ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เดชคัมภีร์นางฟ้า 11 ตอน อดีตของกังปัง

เริ่มโดย cobra, มีนาคม 21, 2017, 10:12:54 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชอบตอนนี้หรือไม่

ชอบ
23 (100%)
ไม่ชอบ
0 (0%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 23

cobra


          ความเดิม กังปังตอนที่หนีลงมาจากง้อไบ๊เป็นผู้ที่มีความจำเสื่อม จึงทำให้เคว้งคว้างด้วยไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ใด

           และต้องทำอะไรต่อไป จึงอาศัยหลบซ่อนตัวตามศาลเจ้า ระหว่างทางกลับรับทราบว่าตัวเองเป็นใครแล้ว

แต่แม้กระนั้นก็ตาม ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองก็เหมือนดั่งมันขาดๆเกินๆไป เพราะมีความทรงจำของอึ้งย้งมา

ซ้อนทับความทรงจำเกี่ยวกับมันอยู่ มันรับทราบว่าตัวมันเองเป็นคนที่เลวมาก่อนก่อเรื่องไว้มากมาย

รู้สึกเสียใจที่เคยทำตัวเช่นนั้น แต่กลับไม่ทราบว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้ตัวมันเป็นคนเลวร้าย
มันกลับคิดได้ว่า มันเคยมาจากซินเกียง เลยต้องการไปที่เมืองนี้เพื่อหาความจริงของตัวเองให้กระจ่างชัด
มันจึงยังคงใช้วิธีหลบซ่อน อาศัยขโมยเสื้อผ้าและของกินตามบ้านต่างๆ
และใช้ศาลเจ้าเป็นที่หลับนอนระหว่างเดินทาง โดยเก็บงำประกายไม่แสดงฝีมือให้ใครล่วงรู้
หรือก่อเรื่องใดขึ้นมาอย่างระวังตัวเองด้วยความรอบคอบ

            ขณะกำลังจะเดินทางเข้าเมืองซินเกียง กลับมีม้าตัวหนึ่งคล้ายกำลังแตกตื่นสิ่งใดจึงควบตะบึงมา
บนหลังม้ากับมีสตรีรูปร่างอ้วนฉุราวหมูตอนนางหนึ่ง กำลังส่งเสียงร้องอย่างตกใจ
ด้วยกำลังจะตกมิตกแหล่จากหลังม้า

            "ช่วยด้วย ๆ ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย ๆ "

            กังปังใช้วิธีควบคุมม้าจากหันป้อกือ(หนึ่งในเจ๊ดตัวประหลาดกังหน่ำ) ซึ่งเป็นอาจารย์คนหนึ่งของก๊วยเจ๋ง กังปังตอนนี้มีทั้งวิชาตัวเบาและกำลังภายในที่สูงยิ่ง จึงสามารถวิ่งคู่ไปกับม้าที่แตกตื่นคอยเอามือตบปลอบม้าที่แตกตื่นให้สงบได้ พร้อมกับคอยดูท่าทีของสตรีอ้วนบนหลังม้า ม้าที่แตกตื่นพลันสงบลงพร้อมกับสตรีอ้วนที่เสียหลักตกลงจากหลังม้าพอดี

กังปังจึงอ้าแขนโอบอุ้มนางไว้ไม่ให้ได้รับอันตราย สตรีนางนั้นทั้งอ้วนทั้งน้ำหนักมากแต่กังปังยังสามารถอุ้มนางได้สบาย

            "ข้าขอบคุณท่านมาก แต่เอ๊ะ..."

            สตรีอ้วนที่กำลังโดนกังปังช่วยเหลืออุ้มอยู่ พอเห็นหน้ากังปังชัดๆ กลับยกมือที่กำลังโอบรอบคอมันตวัดมือตบหน้ากังปังดังเพี้ยะ เต็มฝ่ามือ

            กังปังกำลังจะกล่าวคำว่า "มิเป็นไร" กลับโดนสตรีอ้วนตบหน้าแบบกระทันหัน

            ตอนนี้กลับมีรถม้า และมีคนอื่นที่ขี่ม้าตามมาอีกหลายคนมาถึง

            "เป็นเจ้าจริงๆ"

          กังปังกำลังงุนงง ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องใด กำลังมีคนหนึ่งลงจากหลังม้าเดินเข้ามา

            "กังปัง ๆ เจ้าใข่กังปังน้องเราจริงๆ"

       กังปังคล้ายคุ้นหน้าคนนี้ผู้นี้พยายามเค้นสมองนึก ภาพในวัยเด็กพลันวิ่งกลับเข้ามาในสมอง

      กังปังสูญเสียความจำไปชั่วคราว หากมีสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นก็จะทำให้ความจำค่อยๆกลับมาได้
      แม้ยังไม่หมดในคราวเดียว

