ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป (ตอนที่ 1) Copy : kankan

เริ่มโดย Pem Samsan, กุมภาพันธ์ 15, 2017, 09:35:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Pem Samsan

มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป (ตอนที่ 1) Copy : kankan
--------------------------------------------------
ผู้โพสต์ : เรื่องนี้ของท่าน kankan อ่านแล้วอารมณ์ดี ฉบับนี้เหมือนผู้เขียนรีไรท์ จึงแตกต่างจากต้นฉบับเดิม
--------------------------------------------------


ในชีวิตหนุ่มคนหนึ่ง สาวๆนั้นนะหาง่ายครับ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อายุสิบกว่าๆจนอายุย่างเข้าสี่สิบนี่
ผมมีสาวๆ ในชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน (ก็ไม่เคยนับ)
สาวๆบางคนอยู่ในใจผมหลายปี แต่ก็มีบางคน..
บางคน..นี่เธออยู่แค่ไม่กี่เดือนก็จางหายไปสายลมและแสงแดด

พวกเธอล้วนไม่ใช่ ไม่ใช่ในความหมายของ มอ.เมีย ของผมสักคน
ในความหมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ มอ.เมียที่ผมพยายามหาเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอ
ยิ่งหาก็เหมือนยิ่งห่างไกล ยิ่งหาก็เหมือนว่าชีวิตผมคงหายากเหลือเกินที่จะเจอ มอ.เมีย

เพื่อนๆผมมักล้อผมว่า "มอ.เมียนั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป ..."
ผมกระเดือกเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว แล้วหัวเราะหึๆ เห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน
แต่ในใจผมนี่ซิ มันช่างเหงา ว้าเหว่ และเปล่าเปลี่ยนเสียเหลือเกิน
ใจของผมกระเสือกกระสนที่จะค้นหาเจ้า มอ.เมียเสียนี่กะไร
จนผมเองก็ชักคิดเอาเองว่า ไอ้ตัวผมนี่มันชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว
จะอะไรกันนักกันหนาว๊ะ วุ่นวายอยู่กับเรื่อง มอ.เมีย..อยู่ได้

คนทีมี มอ.เมียแล้วต่างก็บ่นกับผมเป็นเสียงเดียวกันว่า
"เฮ่อ...แต่ตั้งแต่มี มอ..เมียนี่...เหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยมึงเอ๊ย...(ขึ้นเสียงสูง)"
"อ้าว...แล้วมึงหาทำสากกระบืออะไรกันวะ"
"เฮ้ย..กูไม่ได้หาทำสากกะบือ กูหาเอาไว้ทำลูกว๊ะ แต่ไงมากลายเป็นยิ่งกว่าแม่กูก็ไม่รู้..."

ผมได้แต่หัวเราะหึๆ แต่ผมไม่เชื่อมันหรอก
ไอ้พวกบ้า....

เออ..ทำไม มอ.เมียถึงเป็นหลุมนรก หรือเป็นบ่อนรก
ให้ไอ้พวกนั้นมันมันตกไปได้ทุกวี่ทุกวันก็ไม่รู้
ทีผมเองทำไมไม่มี มอ..เมียเพื่อจะได้ตกนรกมั่งก็ไม่รู้

ทุกคนที่ได้ยินผมพร่ำรำพันเช่นนี้ ต่างก็มองผมด้วยสายตาเหยียดๆ
ทำปากขมุบขมิบแล้วค้อนใส่ผมอีกสามที
หรือว่ามันแช่งผมก็ไม่รู้ มันไม่พูดดังๆให้ผมได้ยิน

ผมไม่เข้าใจไอ้พวกนี้จริงๆ มันโชคดีแท้  ยังมาเรื่องมากอีก
มีบางคนมากระซิบบอกผมว่า
"เป็นอย่างมึงนะดีแล้ว....อิสระดีจะตาย ฟันผู้หญิงเมื่อไหร่ได้อย่างสบาย
หลอกเย็ดคนนั้นที หลอกเย็ดคนนี้ที มันส์จะตาย..."
อาจจะจริงอย่างมันว่า แต่ผมว่ามันเหมือนจอกแหนที่ลอยระวันเน่า

"เฮ่อ..เมียกูดุฉิบหายว๊ะ เม่งยังกะสือ หาเศษหาเลยไม่ได้เลย"
ผมมองไอ้คนพูดด้วยความสมเพชเวทนาเหลือกำลัง
ไอ้เหี้ยเอ๊ย..มี มอ.เมีย..แล้วยังเรื่องมากอีก
มันยกส้นเท้าขึ้นทำท่าจะยันผมให้
ผมหัวเยาะ แล้วรีบเดินเลี่ยงไปจากมัน เพื่อจะได้ไม่มีเรื่อง

.........

