ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Choice ตอนที่ 14 – คุณหนู

เริ่มโดย assasin008, พฤศจิกายน 14, 2016, 03:56:53 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

คุณจะเลือกแบบไหน

ปล่อยไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ค่อยสะดวกทั้งเรื่องเวลาและสถานที่ รอบหน้าค่อยว่ากันใหม่
เสี่ยงลุยไปเลยไม่ต้องคิดมาก ถ้ามีปัญหาค่อยหาทางแก้กันอีกที

assasin008

Choice ตอนที่ 14 – คุณหนู
....................................
Assasin008 2016-11-14

        ความจริงแล้วผมไม่ค่อยอยากจะเสนอหน้าไปคุยกับแฟนเก่าของแป้งสักเท่าไหร่นัก ถึงผมจะคุ้นเคยได้เจอหน้าและทักทายมันบ่อย ๆ ในชั้นเรียน แต่เราก็ไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกันมากนัก อ้อ ผมลืมบอกไป แฟนเก่าของแป้งชื่อโป้ง ไอ้โป้งมันเรียนห้องเดียวกับผมนั่นแหละ แต่มันอายุมากกว่าผมสองปีเพราะเป็นเด็กซิ่วมาจากมหาวิทยาลัยอื่น ไอ้โป้งมันจะออกแนวขาวและมีเชื้อจีนสักหน่อย แล้วบ้านมันก็เหมือนจะรวยพอสมควร ผมเห็นมันขับรถหรูมาเรียนบ่อย ๆ

        ผมนั่งเรียนวิชาตอนบ่ายแทบไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่คิดย้อนไปย้อนมา มองยังไงผมก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะพาตัวเองไปเสี่ยง ถึงมันจะเห็นผมกับแป้ง แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไร ถ้ามองในแง่ร้าย ผมอาจจะโดนกระทืบ หรือใช้อาวุธทำร้ายก็เป็นได้ ถ้าเป็นคุณล่ะจะไม่กลัวเหรอ ขนาดคอยส่องกล้องตามแป้งไอ้โป้งมันยังทำได้ ถ้ามันโรคจิตขนาดนี้แล้วคุณคิดว่ามันจะไม่กล้าทำเรื่องบ้า ๆ หรือไง

        ถ้าจะพยายามนึกหาเหตุผลให้ได้สักอย่าง ก็คงเป็นเรื่องความปลอดภัยของแป้ง อย่างน้อยถ้าไอ้โป้งมันมาลงกับผม ก็น่าจะดีกว่าให้ไปลงกับผู้หญิงแบบแป้ง อย่างดีผมก็คงจะโดนกระทืบสักหน่อย แต่ถ้าเป็นแป้งอาจจะโดนมากกว่านั้น

        นอกจากนี้ผมยังรู้สึกว่าถ้าไม่ยอมคุยให้รู้เรื่อง ผมอาจจะโดนแอบดักตีหัวเข้าสักวัน สุดท้ายผมก็เลือกไปตามนัด ตั้งใจจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่องรู้ราว แต่ก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยากหาตัวช่วยสักหน่อยถ้าเป็นไปได้

        ผมอยากจะชวนเพื่อนไปด้วยสักหลายคนเพื่อกันเหนียว แต่ว่าเรื่องที่เราจะคุยมันเป็นเรื่องของแป้งที่ควรเป็นความลับ ถ้าพาคนไปเยอะก็คงไม่ดี จะให้พาแป้งไปก็คงไม่เข้าทีเท่าไหร่ และผมก็ยังไม่ได้บอกแป้งว่ามีคนแอบเห็นเรื่องของเรา ผมตั้งใจจะไปคุยกับไอ้โป้งให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยมาคุยกับแป้งอีกที เธอจะได้ไม่ตกใจกลัว

        อย่างน้อยเราก็นัดคุยกันในร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัยที่คนเยอะพอควร ผมไม่คิดว่าไอ้โป้งมันจะบ้าเลือดทำอะไรผมในที่แบบนั้น แต่ถึงมันจะบ้าเลือดขึ้นมา ลูกผู้ชายแบบผมก็ไม่มีทางกลัวมันหรอก ผมเองก็มีมือมีตีน อย่างดีผมก็แค่ต้องแสดงพละกำลังขาออกมาสักหน่อย วิ่งหนีซิครับจะรออะไร ... ก็ใครจะอยู่ให้กระทืบง่าย ๆ ล่ะครับ อยากกระทืบก็ต้องเหนื่อยวิ่งไล่ตามกันหน่อย แล้วลองดูว่าใครจะอึดกว่ากัน

        ถ้าแผนข้างต้นยังไม่พอ ผมยังมีแผนสุดท้ายเป็นท่าไม้ตาย ซึ่งก็คือแว่นวิเศษที่มีพลังชาร์จอยู่เต็มที่ ถ้าถึงคราวจำเป็นจริง ๆ ผมก็เอาแว่นผมนี่แหละจิ้มตามัน ... เอ่อ ล้อเล่นครับ ... ถ้ามีปัญหาผมก็จะใช้ความสามารถของแว่นควบคุมไอ้โป้งมันเสียก็น่าจะจบเรื่องได้ ถึงผมจะไม่อยากเสียพลังงานอันมีค่ามากมายมหาศาลของแว่นไปใช้กับผู้ชายสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เพื่อการเอาชีวิตรอด ผมยอมใช้จัดการไอ้โป้งก็ได้อยู่หากจำเป็น

        ขอย้อนความจำกันสักหน่อยเผื่อลืม แว่นที่ว่านี่คือแว่นที่ผมได้จากคุณตา แว่นสามารถฉายแสงอะไรสักอย่าง ทำให้ผมสามารถควบคุมใครก็ได้ที่โดนแสงนี้เข้า ผมจะสามารถสั่งให้ทำอะไรก็ได้ และยังสามารถควบคุมความคิด สอดแทรกความจำได้ สุดยอดไปเลยใช่หรือเปล่าล่ะ เพราะแว่นนี่แหละทำให้ผมได้กลายเป็นชายเต็มตัว ได้แอ้มทั้งโบกี้แล้วก็แป้งสาวสวยอันดับหนึ่งกับสองของคณะ

        แต่เดี๋ยวก่อน แว่นนี้ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่างหรอกนะ มันมีผลกับคนครั้งละคน และมีผลแค่สิบสองชั่วโมง จากนั้นหลังจากใช้งานแต่ละครั้งผมต้องรอเวลาอีกสี่สิบแปดชั่วโมง หรือประมาณสองวัน นั่นล่ะครับเหตุผลที่ผมไม่อยากใช้พลังงานของแว่นพร่ำเพรื่อ ของแบบนี้มันต้องสงวนเอาไว้ใช้กับสาวสวยเท่านั้น ไม่ใช้ไปใช้กับผู้ชายด้วยกัน

        พอคิดวางแผนรองรับไว้แล้ว ผมก็ไปตามนัด อันดับแรกผมโทรศัพท์บอกโบกี้ก่อนว่าวันนี้ผมมีนัดจะไปหาเธอที่ห้องช้าสักหน่อย แต่พอดีเธอบอกว่าคืนนี้พ่อกับแม่อาจจะมาเยี่ยมที่ห้อง เธอบอกให้ผมค่อยมาหาวันพรุ่งนี้ ผมไม่ได้ว่าอะไร แค่เสียดายที่ไม่ได้สนิทสนมกับโบกี้อย่างที่อยากทำ จากนั้นผมก็เดินไปร้านกาแฟด้านหลังมหาวิทยาลัยตามเวลานัด

