ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

7 Sin : Sloth "เหตุการณ์ ณ ชานชาลา" (EP.1) *Rewrite*

เริ่มโดย GoDeRsOuL, ธันวาคม 04, 2016, 02:36:41 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

GoDeRsOuL

เป็นการรีไรท์เนื้อหาใหม่นะครับ แนะนำ ติชม ได้ตามสบายเลยครับ

ซ่อนแค่รูปประกอบจินตนาการนะครับ

อ่านจบแล้วถ้าแสดงความคิดเห็นให้หน่อยจะกรุณามากครับ จะได้นำไปปรับปรุงผลงาน

เจอคำผิดบอกด้วยนะครับ


***ชี้แจงเพิ่มเติ่มนะครับ ***
เห็นมีนักอ่านหลายท่านเข้าใจผิด
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งคนละเรื่องกับ 7Sin : Lust นะครับ
ตัวเอกคนละคน เนื้อเรื่องคนละแนว เพียงแต่อยู่ในจักรวาลเดียวกันเท่านั้นครับ

..................................

"สวัสดีครับท่าน มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ" สารวัตรหนุ่มกล่าวด้วยความนอบน้อมกับคู่สนทนาที่อยู่ปลายสาย เขาโบกมือไล่นายตำรวจอีก 2 สองคนที่ยืนอยู่ภายในห้องทำงานส่วนตัวให้ออกไปข้างนอกจนหมด

"ครับท่าน.... ตามที่ท่านสั่ง คดีนี้ผมได้ลงพื้นที่ดูแลด้วยตัวเองและมีความคืบหน้าอย่างมากครับ" สารวัตรหนุ่มพูดพลางเอื้อมมือไปรื้อหาของบางอย่างจากกองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน เขาหยิบได้แฟ้มสีดำสนิทออกมาวางไว้ตรงหน้าและกางออก ภายในมีข้อมูลของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกประทับตราคำว่า 'ลับสุดยอด' สีแดงเอาไว้ เขาดูข้อมูลในแฟ้มสลับกับรูปถ่ายที่ลูกน้องของเขาพึ่งจะนำมาส่งก่อนจะคุยกับคู่สายต่อ

"เราระบุผู้ต้องสงสัยจากภาพในกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่รอบๆที่เกิดเหตุ รวมกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ในระยะไกล ทำให้เราได้รูปพรรณสัณฐานที่แน่นอนของคนร้ายและส่งเจ้าหน้าที่ไปค่อยจับตาดูแล้วครับ ถ้าเกิดการก่อเหตุขึ้นเราสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ทันที เพียงแต่ว่า.... คนร้ายคนนี้ยังไม่ใช่คนที่ท่านตามหาครับ" สารวัตรหนุ่มกล่าวจบก็ปิดแฟ้มเอกสารลงแล้วเอนหลังพิงกับเก้าอี้บุนวมสีดำราคาแพง ปลายสายสนทนาดูเหมือนจะไม่ได้กล่าวอะไรมากหลังจากได้ยิน สารวัตรหนุ่มจึงเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัยมานานตั้งแต่ได้รับคำสั่งจากบุคคลนี้

"ท่านครับ.... ผมขออนุญาตถามครับ เกี่ยวกับชายคนที่ท่านต้องการหาคนนี้" เขาเว้นช่วงสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าคู่สนทนาจะไม่ขัด

"ผมดูจากข้อมูลแล้ว ชายคนนี้... อดีตร้อยตำรวจเอกมือดีที่หายสาบสูญไปหลังออกปฎิบัติภารกิจกวาดล้างยาบ้าครั้งใหญ่เมื่อสิบปีก่อน คดีแปลกๆที่ท่านให้ผมจับตาเกี่ยวข้องอะไรกับชายคนนี้ด้วยครับ" เขาถามด้วยความสงสัย

เพราะคดีที่เขากำลังสืบอยู่ตอนนี้เป็นคดีข่มขืนและโจรกรรมที่แปลกประหลาด มีเหตุเกิดทั้งหมดถึง 12 ครั้งในชั่วระยะเวลา 3 เดือนในละแวกเดียวกัน  คนร้ายในคดีนี้สามารถทำการอุกอาจแบบซึ่งๆหน้าได้โดยที่ไม่มีพยานหลักฐานให้สืบสวนต่อได้เลย ไม่ว่าจะจากเจ้าทุกข์ที่จำอะไรไม่ได้ พยานในที่เกิดเหตุที่ไม่รู้เรื่องราว สถานที่เกิดเหตุก็เป็นร้านหรือซอยเล็กๆที่ไม่มีกล้องวงจรปิด หรือถึงมีก็เป็นเพียงกล้องปลอมที่เอาไว้หลอกกินงบประมาณรัฐ จนทำให้ต้องมานั่งไล่ดูกล้องวงจรปิดที่ทำการได้และสืบพยานในรัศมีที่ห่างจากที่เกิดเหตุเกือบ 2 กิโลเมตร ทำให้เขาพบว่าคนร้ายเป็นเพียงชายแก่ไร้บ้านธรรมดาๆ ที่ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรในการทำให้ผู้คนในที่เกิดเหตุจำอะไรไม่ได้หรือไม่รู้เรื่องอะไรเลย

