ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Dark World ตอนที่ 9 ฝันร้าย

เริ่มโดย katalun, มิถุนายน 29, 2016, 10:22:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

katalun

 ::Glad:: ::Glad:: ::Glad:: ::Glad:: ::Glad::

        - กำลังตื่นเต้นกับบ้านใหม่มากมาย
        - ขอบคุณAdminทุกๆคนครับ สำหรับบ้านใหม่หลังนี้
        - งานเข้าหนักมากช่วงนี้ กระดึบได้วันละหน่อยๆเอง ขออภัยคนรอด้วยครับ
        - สำหรับตอนเก่าๆจะกลับไปแก้ให้นะครับ ของผมจะจบตอนด้วยแบบนี้ครับ "----- จบตอนที่ XXX ------


Dark World ความเดิมตอนที่1-7
(ได้ไอเดียจากคุณต๊อก tok2011 เพราะลงไม่ค่อยถี่ คนที่อยากอ่าน บางทีก็ตามอ่านลำบาก ส่วนคนที่อยากจะเริ่มอ่านก็ลองดูคร่าวๆก่อนก็ได้ครับ)
        - เรื่องราวสงครามระหว่างเผ่าพันธ์แม่มดกับเผ่ามนุษย์ ซึ่งดำเนินมาจนถึงศึกสุดท้าย
        - มนุษย์ได้ทำของวิเศษสิบชิ้นแล้วเรียกผู้ถึงครองว่า Tencommander และด้วยการชี้นำของเหล่า Tencommander ทั้งสิบคนนี้เอง ทำให้กองกำลังของ       
          มนุษย์ทั้งสิบทิศทาง ไล่ต้อนจนถึงปราสาทสุดท้ายของแม่มด
        - ภายในปราสาทราชินีแม่มดได้ดึงนายกองเคิกร์ผู้หยิ่งผยองมาเป็นพวก หลอกล่อ Tencommander หลินและผู้ติดตามจนเพลี่งพล้ำเสียที
          กลายเป็นสมุนราชินีตามเคิกร์ไป
        - เอโมสเกือบจะเป็นอีกคนที่เสียท่า แต่ด้วยเวทสุดท้ายของหลินที่ร่ายใส่ราชินีแม่มด ทำให้ราชินีเปิดใจให้กับเอโมสและบอกว่าเธอไม่ใช่ราชินี
          แต่เธอคืออิลูชั่น1ใน4จตุรอาชาที่รับใช้ราชินีแม่มดตัวจริง
        - จนถึงที่สุดแล้วอิลลูชั่นยอมโดนระเบิดตายเพื่อช่วยให้เอโมสรอดออกมาได้ ผู้ที่รอดออกมามีเอโมส หลิน ผิงกังและผิงอัน
        - แผนการของฝั่งแม่มดคือการโค่นต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งจะทำให้โลกล่มสลาย ซาคิวบัสรับหน้าที่ไปป่วนกองกำลังทางเหนือ
          ส่วนคลีโอรับหน้าที่ไปทางทัพตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองคนเป็นตัวล่อที่ทำเพื่อดึงความสนใจ ส่วนเวด้าจะลอบอาศัยช่วงชุลมุ่นไปยังต้นไม้แห่งชีวิต
        - Tencommander เซเฟียเข้าไปช่วย เอโมสกับคนที่เหลือรอด
        - ซาคิวบัสบุกมาปั่นป่วนกองทัพทางเหนือจนชุลมุ่นวุ่นวาย แต่Tencommander คาร์เท และ ยอนฮวา เข้าขัดขวาง และจับกุมซาคิวบัสได้

ความเดิมตอนที่ 8
        - เอโมสกับเซเฟียแยกทางกัน โดยที่เซเฟียเดินทางไปช่วยโชตะ ส่วนเอโมสพาคนเจ็บไปรักษากับยอนฮวา และหวังจะสืบสวนหาที่อยู่ราชินีจากซาคิวบัส
        - Tencommander เอ็กเตอร์แอบมาสอบสวนซาคิวบัสกลางดึกด้วยตัวคนเดียว เพราะความแค้นที่แม่มดพรากชีวิตเคิกร์ลูกชายเค้าไป
        - ซาคิวบัสปั่นหัวเอ็กเตอร์ว่าเอโมสเป็นคนฆ่าเคิกร์ซึ่งความจริงแล้ว เอโมสจำเป็นต้องทำเพราะเคิกร์กลายเป็นอสูรร้าย
        - เอ็กเตอร์ยอมที่จะถูกซาคิวบัสดูดพลังจนหมด เพื่อแลกพลังแห่งความมืดอันจะทำให้เค้าไร้ความปราณีและความลังเลในการแก้แค้นเอโมส
        - เอโมสตัดใจเข้าต่อสู้กับเอ็กเตอร์


======================================= 

        Dark World

        วนิพกพเนจร

      เมื่อเราอยู่ในความฝัน
      เรามักจะถูกความฝันควบคุม
      แต่ถ้าเรารู้ตัวว่านั้นเป็นความฝัน
      เราจะสามารถควบคุมความฝันนั้นได้


======================================= 


        Dark World ตอนที่ 9 ฝันร้าย




       
.......... 5 ปีก่อนสงครามกวาดล้างแม่มด ..........

        "ฮ่าฮ่าฮ่า!!!!!! วันนี้แหละข้าจะขอเด็ดดอกไม้ของเจ้าซะยอนฮวา "  ขุนนางอ้วนฉุบ้าโลกีย์เปล่งเสียงหัวเราะลั่นอย่างกักขฬะ พร้อมกับถอนเสื้อผ้าอาภรณ์ อย่างเร่งรีบ

        "โอ้ นายท่านได้โปรด ปราณีด้วยเถอะเพคะ ยอนฮวานางยังเด็กมากนัก ได้โปรดปราณีนางด้วย"  แม่เล้าใจดี กล่าวอ้อนวอนและยื้อยุดฉุดกระชาก ขอให้ขุนนางอ้วน ปราณีแก้เด็กของเธอ

