ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

น้องผิง ตอนที่ 17 – เกมใครเอ่ย

เริ่มโดย assasin008, มกราคม 12, 2017, 09:33:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

น้องผิง ตอนที่ 17 – เกมใครเอ่ย
.....................................
Assasin008 2017-01-12

        ขณะที่ผมกำลังอุ้มประคองร่างนุ่มนิ่มของน้องผิงอยู่ในอ้อมกอด เธอปรือตามองผมหวานหยาดเยิ้มเหมือนมีอารมณ์เต็มที่ ก่อนนี้เธอคงแอบแกล้งทำเป็นหลับ และรับรู้ฉากรักระหว่างผมกับสไปร์ท ตอนนี้เธอถึงได้แสดงสีหน้ามีอารมณ์เต็มที่ขนาดนี้ออกมา

        เด็กสาวแสนสวยไม่พูดอะไรสักคำ เธอมองผมเหมือนจะสื่อความหมาย ก่อนจะตวัดแขนขึ้นมาโอบรัดรอบคอของผม เธอขยับตัวหน่อยเดียวก็ประกบปากจูบกับผมทั้งที่ผมยังอุ้มเธออยู่ และสไปร์ทเองก็ยังนอนหอบอยู่ในห้องนี้ แต่ว่าผมไม่ได้ขัดข้องอะไรกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าหากเธอเสนอ ผมก็ยินดีสนอง

        น้องผิงส่งเสียงครางเบา ๆ ในลำคอตอนจูบปากแลกลิ้นกับผม เด็กสาวแสนสวยเหมือนนางฟ้าตัวน้อยคนนี้จูบเก่งขึ้นมากทีเดียว จูบของเธอทั้งหอมทั้งหวานจนผมเคลิ้มตัวลอย รู้ตัวอีกครั้งผมก็เดินเข้าไปในห้องพัก แล้ววางร่างนุ่มนิ่มของเธอลงบนเตียงแล้วนอนทับลงไปเสียแล้ว

        ผมถอนปากออกมาเพื่อมองดูใบหน้าแดงซ่านและร่างอ่อนระทวยในชุดว่ายน้ำวาบหวิวของน้องผิง ถึงก่อนหน้านี้ผมจะเพิ่งได้ลิ้มลองรสสวาทของเด็กสาวสวยวัยมัธยมมาตั้งสามคน ขวัญ เต้ย กับสไปร์ท นั้นนับว่าสวยน่ารักมากอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นดาราได้สบาย แต่ว่าน้องผิงนั้นยังสวยน่ารักยิ่งกว่า เธอทำให้หัวใจผมเต้นแรงควยลุกโด่ได้เสมอ ขนาดผมเพิ่งสอยเด็กสาวมาตั้งสามคน พอได้ฟัดนัวเนียกับน้องผิงสักหน่อย อารมณ์ผมก็หื่นฟื้นสภาพจนแข็งเป็นลำยาวทันที

        "นึกว่าพี่กายจะหมดแรงซะแล้ว จัดการเพื่อนหนูซะสลบหมดเลย"

        น้องผิงก้มหน้ามองดุ้นยาวใหญ่ของผม แล้วยิ้มหวานส่งเสียงแซวพร้อมกับตวัดสองขาขึ้นรัดรอบบั้นเอวผมเอาไว้ สะโพกของเธอเด้งร่อนเข้าหาไม่หยุด ท่าทางของเธอแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าอยากโดนผมจัดหนักแบบไม่ต้องเล้าโลมให้เสียเวลาอะไรอีกแล้ว

        "เหนื่อยขนาดไหน ถ้าเจอนางฟ้าคนนี้พี่ก็ควยลุกตลอดแหละ"

        ผมพูดหวานเอาใจพร้อมกับก้มหน้าลงไปจูบปากและขยับบั้นเอวจับจ่อกดลงไปในรูเสียวของน้องผิง เด็กสาวสูดปากครางเด้งผวากอดผมแน่นตอนที่ผมเดินหน้าสอดใส่เข้าไป สัมผัสสด ๆ ร้อน ๆ จากเด็กสาวสี่คนทำให้ผมยิ่งแน่ใจว่าน้องผิงนี่ล่ะที่สุดของที่สุดแล้ว ขนาดเต้ยกับขวัญเพิ่งโดนผมเปิดซิงครั้งแรก ร่องของพวกเธอก็ยังตอดได้ไม่เสียวเท่าของน้องผิงด้วยซ้ำ

        "อือออ ... อืมมมมม ... อืออออ ..."

        น้องผิงส่งเสียงครางหวานฉ่ำขณะที่ผมพยายามกัดฟันเดินหน้าเข้าไปในร่องสาวฟิตแน่นกระชับ พอสอดเข้าไปได้สุดลำจนสะดุดกึก ผมก็ต้องถอนจูบออกมาแล้วเป่าลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะร่องเธอมันเสียวสะใจมากจนผมแทบอยากปล่อยให้น้ำแตกใส่เธอไปเลยตั้งแต่ตอนนี้ด้วยซ้ำ ขนาดผมเอากับน้องผิงมาแล้วหลายครั้งก็ยังรู้สึกเสียวสุด ๆ

        ผมกดแช่ควยเอาไว้แบบนั้นก่อน แล้วก็ขยับหน้าลงไปจูบไซร้ซอกคอขาวเนียนของเด็กสาวด้วยความเมามันส์ น้องผิงเอียงคอเปิดทางให้ผมพร้อมกับส่งเสียงครางกระเส่า กลิ่นเนื้อสาวหอมหวานทำให้ควยของผมที่แช่อยู่ในร่องสาวกระตุกหงึกคึกคัก ร่องสาวของเธอก็ตอดตุบใส่ผมแบบไม่ยอมแพ้ เรียกว่าต่างฝ่ายต่างก็เสียวจนขนลุกแล้วตั้งแต่เริ่มต้น

        ผมค่อย ๆ กัดฟันขยับบั้นเอวซอยใส่เธอเบา ๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปบีบเคล้นเต้านมอวบล้นทะลักที่ทั้งใหญ่โตกว่าเพื่อนสาวอีกสามคน แถมยังเนื้อแน่นเด้งสู้มือยิ่งกว่าใครของน้องผิง ผมบีบแรงมากจนเธอตัวกระตุกสูดปากซี้ด ยิ่งผมบีบก็ยิ่งรู้สึกสะใจ ผมอยากจะก้มหน้าลงไปอ้าปากงับแล้วดูดแต่ว่าตอนนี้ผมกำลังกระเด้าใส่เธออยู่ และน้องผิงก็ตัวเล็กกว่าผมเล็กน้อย ผมเลยก้มหน้าลงไปดูดเลียอย่างที่อยากทำไม่ได้

        "อือออ ... อูยยสสสส ... อืมมมมม ... ซี้ดดสสสส"

        เสียงครางของเธอดังขึ้น ผมค่อย ๆ เร่งเครื่องกระเด้าเร็วขึ้นทีละน้อย น้องผิงตอนนี้นอนหลับตาปี๋สะบัดหน้าไปมาทำท่าเหมือนเสียวแทบขาดใจ เตียงนอนของเราเด้งยวบส่งเสียงดังกุกกักหนักขึ้น ผมเองก็สูดปากเสียวจี๊ดไปถึงสมอง รูเสียวของน้องผิงทั้งดูดทั้งตอดระรัวใส่ไม่หยุด

        เสียงหอบหายใจฟืดฟาดกับเสียงครางร้อนร่านของเธอทำให้ผมยิ่งตื่นเต้น ยิ่งได้เห็นน้องผิงหลับตาหลับตาปี๋แลบลิ้นเลียรอบปากสลับกับสูดปากส่งเสียงซี้ดซ้าดผมก็ยิ่งคึกคัก ถึงจะเจ็บเพราะโดนเล็บมือของเธอจิกลงไปแถวหัวไหล่ด้วยความเสียวอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าไม่มาก

        "ผิงจ๋า เย็ดมันสะใจที่สุดเลย อูย ของผิงมันตอดใส่ไม่หยุดเลย"

        ผมพูดชมเธอพลางขยับเปลี่ยนเป็นท่านั่ง ผมเร่งกระแทกขย่มเอวใส่แบบไม่ยั้ง เด็กสาววัยมัธยมปลายถึงกับดิ้นพราด ๆ ตัวเกร็งกระเด้งกระดอนไปมาอยู่บนเตียงนอน เธอส่งเสียงขอร้องผมหวานแหวว   

        "อูยยยยย ... พี่กายอย่าหยุดนะ ... อีกนิดเดียว ... พี่กายคะ ... อะ อ๊ะ ... อ๊ายยยยยยยยย"

        เมื่อเธอขอมาผมก็จัดให้ ผมไม่คิดจะหยุดอยู่แล้ว แถมยังเร่งกระแทกใส่หนัก ๆ แบบถี่ยิบ น้องผิงถึงกับดิ้นพราดสะบัดหน้าไปมาบนเตียงหนักกว่าเดิม รูเสียวของเธอตอดใส่ผมระรัวจนผมแทบทนไม่ไหว แต่ผมยังเดินหน้ากระแทกต่อไปแบบไม่มียั้ง

        ผมใส่เกียร์ห้าเร่งความเร็วได้อีกราวสองสามนาที น้องผิงก็ตัวกระตุกเฮือกส่งเสียงหวีด ผมเห็นแบบนี้ก็รีดพลังเฮือกสุดท้ายออกมาโหมกระแทกสุดแรงเท่าที่จะทำได้ แล้วผมก็ทำสำเร็จ ควยของผมเสียววาบกระตุกหงึกฉีดน้ำเงี่ยนหลั่งทะลักเข้าไปในรูเสียวของเด็กสาวตามเธอไปติด ๆ แค่ไม่กี่วินาที

        พอได้ปลดปล่อยน้ำออก ผมก็เหนื่อยหมดแรงจนต้องฟุบตัวลงไปนอนกอดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของนางฟ้าตัวน้อย ผมกอดเธอแน่นพร้อมกับดื่มด่ำความสุขเสียวที่ได้รับ เธอเองก็ใช้แขนขากอดรัดผมเอาไว้แนบแน่นไม่แพ้กัน แปลกหรือเปล่าที่ผมฟันผู้หญิงมาก็ไม่น้อย แต่ผมรู้สึกชอบความรู้สึกตอนได้เย็ดสดแตกในแล้วนอนกอดน้องผิงมากกว่าใคร

        "พี่รักผิงนะ"

        "หนูก็รักพี่ที่สุดในโลกเลย"

        ผมกระซิบพูดบอกรักที่ข้างหูของเด็กสาวเพื่อเพิ่มความหวาน น้องผิงเองก็บอกรักตอบด้วยเสียงหวานฉ่ำ เรานอนกอดซึมซับความสุขจากกันและกันอยู่อย่างนั้นพอสมควร ก่อนที่ผมจะค่อยขยับตัวลงมานอนหงายบนเตียง โดยมีเด็กสาวแสนสวยราวกับนางฟ้าขยับมานอนตะแคงหนุนแขนนอนกอดเบียดกอดผมเอาไว้อย่างแนบแน่น

        "พี่กายคะ ..."

