงการ  เพราะได้รู้ตัวตนเขาจากการที่ได้สนทนาในคืนนั้น และถ้า ID.นักฆ่าหมายเลขแปดในเกมรุ่นเก่าเป็นของเขาจริงๆอย่างที่กล่าวอ้าง เรื่องพิชิตเกมออนไลน์อันโด่งดังนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

เมื่อเกมมีผู้เล่นเก่งๆลงเล่นก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการกระจายความโด่งดังของเกม เพราะมันช่วยเพิ่มกระแสความสนใจจากบรรดาคอเกมเมอร์ทั้งหลายให้มาติดตามเกมนี้ด้วยการบอกต่อๆกันไปแบบปากต่อปาก เกมออนไลน์เกมนี้จึงโด่งดังอย่างไม่เคยมีเกมไหนทำได้มาก่อน โด่งดังถึงขนาดมีสถานีโทรทัศน์หลายช่องติดตามทำสกู๊ปพิเศษ  โดยมีตัวละครนักฆ่าหมายเลขแปดเป็นไฮไลท์ ในการนำเสนอ

'เป็นโฆษณาที่อาศัยกระแสแท้ๆ และมันก็ได้ผล ตอนนี้เกมซีซั่นสองมีคนจองคิวเล่นจนต้องเพิ่มจำนวนผู้เล่น'

เพราะผู้เล่นนาม 'นักฆ่าหมายเลขแปด' โด่งดังระดับซุปเปอร์สตาร์เป็นที่กล่าวขานภายในเกมและโจษขานมาถึงนอกเกม พลอยทำให้เกมออนไลน์ตัวนี้เป็นที่รู้จักและได้รับสนใจจนใครๆก็อยากลองเล่นและเจริญรอยตาม 'นักฆ่าหมายเลขแปด' ผู้โด่งดัง หลายคนอดใจรอไม่ได้ก็เรียกร้องให้เปิดเฟสใหม่ บริษัทเกมก็ฉลาดพอที่จะไม่รีบร้อนทำเวอร์ชั่นใหม่มาทับซ้อน แต่ผลิตเวอร์ชั่นแบบ 'มินิ' ออกมาให้คนที่ไม่ได้ร่วมเล่นเกมจริงซ้อมมือระหว่างรอไปก่อน นอกจากนั้นบรรดาสินค้าของที่ระลึกต่างๆเกี่ยวกับเกมขายดิบขายดีจนผลิตแทบไม่ทัน ทำให้บริษัทอื่นๆได้แต่มองตาปริบๆ ส่วนแบ่งทางการตลาดถูกกวาดไปถึง ๗๕% บริษัทอื่นๆจึงต้องเร่งหากลยุทธ์มาสู้ แต่ก็ไม่สามารถสู้ได้ ฝ่ายวิจัยและการตลาดทุกบริษัทต่างสรุปว่า ที่สู้ไม่ได้เป็นเพราะความผิดของผู้เล่นนามว่า 'นักฆ่าหมายเลขแปด'

'เฮ้อ...สรุปว่า ตัวผู้เล่นดังกว่าเกม ตกลงเกมนี้มันดังเพราะผู้เล่นจริงๆ'

เสกปิดเว็บไซด์วิจารณ์เกมออนไลน์ที่เจาะลึกปรากฏการณ์นี้ หลังจากที่นั่งอ่านระหว่างพักผ่อนอยู่ในโฮมแค็ปซูล

เสกพยายามคิดว่าการที่ไม่พบเจอกฤชในระยะหลังๆ เป็นเพราะเขาว่างเว้นการเข้าไปนั่งร้านกาแฟเสียหลายวันเนื่องจากว่าช่วงนั้นเขาต้องเขียดรายได้ส่วนหนึ่งส่งไปทางบ้าน จนกระทั่งต้นเดือนต่อมาเขาจึงมีเงินเหลือพอจะเข้าไปนั่งดื่มกาแฟในเย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน  และเขาก็คาดว่ากฤชน่าจะเข้ามาหลังจากนั้นไม่นาน แต่ก็ไร้เงาของกฤช  เขานั่งแช่ก้นรออย่างจดจ่อจนกระทั่งไม่สามารถจะระงับความอยากรู้เอาไว้ จึงตัดสินใจลุกจากเก้าอี้เดินไปถามพนักงานขายกาแฟที่กำลังง่วนกับงานอยู่หลังเคาน์เตอร์