กังปังมองเห็นชายชราผู้หนึ่งถือไม้เท้าอันใหญ่พร้อมกับหญิงสาวผู้หนึ่งประคองลงจากรถดูจากลักษณะ
ก็ทราบว่า หญิงผู้นี้มีสามีแล้ว(หญิงจีนสมัยก่อนจะมีการแต่งกายเกล้ามวยผมเพื่อบกพร่องสถานภาพของตนให้คนรู้)
" งักแป๋ (พ่อตา)เป็นกังปังที่ช่วยม่วยเล็กไว้"
เจียงปิงกับฟู่หลิง

"กังปัง ไฉนเป็นเจ้าวายร้ายนั้น ขอข้าดูให้ชัดๆหน่อยเถอะ"

"เจ้ารีบคุกเข่า สำนึกผิดต่อหน้า ต่อย แป๋(บิดาบุญธรรม) ให้ยกโทษด้วย" ชายผู้นั้นรีบกล่าวแนะนำกังปัง

ด้วยสัญชาติญาณและจิตใต้สำนึกกระตุ้นเตือนให้กังปังรีบทำตามโดยไม่รอช้า

"ไหนเงยหน้าให้ข้าดูชัดๆซิ"

ผู้เฒ่าพูดพร้อมกับเอาไม้เท้าเชยคางกังปังให้เงยขี้น

กังปังพอสบตากับผู้เฒ่าชรากลับรู้สึกมีก้อนจุกขึ้นมาในอกส่งเสียงสั่นเครือไปเบาๆ

"ค่อย แป๋ (บิดาบุญธรรม)"

ผู้เฒ่าพอเห็นรู้แน่ว่าคือกังปังจริง กลีบมีความรู้สึกหลายอย่างประดั่งเข้ามาทั้งเอ็นดูทั้งชิงชังสารพัด
แต่กล้ำกลืนเอาไว้

"ยังจำข้าได้หรือ เจ้าวายร้าย แล้วนี้เจ้ากลับมาทำไม ตั้ง 16 ปีแล้ว"

กังปังคล้ายเป็นเด็กที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ รู้สึกสลดไม่มีคำพูดใด

"ข้าได้ข่าวเรื่องไม่ดีของเจ้าตั้งมากมาย เจ้าทำอะไรมาถึงมาที่นี้ ไหนดูห่อผ้าของเจ้าซิ"

ผู้เฒ่าพูดพร้อมกับเอาไม้เท้าเขี่ยดูห่อผ้าที่กังปังวางไว้ข้างตัว กลับพบแต่หมันโถสามลูก

ผลส้มขนมไหว้เจ้าไม่กี่อัน ดูเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็คล้ายไปเอาของใครมา นอกนั้นตลอดทั้งตัวไม่มีอะไรเลย

ลักษณะคล้ายคนร่อนเร่พเนจรไม่ผิดกับพวกขอทาน

"สมบัติเจ้ามีเพียงเท่านี้หรือ กงจื้อ(คุณชาย)กังปัง หากเป็นเมื่อสิบปีก่อนข้าคงเอาไม้เท้าฟาดเจ้าตายไปกับมือแล้ว"

ผู้เฒ่าพูดพร้อมถอนหายใจ ไร้คำพูดต่อเหมือนได้ปลงใจในเรื่องกังปังแล้ว

"ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว ขอบใจเรื่องที่เจ้าช่วยฟู่หงส์ไว้แล้วกัน"

ผู้เฒ่าพูดพร้อมกับหันหลังจะก้าวขึ้นรถม้าจากไป แต่กลับเปลี่ยนใจหันกลับมาหากังปังอีกครา

"ไหนๆเจ้าก็มาแล้ว หากไม่อกตัญญูจนเกินไป พวกเราเตรียมจะไปไหว้หลุมศพ มารดาบุญธรรมเจ้า

นางตายตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว วันนี้ครบรอบวันตายของนาง"

ว่าแล้วผู้เฒ่าก็ขึ้นไปบนรถม้า สั่งให้ฟู่หงส์ขึ้นไปนั่งบนรถม้า ให้เจียงปิงคือชายคนที่เข้ามาทักกังปังให้เอาม้าตัวที่ฟู่หงส์ขี่มาเอาให้กังปังขี่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน

ในรถม้าฟู่หงส์คล้ายไม่พอใจจึงถามบิดาว่า

"ปา ปา(บิดา)ไฉนให้เจ้าเลวกังปังร่วมเดินทางไปด้วยเล่า ท่านไม่เจ๊บใจมันแล้วเหรอ"

"ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้

อีกอย่างข้าอยากรู้เช่นกันว่ามันกลับมาทำไม เจียงปิงคงสอบถามมันได้ความเอง"

ฟู่หงส์จึงเงียบเสียง เช่นเดียวกับฟู่หลิงพี่สาวที่นั่งเงียบตลอดเวลาไม่ได้ส่งเสียงอะไร



ในระหว่างเดินทางไปฮ้วงจุ้ยเจียงปิงจึงเริ่มสอบถามกังปัง

"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือ จึงกลับมาในสภาพเช่นนี้"