แล้ววันหนึ่ง....... ไม่รู้โชคหรือเคาะห์
ผมถูกสั่งย้ายไปคุมงานที่จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้

ที่นี่เอง..ผมเจอ "สร้อย"
สร้อย..ไม่ใช่ผู้หญิงในทัศนะของผมหรอก
เพราะผู้หญิงของผมแต่ละคนนะ
ขี้เหร่ที่สุด...ผมว่าก็ยังสวยกว่าสร้อยเยอะ

สร้อยเป็นคนใต้โดยกำเนิด
ก็พ่อเป็นคนใต้ แม่ก็เป็นคนใต้
แล้ว...คนใต้ส่วนใหญ่ก็ดำ แน่น บึกบึน ตรงไปตรงมา เสียงดังฟังชัด
แต่ผมสรุปเอาน่ะว่า สร้อย คือ ดำ อ้วน แล้วก็เตี้ย

อย่าคิดบ้า ๆ นะ ผมจะเหรอสนใจสร้อย ยายอ้วน ดำ แล้วเตี้ย คนนั้น
ให้ฟ้าผ่าซิ...ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดจะฝันที่จะสนใจสร้อยซักนิด
จริง ๆ นะ อย่ามองแบบนั้นซิ แล้วอยาทำปากขมุบขมิบด่าผมด้วย
โปรดเข้าใจ...นี่คือประกาศจากผม

แต่ผมก็ต้องพึ่งพาสร้อยทุกวัน
ก็ไอ้พื้นที่ที่ผมถูกส่งมาทำงานนะ
มันมีร้านเซเว่นที่ไหนกันละ
ผมจึงต้องพึ่งสร้อย ก็ไอ้เรื่องอาหารการกินนั่นแหละ
ผมจ้างเธอให้ทำอาหารปิ่นโตมาส่งทุกวัน
ก็ผมมันไม่ดี...ทำเองไม่เป็น หรือทำเองได้มั่ง...แต่หมามันก็ยังแดกไม่ลง

แล้วอีกอย่างหนึ่ง...นี่นะเด็ดสุด
สร้อยทำอาหาร แม่ง..โคตรๆอร่อยเลย
ผมชิมฝีมือสร้อยแค่ครั้งแรก....
ผมร้อง "ว้าว......"
สร้อย..ทำแกงเหลืองปลาดุกทะเลได้สะเด็ดสะเด่ามาก
เรียกว่าอร่อยจนข้าวหมดหม้อเมื่อไหร่ไม่รู้...แล้วกัน

..........

ไอ้เพื่อนชั่วๆของผมที่มาหาผมมั่งในเวลาที่พวกมันว่างหรือคิดถึงเหล้าของผม
พวกมันพอได้ชิมฝีมืออาหารของสร้อย ทุกคนชมกันเป๊าะทีเดียว
"เฮ้ย...ไอ้เหนียง..ใครทำกับข้าวให้มึงว๊ะ เม่งอร่อยฉิบหาย..."
"ไอ้เหี้ย...มึงแค่กินไปสามอย่าง แกงเหลือง ยำปลาหมึก กับปลาทอดเครื่อง...แค่นี้นะ...ชมแล้ว...
กูนะเว้ยกินมาเกือบสามเดือนแล้ว อร่อยแม่งทุกมื้อเลยว๊ะ...สร้อยนี่ฝีมือเด็ดจริง ๆ"
"เอา..เสียเลยซิว๊ะ"
"ไอ้เหี้ย...ไม่ถูกสเปคกูว๊ะ...อ้วน ดำ เตี้ย..."

..........

