ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แก้วกานดา ตอนที่ 12 - ต่างแผนการ

เริ่มโดย assasin008, พฤศจิกายน 29, 2016, 09:55:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

ตอนที่ 12 – ต่างแผนการ
.....................................
Assasin008 2016-11-29

        "เวรเอ๊ย โทรไปหาเป็นสิบครั้งแล้ว ทำไมไม่ยอมรับสายวะ"

        สิงห์ ชายหนุ่มร่างกำยำส่งเสียงสบถไม่สบอารมณ์ออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังลั่นในรถคันหรู ก่อนจะเหวี่ยงโยนเอาโทรศัพท์มือถือสีดำทิ้งลงไปบนเบาะหนังสีน้ำตาลด้านข้างเพื่อระบายความหงุดหงิด

    เขานั่งบ่นพึมพำอยู่ในรถหรูหราอีกครู่ใหญ่ ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนเกียร์เหยียบคนเร่งขับเคลื่อนรถคันโตวิ่งไปบนท้องถนนตามสัญญาณไฟจราจรซึ่งเพิ่งเปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นสีเขียว ยามเช้าตรู่เช่นนี้รถรายังมีไม่มากนัก เขาจึงสามารถเหยียบเร่งความเร็วได้อย่างเต็มที่

        ดวงตาสีทองแดงนั้นแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ เมื่อสองคืนที่แล้วเขาได้เปิดบริสุทธิ์ดาริกา เธอเป็นหญิงสาวที่สวยเหมือนนางฟ้ามากด้วยเสน่ห์จนเขาลุ่มหลงในรสราคะ ช่วงเช้าของเมื่อวานเขาพาเธอไปส่งที่พัก และปล่อยให้เธอได้พักฟื้นร่างกายไปหนึ่งวันเต็ม

        สิงห์โทรศัพท์ไปหาดาริกาตั้งแต่เมื่อคืนด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม เขาเชื่อว่าดาริกาจะต้องเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ติดใจลีลารักของเขา เขาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะต้องคิดถึงโหยหา หากทว่าเขาอาจจะคาดเดาผิดไป

        ดาริกาหญิงสาวคนนี้มีความสวยสมบูรณ์แบบจนเขาไม่ปฏิเสธว่าลุ่มหลงในร่างกายของเธอ เรียกได้ว่าแค่นึกถึงตอนได้ขึ้นขย่มขยี้เสพกามกับเรือนร่างงามประหนึ่งนางฟ้าของดาริกา ยิ่งนึกไปถึงนมเต้าอวบอิ่มเต่งตึงและร่องสาวที่คับแน่น ร่างกายท่อนล่างก็ถึงกับเกร็งเขม็งจนปวดหนึบขึ้นมาแทบจะในทันที ความรู้สึกแบบนี้เขายังไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน และยิ่งเวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้ระบายอารมณ์ อารมณ์ของเขาก็ยิ่งหงุดหงิดกราดเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด

        ชายหนุ่มเจ้าของเครือร้านนวดและธุรกิจอีกหลากหลายนั่งเงียบไปครู่ใหญ่ เขาเปิดกระจกรถออกเล็กน้อย แล้วหยิบเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบพ่นควันฉุยเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่กำลังเคร่งเครียด ตั้งแต่เป็นหนุ่มเต็มตัว เขาก็ไม่เคยห่างจากผู้หญิงมาก่อน เรียกได้ว่ามีให้นอนกอดทุกค่ำคืน และเขาเองก็มีผู้หญิงที่เต็มใจขึ้นเตียงกับเขาอยู่หลายคน เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมานั้นเสน่ห์ของดาริกาทำให้เขารู้สึกเหมือนเสน่ห์ของสาว ๆ คนอื่นกลายเป็นจืดชืดน่าเบื่อจนขี้คร้านจะเรียกพวกเธอเหล่านั้นมาสนองอารมณ์

        จนกระทั่งวันนี้สิงห์จึงค่อยรู้สึกว่าคงไม่สามารถอัดอั้นอารมณ์ได้อีกต่อไป ปกติแล้วเขาจะไม่ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ หากทว่าอารมณ์กระสันทำให้เขาหลับไม่ลง สมองของเขามัวแต่คิดถึงรสสวาทจากดาริกา และหากจะมีใครสักคนแทรกเข้ามาในความคิด ก็คงจะเป็นนักศึกษาสาวแสนสวยที่เขาได้ลวนลามบนรถไฟฟ้า หากทว่ายังไม่ได้มีโอกาสปิดเกม เขารู้สึกว่านักศึกษาสาวคนนั้นกับดาริกามีเสน่ห์ที่มากล้นไม่แพ้กัน เพียงแต่ปัญหาก็คือเขาไม่ทราบว่านักศึกษาสาวคนนั้นอยู่ที่ไหน หรือต่อให้เขาเจอก็ไม่แน่ว่าจะได้ทำอย่างที่อยากทำ

        "... ไปหานกล่ะกัน เช้าแบบนี้น่าจะยังอยู่ที่ห้องนะ ... ถ้าอนงค์อยู่ด้วยก็คงดี ... หึ หึ"

    สิงห์นั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรถคันหรูหักเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางไปอีกเส้นทาง จุดหมายปลายทางในครั้งนี้คือคอนโดห้องชุดที่เขาซื้อไว้ให้หญิงสาวในสังกัดอยู่อาศัย ชื่อของเธอคือกนกกร เธอมีชื่อเล่นว่านก นกเป็นสาววัยทำงานเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เท่าที่เขารู้นั้นครอบครัวของเธอเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ยากจน

    เขาได้เจอกับนกผ่านทางแม่เล้าเด็กขายตัวตั้งแต่สมัยเธอยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จากนั้นเขาก็ได้เป็นคนเปิดบริสุทธิ์และถูกอกถูกใจจนต้องเลี้ยงดูนกเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ สามปีแล้วที่เขาเลี้ยงเธอไว้เป็นที่ระบายความใคร่ แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกเบื่อ

    กนกกรเป็นสาวสวยระดับดารานางแบบวัยยี่สิบสาม เธอมีนิสัยใฝ่สูงวางตัวเหมือนไฮโซร่ำรวย เขารู้ว่าเธอหมายมั่นจะจับเขาซึ่งมีฐานะร่ำรวยให้อยู่หมัด และเขาก็ยอมรับว่าติดอกติดใจลีลาร่านสวาทของเธอมากพอสมควร ยิ่งคนภายนอกที่ไม่รู้อะไรมองว่าเธอคนนั้นเป็นไฮโซสาวสวยคนหนึ่ง เขาก็ยิ่งรู้สึกดีตอนควงแขนเธอไปงานเลี้ยงต่าง ๆ โดยไม่เคยคิดจะแฉความจริงเรื่องที่ว่าเธอคนนี้เป็นแค่ที่ระบายความใคร่ส่วนตัว

     นอกจากนี้กนกกรยังมีน้องสาวหน้าตาสวยน่ารักวัยนักศึกษาอายุยี่สิบปีอยู่อีกหนึ่งคน น้องสาวของนกชื่ออรอนงค์ เธอมีชื่อเล่นว่าอนงค์ ความสวยน่ารักของสองพี่น้องนี้เรียกได้ว่าใกล้เคียงกัน สิงห์จึงรู้สึกคันหัวใจยุบยิบอยากครอบครองอนงค์ให้ได้แบบเดียวกับพี่สาว เพียงแต่ดูเหมือนว่าอนงค์จะวางตัวออกห่างไม่เข้ามาใกล้ชิดกับเขาอย่างที่เขาอยากให้เป็น

        "อ้าว อนงค์ จะไปมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ ไปเรียนเช้าเชียว"