"เอ่อ...ผู้ชายตัวอ้วนๆสวมแว่นตาหนาๆ ชอบคุยเสียงดัง เขาไม่มาหรือครับวันนี้"

เสกถามถึงกฤช พร้อมทั้งบรรยายรูปร่างหน้าตาเพื่อให้คนขายกาแฟนึกภาพขึ้นมาได้

"อ้อ...คุณกฤชหรือครับ...อื้อ..เขาหายหน้าไปหลายอาทิตย์แล้วนะครับ" คนขายกาแฟทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนพยายามนึกถึงภาพครั้งล่าสุดที่ได้เจอ "เขาเข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้ว ท่าทางเขามีความสุขมาก เข้ามาก็พูดถึงแต่เกมออนไลน์โลกเสมือนจริง คุยถึงสูตรเกมต่างๆ ไอ้ผมเองก็ไม่มีความรู้ด้านนี้  รู้จักแต่สูตรกาแฟ แล้วเขายังถามหาคุณด้วยนะ และเวลานั่งดื่มคนเดียวเขาก็คอยมองไปข้างนอกเหมือนรอใครบ้างคนอยู่ อาจจะเป็นคุณก็ได้ "

น้ำเสียงของคนขายกาแฟที่บอกกับเสกฟังดูปรกติ  แต่ตอนท้ายประโยคที่พูดนั้นนั้นปนเสียงหัวเราะราวกับพูดเรื่องที่ส่อความนัยต่อความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของทั้งสองไปในแง่อื่นๆ



ความรู้สึกผูกพันเล็กๆที่เกิดขึ้นในใจของเสกที่มีต่อกฤช เป็นมิตรภาพสุภาพบุรุษแบบเพื่อนที่มีไมตรีจิตต่อกัน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากต้นหญ้าสีเขียวเล็กๆที่แซมขึ้นท่ามกลางตึกระฟ้าในมหานครเท่าไหร่นัก  และมิตรภาพระหว่างทั้งสอง ก็เปรียบเสมือนเม็ดฝนที่หล่นลงมาบนพื้นคอนกรีตอันแห้งแล้ง แม้ว่ามันจะไม่สามารถนำมาซึ่งความชุ่มฉ่ำจนเจิ่งนอง แต่มันก็พอจะทำให้ได้กลิ่นไอฝนท่ามกลางป่าคอนกรีตอันแห้งแล้งนี้ได้ มันไม่ได้มีความหมายเป็นอย่างอื่นเลย และเป็นมิตรภาพที่หาได้ยากในสังคมยุคดิจิตอลที่เวลาเดินหน้าอย่างรวดเร็วไม่มีกลางคืนไม่มีกลางวันเด่นชัด ผู้คนแก่งแย่งแข่งขันช่วงชิงเอาเปรียบเอาไปไม่แบ่งปัน ท่ามกลางมหานครใหญ่มากมายผู้คนแทบจะเหยียบกันตาย แต่กลับเป็นเหมือนเมืองร้างเมื่อต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างไป ไม่มีใครรู้จักหรือเอ่ยทักทายกัน

เดือนนั้นเสกพยายามเจียดเงินแวะเวียนไปที่ร้านกาแฟแห่งนั้นอีกสองครั้ง แต่ก็ไม่พบเจอกฤชอีกตามเคย  เวลาเข้าไปนั่งในร้านทีไร เขามักจะกวาดสายตามองดูรอบๆ แต่ครั้นไปพบกับคนขายกาแฟที่อยู่หลังเคาน์เตอร์  ก็ทำให้อดที่จะคิดถึงเสียงหัวเราะอย่างขบขันของเขาเมื่อหลายวันก่อนขึ้นมาไม่ได้ แน่ล่ะ...มันเป็นเสียงหัวเราะที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์สนุกสนาน หยิ่งทระนง มั่นใจในตัวเองสูง พร้อมจะเป็นมิตรกับทุกคน แต่กลับไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือฟังเรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟัง เพราะมีแต่เรื่องเกมออนไลน์ การท่องเที่ยว และอวดรสนิยมโก้หรูที่คนในฐานะอย่างเขาสามารถหามาปรนเปรอชีวิตได้ จึงหาคนที่นั่งสนทนากับเขานานๆและเป็นผู้ที่รับฟังที่ดีอย่างเสกไม่ได้ และเสกก็ชอบจะฟังเรื่องราวที่เขาเล่าให้ฟัง มันเหมือนเป็นการเติมเต็มในส่วนของชีวิตที่ขาดหายไป เป็นภาพเปรียบเทียบที่แตกต่างราวสีดำกับสีขาว