"ครับท่าน.... ขออภัยด้วยครับท่าน ผมจะทำตามที่สั่งครับ สวัสดีครับท่าน" ดูเหมือนว่าเสียงจากปลายสายจะไม่ค่อยพอใจในคำถามของเขานัก สังเกตได้จากระดับเสียงที่เพิ่มขึ้นจนคล้ายตะคอกที่ดังลอดออกมาโทรศัพท์

"เข้ามาได้แล้ว" สารวัตรหนุ่มส่งเสียงเรียกนายตำรวจที่เข้าไล่ออกไปนอกห้องเมื่อสักครู่ หลังจากที่เก็บแฟ้มสีดำสนิทไว้ในที่ลับตา

"สายสืบของเรารายงานกับผมเมื่อสักครู่ว่า พวกเค้าคลาดกับผู้ต้องหาครั้งสุดท้ายที่สถานีพระโขนงเมื่อช่วงเช้า ตอนนี้ยังผ่านมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ออกคำสั่งให้นายตำรวจนอกเครื่องแบบคอยจับตาดูบริเวณรอบๆสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานีเอาไว้ หากพบเจอผู้ต้องหาให้รีบแจ้งผมโดยด่วน แต่อย่าพึ่งแสดงตัวจนกว่าผู้ต้องหาจะทำการก่อเหตุ" เขากล่าวจบก็ยื่นเอกสารและรูปภาพที่เกี่ยวกับคดีคืนให้กับนายตำรวจทั้ง 2 ก่อนจะโบกมือไล่ให้รีบออกไป

"รับทราบครับ" นายตำรวจทั้งสองรับเอกสารไว้และยกมือขึ้นทำวันทยหัตถ์เพื่อแสดงความเคารพก่อนจะกลับหลังหันและเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้สารวัตรหนุ่มนั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่เพียงลำพัง....

................................................................................................

"สถานีต่อไป...... ศาลาแดง...... ท่านสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้ามหานครได้ที่สถานีนี้....... Next Station......Sala Deang...... interchange with MRT."
เสียงไพเราะของหญิงสาวคนหนึ่งที่บันทึกไว้ ถูกเปิดโดยอัตโนมัติผ่านดอกลำโพงที่ติดตั้งอยู่ทั่วขบวนรถ ซึ่งจะเปิดเพื่อเป็นการแจ้งให้ผู้ที่กำลังโดยสารรถไฟฟ้าอยู่ในขณะนั้นได้เตรียมตัวลงในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ผู้โดยสารที่นั่งและยืนอยู่บางส่วนที่มีจุดหมายอยู่ที่สถานีศาลาแดง ต่างพากันขยับตัวเดินไปที่ทางออกที่ใกล้ที่สุดของตนเอง

วันนี้เป็นเช้าวันแรกของสัปดาห์ จึงไม่แปลกที่ตู้โดยสารทุกตู้จะอัดแน่นไปด้วยผู้โดยสารหลากหลายประเภท ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่และจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน บางคนไปเรียน บางคนไปทำงาน บางคนไปหาแฟน บางคนตรงกลับบ้านหลังจากเลิกงาน

แต่ในบรรดาหมู่ผู้โดยสารเหล่านี้ มีชายอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้โดยสารมาด้วยจุดประสงค์ธรรมดาเหมือนผู้อื่น ชายคนนี้สวมใส่เสื้อผ้าเก่าซอมซ่อ ร่างกายส่งกลิ่นเหม็นลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งตู้โดยสาร แต่น่าแปลกที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจหรือรู้สึกถึงตัวตนของชายคนนี้เลย

เขาโดยสารรถไฟฟ้ามาตั้งแต่สถานีเปิดให้บริการ นัยน์ตาคมกล้าที่ส่องประกายสีครามจางๆดูขัดกับสภาพร่างกาย คอยเฝ้าจับตามองผู้โดยสารหญิงที่โดยสารอยู่ในขบวนรถเป็นพิเศษ ประหนึ่งจะมองหาใครบางคนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อรถไฟฟ้าได้เคลื่อนมาหยุดลงที่ชานชาลา สายตาของเค้าพลันสะดุดอยู่ที่หญิงสาวในชุดนักศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังยืนเล่นโทรศัพท์อยู่อีกฝั่งของประตู เขาแสยะรอยยิ้มกว้างอย่างถูกใจทันทีที่ได้เห็นทรวดทรงองค์เอวของนักศึกษาสาวคนนั้น

เพราะการรอคอยของเขาในเช้าวันนี้....

ได้สิ้นสุดลงแล้ว....

................................................................................................

