ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

OUT OF AMMO EP 9 ปิดคดี

เริ่มโดย cd13579, พฤศจิกายน 25, 2016, 03:14:22 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cd13579

ฮัลโหล ยามดึกครับ เขียนจบก็รีบแก้แล้วมาลงเลย รอบนี้มีเรื่องนิดๆหน่อยมาพูดนะครับ
1. ฝากถึงคนอ่านหลายๆท่านนะครับ อ่านรายละเอียดของผู้เขียนหลายๆท่านให้ดีก่อนจะตอบนิดนึง จะบอกว่าคอมเมนต์พวกท่านนี้ละแหล่งพลังงานชั้นดีให้คนเขียนแบบผม ไอ้พวกแบบๆขอไปทีเนี่ยลองนึกถึงคนแต่งบางเถอะ นั่งเขียนมาหลายวันเจอแค่ ตามๆ ขอบคุณ สั้นๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่แบบว่ามันก็ดูน้อยๆยังไงไม่รู้วะ ยาวกว่านี้ได้ก็จะขอบคุณมาก ใส่ใจเรื่องนี้กันบ้างนะไม่ใช่เฉพาะผม ใส่ใจให้กับทุกผลงานที่ท่านจะอ่านเลยดีกว่า ท่านที่ทำดีแล้วก็รักษาความดีนั้นต่อไปนะครับ  ::WooWoo::
2. วันที่ 6 เดือนหน้า ผู้เขียนจะแวบไปแอ่วเหนือ แถว โรงเรียนตชด หนาวๆกับทางมหาลัย 15 วัน แต่คงจะลงตอน 10 ให้ก่อนไป หายไป 15 วันนี้ไป สร้างตึกพยาบาลให้น้องๆบนนั้น ใครสนใจร่วมสมทบทุน หลังไมค์ได้นะ
หมดเรื่องหมดราวแล้วก็เหมือนเดิม ขอให้สนุกและขอบคุณที่มาอ่านครับ Enjoy  ::Falling::
ป.ล. ไม่ซ่อนสาระสำคัญนะ อ่านได้เลย


นอนก่อนใครม็อดคนไหนใจดีก็แก้หน้าให้ก่อนก็ได้นะครับ

ตอนที่ 9 ปิดคดี
     ท่ามกลางความกลหลาโหลที่ก่อตัวขึ้นหน้าบ้านเสี่ยภูมิชัย เหล่าม็อบชาวบ้านติดอาวุธที่แห่กันมากำลังพยายามพังรั้วบุกเข้าไปคนในบ้านเสี่ยก็พยายามดันประกั้นไว้เพื่อซื้อเวลา เพล้งง ฟู่ๆๆ ระเบิดเพลิง ขวดแล้วขวดเล่า ทยอยปลิวข้ามรั้วมาโชคดีที่ไม่ถึงตัวบ้านเหล่าลูกน้องหลายคนต่างใช้ถังดับเพลิงตามไล่พ่นดับมือเป็นระวิง

"โวยยย มาจากไหนเยอะแยะวะมาขนาดนี้มันกะฆ่ากันชัดๆ" ยอดที่ช่วยยันประตูรั้วไม่ให้พังลงมาโพลงขึ้นอย่าหัวเสีย
"ตำรวจไปไหนหมดวะ แมร่ง"
"โดนชาวบ้านกระทืบยับหมดแล้ว ดีไม่ดีมันจะเอาปืนตำรวจมายิงเราด้วย ยอดไปเอาปืนมาถ้ามันแห่เข้ามาเราก็ยิงทิ้งได้เลย"

     เสี่ยใหญ่เดินออกมาหน้าบ้านเพื่อสั่งเขยรัก ชาวบ้านที่เห็นต่างพากันดันรั้วแรงขึ้นพร้อมๆกับหินไม้ระเบิดเพลิงใส่เสี่ยใหญ่เป็นเป้าหมายเดียวกัน ปึกกกก หินก้อนหนึ่งกระแทกหัวเสี่ยอย่างจังชายวัยกลางวันล้มฟุบลงไปกุมหัวเลือดไหลหยดออกมา เมย์ลูกสาวของเสี่ยรีบประคองพ่อตนกลับเข้าไป เอี๊ยดดดแกร๊งๆ รั้วเหล็กใหญ่แรงรับการพละกำลังจากภายนอกไม่ได้จนเอนลงมา

"จะกั้นไม่อยู่แล้ววว" ยอดมองรั้วเหล็กก่อนชักปืนออกมาเตรียมพร้อมยิงเหล่าผู้ประท้วงที่กำลังจะเข้ามาได้

"ขอบคุณมากครับท่านส่งมาด่วนเลยนะครับ" เข้มที่ขอกำลังสนับสนุนอยู่ยิ้มเหี้ยมขึ้น เมื่อรถมาจอดอยู่ด้านหลังของฝูงชนที่ยังพยายามแหกรั้วบ้านเสี่ย  เข้มปีนขึ้นไปบนตัวรถหุ้มเกราะก่อนจะควักระเบิดออกมา ยัดลูกระเบิดนั้นใส่ใต้ลำกล้องของปลายปืนกลของเขาก่อนจะเล็งใส่ฝูงชนอย่างโจงแจ้ง


ปุ้ง ระเบิดลูกนั้นหัวลิ่วเข้าไปริมประตู ฟู่ๆๆ ควันสีขาวลอยออกมาท่ามกลางฝูงชนที่กำลังบ้าคลั่ง
กำนัน: "มันแค่ยิ่งควันขู่ไม่ต้องกลัวพังเข้าไปเลย" แต่คนที่อยู่ใกล้บริเวณควันกลับแสบหน้าแสบตาตาถอยหนีออกจากบริเวณรัศมีควันทันที

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง เครื่องยิงลูกระเบิดขนาดย่อมที่ติดมาใต้ปืนส่งระเบิดชนิดแก๊สน้ำตาอีกหลายลูกลอยใส่ฝูงชนที่หน้าประตูทำให้มวลชนคนแถวนั้นต้องหนีกระเจิงออกมา กำนันเห็นว่าท่าไม่ดีจึงรีบปลุกระดมชาวบ้านอีกครั้ง

กำนัน: "อ้าวพวกเรา ขี้ข้าคนรวยมาแล้วโห่ให้พวกมันหน่อย"
"โหหหหหหห เฮๆๆ" เสียงมวลมวลชนดังกระหั่มใส่ตำรวจทั้ง 5 นาย

ปัง! เสียงปืนของเข้มดังขึ้นกลบทุกเสียงที่ดังขึ้นมา
หมวดเข้ม: "กำนัน มากับเราเดี่ยวนี้ ป้าอนงค์เล่าให้เราฟังหมดแล้วเรื่องนั้น"
กำนัน: "เรื่องอะไรวะ มึงพูดอะไรซี้ซั้ว นี้จะยัดข้อหากันใช่มั้ย อ้าวดูๆ พ่อแม่พี่น้องดูเองเลย"
มวลชนทั้งต่างส่งเสียงด่าทอตำรวจข้างหน้าตน
กำนัน: "เอาไป ไปจับตัวขี้ข้าคนเลวกัน แสดงความยุติธรรมให้มันเห็น" ชาวบ้านต่างพากันวิ่งเข้าใส่รถหุ้มเกราะของตำรวจ

ปังๆๆๆๆ ปุ๊ๆๆๆๆ เศษพื้นถนนตรงหร้ากลุ่มมวลชนแตกกระจายเป็นทางยาว เข้มลดปืนลง ก่อนจะถอดแว่นดำออกจ้องไปยังมวลชนด้วยสายตาแข็งกร้าว เหล่ามวลชนที่กรูกันได้แต่ชะงักเท้าไม่กล้าเข้ามาอีก

เข้ม: "แหม่ ร้อนตัวจังครับไปทำอะไรผิดมารึเปล่า" 
กำนัน: "ไม่มีโว๊ย ที่นี้มีแต่คนดีที่เขามาแสดงพลังเพื่อความยุติธรรมที่พวกแก ทำให้ไม่ได้ไง"
     เหล่าผู้ชุมนุมส่งเสียงสนับสนุนกำนั้นดังสนั่น แต่เข้มกลับหัวเราะใส่ หัวจนต้องลงไปนั่งกับเพดานรถที่ตนยืน หัวเราะจนหน้าแดงไปหมดจนต้องนั่งกุมท้องเกือบนาทีที่เข้มจะลุกขึ้นมาได้