        "หนอย!!! เป็นแค่แม่เล้านางโลม เจ้ากล้าห้ามข้าเหรอ ทหาร!!! ลากตัวมันออกไป"  ขุนนางโฉดวางอำนาจอย่างเต็มที่ ไม่ให้ใครมาขัดความสำราญ ที่เค้ากำลังจะได้จากกีแซงยอนฮวา สาวน้อยในวัยแรกแย้มผู้เลอโฉมและงดงามปาดหยาดน้ำค้าง อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแคว้นแดนโสม

        "แหมนายท่านขาเด็กกะโปโลจะไปสนุกอะไร คืนนี้ข้ายินดีบริการนายท่านอย่างเต็มที่เป็นพิเศษเลย เอาข้าไปแทนนางเถอะนะคะ"

        "แถมข้าด้วยนะนายท่าน อิอิอิ"
       
        "ท่านจะไปสนใจใยเด็กอ่อนกามาไปทำไม มาหาพวกเราดีกว่านะคะ"

        "โอ้นายท่าน เลือกใช้พวกเราบำเรอท่านเถอะ"

        "ยัยซื้อบื้อนั่น นอกจากเล่นดนตรีและร่ายรำแล้วนางทำอย่างอื่นไม่เป็นหรอกค่ะ"

        เหล่าบรรดานางโลมต่างเสนอตัวโน้มน้าวจิตใจให้ขุนนางโฉดเบนเข็มมาที่ตัวเอง แม้แต่คนที่เคยพูดจาไม่ดีกับ ยอนฮวาอย่างที่สุด ในยามคับขันก็ยังเสนอตัวเพื่อช่วยเหลือปกป้องยอนฮวาเด็กสาวที่พวกนางเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ พวกนางรักเธอและถนุถนอมเหมือนๆกับหลานสาว ลูกสาว หรือน้องสาวของตัวเองก็ไม่ปาน สิ่งดีที่สุดที่เหล่าหญิงนางโลมจะพร่ำสอนเธอได้ ก็มีเพียงศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งดนตรี การร่ายรำ โคลงกลอน หมากล้อม เพื่อให้เธอได้เป็นกีแซงชั้งสูงแลปฏิบัติตัวเป็นศิลปินผู้อุทิศตนเพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้อื่น แต่จะไม่พลีกายให้กับชายใดเพื่อแลกเงิน

        "ว้ากกก!!! ถอยไปให้หมด ข้าไม่สนไอ้อีหน้าไหนทั้งนั้น วันนี้ใครขวางข้าพวกมันต้องตาย! เอาพวกนางไปตัดหัวให้หมด!"  ขุนนางโฉดจะไม่ทนอีกต่อไป เค้าเคลิบเคลิ้มหลงใหลในความงามของยอนฮวา บวกฤทธิ์ของน้ำจันทร์จนขาดความยับยั้งชั่งใจ คิดจะเด็ดความบริสุทธ์แล้วครอบครองยอนฮวาไว้แต่เพียงผู้เดียว

        "หยุดแค่นี้เถอะค่ะ เรายอมแล้ว วันนี้จะไม่มีใครต้องตายเพราะเรา เชิญทุกๆท่านออกไปให้หมด เราจะดูแลท่านขุนนางเองผู้นี้เอง"  ยอนฮวากล่าวออกมาอย่างยอมรับในชะตากรรม หญิงหอนางโลมอย่างนางพ้นวันนี้ได้ ก็ไม่รอดวันพรุ่งนี้อยู่ดี


        ทุกๆคนเดินออกมาจากห้องของยอนฮวา หอนางโลมที่ควรจะมีแต่เสียงหัวเราะ ครื้นเครง สรรค์สังค์ และผ่อนคลาย วันนี้กลับมีบรรยากาศแห่งความสับสนอลหม่าน และเสียงร่ำไห้เศร้าโศกของบรรดานางโลม ที่บุคคลที่พวกเธอรักและเฝ้าฟูมฟักจะต้องถูกทำร้ายในค่ำคืนนี้

        "หึหึ ยอมดีๆซะตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมีใครเจ็บตัวแล้วนะยอนฮวา"  ขุนนางโฉดกล่าวอย่างย่ามใจ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองเดินเข้ามาหายอนฮวา
ยอนฮวาล้มตัวลงนอนหงายบนฟูกนุ่มสองเท้าเหยียดยาวสองมือแนบลำตัว ตามองบนเพดานใบหน้าแน่นิ่งราวกับท่อนไม้ ปล่อยให้ขุนนางหื่นเข้ามาซุกไซร์อย่างหื่นกระหาย

        "หึหึ นิ่งไปเถอะ เดียวข้าจะทำให้เจ้าต้องร้องขอความเป็นชายจากข้า ฮ่าฮ่าฮ่า"  ขุนนางหื่นพูดพร้อมๆกับกระชากเสื้อของยอนฮวาจนขาดเป็นชิ้นๆ เผยทรวงอกขนาดพอเหมาะ แต่เธอยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ ได้แต่เหลือบตามองขุนนางอ้วนด้วยสายตาเย็นชาและแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม ขุนนางอ้วนไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงก้มตัวลงไปหาสูดดมทรวงอกของสาวแรกรุ่น

        "พลั่ก พลั่ก ตุ๊บตั๊บ"  เสียงชายหนุ่มผมสีทองผิวขาวร่างกำยำ สวมชุดที่ดูไม่คุ้นตาเท่าไหร่นักในดินแดนแห่งนี้ ลงมืออัดกับพวกทหารลิ่วล้อของขุนนางหื่นด้วยท่วงท่าวิชาของชาวตะวันตก จนทหารกระจอกหมอบกระแต แล้วก็ย่างสามขุมไปยังห้องของยอนฮวา ถีบประตูออก ดึงตัวขุนนางหื่นที่กำลังง้วนอยู่กับร่องอกของยอนฮวาออกมาอย่างแรงจนก้นจ้ำเบ้า แล้วถามไปยังสาวน้อยแสนงามตรงหน้า "เจ้าปลอดภัยใช้ไหม"

        "ค่ะ คะ อะ อ๋อ...ระ...เราปลอดภัยดี...วะ...ว้าย!!!"  ยอนฮวายังงงๆในขณะที่ปลงตกกับชีวิต กลับมีคนหาญกล้าที่จะเข้ามาช่วยเธอ แล้วก็ต้องตกใจคว้าผ้าห่มมาปิดเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าเพราะโดนขุนนางหื่นฉีกกระชากจนหมด