เช้าวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนแรกของอายที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งแถวย่านอโศก โดยปกติแล้วการจราจรในย่านนี้มักจะติดขัดอยู่เสมอ ทำให้วันนี้เธอเลือกที่จะใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้ามากกว่าที่จะขับรถส่วนตัวของตนเอง เพียงเพราะเธอไม่อยากเสี่ยงมาสายตั้งแต่วันแรก

อายยืนรอรถไฟฟ้าอยู่หลังเส้นสีเหลืองที่ทางสถานีทาไว้ที่พื้นเพื่อความปลอดภัย วันนี้เป็นวันแรกอีกเช่นกันที่อายได้สวมชุดนักศึกษาออกจากบ้าน นั่นเป็นเพราะเธอพึ่งเลื่อนชั้นจากมัธยมมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 1 ชุดที่เธอเลือกซื้อเป็นชุดตามสมัยนิยมของนักศึกษา นั่นคือเสื้อไซส์ sss ที่เมื่ออายได้ใส่แล้วแสนจะบางและรัดติ้วจนกระดุมแทบจะกระดอนออกมาจากหน้าอก อีกทั้งกระโปรงทรงเอที่สั้นจนแทบจะถึงโคนขา แถมยังผ่าลึกซะจนเกือบเห็นกางเกงในลายลูกไม้สีแดงที่เธอใส่ อายรู้สึกวาบหวิวอยู่บ้างที่แต่งตัวแบบนี้ออกมาข้างนอก เนื่องจากเธอไม่เคยใส่เสื้อผ้าที่เล็ก รัด สั้น และโชว์เรือนร่างแบบนี้ไปที่ไหนมาก่อน อาจจะมีอยู่บ้างบางเป็นครั้งคราวแต่ก็เฉพาะในห้องนอนของเธอ

 

เหตุผลที่อายเลือกที่จะแต่งตัวแบบนี้ มาจากการที่เธออยากให้มีคนหันสนใจในตัวเธอบ้าง นั่นเป็นเพราะความรู้สึกว่าตัวเธอเองนั้น ถูกบดบังอยู่ใต้ตัวตนอันสว่างจ้าของเพื่อนสนิทเสมอ เพื่อนสนิทที่มักจะโดดเด่นกว่าเธอไปในทุกเรื่อง ทั้งรูปร่าง หน้าตา มันสมอง และ ฐานะ ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่ ผู้คนที่รายล้อมก็พากันสนใจแต่เพื่อนสนิทของเธอทั้งนั้น

เธอพยายามแล้วที่จะไม่คิดอิจฉา เพราะเพื่อนสนิทของเธอไม่เคยทำสิ่งใดที่สร้างความลำบากใจให้เธอเลยแม้แต่น้อย กลับมีแต่การช่วยเหลือในยามที่เธอลำบากและมอบแต่ความจริงใจให้กับเธอเสมอมา

เพียงแต่ว่าลึกๆแล้ว....

ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มที่แสดงให้เพื่อนของเธอรับรู้นั้น....

ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สงสัย....

ว่ามีความอิจฉาซุกซ่อนอยู่ในใจของเธอมากมายแค่ไหน....

หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย อายและเพื่อนของเธอเลือกที่จะเข้าเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ด้วยความชอบที่แตกต่าง ทำให้เธอทั้งสองเลือกที่จะศึกษาต่อในคณะที่แตกต่างกัน เพื่อนของอายเลือกเรียนในคณะบริหาร เพราะพ่อของเธอต้องการให้มีความรู้ในการดูแลบริหารธุรกิจของทางบ้าน
ส่วนอายเลือกที่จะเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ เลือกที่จะเรียนในคณะที่หวังว่า....

จะนำพาเธอไปสู่ฟากฟ้าและกลายเป็นดวงดารา ไม่ต้องทนอยู่ใต้เงาของใครอีกต่อไป....

"เมื่อไหร่รถไฟจะมาน้าาาา เดี๋ยวก็สายกันพอดี สงสัยจะไปไม่ทันเจอพี่กายแน่ๆเลย" อายบ่นพลางเหลือบตามองเวลาจากจอมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เธอถืออยู่ เพราะในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะได้เวลาเริ่มเรียนคลาสแรกแล้ว และเธอยังแอบนัดเจอกับพี่ว๊ากสุดหล่อซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่เธอแอบปลื้มตอนรับเอาน้องเอาไว้ ว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนเริ่มเรียน

หลังจากที่เธอก้มลงมองดูเวลาจากมือถือได้ไม่นาน รถไฟฟ้าที่เธอรอก็เคลื่อนขบวนมาถึง ผู้คนบนชานชาลาที่จะโดยสารรถขบวนนี้ ต่างพากันเดินไปยืนอออยู่ตรงจุดที่คิดว่าประตูจะมาหยุด เมื่อรถไฟฟ้าเคลื่อนตัวมาถึงประตูก็หยุดอยู่ตรงหน้าของเธอพอดี อายนึกดีใจที่ไม่ต้องเดินเบียดกับใครเพื่อเข้าไปและหากโชคดีเธอก็อาจจะไม่ต้องยืนให้เมื่อย

เมื่อประตูรถไฟฟ้าเปิดออก ผู้โดยสารจากข้างในทยอยเดินกันออกมาอย่างเร่งรีบ บรรดาคนที่ยืนอออยู่ข้างนอกต่างพากับหลบออกด้านข้างเพื่อให้คนจากในขบวนเดินออกมาได้สะดวก แต่อายที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดีเดินหลบออกไม่ทัน เพราะเธอกำลังก้มหน้าพิมพ์ข้อความส่งไปบอกรุ่นพี่ว่าอีกไม่นานจะถึง ทำให้เธอต้องยืนเฉยๆอยู่กลางฝูงชนที่เดินเบียดเสียดกันออกมา ได้เพียงแต่ยืนรอให้คนเดินสวนออกมาจนหมด

