ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

GhostWriter ภาคเวนิสพิศวาส ตอนที่ 4 โมกับ Venezia & Gondola (Copy kankan)

เริ่มโดย Pem Samsan, กุมภาพันธ์ 07, 2017, 04:39:03 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Pem Samsan

GhostWriter ภาคเวนิสพิศวาส ตอนที่ 4 โมกับ Venezia & Gondola (Copy kankan)
---------------------------------------

   เฮ่อ.....เสียวสุด ๆ เลยค่ะ กินข้าวต้มตอนกลางวันกับพี่กาญจน์นี่ อิอิ.... ขึ้นต้นแบบนี้อย่าได้แปลกใจเลยนะค่ะ พี่กาญจน์หวานใจขอร้องแกมบังคับให้โมต้องเขียนบ้าง ทีนี้ก็เริ่มด้วยการนอนติวเข้มให้โม ติวเรื่องการเขียนนะ..ส่วนเรื่องอย่างว่า..โมชำนาญแล้วละ

   "พี่ต้องการให้ใช้มุมมองของโมเป็นผู้เล่าเรื่องบ้าง.."
   ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอกค่ะ แม้จะทำงานด้านหนังสือหนังหาแต่ไม่เคยคิดจะเขียน  อาชีพของโมดูแลทางด้านการบริหารและการเงินบริษัทสิ่งพิมพ์ของพี่โอ๊ค ที่ช่วยพิสูจน์อักษรนะ โมอาสาทำให้พี่กาญจน์คนเดียวเท่านั้น (ก็ความชอบส่วนตัว อิอิ) ไม่เคยคิดจะเป็นนักเขียนแม้นิด เพียงแต่เป็นคนรักและชอบอ่านหนังสือเท่านั้น พี่กาญจน์คะยั้นคะยอที่จะให้โมเขียนให้ได้ โดยสารพัดกล่อม

   "แค่โม..เล่าเรื่องระหว่างพี่กับโม เหมือนที่โมอ่านที่พี่เขียนถึงโมแบบนั่นแหละ...เล่าตรง ๆ เห็น รู้สึกและสัมผัสอะไรก็ว่าไปตามนั้น"
   "โมไม่รู้จะบรรยายได้ดีหรือเปล่า...?"
   "ก็ลำดับให้มันออกมาจากใจโมซิ เล่าตามที่โมรู้สึก พี่อยากอ่านความรู้สึกของโมด้วย..."
   "งั้น...พี่กาญจน์รับปากกับโมก่อน..."
   "รับปากอะไรจ๊ะ ?"

   "พี่กาญจน์ต้องไม่เอาไปให้พี่โอ๊คอ่าน..." พี่กาญจน์หันมาสบตาโมนิ่งแล้วพูดเบา ๆ ว่า
   "แหงละ..เรื่องเวนิสพิศวาสเป็นเรื่องเสียวของพี่กับโมสองคนเท่านั้นนี่นา..โอ๊คจะเอี่ยวได้ไง..." พูดจบพี่กาญจน์ขยี้หัวโมไปมา
   "งั้น...ก็ได้...โมจะลองเขียนดู...พล๊อตละพี่กาญจน์..."
   "พล๊อตก็คือเที่ยว...แล้วเรื่องบนเตียง...แค่นั้น...โมเขียนเกี่ยวกับความสุขสองอย่าง..." พี่กาญจน์หยุดนิดหนึ่ง เหมือนอยากให้โมถาม
   "สองอย่างยังไง....?"
   "อย่างแรกความสุขจากการเที่ยว อย่างที่สอง..ความสุขเรื่องเซ็กส์กับพี่ ดีป๊ะ...?"
   "หือ...โมจะเขียนบรรยายยังไงละนี่..?" โมก้มมองพื้นไม่กล้าสบตา แต่คิดว่าแก้มตัวเองคงระเรื่อขึ้นมา

   "ไม่ยากหรอก...ภาษาของโมดีอยู่แล้วนี่นา...เชื่อพี่โมเขียนได้อย่างสบาย..."
   "ไม่ค่อยกล้า...ยิ่งตอนเสียว..อุ๊ ๆ ไม่อยากคิด ๆ" โมยังก้มหน้าคิดแล้วมันสยิวยังไงก็ไม่รู้
   "อ้าว..ก็เขียนตามที่โมรู้สึกซิ...ถูกจูบแล้วดีหรือเปล่า รู้สึกยังไง ในใจเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าโมบรรยายถึงตอนพี่ทำอะไรของโม เช่นจับนม พี่ยื่นมือไปจับ..จับตรงไหน บีบหรือลูบ แรงหรือเปล่า จากพี่ก็มาที่โม ว่าโมรู้สึกยังไง ขนลุก เสียวซ่าน เกิดพฤติกรรมยังไงกับโมบ้าง โมก็เล่าไปแบบนี้แหละ...เอาตัวเองเป็นสำคัญ...ง่ายไม่ยากหรอก...การพิสูจน์อักษรยากกว่าเยอะ...ภาษาไทยดี ๆ..หัดสักนิดก็จะไปได้สวย..."
   "ไปไหน..ไม่ไปหรอก...ฟัดกับพี่กาญจน์อยู่ที่นี่แหละ..." โมพูดยวน ๆ ให้พี่กาญจน์หัวเราะเท่านั้นแหละ แล้วก็ได้ผลด้วย พี่กาญจน์หัวเราะแล้วก้มลงจะปล้ำจูบโมให้ได้ทีเดียว แต่โมไม่ยอมง่าย ๆ หรอก เดี่ยวเสียเชิง

   ในที่สุดโมเลยต้องมานั่งเขียนเล่าเรื่องของตัวเองกับพี่กาญจน์นี่แหละคะ อ้อ..ลืมบอกไป โมตกลงกับพี่กาญจน์เอาไว้ เราจะเขียนกันละตอนแล้วจะเขียนให้สุดใจ ไม่อยากให้พี่กาญจน์รู้หรอกว่า...อยากอ่านตอนที่พี่แกบรรยายอารมณ์เสียวของพี่แกกับโมนะ...

..........................

   เล่าความเป็นมาแล้วก็มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า

   หลังจากโมโซ้ยข้าวต้มกลางวันกับพี่กาญจน์ในโรงแรมหรู เอ..นึกก่อนมันชื่อไรหว่า อึม..ชื่อ Gritti Palace (นึกออกแล้วดีใจจัง)  เราหลับกันไปตื่นหนึ่งเต็ม ๆ นานเกือบสองชั่วโมง ก็แปลกเหมือนกันนะ พอถึงจุดสอดยอดกับพี่กาญจน์ทีไร..ไม่รู้เป็นไงเนื้อตัวเบาเหมือนไร้น้ำหนัก แล้วเกิดความรู้สึกอยากจุหลับสักตื่น พอได้หลับเต็มอิ่มแล้วมันสดชื่นจริง ๆ โลกหนอโลก..ทามมม..มายยยย..มานน..มีความสุข..ได้ปานนี้เน๊าะ....(กิ้ว ๆ)

   โมตื่นขึ้นมาก่อนพี่กาญจน์เสียอีก ตอนลืมตาตื่นขึ้นมันงง ๆ อยู่เหมือน รู้สึกเหมือนฝัน..เอ..เรานอนซุกอกใครอยู่หว่า ? นึกแล้วรู้สึกขำนะตอนนั้น เออ..ก็มากับพี่กาญจน์นอนกับพี่กาญจน์แล้วจะซุกอกใครได้อีก เลยแอบจูบอกตรงตำแหน่งหัวใจของเขาฟอดหนึ่ง...ทำอย่างเบาที่สุด กลัวตื่นขึ้นมา คงเหนื่อยกับการโซ้ยข้าวต้มเมื่อกี้แน่เลยหลับสนิทแถมกรมเบา ๆ เสียอีก คงใช้แรงไปเยอะเชียว นี่โมช่วยไปตั้งครึ่งตั้งค่อนแล้วนะ

   ความจริงการกินข้าวต้มกลางวันนี่ โมกินกับพี่โอ๊คบ่อยไป  ช่วงแรก ๆ ก่อนที่พี่โอ๊คจะมีกิ๊กเพิ่มอีกสองคนนั่นแหละ โมไม่เคยหึงหวง โมรู้จักและสนิทกับแก้วและรินดีด้วยซ้ำ พี่โอ๊คแบ่งให้คนละสองวันรวมเป็นหกวันอีกวันพี่โอ๊คไปอยู่บ้านพ่อแม่

   โมจูบอกตรงหัวใจพี่กาญจน์อีกครั้งแล้วเงยหน้าขึ้นมองปรากฏว่าพี่กาญจน์นอนลืมตาแป๋ว
   "ตื่นตอนไหนนะพี่กาญจน์..."
   "ก็ทันได้เห็นว่ามีสาวน่ารักคนหนึ่งมาแอบหอมอกพี่ไง..." ตาพี่กาญจน์เป็นประกายหวานเชียว
   "จูบตรงที่หัวใจต่างหาก..." โมเงยหน้าไปหอมแถมพี่กาญจน์เลยก้มลงถาม
   "ตะกี่ดีหรือเปล่า ?"
   "อะไร..ตะกี้..." โมแกล้งยวนไปงั้นเอง ทีเราอยากให้พูดตรง ๆ ทีตัวเองละทำพูดอ้อม ๆว้ แบบนี้จะใช้ได้ไง เอาเปรียบกันนี่นา
   "ก็เมื่อกี้นะ....." โมแกล้งส่ายหน้าเป็นไม่เข้าใจ แล้วพูดหน้าตาเฉยว่า
   "ตะกี้โมหลับสนิทเลย...ไม่ฝัน..." แล้วรีบซุกกับอกไม่กล้ามองหน้ากลัวกลั่นหัวเราะไม่ไหว
   "พี่อยากถามโมไง...ว่าที่พี่ทำโมนะรู้สึกดีหรือเปล่า ?" แน่ะ ๆ แพลมออกมาหน่อยหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่พูดตรง ๆ
   "ก็พี่กาญจน์ทำอะไรโมละ ที่พี่กาญจน์ว่าดีหรือเปล่า ?"

   พี่กาญจน์ก้มลงจูบกลางกระหม่อม
   "ก็ที่พี่เย็ดโมนะเสียวมากหรือเปล่า ?" เห็นไหมละพูดออกมาจนได้ ทีตัวเองละอยากให้เค้าพูดยังโง้นยังงี้ โมเงยหน้าขึ้นมองเราสบตาหวามแล้วโมพยักหน้าไม่หลบตาละ
   "พี่เย็ดดีหรือเปล่าโม ?" เห็นไหมละว่าพี่กาญจน์อยากรู้จริง ๆ นั่นแหละ ตอนนั้นสมองโมหมุนติ้วหาคำตอบ ก็อยากแกล้ง ๆ หน่อยเท่านั้น
   "ก็ดีนิดนึง..." ดูเหมือนแววตามีแววพิศวง เหมือนไม่เชื่อคำพูดของโม

   "เหรอ..ไม่ดีเหรอ..แต่พี่ว่าพี่เห็นโมมันแสดงออกว่าดีนี่นา...ครางซี้ด ๆ ใหญ่เลย...หลอกพี่หรือเปล่า...??" โมแกล้งส่ายหน้าไปมาแล้วตอบว่า
   "จริง...เสียวนิดหน่อย..."
   "แต่พี่เห็นโมร้องใหญ่เลยนี่นา..." พี่กาญจน์ยังยืนยันหนักแน่น
   "แล้วเย็ดโมพี่กาญจน์เสียวมากหรือเปล่าละ...?" พี่กาญจน์พยักหน้ารับตาวาว
   "เสียวที่สุดเลยจ๊ะ..พี่ไม่เคยเย็ดใครเสียวขนาดนี้มาก่อนเลย..." แหม..ได้ฟังแล้วมันภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องล้วงความลับต่อ

   "โมแตกต่างกับคนอื่นยังไงละ พี่กาญจน์บอกได้หรือเปล่า ?" พี่กาญจน์พยักหน้ายื่นมือมากอดโมแล้วพลิกให้ตัวเองลงนอนหงาย ดันร่างโมให้ขึ้นไปนอนคว่ำหน้าทับอยู่บนอก พี่กาญจน์ยิ้มตาเป็นประกายวาว
   "หีโมใหญ่แต่แน่นมาก เวลาทำแต่ละทีเสียวสุด ๆ...กระเด้าแต่ละทีเสียวน้ำแทบแตก.."
   "โมก็เสียวเหมือนกันอ๊ะ.." แหมพี่กาญจน์สารภาพออกมาขนาดนั้น ถ้าโมยังปิดบังความในใจไปทำกันละ ก็พูดอย่างที่ตัวเองรู้สึกซิ

