ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป (ตอนที่ 4) Copy : kankan

เริ่มโดย Pem Samsan, กุมภาพันธ์ 17, 2017, 07:10:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Pem Samsan

มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป (ตอนที่ 4) Copy : kankan
--------------------------------------------------

ในชีวิตผมตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ยาวนานเกือบ 40 ปี
ผมผ่านสาวๆมามากมายจนจำไม่ได้ว่ากี่คน
แต่ผมรู้แน่แก่ใจว่า ผมไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
ผมดันรู้สึกว่าผม..ตอนนี้..ผมเหมือนหนุ่มน้อยรุ่นกระทง..อีกครั้ง..ยังไงยังงั้น...
ให้ตายซิ....

..........

คืนนั้น...ผมนอนหลับสนิทไปด้วยความอิ่มเอม

..........

รุ่งเช้า..ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำ
พอผมออกจากห้องน้ำ
ผมเห็นสร้อยนั่งยิ้มระรื่นอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะสารพัดประโยชน์
ใช้ทำงาน ใช้กินข้าว และยังเอาไว้กินเหล้าก็ได้
อยูที่ผมอยากให้เป็นอะไร

ผมเดินไปหาเธอทั้งๆที่ยังนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว
สร้อยเห็นแบบนี้บ่อยๆคงชินจนไม่คิดอะไร

ผมก้มลงจูบหน้าฝากเธอ แล้วจูบปาก
สร้อยเอียงคอมาซบกับตัวผม
แล้ว...หัวของเธอที่โยกไปมากับอก
ตัวเลยเลยไปถูไถทำให้ปมผ้าขาวม้าของผมหลุดออกไปอย่างไม่รู้ตัว

ผ้าขาวม้าของผมร่วงลงไปกองกับพื้นห้อง
สร้อยรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
เธอดันตัวออกมามอง
น้องชายของผมชูหราต่อหน้าต่อตา แบบจัดเต็ม
แล้ว..แล้ว..ตอนที่เธอเห็นนะ.....มันผงาดตั้งแต่ที่ผมจูบเธอแล้ว

สร้อยอึ้งและเงียบไปทันที
ตอนนั้น..ผมเองยังไม่รู้ว่าผ้าขาวม้าผมหลุดไปแล้ว
สร้อยเองก็ไม่บอกผม

ผมยืนตรง ผมหลับตาพริ้มลูบผมเธอเบาๆ
จนผม..ผม..รู้สึกว่าสร้อยตัวเขม็งเกร็ง
ไม่โอนอ่อนผ่อนตามมือของผม
ลืมตาก้มลงมองแล้วต้องตกใจ

"อุ๊ยยย..ตายยยย..."
ผมปล่อยเธอรีบก้มตัวลงไปหยิบผ้าขาวม้าขึ้นมานุ่งใหม่ทันที

"สร้อย....ขอโทษ..."
ผมระล่ำละลักขอโทษขอโพย...

"ขอโทษทำไม...."
"ก็นายช่างทำ..นะ...มันประเจิดประเจ้อ..."
"นายช่างไม่เจตนานี่คะ..."
"สร้อยอย่าโกรธนะ..."
เธอส่ายหน้า แล้วพูดแบบทะเล้น ๆ ว่า
"แหม..นายช่าง..สร้อยว่า...มันใหญ่จัง..."

"มันน่ากลัวหรือเปล่าว...."
สร้อยส่ายหน้าแล้วพูดว่า
"สร้อยรู้ว่ายังไงมันก็ทำกันได้..."
"เออ..สร้อยนี่เข้าใจดีจัง..."
"ตอนเรียนเค้าก็สอนนี่..."
สร้อยคุยกับผมแบบเปิดเผย..แต่ก้มหน้านิ่งไม่สบตา ไม่ม้องเจ้าตัวร้ายของผม
ผมว่าตอนนี้สร้อยคงหน้าแดงก่ำแน่นอน

"เดี่ยว...ขอนายช่างไปนุ่งกางเกงก่อนนะ..."
สร้อยเงยหน้าขึ้นมองแบบแบะปากนิด ๆ แล้วพูดว่า
"นายช่างเขินเหรอ..."
"แนะ...แก่แดด....นะเรา..."
"แก่แดด..แล้วก็แก่ลมด้วยนะนายช่าง..."
สร้อยหัวเราะร่วนแล้วผลักตัวผมออก

..........