"ว๊าย!!" อายตกใจร้องเสียงดัง เพราะระหว่างที่ผู้คนกำลังเดินสวนออกมาด้วยความเร่งรีบ มีชายท่าทางสกปรกคนหนึ่งยื่นมือมาจับแขนขวาของอายไว้แน่น และออกแรงฉุดให้เธอเดินห่างออกมาจากประตู

ขณะที่อายกำลังตั้งใจจะสะบัดแขนของชายคนนั้นออกและตะโกนให้คนช่วย ทันใดนั้น เธอกลับรู้สึกไม่อยากทำขึ้นมาซะเฉยๆ

ไม่อยากสะบัดแขน.... ไม่อยากตะโกน....

ในตอนนี้ เธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น....

มันช่าง.... 

ขี้เกียจเหลือเกิน....

ทั้งๆที่รู้ว่ากำลังจะไปเรียนสาย ทั้งๆที่รู้ว่าจะไม่ได้ไปตามนัด แต่เธอก็เลือกที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกดึงออกห่างจากประตูรถไฟฟ้าโดยไม่ขัดขืน

ชายแปลกหน้าคนนั้นฉุดลากอายออกมาจนถึงบริเวณตู้ขายน้ำอัตโนมัติ จากนั้นก็เหวี่ยงเธอกระแทกเข้ากับตัวตู้อย่างแรง ท่ามกลางกลางฝูงชนบนชานชาลาที่ไม่มีใครแสดงท่าทีว่าสนใจเลยซักนิด เพราะโดยปกติแล้วหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม้จะไม่มีใครกล้าห้าม แต่อย่างน้อยต้องมีคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปกันบ้างแล้ว

หลังของอายพิงอยู่ที่ตู้ขายน้ำ เธอค่อยๆทรุดตัวลงช้าๆและนั่งเหม่อมองผู้คนพากันเดินเข้ารถไฟฟ้าจนกระทั่งประตูเลื่อนตัวปิดลง เธอพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเธอจะรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาทุกครั้ง

จนในที่สุด รถไฟฟ้าก็เคลื่อนตัวออกไปจากสถานี ตอนนี้ความคิดของเธอสับสนไปหมด สับสนกับความรู้สึกขัดแย้งระหว่างความคิดที่จะลุกขึ้นหนีไป และ ความรู้สึกอยากนั่งทอดกายสบายๆอยู่ตรงนี้อย่างเกียจคร้าน

"โอ๊ะ โอ๋ สงสัยจะใช้พลังมากไปหน่อย ดูซิ เอ๋อไปเลย" ชายแปลกหน้าที่ลากเธอมาเอ่ยถึงพลังอะไรบางอย่าง แต่มันไม่ได้เข้าหูเธอเลยซักนิด

เธออยาก....

อยากนั่งเฉยๆอยู่ตรงนี้มากกว่า....

"แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ประหยัดเวลา ข้าชักหิวข้าวแล้วด้วย เดี๋ยวเอาอีนี่แล้ว ข้าจะไปหาอะไรกินซะหน่อย" มันพูดในขณะที่กวาดสายตาสำรวจเรือนร่างของอายอีกครั้งด้วยความถูกใจยิ่งนัก

"ฮ่าๆ อีนี่ท่าทางจะเอามันส์กว่าคนที่แล้วเยอะ คราวนี้เอาท่านี้ดีกว่า" ชายแปลกหน้าพูดจบก็ก้มลงออกแรงฉุดอายให้ยืนขึ้นและผลักเธอให้หันหลังก้มลงโก่งโค้งโชว์สะโพกผาย มันจับสองมือของอายให้ยันไว้กับตู้ขายน้ำ จากนั้นก็ถลกกระโปรงนักศึกษาขึ้น และดึงกางเกงในลายลูกไม้สีแดงที่เธอใส่ลงมากองที่ข้อเท้าโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย

 

ผู้คนบนชานชาลาต่างหันมามองทั้งคู่เป็นพักๆ แต่ก็ไม่มีใครแสดงท่าทีสนใจอะไร ทุกคนหันกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ โดยไม่มีใครคิดจะมาช่วยแม้แต่คนเดียว ทั้งคนที่ยืนรออยู่ที่ชานชาลา คนที่กำลังเดินออกมาจากรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั้งคนที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนกันหมดคือ 'ขี้เกียจ'

ขี้เกียจสนใจ....

ขี้เกียจยุ่ง....

น่าเบื่อหน่าย....