กำนัน: "มึงจะขำอะไรนักหนาวะ"
เข้ม: "ขำทุกคนนี้ละ อ้าวน้องตรงหน้าสุดอะ บอกดิว่าสำหรับน้องความยุติธรรมคืออะไร แล้วทำแบบนี้อยู่เรียกมันเรียกความยุติธรรมได้มั้ย ถ้าไม่ต้องทำแบบไหนถึงจะยุติธรรม เอ้า ตอบช้าพี่ข้างหลังนั้นก็ได้ ใครก็ได้"
     เหล่ามวลชนเริ่มมองหน้ากันไปมาสลับกับชำเลึ้องงมองกำนันคล้ายกับรอคำตอบจากเขา
แต่กำนันก็อึกอัก ก่อนจะอ้อมแอ่มตอบกลับว่า
"ความยุติธรรมคือการที่คนผิดต้องโดนลงโทษ"

เข้ม: "อ้าว ไหนละคนผิด ไหนละสิ่งที่บ่งชี้ว่าใครทำผิดหรือถูก หื้อ บรรทัดฐานส่วนตัวเหรอ"
กำนัน: "นี้ไงไอ้เสี่ยในบ้านนั้นไงคนผิด ใช่มั้ยพวกเรา" เหล่ามวลชนตอบกลับมาแต่เบาลง
หลายคนเริ่มมีสีหน้าลังเลกับเหตุการณ์
เข้ม: "อ้าวแล้วไหนละ ตัวบ่งชี้ว่าเสี่ยฆ่าคุณธนง อ้าวไม่เงียบใส่สิ เงียบแบบนี้ไม่มีใช่มั้ยละ"
กำนัน: "ก็พวกมึงรับเงินมันมาแล้วก็พังทิ้งหมดแล้วไง ไอ้พวกเลว"  เสียงมวลชนเริ่มกลับมาดังอีกครั้ง
เข้ม: "บันทึกชันสูตรพลิกศพฉบับเต็มอยู่ที่โรงบาล เขียนโดยหมอที่โรงบาลเองฉบับ ของตำรวจฉบับ คนเก็บศพก็คือเจ้าหน้ากู้ภัย ไหนละเวลาทำลายหลักฐาน บันทึกทุกอย่างเขียนมือและลงข้อมูลในระบบทันทีไปตรวจสอบดูก็ได้ ไหนละวิธีทำลายหลักฐาน"

กำนันโกรธจนหน้าดำหน้าแดง "คนโกงอย่างมึงก็ทำได้หมด หมอก็จ้างได้ ใครๆก็ซื้อได้ด้วยเงินหมด ทำไมหลักฐานปลอมจะทำไม่ได้วะ"
เข้ม: "ตอนแรกคดีเป็นฆาตกรรมหาคนทำผิดไม่ได้ก็โวย พอพวกผมมาทำก็ตรวจสอบทุกอย่างซ้ำหมด ก็ได้ข้อสรุปว่าเป็นการฆ่าแต่เราไม่สามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ในไร่ที่นายธนงตายกับเสี่ยได้เลย แบบนี้พวกผมผิดเหรอที่ยังไม่จับเสี่ย"

เหล่ามวลชนมองหน้าแก่นนำของตน
กำนัน: "ก็มึงรับเงินเขามา มึงจะไปจับเขาได้ยังไงถูกมั้ยพวกเรา"
เข้ม: "ไม่ถูกเพราะผมไม่ได้ซักแดงจากใครทั้งสิ้น นอกจากเงินเดือนจากภาษีอากรของพวกท่าน ประชาชนทุกคนฟังดีๆ พวกคุณไม่รู้จักผม ย่อมไม่เชื่อผมนั้นไม่แปลก แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่นี้ต้องการความเป็นธรรมให้นายธนง ทุกคนรักเขาอยากให้เขาได้รับความยุติธรรม ถูกต้องใช่มั้ย พวกคุณควรทำ แต่พวกคุณแสดงออกผิดวิธีรึเปล่ามองไปรอบๆ มีความเสียหายทั้งตำรวจและคนอื่นที่โดนลูกหลง ข้าวของเสียหาย แล้วผู้เสียเหล่านี้ละจะไปเรียกร้องความยุติธรรมได้ที่ไหน และการเสพข้อมูลไม่ใช่สักแต่ว่าฟังแล้วเชื่อกันหมด คุณไม่ต้องเชื่อผมตอนนี้หรอกขอให้แค่ลองคิดตามช้าๆ" เขามองตาของทุกคนอยู่รอบๆ

"อ้าวละสมมุติอยู่ดีๆ มีคนมาบอกว่าคุณไปขโมยเงินเขามา แล้วตำรวจจับคุณทันทีแล้วเอาไปเข้าคุกเลยแบบนี้เรียกว่ายุติธรรมมั้ย แน่นอนว่าไม่ หรือคนนั้นเอานักเลงมารื้อบ้านคุณกระทืบคุณล้างแค้น ทั้งที่คุณไม่ได้ทำละ แบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกัน อะหรืออีกกรณีคุณติดเงินเพื่อน 3,000 แต่เพื่อกลับยึดบ้านคุณที่มีราคา 300,000 บาท แบบนี้ละ ก็ไม่ยุติธรรม เราถึงต้องมีกฎหมาย..."

กำนัน:"กฎหมายเก่าๆ กระจอกๆ ถุย กล้าพูดโดนน้ำเงินก็เงียบสนิท"
เข้มยิ้มอย่างสมเพชหนุ่มใหญ่ตรงหน้า "กำนันกฎหมายเก่าๆ ที่กำนันว่า มันก็ให้อาชีพกำนันให้เป็นกำนันอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ เงินเดือนที่กินที่ใช้ก็จ่ายออกมาตามกฎหมายเช่นกัน ถ้ามันเก่าไร้คุณภาพมันกระจอก มันจะยังชีพกำนันจะมีอายุมาถึงป่านนี้รึ อ้าที่พูดแบบนี้ไม่ใช่บอกว่ากฎหมายดีไปซะหมดวิเศษอะไร เพียงแต่โลกนี้มวลมนุษย์ยึดหลักตามนี้กันหมด มันก็แค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมันย่อมมีช่องโหว่ ช่องว่าง..."

กำนัน: "นั้นไงมันยอมรับแล้ว ไปพวกเรารุมกระทืบมันเรียกร้องความยุติธรรมกัน"
หลายคนรีบวิ่งออกไปแต่คนบางส่วนไม่ขยับ

เข้ม: "หยุด ฟังให้จบแล้วจะกระทืบกันก็ตามใจ" เข้มปลดซองกระสุนออกกระชากกระสุนที่ค้างในรังเพลิงทิ้ง ถอดเกราะกันกระสุนออก ปลดซองปืนพกออกจากตัวก่อนจะโดดลงไปที่หน้ารถ เขาจ้องไปยังมวลชนทุกคน

เข้ม: "กฎหมายมันไม่สมบูรณ์ก็เหมือนมนุษย์ที่คิดมันออกมาละครับ แต่จุดที่มันต่างคือมันถูกกลั่นกรองออกมาแล้ว หรือที่ผมจะสื่อคือมันเป็นมาตรฐานกลาง ว่าใครทำผิดอะไร ควรรับผิดแค่ไหนอย่างไรหากทำผิดสำนึกกลับตัวแล้วละ ถ้าเขาแค่พลาดไปเผลอไปละ ถ้าเขาถูกบังคับละ ถ้าเขาจำเป็นละ คนต่างกระทำผิดก็ต่างจุดประสงค์ต่างเจตนาโทษจึงแตกต่างกัน ไม่งั้นแบบที่ผมบอกไปว่าติดเงินไม่ถึงหมื่น แต่โดนริบบ้านมันไม่ถูกต้อง หรือเหยียบตีนเขาเล็บลบฉีก แต่โดนยึดลูกยึดเมีย อ้าวๆ พี่ข้างหลังบอกมึงเอาไปเลยเมียกูเหี่ยวแล้ว"

เข้ม: "ถ้าเราโดนแบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้องเนอะ ผมจะขอเรียกพวกท่านว่ากฎหมายไม่ใช่ความยุติธรรม อาจเพราะนิยามของยุติธรรมมันต่าง แต่กฎหมายคือเครื่องมือที่นำไปสู่ความยุติธรรมหากใช่ความยุติธรรมไม่ มันเพียงแต่เป็นเครื่องมือที่มีโอกาสผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะอะไรละ..."