        "อือ ว่าไง"

        "เพื่อน ๆ ของหนูเป็นไงบ้าง พี่ชอบหรือเปล่า"

        "หือ หมายถึงทั้งสามคนเลยเหรอ ชอบในแง่ไหนล่ะที่ผิงอยากรู้"

        "จะแง่ไหนอีกล่ะคะ พี่กายเล่นจัดการเสียจนสลบเหมือดกันทั้งสามคนแบบนั้นแล้ว"

        "ฮ่า ฮ่า นั่นซิ ไม่น่าถามเนอะ ... อืม พูดไงดี"

        ผมหัวเราะพลางพยายามใช้สมองคิด ถึงน้องผิงจะใจดีเอาเพื่อน ๆ ของเธอทั้งสามคนมาใส่พานถวายให้ผม แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วเธอคิดยังไงกันแน่ ผมเลยลังเลที่จะตอบ แต่คิดไปคิดมา ผมคิดว่าผมควรจะตอบไปตามตรง ยังไงน้องผิงก็ไม่ได้เป็นเด็กสาวโลกสวยไม่รู้ความ เธอฉลาดแก่นแก้วเข้าใจผมดีมากจนไม่อยากเชื่อเสียด้วยซ้ำ

        "เต้ย ขวัญ สไปร์ท ทั้งสามคนนิสัยน่ารักมาก แถมยังสวยอีกต่างหาก แต่ละคนนี่ไปเป็นนางแบบสบาย ๆ เลย"

        "แล้วพี่ชอบใครที่สุดคะ"

        "ชอบใครที่สุดเหรอ ก็ต้องชอบผิงน่ะซิ จะให้ชอบใครได้"

        ผมตอบพลางหันหน้าไปจับเธอมาจูบปาก น้องผิงหยิกใส่ผมเบา ๆ เหมือนจะเขิน แต่ก็ยิ้มกว้างจนเห็นไรฟัน ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ จะยังไงก็ตามเธอก็ต้องอยากเป็นที่หนึ่งเอาไว้ก่อน

        "ตอบให้ตรงคำถามหน่อยซิคะ ขวัญ เต้ย สไปร์ท สามคนนี้พี่กายชอบใครมากที่สุด"

        "สามคนนี้เหรอ ... เลือกยากนะ ... ความสวยน่ารักกินกันไม่ลง นิสัยก็คนละแบบ เต้ยเป็นเด็กช่างฝันเรียบร้อยขี้อาย ขวัญเป็นสาวมั่นชอบเป็นผู้นำดูแลคนอื่น สไปร์ทเป็นสาวเปรี้ยวรักอิสระไม่อยู่ในกรอบ ถ้าให้เลือกก็เลือกไม่ถูกหรอกนะ"

        "แหวะ ทำเป็นพูดดี ที่จริงก็แค่อยากจะรวบหมดทั้งสามคนก็บอกมาเถอะ"

        น้องผิงหยิกใส่แขนผมอีกครั้ง ผมเลยได้แต่หัวเราะแก้เก้อ เธอยังคงเป็นอย่างที่เป็น ผมคิดอะไรเธอเป็นต้องรู้หมด รู้ดีราวกับเป็นพยาธิอยู่ในลำไส้ของผมด้วยซ้ำ

        "โอเค โอเค ยอมรับก็ได้ว่าอยากเหมาหมด แต่ทั้งสามคนก็สวยน่ารักไปคนละแบบจริง ๆ นี่นา ... ว่าแต่เมื่อไหร่ผิงจะยอมบอก ว่าทำไมถึงพาเพื่อนสนิทตั้งสามคนใส่พานมาถวายให้พี่แบบนี้"

        ผมจับเธอมาหอมแก้มอีกหลายฟอด ก่อนจะพยายามพูดเข้าประเด็นหลัก ผมไม่เชื่อว่าน้องผิงจะทำแบบนี้โดยไม่มีเหตุผล เธอจะต้องมีอะไรบางอย่างที่สนับสนุนให้ทำเรื่องแบบนี้ และเหมือนว่าผมจะคิดถูก พอผมถามออกไปแบบนั้น น้องผิงก็นิ่งเงียบแล้วมองหน้าผมเหมือนลังเลที่จะพูดออกมา

        "พูดออกมาเถอะ เราผัวเมียกันมีอะไรก็บอกกันตรง ๆ"

        "พี่อ่ะ หนูยังไม่ได้เป็นเมียพี่เสียหน่อย"

        "พี่บอกว่าใช่ก็ใช่ซิ พูดมาได้แล้ว"

        "... ก็ ... คือ ... หนูอยากให้พี่รับเลี้ยงเพื่อนหนูทั้งสามคนไว้"

        "หา อยากให้รับเลี้ยงเนี่ยนะ"

        น้องผิงตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มไม่แน่ใจ ผมเลยส่งเสียงโพล่งออกไปด้วยความตกใจ ผมพยายามคาดเดาเหตุผลของผิงไว้แล้ว แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะอยากหาผู้หญิงอื่นมาอยู่ใกล้ผม เพราะมันผิดธรรมชาติของผู้หญิงทั่วไป ทีแรกผมคิดว่าเธอแค่อยากจะเอาใจผมแค่นั้น

        เด็กสาวเงยหน้ามองผมเหมือนจะเข้าใจว่าผมคิดอะไร จากนั้นเธอก็ขยับตัวลงไปนอนหงายแล้วถอนหายใจมองเพดานเหมือนจมดิ่มลงไปในความคิด ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากเล่าเรื่องออกมา

        "... ค่ะ รับเลี้ยง ... เต้ย ขวัญ สไปร์ท แล้วก็หนู พวกเราสี่คน นิสัยไม่เหมือนกัน มาจากครอบครัวต่างกัน แต่ว่าพวกเรามีอย่างหนึ่งเหมือนกัน ก็คือขาดความอบอุ่นทางครอบครัว"

        "เต้ยไม่มีพ่อแม่ต้องอยู่กับอาม่าที่ไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่ ขวัญยังมีพ่อแม่อยู่ แต่ว่าพ่อแม่แยกกันอยู่และมีครอบครัวใหม่ เธอเลยกลายเป็นลูกนอกคอก สไปร์ทมีแม่เป็นผู้หญิงขายตัวที่วัน ๆ เอาแต่เมาหล้าเมายา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ หนูยังโชคดีที่มีแม่คอยดูแล แต่ก็แทบไม่รู้จักกับพ่อตัวเอง แล้วหนูก็ยังโชคดีที่มีพี่กายอยู่ใกล้ ๆ"

        "หนูเคยคุยกับเต้ยว่าจะไปขายตัวพร้อมกับสไปร์ท เพราะว่าที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ส่วนขวัญถึงจะมีเงินให้ใช้ไม่ขาดมือ แต่เธอก็บอกว่าถ้าพวกเราขายตัวเธอจะไปขายด้วยกัน เราสี่คนรักกันมาก และถ้าวันนั้นหนูไม่มีพี่กายอยู่ใกล้ ๆ พวกเราก็คงจะไปเป็นผู้หญิงขายตัวกันแล้ว"

        ผมฟังผิงถึงตรงนี้ก็รู้สึกตกใจรีบหันไปมองเธอ แต่ผิงยังคงเงยหน้ามองเพดานห้อง และเริ่มพูดต่อ

        "วันนี้หนูมีพี่กายคอยช่วย หนูไม่ต้องไปขายตัวแล้ว ... แต่ว่าเพื่อนของหนูยังไม่มีที่พึ่ง ... ถ้าจะให้หนูปล่อยเพื่อนหนูไปเสี่ยงเจอคนไม่ดี หนูคิดว่าให้พวกเธอมาอยู่กับพี่กายเหมือนหนูดีกว่า อย่างน้อยพี่กายก็ไม่ได้เป็นคนเลว ถึงจะเจ้าชู้มากไปหน่อย แต่พี่กายไม่ได้ใจร้ายกับผู้หญิงตัวเอง"

        น้องผิงพูดแล้วหยุด ก่อนจะขยับตัวตะแคงข้างหันมามองผมจนผมเริ่มรู้สึกตึงเครียด เพราะว่าผมเองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรมากมายที่จะรับฝากอนาคตใครเอาไว้ ถึงผมจะไม่ได้ชั่วเลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีพอ ผมเป็นแค่ผู้ชายรักสนุกคนหนึ่ง

        ที่ผมเครียดก็เพราะว่าสิ่งที่ผิงกำลังทำ จะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอย่อมไม่ได้อยากหาผู้หญิงมาเพิ่มให้ผม แต่เธอกลั้นใจทำเพราะว่าใจดีเห็นแก่เพื่อน ๆ ให้ได้มีที่พึ่งพิง ตอนนี้ผมถึงค่อยได้รู้ว่าเธอรักเพื่อน และเธอไว้วางใจผมมากขนาดไหน เธอจึงยอมฝากความหวังไว้กับผม

        "... พี่กายช่วยรับเพื่อนหนูไว้ด้วยนะคะ อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเราจะเรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงตอนนั้นก็แล้วแต่พี่กายว่าจะทำยังไงต่อ ถ้าพี่รับปากหนูสัญญาว่าจะเชื่อฟังพี่กายทุกอย่าง สั่งอะไรหนูก็จะทำให้"

        น้องผิงมองตาผมพร้อมกับส่งเสียงอ้อนวอน ตอนนี้ผมรู้สึกอบอุ่นชื่นชมในความรักเพื่อนของเธอ และทำให้ผมยิ่งรู้สึกหลงรักเด็กสาวคนนี้มากยิ่งกว่าเดิม

    "ผิงใจดีจริง ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ ถ้าผิงมาบอกพี่ดี ๆ พี่ก็ยอมช่วยเลี้ยงดูเพื่อนผิงอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องมาทำแบบนี้ก็ได้ จำไว้นะถ้ามีอะไรก็บอกกันตรง ๆ ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าพี่ทำได้พี่จะช่วยแน่ ๆ ส่วนตอนนี้พี่รับปากว่าจะช่วยดูแลเต้ย ขวัญ กับสไปร์ทจนกว่าจะเรียนจบมหาลัย แล้วก็เป็นการส่งเสียแบบไม่เอาอะไรตอบแทนด้วย ไม่ต้องมาเป็นเมียน้อยหรืออะไร เข้าใจหรือเปล่า"

        ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้สึกแบบนี้จริง ๆ ผมชอบที่ผิงทำแบบนี้ และผมก็อยากตอบแทนเธอ ถึงเด็กสาวสามคนนั้นจะสวยน่ารักน่าฟัดใช่ย่อย แต่ผมก็อยากทำให้ผิงสบายใจ ผมคิดจะช่วยส่งเสียเพื่อนเธอโดยไม่ต้องมาพลีกายให้ผม จะยังไงตอนนี้ผมก็มีเมียผม มีแม่ของผิง มีเชอรี่ และมีผิงรวมเป็นสี่คนซึ่งนับว่ามากพออยู่แล้ว

        พอผมพูดแบบนี้ออกไป น้องผิงก็เบิกตากว้างมองผมเหมือนไม่อยากเชื่อ จากนั้นผมก็เห็นเธอยิ้มหวานที่สุดในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน รอยยิ้มของเธอในตอนนี้สวยมากจนผมหัวใจเต้นแรง เรียกได้แค่ว่ารอยยิ้มนี้ผมก็รู้สึกแล้วว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่ผมคิดจะทำ

        "พี่พูดจริงเหรอ ..."