ผมบอกพวกมันแล้วหัวเราะแหะ ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องไปทับถมเธอ
ความจริงสร้อยนะดีกับผมมาก ไม่ว่าผมอยากกินอะไร เธอสรรหามาทำให้ผมกินได้ทุกทีไป
จะเป็นอาหารอีสานบ้านเกิด อาหารเหนือ ใต้แน่นอนอยู่แล้ว พวกอาหารจีนหรือฝรั่ง...สร้อยก็ทำได้

บางวันผมต้องไปคุมไซด์งาน ตอนเที่ยงเธอยังขับแมงกะไซด์ไปส่งอาหารให้ผม
"สร้อย..วันนี้มีอะไรมาให้กิน..."
"นายช่าง..ปลาฉลามผัดฉ่า..."
"เหรอ..ใครได้มาละ.."
"ลุงอ่ำ..ได้ฉลามหูดำมาตัวนึงนะนายช่าง..."
สร้อยเล่าให้ผมฟังยิงฟันขาว
เออ..ผมเพิ่งจะเห็นว่าฟันสร้อยขาวเรียงเป็นระเบียบแวววาว

"วันนี้...ก็มีลาภปากนะซิ..."
"ลาบ..นะไม่มี..... มีแต่ฉลาม..."
ดูซิ..ดูความกวนของสร้อยมั๊ง

พอผมยกมะแหงกขึ้นทำท่าจะเคาะกระโหลกเธอ
สร้อยรีบวิ่งหนี...แล้วหัวเราแหะๆ
สร้อยวิ่งไปขึ้นแมงกะไซด์รีบขับกลับบ้านไปทันที

มันก็เป็นอยู่แบบนี้แหละ สนุกกันไปวันๆ
ผมมาอยู่ที่นี่มันเหงาพอสมควร

สาวๆของผมป่านชะนี้คงหายหน้ากันหมดแล้วละมั้ง...ไม่เจอกันนานแล้วนี่นา
เออ..จะไปโทษพวกเธอก็ไม่ได้ เราตกลงกันแล้วว่าแค่สนุกกันเท่านั้น
ยิ่งคิดก็ยิ่งเหงา ยิ่งเหงาก็ยิ่งคิด คิดไปคิดมา คิดมาคิดไป
ผมก็อดคิดไปถึง มอ.เมีย ไม่ได้

"มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป"
เสียงท่องกลอนกวนๆของเพื่อนดังขึ้นในสมอง

เฮ่อ...ผมถอนหายใจไล่มันออกไปจากจิตใจ

จะไปเที่ยวแถวในเมือง...มันก็มีแต่ซ่องราคาถูก กลัวเอดส์เหมือนกัน
ผม...ก็เลยได้แต่อดอยากปากแห้งอยู่นี่แหละ

แล้วฟ้าก็สร้างเรื่องให้ผมเข้าจนได้

..........

อยู่ๆตื่นขึ้นมาผมปวดหัวมาก ไม่มีเรียวแรงจะที่จะลุกขึ้น
ผมนอนแซ่วอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น
หวังว่าสายๆมันคงหาย ตอนนี้ไปทำงานไม่ไหว
ผมนอนอยู่จนสายมากแล้ว..อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

ผมได้ยินเสียงแมงกะไซด์ของสร้อยดังใกล้เข้ามา
เธอมาจอดรถที่ใต้ถุนบ้านพักของผม
ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเธอเดินขึ้นบันไดมา
ผมแกล้งนอนหลับตานิ่ง
สร้อยเคาะประตูดังลั่นทีเดียว "ป๊อก ป๊อก ป๊อก"

ผมนะได้ใส่กลอนประตูหรอก
เพราะบ้านพักที่ผมอยู่ก็ไม่มีอะไรมากมาย
แล้วอีกอย่างมันเป็นสถานที่ราชการ

สร้อยไม่ได้ยินเสียงตอบรับใด เธอผลักประตูเข้ามา..แล้วเห็นผมนอนแน่นิ่ง
เธอรีบวิ่งเข้ามาที่เตียงระล่ำระลักถามผมว่า

"นายช่าง..เป็นไง...."