        ผมชะงักเล็ก ๆ ตอนเปิดประตูเข้าไปในร้าน เพราะว่าไอ้โป้งกำลังมองผมด้วยสายตาท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตร ตอนนี้ผมเลยเริ่มรู้สึกเกร็งและระวังตัวขึ้นมา แต่ยังดีที่ไอ้โป้งมันไม่แสดงท่าทีอยากลงไม้ลงมือออกมา มันแค่แสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่ได้ถึงขั้นโกรธเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ผมเลยยังพอจะข่มใจเดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับสามคนนั้นได้

        "เอ็งคบกับแป้งนานยังไอ้หนุ่ม"

        พอผมนั่ง ไอ้โป้งก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา มันถามผมโพล่งขึ้นมาทันทีแบบไม่ต้องมีบทเกริ่นนำให้เสียเวลา เท่าที่ผมเข้าใจมันก็เป็นคนประเภทพูดขวานผ่าซากแบบนี้แหละ

        "เดี๋ยวนะ คบอะไร เรากับแป้งไม่ได้เป็นแฟนกัน"

        ผมตอบปฏิเสธ ซึ่งผมก็ไม่ได้โกหก แป้งกับผมไม่ได้เป็นแฟนกัน เราก็แค่ตกลงใจมีอะไรกันแบบลับ ๆ ไม่เปิดเผยให้ใครรู้ ผมก็แค่เป็นสามี เอ๊ยเป็นกิ๊กแบบลับ ๆ กับเธอเฉย ๆ

        "ไม่ได้เป็นแฟนแล้วทำไมแป้งหอมแก้มเอ็งวะ แล้วยังตามเข้าไปขลุกอยู่ในห้องพักอาจารย์กับเอ็งแบบสองต่อสองตั้งสิบห้านาที ขนาดกูจีบแป้งตั้งนาน แต่ยังไม่เคยได้จับมือแป้งเลยสักครั้ง"

        คำตอบของผมทำให้ไอ้โป้งขมวดคิ้วส่งเสียงโพล่งออกมาเหมือนไม่พอใจ ผมเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยนิด ๆ เพราะไอ้โป้งมันเห็นหลักฐานชัดไปหน่อย แต่ว่าผมเตรียมข้อแก้ต่างพวกนี้เอาไว้แล้ว

        "เดี๋ยวขอแก้ต่างก่อนนะไอ้โป้ง คือที่แป้งเขาไปดักรอที่หน้าห้องพักอาจารย์ ก็เพราะว่าแป้งเธอลืมทำการบ้าน ไม่ได้ส่งรายงาน แล้วอาจารย์ก็สั่งให้เราเอาเอกสารพวกนี้ไปวางให้ในห้อง แป้งเธอเลยสบโอกาสไปดักรอ แล้วขอให้เราช่วยทำรายงาน กับแนบงานของแป้งเข้าไปด้วย เราสองคนเลยแอบเข้าไปในห้อง แล้วเราช่วยแป้งทำรายงาน พอเสร็จก็เลยแอบย่องออกมาข้างนอกกัน อย่าไปบอกอาจารย์ล่ะเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง"

        ผมตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จไปตามเรื่องตามราว ผมพยายามเบี่ยงประเด็นไปอีกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ต่อให้ไอ้โป้งไปฟ้องอาจารย์ มันก็ไม่มีหลักฐานอยู่ดี ฟ้องไปก็เท่านั้น และอาจารย์ก็คงจะเชื่อเด็กเรียนคนสนิทแบบผมมากกว่าไอ้โป้งอยู่แล้ว

        "... แล้วที่แป้งออกมาหอมแก้มเอ็งล่ะวะ จะอธิบายยังไง"

        "ก็ไม่มีอะไรนี่นา ใครจะยอมทำเรื่องเสี่ยงให้ฟรี ๆ ล่ะ ทีแรกเราบอกแป้งว่าไม่ทำให้เพราะกลัวมีเรื่อง แต่แป้งบอกว่าจะหอมแก้มเราถ้าเราทำให้ เราก็เลยยอมซิ ใครจะไม่เอา"

        ผมเล่าความเท็จออกไปอีกรอบ แต่ก็เป็นความเท็จที่มีหลักการไม่ได้เลื่อนลอย ไอ้โป้งก็ทำท่าครุ่นคิดเหมือนจะเชื่อเรื่องที่ผมพูดอยู่สักหน่อย เพราะว่าสุดท้ายไอ้โป้งก็ถอนหายใจออกมา แล้วมองผมด้วยสายตาที่มีความเป็นศัตรูลดลงไปเล็กน้อย

        "อืม ... น่าจะจริง กูสงสัยอยู่แล้วว่าสาวสวยเสน่ห์แรงแบบแป้งไม่น่าจะหลงผิดชั่ววูบไปคบกับไอ้แว่นเด็กเรียนไร้เสน่ห์แบบเอ็งเป็นแฟน กูหล่อกว่าเยอะแป้งเขายังไม่สนเลย กูขอโทษ กูเข้าใจเอ็งผิดไป"

        ไอ้โป้งพูดด้วยเสียงอ่อนลง ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจกว่าเดิม แต่พอคิดอีกทีผมก็รู้สึกหงุดหงิดกับความหมายแฝงของมัน มันพูดเหมือนกับว่าผมย่ำแย่หนักหนาในสายตามัน ตอนนี้ผมอยากร้องโพล่งบอกมันว่าเด็กเรียนแบบผมนี่แหละที่ได้ฟันทั้งโบกี้กับแป้งมาแล้ว

        ผมได้แต่คิดในใจไม่กล้าบอกออกไปหรอก ถึงจะหงุดหงุดสักหน่อยก็เถอะ ตอนนี้บรรยากาศในวงสนทนาเริ่มดีขึ้น ท่าทางไอ้โป้งมันไม่ได้มองผมเป็นศัตรูแล้ว เราเลยได้คุยกันอีกนิดหน่อย ไอ้โป้งมันเล่าให้ฟังว่ามันทุ่มกับแป้งไปมาก แต่แป้งไม่ยอมให้มันทำอะไรเลย อารมณ์ประมาณเสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับนั่นล่ะครับ

        ผมเคยได้ยินกิตติศัพท์ด้านนี้ของแป้งมาบ้างจึงพอจะเข้าใจได้ แป้งนั้นเป็นสาวเปรี้ยวซ่าไม่เหมือนโบกี้ ผมได้ยินข่าวว่าแป้งเคยคบกับใครหลายคน ถึงจะไม่เคยลงเอยกับใคร แต่ก็บริหารเสน่ห์ยั่วผู้ชายไปไม่น้อย และไอ้โป้งก็คงเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น

        ไอ้โป้งคบกับแป้งแบบผิวเผินได้ราวห้าถึงหกเดือน ก่อนจะโดนแป้งบอกเลิก มันอ้างว่าโดนแป้งหลอกใช้งานอะไรบางอย่าง เช่น ให้ขับรถไปรับส่ง ให้พาไปเลี้ยงอาหารหรือของราคาแพง แถมยังหลอกเอาเงินเอาของไปมากมาย จนกระทั่งเมื่อมันไม่ยอมซื้อของให้แล้ว แป้งก็ถีบหัวมันทิ้ง

