ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แก้วกานดา ตอนที่ 13 – รู้หน้าไม่รู้ใจ

เริ่มโดย assasin008, พฤศจิกายน 30, 2016, 07:11:51 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

คุยเรื่อยเปื่อย

แจ้งเพื่อทราบรอบที่สิบ นิยายเรื่องนี้จะออกแนวดาร์ค หมองหม่น สักหน่อย
ท่านใดไม่นิยมแนวนี้กรุณาข้าม และงดดราม่าทุกประเภทนะครับ  ;D ;D

แก้วกานดา ตอนที่ 13 – รู้หน้าไม่รู้ใจ
.....................................
Assasin008 2016-11-30

        ดาริกา ไม่อาจทานทนไหวอีกต่อไป เธอกำลังต้องการใครสักคนที่สามารถช่วยระบายความอัดอั้นในร่างออกไปได้ และใครบางคนที่ว่านั้นก็อยู่ห่างออกไปแค่ผนังห้องกั้นกลางเอาไว้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้จักเขาเลยสักนิด และเขายังเป็นแฟนของพี่สาว แต่ในห้วงอารมณ์เช่นนี้ ดาริกาย่อมไม่มีความคิดอื่นใดทั้งสิ้น นอกจากการระบายความอัดอั้นในร่างให้หายไป



        เมื่อความคิดนี้บังเกิด ร่างกายของเธอก็กระตุกสะท้านเหมือนจะเห็นพ้องด้วย ดาริกาพยายามสะบัดศีรษะสลัดความคิดนี้ทิ้ง หากทว่าความต้องการสีดำมืดนั้นรุนแรงเกินไป ยิ่งเธอพยายามปฏิเสธ ร่างกายก็ยิ่งส่งเสียงประท้วงจนเธอสุดจะทานทนไหว

        ดาริกาไม่อาจทัดทานได้อีก เธอค่อย ๆ พยายามขยับร่างกายให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะพยายามเดินโซเซนำพาร่างกายที่อยู่ในสภาพสวมใส่ชุดนักเรียนไม่เรียบร้อยตรงไปทางประตูห้อง เธอทราบว่าเธอกำลังจะกระทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรด้วยประการทั้งปวง หากทว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธความต้องการที่ลุกโชนได้

        ด้านนอกห้องนอนตรงห้องรับแขกนั้นปิดไฟมืดเงียบกริบไม่มีใคร ดาริกาค่อย ๆ เดินเกาะผนังห้องตรงไปทางห้องของกานต์ เธอยืนลังเลแค่วูบเดียวก่อนจะจับลูกบิดแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง ดาริการีบปิดประตูห้องและยืนหอบกระเส่า เธอไม่ได้รู้สึกเหนื่อย หากทว่าร่างกายของเธอกำลังคลุ้มคลั่ง อารมณ์ของเธอเองก็กำลังปั่นป่วน

        ในห้องนอนของกานต์นั้นไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ ภายในห้องจึงค่อนข้างมืด ถึงแม้จะมีแสงจากขอบหน้าต่างลอดเข้ามาบ้าง แต่ก็ถือว่าน้อยนิดไม่สว่างมากนัก สภาพในห้องจึงเห็นเป็นแค่เงามืดไม่เห็นรายละเอียด และดาริกากำลังยืนมองเงาร่างของใครบางคนที่นอนแผ่หราส่งเสียงกรนแผ่วเบาอยู่บนเตียง

        แสงไม่ได้สว่างพอให้เห็นรายละเอียด เธอจึงไม่เห็นใบหน้าหรือรูปร่างของชายหนุ่ม เธอไม่ทราบว่าเขามีหน้าตาผิวพรรณอย่างไร สิ่งที่เธอเห็นนั้นมีเพียงเงาร่างของผู้ชายบนเตียง และเงาของแท่งเนื้อยาวใหญ่ซึ่งตั้งตรงขนานกับลำตัวของเขา มองไปแล้วคล้ายกับมีท่อนไม้วางปักไว้ แต่ดาริกาทราบดีว่านั่นย่อมไม่ใช่ท่อนไม้ หากแต่เป็นอาวุธของบุรุษ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในเวลานี้

        ดาริกายืนหอบหายใจเบียดสองขาเข้าหากัน ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความต้องการสีดำมืด แต่เธอยังพอมีสติที่พยายามเหนี้ยวรั้งยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง กระนั้นกระแสความร้อนแรงที่แล่นพล่านอยู่ในกระแสเลือดนั้นรุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว ดาริกาจึงเริ่มขยับเท้าก้าวเดินเข้าไปหาชายหนุ่มบนเตียงนอนราวกับโดนมนตร์สะกด

        สาวน้อยกลืนน้ำลายดังอึก ก่อนจะเริ่มปลดกระโปรงจนร่วงหล่นลงไปบนพื้น เธอจัดการถอดเสื้อ ตามด้วยยกทรงและกางเกงในจนเปลือยเปล่าล่อนจ้อน แล้วค่อยขยับขึ้นไปบนเตียงนอนทางด้านปลายเท้าของชายหนุ่ม ลมหายใจของเธอร้อนผ่าวขณะที่สายตาจับจ้องมองตรงไปที่ความเป็นชายของเขา

        หากเป็นดาริกาก่อนหน้าที่จะเสียสาว เธอคงไม่ทราบว่าตนเองต้องการอะไร หรือต่อให้ทราบว่าตนเองต้องการอะไร เธอก็คงไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรเพื่อระบายออก แต่ดาริกาในวันนี้ได้ผ่านเกมกามกับนายสิงห์มาแล้ว เธอจึงทราบว่าหากต้องการระบายความใคร่จะต้องทำอย่างไร

        สาวน้อยกลืนน้ำลายลงคอดังอึกอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ก้มหน้าลงไปหาความยาวใหญ่ของชายหนุ่ม สองมือนุ่มนิ่มเอื้อมไปสัมผัสแผ่วเบาก่อนจะเริ่มบีบนวดรับกระแสความวาบหวิวบนฝ่ามือ เธอบีบคลำความแข็งกระด้างขรุขระของเขาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงนอนกรนส่งเสียงแผ่วเบาออกมาเหมือนยังไม่รู้ตัว

        ดาริกาค่อย ๆ ก้มหน้าลงไป เธออ้าปากแลบลิ้นเลียตรงส่วนปลายของเขา เธอพบว่ากลิ่นและรสชาตินั้นช่างเร้าอารมณ์จนเธอเผลออ้าปากอมของเขาเข้าไปดูดเลียด้วยความกระหาย เธอผงกหัวดูดเลียเร็วขึ้นราวกับหิวโหยอดอยากอาหารรสเลิศมาเนิ่นนาน 

        สาวน้อยดูดเลียได้ครู่เดียวจนของเขาเปียกชุ่ม ชายหนุ่มเริ่มส่งเสียงครางออกมาแผ่วเบา หากทว่าเขายังคงนอนต่อไปเช่นเดิมไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด ดาริกาเงยหน้าด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะตัดสินใจกระทำในสิ่งที่เธออยากทำที่สุดในตอนนี้