เสกคิดว่า..ในเวลากฤชสร้างตัวตนในโลกเกมออนไลน์จนเป็นที่เลื่องลือ เขาอาจจะกำลังสนุกสนานอยู่ในโลกจำลองจนลืมโลกแห่งความเป็นจริง มีมิตรสหายในโลกออนไลน์ ได้ท่องเที่ยวผจญภัยไปในดินแดนแห่งจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด จนกระทั่งหลงลืมโลกแห่งความเป็นจริง หลงลืมมิตรสหายที่คบหาเพียงแค่ผ่านทางคนนี้ เขาไม่ผิดหรอกที่จะคิดอะไรอย่างนั้น และไม่ผิดที่มีทัศนคติในการใช้ชีวิตอย่างนั้น เมื่อชีวิตมันเป็นของเขา ชีวิตของใครก็ใช้กันไปตามสิทธิและสถานะ

วันคืนในชีวิตของเสกผ่านไปตามปกติ การที่คนด้อยโอกาสอย่างเขามาดำรงอยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้ชีวิตของเขาเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเล็กน้อยราวกับผงธุลี หรือไม่ก็แค่โมเลกุลหรืออะตอมเล็กๆตัวหนึ่ง ที่ไม่สามารถจะมองเห็นด้วยตาเปล่า และลมหายใจเข้า-ออกที่ไม่สม่ำเสมอ ก็ไม่แตกต่างจากแรงขับอันเหนื่อยล้า ให้เดินทางผ่านวันเวลารอไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิต รอเวลาปลดปลงเมื่อความตายมาถึงเท่านั้น

'คนเราทุกคนเป็นเพียงผู้มาอาศัยอยู่บนโลก สุดท้ายก็ต้องจากไปไม่มีใครค้ำฟ้า แต่ก่อนจะจากไปจะทิ้งสิ่งใดไว้ให้คนบนโลกนี้จดจำ ว่าครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้มีคนอย่างเราอาศัยอยู่ด้วย'

คำคมของกฤชยังคงดังก้องอยู่ในสมองของเสก เขามองแก้วกาแฟควันกรุ่นๆตรงหน้า แล้วยกดื่มทีเดียวหมด

'คนที่ประสบความสำเร็จก็พูดได้เต็มปากและเสียงดังทุกคน แต่คนที่ยังเวียนว่ายอยู่กับความล้มเหลว จะเอาปากเสียงที่ไหนไปพูดได้เล่า'

เสกรำพึงกับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากร้านไป กลับไปซุกหัวนอนในสถานที่เสื่อมโทรมเดิมๆดั่งเช่นทุกวัน

เช้าวันนี้เสกถึงที่ทำงานล่าช้ากว่าปกติเล็กน้อย  เนื่องจากระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุยานบินชนกันขาวเส้นทางรถไฟลอยฟ้า หลังจากใช้บัตรพนักงานสอดเข้าไปในเครื่องบันทึกประจำวันแล้วเขาก็เดินผ่านหุ่นยนต์รักษาการณ์ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูใหญ่ ไม่ได้ใส่ใจฟังคำทักทายที่ถูกโปรแกรมไว้ เขาก้าวขึ้นยืนบนลิฟต์ทางเลื่อนเพื่อไปยังแผนกงานของตนทันที

