ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หลง #15 by daona

เริ่มโดย tamanสี่, มิถุนายน 17, 2016, 10:07:40 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

tamanสี่

หลง #15
daona Posted: Jan 30 2006, 01:19 PM   



เมื่อชาคริตอ่านจดหมายจากทางบ้านจบ เขาก็อดยิ้มไม่ได้ เขาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะพับและสอดใส่ลงในกระเป๋ากางเกงเตือนตัวเองว่าต้องกลับไปบ้านในครั้งนี้ เขายกมือขึ้นเสยผม
แป๊น แป๊น ...
เสียงแตรรถดังกังวานขึ้นทางเบื้องซ้ายมือ ปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากภวังค์เข้าสู่สภาวะปัจจุบัน รถสปอร์ตคันหนึ่งเทียบเข้ามาใกล้ แพมลูกพี่ลูกน้องของเขาอยู่เบื้องหลังพวงมาลัย อยู่ในชุดเทนนิสสีขาว มีผ้าคาดสีขาวทาบอยู่กับเรือนผม เสริมใบหน้ารูปใข่ให้ดูเด่นสะดุดตาขึ้น เลือดร้อนๆ ฉีดซ่านไปทั่วเรือนกาย ขณะที่ชาคริตเดินตรงเข้ามาหา
"กระโดดขึ้นมาเลย" เธอบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้า
ชาคริตเลื่อนตัวเข้ามประตูเข้าไปนั่งเคียงข้างเธอในรถคันนั้นด้วยท่าทางของนักกรีฑา และแล้ว รถสปอร์ทก็เคลื่อนออกจากแนวทางโค้งเข้าสู่แนวถนนในบริเวณมหาวิทยาลัย ชาคริตพินิจเสี้ยวหน้าด้านข้างอันสมบูรณ์แบบของเธอ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
"รู้สึกกำลังใจลอยเชียวนะ ตอนที่พี่ขับรถเข้าไปใกล้น่ะ" คำพูดของแพมเหมือนจะเหน็บแนมกับการที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นเธอมาก่อน จนเมื่อเธอกดแตรเรียกขึ้น
"คือผมกำลังคิดอยู่ว่าสมควรจะตัดผมได้แล้วหรือยังเท่านั้นละ"
แพมปรายตามองดูเรือนผมสีดำของเขาซึ่งบัดนี้ลูกสายลมเป่าจนออกจะยุ่งเหยิง
"เอ๊ะ แต่พี่ว่ายาวขนาดนี้มันก็เข้าท่าดีนี่"
ชาคริตกำลังหมกมุ่นอยู่กับความสั้นของขอบกางเกง และท่อนขาที่เพรียวงามของเธออยู่
"วันนี้มีนัดเล่นเทนนิสหรือ" ชาคริตลองเดา ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นความสดชื่นในเรือนกายเธออยู่
"เป้กับพี่จะลงเล่นคู่ชายหญิงตอน 4 โมงเย็น" แพมตอบความเป็นตัวเองแฝงอยู่ในน้ำเสียง "แล้วโจ้ล่ะ จะไปไหน ห้องสมุดหรือว่าจะกลับบ้าน"
"ห้องสมุดครับ" ชาคริตขยับสมุดบันทึกที่วางอยู่บนตัก สายตาเพ่งมองไปข้างหน้ามิได้แสดงปฏิกิริยากับการยอมรับว่า แพมมีนัดเล่นเทนนิสแล้ว...กับผู้ชายคนอื่น
"ดีเลย....พี่กำลังจะไปยืมหนังสืออยู่พอดี" แพมเอ่ยเบาๆ ก่อนจะถามต่อ "รถไปไหน"
"เช็คสี่หมื่นกิโลอยู่ครับ" เขาตอบเรียบๆ

ชาคริตแอบหลงรักลูกพี่ลูกน้องแสนสวยคนนี้มานานแล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ได้เป็นไปในแบบที่เขาคิด ตั้งแต่ที่ชาคริตเริ่มรู้จักความรัก เขาก็เห็นพี่แพมมีแฟนมาแล้วหลายๆคน เธอนัดพบกับผู้ชายไปเรื่อยๆ เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้ากัน จนกระทั่งเธอก้าวเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยิ่งมีชื่อเสียงขจรขจายมากขึ้น การนัดหมายกับเธอก็คือรางวัลอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกผู้ชายที่จะโอ้อวดกันมากขึ้น ชาคริตได้แต่ถอนตัวดูอยู่ห่างๆ เพราะนับคู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าไม่หวาดไม่ไหว บางคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเลย ซึ่งเป็นประเภทที่มีจุดหมายแอบแฝงในตัวสาวงาม ต่อเมื่อเธอหันมาคบกับอาจารย์ธวัชชัย ก็ทำให้พวกเด็กนักศึกษาต้องถอนตัวออกไป ชาคริตสังเกตเห็นแพมดูจะมีความรักจริงจังมากขึ้น จวบจนกระทั่งมาเกิดเรื่องตบตีขึ้น ทำให้เขาแอบมีความหวังเล็กๆว่าจะกลับมาทีให้สาวสวยคนนี้มาไยดีด้วย