"แห้งไปหน่อย แต่คราวนี้ข้าพกเจลมาด้วย ฮ่าๆ ข้านี่ฉลาดจริงๆ ครั้งที่แล้ว เล่นเอาแสบไปหลายวันเลย ครั้งนี้เลยต้องเตรียมตัวหน่อย" ชายแปลกหน้าพูดพึมพำกับตัวเองและล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง มันหยิบเจลหล่อลื่นที่พกไว้ออกมาและบีบใส่ร่องสาวของอายก่อนจะเอามือละเลงไปทั่ว

"อืมมมมม" อายรู้สึกเสียวเล็กน้อยที่มีมือหยาบกร้านของผู้ชายท่าทางสกปรกที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ กำลังล้วงควักน้องสาวของเธออยู่

"มีครางด้วยเว้ย!! ดีๆ ไอ้คนที่แล้วแม่งนอนนิ่งเลย ยังกะท่อนไม้ สงสัยคราวนี้ได้สนุกแน่ๆ" ชายแปลกหน้าถอดกางเกงลงขณะพูด แท่งเอ็นดำมะเมื่อมดีดตัวออกมาจากกางเกงซอมซ่อในสภาพแข็งตัวเต็มที่ ขนาดของมันยาวไม่ต่ำกว่า 7 นิ้ว ปลายหัวบานมีคราบไคลสีขาวดูสกปรกเกาะอยู่เต็มไปหมด

ชายแปลกหน้ากระเถิบตัวเองเข้าไปใกล้จนร่างกายแนบชิดติดกัน อายได้กลิ่นกายสาบสางจากร่างกายที่ไม่ได้ชำระล้างมานานปีเต็มสองรูจมูก แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ ยังคงยืนโก่งโค้งนิ่งเฉยในขณะที่มือขวาของมันจับท่อนลำของตนเองจ่อปลายหัวบานถูไถไปกับร่องเสียวที่เต็มไปด้วยเจลหล่อลื่นของเธอ

"เอาละนะอีหนู  เอ้า! ฮึ้บ!!" ชายแปลกหน้าดันเอวของตัวเองใส่สะโพกของอายอย่างแรง

ปึก! ร่างทั้งสองกระตุกเฮือก

"โอ๊ยยย!!! / ซี๊ดดดด!!!" เสียงร้องสองเสียงดังออกมาพร้อมกัน แต่ความหมายนั้นแตกต่างกัน

คนหนึ่งร้องเพราะเจ็บแสบร่องรูไปหมด เมื่อโดนแท่งลำยาวใหญ่กระแทกจนสุดโค่น เยื่อพรหมจรรย์ของเธอฉีกขาดกระจุย เลือดสาวไหลย้อยลงมาจนเลอะง่ามขา

อีกคนหนึ่งร้องเพราะท่อนเอ็นของเขาได้รับความเสียวแทบสำลักจากร่องหลืบอับแสนรัดรึงของหญิงสาว ถึงแม้จะรู้สึกแสบไปบ้าง แต่มันสัมผัสได้ว่าส่วนปลายของหัวบานได้ทะลวงผ่านเยื่ออะไรบางอย่างภายใน

ชายแปลกหน้าถอนเอวออกมาช้าๆเพราะความเสียว มันก้มลงมองแท่งเอ็นของตนเองและพบว่ามีคราบเลือดสีแดงสดติดออกมาด้วย

"เห้ย! นี่ข้าได้เปิดซิงเอ็งเลยเหรอเนี่ย มิน่าถึงได้คับนัก สวรรค์ชัดๆ เดี๋ยวข้าจะทำให้เอ็งลืมไม่ลงไปจนวันตายเลย ฮ่าๆ" ชายแปลกหน้าส่งเสียงหัวเราะลั่น จากนั้นก็เริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างช้าๆ เนิบนาบ บางจังหวะก็ออกแรงกระแทกเน้นๆ บางครั้งส่ายเอวซ้ายขวาไปมา และบางครั้งก็หมุนควงบดสะโพกเป็นวงกลมเพื่อให้ท่อนเนื้อครูดผนังช่องคลอดไปทั่ว

การกระทำของมันช่วยลบล้างความเจ็บแสบของอายไปจนหมด เธอเริ่มรู้สึกเสียวกระสันไปกับลีลารักของชายแปลกหน้าที่กำลังออกแรงกระทุ้งร่องสาวของเธออย่างเมามันส์ น้ำหล่อลื่นในโพรงสาวเริ่มขับออกมาตามธรรมชาติ น้ำคาวใสไหลชโลมแท่งเนื้อของชายแปลกหน้าไปทั่วลำโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจ

ตับ!! ตับ!! ตับ!! ตับ!!

" ซี๊ดดด ซี๊ดดด ซี๊ดดดด " อายกัดฟันสูดปากเบาๆจากความเสียวที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เธอจะเสียวและรู้สึกดีขนาดไหน แต่เธอก็ยังไม่แสดงอาการอะไรออกมามากนัก นั้นเป็นเพราะเธอมีความรู้สึกเกียจคร้านในจิตใจอยู่เป็นอย่างมาก

ในตอนนี้อายรู้สึกเมื่อยล้าที่สองขาจากการยืนโก่งโค้งจนอยากทรุดกายนอนลงที่พื้นเป็นที่สุด เธอจึงค่อยๆกดร่างของตัวเองให้ต่ำลงทีละนิด จนท้ายที่สุด เธอก็นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นแอ่นสะโพกรองรับการกระแทกจากชายแปลกหน้า

"นอนกับพื้นเลยรึ หึหึ สงสัยข้าต้องลดพลังลงหน่อย แบบนี้มันไม่เร้าอารมณ์" สิ้นคำพูดของชายแปลกหน้า ความรู้สึกเกียจคร้านของอายเบาบางลง สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มคืนกลับมา อายรู้สึกเหมือนตื่นจากฝันร้าย อายพยายามหันไปมองทางด้านหลังเพื่อที่จะมองหน้าชายแปลกหน้าชัดๆ

ตับ!! ตับ!! ตับ!! ตับ!!

