ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รักยม ตอนที่ 34 แมวเฝ้าปลาย่าง By Assasin008

เริ่มโดย kaithai, มกราคม 18, 2017, 11:56:46 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kaithai

รักยม ตอนที่ 34 แมวเฝ้าปลาย่าง
Assasin008 07/09/2008

ความจริง ตอนแรกกะว่าจะให้นายเก่ง เป็นพวกไม่หื่นนะเนี่ย แต่เขียนไปเขียนมา หื่นไปซะงั้น 555


....................................................................

ในห้องพักฟื้นคนไข้ ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองหลวง
....................................................................

ภาพที่ปรากฎอยู่ในห้องพยาบาลขณะนี้ค่อนข้างดูแปลกตาไปซักหน่อย เมื่อชายหนุ่มในชุดแพทย์สีขาวที่ควรจะทำหน้าที่ตรวจอาการคนไข้กลับนอนนิ่งสลบไสลอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้อง ปล่อยให้ปูสาวสวยในชุดคนไข้นอนหลับนิ่งหายใจราบเรียบสม่ำเสมออยู่บนเตียงพักฟื้น โดยมีเอกนั่งคร่อมที่บริเวณเอวของเธออยู่

เขาหลับตาพนมมือบ่นพึมพัมอะไรบางอย่างอยู่ในลำคอเบา ๆ ซุ้มเสียงทุ้มต่ำเป็นภาษาแปลกหูที่ยากจะทำความเข้าใจได้ หากแต่มันกลับแฝงไปด้วยพลังอำนาจบางอย่างที่รู้สึกสัมผัสได้อบอวลอยู่รอบ ๆ ตัว ที่ด้านข้างของเขาฝ้ายพยาบาลสาวสวยนั่งมองดูเหตการณ์ด้วยความสงสัยใคร่รู้ โดยที่ด้านก็มีเก่งนั่งกุมมือของปูอยู่อย่างเป็นห่วงเป็นใย

ฝ้ายพยาบาลสาวดูจะมีท่าทีงง ๆ และยังไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องผีสางวิญญาณที่เอกเล่าให้ฟังมากนัก ชีวิตของเธอเรียกว่าได้สัมผัสอยู่กับความเจ็บป่วยความตายแทบจะตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยเจอะเจอกับอะไรที่เข้าข่ายจะเรียกได้ว่าภูติผีวิญญาณเลยแม้แต่ซักครั้งเดียว

หากแต่เธอเองก็ไม่อาจจะหาเหตุผลกลใด มาอธิบายสิ่งที่ทำให้เธอเผลอตัวเผลอใจ ยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้นายเก่งเชยชมร่างงามของเธอไม่ได้เลย อีกทั้งยังดวงตาสีเขียวแวววาวน่ากลัวราวผีนรกของปูคนไข้ที่นอนหลับไม่ได้สติมาหลายวันนั่นอีก แม้จะไม่อยากเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่เหตการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องราวลี้ลับที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ดูจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้เป็นอย่างดีที่สุด

เอกที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างของปูกำลังบริกรรมคาถาอะไรบางอย่าง ตามเสียงบอกของรักยมที่แว่วดังบอกไว้ในโสตประสาทอย่างมีสมาธิ สีหน้าทะเล้นขี้เล่นที่ปรากฎอยู่เสมอ ๆ กลับเป็นสีหน้าเอาจริงเอาจังอย่างที่ไม่อาจจะได้พบเห็นบ่อยเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนทั่วร่างมีพลังบางอย่างไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับกระแสเลือด และเมื่อพลังสมาธิก่อเกิดมากยิ่งขึ้น เขาก็รับรู้ได้ถึงพลังมากมายมหาศาลที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวอย่างไม่หยุดยั้งเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางพายุลมอันเชี่ยวรากรุนแรง ใบหน้าคมสันนั้นขมวดคิ้วแน่นด้วยกริ่งเกรงว่าตนเองจะล่องลอยหายไปตามกระแสพลังอันรุนแรงที่ไหลเวียนไม่รู้จบ เม็ดเหงื่อไหลซึมที่หน้าผากจนชุ่มทั้ง ๆ ที่อากาศในห้องนั้นกำลังเย็นชุ่มฉ่ำสบาย

แม้จะไม่เข้าใจนักว่าเอกกำลังทำอะไร แต่ฝ้ายพยาบาลสาวสวยก็ถึงกับต้องเพ่งมองใบหน้าชู้รักของตัวเองอย่างชื่นชมและหลงไหล เธอรู้สึกว่าใบหน้าที่กำลังเคร่งเครียดเอาจริงเอาจังของเอกช่างดูมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเองก็กำลังตกเป็นเป้าสายตาของนายเก่ง แฟนหนุ่มของปูคนไข้สาวไปพร้อมกัน เก่งที่จับมือของแฟนสาวตัวเองแน่นด้วยความรักและเป็นห่วง กลับอดใจไม่ได้ที่จะต้องเผลอมองตามเรือนร่างสวยของพยาบาลสาวที่เค้าเกือบจะได้ชื่อว่าเป็นผัวของเธออยู่รอมร่อ เขานึกไปก็รู้สึกเสียดายไม่น้อยเลยทีเดียว ขณะที่เหม่อมองดวงตากลมโต จมูกโด่ง ๆ ปากเรียวงามได้รูปของเธออย่างว้าวุ่นใจ ไหนจะทรวงอกอวบอิ่มที่ดันเอาชุดพยาบาลสีขาวนั้นออกมาเป็นก้อนกลมสวยอีก เสน่ห์อันร้อนแรงของฝ้ายพยาบาลสาวสวยทำเอาเก่งใจเต้นแรง อารมณ์ปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา เมื่อชำเลืองมองเทียบกับปูแฟนสาวของเขาแล้ว