   "แน๊ะ..เห็นตะกี้บอกเสียวนิดหน่อย.. ๆ"
   "โมแกล้งพี่ไง...พี่กาญจน์เก่งอ๊อก...โมเสียวมาก ๆ แล้วมีความสุขมาก" โมซบหน้าลงแนบอกฟังเสียงหัวใจพี่กาญจน์เต้นตูมตาม
   "อุ๊ย...ของพี่กาญจน์แข็งจัง...."
   "ก็ฟังโมพูดแบบนี้..มันคึกใหญ่นะซี...แค่โมชมว่ามันเก่ง..แค่นี้..ดีใจตายเลย..."
   "เคยมีใครชมพี่กาญจน์มั่งปล่าว...?" พี่กาญจน์สอดมือมาลูบแผ่นหลังโม
   "ผู้หญิงแทบทุกคนแหละ..." โมได้ฟังก็หัวเราะกิ๊ก ๆ โมเชื่อว่าพี่กาญจน์พูดจริง เพราะฝีมือพี่กาญจน์และน้ำอดน้ำทนผู้หญิงคนไหนจะไม่ชอบ

   โมนอนซบอกแต่พี่กาญจน์แอ่นท่อนเนื้อแข็งเป็นท่อนไม้ของเค้าบดกับเนินที่โมขยับไปทับมันเอง การอยู่กับคนถูกใจมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แค่การโหมโรงนิด ๆ หน่อย ๆ โมว่าผู้หญิงเรามีความสุข ผ่อนคลายแล้วอบอุ่นเหลือเกินแล้ว โมปล่อยให้พี่กาญจน์เด้งสะโพกขึ้นมาบดกับเนินไปเรื่อย ๆ หลับตาปล่อยให้ใจเคลิบเคลิ้มไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จนพี่กาญจน์กระซิบเรียกโม
   "โม.....โม....หลับเหรอ ?"
   "หึม...ไร...?"
   "ของโมเปียกแล้ว..."
   "ปล่อยมันเถอะ...พี่กาญจน์บ่มให้ดีนะ เอาไว้คืนนี้..พี่กาญจน์จะได้ฉลองให้มันกว่าตอนกลางวัน..." พูดแล้วโมหัวอดหัวเราะไม่ได้
   "อื้อ..คืนนี้พี่อยากจะจูบโมให้ทั่วทั้งตัวเลย..."

   "งั้นเรามาวางแผนกันก่อนดีกว่า...ว่าคืนนี้เราจะทำอะไรกันมั่ง...ดีป๊ะพี่กาญจน์"
   "แผนสำหรับพี่..คืออยากจูบโมทั้งตัว..ไม้เว้นซักตารางนิ้วเดียว...แล้วโมละ..."
   "โมจะจูบตอบให้พี่มั่ง..อาว..ปล่าว...?"
   "เอานิดหน่อยพอ..ได้ปล่าวโม..."
   "ทำไมละ...?" โมเอาปลายนิ้วเขี่ยหัวนมพี่กาญจน์ "พูดแปลก ๆ"
   "ก็กลัวอดเหมือนคืนก่อน...."

   "แหม..ต่อไปโมไม่ให้พี่กาญจน์อดหรอกจ๊ะ...ถ้าพี่กาญจน์หลับ โมจะลักหลับพี่กาญจน์เลย...อิอิ"
   "บ้า..พี่จะลักหลับโมต่างหาก..ไม่ว่า..."
   "กลัวไม่ได้เอาโมเหรอ ??" พี่กาญจน์ยักคิ้วตอบ ส่วนมือก็กางนิ้วออกสางผมให้โม "อยากทำกับโมมากเหรอ.." พี่กาญจน์ผงกหัวขึ้นมองหน้าแล้วยิ้ม
   "มากที่สุดเลย..."

   "งั้น...เอาเป็นว่าโมแค่ปลุกอารมณ์พี่กาญจน์นิดหน่อยพอ..."
   "โมดูดเก่งจะตาย..."
   "เหรอ...ผู้ชายชอบให้ดูดไม่ใช่เหรอ.."
   "ชอบเหมือนกัน..แต่ไม่อยากให้ดูดจนน้ำแตก..น้ำแตกแล้วอดไง..."
   "ก็ค่อยต่อยกต่อไปได้นี่นา...โมไม่ว่าสักหน่อย..."
   "แต่พี่อยากเสร็จกับโมตั้งแต่ยกแรกเลย...ไม่รู้ไงอยากทำแบบนี้แหละ..."

   "พี่กาญจน์..นี่กี่โมงแล้วละ...??" พี่กาญจน์หันไปหยิบนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดู
   "โห...เกือบห้าโมง..." พี่กาญจน์อุทานเบา ๆ

   "เราไปเดินเที่ยวกันมั่งเถอะ...เรื่องนั้นเองไว้คืนนี้นะพี่กาญจน์นะ..."
   "งั้นก็ไปอาบน้ำให้สบายตัวกันก่อน...เดี่ยวพี่อาบให้..."
   "อาบให้ผู้หญิงเป็นเหรอ..."
   "ก็ต้องทดลอง..ไม่เคยอาบให้ใครมาก่อน...อยากอาบให้โม...ไปเถอะ...พี่อาบให้"

   โมขยับตัวขึ้นนั่งยื่นหน้าไปจูบแล้วบดริมฝีปากอย่างดูดดื่ม พี่กาญจน์ส่งลิ้นควานเข้าหาโมก่อน
เรื่องจูบแลกลิ้นนี่โมชอบจัง เราปรนเปรอความซาบซ่านตามตุ่มรับรสของลิ้นและเสียวจั๊กจี้ตามไรเหงือกที่ถูกลิ้นควาน โมเองมีหรือจะอยู่เฉย โมตอบโต้พี่กาญจน์ไปทุกเม็ดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง พี่กาญจน์ถึงกับตัวเกร็งไปเหมือนกัน อิอิ สม ๆ ๆ

   ทำให้โมเสียว..โมต้องตอบแทนความเสียวให้กับพี่การไปเหมือนกัน ผู้หญิงเราเพียงเข้าใจจิตใจและความปรารถนาของผู้ชายของตัวก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ส่วนอีกครึ่งควรเก็บความอายเอาไว้กับคนอื่น สำหรับคนของเราชอบอะไรก็ทำให้เขาเถอะ เขายังทำให้เราได้เลย ผู้หญิงมากมายที่เห็นแก่ตัวเช่นชอบให้ผู้ชายใช้ลิ้นทำให้ แต่ตัวเองนะเมินเสียเถอะที่ฉันไม่ยอมทำที่จะรักแค่ไหนก็เถอะ
   เฮ่อ..ไม่สงสารคู่ของตัวเองมั่งหรือไง หรือต้องการให้เขาไปหญิงคนอื่นทำให้ ดูอย่างโมซิ..ศึกษาทั้งตำราและหนังแผ่น พี่โอ๊คยังไปมีอีกสองคนเลย จำเอาไว้นะค่ะ ความสุของเขาก็คือความสุขของเรา ก็เราเป็นคน ๆ เดียวกันไม่ใช่เหรอ อิอิ

   พอถอนปากออกพี่กาญจน์กอดโมนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
   "เดี่ยวเถอะ..เดี่ยวไม่ได้ไปเดินเที่ยวหรอก...ยั่วจัง..."
   "ยั่วไม่ดีเหรอ..โมอยากบ่มอารมณ์ของเราให้สุกงอมเต็มที่ คืนนี้พี่กาญจน์จะได้เต็มที่..."
   "แต่ตอนนี้..พี่ชักอดใจไม่ไหวนะซิ...."

   "งั้น..ไปอาบน้ำเถอะ..ไปเดินเที่ยวให้เพลิน ๆ สบาย ๆ แล้วค่อยกลับมาเล่นตะลุมบอน..อิอิ" โมพูดแล้วนึกเห็นภาพชัดก็เลยอดขำไม่ได้
   "จ๊ะ...คนเก่ง...เอาไงเอากัน...บ่มให้ปรอทแตกกันไปเลยโม..." พี่กาญจน์พูดจบก็หัวเราะเหมือนกัน
   "พี่อยากจนทนไม่ไหวเหรอ ?" พี่กาญจน์ส่ายหน้าและหันมาจ้องหน้าโมยิ้ม ๆ แล้วถามว่า
   "ถามจริง..โมรู้สึกอยากมั่งหรือเปล่า ?" โมโผเข้าไปซบที่ไหล่แล้วกระซิบที่ริมหูเบา ๆ
   "อยากซิ...แต่อยากบ่มให้อยากมาก ๆ กว่านี้อีก..." พูดจบโมก็เป่าลมพรวดไปใบหูพี่กาญจน์อย่างแรง พี่กาญจน์ถึงสยิวกายจนขนลุกซู่ทีเดียว รีบตวัดแขนรัดโมเอาไว้แนบอกแน่นทีเดียว
   "ไปอาบกันเถอะ...อยากให้พี่กาญจน์อาบให้เต็มทนแล้ว..."

   เราเดินล่อนจ้อนไปเข้าห้องน้ำ โมเปิดน้ำลงอ่าง เช็คอุณหภูมิ ขณะที่โมโน้มตัวลงเปิดก๊อกพี่กาญจน์ยืนเบียดก้นโม แอ่นท่อนแข็งตั้งฉากทิ่ม ๆ ตำ ๆ ร่องก้นจนโมต้องขยับก้นส่ายหนี แต่พี่กาญจน์เห็นเป็นเรื่องสนุก แกล้งแอ่นก้นตำยิก ๆ อยู่นั่งแหละ โมก็กลัวอดจิตอดใจไม่ได้..ไม่ได้ชมเมืองเวนิสกันพอดี

   "แคมโมปูดออกมาด้านหลังน่าดูจัง...." เสียงพี่กาญจน์กระเส่าทีเดียวแหละ
   "ลงอ่างเถอะพี่กาญจน์...เดี่ยวก็ไม่ได้บ่มหรอกถูกเด็ดเสียก่อน..." โมไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าหรอก อิอิ..จะเห็นความจริงที่เร่าร้อนในแววตา ความจริงไอ้เราเองก็ชักเสียว ๆ แล้วนั่นแหละ  แต่อยากยืดความอยากอารมณ์ของเองและพี่กาญจน์ให้อยากนานออกไปอีกหน่อย

   พี่กาญจน์ลงไปนั่งเหยียดขาอยู่ในอ่างจนน้ำขึ้นมาสูง โมตามไปชันเข่านั่งบนหน้าขาพี่กาญจน์ พี่กาญจน์วักน้ำขึ้นรดหลังไหล่ให้ โมแกว่งมือวักน้ำขึ้นรดอกตัวเอง
   "โมนั่งตรง ๆ นะ..."
   "หึม....?"
   "นั่งตรง ๆ เดี่ยวพี่กดหลังให้"

   พี่กาญจน์เอนตัวเอาหลังพิงอ่างยื่นมือมาบีบบริเวณต้นคอก่อน จากนั้นก็เริ่มไล่น้ำหนักนิ้วลงมายังแขนจนถึงข้อศอก  พี่กาญจน์ทวนขึ้นมาบีบที่ไหล่และคออีกครั้ง  ต่อด้วยใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดตามร่องกระดูกสันหลังไล่ลงมาจนถึงเอว

   โมเกร็งตัววักน้ำขึ้นรดตัวเองไปเรื่อย ๆ  โอ๊ยยยย....สบายสุด ๆ อยากให้เวลาตรงนี้มันหยุดตรงนี้จังเลย....!!!!!!! แรงกดนิ้วของพี่กาญจน์ไม่หนักไม่เบา กดไล่ตามร่องกระดูกสันหลังหลายรอบ จนสุดท้ายมาใช้ปลายนิ้วกดคลึงบริเวณสะบักทั้งสอง

   อุย...โอววว...ชอบจริง ๆ ผู้ชายอะไรก็ไม่ทำถูกใจจริง ๆ เออ...แล้วเราจะสบายคนเดียวเหรอไงโม ??
โมเลยขยับแล้วหมุนตัวมานั่งยอง ๆ ประจันหน้ากับพี่กาญจน์
   "อ้าว..ไม่ให้พี่นวดหลังแล้วเหรอ..หรือให้พี่นวดนมแทน..." พี่กาญจน์พูดแล้วยิ้มสายตาแพรวพราว
   "ไม่ใช่...โมอยากจะลองนวดให้พี่กาญจน์ดูมั่ง..."
   "ตัวเอง..เคยนวดเหรอ....?" โมส่ายหน้า
   "ไม่เคย..แต่จะพยายาม..อยากทดลองดู" โมยื่นมือไปบีบไหล่ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด แต่กำลังนิ้วไม่พอ แทนที่จะรู้สึกสบายดันทำให้จั๊กจี้มากกว่า
   "โม..ให้พี่นวดให้โมคนเดียวเถอะ...พี่จั๊กจี้จังพิกล..." พี่กาญจน์ดิ้นหนีมือโมเป็นพัลวัน แล้วยกฝ่ามือขึ้นช้อนเต้านมอวบของโมเดาะเล่น
   "แหม..น้ำหนักกำลังได้ที่เชียว...." พูดแล้วพี่กาญจน์ก็หัวเราะร่วนตาจ้องเต้านมเขม็ง
   "บ้า..พี่กาญจน์นี่แหละ ได้ที่ยังไง..?"