"ซี๊ดดดด!!  กะ... แกเป็นใคร มาทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง" อายถามด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น เพราะถูกกระหน่ำแท่งร่องเสียวไม่หยุด แถมท่านี้ยังทำให้ท่อนลำอวบถูกส่งเข้าไปลึกจนถึงมดลูกทุกครั้งที่มันกดเอวลงมา

"อ้าว... สงสัยลดเยอะไปหน่อย อีนี่เลยได้สติเลย งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า" ชายแปลกหน้าพูดกับตัวเองโดยที่ไม่ตอบคำถามของอาย เธอจึงพยายามจะดันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็พบว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายตั้งแต่คอลงไปได้อย่างที่ใจคิด

เธอรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอยินดีที่จะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนอีก ส่งผลให้ร่างของเธอยังคงนอนอยู่ในลักษณะเดิม น้ำตาของอายเริ่มรินไหลออกมาจนอาบทั้งสองแก้มเมื่อนึกถึงความบริสุทธิ์ที่เธอเฝ้าเก็บรักษามานานถึง 18ปี

"กะ แก! ซี๊ดดดดด!! แกทำอะไรกับฉัน!!" อายรวบรวมเรียวแรงทั้งหมดตะโกนถามชายแปลกหน้าในสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจ

"อู๊ยยยส์!! อย่าร้องไห้ซิจ๊ะคนสวย รูหีเอ็งมันจะยิ่งรัดควยข้า พอดีเอ็งสวยถูกใจข้าแถมยังแต่งตัวล่อตะเข้อีก ข้าก็เลย... มอบความเป็นผัวให้ไงละจ๊ะ ฮ่าๆ" มันเงยหน้าขึ้นหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ เพราะคำตอบของมันทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้นด้วยความเสียใจที่เลือกใส่ชุดแบบนี้

อายตัดสินใจหันมองไปรอบตัวเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมากที่พบว่าไม่มีใครสนใจเธอกับชายแปลกหน้าเลย ทั้งๆที่ชายแปลกหน้ากำลังข่มขืนเธออย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้

"ไม่มีใครสนใจพวกเราหรอกอีหนู มาม้ะ! มาเปลี่ยนท่ากันดีกว่า" ชายแปลกหน้าถอนลำควยแข็งโด่ออกจากรูสวาทของอายทันทีที่พูดจบ มันดึงตัวอายให้ลุกยืนขึ้น ก่อนจะดันตัวเธอไปติดกับเครื่องขายน้ำและก้มลงช้อนขาขวาของเธอขึ้นมาพาดบ่า ท่านี้ทำให้รูสวาทของอายจ่อตรงเข้ากับแท่งเอ็นยาวพอดิบพอดี

"ไม่!! ไม่!! ชะ ชะ ช่วยด้วย!!! มันจะข่มขืนหนู!! ฮือๆ" อายกรีดร้องตะโกนให้คนช่วย แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่หันมามองเพียงชั่วครู่และหันกลับไปทำกิจกรรมของตนเองเหมือนเดิม อายเริ่มรู้สึกปลงตกในชะตากรรมของตนเอง

"เสียแรงเปล่าอีหนู คนแถวนี้เค้าไม่อยากยุ่งเรื่องผัวเมียกันหรอก เรามาเริ่มยกสองกันดีกว่า ฮ่าๆ" ชายแปลกหน้าค่อยๆกดแท่งเอ็นแหวกชำแรกร่องเสียวของอายเข้าไปช้าๆจนสุดโค่น

"ซี๊ดดดดดด!!" อายอดสูดปากด้วยความเสียวไม่ได้ เพราะปลายหัวบานของชายแปลกหน้ากระทบเข้ากับมดลูกของเธออีกครั้ง

"แล้วเอ็งจะติดใจอีหนู" ชายแปลกหน้าพูดพลางถอนลำควยออกมาจนสุด เค้ายกตัวอายขึ้นเล็กน้อย แล้วปล่อยให้ตัวอายตกลงมาพร้อมกับเด้งเอวสวนเข้าไปเต็มที่ ส่งผลให้ลำลึงค์แทรกตัวเข้าไปในมดลูกของเธอจนสุด

"โอ๊ะ!!" อายเงยหน้าอ้าปากค้าง เธอส่งเสียงร้องออกมาได้เพียงคำเดียวก่อนที่หัวสมองจะขาวโพลนไปหมดจากความเสียวที่ได้รับ รูสาวของเธอขมิบตอดระรัวและพ่นน้ำสีใสพุ่งทะลักออกมาจนเจิ่งนองพื้น เธอถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิตคาท่อนลำของชายแปลกหน้าไปแล้ว แต่ชายแปลกหน้ายังคงไม่หยุด มันยังคงกระหน่ำแทงสวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ สร้างความเสียวถึงขีดสุดให้กับอาย

ตับ!! ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!!