        สิงห์ส่งเสียงร้องทักด้วยดวงตาลุกวาวทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพัก สายตาหื่นกลัดมันของเขากำลังจับจ้องมองดูนักศึกษาสาวซึ่งกำลังแสดงท่าที่ตื่นตกใจออกมา เขากำลังจับจ้องมองดูความสวยน่ารักของใบหน้า เขามองดูทรวงอกอวบที่เด้งสะท้านขึ้นลง แล้วไล่ลงไปมองดูท่อนขาขาวเรียวด้วยลมหายใจที่ร้อนผ่าวกว่าเดิม เธอคนนี้คืออนงค์น้องสาวคนเดียวของนก ผู้หญิงที่สิงห์วางแผนอยากจะครอบครอง

        "... พี่สิงห์นั่นเอง ... อนงค์ตกใจหมด ... ไม่เห็นพี่นกบอกเลยว่าพี่สิงห์จะมา"

        อนงค์ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นใบหน้าผู้บุกรุกเข้ามาในห้องได้ชัดเจน แต่นักศึกษาสาวสวยก็ยังยืนมองร่างสูงกำยำของสิงห์ด้วยท่าทีไม่ค่อยไว้วางใจนัก เพราะสายตาหื่นกระหายกลัดมันของเขากำลังโลมเลียไปทั่วเนื้อตัวของเธอ อนงค์ทราบดีว่าเขาคิดอยากมีอะไรกับเธอจะแย่

        "พอดีไม่ได้นัดล่วงหน้า นกทำอะไรอยู่  ตื่นหรือยัง"

        "พี่นกไม่ได้บอกไว้เหรอคะว่าไปธุระต่างจังหวัด ... อนงค์เองก็กำลังจะไปมหาวิทยาลัยแล้ว ... อุ๊ย พี่สิงห์จะทำอะไรคะ"

        อนงค์ตีหน้านิ่งและพูดเพื่อหาข้ออ้างแยกตัวจากไป หากทว่านายสิงห์กลับไม่ปล่อยปละละเว้น ยิ่งได้ยินว่านกไม่อยู่ในห้อง เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตอนนี้คือโอกาสทองที่ไม่ได้หากันง่าย ๆ เขาจึงขยับตัวไปยืนขวางทางของอนงค์ ก่อนจะรุกไล่ให้นักศึกษาสาวถอยกรูดจนแผ่นหลังไปชนกับผนังห้อง

        "พี่จะให้สองเท่าที่ให้นก อนงค์ยอมเป็นของพี่นะ ถ้าไม่สะดวกใจ เราแอบมีอะไรกันเงียบ ๆ ก็ได้ รับรองว่าพี่สาวของอนงค์ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ พี่รับรองได้"

        สิงห์รุกไล่เข้าไปจนแผงอกกำยำเบียดเข้ากับทรวงอกอวบ ลมหายใจของเขาถี่กระชั้นด้วยความกระหาย หากทว่าเขายังยอมหยุดไม่รุกล้ำมากเกินกว่านี้ เพราะทราบดีว่าหากอนงค์ไม่ยินยอมและส่งเสียงโวยวาย เรื่องราวอาจจะกลายเป็นยุ่งยากขึ้นมาได้

        ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยของอนงค์ เธอคนนี้อาจจะไม่ได้สวยเท่าดาริกา แต่ก็เป็นรองกว่าไม่มาก ทรวดทรงองค์เอวและผิวพรรณอาจจะด้อยกว่าหนึ่งขั้น แต่ก็มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้ผู้ชายรักผู้ชายหลงได้ง่าย ๆ สิงห์จึงอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ เขาทราบว่าอนงค์ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง และเขาอยากจะเป็นคนแรกที่ได้เสพสัมผัสกับสิ่งนั้น

        "... พี่สิงห์ ... อย่าค่ะ เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว ... พี่นกรักพี่สิงห์มากนะคะ แล้วอนงค์เองก็มีแฟนแล้ว"

        อนงค์รีบกล่าวปฏิเสธด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว ท่าทางของเธอนั้นน่าสงสารเวทนาอย่างยิ่ง และเมื่อเห็นเช่นนั้นอารมณ์ของสิงห์ก็เย็นลงด้วยความสงสาร แต่ว่าเขายังไม่ยอมแพ้และยังคงยืนประกบเธอเอาไว้เช่นนั้น ก่อนจะกัดฟันยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้เธอ

        "สามเท่า ... พี่จะซื้อรถหรูให้หนึ่งคัน แถมเงินพิเศษสำหรับครั้งแรกด้วย ... รับเถอะนะอนงค์"

        ข้อเสนอนี้ทำให้นักศึกษาสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แววตาของเธอปรากฏเค้าความลังเลออกมาวูบหนึ่ง หากทว่าสุดท้ายเธอก็ส่ายหน้าปฏิเสธและทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา สิงห์จึงขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดขัดใจ เขาไม่เชื่อว่าเขาทุ่มขนาดนี้แล้วอนงค์จะยังไม่สนใจ

        "อนงค์ได้โปรด พี่อยากได้อนงค์ใจจะขาด ... ถึงยังไงวันก่อนอนงค์ก็เพิ่งใช้ปากทำให้พี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าจะไปให้ไกลกว่านี้หน่อยก็คงไม่เป็นอะไรหรอก"

        ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงพลุ่งพล่าน เขาพยายามตะล่อมทุ่มซื้ออนงค์มานานเป็นปี หากทว่าอนงค์ไม่เล่นด้วย นกพี่สาวของเธอก็ไม่แสดงทีท่า จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อน นกจึงค่อยยอมถอยหนึ่งก้าวให้อนงค์ใช้ปากทำให้เขาจนเสร็จโดยแลกกับเงินก้อนโต

    เขาเชื่อว่านั่นคือครั้งแรกที่อนงค์ใช้ปากทำให้ผู้ชาย และยิ่งเชื่อว่าเธอน่าจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เวลานั้นเขาคิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะได้ครอบครองอนงค์แล้ว หากทว่าเขาคิดผิด เพราะหลังจากนั้นอนงค์ก็ตีตัวออกห่างจนเขาแทบไม่ได้เห็นหน้าเธอเลยสักครั้ง

        "พี่สิงห์คะ เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ... ตอนนั้นอนงค์กับพี่นกยอมทำไปก็เพราะร้อนเงิน พวกเราต้องหาเงินก้อนใหญ่ไปรักษาผ่าตัดพ่อ"

        อนงค์ใช้ดวงตาที่เปียกชื้นด้วยน้ำตามองเขา ก่อนจะส่งเสียงตอบสะอื้นน่าเวทนา ท่าทีของอนงค์ทำให้สิงห์ซึ่งไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนอื่นถึงกับใจสั่น เขาขมวดคิ้วบิดเบี้ยว ก่อนจะตัดสินใจถอยหลังมาหนึ่งก้าว ปลดปล่อยให้อนงค์เป็นอิสระ

        สิงห์มองดูนักศึกษาสาวสวยคนนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ในความคิดของเขานั้นอนงค์แตกต่างจากพี่สาวราวฟ้ากับเหว นกพี่สาวของเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินและของมีค่า หากทว่าอนงค์นั้นกลับวางตัวต่างออกไป เธอไม่เคยแสดงท่าทีสนใจเงินตราที่เขามี เธอไม่เคยแสดงท่าทีหวั่นไหวไปกับข้อเสนอของเขา ยกเว้นเพียงแค่ตอนที่เธอต้องการเงินก้อนใหญ่ไปผ่าตัดพ่อ เธอจึงยอมใช้ปากทำให้เขามีความสุข

        "ขอบคุณค่ะ พี่สิงห์"

        อนงค์ก้มหน้างุดกล่าวขอบคุณที่เขายอมปลดปล่อยด้วยน้ำเสียงหวานน่าฟัง สิงห์จึงรู้สึกคันหัวใจยุบยิบยิ่งเกิดความรู้สึกอยากครอบครองอนงค์ให้ได้มากกว่าเดิม แต่เขาทราบว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพี่สาวของเธอคอยระวังป้องกันเอาไว้ตลอดเวลา จนเขาไม่มีโอกาสใช้แผนร้ายเลยสักครั้ง