กำนัน: "อย่าไปฟังมันพวกเรากำลังถูกล้างสมอง เลิกเสียเวลาแล้วไปลากคอเสี่ยออกมา"
มีชาวบ้านบางคนหันกลับไปพังรั้วต่อแต่บางคนยังลังเลใจ บางคนโดนเข้ามาหาตำรวจหนุ่มพร้อมจะฟังต่อบ้านคนเดินทางกลับหรือออกจากพื้นที่

เข้ม: "โธ่กำนันฟังแล้วไม่เข้าใจก็บอกกันดีๆก็ได้ ไม่ต้องอายเฉไฉไปเรื่องอื่น โอเคมาต่อนะ เพราะมันฟังทั้งสองข้าง ให้สิทธิแก่สองฝ่ายเท่าเทียมกันแน่นอนว่ามันจะเสียเวลา แน่นอนว่าหลายคนกังขา บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเมืองไทยเรามีกฎหมายถึงแสนกว่าฉบับ
     กฎหมายแพ่ง - อาญานี้เรียกเศษผง บางคนคงสงสัยในใจว่ามันจะมีทำไมเยอะแยะ มันขอเรียกแค่ว่ากฎหมายบางตัวก็ห่างไกลตัวมากครับแต่ต้องมีเพื่อเป็นกรอบแนวทางปฏิบัติหรือบางฉบับใช้กับคนบางกลุ่มเช่น ใช้แค่ตำรวจ,ทหาร,นักธุรกิจ,ครูหรือข้าราชการ แน่นอนว่าขึ้นว่าเป็นกฎหมายมันก็ต้องมีวิธีการ แม้ว่าบางกรณีมันเนิ่นช้ามากถึงมากที่สุดก็ตาม แต่ทั้งสองจะมีสิทธิเท่าเทียมกันในการสู้คดี บางคนอาจเถียงในใจว่านั้นเป็นนิยามสวยหรู กูเห็นคนรวยเอาเปรียบคนจนสู้ทีไรคนจนแพ้ตลอด ครับผมแค่ถามกลับไปว่า การที่เขารวยหรือมั่งมีกว่าอีกคนนี้เป็นความผิดของตำรวจหรืออัยการ ศาลรึเปล่า แน่นอนว่ามันมีความเหลือบล้ำที่ต้องแก้ แต่ใช้ว่าศาลจะตัดสินได้ตามใจทุกอย่างก็ถูกควบคุมด้วยไว้ด้วยกฎหมายอีกนั้นแหละ กลับเรื่องของพวกเราการที่เสี่ยจะได้ออกมาสู้คดีหรืออาจถูกยกฟ้องเพราะหลักฐานอ่อนมันเป็นความผิดของกฎหมายเหรอ ท่านๆอย่าลืมว่าใครเป็นคนใช้กฎหมาย ก็คือมนุษย์ผู้ไม่สมบูรณ์นี้ละ ไม่แปลกที่เราจะเจอการตีความกฎหมายหรือใช้กฎหมายเอาประโยชน์ใส่ตัว แต่กฎหมายผิดหรือมันเป็นเพียงตัวอักษร คนต่างหากที่ผิด วกกลับมาถ้าท่านไม่ไว้ใจผมให้ท่านไปดูศพ ไปคุยกับหมอคนไหน ตำรวจคนไหนที่ท่านๆเชื่อใจมาตรวจสอบซ้ำก็ได้ ไปกันซัก 3 - 4 คน ชี้เลยเอาอะไรถามใครยังไงผมยอมโดนสอบสวนเลย" 

กำนัน: "ก็มันลบทุกอย่างทำลายหลักฐานเกลี้ยงแล้วไปก็ไม่เจออะไรเชื่อข้าสิแมร่งรับเงินมา เสี่ยนั้นแหละคนบงการ"
เข้ม: "ขอบคุณกำนันมากสำหรับความเห็นไร้แก่นสาร อีกหนึ่งขอดีของกฎหมายคือทุกอย่างต้องมีหลักฐานหรือพยานที่น่าเชื่อถือ ไม่งั้นใครต่อใครก็มั่วกันเละ อยากว่าใครกล่าวหาใครก็ได้แบบนี้ เอางั้นเหรอ"

เข้มลวงกระเป๋าหยิบซองใส่กระดาษจดหมายออกมา
เข้ม: "กำนันแต่รอบนี้ผมไปถามป้าอนงค์มาแล้ว ป้าบอกแล้ว"
กำนัน: "มันบ้าไปแล้วรึยังไงวะ กูไม่ได้ทำนะโว๊ย กูโดนมันหลอกใช้เองนะไปจับมันนู้น"
เข้ม: "แต่ป้าอนงค์บอกว่า..."
กำนัน: "อย่าไปฟังมัน มันจะใช้ข้าไปฆ่าไอ้ธนง มันเป็นคนโทรบอกเองว่าธนงออกมาให้ข้าไปจัดการเลย"
เข้ม: "แล้วอาวุธละครับ"
กำนัน: "ข้าโยนเคี่ยวลงคลองหลังบ้านแล้ว"

เข้ม: "ขอบคุณมากที่สารภาพ คุณนักสาวสวยๆตรงนั้นยังถ่ายอยู่ใช่มั้ย" เข้มหันไปหาเลนส์และทีมงานและสื่ออีกหลายเจ้าที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่
กำนัน: "สารภาพอะไรวะ นังอนงค์มันสารภาพไปแล้วนิ" กำนันเบิกตากว้างอย่างตกใจ

เข้ม: "เปล่าที่บอกว่าถามมาแล้วบอกเนี่ย แค่ถามว่ากำนันอยู่ไหนป้าแกก็บอกมาแค่นั้น ไม่ต้องมองกระดาษ ไม่ใช่จดหมายสารภาพ แค่กระดาษเปล่าๆ" ก่อนเข้มจะปล่อยมันทิ้งไปตามลม
กำนันวัยดึกพึ่งรู้ตัวว่าพลาดท่าแก่ตำรวจหนุ่มก็รีบหาทางเอาตัวรอด

"โอยยย ยัดข้อหาพ่อแม่พี่น้องช่วยผมที คนดีโดนรังแก"
จากมวลชนหลายร้อยเหลือเพียง30คนที่มาล้อมกรอบกำนันส่วนที่เหลือพากันทยอยกลับ
สำหรับพวกที่เดินกลับนั้น กำนันนั้นไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือแล้ว

ดาบชัย: "มาถึงแล้วครับหมวด" 

      รถบรรทุกนักโทษขนาดใหญ่พร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และตำรวจที่นั่งรถตามมาลงมาสบทบกันเกือบ 1 กองร้อยได้เจ้ามาล้อม ฝูงชนกลุ่มสุดท้ายที่ปกป้องกำนันไว้ มวลชนมองรอบตัวอย่าครั้นคราม รถดับเพลิงอีกคันวิ่งมาเพื่อใช้น้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุม หากยังมีเหตุวุ่นวายอีก

เข้ม: "อ้าวคดีพลิกใครไม่อยากนอนคุกรีบกลับบ้านซะ คำเตือนครั้งสุดท้ายแล้วนะ ชุมนุมไม่ผิดแต่ชุมแล้วชาวบ้านเสียหายก็ต้องว่ากันตามกฎหมายนะครับ"

กำนัน: "มันป้ายสีผม ผมโดนหลอกอย่าไปเชื่อมันทุกคนกลับมาสิ มันเป็นแบบนี้ได้ไงวะ" กำนันมองเหล่ามวลชนที่ยังเชื่อตนอีกไม่เกิน40 คน แต่เป็น40คนที่คิดอาวุธครบทั้ง มีดทั้งไม้ คนเหล่านี้ไม่เชื่อกฎหมายหรือเคยได้รับความ อยุติธรรมมาก่อนหรือ บ้าคลั่ง เสียสติหรือสาเหตุใดๆไม่มีใครทราบได้