วันนี้มันก็เหมือนกันวันอื่นๆที่จำเจซ้ำซาก เสกทำงานอย่างซังกะตาย อาจจะเป็นเพราะความน่าเบื่อหน่ายมันสั่งสมมาเนิ่นนานแล้ว เหมือนสนิมที่จับเขรอะจนยากที่จะเคาะออก ความรู้สึกของเขาจึงด้านชา  และกลมกลืนไปกับความซ้ำซากจำเจจนแทบไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกแล้ว เขารู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนคนงานค่าแรงต่ำหน้าเดิมๆ, กองขยะหุ่นยนต์สารพัดแบบสารพัดรุ่น,ขยะชิ้นส่วนอเลกโทรนิค,รถขนถ่ายขยะที่วิ่งเข้า-ออกไม่หยุด, หรือแม้กระทั่งอาหารมื้อกลางวันที่โรงงานจัดให้ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของเดิมๆทั้งสิ้น

'ชีวิตของเรามันจะไร้สีสัน จืดชืดไปอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่หนา.....'

เสกขึ้นลิฟต์ทางรางเลื่อนจากประตูใหญ่ของโรงงานมาลงที่แผนกงาน 'คัดแยกชิ้นส่วนหุ่นยนต์และชิ้นส่วนอิเลกโทรนิค' ซึ่งที่นี่ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปจากวันก่อนๆ ทุกอย่างที่ปรากฏก็ต่อหน้าคือภาพที่คุ้นตา  โดยเฉพาะชิ้นส่วนของหุ่นยนต์นั้น มันเป็นขยะชิ้นส่วนคล้ายมนุษย์รูปแบบต่างๆที่กองเป็นพะเนินราวกับภูเขา โดยทุกชิ้นส่วนจะถูกคัดแยกออกเป็นแต่ละประเภท นับตั้งแต่สมองกลไมโครชิพที่บรรจุข้อมูลมหาศาล รวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะของหุ่นยนต์ประเภทต่างๆที่ชำรุดจนใช้งานไม่ได้แล้ว แต่ละตัวกองสุมกันจนท่วมหัว โดยเฉพาะหุ่นยนต์รับใช้สารพัดรุ่นราคาถูก ที่นิยมซื้อใช้กันจำนวนมากตามบ้านเรือน เมื่อเสื่อมสภาพก็ถูกทอดทิ้งและนำมาที่นี่เพื่อรอการคัดแยกประเภท ก่อนจะนำไปส่งโรงงานผลิตวัสดุรีไซเคิลอีกทอดหนึ่ง

เสกมองดูเพื่อนๆคนงานค่าแรงต่ำที่โรงงานแห่งนี้  ทุกคนล้วนแล้วคือเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันทั้งสิ้น แต่ถึงอย่างไร คนงานอย่างพวกเขาก็ยังดีกว่าคนเร่ร่อนจรจัด ที่กลายเป็นสวะที่มีลมหายใจและถูกทิ้งขว้างอยู่ตามริมถนนหนทาง เพราะอย่างน้อยๆสวัสดิการที่รัฐบาลกลางหยิบยื่นให้นั้น มันก็พอจะช่วยยืดอายุและต่อลมหายใจให้ยืดยาวได้บ้าง แม้ว่ามันจะต่ำต้อยน้อยค่าในสายตาชนชั้นอื่นๆก็ตาม

บ่ายวันนั้นเสกไม่ได้คัดแยกชิ้นส่วนหุ่นยนต์ เพราะมีคนงานมากพอแล้ว เขาจึงถูกให้เข้ามาคัดแยกชิ้นส่วนมนุษย์ ซึ่งเป็นล็อคหนึ่งในอาคารที่อยู่ใกล้เคียงกัน และถือเป็นแผนกเดียวกันด้วย โดยตลอดการทำงานทั้งวันนั้น ทุกครั้งที่ผมหยิบชิ้นส่วนตกแต่งมนุษย์จำพวกไมโครชิพสมอง และอะไหล่อื่นๆแยกใส่ถุงแล้วบันทึกรหัสหมายเลขที่ประทับบนชิ้นส่วนเอาไว้อย่างละเอียด โดยเฉพาะชิพสมองกลของหุ่นยนต์ที่สามารถบรรจุข้อมูลได้มากมาย เสกต้องป้อนข้อมูลที่ถูกต้องเข้าเครื่องเก็บข้อมูลอย่างละเอียดก่อนนำไปบดทำลาย เพื่อป้องกันการลักลอบนำไปขายต่อพวกผลิตชิพเถื่อนและพ่อค้าในตลาดมืดนำเอาชิพเก่ามาย้อมแมวแล้วนำออกมาจำหน่ายอย่างผิดกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง มีพนักงานหลายคนหาเงินแบบนี้ เมื่อถูกจับได้ก็ต้องย้ายนิวาสถานไปทำงานหนักอยู่ในคุก ซึ่งต้องลำบากหนักกว่าทำงานอยู่ในโรงงานแห่งนี้หลายสิบเท่า