พยาบาลสาวคนนี้ดูจะมีเสน่ห์ยั่วยวนเพศตรงข้ามมากกว่า เขารู้สึกผิดที่แอบคิดนอกใจแฟนสาวของตัวเองแบบซึ่ง ๆ หน้า ทั้ง ๆ ที่เธอยังนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ และยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าแอบคิดมิดีมิร้ายกับแฟนของเอกชายหนุ่มที่คิดจะช่วยเหลือแฟนสาวของเขา เก่งพยายามตั้งสติเพื่อหยุดคิดฟุ้งซ่าน หากแต่เสน่ห์อันล้นเหลือของพยาบาลสาว และความต้องการทางเพศที่ยังไม่ได้ระบายออก ก็ยังคงทำเอาเค้าต้องแอบเผลอมองตามเป็นระยะอยู่ดี

เวลาผ่านไปเกือบ 15 นาทีแล้วที่เอกร่ายบริกรรมคาถา อยู่ ๆ เขาหยุดการร่ายคาถานั้นและลดมือลงวางบนต้นขาตัวเอง พร้อมกับลืมตาตื่นขึ้นด้วยประกายตาสดใสเจิดจ้า ทั่วร่างราวกับเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจแห่งมนตรา ฝ้ายที่เพ้อมองตามใบหน้าหล่อคมสันนั้นอยู่ เมื่อสบตาเข้ากับสายตาคมกริบแฝงแววจริงจังที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น ก็ทำเอาเธอรู้สึกวูบวาบใจหวิวสั่นสะท้าน เธอไม่เคยรู้จักชายหนุ่มชู้รักของตัวเองในแง่มุมนี้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ภาพที่เธอคุ้นชินคือชายหนุ่มนักรักขี้เล่น เธอคิดว่าเค้าช่างดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบเมื่อทำอะไรเป็นจริงเป็นจังแบบนี้

"คุณเอก ผมคิดว่ามันอันตรายเกินไป มีหมอผีหลายคนแล้วที่เป็นอันตรายเพราะวิธีนี้" เก่งหน้านิ่วคิ้วขมวดร้องเตือนเอก เมื่อเห็นว่าเอกลืมตาตื่นขึ้นมา เก่งก็พอจะมีความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์พวกนี้อยู่มิใช่น้อย ศาสตร์การถอดจิตนั้นเป็นวิชาขั้นสูงมาก แต่การเข้าไปในจิตใจคนอื่นนั้นกลับยิ่งสูงกว่า หมอผีจำนวนน้อยคนนักที่จะมีความสามารถในระดับนี้ได้ ความจริงเค้าควรจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มที่อายุแค่ 20 กว่า ๆ จะสามารถทำได้

หากแต่มีอะไรบางอย่างในตัวเอกที่ทำให้เค้ารู้สึกเชื่อว่า ชายหนุ่มคนนี้สามารถทำได้หากเค้าต้องการทำ และยิ่งเมื่อเห็นเอก สามารถร่ายบริกรรมคาถายาก ๆ ได้อย่างคล่องปาก และไหนจะพลังมนตราที่ไหลเวียนไปทั่วร่างของเอกจนเขารู้สึกสัมผัสได้อีก ก็ยิ่งทำให้รู้สึกมั่นใจว่า เขาสามารถเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้ แต่ถึงกระนั้นความกังวลใจก็ยังคงรบกวนเค้าอยู่ตลอดเวลา ความจริงแล้วเขาก็เคยพาแฟนสาวไปหาหมอผีชื่อดังมาแล้ว และผลก็คือหมอผีคนนั้นสลบเหมือดไม่ได้สติอีกเลย หลังจากที่ถอดจิตเข้าไปในใจของแฟนสาว แม้ว่าเขาอยากจะให้แฟนสาวฟื้นขึ้นมาเพียงใด แต่เค้าเองก็ไม่อยากให้คนที่เค้าเพิ่งจะรู้จักวันแรกต้องมาเสี่ยงตัวเองเพื่อช่วยแฟนของเค้าขนาดนี้

"ผมคิดว่ามันคงเป็นวิธีเดียวครับ และเราคงรอเวลาไม่ได้ อีกอย่างผมก็ตัดสินใจแล้วด้วย" เอกตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่กลับบ่งบอกได้ถึงความมุ่งมันอย่างที่สุด สายตาจริงจังของเขาบ่งบอกเจตนาอย่างชัดเจนแล้ว ว่ายากที่จะเปลี่ยนใจเขาได้

"พี่เอก ..." ฝ้ายพยาบาลสาวชู้รักของเอกพอจะเข้าใจสิ่งที่เอกพยายามพูดอยู่บ้าง แม้เธอจะยังไม่ปักใจเชื่อไปซะทั้งหมด แต่ก็รู้สึกกลัวทันที เมื่อเก่งเอ่ยปากเตือนถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
"ไม่เป็นไรหรอกฝ้าย มีแฟนสวยขนาดนี้ ไม่ยอมเป็นอะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว" เอกมองไปทางฝ้ายอย่างรักใคร่

"แต่ฟังดูแล้ว มันอันตรายมากเลยนะ พี่เอกแน่ใจแล้วเหรอ" เธอใจชื้นขึ้นนิดหน่อยที่เห็นคนรักยังคงแฝงไปด้วยความทะเล้นเหมือนเดิม แต่กระนั้นก็ยังคงรู้สึกกังวลใจในสิ่งที่เขากำลังจะทำอยู่ดี
"มันอันตรายครับ และออกจะเป็นการกระทำที่โง่มากด้วย .... แต่หากไม่ทำผมก็จะเสียใจไปตลอดชีวิต" เอกตอบน้ำเสียงหนักแน่น