โอววว..พระเจ้าจอร์จ...ผ้าขาวมาผมหลุดอีกรอบแล้ว...
สร้อยยิ่งหัวเราะใหญ่เลย... ผมจึงแกล้งพูดว่า
"อยากโชว์ดีนักนะไอ้นี่ ขายหน้าหมดแล้ว อยากโชว์นักนิ ไม่ต้องนุ่งมันเลยแล้วกัน..."
"แน่ใจนะนายช่าง..."
ผมส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหัวเราะหื่น

"สร้อยนะเห็นของนายช่างหมดเลย...เฮ่อ.."
ผมมองหน้าเธอแล้วส่ายหน้า ถอนหายใจ แพ้เธออย่าหมดรูป

..........

ผมเดินไปนุ่งกางเกงในแล้วใส่เสื้อกางเกงแต่งตัวจนเรียบร้อย
สร้อยนั่งมองผมทุกอริยาบทด้วยสายตาเป็นประกาย

ผมเห็นไม่ผิดหรอกว่าประกายตานั่นมีแววบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่
ผมหันมายิ้มให้เธอเป็นระยะ ๆ

แต่งตัวเสร็จผมมานั่งที่โต๊ะ
สร้อยจัดแจงเรียงกับข้าวแล้วตักข้าวใส่จานให้ผม
ผมตักกินอย่างเอร็จอร่อย
รู้สึกว่าเป็นอาหารมื้อที่อร่อยที่สุดในชีวิตของผมเลยทีเดียว

..........

ผมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำบ้วนมาก  สร้อยจัดการเอาจานไปล้าง จัดเก็บของ
"ขอบคุณมากสร้อย..." ผมบอกเธอ
"นายช่างไปทำงานเถอะ...ตอนเที่ยงนายช่างจะกินข้าวที่ไหนละ
"มากินที่บ้านดีกว่า...."
"ไม่กินที่ไซด์งานเหรอ...." พร้อมส่งสายตาเหมือนรู้ทัน

ผมแกล้งพูดว่า
"กลับมาที่บ้านดีกว่า...ตากแดดนานๆเดี่ยวไข้กลับแล้วแย่เลย"
แต่ผมไม่กล้าสบตาเธอหรอก ผู้หญิงอะไรรู้ทันไปหมด

"อึม...สร้อยจะจัดมาให้ที่บ้านก็แล้วกันนะนายช่าง..."
พูดจบสร้อยรีบเดินลงบันไดไปทันที

ผมจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินลงมาด้านล่าง
สร้อยขับแมงกะไซด์ของเธอจากไปแล้ว
ผมขับรถไปที่ไซด์งานทันที

พวกเพื่อนๆน้องๆ เฮกันใหญ่ที่เห็นผมมาทำงานได้แล้ว
วันนั้นทั้งวัน ผมหันไปทางไหนมันแสนจะดีงามไปหมด
ยิ้มได้แม้กับสายลมและแสงแดด
ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะหาว่าผมบ้า
ก็คนมันมีความสุขนี่ครับ
อิจฉาผมละซี

..........

เวลา 11.45 น.