      เข้มมองดูกำนันกำลังดิ๊นรนด่าพวกเขาด่าทุกอย่างด่ากราดไปทั่วอย่างจนตรอก เข้มเดินขึ้นไปเก็บปืนที่วางขึ้นมาก่อนจะก้าวไปพูดคุยกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดเพื่ออธิบายสรุปรายงานไปตามขั้นตอน และเมื่อเขากลับออกมาก็จับเหล่ามวลชนที่ห้าวหาญรวมถึงกำนันกำลังถูกต้อนขึ้นรถขนนักโทษ

เข้มเดินไปหาลูกทีมที่รอในรถ
เข้ม: "งานจบแล้วกลับบ้านกันเถอะ"

 

     แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านพักหมวดเข้มก็ต้องรีบสะสางเรื่องเอกสารสำนวนฟ้องของกำนันและป้าอนงค์ในข้อหาร่วมฆ่ากรรมผู้อื่นโดยเจตนา เขาเขียนสำนวนเพื่อส่งอัยการอย่างดีที่สุดก่อนจะกลับมาที่บ้านพักในกลางดึก

     บ้านพักเงียบสนิทไร้แสงไฟ เข้มก็เดาได้ว่าทุกคนคงหลับพักผ่อน จากการพยายามตรากตรำมาหลายคืน นี้คงเป็นคืนที่พวกเขาจะหลับได้เต็มตาซักที เข้มก้าวขึ้นตัวบ้านพักแต่ความรู้สึกแปลกๆ ก็จู่โจมเขาช้าๆคล้ายกับมีคนซุ่มในเงามืดกำลังมองมาทางตน เข้มขยับมือไปแตะปืนพกก่อนจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความระวัง เมื่อร่างของหมวดหนุ่มเข้ามาอยู่ใจกลางบ้านไฟทุกดวงก็ติดขึ้น พรึบๆๆ แสงสว่างทำให้เข้มมองไปรอบๆด้วยความสงสัย

     ตำรวจที่สน.ท้องที่และลูกน้องตนต่างนั่งรออยู่บนโต๊ะที่นำมาต่อกันจนยาวและมีข้าวปลาอาหารวางเรียงทุกคนยกแก้วในมือขึ้น

"มาครบแล้ว ฉลองได้......"  ก่อนเสียงดนตรีจากลำโพงจะดังขึ้นหมวดเข้มรับแก้วจากผู้กองอิน
ผู้กอง: "อ้าว ดื่มกินกันให้เต็มที่ ทำงานหนักแล้วได้เวลาพักผ่อน ดื่มให้ทีมยักษ์" 

ตำรวจทุกคนต่างยกแก้วกระดกกันจนครบ
เข้ม: "คดีนี้ปิดลงได้ ไม่ใช่เพราะผมหรือพวกผมแต่เป็นเพราะพวกเรา ในนามตำรวจหน่วยพิเศษขอขอบคุณพี่ๆตำรวจในท้องที่ทุกท่านจากใจครับ" ก่อนจะชูแก้วดื่มเป็นสัญญานให้นั้นทุกคนก็ต่างร่วมกันดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน

     เข้มมองงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเองด้วยรอยยิ้ม ไม่ต้องมีอาหารเลิศหรู ไม่ต้องมีเสื้อผ้าราคาแพง ของแบรนเน็ม พวกเขามีแค่ความจริงใจให้ได้เพียงเท่านี้งานเลี้ยงเล็กๆก็ทำหน้าที่ผ่อนคลายทุกๆคนได้อย่างดีเยี่ยม บรรยายกาศรอบตัวมีแต่ความสนุกคึกครืน

เข้ม: (นี้ละ ความสุขง่ายๆ) ดาบชัยเดินมายืนคุยกับเข้มที่นั่งรับลมอยู่ภายนอกหลังคา
ดาบ: "หมดไปอีกเรื่องนะครับ หมวด"
ดาบชัยนั่งลงข้างหัวหน้าร่างใหญ่ใบหน้าเริ่มแดง แสดงว่าคงดื่มไปเยอะแล้ว
เข้ม: "ครับดาบ ปิดไปอีกคดี แต่ก็ดีกว่านี้ถ้าเราจับเสี่ยไปได้ด้วย"
ดาบ: "โถ่หมวด รายนั้นถ้าไม่ได้เจอมันทำผิดซึ่งหน้าก็คงยาก รูปเกมส์แบบนี้มันคงมีลูกเล่นมากกว่านี้อีกแน่ๆ"
เข้ม: "อีกหนึ่งปัญหาที่สะสางไม่ได้" ดาบตบบ่าเบาๆ

      ดาบนั้นทำงานในวงการมานานนานจนเข้าใจถึงความเป็นจริง ความจริงที่ว่าอาชาญกรนั้นเกิดเร็วพอๆกับหญ้า ต่อให้วันนี้เสี่ยหายไปก็จะมีคนใหม่มาแทนอยู่ดี ดีไม่ดีคนใหม่จะร้ายกว่าคนเก่าซะด้วยซ้ำ แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิดในตอนนี้

ดาบ: "มาบ่นตรงนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนครับ ในฐานะที่แก่กว่าดาบอยากให้หมวดเลิกกดดันตัวเองหาอะไรสนุกๆทำ เช่นสนุกกับคนในงาน เล่าเรื่องตลก จีบหญิงควงเล่นๆแก้เบื่อแบบเมื่อก่อนก็ได้ครับ"

      ก่อนดาบจะออกไปเติมเครื่องดื่มในมือ คำพูดของดาบกลับทำให้ตำรวจหนุ่มนั่งคิดอะไรเงียบๆและชั่วความคิดหนึ่งเขากับนึกถึงนักข่าวสาวตัวแสบ
"ป่านนี้คงไปนั่งเขียนสกู๊ปคุยประวัติกำนันอยู่ละมั้ง ? "
เขารำพึงเบาๆ พอไม่มีเธอมาค่อยวุ่นวายรอบๆตัวเขาก็กลับมาเงียบเหมือนเคย เงียบจนน่าใจหาย

      เข้มยกแก้วขึ้นมาดื่มแก้เซ็ง แค่พบแต่แก้วเปล่าๆ หมวดเข้มลุกขึ้นอย่างเซ็งๆก่อนเดินกลับขึ้นไปบนตัวบ้าน แต่เขากลับพบกับกลุ่มคนกำลังล้อมมุงดูพร้อมกับส่งเสียงโห่เชียร์ "แข่งคอแข็งกันน่ะ" ผู้กองอินที่นั่งกินน้ำขิงแก้เมาโดยมีคุณนายคู่ชีพของตนนั่งอยู่ข้างๆ ผู้กองอินกระดกดื่มคำใหญ่ก่อนเดินมาหาเข้ม

ผู้กอง: "เห็นทีผมคงต้องลากกลับก่อนนะหมวด ตะกี้แอบเมียไปแข่งมาลงไป 1000 โดนแชมป์กินเรียบไม่พอหัวแทบทิ่มพื้นอีก แถมเมียก็ด่าอีก ด่าแบบนี้มันต้องกลับไปคุยที่บ้านละ" หมวดเดินออกมาส่งผู้กองที่หน้าบ้านก่อนคนเมาจะซ้อนเมียผู้ไม่เมากลับออกไป และเขายังเดาได้ว่ากลับไปทั้งคุยน่าจะได้คุยกันยันเช้าเป็นแน่ๆแต่น่าจะคุยบนเตียงนะ

เข้มหันกลับไปดูการแข่งขันเล็กๆ ร่างนายสิบที่เคยคุยกับตนโดนเพื่อนหิ้วออกมาด้วยสภาพเมาปลิ้นไร้ซึ่งสติ ก่อนเขาจะเห็นจ่าดำนั่งเป็นเจ้ามือนับเงินอย่างยิ้มแย้ม

จ่าดำ:" 4 คนล้มหมดใครอยากเมาหลับเข้ามานั่งเลย แชมป์ของเราเห็นหน้าไม่ให้แต่ก็ยังไหวนะครับ เร็วชนะจ่ายเลย 3000 บาท จ่ายสดๆตรงนี้เลย มีอีกมั้ย ?" เข้มที่ยืนดูไกลๆมองไม่เห็นเจ้าของสถิตล้ม 4 คนรวด