รถจอดลงที่มุมที่ว่างอยู่ใต้ต้นไม้ด้านหลังห้องสมุดมหาวิทยาลัยซึ่งขณะนี้ว่างเปล่าปราศจากผู้คน และแทนที่ชาคริตจะเอื้อมไปเปิดประตูรถ ชาคริตก็หันมาหาทางนักศึกษาสาวรุ่นพี่อีกครั้ง
"ผมรู้ข่าวเรื่องพี่แพมกับน้องแนนแล้ว ผมเสียใจด้วย"
แพมหันมามองหน้าเขา หน้าแดงนิดๆเมื่อคิดว่าเขาคงจะนึกภาพเธอเปลื้องผ้าตบกับสาวแนน
"อ้อ เรื่องนั้นหรือ อย่าไปพูดถึงเลยพี่ลืมไปหมดแล้ว... ลงรถเถอะ" สาวสวยเอ่ย
"อย่าเพิ่งครับ ผมยังอยากจะคุยกับพี่"
แพมทำหน้าสงสัย
"มีอะไรหรือ"
"เรื่องของอาจารย์ธวัชชัยน่ะ ผมรู้ว่าพี่แพมคงจะเสียใจมาก"
เมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบเขาจึงเอ่ยต่อ
"อาจารย์ธวัชชัยไม่ควรทำกับพี่อย่างนี้ ผมโกรธแทนพี่จริงๆ.."
"ขอบใจนะโจ้ แต่เธอไม่ต้องมาเสียใจแทนพี่หรอก บอกตามตรงว่าตอนแรกพี่ก็เสียใจมากที่อาจารย์ธวัชชัยไม่ได้เป็นอย่างที่พิ่คิด แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว และพี่ก็ตัดสินแล้วด้วย" หญิงสาวตอบ
"ตัดสินใจอะไรหรือครับ" ชาคริตถามด้วยความแปลกใจ เขาจ้องมองดวงตาของแพมเพื่อค้นหาความในใจที่แท้จริงของสาวสวย แต่ก็ไม่พบวี่แววแห่งความเสียใจ
"พี่ก็สนุกสนานกับชีวิตไปเรื่อยๆน่ะซิ" มันเป็นคำตอบที่เธอใช้มาอย่างชาชิน
ชาคริตหัวเราะเจื่อนๆ ตอนแรกเขาคาดว่าเธอคงจะเสียใจอย่างมากมายแต่ผิดถนัด สาวแพมดูจะเป็นผู้หญิงที่แกร่งและมั่นใจในตัวเองมากกว่าที่เขาคิด
"พี่ไม่ได้รักอาจารย์ธวัชชัยหรือ" เขาอดไม่ได้ที่จะต้องถาม
"เคยรัก" เธอตอบแล้วเปล่งเสียงหัวเราะสดใสกังวานราวกับเสียงดนตรี "แต่เมื่อเขาไม่ซื่อตรงต่อพี่ก็จบเกมส์ พี่อาจจะเสียใจบ้าง แต่จะให้จมอยู่ในความทุกข์สามวันห้าวันละก็คงไม่ใช่พี่แน่ๆ"
แพมตอบพลางเปิดประตูรถก้าวลงมา ชาคริตรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
"ไปห้องสมุดกันดีกว่า อย่าเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระนี้เลย" สาวสวยเอ่ย
แต่เมื่อเธอทำท่าจะหันเดินจากไป อ้อมแขนของชาคริตก็ตระหวัดร่างบางๆของแพมเข้ามาแนบตัว ประทับริมฝีปากลงด้วยจุมพิตอันหนักหน่วง หญิงสาวเอนหน้าหลบทำให้ลำตัวและสะโพกแนบเข้าหาท่อนขาส่วนกลางของเขา
แรงแห่งความใคร่ที่ถูกเก็บกดมานานทำให้ชาคริตไม่แยแสกับแรงผลักของฝ่ามือเล็กๆคู่นั้น มีแต่ความละมุนละไมจากเนินทรวงกลมกลึงที่ถูกรั้งเข้ามาหาแผ่นอกของเขา ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้อย่างล้นเหลือ ความหวานปานน้ำผึ้งจากริมฝีปากของแพมทำให้เขาไม่อาจตัดใจถอนจากริมฝีปากของเธอได้
ชาคริตรู้ว่าเขากำลังล่วงเกินลูกพี่ลูกน้องคนสวยมากเกินกว่าที่หญิงสาวจะตั้งตัวได้ แต่เขามั่นใจว่ารสจูบของเขาจะทำให้สาวสวยปรารถนาในสิ่งเดียวกันกับเขาได้ ในที่สุดอุ้งมือของเขาก็แระชับเกาะกุมอยู่ที่แก้มก้นของนักศึกษาสาว ทรวงอกอวบหยุ่นของเธอแนบอยู่กับแผงอกของเขา เน้นริมฝีปากอยู่กับติ่งหู และซอนไซร้อยู่กับความละมุนของช่วงลำคอ ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงเสียงทักท้วงของเธออยู่ในลำคอ
ฝ่ามือของเธอยกขึ้นปิดปากเพื่อผลักใบหน้าที่โน้มลงจุมพิตให้ห่างออกไป ชาคริตเอื้อมมือขึ้นปลดลงอย่างหงุดหงิด แพมแหงนหน้าจ้องมองดูญาติผู้น้องของเธออย่างเดือดดาล แววตาของเธอคมเข้มและแฝงแววเด็ดเดี่ยวอย่างแปลกประหลาด
"พี่เห็นแก่ที่เธอเป็นญาติผู้น้องจะไม่เอาเรื่อง แต่เธอต้องเลิกทำในสิ่งที่กำลังจะทำอยู่นี่ก่อนที่จะถลำไปไกลกว่านี้" สาวสวยพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด
"พี่แพม" เขาร้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ผมรักพี่นะ"
แต่แพมไม่ยอมใจอ่อนด้วย
"พี่ไม่ได้ให้เธอติดรถมา เพื่อจะให้ตัวเองถูกข่มขืนแน่" ฝ่ามือของเธอยันอกเขาไว้ สกัดกั้นไม่ให้เข้าใกล้

