ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รักแรกเจอ 3

เริ่มโดย twintower, ตุลาคม 30, 2016, 05:06:23 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

ต่อในชุดลายพรางดิจิตอลพร้อมเครื่องสนามครบชุดก้าวลงจากรถฮัมวี่ก่อนจะเงยมองไปเห็นเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค ลำหนึ่งกำลังบินในลักษณะผาดแผลงกลางอากาศทำให้ทหารที่กำลังลงจากรถบัสและรถยีเอ็มซี ต่างแหงนหน้าดูกันทั้งหมด  ผู้บังคับการกรมทหารที่นั่งในรถคันหน้าเดินมาหาต่อ ก่อนชี้ไปที่คอปเตอร์ลำนั้นแล้วถามว่า

"คิดว่าแม็กหรือเปล่านั่น"

ต่อส่ายหัวก่อนตอบผู้บังคับบัญชาว่า

"ไม่รู้เหมือนกันครับพี่ แต่คงจะใช่"

"งั้นปล่อยให้ทหารดูก่อนแล้วกัน  เรียกรวมตอนนี้คงไม่มีสมาธิ แต่ใครจะกล้านั่งกับมันหว่า  อ้วกแตกแน่ถ้ามันบินแบบนี้"

ผู้บังคับการบอกกับต่อและบรรดานายทหารที่เดินเข้ามาใกล้  เพราะตอนนี้เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังมากรวมถึงทหารที่มาทั้งหมดต่างสนใจการบินกันทั้งหมด  ยิ่งบางคนไม่เคยเห็นการบินผาดแผลงมาก่อน แต่แล้วก็มีรถฮั่มวี่ที่หน้ารถมีเครื่องหมายดาวสองดวงวิ่งมา  ผบ.กรมรีบตะโกนสั่งทุกคนตรงทำความเคารพทันที  หลังจากรถจอดตรงหน้ามีนายทหารระดับพลตรีก้าวลงมา ซึ่งรับความเคารพก่อนบอกให้ทุกคนพักได้  และเดินตรงมาที่กลุ่มนายทหารแล้วบอกว่า

"ตามสบาย ไม่ต้องรีบ ให้ดูโชว์ก่อนแล้วค่อยเรียกรวม"

ก่อนหันมาบอกต่อว่า

"เป็นไงคุณพ่อสบายดีนะ"

"ครับท่าน  คุณพ่อสบายดีครับ"

ต่อตอบนายพลท่านนี้ที่เคยเป็นลูกน้องของพ่อตนเองมาก่อนแล้วนายพลท่านนั้นก็ชี้ไปที่แบล็คฮอว์คว่า

"ผู้พันแม็ค  กำลังบินโชว์ผาดแผลง ผมสั่งให้ซ้อมก่อนเพราะวันครบรอบกองบิน จะได้บินโชว์ต่อหน้า ผบ.มีนักข่าวมาทำข่าวด้วยเลยต้องโชว์ซะหน่อย"

ทุกคนต่างเงยหน้ามองตาม  ต่อเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิปไว้ตลอดรวมถึงทหารอีกหลายๆคน การบินโชว์ผาดแผลงแบบนี้ต้องใช้ทักษะและฝีมือของนักบินเป็นอย่างมาก จนเครื่องได้ร่อนลงบนรันเวย์ที่อยู่ห่างออกไป แต่ทหารที่มาต่างตบมือชื่นชมด้วยเสียงอันดัง  ก่อนที่นายพลท่านนั้นจะหันมาคุยกับต่อว่า

"แล้วน้องตาลละ"

"กำลังซนครับ  คุณปู่กับคุณย่าก็ช่วยกันเลี้ยงเวลาผมกับพิมมาทำงาน"

"อ้อ  ดีแล้ว จะได้ไม่เบื่อ อีกไม่นานผมก็เป็นแบบนี้อยู่บ้านเลี้ยงหลาน"

ก่อนที่จะหันไปทักทายนายทหารที่มาแล้วบอกก่อนที่จะไปขึ้นรถว่า

"เอ้าตามสบายนะ พักผ่อนกันก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเจอกันใหม่"

ทุกคนต่างทำความเคารพยืนส่ง แล้วหลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนที่ปฏิบัติก่อนที่จะสั่งให้ทหารแยกไปพักที่จัดเตรียมไว้ ระหว่างที่ต่อกำลังดูทหารเดินแถวไปที่พัก มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  และเบอร์ที่โชว์คือเพื่อนรักของตัวเอง

"มึงอยู่ไหน"

เสียงของแม็กถามเมื่อต่อรับ

"อีกฝั่งนึงของค่าย"

"อ้องั้นกูเห็นแล้วตอนบิน  งั้นมึงจัดการอะไรให้เรียบร้อยก่อน กูจะพาไปกินข้าว"

"เออๆได้  รีบๆมาก็แล้วกัน  พิมทำขนมเปี๊ยะฝากมาให้"

"เดี๋ยวชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ เยอะหรือเปล่า"

"ฝากมากล่องนึง  มึงมาดูเองว่าชิ้นเล็กชิ้นใหญ่"

"งั้นกูโทรไปถาม พิมก่อนว่าฝากมากี่ชิ้น เดี๋ยวมึงจะขโมยขนมกูไปกินก่อน"

"ไอ้นี่ แม่ง"

แต่แม็กวางสายไปแล้ว ผบ.กรมที่ยืนอยู่ข้างๆถามว่า

"แม็กหรือ"

"ครับพี่ เดี๋ยวนี้มันกวนตลอด สงสัยอารมณ์ดี"

ต่อตอบเพราะรู้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เพื่อนอารมณ์ดีได้ แล้วต่อได้ส่งคลิปที่พึ่งถ่ายนี้ไปให้น้องสาวคนเล็กทางไลน์แล้วพิมพ์ข้อความไปว่า

"จะส่งต่อให้ใครก็ได้นะ  ไม่สงวนลิขสิทธิ์ จะได้เห็นฝีมือของแม็กมันด้วย"

และน้องสาวคนเล็กส่งข้อความกลับมาว่า

"ได้ค่า  จัดให้งานนี้เราต้องร่วมด้วยช่วยกัน"

จนหัวค่ำแม็กขับรถมารับเพื่อนไปกินข้าวในตัวเมืองซึ่งระหว่างทางต่อได้โทรคุยกับลูกเพราะวันนี้พิมเข้าเวรกลางคืน ตาลอยากไปนอนกับอาแตน  แต่ต่ออยากให้ไปนอนกับปู่และย่าแต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ลูกไปนอนกับแตน ซึ่งต่อกำชับกับแตนว่าอย่าตามใจหลานให้มากเพราะรู้ว่าถ้าไปนอนกับแตนทั้งคู่จะเล่นกันจนดึกทำเอาแม็กหัวเราะตลอดที่ได้ยินพ่อกับลูกคุยกัน พอวางสายต่อบอกกับเพื่อนว่า

"มึงอย่าหัวเราะ  ไว้มีบ้างมึงจะรู้ และกูรู้นะว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น มึงจะว่ายังไง"

"อืมไม่รู้หวะ นันก็น่ารักดี  บอกตรงๆอย่าพึ่งตัดสินใจเรื่องแบบนี้ กูขอดูก่อนว่าจะไปกันได้หรือเปล่า"

แม็กตอบเพราะรู้ว่าเพื่อนรู้เรื่องนี้จากน้องสาวคนเล็กแน่นอน

"เออ ก็แล้วแต่นะ  น้องเค้านิสัยดีจริงๆเรียบร้อยด้วย  แม่ยังชมเรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้  แต่กูกับพิมเอาใจช่วย  เออพี่วิทเห็นมึงบินวันนี้แล้วบอกว่าถ้านั่งไปด้วยอ้วกแตกแน่ๆ"

"งั้นให้มานั่งกับกู จะจัดให้สมกับฐานะผู้การกรม"

"แล้วพอเครื่องลง มึงก็จะถูกพี่วิทไล่เตะ"

แม็กยิ้มเล็กน้อย  เพราะรู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองหวังดีกับตัวเองอย่างที่สุด จนการฝึกผ่านไปด้วยดีรวมถึงการบินโชว์ของแม็กที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่ได้ดูเป็นอย่างมาก  ซึ่งวันนั้นได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาชมการแสดงการบินด้วย ต่อได้พาพิมกับลูกชายมาดูด้วย  และได้ถ่ายภาพไว้เก็บจำนวนมากรวมทั้งรูปแม็กมีทั้งรูปเดี่ยวที่ถ่ายคู่กับหลานหลายรูป พอกลับกรุงเทพต่อได้นำภาพโพสลงเฟสบุ๊คพร้อมแท็กไปให้เพื่อน  โดยที่ไม่รู้ว่าเพื่อนรักของน้องสาวตนเองได้เซฟภาพของแม็กเก็บไว้หลายรูป  เพราะในเฟสของแม็กนั้นไม่ค่อยมีรูปของเจ้าตัว ส่วนใหญ่เป็นจะรูปของหมาที่เลี้ยงไว้ขนาดรูปโปร์ไฟท์ยังเป็นรูปชุดต่อพลาสติกจำลองที่แม็กเป็นคนต่อขึ้นมา

และตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งแม็กและนันต่างโทรหากันแทบทุกวันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จนแม็กไปญี่ปุ่นกับแม่ ช่วงนั้นแม็กไม่ค่อยโทรหาเธอเท่าไหร่นักแต่ไลน์มาคุยด้วย  แต่พอแม็กกลับมาทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันเลยเพราะงานของทั้งสองต่างเยอะ นันนั้นต้องรีบเร่งการเตรียมงานแต่งของเพื่อนรักที่ตนเองอยากให้ออกมาดีที่สุด  ส่วนแม็กนั้นมีราชการที่ต้องไปจังหวัดทางภาคเหนือ

เวลาที่ผ่านไปจนใกล้งานแต่งของต้องกับขิมเข้ามาทุกวัน นันที่จะเอารูปถ่ายพรีเวดดิ้งบางส่วนไปให้เพื่อนดูว่าจะเลือกรูปไหนไว้หน้างาน ซึ่งตอนแรกต้องกับขิมจะไปดูที่ทำงานของนัน  แต่แล้วต้องบอกว่าไม่สะดวก อยากให้เธอเอารูปมาให้ที่บ้านในวันหยุดและจะได้กินข้าวกันด้วย นันตอบตกลง  แต่จะขอเอารถไปเข้าศูนย์ที่อยู่ทางผ่านจะไปบ้านของต้อง แต่แล้วนันแทบจะโมโหเพราะช่างทางศูนย์แจ้งว่า รถมีปัญหาที่ระบบไฟต้องใช้เวลาซ่อมประมาณสองวัน เธอได้โทรไปหาต้องว่าเธอจะเข้าไปช้าหน่อยเพราะต้องหาแท็กซี่ไป เนื่องจากรถของเธอต้องจอดซ่อมที่ศูนย์แต่พอต้องถามว่าศูนย์อยู่แถวไหน พอนันบอกสถานที่ไป ต้องบอกมาว่า

"งั้นเธอรออยู่ที่นั่น เดี๋ยวจะให้แท็กซี่ไปรับถึงที่"

นันฟังเสียงเพื่อนตัวเองไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ก็นั่งรอตามที่เพื่อนบอกที่ศูนย์ระหว่างที่เธอกำลังจะโทรไปถามต้องให้แน่ใจว่าจะเอายังไง เบอร์โทรและรูปของแม็กที่เธอแอบเซฟจากฝีมือการถ่ายของต่อก็โชว์ขึ้นที่หน้าจอ

"ค่ะพี่แม็ก"

"นันอยู่ตรงไหนครับแล้วรถเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

เธอบอกสถานที่และเล่าอาการของรถและแม็กบอกกลับมาว่า

"นันรอพี่ไม่เกิน 10 นาทีนะครับ  พี่จะไปรับ เพราะพี่จะไปบ้านต่ออยู่พอดี"

ด้วยประโยคนี้ทำเอาหญิงสาวเผลอตัวยิ้มออกมาจากอารมณ์ที่เริ่มหงุดหงิดกลับกลายเป็นอารมณ์ที่เบิกบานแจ่มใสแทนไม่นานนัก แม็กโทรเข้ามาบอกให้เธอมายืนรอด้านนอกพอเธอไปยืนมีรถเก๋งคันสีดำที่เธอเคยเห็นมาจอดเทียบพร้อมกระจกที่เลื่อนลงมา แม็กที่อยู่ในชุดทหารและสวมแว่นกันแดด ชะโงกหน้าพร้อมพยักหน้าเรียกนัน  หญิงสาวพร้อมเอกสารที่ถือมาก้าวขึ้นรถทันที พอรถเคลื่อนตัวไปไม่เท่าไหร่ เธอหันไปมองชายหนุ่มอย่างเต็มตาก่อนทักว่า

"วันหยุดทำไมพี่แม็กแต่งเครื่องแบบคะ"

"พี่มีงานต้องทำพอดีนะ พอเสร็จแล้วจะเลยไปหาต่อมัน  ตั้งแต่กลับจากญี่ปุ่นพี่ไม่ได้ไปเลย ของฝากหลานก็อยู่
กับพี่กลัวตาลรอ"

"พี่แม็กรักน้องตาลมากเลยนะคะ"

แม็กยิ้มๆแต่ไม่ตอบอะไร แล้วนันก็นึกอะไรบางอย่างถึงถามไปถึงเรื่องตอนที่แม็กขับเฮลิคอปเตอร์ลงไปช่วยต่อ 
แม็กเงียบไปนิดนึงก่อนจะบอกว่า

"อยากรู้หรือ"

"ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่ต้องเล่าก็ได้คะ ถ้ามันเป็นความลับ"

แม็กยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะบอกสาวสวยที่นั่งข้างๆว่า อยากให้นันเก็บเรื่องนี้ไว้อย่าบอกใครเธอรีบรับคำแม็กบอกว่า วันนั้นอากาศปิดมาก ตัวเองก็กังวลกับอาการของเพื่อนที่ทางภาคพื้นดินรายงานมาว่าไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจบินวน จนน้ำมันเหลือที่จะบินวนได้ 10 นาที ทำให้ใจไม่ดี เพราะนึกไปถึงพิมที่กำลังตั้งท้องได้ 3 เดือนแม็คเล่าต่อไปว่า ตนเองกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นถ้าต่อเป็นอะไรไป แล้วเด็กที่จะเกิดมาละจะเป็นยังไงแล้วพิมละที่แม็กรักมากจนเป็นกองหนุนให้ทั้งสองได้แต่งงานกันจนจะมีทายาทแล้ว จะรับไหวหรือเปล่าสิ่งเหล่านั้นมันวนอยู่ในหัว  ทั้งๆที่รู้ว่าคนที่จะมาเป็นครอบครัวของทหารนั้นต้องเสียสละแต่เรื่องนี้แม็กไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวของเพื่อนรักทั้งสองแล้วแม็กย้อนนึกถึงช่วงเวลานั้น

เพื่อนที่มาเป็นนักบินผู้ช่วยในวันนั้นได้มองไปที่มาตรวัตรตรงหน้าก่อนหันมาบอกว่า

"เหลืออีกไม่ถึง 10 นาที นะจะเอายังไง"

แม็กที่หันมองไปรอบๆตอนนี้ทุกคนในเครื่องต่างมองมาที่แม็ก

"จะเสี่ยงไหม"

แม็กถามทุกคน เพื่อนที่นั่งด้านข้างพยักหน้า แม็กหันไปมองด้านหลังที่ช่างเครื่องสองคน

"ว่าไงจ่า"

"เอาครับผู้กอง ไหนๆแล้ว ผมเชื่อฝีมือผู้กอง"

ช่างเครื่องคนหนึ่งเป็นคนตอบพร้อมกับเพื่อนอีกคนที่พยักหน้าด้วยแม็กบอกให้ช่างเครื่องเตรียมรอก เผื่อนำเครื่องลงพื้นไม่ได้ก่อนที่ แม็กจะเริ่มลดระดับเครื่องลงพร้อมวิทยุลงไปทางภาคพื้นดิน

"ราชสีห์ 11จากอินทรีย์ 16"

"อินทรีย์16 จากราชสีห์ 11"

" ราชสีห์ 11จากอินทรีย์ 16 อาการของผู้กองเป็นยังไงบ้าง"

"อินทรีย์16 จากราชสีห์ 11เหมือนเดิมครับสลบเพราะมอร์ฟีน แต่เลือดยังไหลไม่หยุดถ้าอินทรีย์16 ลงจอดไม่ได้เราจะหามใส่เปลลงไปก่อนครับ  ถ้าอากาศเปิดค่อยดูอีกครั้ง"

"ทราบ ราชสีห์ 11 โชว์สโม๊คย้ำโชว์สโม๊ค"

"เอ่อ อินทรีย์16ทวนคำสั่ง"

" โชว์สโม๊ค"

"รับทราบ"

ช่างเครื่องทั้งสองต่างชะโงกไปนอกเครื่องเพื่อช่วยหาสัญญาณควันก่อนที่ช่างคนหนึ่งจะชี้ไปทางด้านขวา

"นั่นครับผู้กอง"

แม็กมองตามก่อนจะวิทยุไปว่า

"ราชสีห์ 11 จากอินทรีย์ 16 ควันสีแดงกับเหลืองใช่ไหมครับ"

"อินทรีย์ 16 จากราชสีห์ 11 ถูกต้องครับ"

"ราชสีห์ 11เคลียร์ลานจอดด้วยครับ"

"อินทรีย์ 16จากราชสีห์ 11รับทราบลมสงบนิ่ง ลานจอดเคลียร์แล้วครับ"