        ผมฟังด้วยความแปลกใจ เพราะไม่มีความรู้สึกเลยสักนิดว่าแป้งเป็นผู้หญิงแบบนั้น แต่ผมยังไม่ได้พูดแย้งอะไร ผมนั่งฟังต่อไปเรื่อย ๆ จนโป้งมันเล่าให้ฟังว่า มันรู้ตัวว่าแป้งจะบอกเลิก มันเลยวางแผนจะแก้แค้น มันเตรียมจะมอมยาข่มขืนแป้งเพื่อเอาคืน แต่แป้งไม่เปิดโอกาสให้มันทำได้ ตอนนี้ไอ้โป้งมันเลยคอยตามส่องแป้งเพื่อหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา

        แรกสุดผมก็พอจะเห็นใจไอ้โป้งอยู่บ้าง แต่พอได้ยินว่าพวกมันจะมอมยาแป้งแล้วพาไปรุมโทรม ผมก็ขมวดคิ้วรู้สึกไม่พอใจ คิดจะวางยาข่มขืนผู้หญิงนี่มันเลวชัด ๆ ... เอ่อ ... จะว่าไปผมไม่ได้ใช้ยาอะไรนี่นา ผมแค่ใช้แว่นนี่นะ คงไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าไม่นับรวมเป็นพวกเดียวกันกับไอ้โป้งก็แล้วกัน ถึงผมจะเลวแต่ก็เลวน้อยกว่านิดหน่อยนะ เอาเป็นว่าหยวน ๆ ก็แล้วกัน

        ผมนั่งฟังไอ้โป้งพูดแบบไม่ได้แย้งอะไร แล้วผมก็นึกได้ว่าแป้งเคยพูดเปรย ๆ ตำหนิไอ้โป้งว่าวางแผนทำเรื่องเลว ๆ กับเธอ เธอเลยเลิกคบกับไอ้โป้งไปเสียเลย ซึ่งคงจะหมายถึงเรื่องที่มันคิดวางแผนจะวางยาข่มขืนแป้งนี่แหละ แต่ผมยังไม่รู้รายละเอียดจากแป้งว่าเรื่องราวเป็นมายังไง ตอนนี้ผมได้ฟังเฉพาะจากปากของไอ้โป้งฝ่ายเดียว

        เรื่องนี้ผมคิดว่าผมจะไปถามแป้งตรง ๆ ก่อน แล้วผมจะลองใช้แว่นสะกดจิตแป้ง แล้วถามเอาความจริงด้วยคำถามเดิมให้ชัดเจนสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะผมไม่เชื่อว่าแป้งเป็นผู้หญิงแบบนั้น แต่ไอ้โป้งมันก็พูดใส่อารมณ์ดูน่าเชื่อถือ ถ้าจะบอกว่ามันกุเรื่องทั้งหมดผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วย

        เรานั่งคุยกันอีกสักพักไอ้โป้งก็เริ่มเข้าประเด็นใหม่ มันบอกว่าแป้งจะต้องหลอกใช้ผมเป็นรายต่อไป ดังนั้นมันจึงบอกว่าถ้าแป้งแสดงท่าทีหลอกใช้ผม ให้ผมแสดงตัวจีบแป้ง แล้วมันจะช่วยวางแผนหลอกสนับสนุนผมกับแป้ง มันบอกว่าจะวางแผนสร้างสถานการณ์ให้ผมได้มีอะไรกับแป้ง แต่ว่าผมต้องแบ่งให้มันได้มีอะไรกับแป้งด้วย

        ผมไม่ตกลงอยู่แล้ว แต่เลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธ ผมแค่แสร้งทำทีเป็นไม่เชื่อว่าแป้งจะสนใจผม แต่ไอ้โป้งมันก็ยังคะยั้นคะยอให้ผมรับแผนนี้เอาไว้ในใจ ผมเลยแบ่งรับแบ่งสู้ซื้อเวลาไปก่อน อย่างน้อยผมก็ควรจะต้องไปรับรู้เรื่องราวจากปากของแป้งเสียก่อน จากนั้นค่อยคิดหาหนทางรับมืออีกที

        จะว่าไปพอนั่งคุยกับไอ้โป้งสักพัก ผมก็ยิ่งรู้สึกคุยกับมันถูกคอ ผมไม่ค่อยได้คุยใกล้ชิดกับมันมาก่อน ตอนนี้พอได้คุยผมเลยได้รู้ว่ามันมีอะไรเหมือนผมหลายอย่าง ถ้าไม่นับเรื่องที่ผมถนัดเรียนและมันถนัดเรื่องกีฬา เราสองคนมีรสนิยมหลายเรื่องที่คล้ายกัน เช่น เกม การ์ตูน และเรื่องผู้หญิง

        โดยเฉพาะเรื่องหลังสุดนี่เราคุยกันถูกคอมาก ขนาดดาราหนังเอวีญี่ปุ่นเรายังชอบแนวเดียวกัน พอยิ่งคุยไอ้โป้งถึงกับยอมเปิดรูปที่มันแอบถ่ายสาว ๆ ให้ผมดู มันบอกว่ายังไม่เคยแบ่งให้ใครดูเลยสักคน เพราะกลัวโดนด่าว่าโรคจิต แต่มันเปิดให้ผมดูเพราะมันรู้สึกว่าผมเป็นคนแบบเดียวกับมัน

        เอ่อ ... ผมไม่ได้โรคจิตอย่างที่ไอ้โป้งว่านะนะ ถึงผมจะกำลังมองรูปของมันเหมือนกำลังมองขุมทรัพย์ก็เถอะ ผู้ชายก็ชอบอะไรแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อลองถามคนข้าง ๆ ดูซิว่าชอบดูหรือเปล่า ... อะแฮ่ม กลับเข้าเรื่องก่อน ไอ้โป้งมันแอบถ่ายรูปสาว ๆ ในมหาวิทยาลัยมาไม่น้อย และรูปแอบถ่ายที่ว่านั้นก็มีทั้งรูปธรรมดาหน้าสวยใสทั่วไป จนถึงรูปในระดับแอบถ่ายลอดคอเสื้อ และลอดใต้กระโปรงจนเห็นกางเกงใน เรียกได้ว่าสาวสวยติดอันดับแถวนี้โดนมันส่องถ่ายเก็บเอาไว้ครบถ้วนทุกคนเลย

        แป้งกับโบกี้ของผมติดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ผมเห็นหลายรูปที่เห็นร่องอกและกางเกงในของพวกเธอ ผมทั้งตื่นเต้นและหวงจนอยากจะเอื้อมมือไปกดลบรูปของโบกี้กับแป้งทิ้งไป แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร นอกจากดูรูปสลับกับพูดชมฝีมือแอบถ่ายของไอ้โป้งจากใจจริง และไอ้โป้งก็ดูเหมือนจะดีใจมากที่ผมสนใจงานของมัน มันเลยยิ่งอวดงานของมันออกมาใหญ่

        ผมนั่งดูรูปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสะกิดใจที่รูปเด็กสาวมัธยมปลายคนหนึ่ง เธอคนนี้สวยมากทีเดียว หน้าเหมือนตุ๊กตาเลย เรียกได้ว่าถ้าขึ้นมหาวิทยาลัยเธอคนนี้อาจจะสวยไม่แพ้โบกี้ก็ได้ แถมทรวดทรงองค์เอวยังอวบอิ่มน่าฟัด แต่ที่ผมสะกิดใจไม่ใช่เพราะความสวยน่ารักในชุดนักเรียน แต่เป็นเพราะว่าฉากหลังของรูปถ่ายมันดูเหมือนร้านกาแฟที่ผมนั่งอยู่