ก็ผมมีแรงที่จะตอบเธอที่ไหนกันละ...
สร้อยยื่นมือมาแตะที่หน้าผากผม แล้วยกมือขึ้นพร้อมกับพูดว่า

"โห..ตัวร้อนจี่เลยนายช่าง...เป็นไข้หวัดใหญ่แหงๆ"

แหม..นางสร้อยนี่เก่งกว่าหมอแน๊ะ ยื่นมือมาแตะหน้าฝากนิดเดียวรู้แล้วว่าเป็นไข้หวัดใหญ่
ผมหายดีแล้วจะเปิดคลีนิคให้รักษาคนไข้ มันน่าจะรวยดี

จากนั้นสร้อยรีบไปรื้อๆค้นๆ จนได้ยาพารามาสองเม็ด แล้วเธอก็ไปรินน้ำ
"นายช่าง..กินยาแก้ไข้ก่อนนะ..."
สร้อยป้อนยาให้ผมอย่างทุลักทะเลเต็มที่

แต่การป้อนยาของเธอนี่สิทำให้ผมได้ค้นพบความจริงว่า
สร้อยนี่..ตัวเธอหอมมาก ๆ เลย
ผมนะมีสาวๆมาเยอะ แต่กลิ่นกายของสร้อยนี่ไม่เหมือนใคร
มันระรวยรื่นชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก

หอมจนผมอยากจะให้เธอช้อนหัวผมเอาไว้แบบนั้นตลอดไป
แต่ผมก็ไม่มีแรงที่จะหอมเธอซักฟอดหรอก
ได้แต่สูดกลิ่นหอมจากกายเธอเข้าปลอดให้ชุ่มชื่นใจ
เธอวางหัวผมลงบนหนอนอีกครั้ง
ไข้ขึ้นสูงทำให้ผมเบลอๆ...เรียกว่ากึ่งหลับกึ่งตื่นนั่นแหละ

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้
ผมมารู้สึกตัวขึ้นเพราะได้ยินเสียงของสร้อยอีกนั่นแหละ

"นายช่าง...นายช่าง..กินข้าวต้มหน่อย..."

เธอยื่นมือและตบแก้มผมเบาๆ เพื่อให้รู้สึกตัว
กลิ่นหอมนี้มาอีกแล้ว...โห..หอมชื่นใจจัง

ผมพยายามลืมตาที่หนักอึ้ง
สร้อยยกหัวผมขึ้นแล้วเอาม้วนผ้าห่มสอดเข้าไปเพื่อให้ผมหนุนสูงขึ้น
ผมได้ยินเสียงเธอก็ร้องดัง "อุ๊ยยย...."

ผมเองก็ร้อง "อุ๊ย" ในใจเหมือนกัน
ก็นมอวบกลมแล้วค่อนข้างเบิ้มพอสมควรของเธอมันชนกับจมูกผมจัง ๆ

ถ้าจะพูดให้ถูก จมูกผมต่างหากที่ไปชนเต้านมของเธอ
มันหอมเหลือเกิน... ผมว่ามันดีกว่ายาเสียอีก
ก็ยานะผมกินแล้วทำให้ง่วงแล้วก็หลับ
แต่กลิ่นเต้านมของสร้อย ทำให้ผมมีกำลังขึ้น
จริงๆนะ ผมรู้สึกมีกำลังขึ้นมาเลย

แล้ว..แล้วก็ทำให้ไอ้เจ้าบิ๊กบึ๋มของผมมันตื่นขึ้นมาด้วย
มีแต่แรงใจ แต่ไม่มีแรงกายก็คือจุดจบ

ผมรู้สึกว่าสร้อยอายจนหน้าแดง
เออ..คนผิวเข้มหน้าแดงสีมันเข้มขึ้นไปอีก
เออ....ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ
ผมอยากจะยิ้มจัง แต่ขยับริมฝีปากไม่ออก

สร้อยค่อยๆป้อนข้าวต้มให้ผมทีละช้อน
พอกินไปได้สักสอง-สามช้อน ผมอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าผมพอแล้ว
แต่ผมก็ไม่มีแรง เธอก็ป้อนเอ๊า ป้อนเอา ทำให้ผมต้องพยายามกลืนเสียแทบแย่
มีกำลังใจหน่อยก็ตรงที่กลิ่นกายเธอที่รวยรินเข้าจมูกผมนี่แหละที่เป็นรางวัล

สร้อยป้อนผมเสร็จ เธอจัดการให้น้ำและยากับผมอีกครั้ง
"สร้อยไปซื้อยาในตลาดมาให้นายช่างแล้ว...ได้ผลชะงัด..."
ไม่นานผมก็เริ่มเบลอๆไปอีกแล้ว
ผมหลับไปอีกครั้ง

..........