เสียงตอบกลับมาด้วยความดีใจที่ระงับไม่อยู่  แม็กจิกหัวเครื่องลงฝ่าหมอกที่หนาทึบไปทางสัญญาณควันที่ต้องดูให้ดีพร้อมกับนักบินผู้ช่วยที่ได้สอบถามทิศทางการลงจอดแทนแม็กที่ต้องใช้สมาธิอย่างมาก ก่อนที่จะนำเครื่องลงจอดที่ลานจอดโดยสังเกตจากแท่งไฟสีส้ม2 แท่งที่ทหารทางภาคพื้นดินเป็นคนส่งสัญญาณให้ลงจอดท่ามกลางเสียงถอนหายใจโล่งอกของคนในเครื่องพร้อมกับเสียงโห่ร้องของทหารในค่าย  แล้วทหารช่วยกันแบกร่างของต่อที่นอนไม่ได้สติบนเปลมาวางบนเครื่องพร้อมเสนารักษ์ที่กระโดดขึ้นก่อนตะโกนมาแม็กว่าไปเลยครับไปเลย รอไม่ได้แล้ว แม็กหันไปยกนิ้วโป้งให้ทหารที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณก่อนนำเครื่องขึ้นทันที ซึ่งระหว่างทางที่ไป ร.พ. เสนารักษ์ที่มาด้วยได้รายงานอาการของต่อกับหมอที่ ร.พ. ทางวิทยุแม็กนั้นเร่งเครื่องจนสุดกำลังก่อนนำร่างที่ไร้สติของเพื่อนไปส่งที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาล

"แล้วพี่ทำยังไงต่อคะ"

"พี่เอาเครื่องกลับค่าย ที่เหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของหมอ"

และแม็กนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นซึ่งพอเอาเครื่องลงจอดที่ค่ายทหาร นักบินผู้ช่วยที่เป็นเพื่อนเรียนเตรียมทหารมาด้วยหันมามองแม็ก ก่อนตบบ่าเพื่อนเบาแล้วยกนิ้วโป้งให้

"แม็กมึงนี่มือแน่จริงๆกูยอมรับในฝีมือ  เป็นกู กูไม่กล้าเอาเครื่องลงแน่นอนและกูรู้ว่ามึงห่วงไอ้ต่อ แต่กูเรียนมาพร้อมกับมัน เหมือนมึง  ต่อมันก็เพื่อนกูเหมือนกัน กูก็ห่วงมันไม่น้อยไปกว่ามึง แต่......."

"แต่อะไรวะ"

แม็กที่ตอนนั้นกำลังถอดหมวกนักบินออกพร้อมเหงื่อชุ่มหน้า  ซึ่งเกิดจากความเครียดหันไปถามเพื่อน

"มึงอย่าทำแบบนี้บ่อยๆ ตอนมึงจิกหัวเอาเครื่องลง หัวใจกูแทบร่วงไปถึงเท้า"

"ไอ้เวร"

แล้วแม็กหันไปมองที่ช่างเครื่องทั้งสองคน ที่พร้อมใจกันตบมือและยกนิ้วให้

"ผู้กองไม่ต้องพูดอะไรครับ  ผมกับเพื่อนดีใจด้วยกับสิ่งที่ผู้กองทำวันในนี้ และภูมิใจสุดๆที่ได้บินกับยอดฝีมืออีกคน"

ช่างเครื่องคนหนึ่งเป็นคนพูดแทนเพื่อน แม็กยิ้มรับคำชมเล็กน้อยก่อนลงจากเครื่อง  วีรกรรมในวันนั้นเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักบินของกองทัพบก,ทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ และคนที่นั่งฟังวิทยุตอนเกิดเหตุ  แม็กได้รับทั้งคำตำหนิและคำชมจากผู้ใหญ่พร้อมๆกัน แต่ทำให้หลายๆคนยอมรับในฝีมืออันแท้จริงต่างจากตอนแรกที่มีคนมองว่าแม็กเป็นนักบินได้เพราะลุงที่เป็นนายพลของกองทัพอากาศ ยังไม่รวมถึงหนังสือชมเชยจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมถึงการเลื่อนขั้นเป็นบำเหน็จให้สองขั้นและเจ้าหน้าที่บนเครื่องอีก 3คน ได้คนละขั้นครึ่ง

"แล้วพี่โทรมาบอกทางบ้านพี่ต่อ"

นันเป็นคนเอ่ยขึ้นทำให้แม็กหยุดคิดถึงเรื่องในครั้งนั้น

"เปล่าพี่ยอมรับใจพี่มันสั่นไม่กล้าโทร ทางแม่ทัพที่เป็นเพื่อนกับพ่อของต่อได้โทรไปบอกพ่อเอง วันรุ่งขึ้นแม่กับพิมบินมาแต่เช้า พี่ไม่ได้ไปรับเพราะมีบินตอนเช้า พี่มาเจอแม่ตอนบ่าย ตอนเย็นพ่อพาแตนกับต้องถึงมา พี่ตามแม่ทัพไปรับด้วย แตนกับต้องร้องไห้ตลอดทางที่พี่ขับรถพามาโรงพยาบาล"

แล้วแม็กเล่าให้นันฟังต่อไปว่า หลังจากนั้นที่ต่อกลับมารักษาต่อที่กรุงเทพจนอาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาล ช่วงนั้นแม็กรู้ดีว่าต่อเครียดมาก เพราะช่วยอะไรพิมมากไม่ได้ ทั้งเวลาที่พิมมาตรวจครรภ์ตามหมอนัด เพราะต่อคิดว่าถ้าตัวเองร่างกายปกติแล้วกลับมากรุงเทพนั้นต้องเป็นหน้าที่ของตนเอง แต่นี่กลับกลายเป็นหน้าที่ของน้องสาวไม่ก็ทางบ้านของพิมที่พาไป แถมพิมยังต้องเป็นคนพาต่อไปโรงพยาบาลแทน แม็กนั้นไม่รู้จะทำยังไงแต่เวลาที่ตนเองหยุดแล้วเวลาตรงกัน แม็กจะอาสารับหน้าที่พาต่อไปโรงพยาบาลแทน จะได้ไม่ลำบากคนที่บ้านของต่อ

"ต่อมันคิดไว้ตั้งแต่รู้ว่าพิมท้องว่าวันที่คลอดมันจะไปเฝ้าในห้องคลอด แต่นี่มันทำไม่ได้มันยิ่งเครียด ยิ่งวันคลอดตาลมันต้องไปทำกายภาพดีที่เป็นโรงพยาบาลเดียวกัน  พี่พามันไปเองพอเสร็จพี่ก็พามาที่ห้องพักเด็กแรกเกิดเพราะพิมคลอดแล้ว มันก็ได้นั่งรถเข็นแต่ชะโงกดูลูกผ่านกระจก  พี่เห็นมันน้ำตาซึมเลยพามันไปหาพิมที่ห้อง ยิ่งตอนพยาบาลพาตาลมากินนมแม่ มันยิ่งซึม เพราะมันคิดว่ามันควรจะได้ยืนอุ้มลูกออกจากเตียงที่เข็นมา แต่นี่พยาบาลต้องอุ้มให้พิมแล้วพิมส่งมาให้มันที่นั่งบนรถเข็นอุ้มอีกที มันน้ำตาคลอ ออกมา พี่ไม่อยากเห็นจะเดินออกแต่มันเรียกพี่ไว้ ก่อนมันจะบอกตาลไปว่า     ลูกรู้ไหมถ้าไม่มีอาแม็ก พ่ออาจไม่ได้มาอุ้มลูกในวันนี้  ก่อนที่มันจะส่งให้พี่อุ้ม  พิมก็นั่งน้ำตาไหลอยู่บนเตียงพอๆกับน้องสาวของมันทั้งคู่ พอพี่รับมาอุ้มพี่รู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้ทันทีเพราะมันคงเป็นตอนที่ขับคอปเตอร์เอาต่อมาส่งร.พ. พี่หันไปมองมันที่สลบอยู่และคิดไปว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมัน ลูกของมันที่เกิดขึ้นมาพี่จะรักและดูแลเหมือนกับลูกของตัวเอง มันเลยกลายเป็นพี่ตามใจหลานทุกอย่างเพราะพี่รักเด็กคนนี้มาก"

หญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอออกมาที่ได้ยินเรื่องของชายหนุ่มเล่าให้ฟัง

"มิน่าบ้านของต้องถึงรักพี่มาก"

"เพราะมีตาลมันเป็นแรงกระตุ้นอย่างนึงนะ ช่วงที่ต่อมันทำกายภาพจนหมอประหลาดใจว่ามันทำได้ดีเกินคาด เพราะหลังคลอดตาลไม่เท่าไหร่ พี่ก็ไปเรียนต่อด้านการบินที่สหรัฐตอน กลับมาต่อมันใช้ไม้เท้าช่วยเดินได้แล้ว"

น้ำเสียงของแม็กตอนนี้ดูขมขื่นแต่คนฟังยังไม่เอะใจและบอกกลับไปว่า

"ค่ะน้องตาลน่ารักมาก แล้วทำไมพี่แม็กถึงดูสนิทกับพี่พิมจังเลยคะ  เหมือนคนรู้จักกันมาก่อน"