        "เออ แอบถ่ายที่ร้านกาแฟนี่แหละ คนนี้ชื่อน้องแอล เรียน ม.6 โรงเรียนสตรี อายุ 18 สูง 160 ซม หนัก 46 กก สัดส่วน 34-23-34 สัดส่วนเนื้อแน่นเต็มไม้เต็มมือ พ่อเป็นคนญี่ปุ่น แม่เป็นคนไทย บ้านรวยมาก เป็นลูกคุณหนู เธอชอบมานั่งที่ร้านกาแฟนี้ทุกเย็น เพราะว่าเป็นร้านของเพื่อนสนิท แล้วก็ใกล้บ้านด้วย มองได้แต่อย่าจีบเชียว สวย เริด เชิด หยิ่ง เลยล่ะคนนี้ เดี๋ยวเอ็งจะกลายเป็นหมาวัดขี้เรื้อนยืนเห่าใส่ยานอวกาศนาซ่า"



        ผมมองรูปสลับกับมองไปรอบร้านกาแฟ ไอ้โป้งเลยเหมือนจะรู้ว่าผมสงสัยอะไร มันเฉลยยืนยันให้ผมแน่ใจว่ามันแอบถ่ายน้องแอลในร้านนี้จริง ๆ ส่วนไอ้เรื่องคำพูดกวนส้นเท้าที่มันเปรียบเทียบผมเป็นหมาวัดอะไรนั่น ผมว่าผมเริ่มเคยชินกับความปากหมาของมันพอสมควรแล้ว ผมเลยไม่ได้สนใจอะไรมันมาก เพราะผมแน่ใจว่าผมไม่ใช่หมาวัด อย่างน้อยผมก็ได้แอ้มโบกี้กับแป้งมาแล้ว แต่ไอ้โป้งมันยังไม่ได้ทำอะไรเลย

        มันอวดรูปน้องแอลในชุดนักเรียนให้ผมดูด้วยท่าทางภูมิใจมาก ผมเองก็ดูความสวยน่ารักของน้องจนเพลิน แต่ก็รู้สึกแอบสงสัยไม่ได้ว่าไอ้โป้งมันถ่ายรูปพวกนี้ออกมาได้ยังไงโดยที่สาว ๆ ไม่รู้ตัว พอผมถามไปมันก็ยิ้มกริ่มด้วยท่าทางเหมือนเด็กน้อยอยากอวดของเล่นใหม่ มันชี้ไปที่กระดุมเสื้อ กับนาฬิกาข้อมือ แล้วก็รองเท้าหนังสีดำ จากนั้นมันก็กดอะไรบางอย่างบนเครื่องแทปเล็ตแล้วยื่นมาให้ผมดู

        ผมมองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอด้วยความตกใจ เพราะว่าในนั้นกำลังแสดงภาพเคลื่อนไหวของผมตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านกาแฟอย่างชัดเจน แม้แต่เสียงคุยก็โดนอัดเอาไว้ และที่น่าตกใจก็คือ มุมกล้องเหมือนจะมาจากกระดุมเสื้อ นาฬิกาข้อมือ และรองเท้าหนังสีดำ ตามที่มันชี้ให้ผมดูก่อนหน้านี้

        ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองที่กระดุมเสื้อของมัน แล้วไล่ลงไปที่นาฬิกาข้อมือ ปิดท้ายที่รองเท้าหนังสีดำ ขนาดผมรู้แล้วว่ามีกล้องซ่อนอยู่ตรงนั้น แต่พอผมพยายามมองผมก็ยังสังเกตไม่เห็นว่าเป็นกล้อง แบบนี้ไม่ว่าใครก็คงไม่รู้หรอกว่ากำลังโดนไอ้โป้งมันแอบถ่าย ผมชักจะสงสัยแล้วว่ามันไปเอากล้องแอบถ่ายล้ำสมัยแบบนี้มาจากไหน

        เห็นแบบนี้แล้วผมรู้สึกทึ่งก็จริง แต่พอคิดอีกทีผมก็รู้สึกเหงื่อตก เพราะหมายความว่าไม่ว่าอะไรที่ผมพูดคุยกับมัน มันจะมีเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด ดังนั้นผมเลยต้องแอบสาบานกับตัวเองว่าจะไม่พูดหรือทำเรื่องไม่ดีให้มันรู้เห็นเป็นอันขาด ไม่งั้นมันจะต้องมีหลักฐานมาเล่นงานผมเพียบแน่ ๆ

        ช่วงที่ผมกำลังเหงื่อตกรู้สึกไม่ปลอดภัย เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านกาแฟก็ดังขึ้นมา ไอ้โป้งเงยหน้ามองแล้วยิ้มกริ่มดีใจจนออกนอกหน้า ผมเลยต้องเงยหน้าเอี้ยวตัวมองไปตามสายตาของมันด้วย แล้วผมก็ได้เจอตัวจริงของผู้หญิงในรูปที่มันอวดให้ผมดู ภาพที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้คือเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายที่หน้าเนียนสวยเหมือนตุ๊กตา เธอคนนี้คือน้องแอลที่ไอ้โป้งพูดถึง

        รูปที่มันอวดผมเรียกได้ว่าสวยน่ารักมากแล้ว แต่พอเจอตัวจริงเข้าไป น้องแอลยังสวยน่ารักกว่าในรูปอีก เทียบกันแล้วผมว่าสูสีกับโบกี้ได้เลย ขาดก็แค่สัดส่วนที่ยังไม่อวบอิ่มจนล้นไม้ล้นมือเหมือนโบกี้ แต่ถ้าเธอโตขึ้นอีกสักสองปีผมว่าน่าจะใกล้เคียง

        น้องแอลเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเพื่อนสาวในชุดนักเรียนอีกสามคนที่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างธรรมดา หนึ่งในนั้นเดินเข้าไปหลังร้านเหมือนจะอาศัยอยู่ในนี้ ส่วนที่เหลือนั้นขยับไปเลือกหาที่นั่งและเริ่มหยิบเอารายการอาหารเครื่องดื่มมาเปิดเลือก

        ไอ้โป้งบรรยายน้องแอลว่าเป็นลูกคุณหนู สวย เริด เชิด หยิ่ง ผมรู้สึกว่าไม่ผิดไปจากความเป็นจริงสักเท่าไหร่ ท่าทีเดินเหินของเธอดูเชิดเหมือนพวกคุณหญิงคุณนาย เธอไม่พูดไม่จาอะไรมาก ตอนเดินเข้ามาในร้านก็มองผมกับไอ้โป้งด้วยหางตาแวบหนึ่ง ท่าทางของเธอให้ความรู้สึกได้ถึงความหยิ่งไม่ค่อยเป็นมิตร ผมรู้สึกเหมือนเธอมองว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นสักหน่อย

        ผมแอบมองน้องแอลครู่เดียวก็หันกลับมาจะคุยกับไอ้โป้งต่อ แต่ไอ้โป้งดูเหมือนจะเอาแต่แอบมองน้องแอลแบบไม่ยอมละสายตา ผมคิดว่ามันคงกำลังหาโอกาสแอบถ่ายรูปน้องแอลอยู่ก็เป็นได้ ส่วนผมก็ยอมรับว่าน้องแอลสวยน่ารักน่าสนใจตามประสาผู้ชาย เพียงแต่ช่วงนี้ผมยังข้าวใหม่ปลามันกับโบกี้แล้วก็แป้ง ผมเลยไม่ได้คิดสนใจอะไรมากเกินไป