"ซี๊ดดดดดด!! ปะ ปล่อยหนูไปเถอะหนูสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ซี๊ดดดดดด!!" อายอ้อนวอนด้วยความน่าสงสาร เพราะเธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปได้ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้

"ยังไม่ถึงเวลาหรอกอีหนู ข้ายังไม่หน่ำใจเลย รออีกเดี๋ยวเถอะ ฮ่าๆ" ชายแปลกหน้าตอบอย่างไม่สนใจและยังคงกระหน่ำเอวใส่อายต่อไป เพียงแต่ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป....

"เห้ย!! นี่มันเฮี้ยอะไรเนี่ย!!"

"กรี๊ดดด!! อุบาทว์ที่สุด!!"

เสียงผู้คนรอบกายเริ่มโวยวายเอะอะ ชายแปลกหน้าตกใจจนสะดุ้ง มันหันมองไปรอบๆก็พบว่าผู้คนบนชานชาลากำลังชี้ไม้ชี้มือมาที่ตัวเองและส่งเสียงดังโวยวายเต็มไปหมด รู้สึกตัวอีกทีทั้งคู่ก็ถูกล้อมรอบไปด้วยไทยมุงจำนวนมากที่กำลังส่งเสียงด่าทอในสิ่งที่เห็น ขณะที่ร่างกายของอายเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

อายเริ่มพยายามที่จะดิ้นขัดขืนโดยการพลิกตัวกลับ แต่เธอก็ยังทำได้ไม่ถนัดนัก เพราะรูเสียวของเธอยังมีท่อนลำของชายแปลกหน้าเสียบคาอยู่ มันกำลังหดตัวอย่างรุนแรงเพราะความตกใจจากเสียงรอบกายทำให้อายรู้สึกเสียวสะท้านไปทั่วร่องหลืบจนเรี่ยวแรงของเธอหดหายไปหมด

"ชะ ช่วยด้วยค่ะ มันข่มขืนหนู" อายพยายามดิ้นอีกครั้งพร้อมกับส่งเสียงเรียกให้คนช่วย ส่วนชายแปลกหน้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้าของมันเหมือนกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างที่ไม่สำเร็จ

แกร็ก!!/แกร็ก!!

"หยุดอย่าขยับและยกมือขึ้น!!! เราขอจับกุมแกในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราในที่สาธารณะ!!!" นายตำรวจนอกเครื่องแบบสองนายที่พึ่งจะฝ่าฝูงไทยมุงเข้ามา กำลังยกปืนพกชี้มาที่ชายแปลกหน้า พร้อมแสดงบัตรประจำตัวตำรวจ

"ตำรวจ!! แล้วพลังของข้าหล่ะ!! พลังของข้าหายไปไหน!!" ชายแปลกหน้าเอ่ยกับตัวเองก่อนจะหันหลังมา สีหน้าของมันดูตกใจเป็นอย่างมาก มันค่อยๆยกมือชูขึ้นเหนือหัวอย่างช้าๆ ตำรวจนายหนึ่งเก็บปืนพกไว้ที่เอว แล้ววิ่งมารวบมือชายแปลกหน้าลงไพล่ไว้ด้านหลัง ก่อนที่จะคล้องกุญแจมือเอาไว้ นายตำรวจคนที่เหลือจึงลดปืนลงและรีบวิ่งมาหาอาย

"น้องไม่เป็นอะไรนะครับ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆนะครับ ตอนนี้รีบใส่เสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวผมจะพาไปโรงพยาบาล แล้วเราค่อยไปให้ปากคำที่โรงพักกัน" นายตำรวจถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกและเอามาคลุมไว้ที่ร่างของอาย ก่อนที่จะพยุงให้เธอลุกยืนขึ้น อายจึงก้มลงหยิบกางเกงในและกระโปรงขึ้นมาสวมใส่จนเรียบร้อย และปล่อยให้นายตำรวจประคองร่างของเธอที่มีสีหน้าเหม่อลอยเดินฝ่าฝูงชนที่แหวกทางให้ลงบันไดของชานชาลาไปอย่างช้าๆ

"ส่วนมึงไอ้ชาติชั่ว!! มึงต้องไปโรงพัก! เอ้า!! เดินไป!!" นายตำรวจคนที่เหลือออกแรงผลักหลังชายแปลกหน้าให้เดินฝ่าฝูงชนตามไป มันค่อยๆเดินตามไปอย่างช้าๆสั่นหัวไปมาและบ่นอะไรพึมพำอยู่คนเดียว