นักบินหนุ่มยิ้มเล็กน้อยพร้อมพยักหน้าก่อนจะเล่าให้หญิงสาวสวยที่นั่งข้างๆว่า แม็กเองนั้นรู้จักกับพิมมาตั้งแต่ยังเด็ก เล่นมาด้วยกัน  พิมรู้จักกับคุณยายของแม็กเป็นอย่างดี  จนแม็กย้ายบ้านทำให้ไม่เจอกันอีก จนแม็กจนเรียนจบก็มาเจอพิมที่พึ่งเป็นพยาบาลเหมือนกันโดยที่เจอเพราะต่อชี้ให้ดูว่าสนใจพยาบาลคนนี้ตอนไปเยี่ยมญาติของต่อที่ไม่สบาย แม็กจำได้ว่าเป็นพิมเพื่อนสมัยเด็ก ตัวเองเลยเป็นพ่อสื่อจำเป็นให้ทั้งสองคนนี้  แม็กเล่ารายละเอียดให้นันฟังเพื่อให้เธอรู้ประวัติความเป็นมาของตัวเองกับครอบครัวนี้แล้วหญิงสาวหันไปมองที่เบาะหลังเพราะสายตาสะดุดอะไรบางอย่าง

"อุ๊ยพี่แม็กทำไมหุ่นยนต์ตัวใหญ่ยัง  สูงพอๆกับน้องตาลเลย"

สายตาของนันไปมองเห็นเห็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนเบาะพร้อมถุงกระดาษใบใหญ่สามสี่ถุงที่วางอยู่ใกล้ๆกันแม็กยิ้มๆแล้วบอกมาว่า

"เดี๋ยวพิมมันต้องบ่นแน่อน แต่ไม่เป็นไรมันไม่บ่นพี่กินข้าวไม่ลง"

นันได้แต่ยิ้มๆแล้วทั้งคู่ต่างไม่พูดอะไรกันอีก จนถึงบ้านที่ต้องรออยู่แล้ว ซึ่งทุกอย่างมันเกินความคาดหมายของแผนที่เธอวางไว้ซึ่งเธอได้วางแผนให้ทั้งคู่นี้มาเจอกันที่บ้าน   เธอถึงไม่ไปดูรูปตามที่นัดไว้ตอนแรกให้นันเอามาให้ดูที่บ้านแทนส่วนแม็กเธอแกล้งโทรไปทวงของฝากจากญี่ปุ่นแล้วบอกให้มาวันนี้  แต่แล้วรถของนันมีปัญหาเธอเลยจัดการให้แม็กมารับเพราะแม็กโทรมาบอกก่อนว่ากำลังมาซึ่งมันได้ผลเกินความตั้งใจของเธอ

"อ้าวแล้วขิมละ"

นันถามตอนลงจากรถ ส่วนแม็กนั้นกำลังเล่นกับบิงโกที่วิ่งมารับเหมือนทุกครั้ง

"วันนี้ไม่มา  ฉันจะเอาไปให้ดูพรุ่งนี้เอง แล้วรถเป็นอะไรมากไหม"

"ระบบไฟนะ สงสัยต้องเอารถพี่แนนไม่ก็ของแม่มาใช้ก่อน 2-3 วัน"

ต้องพยักหน้ารับรู้ก่อนเดินไปเกาะแขนเพื่อนพี่ชาย

"ไงวันนี้แต่งแบบนี้ละพี่"

"มีงานต้องทำ เสร็จแล้วถึงมาที่นี่  แล้วพ่อกับแม่ละ"

"อยู่ในบ้านนั่งรอลูกชายคนโปรดอยู่  ส่วนพี่ต่อพาตาลไปรับพี่พิมที่โรงพยาบาล พี่แตนไปเรียนแต่คงใกล้จะกลับมาแล้วจ้ะ"

แม็กไม่พูดอะไรก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านปล่อยให้สองสาวคุยกันต่อ พอเข้าไปถึงบ้านแม็กทำความเคารพประมุขของบ้านทั้งคู่ที่กำลังนั่งคุยกับแม่บ้านของบ้านนี้อยู่แล้วก่อนที่แม่จะพูดว่า

"มาให้กอดหน่อย ไม่เจอกันหลายวันแล้วคิดถึง"

แม็กตรงเข้าไปกอดผู้อาวุโสแล้วหันไปทักทายกับแม่บ้านก่อนที่ต้องจะพาเพื่อนเข้ามากราบพ่อกับแม่ต่อจากแม็ก แล้วเอารูปถ่ายงานพรีเว็ดดิ้งมาให้ทั้งหมดดูแต่ระหว่างดูภาพบิงโกเห่ารับซึ่งเป็นรถของต่อที่ขับเข้ามาพร้อมกับแตนที่เลี้ยวเข้ามาติดๆ

"มาไล่ๆกันเลย งานนี้บิงโกเหนื่อยแน่ เพราะไม่รู้จะรับใครดี"

ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ พร้อมกับเสียงของแตนที่หยอกล้อกับหลานรัก  ก่อนที่ทุกคนจะเห็นแตนอุ้มหลานเข้ามาในบ้าน แล้วพอเห็นคนที่นั่งในห้อง ร่างที่ถูกอุ้มก็ร้องออกมาว่า

"อาแม็ก"

แตนรีบวางหลานลงเพราะรู้ว่าไม่อย่างนั้นมีร้องแน่นอน ตาลวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มพร้อมกอดรัดแน่นด้วยความดีใจก่อนที่จะเหลือบไปเห็นอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"น้านัน"

แล้ววิ่งไปหา เพราะหญิงสาวมาบ้านนี้บ่อยจนทำให้เด็กน้อยเริ่มติด  นันจับตาลมานั่งที่ตัก แต่ทุกคนก็หันไปมอง
ตรงประตูเพราะต่อบ่นเสียงดังว่า

"เออ มาเอาตำราไปด้วย หนอยอ้างว่าจะอุ้มหลานแล้วทิ้งของทั้งหมดให้พี่"

ต่อที่ถือทั้งกระเป๋าโน๊ตบุ๊คและหนังสือ3-4เล่นเดินบ่นเข้ามาพร้อมพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนที่พิมที่อยู่ในชุดพยาบาลจะถามว่า

"ทำอะไรกันอยู่"

"ดูรูปถ่ายพรีเว้ดดิ้งคะพี่"

"ไหนๆๆๆ ดูมั่ง  ไปยืนตากแดดมาด้วยหลายวัน  สวยไหมนัน"

แตนเป็นคนพูดขึ้นพร้อมหันไปถามนัน

"พี่แตนดูก่อนดีกว่าคะ  นันให้ลูกน้องทำสุดฝีมือเลย"

พิมซึ่งเดินเข้าไปหอมแก้มมารดาสามีเพื่อเป็นการทักทายก่อนจะหันไปสบตาเพื่อนที่ยิ้มให้แล้วถึงหันไปดูรูปถ่ายกับทุกคนและแม็กหันไปพยักหน้ากับน้าขวัญที่เป็นแม่บ้าน บอกว่าให้ไปช่วยยกของที่รถด้วยกัน  ปล่อยให้ทั้งครอบครัวต่างดูภาพกันพอเดินเข้ามาแม็กได้ยินเสียงของพี่น้องสองสาวกำลังเถียงกันว่าจะเอารูปไหนไว้หน้างานดี แต่ต่อเงยหน้าขึ้นไปเห็นและแอบสะกิดลูกชายที่ตอนนี้เปลี่ยนมานั่งบนตักของต้องแล้วให้ดูของที่แม็กถือมา

"กันดั้ม"

เด็กน้อยร้องอย่างลืมตัวทำเอาทุกคนหันไปมองก่อนที่จะลุกจากตักของอาสาวพร้อมวิ่งไปที่แม็ก ใบหน้าแสดงความดีใจอย่างสุดขีดแล้วถามแม็กด้วยความดีใจว่า

"ของตาลหรือเปล่าครับ"

"ใช่สิครับ"

เด็กที่ได้รับการอบรมอย่างดียกมือไหว้ก่อนจะรับหุ่นยนต์ที่ตัวสูงพอๆกับตัวเองมากอดไว้ แล้วแม็กบอกว่า

"สัญญานะครับ"

"ครับตาลสัญญาว่าจะไม่ดื้อ" ก่อนจะที่หันเอาหุ่นมาอวดผู้เป็นพ่อ แต่แล้วเสียงของผู้เป็นแม่ก็ดังขึ้น

"แม็ก"

"เออๆๆ เอาน่า"

แม็กยกมือขึ้นห้ามพร้อมพูดต่อไปว่า

"ชั้นถาม คนขายแล้วและชั้นแน่ใจว่าพูดกับฟังภาษาญี่ปุ่นออก มันเหมาะกับเด็ก 5 ขวบถึง12 ขวบ ตาล 5ขวบแล้วเล่นได้"