        "อืม จริงซิ"

        "ขอบคุณค่ะ ... ขอบคุณ"

        น้องผิงถามย้ำก่อนจะพูดขอบคุณผม เธอมองผมตาหวานเยิ้มก่อนจะโน้มหน้ามาประกบปากจูบกับผมอย่างดูดดื่ม ผมเองก็เอื้อมมือไปกอดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของเธอเขามาหาแล้วจูบแลกลิ้นกันแบบไม่รู้จักเบื่อ เรานอนกอดจูบกันแบบนั้นนานพอควรทีเดียว ก่อนที่น้องผิงเธอจะตาปรือนอนหลับทั้งที่ยังกอดผมเอาไว้

        ผมขยับหน้าถอยห่างออกมาเล็กน้อย แล้วนอนมองดูความสวยน่ารักของเธอ ความรู้สึกตอนนี้มันอิ่มเอิบอบอุ่นเป็นพิเศษ จากนั้นผมก็อ้าปากหาว แล้วหลับตานอนกอดน้องผิงไปทั้งอย่างนั้น

   

    ...........................................

   

        แสงแดดที่ลอดหน้าต่างมาโดนหน้าทำให้ผมลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมา ผมลุกขึ้นมาจากเตียงในสภาพเปลือยเปล่าแล้วนั่งหาวหวอด ผมมองไปนอกหน้าต่างแล้วหันไปมองนาฬิกาบนฝาผนังมันบอกเวลาประมาณสิบโมงเช้าแล้ว ผมหลับไปนานพอสมควรทีเดียว แต่คงเป็นเพราะเมื่อวานโหมใช้เรี่ยวแรงจัดการกับสี่สาวมากไปหน่อย

        น้องผิงไม่อยู่ในห้องแล้ว เธอคงตื่นก่อนผมนานพอสมควร ผมเลยลุกขึ้นคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวปิดบังควยที่แข็งโด่ยามเช้าตามธรรมชาติ แล้วค่อยเดินไปยืนฉี่ในห้องน้ำ ระหว่างนั้นพอผมนึกไปถึงข้อตกลงที่ผมให้น้องผิงเอาไว้เมื่อคืน ผมก็รู้สึกเสียดายเล็ก ๆ ที่จะไม่ได้ลิ้มลองเด็กสาวน่ารักอย่างเต้ย ขวัญ และสไปร์ทอีก แต่ยังไงถ้าแลกกับการเอาใจน้องผิง ผมก็ยังรู้สึกว่าคุ้มค่าพอควร

        ผมยืนฉี่สักพักก็โดนรวบกอดมาจากด้านหลัง ผมคิดว่าน่าจะเป็นผิงเพราะว่าผมไม่ได้ปิดประตูเอาไว้ มือเล็กบอบบางสองข้างของเธอแปะลงบนหน้าท้องผม นมเต้านุ่มนิ่มเบียดใส่หลังของผม ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้า สัมผัสเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอน่าจะใส่แค่ยกทรงแต่ไม่ได้ใส่เสื้อ

        "ตื่นนานแล้วเหรอ"

        ผมทักไปโดยไม่ได้หันไปมองเพราะยังฉี่ไม่เสร็จ ตอนนี้รู้สึกขนลุกเล็ก ๆ เพราะว่าเธอกำลังหายใจรดใส่แผ่นหลังของผม แถมเธอยังขยับมือลูบลงมาจับมังกรน้อยของผมแล้วบีบใส่เบา ๆ ด้วย

        "ทำแบบนี้เดี๋ยวก็โดนอีกรอบหรอก"

        ผมพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับจับสะบัดสลัดให้สะอาดสะอ้าน จากนั้นผมก็ขยับตัวหันไปทางอ่างล้างหน้าเพื่อล้างหน้าล้างตาแปรงฟันเสียหน่อย แต่แทนที่เธอจะปล่อย เธอกลับเอาแต่ซุกหน้ากอดผมจากทางด้านหลัง แถมยังเบียดนมเต้าเสียดสีใส่หลังผมใหญ่ ผมเลยคิดว่าอาจจะต้องจัดให้น้องผิงสักรอบหลังล้างหน้าล้างตาเสร็จ

        นอกจากโดนกอดแล้ว ระหว่างที่ผมแปรงฟันไปก็มีมือนิ่มนิ่มช่วยบีบควยไปด้วยพร้อมกัน แถมเธอยังจูบหลังผมเป็นระยะ แบบนี้จะว่าไปก็รู้สึกดีแปลก ๆ เหมือนมีเมดสาวไว้เอาใจตั้งแต่เช้า แต่สักพักผมก็เริ่มรู้สึกเอะใจ เพราะว่ามือน้อย ๆ ที่รูดควยให้ผมดูเงอะงะไม่คล่องแคล่วจัดจ้านเหมือนอย่างที่น้องผิงเคยทำให้   

        ด้วยความสงสัย ผมเลยจับมือของเธอคลายออก แล้วหันไปมอง ก่อนจะพบว่าคนที่กอดผมไม่ใช่น้องผิงอย่างที่คิด แต่ว่าเป็นน้องเต้ยเด็กสาวขี้อายขาดความมั่นใจ

        "เต้ย?"

        ผมเรียกชื่อเธอด้วยความงุนงง แต่ก็แอบมองสำรวจรูปร่างหน้าตาที่แสนจะน่าฟัดของเต้ยไปพร้อมกัน ตอนนี้เต้ยยืนหน้าแดงก่ำในสภาพไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า เธอมีแค่ยกทรงและกางเกงในสีชมพูอยู่บนร่างกายเท่านั้น

        "อะ ... อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่กาย"

        เต้ยก้มหน้างุดไม่กล้ามองผม เธอพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักหน้าแดงเหมือนกำลังเขินเต็มที่ ผมแอบกลืนน้ำลายด้วยความหื่นเพราะเห็นแล้วอยากจับเธอมากอดฟัดให้หายมันเขี้ยว แต่ก็ยังอดใจเอาไว้ก่อน เพราะว่าผมตกลงกับน้องผิงไปแล้ว

        "ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ คนอื่นไปไหนกันหมด"

        "ผิง ขวัญ สไปร์ทออกไปซื้อของกินกันหมดค่ะ เหลือเต้ยไว้บริการพี่กายคนเดียว"

        "บริการ? แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดี ๆ"

        ผมถามอีกครั้งด้วยความรู้สึกงง ๆ เต้ยยังไม่ยอมตอบคำถามที่ว่าทำไมใส่ชุดแบบนี้ แถมยังพูดเรื่องบริการอะไรด้วย ผมเองก็นึกว่าผิงจะบอกเพื่อน ๆ เรื่องที่ผมตกลงกับเธอแล้วเสียอีก

        "พวกเราตกลงกันว่าจะใส่แบบนี้เวลาอยู่กับพี่กายค่ะ จะได้เป็นการตอบแทนบุญคุณที่พี่กายตกลงอุปการะพวกเราทั้งหมด"

        "... เดี๋ยวนะ ... แสดงว่าคุยกับผิงแล้วใช่หรือเปล่า แล้วผิงไม่ได้บอกเหรอว่าไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พี่ยินดีช่วยอุปการะแต่ไม่ต้องทำแบบนี้หรอก"

        "ค่ะ ผิงเล่าเรื่องที่คุยกับพี่กายให้ฟังหมดแล้ว ... พวกเราก็เลยตัดสินใจว่าพวกเรายิ่งต้องตอบแทนบุญคุณ ก่อนนี้พวกเราเตรียมใจจะเป็นเมียน้อยใช้ตัวแลกเงิน แต่พอได้ยินพี่กายบอกว่าไม่อยากได้อะไรตอบแทน พวกเราก็เลยตัดสินใจว่าจะให้พี่กายเป็นมากกว่านั้น พวกเราจะบริการพี่กายเหมือนคนรักของพวกเราเลย"

        เต้ยพูดพลางเงยหน้ามองผมตาหวานฉ่ำ ผมผ่านผู้หญิงมาไม่น้อยก็เลยพอจะเข้าใจผู้หญิงพอสมควร แววตาที่เต้ยมองผมตอนนี้คล้ายกับแววตาที่น้องผิงมองผม แต่ก็ผสมไปกับแววตาที่คล้ายกับแม่น้องผิงมองผมไปด้วยพร้อมกัน

        ถ้าจะให้อธิบายรายละเอียด แววตาของน้องผิงที่มองผม จะเป็นอารมณ์ความรัก เหมือนรักครั้งแรก รักครั้งเดียว มุ่งไปเรื่องความรักเป็นหลักไม่มีอย่างอื่นเจือปน แต่แววตาที่แม่น้องผิงมองผมนั้นจะออกไปแนวเหมือนสำนึกขอบคุณหวังพึ่งพิง ใช่ครับน้องผิงมองผมเป็นชายคนรัก แต่แม่น้องผิงเธอมองผมในแง่ของคนที่สามารถพึ่งพิงได้ ส่วนแววตาของน้องเต้ยจะให้ความรู้สึกผสมระหว่างสองอย่างนี้

        "พี่กายจะอาบน้ำหรือเปล่าคะ เดี๋ยวเต้ยช่วยอาบให้"

        ระหว่างที่ผมยืนคิด เต้ยก็ก้มหน้าลงไปมองควยผมที่กำลังแข็งเป็นลำแล้วหน้าแดง เธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มขัดเขิน แต่ก็แฝงความตั้งใจแรงกล้าเหมือนอยากทำให้ผมพึงพอใจให้มากที่สุด และผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเธอในตอนนี้