        ดาริกาขยับตัววูบเดียวก็ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนร่างแกร่งกำยำ เธอนั่งส่งเสียงหอบหายใจกระเส่าขณะใช้มือจับแก่นกายมาจรดจ่อที่ปากร่องสาว ความอยากกระสันทำให้เธอค่อย ๆ ขย่มสะโพกลงไปทันทีโดยไร้ซึ่งความลังเลอันใดอีก

        "อูยยยสสสส ... ซี้ดดสสส"

        สาวน้อยกัดเม้มปากครางกระเส่า ขนาดของชายหนุ่มนั้นเทียบเท่าได้กับของพี่สิงห์ มันทั้งยาวทั้งใหญ่และแข็งแรงเหมือนท่อนไม้ ดาริกาจึงสูดปากด้วยความจุกและเสียวไปพร้อมกัน

        ความยาวใหญ่ของเขา และความฟิตแน่นของร่องสาว ทำให้ดาริกาต้องขยับตัวโยกอยู่หลายรอบกว่าจะเข้าที่เข้าทาง และเมื่อเข้าไปได้เพียงแค่ครึ่งลำ เธอก็เริ่มรู้สึกสัมผัสได้ถึงอารมณ์สาสมใจกว่าการใช้นิ้วมือช่วยตัวเองแบบเทียบกันไม่ติด

        "ฮื่อออ ... ซี้ดดสสส ... อูยยสสสส"

        ดาริกาส่งเสียงแว่วหวานขณะหยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราว เธอวางมือลงบนแผงอกกำยำของเขาเพื่อช่วยรับน้ำหนัก ก่อนจะค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักตัวใช้ร่องสาวขย่มกลืนกินของเขาเข้าไปได้จนสุดลำ สัมผัสหยาบกร้านขรุขระที่รูดไปตามผนังร่องสาวทำให้ดาริกาขนลุกวูบ เธอหลับตาปี๋ขบเม้มริมฝีปากรับกระแสความเสียวซ่านร้อนแรง

        สะโพกผายขยับเบียดส่ายวนไปมาแค่ครู่เดียว อารมณ์เสียวก็พุ่งทะยานจนดาริกาทานทนไม่ไหว ร่างของเธอกระตุกเร่า ๆ ด้วยความหฤหรรษ์ ก่อนจะเด้งสะท้านเฮือกบิดเกร็งถึงจุดสุดยอดคาแก่นกายของชายหนุ่มคนที่สองในชีวิต

        ร่างงามสั่นสะท้านหอบกระเส่าอยู่ในความมืดสลัว เธอเพิ่งเสร็จสมไปอีกรอบ หากทว่ากระแสความร้อนแรงในร่างยังคงพลุ่งพล่านปั่นป่วนเช่นเคย ดาริกาทราบดีว่าเธอยังต้องการเขาอีก

        สาวน้อยค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้นไปเล็กน้อย แล้วทิ้งตัวขย่มพรวดลงมา ก่อนจะยกสะโพกกลับขึ้นไปแล้วขย่มลงมาใหม่ ช่วงแรกนั้นเธอยังเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเงอะงะ หากทว่าเมื่อได้ลงมือทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ สะโพกของเธอก็เริ่มเด้งขย่มได้อย่างมีจังหวะจะโคนจนเตียงนอนเด้งยวบยาบ

        "ซี้ดดสสส ... อือออ ... อูยยย ... ซี้ดดดสสส"

        เสียงครางแว่วหวานดังก้องกังวานไปทั่วห้อง สาวน้อยแปลงร่างกลายเป็นสาวร่านทั้งเด้งทั้งขย่มด้วยความเมามันสะใจในอารมณ์ แต่ไม่นานนักเธอก็สะดุ้งโหยงเล็กน้อย เมื่อชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาขยำเคล้นทรวงเต้าคู่สวยจนเธอเสียวแปลบปลาบ

        ดาริการู้สึกตื่นตกใจ หากทว่าอารมณ์ร้อนร่านทำให้สะโพกของเธอไม่หยุดชะงักลงแม้สักเสี้ยววินาที เธอยังคงเด้งขย่มเสพสัมผัสความเสียวสยิวต่อไป พร้อมกับก้มหน้าลงมองดูเงาร่างของชายหนุ่ม

        "อูย ... กานต์หื่นจังนะ ขึ้นขย่มลักหลับกันเลยเหรอ"

        ชายหนุ่มในเงามืดส่งเสียงพร้อมกับบีบมือขยำเคล้นทรวงเต้าอวบเต่ง เขาบีบขยี้เนื้อแน่นเต่งตึงไปพร้อมกันทั้งซ้ายและขวา ความเสียวแปลบจากการกระทำนั้นทำให้ดาริกายิ่งเสียวแปลบปั่นป่วนกว่าเดิม เสียงครางจึงหลุดออกมาดังขึ้น และสะโพกของเธอก็ยิ่งเด้งร่อนกระแทกขย่มหนักหน่วงมากขึ้น

        คำพูดของเขาสื่อออกมาว่าเขายังไม่ทราบเรื่องของดาริกา เขายังคงคิดว่าคนที่ขย่มอยู่บนร่างกายของเขานั้นคือกานต์ ซึ่งนั่นนับว่าสมเหตุสมผล เวลานี้ดาริกาจึงรู้สึกโล่งใจไปส่วนหนึ่ง กระนั้นต่อให้เขารู้ว่าไม่ใช่กานต์ ดาริกาก็คงไม่สามารถบังคับให้สะโพกของตนเองหยุดลงได้อยู่ดี เพราะความหฤหรรษ์กำลังครอบงำเธออยู่

        "ซี้ดดสสส ... อือออ ... อูยยยยย ..."

        ดาริกาขบเม้มริมฝีปากขณะหย่อนสะโพกขย่มลงไป แก่นกายของชายหนุ่มนั้นทั้งยาวทั้งใหญ่อีกทั้งยังแข็งเป็นลำจนเธอจุกไปทั่วทั้งท้องน้อย เต้านมคู่สวยก็โดนเขาบีบขยี้อย่างเมามันสะใจในอารมณ์ ความสุขหฤหรรษ์กระสันซ่านที่ได้รับจากเขาช่างมากมายเหลือเกิน

        สาวน้อยเด้งสะโพกขย่มใส่แบบไม่ยั้ง พอเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างก็ขยับตัวลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่งและสวมกอดเธอเอาไว้ ดาริกาชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาขยับใบหน้าเข้าประกบปากจูบ หากทว่าในท่วงท่าและอารมณ์เช่นนี้เธอย่อมไม่สามารถหลบหลีกได้ สุดท้ายเธอจึงได้แต่ปล่อยให้เขาโอบกอด และจูบปากสอดลิ้นเข้ามาตวัดพัวพันในโพรงปากนุ่มชื้น

        ดาริกาพบว่าเธอชื่นชอบรสจูบของเขา เธอชอบกลิ่นกายของเขา เธอชอบรสชาติที่เขาส่งผ่านมาทางปากและลิ้น จูบของเขาร้อนแรงแต่ไม่ดุดันดิบเถื่อน จูบของพี่สิงห์นั้นดุดันดิบเถื่อนเกินไป หากเทียบกันแล้วจูบของแฟนพี่กานต์คนนี้ช่างหวานฉ่ำน่าหลงใหล สองแขนของเธอจึงขยับตวัดรอบศีรษะของเขาเอาไว้อย่างแนบแน่น ในขณะที่สะโพกของเธอนั้นยังคงเด้งร่อนขย่มขึ้นลงต่อไปไม่หยุด