        "บังอาญ!!! กะ แกเป็นใครกันว่ะ รู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นใคร และแกต้องโดนอะไร" 

        "ข้ารู้ แล้วเจ้าก็คงรู้นะว่านี้คืออะไร " ชายหนุ่มผมทองหยิบเหรีญตราทองคำ ซึ่งทำมาอย่างปราณีตด้วยองค์ความรู้รวมที่เป็นกลางที่สุดของโลก และมันถือเป็นเทียบเชิญสำหรับผู้ทีเหมาะสมเข้ารับการคัดเลือกให้เป็นผู้ถือครองสิบสุดยอดอาวุธ มันมีค่ามหาศาลเป็นอย่างยิ่ง เค้าหยิบมันออกมาแล้วยื่นให้กับยอนฮวา ยิ้มน้อยๆแล้วกล่าวออกไปว่า "สิ่งนี้มีพลังอยู่ในตัวมัน คงจะคุ้มครองเจ้าได้บ้างสักพัก"

        ยอนฮวายื่นมือมารับเหรียญตรามาอย่างงุนงง สิ่งนี้มันควรเป็นของที่ผู้เหมาะสม แต่นักดนตรีในหอนางโลมอย่างเธอ หนำซ้ำยังเป็นสตรีกลับได้เหรียญที่สูงค่าเช่นนี้ " ท่านทำอย่างนี้ทำไมกันคะ ยังไงช้าเร็วเราก็ต้องประสบชะตากรรมอย่างนี้อยู่ดี"

        "อืม...ก็จริงของเจ้า เรายอมรับมานานแล้วว่าเราไม่สามารถช่วยใครในโลกนี้ได้ทั้งหมด หรือช่วยได้ตลอดรอดฝั่งหรอกนะ เราช่วยเจ้าได้วันนี้ถือเป็นความบังเอิญ...มันจะไม่มีอีกแล้ว ทางที่เหลือเจ้าจะต้องเป็นผู้ลิขิตเอง และอีกอย่างเราไม่มีเงินของดินแดนนี้หรอก เหรียญนั้นคงเป็นค่าตอบแทนที่เจ้าจะเล่นเพลงเพราะๆของดินแดนเจ้าให้เราฟัง สักเพลงสองเพลง"

        ความเงียบงันเกาะกุมสถานที่นี้อย่างสงัด ทุกๆคนในที่แห่งนี้ตะลึงกับคำพูดทีเล่นทีจริงของชายหนุ่มผมทอง

        "ปัดโธ่เว้ย!! หมดอารมณ์แล้ว กลับ!!!"  ขุนนางหื่นรีบแต่งเนื้อแต่งตัว เรียกทหารติดตามให้กลับอย่างเร่งรีบ ไม่อยากมีปัญหากับพวกที่มีเหรียญทอง เพราะใครมีเรื่องกับพวกนี้มักจบไม่สวยซักราย ถึงขุนนางอ้วนจะมีอำนาจมากในดินแดนแห่งนี้ แต่ก็ไม่อาจใหญ่ไปกว่าสิ่งที่เรียกว่าพันธมิตรโลก

        สิ้นเสียงทหารเดินออกไป แขกในร้านต่างก็โห่ร้องยินดี "เอ้า! เอ้า! จบเรื่องแล้ว จบเรื่องแล้ว ทุกๆท่านเชิญกินดื่มให้เต็มที่ วันนี้ร้านเราเลี้ยงเองคร๊า ฮิฮิฮิ แต่น้องๆ ท่านยังต้องช่วยอุปถัมภ์กันอยู่นะคร๊าาาาา ดื่ม ดื่ม ดื่ม โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ"  แม่เล้าใจดีแก้สถานการณ์อึ้มครึ้ม ให้กลับมาครื้นเครงอย่างรวดเร็ว เลี้ยงเหล้าลูกค้าด้วยความดีใจที่ยอนฮวารอดพ้นมาได้

        "คงจะเห็นแก่ตัวนะ ถ้าเจ้าจะเล่นให้เราฟังคนเดียว เราจะรอฟังอยู่ด้านนอกนะ"  ชายหนุ่มผมทองกล่าวอย่างสุภาพกับยอนฮวา

        "ดะ เดียวก่อนค่ะ ท่านชื่ออะไรคะ"  ยอนฮวาเอ่ยถามชื่อผู้มีพระคุณ

        "เอโมส เราชื่อเอโมส"

======================================= 

        ฟากฟ้ายามค่ำคืนแต่กลับแดงฉานไปด้วยก้อนเมฆมากมาย โหมกระหน่ำปลดปล่อยหยาดน้ำฝนชุ่มฉ่ำ ลงมาโชลมยังผืนดินด้านล่าง สายฝนสาดกระทบใบหน้าสวยหวานของยอนฮวา ปลุกนางให้ลืมตาตื่นจากความหลังที่กำลังเคลิ้มฝันอย่างเปี่ยมสุข กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง

        "เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!"

        ยอนฮวาไม่แน่ใจว่าเสียงนั้น เป็นเสียงฟ้าผ่าหรือเสียงการปะทะกันของเอ็กเตอร์กับเอโมสกันแน่ นางพยายามรี่ตาดุผ่านม่านสายฝนไปยังการต่อสู้อันดุเดือดของทั้งสองคน นางใช้สติปัญญาครุ่นคิดแผนการ หรือสิ่งใดก็ตาม ที่เธอจะทำให้พรรคพวกของเธอกลับมามีความได้เปรียบเหนือศัตรู ยอนฮวาคิดขึ้นได้รีบไปคว้ากู่เจิงในกระโจ่มที่พักมา แล้วจัดแจงเตรียมตัวนั่งประทับเครื่อวงดนตรีชนิดเครื่องสายและเริ่มทำการบรรเลงบทเพลงอย่างตั้งใจ เสียงดนตรีไพเราะกังวาลไปทั่วทุกแห่งหน แม้เสียงสายฝนคลื่นพายุก็มิอาจบดบังถ่วงทำนองอันไพเราะจับใจนั้นได้