        "อืม ก็ได้ ... เดี๋ยวนะ ... แล้วผิงว่ายังไงกับเรื่องนี้"

        ผมพยักหน้ารับข้อเสนอ แต่ก็หยุดชะงักแล้วหันไปถามเพราะไม่แน่ใจว่าน้องผิงคิดยังไง เพราะว่าแรกสุดแล้วผมเป็นห่วงความรู้สึกของผิง ผมเลยไม่อยากรับเพื่อนสนิทของเธอทั้งสามคนมาเป็นเมียน้อย แต่สุดท้ายไป ๆ มา ๆ เรื่องราวก็วกกลับมาเหมือนเดิม

        "เราคุยกันแล้ว ผิงตกลงค่ะ ... อุ๊ย ... อืมมมม"

        เต้ยตอบผมแล้วส่งเสียงร้อง พอผมได้ยินว่าน้องผิงเห็นดีเห็นงามด้วย ผมก็เลยจับเต้ยมากอดแล้วจูบปากไซร้ซอกคอด้วยความหื่น โดนยืนยั่วแบบนี้ตั้งนานผมยังทนได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว ตัวเธอหอมกลิ่นสบู่เหมือนเพิ่งอาบน้ำมาไม่นาน

    ผมจูบพลางจัดการปลดยกทรงแล้วอ้าปากงับกินนมเด็กยามเช้าเพื่อสุขภาพ เต้ยถึงกับตัวอ่อนระทวยร้องครางออกมาเสียงหวานแหวว ตามหลักการแล้วเต้ยก็เพิ่งโดนสอยไปครั้งเดียว เรียกว่ายังไร้เดียงสาอยู่ เจอแค่นี้จะตัวอ่อนก็ไม่แปลก

        ผมกอดจูบสักพักจนเต้ยตัวร้อนฉ่าขึ้นมา แล้วผมก็หยุดหันมากอดมองหน้าเธอ เพราะอยากหยอกเธอเล่นอีกสักหน่อย

        "แล้วเต้ยล่ะ คิดว่ายังไง ที่ทำแบบนี้เพราะว่าต้องฝืนใจทำตามเพื่อนหรือเปล่า"

        เต้ยค่อย ๆ ปรือตามองผมตาหวานฉ่ำ เธออ้าปากทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็เปลี่ยนเป็นเม้มปากไม่ยอมพูดออกมา ท่าทางของเธอเหมือนไม่กล้าพูด แต่พอโดนผมจ้องตานานเข้าหน่อย เธอก็ยอมเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนเกือบไม่ได้ยิน

        "ไม่ได้ฝืนใจค่ะ ... หนูชอบพี่ ... ชอบจริง ๆ นะ อยู่กับพี่แล้วสบายใจ หนูรู้สึกว่าพี่จะไม่หักหลังทำร้ายหนู แถมตอนอยู่กับพี่ หนูยัง ... มีความสุขด้วย"

        น้ำเสียงพลุ่งพล่านของเต้ยทำให้นึกอะไรบางอย่างได้ ผมจำได้ว่าเต้ยนั้นเคยมีแฟนและเธอรอดเสียตัวให้แฟนไปได้แบบหวุดหวิด แต่แฟนเธอดันเป็นพวกปากสว่างเอาเรื่องไปคุยอวดในห้อง ยังดีที่ขวัญกับสไปร์ทช่วยจัดการให้เรื่องเลยไม่บานปลาย แต่ตอนนั้นเต้ยคงจะเจ็บปวดพอสมควรที่โดนแฟนทำแบบนั้น

        ถึงจะแบบนั้น แต่เสือผู้หญิงแบบผมก็ยังสังเกตเห็นว่าเต้ยเป็นเด็กสาวแบบที่เสือผู้หญิงชอบ เธอเป็นประเภทไร้เดียงสา โหยหาความรัก ช่างคิดช่างฝัน มองโลกในแง่ดี ถึงจะเจ็บมาแล้วแต่ก็ยังขาดความระมัดระวังเปิดใจยอมรับคนง่าย ยิ่งเธอเริ่มรู้จักผมผ่านทางน้องผิง เธอก็เลยสนิทสนมโดยไม่รู้ตัว แล้วผมเองก็คุยเก่งพอรู้ว่าต้องคุยกับใครยังไง ยิ่งโดนผมจัดการเปิดซิงจนรู้จักรสเสียวผมก็แน่ใจว่าเต้ยน่ะต้องติดผมแจแน่ ๆ

        "อืม พี่ก็ชอบเต้ยเหมือนกัน เต้ยน่ารักดี"

        ผมยิ้มแล้วพูดเอาใจจนเต้ยยิ้มแก้มแทบปริ แต่ผมก็ไม่ได้โกหกนะ ผมชอบเต้ยเพราะเธอสวยน่ารัก แต่ผมไม่ได้ใช้คำว่ารักแบบที่ใช้กับน้องผิง เพราะว่าผมไม่ได้รู้สึกกับเธอรุนแรงขนาดนั้น ถึงอย่างงั้นผมก็แน่ใจว่าเด็กช่างฝันอย่างเต้ยจะต้องตีความหมายในคำพูดของผมไปอีกแบบ เธอจะต้องคิดว่าผมรักเธอมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน

        พอพูดเอาใจเด็กช่างฝันอย่างเต้ยเรียบร้อย ผมก็จูงมือเธอเดินเข้าไปอาบน้ำ ตอนแรกเต้ยบอกว่าจะช่วยผมอาบน้ำ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เด็กสาวไร้เดียงสาอย่างเธอก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอกครับ โดนผมนี่แหละจัดจนเสียวร้องครางลั่นห้องน้ำอย่างเดียวเลย

        ผมจัดการเปิดน้ำอุ่นแล้วประคองเต้ยไปยืนอาบน้ำ ผมทั้งจูบทั้งล้วงตั้งใจทำให้เธอติดใจในลีลา แต่มีปัญหานิดหน่อยตอนที่ผมล้วงมือลงไปแตะร่องเสียว เธอสะดุ้งเจ็บเพราะว่าหอยยังบวมเป่งอยู่ ก็แน่ล่ะเพิ่งโดนควยใหญ่ยักษ์ของผมเปิดซิงไปเมื่อคืนนี้เอง

        ถึงผมจะหื่น แต่ผมก็ไม่ใจร้ายรีบจัดอีกรอบหรอก ยังไงผมก็ได้ระบายมาเมื่อวานจนอิ่มเอมแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยากทำให้เต้ยติดใจผมให้มากที่สุดก่อน ผมเลยจับเต้ยไปยืนพิงผนังห้องน้ำ จับขาเธอพาดบ่าแล้วจัดการก้มหน้าก้มตาใช้ปากใช้ลิ้นค่อย ๆ เลียลิ้มรสหอยเกลี้ยงเกลาของเธอไปก่อน

        ผมป้อนลีลาเต็มที่จนเต้ยดิ้นพราด ๆ เหมือนจะขาดใจ ถ้าใครเห็นหน้ากับเสียงครางของเต้ยตอนนี้แล้วควยไม่ลุกล่ะก็รับรองว่าไม่ใช่ผู้ชายแน่ ผมเลียไปเรื่อยด้วยความเอร็ดอร่อย หอยเด็กทั้งสดทั้งสะอาดแบบนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเบื่อ

        ผมใช้แค่ปากและลิ้นแค่นี้แหละ จัดการจนเต้ยตัวกระตุกขึ้นสวรรค์ไปสามรอบติด ๆ กัน เธอหน้าเคลิ้มถึงกับยืนไม่ไหวตอนที่ผมประคองจับเธอยืน สุดท้ายผมเลยปล่อยให้เต้ยนั่งพักไประหว่างที่ผมหันมาอาบน้ำถูสบู่ พออาบเกือบเสร็จโน่นแหละ เต้ยถึงค่อยลุกขึ้นยืนไหว เธอบอกผมว่าจะช่วยผมล้างคราบสบู่

        เต้ยใช้มือสองข้างช่วยขัด ๆ ถู ๆ ล้างครบสบู่บนตัวผม เธอทำท่าเขินนิด ๆ ตอนที่เอื้อมมือลงไปขัดถูดุ้นยาวใหญ่ให้ผม แต่สักพักเธอก็มองผมตาแป๋วแล้วทรุดตัวลงนั่งอ้าปากเลียให้ แน่ล่ะว่าผมย่อมไม่ได้ห้ามอะไร ผมยืนเสพความเสียวที่ลีลาอ่อนชั้นเชิงของเต้ยมอบให้ แต่ถึงจะยังไม่ประสีประสาเต้ยก็พยายามทำอย่างเต็มที่เท่าที่เธอทำได้ ท่าทางของเธอเหมือนอยากทำให้ผมพอใจมากที่สุด

        ผมปล่อยให้เต้ยดูดเลียสักพักก็สะดุ้งโหยง เพราะว่าที่หน้าประตูห้องน้ำนั้นไอ้เพื่อนของผมที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทกำลังยืนมองฉากรักของผมกับเต้ยด้วยสายตาหื่นกลัดมันอยู่

        "เฮ้ย ไอ้เวร มาเมื่อไหร่วะ"

        ผมส่งเสียงโวยวายพร้อมกับขยับมายืนบังให้เต้ย เต้ยเหมือนจะยังงง ๆ แต่พอเธอหันไปมองเห็นไอ้เพื่อนเวรของผม เธอก็ส่งเสียงร้องวี้ดว้ายรีบหันหลังแล้วหยิบเอาผ้าขนหนูบนราวมาพันตัวเองเอาไว้ ไอ้เพื่อนเวรของผมพอเห็นแบบนี้ก็บ่นจุ๊ ๆ ทำเสียงเสียดายที่ไม่ได้ดูต่อ

        "อะไรวะ เพิ่งได้ดูหน่อยเดียวเอง ก็เห็นเปิดประตูทิ้งไว้ กูในฐานะเจ้าของรีสอร์ทก็ต้องเดินมาดูความเรียบร้อยซิวะ เผื่อมีโจรอะไรจะได้ช่วยป้องกันให้มึงไง"

        "ไอ้เวร เจตนาจะมาดูก็ไม่ต้องทำพูดดี ถอยออกไปเลยไป เดี๋ยวกูใส่เสื้อผ้าก่อน"

        ผมส่งเสียงโวยใส่มัน มันเลยหัวเราะร่วนแล้วถอยออกไป ตอนนี้ผมค่อยหันไปบอกเต้ยว่าไม่เป็นอะไร แล้วผมก็หยิบผ้าขนหนูพันรอบเอว เดินออกจากห้องน้ำลากไอ้เพื่อนเวรออกไปด้านนอกที่พัก ไอ้เพื่อนเวรก็เลยส่งเสียงบ่นอุบอิบออกมาชุดใหญ่