ผมรีบขับรถกลับบ้าน
โดยมอบให้ช่างรองจากผมคุมงานต่อ
ผมอ้างว่าอยู่นานไม่ได้ ตอนบ่ายอากาศมันร้อนจัด เดี่ยวไข้กลับจะแย่
ทุกๆคนจึงรีบไล่ให้ผมกลับไปพักผ่อน โดยพวกเค้าจะช่วยกันทำเอง
ผมขอบใจทุกคน ทั้งๆปากกับใจไม่ตรงกัน

"มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป"
ผมแอบท่องกลอนของไอ้เพื่อนบ้า ๆ ของผม
ท่องไปแล้วก็ยิ้มไป

ไม่กี่นาทีผมก็มาจอดรถที่ใต้ถุนบ้านพัก
ผมลงจากรถเดินผิวปากด้วยความสุขขึ้นบันไดบ้าน
เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นนุ่งผ้าขาวม้าเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้เย็นชื่นใจ

ผมนุ่งผ้าขาวม้าออกจากห้องน้ำ
เอากางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดมาใส่
แล้วเดินไปที่โต๊ะตัวเล็กๆที่อยู่ติดข้างโทรทัศน์ จัดการเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ

เดินไปเอนตัวลงนอนฟังเพลงบรรเลงเปียโนทีพริ้วไหว
พร้อมกับคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า
เรานี่บ้าจริงๆหรือนี่ แก่จนป่านนี้
เฮ่อ...อยู่จนปูนนี้...ทำอะไรบ้าๆก็ไม่รู้...เหมือนไก่อ่อน...
แล้วหัวเราะลั่นบ้าน

..........

"หัวเราะอะไรนายช่าง...."
ผมรีบหุบปากทันที ฝันผมกระเจิง

"อ้าว..สร้อยมาเมื่อไหร่...นอนเพลินไปหน่อย..."
"นายช่างนี้...นอนหัวเราะคนเดียว...เพลงก็ไม่มีเนื้อ หัวเราะอะไร..."
เฮ่อ...ผมจะบอกเธอยังไงกันนี่ ว่าผมนะหัวเราะตัวเอง..หัวเราะสมน้ำหน้าตัวเอง...

"สร้อย..ทำต้มยำกุ้ง ผัดผักรวม แล้วปลาเค็มทอดมาให้คะ..."
"ข้าวเยอะปล่าว..."
"ฮื้อ...."
"เดี่ยวอ้วนจนจุกนะนายช่าง...."
"ก็มันอร่อยนี่นา.."
"สร้อยต้องขึ้นราคาค่าทำปิ่นโตแล้วละ...กินเยอะทุกวันเลยนี่เดี่ยวขาดทุน"
"ขั้นราคาซิ..."
"ดี..สร้อยจะได้รวยเยอะๆ"

"สร้อยกินกับนายช่างนะ...."
"อื้อ..ไม่เห็นเหรอว่าเตรียมจานมาสองชุด..."
เออ..จริงด้วย...ทุกทีเธอเตรียมให้ผมคนเดียว โดยเธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ
"ดีจัง..กินด้วยกัน..."

เออ..มันชักเหมือนๆครอบครัวแล้วแฮะ
ตอนอยู่กรุงเทพ ผมก็เคยไปกินข้าวกับสาวๆบ่อยๆ แต่รู้สึกไม่เหมือนกันนะ
อาจเป็นเพราะความเจริญทางวัตถุของกรุงเทพ
อาจเป็นเพราะเจริญวัตถุแต่ขาดความละเอียดอ่อนของจิตใจ
ต่างกินเพราะหิว
หิว ก็ กิน
อิ่มแล้วก็เลิกกัน

เหมือนที่ผมเล่นเซ็กส์กับพวกเธอ
ผมหิว เธอก็หิว มาเจอกัน
อิ่มแล้วต่างก็แยกย้ายจากกันไป

หิวอีกทีก็มาร่วมกินกันที
ผมรู้สึกแบบนั้นมานานแล้วแหละ...ใจผมนะมันเติมไม่เต็มกับแบบนั้น
ยิ่งเติมก็ยิ่งขาด เวลาเกือบ 30 ปี ว่างเปล่ายังไงก็ยังงั้น
แล้ว..อาจ..อาจ..มากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
อ้างว้าง..แม้นอนกอดซ้ายกอดขวา