        "ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างอ่อนแอยิ่งนัก เจ้านักดนตรี พอไม่มีหัวใจมหาสมุทรก็ทำได้แต่บรรเลงเพลงบ้าๆบอๆเท่านั้นเอง ดูสิเอโมสนางเหมาะสมตรงไหนกัน ทำไมเป็นนาง และเจ้าก็เหมือนกัน ทำไมเป็นเจ้า ไม่ใช้ลูกข้า"  คำพูดของเอ็กเตอร์เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นส่วนผสมของเสียงหัวเราะเย้ยหยัน อารมณ์โกรธ และอารมณ์ตัดพ้อน้อยใจระคนกับความริษยา เพราะเหตุใดจึงไม่ใช้เคิกร์ลูกชายเค้าที่ได้รับเลือกจากสิบศราตราวุธ แต่เป็นนักดนตรีในหอนางโลม กับชายที่มีดีแค่ทักษะการป้องกัน

        เอโมสได้ยินทุกเสียงเย้ยหยัน หาได้มีปฏิกิริยากลับเข้าจู่โจมเอกเตอร์อย่างตั้งใจ ด้วยดาบเหล็กธรรมดาๆที่พอจะหาหยิบได้จากแถวนั้น ทว่าดาบเหล็กธรรมดาก็ไม่อาจทำอะไรพลองทองอันแข็งแกร่งได้ เมื่อปะทะกันดาบเหล็กก็แตกหักเป้นชิ้นๆ แต่เอโมสชิงจังหวะอัดกระแทกโล่อีจิสไปที่เอกเตอร์จนกระเด็นพร้อมๆกับที่เอโมสตะโกนบอก "ท่านก็ทราบดีท่านเอ็กเตอร์ อาวุธจะเป็นผู้เลือกนายของมันเอง หากท่านยังไม่รู้ตัว ข้าว่าพลองทองของท่านก็เริ่มเชื่องช้าลงแล้ว"  เอโมสจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

        เป็นอย่างที่เอโมสว่าพลองทองเริ่มต่อต้านผู้เป็นนายที่เปลี่ยนไป พลองทองที่เคยเบาหวิวเคลื่อนไหวตามความต้องการ กลับมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จนเอกเตอร์ใช้มันไม่ได้อย่างใจ

        "กรอด!!!เป็นแค่สิ่งของอย่าพยศให้มันมากนัก"  เอกเตอร์โกรธจัดกำพลองทองแน่น ใช้พลังแห่งความมืดที่ได้มาจากซาคิวบัสฝืนบังคับพลองทองจนมันแน่นิ่งไป "อั๊ก...แฮ่ก แฮ่ก"  เอกเตอร์กระอั่กเลือดไหลย้อยลงที่มุมปากเนื่องจากพลังแห่งความมืดที่ได้มาจากซาคิวบัสแม้พลังจะเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่าตัวแต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเค้า

        "หยุดแค่นี้เถอะท่านเอกเตอร์ มันไม่คุ้มกันหรอก"  เอโมสตะโกนห้าม

        "ขอแค่ได้แก้แค้นเจ้า ชีวิตข้าก็ไม่สำคัญ..."  เอกเตอร์พูดจบก็ใช้พลังของพลองทองแบ่งร่างตัวเองออกเป็น 5 ร่างเข้าจู่โจมเอโมสอีกครั้ง "ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคนเดียวสู้กับร่างแยกทั้ง 5 ของข้าไม่ไหวหรอก" 

        ร่างแยกทั้ง5ของเอกเตอร์ เข้าโรมรันฟาดกระบองไปที่เอโมส เอโมสต้องตกอยู่ในสภาพห้ารุมหนึ่ง ตั้งรับได้เต็มที่ก็แค่สองมือแม้การโจมตีจะถูกปัดป้องไม่ถึงตัวเอโมสด้วยพลังป้องกันของโล่ห์อีจิส แต่แรงกระแทกบางส่วนของพลองทองก็ยังส่งผ่านไปถึงกายเนื้อของเอโมส จนร่างเริ่มบอบช้ำ

        ในขณะที่เอโมสกำลังจะเสียท่าให้กับเอกเตอร์ ในหัวของเค้าก็ได้ยินเสียงเพลงของยอนฮวาและเริ่มสัมผัสได้ถึงข้อความที่แฝงมาในบทเพลงที่ยอนฮวาบรรเลง เค้าสัมผัสได้ถึงสิ่งรอบๆกาย ตำแหน่งของคาร์เทกับซาคิวบัสที่สู้กันอยู่อีกฝั่ง รวมไปถึงสิ่งที่ยอนฮวาจะบอกกับตัวเค้า

        "ท่านเอโมสคะ กระแทกร่างแยกพวกนั้นให้ลอยขึ้นฟ้าค่ะ"  เสียงของยอนฮวาดังกังวาลในหัวของเอโมส
เอโมสทำตามเสียงของยอนฮวาอย่างไม่รีรอ "แกรนด์ครอส"  แสงสว่างรูปกากบาทรอบๆตัวเอโมส ผลักกระแทกให้ร่างแยกทั้ง5ของเอกเตอร์ลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า ตามคำแนะนำของยอนฮวาทันที

        "คิดว่าของแบบนั้นจะทำอะไรข้าได้หรือเอโมส"  เอกเตอร์ร่างหลักตะโกนบอกกับเอโมส
ในขณะที่ร่างแยกของเอ็กเตอร์ลอยละลิ้วขึ้นสูงจากพื้น ก็มีลูกธนูเหล็กของคาร์เทพุ่งแหวกอากาศมาจากอีกด้านของค่ายทหารพุ่งเข้าเสียบร่างแยกทั้ง 5 อย่างแม่นยำ ร่างแยกของเอ็กเตอร์สลายไปในทันที ส่วนร่างหลักของเอกเตอร์ก็สามารถปัดป้องลูกธนูได้ทันหวุดหวิด แต่เอโมสไม่รอช้าชิ่งจังหวะเข้าประชิด รวมพลังไปที่โล่ห์แล้วอัดกระแทกตัวเอกเตอร์อย่างแรง

        เอ็กเตอร์เดือดด่านอย่างหนัก ขยายพลองทองจนมีขนาดใหญ่พร้อมทุ่มพลังหวังจะหวดฟาดลงไปที่เอโมสให้ตายในทีเดียว แต่เอโมสไม่ถอยหนีกลับวิ่งเข้าใส่เอ๊กเตอร์อย่างรวดเร็ว