        "มึงนี่มันเพื่อนเลวว่ะไอ้กาย มีเด็กสาวสวยตั้งสี่คน ไม่แบ่งให้เพื่อนกันบ้างวะ หวงของจริง ๆ เด็กคนนี้ก็ใช้ได้นะ ขอสักทีซิวะ"

        "ไม่เอาโว้ย มึงก็รู้ว่ากูไม่ใช่สายแบ่งปัน ของกูกูหวง"

        "เออ กูรู้ว่ามึงมันไม่แบ่งใคร เอ้า แล้วยังไงวะเมื่อคืน จัดเด็กสี่คนเลยเหรอวะ ไหนเล่าให้ฟังหน่อย เล่นท่าไหนยังไงบ้าง เอาแบบละเอียด"

        "มึงเอาคลิปไปดูเลยมั้ย ถ้าจะให้เล่าขนาดนั้น"

        "ถ้ามีคลิปก็ดีว่ะ เอามาเลย"

        "เวร ไม่มีโว้ย"

        ผมโวยวายใส่มัน แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะครับ พวกเราก็แค่หยอกเล่นกันตามปกติ เพราะสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน พวกเราออกไปแข่งจีบสาวกันมาแล้วหลายครั้ง มีแย่งสาวคนเดียวกันบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร อย่างดีก็แค่ขู่กันฮึ่ม ๆ พอเป็นพิธีแล้วก็จบเรื่อง

        ระหว่างที่เรายืนคุยกันน้องผิง ขวัญ สไปร์ท สามสาวที่ออกไปซื้อของกินในตลาดใกล้ ๆ ก็เดินกลับมาพอดี พวกเธอหอบหิ้วข้าวของมาเต็มไปหมด ทั้งที่เมื่อวานตอนขามาก็แวะซื้อของจนเต็มตู้เย็นแล้ว

        ไอ้เพื่อนเวรของผมพอเห็นเด็กสาวสุดน่ารักสามคนก็ตาลุกวาว มันมองพวกเธอตาเป็นมันโดยเฉพาะน้องผิงเมียเด็กของผมที่สวยเปล่งปลั่งกว่าคนอื่นในกลุ่ม

        ผมพยายามออกปากไล่มันไป แต่มันไม่สนใจ มันหน้าด้านนั่งกินข้าวกลางวันกับผมและสาว ๆ อย่างแนบเนียน เพราะมันเองก็เหมือนผมนั่นแหละ เป็นพวกเสือผู้หญิง พวกเรารู้ว่าต้องพูดคุยกับผู้หญิงยังไง แล้วในกรณีนี้ไอ้เพื่อนเวรคนนี้ของผมก็กำลังทำการขายเพื่อน ซึ่งก็คือการขายข้อมูลผมนี่แหละ

        ตอนนี้เด็กสาวทั้งสี่คนก็เป็นเหมือนเมียผมแล้ว พวกเธอยังไงก็ต้องอยากรู้เรื่องของผมให้มากที่สุด พอไอ้เพื่อนเวรของผมมันเริ่มการเผา พวกเธอก็เลยตั้งใจฟังและไม่ได้แสดงท่าทีไล่แขกอะไร สุดท้ายผมเลยได้แต่ต้องปล่อยให้มันเกาะอยู่ในกลุ่มต่อไปจนถึงตอนเย็น

        ช่วงเย็นเด็กสาวเริ่มเปลี่ยนไปใส่ชุดว่ายน้ำลงไปเล่นน้ำทะเล ไอ้เพื่อนผมก็ยิ่งเกาะติดไม่ยอมไปทำงานทำการ มันลงไปเล่นทะเลกับสาว ๆ ด้วยหน้าตาเฉย ผมเลยต้องลงไปเล่นน้ำด้วยทั้งที่ไม่ได้อยากเล่น เพราะว่าผมต้องคอยไปดักทางไม่ให้มันลวนลามสาว ๆ ของผมอย่างที่มันตั้งใจ

        พอมีผมคุมอยู่ มันก็เลยไม่ได้ทำอะไรมาก อย่างดีมันก็แค่ได้มองขามองนมมองก้นพวกเธอแบบหื่น ๆ ไอ้เพื่อนเวรนี่ก็เข้าใจแกล้งผม มันมุ่งเป้าไปที่น้องผิงเป็นหลักแบบออกนอกหน้าในตอนแรก แต่มันแกล้งทำเป็นว่าเล่นไล่จับอะไรแนวนั้น

        แผนของมันนับว่าได้ผลทีเดียว พอบอกว่าเล่นไล่จับมันก็เลยมีโอกาส เด็กสาววิ่งหนีส่งเสียงร้องวี้ดว้ายกันยกใหญ่ ผมเห็นมันฉวยโอกาสคว้ากอดเต้ย กับสไปร์ทไปคนละหลายครั้ง ขวัญเป็นนักกีฬาเลยคล่องแคล่วพอดู ผมเห็นเธอหลบมันได้ตลอดเลยรอดตัวทุกครั้ง

        สไปร์ทเป็นเด็กสาวรักสนุก ผมรู้สึกว่าเธอแกล้ง ๆ ปล่อยให้โดนจับบ้างเป็นบางครั้ง ถ้าจะบอกว่าเจตนายั่วก็เป็นไปได้ และทุกครั้งที่เธอโดนจับ เธอจะแอบส่งสายตามองผมเหมือนจะถามว่าหึงหวงหรือเปล่า ส่วนผมเองพอเห็นเธอเป็นแบบนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นเล็ก ๆ ตามไปด้วย

        เต้ยสาวขี้อายนั้นไม่เล่นด้วยอยู่แล้ว แต่เธอออกจะเชื่องช้าสักหน่อย เลยโดนคว้าไปกอดหลายรอบ มีครั้งหนึ่งที่เธอโดนมันลากไปตรงน้ำลึก เต้ยว่ายน้ำไม่เป็นเลยส่งเสียงกรี๊ดกอดมันแน่น ผมเดาได้เลยว่าตอนนี้มือของไอ้เพื่อนเวรจะต้องฉวยโอกาสล้วงขยำเนื้อตัวของเต้ยไปแล้วหลายครั้ง เพราะตอนที่มันลากเต้ยกลับมาส่งตรงน้ำตื้น เต้ยเธอหน้าแดงมาเลย

        ผมเห็นแบบนี้ก็เลยจับมันกดน้ำสั่งสอนพอเป็นพิธี ความจริงผมก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธอะไรกับมันหรอก ยังไงเราก็สนิทกันพอควร และเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราเคยใช้ผู้หญิงร่วมกันมาแล้วหลายครั้ง ผมเลยไม่ได้มองว่าการลวนลามแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่โต ผมแค่อยากให้แน่ใจว่ามันไม่ฝืนใจทำให้สาว ๆ โกรธหรือไม่สบายใจก็พอ

        แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมยกเว้นน้องผิงไว้หนึ่งคน ผมยอมรับว่าผมอาจจะรู้สึกสนุกที่สาว ๆ โดนลวนลาม แต่พอนึกถึงน้องผิงแล้วผมกลับหงุดหงิดรู้สึกยอมไม่ได้เด็ดขาด ตลอดเวลาผมเลยประกบน้องผิงแจจนไอ้เพื่อนเวรมันไม่มีโอกาสทำอะไรได้

        ความจริงก็ไม่ใช่เพื่อนผมคนเดียวหรอกที่สนุก ผมว่าสาว ๆ ก็สนุกกันพอสมควร ส่วนผมเองก็จับสาว ๆ มากอดปล้ำขยำล้วงจนอิ่มหนำเหมือนกัน ที่ต่างกันก็คือของผมสาว ๆ สมยอมอยู่แล้ว ผมเลยจับโน่นขยำนี่ได้เท่าที่อยากจะทำ มีอยู่หลายครั้งที่ผมคิดอุตริอยากทำกับน้องผิงกลางทะเลตรงนั้นเลย แต่พอผมทำท่าจะดึงกางเกงว่ายน้ำเธอลง น้องผิงก็หยิกผมแล้วผละหนีออกห่างทันที

        น้องผิงเธอไม่ใจกล้าพอ แต่สไปร์ทนั้นไม่เหมือนกัน พอมีโอกาสให้ผมลวนลาม สไปร์ทก็ล้วงมือมาจับแล้วบีบของผมเล่นเหมือนกัน แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือสาวขี้อายอย่างเต้ย มีจังหวะหนึ่งที่เธอโดนเพื่อนผมลากไปที่น้ำลึก แล้วผมตามไปช่วย

    ผมไม่แน่ใจว่าเธอโดนมันทำอะไรมาบ้างที่ใต้น้ำ แต่พอผมช่วยมาได้เธอก็กอดผมแน่นแล้วส่งเสียงหอบหายใจฟืดฟาด ผมรู้สึกได้เลยว่าหัวนมเธอแข็งดันชุดว่ายน้ำออกมาเป็นเม็ด เต้ยเธอล้วงมือเข้าไปในกางเกงแล้วจับของผมรูดรัว ๆ จนผมเสียวแปลบตัวงอแทบเดินไม่ไหว ไอ้เพื่อนเวรที่ตามมาด้านหลังก็หันมาพูดหยอกเต้ยว่านมเนื้อแน่นเต็มไม้เต็มมือดีอีกต่างหาก

        ยังดีน้องเต้ยไม่ได้แสดงท่าทีโกรธไม่พอใจอะไร เธอแค่เขินจนไม่กล้ามองหน้ามัน ก็อย่างว่าล่ะครับผมกับเพื่อนเป็นพวกเสือร้ายมากประสบการณ์ พวกเรารู้ว่าควรเข้ายังไงถอยยังไง เต้ยเองก็เป็นแค่กวางน้อยเนื้ออ่อนไม่ประสีประสา โดนหลอกลวนลามขนาดนี้เธอก็ยังไม่ว่าอะไร

        พอยิ่งเล่นสนุกอารมณ์ก็พาตามกันไป ผมเริ่มเล่นสนุกรวมหัวกับเพื่อนไล่จับสาว ๆ พาไปน้ำลึก แล้วร่วมกันช่วยลวนลาม พวกเธอส่งเสียงวี้ดว้ายดิ้นหนี แต่ไม่ได้หนีขึ้นไปบนฝั่ง ก็แปลได้ชัด ๆ ว่าสนุกไปด้วยนั่นแหละครับ เพียงแค่พอมีจริตอยู่บ้าง

