ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สองพี่น้อง กับเคสพิศวง ตอนที่ 3

เริ่มโดย Farewell, พฤศจิกายน 21, 2016, 02:31:29 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

forzakhan

เหมือนเรื่องนี้ น้องแจนจะเป็นนางเอกเลยนะคะ อิอิ

sanya


ผ่านมา


tigereac

มีสร้อยแล้วยังมีแหวน แถมมีสิ่งลี้ลับอีก บ้านนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ



avena

หมอกราคะพึ่งออกจากร่างแจนไป แจนยังต้องเจออะไรอีกเนี้ยยย เป็นกำลังใจให้แจนสู้ต่อไปนะแจน ::Fighto::

jeezjazz




sesko

อ้างจาก: Farewell เมื่อ พฤศจิกายน 21, 2016, 02:31:29 ก่อนเที่ยง
ขอโทษที่หายไปนาน พอดีติดลูปการแต่งน่ะครับ ทั้งๆที่อุตส่าห์วางพล็อตทั้งหมดไว้แล้ว


-------------------------------------------------------------


ตอนที่ 3

"ไม่เห็นครับ สงสัยป้าเพ็ญเอาไปซักให้มั้งครับ" ขุนตะโกนบอก พลางมองไปที่โต๊ะเรียนขวัญ ซึ่งบัดนี้เต็มไปด้วยหนังสือประจำตระกูลเกี่ยวกับของอาถรรพ์หลายต่อหลายเล่ม

"งั้นขอยืมชุดขวัญหน่อยนะ" แจนตะโกนออกมาจากห้องแต่งตัว

ตอนนี้แจนสลัดผ้าห่มออกในห้องแต่งตัว ผิวกายขาวนวลเนียนถูกเปิดเผยออกมา หน้าอกขนาดอัพดีเต่งตึงเบียดเสียดอย่างน่าชม เธอมองรูปร่างตัวเองอย่างภูมิใจ แต่ใบหน้าของเธอบัดนี้ซีดเซียวผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หากคนอื่นเห็นเธอในสภาพนี้คงอดคิดไม่ได้ว่าเธอโดนรุมโทรมมา ความรู้สึกอับอายบังเกิดขึ้นในใจที่ปล่อยให้ขุนเห็นเธอในสภาพแบบนี้

"ตามสบายเลยพี่ เจ๊เค้าไม่ว่าหรอกถ้าเป็นพี่น่ะ" ขุนตอบ พลางนอนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจากกองหนังสือนั่นรอแจน

แจนมองไปที่ชุดเดรสยาวน่ารักของขวัญแบบต่างๆ ในใจรู้สึกไม่อยากใส่ชุดเรียบร้อยแบบนี้เท่าไหร่ แต่ว่าคราวนี้มันไม่รุนแรงเหมือนตอนก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงยอมใส่แค่ผ้าเช็ดตัวเพื่อไม่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้แน่ หากแต่คราวนี้นั้นกลับไม่ใช่ เธอหยิบชุดเดรสยาวสีขาวน่ารักเรียบร้อยตัวหนึ่งขึ้นมา

แจนมองชุดนั้นด้วยแววตาสั่นคลอนสับสน ถึงแม้หมอกราคะจะเข้าไปอยู่ในร่างกายของขวัญแล้ว แต่ผลข้างเคียงของหมอกราคะยังคงอยู่ จิตใจของเธอที่โดนหมอกราคะควบคุมนานนับเดือนตอนนี้จึงไม่มั่นคงนักเหมือนบางสิ่งที่คอยเติมเต็มเธอมาตลอดได้หายไป แต่ในเมื่อขวัญไม่มีชุดเซ๊กซี่แบบที่เธอต้องการ เธอก็จำใจต้องสวมชุดนี้เข้าไป

แจนรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไหร่ที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็แต่งแบบนี้มาโดยตลอด เธอพยายามสลัดความรู้สึกอึดอัดแปลกๆออกไป มันเหมือนว่าในใจเธอกำลังต่อต้านเสื้อผ้าแบบนี้ เธอจึงนึกถึงขุนขึ้นมาเพื่อให้จิตใจเธอนั้นไม่ว่าง หัวใจแจนเต้นตึกตักเมื่อคิดว่าเธอจะได้แต่งตัวน่ารักๆให้ขุนดู ใบหน้าแดงเริ่มระเรื่อด้วยความเขินพลางส่องกระจกแล้วหยิบเครื่องสำอางของขวัญมาแต่งหน้าแต่งตา



กริ๊งงงงงง!!!

เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นจากระเบียงทางเดินหน้าห้องขวัญ ขุนรีบเดินออกไปรับ เขายกมือห้ามป้าเพ็ญที่กำลังจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่ชั้นล่าง เป็นเชิงบอกว่าเขาจะรับสายนี้เอง

"ฮัลโหล บ้านตระกูลกอบกูลครับ" ขุนพูด
"ว่าไงไอ้ลูกชาย"
"พ่อออ!!" ขุนดีใจจนเผลอตะโกนออกมา "นึกไงโทรมาเนี่ย ปกติกว่าจะโทรก็นู่นแหละสองสามเดือน"
"เอ้า คิดถึงลูกๆบ้างไม่ได้เหรอ" พ่อขุนตำหนิ
"แต่นี่โทรศัพท์บ้านนะพ่อ ถ้าขุนไปเรียนก็ไม่ได้คุยกันสิ"
"เออว่ะ ลืมเวลาจนได้" พ่อขุนเพิ่งนึกขึ้นได้ "แล้วทำไมแกไม่ไปเรียน"
"พอดีไม่สบายน่ะพ่อ" ขุนโกหกพลางทำเสียงอ่อนๆเหมือนไม่สบาย
"ไม่ต้องทำสำออย ระวังจะเรียนไม่จบ" พ่อขุนเอ่ยอย่างรู้ทัน
"คร้าบๆ หมอผีคง ฮ่าๆๆๆ" ขุนพูดแซวพ่อเขา
"เอ๊ะ ไอ้นี่ บอกอย่าเรียกหมอผี ให้เรียกผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์" พ่อคงว่า หัวเราะเล็กน้อย "แล้วเรื่องหนูแจนที่บอก เป็นไง"
"นั่นไง ผมว่าแล้วว่าทำไมพ่อโทรมา ที่แท้ก็อยากรู้ความคืบหน้าเรื่องนี้นี่เอง" ขุนเอ่ยอย่างรู้ทัน
"เออๆ มันก็จริงอยู่ แต่พ่อก็คิดถึงพวกเองเหมือนกัน ฮ่าๆๆ" พ่อคงว่าพลางหัวเราะกลบเกลื่อน "แล้วเรื่องหนูแจนล่ะ"
"ก็จริงเหมือนที่พ่อว่านั่นแหละ แต่ผมไม่รู้สึกเลยว่าสร้อยนั่นมีอาถรรพ์อะไรอยู่" ขุนบอกระคนสงสัย
"เองจะบอกว่าสร้อยนั่นเป็นแค่สื่อนำเหรอ" พ่อคงว่า

ขุนเมื่อได้ยินเรื่องสื่อนำ ก็ตาโต ใช่แล้ว เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าสร้อยเป็นแค่สื่อนำเท่ากับว่า ต่อให้เจ๊ขวัญอ่านหนังสือเกี่ยวกับของอาถรรพ์เท่าไหร่ ยังไงก็คงไม่มีทางหาเจอแน่นอน เพราะสื่อนำจะเป็นแค่ที่คอยชักจูงสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น ไม่ได้มีพลังอำนาจด้วยตัวมันเอง นั่นเท่ากับว่าของทุกชิ้นสามารถเป็นที่ที่สิ่งชั่วร้ายจะยึดเป็นสื่อนำได้หมด

"พ่ออออ ขุนลืมเรื่องนี้สนิทเลย" ขุนพูดเหมือนปลดล็อคอะไรสักอย่างในหัว
"นั่นไง แกนี่นะ ว่าแต่สร้อยนั่นตอนนี้อยู่ไหนล่ะ" พ่อคงถามพลางนึกถึงเงินที่จะหลั่งไหลตามมา
"อยู่บนคอพี่ขวัญน่ะ" ขุนตอบเสียงอ่อยๆ
"หา!! แกว่าอะไรนะ แกปล่อยให้พี่แกใส่ได้ไง" พ่อคงตะโกนเสียงดังใส่ "ไปเอามันออกมาเดี๋ยวนี้เลย ก่อนจะมีอะไรเกิดขึ้น"
"ตะ แต่ว่าเจ๊เค้าเหมือนไม่เป็นอะไรเลยนะ" ขุนพยายามแก้ตัว
"แกรู้ได้ไงว่าพี่แกไม่เป็นอะไร ไปเรียกลูกขวัญมาเลยนะ พ่อจะคุยด้วย" พ่อคงออกคำสั่ง
"ออกไปเรียนแล้วล่ะพ่อ" ขุนพูดเสียงอ่อยๆ สำนึกผิด
"เอ้า!! งั้นแกเล่ามาให้หมดนะ ว่าพ่อยังไม่รู้อะไรอีก" พ่อพูดเชิงสั่ง พลางคิดว่าหลังจากนี้จะโทรหาลูกขวัญสักหน่อย

ขุนจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ทั้งเรื่องความสวยที่เพิ่มมากขึ้น และรวมถึงท่าทางแปลกๆก่อนออกจากบ้านนั่นก็ด้วย หมอผีคงตั้งใจฟังเงียบๆ ไม่ขัดจังหวะใดๆเลย