ผมนั่งกินข้าวกับสร้อย
ทำให้ผมนึกไปถึงตอนที่ผมเด็กๆ
พ่อ-แม่ และผมลูกคนเดียวนั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน
มีอะไรก็แบ่งกัน มีน้อยกินน้อย มีมากกินมาก
คิดแล้วผมก็อดยิ้มไม่ได้

"นายช่าง..กินข้าวไปยิ้มไป...บ้าเปล่า..."
ดูความกวนของเธอซิ...
ทำลายความฝันของผมซะกระเจิง
แม่สร้อยฟ้าลดาวัลย์นี่

"ก็อิ่มกายอิ่มใจที่มีคนมากินข้าวด้วยนะซิ...คิดถึงตอนเด็กๆ"
ผมสารภาพความจริงกับเธอ

"เด็กๆยังไง..."
"ก็ตอนเด็กๆ นายช่างล้อมวงกินข้าวกับพ่อ-แม่ นึกแล้วอบอุ่นมาก..."
"นายช่างนี่ ชอบฝันกลางวันนะ..."

ผมมองเธอตาขวาง แหม..ไม่มีอารมณ์ร่วมซะมั่งเลย
"เค้าไม่ได้เรียกว่าฝันกลางวัน แต่เป็นคนมีจิตใจละเอียดอ่อนต่างหาก..ยายสร้อยฟ้า..."
"หนู..ไม่ได้ชื่อสร้อยฟ้านะ ชื่อสร้อย เฉยๆ"
"อ้าว..สร้อยเฉยๆ ก็ได้...."
"ไม่ใช่สร้อยเฉยๆ แต่ชื่อ สร้อย..."
เธอกวนอารมณ์ผมได้ทุกมุมแหละ

"ต้มยำ...อร่อยจัง..."
ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เธอจะชักใบให้เรือเสีย
"สร้อยทำ..นะอร่อยทุกทีแหละ..."
พูดแล้วสร้อยทำหน้าทะเล้น

"จริงๆนะ สร้อยทำแล้วอร่อยทุกที...ทำไมนายช่างต้องชมสร้อยก็ไม่รู้นะ"
ผมทำเป็นซื่อ...
"การชมมั๊ง..เป็นเรื่องที่ดีนะ..นะนายช่าง..."
"อร่อยเหมือนกันทุกที ต่อไปไม่ชมดีกว่า..."
"นายช่าง..ชมบ้างนะ...ไม่ชมสร้อยจะรู้ได้ไงว่าทำถูกใจนายช่าง..."
พูดอ้อนๆ แล้วยิ้มยั่วด้วยสายตาแวววาว

"อย่าอยู่เฉยซิ...ตักข้าวให้นายช่างอีกจาน..."
"โห..สามจานแล้วนะนั่น..."
"ข้าวหมดหม้อเหรอ...."
"ม้ายช่าย...ยังมีอีก...อ้าว...."
สร้อยตักข้าวใส่จานให้ผม

..............

กว่าจะอิ่มและจัดเก็บเรียบร้อยก็เกือบบ่ายโมง
สร้อยไปเตรียมยาให้ผมกิน แล้วเก็บจาน ล้างจานจนเรียบร้อย

ผมนั่งมองกริยาอาการของสร้อยอย่างตั้งใจ
สร้อยนะทำงานไปเรื่อยอย่างไม่รู้ตัว
จนเธอทำงานเสร็จหันมาเห็นสายตาของผม

สร้อยเดินมาหาพอใกล้ ผมยื่นมือไปโอบเอวเธอดึงมานั่งบนตักผม
เธอโอนอ่อนผ่อนตามผมโดยดี
"สร้อย..น่ารักจัง..."
"จริงอ๊ะ..."
"อื้อ..."

