ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Choice ตอนที่ 5 – แนบเนียน

เริ่มโดย assasin008, สิงหาคม 18, 2016, 04:20:34 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008


Choice ตอนที่ 5 – แนบเนียน
............................................
Assasin008 2016-08-18


        หลังจากที่ผมใช้แว่นวิเศษจนได้เปิดซิงโบกี้ดาวคณะสุดสวยไปหลายดอก ผมก็ตัดสินใจวัดกันไปเลยว่าจะออกหน้าไหน แต่แน่ล่ะว่าผมคงต้องเตรียมพร้อมอะไรบางอย่างเอาไว้รับมือเธอก่อน

ผมถามโบกี้อะไรต่ออะไรหลายอย่าง เพราะว่าตอนนี้เธอพูดโกหกไม่ได้ จากนั้นผมถึงค่อยนอนกอดเธอทั้งคืนจนตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนเช้า เพราะได้ยินเสียงเธอโวยวาย โบกี้ใช้ผ้าห่มคลุมร่างที่เปล่าเปลือยของเธอ เธอมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทีตื่นกลัวเสียขวัญ



        ผมพยายามปลอบให้เธอสงบ แต่ก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรกว่าที่เธอจะยอมเงียบปล่อยให้ผมพูด ตอนนั้นผมรู้สึกแย่จริง ๆ เพราะต้องทนเห็นเธอนั่งร้องไห้กระซิกเหมือนหมดเรี่ยวแรง เธอคงรู้ล่ะว่าตัวเองเสียซิงให้ผมแล้ว เพียงแต่เธอคงจะจดจำอะไรไม่ได้ แค่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนฝันไปตามสรรพคุณของแว่นที่คุณตาโม้เอาไว้ให้ฟัง

        แน่ล่ะว่าผมคงไม่บอกว่าผมมีแว่นวิเศษ และผมคงไม่กล้าเล่าว่าผมใช้มันกับเธอ ผมพยายามสร้างเรื่องขึ้นมาโกหกเธอ โบกี้เหมือนจะจำรายละเอียดได้ถึงแค่ตอนที่ทะเลาะกับแฟนผ่านทางโทรศัพท์ จากนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนเบลอ ๆ ฝันไป แล้วมารู้สึกตัวอีกทีในห้องนอนตัวเอง และเธอก็เสียสาวไปแล้ว

        ผมโกหกเธอไปว่าตอนนั้นเธอดูจะโกรธแฟนเธอมาก แล้วเธอก็บอกว่าในเมื่อแฟนเธอนอกใจได้ เธอก็นอกใจได้เหมือนกัน เธอก็เลยชวนผมมาห้องของเธอ แล้วเราก็มีอะไรกันไปหลายรอบ โดยที่เธอเต็มใจเสนอให้ผมเอง แถมเธอยังโทรไปบอกเลิกตัดขาดกับพี่โต๋เรียบร้อยแล้วด้วย

        ครั้งแรกสุดโบกี้ต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว ก็ใครจะบ้าทำเรื่องแบบนั้น แต่ผมก็ค่อย ๆ แจกแจงบอกเธอไปทีละอย่าง ผมถามเธอว่างั้นผมพาเธอที่นี่ได้ยังไง ผมไม่ได้รู้ว่าห้องเธออยู่ที่ไหน ผมไม่มีกุญแจเข้า ผมยังท้าให้เธอไปขอดูกล้องวงจรปิดของอาคาร จะได้เห็นว่าเธอเดินนำผมเข้ามาเอง

        เจอผมโกหกแบบนี้เข้าไปโบกี้ก็นิ่งอึ้ง เธอคงไม่ได้เชื่อผมหรอก แต่เธอคงจะยกเหตุผลอะไรมาสู้ไม่ได้ เธอเลยนั่งเงียบร้องไห้ ผมขยับเข้าไปจะปลอบแต่โดนเธอออกปากไล่บอกว่าอย่ายุ่ง แล้วเธอก็ไล่ให้ผมออกจากห้องเธอได้แล้ว

        ผมพยายามใจดีสู้เสือทำตัวเนียน ๆ เดินไปอาบน้ำก่อนเผื่อว่าเธอจะใจเย็นลงสักหน่อย แล้วก็เหมือนจะได้ผล พอผมอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ใส่เมื่อวานออกมาจากห้องน้ำ โบกี้ที่มีคราบน้ำตานองหน้าก็เรียกผมไปคุยด้วย เธอให้ผมเล่าให้เธอฟังอย่างละเอียดว่าเรื่องราวเป็นยังไง ดูเธอเข้มแข็งมากทีเดียว