"หมอกราคะ" พ่อขุนว่า น้ำเสียงตกใจ "แต่มันไม่น่าเป็นไปได้นี่นา"

จริงๆแล้วพ่อคงก็สันนิฐานว่าอาจจะเป็นหมอกราคะตั้งแต่ก่อนจะไปต่างประเทศแล้ว เพียงแต่รูปร่างภายนอกของหนูแจนนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยทำให้ข้อสันนิฐานนี้อ่อนลง พลางทำให้พ่อคงนึกว่าคงเป็นวัตถุอาถรรพ์แบบใหม่ที่ทำให้แจนนั้นมีนิสัยเปลี่ยนไป แล้วก็พาลคิดไปว่าจะได้เงินเท่าไหร่จากของชิ้นนี้ จนลืมระมัดระวังตัวให้รอบคอบกว่านี้

ถ้าเป็นหมอกราคะแล้วทำไมแจนถึงไม่ได้รับความสวยที่มันมักจะมอบให้เหยื่อกันนะ พ่อคงยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน มันเหมือนกับว่าเขายังศึกษาเรื่องนี้ไม่ละเอียดพอ จริงๆแล้วกรณีหมอกราคะมักจะพบเจอไม่บ่อยนัก เรียกได้ว่าสักร้อยปีจะโผล่มาสักทีก็ว่าได้ เพราะนานๆมาทีก็ทำให้ศึกษามันได้ยากยิ่งขึ้นด้วย ในใจพ่อคงเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสในการศึกษาเหมือนกัน แต่ก็เป็นห่วงลูกสาวไม่น้อยที่มีหมอกนั่นอยู่ในร่าง

"พ่อเงียบเชียว ว่าแต่หมอกราคะคืออะไร" ขุนถามด้วยความงุนงงสงสัย
"เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้แกต้องคอยดูแลพี่แกให้มากๆนะ" พ่อคงพูดน้ำเสียงจริงจัง ตอนนี้เขาคิดว่าจะปล่อยลูกขวัญแบบนี้ไปก่อน ส่วนนึงเพราะขวัญนั้นอยากศึกษาด้วยตัวเอง(ตามที่ขุนเล่า) แต่หมอคงก็คิดแผนสำรองไว้แล้วในใจกันผิดท่าขึ้น "แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เองทำตามที่พ่อจะบอกนะ จดให้ละเอียด"

แล้วพ่อคงก็แนะนำวิธีให้กับขุนนานราวๆ 5-10 นาที ส่วนขุนก็ตั้งใจฟังและจดลงสมุดอย่างละเอียด ไม่ขาดตกเลยสักคำ

"เอาจริงเหรอพ่อ ไม่ดีมั้ง" ขุนเอ่ยหลังได้ฟังแผนสำรองนั้น
"เออสิ ไม่ใช่เองแล้วจะเป็นใคร" พ่อคงบอกเสียงดัง ก่อนจะย้ำอีกครั้ง "ทำตามที่บอกนะ ไปละพ่อมีธุระต่อ"

หลังจากที่พ่อเขาวางสาย ขุนก็คิดทบทวนในสิ่งที่พ่อเขาบอก ก่อนจะลุกขึ้นไปที่ชั้นสาม ชั้นเก็บของอาถรรพ์ตระกูลกอบกูลนั้นกินพื้นที่ของชั้นสามทั้งชั้น มีของอาถรรพ์นับพันชิ้นจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ ตั้งแต่แบบไม่มีอันตรายจนถึงอันตรายมากซึ่งการจำแนกเกณฑ์เป็นไปตามความยากในการถอนคำสาปและผลกระทบของวัตถุนั่นเอง ของทุกชิ้นถูกนำมาจากสถานที่แตกต่างกัน และคนที่สามารถขึ้นชั้นนี้ได้มีแค่เฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น

เขาเดินผ่านของมากมายจนเข้าไปในส่วนของ อันตรายปานกลาง จากนั้นก็หยุดยืนที่ลิ้นชักใบหนึ่งซึ่งเขียนหน้าลิ้นชักว่า "แหวนสื่ออารมณ์" ขุนหยิบแหวนนั่นขึ้นมาสองวง มันมีลักษณะสวยงามราวกับแหวนขอแต่งงาน หากมองแค่เพชรที่ประดับคงมีราคาไม่น้อย ก่อนเขาจะเก็บแหวนลงในกระเป๋าเสื้อ