"ทำไม....พลังของข้าถึงหายไป ไหนมันบอกว่าให้แล้วให้เลยไง ฮึ่ก!!  อ๊อกกก!! หะ หายใจ... ไม่... ได้..." สองมือของชายแปลกกุมไว้ที่หน้าอก หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว สีหน้าของมันแดงจัดและเปลี่ยนเป็นคล้ำลงอย่างรวดเร็วเพราะขาดอากาศ ร่างสกปรกล้มลงดิ้นทุรนทุรายจนตกบันไดไปโดยที่ไม่มีใครช่วยไว้ทัน ท่ามกลางความตกใจของนายตำรวจและผู้ที่อยู่รายล้อม

อายที่พึ่งจะก้าวเท้าลงจากบันได้ไปได้ซักพักได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากข้างหลังก็หันกลับไปมอง เธอจึงเห็นร่างของชายแปลกหน้ากลิ้งลงจากบันไดมาหยุดแน่นิ่งอยู่แทบเท้าของเธอ คอของมันหักจนหมุนได้รอบทำให้ใบหน้าของมันเงยขึ้น ตาของอายจ้องประสานเข้ากับดวงตาที่ไร้แววของมันพอดี

"กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!"

................................................................................................

ดวงตาสีครามคู่หนึ่งลอยอยู่ห่างๆค่อยเฝ้ามองดูเหตุการณ์นี้อยู่เงียบๆตั้งแต่ต้นจนจบ และเป็นเพราะเจ้าของดวงตาคู่นี้เอง ที่ส่งพลังของตนเข้าไปในตัวชายแปลกหน้าเพื่อให้ปอดเหนื่อยล้าจนหยุดทำงาน ทำให้ความสามารถในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง จนเป็นสาเหตุให้ชายแปลกหน้าสิ้นใจ สืบเนื่องมาจากไม่พอใจในการกระทำของตัวแทนแห่งตน

"เห้อ.... นึกว่าจะได้เรื่องแล้วเชียว... ดันโง่ไปทำประเจิดประเจ้อ นี่มันยุคไหนกันแล้ว ทำไมคนขี้เกียจถึงมีแต่คนโง่ๆนะ" เจ้าของดวงตาสีครามคู่นั้นบ่นกับตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายหลังจากเรียกดวงตาของตนกลับมาจากโลกมนุษย์ ร่างกายที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อสลัดฝุ่นและตะไคร่ที่ติดอยู่ให้หลุดออก ก่อนที่จะถอนหายใจและบ่นพึมพำอีกครั้ง

"เห้อ.... ต้องไปด้วยตัวเองจนได้ ไม่ค่อยอยากเลือกเจ้านั่นเลย แต่ก็ขี้เกียจหาคนใหม่แล้ว ได้พลังไปก็ไม่รู้จะช่วยเรารึเปล่า สงสัยเปลี่ยนคนครั้งนี้คงได้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วซิ" เจ้าของเสียงบิดร่างกายจนกระดูกลั่นกร๊อบแกร็บเพราะเอาแต่นอน

คำพูดสุดท้ายถูกเอ่ยออกมาก่อนที่ร่างนั้นจะหายวับไป

"เห้อ.... ขี้เกียจจัง"

................................................................................................

ทุกท่านสามารถเข้าไปแนะนำติชมเพิ่มเติม หรืออ่านเกร็ดเล็กน้อยได้ที่นี่
My living room [GoderSoul]...




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

gaingane

รูปประกอบได้ใจมากครับ อยากเจอตัวแทนคนใหม่แล้ว  ::Bloody::

facebeer

ผมชอบแนวนี้ครับดูพิเศษน่าติดตาม

forzakhan

ดีใจที่กลับมาเขียนต่อนะคะ จริงๆชอบเรื่องนี้มากๆ ดาร์คนิดๆ เถื่อนหน่อยๆ ชวนติดตามมากๆ

Asura4237

ขอบคุณนะครับ เหมือนเคยอ่านมาก่อนหน้านี้แล้ว รอตอนต่อนะครับ

sunnyman

ขอบคุณมากครับ เขียนใหม่เก็บรายละเอียดได้ มีมิติมากขึ้นนะครับ เดี๋ยวจะค่อยๆอ่าน lust นะครับ

nooy01

บอกได้คำเดียว ว่า...ชอบมากครับ แนวแบบนี้ อะไรที่เหนือธรรมชาติ อยากให้ออกมาเรื่อยๆ จะติดตามอย่างใกล้ชิดเลยครับ

axolotss

กลับมาอีกครั้งยินดีมากครับ ขอบคุณครับ

ssanya1204


may_290607908

เป็นเรื่องที่ชอบมากครับดีใจทีกลับมาเขียนอีกครั้งครับ

ppyyaa

รอการกลับมาครับ เนื้อเรื่องแบบนี้ชอบครับ เขียนได้น่าติดตามครับ

spty24

กลับมารีใหม่แล้ววว
ขอบคุณมากนะครับ

upperbound

รออยู่นะครับ ติดตามมาตั้งแต่ก่อน Rewrite แล้ว ... แต่งได้สนุกมากครับ ขอบคุณครับ

segasa

ตอนนี้เกลาใหม่เเล้วดูมีที่มาที่ไปมาขึ้นนะครับ

surway2532

 ::Bloody::เนื้อหาน่าติดตามคับ ส่วนรูปต้องบอกอื้อหื้อ