"พี่เอก ..." ฝ้ายพูดเสียงอ่อน เมื่อรับรู้ได้ว่าคงไม่อาจที่จะเปลี่ยนใจชู้รักคนนี้ได้ แต่นั่นก็ทำให้เธอก็รู้สึกดีเหมือนกันที่ชายหนุ่มคนนี้มีจิตใจที่จะช่วยเหลือคนอื่นอยู่ไม่น้อย เธอได้แต่บีบมือของเอกจนแน่น เธออยากจะไปช่วยแฟนหนุ่มของเธอเหลือเกินไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
"ถ้าอย่างงั้นพี่เอกระวังตัวด้วยนะคะ" ฝ้ายพูดต่อพร้อมกับใบหน้าสวยนั้นเข้าไปจูบแก้มของเอกเบา ๆ อย่างรักใคร่ ทำเอาเก่งที่มองอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกได้ถึงไฟแห่งความอิจฉาในใจที่กำลังลุกโชนขึ้นมาช้า ๆ โดยไม่อาจควบคุม

"อืม พี่จะกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัยที่สุด" เอกตอบกลับพร้อมด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น

"งั้นผมไปล่ะนะ คุณเก่งฝากดูทางนี้ด้วยนะครับ" เอกหันไปมองทางเก่งที่พยักหน้าตอบรับ ก่อนที่จะหลับตาทำสมาธิให้นิ่งตามที่รักยมได้บอกไว้ ถึงแม้ปกติแล้วเอกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการทำสมาธิวิปัสณาอะไรมากนัก หรือเรียกได้ว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่เคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้ว เมื่อผนวกกับจิตใจแห่งความแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือนั้น ก็ทำให้ตัวเค้าเริ่มเข้าสู่โลกแห่งสมาธิขั้นสูงได้โดยไม่ยากนัก

เขานั่งทำสมาธิเพียงไม่นานนักก็รู้สึกได้ว่าเสียงต่าง ๆ เริ่มหายไปจากโสตประสาทเรื่อย ๆ เสียงดังหึ่งเบา ๆ ของเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ได้เงียบลง รอบตัวนั้นดูจะเงียบกริบราวกับไร้ซึ่งสรรพสิ่งใด ๆ สัมผัสอุ่น ๆ นุ่ม ๆ ของมือพยาบาลสาวที่บีบอยู่แน่นนั้นก็เริ่มจางหายไป เอกรู้สึกราวกับร่างกายกำลังล่องลอยเบาหวิวไร้น้ำหนัก เขาเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังที่อาจอธิบายได้ไหลเชี่ยวกรากอยู่รอบตัวอีกครั้ง และเมื่อเขาบริกรรมคาถาจนจบ ก็เหมือนมีแสงสว่างวาบไปทั่วในห้วงแห่งความคิด และเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเขากำลังลอยล่องอยู่ในที่อันมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง สิ่งมีชีวิต และสรรพสิ่งใด ๆ

"พ่อจ๋า" เอกหันไปมองด้านข้างตามเสียงเรียก ก็เห็นเด็กน้อยสองคนหน้าตาน่ารักน่าชังยืนยิ้มรออยู่ รักยมนั่นเอง เอกรู้สึกได้ว่ารูปลักษณ์ของเด็กสองคนนี้ดูจะแปลกตาไปกว่าครั้งล่าสุดที่เคยเห็นไม่น้อย ครั้งก่อนนั้นเด็กสองคนผิวกายดูซีดเซียวราวกับเป็นภูติผีวิญญาณ หากแต่วันนี้ดูพวกเค้ามีน้ำมีนวลขึ้นมาแลดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ จนดูเหมือนเด็กน้อยที่มีชีวิตอีกทั้งยังจ้ำม่ำน่ารักน่าชังไม่น้อย

"เจอกันอีกแล้วนะเรา นี่แสดงว่าพ่อทำสำเร็จล่ะซิ" เอกก้มลงดูร่างที่ดูเหมือนจะโปร่งแสงของตัวเอง นี่มันเหมือนกับประสบการณ์เฉียดตายในครั้งที่ช่วยน้องหญิงแล้วโดนยิงจนตัวเองเกือบตายเลยทีเดียว
"ใช่จ้ะ พ่อทำสำเร็จไป 1 ขั้นแล้ว พวกหนูยังรู้สึกแปลกใจเลยว่าพ่อทำได้ค่อนข้างง่ายกว่าที่คิด" เด็กน้อยสองคนพูดตอบเสียงใส
"พ่อเป็นคนเก่งอยู่แล้วนี่ เรื่องแค่นี้สบายมาก ... เอ้าไปกันเถอะ" เอกตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้สองเด็กน้อย

"พ่อจ๋า แต่ต้องระวังผีสาวนั่นด้วยนะ มันยังไม่หมดฤทธิ์ซะทีเดียว มันยังคงอยู่ในร่างของพี่สาวคนนั้น จนกว่าพี่สาวจะกลับมาควบคุมร่างอีกครั้ง"
"แต่ไม่ต้องกลัวอะไร พวกหนูอยู่ด้วย ผีสาวตนนั้นทำอะไรพ่อกับพี่สาวคนนี้ไม่ได้แน่"
"อ้าว พ่อนึกว่าปราบไปแล้วซะอีก" เอกถามสีหน้าสงสัย และออกแนวกังวลเล็กน้อย
"แค่ทำให้มันหมดฤทธิ์เฉย ๆ จ้ะ แต่มันยังคงอยู่ในร่างของพี่สาวคนนี้ ถ้าใครที่ถอดจิตเข้ามาโดยไม่ระวัง อาจจะโดนเล่นงานได้" รักยมพูดต่อ
"อืม ก็มีแค่พวกเรานี่นา งั้นคงไม่มีอะไรมั้ง งั้นก็ไปกัน"
"พ่อจ๋า ....." รักยมดึงมือของเอกไว้ มองหน้าผู้เป็นพ่อเหมือนไม่อยากจะให้ไปเสี่ยงเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้พูดห้ามออกมา
"มีอะไรล่ะลูก หือ ..."
"พ่อจะไปจริง ๆ เหรอ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปแล้วพวกหนูจะอยู่ยังไงล่ะ" รักยมพูดน้ำเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้ออกมา
"พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าเป็นอะไร ก็ไปอยู่กับแม่นะ แล้วก็ฝากดูแลแม่ด้วย .... ฝากบอกด้วยล่ะว่าพ่อรักแม่ที่สุด" เอกพูดยืนยันเสียงแข็ง
ทำเอาเด็กน้อยสงคนมองหน้ากันตาละห้อยเหมือนไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่นัก

"อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ... รักยม" เอกพูดพลางมองหน้าเด็กน้อยทั้งสอง
"พ่อเปลี่ยนใจเหรอจ๊ะ" รักยมพูดเหมือนจะรู้สึกดีใจเล็กน้อย พวกเค้าเองก็ไม่อยากจะให้พ่อตัวเองไปเสี่ยงซักเท่าไรนัก
"เปล่าหรอก พ่อแค่จะบอกว่า พ่อดีใจนะ ที่มีโอกาสได้พบกับลูกทั้งสองคน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ชาติหน้าขอให้เราได้พบกันใหม่ พ่อรักลูกทั้งสอง"

เอกก้มตัวลงไปสวมกอดร่างวิญญาณของเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างแนบแน่นและอบอุ่น แม้จะเพิ่งเจอะเจอกันมาไม่นานนัก แต่ความผูกพันของเด็กน้อยสองคนนี้สำหรับเค้าซึ่งอยู่คนเดียวแบบไร้ญาติมิตรมาตลอดแล้ว ก็เทียบได้เหมือนพ่อกับลูกแท้ ๆ เลยทีเดียว

"พ่อจ๋า ฮืออ ฮือออ" สัมผัสอบอุ่นแห่งความรักความห่วงใยที่พวกเค้าโหยหาและไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานจนแทบจะจำไม่ได้ ทำเอาเด็กน้อยทั้งสอง ถึงกับน้ำตาซึมออกมาจนต้องร้องไห้โฮอย่างไม่อาจจะอดกลั้นต่อไปได้อีก มันเป็นความรู้สึกที่พวกเค้าไม่เคยได้รับสัมผัสมานานมากแล้ว

ความจริงแล้วหากไม่นับที่พวกเค้าเป็นวิญญาณและมีอิทธิฤทธ์มากมายแล้วล่ะก็ พวกเค้าก็มีอารมณ์ความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับเด็กน้อยทั่วไปที่ต่างก็ต้องการคนดูแลที่มอบความรักความอบอุ่นเหมือน ๆ กัน พวกเค้ากอดร่างวิญญาณของพ่อของพวกเค้าจนแนบแน่น ถึงแม้ร่างวิญญาณจะไร้ซึ่งความอบอุ่นดั่งที่มีในร่างเนื้อ แต่พวกเค้าก็กลับสัมผัสได้ถึงกระแสความอบอุ่นแห่งความรักที่มีอยู่อย่างเหลือล้นจากดวงวิญญาณเบื้องหน้านี้

"ไว้ถ้ากลับไปได้ พ่อจะซื้อพิซซ่าของโปรดมาให้ลูก ๆ กินกันนะ" เอกลูบหัวของเด็กน้อยสองคนอย่างรักใคร่ที่สุด
"พ่อจ๋า ......" เด็กน้อยสองคนยังคงกอดร่างวิญญาณของพ่อตัวเองไว้แน่น

"เอาล่ะ ไปกันเถอะ" เอกลูบหลังเด็กน้อยสองคน ก่อนที่จะปล่อยมือที่สวมกอดอยู่แล้วลุกขึ้นยืน
"พ่อจ๋า ... " เด็กน้อยสองคนเอามือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหันมาจับมือของเอกจนแน่น

เพียงชั่วครู่ร่างวิญญาณของทั้งสามก็โดนแรงดึงดูดจากหลุมลึกที่มองไม่เห็นดูดเข้าไปอย่างรุนแรง เมื่อร่างจิตนั้นเข้าไป ณ จุดหนึ่ง เอกก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังหมุนคว้างท่ามกลางกระแสอันเชี่ยวกรากรุนแรง มันหมุนวนราวกับพายุไต้ฝุ่นจนเค้าไม่สามารถจับภาพรอบข้างใด ๆ ได้แม้แต่น้อย

ที่รู้สึกได้ก็มีเพียงแต่สัมผัสของมือทั้งสองข้างที่มีเด็กน้อยสองคนจับกุมไว้จนแน่น แรงดึงอันบ้าคลั่งนี้ทำเอาสติของเค้าหายไปทีละเล็กละน้อยอย่างช้า ๆ

"พ่อจ๋า พวกหนูก็ดีใจ ที่ได้มาอยู่กับพ่อนะ และพวกหนูก็ภูมิใจในตัวพ่อด้วย" เอกได้ยินเสียงเด็กน้อยทั้งสองพูดขึ้นมาก่อนที่สติจะวูบหายไป

"พี่เอก" เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาจากที่ที่ไม่ไกลนัก หากแต่เสียงนั้นไปไม่ถึงผู้ที่เธออยากจะเรียกหา เพราะคนที่เธอเรียกได้หมดสติไปซะก่อนหน้าแล้ว

............................................................

อีกด้านหนึ่งที่ห้องพยาบาล

"คุณฝ้ายทำไมนิ่งไปล่ะครับ คุณฝ้าย" เก่งเขย่าตัวฝ้ายที่นั่งฟุบหน้านิ่งอยู่กับขอบเตียง ทั้ง ๆ ที่ยังกุมมือของเอกไว้แน่น เธอหายใจสงบนิ่งราวกับว่ากำลังหลับอยู่ หากแต่เก่งเขย่าตัวเธอเท่าไหร่ เธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมา
"อย่าบอกนะว่า ... ฝ้ายตามเอกไปด้วย !!!" เก่งหันหน้ามามองดูร่างของเอกที่นั่งปิดตานิ่งสนิทอยู่บนร่างของปูแฟนสาว

...........................................................