        "ตอนนี้หล่ะเอาเลย"  เอโมสวิ่งไปพร้อมบอกสัญญาณบางอย่างกับใครบางคน แล้วประกาศท่าไม้ตายของตัวเอง "โล่ห์อีจิส ก็อดโปรเทคชั่น"  สิ้นเสียงของเอโมส ก็มีแสงสว่างสีทองอาบร่างของเอโมส แสงนั่นจะทำให้เอโมสใกล้เคียงกับคำว่าอมตะชั่วเวลาไม่กี่วินาที

        "ไร้สาระเอโมส ช่างใช้ไพ่ตายที่มีระยะเวลานิดเดียวได้เปล่าประโยชน์จริงๆ"  เอ็กเตอร์ยั้งมือ ยังไม่หวดพลองยักษ์ลงใส่คู่ต่อสู้เพราะรู้ดีว่าระหว่างที่เอโมสใช้ท่านี้จะไม่มีใครทำอะไรตัวเค้าได้ เพียงแต่รอแค่ไม่นานเอโมสก็จะหมดพลังไปเอง ถึงตอนนั้นเอ็กเตอร์หวังจะหวดให้เอโมสตายคามือเลยทีเดียว
เพราะพลองทองขยายใหญ่มากทำให้เอ็กเตอร์ขยับหนีได้ไม่ถนัดนัก
       
        "โทสะบังตาท่านหมดแล้วเอ็กเตอร์ แม้ท่านจะแยกได้เป็นพันร่างแต่ท่านก็สู้อยู่คนเดียว ถึงท่านจะเห็นว่าข้าสู้อยู่คนเดียวแต่เปล่าเลย ข้าสู้พร้อมๆกับคาร์เทและยอนฮวาตั้งหาก"  เอโมสกล่าวเมื่อเค้าเข้าถึงตัวเอ็กเตอร์ได้

        "เปรี้ยง!!!!!!! ตูมมมม!!!!"  พริบตาเดียวก็มีสายฟ้าขนาดยักษ์ผ่าลงมาที่ตัวของเอโมสอย่างแรง ความแรงของสายฟ้าไม่อาจทำอะไรเอโมสที่อยู่ในสภาวะ" ก็อดโปรเทคชั่น" ได้ แต่เอ็กเตอร์ที่อยู่ติดๆกับเอโมสนั้นได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

        "อ๊ากกกกกกก!!!"  เอ็กเตอร์โดนสายฟ้าฟาดเค้าไปเต็มที่ เนื้อตัวลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง แต่ไม่นานนักสายฝนก็ช่วยดับเปลวเพลิงบนตัวของเอ็กเตอร์ เค้านอนแน่นิ่งไม่ขยับใดๆอีก พลองทองยักษ์หดตัวเล็กลงจนเท่ากับขนาดปกติกลิ้งอยู่ข้างๆเค้า การต่อสู้ระหว่างเอ็กเตอร์กับเอโมสจบลงแล้ว

        "คนที่ฝีมือและพลังทัดเทียมกัน ใครมีโทสะมากกว่ามักจะพ่ายแพ้เสมอ คำสอนของท่านข้ายังจำได้ดี"  เอโมสพูดถึงคำสอนของเอ็กเตอร์ที่เคยสอนเค้าไว้ "ข้าเสียใจจริงๆ เรื่องของลูกชายท่าน ถ้าข้ามีพลังมากกว่านี้ลูกชายท่านก็คงไม่ต้องตาย"  เอโมสกล่าวขอโทษกับเอ็กเตอร์ที่นอนแน่นิ่ง พิษรอยสักงูเห่าของซาคิวบัสเริ่มกัดกินร่างกายของเค้า

        "อั่ก...อั่ก...หึหึหึ...ความจริงแล้วคนที่ข้าโกรธแค้นมากที่สุดคงเป็นตัวของข้าเอง ที่เลี้ยงเค้ามาไม่ดีพอ เคิกร์เป็นคนยังไงข้าเองที่รู้ดีที่สุด หึหึ ที่ข้าแค้นเจ้ามากคงเป็นเพราะลึกๆแล้วข้าอยากให้เค้าเป็นเหมือนกับเจ้า ข้าคงต้องขอโทษเจ้าเช่นกันเอโมส "  เอ็กเตอร์ในวาระสุดท้ายกล่าวความในใจ "รับนี้ไว้เอโมส มันไม่ใช้ของข้าอีกต่อไปแล้ว "  เอ็กเตอร์ยื่นพลองทองของราชาวานรให้กับเอโมส

        " อยู่กับเอโมสก็อย่าซนนักหล่ะ"  เค้ากล่าวร่ำลาอาวุธคู่ใจเป็นครั้งสุดท้าย

        "รีบไปเถอะ ทางนั้นเงียบไปสักพักแล้ว คาร์เทน่าจะต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ฝาก.....อั่ก..ขะ...ขอโทษ.นางด้วย"  เอ็กเตอร์กล่าวคำสุดท้ายก่อนหมดลมหายใจ

======================================= 


        อีกด้านของค่ายทหารซาคิวบัสใช้แส้เหวี่ยงคาร์เทจนปลิวจากกระโจมที่พวกของเอโมสอยู่ออกมาไกลพอสมควร  ทันทีที่ขาของคาร์เทแตะพื้น ก็ไม่รอช้าจับคันธนูปล่อยลูกศรพุ่งไปหลายสิบดอกเป้าหมายคือซาคิวบัสที่บินตามมา

        ซาคิวบัสบินฉวัดเฉวียนหลบหลีกพร้อมพุ่งมาหาคาร์เทอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เกินคาดของคาร์เท ยิ่งนางมารร้ายเข้ามาใกล้คาร์เทมาเท่าไหร่ เธอจะยิ่งเล็งเป้าได้ง่ายมากขึ้น

        "เสร็จหล่ะ นังปีศาจ"  คาร์เทเล็งซาจิธาริอัส ธนูที่ลูกศรไม่มีวันหมดเข้าเป้ากลางอกของซาคิวบัสเต็มๆ

        "จุ๊จุ๊จุ๊ สาวน้อย  มันไม่ง่ายเหมือนตอนเช้าหรอกนะ"  เสียงซาคิวบัซแว่วมาทางด้านหลังของคาร์เท แต่ไม่ได้มีนางคนเดียว กลับมีซาคิวบัสอยู่ถึง 3 คน!!