        สาวน้อยกอดจูบลิ้มรสวาบหวามอยู่ได้โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ส่วนใหญ่แล้วเธอจะปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้ามา แต่มีบ้างที่เธอแหย่เขากลับด้วยการเป็นฝ่ายรุก เธอจูบเขา เขาจูบเธอ เธอขย่มใส่เขา เขาเด้งกระแทกรับ เขาขยำขยี้ทรวงอกอวบ เธอลูบไล้ฝ่ามือไปทั่วแผ่นหลังแกร่งกำยำ ดาริการู้สึกราวกับว่าอยากหยุดเวลาแห่งความสุขเอาไว้เช่นนี้ เธอรู้สึกอยากจะกอดเกี่ยวร่วมรักกับเขาไปเช่นนี้ตลอดกาล

        น่าเสียดายที่ความเสียวซ่านไม่เคยปราณีใคร ดาริกาเด้งขย่มใส่ชายหนุ่มได้เพียงไม่นาน กระแสแห่งความหฤหรรษ์ก็แผ่ฟุ้งไปทั่วร่าง เธอกระตุกเฮือก สองมือจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังแกร่ง ริมฝีปากทั้งคู่ยังคงประกบแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน สะโพกของเธอหยุดเด้งขย่มเปลี่ยนเป็นกระตุกเกร็งสะท้าน เธอถึงจุดสุดยอดไปแล้วอีกหนึ่งรอบ

        สองหนุ่มสาวที่ไม่เคยเห็นใบหน้าของกันและกันกอดจูบอยู่ในท่านั่งเช่นนั้นเนิ่นนาน ถึงแม้อาการบิดเกร็งแห่งความสุขจะหายไปแล้ว แต่ว่าทั้งคู่ยังคงประกบปากจูบเสพความหอมหวานกันและกันเอาไว้เช่นนั้นอีกเกือบสิบนาทีจึงค่อยยอมแยกจากกัน

        ดาริกาเหม่อมองดูเงาร่างของชายหนุ่มในความมืดด้วยความรู้สึกสับสน เวลานี้กระแสความร้อนแรงในร่างกายได้คลายลงไปแล้ว อีกทั้งเธอยังได้ระบายความใคร่ออกไปแล้วหลายรอบ อำนาจของเพลิงราคะจึงอ่อนโทรมลง หากทว่าความรู้สึกอบอุ่นวาบหวามแปลก ๆ ที่กำลังเอ่อล้นอยู่ในหัวใจดวงน้อยกลับกำลังเพิ่มพูนทบเท่าทวี เธอไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

        "... เอาล่ะ ... อยากสารภาพหรือเปล่า ว่าเธอเป็นพี่สาวหรือน้องสาวของกานต์ หรือว่าเป็นใครกันแน่ ถึงได้แกล้งทำเป็นกานต์แบบนี้"

        ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วพูดโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ดาริกาถึงกับสะดุ้งโหยงตื่นตกใจ ก่อนนี้เธอยังรู้สึกโล่งใจที่เขาคิดว่าเธอคือกานต์ หากทว่าดูเหมือนเธอจะคิดผิด แฟนหนุ่มของพี่กานต์รับรู้แล้วว่าเธอไม่ใช่กานต์

        "... ขอโทษค่ะ ... หนูไม่ได้ตั้งใจ คือ ..."

        ดาริการู้สึกอับอายจนหน้าร้อนผ่าว เธอกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นปั่นป่วน เธอไม่ทราบว่าจะอธิบายเรื่องราวอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงก็คือ เธอเป็นฝ่ายแอบเข้ามาลักหลับเขาถึงในห้อง ซึ่งการกระทำแบบนี้คงไม่มีผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนเขาทำกัน ถึงแม้ต้นเหตุที่เธอทำนั้นเป็นเพราะอาการเร่าร้อนแปลก ๆ ไม่ทราบที่มาก็ตามที

        "ไม่ได้ตั้งใจยังไงล่ะ ขย่มแรงซะขนาดนั้น"

        ชายหนุ่มหยอกกลับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะก้มหน้าลงไปประกบจูบปากเธออีกครั้ง ดูเหมือนเขาเจตนาจะให้ดาริกาหายตื่นกลัว และนั่นก็ได้ผลไม่น้อย เพราะว่าดาริกากำลังหลับตาพริ้มดื่มด่ำรสจูบที่เธอชื่นชอบ ความแตกตื่นหวาดกลัวเลือนหายไปในพริบตา หลังจากนั้นเขาจึงค่อยเอ่ยปากถามอีกครั้ง

        "... ตกลงว่าเธอคือใคร"

        "หนู ... หนูเป็นน้องสาวของพี่กานต์ ... หนูชื่อดาริกา เรียกหนูว่าดาก็ได้ค่ะ"

        "ดาริกา ... อย่าบอกว่าเธอเป็นคนแอบดูบนฝ้าเพดานน่ะ"

        "เปล่า ... เปล่าค่ะ ... คือ หนูไม่ได้แอบดู หนูแค่แอบฟัง"

        "แอบฟัง แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาลักหลับผมล่ะ ... อย่าบอกนะว่าแอบฟังจนเกิดอารมณ์ ก็เลยแอบบุกเข้ามาหาผู้ชายถึงในห้อง"

        ชายหนุ่มพูดสิ่งที่เขาคาดเดาออกมา ความจริงแล้วเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาจะเดาถูกต้อง แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันชวนให้คิดเช่นนี้ และหากนึกเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของกานต์แล้ว การกระทำของดาริกาก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ หากกานต์ยอมขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไม่รู้จักเพียงเพราะความต้องการทางเพศ ดาริกาซึ่งเป็นน้องสาวก็อาจจะเป็นสาวไฟแรงสูงความต้องการรุนแรงแบบเดียวกัน

        "... คือ ... ไม่รู้ค่ะ ... ดารู้สึกทนไม่ไหว ร้อนไปหมด ... ดาควบคุมตัวเองไม่อยู่ ... ขอโทษค่ะ ดาขอโทษจริง ๆ"

        ดาริกาพยายามอธิบายเรื่องราว เธอไม่กล้าปฏิเสธสิ่งที่ชายหนุ่มคาดเดา ความจริงเธอก็แอบคิดเช่นนั้นเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเธอก็นึกหาเหตุผลไม่ออกว่าทำไมเธอจึงได้มีอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงขึ้นมาอย่างกะทันหันเช่นนี้

        "ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ไม่ว่าอะไร อ้อ ลืมบอกไปผมชื่ออาร์ต"

        ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะร่วน เขาไม่รู้สึกว่าดาริกาทำผิด แต่กลับรู้สึกยินดีด้วยซ้ำที่เขาถูกหวยได้รับโชคสองชั้น หลังจากอกหักจากแก้ว เขากลับมีโอกาสได้มีอะไรกับกานต์ แถมยังได้ของแถมอย่างดาริกาน้องสาวของกานต์บุกมาหาถึงบนเตียงอีกหนึ่งคน

        ความมืดทำให้อาร์ตมองไม่เห็นใบหน้าของดาริกา และเธอก็มอไม่เห็นเขาเช่นกัน แต่เขาเชื่อว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยมากไม่แพ้พี่สาว อย่างน้อยในแง่รูปร่างผิวพรรณนั้นดาริกาก็ไม่ได้ห่างชั้นจากกานต์ สองเต้าของเธออวบใหญ่เนื้อแน่นน่าฟัดไม่แพ้กัน ส่วนร่องสาวนั้นก็ฟิตแน่นตอดรัดได้สุดยอดแบบเท่าเทียม ผิวพรรณก็เรียบลื่นละมุนน่าสัมผัส และเท่าที่เขาลองใช้มือลูบคลำสัมผัสใบหน้า เขาพบว่าดาริกาเป็นหญิงสาวผมสั้นที่สวยมากคนหนึ่ง

        "พี่อาร์ต ..."