        "ขอบคุณทำไม พี่ต้องขอโทษมากกว่า ... เอานี่ไป ถือเป็นคำขอโทษของพี่"

        สิงห์เปลี่ยนมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม เขาควักเอาธนบัตรแบงค์พันออกมาฟ่อนใหญ่แล้วยื่นให้ นักศึกษาสาวมองดูเงินหลักหมื่นแวบหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับไว้ แต่สิงห์คาดการเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาจึงจัดการจับเงินฟ่อนนี้ยัดใส่กระเป๋าถือของอนงค์ จะอย่างไรเงินจำนวนนี้ก็ไม่ได้มากมายนักสำหรับเขา และเขาเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะช่วยซื้อใจและเพิ่มโอกาสสำเร็จให้เขาได้

        "รับไว้ แล้วไปเรียนเถอะอนงค์ แต่จำไว้นะ พี่รักอนงค์ อยากได้อนงค์เป็นเมียจริง ๆ ขอแค่อนงค์ยอมเปิดใจสักครั้ง"

        ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับจ้องมองเธอด้วยสายตาร้อนแรง ท่าทางของเขาในเวลานี้ราวกับชายแสนดีที่หลงรักหญิงสาวด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากทว่าภายในนั้นเขากำลังแอบหัวเราะด้วยเสียงของปีศาจร้าย เขาย่อมไม่ใช่พระเอกแสนดี แต่เขาเป็นนักแสดงที่ดี และเขาทราบว่าควรต้องทำเช่นไรเพื่อทำให้ผู้หญิงรู้สึกปลาบปลื้มและยอมเปิดใจ

        "ขอบคุณค่ะพี่สิงห์"

        อนงค์มองสบตากับเขา ก่อนจะรีบก้มหน้างุดลงด้วยท่าทางเขินอาย ท่าทีของเธอนั้นเหมือนกับหญิงสาวอยู่ต่อหน้าชายคนรัก

        "ไม่เป็นอะไรหรอก ... พี่หิวน้ำจัง อนงค์ช่วยหาน้ำให้สักแก้วได้หรือเปล่า"

        สิงห์กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม อนงค์เงยหน้ามองดูเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นในห้องครัว แทบจะในทันทีที่อนงค์หันหลังให้ ใบหน้าอบอุ่นแสนดีของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้ม เขารีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา ความจริงแล้วเขาย่อมไม่ได้กระหายน้ำ หากทว่าเขาต้องการเวลาเพื่อใช้แผนร้าย

    เขามียาปลุกอารมณ์ทางเพศแบบรุนแรงอยู่หนึ่งขวด มันเป็นหลอดยาเหลวใสไร้สีไร้กลิ่นขนาดเล็กจิ๋วพกพาในกระเป๋าเงินได้ หากผู้หญิงดื่มยานี้เข้าไปแค่เพียงอึกเดียว เธอจะมีอารมณ์ทางเพศรุนแรงแต่สติยังอยู่ครบถ้วน ไม่เหมือนกับยาที่เขาใช้กับดาริกาเมื่อสองคืนที่แล้ว ซึ่งทำให้สติปั่นป่วนสับสนจำอะไรแทบไม่ได้

    เขาวางแผนจะแอบหยอดยาให้อนงค์ดื่ม จากนั้นก็จะซื้อเวลาอาสาพาเธอไปส่งที่มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นอนงค์ย่อมไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือเขาไปได้โดยเด็ดขาด หรือหากเธอไม่ยอมดื่มแต่โดยดี เขาก็จะใช้กำลังทำให้เธอกลืนยาเข้าไป ภายในสถานการณ์เช่นนี้ แผนของเขามีความเป็นไปได้อย่างสูง หากทว่าปัญหาก็คือหลอดยาที่ว่านั่นกลับหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

        "... เฮ้ย หายไปไหนวะ เวรเอ๊ย"

        สิงห์แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวหงุดหงิด เขาสบถด่าอยุ่ในใจและพยายามนึกย้อนว่าหลอดยาหายไปที่ใด เขาแน่ใจว่าตอนไปส่งดาริกากลับห้องพัก หลอดยายังอยู่กับเขา เพราะว่าตอนนั้นเขามีความคิดอยากจะวางยาดาริกาอีกรอบ แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจ จึงเก็บหลอดยานั้นกลับคืน แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นมันอีก

        "พี่สิงห์หาอะไรหรือเปล่าคะ"

        ขณะที่สิงห์กำลังหายาปลุกสวาทด้วยความร้อนรน ร่างบอบบางของอนงค์ก็เดินมาหาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นฉ่ำในมือ ชายหนุ่มจึงได้แต่รีบปั้นสีหน้าเก็บอาการ เขาแอบส่งเสียงสบถด่าอยู่ในใจที่พลาดโอกาสงามนี้ไป โอกาสที่จะได้อยู่สองต่อสองกับอนงค์นั้นใช่ว่าจะหากันได้โดยง่าย

        "อืม พี่หากุญแจห้องทำงานน่ะ ไม่รู้ไปวางไว้ที่ไหน"

        สิงห์พูดสร้างเรื่องโกหก ก่อนจะยื่นมือไปรับแก้วน้ำใบนั้นขึ้นมาดื่มอึก ๆ เพื่อแก้เก้อ อนงค์ยืนรอจนเขาดื่มน้ำหมด จึงค่อยยื่นมือไปรับแก้วน้ำอันว่างเปล่า และกล่าวขอตัวไปมหาวิทยาลัยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

        "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อนงค์ไปเรียนก่อนนะคะพี่สิงห์"

        "เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งนะอนงค์"

        "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ พอดีอนงค์นัดกับเพื่อนไว้ เดี๋ยวเพื่อนจะมารับที่หน้าคอนโด อนงค์ไม่อยากรบกวนด้วย"

        "โอย ไม่รบกวนอะไรหรอก พี่พร้อมทำให้อนงค์เสมอ แต่ถ้านัดกับเพื่อนแล้วก็ไม่เป็นอะไร อนงค์ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวจะสาย พี่จะปิดห้องให้เอง"

        สิงห์กล่าวเสียงนุ่มเหมือนพระเอก อนงค์จึงส่งยิ้มหวานพร้อมกับยกมือไหว้ขอตัว เธอเดินอ้อมตัวเขาแล้วเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง และไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มให้ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ในห้องอีกครั้ง

    ทันทีที่ประตูห้องปิดลง สิงห์ก็แสยะยิ้มให้กับความสามารถในการแสดงละครของตนเอง ถึงวันนี้เขาจะพลาด แต่เขาไม่เชื่อว่าหากเขาแสดงเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แล้วอนงค์จะไม่ใจอ่อน

    เมื่อนึกจินตนาการไปว่าร่างขาวโพลนของอนงค์และพี่สาวของเธอต้องดิ้นพราดอยู่ใต้ร่างของเขา ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงหื่นกามก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักที่ไร้ผู้คน เขากำลังคิดอ่านวางแผนว่าจะไประบายอารมณ์หื่นที่อัดแน่นเต็มอกกับผู้หญิงในสังกัดคนไหนจึงจะดี กระนั้นเมื่อได้นั่งใช้เวลาคิดถึงเรื่องราว สิงห์ก็เริ่มขมวดคิ้วและส่งเสียงบ่นพึมพำออกมาด้วยความไม่ค่อยสบายใจนัก

        "... ว่าแต่ยาปลุกมันหายไปที่ไหน ... ไม่น่า ... เราคงไม่ได้เผลอใส่ไว้ในถุงยาของน้องดาหรอกมั้ง"

       

    ....................................................