ผมหอมที่ซอกคอของเธอแล้วพูดว่า
"หอมชื่นใจจังเลย...อิ่มท้องแล้วอิ่มใจอีกต่างหาก"
"นายช่างไม่นุ่งผ้าขาวม้าอีกเหรอ..."
เธอพูดพร้อมหัวเราะหึๆ ล้อเลียนผม

"ตอนเช้านะ..อายจัง...โป้โดยไม่รู้ตัว..."
"รู้ตัวก็ไม่ใช่ธรรมชาตินะซิ...เห็นหมดเลย..."
"เห็นแล้ว..เป็นไง..."
"ของนายช่างไม่เหมือนของเด็กๆเลย..."
"ก็นายช่างไม่ใช่เด็กนี่...."
"ผู้ใหญ่ทุกคนคนเป็นแบบนี้เหรอ..."
"อื้อ..."

"ดูแล้วมันใหญ่..แล้วแข็งมากด้วย..."
"ก็มันตื่นตัวนะ..."
สร้อยขยับตัวกับคำตอบของผม

"ทำไมต้องตื่นตัวด้วย...ปกติมันไม่เป็นแบบนั้นเหรอ..."
"ปกติมันก็อ่อน ไม่แข็งหรอก มันจะแข็งก็ต่อเมื่อมีอะไรมากระตุ้น..."

"หา..นายช่าง..อะไรไปกระตุ้นมันเหรอ..."
"ก็สร้อยไง..กลิ่นหอมของตัวสร้อยไปกระตุ้นให้มันแข็ง..."
"จริงเหรอ..นายช่าง..."
"จริงซิ...ตอนนี้นายช่างก็แข็งอีกแล้วละ...ไม่เชื่อลองยื่นมือลงไปจับดูซิ..."

น้อยขยับตัวนิดนึงแล้วยื่นมือลงไปเตะลูบ คอ.ควย..ของผม
"โห..มันแข็งจริงด้วย...."
"สร้อยอยากดูมันอีกหรือปล่าวละ...หรือลองจับก็ได้นะ..."

"อ้าว..นายช่างไม่ไปทำงานเหรอ..."
"ตอนบ่าย..อากาศมันร้อนมาก พวกนั้นต้องการให้นายช่างพักนะ..."

"งั้น..นายช่างเอามันออกมาซิ....."
ผมรู้สึกว่าเสียงของสร้อยสั่นอย่างเห็นได้ชัด

ผมจับให้เธอยืนขึ้น แล้วคิดว่าน่าจะไปที่เตียงดีกว่าเลยบอกเธอว่า
"สร้อย..เราไปทีเตียงกันเถอะ..."
สร้อยพยักหน้าแล้วบอกว่า
"นายช่างไปปิดประตูห้องด้วยเหอะ..."

--------------------
โดย : kankan

tacklove

นี่สร้อยเธอไร้เดียงสาจริงหรือแกล้งกันแน่เนี่ย อยากได้หรือเปล่าล่ะสร้อย

Pem Samsan


kaithai

ผ้าขาวม้าไม่รักดี  ทำเจ้านายขายหน้า ทำไมต้องหลุดต่อหน้าสาวด้วย
แบบนี้ตองเลิกใช้ ผ้าขาวม้า 55555

ponggunyuki2527


cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

biggiggog

บ๊ระแล่ว งานนี้เลือดตกน้ำแตกแน่เลย
::Beggar::
ขอบคุณมากๆครับ


devilzoa


peddo

เกือบเสร็จแล้วครับ กินข้าวต้มกลางวันเลยนายช่าง ขอบคุณครับ

pinmonkey

เริ่มปฏิบัติการนายช่างแล้ว ตอนต่่อไปต้องเร้าใจแน่นอนเลยครับ ขอบคุณมากครับ

naluk888

อ่านมาจนถึงตอนนี้ ถึงยังไม่มีฉากสำรวจถ้ำอะไรมากมาย ขนาดแต่งมานานแล้วกลับมาอ่านยังรู้สึกมุ้งมิ๊งเลย เข้าใจหยอกกันนะเนี่ย แฮ่ๆ พอดีตอนนี้ก็กำลังหยอกอยู่เหมือนกัน อารมณ์เดียวกันเลยครับ

aeadza