"อูยยยย .... ปวดหัวชะมัด" เอกร้องครวญครางเบา ๆ เมื่อเริ่มได้สติอีกครั้ง เค้ายันร่างของตัวเองขึ้นมายืน สองมือกุมศรีษะที่รู้สึกปวดร้าวราวกับจะแตกระเบิดออก แค่ประสบการณ์เข้าสู่จิตคนอื่นครั้งแรก ก็ทำเอาเค้ารู้สึกหวาด ๆ จนไม่อยากจะให้มีครั้งต่อ ๆ ไปอีกแล้ว เขาต้องใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าที่จะสามารถเรียกสติตัวเองกลับมาได้ระดับหนึ่ง ก่อนที่จะพบว่าเค้ายืนอยู่พื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำเหนียว ๆ ที่สูงระดับตาตุ่ม มันดูเหนียว ๆ แหยะ ๆ ยังไงชอบกล แถมยังมีกลิ่นคาวชวนอ้วกแปลก ๆ เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัว ก็พบเพียงแต่ความมืดมิดจนมองไม่เห็นขอบฝั่งภายในนี้มันมีแรงกดดันหนักหน่วงบางอย่างที่ชวนให้รู้สึกหดหู่ซึมเศร้าอย่างรุนแรงแฝงตัวอยู่ในอากาศอย่างอธิบายไม่ถูก

"นี่เราเข้ามาในจิตแล้วเหรอเนี่ย รักยมเอ้ย อยู่ไหนลูก" เอกก้มลงมองร่างวิญญาณของตัวเอง ก็พบว่าเค้ากำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไร้สิ้นซึ่งอาภรเครื่องนุ่งห่มปกคลุมเหมือนปกติที่เค้าเคยถอดวิญญาณออกมา ต่างกันตรงที่ตอนนี้ร่างวิญญาณของเขามิได้โปร่งใสอย่างที่เคยเป็น แต่กลับ
มีทุกอย่างเหมือนร่างเนื้อตามปกติ จนเขาเริ่มไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านี่คือโลกจริง ๆ หรือโลกของจิตวิญญาณกันแน่ เอกลองร้องตะโกนเรียกหารักยมไปรอบทิศ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอะไร จากตรงไหน และอย่างไร
"....." แต่ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนเท่าไหร่ก็มีแต่สุ้มเสียงแห่งความเงียบงันที่ตอบกลับมา ราวกับว่าเค้าเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเพียงสิ่งเดียวที่หลงอยู่ในภพมิติแห่งนี้

"ฮือ ฮือ ฮือ ...." ขณะที่เอกกำลังวุ่นวายใจว่าจะต้องทำอย่างไร ก็พลันได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นของหญิงสาวดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากที่ไม่ไกลนัก
"ใครน่ะ .... นั่นคือปูหรือเปล่า" เอกหันไปมองทางต้นเสียงพยายามเพ่งมองไปไกล แต่ก็ยังคงมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืดมิด
"..... ฮือ ฮืออออ ...." ไม่มีเสียงตอบรับจากเข้าของเสียงร่ำไห้ เสียงสะอื้นไห้นั้นหยุดไปชั่วครู่ แล้วก็เริ่มต้นใหม่อีกรอบเหมือนไม่สนใจอะไร
"....." เอกตัดสินใจเดินไปตามต้นเสียงร้องไห้ที่ได้ยินอย่างช้า ๆ รู้สึกหวาดหวั่นในใจลึก ๆ การที่ต้องหลงอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดมิดนี้ ไม่ว่าใครจะหาญกล้าเพียงใดก็ต้องรู้สึกหวาดหวั่นบ้างไม่มากก็น้อย

...... ท่ามกลางความเวิ้งว้างอันมืดมืด มีเพียงเสียงร้องไห้ และเสียงจ๋อม ๆ ดังขึ้นตามจังหวะการก้าวย่ำเท้าของเขาลงไปในน้ำเท่านั้น

".... นั่นคุณปู หรือเปล่า" เอกที่เดินตามต้นเสียงไปซักระยะ ร้องถามเมื่อเค้าพบเห็นอะไรบางอย่างปรากฎอยู่รางเรือนในมุมแห่งความมืดมิดนั้น
"..... ฮืออออ ฮืออ ...." ยังคงไม่มีเสียงตอบจากต้นเสียง แต่เค้ารับรู้ได้ว่าเค้ามาถูกทางแล้ว เพราะเสียงร้องไห้ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ นั้นบ่งบอกได้ว่าระยะห่างของตัวเค้ากับต้นเสียงนั้นเริ่มลดลงเรื่อย ๆ
"คุณปู ..." ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เค้าเดินเข้าไปใกล้ร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้อยู่ที่มุมห้องเนื้อตัวของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำเหนียว ๆ เต็มไปหมด

"............." หญิงสาวไม่ตอบ เธอเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมามองผู้มาเยือนด้วยความสงสัย แม้ใบหน้าจะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา แต่เธอก็ยังคงความสวยใสน่ามองตามแบบฉบับสาวบ้านนาไว้เป็นอย่างดี หากแต่แววตาของเธอดูเฉยฉาไร้สิ้นซึ่งชีวิตชีวาราวกับไร้ซึ่งเป้าหมายแห่งชีวิต

"คุณปูจริง ๆ ด้วย" เอกรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย ใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่เบื้องหน้านี้คือใบหน้าเดียวกับคนไข้สาวสวยที่เขาเพิ่งจะได้ลิ้มชิมรสสวาทมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน เค้ามาได้ถูกทางแล้ว .... ปัญหาก็คือจะต้องทำอะไรต่อไป .....