   พี่กาญจน์ไม่ตอบแต่เอื้อมมือหยิบฟองน้ำที่วางอยู่บนจานแก้วลงมาชุบน้ำหยุดสบู่เหลวถูซอกคอแล้วลากลงมาถึงร่องอก ชุบน้ำอีกทีแล้วทำถูไปทั่วไป ๆ พักหนึ่งกระซิบว่า
   "หันหลังให้พี่ซิ..จะถูหลังให้..."
   ทำให้สบายแบบนี้ใครจะปฏิเสธก็โง่ซิ...โมรีบขยับตัวหันหลังให้พี่กาญจน์อีกครั้ง พี่กาญจน์จุ่มลงไปในน้ำแล้วยกถูไปทั่วหลัง น้ำอุ่นพอดีผสมกับความนุ่มของฟองน้ำ สบายเนื้อสบายตัวดีจังเลย
   "เดี่ยวพี่หยดครีมอาบน้ำอีกสักหน่อย..."
   โมมองไม่เห็นหรอกแต่ครู่เดียวพี่กาญจน์ก็เอาฟองน้ำตาถูหลังให้โมใหม่ คราวนี้รู้สึกลื่นมากกว่าเก่า จมูกก็สัมผัสกับกลิ่นหอมอบอวลของ Ferragamo

   พี่กาญจน์ถูหลังครู่ใหญ่แล้วจับแขนให้กางออกพาดกับขอบอ่าง สอดฟองน้ำจากซอกรักแร้มาถูนมให้โม ถูข้างซ้ายถูขวาสลับไปสลับมาจนเกิดฟองขาวไปทั่วทั้งสองเต้า
   "สบายไหมโม ?" พี่กาญจน์ถามเบา ๆ

   "อื้อ...ดีจังเลย..พี่กาญจน์นี่เอาใจผู้หญิงเก่งจัง..." โมได้ยินเสียงพี่กาญจน์หัวเราะร่วนแล้วพูดว่า
   "เคยเอาใจใครที่ไหน..ทำแบบนี้กับโมเป็นคนแรกนี่แหละ..."
   "เหรอ...???" โมเลิกคิ้วยักไหล่ "ทำให้โมเป็นคนแรกเหรอนี่...อู้ววว...ภูมิใจจัง...ไม่น่าเชื่อว่าจะเก่งถึงขนาดนี้...อู้วววว"
   แหมไม่อยากบอกเลยว่าเล่นถูจนหัวนมโมแข็งเลย อยากพลิกตัวไปประกบปากจูบขอบคุณจัง...แต่ก็สบายจนได้แต่คิดอยู่ใจคิดเท่านั้น
   พี่กาญจน์วนเวียนถูกนมทั้งสองเต้าของโมนาน โมนะเพลินและพี่กาญจน์ก็คงเพลินเหมือนกันแหละ จากนั้นกลับถูกตัวโมอีกครั้ง ทำซ้ำ ๆ จนตัวโมขาวโพลนไปด้วยฟองสบู่
   โมวักน้ำรดตัวเองเป็นระยะล้างฟองสบู่ออกไปบ้างเหมือนกัน

   พี่กาญจน์ล้างฟองน้ำแล้วหยดครีมอาบน้ำลงไปใหม่แล้วเอามาถูอกตัวเอง
   "พี่กาญจน์ลุกขึ้นยืนเถอะ..มาให้โมถูกทำให้พี่กาญจน์มั่ง..."
   "เหรอ..ดีเหมือนกัน..."
   โมลุกขึ้นยืนก่อนแล้วยื่นมือดึงพี่กาญจน์ให้ลุกขึ้นยืนตามมา พี่กาญจน์ส่งฟองน้ำให้โมแล้วหันหลัง
   "โมถูหลังให้พี่ก่อน..."

   แผ่นหลังสีเข้มเรียบไล่ลงไปถึงสะโพก พี่กาญจน์แม้จะไม่ใช่หุ่นนายแบบแต่ไม่อ้วนไม่ลงพุง เพิ่งจะเห็นว่าพี่กาญจน์นี่ตูดปอดเสียด้วย อิอิ  อดหวนนึกไปถึงคำพูดของพี่โอ๊คไม่ได้ที่บอกว่าผู้ชายตูดปอดนี่มักจะมีอาวุธใหญ่ เลยเอียงตัวไปมองน้องชายพี่กาญจน์ที่ยังชูผงาดเก้าสิบองศาอีกที ก็..ก็..เมื่อคืนมัน..ม่ายยย..ช๊าาาดดดด....ขนาดนี้นี่นา ต้องร้อง "อึ้ม.." ในใจ โหทีนี้ชัดเพราะไม่ได้หน้ามืดเหมือนเมื่อคืน ใหญ่แล้วยาวกว่าของพี่โอ๊คตั้งเยอะ นั่นซิ...จึงเสียวสุด ๆ ขนาดนั้น ถูหลังได้สักโมก็อดไม่ได้ที่จะยืนฟองน้ำไปลูบท่อนลำเล่น ลูบ ๆ ลาก ๆ ไม่กี่ทีพี่กาญจน์เสียวจนตัวเกร็งทีเดียว

   "โม..จะไม่ไหวนา..เล่นแบบนี้...." พี่กาญจน์กระซิบเสียงกระเส่า "เดี่ยวไม่ได้เที่ยวกับพอดี..." โมเลยหันไปถูตัวให้พี่กาญจน์ตรงบริเวณอื่นบ้าง ๆ ความมันส์เก็บเอาไว้คืนนี้ดีกว่า โมเองก็อยากจะออกไปชมเวนิสเต็มที่ หันไปหยิบฝักบัวมาเปิดล้างฟองสบู่สบู่ให้พี่กาญจน์ แล้วเขาก็ดึงฝักบัวไปฉีดน้ำรดตัวโมบ้าง

   ไม่นานเราก็ออกมาแต่งตัว พี่กาญจน์ใส่สูทแบรนด์แนมอย่างดี โมเองก็เอาชุดหรู ๆ มาหลายชุดทีเดียวทั้งสำหรับเที่ยวกลางวันและกลางคืน เลือกเอาเสื้อกับกางเกงค่อนข้างรัดรูปสีดำแล้วสวมเบลเซอร์สูทสีครีมตัดกับเสื้อยืดตัวในแขนยาวสีดำคอเต่า ใส่สร้อยหินเม็ดใหญ่ พี่กาญจน์หันมามองแล้วถึงกับจุ๊ปาก
   "ชุดนี้โมดูเท่ห์มาก ๆ เลยจ๊ะ..."
   "เข้ากับสูทพี่กาญจน์พอดีไม่ใช่หรือค่ะ...?" พี่กาญจน์พยักหน้า "งั้นเราออกไปเดินเที่ยวกับเถอะจ๊ะ เดินเล่น กินอาหารเย็นแล้วค่อยกลับมานอน"

   .....................................

   โมจูงมือพี่กาญจน์ออกมาหน้าโรงแรม เดินเลี้ยวไปยังจัตุรัสซานมาโค มาเจออนุสาวรีย์ Victor Emmanuel II ที่ตั้งอยู่กลางทางเดินหน้าท่าเรือ San Zaccaria

   จัตุรัส San Marcos มุมสูง
   
   ท่าน Victor Emmanuel II
   
   
   โมถอนสายบัวคารวะให้กับท่าน Emmanuel จนพี่กาญจน์อดหัวเราะไม่ได้
   "เพิ่งรู้ว่าโมนี่ตลกดีเหมือนกัน..ตอนทำงานละเครียดเชียว..." โมยื่นมือไปหยิกแก้มพี่กาญจน์เบา ๆ
   "อ้าวก็มีความสุขมันต้องตลก ๆ หน่อยซิพี่กาญจน์...ไปต่อเถอะ..."

   สอดมือเข้าไปคล้องแขนพี่กาญจน์แล้วเดินข้ามสะพานแคบ ๆ ไปอีกสองสามสะพาน ไปหยุดกึกตรงสะพานสุดท้าย มองตรงเข้าไปในคลองแล้วชี้มือให้โมดู
   "ว๊าย..ๆ...โอ้วววว..เรือกอนโดลาพายเรียงแถวกันมาเป็นเลย" ในเรือแต่ละลำนั่งด้วยนักท่องเที่ยวลำละสองคน
   "คลองนี้เป็นคลองสำคัญของเวนิส..." โมหันมามองหน้าแล้วถามด้วยสายตาว่ามันสำคัญประมาณไหน ? พี่กาญจน์ก็รู้ใจรีบบอกว่า
   "คลองนี้มันมี 'สะพาน..เฮ้อ...' ตั้งอยู่นะโม..."
   "จ๊ากกก..สะพานเฮ้อ....มันมีด้วยเหรอในโลกนี้...พี่กาญจน์มั่วเปล่า ชื่อสะพานแบบนี้นะ ?"
   "ไม่ได้มั่ว...มันชื่อ Bridge Of Signs"
   "Bridge Of Signs ?" โมยักไหล่ทวนคำ
   "Bridge Of Signs ก็สะพานถอนหายใจ..ถอนหายใจ..ก็มีเสียงดัง..เฮ้อ..ไงโม ? ทำเป็นงง..."
   แหม...ดูซิตั้งชื่อเอาแบบนี้ก็มีด้วย...โมหันไปมองค้อนความเจ้าเล่ห์ของพี่กาญจน์เต็ม ๆ
   แต่มีหรือพี่กาญจน์จะสะทกสะท้านกลับหัวเราะจนงอหงายจนโมขว้างค้อนไปหลายที
"อ้าว...เฮ้อ..ก็..เฮ้อ...โมยอมแพ้..." พี่กาญจน์ยังไม่หยุดหัวเราะ

   สะพานถอนหายใจ
   
   "สะพานถอนหายใจ...เป็นไงมาไง..." โมกระซิบเอาหัวกระแทกไหล่พี่กาญจน์อย่างหมั่นไส้ มองเรือกอนโดล่าลอดผ่านไปทีละลำ
   "มันมีความเป็นมาโม ถอนหายใจ เสียงมันก็ต้องดัง 'เฮ้อ' แสดงออกถึงความเบื่อหน่าย ไม่อยากอยู่ในโลกอีกต่อไป" พี่กาญจน์หยุดก้มลงจูบผมโม
   "เล่าต่อซิ...กำลังอยากรู้.."
   "เจ้าสะพานเฮ้อตั้งอยู่เหนือ Rio di Palazzo ก็คือคลองนี่แหละ ตัวสะพานโมเห็นหรือเปล่าว่ามันสร้างด้วยหินล้วน ๆ อายุถึงตอนนี้น่าจะกว่าสี่ร้อยปีแล้วหละ ตัวสะพานเชื่อมชั้นสองระหว่างตึกคนละฝั่งคลอง โมหลับตานึกซิว่าสี่ร้อยปีก่อนแล้วสร้างด้วยหินล้วน ๆ"
   พี่กาญจน์ชี้ให้โมดูตัวสะพาน คลองนะไม่กว้างนักหรอกประมาณสิบเมตรเศษ ๆ สูงขึ้นมาชั้นสองปรากฏตัวตัวสะพานหินชัดเจน
   "เหตุผลที่เขาสร้างสะพานและการร้องเฮ้อก็เพราะว่าด้านซ้ายมือนะเป็นศาลส่วนด้านขวามือเป็นคุก ผู้ปกครองเวนิสในสมัยนั้นตัดสินใจสร้างสะพานเฮ้อขึ้นมาเชื่อมอาคารทั้งสองเอาไว้ซะเลย"
   โมพยักหน้ายอมรับว่ามันเป็นความคิดที่ดี ตัวสะพานเป็นแบบปิดหลังคามิดชิด คงไม่ใช่อะไรหรอกคะ มันเป็นการป้องกันนักโทษกระโดดหนีลงน้ำ แล้วปลอดภัยจากการชิงตัวอีกด้วย เรียกว่าปลอดภัยสุดยอดจริง ๆ