        สไปร์ทโดนพวกเราลากไปคนแรก เธอโดนล้วงขยำจนตัวตัวอ่อนหน้าแดง แต่สไปร์ทเองก็ล้วงมือมาจับควยผมกับเพื่อนแล้วบีบ ๆ ขยำไปด้วย เราสามคนเลยได้เสียวไปพร้อมกัน

        คนที่สองคือขวัญ ถึงเธอจะไวจนเพื่อนผมจับไม่ได้ แต่พอพวกเราสองคนช่วยล้อม แถมสไปร์ทก็ช่วยด้วยอีกคน ขวัญก็โดนผมรวบลากไปตรงน้ำลึกได้สำเร็จ เพื่อนผมมันคงเก็บกดจับขวัญไม่ได้สักที พอตอนนี้มีโอกาสมันเลยล้วงมือเข้าไปในกางเกงในแล้วเขี่ยรัว ๆ จนขวัญตัวกระตุกหลับตาปี๋

        จริง ๆ ผมก็มองไม่เห็นหรอกว่ามันทำอะไร เพราะอยู่ใต้น้ำ แต่ตอนที่ผมล้วงมือลงไปก็เจอว่ามือของมันแย่งพื้นที่ไว้ก่อนแล้ว ผมหันไปด่ามันทีหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนเป้าหมาย ขยับมือมาบีบนวดขยำนมให้ขวัญแทน สรุปว่าขวัญโดนรุมจนหน้าแดงก่ำ เธอคงมีอารมณ์เต็มที่แล้ว ถ้าผมปล่อยต่ออีกหน่อยขวัญคงโดนเกี่ยวเบ็ดให้จนเสร็จคามือเพื่อนผมแน่ ๆ แต่ผมอยากแกล้งคน เลยขัดจังหวะลากขวัญกลับไปตรงน้ำตื้น

        ขวัญมองผมด้วยสายตาร้อนแรงแต่ไม่ได้พูดอะไร ส่วนไอ้เพื่อนเวรของผมนั้นส่งเสียงบ่นอุบอิบ แต่มันก็ไม่ได้อะไรมาก มันคงรู้ล่ะว่าได้ขนาดนี้ก็มากพอควรแล้ว แถมยังมีสาวคนอื่นให้เล่นอีก

        เหยื่อรายที่สามของเราคือเต้ย เต้ยดิ้นรนร้องวี้ดว้ายพอเป็นพิธีตอนที่เราสองคนลากเธอไปตรงน้ำลึก แต่พอโดนกอดล้วงขยำเข้าหน่อยก็หลับตาปี๋ร้องครางออกมาทันที ตอนนี้เธอโดนผมกับเพื่อนแซนด์วิซอยู่ตรงกลาง ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอโดนเพื่อนผมทำอะไรบ้าง แต่รอบนี้ผมรีบล้วงมือลงไปชิงจุดยุทธศาสตร์ก่อนหน้ามันได้สำเร็จ

        ผมแยงนิ้วลากเข้าลากออกถี่ยิบ เต้ยตัวกระตุกกอดผมแน่น เธอจิกเล็บบนไหล่ผมแล้วหอบหายใจฟืดฟาด รอบนี้ผมปล่อยให้นานกว่าปกตินิดหน่อย น้องเต้ยเลยโดนผมเกี่ยวเบ็ดให้จนดิ้นพราดตัวเกร็งเสร็จคานิ้วผมไปหนึ่งรอบ แต่เธอก็พยายามเก็บอาการนะ เม้มปากไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมาสักแอะ

        พอผมพาเต้ยกลับไปตรงน้ำตื้นผมก็รู้สึกว่าความซวยมาเยือน ก่อนหน้านี้ผมเล่นกับสไปร์ท เต้ย แล้วก็ขวัญแบบไม่คิดอะไรมาก และผมก็ไม่ได้คิดจะทำแบบเดียวกันกับน้องผิงเพราะหวงของดี แต่พอมาเห็นสไปร์ทกับเต้ยช่วยกันจับน้องผิงรอผมไว้ ผมก็ทำตัวไม่ถูก ถ้าจะปล่อยผิงไปคนเดียว เดี๋ยวก็จะกลายเป็นปฏิบัติไม่เท่าเทียม และเรื่องแบบนี้สาว ๆ ถือกันมาก

        ไอ้เพื่อนเวรของผมก็ตาลุกวาวเหมือนรอโอกาสทองแบบนี้มานานแล้ว ผมถึงกับเหงื่อตกทำตัวไม่ถูก มองไปน้องผิงเองก็คงลำบากใจ เพื่อนเธอโดนกันถ้วนหน้า ถ้าเธอไม่โดนคนเดียวก็ดูไม่ดี แต่จะให้ผมลากเธอไปให้ไอ้เพื่อนเวรมันรุมลวนลามผมก็ทำใจไม่ลงเหมือนกัน

        โชคดีมากที่ตอนผมกำลังลังเล เม็ดฝนก็ร่วงลงมาห่าใหญ่ ผมนึกขอบคุณสวรรค์รีบอ้างเรื่องฝนพาสาว ๆ กลับเข้าไปในที่พัก ผิงเองก็ถอนหายใจเหมือนจะโล่งอก แต่เพื่อนผมกับสามสาวที่เหลือพากันส่งเสียงบ่นอุบอิบเสียดายกันยกใหญ่

        พอกลับเข้าที่พักเพื่อนเวรของผมมันก็ยังเกาะแน่นไม่ยอมไปไหน เอ่อ ... จะว่าไป ผมก็ลืมบอกชื่อไอ้เพื่อนคนนี้ไปเลย ความจริงแล้วมันชื่อเวนย์ (Wayne) เป็นชื่อภาษาอังกฤษเพราะมันเป็นลูกครึ่งไทยฮ่องกง แต่ผมติดปากเรียกมันว่าไอ้เวร หรือไอ้เพื่อนเวรแทน ก็ช่วยไม่ได้ ชื่อมีเยอะแยะดันไม่ตั้ง

        ไอ้เวนย์หรือไอ้เวร สวมบทหน้าด้านถึงที่สุด ผมตั้งใจจะพาสี่สาวไปเล่นน้ำอุ่นในอ่างจากุชชี่แบบหนึ่งต่อสี่ ผมอุตส่าห์ออกปากไล่มันแล้ว แต่ไอ้เพื่อนเวรมันดันตามติดกระโดดลงไปในอ่างหน้าตาเฉย ผมเลยได้แต่ยอมให้กับความหน้าด้านของมัน แต่จะว่าไปผมเองก็ไม่ได้คิดไล่มันจริงจังด้วยนั่นแหละ

        "ไอ้กาย มึงนี่มันน่าอิจฉาจริง ๆ ว่ะ เด็กมึงสวยเด็ดน่าเอาทั้งสี่คนเลย แถมยังนิสัยน่ารักคนละแบบคนละสไตล์อีก โดยเฉพาะน้องผิงของมึง เห็นแล้วของขึ้นว่ะ สวย น่ารัก ขาว นมใหญ่ น่าฟัดชิบหาย"

        เพื่อนของผมนั่งแช่น้ำอุ่นในอ่างพลางพูดออกมาด้วยเสียงหื่น ๆ มันมองสี่สาวโดยเฉพาะน้องผิงแบบไม่วางตา ความจริงคำพูดมันก็หยาบลามกเกินไปสักหน่อย แต่คงเพราะเริ่มสนิทแล้วที่มันพูดก็เป็นคำชมด้วย สาว ๆ เลยไม่ได้ว่าอะไร นอกจากพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคักเสียยกใหญ่

        เบียร์ที่พวกเราดื่มกันก็คงมีส่วน ผมคิดว่าผมกินน้อยสุดแล้วก็ยังมึนพอควร สี่สาวที่คออ่อนยิ่งแล้วใหญ่ พวกเธอเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้กันบ้างแล้ว ส่วนไอ้เพื่อนเวรของผมก็โดนสไปร์ทคะยั้นคะยอให้ดื่มไปมากกว่าใครจนเริ่มส่ายไปส่ายมา แต่มันคงพยายามฝืนไม่ให้เมาหลับก่อนจะได้ฟันสาว ๆ สักคน

        พวกเราหกคนดื่มกันไปสักพัก สไปร์ทก็ส่งยิ้มแปลก ๆ ให้ผมกับเพื่อน เธอหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาสองพื้น แล้วบอกให้ผมกับไอ้เวนขยับมานั่งใกล้กัน ผมยังนั่งนิ่งเพราะงง ๆว่าเธอจะทำอะไร แต่ไอ้เพื่อนผมมันรีบขยับลุกมานั่งข้าง ๆ ผมแทบจะทันที

        พอปิดตาให้เพื่อนผมเรียบร้อย สไปร์ทก็ขยับมานั่งคร่อมบนตักแล้วใช้ผ้ามารัดพันปิดตาผมด้วย ผมไม่รู้ว่าเธอทำอะไร แต่ก็ยอมนั่งนิ่ง ๆ ไปก่อน สักพักเธอถึงค่อยเฉลยออกมา

        "ตอนนี้พี่สองคนโดนปิดตาไว้แล้ว ห้ามโกงนะคะ ถ้าแอบโกงจะเลิกเล่นทันที ตอนนี้เราจะเล่นเกม 'ใครเอ่ย' กัน"

        "กฎข้อแรก พี่สองคนห้ามขยับตัวเด็ดขาด ต้องนั่งนิ่ง ๆ ทำตามคำสั่งอย่างเดียว ถ้าขยับปรับแพ้ดื่มเบียร์หนึ่งแก้ว"

        "กฎข้อสอง พี่สองคนจะต้องทายว่าเป็นใครในพวกเราสี่คน และห้ามทายเหมือนกัน คนที่แพ้ในรอบล่าสุดจะได้ทายก่อน รอบแรกสุดให้พี่กายทายก่อน"

        "กฎข้อสาม ถ้าทายผิด ต้องดื่มเบียร์หนึ่งแก้ว ผิดคู่ก็ดื่มทั้งคู่ เอาแค่แก้วเล็กก็พอ"

        "กฎข้อสี่ ถ้าทายถูก พี่จะได้รับรางวัลจากคนที่ให้ทาย รางวัลจะขึ้นกับว่าหยิบสลากได้คำสั่งอะไร"

        "กฎแค่นี้เข้าใจนะคะ"

        สไปร์ทพูดอธิบายแล้วก็ทิ้งท้ายเงียบไป ผมนั่งฟังแล้วก็งง ๆ ว่าเกมนี้มันคือยังไง เกมใครเอ่ย เหมือนให้ทายว่าเป็นใคร ผมกับเพื่อนโดนปิดตาก็จะไม่เห็นว่าใคร แต่พวกเธอจะให้ผมทายยังไง ฟังจากเสียงหรืออะไร ผมเลยถามออกไปเพื่อให้แน่ใจก่อน