   

        "เฮ้อ ... รอดมาได้แฮะเรา นึกว่าจะโดนปล้ำจนต้องใช้ไม้แข็งป้องกันตัวเสียแล้ว"

        อรอนงค์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอลงลิฟต์โดยสารมาถึงชั้นแรก จากนั้นริมฝีปากบางก็เบะด้วยอารมณ์รังเกียจ ท่าทีของเธอในเวลานี้ไม่ได้เป็นสาวไร้เดียงสาเช่นก่อนหน้า หากแต่กำลังแสดงความรู้สักหงุดหงิดรังเกียจและรำคาญออกมาอย่างเห็นได้ชัด

        เธอเดินออกมาแล้วเหลียวมองกลับไปแวบหนึ่ง ก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กมาเช็ดเจลสีใสบนนิ้วมือออกไป เจลสีใสนี้มีสรรพคุณคล้ายกับสเปรย์พริกไทยหากแต่รุนแรงกว่า เธอคิดว่าสิงห์จะต้องลงมือทำอะไรบางอย่างกับเธอในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนั้น เธอจึงเตรียมความพร้อม หากโดนปลุกปล้ำ สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่ป้ายยานี้ใส่ตาของสิงห์ จากนั้นเธอก็จะปลอดภัย

        "แต่ก็แปลก ทำไมพี่สิงห์ไม่ทำอะไร"

        อนงค์ส่งเสียงพึมพำไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าพี่สิงห์ เธอจะสวมบทสาวหวานไร้เดียงสาไร้พิษภัย หากทว่าที่แท้แล้วเธอรู้และเข้าใจโลกมากพอควร อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าพี่สิงห์นั้นไว้ใจไม่ได้ และเธอคิดว่าเธอควรจะโทรศัพท์บอกเรื่องนี้กับกนกกรพี่สาวของเธอ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกทันที

        "... ฮัลโหล พี่นก ... ตื่นหรือยังคะนั่น

        "อืมม ... ทำไมโทรมาเช้าจังเลยอนงค์ พี่ยังง่วงอยู่เลย"

        "มีเรื่องต้องบอกค่ะ ว่าแต่พี่อยู่ที่ไหนเนี่ย"

        "... เดี๋ยวนะ ... ขอพี่เดินออกมาข้างนอกก่อน ..."

        เสียงปลายสายงึมงำงัวเงียท่าทางเหมือนยังง่วงนอน แต่เธอก็พอฟังออก อรอนงค์เดาได้ไม่ยากว่าพี่สาวขี้เซาคงจะยังไม่ได้ลุกจากเตียงนอน

        "อืม ออกมาที่ระเบียงห้องแล้ว ... ตอนนี้พี่อยู่โรงแรมที่บางแสน มากับเสี่ย เสี่ยหมดแรงนอนสลบอยู่บนเตียงโน่นแน่ะ"

        "พี่นกระวังเถอะ สักวันเสี่ยเขาจะหัวใจวายตายคาอกพี่"

        "คิก คิก ไม่ตายหรอกน่า เสี่ยแกแก่แล้ว นกเขาก็ไม่ค่อยแข็ง พี่ดูดให้จนเสร็จหนึ่งรอบ แล้วปล่อยให้เสี่ยขึ้นคร่อมหนึ่งรอบ แค่นี้อารมณ์ดีหมดแรงสลบไปล่ะ แต่พี่นี่ซิทั้งขยะแขยงทั้งอารมณ์ค้าง นี่ถ้าไม่ได้เงินดีพี่ไม่ยอมมากับไอ้เสี่ยนี่เด็ดขาด"

        "พี่ขา แบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ ร่างกายจะได้ไม่สึกหรอ วันไหนเสี่ยแกยอมหย่ากับเมีย แล้วแต่งพี่เป็นเมียแทน พี่นกก็สบายแล้ว"

        "เหอะ ไม่เอาหรอก จะให้แต่งเป็นเมียไอ้แก่อ้วนลงพุงไร้น้ำยาเนี่ยนะ ฆ่าพี่ให้ตายดีกว่า "

        "อ้าว พี่ไม่ได้หวังเอามรดกหรอกเหรอ"

        "มรดกน่ะเอา แต่พี่แต่งเด็ดขาด รอให้พี่ได้จนพ่อใจแล้วค่อยเฉดหัวไอ้แก่นี่ทิ้งไป ... ว่าแต่เราเถอะ ตกลงโทรมามีเรื่องอะไรกันแน่"

        "อ๊ะ ลืมไปเลย ... คืองี้ค่ะพี่ เมื่อกี้ตอนที่หนูกำลังจะออกจากห้อง พี่สิงห์ของพี่ก็เข้ามาในห้องพอดี หนูตกใจแทบแย่"

        "ตายแล้ว นี่แกโดนเขาทำอะไรหรือเปล่า"

        "แหม มือชั้นนี้แล้ว รอดมาได้ค่ะ หนูโกหกพี่สิงห์ว่าพี่ไปทำงานต่างจังหวัดนะคะ"

        "เอ๋ แล้วเขาไม่ทำอะไรแกเหรออนงค์ เขาอยากฟันแกจะแย่ ถ้าเขาจะปล้ำแกพี่ก็ไม่แปลกใจเลยนะ โอกาสทองขนาดนั้น"

        "อนงค์ก็แปลกใจค่ะ แต่สรุปคือพี่สิงห์ไม่ได้ทำอะไร แต่พี่สิงห์ยื่นข้อเสนอว่าถ้าอนงค์ยอม จะให้เงินสามเท่าของพี่นก ให้รถหรูหนึ่งคัน แล้วก็ให้เงินพิเศษด้วยอีกก้อน"

        "... ฮึ ... เลวจริง ๆ ... อย่าบอกนะว่าแกรับข้อเสนอน่ะ"

        "โอย พี่นกขา ไม่หรอกค่ะ อนงค์ไม่รับอยู่แล้ว วันก่อนที่ยอมใช้ปากทำให้ถ้าไม่ใช่เพราะพี่นกสนับสนุน หนูคงไม่ยอมหรอก"

        "คิก คิก พี่ไม่ได้สนับสนุนเสียหน่อย แกเองแหละที่อยากได้เงินไปเที่ยวต่างประเทศ พี่ก็เลยช่วยกุเรื่องว่าพ่อป่วยต้องใช้เงินผ่าตัด แล้วก็เป็นโอกาสดีที่พี่จะได้สอนวิธีทำให้ผู้ชายถูกใจให้แกด้วย อย่าลืมฝึกปากกับลิ้นเอาไว้ล่ะ ผู้ชายหน้าไหนก็ต้องหลงกันทั้งนั้นแหละ แต่อย่าเผลอหวั่นไหวเชียวนะ พี่สิงห์คงไม่ยอมเลิกง่าย ๆ "

        "ค่า ไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรจะยอมเสียแผนใหญ่"

        "คิก คิก นั่นซิ สิงห์เขาแค่ระดับเศรษฐีร้อยล้าน จะไปเทียบกับคุณอาทิตย์ ทายาทคนเดียวของเครือตะวันกรุ๊ป มหาเศรษฐีหลักแสนล้านได้ยังไง แกคิดถูกแล้วล่ะ เก็บความบริสุทธิ์ไปให้คุณอาทิตย์ดีกว่า แล้วแกจะมีโอกาสมากกว่าเดิม แต่หลังจากนั้นก็แล้วแต่แก"

        "ค่ะพี่นก"

        "อืม แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ แกกับคุณอาทิตย์น่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว"

        "ก็ยังเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเขาไม่ค่อยว่าง ตั้งแต่วันนั้นที่อนงค์แกล้งเดินไปชนก็ได้เจอกันอีกแค่สองครั้ง"

        "เล่าละเอียดหน่อยซิ ว่าทำอะไรกันบ้าง ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาช่วยวางแผนเธอเลย"

        "ค่ะ ก็ครั้งแรก อนงค์ไปดักรอเจอที่หน้าสำนักงานของพี่เขา อนงค์แกล้งเดินไปชนจนล้มแล้วทำเป็นเจ็บขาให้พี่เขาประคอง พี่เขาเลยประคองอนงค์ไปนั่งพัก เราเลยได้นั่งคุยกันหลายชั่วโมง แล้วพี่เขาก็ไปส่งอนงค์กลับห้อง"