        ผมเล่าเรื่องให้เธอฟังอีกครั้งช้า ๆ ส่วนใหญ่ก็เรื่องจริงน่ะแหละ เพียงแต่ผมละเว้นเรื่องพลังของแว่นออกไป แล้วก็เจตนาไม่พูดถึงเรื่องคลิปที่ผมแอบถ่ายเอาไว้ด้วย ส่วนโบกี้ก็ดูจะคุมสติตัวเองได้ดีทีเดียว เธอค่อย ๆ ฟังที่ผมพูดแล้วคิดตาม ดูเหมือนเธอจะเริ่มจดจำเรื่องราวบางอย่างได้บ้าง ถึงจะไม่ค่อยละเอียดมากเท่าไหร่ เธอเลยเริ่มเหมือนจะเชื่อว่าผมไม่ได้ใช้ยาอะไรกับเธอ

        "หนุ่ม เธอทำกับเราไปกี่ครั้ง"

        "... เอ่อ ... จำไม่ได้ หลายครั้งมาก"

        "... นายปล่อยเข้ามาในตัวเราทุกครั้งเลยเหรอ ... นายมีโรคหรือเปล่า ... ถ้าเราท้องขึ้นมาจะทำยังไง"

        "อื้อ ใช่ ก็โบกี้บอกว่าชอบ แล้วก็อยากคบเราเป็นแฟน ยังไงเราก็มีอะไรกันแล้ว เป็นแฟนเรานะโบกี้ ถ้าท้องขึ้นมาเรารับผิดชอบเอง เราสัญญา"

        ผมตอแหลต่อไปเรื่อย ๆ และพยายามพูดให้เข้าทางตัวเอง ความจริงก็คือทำตามที่ผมเคยถามเธอไว้ก่อนหน้านี้นั่นแหละ ว่าผมต้องทำยังไงเธอถึงจะรู้สึกดี ถึงขึ้นนี้ผมก็เริ่มกล้าที่จะขอเป็นแฟนกับเธอแล้ว เพียงแต่ผมรู้ว่าเธอคงจะยังสับสนไม่แน่ใจเลยไม่ได้ตอบอะไร ความจริงถ้าเธอตอบตกลงมาผมเองนี่แหละที่จะแปลกใจ

        "... เราไม่รู้ เราจำอะไรไม่ได้ ... เรากับหนุ่มแทบไม่รู้จักกันเลย เราคงยังเป็นแฟนกันไม่ได้หรอกนะ แล้วเราก็มีแฟนแล้ว"

        "ไม่เป็นอะไร เราเข้าใจ เอาเป็นว่าเราอยากรับผิดชอบทุกอย่างที่เราทำ แล้วเราก็แอบรักโบกี้มานานแล้วด้วย เราอยากเป็นแฟนกับโบกี้นะ โบกี้ลองคิดดูก็แล้วกัน"

        ผมพยายามชักจูงเธอต่อ โบกี้ฟังผมพูดแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนจะพยายามอ่านว่าคิดอะไรยังไง จากนั้นเธอก็ก้มหน้าแล้วถอนหายใจออกมา แล้วเธอก็ไม่พูดอะไรอีก

        "หนุ่มไปเถอะ เราอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว"

        ผมฟังแล้วก็เดินออกไปนอกห้องเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ผมยังไม่ได้คิดจะออกไปหรอกนะ ผมปิดประตูห้องนอน แล้วเดินไปที่ห้องครัว เมื่อคืนผมถามโบกี้เอาไว้หมดแล้วว่าเธอชอบกินอะไรยังไง และผมก็ย่อมไม่พลาดที่จะถามเธอล่วงหน้าว่าถ้าเธอเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วเธอจะอยากให้ผู้ชายทำแบบไหน แหม่ ผมนี่ช่างฉลาดเสียจริง

        ผมไปเข้าครัวเริ่มต้มข้าว เจียวไข่ ทำกับข้าวแบบง่าย ๆ สองสามอย่างตามที่โบกี้เคยบอกว่าชอบ ผมทำแบบเงียบ ๆ โดยที่โบกี้ไม่ทันรู้ตัว พอผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงผมถึงค่อยเดินไปเคาะประตูห้องนอนของเธอ