แหวนสื่ออารมณ์ เป็นสมบัติประจำตระกูลของขุนชิ้นหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นมาโดยปู่ทวดของเขาเอง ถูกแบ่งเป็นสองวงคือ แหวนสื่อ และแหวนรับ โดยแหวนสื่อจะทำการก๊อปอารมณ์ ความรู้สึก ลักษณะนิสัย ไปยังแหวนรับ เช่นหากคนสวมแหวนสื่อเป็นคนเรียบร้อย แล้วคนสวมแหวนรับเป็นคนเซ๊กซี่แต่งตัวจัด คนที่สวมแหวนรับจะกลายเป็นคนเรียบร้อยทันที แต่หากคนสวมแหวนสื่อเป็นคนเซ๊กซี่แต่งตัวจัด แล้วคนสวมแหวนรับเป็นคนเรียบร้อย คนที่สวมแหวนรับก็จะกลายเป็นคนเซ๊กซี่เช่นกัน


-----------------------------------------------------------------


"เสร็จแล้ว!!" แจนกระโดดออกมาจากห้องแต่งตัว ด้วยชุดเดรสยาวสีขาวสุดน่ารัก เธอแต่งหน้าทาปากนิดหน่อยจนไม่เหลือเค้าแจนในสภาพเหมือนโดนรุมโทรมเมื่อกี้นี้เลย "อ้าววว ขุนนน!! อยู่ไหนนะ"

แจนเดินเยื้องย่างออกมาหาขุน ชุดกระโปรงยาวปลิวพลิ้วไสวตามแรงเดิน ดูน่ารักยิ่งนัก ตอนเธอจะใส่ชุดแบบนี้ถ้าเป็นเมื่อวานเธอคงรู้สึกอึดอัดกว่านี้เป็นแน่ ถึงแม้ตอนนี้จะอึดอัดอยู่นิดหน่อยก็ตาม แต่พอคิดว่าจะโชว์มุมน่ารักของเธอให้ขุนดู จิตใจเธอก็ไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดอีก

"ขุนนน!!"
แจนเรียกหาขุนพลางมองขึ้นไปที่ชั้นสาม เห็นประตูเปิดอ้าอยู่จึงเดินขึ้นไปหา เมื่อเธอขึ้นไปถึงชั้นสามเธอถึงกับตาโต ตู้ลิ้นชักขนาดใหญ่วางเรียงกันมากมาย พื้นที่นั้นกว้างขวางราวกับสนามบอลขนาดย่อม แต่ละโซนมีเขียนป้ายอันตรายมากน้อยอีกด้วย เธอถือวิสาสะเดินเข้าไปในโซนอันตรายมาก ทางเดินมีตู้ลิ้นชักขนาบข้าง ที่สุดทางเดินแจนเห็นชุดนักเรียนญี่ปุ่นที่ถูกแขวนในตู้โชว์กระจกใส เธอเดินไปหาชุดนั่นช้าๆราวกับถูกมันเชื้อเชิญ

"ออกไปนะ"
เสียงเจื่อยแจวของผู้หญิงดังหวิวๆผ่านอากาศออกมา แจนรีบหันไปมองรอบๆแต่ก็ไม่พบอะไร ในใจบังเกิดความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่เธอก็หยุดความอยากรู้ไม่ได้ แจนเดินเข้าไปหาชุดนั่นอีกครั้ง พอถึงที่หหมาย เธอเปิดกระจกพลางค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสชุดนักเรียนญี่ปุ่นนั่น ปลายนิ้วสะกิดโดนแขนเสื้ออย่างแผ่วเบา แต่จู่ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา

"ข้าบอกให้ออกไป!!"

"ว้ายยยยย!!!"

แจนผง่ะตกใจ เมื่อจู่ๆก็เห็นผู้หญิงห่มสไบเขียวยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้านั้นเนียนสวย ผิวสีน้ำผึ้งเรียบเนียน ผมดำยาวปลิวไปมาทั้งๆที่ไม่มีลม แต่ร่างกายนั้นกลับโปร่งแสง ใบหน้าตอนนี้ของสิ่งนั้นดูเหมือนโกรธแจนสุดๆ จากนั้นสิ่งนั้นก็ล่องลอยรวดเร็วเข้ามาหาแจน เธอตกใจถอยหนีจนล้มลงกับพื้น เจ้าสิ่งนั้นลอยเข้ามาใกล้จากนั้นก็

วูบบบ!!

แววตาของแจนเปลี่ยนเป็นสีเขียวแวบนึงก่อนที่จะกลับไปเป็นสีน้ำตาลสวยดังเดิม เธอส่ายหัวกระพริบตาปริบๆ ลุกขึ้นสำรวจเรือนร่างตัวเองด้วยสายตาที่แปลกไป จากนั้นเธอก็สัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายราวกับเป็นสิ่งแปลกใหม่ โดยเน้นที่เต้างามเป็นพิเศษ เคล้นคลึงไปมา แจนลูบไล้ตามเรือนร่างไปมาอย่างสนใจใคร่รู้ราวกับไม่ใช่แจนคนเดิม





kin9siz3


pn223902