        "ส่งเฉย ๆ ใช่หรือเปล่า แกอย่าเผลอรีบอ่อยมากเกินงามล่ะ"

        "พี่คะ หนูรู้หรอกน่า ครั้งแรกหนูให้พี่เขาส่งแค่ชั้นแรก ... ครั้งที่สองไปดูหนัง ทานอาหารค่ำ หนูให้พี่เขาขึ้นมาส่งที่หน้าห้อง แต่ยังไม่เปิดโอกาสให้เข้าห้อง"

        "แบบนั้นล่ะดีแล้ว แค่แสดงท่าทีว่าสนใจ แต่อย่าปล่อยตัวเกินงาม"

        "ครั้งที่สาม หนูชวนพี่เขาไปดูงานศิลปะ อย่างที่พี่แนะนำ หนูดูไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะ แต่พี่เขาดูจะชอบมาก คืนนั้นหนูให้พี่เขามาส่งถึงในห้อง เรานั่งคุยกันนานพอสมควร ทีแรกหนูตั้งใจจะทำตามที่พี่บอก แต่ว่าหนูเผลอหอมแก้มพี่เขาเข้า เราก็เลย ..."

        "ตายแล้ว เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าแกทำไปแล้ว พี่อุตส่าห์กำชับห้ามไว้แล้ว"

        "เปล่า เปล่าค่ะพี่นก ... คือ ... หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูเผลอจริง ๆ พี่เขาหล่อ น่ารักมาก ยิ่งคุยหนูก็ยิ่งชอบ หนูเลยเผลอหอมแก้มเขา พี่เขาก็เลยหอมแก้มกลับ ... แล้วพี่เขาก็รวบหนูไปกอดจูบปาก ... จูบแรกของหนู ... มันสุดยอดมากเลยนะ ..."

        "แล้วยังไงต่อ เล่ามาให้ละเอียดเลยนะ"

        "... ก็มันสุดยอดมาก หนูเบลอไปหมด พี่เขาทั้งจูบ ทั้งลูบไปทั่วตัว หนูเสียวมากจนตัวอ่อนระทวย รู้ตัวอีกทีก็โดนถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงในแล้ว"

        "ว้าย ... นี่แก ... ไหนแกบอกว่ายังไม่มีอะไรกันไง ทำกันขนาดนี้คงไม่รอด"

        "ก็ ... จริง ๆ ก็คงไม่รอดน่ะแหละค่ะ หนูเองก็อยากให้พี่เขาทำต่อ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าโชคดีหรือโชคร้าย เพราะว่าประจำเดือนหนูมาพอดี พี่เขาเลยไม่ได้ทำต่อ"

        "โอย ... รอดมาได้หวุดหวิดเลยนะน้องชั้น ... คราวหน้าแกต้องจำไว้นะ อย่ายอมให้เขาได้ง่ายเกินไป อะไรที่ได้ง่าย ๆ ผู้ชายจะไม่ค่อยเห็นคุณค่า ถ้าอยากเป็นนางบำเรอเหมือนพี่ แกอยากทำอะไรก็ทำไป แต่ถ้าแกอยากเป็นลูกสะใภ้เครือตะวันกรุ๊ปล่ะก็ แกต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้"

        "... พี่นกพูดง่าย แต่หนูทำยาก คุณอาทิตย์เขาหล่อ นิสัยดี แล้วก็น่ารักมาก หนูยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งหลง หนูคิดว่าหนูคงหลงรักเขาจริง ๆ แล้วนะพี่ ... ถ้าเจอกันอีก หนูคิดว่าคงจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้ว"

        "ฮึ เป็นเอามากนะแก เอาเถอะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงห้าม แต่กับทายาทของเครือตะวัน แกอยากจะทำอะไรก็ทำ ถ้าได้แต่งก็จะดีมาก แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่ามัวแต่รักจนลืมเรียกผลประโยชน์ก็แล้วกัน"

        "... พี่นกว่า คุณอาทิตย์จะยอมแต่งงานกับหนูหรือเปล่า ... หนูรู้สึกอยากแต่งงานกับเขาจริง ๆ นะ"

        "ไม่รู้ซินะ ผู้ชายระดับนี้จับยากพอควร เราเองก็ไม่ได้เป็นชนชั้นสูง พี่ดูแล้วคุณอาทิตย์เขารักอิสระมีอารมณ์ศิลปินมากทีเดียว ... พี่ว่าถ้าแกอยากมีโอกาส แกก็อาจจะต้องยอมเสียสละสักหน่อย"

        "เสียสละยังไงคะ"

        "ก็นะ ลองนึกซิ ถ้าเขาแต่งงานกับลูกหลานชนชั้นสูง เขาจะกระดิกตัวยาก ไม่มีอิสระ แล้วถ้าแกแสดงให้เขารู้ว่าแกจะไม่เหนี่ยวรั้งเขา เช่นยอมให้เขาหาความสุขกับผู้หญิงอื่น หรือแกอาจจะช่วยร่วมสนุกหาให้เขาด้วย พี่แกว่าแกจะมีโอกาสดีกว่านี้"

        "... พี่หมายความว่าอะไร"

        "พี่หมายความว่า แกต้องตามใจเขา แค่เก็บตำแหน่งเมียหลวงเอาไว้ แล้วปล่อย ๆ ให้เขาได้เที่ยวเล่นบ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ก็เจ้าชู้กันทั้งนั้นแหละ ถ้าเหนี่ยวรั้งมาก ๆ เขาจะยิ่งหนี แต่ถ้ารู้จักปล่อย รู้จักเล่นสนุกด้วย เขาก็จะยิ่งสนิทสนมกับเรา ถ้าได้แกเป็นเมีย แล้วสนุกกับคนอื่นได้ด้วยใครจะไม่สน ... ถ้ายังไงพี่ก็พอจะช่วยได้นะ เราสองพี่น้อง ช่วยกันทำให้คุณอาทิตย์หลงเสน่ห์พวกเรา"

        รับฟังถึงตรงนี้อรอนงค์ก็นิ่งเงียบไปวูบหนึ่ง เธอขมวดคิ้วแสดงท่าทีขุ่นข้อง อนงค์ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่ทราบว่าพี่สาวของเธอกำลังวางแผนอะไร พี่สาวของเธอกำลังวางแผนอยากมีส่วนแบ่งด้วย หากทว่าน้ำเสียงที่เธอตอบกลับไปนั้นไม่ได้มีน้ำเสียงไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย จะอย่างไรการเสแสร้งคือสิ่งที่อนงค์ถนัดอยู่แล้ว

        "... ฟังดูดีนะคะพี่นก เอาเป็นว่า ถ้าถึงตอนนั้นหนูคงต้องรบกวนพี่นกให้ช่วยด้วย"

        "เพื่อน้องสาวคนนี้พี่ยินดีอยู่แล้วล่ะจ้ะ ... อืม ว่าแต่ ... เรื่องคู่แค้นของเธอน่ะ ตกลงว่ายังไงกันแน่ ตกลงว่าไอ้บอลมันโกหกหรือเปล่า มันได้เปิดซิงนังกานต์จริงหรือเปล่า"

        "เรื่องนี้หนูก็งง ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ บอลมันดูไม่เหมือนคนโกหก แต่มันก็ไม่มีหลักฐาน ส่วนนังกานต์ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรเลย หนูไม่เชื่อว่ากานต์มันจะเก็บอาการแกล้งแสดงอะไรได้ขนาดนั้น หนูเลยงง ๆ ไม่แน่ใจ"

        "อืม อืม ถ้าไม่มีหลักฐานก็ช่างเถอะ ชิ เสียดายจริง ๆ พี่นึกว่าจะมีของดีไปเล่นงานนางผกายแก้วคู่แค้นของพี่เสียหน่อย น่าเสียดาย"

        "เอาไว้ถ้าหนูมีอะไรเพิ่มจะรีบบอกพี่ก็แล้วกันค่ะ ... แล้วเรื่องโทรศัพท์มือถือของพี่ที่หายไปล่ะคะ พี่ตามเจอหรือยัง ในนั้นมันมีคลิปอันตรายอยู่ด้วย"

        "ยังไม่เจอน่ะซิ พี่แน่ใจว่าลืมไว้ในงานสัมมนา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ อาจจะมีคนเก็บไปขายแล้วก็ได้ ... ตอนนี้พี่ก็แค่หวังว่านางแก้วคงไม่ได้เป็นคนเก็บไป"

        "ถ้าแบบนั้น หนูคงแย่แน่ค่ะพี่ พี่คงไม่เท่าไหร่ แต่หนูยังเรียนอยู่ แล้วถ้าคุณอาทิตย์เห็นเข้าล่ะก็ ..."