   "การที่พานักโทษถูกควบคุมเดินผ่านสะพานนี้นี่เอง นักโทษมีโอกาสเห็นโลกภายนอกผ่านช่องฉลุแค่ช่วงเวลาที่เดินผ่านเท่านั้น คุกในสมัยนั้นนะมืด แคบ หนาว แล้วก็สกปรก เหมือนนรกบนดินยังไงยังงั้น นักโทษที่ได้รับการตัดสินเด็ดขาดเมื่อเดินทางไปยังคุกหันมองเห็นทะเลเป็นครั้งสุดท้ายทุกคนจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาดัง ๆ แบบหมดอาลัยตายอยาก"
   โมจินตนาการภาพชัดตามที่พี่กาญจน์เล่า เฮ้อ...มันบอกความรู้สึกที่ตนต้องหมดอิสรภาพและไม่แน่ว่าจะมีชีวิตกลับมาได้เห็นอีกหรือเปล่า

   "พี่อยากชวนโมออกมาดูสะพานเฮ้อตอนดึก ๆ มาเดินดูจันทร์ดวงโตแล้วมองผ่านความมืดไปยังสะพานเฮ้อที่ถูกจัดแสงสีอย่างดี เราอาจได้ยินเสียง 'เฮ้อ' ลอยแว่วมากับบรรยากาศแห่งความเงียบสงบก็ได้..."  พูดแล้วพี่กาญจน์ก็หัวเราะหึ ๆ แต่ตัวโมชักสยิวแล้วส่ายหน้าไปมา
   "ไม่ดูเหรอ...ได้บรรยากาศมากเลย..." โมส่ายหน้าอีก
   "อยากนอนกอดพี่กาญจน์บนเตียงดีกว่า...อิอิ...อย่างกลัวผี...เฮ่อ..."
   "มากับพี่ไม่ต้องกลัวหรอก...ผีมา...พี่หนีก่อน..." พี่กาญจน์หัวเราะคิก ๆ จนน่าหมั่นไส้โมเลยทุบให้พลั๊ก
   "อูยยย..โมไม่กลัวผีจับหัวเหรอนอนบนเตียงนะ...." ปากร้องอูยย..แล้วยังมีถามแปลก ๆ อีก ตอนแรกคิดไม่ทันพี่กาญจน์หรอก ผีจับหัว ๆ พอเข้าใจก็ร้องอ๋อแล้วสวนไปทันที
   "อุ๊ย...ผีนั้นไม่กลัว ช๊อบซอบ...." พูดแล้วโมก้มลงอ้าปากงับแขนพี่กาญจน์เบา ๆ

   "โอ๊วววว...นอกจากทุบแล้วยังกัดอีกด้วย....คืนนี้จะหลอกให้เข็ด..."
   "ผีจับหัว..จ้างก็ไม่กลัว..." โมปลิ้นตาหลอกพี่กาญจน์
   "ไม่กลัวจริงนะ...ผีจับหัวนะ..." พูดแล้วพี่กาญจน์หัวเราะจนตาเยิ้มเชียว คงคิดไปไหน ๆ แล้วซิ อิอิ
   "จ้างก็ไม่กลัว...ผีแบบนั้น...ดีไม่ดี..งับให้ผีมือขาดเชียว...มันเขี้ยว...." โมยื่นมือตบป๊าบตรงตำแหน่งน้องชายเขาทันที
   "อุ๊ยยยย...ทำร้ายร่างกาย..." แล้วเราก็หัวเราะกันลั่นอย่างไม่สนใจใคร ดีที่ตอนนั้นคนไม่มากนัก

   เดินต่อมาอีกหน่อยก็เข้าเขตจัตุรัส San Marco ศูนย์กลางเวนิส พี่กาญจน์เล่าเรื่องให้โมฟังไปเรื่อย ๆ ว่า ตัวจัตุรัสนะออกแบบให้เป็นรูปตัวแอล (L) ลานด้านหน้าติดทะเล มีเสาหินสูงอยู่สองต้นสูงราวสิบเมตร ต้นหนึ่งชื่อชื่อเสา 'ซานมาร์โค' มีสิงโตติดปีกอยู่บนยอดเสาเป็นสัญลักษณ์ อีกต้นชื่อเสา 'ซานทีโอโดโร' ตามชื่อนักบุญทีโอดอร์

   ภาพเสาคู่
   
   ยืนตรงหน้าจัตุรัส San Marco โมหันไปมองทางด้านทะเลได้เห็นเรือกอนโดลากำลังลอยลำให้นักท่อเที่ยวซึมซับทิวทัศน์ของเวนิสยามเย็น
   
   
   หันกลับมาเงยมองดูเสาทั้งสองต้น
   พี่กาญจน์เล่าว่าทั้งสองต้นเก่าแก่ระดับพันปีขึ้นไป เดิมระหว่างเสาผู้สร้างได้รับเอกสิทธิ์ให้เปิดโต๊ะกาสิโน
ต่อมาจากกาสิโนกลายเป็นลานประหาร เสาอยู่ตรงหน้าศาล ตัดสินปุ๊บผู้คุมเอานักโทษมาขึงไว้ระหว่างเสาประหารปั๊บกลางฝูงชนเลย

   เดินผ่านเสาเข้ายังจัตุรัสที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก ยิ่งบรรยากาศยามเย็น ๆ แบบนี้ โอววว...โหยยยยย.... โมเดินอิงแขนพี่กาญจน์ไปเรื่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศรอบ ๆ ให้ได้มากที่สุด เดินไปแล้วหยุดยืนกอดกันนิ่งระยะ ๆ เพื่อชื่นชมวัง มหาวิหาร และจัตุรัส San Marco อาคารผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ อาหรับ โรมันเนสก์ เรอเนซองซ์ เข้าไว้ด้วยกัน เรียกว่าผสมผสานปนเป และที่แปลกอย่างไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนคือยอดโดมวิหารเป็นแบบอาหรับ
ภายในมหาวิหารบรรจุศพของเซนต์มาร์ก โดยเชื่อกันว่าชาวเวนิสไปขโมยมาจากเมืองอเลกซานเดรีย ประเทศอียิปต์โน่น

   มหาวิหาร San Marco ที่ใช้ศิลปะผสมผสานทุกยุคทุกสมัย
   
   ตัวมหาวิหารตั้งอยู่ตรงด้านตะวันออกของจัตุรัส เมื่อเข้าไปใกล้ก็ยิ่งเห็นถึงความไม่เหมือนใครในโลก โมไม่จำเป็นต้องมีไกด์มาช่วยอธิบาย เฮียกาญจน์คนเดียวก็พอ โมใช้คุ้มค่าเลย..ให้พี่แกทำหลายหน้าที่ อิอิ พี่แกรู้ลึกและรู้ละเอียดยิบจนโมเองก็งงว่าพี่กาญจน์แกเคยเป็นไกด์น้ำเที่ยวมาก่อนหรือเปล่า พอถามจึงได้รับการถามกลับมาว่า
   "โมลืมไปเหรอ เมื่อสองปีก่อนพี่ย่ำเวนิสเพื่อเขียนนิยายรักชุดเวนิสสามเล่มนะ...." โมพยักหน้านึกขึ้นมาได้
เป็นนิยายรักโรแมนติกที่หนุ่มคนหนึ่งตามหาความรักของเขามาถึงเวนิส เหตุนี้แหละพี่แกจึงแม่นกับของมูลเวนิสในระดับแฟนพันธุ์แท้

   พี่กาญจน์ชี้ให้โมดูยอดโดมแล้วนับดัง ๆ
   "หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า มีทั้งหมดห้าโดม โมดูซิ โบสถ์ในอิตาลีทั้งหมดต่างก็มีเพียงโดมเดียว หรือสองโดมก็หายากมาก ๆ แล้ว แต่นี่มีถึงห้าโดม แล้วขนาดของโดมก็ใกล้เคียงกันเสียอีก นี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซีย คล้ายมัสยิดในอิสตันบูล"
   "แล้วใครเก่ากว่ากันละ ?"
   "ตามอายุแล้วพี่ว่าโบสถ์ San Marco น่าจะสร้างก่อนมัสยิดนับร้อยปี"
   พี่กาญจน์ชี้ให้โมดูบนยอดโดมมีไม้กางเขนแบบกรีก (พี่กาญจน์เน้นเสียงว่า แบบกรีก) เราก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ

   ไม้กางเกงเขนก็ไม้กางเขน มันมีแบบนั้นแบบนี้ด้วยเหรอนี่
   "พี่กาญจน์..ไอ้แบบกรีกนี่เป็นไง...ไม่เหมือนกับแบบที่เห็นตามบ้านเราเหรอ ?"
   "ไม้กางเกงเขนที่โมเคยเห็นในบ้านเราและในหนังส่วนใหญ่จะเป็นแบบละติน จะยาวทางด้านแนวตั้ง ส่วนแบบกรีกทุกด้านจะยาวเท่ากันหมด เหมือนเครื่องหมายบวก หรือเครื่องหมายกาชาด ตรงปลายอาจมีแง่งยื่นออกมาประดับเพื่อความสวยงาม"

   เพิ่งจะรู้เดี่ยวนี้เองแบบกรีกนี่โบสถ์บางแห่งจะประดับเอาไว้ตรงหน้าบันของโบสถ์ ตกลงโบสถ์หลังนี้ใช้ศิลปะเปอร์เซีย ใช้ไม้กางเกงแบบกรีกและผสมกับศิลปะในยุโรปไว้เกือบทุกยุคทุกสมัย เริ่มจากกรีกโรมันตรงประตูโบสถ์ที่เป็นทรงโค้งสูง แถมยังมีม้าศึกอยู่บนหลังคา แล้วยุคไบเซนไทน์อยู่ที่โมเสกตามซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ ยิ่งภายในยิ่งมีเสาโมเสกอีกเพียบ ต่อไปกอธิกให้ดูที่หลังคายอดแหลมเล็ก ๆ เน้นความดุเดือดแหลมคม ศิลปะสุดท้ายคือศิลปะในยุครุ่งเรืองของอิตาลีที่อยู่ในตัวโบสถ์ทั้งพื้น ผนัง ประดับวิลิศมาหรา

   หน้าโบสถ์
   
   โมรีบดึงมือพี่กาญจน์ไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูที่มีโมเสกประดับอยู่สวยมาก โมพยักหน้ารับแค่ได้เห็นประตูโบสถ์ก็ตะลึงกับความงามของภาพโมเสก เสาหินอ่อนหลากสีอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ภายในเขาห้ามถ่ายรูปทุกชนิดนะคะ ดูได้แต่ตาเนื้อกับตาใจเท่านั้น เก็บบันทึกเอาไว้กับความทรงจำ

   "โม..ไปนั่งเรือกอนโดลากันดีกว่า...." เอาซิ...ในชีวิตเคยนั่งเรือมาเยอะแล้ว แต่ยังไม่เคยนั่งกอนโดลา
"นั่งสวีทกับหวานใจบนเรือเหรอ..." พี่กาญจน์พยักหน้า
   "โมจะให้พี่จูบหรือเปล่าละ...?"
   "แน๊ะ ๆ จะเล่นแบบ The Kiss อีกแนะ.." พี่กาญจน์พยักหน้าตาวาว
   "เอาจริง...."
   "อึ่ม..." โมนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
   "เอาก็เอา...เป็นไงเป็นกัน..." แหม..ยังกะจะเอาไปเชือดเชียว

   พี่พาโมมาถึงสะพานแล้วเลี้ยวลงไปด้านข้างมีเรือกอนโดลาสีดำสนิทจอดเรียงเป็นแถว เราเดินไปต่อแถวที่มีหนุ่มสาวสองคู่ ๆ กำลังเจรจาค่าเรือกันอยู่ ราคาคิดเป็นเงินไทยระหว่างห้าถึงหกพันบาททีเดียว ครู่เดียวโมกับพี่กาญจน์ก็ลงมานั่งดู๋ดี๋บนเรือ ฝีพายหัวสูงใหญ่หน้าตาหล่อระดับพระรอง

   กอนโดลานั้นตัวเรือสีดำสนิท หัวงอนท้ายงอนตรงกลางเรือมีที่นั่งเหมือนโซฟาให้นั่งได้สองคน ตอนแรกโมเกร็งอยู่เหมือนกัน กลัวเรือจะโคลงแล้วเมา แต่พอเรือออกจากท่าเคลื่อนไปซักพักก็ค่อยอุ่นใจ เรืออาจมีโยกเยกไปมาตามคลื่นบ้างแต่ไม่โคลงเคลงน่ากลัว คลองของเวนิสไม่มีตะลิ่งเหมือนบ้านเรานะ ตึกติดสร้างเป็นพนังก้นน้ำกับตัวคลองเลย  มีท่าเรือให้คนขึ้นลงเป็นช่วง ๆ โมเห็นบ้านคนที่อยู่อาศัยในเวนิสชัด ๆ ตอนนี้นี่เอง