ทุกชีวิตล้วนปรารถนาความสุขสบาย เสกอดคิดไม่ได้ว่าคนต้อยต่ำอย่างเขา ถ้าวันหนึ่งเกิดมีวาสนาได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองมากมายจับจ่ายใช้สอย เขาจะมีความสุขขนาดไหนกันหนา

เขาอยากจะชื้อเจ้าเครื่องแค็ปซูล VIP. เข้าไปเล่นเกมออนไลน์ เคียงข้างผจญภัยไปกับกฤช ชีวิตน่าจะมีความสุขทั้งโลกจริงและโลกจำลอง แต่กว่าจะมีวันนั้น คงต้องเป็นวันที่เขาตายแล้วไปเกิดใหม่อีกทีแน่ๆ

เมื่อเอ่ยถึงความตายของคนในมหานครที่เจริญและสับสนวุ่นวายแห่งนี้ มันก็มีการตลาดที่แข่งขันไม่ต่างจากเกมออนไลน์หรือธุรกิจอื่นๆสักเท่าไหร่ ความตายของคนทั่วๆไปสำหรับนักธุรกิจที่หากินทางด้านนี้ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่มันกลายเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟู  สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปี และเป็นธุรกิจที่เย้ายวนใจ มีการแข่งขันกันอย่างร้อนแรง และทำให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ต่างก็กระโจนเข้าใส่ ราวกับคนหิวโซที่เห็นอาหารอันโอชะกองอยู่ข้างหน้า

ธุรกิจความตายมีอยู่อย่างดาษดื่นในมหานคร โดยมันเกิดขึ้นมาเคียงคู่กับธุรกิจบันเทิงต่างๆ บนป้ายโฆษณาน้อยใหญ่ตามริมถนนหนทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนใหญ่หรือตามซอกซอย  จะต้องปรากฏข้อความโฆษณาให้เห็นทั่วทุกหนแห่ง

'รับบริการจัดงานศพ ราคาย่อมเยา แต่สมเกียรติของผู้ตายที่สุด'

'ดูแลศพอย่างหรูหราสง่างาม เพื่อความสุขของดวงวิญญาณคนที่ท่านรักซึ่งจากไป...ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น'

'รับออกแบบจัดงานศพทุกทิศทั่วไทย ด้วยทีมงานมืออาชีพ มีดีไซน์ให้เลือกทุกราคาและทุกระดับประทับใจ'

'ถ้าคุณคิดว่าคนตายคือคนที่คุณรักที่สุด...โปรดไว้วางใจบริษัทสู่สุขติจำกัดจัดงานศพให้ ด้วยประสบการณ์จัดงานศพระดับโลก รางวัลโลงจำปาอวอร์ด ๒ ปีซ้อนเป็นประกัน'

'รีบจองด่วน! ลดราคาพิธีจัดงานศพในช่วงหลังสงกรานต์ ๗ วันครึ่งราคา โทรหาเราที่ ๐๐๗ – ๒๒๖๔๘๒ – ๐๕'

'เพื่อวาระสุดท้ายอันน่าจดจำสำหรับคนในครอบครัวที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ...เชื่อมือบริษัทเราเท่านั้น สั่งจองจัดพิธีวันนี้ลด ๑๐ % แถมฟรีวงดุริยางค์บรรเลงในงานและสัปเหร่อดูแลขั้นตอนการเผามืออาชีพระดับสากล'