        ระหว่างที่ไอ้โป้งเอาแต่สนใจมองน้องแอล ผมก็เตรียมชิ่งกลับบ้านบ้าง แต่วันนี้โบกี้ไม่ว่าง ผมเลยส่งข้อความไปหาแป้งบอกว่าจะไปหาเธอที่หอพัก เพราะห้องของแป้งก็อยู่ใกล้ ๆ นี้เอง ผมจะได้ไปคุยกับเธอเรื่องไอ้โป้ง แล้วก็จะได้สนิทสนมสานต่อบทรักแบบเร่ง ๆ จากตอนกลางวันอีกสักหน่อย แป้งส่งข้อความตกลงตอบกลับมาแทบจะในทันที แต่เธอบอกว่าให้รออีกราวหนึ่งชั่วโมง เพราะว่าเธอกำลังทำผมอยู่ในร้านเสริมสวย

        พอผมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอเตรียมจะลาไอ้โป้ง ผมก็เห็นมันสูดหายใจแล้วลุกขึ้นเดินไปทางโต๊ะของน้องแอล ผมเลยยังไม่ได้บอกลามัน แต่เลือกที่จะนั่งดูด้วยความสนใจไปก่อน ผมคิดว่ามันคงจะไปจีบน้องแอลนั่นแหละ

        เสียงคุยของกลุ่มนักเรียนสาวทั้งสี่คนเงียบลงทันทีเพราะไอ้โป้งเดินเข้าไปใกล้ พวกเธอเงยหน้ามองดูไอ้โป้งแล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคัก น้องแอลเองก็มองไอ้โป้งด้วยหางตาท่าทางเหมือนกำลังหงุดหงิดไม่พอใจ ผมเลยเดาว่านี่ไม่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ไอ้โป้งมันเปิดเกมบุกเข้าไปหา

        ไอ้โป้งมันเข้าไปพูดอะไรผมได้ยินไม่ถนัดเท่าไหร่ ได้ยินแค่ประมาณว่าชวนเที่ยวอะไรแนวนั้น แต่ยิ่งมันพูดผมก็เห็นสีหน้าของน้องแอลยิ่งเย็นชากว่าเดิม เพื่อน ๆ ของน้องแอลเองก็เริ่มหยุดหัวเราะแล้วขมวดคิ้วหงุดหงิด ผมเห็นบรรยากาศมาคุไม่ค่อยดีเลยเริ่มมีความคิดจะขอชิ่งไปก่อน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็เกิดเรื่องขึ้นมาก่อนเสียแล้ว

        "พวกสวะโรคจิตไม่เจียมตัว"

        น้องแอลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาดังพอจนผมได้ยิน แถมเธอไม่พูดเปล่า เธอหยิบเอาแก้วน้ำสาดน้ำใส่ไอ้โป้งแบบเต็ม ๆ จนตัวมันเปียกชุ่ม ผมถึงกับอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กสาวหน้าสวยใสแบบน้องแอลจะหาญกล้าทำอะไรแบบนี้ ไอ้โป้งเองก็คงคาดไม่ถึง มันยืนอึ้งหน้าซีดทำอะไรไม่ถูก พวกเพื่อนของแอลก็เริ่มพากันหัวเราะเยาะใส่ไอ้โป้งกันยกใหญ่

        ไอ้โป้งหน้าเสียรีบถอนตัวมานั่งที่เดิม ผมกระพริบตาปริบ ๆ นั่งดูไอ้โป้งมันหยิบกระดาษไปเช็ดเนื้อเช็ดตัว บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าผมรู้สึกสงสารหรือว่าสมน้ำหน้ามันแน่ พอคิดอีกหน่อยผมก็รู้สึกสมน้ำหน้ามันส่วนหนึ่ง แต่อีกด้านก็รู้สึกว่าน้องแอลคนสวยออกจะทำอะไรรุนแรงเกินไปสักหน่อย

        ผมนั่งนิ่งจะปลอบใจมันก็รู้สึกไม่สนิทพอ แต่จะให้ขอชิ่งไปตอนนี้เลยผมก็รู้สึกว่าทำไม่ลง แอบสงสารมันนิดหน่อย ผมเลยอดทนนั่งเป็นเพื่อนไอ้โป้งมันไปก่อนกะว่าอีกสักพักค่อยชิ่ง แต่ดูเหมือนว่าความซวยของไอ้โป้งมันจะเริ่มเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย เพราะนั่งได้แวบเดียวน้องแอลที่สวยเหมือนตุ๊กตาน้ำแข็งก็เดินตีหน้านิ่งมาหาเราสองคน ในมือของเธอมีแก้วน้ำอยู่หนึ่งแก้ว

         "ออกไปได้แล้ว เห็นแล้วขัดหูขัดตา"

        น้องแอลพูดเสียงเย็นชาพร้อมกับมองไอ้โป้งเขม็ง ไอ้โป้งเหมือนจะหงอพอควร มันอ้าปากเหมือนจะแย้ง แต่แล้วมันก็หุบปากแล้วก้มหน้าเก็บของใส่กระเป๋าทำท่าเหมือนจะออกไปตามคำสั่งของน้องแอล ตอนนี้ผมเลยนั่งนิ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผมรู้สึกว่าน้องแอลชักจะเล่นแรงเกินควรไปสักหน่อยแล้ว

        "นายก็ด้วย เศษสวะเหมือนกัน ออกจากร้านไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกนาย"

        พอผมนั่งนิ่ง น้องแอลก็หันมามองผมด้วยสายตาเย็นชากว่าเดิม เธอออกปากไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมา ผมเลยรู้สึกโกรธหันขวับไปมองเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ น้องแอลเองก็ขมวดคิ้วมองผมนิ่ง ดูเธอมั่นใจมากว่าผมต้องยอม ประมาณว่าพ่อแม่ใหญ่โตอะไรประมาณนั้น ซึ่งถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ ผมก็คงจะยอมอยู่หรอก ไม่อยากหาเรื่อง แต่ว่านาทีนี้ผมมีแว่นที่สามารถจัดการสถานการณ์ได้ ผมเลยรู้สึกปลอดภัยและไม่เห็นเหตุผลว่าจะต้องยอมให้เธอ

        ผมจ้องหน้าเขม็งใส่น้องแอล เธอคงจะนึกไม่ถึงว่าผมจะไม่ยอมถอยให้ แววตาของเธอเริ่มสับสนเล็กน้อย แต่ครู่เดียวก็จ้องเขม็งมองใส่ผม มือของเธอที่ถือแก้วน้ำอยู่ทำท่าจะขยับสาดน้ำใส่ผม ผมเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว เลยรีบยกมือขึ้นกดปุ่มเล็ก ๆ บนกรอบแว่น เสียงกริ๊กเบา ๆ ดังพอให้ผมได้ยินคนเดียว พร้อมกันนั้นแสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นมาแวบหนึ่งจนน้องแอลหยุดชะงักไป

        มือข้างขวาของเธอที่กำลังทำท่าจะสาดน้ำใส่ผมหยุดชะงักไป เพื่อนของเธอที่นั่งดูอยู่ห่าง ๆ ก็นั่งเงียบเหมือนกับไอ้โป้ง ดูเหมือนทุกคนจะกำลังสงสัยว่าทำไมน้องแอลถึงทำท่าจะสาดน้ำแต่ไม่ลงมือสาด และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเลยสักคนที่สังเกตเห็นแสงสว่างจากแว่น นอกจากผมกับน้องแอล และแน่นอนว่าไม่มีใครสักคนที่รู้ว่าตอนนี้น้องแอลตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผมแล้ว

        บรรยากาศภายในร้านกลายเป็นเงียบกันไปหมด ผมมองหน้าน้องแอลเขม็งพร้อมกับคิดสั่งการในสิ่งที่ผมอยากให้เธอทำ น้องแอลมองหน้าผมแล้วกระพริบตาปริบ ๆ เหมือนสับสน จากนั้นเธอจึงค่อยกลับไปตีสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิมตามที่ผมสั่งให้เธอทำ