   บางบ้านประตูบ้านปริ่มน้ำเลยก็มี เมื่อเวลาน้ำขึ้นคงจะท่วมเข้าไปในบ้าน ส่วนใหญ่เป็นบ้านเก่าทั้งนั้น บางบ้านมองเห็นอิฐที่ใช้ก่อผนังแต่ละก้อนยาวเกือบฟุตและหนากว่าสองนิ้ว น้ำในคลองสะอาดมาก ไม่มีขยะหรือเศษสกปรกให้เห็นแม้แต่ชิ้นเดียว แต่น้ำไม่ใสสีขุ่น ๆ บรรยากาศเย็นสบายและสดชื่นมาก ๆ

   พี่กาญจน์กอดโมเอาไว้แนบอก ชื่นชมบรรยากาศและทิวทัศน์กันไปเงียบ จนเรือออกจากคลองเล็กมาเห็นโบสถ์ Santa Maria della Salute ตรงนี้คือทะเลอะเดรียติก มีเรือกอนโดลาพายต่อกันไปเป็นขบวน เรือเมล์ และบางช่วงก็มีเรือยอร์ชสวย ๆ ผ่านไป
   
   ฝีพายพาเราเคลื่อนไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยววกเข้าไปคลอง Rio di Palazzo พอเรือตั้งลำเข้าคลองโมก็เห็นสะพานเฮ้อของพี่กาญจน์ชัดเจนอยู่เบื้องหน้า
   "พี่กาญจน์สะพานเฮ้อ..." โมร้องบอกพี่กาญจน์ ก็มันตื่นเต้นนี่นา
   แหม..เงยหน้ามองจากในเรือแล้วให้ยิ่งอัศจรรย์กับตัวสะพานที่อยู่สูงขึ้นไปสิบกว่าเมตร หินล้วน ๆ เป็นแท่ง ๆ เชื่อมตึกสองตึกซึ่งโมเดาว่าเป็นแห่งแรกของโลกใบนี้แน่นอน เอาภาพมาให้ดูกันอีกที

   พอเรือผ่านสะพานถอนหายใจมาได้ไม่นานฝีพายเริ่มครวญเพลงให้เราฟัง พี่กาญจน์บอกว่าก็แล้วแต่ความถนัดและความพอใจของฝีพายแต่ละคน ถ้าเราขอให้เขาร้องเราจะต้องจ่ายเงินค่าร้องให้เขาด้วย..มันแพงเอาการอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าเขาร้องเองแสดงว่าเขาบริการฟรี เราไม่ต้องเสียเงิน แต่ก็ควรแสดงน้ำใจโดยการให้ทิปบ้าง เพลงที่พวกนี้นิยมร้องคือ "Torna a Surriento" หรือ "Come back to Sorrento " นั่นเอง
   
   โมเองก็เคยฟังต้นฉบับที่ร้องโดย Pavarotti นักร้องโอเปราผู้แสนโด่งดังของอิตาลี เนื้อเพลงก็มีประมาณนี้แหละ

Torna A Surriento
--------------------------------
Vide 'o mare quant'? bello,
Spira tantu sentimento,
Comme tu a chi tiene mente,
Ca scetato 'o faie sunn?.

Guarda, gua', chistu ciardino;
Siente, sie' sti sciure arance:
Nu profumo accussi fino
Dinto 'o core se ne va...

E tu dice: "I' parto, addio!"
T'alluntane da stu core...
Da sta terra de l'ammore...
Tiene 'o core 'e nun turn??

Ma nun me lass?,
Nun darme stu turmiento!
Torna a Surriento,
famme camp?!

Vide 'o mare de Surriento,
che tesoro tene nfunno:
chi ha girato tutto 'o munno
nun l'ha visto comm'a cc?.

Guarda attuorno sti Sserene,
ca te guardano 'ncantate,
e te vonno tantu bene...
Te vulessero vas?.

E tu dice: "I' parto, addio!"
T'alluntane da stu core
Da sta terra de l'ammore
Tiene 'o core 'e nun turn??

Ma nun me lass?,
Nun darme stu turmiento!
Torna a Surriento,
Famme camp?!

Torna a Surriento,

   เสียของฝีพายแม้จะนุ่มกังวานมีพลังสู้ต้นฉบับไม่ได้ก็ตาม แต่บรรยากาศรอบข้างกับอกอุ่นของพี่กาญจน์โมคิดว่ามันเป็นเพลงซึ้งที่สุดในโลกตอนนั้น โมตวัดแขนกอดพี่กาญจน์กลมทีเดียว ซุกหน้าลงกับอกหลับตาปล่อยให้ใจล่องลอยไปถึงสวรรค์ พี่กาญจน์แอบหอมแก้มไปตลอดทาง โมเองก็หอมตอบเป็นระยะ แต่พี่แกก็ไม่อาจหาญจึงกับจูบโมโดยไม่อายฟ้าดิน มันต่างจากตอนที่จูบในพิพิธภัณฑ์หน้ารูป The Kiss นี่กลางแจ้งเย้ยฟ้าท้าดิน ดีที่แล้วที่พี่กาญจน์ไม่ตัดสินใจทำอย่างที่พูด ไว้คืนนี้เถอะโมจะจูบถวายหัวให้ขาดใจไปทั้งคู่เลย อิอิ

   .....................
   
   ขึ้นจากเรือเรากลับมากินมื้อค่ำกันที่โรงแรมตอนนั้นเกือบสองทุ่มแล้ว ท้องฟ้าเรื่อเรืองราวหกโมงเย็นบ้านเรานั่นแหละ สดชื่นเหลือเกิน
   
   โรแมนติกสุด ๆ ดื่มดำกับบรรยากาศเวนิสแท้ ๆ

   โต๊ะที่เรานั่งมองฝ่าทะเลไปเห็นตัวโบสถ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเวนิส
   
   อาหารมื้อนี้เราสั่งกุ้ง หอย ปู ปลา ครบเครื่องซีฟู๊ด  กุ้งที่นี้หน้าตาแปลก ๆ ไม่เหมือนบ้านเรา ก้ามมันใหญ่ยังกะปูทะเลบ้านเราแนะ
   
   เกือบสามทุ่มก็เพิ่งจะมืดเอง เรานั่งละเลียดอาหารที่ทั้งสวยงานดูดีและอร่อยมาก แชมเปญผ่านไปจนเกือบหมดขวด พี่กาญจน์เป็นไงไม่รู้แหละแต่โมตอนนี้มองพี่กาญจน์ยังกะจะเป็นขนมหวาน

   พี่กาญจน์ยื่นมือมากุมมือโมเอาไว้ตรงกลางโต๊ะ แล้วใช้ปลายนิ้วเขี่ยตรงกลางใจมือเบา ๆ เออ...ตั้งแต่เป็นสาวมายังไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนทำแบบนี้มาก่อนเลย แรก ๆ มันก็แค่จั๊กจี้นิด ๆ แล้วพอนานเข้ามันรู้สึกเสียวแบบแปลก ๆ อย่างอธิบายไม่ถูก หรือเป็นเพราะฤทธิ์ของแชมเปญขวดที่วางอยู่ริมโต๊ะ
   สายตาพี่กาญจน์มองโมมันส่งประกายกระหายจนทำให้โมรู้สึกว่าตัวเองโป้จนสะเทิ้นไปทั้งตัว โมไม่สามารถหลบเลี่ยงสายตาวาวโรจน์ของพี่กาญจน์ได้เลย รู้สึกเหมือนถูกตรึงเอาไว้แน่น

   พี่กาญจน์ให้มืออีกข้างจับก้านแก้วแล้วยกขึ้นแสดงอาการอยากชนแก้ว โมฝืนพยายามยกแก้วขึ้นไปกระทบกันจนมีเสียงดังกิ๊ก พี่กาญจน์ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแล้ว โมเองก็กรอกเข้าปากตามไปเหมือนกัน
   "โม..เราขึ้นห้องกันเถอะ...."
   พี่กาญจน์เรียกบ๋อยแล้วยื่นซองการ์ดห้องพักให้ ครู่เจ้าหน้าที่ก็เอาซองมายื่นคืน
   "ไป เถอะ โม..." เสียงพี่กาญจน์กระเส่า ดึงมือโมให้ลุกขึ้น แล้วเดินประคองกันออกจากห้องอาหาร

   ไม่ถึงห้านาทีเราก็มาอยู่ในห้อง ปิดล็อคประตูแล้วหันประคองหน้าโมก้มลงจูบดูดปากหวาน พี่กาญจน์ถอนปากออก แต่เพียงครู่เดียวโมก็ดึงใบหน้าลงประกบปากดูดลิ้นตอบอย่างกระหาย เครื่องโมร้อนตั้งแต่อยู่ในเรือกอนโดลาแล้ว พยายามบ่มรักเอาไว้ให้นานที่สุด บ่มให้ร้อนถึงขีดสุด ตอนชนแก้วถ้าพี่กาญจน์ไม่ชวนโมขึ้นห้อง โมเองก็คงลากพี่กาญจน์ออกมาขึ้นห้องเองแน่นอน

   ผลัดการรุกไล่จูบปากดูดลิ้นจนเสื้อหลุดลุ่ยออกไปจากตัวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้สึกเย็นหลังวาบตอนบราหลุดออกจากอกอวบ เต้านมกลมใหญ่ผงาดชูหัวนมชี้หน้าพี่กาญจน์ที่ย่อตัวลงมองจนเขาตาวาว

   โมเอื้อมมือไปไปถอดสูทของพี่กาญจน์ออกจากตัวบ้าง ตามด้วยนคไทแล้วเสื้อแขนยาวทิ้งลงพื้นอย่างไม่สนใจใยดี  พี่กาญจน์ยืนตรงโมก็เลยคุกเข่าลงถอดกางเกงแล้วกางเกงในตามออกไป ท่อนเนื้อดุจทวนของพี่กาญจน์ชีผงาดแล้วกับกระดกหัวหงึก ๆ

   โมเงยหน้าขึ้นมองสบตาพี่โม โห...โมเห็นเปลวไฟประลัยกัลป์เจิดจ้าชัดในดวงตา พี่กาญจน์ก็คงเห็นเปลวสวาทโหมลุกกระพือในดวงตาของโมเช่นกัน พี่กาญจน์จึงคุกเข่าลงซบหน้าลงเป้ากางเกงของโมขยี้อย่างเมามันจนโมตัวโอนเอนไปมา

   พี่กาญจน์เงยหน้าขึ้นปลดตะขอรูดซิปรูดกางเกงขายาวของโมออกจากเท้า โมถอดของพี่กาญจน์จนไม่เหลือสักชิ้นเดียวแล้ว แต่โมยังมีกางเกงในสีขาวอยู่อีกตัว ใบหน้าของพี่กาญจน์ฟุบลงกับเนินอวบใหญ่แล้วขยี้ใบหน้ากับสลับกับการจูบฟอด ๆ โมจิกผมพี่กาญจน์กำเอาไว้แน่น อารมณ์เพริดกระเจิงจนลืมตัวไปหมด พี่กาญจน์ขยี้ใบหน้าจนพอใจ แล้วลุกขึ้นยืนประคองใบหน้าของโมบดริมฝีปากอย่างรุนแรงอีกครั้ง โมยกมือขึ้นโอบรัดรอบคอเอาไว้ก่อน พยุงตัวเอาไว้ก็กลัวว่าจะล้มนี่นา

   พี่กาญจน์เลื่อนมือบีบคลึงแก้มก้น แล้วช้อนยกก้นลอยขึ้นจนเท้าโมต้องเขย่งแล้วลอยจากพื้น โมขยับอ้าขาออกแล้วตวัดขึ้นรัดรอบเอวพี่กาญจน์เอาไว้แน่นในทันที พี่กาญจน์ถึงกับเซไปเหมือนกันเพราะไม่ได้ตั้งตัว แต่เกร็งขยับไปมาจนยืนได้มั่นคง  จากนั้นเริ่มพาโมขยับเดินไปที่ละก้าว ปากเราปะกบปากดูดลิ้นกันอย่างกระสัน ก้าวช้า ๆ ทีละก้าวจนมาหยุดยืนอยู่ตรงมุมเตียง  พี่กาญจน์ก้มตัวลงประคองหลังแล้วปล่อยโมลงนอนบนเตียง โน้มตัวลงจูบโมอย่างต่อเนื่อง
โมจูบตอบแบบถวายแก้วเลย ในชีวิตโมไม่เคยจูบใครได้เกินร้อยแบบนี้มาก่อน แม้แต่กับพี่โอ๊ค