นั้นคือคำโฆษณาการค้าขายเกี่ยวกับความตายที่เห็นทั่วๆไปในป้ายโฆษณาทุกหัวมุมเมือง ต่างฝ่ายต่างก็ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจมาหลอกล่อใจให้มีผู้มาใช้บริการเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด มันเป็นธุรกิจบนซากศพที่มีการแข่งขันกันอย่างร้อนแรง ต่างมองเห็นความตายเป็นเงินตรา มิได้มองเป็นความโศกเศร้าหรือการพลัดพรากที่น่ากลัวแต่อย่างใดเลย
ทุกๆอย่างในยุคนี้ล้วนเป็นธุรกิจตั้งแต่เกิดยันตาย เมื่อมีเงินก็สามารถเลือกได้เสมอ ขึ้นอยู่กับเจ้าภาพงานจะต้องการบรรยากาศงานศพแบบไหน  และสนมราคาถูกแพงระดับใด

สมบัติกองอยู่สองข้างทาง แล้วแต่ใครจะรู้จักหยิบฉวยเอามา แต่ว่าเสกไม่ได้มีความรู้ในธุรกิจ เขาถูกสถานศึกษาเพาะบ่มให้ท่องจำมา และใช้ชีวิตวัยรุ่นตามที่ผู้ใหญ่ในประเทศนี้กำหนดขีดเส้นให้เดิน หลังจากเรียนจบด้วยผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถูกเขี่ยทิ้งมาเป็นประชากรชั้นต่ำทำงานในโรงงานอย่างทุกวันนี้

'เมื่อโอกาสไม่มาหา เราก็ต้องสร้างโอกาส...แล้วคนอย่างเราจะไปหาโอกาสมีชื่อเสียงมาจากไหนได้'

เสกทำงานคัดแยกขยะไป บ่นกับตัวเองไปอย่างมืดหม่นหนทาง ที่จะยกระดับชีวิตให้ดีกว่าทุกวันนี้





'เสก มีสาวๆมาถามหาแก รออยู่หน้าโรงงานตรงประตูฝั่ง ดี ๑๒ โน่นแน๊ะ สวยซะด้วย...'

เพื่อนร่วมงานเอ่ยบอกเสกขณะกำลังรูดบัตรเลิกงาน ด้วยความที่เครื่องมันเก่าแก่เต็มทนเวลาแตะนิ้วโป้งแสดงลายมือและแผ่นชิปที่ฝังไว้ เกิดอาการรวนจนต้องกระแทกนิ้วใส่แรงๆ และประโยคที่เพื่อนคนงานมาบอกทำเอาเสกต้องขมวดคิ้ว ยิ่งเสียงหัวเราะส่งท้ายคล้ายกำลังมาล้อเล่นมากกว่า ทำเอาเขามองเพื่อนเคืองๆเนื่องจากเขาไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษมาก่อน เนื่องจากรู้ตัวดีว่ายังไม่พร้อมจะมีครอบครัว

"รีบๆกลับบ้านไปเถอะน่า มันไม่ตลกหรอก"

"เฮ้ย! เรื่องจริงนะเว้ย มีผู้หญิงมาถามหาแกจริงๆ ฉันเองยังแปลกใจเลย ที่แกรู้จักผู้หญิงสวยๆแบบนั้นด้วย"

"ยังเล่นไม่เลิกนะ...."

"แกลองเดินไปดูก่อน ถ้าไม่จริงฉันจะนอนให้แกเหยียบเลย"

ฟังจากน้ำเสียงที่ปรับเป็นจริงจัง เสกจึงตัดสินใจจะลองเดินไปดูยังจุดที่บอกและยังคาดโทษเพื่อนร่วมงานไว้ว่า ถ้าหากโกหกเขาจะกลับมาไล่เหยียบให้จมกองขยะหุ่นยนต์ทีเดียว เสกเดินมายังหน้าประตูก็ได้เจอหญิงสาวสะสวยยืนรออยู่ ร่างของเธอสูงโปร่ง สัดส่วนยวนตาน่าดู ใบหน้าเรียวสวย ผมยาวสลวยทิ้งตัวมาถึงเอวคอด ปากคอ คิ้วคาง รับกันอย่างเหมาะเจาะ แต่งเติมเครื่องสำอางบางๆ ร่างนั้นอยู่ในชุดเสื้อต่อกระโปรงยาวแค่เข่าอันเป็นแฟชั่นร่วมสมัย อวดผิวพรรณขาวผ่องผุดจนแสบตา เมื่อเห็นเสกเธอก็ขยับเท้าเดินเข้ามาหาด้วยกิริยานุ่มนวล