"คุณปู กลับกันเถอะครับ ทุกคนรออยู่นะ" เอกนั่งลงที่เบื้องหน้าของหญิงสาว พยายามเอ่ยปลอบใจ
"... ใครรอปูอยู่ล่ะ .. ก็ทุกคนตายกันหมดแล้ว ... ดูซิ เลือดนองเต็มพื้นเลย ฮือ ฮือออ" ปูมองไปรอบข้างอย่างหวาดกลัวแล้วก็ฟุบหน้าลงไปร้องไห้ต่ออย่างหมดอาลัยตายอยาก

"เลือดเหรอ .... เฮ้ยย ...." ชายหนุ่มลองเอื้อมมือลงไปแตะของเหลวที่นองเต็มไปทั่วพื้นขึ้นมาดู ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อพบว่าที่จริงแล้ว ของเหลวที่เค้าเดินเหยียบย่ำไปมานั้นคือเลือดสีแดงสดปริมาณมหาศาลที่เจิ่งนองอยู่

"ฮืออ พ่อ แม่ พี่ชาย ... ทุกคน ตายหมดแล้ว ฮือออ" ปูก้มหน้าลงไปร้องไห้ราวกับจะขาดใจตายตามครอบครัวเสียให้ได้
"......." เอกพยายามตั้งสติ นึกถึงคำพูดของรักยมที่บอกว่า สภาพภายในจิตใจของคนนั้นจะแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์และความคิดของเจ้าของร่างจิตอย่างคล้องจองกัน และเมื่อมาเห็นสภาพทะเลเลือดแบบนี้ ก็บ่งบอกได้ถึงความเศร้าและหดหู่ของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เค้าเอื้อมมือจะไปจับมือของปูเพื่อให้กำลังใจ แต่ ....

"อย่ามาแตะปู นะ กรี๊ดดดดดดดดด ออกไป ออกไปปปปป" หญิงสาวราวกับจะหวาดกลัวมือของชายหนุ่ม เธอสะดุ้งขยับตัวถอยหลังหนี พร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันร่างของเอกก็โดนพลังมหาศาลของอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น อัดกระแทกใส่จนกลิ้งกระเด็นออกมาไกลจากร่างของปู

"แค่ก ๆ โอยยยย" เอกที่ล้มกลิ้งไปตามแรงกระแทกที่มองไม่เห็น ยันตัวขึ้นสำลักด้วยความรู้สึกจุกแน่น เค้ารู้ดีว่าภายในจิตแห่งนี้ หญิงสาวเจ้าของจิตมีอำนาจอย่างเต็มที่ ที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ และดูท่าทางเธอจะหวาดกลัวเพศตรงข้ามอย่างรุนแรง

ซึ่งก็ไม่ผิดเมื่อเธอนั้นโดนทำร้ายซะจนยับเยินขนาดนั้น ไหนจะโดนข่มขืนต่อหน้าคนรัก ไหนจะโดนฆ่าล้างครัว ความทรงจำเหล่านี้หากจะทำให้เธอหวาดกลัวผู้ชายมันก็ไม่ได้แปลกอะไรเลย เอกรู้สึกอับจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ รักยมก็ไม่อยู่ซะด้วย

แต่ขณะที่กำลังคิดหาทางออก ก็กลับได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"พี่เอก ... นั่นพี่เอกหรือเปล่าคะ"

...........................................................

ตัดกลับไปที่ห้องพยาบาล

"ฝ้ายครับฝ้าย" เก่งยืนจับแขนของฝ้ายแล้วเขย่าไปมาเบา ๆ เค้าไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดี ๆ ฝ้ายถึงได้หลับไป ที่เค้าพอจะนึกออก ก็มีเพียงแค่เหตุผลเดียว นั่นคือฝ้ายได้ถอดจิตตามเอกไปแล้ว เค้าเชื่อว่าอย่างนั้น แต่มือยังคงเขย่าร่างไร้สติของฝ้ายต่อ สัมผัสนุ่มนิ่มของเรือนร่างพยาบาลสาวสวยสะพรั่งทำเอาเค้าแทบไม่อยากจะถอนมือออกจากเนื้อแขนขาวเนียนแน่นมือนั้น เค้าก้มลงบรรจงมองสาวสวยที่นอนหลับตาพริ้ม และมองดูทรวงอกอวบที่สะท้อนขึ้นลงเบา ๆ ตามจังหวะการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ริมฝีปากสวยเผยออ้าออกเล็กน้อย และกลิ่นหอมรัญจวนใจของเธอ ทำเอาท่อนลำของเก่งเบ่งขยายจนคับแน่นเต็มกางเกงอีกครั้ง

"คุณฝ้าย ตื่นเถอะครับ ..." ราวกับอยู่ในภวังค์ ชายหนุ่มไม่สามารถสะกดกลั้นความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าสาวสวยเจ้าเสน่ห์คนนี้ เค้าเลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้ทั่วใบหน้าสวยหวานอย่างไม่เกรงใจเจ้าของร่าง โดยหากฝ้ายตื่นขึ้นมากลางคันก็จะอ้างบอกว่าต้องการปลุกให้ตื่นเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่นใด มือหยาบกร้านที่ผ่านงานใช้แรงงานในทุ่งนามาตลอดชีวิตนั้นสัมผัสเข้ากับความเนียนนุ่มของผิวสาวชาวกรุงก็ทำเอาเขาใจเต้นแรงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าคิดนอกใจปูแฟนสาวของเค้า แน่นอนว่าเค้ายังคงรักปูอยู่

หากแต่ก็มิอาจจะปฎิเสธเพลิงไฟแห่งความต้องการเบื้องลึกในใจที่อยากจะเชยชมร่างงามเบื้องหน้านั้นเหมือนชายหนุ่มทั่วไปได้ ความต้องการมันล้นเหลือซะจนทำให้เค้าลืมเหตและผลไปอย่างสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงไปจูบพรมไปทั่วพวงแก้มนวลนิ่ม ใบหู และลำคอขาวผ่องของฝ้ายอย่างตื่นเต้น