     แต่ด้วยความอยากรู้ว่าใครที่ทำเอาตำรวจทั้งโรงพักไม่มีใครกล้าท้าชนแก้วด้วย เข้มจึงเดินร่วมวงดูใกล้ๆ แต่กลับอึ้งเมื่อเจ้าของบังลังค์ กลับเป็นผู้หญิงสาวสวยคนหน้าคุ้นเคยของเขานั้นเอง จ่าดำเห็นผู้หมวดเดินมาก็สบโอกาส ชงงามๆ

    จ่าดำไม่รอช้ารีบคว้าจังหวะทองทันที "ตบมือให้หมวดเข้มผู้ท้าชิงรายใหม่หน่อยเร็ว" ทันใดนั้นมือเหล่าผู้ชมก็ฉุดกระชากผู้หมวดมานั่งประชันหน้ากับเธอ


เลนส์: "อ้าวว หมวดดด มาๆ มีอะไรจะสั่งก่อนเข้านอนปะจ๊ะ 5555" ก่อนจะยกแก้วชูไปรอบวงเรียกเสียงโห่ฮาจากผู้ชมได้ดี เข้มเองเโดนท้าทายซึ่งหน้าขนาดนี้ก็จุดความเดือนในเลือดตนขึ้นมาอยากจะเอาชนะเธอขึ้นมา งานนี้ต้องทำให้เธอรู้ว่าอย่าคิดจะวัดความอึดในวงเหล้ากับตน

เข้ม: "ไม่ต้องสั่งอะไรหรอก แบบพี่อะไม่ได้ล้มง่ายๆ"
เลนส์: "คนขี้แพ้นี้โม้เก่งเหมือนกันทุกคนจริงๆ จะเริ่มยังอะ นั่งแล้วห้ามลุกนะเฮ้ยลุกนี้ อายเลยนะ"

เข้มยกแก้วเหล้ากระดกเปิดงานแข่งขันทันที
เข้ม: "เมาก็ไปนอน ไม่ใช้เมาแล้วพูดเยอะ" ก่อนวางแก้วลงยักคิ้วให้อีกฝ่าย เธอจ้องเข้มก่อนกระดกตามเขาไปทันที

     ทั้งคู่ไม่มีใครยอมใครไม่มีกระทั่งเวลาหยุดพัก แก้วต่อแก้วช็อตต่อช็อต ทั้งคู่ต่างแข่งกระดกอย่างไม่มีใครยอมใครเวลาผ่านไปพร้อมจำนวนเหล้าที่หมดลง เธอหมดแก้วเข้มยกตามสลับกันจนเกือบชั่วโมงแน่นอนว่าทั้งคู่ก็ยังคงเป็นคนธรรมดา แต่ก่อนที่จะรู้ผล

จ่าดำ: "พอๆ ยกนี้เสมอ"
เข้ม: "เสมอ อา รายยย ไม่มี๊" เสียงย่านคางมาจากเข้มตำรวจหนุ่มก็มึนตึ๊บแล้วแต่ด้วยความอยากเอาชนะเธอมันทำให้เขายังไม่หลับ
เลนส์: "เออ ยังม่ายยยม่าววเลย มาสู้กันต่อดิ" จ่าดำมองสภาพทั้งคู่ก่อนจะประเมินว่าร่อแร่พอกันทั้งคู่
จ่าดำ: "เหล้าหมดแล้วครับเสมอๆ  อ้าวทุกคนแยกย้ายกลับบ้านนอนวุ้ย ไปๆดึกแล้วกลับบ้านช่องไปนอนไป๊"

      ก่อนขี้เมาทั้งหลายจะส่งเสียงประท้วงเบาๆ และพากันโซเซกลับออกไป

      เหลือแค่เธอกับเขาที่ยังนั่งจ้องหน้าเขม่นใส่อีกฝ่าย
เข้ม: "โชคดีของเธอนะที่เหล้าหมด ไม่งั้นเธอแพ้แน่ๆ เฮื้อก" เธอเอานิ้วชี้มาจิ้มหน้าเขาเบาๆ
เลนส์: "เก่งจังเลย มาสู้กันอีกยกปะละ อย่างฉันได้หมดย่ะ"
เข้ม: "เหล้ามันหมดแล้ว อีกอย่างเป็นสาวเป็นนางอย่ากินให้มันเยอะนักดิ เวลาเมาหลับอันตรายแย่"
เลนส์: "เหอะจะมอมเหล้าฉัน ไม่มีทางก็เพราะแบบนี้ไงฉันเรียกต้องคอแข็งกว่าพวกมัน แม่ปล่อยหลับคาร้านมาหลายคนละ"

เข้มเถิกคิ้วมองเธออย่างแปลกใจ
เข้ม: "แบบนี้พ่อแม่ไม่ว่าไง เป็นลูกนะแบบนี้ฉันตีตาย"
เลนส์: "ก็อยากให้มาตีอยู่แต่ไม่มีวันแล้ว คนที่จากไปยังไงก็ไม่ฟื้นคืน" เสียงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
เข้ม: "เสียใจด้วยนะ"
เลนส์: "มาทำเป็นเศร้า เหอะท่านเสียมานานจนทำใจได้นานแล้ว"

เธอตอบด้วยน้ำเสียงปกติราวกับไม่เป็นอะไร แต่แววตาเธอนั้นกลับฉายความเหงาออกมาแม้จะเจือจางก็ตาม
เข้ม: "ลำบากหน้าดูเลยสิท่า" เธอพยักหน้ารับเงียบๆ
เลนส์: "ท่านจากไปพร้อมกันทั้งคู่เพราะรถชน ที่จริงก็เกือบจะสามคนแม่กำลังจะมีน้องอีกคนด้วย"
เข้ม: "ตอนนั้นมันคงแย่น่าดู แบบนี้ก็เท่ากับว่าเธอเหลือน้องชายคนเดียว หื้ออออ รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ไงเนี่ย"
เลนส์: "ส่ายหน้า "โชคดียังเหลือคุณป้าอีกคน ที่จริงก็เพราะเงินเก็บมรดกของพ่อแม่ด้วยละ ขยันหางานทำหน่อยก็ไม่ลำบาก"

เข้ม: "ใช่คนขยันไม่อดตายแน่นอน อย่างฉันว่าเราทั้งคู่คงเชื่อแบบนี้"
เลนส์: "นายก็ด้วย?"
     เข้มเอามือลูบหน้าเขาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครฟังแต่วันนี้เกิดอยากให้เธอรับรู้ขึ้นมา
เข้ม: "จะเรียกยังไงดีวะ เอาเป็นว่าตั้งแต่ ม.3 ก็อยู่กับแม่สองคนแล้ว แล้วมาอยู่คนเดียวก่อนติดยศอาทิตย์เดียว มะเร็งน่ะ"
เลนส์: "เสียใจด้วยนะ"
เข้ม: "ก็เหมือนเธอละมั้ง นานจนแทบไม่รู้สึกอะไร จริงดีแล้วท่านอยู่ก็ต้องทนเจ็บกับโรคร้าย"
เลนส์: "เราสองคนนี้มีอะไรเหมือนกันหลายอย่างนะ"

ก่อนเธอจะลุกขึ้นเอ่ยชวน "ไปยืนรับลมกันดีกว่ามั้ย ตรงนี้นั่งนานๆแล้วร้อนอะ"

เธอกล่าวจบก็ถอดเสื้อคลุมผ้าออกทิ้งไว้ ก่อนเดินนำไปที่ระเบียงเข้มก็ลุกตามไป ลมเย็นยามดึกพัดเอาความสดชื่นมาสัมผัสผิวกาย

เลนส์: "เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าวะ มึนๆตึงมาคุยเรื่องเศร้านี้มันแปลกๆอะ" เลนส์ยืนพิงระเบียงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเข้มเดินออกมายืนข้างๆ
เข้ม: "ทำไมกลัวร้องไห้ไง"  เธอเลยทุบกำปันลงกลางหลังให้ ป้าปใหญ่
เลนส์: "บ้าไง ที่ไม่อยากเล่าเพราะมันผ่านมาแล้วพูดไปก็เท่านั้น" ก่อนจะยักไหล่เบาๆ
เข้ม: "แล้วมาในงานตั้งแต่ตอนไหน ทำไมแรกๆไม่เห็นเลย"
เลนส์: "อยู่ในครัวนั้นแหละ ช่วยๆกันทำกับพี่ๆป้านั้นแหละ"
เข้ม: "มิน่าละ วันนี้ทุกคนกินกันเต็มพิกัดเลยกับข้าวกับแกล้มวางไม่ทันหายร้อนเหลือแค่จานเปล่าแล้ว"