        ดาริกาส่งเสียงเรียกชื่อของเขาแว่วหวาน อารมณ์ร้อนร่านที่เธอคิดว่าน่าจะสงบลงแล้วเริ่มหวนกลับคืนมาอีกครั้ง เธอเริ่มหอบกระเส่า ร่องสาวของเธอจึงตอดขมิบใส่แก่นกายที่อัดแน่นอยู่ภายในอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม

        "อยากอีกแล้วเหรอน้องดา ... จุดติดง่ายไฟแรงไม่แพ้กานต์เลยนะ"

        อาร์ตย่อมรับรู้ได้ว่าเธอต้องการอะไร เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าน้องสาวของกานต์จะมีอารมณ์ทางเพศร้อนแรงมากถึงเพียงนี้ ขนาดเพิ่งถึงจุดสุดยอดไปหนึ่งรอบ เธอก็เริ่มแสดงอาการอยากทำใหม่อีกครั้งแล้ว

        "เปล่า เปล่านะคะ คือ ... คือ ... อืม ..."

        ดาริกาหน้าแดงก่ำถึงใบหู เธอส่งเสียงปฏิเสธก็จริง หากทว่าร่างกายของเธอกลับกระทำอีกอย่าง สะโพกที่หยุดนิ่งลงแล้วเริ่มขยับส่ายบดและเด้งขย่มอีกครั้งโดยที่เธอควบคุมไม่อยู่ เธอรู้สึกไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะมีอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ เธอไม่ได้นึกสงสัยเลยสักนิดว่าอาการแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นมาจากฤทธิ์ยาปลุกสวาทที่เธอเผลอดื่มเข้าไปจนหมดหลอด

        "ไม่เป็นอะไร ทำไปเถอะ ... ว่าแต่แฟนของดาไม่ว่าเอาเหรอ"

        อาร์ตโอบกอดสาวน้อยร้อนรักด้วยความรู้สึกขบขัน ที่เขารู้สึกขบขันก็เพราะเขาได้มีสัมพันธ์สวาทกับกานต์ก็เนื่องจากกานต์เป็นฝ่ายบุกเข้าไปหาเขาถึงบนเตียง ตอนนั้นกานต์คิดว่าเขาคือไอ้บอลผู้ชายคนแรกของกานต์ พอมาวันนี้เขาก็ได้มีอะไรกับดาริกา และดาริกาก็เป็นฝ่ายบุกเข้ามาหาเขาถึงบนเตียงเช่นกัน เพียงแต่ดาริกานั้นร้อนแรงกว่าเพราะถึงขั้นเป็นฝ่ายขึ้นขย่มด้วยตนเอง

    ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือมองเธอไม่ดี เขาย่อมไม่ขัดความต้องการของสาวน้อยน่าฟัดคนนี้ แต่ก็อดสงสัยเรื่องราวไม่ได้ ถึงแม้ดาริกาจะแสดงท่าทีร้อนร่านเหมือนผ่านเรื่องนี้มาเยอะ แต่ว่าสภาพร่างกายของดาริกาทำให้รู้สึกว่าเธอยังใหม่สดซิงไม่ได้ผ่านการใช้งานมาก่อนเสียด้วยซ้ำ เขาจึงสับสนไม่เข้าใจ

    "ดาไม่มีแฟนค่ะ ... อืม ... อืออ ... เสียว ... ซี้ด"

    ดาริกาส่งเสียงตอบกระเส่าด้วยความเสียว สะโพกของเธอกำลังเด้งร่อนอย่างเมามันในอารมณ์

        "... ยังไม่มีแฟน? อย่าบอกนะว่าครั้งแรก แต่ว่าทำไมลีลาดีแบบนี้"

        "อือ ... ดา ... อูย ... ดาเพิ่งเคยทำกับผู้ชายครั้งแรก ... ซี้ดสส"

        ดาริกาหลับตาพริ้มโยกขย่มสะโพกยิก ก่อนจะตัดสินใจพูดโกหกออกไปครึ่งหนึ่ง เธอไม่อยากให้ใครทราบเรื่องพี่สิงห์ เธอจึงไม่กล้าเสี่ยงบอกชายหนุ่มว่าเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายแล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเบลล์นั้น พี่สาวของเธอพอจะรับรู้อยู่บ้างแล้ว หากเธอจะเผยออกไปก็คงไม่มีอะไรเสียหายมากนัก

        "ไม่เคยทำกับผู้ชาย ... หรือว่าเคยทำกับผู้หญิงด้วยกัน?"

        "อือออ ... ค่ะ ... เสียว ... อูยยสส"

        อาร์ตถามด้วยน้ำเสียงงุนงง และเมื่อดาริกาตอบยืนยัน ชายหนุ่มจึงพยายามคิดทำความเข้าใจ เขาย่อมไม่ทราบว่าดาริกาโกหก และเข้าใจว่าดาริกาเป็นแนวเลสเบี้ยนที่มีอะไรกับผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้สอดคล้องกับความจริงที่ว่าลีลาของดาริกาไม่ใช่มือใหม่ไร้ประสบการณ์ แต่สภาพร่องสาวของเธอนั้นยังใหม่สดซิงเหมือนไม่เคยโดนใช้งาน

        "อ๋อ เข้าใจแล้ว ถ้างั้นพี่จะทำให้ดาเปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายล่ะกัน"

        ชายหนุ่มส่งเสียงแสดงอารมณ์ตื่นเต้นยินดี หากดาริกาเป็นสาวร่านสวาทมั่วไม่เลือก เขาอาจจะมองเธออีกแบบหนึ่ง แต่หากเธอแค่มีสัมพันธ์สวาทแนวเลสเบี้ยนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เวลานี้อาร์ตกำลังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนเปิดโลกสอนหญิงสาวให้ติดใจในเกมกามกับเพศตรงข้าม ดีไม่ดีหากเขาสามารถทำให้ดาริกาและกานต์สองพี่น้องร่วมเตียงเดียวกันได้ก็คงจะมีความสุขไม่น้อย

        "อือ พี่อาร์ตทำอะไร ... อูย เสียว อูย อูย ซี้ดดสส"