ผมไม่ทราบหรอกว่าเธอหายไปไหน
แล้วก็มีผู้ชายมาอุ้มผมเอาไปส่งที่โรงพยาบาล
เฮ่อ..ผมอดได้ดมกลิ่นเต้าหอมๆของสร้อย
ได้สูดแต่กลิ่นยาของสาวพยาบาลที่โรงพยาบาลแทน

ให้ตายซิ...ผมอยากจะกลับไปนอนป่วยที่บ้านพักจัง
แต่ไม่มีใครสักคนที่รับรู้และนำผมกลับไปบ้าน

ผมถูกแทงเข็มที่แขนรูแล้วรูเล่า
ผมเจอไปทั้งน้ำเกลือ เลือด และไอ้ถุงสีเหลืองๆ
รู้สึกพยาบาลพูกกันว่าเป็นยาฆ่าเชื้ออะไรนี่แหละ

ผมเบลอๆรู้เรื่องมั๊งไม่รู้เรื่องมั๊ง
แต่ผมก็จำกลิ่นหอมของสร้อยไม่มีลืม
แม้ผมจะลืมตาไม่ขึ้น
ผมรู้ทันทีจากกลิ่นหอมของเธอว่าสร้อยมาหาผม มาดูผม
เออ..ทำไมเป็นแบบนั้นก็ไม่รู้

ผมนอนอยู่โรงพยาบาลเกือบสองอาทิตย์
คนที่ไปเยี่ยมผมบ่อยที่สุดก็คือสร้อยอีกนั่นแหละ

หลัง ๆ ผมพอจะกินข้าวได้มากขึ้น
สร้อยก็ทำอาหารที่ถูกปากผมมาให้ผมอีกแล้ว

เออ..แล้วผมก็รู้จักอาหารใต้อีกอย่างหนึ่ง
"คั่วกลิ้งเนื้อ" อูยยยสสสส์ สุดยอดจริง
เผ็ด ร้อน อร่อยสุด ๆ จริง ๆ วันนั้นผมกินข้าวได้ถึงสองจาน

---------------------

kaithai

ขอบคุณมากครับที่นำ เรื่องเยี่ยมของนักแต่งในตำนาน มาแบ่งปัน

มอ..เมีย...นั้นหายากจริง
แต่ดูเหมือน นายช่างไม่ต้องออกเรือไป นะเนี่ย


biggiggog

คุ้นๆเหมือนเคยผ่านตามาแล้ว น่าจะนานพอดู
จำเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว แต่จำได้ว่าสนุกดีเหมือนกัน
ขอบคุณมากๆครับ

tacklove

เจอของจริงเข้าให้แล้วหละเสน่ห์ปลายจวักของจริง อ้วนเตี้ยดำเหรอ ฮะฮะ เผลอสูดกลิ่นเขาไปกี่ฟอดล่ะ

ponggunyuki2527

ไม่เคยอ่านเลยครับ สนุกดี นี่แหละเสน่ห์ปลายจวัก ใครว่าไม่สำคัญ

pinmonkey

แนวสาวใต้แบบบ้าน ๆ นี่เขียนยากนะครับให้น่าติดตาม แต่ท่านผู้แต่งก็ได้วางโครงเรื่องได้น่าติดตามมากในเรื่องของความจริงใจการดูแลของสาวสร้อย และกลิ่นหอม ขอบคุณมากครับ

pitsanume

ขอบคุณครับ เป็นการปูพื้นที่แน่นมากครับ สาวชาวบ้านมักเป็นช้างเผือกของหนุ่มกรุงเสมอ แล้วแบบนี้หนุ่มกรุงจะสามารถพิชิตช้างเผือกได้หรือเปล่านะ รอติดตามครับ


acropobia899

ถึงจะไม่สวยแต่ก็มีดีในแบบของตัวเองสินะสร้อย

ทำอาหารอร่อยแบบนี้ นายช่างสงสัยจะอ้วนละมั้งแบบนี้ กับข้าวอร่อยๆ

koike2869

ขอบคุณในน้ำใจคับ  มีแต่ของอร่อยนี่แค่อาหารยังไม่รวมอย่างอื่นนะ


sixdevil7


swbkk

ถึงจะเคยอ่านนานมาแล้ว แต่ชื่อชั้นของผู้แต่ง....ยังไงต้องขอเข้ามาเชียร์ด้วยคนครับ จำได้ว่าสนุกกุ๊กกิ๊กดี
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันกันให้อ่านอีกครับ

naitoom

มอ...เมียนั้นหายากจริง แต่เมื่อเจอแล้วเลิกยากยิ่งกว่า...