        "เอาน่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน เรื่องนี้พี่จะพยายามจัดการให้"

        "ค่ะพี่นก งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ หนูกำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัยแล้ว"

        "จ้า ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะอนงค์ บาย"

        "บายค่ะ"

        อนงค์กดวางสายโทรศัพท์แล้วเบะปากด้วยความไม่พอใจ เธอไม่พอใจการกระทำของพี่นกหลายอย่าง หากทว่ายังไม่สะดวกที่จะแสดงออกมา จะอย่างไรพี่นกก็ยังเป็นคนให้เงินเธอใช้จ่าย เธอจึงไม่อยากแตกหักจนตกอยู่ในสถานะลำบาก

        ความสัมพันธ์ระหว่างอรอนงค์และกนกกรนั้นไม่ได้เป็นแค่พี่น้องตามปกติ ทั้งคู่ต่างมุ่งหวังหาผลประโยชน์ต่อกัน อย่างตอนที่หลอกพี่สิงห์เรื่องเงินผ่าตัดพ่อ ความคิดนี้ก็ออกมาจากนก และเงินที่ได้มานั้นก็ถูกแบ่งครึ่งหนึ่งไปให้นก ส่วนอนงค์ที่ยอมสูญเสียศักดิ์ศรีตัวเองนั้นกลับได้มาแค่ครึ่งเดียว แต่อนงค์ยังไม่กล้าพูดอะไรออกมา

    อนงค์ทราบดีว่าหากเธอไม่บังเอิญไปเจอปลาใหญ่อย่างคุณอาทิตย์เข้าเสียก่อน พี่สาวของเธอจะต้องจับเธอใส่พานถวายให้พี่สิงห์เพื่อแลกกับเงินก้อนโตอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอมีเป้าใหญ่ พี่สาวของเธอจึงพยายามช่วยปกป้องเอาไว้เพื่อหวังผลระยะยาว เธอแน่ใจว่าพี่นกจะต้องแอบเล็งหว่านเสน่ห์ใส่คุณอาทิตย์ของเธอเป็นแน่

        เมื่อนึกถึงคุณอาทิตย์ อรอนงค์ก็รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นแรง เขาหล่อ เขารวย เขาคุยเก่ง เพียงแค่สามข้อนี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เธอรู้สึกรักผู้ชายคนนี้ ยิ่งได้ใกล้ชิดสัมผัสลีลารักอันช่ำชองของเขา เธอก็ยิ่งรู้สึกลุ่มหลงรอคอยวันที่จะได้มอบความสาวให้เขา

    เธอได้สาบานกับตนเองเอาไว้แล้วว่าจะต้องสยบเขาเอาไว้ใต้ชายกระโปรง เธอจะทำให้เขากลายเป็นผู้ชายคนเดียวของเธอให้จงได้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่มาขวางทาง เธอจะต้องกำจัดทิ้งไปให้หมด ต่อให้ใครคนนั้นเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเธอเอง เธอก็จะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

           

    .............................................

   

        ดาริกา ขยับมือวางแผ่นฝ้าเพดานให้เข้าที่ด้วยความระมัดระวังสุดชีวิต เธอถึงกับกลั้นหายใจไปวูบหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะทำให้เกิดเสียงแปลกประหลาดออกมา ไม่เช่นนั้นแล้วพี่กานต์ซึ่งอยู่อีกด้านของผนังกั้นห้องอาจจะได้ยินเสียง รวมถึงอาจรู้ตัวว่าน้องสาวคนนี้ได้แอบรับรู้ฉากรักร้อนแรงตั้งแต่ต้นจนจบ



        สาวน้อยวัยสิบแปดในชุดเครื่องแบบนักเรียนปล่อยมือจากแผ่นฝ้าเพดาน แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าเธอปิดบังเรื่องราวได้เงียบกริบไม่มีใครรับทราบ จากนั้นเธอจึงค่อยขยับตัวปีนป่ายลงมาจากโต๊ะอ่านหนังสือที่อาศัยเป็นฐานเหยียบ ก่อนจะทรุดร่างปราดเปรียวลงไปนั่งบนเก้าอี้แล้วส่งเสียงหอบหายใจออกมาด้วยอารมณ์ตื่นเต้นลุ้นระทึก

        เธอนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองตรงไปที่ผนังห้องอันว่างเปล่า จิตใจของเธอย่อมไม่ได้จรดจ่ออยู่กับผนังห้อง หากทว่ากำลังจินตนาการไปถึงภาพของหนุ่มสาวที่กอดรัดฟัดเหวี่ยง ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนรสรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง

        ก่อนหน้านี้ไม่นาน ดาริกาเพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัว เธอสวมใส่เครื่องแบบตระเตรียมเดินทางไปโรงเรียนตามปกติ ถึงแม้ว่าเธอยังไม่อยากไปเรียนในวันนี้ แต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งขาดเรียนไปหนึ่งวันเต็ม ทั้งนี้ก็เนื่องจากโดนยาปลุกสวาทจนเสียสาวให้พี่สิงห์ในค่ำคืนก่อนหน้า และตอนนี้สภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้นอนพักไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม

        ใครจะคิดว่าระหว่างที่เธอเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาอะไรรองท้อง เธอก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ดาริกาจึงรีบขยับหลบซ่อนเพราะยังไม่อยากเจอหน้าพี่สาวทั้งสอง หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกานต์พี่สาวคนรองดังขึ้น

    ความแปลกใจระลอกแรกก็คือดาริกาคิดว่าพี่สาวของเธอน่าจะเพิ่งออกไปมหาวิทยาลัย การกลับมาในเวลานี้จึงเป็นเรื่องแปลก แต่ความแปลกใจระลอกสองที่รุนแรงกว่าก็คือ เธอได้ยินเสียงของผู้ชายอีกหนึ่งคนดังขึ้นมาด้วย พี่กานต์ที่สุดแสนจะเรียบร้อยและขี้อายของเธอพาผู้ชายเข้ามาในห้องเวลาแบบนี้เพื่ออะไร

        ดาริกาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ได้แสดงตัวออกไปมอง เธอยืนแอบแบบเงียบ ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเสียงประตูห้องพี่กานต์ปิดลง เธอจึงค่อยก้าวออกมาจากที่ซ่อนแล้วยืนงุนงง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องตัวเองแล้วปิดประตูแบบเงียบกริบ เธอพยายามคิดในแง่ดีว่าพี่กานต์ไม่น่าจะแอบทำเรื่องราวอะไรไม่ดีงาม แต่ความอยากรู้ทำให้ดาริกาเดินตรงไปที่ผนังห้องซึ่งติดกับห้องพี่กานต์ เธอปีนขึ้นไปยืนบนโต๊ะอ่านหนังสือ แล้วเขย่งตัวยกแผ่นฝ้าเพดานขึ้นเพื่อแอบสอดแนม