เธอยิ้มให้เขา "ฝีมือมั้ยละ" เข้มมองคนข้างตัวที่ยิ้มสดใสให้ตน
เข้ม: "ชมนิดชมหน่อย ยิ้มซะแก้มปริเลย ว่าแต่หลังจากวันนี้จะหาข้าวอร่อยๆกินที่ไหนละเนี่ย"
เลนส์: "ไปจีบสาวที่ทำอาหารเก่งๆดิ มันจะไปยากอะไร"
เข้ม: "อ้าวพูดเองนะว่าจีบได้"
เลนส์: "จีบฉัน บ้าไงมันไปเกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย ไอ้ยักษ์บ้ากาม"

เข้มหันมาจ้องหน้าเธอและขยับหัวไปใกล้ๆแล้วก็พูดไปด้วย
"อ้าวก็บอกว่าจีบคนทำกับข้าวอร่อยไง แถวนี้มีหนึ่งคนพอดี ว่าไงสนใจมั้ย คบวันนี้แถมฟรีตั้งท้อง 3 คน"

     เลนส์รีบก้าวถอยหลังไปทันที ไม่ใช่กลัวแต่สายตาที่ส่งมากับใบหน้าที่โน้มมาใกล้ๆ ทำเอาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หากตรงนี้สว่างอีกนิดเข้มตะเห็นเลยว่าเธอหน้าแดงปริ๊ดดด ถึงหูแล้ว


เลนส์: "อะ อะไรเล่ามาจงมาจีบไรเลอะเทอะ ไม่คุยด้วยแล้ว ชิ เมาแน่ๆ"
เข้ม: "อ้าวเห้ย แซวนิดหน่อยทำเป็นจริงจัง พูดเล่นๆ มานั่งดูดาวรับลมเป็นเพื่อนกันก่อน"
เขาตะโกนตามหลังไป เลนส์ทำหน้างอใส่ ก่อนเดินกระแทกขาไปนั่งเป็นเพื่อนเขา
แต่ในใจเธอลึกๆก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า โกรธที่เขาพูดเล่นหรือโกรธที่เขาพูดจริง?

      หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งชมดาวกัน ฟ้ากระจ่างมีเมฆลอยบางๆ สลับกับดาวระยิบบนฟ้า นำพาความสบายใจมาให้ คู่หญิงชาย หลังจากนั่งเงียบมาพักหนึ่งตำรวจหนุ่มก็เปิดปากอีกครั้ง

เข้ม: "นี้เราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย ขอโทษที่ถามอะไรแปลกๆนะ แต่พอนึกถึงกรุงเทพ นึกถึงในสภาพปกติของเราทั้งคู่ เราคงไม่ได้เจอกันบ่อยแน่ๆ"

เลนส์มองคนข้างๆด้วยแววตาประหลาดใจในคำถาม
เลนส์: "มาซะซึ้งเลย กลับกรุงเทพนะไม่ใช้กลับดาวแม่ พูดซะใจหายเลย เอางี้ดิเอามือถือมา"
รอบนี้เข้มเป็นคนทำหน้าประหลาดใจบ้าง "เร็วดิ หรือว่าจะไม่ติดต่อกันอีก เพื่อนกันปะวะ"

เข้มล้วงมือถือออกมาให้เธอ เลนส์คว้าไปจิ้ม จึกๆ ไม่กี่ครั้งและส่งคืน
เลนส์: "แอดไลน์ไปแล้ว มีอะไรก็คุยกันได้"
เข้ม: "เออก็ดีเหมือนกัน แบบนี้ค่อยสะดวกหน่อย เอา" เข้มยกมือยื่นให้
เข้ม: "ยินดีที่ได้รู้จัก ครับคุณผู้หญิง" 
เลนส์ยิ้มและหัวเราะเบาก็จะส่งมือไปให้

     หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งชมดาวกันซักพัก เข้มที่เผลอหลับตื่นขึ้น
เข้ม: "อูยยยหนาวชิบ หลับตอนไหนเนี่ยกู" เขาพึมพำด้วยความง่วง แต่อากาศตกดึกๆที่นี้มันก็หนาวเกินกว่าจะนอนลง และรู้สึกตัวว่าไหล่และแขนข้างๆมีสิ่งอะไรมายึดเกาะไว้ เขาหันไปก็พบแม่สาวน้อยที่เมื่อกี๊ยังนั่งคุยนอนหลับปุ้ยโดยอาศัยไหล่และแขนเป็นหมอนนอน เหมือนจะเป็นการยืนยันเธอกลับซุกตัวเข้ามาอีก
เข้ม: "หนาวละสิท่า นอนขดเชียว" เข้มมองหน้าตอนหลับยิ้มๆก่อนจะช้อนรวบตัวเธอเข้าไปในบ้าน

รุ่งสาง
เลนส์พลิกตัวตื่นขึ้นบนเตียงและผ้าห่มอุ่นๆ แต่เมื่อทบทวนความจำไปเธอไม่ได้กลับโรงแรม แล้วนี้ก็ไม่ใช่ห้องเธอ แค่เมื่อมองซ้ายขวาก็พบว่าตนเคยมานอนนี้ครั้งหนึ่งแล้ว

เลนส์: "แล้วหมอนั้นไปนอนไหนเนี่ย ?" เธอดูเวลาก็เกือบจะหกโมงแล้ว แม้จะอยากนอนต่อแต่งานข่าวก็ยังไม่เสร็จเธอฝืนตาตื่นขึ้นก็จะเห็นตำรวจหนุ่มนอนที่พื้นข้างเตียง
เลนส์สะดุ้งรีบเช็คเสื้อผ้าตัวเองทันทีเมื่อทราบว่านอนร่วมห้องกับผู้ชาย แม้พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็โล่งใจ

     เธอทราบว่าเขาเป็นคนดีแต่ที่รู้จากคนรอบๆตัวมา นายคนที่นอนอยู่นี้มันเสือผู้หญิงตัวพ่อ
เธอก็เลยแอบกังวลนิดหน่อย เธอลุกขึ้นเบาๆกลัวกลัวจะรบกวนคนที่หลับอยู่ ก่อนจะเอาผ้าห่มไปห่มให้ก่อนจะเดินออกไปช้าๆและเงียบเชียบ

เข้ม: "โอยยย ปวดหัววุ้ย เขาตื่นขึ้นมาเพราะนอนไม่สบายเท่าไหร่จากพื้นแข็งๆ
เข้มไม่เห็นเลนส์และมีผ้าห่มบนตัว
เข้ม: "ไปแล้วสินะ ไม่มีลาซักคำ" เข้มบ่นพึมด้วยความเซ็ง

     ก่อนจะพบว่าบนโต๊ะมีชามเก็บความร้อนและกระติกน้ำอุ่นวางทิ้งไว้บนโต๊ะและก็กระดาษโน๊ตเหมือนเคย เข้มรีบลุกพรวดพุ่งไปหยิบมาอ่านทันที

"ข้าวนี้ค่ายืมเช่าห้องนอน น้ำขิงในกระติกนี้น้ำใจ ดื้มร้อนเพื่อจะหายแฮงค์ไปละ บายยย"

     และมีภาพตัวการตูนยักษ์แบบญี่ปุ่นนอนหลับข้างๆมีค้อนและขวดหล้าวางทิ้งไว้ เข้มวางกระดาษลงและลงมือกินค่าเช่าห้องตัวเองทันที หลังจากอิ่มท้องแล้วเขาก็พบกระดาษปะที่ประตูด้วยลายมือของดาบชัย

"ไปตลาดหาข้าวกินนะครับ ไม่มีใครทำอะไรให้กินแบบหมวด"

    เขารู้สึกปลื้มใจที่ยัยนั้นทำให้เขากินคนเดียว หลังจากนั้นเข้มก็ไปจัดการน้ำอาบเก็บกระเป๋าพร้อมจะกลับเขาหิ้วกระเป๋าออกมาแต่พบผู้กองอินและชายในชุดจ้าราชการกำลังเดินตรงมาทางเขา