        เมื่อตัดสินใจได้แล้ว อาร์ตก็พลิกตัวเปลี่ยนให้ดาริกาลงไปอยู่ในท่านอนหงาย เขาจับเอาหมอนมารองสะโพกของเธอ ก่อนจะจัดการโหมเร่งเครื่องตะบี้ตะบันขย่มซอยยิกแบบหูดับตับไหม้ สะโพกหยาบหนาของเขาแอ่นกระแทกแบบเข้าสุดออกสุด อีกทั้งยังมีสลับแทงซ้ายทะลวงขวาเสียบล่างเสยบนเพื่อเปลี่ยนจุดสัมผัส ส่วนสองมือก็ไม่อยู่ว่างขยับไปขยี้เคล้นคลึงสองเต้าอวบด้วยความเมามัน

        ดาริกาเจอท่านี้ของชายหนุ่มเข้าไปก็หลับตาปี๋ ใบหน้าเหยเก เธออ้าปากเหวอส่งเสียงสูดปากครางออกมาด้วยความร้อนร่านสุดชีวิต ศีรษะของเธอสะบัดดิ้นพราดไปมาปริ่มว่าจะขาดใจตาย เสียงครางกับเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังระงมพร้อมกันในห้องมืดสลัว

        "อะ อะ อะ ... อูยยสสส ... ซี้ดดสสส ... ซี้ดดสสสส"

        ยิ่งได้ยินเสียงครางของดาริกา ชายหนุ่มก็ยิ่งโหมกระหน่ำด้วยความสะใจ เมื่อคืนเขาเพิ่งได้ปลดปล่อยใส่ผกายแก้วสาวสวยวัยทำงาน เช้านี้เขาร่วมเตียงกับกานต์สาวสวยวัยมหาวิทยาลัย และเวลานี้เขากำลังร่วมรักกับสาวน้อยวัยมัธยม ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่เขาก็ยังคงรีดเร้นพลังงานกระเด้าซอยไม่ยั้ง ด้วยมีเจตนาที่จะทำให้ดาริกาติดใจลีลารักของเขาให้จงได้

        ดาริกาสะบัดหน้าดิ้นพราดร่ำร้อง ครั้งนี้เธอเสียวจนแทบขาดใจตาย หากเทียบกับพี่สิงห์แล้วเธอรู้สึกชื่นชอบความรู้สึกตอนนี้มากกว่า พี่สิงห์นั้นดุดันดิบเถื่อนกระทั้นกระแทกรุนแรง บางครั้งเธอจึงรู้สึกเจ็บ หากทว่าอาร์ตนั้นถึงจะดูหื่นกระหายไม่แพ้กัน แต่ว่าเขารู้จักยับยั้งพลังไม่ให้เธอรู้สึกเจ็บ และเมื่อไม่มีความเจ็บมาขวางกั้น ความสุขหฤหรรษ์จึงยิ่งบังเกิดขึ้นมาได้ง่ายกว่าเดิม

    "ของดาตอดดีจัง เอามันมากเลย เสียวสุดยอด นมก็แน่นน่าบีบ"

    ชายหนุ่มสูดปากครางหอบหายใจฟืดฟาดและกล่าวชมเชย จะอย่างไรดาริกาก็เป็นผู้หญิง และผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่ชื่นชอบคำชม โดยเฉพาะคำชมที่ออกมาจากปากคนพิเศษ ดาริกาที่ได้รับคำชมจึงแอบรู้สึกยินดีลึก ๆ อยู่ในใจ ถึงแม้คำชมนี้จะดูลามกอยู่บ้างก็ตามที

    "พี่อาร์ต ... อืออออ ... เสียว ... อูยยยสสส พี่อาร์ต เร็วอีกหน่อยค่ะ อีกนิด อูยสสสส"

        ดาริการ้องครางระงม เธอแลบลิ้นเลียรอบปากและเร่งเร้าขอความเสียวซ่านราวกับผู้หญิงร่านสวาท วินาทีนี้เธอลืมไปสิ้นว่าเธอเกลียดผู้ชาย เธอถึงกับลืมเลือนไปด้วยซ้ำว่าเธอรอคอยใครบางคน วินาทีนี้เพลิงไฟราคะสีดำมืดกำลังแผดเผาจนความคิดของเธอเริ่มแปรเปลี่ยนไป

        ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งเร่งเครื่องกระแทกถี่ยิบ แก่นกายยาวใหญ่วิ่งเข้าวิ่งออกจนดาริกาตัวเกร็ง เพียงครู่เดียวร่างบางก็กระตุกเฮือกอย่างรุนแรงในความมืด เธอแอ่นสะบัดร่างดิ้นพราด ๆ แล้วส่งเสียงหวีดร้องออกมาด้วยความกระสันสุดชีวิต เธอถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง หากทว่าครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งใดที่เธอเคยรู้สึก เธอสุขเสียวเสียจนสติแทบหลุดลอยออกไปจากร่าง

        อาการตอดรัดในร่องสาวทำให้ชายหนุ่มสุดจะทานทนไหวเช่นกัน เขาออกแรงกระแทกสุดแรงทิ้งท้ายอีกสี่ห้าครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามร้อนผ่าวให้ไหลทะลักเข้าไปในร่องสาวของดาริกา

        ดาริกานอนกอดรัดร่างของชายหนุ่มด้วยเรี่ยวแรงเท่าที่มี เธอสัมผัสได้ถึงน้ำเชื้อร้อนวาบที่หลั่งทะลักเข้าไปในท้องน้อย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับน้ำเชื้อของผู้ชาย หากทว่าที่น่าแปลกก็คือ ตอนมีอะไรกับพี่สิงห์นั้น ถึงแม้เธอจะมีอารมณ์ร่วมด้วยฤทธิ์ยา แต่ทุกครั้งที่เขาปล่อยน้ำเข้ามาในร่างกาย ดาริกาจะรู้สึกขยะแขยงไม่อยากรับไว้เพียงแต่ไม่สามารถออกปากปฎิเสธได้

        สำหรับอาร์ตนั้นกลับแตกต่างออกไป เธอไม่ทราบว่าเหตุใดเธอจึงไม่รู้สึกรังเกียจ อีกทั้งเธอยังรู้สึกมีความสุขและเปิดใจยอมรับน้ำเชื้อของเขาโดยไม่รู้สึกต่อต้าน ในความรู้สึกวูบหนึ่งนั้น เธอรู้สึกเหมือนกับว่าหากเธอต้องมีลูกกับผู้ชายคนนี้เธอก็ยินดีที่จะรับไว้

        หลังจากเสร็จสมกันทั้งสองฝ่าย ชายหนุ่มก็ฟุบร่างลงไปนอนทับดาริกา เธอนอนหลับตาพริ้มโอบกอดร่างกำยำอย่างมีความสุข เธอรู้สึกอยากอยู่เช่นนี้ให้นานที่สุด เธออยากให้เขาปลดปล่อยความใคร่เข้ามาในร่างกายให้มากกว่านี้

        "ดีหรือเปล่าน้องดา ดีกว่ามีอะไรกับผู้หญิงด้วยกันหรือเปล่า"

        อาร์ตกระซิบถามทั้งที่ยังคงแช่แก่นกายเพื่อซึมซาบความสุขอยู่ในร่องสาว ดาริกากอดเขาแน่นก่อนจะส่งเสียงอืมตอบ

        "อืม ... ดีกว่า ... ดีกว่ามากเลย ... แต่ว่า ... พี่กานต์ ... พี่อาร์ตปล่อยดาเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่กานต์กลับมาเห็น"