        "นี้มันพลังแยกร่างของพลองทอง"  คาร์เทปละหลาดใจที่ซาคิวบัสใช้พลังแบบเดียวกับอาวุธของเอ็กเตอร์ได้

        "คิกคิกคิก พลังของเจ้าแก่นั้นยังเต็มร่องเราอยู่เลย อ่าห์ ช่างรู้สึกดีจริงๆ"  ซาคิวบัสเอ่ยเสียงเสียวเคลิบเคลิ้ม

        "หนะ หน้าไม่อาย" คาร์เทต่อว่าซาคิวบัสแต่ใบหน้าแดงกล่ำ

        "หุหุหุ เรื่องบัดสีแบบนี้ พวกเจ้านี้แหละที่ชอบซะยิ่งกว่าเผ่าพันธ์ไหนๆ เราจะเผยธาตุแท้ของเจ้าเอง"  ซาคิวบัสทั้ง 3 ร่างบินเข้าไปรุมโจมตีคาร์เทซึ่งอาวุธของเธอ เหมาะกับการต่อสู้ระยะไกลมากว่า เธอจึงต้องเป็นฝ่ายหลบหลีกการโจมตีของซาคิวบัซเป็นพัลวัล ในขณะที่กำลังหลบหลีกการโจมตีของนางมารร้าย เธอก็ได้ยินเสียงบทเพลงของยอนฮวาแว่วมาแต่ไกล บทเพลงแสนไพเราะที่เป็นดั่งสารส่งข้อความจากยอนฮวามาให้เธอ


        "ท่านคาร์เทคะ ท่านคนเดียวไม่อาจสู้ซาคิวบัซในตอนนี้ได้ บทเพลงนี้จะทำให้ท่านรู้สภาพวะรอบๆและตำแหน่งของท่านเอกเตอร์ ช่วยกันสู้กับท่านเอกเตอร์ก่อนแล้วเราจะมาสบทบช่วยกันสู้กับซาคิวบัส"  เสียงของยอนฮวาดังขึ้นในหัวของคาร์เท ทำให้ตัวเธอรับรู้ตำแหน่งของเอโมสและยอนฮวาที่อยู่ห่างออกไป ในตอนนั้นคาร์เทเห็นเอโมสกำลังถูกรุมด้วยร่างแยกทั้ง 5 ของเอ็กเตอร์ 
       
        "ให้ตายเถอะ!! เราเองก็กำลังแย่นะ"  คาร์เทบ่นอุบอิบ รีบพุ่งตัวหนีซาคิวบัสทั้ง 3 ร่าง

        "จะหนีไปไหนจ๊ะ แม่สาวนักธนู ฮ่าฮ่าฮ่า"  ซาคิวบัสทั้ง 3 ร่าง รีบบินตามไป

        "ไม่ได้หนีเฟรย เอานี้ไปกิน"  คาร์เทหันกลับมายังซาคิวบัสแล้วยิงธนู 6 ดอกเข้าหาซาคิวบัสอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าซาคิวบัสก็หลบได้อย่างไม่ยากเย็น แต่เป้าหมายของคาร์เทไม่ใช้ซาคิวบัสแต่เป็นร่างแยกของเอ็กเตอร์ที่กำลังสู้อยู่กับเอโมส

        "ปล่าวประโยชน์คาร์เท เป็นการโจมตีที่น่าเบื่อเหลือเกิน"  ซาคิวบัสทั้ง 3 หลบหลีกแล้วบินสูงขึ้นฟ้ามองลงมาดูคาร์เทอย่างสมเพส

        "ถ้าอย่างงั้นลองนี้ "ศรแสงฟ้าทลาย" " คาร์เทรวมพลังไปที่ลูกศรจนศรเงินธรรมดากลายเป็นลูกศรสายฟ้ามีแสงสีเหลืองแปล๊บปล๊าบ แต่เธอกลับยิงขึ้นไปบนฟ้าคนละทิศทางกับที่ซาคิวบัสทั้ง 3 ร่างอยู่เลย ปล่อยให้นางมารงุนงงกับการกระทำของคาร์เท ใช่แล้วเธอไม่ได้เล็งไปที่ซาคิวบัส คาร์เทเล็งเป้าหมายไปที่เอโมสที่เธอรู้ตำแหน่งของเค้าผ่านเสียงเพลงของยอนฮวานั่นเอง เพียงไม่นานนัก ลูกศรที่หายลับไปบนฟากฟ้า ก็พุ่งลงมาเป็นสายฟ้าฟาดผ่าลงไปยังเอโมสที่อยู่ห่างออกไปทันที ทำให้ซาคิวบัสรู้แล้วว่าเธอเสียท่าให้กับคาร์เทและพรรคพวกของเธอซะแล้ว

        "หนอย...ไอ้พวกเจ้าเล่ห์"  ซาคิวบัสทั้ง 3 ร่างบินโฉบเข้าไปโจมตีคาร์เทอย่างเกรี๊ยวกราด คาร์เทไม่สามารถต่อกรกับซาคิวบัสที่มีถึง 3 ร่างและต่อสู้ในระยะประชิดได้ เธอจึงคิดจะกำจัดให้ได้สัก 1 ร่างก่อน แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อซาคิวบัสร่างหลักบินโฉบมาดักหน้าของคาร์เท ประสานสายตากันพร้อมจะสะกดเธอสู่ความฝัน

"จงมองตาข้า"

=======================================

        "ตื่นสายเหรอที่รัก ต้องอย่างนี้ต้องโดนทำโทษ"  เอโมสในชุดขุนนางสีขาวแบบทางตะวันตกเกือบเต็มยศ ขาดก็แต่เพียงเหรียญตราต่างๆเท่านั้น ส่งเสียงกังวาลเข้มปลุกคาร์เทให้ตื่นจากนิทรา

        "อืม...อย่าพึ่งกวนสิกำลังนอนสบาย ละ เลย เอ๊ะ!!! วะ...ว๊าย!!! เจ้าเข้ามาในห้องนอนข้าทำไม ว๊าย!!! แล้วฉันใส่ชุดอะไรเนี่ย"  คาร์เทตกใจที่เอโมสเข้ามาในห้องนอนของเธอ แถมยังตกใจซ้ำอีกทีตัวเธอสวมใส่เสื้อผ้าสีชมพูแสนบาง เห็นทะลุไปถึงสองเต้าอวบและยอดปทุมถัน