"แต่ตัวมันใหญ่ไป"

"เออน่า ไม่มีปัญหาหรอก ตัวใหญ่แต่น้ำหนักไม่มาก ตาลเล่นได้ อย่าบ่นเลย"

พิมพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ใจรู้ดีว่าแม็กรักและตามใจลูกของเธอขนาดไหน  ทำไมคนเป็นแม่จะไม่ดีใจที่ลูกของตัวเองเป็นขวัญใจของคนทั้งบ้าน ทั้งปู่ย่าทั้งอารวมถึงญาติทางฝ่ายเธอด้วย  แต่เธอกลัวลูกจะนิสัยเสียไปเพราะถูกตามใจจากทุกคนนั่นเองแล้วแตนก็พูดกับหลานว่า

"แบ่งให้อาแตนเล่นด้วยคนนะ"

คำตอบที่ได้รับนั้นทำเอาทุกคนหัวเราะ เพราะกิริยาที่เด็กน้อยแสดงออกมาคือกอดหุ่นยนต์ไว้แน่นพร้อมส่ายหัว

"อ้าวเฮ้ยสหาย  ไหนวันนั้นบอกว่าจะแบ่งให้เล่นไง  ผิดคำพูดนี่"

แล้วแม็กหันไปหยิบถุงใบนึงที่แม่บ้านถืออยู่ก่อนเดินไปหาผู้เป็นมารดาของเพื่อน

"คุณแม่ครับ  ของฝากจากญี่ปุ่น"

"โธ่ลูกไม่ต้องก็ได้  ซื้อให้หลานก็พอ"

ผู้เป็นแม่บอกพร้อมหยิบของจากถุงออกมาแล้วหัวเราะด้วยความดีใจ  กับสิ่งของชิ้นนั้นเพราะคือกระเป๋าถือและให้ศีลให้พรกับเพื่อนของลูกชายก่อนที่แม็กจะหยิบกล่องออกจากถุงอีกใบหนึ่งแล้วยื่นให้ผู้เป็นพ่อ

"อันนี้ของพ่อครับ  นาฬิกากันน้ำกันเหงื่อได้อย่างดีครับและน้ำหนักเบาด้วยแม็กซื้อแบบนี้มาฝากคุณลุงดรับเวลาไปตีกอล์ฟก็เอาไปอวดกันนะครับ"

แล้วหันไปทางพิมที่ยืนมองลูกชายที่กำลังเห่อกับของเล่นชิ้นใหม่อยู่

"อ๊ะอันนี้ของคุณแม่พิม  สงสัยที่ตาขวางเมื่อกี้เพราะอิจฉาลูกที่ไม่ได้ของฝาก"

พิมรับไปอย่าง งงๆ และหยิบขึ้นมาดูก็เป็นกระเป๋าถือเช่นกัน  แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เสียงของแตนก็ดังขึ้นมา

"แล้วของน้องละ"

แม็กยิ้มพร้อมส่งกล่องใบใหญ่ไปให้ทั้งสองคนพร้อมกันแล้วบอกว่า

"ไม่ต้องแย่งกัน  เหมือนกันทั้งคู่  แตนไม่ต้องเสียสละให้น้องเหมือนตอนเด็กๆ"

ทั้งคู่ต่างอุทานเพราะเป็นชุดเครื่องสำอางอย่างดี แต่แม็กก็เอาถุงใบอีกใบหันไปหาแม่บ้าน

"น้าขวัญครับนี่เป็นชุดบำรุงผิว ทำกับข้าวอร่อยๆบ่อยๆแล้วมือจะด้านเอาชุดนี้ไปใช้ครับ  ทางร้านบอกว่าให้ทาก่อนนอนครับ  ส่วนที่เหลือไม่รู้ ถ้าสงสัยแม็กจะถามแม่ให้ก่อน  แม็กจำได้เท่านี้  และถุงใบนี้ขนมเอาแบ่งให้เด็กๆด้วยนะครับ"

แล้วหันมาที่ต้อง  พร้อมส่งให้อีกถุง

"เอาขนมตามที่ขอ  แต่อย่ากินคนเดียวแบ่งคนอื่นด้วย"

"ค้าขอบคุณพี่มากเลย  ได้ของถูกใจเนอะพี่แตนเนอะ"

"ใช่แล้ว พี่แม็กน่ารักจังเลย "

ขณะที่ทุกคนในบ้านต่างของคุณแม็กและดีใจกับของฝากสายตาของแม็กชำเลืองไปที่หญิงสาวที่นั่งดูทุกคนชื่นชมกับของฝากที่ได้มา และพอไปเจอกับสายอีกคู่หนึ่งที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว แม็กพูดไปว่า

"ส่วนมึง  ให้ขอลูกแบ่งกันดั้มเล่น"

"กูยังไม่ทันพูดอะไรเลย เฮ้ย"

ต่ออุทานพร้อมยื่นมือไปรับกล่องที่แม็กโยนมาให้อย่างว่องไว

"อะตอนไปฝึกกับกูเห็นบ่นว่าทำเจ๊งไปเรือนนึง กูเลยแวะสำเพ็งซื้อมาให้  3 เรือนร้อย กันอะไรไม่ได้เลยยกเว้นกันขโมย เพราะมันไม่รู้จะขโมยไปทำไม"

ต่อแกะกล่องดูและพบกับนาฬิกาที่ใช้สำหรับเดินป่าอย่างดีแล้วบอกกับเพื่อนว่า

"ขอบใจโว้ย"

ก่อนที่จะส่งให้ผู้เป็นพ่อดู

"อะเสร็จแล้ว น้าขวัญกับข้าวเสร็จแล้วใช่ไหมครับ  ตั้งโต๊ะเหอะ แม็กหิวแล้ว มีอะไรกินมั่งครับ"

"คะๆๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วรอให้สั่งตั้งโต๊ะอยู่ มียำปลาสลิดของโปรดคุณแม็กด้วยคะ  น้าตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือเลยคะทอดให้อย่างกรอบ"

แล้วแม่บ้านก็รีบเดินไปที่ครัว ส่วนแม็กทำอย่างทุกครั้งคือประคองผู้เป็นแม่ของเพื่อนไปที่ห้องอาหาร  ต่อหันมาบอกกับน้องสาวทั้งคู่ว่า

"ไปเหอะ  เรามันแค่ผู้อาศัย มันเป็นเจ้าของบ้าน  นับมันมันยิ่งกวนขึ้นทุกวัน ไปนันเชิญครับ ไปกินข้าวกันก่อน ยังมีเวลาคุยเรื่องรูปอีกเยอะ"

"มันมีอะไรที่ทำให้มันอารมณ์ดีหรือเปล่า"

พิมกล่าวอย่างมีนัยก่อนจะมองไปที่สามีแล้วยิ้มๆพร้อมกับจูงลูกชายที่ยังอุ้มตุ๊กตาไม่ยอมปล่อย บนโต๊ะอาหารแม็กนั่งตรงข้ามกับนันเหมือนเมื่อครั้งก่อนระหว่างนั้น ต้องซึ่งนั่งข้างๆสังเกตอาการของเพื่อนออกว่าดูผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้ของฝาก  เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมพิมพ์ข้อความส่งไปทางไลน์ถึงเพื่อนว่า

"อย่าทำหน้าเสียสิ  ของฝากของเธอนะมีอยู่แล้วเชื่อฉัน  พี่แม็กไม่กล้าให้ต่อหน้าคนอื่นรับรองได้"

นันก้มลงอ่านข้อความที่เพื่อนส่งมาโดยไม่กล้าหันไปมองเพื่อน  ใช่สิเธอรู้สึกน้อยใจเล็กน้อยได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า พึ่งรู้จักกันแถมยังไม่ได้เป็นอะไรกันใครจะซื้อของฝากให้  แล้วพิมก็ถามเพื่อนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอยู่ว่า

"ใครเลือกของให้ละ  อย่างแกเลือกเครื่องสำอางค์เลือกกระเป๋าไม่เป็นหรอก"

"ใช่ ชั้นเลือกนาฬิกากับหุ่นยนต์เท่านั้น  ส่วนที่เหลือแม่กับคุณยายนะช่วยกันเลือก  ชั้นได้แต่เดินตาม"

"แล้วแกซื้ออะไรมาบ้าง"

"แหมไปถึงถิ่นทั้งที ชั้นก็เอาโมเดล มา5-6 กล่อง  ตลับเกมส์เพลย์อีก 10 กว่าตลับ"

"แล้วคุณยายเป็นยังไงบ้างลูก"

คราวนี้ผู้เป็นแม่เป็นคนถาม

"อืมม ตามอายุนะครับแม่  เรื่องความดันนะครับ  แม่อยากให้มาอยู่ที่เมืองไทย  แต่คุณยายอยากอยู่ที่ญี่ปุ่น"

"แล้วแม็กว่ายังไงละ"