        น้องแอลคนสวยไม่พูดอะไรอีก เธอเบือนหน้าหลบสายตาของผมแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่พูดอะไรอีก ถึงแม้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของผม แต่ท่าทางของเธอยังเป็นเธอคนเดิม เพราะผมต้องการให้เป็นแบบนั้น ผมสั่งให้เธอเป็นเหมือนเดิม แต่ไม่พลาดที่จะเพิ่มคำสั่งเงื่อนไขอะไรบางอย่างเข้าไปด้วยสักหน่อย

        ตอนนี้ไอ้โป้งที่ยังตัวเปียกชุ่มหันไปมองทางน้องแอลสลับกันหันมามองผมเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เพื่อน ๆ ของน้องแอลอีกสามคนก็มองน้องแอลสลับกับมองผมด้วยสายตาแบบเดียวกัน ส่วนน้องแอลหลังจากกลับไปนั่งที่เดิม เธอก็ยังทำหน้าเย็นชาเหมือนเจ้าหญิงน้ำแข็งเหมือนเดิม แต่เธอจะคอยแอบชำเลืองผมแบบเนียน ๆ เป็นระยะ

        "กลับล่ะนะไอ้โป้ง มีธุระที่อื่นอีก"

        ผมนั่งอีกครู่เดียวก็พูดลาไอ้โป้ง ผมไม่ได้หันมองไปทางน้องแอลเลยสักแวบ เพราะว่าผมตั้งใจสร้างภาพว่าผมกำลังโกรธไม่พอใจน้องแอล ซึ่งถ้าเป็นตอนปกติน้องแอลคงไม่สนหรอกว่าผมจะโกรธอะไรเธอ แต่ว่าตอนนี้เธอตกอยู่ใต้การควบคุมของผม และผมก็ได้วางแผนบางอย่างเอาไว้แล้ว

        "เดี๋ยว ๆ ไอ้หนุ่ม กูกลับด้วย"

        พอผมลุกขึ้นไอ้โป้งก็รีบเก็บของลุกขึ้นตามด้วยท่าทีมึนงง ดุเหมือนว่ามันจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมเดาถูกว่ามันจะต้องออกไปพร้อมกับผม เพราะว่ามันคงไม่อยากนั่งอยู่ในบรรยากาศอึมครึมกับเพื่อน ๆ ของน้องแอลแน่ ๆ

        ผมเดินออกจากร้านกาแฟโดยไม่ได้พูดอะไร ไอ้โป้งคอยมองผมด้วยสายตาที่แปลกไป ดูเหมือนว่ามันจะนึกไม่ถึงว่าผมจะกล้าท้าทายน้องแอล ตอนนี้มันเลยมองผมด้วยสายตาที่ดีขึ้น แต่ว่ายังหรอก ผมยังมีอะไรที่จะอวดให้ไอ้โป้งมันตื่นตะลึงอยู่อีกหน่อย

        "เดี๋ยวค่ะ"

        พอพวกเราเดินออกมาได้สักพัก ก็มีเสียงหวานใสน่ารักเรียกมาจากด้านหลัง ผมแอบยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะหันไปมอง เจ้าของเสียงเรียกที่ว่าก็คือน้องแอลนักเรียนมัธยมปลายคนสวย เธอหยุดยืนมองผมแล้วก้มหน้าแสดงท่าทางเขินอายออกมา ไอ้โป้งที่ยืนอยู่ข้างผมถึงกับอ้าปากค้างหันหน้ามามองผมสลับกับน้องแอล

        น้องแอลยืนเงียบไม่ได้พูดอะไร แต่ไอ้โป้งก็ไม่น่าจะโง่จนเดาไม่ออก ผมสั่งให้น้องแอลวิ่งตามผมมาข้างนอก และสั่งให้เธอแสดงความเขินไม่กล้าสบตากับผม ท่าทางแบบนี้ถ้าให้ผู้ชายแปลความ ก็แปลได้อย่างเดียวว่าน้องแอลคงจะเผลอตกหลุมรักผมเข้าแล้ว

        ผมยืนนิ่งมองน้องแอลแวบหนึ่ง แล้วค่อยตีสีหน้าทำท่าเหมือนยังโกรธเธออยู่ ทั้งที่ในใจกำลังหัวเราะกับท่าทางตกใจของไอ้โป้ง

        "มีอะไรหรือเปล่า"

        "... คือ ... หนูขอโทษนะคะพี่ หนูแสดงท่าทางไม่ค่อยเหมาะสม ทั้งที่เราเพิ่งเจอกัน พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับหนูเลยด้วยซ้ำ หนูขอโทษนะคะพี่ ขอโทษจริง ๆ"

        "อืม ไม่เป็นอะไรหรอก ถือว่าจบเรื่องกัน แค่นี้นะครับ พอดีผมมีธุระต้องรีบไปทำ"

        ผมแสร้งทำเป็นพูดตัดบทแบบเย็นชา แล้วผมก็หมุนตัวทำท่าจะเดินหนีไปโดยไม่สนใจเธอ และแน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะแอบสังเกตท่าทางตกใจจนเกือบอ้าปากค้างของไอ้โป้ง มันคงคิดไม่ถึงหรอกว่าแอลจะตามมาขอโทษผม และมันน่าจะยิ่งคิดไม่ถึงเรื่องที่ผมทำท่าเหมือนไม่สนใจน้องแอลสุดสวยคนนี้

        "เดี๋ยว เดี๋ยวค่ะ ... คือ ... ฟังแอลก่อนนะคะพี่ ขอร้อง"

        น้องแอลส่งเสียงร้องห้ามอีกครั้งพร้อมกับยื่นมือนุ่มนิ่มมาจับแขนผมไว้ ผมชะงักและหันหน้าไปมองพยายามตีหน้านิ่ง ตอนนี้น้องแอลเกาะแขนผมแน่น หน้าสวยเหมือนตุ๊กตาน้ำแข็งของเธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา ผมเลยใจหายวูบ เพราะไม่นึกว่าเธอจะแสดงได้สมบทบาทจนผมรู้สึกผิดขนาดนี้

        ขนาดผมเองยังตกใจ แล้วไอ้โป้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจะเหลือเหรอครับ ตอนนี้มันยืนทำหน้าเหวอเหมือนกำลังแตกตื่นสุดชีวิตยิ่งกว่าเห็นผี ยิ่งเห็นน้องแอลเกาะแขนผมแน่นและทำท่าจะร้องไห้ ปากของมันก็ยิ่งอ้ากว้างจนแมลงวันบินทั้งฝูงบินผ่านเข้าออกได้สักสิบรอบ

        "... เดี๋ยวนะครับน้องแอล เราไม่เคยเจอกันมาก่อนใช่หรือเปล่า น้องแอลก็แค่พูดจาไม่ดีใส่พี่ครั้งเดียว แล้วพี่ก็ยกโทษให้แล้ว ทำไมน้องต้องทำท่าตกใจอะไรขนาดนั้น"

        "คือ ... พี่ ... พี่ชื่ออะไรคะ"

        "ชื่อหนุ่มครับ"

        "... พี่หนุ่ม ... คือ แอลรู้สึกผิด แล้วก็อยากจะเชยให้พี่น่ะค่ะ จะให้แอลทำยังไงก็ได้ ขอแค่พี่ยอมยกโทษให้ แอลยอมทำให้ทุกอย่างเลย"

        "ทุกอย่างจริงเหรอ"