        "ฮะ ฮะ ฮะ สงสัยเมื่อคืนผมคงจะโหมเยอะไปหน่อย ก็ช่วยไม่ได้นี้น่า ก็มีเมียงดงามซะขนาดนี้"  เอโมสหัวเราะขบขันท่าทีของคาร์เท

        "หะ...โหม โหมอะไร!!! แล้ว ค..ใครเมียใคร!!!  อะ...อะไรนะ! จะ เจ้าชมว่าข้าสวย!!!!! "  คาร์เทมึนจับต้นชนปลายไม่ถูก

        "ไหนมาหน่อยดูซิ อืม...ตัวก็ไม่ร้อนนี้นา"  เอโมสเอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากของคาร์เทเพื่อดูว่าคาร์เทตัวร้อนหรือเปล่า ส่วนคาร์เทก็ตะลึงตัวแข็งทือ ที่เพื่อนชายในวัยเด็กที่เธอแอบหลงรักมานานแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยแบบถึงเนื้อถึงตัว

        "พะ พอแล้วไหม? " คาร์เทหน้าแดงด้วยความเขินอายบอกเอโมสให้ถอยออกไปได้แล้ว

        "ไม่พอหรอกครับ ความจำเสื่อมอย่างนี้ต้องฟื้นความจำเรื่องเมื่อคืนซะแล้ว" 

        "อะ.อะไร...ดะ...เดี๋ยวก่อน อุ๊ย อืมมม"

        เอโมสโน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากของคาณ์เทแล้วกดทับเธอร่างเธอไว้ เธอพยายามดิ้นทุบตีไปที่เอโมสตุบตับเบาๆ แต่เค้ายังคงไม่หยุดจูบกับเธอ แล้วยังพยายามส่งลิ้นชอนไชเข้าไปในโพรงปากด้วยความเสน่ห์หา มือไม้ของเอโมสก็อยู่ไม่สุข เลื้อยไล้ไปตามเรือนร่างสอดเข้าไปใต้อาภรณ์ชิ้นบาง ก่อนที่จะไปนวดคลึงเต้านมคู่งามของคาร์เทจนเธอเผลออ้าปากคราง เปิดช่องให้เอโมสสอดลิ้นเข้าไปจูบอย่างดูดดื่มได้

        "อืมมม...อืออ อืออ"  คาร์เทตัวอ่อนยวบร้องครางในลำคอ มือที่ทุบตีเปลี่ยนเป็นมาโอบกอดชายหนุ่ม แล้วพัวพันแลกลิ้นตอบรับความรู้สึกดีๆกับชายผู้ที่เป็นดั่งเพื่อนสนิทและแอบรักมาตั้งแต่วัยเด็ก ลืมสิ้นซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างตักตวงเอาความสุขที่เฝ้ารอมานาน

        เอโมสลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวตัวเค้าก็เปลือยปล่าวอวดแก่นกายงามให้กับคาร์เทที่นอนอยู่บนเตียง เธอส่งสายตาหวานเยิ้มมาที่เค้า หัวใจเต้นตุบตับใบหน้าแดงซ่าน เอโมสดึงตัวคาร์เทขึ้นมาให้อยู่ในท่ายืนเข่า แล้วไซร์ไปที่ซอกคอสูดดมอย่างกระหาย

        "อูยยย...อืมมม...ซี๊ดดดดด อูววว ดีจังเลยคะ โอยยย"  เธอเคลิบเคลิ้มไปกับการซุกไซร์ของเค้า

        สองฝ่ามือใหญ่ของเอโมสลูบไล้ไปที่หน้าอกนวดคลึงอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเลื้อยลงไปจับต้นขาสองข้างแยกออกจากกัน แล้วผละตัวออกจากซอกคอขาวโน้มตัวลงไปตรงหว่างขาของคาร์เท สายตาของเค้ามองตรงไปที่เนินเนื้ออวบอูมขนร่ำไรยั่วเย้าให้เข้าไปสัมผัสด้วยสีหน้าพึ่งพอใจ

        ลมหายใจอุ่นๆกระทบเข้ากับเนินเนื้อ เธอสะดุ้งตัวขนลุก น้ำใสๆก็เล็ดออกมาจากร่องหลืบ คาร์เทหน้าแดงกล่ำด้วยความเขินอายแต่ก็ไม่ได้ปัดป้องหรือปิดบังอะไร แต่กลับค่อยๆขยับถ่างขาออกทีละน้อยอวดโฉมดอกไม้งามของเธอให้เอโมสได้มองอย่างเต็มตา นั่นเป็นเพราะเธอเองก็อยากให้เค้าเห็นสิ่งนี้มานานแล้ว อยากให้เค้าเห็นความเป็นผู้หญิงในตัวของเธอ เหมือนกับที่เค้ามองหญิงงามคนอื่นๆบ้าง
 
        "อุ้ย....อืมมม!!!"  คาร์เทตัวกระตุก เมื่อเอโมสประทับจูบลงบนติ่งเสียวอย่างแผ่วเบา ร่างอวบอัดกระตุกสั่นเทิ่ม เค้าส่งลิ้นไปลิ้มรสน้ำสวาทที่ไหลย้อยออกมา คาร์เทแทบคลั่งผวาเอาทั้งสองมือกดหัวของเอโมสลงไปอัดบี้บดกับเนินเนื้อสาวปากก็ครวญครางอย่างโหยหา

        "อ่าห์...ดีจัง ดีจังเลย อย่างกับฝันไปแนะ...โอ้ยยย...ซี๊ด.ด..เจ้าทะ.ทำรักให้เราด้วยปาก โอ้ยยย เสียวอะไรอย่างนี้ อ๊าซซซซ"  เธอมองลงมายังภาพคนที่เธอเฝ้าฝันกำลังมุดอยู่หว่างขาของเธอ ก็รู้สึกหงี่หง่านออกแรงกดหัวของเข้าเหมือนอยากจะให้หัวเค้ามุดหายเข้าไปข้างในตัวเธอยังไงยังงั้น