        ผนังเพดานนั้นสูงเกินไป และเธอก็ไม่มีที่เหยียบที่เหมาะสม เธอจึงทำได้แค่แง้มแผ่นฝ้าออกจนได้ยินเสียงสนทนา แต่ว่าไม่สามารถปีนขึ้นไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องกานต์ได้ กระนั้นแค่เพียงเสียงที่ลอดผ่านเข้ามาก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ดาริการับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

        กานต์พาผู้ชายมาเข้าห้องเพื่อร่วมรักกัน นั่นคือความจริงที่เธอไม่อยากเชื่อ หากเธอไม่ได้รับรู้เหตุการณ์นี้ด้วยตนเอง ต่อให้ใครมาบอกเธอก็คงไม่ยอมเชื่อ แต่เมื่อได้รับรู้ด้วยตนเองดาริกาจึงได้แต่ต้องทำใจยอมรับความจริงข้อนี้ พี่กานต์ที่สวยหวานแสนจะเรียบร้อยและขี้อายคนนั้น ที่แท้กลับทำตัวเหมือนผู้หญิงใจแตกคนหนึ่ง

        ดาริกายืนรับฟังเสียงของเกมกามด้วยความตื่นตกใจในคราวแรก แต่เมื่อยิ่งรับฟังใบหน้าของเธอก็ปรากฎริ้วรอยแดงซ่าน เธอเริ่มหอบหายใจกระเส่า หากเป็นเมื่อสามวันก่อนดาริกาอาจจะไม่รู้สึกเช่นนี้ เธออาจจะรีบหลบออกไปไม่อยากรับฟังเรื่องน่าอับอาย แต่ว่าวันนี้โลกของเธอเปลี่ยนไปแล้วโดยที่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ตัว

        หลังจากที่ต้องเสียสาวโดยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เธอก็เริ่มก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ เธอเริ่มเรียนรู้รสชาติของสิ่งที่เรียกว่าความใคร่ ถึงแม้เธอจะไม่เต็มใจมีอะไรกับพี่สิงห์ แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเธอตอบสนองลีลารักของเขาราวกับน้ำมันที่โดนเชื้อไฟ เธอในตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าการร่วมรักกันนั้นเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ถึงเพียงไหน

        เสียงครวญคราง เสียงหัวร่อต่อกระซิก เสียงกระทบกระแทกแห่งเกมกามที่แว่วดังเข้ามาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง ถึงแม้จะไม่ได้มองเหตุการณ์โดยตรง แต่ในหัวสมองของเธอก็ได้ปรากฏภาพแห่งจินตนาการวาบหวามขึ้นเป็นฉาก ๆ ดาริกาถึงกับยืนหนีบสองขาเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

        หลังจากรับฟังจนเสียงเงียบไป ดาริกาก็ลงมานั่งหอบหน้าแดงก่ำ เธอเริ่มเรียนรู้ว่าร่างกายวัยสาวสะพรั่งของเธอกำลังเกิดความต้องการ หากทว่าเธอไม่คิดจะยอมรับ ดาริกาเดินจ้ำไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาเรียกสติ เธอพยายามสลัดภาพจินตนาการวาบหวามทิ้ง แล้วเดินไปจัดกระเป๋าเพื่อเดินทางไปโรงเรียน

        "จริงซิ ลืมกินยา ... เอ๊ะ ... อันนี้แก้อักเสบ ยาคุม ยา ... แล้วอันนี้ยาอะไรทำไมไม่เขียนอะไรไว้"

        ระหว่างที่กำลังเก็บของเพื่อไปโรงเรียน ดาริกาก็สังเกตเห็นถุงยาที่พี่สิงห์ตระเตรียมเอาไว้ให้ บนซองยาจะมีรายละเอียดกำกับว่าเป็นยาอะไร ต้องรับประทานอย่างไร แต่ว่าหลอดยาใสแจ๋วขนาดเล็กจิ๋วนี้กลับไม่มีอะไรเขียนกำกับเอาไว้

        ดาริกาพลิกมองไปมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะหันมองดูโทรศัพท์มือถือ บนหน้าจอแสดงรายการสายโทรเข้าที่ไม่ได้รับอยู่หลายสาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสายของพี่สิงห์ และเบลล์ ดาริกายังไม่มีอารมณ์อยากคุยกับพี่น้องคู่นี้ เธอจึงไม่อยากโทรกลับไปถามพี่สิงห์เรื่องยาที่เขาจัดไว้ให้

    เธอเลิกคิดมาก เธอไม่คิดว่าพี่สิงห์จะใส่ยาแปลก ๆ อะไรมาให้ และเธอก็กลัวว่าหากกินยาไม่ครบแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ เธอจึงจัดการหยิบเทยาในหลอดกลืนเข้าปากไปพร้อมกับยาตัวอื่น หลังจากทานยาเรียบร้อยดาริกาก็ตระเตรียมข้าวของอีกราวสิบห้านาที แต่เมื่อเธอกดปิดไฟทำท่าจะเปิดประตูห้องนอนออกไป ร่างกายของเธอก็กลายเป็นร้อนวูบวาบแปลก ๆ จนเธอตัวสั่นสะท้านระริก

        สาวน้อยผมสั้นยืนตัวสั่นหน้าแดงก่ำอยู่ตรงประตู เธอยืนหนีบสองขาเข้าหากันพร้อมกับขยับถูไถไปมา ลมหายใจของเธอกลายเป็นร้อนผ่าวราวกับเพลิงไฟ ลำคอของเธอแห้งผาก หากทว่าตรงกลางหว่างขากลับมีความชุ่มฉ่ำเอ่อทะลักออกมา แม้แต่เต้านมก็รู้สึกได้ถึงความเต่งคัดแน่นเหมือนอยากได้รับการบีบนวด

        "อื๊ออ ... อือออ ... อืมมม ... อูยยย"

        ดาริกาส่งเสียงครางวาบหวิว เธอรู้สึกร้อนวูบใจเต้นโครมคราม ความรู้สึกแปลกประหลาดทำให้เธอก้าวถอยหลังมานอนแผ่หลาบนเตียง เธอเผลอเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นมาบีบเคล้นคลึงใส่เต้านมอวบเกินวัยแล้วสูดปากคราง ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นตะปบขยำลงไปบนกระโปรงนักเรียนตรงกลางหว่างขา

        "ซี้ดดสสสส"

        สาวน้อยสะดุ้งเฮือกสูดปากซี้ดทันทีที่สัมผัสจุดอ่อนไหว เพียงแค่สัมผัสความเสียวซ่านก็เล่นงานจนเธอสั่นสะท้านระริก ร่างบางในชุดนักเรียนดิ้นพราดไปมาบนเตียงนอน ก่อนจะพลัดตกลงไปนอนตะแคงบนพื้นตรงข้างเตียงนอนอย่างไร้เรี่ยวแรง

    แรงกระแทกจากการตกไม่ได้รุนแรงนัก เธอจึงไม่รู้สึกเจ็บ แต่ความรู้สึกพลุ่งพล่านอยู่ภายในต่างหากที่ยากจะทานทน ความรู้สึกนี้คล้ายคลึงตอนที่เธอเสียสาว หากทว่าตอนนี้รุนแรงกว่าหลายเท่า มันรุนแรงเสียจนดาริกาอดไม่ได้ต้องบีบเคล้นทรวงเต้าเพื่อระบายความอัดอั้น ในขณะที่มืออีกข้างนั้นกำลังตะปบขยี้ลงไปบนเนินสาวด้วยความเมามันในอารมณ์

        "โอย ... เสียว ... ซี้ดดสสส ... อูย ... ซี้ดดสสส"

        ใบหน้าของดาริกาแดงก่ำ เธอหอบหายใจฟืดฟาด ลิ้นสีชมพูอ่อนเลียวนไปมารอบปาก เธอกำลังนอนตะแคงช่วยตัวเองอยู่บนพื้นข้างเตียงด้วยสุดจะทานทน ทางเดียวที่จะหยุดความอัดอั้นทรมาณก็คือการบีบขยี้เนื้อตัวให้หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ร่างบางสวยจึงดิ้นพราดไปมาอยู่บนพื้นพร้อมกับส่งเสียงครวญครางอย่างมีความสุข