        ดาริกาเพิ่งนึกได้ว่าเธอเพิ่งทำเรื่องใหญ่โตลงไป นอกจากเธอจะมีอะไรกับผู้ชายแล้ว เขายังเป็นแฟนของพี่กานต์ด้วย และหากว่าเรื่องนี้รู้ไปถึงพี่กานต์ เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดเรื่องราวมากเพียงไหน ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้ว เพราะเธอแอบเผลอรู้สึกดีกับแฟนของพี่สาวเข้าอย่างจัง

        "ปล่อยก็ได้ แต่น้องดาต้องสัญญาอะไรบางอย่างก่อน"

        "สัญญาอะไรคะ"

        "ต้องสัญญาว่าจะให้พี่ทำแบบนี้ให้อีก"

        อาร์ตพูดตะล่อมด้วยรอยยิ้ม ดาริกาจึงนิ่งอึ้งไป เธอเพิ่งรู้สึกผิดที่ทำเรื่องไม่ดีงาม แต่ว่าชายหนุ่มกลับทำเหมือนไม่สนใจเรื่องผิดถูก อีกทั้งยังจะมานัดเจอกับเธออีกในภายหลัง ดาริกาจึงคิดจะปฏิเสธในคราวแรก หากทว่าเธอกลับพูดปฏิเสธไม่ออก เพราะในใจส่วนลึกนั้นเธอเองก็อยากสัมผัสความสุขเช่นนี้อีก สุดท้ายเธอจึงยอมตกลงรับข้อเสนอ

        "... ได้ค่ะ หนูสัญญา ... พี่โทรมาหาหนูก็แล้วกัน เบอร์ 0xxxxxxxx"

        เมื่อสาวน้อยเอ่ยปากสัญญา อาร์ตก็ก้มลงไปจูบปากแล้วปล่อยให้เธอคลานลงไปจากเตียง เขามองดูเงาร่างของเด็กสาวเดินโซเซในความมืดสลัวไปหยิบเสื้อผ้าบนพื้นแล้วเดินออกจากห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความรู้สึกเหนื่อยอ่อนหมดเรี่ยวแรง

        ชายหนุ่มนอนยิ้มมีความสุข เขาจดบันทึกเบอร์โทรศัพท์มือถือของดาริกาใส่โทรศัพท์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว รสรักของดาริกานั้นเทียบได้กับกานต์พี่สาวของเธอ น่าเสียดายที่เขาลืมเปิดไฟเพื่อมองดูใบหน้าของดาริกา แต่ถึงยังไม่ได้เห็นเขาก็มั่นใจว่าดาริกาจะต้องสวยน่ารักไม่แพ้พี่สาว ตอนนี้อาร์ตรู้สึกว่าโลกของเขามีผู้หญิงที่สวยที่สุดอยู่สามคน

        ดาริกาเป็นหนึ่งในสามนางฟ้าแสนสวยของเขา กานต์ก็เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มสามนางฟ้า และคนสุดท้ายก็คือนางฟ้าในฝันที่เขาหลงรัก ผกายแก้วผู้บริหารสาวสวยที่เพิ่งหักอกเขาไปหมาด ๆ

        เมื่อนึกถึงผกายแก้ว อาร์ตก็ทอดถอนหายใจด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ถึงแม้ก่อนนี้เขาจะปล่อยตัวปล่อยใจมีความสุขกับกานต์และดาริกาตามประสาชายหนุ่มวัยสืบพันธุ์ แต่ว่าบาดแผลในใจจากรักแรกนั้นยังไม่ได้หายไปไหน เวลานี้เขาจึงนอนถอนหายใจรอบแล้วรอบเล่า ก่อนจะนอนสลบไสลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

   

    ..........................................

       

        ผกายแก้ว สูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์ เธอมองซ้ายมองขวารอบหนึ่ง ก่อนจะตีหน้านิ่งค่อย ๆ เปิดประตูรถแล้วก้าวเท้าเยื้องย่างออกไปยืนเด่นเป็นสง่าด้วยท่วงท่านางแบบ ร่างงามระหงในชุดทำงานรัดรูปอวดสัดส่วนผิวพรรณทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในลานจอดรถต่างพากันแอบมองดูด้วยความชื่นชมหมายมาด

        สายตามากมายที่จ้องมองมาไม่ได้ทำให้แก้วรู้สึกเขินอายแต่อย่างใด หากทว่าเวลานี้หัวใจของเธอกำลังเต้นระส่ำตื่นกลัว เธอกำลังรู้สึกหวั่นเกรงว่าสมควรทำตัวอย่างไร หากต้องพบหน้ากับยามหนุ่มหล่อที่เธอหักอกเขาไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว

        ไม่ทราบว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย แก้วไม่พบเห็นยามหนุ่มแม้แต่เงา ทั้งที่พื้นที่ส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบของเขามานาน เธอพบเจอกับเขาแทบทุกวันที่ลานจอดรถแห่งนี้ หากทว่าวันนี้เขากลับหายตัวไปไม่มาทำงานเหมือนปกติ

        ผกายแก้วรู้สึกโล่งใจในคราวแรก หากไม่ต้องพบหน้ากันตอนนี้อาจจะดีที่สุด เพราะว่าเธอไม่ทราบว่าต้องทำตัวอย่างไร หากทว่าเมื่อขบคิดไปมาเธอก็เริ่มรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ เธอกำลังเป็นห่วงว่ายามหนุ่มจะทำอะไรสิ้นคิดหรือไม่

        ความเป็นห่วงทำให้แก้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดทำท่าจะโทรหาเขา หากทว่าก่อนที่จะโทรออกไปเธอก็หยุดชะงักนิ่ง ปลายนิ้วที่ทำท่าจะกดโทรออกเงื้อค้างไว้ไม่กล้ากดลงไป เธอไม่แน่ใจว่าสมควรโทรศัพท์ไปหาเขาเพื่อสอบถามหรือไม่ และสุดท้ายเธอก็พยายามฝืนข่มความเป็นห่วง แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือกลับเข้ากระเป๋าถือ

        ร่างนางแบบเดินเฉิดฉายดึงดูดสายตาราวกับพญาหงส์อีกครั้ง เธอหยุดชะงักเล็กน้อยที่โต๊ะทำงานของยามรักษาความปลอดภัย จุดนี้เป็นที่ประจำของอาร์ต หากทว่าวันนี้คนที่มาอยู่แทนกลับเป็นยามสูงวัยที่กำลังแอบถลึงตามองสองเต้าอวบของเธอตาเป็นมัน

        "... ไม่คุ้นหน้าเลย เปลี่ยนคนใหม่เหรอคะ คนเก่าหายไปไหนล่ะ"

        แก้วอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตีหน้านิ่งถามอ้อมค้อมออกไปโดยพยายามไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ออกมาให้เห็น ทั้งที่ปกติแล้วเธอเองก็ไม่ค่อยจะสุงสิงสนทนากับคนระดับนี้สักเท่าไหร่

        "ครับคุณ ผมมาแทนยามคนเดิม เห็นบอกว่าลาป่วยอะไรนี่แหละ"

        ลุงยามที่แอบมองทรวดทรงองค์เอวด้วยความหื่นรีบลุกพรวดขึ้นตอบคำ ท่าทีของเขากระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด จะอย่างไรการได้พูดคุยสนทนาแสดงความสนิทสนมกับสาวสวยเหมือนนางฟ้าเช่นนี้สักครั้งก็นับเป็นเกียรติประวัติอย่างหนึ่งสำหรับผู้ชาย

        "ป่วย?"