"แม็กอยากให้คุณยายอยู่ที่นั่นครับ  อากาศดีกว่าที่นี่เยอะการเดินทางเข้าโตเกียวก็สะดวก ขับรถถ้าไม่ติดก็ 45 นาที รถไฟก็ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และญาติทางนั้นก็ดูแลคุณยายอย่างดีครับ มาที่นี่กลัวเรื่องมลพิษ จะทำให้คุณยายไม่สบายมากขึ้น"

"ก็ให้อยู่สวนที่เชียงใหม่สิวะ"

ต่อเป็นฝ่ายพูดขึ้น

"เรื่องใหญ่เลยนะนั่น  ต้องสร้างบ้านใหม่พร้อมปรับปรุงพื้นที่อีกเยอะ  ตอนนี้มีมันแค่บ้านหลังเล็กๆของคนดูแลเท่านั้น  จะไประยองก็ร้อนตาย  อยู่ที่นั่นนะดีแล้ว"

"อืมพูดถึงระยองไม่ได้ไปนานแล้ว"

"ก็ไปดิ  อาทิตย์หน้าว่างไม่ได้ไปไหน  ขับรถไปเช้าเย็นกลับก็ได้  หลานจะได้ไปวิ่งเล่นที่นั่น"

"เออ น่าสนอาทิตย์หน้าพิมลงเวรหรือเปล่า ถ้าไม่มีจะได้ไปกัน"

"ไม่มีนะ"

พิมตอบสามี แต่แตนพูดขึ้นมาว่า

"อาทิตย์ หน้าแตนมีเทส"

"ไม่ไปก็ไม่เป็นไร  สวนพี่จะได้ไม่พังคราวก่อนก็เกือบล้มต้นเงาะไป4-5ต้น"

"บ้าแค่ต้นเดียวเอง เนอะต้องเนอะ"

"ต้องชวนขิมไปด้วยก็ได้ แล้ว......."

แม็กหันไปพูดกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก่อนที่ต้องจะเป็นฝ่ายพูดก่อนว่า

"นัน ถ้าไปได้ก็ไปนะ "

"คะพี่"

เจ้าตัวตอบพร้อมก้มหน้าเพื่อจะซ่อนอาการดีใจ แต่ทำให้คนที่นั่งข้างๆแม็กเฉลียวใจอะไรบางอย่างแต่ไม่พูดอะไรขึ้นมาจนต่อบอกว่า

"ไปกันหลายคน เอารถตู้ไปแล้วกัน  ไม่ค่อยได้ใช้อยู่ด้วย  พ่อไปด้วยกันนะครับ"

"ไม่เป็นไร  พ่อมีนัดตีกอล์ฟแล้วจะได้เอานาฬิกาไปอวดด้วย รุ่นนี้ยังไม่มีขายในเมืองไทย  ส่วนแม่จะไปงานบวชลูกชายเพื่อนไม่ต้องห่วงเรื่องขับรถ  พ่อขับไปส่งแม่ก่อนขากลับก็แวะรับ"

แล้วทุกคนก็นั่งคุยกันเรื่องทั่วๆไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวทั้งสองคนโต๊ะทานข้าวจะมีความรู้สึกที่ต่างกันออกไปพอทานเสร็จนันได้เดินไปที่ห้องรับแขกและรู้สึกสะดุดตากับกรอบรูป 3อันที่มาตั้งใหม่อยู่หลังตู้โชว์เลยเดินไปดูใกล้ๆรูปแรกเป็นรูปครอบครัวต่อ 3คนพ่อแม่ลูกยืนอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์ ส่วนอีกรูปมีแม็กที่อยู่ในชุดนักบินมาร่วมด้วยและเป็นคนอุ้มตาล และรูปสุดท้ายเป็นรูปตาลที่นั่งบนเก้าอี้นักบินมือกำลังจับคันบังคับพร้อมสวมหมวกนักบินหันหน้ามาทางกล้องด้วยใบหน้าที่หัวเราะแสดงความดีใจอย่างมาก  พิมเห็นว่านันกำลังยืนดูอย่างสนใจเลยเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วชี้ไปที่รูปสุดท้ายก่อนพูดว่า

"หมวกจะปิดหน้าอยู่แล้ว แต่ชอบมาก กลับมาถึงบ้านนอนละเมอไม่หยุด รูปพวกนี้มี 2ชุดนะ  ชุดนึงอยู่ที่บ้านพี่อีกชุดตาลบอกให้มาตั้งที่นี่ เค้าอยากโชว์ว่าอาเค้าเป็นนักบิน แทบจะไม่ยอมลงจากเครื่องบินชอบใจมาก"

"วันที่พี่แม็กบินโชว์ใช่ไหมคะ"

"จ้ะ  พอจะรู้ว่าได้ไปดูไม่ยอมนอนเลย พอขากลับหลับปุ๋ยตลอดทาง มาถึงบ้านนอนละเมออีก"

พิมพูดต่อมาว่าแม็กตามใจหลานเกินไปยิ่งช่วงที่ตาลเริ่มรู้เรื่องถ้าแม็กพาไปข้างนอกพิมต้องตามไปด้วย ไม่อย่างนั้นตาลจะมีของเล่นติดมือกลับมาทุกครั้งจนของเล่นเต็มห้องถึงตามไปขวางไม่ให้ซื้อมาหลายครั้ง ไม่รวมคนในบ้านนี้ตามใจกันทุกคนโดยเฉพาะแตน และยังที่บ้านของพิมอีกทั้งตาทั้งยายก็ใช่ย่อย จะดุลูกมากก็โดนผู้ใหญ่ว่าแต่ดีอย่างที่ตาลไม่ดื้อมีซนบ้างตามประสาเด็กแล้วเธอก็ถอนหายใจ

"ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าค่ะพี่พิม"

นันพูดให้กำลังใจจนได้เวลาจะกลับ  ต้องได้บอกกับแม็กว่า

"พี่แม็ก  ต้องฝากเพื่อนไปด้วยนะ"

"ไม่ต้องเกรงใจพี่เค้า  เดี๋ยวเรากลับแท็กซี่"

"ไม่เป็นไรพี่ไปส่งได้ครับ ไหนๆรับมาแล้ว"

ประโยคที่ได้ยินนี้มันเหมือนเอามีดไปเฉือนหัวใจของแตน เธอล่ำลาทั้งสองหลังจากที่ทั้งคู่ได้ไปลาพ่อกับแม่แล้วและแอบมองทั้งสองที่ขับรถออกไป  คืนนั้นให้ห้องนอน แตนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาเธอไม่เคยโทษใครทั้งนั้นแต่รู้สึกใจหายกับผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบมานานจะมีทีท่าสนใจเพื่อนของน้องสาวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและนันมีทีท่าที่แอบสนใจแม็กอยู่เช่นกัน แตนได้แต่หวังว่าจะถอนหัวใจที่ยังแอบชอบแม็กของตัวเองที่ยังหลงเหลือออกมาให้หมดในเร็ววันนี้แต่ตอนนี้เธอต้องขอทำใจก่อน

ระหว่างทางกลับบ้านของนัน  ช่วงที่รถติดไฟแดงแม็กได้หยิบกล่องที่วางอยู่ในช่องใส่ของตรงประตูด้านคนขับแล้วส่งให้หญิงสาวที่ทำหน้า งงๆพร้อมบอกว่า

"ของฝากจากญี่ปุ่นครับ ลองเปิดดูไม่รู้ถูกใจหรือเปล่า"

เธอรีบเปิดกล่องดูและพบกับนาฬิกาของผู้หญิงเรือนงามปรากฏอยู่ในกล่อง

"พี่แม็กคะ"

"รับไว้เหอะครับ  ถือเป็นของขวัญสำหรับมิตรภาพของเรา  พี่ไม่แน่ใจนะว่าจะหลวมไปหรือเปล่า ไม่ได้ตัดสายมา ถ้าหลวมก็เอาไปตัดสายแล้วกัน"

หญิงสาวเอานาฬิกาขึ้นมาดูด้วยความรู้สึกที่ที่ปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก  เพื่อนเธอเดาได้ถูกจริงๆ แล้วเธอลองสวมปรากฏว่าพอดีกับข้อมือที่เรียวเล็กของเธอ

"ขอบคุณนะคะ"

แล้วเธอก็นึกไปถึงคำพูดที่พึ่งผ่านมาว่าแม็กเป็นคนเลือกนาฬิกาเอง ทำให้คนที่ได้รับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก จนกลับไปถึงบ้านเธอโทรไปบอกต้องทันทีว่าเพื่อนทายถูกทำให้ต้องแสดงความยินดีกับเพื่อนและบอกว่าเธอกับแตนยังได้แค่เครื่องสำอางค์แต่นันได้นาฬิกาคงเดาได้นะว่าใครสำคัญกว่ากัน แต่ต้องไม่ได้บอกว่าหลังจากที่ทั้งคู่กลับไปแล้ว เธอถูกพี่ชายเขกหัว 1 ทีพร้อมบอกว่า

"เจ้าแผนการนักนะ อย่างนึกว่าพี่กับพิมไม่รู้"