   ก้นของโมวางอยู่หมิ่น ๆ ตรงมุมที่นอนขารัดรอบเอวพี่กาญจน์คลายออกปล่อยลงไปยันพื้น แอ่นอกเบียดกล้ามอก พี่กาญจน์ดึงปากขึ้นนิดแล้วเลื่อนมาซุกที่กลางอกหอมของโม เสียงสูดความหอมดังฟอด ๆ ไม่หยุด ไม่นานหัวนมเม็ดจิ๋วก็เข้าในดิ้นดุ๊กดิ๊ก ๆ อยู่ปากพี่กาญจน์ ลิ้นสากในอุ้งปากตวัดทักทายหัวนมจนรู้สึกเสียวแปล๊บ ๆ ยิ่งพอพี่กาญจน์ดูดจ๊วบ ๆ จนแก้มตอบยิ่งแล้วใหญ่ เสียวจนต้องห่อปากปล่อยเสียง 'อูววว์ยยยย' ออกมาอย่างไม่อาจกดข่มเอาไว้ได้

   โมรู้สึกได้เลยว่าเสียงของโมนั้นแรงกับพี่กาญจน์ยิ่งกว่าถูกไฟฟ้านับหมื่นโวลต์ไปช๊อตตรงหัวใจ พี่กาญจน์ยิ่งระดมดูดจ๊วบแรง ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า โมก็เสียวเหลือเกินจนต้องแอ่นอกหรายกเต้าขึ้นบดกับริมฝีปาก ก็อยากให้มันเข้าไปอยู่ในปากพี่กาญจน์มากกว่านั้น พี่กาญจน์ดูดซ้ายแล้วหันไปดูดขวา สลับไปสลับมาจนโมไม่รู้ว่าดูดอยู่นานเท่าไหร่

   โมเสียวจี๊ด..เพลินจนเคลิ้มเหมือนหลับตานอนลอยอยู่กลางทะเล ใจโมว่างเปล่าจนไม่รู้สึกถึงแม้น้ำหนักของร่างพี่กาญจน์ที่โถมบนตัวของโม เนื้อตัวระริกจนอดลืมตาขึ้นมอง พี่กาญจน์คุกเข่าลงกับพื้นห้องตะลึงมองเป้ากางเกงในสีขาวสะอาดที่โมใส่อยู่เหมือนคนไร้สติ ดวงตาเบิกกว้างแต่โมเห็นเปลวไฟในดวงตาลุกฮือโหมและรุนแรงยิ่งกว่าเก่าหลายเท่า โมจินตนาการออกเลยว่าพี่กาญจน์ตลึงภาพอะไรของโมอยู่ในตอนนี้

   มุมสามเหลี่ยมที่นอนหนาเกือบฟุตหนุนก้นกอยของโมให้แอ่นเชิด ยิ่งขาทั้งสองปล่อยห้อยลงกับพื้น ไหล่ของพี่กาญจน์ดันขาอ้ากางออก เนินสามเหลี่ยมก็คงแอ่นโชว์ความโหนกหนุนของเธออย่างเต็มที่แล้วหละงานนี้ แม้กางเกงในสีขาวปิดอยู่ แต่โมว่ามันยิ่งยั่วใจให้กระหายอยากเห็นสิ่งที่กางเกงในเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

   พี่กาญจน์ยกมือดันตรงข้อพับของโมทั้งสองข้างแล้วดันให้โล้ลงไปข้างหน้าจนหัวเข่าแนบอกโม จากนั้นฟุบหน้าลงกับเป้ากางในแล้วส่ายจมูกปากขยี้ พร้อมกับเสียงสูดหายใจฮื๊ด ๆ ไม่หยุด ปลายจมูกของพี่กาญจน์บดขยี้ตรงเม็ดเสียวจนโมเริ่มกระตุกเป็นช่วง ๆ พยายามแอ่นสะโพกร่อนเป้าเคลื่อนไปมาเพื่อหลบเลี่ยง  แต่โมว่าหลบก็ไม่ใช่หรอก โมร่อนสู้เสียมากกว่า ก็มันเสียวนี่นา เสียวจนต้องห่อปากส่งเสียง 'ซู๊ดด ๆ' ดัง ๆ

   พี่กาญจน์คงได้ยินชัด เงยหน้าขึ้นมองสบตาโมที่ผงกหัวขึ้นมองพอดี
   "เสียวเหรอโม...." โมกระพริบตาตอบ
   "พี่เลียให้นะ...." โมไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ พี่กาญจน์รีบสอดนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในโมแล้วดึงพรืดออกมา โมปล่อยมือที่เกี่ยวข้อพับตัวเองเอาไว้ออก ให้พี่กาญจน์รูดกางเกงในออกจากขา

   ตอนนี้เราเสมอกันแล้ว เมื่อกางเกงในอันเป็นชิ้นสุดท้ายของโมถูกรูดออก น้องชายพี่กาญจน์ที่ป่ายแปะปะได้โอกาสขยับคลอเคลียกับร่องแคมของโมอย่างกระหายทันที พี่กาญจน์ดันขาโมขึ้นมาอีกครั้ง โมรีบเกี่ยวข้อพับของตัวเองเอาไว้ทันที ปรือตาเยิ้มฉ่ำยิ้มหวานให้พี่กาญจน์
   พี่กาญจน์ยิ้มตอบแล้วก้มลงมองเนินโหนกอีกครั้ง แล้วคุกเข่าลงกับก้ม ก้มลงจุ๊บกลางกลุ่มหมอยทันที โมจี๊ดขึ้นมาอีก ไม่ได้เสียวเพราะโดนลิ้นพี่กาญจน์ แต่โมเสียวตรงหัวใจที่โมจินตนาการล่วงหน้าไปถึงการกระทำของพี่กาญจน์ต่างหากอยากดูก็อยากดู อยากเห็นจะ ๆ ตาว่าพี่กาญจน์จะใช้ลิ้นโลมเลียเนินนวลของโมยังไง ? แต่ก็อยากนอนหลับตาปล่อยจินตนาการประสานกับกับการกระทำที่พี่กาญจน์ปรนเปรอให้อย่างเต็มที่

   ไม่ทันที่จะตัดสินใจยังไง ลิ้นพี่กาญจน์ก็ฉกวาบลงไปตอนล่างของเนินนวล คราวนี้พี่กาญจน์ไม่เลียตามร่องแคม โมว่าพี่กาญจน์ห่อลิ้นให้เป็นปลายแหลมแล้วตวัดแหย่แหย่เข้าไปรูเสียวของโมมากกว่า มันคงไม่เข้าไปลึกมากหรอก โมรู้สึกสัมผัสเลยว่าพี่กาญจน์แยงแหย่ ๆ ตรงบริเวณปากรูเสียวเท่านั้นแหละ แต่ผลของมันซิ...ทำให้โมเสียวเหลือเกิน เกร็งไปทั้งตัว มือขยุ้มกุมผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น ตัวบิดเป็นเกรียว

   ไม่กล้ามองการกระทำของพี่กาญจน์แล้วละ ปล่อยให้จินตนารับรู้รับรู้ความสุขความเสียวจากรสลิ้นพี่กาญจน์ดีกว่า เสียวมาก ๆ โมก็สุดจะทนไหว ขยับก้นส่ายร่อนเนินยุกยิก ๆ มันน่าจะทำตั้งแต่แรกแล้ว  แต่ปากที่ครางซู๊ด ๆ นะไม่หยุดปากหรอก โอย...พี่กาญจน์จ๋า...โมเสียวเหลือเกิน...ทำไมทำเก่งแบบนี้

   พี่กาญจน์ใช้ลิ้นตวัดยุกยิก ๆ ตรงปากประตูเสียว อูยยยย...โมพยายามยกก้นขึ้นแบบอยากให้ลิ้นมันแยงลึกมากกว่านี้อีก แต่พี่กาญจน์ไม่สนอง หรือจะแกล้งโมก็ไม่รู้ พี่กาญจน์ไม่ยอมให้ลิ้นมันสอดเข้าไปลึกนัก  แล้วพี่กาญจน์ก็ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียป้วนเปี้ยน ๆ อยู่บริเวณรอบนอกปากประตูเท่านั้น จะมีเผลอเข้าไปลึกบ้างบางขณะ แต่พี่กาญจน์จะรีบดึงออกทันที แต่ผลของมันทำให้โมอยากสุด ๆ เสียวสุด ๆ

   "โอวววว.....พี่...กาญจน์...ขา...โม..เสียว..เสียวววว...เหลือเกิน..."
   โมลืมตัวไปหมดชักไม่อยากให้พี่กาญจน์เลียเนินของโมแล้วหละ แต่พี่กาญจน์เหมือนยังติดใจรสอร่อยตรงปากประตูของโม ตวัดปลายลิ้นวนไปวนมา บางครั้งลากขึ้นมาสูงให้ปลายลิ้นแหลมมาชนตอเสียวของโมอย่างแรงให้โมสะดุ้งสุดตัวไปเลย อูยยยย....อยาก..อยากใจจะขาดแล้วพี่กาญจน์ขา...ช่วยโมด้วย...

   ในที่สุดโมก็ต้องออดอ้อนให้พี่กาญจน์ช่วยโมจนได้ อิอิ
   "เอิ๊กกซซะ ๆ ๆ พี่..พี่กาญจน์..เ...ย็....ด...โ...ม.....เ..ร็...ว...." โมอยากจนตัวสั่นเทาไปทั้งตัว พี่กาญจน์เงยหน้าลุกขึ้นยืน ก้มลงมองโมที่นอนหงายก้นแอ่นหนุนกับมุมที่นอน เข่าทั้งสองของโมกดอยู่กับนมอวบ พี่กาญจน์มองขึ้นมองลงหลายรอบ โมปรือตาเยิ้มมองน้องชายพี่กาญจน์ที่ชี้เด่ผงกหัวหงึก ๆ ไม่หยุด

   "พี่...พี่...เย็ด...นะ...."
   "ค..คะ...คะ..."
   ไม่เพียงเสียงพี่กาญจน์กระเส่าเร้าอารมณ์เสียงตอบรับของโมก็สุดใจเหมือนกัน ตอบรับแล้วโมก็ยังพยักหน้ายืนยัน ยิ้มผ่านตาปรือเยิ้มสบตาพี่กาญจน์ พี่กาญจน์ขยับเข้ามาอีกจนหัวบานกดกับปากอู่ที่จะอยากมุดเข้าไปสำรวจอย่างไม่รู้เบื่อ

   โมแยกขาออกกว้างเปิดพื้นที่ให้มากที่สุด พี่กาญจน์โน้มตัวมาข้างหน้าเกร็งก้นส่งน้องชายจ่อเข้าปากอู่แล้วดันเข้าไปช้า ๆ โมรู้สึกคับตึงแล้วเสียวแปล๊บจนต้องขยับก้นส่ายยิกเพื่อขยับขยายเปิดทางให้พี่กาญจน์ดันเข้าไปได้โดยสะดวกเท่านั้นยังไม่พอด้วยความเสียวโมต้องฝืนไม่กล้าขมิบกลัวยิ่งทำให้ตีบแคบทำให้การสอดใส่ช้าลงไปอีก
ตอนนี้โมต้องการให้พี่กาญจน์สอดเข้าไปให้ลึกล้ำที่สุดแล้วอย่างเร็วด้วย

   แต่ปรากฏว่าพี่กาญจน์ค่อย ๆ ดันเข้าไปทีละหน่อย ๆ เหมือนหัวบานมัยอยากชิมน้ำเสียวของโมให้เต็มอิ่มก่อน
พอเป็นแบบนี้โมก็เสียวจนอดที่จะขมิบบีบรัดท่อนลำของพี่กาญจน์เอาไว้ได้อีก การขมิบของโมบีบรัดจนพี่กาญจน์เสียวมีเสียง 'ซีดสสสส' ออกจากปากพร้อมหลับตาพริ้มตัวเกร็ง โมชอบจังเวลาที่แอบดูเวลาที่โมทำให้พี่กาญจน์เสียวสุดนี่ และเมื่อพี่กาญจน์เสียวโมก็เสียวตามไปด้วยเหมือนกันแหละ

   พอเข้าไปใกล้หมดพี่กาญจน์โน้มตัวมาหาโมเอามือยันที่นอน โมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่กาญจน์ที่มองลงมาเหมือนเจ้ามหาชีวิต  ส่วนโมคือนางทาสผู้ภักดียอมกายถวายชีวิตให้พี่กาญจน์กระทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

   พี่กาญจน์ขยับเกร็งก้นกดปี๊ดอีกทีโคนตอบอแนบสนิทสองกลีบแคมเสียวของโม โมแอ่นก้นเชิดหงาย หน้าท้องเกร็งเป็นลอน ภายในขมิบริก ๆ ถี่ยิบ เสียวมากจริง ๆ  ปากเราประกบกันอีกครั้ง โมยกมือขึ้นโน้มล็อคคอเอาไว้แน่น
พี่กาญจน์จูบปากโม แต่เนินเสียวของโมกลับถูกพี่ขยับแอ่นบดเป็นวงเล็ก ๆ บดแน่น ๆ แบบนี้โมเสียวมาก ปากมดลูกเสียดสีกับปลายท่อนมันรู้สึกจี๊ดยาว ๆ เสียวจนแทบแตก

   โมกลับหวนนึกถึงเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยแนะนำให้โมรู้จักคุณค่าของการบ่มรัก พี่เขาแนะนำให้บ่มความอยากเอาไว้ รอให้ลุกโพลงจนดับไม่ได้นั่นแหละแล้วค่อยทำรัก ลองดูแล้วจะรู้ซึ่งถึงคุณค่าของรสชาติที่ได้รับ แล้วอิ่มเองจนแสนค่าคุ้มค่ากับการรอและอดทนจริง ๆ  เหมือนตอนนี้ที่โมรู้สึกรุนแรงเสียยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิด โมว่าพี่กาญจน์คงรุนแรงไม่แพ้โมแน่นอน อิอิ ชอบ

   โมปล่อยมือที่เกี่ยวรั้งขาออกยกขึ้นตวัดรัดรอบเอวพี่กาญจน์เอาไว้อีกครั้ง อยากชะลอความเสียวที่รุนแรงให้มันคลายตัวลงสักหน่อย โมไม่อยากถึงในแค่ชั่วเสี้ยวนาทีที่พี่กาญจน์สอดใส่เข้าไป มันน่าอายนะ อิอิ

   โมอยากทำรักกับพี่กาญจน์แบบนาน ๆ อยากซึมซับความเสียวที่รุนแรงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ จนถึงจุดระเบิด..แล้วก็...แตกหากจะให้ดีที่สุด...โมอยากจะถึงในเวลาพร้อม ๆ กับพี่กาญจน์ อยากร่วมรสร่วมอารมณ์แห่งประลัยกัลป์นี้ให้เต็มที่..เต็มอิ่ม

   พี่กาญจน์ปล่อยริมฝีปากออกจากปากโมก้มลงมองโมอย่างยิ้มแย้ม
   "โมจ๋า...เป็นไงบ้าง...??" โมหลับตาลงปล่อยมือที่โน้มคอมาลูบเบา ๆ ที่แก้ม
   "โม..ดี..สุด ๆ เลย..พี่กาญจน์..."
   "รัดเอวพี่เอาไว้แน่นเชียว...เสียวมากเหรอ...?" โมพยักหน้าปรือตาเยิ้มขึ้นมองสบตา
   "กลัวโมถึงก่อนจัง..."
   "ทำไมละ...พี่ก็เย็ดให้โมเสียวต่อไปได้อีกนี่นา..." พี่กาญจน์กระซิบเสียงแผ่วเบา แต่โมส่ายหน้าหลับตาลง
   "ก็อยากจะถึงพร้อมกับพี่กาญจน์นี่นา...." โมแอบมองรอยยิ้มของพี่กาญจน์
   "ไม่เป็นไรหรอกนา..โมแอบพี่ถึงไปก่อนมั่งก็ได้...แล้วสุดท้ายค่อยถึงพร้อมกับพี่..นะ.."
   "อื้อ...ถูกใจแบบนี้...โมยิ่งไวด้วย...."
   "ก็ดีซิ...พี่ชอบ...." พี่กาญจน์ก้มลงจูบตรงหน้าผาก แล้วร้องร้องขึ้น.. "อุ๊ย...ของโมตอดของพี่ใหญ่เลย...."
   "ก็...ก็...โมเสียว...นี่นา..."

   "ปล่อยขาออกซิจ๊ะ...พี่จะได้ดึงมันออกมาหน่อย..."
   โมทำตามปลดขาออกแล้วสอดมือไปเกี่ยวตรงข้อพับรั้งเข่ามาแนบอกอีกครั้ง
   พี่กาญจน์ยันตัวขึ้นตรง สอดมือลงไปจับเอวโมเอาไว้หลวม ๆ ขยับก้นดึงน้องชายออกมานิดหนึ่ง การดึงท่อนของพี่กาญจน์รอบเงี่ยงครูดเนื้ออ่อนภายในจนโมต้องเกร็งเนื้อตัวสั่นเทา ปากครางซี้ดแผ่วออกมาอย่างไม่เขินพี่กาญจน์แล้วละ ส่วนเนินโมก็ขยับสะโพกร่อนริกกลัวว่าพี่กาญจน์จะถอนหนีไปยังงั้นแหละ โมคิดอะไรก็ไม่รู้ ....

   พี่กาญจน์ดึงออกไปแค่ไหนก็ไม่รู้แล้วก็กดพรืดเข้ามาเต็มแรงจนเนินเนื้อของโมกระทบกับโคนตอและหน้าท้องพี่กาญจน์ดังปั๊บ
   "อูยยยสสสส......" โมห่อปากร้องออกมายาวด้วยความเสียว พี่กาญจน์ไม่ปล่อยจังหวะต่อไปอีก เขาดึงออกแล้วกระแทกซ้ำลงไป  แต่ตอนนี้ไม่แรงค่อย ๆ กดพรืดเข้าไปอย่างบรรจง พร้อมก้มหน้าลงไปมอง โมขมิบตอดท่อนลำของเขายิก ๆ ปากครางระรัว เท้าแกว่งไกวอย่างไม่อาจคุมให้มันนิ่งได้อีกต่อไป

   พี่กาญจน์เองก็เสียวจนห่อปากซี้ด ๆ ไม่หยุดเหมือนกัน
   "พี่เสียว..เสียวเหลือเกิน..โม.จ๋า...อูยยยย...." มันภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ที่สามารถทำให้ผู้ชายเสียวได้ถึงขนาดนี้ พี่กาญจน์เริ่มชักยาวออกมาจนเกือบสุด จนโมกลัวเหลือเกินว่ามันจะหลุดออกมาจริง ๆ แต่พี่กาญจน์ก็สามารถคุมจังหวะเอาไว้ได้อย่างมั่นใจ ไม่พลาดแม้จะออกมาจิ่ม ๆ จวนจะหลุดก็ตาม เสียง 'พั๊บ..ป๊าบ...' ดังแบบต่อเนื่องไปเรื่อย โมได้ยินชัด

   โมเสียวมากจนตาปรือ เงยหน้าขึ้นอ้อนพี่กาญจน์
   "อูยยยยสสส์...พี่..กาญจน์...ขา..เบา..นิด นะ..."
   "หึม...."
   "ให้โม..ถึง..พร้อม..พี่..กาญจน์..นะ..คะ..." พี่กาญจน์พยักหน้า โมก็ไม่รู้ว่าคนเราจะคุมอารมณ์ตัวเองเพื่อจะให้ถึงจุดสุดยอดพร้อมกับคู่ของเราได้หรือเปล่า ? เพราะกับพี่โอ๊คโมก็ไม่เคยทำให้ถึงพร้อมกันได้แม้แต่หนเดียว

   "โม..คอยเตือนพี่นะ..." โมพยักหน้า พี่กาญจน์ชักยาว ๆ แล้วกดพรืดลงไปช้า ๆ ทำจังหวะให้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง สายตาพี่กาญจน์จ้องหน้าโมนิ่ง จนโมต้องลืมตาขึ้นมองสบตาพี่กาญจน์นิ่ง โมพยายามถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสายตาไปยังใจพี่กาญจน์

   มันจะได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงก็ช่าง แค่อยากอยากเปลือยอารมณ์ให้มันสุดออกไปทางสายตา..แบบไม่เหนียวอายเลยละ
   "อูววววสสสส...ดี..ดี..เหลือ..เกิน..อายยยยสส...ซี้ดดดดด"
   "พี่ก็เสียวมาก...โอววววว...."
   "โมจะไม่ไหวแล้ว...ทำไม..อูยยยยสสส..มัน..ดี..แบบนี้...."
   "พี่อยากเย็ดแรง ๆ นะ.." โมพยักหน้าจับแขนพี่กาญจน์กำแน่น

   การตอบสนองทางร่างกายให้พี่กาญจน์ได้ลิ้มรสเสียวได้เต็มที่ พี่กาญจน์ก้มลงของตัวเองที่พรืดหาย ๆ เข้าในเนินเสียวของโมอย่างถูกใจ
   "เสียว..อ๊ะะะ...เสียววว...อูยยยย...."
   "พี่ทำไร..โม..จ๊ะ...??" โมเงยหน้าขึ้นมองสบตาพี่กาญจน์ ยิ้มเขิน ๆ
   "ก็...พี่..ทำ..อะไร...ละ ?"
   "ไม่..อาววว...พี่ถามก่อน รีบบอกมา ?"
   "ก็ได้...พี่..พี่...เย็ด...โม...." โมตอบไปอย่างเต็มเสียง

   "พี่...เย็ด..ดี..ป๊ะ...??? อูยยสสส...เสียว....."
   "เ..ย็..ด..ดี...โอววว...ซี๊ดดดสส...แรง..แรง...ดี..ดี..ทำ..นาน ๆ นะ..."
   พี่กาญจน์พยักหน้าแล้วขยับปรับท่ายืนนิดหนึ่งก่อนขย่มเนินโมพรืด ๆ โมพยายามผงกขึ้นมองเนินยุทธภูมิ แต่ก็เห็นได้ไม่ชัดนัก

   "เสียว...จัง..." พี่กาญจน์รำพึง "โม..ตอดดี..ดี..จัง..แรง...ด้วย...โอววว..."
   "อี้ยยยสสสส...พี่..พี่...เกือบ..เกือบ..." โมถึงกับสะอื้นฮัก ๆ เลย ใจสั่นสะท้านขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ พี่กาญจน์เลยยิ่งเร่งขย่มพรืด ๆ แบบแรง ๆ ถี่ยิบเต็มสูบเหมือนกัน

   พี่กาญจน์โน้มตัวลงนอนทับบนตัวของโม ประกบปากจูบ แต่เอวก็ยั้งแอ่นชักออกมาแล้วขย่มตอลงกดพรืด ๆ เต็มแรง แต่ละครั้งต่อเนื่องแบบเร็วและแรงจนโมร้องซี้ดลั่น

   พี่กาญจน์กระตุกก้นกระแทกถี่ ๆ แล้วบดอัดกับเนินโมแน่นจนโมอยากให้มันหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันไปเลย ร่างที่โมกอดรัดเอาไว้แน่นสั่นไม่ต่างจากโมหรอก โมขมิบกล้ามเนื้อภายในรัดท่อนพี่กาญจน์แน่นสุดแรง พี่กาญจน์ร้องครางอี๊ด ๆ ในลำคอ หายใจแรง สอดมือดึงไหล่โมกดสะโพกลงบดอย่างสุดกำลัง โมสะดุ้งสุดตัว...อารมณ์เพริดถึงจุดหมายแบบถี่ยิบอย่างไม่อาจอดกลั้นต่อไปได้ พร้อม ๆ กันกับพี่กาญจน์เองก็กระตุงสุดตัว ดึงออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกพรืดเข้าไปแบบสุดชีวิต พี่กาญจน์ฉีดน้ำรักอันแสนจะร้อนแรง ปรี๊ดแรก สอง สาม สี่ ห้า ท่อนเนื้อแบ่งพองเป็นระยะ ๆ โมปล่อยขาตวัดรัดรอบเอวเอาไว้แน่นสุดชีวิต ยื่นปากควานหาริมฝีปากพี่กาญจน์แล้วบดเบียดแบบสุดกระหาย

   พี่กาญจน์ขยับสะโพกขย่มเดินหน้ายิก ๆ ต่อไปอีกพักใหญ่แล้วกอดโมเอาไว้แน่น พอถอนปากออกจากกันทั้งโมและพี่กาญจน์หอบหายใจรัวเร็วเหมือนวิ่งทางไกล โอ้วววว...เป็นเซ็กส์ที่ดีที่สุดในชีวิตโมเลย...ไม่ต้องมีองค์ประกอบอะไรมากมายแต่แสนจะมีคุณภาพ

   พี่กาญจน์ขยับตัวโมยิ่งกอดพี่กาญจน์แน่น ไม่อยากให้ขยับตัวเลย อยากกอดพี่โมอยู่ในท่านี้ไว้ให้นานแสนนาน
ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ความเสียวสุขซึมซับไปทั่วทุกอนูเนื้อและหัวใจ โมเอียงหน้าไปหอมแกมพี่กาญจน์อย่างขอบคุณ พี่กาญจน์ก็สนองตอบหอมแก้มโมเช่นกัน ไม่มีเสียงพูด มีแต่เสียงหายใจและการเต้นของหัวใจที่สอดประสานจังหวะจนหลอมรวมเป็นจังหวะเดียวกัน

   ผ่านไปนานจนพี่กาญจน์หัวเราะตรงข้างหูโมเบา ๆ
   "หัวเราะทำไม..?" ก็มันสงสัยนี่นา...หรือว่ามีอะไรผิดปกติจนพี่กาญจน์ต้องหัวเราะร่วนแบบนั้น
   "ขึ้นสวรรค์จริง ๆ ก็วันนี้เองแหละ...พี่ดีใจจัง...โม..." โมอดขำคำพูดของพี่กาญจน์ไม่ได้
   "ความจริง..โมแอบหนีพี่กาญจน์ไปสวรรค์ก่อนแล้วนิด ๆ แต่พี่กาญจน์ก็ตามโมมาทันและโหมให้โมเสร็จพร้อมพี่กาญจน์จนได้...อิอิ..เก่งจัง..."
   "อื้อ..." พี่กาญจน์ตอบรับแค่นี้แล้วก็เงียบ...ดื่มด่ำกับความสุขสมที่เพิ่งผ่านไป

   ทั้ง ๆ ที่โมอยากให้พี่กาญจน์พูดอะไร ๆ จากความรู้สึกภายในออกมาอีก แต่พอพี่กาญจน์เงียบโมก็เลยเงียบตามไปด้วย... ผ่านไปอีกพักใหญ่ พี่กาญจน์เริ่มขยับบดเนินของโมยวบ ๆ อีกครั้ง มันรู้สึกดีมาก ๆ เลยนี่ค่ะ..โมเลยปล่อยให้พี่กาญจน์ทำต่อโดยไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด แล้วอีกอย่างคราวนี้มันลื่นมาก ๆ หัวบานของพี่กาญจน์กวนอยู่ใกล้ ๆ ปากมดลูกแล้วเสียดสีไม่ได้หยุดหย่อน
   "พี่กาญจน์...โมเสียวเหมือนกันนะ..." โมกระซิบเสียงกระเส่า
   "อื้อ...พี่เองก็เพลินมาก....ดีจัง..."