        ผกายแก้วขมวดคิ้วและพูดทวนคำ เธอไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะส่งสายตาหื่นกามให้เธออย่างไร หากทว่าเมื่อได้ยินว่าอาร์ตป่วย หัวใจของเธอก็หล่นวูบจนใกล้จะควบคุมสีหน้าไม่อยู่

        "ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเหมือนกันครับ แต่เห็นบอกว่าจะลาสักสองสามวัน ผมเลยต้องย้ายมารับหน้าที่ตรงนี้แทนครับผม ถ้าคุณผู้หญิงมีอะไรก็เรียกใช้ผมได้ตลอดเวลาเลยครับ"

        ลุงยามเก๊กท่าตอบด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าจะสามารถทำคะแนนให้ผู้บริหารสาวสนใจจดจำตนเองได้ หารู้ไม่ว่าแก้วไม่ได้คิดสนใจจดจำแม้แต่น้อย และสมองของเธอในเวลานี้กำลังอื้ออึงด้วยความเป็นห่วงในตัวอาร์ต ถึงแม้ว่าเธอจะประกาศตัดรอนเยื่อใยไม่สนิทสนมกันอีก แต่เธอทราบดีว่าอาร์ตได้ฝังรากลึกลงไปในหัวใจของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ต้องไปแอบนั่งร้องไห้ในห้องน้ำจนตาแดงก่ำเช่นนี้

        "อืม"

        แก้วพยักหน้าแล้วเดินจากไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เธอไม่กล้าเอ่ยปากถามมากกว่านี้ เพราะจะน่าสงสัยเกินไป หรือต่อให้เธอถาม เธอก็ไม่คิดว่าลุงยามคนนี้จะรู้เรื่องอาร์ตมากพอ หรือหากจะให้เธอเป็นฝ่ายโทรไปถามกับเจ้าตัวโดยตรง เธอก็ไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น

        สาวสวยพยายามข่มใจเลิกคิด และรีบเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานส่วนตัว เพราะว่าเธอยังมีงานต้องเตรียมไว้คุยกับลูกค้าตอนบ่าย แต่ว่าเมื่อเข้าไปนั่งในห้อง เธอก็ยังไม่สามารถตั้งสมาธิทำงานได้ สมองของเธอเหมือนมึนเบลอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และเธอทราบดีว่าที่เธอเป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าอาร์ตยามหนุ่มหล่อที่เธอเผลอใจสนิทสนมด้วย

        "ตัดใจก็คือตัดใจซิ เธอทำได้นะผกายแก้ว เธอแต่งงานกับนายอาร์ตไม่ได้หรอก พวกเราแตกต่างกันเกินไป"

        แก้วนั่งส่งเสียงพึมพำพยายามบอกย้ำกับตัวเอง เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาเช่นนั้นอยู่หลายรอบ ก่อนจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง เธอไม่อยากเชื่อว่าสาวสวยเสน่ห์แรงที่มีผู้ชายมาจีบจนนับไม่ถ้วน จะไม่สามารถตัดใจจากยามหนุ่มคนหนึ่งได้ เธอจึงพยายามนึกถึงใครสักคนที่เธอรู้สึกว่าน่าจะเหมาะสมกับเธอ เธอคิดว่าน่าจะมีใครสักคนที่มาแทนที่เขาได้

        ผกายแก้วนั่งนึกถึงหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากหน้าหลายตาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต น่าแปลกที่ไม่มีใครสักคนทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจในแง่ชู้สาว เธอจึงพยายามตัดเงื่อนไขในแง่นี้ออกไป และลองนึกหาผู้ชายคนที่ใกล้เคียงกับเธอในแง่ฐานะทางสังคม ฐานะทางการเงิน ความรู้ความสามารถ รวมไปถึงอายุที่ต้องไม่แตกต่างเกินไป และข้อสำคัญก็คือจะต้องยังโสด

        บุคคลเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายนัก รายชื่อในหัวสมองโดนตัดทิ้งไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งหลงเหลืออยู่เพียงคนเดียว ผู้ชายคนนี้อายุสามสิบห้า แต่ยังโสด ฐานะทางสังคมนั้นดีเยี่ยม ฐานะทางการเงินก็ถือว่าร่ำรวยไม่แพ้ครอบครัวของเธอ ความรู้ความสามารถนั้นโดดเด่นจนสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ทั้งที่อายุเพียงแค่สามสิบห้า และที่สำคัญก็คือทั้งตัวเธอเอง และครอบครัวของเธอก็สนิทสนมกับผู้ชายคนนี้

        "น้าคมกฤช?"

        แก้วส่งเสียงพึมพำเอ่ยชื่อผู้ชายคนนี้ออกมาด้วยความฉงนสงสัย น้าคมกฤชมีศักดิ์เป็นน้าของเธอ และสนิทสนมกับครอบครัวของเธอ น้าคมกฤชเป็นผู้บริหารระดับสูงที่คอยช่วยเหลือผลักดันเธอมาตลอด ยกตัวอย่างเช่นตำแหน่งผู้จัดการแผนกที่เธอนั่งอยู่นั้นก็ได้รับความช่วยเหลือมาจากน้าคมกฤชคนนี้

        นอกจากจะมีความรู้ ความสามารถแล้ว น้าคมกฤชยังถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลา เขาดูแลร่างกายออกกำลังเป็นประจำทำให้รูปร่างดี อีกทั้งยังโสดไม่เคยแต่งงานมาก่อน ในแง่ของประวัตินั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมสมบูรณ์ไร้ที่ติ ผู้หญิงในบริษัทต่างก็อยากจับเขาแต่งงานกันให้ได้ทั้งนั้น

        แก้วขมวดคิ้วครุ่นคิด ชื่อของน้าคมกฤชผุดขึ้นมาทันทีหากเธอคัดเลือกโดยไม่ใช้ความชอบส่วนตัว เขาเป็นเหมือนสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่เธอไม่เคยสนใจมอง เพียงเพราะว่าคุ้นเคยเกินไป และไม่เคยมีความคิดในเชิงชู้สาว แต่เธอมั่นใจว่าน้าคมกฤชนั้นแอบมองเธออยู่เสมอ อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์ของเธอเหมือนผู้ชายคนอื่น

        "บ้าไปแล้วเรา น้าคมกฤชเนี่ยนะ"

        แก้วส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ทันที เธอมีความรู้สึกดี ๆ กับน้าคมกฤชและมองเขาเป็นแบบอย่างในการทำงานก็จริง แต่ว่าเธอไม่เคยรู้สึกพิสวาทในแง่ชู้สาวเลยสักครั้ง หากจะเปรียบเทียบแล้ว เธอให้ความเคารพนับถือ และมองน้าคมกฤชเป็นเหมือนพี่ชายหรือญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