เข้ม: "แปปนะ คำสั่งจากผู้ว่า ถึงผม?"  ผู้กองอินพยักหน้าพร้อมกับชายที่ผู้กองแนะนำว่าเป็นปลัดอำเภอ
ปลัด: "ครับ ท่านผู้ว่าอยากจะรับประทานอาหารกับคุณซักมื้อท่านอยากคุยกับคุณ"
ผู้กองอิน: "จากใจเลยนะ ไปเถอะผู้ใหญ่อยากเจอ มันมีแต่ผลดีนะ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบ่อยๆนะ รู้จักคนใหญ่คนโตมันมีแต่ได้กับได้วะ" เข้มตกลงรับคำไปอย่างไม่ยาก

     ท่านเชิญมาผู้น้อยแบบตนไม่ไปก็คงหน้าเกลียดธุระด่วนก็ไม่มีอะไร หลังจากจบเรื่องแล้วทั้งสองก็กลับไป อีกไม่นานเหล่าลูกสมุนของเขาก็กลับมา เข้มบอกงานเที่ยงแก่คนของตนทันทีและให้ทุกคนกลับไปได้เลยหมวดหนุ่มจะหารถกลับเองได้

     เพราะเกรงใจพวกลูกน้องทั้งหลายโดยเฉพาะจ่าดำและดาบชัยที่มีครอบครัวแล้วทั้งสองคงอยากกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวแล้ว คงไม่ดีจะให้อยู่รอเขาแค่คนเดียวพวกเขาควรจะได้พักแล้ว

      และนี้เป็นหนึ่งในอีกเหตุผลที่ลูกทีมของเขารักและเชื่อฟังหัวหน้าคนนี้มากเพราะหัวหน้าคนนี้เข้าใจและใส่ลูกน้องอยู่เสมอนี้เอง หลังจากที่ส่งลูกน้องทั้งหมดพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองขึ้นรถแล้วหมวดเข้มก็มองดูรถหุ้มเกราะคันงามคู่หน่วยของตนขับออกไปแล้วเขาก็รีบเตรียมตัวเองให้พร้อมและเดินทางไปตามคำเชิญทันที

      หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงจากศาลากลางพร้อมผู้ว่าเรียบร้อย แน่นอนว่าอาหารที่นั้นล้วนแต่อร่อยแต่หมวดหนุ่มกินไปกี่อย่างก็ไม่มีอะไรอร่อยเท่าอาหารฝีมือเธออีกแล้ว ถึงแม้โดยปกติจะไม่ใช่คนเรื่องมากกับเรื่องการกินแต่ตอนนี้กินอะไรก็ไม่อร่อยเท่าฝีมือเธออีกแล้ว

      แม้ท่านผู้ว่าจะมาช้ากว่าเวลาและจะถามซอกแซกไปบ้างก็โดยรวมแล้วทุกอย่างก็ปกติดีสุดท้ายท่านก็ยังให้ซองสินน้ำใจเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแม้จะไม่อยากรับแต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะให้และคำพูดว่า

"ที่ให้เพราะ คนทำดีมันต้องได้อะไรดีๆ มันเป็นเงินส่วนตัว หมวดคิดซะว่าให้เป็นที่ระลึกที่เจอฉันละกันนะถ้าไม่รับฉันคงไม่สบายใจ"

     ซองขาวหนาๆก็มานอนสงบในกระเป๋าของเขาที่นั่งรอรถทัวร์ในท่ารถของจังหวัด และเมื่อรถมาถึงเขาเห็นร่างที่คุ้นๆตาขึ้นรถไป เข้มรีบเดินขึ้นรถไปทันที

เข้ม: (ตาฝาดปะวะ) เข้มเดินขึ้นรถมองซ้ายขวาหาใครซักคนอยู่ ขึ้นไปถึงกลางคันก็ได้ยินเสียงพูดคุยกัน
เสียง1: "มาคนเดียว เหรอครับแหม่เก่งด้วยสวยด้วยนะครับ"
เสียง2: "อ้อค่ะพี่ๆที่ทำงานเขากลับหมดแล้วเลยต้องกลับคนเดียวเลย"
เสียง1: "โหผมก็กลับคนเดียว ดีเลยจะได้มีเพื่อนคุยไม่เหงา"

      เข้มจ้องไปทางต้นกำเนิดเสียงก็จะย่างเท้าไปทางนั้นช้าๆ เสียงผู้หญิงตรงนั้นมันคุ้นเหลือเกิน แม้เดินจนเห็นเจ้าของเบาะนั่งแล้วเข้มกระตุกยิ้มเหี้ยมทันที
เข้ม: "ไม่ต้องกลัวเธอเหงาแล้วครับ ผมเป็นเพื่อนเธอเอง"

      ร่างยักษ์มายืนติดเบาะที่นั่งที่กำลังคุยกันจ้อแจ้อยู่ เบาะคู่มีคนนั่งหนึ่งหญิงหนึ่งชายฝั่งที่ติดกับทางเดินเป็นชายหน้าตาจัดว่าดีแต่งตัวชุดลำลองปกติ แต่ที่เข้มสนใจคือคนที่นั่งติดกระจกต่างหาก เธอหันมามองตำรวจหนุ่มอย่างประหลาดใจ

เข้ม: "รบกวนน้องแลกที่นั่งกับพี่ได้มั้ย ไม่รบกวนเนอะ ใช่มั้ย"
เข้มหันมามองชายคนนั้นด้วยท่าทีเป็นมิตร แต่ชายคนนั้นรู้ตัวว่าถ้าเขาไม่ลุกไปเขาอาจเจอกับมิด(ตีน)เป็นแน่แท้ เขารีบยืนมือแบกตั๋วที่นั่งก่อนจะย้ายตูดเผ่นออกไปทันที ก่อนตำรวจหนุ่มจะทิ้งตัวลงข้างๆเธอทันที

เธอที่ทำหน้าเบื่อโลกใส่เขา
เลนส์: "ไอ้ยักษ์นักเลงไปแกล้งคุณพรชัยทำไม ไล่เขาไปเฉยคนทำลังจะได้เพื่อนใหม่แล้วเชียว"
เข้ม: "ไล่อะไรก็ขอแลกที่นั่งดีๆ เขาก็ไปแล้วนักลงนักเลงไรเลอะเทอะวะ อีกอย่างนักเลงอะไรเขาเรียกหล่อแบบดุดัน แล้วแน่ใจเหรอนายนายพรทิพย์พรหมอะไรนั้นมันจะเป็นเพื่อนจริงๆ หน้าตาดูดีอกดีใจตานี้เยิ้มเชียว"
เลนส์: "แล้วเขาจะคิดยังไงและมันเกี่ยวอะไรกับนายย่ะ แล้วขอดีๆประเทศไหนมันจ้องกันแบบนั้นข่มขู่ชัดๆ" เข้ม: "ก็คนอุตส่าห์เป็นห่วง คนสมัยนี้น่ากลัวจะตายถ้าไอ้หมอนั้นเป็นโจรละเอามีดจี้เอวปล้นจะทำไง ถ้าร้ายกว่านั้นก็โรคจิตเลย หืมมม เข้าใจเลือกเหยื่อดีซะด้วย" ก่อนจะมองเธอแปลกๆจนเธอจะเริ่มกลัวตำรวจมากกว่าคนแปลกหน้าเมื่อกี้ซะแล้ว
เลนส์: "ฉันว่านายน่ากลัวกว่าคุณพรชัยอีกนะ ไม่รู้ละนายไปนั่งที่อื่นเลยไปข่มขู่เขานายผิด"
เข้ม: "ไม่ครบองค์ประกอบความผิดวุ้ย ไหนถ้อยคำข่มขู่ ไหนทีท่าคุกคามไม่มีขอดีๆคุยกันดีๆ เขาก็ใจดีให้เอง กฎหมายอาญาไม่ครบองค์ประกอบก็คือไม่ผิด เราทั้งสองแลกที่นั่งก่อนโดยสมัครใจ" ก่อนเข้มจะยิ้มอย่างเริงร่าเลนส์อ้าปากเหมือนอยากว่าอะไรแต่ก็หุบปากหันหาเมินชายหนุ่มไปมองข้างนอกรถ เงาสะท้อนหน้าตัวเองบางๆกับกระจกทำให้เธอรู้ตัวว่าเธอกำลังอมยิ้มอยู่ ขณะเดียวกับตำรวจหนุ่มผู้แลกเปลี่ยนเก้าอี้นั่งนั้นดีใจที่ตนโชคดีมาขึ้นรถคันเดียวกับเธอซะงั้น