"สวัสดีค่ะ คุณเสกใช่มั๊ยคะ...." หญิงสาวเอ่ยทักทายพร้อมโค้งศีรษะให้เล็กน้อย

"ง่า..ใช่ครับ สวัสดีครับ..คุณคือ...." เสกตะลึงลานเอ่ยรับคำทักทายด้วยอาการประหม่า เนื่องจากในชีวิตไม่เคยพูดคุยกับผู้หญิงระดับนี้ในระยะประชิดขนาดนี้มาก่อน

"ดิฉันชื่อมินตรา เป็นเพื่อนสนิทของคุณกฤชค่ะ" หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงหวานๆรื่นหู

พอหญิงสาวแนะนำตัวและเอ่ยถึงกฤชเพื่อนร่วมโต๊ะกาแฟที่หายตัวไป คิ้วของเสกขมวดทันที "คุณเป็นเพื่อนคุณกฤช แล้วคุณกฤชอยู่ที่ไหนครับ แล้วเขามากับคุณหรือเปล่า?" เสกเอ่ยถามเป็นชุด "แล้วเขาหายไปไหน ผมไม่ได้เจอเขามาเป็นเดือน"

"คุณกฤชไม่ได้มาด้วยหรอกค่ะ ตอนนี้เขากำลังป่วยหนักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ระหว่างที่อาการทรงๆทรุดๆพอมีสติเขาเอ่ยถึงแต่คุณ และวานดิฉันให้มาบอกข่าว และบอกว่า...ถ้าหากคุณพอมีเวลาว่างก็อยากเชิญให้ไปเยี่ยมบ้าง คือ..คุณกฤชเขาไม่ค่อยมีเพื่อนค่ะ"

"หา!? คุณกฤชป่วยหนัก" เสกอุทานหน้าตาซีดสลดลงด้วยความเป็นห่วง "มิน่าหล่ะ...เขาถึงหายไปเลย ไม่เห็นที่ร้านกาแฟมาเป็นเดือนแล้ว ตอนนี้เขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไหนครับ?"

หญิงสาวฟังที่เสกพูดแล้วสีหน้าหวานสวยหม่นหมองและกลายเป็นเศร้าลงไปในทันที

"อยู่ที่โรงพยาบาลเมโมเลี่ยนสีลมค่ะ รักษาตัวอยู่ในห้อง I.C.U.มาได้หนึ่งเดือนแล้ว"

"โห้...อาการหนักขนาดนั้นเชียวหรือครับ" เสกฟังแล้วอดสะท้อนใจในโชคร้ายของเพื่อนร่วมโต๊ะกาแฟไม่ได้

หญิงสาวห่อไหล่กระตุกมีอาการสะอื้น เธอยกมือปาดน้ำตา "พี่กฤชประสบอุบัติเหตุ ถูกไฟฟ้าของประตูอัตโนมัติดูดระหว่างใช้คีร์การ์ดรูดจะเข้าไปในโฮมแค็ปซูลในวันที่ฝนตกหนัก กระแสไฟฟ้าแรงมากมันทำให้ระบบเส้นเอ็นและอวัยวะภายในร่างกายเสียหาย สูญเสียภาวการณ์ควบคุมร่างกาย เรียกง่ายๆเป็นอัมพาตทั้งตัว ต้องนอนในแท่นเหล็กพิเศษเพื่อรักษาอาการ และระหว่างนั้นก็ดูคุณกฤชทรมานมาก นอนกระตุกเฮือกๆ พูดจาลิ้นพันกัน เสียงแหบพร่า ฮะ..ฮื่อๆ... "

"ผะ..ผมเสียใจด้วยนะครับ" เสกรู้สึกจุกในอก ลำคอแหบแห้งเมื่อรู้ถึงอาการเจ็บป่วยอันทรมาน