        ดาริกาขบเม้มริมฝีปากตัวเองขณะเร่งขยับนิ้วกระตุ้นความเสียวถี่ยิบ เธอไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตนเองสอดมือมุดกางเกงในเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอทราบแค่ว่าเวลานี้นิ้วกลางของเธอกำลังแหย่แยงวิ่งเข้าวิ่งออกร่องสาวอย่างเมามันสะใจ และเมื่อเธอขยับนิ้วบิดคว้านไปมาได้ไม่ถึงห้านาที ดาริกาก็มองเห็นสรวงสวรรค์อยู่รำไร

        เสียงหวีดร้องดังขึ้นพร้อมกับอาการกระตุกเฮือก เธอกดนิ้วสอดลึกพร้อมกับหนีบสองขาเข้าหากันสุดแรง ร่างบางที่นอนอยู่ข้างเตียงกระตุกเกร็งถี่ยิบเมื่อถึงจุดสุดยอด ในห้วงแห่งความหฤหรรษ์นั้น ดาริการู้สึกเหมือนได้พบความสุข และหลุดพ้นจากความอัดอั้นทรมาณ หากทว่าน่าเสียดายที่มันเป็นแค่ความรู้สึกเพียงวูบเดียว

        "อื๊อออ ... อืมมมม ... อือออ .... ซี้ดสสส ..."

        ความร้อนแรงนั้นจางหายไปวูบเดียวก็วกกลับมาใหม่ ดาริกาเพิ่งเสร็จสมไปหนึ่งรอบ แต่ว่าอารมณ์ของเธอกลับยังหิวกระหาย เธอนอนอยู่ในท่าเดิมและเริ่มสอดแหย่แยงปลายนิ้วในร่องสาวอีกครั้งด้วยความหื่นกระสัน พร้อมกันนั้นเธอก็ยกมืออีกข้างแหย่นิ้วเข้าปากไปดูดเลียด้วยลีลาร้อนร่าน

        ดาริกาดูดเลียนิ้วพลางปรือตาหวานเยิ้มขึ้นมา เวลานี้เธอกำลังคิดถึงพี่สิงห์ผู้ชายคนแรกของเธอ เธอแน่ใจว่าพี่สิงห์จะต้องช่วยเธอได้ และหากเธอสามารถไปหาเขาได้ เธอก็คงจะรีบไปทันที แต่น่าเสียดายที่เธอตระหนักได้ว่าเธอคงทนรอไปหาพี่สิงห์ไม่ได้ เธอต้องการใครสักคนที่สามารถช่วยเธอได้ที่นี่และตอนนี้

        สาวน้อยนอนตะแคงข้างใช้นิ้วมือช่วยตัวเองอย่างน่าเวทนาอย่างเดียวดาย เธออยู่ในท่านี้มาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง เธอถึงจุดสุดยอดไปแล้วสามครั้ง หากทว่าอารมณ์ร้อนร่านในร่างกลับไม่ลดทอนลงไปเลยแม้แต่น้อย เธอไม่ทราบว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไรในกรณีนี้ เธอได้แต่ร่ำร้องภาวนาขอใครก็ได้สักคนให้มาปลดปล่อยความอัดอั้นออกไปเสียที

        อย่างไรก็ตามระหว่างที่เธอกำลังนอนพักเหนื่อยหอบหายใจจากการถึงจุดสุดยอดครั้งที่สี่นั้น ประตูห้องนอนของดาริกาก็ถูกเปิดออก ดาริกาได้ยินเสียงคนหากทว่าไม่มีเรี่ยวแรงและไม่กล้าลุกขึ้นไปมองดู ตอนนี้เธอมองไม่เห็นอีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็มองไม่เห็นเธอเพราะเธอนอนขดตัวอยู่ข้างเตียง

        "... อืม ดาก็ไม่อยู่ น่าจะไปเรียนแล้ว พี่แก้วก็เพิ่งออกไป ... น่าจะปลอดภัยล่ะมั้ง ... ปล่อยให้พี่อาร์ตนอนพักไปก่อน ส่วนเรารีบไปส่งรายงานแล้วรีบกลับมาน่าจะไม่เกินสามชั่วโมง ... เฮ้อ เราก็ลืมไปว่าต้องส่งรายงานกลุ่มวันนี้ เกือบแย่แล้วซิ"

        เสียงบ่นพึมพำที่ดังขึ้นตรงหน้าประตูทำให้ดาริกาทราบว่าผู้มาเยือนคือกานต์พี่สาวคนรอง และดาริกายังทราบด้วยว่าพี่แก้วออกไปทำงานแล้ว ส่วนพี่กานต์นั้นกำลังจะเดินทางไปมหาวิทยาลัยเพื่อส่งรายงานโดยไม่รู้ว่าน้องสาวคนเล็กยังอยู่ในห้อง ซึ่งนั่นหมายความว่า

        อารมณ์เร่าร้อนทำให้ดาริกาเกิดความคิดอุตริขึ้นมาวูบหนึ่ง เธอไม่ทราบว่าทำไมเธอถึงเกิดอาการแบบนี้ แต่เธอทราบว่าร่างกายของเธอต้องการการร่วมรักอย่างรุนแรง เธอต้องการผู้ชายสักคนที่สามารถช่วยเธอได้ และตอนนี้ก็มีผู้ชายวัยแข็งแรงหนึ่งคนนอนอยู่ในห้องพี่กานต์

   
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

zannaty

กำลังลุ้นเลย จบซะแล้ว สนุกน่าติดตามครับ

biggiggog

ไหนบอกว่าพระเอกเป็นยามไง
ทำไมกลายเป็นผู้รับเหมาซะงั้น
( อิจฉาจังโว๊ย ) ::Snap::
ขอบคุณมากๆครับ

5969sp

 ::Snap::ขอบคุณครับท่านassasin008 นิยายออกมากี่เรื่องก็สนุกทุกเรื่องตอนนี้เอาเรื่องในลงก็ได้ครับไม่เกี่ยงเลยกำลังลุ้นทุกเรื่อง.ยังไงก็ขอบคุณมากมากครับที่สร้างผลงานเเล้วนำมาเเบ่งปันครับ

br007

ขอบคุณครับ

สงสัยจะไม่รอดมือพี่อาร์ทอีกคนและ

crazylex

ท่าทางยามอาร์ตจะได้ทั้งสามคนพี้น้อง แบบนี้สบายเลย สาวสวยสามวัย

songsak

ขอบคุณครับ งานนี้มีฟ้าเหลืองแน่ๆพระเอกเรา

DrJackklen

นี่มันกะเอาได้3เลยนี่หว่า
จัดสวิงกิงเลยครับบบบ   ::WooWoo:: ::WooWoo:: ::WooWoo::

diaby

ขอบคุณมากครับ เนื้อเรื่องสนุกมาก อ่านแล้วได้อารมณ์มากครับ ขอติดตามไปตลอดนะครับ

กำพล

อย่างนี้ยามจัดหนักแน่เล่นยาเข้าไปด้วยแต่เสียดายไม่ได้เปิดน้องดาเป็นคนแรก

olemantu

ดุว่าเรื่องน่าเดินไปทาง เทาหม่น ๆแน่..เปิดตัวทั้งเสือร้ายและนางงอิจฉาออกมาซะอย่างนี้ 
ถ้าสามพี่น้องรับมือไม่ไหว..ก็รับกันเละ...ละ.. เอาดราม่าได้..แต่ต้องมัน ๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่ายเหมือนที่น้องดาได้มา..

harzard


koper2sunfad

เริ่มงงละ พระเอกคือคนไหนกันแน่นิ นึกว่ายามคือพระเอกซะอีก  ::Angry::

dragongus

ยังไงก้ไม่รอดแน่ๆ เก็บหมด สามพี่น้อง เลยทีเดียว สนุกมากครับ