ความหอมหวลของกลิ่นกาย และความเนียนนุ่มของเนื้อสาว ทำเอาอารมณ์ของเค้ากระเจิดกระเจิงไปถึงเหตการณ์ก่อนหน้านี้ ตอนที่ฝ้ายและเค้าอยู่ในมนต์สะกด สาวสวยส่งสายตาหวานเยิ้ม นอนทอดร่างยอมรับลีลารักจากเค้าทุกท่วงท่าอย่างร้อนร่าน เสียงร้องโอดโอยครวญครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านของเธอยังคงแว่วสะท้อนไปมาในโสตประสาทของเก่งอย่างไม่หยุดยั้ง เขารู้สึกได้ว่าเขาคลั่งไคล้และหลงไหลในตัวพยาบาลสาวคนนี้ซะจนหัวปักหัวปำซะแล้ว แม้นี่จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการทำเรื่องแบบนี้ แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็เป็นได้

"คุณฝ้าย ขอโทษนะครับ ผมทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ" เก่งมองริมฝีปากบางอันแสนเย้ายวนนั้นอย่างหื่นกระหาย เค้าอดใจไว้ได้ไม่นานนัก ก็ต้องก้มลงไปบดจูบอย่างเมามันส์ แม้จะไม่มีการตอบรับจากเจ้าของร่าง แต่ความนุ่มนิ่มหอมหวานของริมฝีปากเปียกชื้นนั้นก็เพียงพอที่จะสร้างความกระสันซ่านให้จนขนของเค้าลุกซู่ ริมฝีปากบางสวยโดนบดจูบอยู่เนิ่นนานกว่าที่เขาจะรู้สึกพอใจ เค้าถอนปากออกมาแล้วเลื่อนไประดมจูบซุกไซร้ไปทั่วซอกคอขาวผ่องอย่างหื่นกระหาย มือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของฝ้ายอย่างระรานใจ

"อืม ฝ้ายสวยจัง" เค้าลุกขึ้นขยับร่างของฝ้ายที่อยู่ในท่าฟุบหน้านอนกับเตียงขึ้นมาอิงกับเบาะพิงของเก้าอี้แทน แล้วขยับมืออันสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตพยาบาลสีขาวออกอย่างช้า ๆ ทีละเม็ด ๆ จนหมด

ไม่นานนักผิวกายขาวสะอาดผุดผ่องที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ก็โผล่แสดงตัวออกมายั่วยวนสายตาที่เต็มไปด้วยความกำหนัดของเค้าแบบเต็ม ๆ ร่องอกที่เบียดแนบชิดด้วยสองเต้าอวบเต่งโดนห่อหุ้มด้วยยกทรงลวดลายสวยงามตามแบบฉบับของสาวชาวกรุง ที่ผิดกับยกทรงถูก ๆ ของสาวบ้านนอก ระดับความกระสันพุ่งปรี๊ดลงไปที่ท่อนเนื้อส่วนล่าง ทำเอามันเบ่งพองตัวคับแน่นจนเค้ารู้สึกปวดหนึบ เขารีบก้มลงไปลากลิ้นเลียชิมรสเนื้อสาวที่ร่องอกขาวผ่องนั้นอย่างอร่อยในรสชาติแห่งความหอมหวาน ขณะที่สองมือหยาบกร้านก็บีบขยำเคล้นสองเต้าไปด้วยพร้อมกันอย่างหิวกระหาย

ชายหนุ่มเสียเวลาหาตะขอยกทรงอยู่นาน กว่าที่จะพบว่ากุญแจสวรรค์สู่สองเต้าอวบนั้นอยู่ด้านหน้ามิใช่ด้านหลังเหมือนยกทรงทั่วไป เมื่อค้นพบเป้าหมายแล้ว เพียงพริบตาเดียวตะขอเกี่ยวที่พยายามปกป้องร่างเจ้าของไว้ก็โดนปลดออก เต้านมขาวสวยได้รูปเด้งผึงออกมาโชว์แบบเต็มตาหัวนมงามงอนสีชมพูนั้นแข็งขึ้นมาเป็นเม็ดเหมือนกับว่าพร้อมที่จะให้เขาได้ลิ้มชิมรสได้ทุกเมื่อตามแต่จะต้องการ

"นมสวยจัง อืมมม" เก่งหอบหายใจกระเส่า ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ้าปากงับที่ตรงหัวนมไว้ แล้วออกแรงเลียดูดดุนไปทั่วอย่างหิวโหย เต้านมอีกข้างก็อยู่ภายใต้การฟอนเฟ้นของมือหยาบที่บีบขย้ำใส่อย่างมันส์มือ ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงไปที่ท่อนขาขาวเนียนสวยของฝ้าย ขยับเลิกชายกระโปรงพยาบาลขึ้นไปจนถึงเอว จากนั้นจึงล้วงมือลงไปที่เป้ากางเกง เค้าชะงักเล็กน้อยเมื่อพบว่ามือของเค้าสัมผัสเข้ากับเนินนูนที่มีขนอุยนุ่ม ๆ แบบเต็มมือ ๆ เพราะตอนนี้ฝ้ายไม่ได้ใส่กางเกงในอยู่

"อืออ" ร่างฝ้ายกระตุกไหวเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สติ เมื่อโดนสัมผัสเสียวรุกล้ำไปถึงจุดที่สำคัญที่สุด ปลายนิ้วของเก่งกรีดไล่ไปตามร่องอันเปียกชื้น แล้วสะกิดเข้ากับเม็ดติ่งเสียวแบบเน้น ๆ หลายครั้ง ไม่นานนักน้ำรักของพยาบาลสาวก็หลั่งไหลทะลักออกมาจนเปียกชุ่มร่องเสียวอีกครั้ง

"หีสวยจัง ขอชิมหน่อยนะครับคุณฝ้าย" เก่งก้มลงมองร่องเสียวที่ฉ่ำเยิ้มอย่างระเริงใจ เค้ากล่าวขออณุญาติจากเจ้าของร่างที่ยังคงไม่ได้สติ เก่งเพ่งมองอย่างหื่นกระหาย กลีบแคมของพยาบาลสาวเมืองกรุงคนนี้ดูสวยงามอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นสีแดงอมชมพูสลับกับสีขาวผ่องดูสะอาดตา
ไม่เหมือนกับของพวกอีตัวที่เค้าเคยไปขึ้นครูกับรุ่นพี่ในงานรับน้องแม้แต่น้อย ของพวกอีตัวกรำสวาทเหล่านั้นดูมันยับยู่ยี่ เป็นสีดำคล้ำ และกลวงโบ๋ จนไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลยว่าพวกเธอได้ผ่านเกมสังวาสมาอย่างมากมายขนาดไหน