ชาคริตผงะ สติกลับมาอยู่กับตัว แพมทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนกับเป็นสัตว์ที่ร่านราคะ พร้อมที่จะบดขยี้เธอด้วยสันดานดิบ เขาโกรธตัวเองที่ยอมให้อารมณ์เช่นนั้นเข้าครอบงำจิตใจ
"ผมขอโทษ" เขาปล่อยมือจากเธอ ยกขึ้นลูบต้นคอ "พี่พูดถูก ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนี้เลย"
"โจ้" เธอเอื้อมมือมาแตะแขนเบาๆ ความอ่อนโยนในน้ำเสียง กลิ่นกรุ่นจากเรือนผมเกือบจะทำให้เขาครางออกมาดังๆ
"พี่ไม่ได้โกรธโจ้หรอกนะ ถ้าพูดกันจริงๆละก็" แววขำขันเจืออยู่ในน้ำเสียง "พี่เพียงแต่อาจจะเสียใจเท่านั้น พี่รู้ว่าผู้ชายทุกคนเป็นยังไงเมื่ออยู่ใกล้ๆพี่ มันไม่ใช่ความผิดของโจ้หรอก"
คำพูดของเธอยิ่งทำให้เขานึกด่าตัวเองอยู่ในใจ เมื่อเบือนหน้ากลับมามองเธอ ชาคริตก็อดที่จะหวั่นไหวกับความงามอันเหลือเชื่อของแพมไม่ได้ ความถวิลหาอาวรณ์ที่ซ่อนอยู่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนกาย ยามนี้เป็นความรู้สึกสแยงใจโดยแท้
"ไปกันเถอะ" เธอหันมาพยักเพยิดบอกเขา
"พี่แพมไปก่อนเถอะครับ ผมขออยู่คนเดียวครู่หนึ่ง"
"งั้นก็ได้ อย่าคิดมากล่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะว่าเธอแรงไป"
แพมส่งยี้มให้ก่อนจะหันหลังเดิน ฉับ ฉับ ออกไป
..............................................
"ถึงกับตาค้างเลยหรือเพื่อน"
ชาคริตสะดุ้ง เมื่อมีมือมาตบบ่าของเขา
"อ้าว ไอ้จิ" เขาอุทานเมื่อเห็นว่าคนตบบ่าเขาเป็นใคร
"เธอสวยสุดยอดเลยใช่ไหม" จิรพนธ์ถาม
"พี่แพมเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด" เขาตอบเบาๆ
"ขนาดนั้นเลยหรือวะ แล้วทำไมอาจารย์ธวัชชัยถึงปล่อยให้หลุดมือได้เล่า"
ชาคริตรู้สึกไม่ชอบในน้ำเสียงของเพื่อน จึงหันหลังทำท่าจะเดินหนีไป แต่จิรพนธ์รีบเดินตามไปข้างๆ
"มึงอยากได้พี่แพมมั้ยล่ะ กูช่วยได้"
ชาคริตหยุด
จิรพนธ์หัวเราะเบาๆ กล่าวต่อ
"กูช่วยให้มึงฟันพี่แพมได้ มึงอยากได้มั้ย"
"ยังไง"
"เอาเถอะ แล้วกูจะบอกให้ ไปคุยกันในโรงอาหารดีกว่า กูหิวแล้ว"
จิรพนธ์พูด
ชาคริตนิ่งไปสักพักก็พยักหน้า แล้วสองหนุ่มก็พากันเดินไปทางโรงอาหาร