      ไม่นานรถก็ออกตัวจากท่ารถขับออกไป นั่งจากนั่งแอบชำเลืองกันไปมาหมวดหนุ่มก็ทำลายความเงียบอีกครั้ง
เข้ม: "ขอถามหน่อย ทำไมไม่กลับพร้อมทีมงานคนอื่น มากลับคนเดียวดึกๆไม่กลัวเหรอ?"
เลนส์: "งานไม่เสร็จ เลยไม่อยากให้ทุกคนรอกลับเองนี้ละสบายใจดี ส่วนเรื่องความน่ากลัวฉันว่าฉันเอาอยู่นะ ไปไหนมาไหนคนเดียวมาตลอดก็ไม่เคยพลาดซักที มีแต่ไล่แตะก้นพวกคนแย่ๆ ซะมากกว่าบางทีก็จับส่งตำรวจได้ด้วยซ้ำ ฉันว่าคนอื่นอาจจะไม่กล้าขอความช่วยเหลือหรือโวยวายเลยโดนพวกนิสัยเสียเอาเปรียบ แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นไง"

เข้ม: "จ้าแม่คนเก่ง ระวังเถอะวันไหนพลาดขึ้นมาจะแย่เอา เออ ไม่ได้ตะแช่งนะ คือคนเราจะเก่งขนาดไหนก็พลาดได้เข้าใจนะ"
เลนส์: "ฉันไม่เคยประมาท ไม่อยากเป็นเหยื่ออะ มันคงแย่หน้าดู"
เข้ม:"จากการไปวิ่งไล่แตะตูดพวกเลวนั้นมาเข้าคุกบาง ส่วนใหญ่สภาพจิตใจเหยื่อก็แย่พอดูเลย บางคนก็ไม่มาแจ้งความ มันเลยหนีไปทำทำเลวต่อได้อีก"

เลนส์: "ว่าแต่คุณตำรวจโทษพวกนี้มันกี่ปีอะ เข้ม: "มาตรา 276 เอาแบบสรุปความมาให้นะ คือ 4 – 20 ปี แต่ถ้าใช้ปืนข่มขู่ รุมโทรม โทษจะเป็น 15 – 20 ปีหรือตลอดชีวิต แต่ถ้าข่มขืนและเหยื่อนั้นตายหรือสาหัส โทษสูงสุดคือประหาร การที่จะให้การข่มขืนแล้วประหารเลยก็ไม่ต่างกับส่งเหยื่อไปตาย" 

    ทั้งคู่หันหน้าคุยกันต่อไป จากเรื่องสาระก็ค่อยๆย้ายไปเรื่องอื่น ไม่ว่าเพลง หนัง ผลัดกันถามพลัดกันตอบจนรถมาถึงกรุงเทพ เข้มรู้สึกตัวเพราะพนังงานดูแลบนรถมาปลุก
"เฮ้ย เลนส์ๆตื่นถึงแล้ว" เข้มหันไปบอกคนข้างๆที่มาอาศัยไหล่ตนเป็นหมอนอีกแล้ว

    เข้มหันไปยิ้มแห้งๆให้พนักงานบนรถ "ท่าทางจะหลับสบายน่าดูเลยนะค่ะ ไม่ยอมตื่นเลยอิจฉานะค่ะเนี่ย"

     พนังงานหญิงยิ้มให้เข้มและชื่นชมชายหญิงคู่นี้ช่างเป็นคู่ที่น่ารักจริงๆ เมื่อเข้มปลุกดีๆเธอไม่ยอมตื่นเข้มเลยดีดหน้าผากเธอแรงๆ
เลนส์: "โอะ อืมมม ไอ้บ้าอย่ากวนดิ คนกำลังนอนเลย"
เข้ม: "นอนอะไรละ ถึงแล้วรีบๆลงคุณพนังงานมายืนรอแล้ว" เลนส์แหล่ตามองรอบๆที่เห็นดังตามที่เข้มว่า
เลนส์: "อ้าว ไอ้ยักษ์ลุกสิมารออะไรไปสิ งงอีกรีบลง" หลังจากทั้งคู่ลงรถมาแล้ว

     เข้มก็เดินมาส่งเลนส์ขึ้นแท็กซี่เป็นอันว่าทั้งคู่แยกกันตรงนั้น เข้มเองก็ขึ้นแท็กซี่กลับห้องเล็กๆของเขา ระหว่างอยู่บนรถเข้มก็รับโทรศัพท์จากดาบชัย

เข้ม: "มีอะไรเหรอดาบโทรมาป่านนี้" 
ดาบชัย: "หมวดตรวจดูรายชื่อเด็กหน้าใหม่ที่จะเข้าคัดตัวรึยังครับ ?"
เข้ม:" ยังวะ แต่ก็เห็นว่าวางทิ้งไว้บนโต๊ะนะ ทำไมวะเค้าแค่ส่งสำเนารายขื่อมาให้เราดูไม่ใช่เหรอ นั้นเป็นเรื่องของส่วนกลาง"

ดาบชัย: "อาใช่ครับแต่ที่อยากให้ดูคือรายชื่อข้างในครับ"
เข้ม: "ใครวะ ลูกท่านหลานเธอหรือลูกใครก็ไม่มีคะแนนพิเศษวะ"
ดาบ: "เอาเป็นว่าหมวดรอดูละกันนะครับ" ก่อนจะวางสายไปไม่นานไฟล์ภาพถูกส่งมาทางข้อความหมวดอ่านรายชื่อนั้นก็ฉีกยิ้มดวงตาฉายแววตื่นเต้น เข้มรำพึงออกมาเบาๆ
"งวดนี้ไม่มีออมมือแล้วนะไอ้หนู น่าสนุกจริงโว๊ย รอแทบไม่ไหวแล้วอยากรู้จักว่ามันจะทำได้แค่ไหน"

 

 

ตอน10 วันร้ายๆของนักข่าว



เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

anupan_2764

แอบมาลงซะดึกเลย แต่ก็ไม่รอดผมหรอก
ติดตามตลอดทุกตอนครับ
ชอบเรื่องมีทั้งบู๊ ทั้งซี๊ด สนุกดีได้ความรู้ในหลายๆเรื่อง
ขอบคุณครับ

sanya

มาแล้ว ตอนทางด่วนปิดคดี.
มาแม้นให้กำลังใจ ให้มีไอเดียบรรเจิด คิดงานดีๆมาให้ผู้อ่านทุกๆคนนะครับ

unknowooi

ตอนนี้ความรู้มาเพียบ

ขอให้เดินทางไปทำบุญปลอดภัยนะครับ อนุโมทนาด้วยครับ

gritkin

จะได้ลงเอยมั้ยเนี่ย คู่นี้ เเละอีกคู่ตอนนี้หายไปเลย 555 คนที่เข้ามาใหม่คงเป็นหมอนั่นเเน่เลย สู้ๆนะครับ writer สนุกมากๆครับผม

zero009

สนุกมากเลยครับจะได้ลงเอยกันเปล่าเนี่ย

beeriero

สนุกดีครับถึงฉาก 18+ จะน้อยไปหน่อยแต่โดยรวมแล้วดีครับ

darkdd1999

งืมมม รอพระเอกเราอะ ผมอบากให้นักศึกษาเป็นพนะเอกมากเลย สงสาร ผู้หญิงตัวเองเกือบโดนเยหลายทีละ5555

Bluemuffer

เอายังไงละเข้ม... มอมหล้าก้อไม่ได้ จับกดเลยดีกว่ามั๊ย

may_290607908

 ::Glad::ได้ความรู้มากครับถึงจะมีเรื่องเสียวน้อยไปหน่อยแต่สนุกครับ

thum2520

ยังไม่ได้อ่านเนื้อหานะครับ แต่ขอมากล่าวคำว่า ขอบคุณมากครับก่อน

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ และเที่ยวเหนือให้สนุกนะครับ

tadds

ขอบคุณครับ น่าสนุกละครับ ::Thankyou:: ::Thankyou::

wut tong

คนผิดโดนลงโทษแบบนี้ทั้งหมดก็ดีส่นมากลอยนวลไม่โดนจับ

swss2511

เจอม๊อบจัดตั้งพี่เข้มจะแก้ปัญหายังไงดี

missnihgs

น่าติดตามครับ สนุกมากๆเลยครับ