        โบกี้เดินมาเปิดประตูห้องนอนด้วยท่าทีงง ๆ เธอใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ตาเธอแดงก่ำเหมือนเพิ่งร้องไห้มาอย่างหนัก เธอมองผมเหมือนจะสงสัยว่าทำไมผมยังอยู่

        "เราว่าโบกี้น่าจะหิวข้าวนะ เลยทำกับข้าวไว้ให้ กินก่อนนะ ข้าวต้ม ไข่เจียว หมูหยอง กำลังร้อนเลย"

        ผมพูดพลางชี้ไปทางโต๊ะกินข้าวตรงกลางห้อง โบกี้มองตามไปแล้วทำหน้าแปลกใจ ผมเลยแอบยิ้ม เพราะเมื่อคืนผมถามเธอว่าถ้าเธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองเสียความสาวให้ผู้ชาย เธอจะอยากให้ผู้ชายคนนั้นทำแบบไหนจึงจะดี

        โบกี้ในตอนนั้นตอบผมว่า เธอคงจะโกรธและเสียใจ แต่อย่างน้อยถ้าผู้ชายคนนั้นอยู่ดูแลเธอ เธอคงจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง และนี่แหละสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลหรือเปล่า

        "..."

        เธอเบือนสายตาจากโต๊ะกินข้าวแล้วหันมามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอรู้สึกยังไง แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ไล่ผมออกจากห้อง แบบนี้ก็คงจะได้ผลอยู่บ้าง

        "เดินไหวหรือเปล่า ให้เราประคองนะ เมื่อคืนไม่ได้กินอะไรเลย น่าจะหิว"

        ผมถือวิสาสะเดินเข้าไปช่วยจับแขนของเธอเพื่อประคองเดิน โบกี้ส่งสายตาดุใส่ผมแวบหนึ่งตอนที่ผมแตะแขนเธอ แต่ผมทำเป็นไม่เห็น โบกี้เองก็ไม่ได้ปัดมือผมออก และตอนนี้เธอก็ยอมให้ผมช่วยพยุงเธอเดินไปที่โต๊ะกินข้าว ผมว่าผมได้ยินเสียงท้องเธอร้องนะ เพราะเมื่อคืนพวกเราสองคนแทบไม่ได้ทานอะไรเลย

        ผมพาเธอไปนั่งช่วยเลื่อนเก้าอี้ช่วยบริการทุกอย่างราวกับเธอเป็นคุณหนู จากนั้นผมก็ไปนั่งข้าง ๆ แล้วตักข้าวต้มมาป้อนใส่ปากให้ โบกี้มองผมแล้วนิ่งไปครู่ใหญ่ เธอไม่พูดและไม่ทำอะไร ผมนึกว่าเธอจะไม่ยอมอ้าปากกินเสียแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ยังอ้าปากงับข้าวต้มเข้าไปแล้วเคี้ยวกินเงียบ ๆ

        ผมค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย ผมเลยจัดการตักข้าวป้อนให้เธอกินเรื่อย ๆ โดยที่เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมเลยนะที่บริการให้คนอื่นขนาดนี้

        "... หนุ่มไม่หิวเหรอ"

        "หิวซิ แต่โบกี้น่าจะหิวกว่า กินเลยกำลังอุ่น ๆ"

        หลังจากเงียบอยู่นาน โบกี้ก็หันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผมเลยยิ้มแล้วตอบพยายามให้ตัวเองเป็นพระเอก แต่เหมือนผมจะไม่มีดวงพระเอกเพราะพอผมตอบปุ๊บ ท้องเจ้ากรรมก็ส่งเสียงร้องโครกออกมาดังลั่นห้อง

        ผมทำหน้าเจื่อน แต่โบกี้หันมามองผมแล้วยิ้มออกมาจนผมใจสั่น นางฟ้าของผมคนนี้ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวย แม้แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าผมเคยมีอะไรกับเธอ

        "ทำเป็นพูดดีเถอะ ท้องร้องแล้วนั่น กินเสียก่อนซิ เรากินไม่หมดหรอกนะ ทำมาตั้งเยอะแบบนี้"

        โบกี้พูดพร้อมกับยิ้มขำ ผมเลยยิ้มแห้ง ๆ ให้แล้วขยับไปจัดการสวาปามข้าวต้มส่วนที่เหลือด้วยความหิวโหยเพราะไม่มีภาพให้รักษาอยู่แล้ว