        เอโมสหอมกลิ่นดอกไม้งามของคาร์เทอย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นลากกรีดรอยแยกชำแรกชอนไชเข้าไปข้างในอยากชำนาญ เรียกน้ำรักและเสียงคราญครางจากหญิงสาวได้ทะลักทลาย "ซี๊ดดด...อ๊า...เสียว โอ้ยเสียวหีจัง อูวววห์"  คาร์เทหลับตาดื่มด่ำกับความสุขที่แผ่ซ่านเข้ามา

        "อู๊ยยย...เลียหีเราแบบนี้...โอ๊ยย...เสียวเหลือทนแล้วนะ อร๊ายย.อ่าห์.ซี๊ดด.มะ.ไม่ไหวแล้ว..น้ำจะแตกแล้ว..อ๊าซซ" 

        คาร์เทถึงจุดสุดยอดตัวกระตุกเป็นระยะ ช่องรักบีบตัวน้ำไหลทะลักย้อยตามง่ามขาสองข้าง ตัวอ่อนยวบจนยืนเข่าไม่ไหวทรุดลงไปบนเตียงนอนอ่อนนุ่มปล่อยให้เอโมสเลียน้ำที่ไหลย้อยตามท่อนขา  "อืมม...อื้อออ...ฮาหห์...ดีจังเลยคะ..อูย...ยอดรักของเรา อื้อ อืมมม "

        "อาหารจานย่อยไปแล้ว ขออาหารจานหลักล่ะนะครับ"  เอโมสทำทะเล้นใส่เธอ เธอหน้าแดงซ่านไปอีก

        "อืมม...คนบ้า..เชิญกินเราให้พอใจเลยนะคะ เราเป็นของเจ้าทั้งตัวและหัวใจมานานแล้ว"

        เอโมสเลื่อนตัวขึ้นมานวดเคล้นทรวงอกคู่งามอย่างแผ่วเบา ปทุมถันงามหยดถูกดูดหนุบหนับ ยอดหน้าอกอีกข้างก็โดนนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ขยี้คลึงหัวนม แก่นกายด้านล่างที่แข็งเป็นท่อนไม้ก็ขยับฟาดกับเนินเนื้อตุบตับ

        "อื้อ...เสียว ดูดแรงๆเลย อูยยยย อึ้ยย อึ้ยยย อึ้ยยย"  คาร์เทตอบสนองเป็นระยะเมื่อท่อนแก่นกายของเอโมสมากระทบกับเนินเนื้อสาวของเธอ

******** เริ่มซ่อนตรงนี้นะครับ ********
 

Dark world ตอนเก่าๆ ได้ทำการปรับปรุงให้เนื้อหาให้กลับมาครบถ้วนแล้วครับ

Dark world ตอนที่ 1 แผนการร้ายโต้กลับ https://xonly8.com/index.php?topic=160203.msg95868#msg95868
Dark world ตอนที่ 2 ผีเสื้อติดใย https://xonly8.com/index.php?topic=160343.msg96111#msg96111
Dark world ตอนที่ 3 สิ่งที่หลงเหลือ https://xonly8.com/index.php?topic=160489.msg96226#msg96226
Dark world ตอนที่ 4 ดั่งฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย https://xonly8.com/index.php?topic=161734.msg97275#msg97275
Dark World ตอนที่ 5 วิวัฒนาการของผู้ถูกกลืนกิน https://xonly8.com/index.php?topic=162381.msg97758#msg97758
Dark World ตอนที่ 6 จตุรอาชาคนที่4 VS เวทมนต์สุดท้ายของหลิน https://xonly8.com/index.php?topic=162393.msg97781#msg97781
Dark World ตอนที่ 7 นิทรา https://xonly8.com/index.php?topic=162967.msg98232#msg98232
Dark World ตอนที่ 8 ด้วยความเต็มใจ https://xonly8.com/index.php?topic=163587.msg98782#msg98782


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

darkwingzzz

หายไปซะนานเบยครับ
ชอบปิศาจตนแรกมากกว่าจับมาเป็นทาส เหอะๆ ไม่น่ารีบไปเร็วเบย

รอติดตามอย่างต่อเนื่องครับ
ขอบคุณครับ

jame17715


katalun

อ้างจาก: jame17715 เมื่อ มิถุนายน 29, 2016, 10:46:54 หลังเที่ยง
ทำไมถึงหายไปนานจัง ::Angry::

::Sobad:: ::Sobad:: โทษทีที่ให้รอนานครับ ::Sobad:: ::Sobad::
ยังไงก็ติดตามต่อน๊า ::WooWoo:: ::WooWoo::

lv396035


katalun

#5
อ้างจาก: darkwingzzz เมื่อ มิถุนายน 29, 2016, 10:43:02 หลังเที่ยง
หายไปซะนานเบยครับ
ชอบปิศาจตนแรกมากกว่าจับมาเป็นทาส เหอะๆ ไม่น่ารีบไปเร็วเบย

รอติดตามอย่างต่อเนื่องครับ
ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ  ::Glad::


GoDeRsOuL

เรื่องที่ลอยคอ เอ้ย!! รอคอย ชอบนิยายท่านมาก
เป็นอีกหนึ่งในแรงบันดาลใจ เรื่อง 7 sin ของผมเลยครับ

ปล. รูปท่านได้แต่ใดมาน้ออออ ชอบๆ

8blackcross8


premz

ได้อ่านต่อซะทีรอมานาน ขอบคุณมากครับ ขอตอนใหม่ไวๆนะครัล

samsung014

มาแล้วๆ รอนานเลย ขอบคุณมากครับ

sachinha

เจิมบอร์ดใหม่ด้วยเรื่องนี้ละกันครับ คาร์เทเสียท่าซะแล้ว โดนเอโมสสอยซะงั้น 555 ::DookDig::

calos


nonane

ผมขอโทษ แต่ผมลืมเนื้อเรื่อง 555 ขอกลับไปอ่านใหม่แปป

097898117

ตอนใหม่มาแล้วขอบคุณมากครับ นี้เจอตัวบอสรองยังปางตายถ้าเจอตัวหลักคงไม่เหลือ

peter123

น่าติดตามอยู่ตลอด คุ้มค่าการรอคอย ขอบคุณครับ