        กระนั้นถึงแม้ว่าเธอจะพยายามส่ายหน้าปฏิเสธ แต่เมื่อลองคิดให้ถี่ถ้วนและไม่นับรวมเรื่องความรู้สึกทางใจแล้ว แก้วกลับพบว่าน้าคมกฤชนั้นเหมาะสมกับเธอราวกับกิ่งทองใบหยก พ่อกับแม่ของเธอเองก็คอยแอบสนับสนุนอย่างลับ ๆ ด้วยซ้ำ แต่เป็นตัวเธอเองที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องและไม่คิดสานสัมพันธ์ อีกทั้งยังคอยแต่จะโยนไปให้กานต์น้องของเธอด้วยซ้ำ

        แก้วถอนหายใจแล้วกวาดสายตามองไปโดยรอบ ห้องทำงานส่วนตัวนี้อาจจะได้มาจากความสามารถของเธอเองส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นได้รับแรงผลักดันมาจากน้าคมกฤช เพื่อช่วยให้แก้วสามารถทำงานได้อย่างสะดวก เขาถึงกับยอมส่งคุณเหมียวเลขาคู่ใจคนเก่งมาช่วยทำหน้าที่เป็นเลขาหน้าห้องให้แก้วก่อนระยะเวลาหนึ่ง

        คุณเหมียวเป็นหญิงสาววัยสามสิบห้าเช่นเดียวกับน้าคมกฤช เธอสวยและเป็นผู้หญิงทำงานเก่ง แก้วไม่ค่อยจะยอมรับใครมากนัก แต่เธอยอมรับว่าคุณเหมียวทำหน้าที่เลขาได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายสนทนากับลูกค้า รวมไปถึงการจัดตารางเวลา และงานยิบย่อยอื่น ๆ ทั้งหมด งานของแก้วจึงสะดวกราบรื่นขึ้นมามากมาย แก้วคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าเธอจะหาเลขาที่เก่งแบบคุณเหมียวมาช่วยงานได้จากที่ไหน

        "ขนาดชงชาก็ยังอร่อยเลย"

        แก้วยิ้มและส่งเสียงพึมพำขณะหยิบถ้วยชาซึ่งมีไอสีขาวลอยฟ่อง เธอจิบชารสละมุนที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อน ๆ ด้วยความรู้สึกสุนทรีย์ คุณเหมียวเลขาหน้าห้องที่ได้รับมาจากน้าคมกฤชนั้นมีความสามารถรอบด้าน แม้แต่การชงเครื่องดื่มก็ยังยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร แก้วแอบคิดว่าหากเธอมีเลขาแบบนี้สักคน เธอคงไม่ยอมปล่อยให้ใครยืมอย่างแน่นอน

        อย่างไรก็ตามน้าคมกฤชกลับส่งเลขาคนเก่งมาช่วยงานเธอด้วยความเต็มใจ เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่น้าคมกฤชมอบให้ ผกายแก้วก็ส่ายหน้าไปมา เธออาจจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขา แต่ถ้าพูดกันมาจากใจจริงแล้ว เธอไม่เคยมีความคิดที่จะสนิทสนมในเชิงชู้สาวกับเขาเลยแม้แต่น้อย

        "อืม ... ขอพักสายตาสักหน่อยก็แล้วกัน"

        หลังจากดื่มชาจนหมดถ้วย ผกายแก้วก็อ้าปากหาวน้อย ๆ ด้วยความง่วงงุน ค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเธอแทบไม่ได้นอนพักผ่อน เวลานี้เธอจึงรู้สึกง่วงงุนจนไม่อาจทานทนไหว เธอตั้งใจบอกตัวเองว่าจะนอนพักสายตาแค่ครู่เดียว แต่เมื่อเธอหลับตาพิงลงไปบนเบาะเก้าอี้ตัวใหญ่ สติของเธอก็เลือนหายและหลับใหลลงไปแทบจะในทันที

        แทบจะทันทีที่ผู้บริหารสาวสวยดำดิ่งลงไปในห้วงนิทรา ประตูห้องทำงานของผกายแก้วก็ถูกเปิดผลักเข้ามา ร่างบางระหงของเหมียวเลขาหน้าห้องก้าวเท้าเข้ามาด้วยท่าทีระแวดระวัง เหมียวยืนอยู่หน้าห้องและจับจ้องมองดูผกายแก้วซึ่งนั่งนิ่งเงียบบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่

        เหมียวมองอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะขยับก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาผกายแก้ว เลขาสาวจับมือของแก้วยกขึ้นแล้วปล่อยให้ร่วงลง หากทว่าแก้วก็ยังคงนอนนิ่งเงียบไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกตัวแม้แต่น้อย

        เลขาสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะปรายตามองที่ถ้วยชาซึ่งโดนซดจนหมดเกลี้ยง จากนั้นเธอก็ขยับสะโพกหนั่นแน่นนั่งพิงลงไปบนโต๊ะทำงานของผกายแก้วแล้วกดโทรศัพท์มือถือโทรออกไปหาใครบางคน เมื่ออีกฝ่ายรับสายโทรศัพท์ เหมียวไม่ได้กล่าวอะไรมากความ เธอแค่เพียงพูดประโยคสั้น ๆ ประโยคหนึ่งแล้วกดวางสายทันที

        "คุณผกายแก้วนัดประชุมเป็นการส่วนตัวที่ห้องค่ะบอส" 

   
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

kaithai

จิตใจคนอยากหยั่งถึงจริงๆ
ผกายแก้วจะเจออะไรอีกละ
จากคนใกล้ตัว

ifrost17

ถ้าเจอหน้าพร้อมกันสามคนเจ้าตัวจะทำแบบไหนนะ 555


pisanuman3


taetaetr

ขอบคุณครับเเต่อยากอ่านบทของสองพี่น้องคู่นั้นเหมือนกันนะ

zannaty

ขอบคุณครับ ช่วงนี้ปล่อยของถี่นะครับ ค่อยหายคิดถึงหน่อย

biggiggog

จัดมาเลยครับไม่ต้องไปแคร์ใคร เรื่องดราม่าไม่มีอยู่แล้ว
มีแต่มาม่าล้วนๆ ::Beggar::
ขอบคุณมากๆครับ

olemantu

จะเรียกว่าอะไรดีหว่า...สามพี่น้องไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันแล้วละ..เพราทุกคนได้นายอาร์ต..
และทุกคนมีผัวกันคนละ 2 คนเหมือนกันแล้ว...แน่ ๆ

wasawat


Asura4237

เริ่มสนุกปนดราม่าแล้วสิ รอติดตามตอนต่อไปเลยแบบนี้

ขอบคุณครับ

4ylnox

เสร็จกัน โดนวางยาอีกแล้ว ดูเหมือนมีแต่กานต์เท่านั้นที่ไม่ได้กินยาในเรื่องนี้นะครับ  ::Angry::

harzard

ดูงานแล้วงาน ดาร์คสุด ๆ ไม่รอด ขอบคุณครับท่าน แอส  ::NoNo::

avazon


napakon

ตามที่อยากได้แท้ อาร์ต ได้ ครบทั้ง3 คนก่อนใคร เหลือแต่สิงห์ จะได้ 2 พี่น้องไหม รออยู่ครับ