        "แล้วจะให้ทายยังไงล่ะ บอกเป็นคำใบ้งั้นเหรอ"

        สิ่งแรกที่ผมคิดก็คือพวกเธออาจจะบอกคำใบ้ เช่นบอกว่าใครขี้อายที่สุด หรือใครเล่นกีฬาเก่ง แต่พอคิดว่าแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องปิดตา ผมก็รู้สึกว่าถามโง่ ๆ ออกไป เด็กสาวสี่คนก็เหมือนจะคิดแบบนั้น ก็เลยพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันออกมา

        "แค่นั้นก็ไม่สนุกซิคะ เดี๋ยวทดลองของจริงเลยดีกว่า ห้ามขยับนะคะ ถ้าขยับถือว่าผิดกฎทันที"

        เสียงสไปร์ทดังขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นเงียบสนิทไม่มีใครพูดหรือส่งเสียงอะไร สักพักก็มีใครสักคนจับมือซ้ายของผมแล้วยกขึ้น ฝ่ามือผมแปะลงไปบนหน้าของใครสักคน ผมเลยลูบเบา ๆ ไปตามผิวเนียนนิ่ม แล้วผมก็ไปสะดุดกับมืออีกข้างที่คลำอยู่อีกซีกของใบหน้าเดียวกัน ดูเหมือนมือข้างนั้นจะเป็นมือของไอ้เวนเพื่อนผมเอง

        ตอนนี้ผมเริ่มเดาได้บ้างแล้วว่าสี่สาวคิดจะเล่นสนุกอะไรกัน พวกเธอปิดตาเราสองคน แล้วให้พวกเราสัมผัสหน้าพวกเธอ เสร็จแล้วก็ให้เดาว่าเป็นใคร ถ้าทายถูกก็ได้รางวัลจากคนนั้น แบบนี้ก็ถือว่าน่าตื่นเต้นสนุกดี

        "ทายได้แล้วค่ะ รอบแรกให้พี่กายทายก่อน"

        เสียงสไปร์ทดังขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง ผมนั่งนิ่งขบคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกไปด้วยความมั่นใจ ถึงจะมองไม่เห็น แต่ผมพอจะเดาเค้าโครงใบหน้าได้ หน้าเรียว ๆ แบบนี้ไม่น่าผิด

        "เต้ยแน่ ๆ"

        ผมทายชื่อเต้ยออกไป ส่วนไอ้เพื่อนของผมนั้นยังนิ่งลังเล มันทำท่าเหมือนไม่แน่ใจแล้วมันก็เดาสุ่มออกมา

        "ผิง"

        "คำตอบที่ถูกคือเต้ยค่า พี่กายได้รับรางวัลจากเต้ย ... และรางวัลก็คือจูบปากกันหนึ่งนาที ... คิก ๆ ยังไม่บอกดีกว่า แต่ห้ามขยับนะคะ ขอเตือนไว้ก่อน"

        เสียงสไปร์ทดังขึ้น ผมแอบตกใจกับรางวัลที่เป็นการจูบ แต่ตอนนี้ก็มีใครบางคนขยับมานั่งคร่อมบนตักของผม เธอคนนั้นกอดรัดรอบคอแล้วจูบปากแลกลิ้นกับผมเป็นพัลวัน เธอคนนี้น่าจะเป็นเต้ยตามที่ผมทายไว้ เราสองคนจูบปากกันจนครบหนึ่งนาทีแต่เต้ยยังจูบต่อไม่ยอมปล่อย จนผมรู้สึกเหมือนเต้ยโดนใครดึงออกไป

        "รอบแรก คนชนะได้รับรางวัลไปแล้ว คนแพ้ก็ต้องซดเบียร์หนึ่งแก้วเป็นการลงโทษ ส่วนรอบที่สองพี่เวร เอ๊ย พี่เวนจะได้ทายก่อนนะคะ คิก คิก"

        สไปร์ทหัวเราะคิกคักแล้วก็บอกให้เริ่มรอบที่สอง ทีแรกผมก็นั่งเคลิ้ม ๆ ว่าสนุกดี แต่พอนึกไปว่าแบบนี้น้องผิงของผมอาจจะต้องให้รางวัลไอ้เวนด้วยเหมือนกัน ผมก็เริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมานิดหน่อย แต่ในความเครียดผมก็รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจเล็ก ๆ แบบบอกไม่ถูก สไปร์ทเธอเข้าใจหาอะไรมาเล่นจริง ๆ

        ระหว่างที่นั่งรอเสียงก็เงียบอีกครั้ง มือซ้ายของผมโดนยกขึ้นไปเหมือนก่อนหน้า แล้วก็วางแหมะลงไปบนตัวใครบางคน แต่ว่าคราวนี้มือของผมไม่ได้วางบนหน้าอย่างที่คิดไว้ มันนุ่มนิ่มแน่นเด้ง ตอนแรกผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่พอลูบมือไปเรื่อย ๆ ก็แน่ใจว่ามือของผมกำลังแปะลงบนแก้มก้นของใครบางคน แถมยังเป็นก้นเปล่าเปลือยที่ไม่มีบิกินี่ปิดอยู่ด้วย

        ผมกลืนน้ำลายดังอึกรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ ที่ตื่นเต้นก็เพราะไม่รู้ว่าเป็นก้นของใคร แถมส่วนที่เร้าใจก็คือมือของไอ้เพื่อนเวรก็กำลังลูบคลำก้นเดียวกัน ต่างกันก็แค่คนละข้างเท่านั้น บอกตรง ๆ ว่าควยผมกำลังลุกโด่ เพราะความสนุกสนานตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

        "เอาล่ะ หมดเวลาแล้วค่ะ พี่เวนทายก่อนนะคะ"

        พอเจ้าของก้นนุ่มนิ่มถอยห่างออกไป เสียงสไปร์ทก็ดังขึ้นมา ไอ้เวนส่งเสียงพึมพำเหมือนคิดไม่ออก ผมเองก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ให้ลูบหน้ายังพอนึกออก แต่ลูบก้นนี่เดายากจริง ๆ

        "ขวัญ"

        ไอ้เพื่อนเวนทายชื่อสไปร์ทออกมา แต่ผมไม่คิดว่าน่าจะเป็นขวัญ เพราะว่าสะโพกขวัญนั้นค่อนข้างเนื้อแน่นกว่านี้ ขวัญเธอเป็นนักกีฬาที่ออกแรงบ่อย แต่ระหว่างสามสาวที่เหลือผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่

        ผมคิดว่าไม่น่าใช่น้องผิง ก้นเธอน่าบีบกว่านี้ ส่วนที่เหลือก็มีแต่เต้ยกับสไปร์ท แต่เต้ยเพิ่งเล่นไปผมเลยไม่คิดว่าน่าจะเป็นเต้ย ผมเลยเดาชื่อสไปร์ทออกมา

        "น่าจะสไปร์ทนะ"

        "พี่กายเก่งจริง ๆ ทายถูกอีกแล้ว สไปร์ทเองค่ะ พี่เวนทายผิดดื่มอีกแก้ว ส่วนรางวัลครั้งนี้ก็คือ ... แต่น แต้น ... สไปร์ทจะใช้มือชักว่าวให้หนึ่งนาทีค่ะ พี่กายลุกขึ้นมานั่งบนขอบอ่างหน่อยนะคะ"

        สไปร์ทเฉลยพร้อมกับหัวเราะร่วน ผมได้ยินเสียงสบถของไอ้เวนดังขึ้นจนผมยิ้มขำ แต่พอผมขยับลุกขึ้นมาจากน้ำอุ่นแล้วนั่งบนขอบอ่าง ผมก็ต้องสูดปากครางด้วยความเสียววาบ เพราะดุ้นอันเขื่องโดนใครบางคนคว้าจับไปอมในปากแล้วตวัดลิ้นเลียใส่แบบระรัว แถมยังผงกหัวใส่ด้วยลีลาช่ำชอง ฝีมือแบบนี้ต้องสไปร์ทแน่ ๆ แต่ผมยังสงสัยว่าทำไม เพราะเธอประกาศว่าจะใช้มือทำให้ แต่พอทำจริงกลับใช้ปาก

        "โอย เสียวจังสไปร์ท ซี้ดดสสส"

        ผมส่งเสียงครางเบา ๆ ออกมา พอคิดไปคิดมา ผมว่าพวกเธอคงไม่ได้คิดจะเล่นตามเกมทุกอย่าง เธอประกาศบอกใช้มือให้ไอ้เวนเข้าใจว่าแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอใช้ปากทำให้ผมซึ่งน่าจะเป็นรางวัลที่ดีกว่า เพียงแต่ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องโกหก

        เวลาแห่งความสุขหนึ่งนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว สไปร์ทถอนปากออกพร้อมกับใช้ลิ้นเลียระรัวไม่หยุด ผมรู้สึกเหมือนอยากจะจับหัวเธอกดแช่ปากเอาไว้แบบนั้น แต่ก็รู้ว่าทำแบบนั้นจะผิดกฎกติกาที่ตั้งเอาไว้

        เกมใครเอ่ยเริ่มขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่สาม รอบนี้ไอ้เวนจะได้ทายก่อนเหมือนเดิม เพราะว่ารอบที่แล้วมันแพ้ ผมเองก็แอบตื่นเต้นว่าจะโดนทดสอบยังไงอีก พวกเธอจะให้ผมจับส่วนไหนของใคร เกมแบบนี้มันช่างสร้างสรรค์สมกับนิสัยของสไปร์ทจริง ๆ

        มือซ้ายของผมโดนจับขึ้นไปอีกครั้ง แต่พอผมขยับนิ้วหาก็ไม่เจออะไร พอสักพักถึงค่อยมีอะไรนุ่ม ๆ ชื้น ๆ มาแตะบนปลายนิ้วชี้ และผมรู้แทบจะทันทีว่ามันคือลิ้นแน่ ๆ

        ผมตื่นเต้นอีกครั้งที่เด็กสาวทั้งสี่ทำกันขนาดนี้ ผมรู้สึกได้ว่ามือโดนจับไปรวบชิดกับมือของไอ้เวน ลิ้นของใครบางคนกำลังเลียสลับไปมาระหว่างนิ้วชี้ของเราสองคน จากนั้นเธอก็อ้าปากอมนิ้วของเราสองคนเข้าไปดูดเลียดังจ๊วบจนผมเสียววูบ ลีลาแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงสไปร์ทขึ้นมาเป็นคนแรก แต่ว่าเธอเพิ่งจะเล่นเกมที่แล้วไป ถ้าบอกว่าเธอจะเล่นซ้ำอีกครั้งก็ดูไม่แน่นัก