        ระหว่างที่นั่งกินข้าวโบกี้ก็มองผมตาแป๋ว แต่ถ้าผมเงยหน้ามองเธอ เธอก็จะหลบตาทำเป็นมองไปทางอื่น ผมเลยพยายามไม่มองเธอปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายมองผมเอง

        "โบกี้เอาอะไรอีกป่าว เดี๋ยวเราเก็บล้างจานให้นะ"

        พอกินเรียบร้อยผมก็จัดการเก็บจานไปวางในอ่าง แล้วเริ่มลงมือล้างให้เธอ เพื่อเอาใจเธอโดยเฉพาะ โบกี้เองก็ไม่ว่าอะไร เธอนั่งนิ่งมองดูผมล้างจานจนเสร็จ แล้วก็เริ่มคุยกับผมต่อ

        "หนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเราชอบกินข้าวต้ม กับไข่เจียว"

        "แอบหาข้อมูลซิ เราแฟนพันธุ์แท้โบกี้อยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้"

        "แฟนพันธุ์แท้เหรอ"

        "ใช่ซิ ก็บอกแล้วไงว่าเราแอบชอบโบกี้มาตลอด"

        "อืม เหรอ ... งั้นเราชอบสีอะไร"

        "สีเหลืองไง"

        "... แล้วเราชอบไปเที่ยวที่ไหน"

        "น้ำตก โบกี้ชอบป่าร่มรื่น ชอบน้ำ แต่ไม่ชอบทะเลเพราะมันร้อนอบอ้าว"

        "รู้หรือเปล่าว่าเราชอบทำอะไรเป็นงานอดิเรก"

        "โบกี้ชอบอ่านนิยายสยองขวัญลึกลับ"

        "เราชอบผู้ชายแบบไหน"

        "โบกี้ชอบผู้ชายที่อบอุ่นเหมือนพ่อตัวเอง ผู้ชายที่พึ่งพาได้ ผู้ชายที่จะคอยดูแลโบกี้ไปตลอดชีวิต"

        "... หนุ่มไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนเนี่ย ขนาดเพื่อนสนิทของเราบางคนยังไม่รู้เลยนะ"

        "ก็จากหลายทางนะ เอาเป็นว่าเรารู้จักโบกี้มากกว่าที่คิดล่ะกัน"

        ผมโม้ให้เธอฟัง แต่ความจริงข้อมูลพวกนี้ผมก็เพิ่งถามจากเธอเมื่อคืนมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ ยังไงก็คงไม่มีทางผิดแน่

        "อืม ... แต่เราไม่รู้จักหนุ่มเลย เรารู้แค่ว่าหนุ่มเรียนปีเดียวกับเรา แค่นั้นเอง นอกจากนี้ไม่รู้อะไรเลยสักนิด"

        โบกี้ถอนหายใจแล้วส่งเสียงพึมพำ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไร ผมเลยได้แต่นั่งฟังเงียบ ๆ ผมรู้สึกว่าเธออยากสื่ออะไรบางอย่าง แต่ผมจับใจความไม่ออก

        "หนุ่มไม่ไปเรียนเหรอ ... สายแล้วนะ"

        "ไปได้ไงล่ะ ต้องอยู่ดูแลโบกี้ก่อนซิ"

        "... ตามใจ ... เราจะไปอาบน้ำแล้ว จะทำอะไรก็ทำ"

        โบกี้มองหน้าผมนิ่ง ๆ แต่ไม่มีท่าทีรังเกียจอะไร แล้วเธอก็ตัดบทขยับตัวลุกขึ้นเดินโซเซกลับไปในห้องนอน ผมเลยต้องรีบพุ่งตัวตามไปช่วยประคองพาเธอกลับเข้าไปในห้อง ผมแอบดีใจที่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่ไล่ผมให้กลับบ้าน

        พอส่งเธอเข้าห้องน้ำเรียบร้อย ผมก็มานั่งรอบนเตียงนอนแล้วหาวหวอด เพราะว่ายังนอนไม่เต็มอิ่ม แถมเพิ่งกินอิ่ม อากาศก็เย็นสบาย ผมเลยเริ่มเคลิ้ม ๆ เอนหลังนอนลงไปบนเตียง กะว่าจะพักผ่อนสักครู่ แล้วผมก็สติหายวูบเผลอนอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

        ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งประมาณตอนบ่ายสาม บนตัวผมมีผ้าห่มคลุมอยู่ด้วยหนึ่งผืน ส่วนคนห่มให้ก็คงจะเป็นโบกี้นางฟ้าของผม และตอนนี้โบกี้ก็กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ บนเตียงเดียวกับผมด้วย ตอนนี้เธอใส่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นแบบสบาย ๆ

        โบกี้ส่งเสียงกรนเบา ๆ เหมือนจะหลับจริง ๆ ส่วนผมกำลังตื่นตัวเต็มที่เพราะว่าโบกี้เธอสวยมาก เธอหลับตาพริ้มสนิท ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อย ทรวงอกขนาดล้นมือกำลังเด้งขึ้นเด้งลงเบา ๆ ตามจังหวะการหายใจ และผมกำลังมองผ่านลงไปที่ขาขาวเนียนของโบกี้ เพราะตอนนี้ผ้าห่มของเธอหล่นไปอยู่ข้างตัว ดุเหมือนว่าก่อนหน้านี้เธอน่าจะห่มผ้าเอาไว้แต่เพิ่งทำมันหลุดไป

        ผมมองเธอเหมือนโดนสะกด ยอมรับเลยว่าอารมณ์หื่นที่ได้ระบายจนหมดก๊อกแล้วเริ่มกลับมาใหม่จนควยแข็งเป็นท่อนไม้ ผมมองเธอแล้วกลืนน้ำลายติด ๆ กันด้วยความหื่น ตอนนี้ผมเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธออาจจะยอมรับผมเป็นแฟน และแอบยั่วผมก็ได้ ที่มานอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้

        ความคิดด้านชั่วมักจะมีพลังมากกว่าด้านดี ผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะท่อนขาขาวเนียนของโบกี้เบา ๆ ตั้งใจว่าถ้าเธอมีอาการอะไรจะรีบดึงมือออกทันที แต่พอผมวางแปะลงไปแล้วเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอยังนอนหลับนิ่งส่งเสียกรนเบา ๆ อยู่เหมือนเดิม

        ผมลูบขาของเธอไปมาด้วยความเพลิดเพลินตื่นเต้น ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นกลัวว่าเธอจะตื่น แต่ก็รู้สึกเร้าใจแปลก ๆ จนหยุดตัวเองไม่อยู่ ผมลูบมือไปวางตรงกลางเป้ากางเกงแล้ววางแหมะลงไปบนโคกโหนกนูนเบา ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ลูบขยำช้า ๆ

        โบกี้ส่งเสียงครางอืมออกมาเบา ๆ จนผมสะดุ้งโหยงรีบหยุดมือเพราะกลัวเธอตื่น แต่พอเห็นเธอนอนหลับตาพริ้มเหมือนเดิม ผมก็เริ่มลูบอีกครั้ง และผมก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังหายใจแรงถี่ขึ้นกว่าเดิม แต่เธอก็ยังหลับตาอยู่ตลอดเวลาจนผมเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอยังหลับอยู่จริงหรือเปล่า

        ผมกลัวว่าเธอจะตื่นมาเห็น แต่อีกใจก็รู้สึกหื่นจนหยุดตัวเองไม่อยู่ ผมตัดสินใจค่อย ๆ ล้วงมือสอดเข้าไปในกางเกงแล้วลูบเบา ๆ ตรงโคกโหนกนูนของโบกี้ แล้วผมก็พบว่ากางเกงในของเธอชื้นแฉะพอสมควร ยิ่งผมกดนิ้วบี้ใส่มากเท่าไหร่ กางเกงในของเธอก็ยิ่งแฉะกว่าเดิม และเสียงหายใจของโบกี้ก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ

        ผมขยำหอยเธอจนเพลินแล้วก็เริ่มขยับตัวเปลี่ยนท่า ผมใช้อีกมือค่อย ๆ เลิกชายเสื้อของเธอไปด้านบนช้า ๆ จนผมเห็นยกทรงสีสวยกับเนื้อขาว ๆ ของหนองโพไซส์ใหญ่ ผมกลืนน้ำลายดังอึกด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปวางลงตรงเต้านมของเธอแล้วลูบไล้เบา ๆ

        โบกี้กระตุกเบา ๆ เป็นระยะ ผมได้ยินเสียงเธอหอบหายใจหนักขึ้นและหนักขึ้น แล้วผมก็ล้วงมือมุดเข้าไปในยกทรงใช้นิ้วคลึงที่หัวนมสีชมพูอ่อน และตอนนี้หัวนมของเธอก็แข็งเป็นเม็ดแล้ว