หญิงสาวหยุดสะอื้นท่าทางจะฝืนข่มความเสียใจเอาไว้ เสกเดาได้ว่าหญิงสาวสวยคนนี้น่าจะเป็นคนพิเศษของกฤช จึงได้บากหน้าเดินทางมาเขาเพื่อแจ้งข่าว เธอเช็ดน้ำตาแห่งความเสียใจและตั้งสติพูดกับเขาต่อว่า "เมื่อตอนคุณกฤชพูดได้ปรกติเมื่อวาน เขาเอ่ยถึงคุณและบอกกับดิฉันว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สามารถวางใจได้ เขาวานให้ดิฉันมาหาคุณและเชิญให้ไปพบเพื่อจะขอความช่วยเหลือบางอย่างจากคุณ "

"ขอความช่วยเหลือจากผมเนี่ยนะ คุณกฤชจะขอความช่วยเหลือจากคนอย่างผมเนี่ยนะ"เสกได้ฟังแล้วอดสงสัยไม่ได้ 'เราเป็นแค่คนงานคัดแยกขยะไม่ใช่หมอ..จะไปช่วยอะไรได้ ขนาดเจ็บป่วยเองยังต้องไปสุขศาลาใช้สวัสดิการคนงาน หรือว่าป่วยหนักจนอยากจะเจอเขา....เพื่อ....ไม่น่า...เขาไม่น่าเป็นคนอายุสั้นหรอก....' เสกพึมพำกับตัวเองและห้ามความคิดอันเป็นอัปมงคลในหัวสมองทันที

"คุณกฤชคงจะอยากพบคุณจริงๆ ถึงพยายามเอ่ยปาก เอ่อ... ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไป ขอร้องให้ไปพบคุณกฤชด้วยเถอะนะคะ ดิฉันจะพาคุณไปเองค่ะ"หญิงสาวก้มศีรษะลงต่ำเป็นลักษณะการขอร้องจากหัวใจ

 "ครับๆ คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก ผมไม่ใช่คนมีเกียรติอะไรขนาดนั้น ถึงคุณจะไม่พาผมไป แต่เมื่อผมรู้ข่าวว่าเขาไม่สบายหนักขนาดนี้ ยังไงๆผมก็ต้องไปเยี่ยมเขาอยู่แล้ว" เสกรีบห้ามหญิงสาวที่ก้มศีรษะประหงกๆขอร้องเขา

"ขอบพระคุณมากค่ะ" หญิงสาวยิ้มด้วยใบหน้าหมองเศร้าอย่างยินดี

เมื่อทราบข่าวร้ายของเพื่อนร่วมโต๊ะกาแฟและรู

arkira

ขอบคุณมากครับ เห็นผ่านตามาตั้งนานเพิ่งได้อ่าน สนุกมากครับ

ksatan

ขอบคุณมากครับที่สร้างสรรค์จินตนาการออกมาได้สุดยอด  อ่านแล้วสนุกมาก เหมือนได้เข้าไปร่วมผจญภัยด้วยครับ

bunrikung

ขอบคุณนะครับ ตัวละครจะโล๊ดแล่นไปในทิศทางที่เปลี่ยนแปลงชีวิตแล้วสินะครับ ขอบคุณนะครับ

tamagot123


ธนพล ลวสินอาภรณ์

เกมออนไลน์สเมือนจริงมันต้องมีฟังชั่นแบบนี้แหละครับถึงจพสมจริง

iamtheds


tkatlek

ช่วงนี้ชีวิตต้องการแนวโลกอนาคตผลงานท่านนีโอรายละเอียดค่อนข้างมากขออภัยบางทีบางช่วงผมอ่านข้ามไปบ้างเพราะความรีบร้อนอยากเจอบทสรุปแต่ก็จะกลับมาเก็บรายละเอียดอีกที

kitti kuebphimai

ผมอยากจะแต่งนิยายให้ได้แบบนี้บ้าง แต่เขียนไปเขียนมาแค่วรรคแรกของเรื่องยังลบแล้วลบอีก สุดท้ายบทแรกของเรื่องยังไม่มีเลย 555 นิยายสนุกครับ ผมจะติดตามอ่านจนจบให้ได้เลย

golfja2526

นานๆได้กลับมาอ่านอีกครั้ง ยังสนุกสนานน่าติดตามเหมือนเคย
ลายละเอียดจินตนาการได้สุดยอดจริงๆ

armfine


aey3699

มิตรภาพมีจริง ไม่ว่าจะยากดีมีจน คนเราก็เท่านี้ โชคดีที่ยังมีเพื่อน