        ผมถามแบบยิ้ม ๆ พร้อมกับกวาดสายตามองหน้าตาสวยน่ารัก และเรือนร่างขาวเนียนในชุดนักเรียนมัธยมปลายของน้องแอล ขอสารภาพว่าแรกสุดผมแค่อยากเอาคืนเธอ และอยากแกล้งไอ้โป้งมันสักหน่อย จากนั้นผมจะปล่อยเธอไป เพราะว่าผมไม่ค่อยชอบนิสัยของเธอ และผมก็มีนัดกับแป้งไว้แล้ว แต่ตอนนี้ผมชักจะเริ่มเกิดความคิดไขว้เขวขึ้นมา เพราะน้องแอลเธอสวยน่ารักน่าฟัดจริง ๆ ถ้าไม่ติดเรื่องนิสัยที่ผมรับไม่ได้ เธอคงจะเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ไม่แพ้โบกี้เลยทีเดียว

        "... ค่ะ"

        แอลตอบพลางมองหน้าผมแล้วหน้าแดงก่ำ เธอก้มหน้างุดแสดงความเขินอายตามบทบาทที่ผมมอบให้ ไอ้โป้งยิ่งมาก็ยิ่งแสดงสีหน้ามึนงงจนผมเกือบหัวเราะพรวดออกมา ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เลยรีบตัดบทขยับตัวเดินไปโอบไหล่น้องแอลแล้วพาเธอเดินหนีออกมาจากไอ้โป้ง

        ความจริงแล้วผมก็อยากจะแสดงละครอวดไอ้โป้งอีกหน่อย แต่เพิ่งนึกได้ว่าไอ้โป้งมันมีกล้องอยู่เต็มตัว ถ้าเผื่อทำอะไรมากไปเดี๋ยวมันจะมีหลักฐานมาเล่นงานผม ผมเลยตัดสินใจหนีห่างออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก

        พอเดินห่างออกมาได้สำเร็จ ผมก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มกับกลิ่นหอมของน้องแอล นักเรียนมัธยมปลายคนสวยกอดแนบเข้าหาผมมากขึ้นทีละน้อย จนเป้ากางเกงของผมคับแน่นอึดอัด ยังดีที่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว และด้านหลังมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้สว่างในทุกพื้นที่ ต่อให้มีคนเห็นว่าเราเดินกอดกัน แต่ก็ไม่น่าจะดูออกว่าใครเป็นใคร แต่ที่ย่ำแย่ก็คือน้องแอลกำลังทำให้ผมรู้สึกอัดอั้นอยากปลดปล่อยอารมณ์ออกมาเต็มที่แล้ว และปัญหาก็คือเราไม่มีที่ลง แถมผมยังมีนัดกับน้องแป้งในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้างหน้าด้วย

        "แอล บ้านอยู่แถวนี้เหรอ ไปคุยกันที่บ้านแอลได้หรือเปล่า"

        "ค่ะ แต่ที่บ้านพ่อกับแม่อยู่ มีคนใช้อีกหลายคน คงไปไม่ได้"

        "แล้วแอลพอจะรู้จักที่ไหนเงียบ ๆ ที่เราพอจะไปคุยกันได้บ้างหรือเปล่าล่ะ"

        "... ไม่รู้เลยค่ะ"

        "เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ถ้าแอลกลับบ้านดึก จะโดนที่บ้านว่าหรือเปล่า"

        "แอลอยู่ข้างนอกได้อีกครึ่งชั่วโมงค่ะ แล้วก็ต้องรีบกลับบ้าน ไม่งั้นพ่อกับแม่จะตามหา"

        ผมฟังแล้วก็นิ่งไปเงียบไปพักใหญ่ ตอนนี้ผมเริ่มอยากแกล้งน้องแอลเต็มที่แล้ว แต่ว่าเธอไม่ใช่เด็กมหาวิทยาลัยที่มีอิสระเหมือนโบกี้กับแป้ง และผมก็ยังไม่อยากหาเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ถึงเธอจะอายุสิบแปดแล้ว แต่ก็ยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายอยู่ด้วยอีกต่างหาก

        นอกจากนี้เวลาของเราสองคนก็ยังมีน้อย นัดกับแป้งนั้นผมอาจจะพอเลื่อนไปก่อนได้ แต่ว่าน้องแอลน่าจะต้องกลับบ้านตรงเวลา และเวลาที่เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงคงไม่พอให้เดินทางไปหาห้องเงียบ ๆ คุยกัน ยกเว้นก็แต่ถ้าผมสามารถหาสถานที่แถวนี้ได้ก็พอจะไหว

        ทันใดนั้นความคิดอันบ้าบิ่นอย่างหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว ความจริงแล้วผมมีห้องที่พอใช้ได้อยู่ห้องหนึ่ง เพียงแต่มันออกจะเสี่ยงและไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่ว่าห้องนี้เรียกได้ว่าเหมาะมาก เพราะอยู่ใกล้เดินแค่หน่อยเดียวก็ถึง ถ้าไปห้องนี้ผมจะสามารถพาน้องแอลไปทำอะไรกันแบบรีบ ๆ ได้ แล้วก็สามารถพาเธอส่งกลับบ้านได้ทันเวลา

        มองในแง่นี้แล้วห้องนี้มีความเหมาะสมมากที่สุด แต่ปัญหาก็คือห้องที่ว่านี่คือห้องพักของแป้ง ก่อนนี้เธอได้ให้กุญแจห้องผมไว้ และบอกว่าผมมาหาเธอได้ตลอดเวลา

        ปัญหาก็คืออีตรงนี้ล่ะครับ ถึงผมกับแป้งจะตกลงแอบคบหากันเป็นกิ๊กแบบลับ ๆ แต่ถ้าผมพาผู้หญิงคนอื่นไปห้องของแป้ง เธอจะโกรธผมมากขนาดไหน และตอนนี้ผมก็เพิ่งใช้พลังของแว่นไป ผมจึงไม่สามารถใช้ทำอะไรกับแป้งได้อีก

        ผมคิดจะยกธงยอมแพ้ปล่อยเนื้อกวางอ่อนหอมหวานอย่างน้อยแอลไปก่อน แล้วค่อยไปหาเธอวันหลัง แต่พอมองดูหน้าอ้อน ๆ กับหุ่นน่าฟัดของน้องแอลในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ความหื่นก็ทำให้ผมไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป แต่พอคิดย้อนเรื่องความเสี่ยงอีกทีผมก็หัวหมุนทำตัวไม่ถูก

        ช่วยผมเลือกหน่อยเถอะครับว่าผมควรทำแบบไหนดี แบบแรกคือปล่อยน้องแอลไปก่อน ผมจะขอเบอร์โทรติดต่อ และใส่ความทรงจำอะไรบางอย่างให้น้องแอล แล้วค่อยนัดเจอกันอีกทีวันอื่น แบบนี้จะปลอดภัยที่สุด แบบที่สองก็คือลองเสี่ยงพาน้องแอลไปห้องของแป้งแล้วจัดการให้หนำใจ จากนั้นก็หาข้ออ้างทำให้แป้งกลับห้องช้าสักหน่อยเรื่องก็จะไปได้สวย ... แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะเลือกแบบไหน

       
...........................................
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

kaithai

#1
อ้างถึง"... พี่หนุ่ม ... คือ แอลรู้สึกผิด แล้วก็อยากจะเชยให้พี่น่ะค่ะ จะให้แอลทำยังไงก็ได้ ขอแค่พี่ยอมยกโทษให้ แอลยอมทำให้ทุกอย่างเลย"