        มาถึงขั้นนี้แล้วผมก็เริ่มรั้งยกทรงของเธอจนนมเต้าขาว ๆ ของเธอเด้งผึงออกมายั่วน้ำลายของผม มือซ้ายของผมยังคงคลึงอยู่ตรงหอยของเธอ ส่วนหน้าของผมกำลังก้มลงไปอ้าปากงับแล้วดูดเลียนมเต้าของโบกี้ด้วยความเอร็ดอร่อย

        ผมทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น ผมกลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมาด่า ผมเลยพยายามทำให้เบามือที่สุด แต่ยิ่งลวนลามผมก็ยิ่งตื่นเต้นจนทำหนักขึ้นเรื่อย ๆ โบกี้เริ่มบิดตัวไปมาพร้อมกับส่งเสียงครางดังขึ้น ตรงนั้นของเธอหลั่งน้ำออกมาจนกางเกงในเปียกชุ่มฉ่ำ ผมรู้สึกว่าผมคงทนความต้องการของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

        ผมอ้าปากปล่อยนมขาว ๆ แล้วขยับลุกขึ้นช้า ๆ เงียบ ๆ ผมมองโบกี้แล้วก็ตัดสินใจทำชั่ว ผมเอื้อมมือลงไปทำท่าจะถอดกางเกงของโบกี้ออกเพื่อเปิดทางสู่สวรรค์ แต่ผมยังไม่ทันได้เริ่มถอดผมก็ต้องชะงัก เพราะว่าผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

        โบกี้ยังนอนหลับตาไม่กระดุกกระดิกเหมือนหลับอยู่ก็จริง แต่ผมเห็นมือทั้งสองข้างของเธอกำลังจิกใส่ผ้าปูที่นอน และปกติแล้วถ้ากำลังนอนหลับคงไม่มีใครจิกกำมือแบบนี้ได้ ดังนั้นเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือตอนนี้โบกี้ตื่นอยู่ แต่ไม่ทราบว่าเธอตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่

        ผมนิ่งไปพักใหญ่ด้วยความลังเล ตอนนี้ผมหื่นเต็มที่อยากมีอะไรกับโบกี้อีกสักรอบ เพียงแต่ผมควรเดินหน้าต่อหรือเปล่า ถ้าผมเดินหน้าต่อแล้วโบกี้โวยวายขึ้นมา ผมจะแก้ตัวยังไง เธอจะโกรธผมหรือเปล่า

        แต่พอคิดอีกแง่ ผมไม่แน่ใจว่าที่โบกี้ยังไม่โวยวายมาตั้งแต่ตอนนี้ เป็นเพราะเธอเองก็อยากโดนด้วยหรือเปล่า อย่างน้อยตอนนี้ของเธอก็แฉะมากทีเดียว

        ผมนิ่งไปวูบใหญ่เพราะคิดไม่ตก ผมควรจะเดินหน้าลุยไปเลย หรือว่าควรจะหยุดแค่นี้ เพราะโบกี้อาจจะโกรธที่ผมเอารัดเอาเปรียบเธอ ... ผมควรเลือกแบบไหนดี ระหว่างหยุดแค่นี้ หรือเดินหน้าลุยต่อไปเลย
       


..........................................

เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

cookieai


kopXIIII

ไปให้สุดสิงานนี้
ลงมือแล้วอย่าถอย
ขอบคุณสำหรับผลงานครับ

suphason001


cd13579

ไอ้หนุ่ม รอบนี้เอ็งเดินเกมได้สุดติ่งมากวะยอมใจจริงๆ ::Cold:: ::Evil::
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

markat


patty88

คิดหนักจังเลย ลุย ลุย ลุย เอาให่เธอติดใจ 555555
ขอบคุณค่ะ

blurbird


medsay

 ::HoHo::จัดต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันคอย ฉันอยากให้น้ำแตกแล้วตอนนี้ อิอิ ขอบคุณครับท่านแอส

tacklove

ถ้าจะโกรธก็คงไม่มานอนข้างๆแบบนี้หรอกนะ ลุยเลยเพ่

sthanya


tripplet

เดาผิดไป .... งานนี้ ไม่อาจถอนตัวคับ ต้องเดินหน้าต่อไป เท่านั้น

kizzies


633sqd

ไปต่อเลย อย่าปล่อยให้ค้างคาเสียอารมณ์

navy868

ลุยให้สุดๆไปเลยครับ...มาจนขนาดนี้แล้ว