        "ผิง หรือ ขวัญนะ ... พี่ทายว่าน้องผิงก็แล้วกัน"

        ไอ้เวนเหมือนจะคิดแบบเดียวกับผม มันนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วมันก็เดาชื่อน้องผิงออกมา ฟังแล้วมันตัดชื่อของสไปร์ทกับเต้ยออกไปก่อน แล้วก็เลือกเดาเอาจากอีกสองคนที่เหลือ

        พอไอ้เวนเดาชื่อน้องผิงออกมา ผมก็รู้สึกแปลก ๆ ใจหนึ่งก็หวั่น ๆ กลัวว่าจะเป็นน้องผิง ถ้ามันทายถูกน้องผิงอาจจะต้องให้รางวัลมัน แค่คิดผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว แต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่น้องผิง และผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นขวัญ เพราะขวัญไม่ได้ลีลาดูดดีขนาดนี้

        "เดาว่าสไปร์ท"

        ผมตัดสินใจเดาตามความรู้สึกแรก จะว่าไปผมก็ได้เปรียบไอ้เวนพอสมควร เพราะผมเคยผ่านพวกเธอ รู้นิสัยพวกเธอมาแล้ว ผมเลยมีข้อมูลให้เดามากกว่า แถมเกมที่ผ่านมาสไปร์ทก็เพิ่งใช้ปากทำให้ผมมาหมาด ๆ

        "พี่กายทายถูกอีกแล้วเก่งจัง พี่เวนอย่าคิดว่าพวกเราจะเล่นซ้ำไม่ได้นะ ... เอ๊ะ พี่เวน ห้ามเอาผ้าปิดตาออกนะคะ แบบนี้ถือว่าผิดกฎต้องดื่มเพิ่มอีกแล้ว"

        ผมยิ้มเมื่อได้ยินสไปร์ทส่งเสียงบอกว่าผมทายถูก แต่ถัดมาเธอก็ส่งเสียงดุใส่ไอ้เวนจนผมต้องเปิดผ้าปิดตาออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผมก็เห็นไอ้เวนเปิดผ้าปิดตาออกแล้วมองสไปร์ทที่ยืนอยู่ในอ่างน้ำคนเดียว สามสาวที่เหลือนั่งอยู่ขอบอ่างอีกด้าน

        ผมเดาว่าไอ้เวนคงจะหงุดหงิดที่ทายผิดสามครั้งรวด มันเลยอยากเห็นกับตาว่าโดนเล่นโกงหรือเปล่า แต่พอเปิดออกมาแล้วเห็นสไปร์ทยืนคนเดียวในอ่างน้ำก็ค่อนข้างแน่ใจได้ว่าไม่ได้โกง เพราะถ้าคนอื่นเดินลงมาในน้ำก็น่าจะได้ยินเสียงน้ำบ้างนิดหน่อย

        "ขอโทษที พอดีอยากเห็นว่าไอ้กายมันจะได้รางวัลอะไร ลงโทษสองเท่าซินะ เอ้าสองแก้ว"

        ไอ้เวนมันพูดแก้เก้อแล้วยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปดื่มเบียร์สองแก้วรวดจนหน้าแดง ผมฟังแล้วรู้ทันทีว่ามันก็แค่หาข้ออ้าง มันคงไม่กล้าบอกว่ามันสงสัยพวกเธอ เพราะจะทำให้บรรยากาศกร่อยลง

        "ดูก็ได้ค่ะ แต่นอกจากพี่เวนจะโดนลงโทษแล้ว พี่กายจะได้รับรางวัลเพิ่มด้วย และรางวัลก็คือ ... นมนัวเนียสี่เท่า"

        สไปร์ทไม่ว่าอะไร เธอขยับตัวล้วงมือลงไปในกล่องใส่กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าแอบเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอคลี่กระดาษที่ม้วนพับไว้ออกมาอ่าน แล้วก็ยกขึ้นให้ผมกับไอ้เวนอ่าน ในกระดาษเขียนว่านมนัวเนียอย่างที่เธออ่าน แต่ว่านมนัวเนียสี่เท่ามันคืออะไร ไอ้เวนก็ทำท่าสงสัยเหมือนกัน

        ระหว่างที่ผมสงสัยสไปร์ทก็จับมือผมมายืนตรงกลางอ่างน้ำ จากนั้นเด็กสาวทั้งสี่ก็พากันหัวเราะคิกคัก แล้วเดินมาล้อมผมเป็นวงกลม ก่อนจะกอดเบียดแอ่นเต้านมสี่คู่มาเบียดใส่ เจอไม้นี้เข้าไปผมรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ นมเด็กสาววัยมัธยมล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้มันสุดยอดเลย

        ไอ้เวนลืมตาโพลงมองผมด้วยสายตาอิจฉา มันส่งเสียงสบถด่าตัวเองออกมาชุดใหญ่บอกว่ามันไม่น่าทำผิดกฎ แต่ตอนนี้ผมไม่สนแล้วยืนให้สาว ๆ ใช้นมบริการให้อย่างมีความสุข แต่พอครบเวลา พวกเธอก็ผละแยกจากไปนั่ง มีแต่สไปร์ทที่ขยับมาปิดตาพวกผมสองคนอีกครั้งจนผมมองอะไรไม่เห็น

        คราวนี้เป็นรอบที่สี่ ผมยอมรับเลยว่าสามรอบที่ผ่านมาผมตื่นเต้นมากพอควร ทั้งที่ผมเคยเล่นเกมลามกอะไรพวกนี้มาเยอะแล้ว แต่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ เรื่องนี้ต้องชมสไปร์ทที่เข้าใจสร้างกติกา และสิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นที่สุดก็คงเป็นเด็กสาวทั้งสี่นี่แหละ ผมทั้งหึงหวงไม่อยากแบ่งพวกเธอให้ใคร แต่อีกใจก็แอบตื่นเต้นลุ้นระทึก มันเลยกลายเป็นเร้าใจแปลก ๆ

        รอบที่สี่เริ่มแล้ว มือของผมกำลังแตะบนผิวเนียนนุ่ม พอลองแตะลากไปมาบนความเรียบลื่นผมก็ต้องขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าผมจะกำลังแตะบนหน้าท้องของใครสักคน ผมลองลากมือไปด้านข้างก็เจอเอวคอดกิ่ว พอลากมาตรงกลางจนชนกับมือไอ้เวนก็เจอสะดือ ตรงนี้คือหน้าท้องแน่ ๆ

        ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือผมมืดแปดด้าน เดาไม่ออกว่าเป็นหน้าท้องใคร เท่าที่พยายามนึกดูผมก็นึกชื่อใครไม่ออกเลยสักคน ไอ้เวนเองก็เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเดาชื่อน้องผิงออกมาด้วยท่าทางไม่มั่นใจ อารมณ์ของมันตอนนี้เหมือนแค่อยากเดาชื่อสาวสวยที่สุดเผื่อโชคดีได้รางวัลใหญ่

        "ผิง ... เดาว่าน้องผิงล่ะกัน"

        "... งั้น เดาว่าขวัญ"

        ผมอยากเดาชื่อผิงจะได้กันไอ้เวนไว้ก่อน แต่มันดันมีสิทธิเดาก่อนผม คนอื่นแบ่งปันนิดหน่อยผมยังพอทำใจไหว แต่น้องผิงนี่ผมไม่อยากแบ่งเธอให้ใครเลยจริง ๆ แต่แล้วหัวใจของผมก็แทบหยุดเต้น เพราะว่าเสียงของสไปร์ทที่พูดประกาศผลออกมา

        "รอบนี้พี่เวนทายถูกค่ะ ผิงเป็นคำตอบที่ถูกต้องนะคะ ..."

       
........................

       

   
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

darkdd1999

เอาแล้วไง จะโดนอะไรล่ะ แต่จริงๆเพื่อนๆกันก็แบ่งกันได้ แต่ต้องมีเส้นให้กันบ้างนะ ไม่งั้นเคยตัว 555555ฃ
ปล.รอมานานจนลืมไปแล้วว่าเคยมีเรื่องนี้ ขอบคุณนะครับ 

kaithai

เห็นชื่อตอน นึกถึงเพลง "หมากเกมนี้"
.........
หมากเกมนี้ฉันก็รู้ ว่าจะต้องลงเอยอย่างไร
ไม่ต้องรอให้จบเกม ฉันก็พร้อมจะยอมตัดใจ
หากลืมฉันได้ไม่ลำบาก เธอก็ควรจะจากฉันไป
ส่วนตัวฉันพอเข้าใจ ฉันมันแค่ทางผ่าน.........
...............


peddo

เวรละซิครับ น้องผิงจะรอดปล่าวนะ ที่น้องผิงใจดีกับกายคงเป็นเพราะไม่รู้ว่านอกจากเมีย แล้วยังมีมีแม่ของผิง มีเชอรี่ มาร่วมด้วยน่ะสิครับ ระวังดีๆครับ

eka1325

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบมาก ยิ่งกาย มีเด็กเพิ่มแบบนี้คงสนุกกันใหญ่ อยากมีเมียแบบน้องผิงจริงๆ ขอบคุณครับ

oldman

อ่านแล้วตื่นเต้นตามไปด้วยครับ   หวงน้องผิงแทนพี่กายด้วย.....ทำไงดี

yuta279

ห่วงน้องผิงจัง ว่าจะโดนอะไรบ้าง
ว่าแต่ขอบคุณนะครับที่มาต่อให้

zaubers

เร้าใจ จริงๆ ครับ 
รอตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อเลยครับ ^^

aty13

เอาแล้วไง น้องผิงจะโดนพี่เวรทำอะไร แต่แน่ใจได้ว่าสี่สาวมีกลโกงแน่ๆ

every

ตอนนี้เสียว+ลุ้นมากครับ ขอบคุณครับ

devilzoa

แล้วๆๆๆๆๆ น้องผิง ไอ้เวนทายลูกอยากรุ้จริงๆว่าจะได้รางวัลอะไร

grozothe

หวังว่าน้องผิงคงไม่ตามรอยเรื่องสั้นน้องมายจากอีกเรื่องหรอกนะ

ไม่งั้นอาการปวดตัวคงได้มาเยี่ยมเยือนแน่ๆ

crazylex

เรื่องนี้หายไปนานเลลนะครับท่านแอส จะมีมวยหมู่ไหมนี่ ขอติดตาทต่อเลยละกันอย่าลืมเขียน XO ต่อด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

elviswhat

สงสัยงานนี้เพื่อนของกายจะได้ลิ้มลองของดีจากสี่สาวก็เป็นแน่

inputpy

อิจฉาพระเอกจริงๆ นมนัวเนีย ในฝันเลย