"จะชดเชยให้"     ใช่ไหม

ขอบคุณครับ

สำหรับ ทางเลือก ปล่อยน้องแอลไปก่อน
ตอนนี้ ไปหาน้องแป้งก่อน ถึงใช้แว่นตาไม่ได้
ก็ยังตะล่อม ถามสิ่งที่สงสัยเกี่ยวกับไอ้โป้งก่อนได้นี่



การตอบ รีพลายอย่าง พอเหมาะพอควรถ้าเจ้าของกระทู้แจ้งมา จะพิจารณา เป็นรายกรณี

ถ้าตอบ เช่น zzzzddd xxxx2222 อิอิ,ลุ้นๆ,555, ดีดี,ดี, ต่อ,ติดตาม,ty,thx,thx kub(Thx ขี้หมาThanx พิมพ์ไม่ถูก
ห้ามใช้ทุกกระดานที่ ฉันดูแล
),ใจจร้า,ใจครับ,แจ่ม,เยี่ยม,สนุกดี,สุดยอด,อ่านต่อ,Good (เฉยๆ)
emo เปล่าๆ
อาจเตือนเห็นอีก ถ้าเตือนไปแล้ว ผิดซ้ำซากก็จะแบนเหมือนกัน รีพลายตอบซั่วๆ ตอบแล้ว mod ไม่เข้าใจ จะโดนแบน
รีพลายมักง่ายต่างๆ จะแบนครั้งแรก 6 เดือน คราต่อไป แบนยาวขึ้น แล้วจะหายเมื่อไม่ปรับปรุง

พวก ก๊อปตอบ รัวๆรวดเดียวเป็น 10 กระทู้ โพสต์ละ 1 นาทีนะ เจอจะ แบน ถ้ามักง่ายเช่นนี้ ถือว่าไม่ให้เกียรติ์
คนแบ่งปัน/ คนลงงาน..พวกเปิดรัวๆ ประโยคเดียวเป็น 10 มันควรหรือ? ตอบซ้ำมาหลายครัง ในกระทู้เดียวกัน
อาจโดนพักใช้ได้เหมือนกัน และห้ามใช้ ข้อความจากระบบในการตอบรีพลายเด็ดขาด! มันมักง่ายประเภทเดียว
กับก๊อปตอบ จะแบน ครึ่งปี ครั้งต่อแบนเพิ่มขึ้นอีก และ หายจากบอร์ด
         

            ผลงานที่ สมาชิกอุตสาห์นำมาลง ไม่ว่าจะเขียนเอง หรือขอมาลงล้วนได้มาด้วยการสละเวลา
            ถ้าจะตอบมามักง่ายก็ อย่าใช้ห้องนี้ เสพผลงานเลยไปหาเสพที่ใดแล้ว รีพลายตอบ นั้นได้ ก็ไป
            อย่าทะลึ่งมา เปรี้ยว มา เกรียน ลอง  สด ,เก๋า อย่าเลย จะเสียน้ำใจเสียความรู้สึกเปล่าๆ
            เพราะถึงคุณมี 100 ยูส 1000 ชื่อ ถ้ารีพลายผิดกฏ-กติกากระดานนี้ ฉัน ก็จะแบนหมด

...................................................................

ถ้าถูกแปะเตือนที่ โพสต์หรือกระทู้คุณ และส่งไปที่ pm คุณ จงรีบปรับปรุงรีพลายซะ ขอบคุง,ขอบหี,ขอบควย
ขอบหมา,ขอบแมว,ขอบคุน
เตือนนะอย่าลองของ ใครโดนเตือนไปให้ปรับปรุงการรีพลายเจอ อาจโดนแนทันที
6 เดือนเหมือนโทษ ป้วนเกรียนอื่นๆ....

คำขอบคุณยังเขียนไม่ถูกความหมายมันจะถูกไหม? ที่ต้องมาเข้มงวดเรื่องนี้ เพราะชักเยอะพวกมักง่าย เยอะ
ไรต์ คนลงงาน ก็ติมาด้วย..เครนะ ขอกันดีๆ แว่น ยกตัวอย่างคำ ขอบคุณเขียนไม่ถูกชัดไหม?

ใคร ขอบคุณ รีพลายเขียนไม่ถูกอาจโดนแบนเลนทันที ขอบคุณ เฉยๆก็ดูเอียนจริงๆ แต่ก็เป็นคำสากลในการตอบแทนน้ำใจ
ฉะนั้น ขอเถอะเขียนให้ถูก เมื่อต้องปรับเปลี่ยนก็ต้องคล้อยตามกัน กฏไม่ได้ใช้กับใคร? เพียงคนเดียว และไม่ยากเกินไป
  คิดว่าสร้างมาตรฐาน ถ้าใครคิดว่ายากก็ไม่ต้องเข้ามาใช้ กระดานนี้ เพราะ ฉันแบนแน่.. 

อ๋อ thx ขี้หมา นี้หรือ เขียนไม่ครบเป็นคำ thank อย่าให้เห็นนะ แบน ย้ำซะขนาดนี้พิมพ์มาอีกถือว่าลอง บางคนโวยวาย
ขำ thx ขี้หมา แค่นี้ก็แบน ถุย! ก็ตรรกะเอ็งมันมักง่ายไง เงื่อนไขง่ายๆถึงออกมาแถ มันยากนักก็ไม่ต้องเข้ามาใช้ เวปนี้ไม่ง้อ
บอร์ดอยู่มาได้ไม่ต้องพึ่งคนมักง่ายใช้ตรรกะปลิง จ้องจะสูบทั้งที่ใช้ฟรี เสือกเยอะ ไรต์เขียนมาหาข้อมูลมากว่าจะจบแต่ละตอน
ไอ้ซากปลิง เข้ามา Thx  เหอะๆ เอาใช้ไปหาที่เสพที่อื่นเถอะ เวปนี้แบน

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉัน
แบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง
เขียน ขอบคุณ ให้ถูก ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,
ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น.
.


psm_mach

พระเอกเราจะเสี่ยงมากไปแล้ว ขืนลุยเลยอาจจะเสียแป้งแล้วจะเสียโบกี้อีก เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่ามีแว่นวิเศษอยู่กับตัวไม่ต้องกลัวไม่ได้ โหวตแล้วนะครับ

pj4105


dechakit


kamma40

ถึงจุดนี้ น่าจะต้องรอจังหวะนะครับ เกิดพลาดโดยโป้งตามมาถ่ายรูปเก็บไว้ งานจะเข้าหนักมาก

suriyamahajit

เสือจะยอมทิ้งเหยื่อรึเปล่านะ

attosang

รอก่อนครับจะกินของดีต้องอดใจไว้ครับ

cd13579

อีโป้งตามมาก็จบดิ แทรกอะไรยัดไว้ก่อนค่อยตามเคลมทีหลัง ว่าแต่แว่นเฮียยิ่งกว่ากว่ายาเขาอีกนะโกงสุดๆ
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

cookieai

ปล่อยๆบ้าง เดี๋ยวจะแก้ปัญหาไม่ทัน

mhoa2000

Let's go เรี่องนี้ต้องเสี่ยงกันหน่อย ::Fighto::

aumoum

รอก่อนดีกว่าแทรกความคิดไว้ก่อนค่อยตามเก็บ

lucyjung

เลือกยากมากครับครั้งนี้ แต่ผมคิดว่าปล่อยไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะมีคนตามมา

crazylex

เอา เบอร์ กะไลน์ไว้ ว่าเมื่อไหร่ก็จัดซะ อย่าโลภมากเดี๋ยวจะซวยเอา

aaa01