"นิดนึงน่า พี่ต่อจะได้อุ้มหลานลูกพี่แม็กไวๆไง"

จนถึงวันที่ทุกคนไประยองแตนได้ทำหน้าชื่นอกตรมตอนส่งทุกคนขึ้นรถตู้ที่ต่อเป็นคนขับ นันเอารถมาจอดไว้ที่นี่ก่อน ต่อบอกทุกคนว่าแม็กไปถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วเห็นบอกว่าจะไปเตรียมบ้านไว้ก่อน แต่พอจวนจะถึงพิมโทรเข้าไปแล้วแม็กไม่รับสาย ต่อบอกว่าแม็กอาจเดินดูสวนอยู่เลยขับรถเข้าไปที่สวน  บรรยากาศสวนนั้นรื่นรมย์ ต่อจอดรถไว้ข้างรถของแม็ก ติดๆบ้านไม้ผสมคอนกรีตสองชั้นที่ดูกลมกลืนกับบรรยากาศคนดูแลสวนพร้อมภรรยาออกมาต้อนรับ เพราะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าต่อจะมาหลังจากทักทายพร้อมช่วยกันขนของที่เตรียมมาไปไว้ในครัว

"ลุงกิ่งแล้วแม็กละ"

"นั่นนะซิครับคุณต่อ  ผมนึกว่าอยู่ข้างบน  เมื่อเช้ามืดผมก็เห็นแกเดินรอบๆบ้านอยู่นะครับ"

"มันไปไหนหว่า โทรมาก็ไม่รับสาย"

ต่อพึมพำออกมา ส่วนนันกับขิมที่มากันครั้งแรก ต่างชื่นชมกับบรรยากาศอันร่มรื่นและเงียบสงบของสวนแห่งนี้

"น่าอยู่จังคะพี่พิม ร่มรื่นมากเลย"

"ที่เชียงใหม่ สวยกว่านี้จ๊ะ  แต่บ้านหลังเล็กมาก"

"พี่เคยไปกี่ครั้งคะ"

"ครั้งเดียว ส่วนที่นี่มา 3-4 ครั้งแล้ว  ไปเดินดูรอบๆก่อนก็ได้ จะให้ต้องเดินเป็นเพื่อนก็ได้ "

"ไม่เป็นไรคะ  นันเดินดูรอบๆแค่นี้ เดี๋ยวกลับมาช่วยคะ"

"โอ๊ยไม่ต้อง  ไม่มีอะไรให้ทำ  แต่ไอ้ตัวดีมันหายไปไหนนี่"

ประโยคหลังพิมบ่นออกมาเพราะยังไม่เห็นแม็ก ส่วนต่อพาลูกขึ้นไปหาที่ชั้นบนแล้วบอกว่าไม่เจอตัว เจอแต่โทรศัพท์และเกมส์เพลย์ที่วางอยู่  นันออกไปเดินดูรอบๆบ้านแล้วไปเห็นศาลาที่ปลูกอยู่ใกล้ๆกับสระที่ใช้เก็บน้ำ นันเห็นว่าน่าสนใจจึงเดินเข้าไปใกล้ๆศาลา  และเห็นว่ามีร่างหนึ่งนอนอยู่บนม้านั่งตัวยาวในศาลา เธอรู้สึกแปลกในพอเข้าไปดูใกล้ๆเห็นเจ้าของสวนกำลังนอนตะแคงกอดอกอยู่บนม้านั่งตัวยาวนั้น ดูเหมือนแม็กจะหลับสนิท เธอเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วเห็นเรือบังคับวิทยุ 2 ลำวางอยู่บนพื้น และแม็กดูเหมือนหลับสนิทจริงๆ    ด้วยความที่เผลอตัวหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นก่อนก้มหน้าไปจนเกือบชิดใบหน้าของชายหนุ่ม ขนตาดกเป็นแพรนั้นดูน่าดึงดูดมากในเวลาที่เจ้าของหลับ ใบหน้าที่ขาวละเอียดเธอเผลอมองอย่างหลงใหลจนเกือบจะเอามือไปสัมผัสที่ใบหน้านั้น แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน

"บ้าจริง  เราจะทำอะไรลงไปนี่ อยู่ดีมายืนมองคนนอนหลับ"

แล้วนันที่รู้สึกเขินอายในพฤติกรรมของตัวเองก่อนที่จะเดินหนีกลับไปที่บ้าน  แม็กค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมได้กลิ่นหอมจากร่างที่มายืนใกล้ๆเมื่อครู่ แล้วมองตามเห็นนันกำลังเดินตรงไปที่บ้าน  ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งมองหญิงสาวที่เดินเลี้ยวไปทางหน้าบ้าน  พอเข้าไปในบ้านนันได้ยินเสียงของพิมที่บ่นพึมพัมพร้อมเสียงหัวเราะของต้องกับชิม พอนันก้าวเข้าไปข้างในต้องหันมาเห็นก่อนที่จะยื่นกระดาษในมือให้ หญิงสาวก้มไป พบกับลายมือที่หวัดเขียนไว้ว่า

"ไม่ต้องตามหานะ  นอนอยู่ที่ศาลาริมสระ  แล้วไม่ต้องไปปลุก  ทำกับข้าวเสร็จแล้วปลุกได้ ของกินเตรียมไว้ให้
แล้วอยู่ในตู้เย็นกับตู้กับข้าว มีปัญหาปรึกษาผู้ชำนาญการท้องที่ ลุงกิ่งกับป้าชื่น"

นันถึงกับอมยิ้มในความขี้เล่นของชายหนุ่มก่อนที่พิมจะถามว่า

"นันเห็นแม็กไหมแล้วดูมัน เอากระดาษแปะไว้หน้าตู้เย็น"

"อืมมมมมม  น่าจะนอนที่ศาลาจริงๆนะคะ แต่นันไม่แน่ใจเพราะมองเห็นอยู่ไกลๆ"

นันบอกกับพิมไปอย่างนั้นซึ่งมันไม่ตรงไปทั้งหมดใครจะกล้าเล่าความจริง

"อืมมันน่าจริงๆ   สงสัยพ่อกับลูกเล่นเกมส์อยู่ข้างบนแน่  เสียงดังลงมาข้างล่าง"
แล้วมีเสียงที่ดังจากข้างหลังของนันที่บอกมาว่า

"บ่นอะไรหรือ"

"อ้าวตื่นแล้วหรือพ่อ"

"เสียงบ่นดังไปถึงศาลา เลยตื่น คนจะหลับจะนอน เมื่อคืนเล่นเกมส์ทั้งคืนเลยไม่ได้นอน"

แม็กพูดแบบยั่วเพื่อนก่อนที่จะหันไปทักคนที่เหลือแต่ไม่ลืมมองไปข้อมือของนัน ที่สวมนาฬิกาเรือนใหม่ที่ตนเองซื้อให้มาด้วย หญิงไม่กล้าสบตาได้แต่มองไปทางอื่นเพื่อไม่อยากให้มีพิรุธเกิดขึ้นให้ใครเห็นรวมถึงอายกับพฤติกรรมของเจ้าตัวกับเรื่องที่พึ่งผ่านมา  แล้วมีเสียงดังของสองพ่อลูกที่ก้าวลงบันไดมา

"อาแม็ก"

แม็กเดินเข้าไปอุ้มหลานขึ้นมาทันที เด็กน้อยกอดคออาไม่ยอมปล่อย

"กันดั้มเป็นยังไงบ้างครับ"

"คุณแม่ไม่ให้เอามาด้วย"

เด็กน้อยตอบเหมือนฟ้องไปด้วย

"ก็ดีแล้ว เอามาทำไม มาที่นี่เราต้องไปเล่นเรือบังคับวิทยุ  ว่าแล้วไปกันเลย"

"เรือบังคับ"

ตาลพูดด้วยความดีใจก่อนที่แม็กจะอุ้มหลานเดินออกไปนอกบ้านที  ต่อหันมามองพิมแล้วบอกว่า

"ลูกไปเล่นริมน้ำที่สระต้องไปดูนะ"

แล้วต่อก้าวยาวๆตามเพื่อนกับลูกไปทันที  พิมส่ายหัวก่อนหันมาบอกที่เหลือ 

"อ้างลูก แต่ตัวเองก็อยากจะเล่นด้วย  ไปเดินดูอะไรก่อนก็ได้พี่กับป้าชื่นเตรียมทางนี้เองไปเหอะไม่ต้องห่วง"

แต่หญิงสูงอายุที่ทำหน้าที่ดูแลสวนบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องห่วงจะจัดการให้ทั้งหมด เพราะของเตรียมทำไว้เกือบหมดแล้ว พิมเลยพาทั้งหมดออกไปข้างนอก และได้ยินเสียงจากบริเวณศาลาริมสระที่ตาลกำลังสนุกเต็มที่กับการเล่นเรือบังคับ

"สนุกสนานกันใหญ่"