   พี่กาญจน์แอ่นลงบดกับเนินของโมแรงขึ้นจนต้องแอ่นร่อนเนินเนื้อขึ้นสนองเป็นระยะ โมบีบหัวตานิ่งพยายามระงับอารมณ์กระสันไม่ให้มันขึ้นมาเร็วเกินไป พี่กาญจน์เองก็คงไม่ต่างไปจากโมนักหรอก

   ผ่านไปอีกหลายนาทีพี่กาญจน์ดันตัวเองขึ้นนั่งปล่อยขาลงไปเท้าเท้าเหยียบบนพื้น ส่วนขาของโมยังรัดรอบเอวพี่กาญจน์เอาไว้แน่น ยังไม่อยากให้พี่กาญจน์ขยับแรง ๆ นี่คะ อยากจะเพลินกับการบดเบียดหนอกแบบนี้อีกหน่อย

   แต่พอพี่กาญจน์ยันตัวขึ้นกลายเป็นก้นของโมถูกยกลอยขึ้นไปบดตอที่แข็งเป็นลำแบบแนบสนิทมากขึ้น พี่กาญจน์ก้มลงมองโมแล้วยิ้มระรื่น ส่งมือมาให้โมจับแล้วเกร็งตัวดึงร่างโมขึ้นมานั่งทับบนหน้าขา โมเลยสอดมือขึ้นคล้องคอพี่กาญจน์เอาไว้ประกบปากจูบดูดลิ้นอย่างรุนแรง

   พี่กาญจน์สอดมือเข้าไปใต้เข่าเอาผ่ามือโอบรัดก้นของโมเอาไว้ โมขยับก้นส่ายบดกับตอของพี่กาญจน์จนร้อนฉ่าไปหมด พี่กาญจน์เกร็งตัวขยับลุกขึ้นยืนกางขาออกแอ่นตัวหาศูนย์ถ่วงเพื่อไม่ให้ล้ม

   โมกลัวล้มเลยซุกหน้าลงกับซอกคอ ส่วนขาทั้งสองนั้นไม่สามารถรัดรอบเอวพี่กาญจน์ได้อีกแล้ว พี่กาญจน์ปรับท่าโดยขยับออกมาสองสามก้าวดันก้นของโมออก โมเสียวแปล๊บไปทั้งร่องเนินพอพี่กาญจน์ปล่อยมือที่ประคองก้นโมออก ช่วงก้นของโมปะทะกับพี่กาญจน์ดัง 'พั๊บ' โอ๊ยยยย...เสียวสุด ๆ ปลายถอกพี่กาญจน์ชนมดลูกโมเต็ม ๆ หน้าเลย โมร้องลั่นเลยคะ
   "อู๊ยยยยยย...อี๊ดดดดด......เสียววววว....."
   ไม่รู้ละโมพยายามบดหน้าเนินเข้ากับโคนตอพี่กาญจน์เหมือนอยากจะให้มันเข้าไปลึกมากกว่านั้น พี่กาญจน์เองก็ซู๊ดปากเหมือนกินพริกเข้าไปเป็นกำ

   ต่อจากนั้นพี่กาญจน์ก็ขยับขาเดินและดันก้นของโมออกแล้วปล่อยให้กระแทกกลับมา
   "โอววววว...พี่...กาญจน์...ท...ทะ..ท่า...ไร...เสียวววว....???" โมงึมงำก็ท่านั้นมันไม่เคยนี่นา
   "ท่า..ท่า..ลิงอุ้มแตง...โม...พี่..เสียว...เสียว...อู้ววววววซซ"
   "อุ้ม..อุ้ม..แตง...อ่าาาาาซซซ..."
   เสียวมาก ๆ พี่กาญจน์เดินไปดันสะโพกโมออกไปจนของเขาเกือบหลุดแล้วปล่อยให้น้ำหนักสะโพกกระแทกกลับมาแบบแรง ๆ โมเองก็แอบช่วยแอ่นเอวยกขาอ้าออกเพื่อให้ของพี่กาญจน์เข้าไปลึก ๆ แบบสุดเสียว

   ยิ่งตอนเข้าที่เข้าทางดีแล้ว...ยิ่งมันมาก เข้าทั้งสองของโมช่วยแกว่งเพื่อโล้สะโพกขึ้นลง เพียงแต่พี่กาญจน์ย่อตัวยืนตั้งหลักให้มั่นเท่านั้น โมเสียวมากจนต้องร้อง "เอื๊อก ๆ" ลั่นห้อง ส่วนพี่กาญจน์เองก็ซี๊ดปากเสียงดังไม่หยุด
ความลื่นจากครั้งที่แล้วทำให้เรากระแทกกันแบบแรง ๆ เนินเสียวของโมกระทบโคนตอพี่กาญจน์จนมีเสียงดัง 'ป๊าบ ๆ ๆ'
โมไม่ไหวแล้วเกร็งตัวให้ยอมให้พี่กาญจน์ขยับสะโพกกระแทกอีก
   "โอยยย ๆ ๆ พี่..พี่...อ๊าาาายยยยยย....อูววววววว...ไม่...ไหว...โอวววว...." ไม่รู้ละมันเสียวจนแทบขาดใจจริง ๆ

   พี่กาญจน์จึงรัดสะโพกโมบดอัดกับตอของเขาแน่น แล้วค่อย ๆ ขยับเดินมาวางก้นโมลงตรงมุมเตียงอีกครั้ง
จากนั้นจับข้อเท้าโมยกขึ้นพาดบ่าโอบมือรัดโคนขาโมเอาไว้แน่น พี่กาญจน์โหย่งก้นดึงท่อนเนื้อออกมาแล้วกระแทกพรืดเข้าไปทันที ท่านี้ร่องรักของโมรัดของพี่กาญจน์แน่น กลีบแคมถูกขาทั้งสองบีบเอาไว้นี่นา พี่กาญจน์ชักของตัวเองออกมาแบบช่วงสั้น ๆ แล้วกระแทกพรืด ๆ ปากห่อส่งเสียงซู๊ด ๆ ด้วยความเสียว

   กระแทกพั๊บ ๆ ๆ โมหลับตาพริ้มมือขยำผ้าปูที่นอนแน่นเกร็งตัว แอ่นอกสะโพกยกลอยจากที่นอน ในชีวิตตั้งแต่เกิดมากโมยังไม่เสียวได้มากเท่านี้มาก่อนเลย ยิ่งพี่กาญจน์กระแทกถี่ ๆ นมกลมใหญ่ของโมกระเด้งดึ๋งแรง ๆ รู้สึกว่าตรงหัวนมเหมือนคันยุบยิบ โมคลายมือจากผ้าปูที่นอนยกขึ้นมาคลึงหัวนมของตัวเองจนบี้แบนไปมา

   แววตาพี่กาญจน์ที่มองลงมาเป็นประกายจ้าเหมือนลุกโพลงไปด้วยกองไฟ กองไฟรักของพี่กาญจน์ยิ่งเพิ่มความเสียวจนแผดเผาโมจนแทบมอดไหม โมอ้าปากร้องเสียงดังลั่นห้องเลย ยิ่งตอนที่ถึงจุดสุดยอดในช่วงที่พี่กาญจน์กระแทกแล้วบดหนัก ๆ ถึงจุดสุดยอดครั้งแรก...แล้วถึงตามมาอย่างต่อเนื่องอีกกี่ครั้งโมเองก็ตอบไม่ได้ กว่าที่พี่กาญจน์จะถึงตามมา..โมเกร็งขาพยายามยกก้นให้ลอยขึ้นรับท่อนเนื้อที่กระแทกอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้าย

   พี่กาญจน์แยกขาโมออกแล้วผวาลงกอดประกบปากจูบทั้ง ๆ ที่ก้นก็ยังแอ่นกระแทกเยิบ ๆ น้ำรักฉีดปรี๊ด ๆ อย่างแรงเข้าไปภายในของโมจนรู้สึกจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง โมเสียวอีก..โอววววว..แล้ว...แล้ว...โมก็ถึงจุดสุดยอดตามพี่กาญจน์ไปอีกครั้ง

   โมแอ่นอกบดกับอกพี่กาญจน์มือทั้งสองรัดร่างกำยำเอาไว้แน่น อยากให้เราหลอมละลายด้วยไฟรักไฟสวาทเป็นเนื้อเดียวกันจัง...เฮ่อ.... โมหลับตาปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องละลิ่วไปในความเสียวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
ปล่อยใจให้ล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์อันแสนบรรเจิด ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้นนอกจากความเสียวสุขสมอ้อยอิ่งเนิ่นนานในหัวใจ

   .............................

   เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ พี่กาญจน์ขยับร่าง
   "โม..อยากอาบน้ำจัง..เหนียวไปหมดแล้ว..." โมกระซิบบอกพี่กาญจน์เบา พี่กาญจน์ยังนอนนิ่งอยู่พักใหญ่แล้วดันตัวลุกขึ้น
   "โม..ขี่คอพี่ไป...เลอะไปหมดเลย...พี่อาบด้วย...." โมขี่หลังพี่กาญจน์ไปเข้าห้องน้ำแล้วช่วยกันอาบน้ำ เนื้อตัวเบาหวิว รักนี้อิ่มจริง ๆ

   เรากลับมานอนกอดกันโดยไม่ต้องใส่เสื้อผ้าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
   พี่กาญจน์จูบโม โมจูบพี่กาญจน์ เรียกว่าพี่กาญจน์ทำอะไร โมก็ทำตอบกลับให้พี่กาญจน์แบบนั้น แล้วโมก็ซุกอกจนหลับไปกับอกของกาญจน์ เอาไว้วันพรุ่งนี้อีกนะพี่กาญจน์นะ...โมกระซิบบอกกับหัวใจพี่กาญจน์

---------------------------
ด้วยความขอบคุณ  kankan
---------------------------

*** ปล. ***
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

akennya

พาคนที่รักนั่งเรือลอดใต้สะพาน...สร้างบรรยากาศได้เยี่ยมเลยครับ

kaithai

ในตอนนี้ คุณ kankan  เขียนในมุมมองของผู้หญิง
โดยให้ สาวโมเป็นคนเล่าเรื่อง
ซึ่งละเอียดแบบผู้หญิง ต่างกับผู้ชายเล่าที่มักจะผ่านๆไป





acropobia899

#6
สนุกไปอีกแบบครับ  ถ้ามีตอนต่อไปของเหตุการณ์หลังจากนี้กับโอ็คท่าจะดี

7946410

เขียนได้อารมณ์ได้ใจมาก คนอ่านก็อ่านสนุกเพลินใจมาก


Demons_tee


lekyai


sthanya

สลับผู้หญิงเล่าบ้างก็ดีน่ะ อยากรู้ความรู้สึกของผู้หญิง จริงแล้วเขารู้สึกอย่างไร

eaddy48



ตรี1131

ท่าทางโมจะติดใจกานแน่ๆกลับไปมีหวังสานต่ออีกแน่ๆ