ตอนนั้นเขาอยากจะลองทำเหมือนกับที่เห็นในหนังโป๊ดูเหมือนกัน เขารู้สึกตื่นเต้นที่เห็นสาวสวยดาราหนังโป๊ดิ้นพล่าน ๆ อย่างลืมตาย เมื่อโดนชายหนุ่มดูดเม้มที่เนินสวรรค์ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะทำแบบนั้นกับอีตัวที่เขาพาไปนอนด้วยได้ มาบัดนี้ร่องหีที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าทำเอาเขาอยากลิ้มชิมรสอย่างสุด ๆ แม้ว่าจะเป็นร่องหีที่เขาเคยลิ้มชิมรสมาแล้วก็ตาม แต่ในตอนนั้นเขาอยู่ภายใต้ความควบคุมของวิญญาณร้าย ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเช่นในตอนนี้

"อืออ ..." ร่างไร้สติของฝ้ายสั่นกระตุกพร้อมกับร้องครางออกมาเบา ๆ เมื่อลิ้นสาก ๆ ลากเลียไปที่ร่องเปียกชื้นนั้นอย่างสะใจ รสชาติหอมหวานของน้ำรักที่หลั่งไหลออกมา และปฎิกิริยาตอบสนองของหญิงสาวทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สติ ทำให้เก่งยิ่งรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด เขาลากลิ้นโลมเลียไปทั่วร่องเสียวนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ มันเหมือนน้ำทิพย์ที่ไม่มีวันหมด ยิ่งเขาโลมเลียมากเท่าไหร่ น้ำรักก็ยิ่งหลั่งไหลออกมาให้เขาได้ลิ้มชิมรสมากขึ้นเท่านั้น เสียงดูดเลียดัง ซ๊วบ ซ๊วบ ลั่น อย่างไม่สนใจว่าใครจะได้ยิน ความเสียวซ่านเล่นงานหญิงสาวจนตัวแอ่นกระตุกเกร็งทั้ง ๆ ที่ยังหลับไหลไม่ได้สติ อาการตอบรับของหญิงสาวยิ่งทำให้ เก่งรู้สึกสะใจยิ่งขึ้น เขาก้มหน้าก้มตาอ้าปากงับเนินเนื้อแบบเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับตวัดลิ้นโลมเลียบดบี้ไปที่ติ่งเสียว สองมือหยาบเอื้อมขึ้นไปจับกุมสองเต้าอวบแบบเต็ม ๆ มือ ก่อนที่จะบีบขยำคลึงเล่นอย่างสะใจในอารมณ์

"อื๊ออ อือออ ...." ฝ้ายร้องครางในลำคอ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สติ ก่อนหน้านี้เธอยังคงรู้สึกค้างคาในกามารมณ์อยู่แล้ว และเมื่อโดนความเสียวซ่านที่มากล้นเหลือเล่นงานเข้า ก็ทำเอาร่างกายตอบรับความเสียวไปเองตามธรรมชาติ ร่างอวบอัดนั้นกระตุกเฮือก ๆ อย่างรุนแรงเมื่อถึงจุดสุดยอด ร่องคลอดคัดหลั่งน้ำรักออกมาอย่างไม่ขาดสาย แม้ว่าเก่งจะพยายามออกแรงดูดกินอย่างเต็มความสามารถ แต่มันก็เยอะซะจนล้นทะลักเลอะเต็มหน้าของเขาอยู่ดี เก่งยังคงก้มหน้าก้มตาดูดร่องเนื้อเสียวอย่างเพ้อคลั่งในรสรักจนร่างงามนั้นหยุดสั่นไหวและสงบนิ่งเหมือนเดิม

"หีสวยจัง ทนไม่ไหวแล้ว ผมขอนะครับคุณฝ้าย" เก่งก้มลงมองร่องเสียวที่ฉ่ำเยิ้มอย่างระเริงใจ เค้ากล่าวขออณุญาติจากเจ้าของร่างที่ยังคงไม่ได้สติ ก่อนที่จะขยับตัวขึ้นยืนแล้วรูดเอากางเกงและกางเกงในลงไปกองกับพื้นในคราวเดียวกันอย่างรวดเร็ว ท่อนเอ็นสีดำคล้ำอันใหญ่ดีดผึงออกราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังหิวจัดหลุดออกมาจากกรงขัง มันหงกหัวหงึก ๆ ชี้ไปทางสาวสวยที่อยู่ในชุดพยาบาลเหมือนจะจับจองว่านี่เป็นเหยื่ออันหอมหวานของมัน และก็คงจะไม่มีใครหน้าไหนที่จะมาขัดขวางความต้องการของเขาได้

ชะตากรรมของฝ้าย พยาบาลสาวสวยจะเป็นอย่างไร
เธอจะโดนชายอื่นยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอหรือไม่
หรือจะมีใครมาช่วยเธอไว้ได้ทันท่วงที

........................................................... 

kaithai

"ชะตากรรมของฝ้าย พยาบาลสาวสวยจะเป็นอย่างไร
เธอจะโดนชายอื่นยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอหรือไม่ "


เพราะฝากแมวให้เฝ้าปลาย่าง
ก็ไม่แคล้วที่ แมวจ้องเขมือบปลาย่าง


แล้วจะมีใครมาช่วยเธอไว้ได้ทันไหม

ไมท์ ถถถถ

สนุกมาก อยากให้ฝ้ายได้หลายๆคนแบบวนจัง

kuniine

เรื่องนี้สนุกมากครับ ออกไปทางแนวภูตผีผสมด้วย น่าติดตามครับ

sixdevil7

อ่านกี่ครั้งก็สนุกทุกครั้ง.....ขอบใจมากครับ