พิมหันมาบอกกับนัน ต้องจูงมือเพื่อนสาวแล้วพาไปที่ศาลาพร้อมกับหันมากระซิบกับเพื่อนว่า

"นาฬิกาสวยจัง ใครซื้อให้น้า"

"บ้า เดี๋ยวใครได้ยิน"

ต้องขยิบตาให้เพื่อน แล้วทั้งหมดมายืนดูการแข่งเรือบังคับวิทยุระหว่างพ่อกับลูก โดยมีเจ้าของสวนนั่งประคองหลานชายอยู่ในศาลา หญิงสาวเผลอชื่มชมไปบุคลิกที่ดูสบายๆของแม็กอย่างไม่รู้ตัวซึ่งไม่พ้นการสังเกตจากสายตาอันคมกริบของพิม วันนั้นทุกคนได้รับความสนุกอย่างมากแม็กทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านอย่างดี จนเย็นแม็กอุ้มตาลที่หลับไปเพราะความเหนื่อยจากการที่เล่นมาทั้งวันไปที่รถตู้ นันได้เดินมาพร้อมๆกัน

"พี่แม็กกลับวันนี้เลยหรือเปล่าคะ"

"ยังครับ พี่กลับพรุ่งนี้ อยากนอนเล่นอีกคืน พี่ชอบที่นี่มากอากาศดี แถมไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่"

"บ้านน่าอยู่จังคะ"

"ครับ"

ซึ่งคำตอบที่ออกจากมันตรงกับข้ามกับความคิดที่คิดไปว่า

"ถ้าอยากมาอยู่จริงๆ ก็มาเป็นสะใภ้บ้านพี่สิครับ"

นี่คือสิ่งที่นักบินหนุ่มคิดแต่ไม่กล้าพูดออกไป แม็กยืนส่งแขกจนรถเลี้ยวออกไปก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่บ้านและช่วงดึกมีไลน์ส่งมาจากนันว่า

"ถึงบ้านและค่ะ วันนี้สนุกมากขอบคุณมากนะคะ"

ด้วยประโยคเพียงเท่านี้ก็ทำให้ชายหนุ่มหลับได้อย่างเป็นสุข

dwarf

ขอบคุณครับ...เนื้อเรื่องกุ๊กกิ๊ก  ใส ใสดีครับ

bluesky11

อ่านแล้วไม่เครียดดีครับ ครอบครัวต่อก็น่ารัก  ลุ้นอย่างเดียวให้แม็กกับนันลงเอยกันเร็ว ๆ ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะครับ

areja

 
การตอบ รีพลายอย่าง พอเหมาะพอควรถ้าเจ้าของกระทู้แจ้งมา จะพิจารณา เป็นรายกรณี

ถ้าตอบ เช่น zzzzddd xxxx2222 อิอิ,ลุ้นๆ,555, ดีดี,ดี, ต่อ,ติดตาม,ty,thx,thx kub(Thx ขี้หมาThanx พิมพ์ไม่ถูก
ห้ามใช้ทุกกระดานที่ ฉันดูแล
),ใจจร้า,ใจครับ,แจ่ม,เยี่ยม,สนุกดี,สุดยอด,อ่านต่อ,Good (เฉยๆ)
emo เปล่าๆ
อาจเตือนเห็นอีก ถ้าเตือนไปแล้ว ผิดซ้ำซากก็จะแบนเหมือนกัน รีพลายตอบซั่วๆ ตอบแล้ว mod ไม่เข้าใจ จะโดนแบน
รีพลายมักง่ายต่างๆ จะแบนครั้งแรก 6 เดือน คราต่อไป แบนยาวขึ้น แล้วจะหายเมื่อไม่ปรับปรุง

พวก ก๊อปตอบ รัวๆรวดเดียวเป็น 10 กระทู้ โพสต์ละ 1 นาทีนะ เจอจะ แบน ถ้ามักง่ายเช่นนี้ ถือว่าไม่ให้เกียรติ์
คนแบ่งปัน/ คนลงงาน..พวกเปิดรัวๆ ประโยคเดียวเป็น 10 มันควรหรือ? ตอบซ้ำมาหลายครัง ในกระทู้เดียวกัน
อาจโดนพักใช้ได้เหมือนกัน และห้ามใช้ ข้อความจากระบบในการตอบรีพลายเด็ดขาด! มันมักง่ายประเภทเดียว
กับก๊อปตอบ จะแบน ครึ่งปี ครั้งต่อแบนเพิ่มขึ้นอีก และ หายจากบอร์ด
         

            ผลงานที่ สมาชิกอุตสาห์นำมาลง ไม่ว่าจะเขียนเอง หรือขอมาลงล้วนได้มาด้วยการสละเวลา
            ถ้าจะตอบมามักง่ายก็ อย่าใช้ห้องนี้ เสพผลงานเลยไปหาเสพที่ใดแล้ว รีพลายตอบ นั้นได้ ก็ไป
            อย่าทะลึ่งมา เปรี้ยว มา เกรียน ลอง  สด ,เก๋า อย่าเลย จะเสียน้ำใจเสียความรู้สึกเปล่าๆ
            เพราะถึงคุณมี 100 ยูส 1000 ชื่อ ถ้ารีพลายผิดกฏ-กติกากระดานนี้ ฉัน ก็จะแบนหมด

...................................................................

ถ้าถูกแปะเตือนที่ โพสต์หรือกระทู้คุณ และส่งไปที่ pm คุณ จงรีบปรับปรุงรีพลายซะ ขอบคุง,ขอบหี,ขอบควย
ขอบหมา,ขอบแมว,ขอบคุน
เตือนนะอย่าลองของ ใครโดนเตือนไปให้ปรับปรุงการรีพลายเจอ อาจโดนแนทันที
6 เดือนเหมือนโทษ ป้วนเกรียนอื่นๆ....

คำขอบคุณยังเขียนไม่ถูกความหมายมันจะถูกไหม? ที่ต้องมาเข้มงวดเรื่องนี้ เพราะชักเยอะพวกมักง่าย เยอะ
ไรต์ คนลงงาน ก็ติมาด้วย..เครนะ ขอกันดีๆ แว่น ยกตัวอย่างคำ ขอบคุณเขียนไม่ถูกชัดไหม?

ใคร ขอบคุณ รีพลายเขียนไม่ถูกอาจโดนแบนเลนทันที ขอบคุณ เฉยๆก็ดูเอียนจริงๆ แต่ก็เป็นคำสากลในการตอบแทนน้ำใจ
ฉะนั้น ขอเถอะเขียนให้ถูก เมื่อต้องปรับเปลี่ยนก็ต้องคล้อยตามกัน กฏไม่ได้ใช้กับใคร? เพียงคนเดียว และไม่ยากเกินไป
  คิดว่าสร้างมาตรฐาน ถ้าใครคิดว่ายากก็ไม่ต้องเข้ามาใช้ กระดานนี้ เพราะ ฉันแบนแน่.. 

อ๋อ thx ขี้หมา นี้หรือ เขียนไม่ครบเป็นคำ thank อย่าให้เห็นนะ แบน ย้ำซะขนาดนี้พิมพ์มาอีกถือว่าลอง บางคนโวยวาย
ขำ thx ขี้หมา แค่นี้ก็แบน ถุย! ก็ตรรกะเอ็งมันมักง่ายไง เงื่อนไขง่ายๆถึงออกมาแถ มันยากนักก็ไม่ต้องเข้ามาใช้ เวปนี้ไม่ง้อ
บอร์ดอยู่มาได้ไม่ต้องพึ่งคนมักง่ายใช้ตรรกะปลิง จ้องจะสูบทั้งที่ใช้ฟรี เสือกเยอะ ไรต์เขียนมาหาข้อมูลมากว่าจะจบแต่ละตอน
ไอ้ซากปลิง เข้ามา Thx  เหอะๆ เอาใช้ไปหาที่เสพที่อื่นเถอะ เวปนี้แบน

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉัน
แบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง
เขียน ขอบคุณ ให้ถูก ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,
ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น.
.


elviswhat

ขอบคุณมากครับ น่ารักมากครับเรื่องนี้

fantastica

น่าสงสารแตนเหมือนกันนะ แต่ทำงัยได้ตบมือข้างเดียวก็งี้แหละ

cd13579

สงสัยอยู่ว่ามันจะวนเข้าฉากเรทยังไง แต่ไม่เป็นไรฉากกุ๊กกิ๊กก็สนุกละ ย้ำเรื่องเดิมอีกรอบ ถ้าไม่ใช้ทหารก็ต้องทำการบ้านมาดีมากจริงๆครับขอชมตรงนี้จริงๆ
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

swss2511


i_robot

พ่อบุญทุ่มเหมือนกันนะเนี่ย

pinmonkey

รักแบบนิ่มนวลค่อยเป็นค่อยไปได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ ขอบคุณมากครับ

ppeak

เรื่องน่ารักมากครับ รอลุ้นให้พี่แม็กน้องนันเปิดตัวกันเร็วๆ 

paradrop

อ่านแล้วยิ้มไปด้วยครับ