กังปังตอนนี้พอเริ่มจะจดจำได้แล้วว่าเจียงปิงกับมันต่างเป็นเด็กกำพร้าที่ผู้เฒ่าฟู่เซิ่งเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็ก

ด้วยพ่อแม่ของกังปังและเจียงปิงต่างถูกทหารมงโกลฆ่าตายหมด ผู้เฒ่าฟู่เซิ่งเดิมเป็นทหารมาพบทั้งคู่จึงสงสารจึงพากลับไปเลี้ยงดูที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นฟู่เซิ่งเองก็มีบุตรสาวสองคนอยู่แล้วคือ ฟู่หลิงและฟู่หงส์ แต่ก็ให้ความรักใคร่เจียงปิงกับกังปังดุจดั่งลูกในไส้ของตัวมาตลอดโดยเจียงปิงมีอายุมากสุดจึงให้เป็นพี่ใหญ่ รองลงมาคือกังปัง และฟู่หลิง และฟู่หงส์ ตามลำดับ

"ข้าขอเรียนพี่เจียงตามตรง ข้าได้รับอุบัติเหตุกระทบกระเทือนทางสมอง จึงจดจำเรื่องตัวเองได้ไม่กระจ่าง ต้องขออภัยให้ข้าด้วย"

เจียงปิงเลิกคิ้วทำท่าฉงน

"มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ แล้วเจ้าจำอะไรได้บ้าง"

"ข้าจำได้กระท่อนกระแท่น แต่กลับที่นี้ข้าคล้ายจำอะไรไม่ค่อยได้ จึงอยากให้ท่านชี้แนะเพื่อฟื้นฟูความจำ"

เจียงปิงลอบระบายลมหายใจ ว่าไฉนเรื่องของกังปังจึงแปลกประหลาด แต่ดูจากแววตาและท่าทางของกังปังแล้ว ดูเหมือนสิ่งที่พูดจะเป็นความจริง

"ประหลาดแท้ เอ...หากเจ้าว่าเป็นเรื่องจริง เอ้อ...เอาไงดีละ"

เจียงปิงล่าวพร้อมกับคิดไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะไม่รู้ว่าหากกังปังรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับตัวจะเป็นผลดีหรือผลเสียยังไง

"เจ้าจำอะไรที่นี้ได้บ้าง.."

กังปังค่อยนึกและเล่าสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาได้ให้เจียงปิงฟัง

"ข้าจำได้ว่าเราต่างเป็นเด็กกำพร้าที่บิดาบุญธรรมนำมาเลี้ยง และมีม่วยใหญ่และม่วยเล็กลูกสาวที่แท้จริงของบิดาที่โตมาด้วยกัน

สตรีที่ประคองผู้เฒ่าลงมาคาดว่าคงเป็นม่วยใหญ่(ฟู่หลิง) แต่ไม่เห็นม่วยเล็ก(ฟู่หงส์)

เจียงปิงหัวเราะแล้วกล่าวว่า

ฟู่หงส์ในวัยเด็ก

"ก็คนที่ตบหน้าเจ้านั้นแหละคือ ม่วยเล็กฟู่หงส์"
"หญิงอ้วนนางนั่นหรือคือ ฟู่หงส์"

กังปังแปลกใจพยายามนึกถึงฟู่หงส์ กลับนึกไม่ออก

"ก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าจะจำนางไม่ได้ เพราะนางเปลี่ยนไปมาก จากดรุณีแน่งน้อยกลายเป็นสาวอ้วนใหญ่แบบนั้น"

กังปังนึกถึงฟู่หงส์ในวัยเด็กออกมาได้แต่กลับคิดไม่ถึงเวลาผ่านไปสิบกว่าปีกลับทำให้นางเปลี่ยนรูปร่างไปได้ขนาดนี้

แต่พิจารณาจากใบหน้านางก็คือฟู่หงส์จริงๆ

"อา..ข้านึกถึงฟู่หงส์?ออกแล้ว แต่ทำไมรูปร่างถึงเปลี่ยนไปขนาดนั้น

"เพราะนางเสียใจจากความรักเช่นเจ้ากระมัง"

"เสียใจจากความรัก ข้าด้วยหรือ"

กังปังแปลกใจ เจียงปิงเหมือนรู้ตัวว่าเล่าอะไรพลาดไป จะเป็นชนวนให้เรื่องไม่ดีกลับมาหรือเปล่า

จึงชงักค่อยนึกหาทางเล่าอะไรที่ไม่ให้กระทบกระเทือนเกินไป

"แต่เดิมเจ้าหลงรักฟู่หงส์จนแทบหัวปักหัวป่ำ แต่นางกลับไม่ชอบเจ้า แถมหลอกลวงกลั่นแกล้งเจ้าประจำ

เจ้าทั้งอับอายและผิดหวังอย่างรุนแรง ต้องเสียผู้เสียคน จึงก่อเรื่องไม่ดีขึ้นนาง และหนีเตลิดไป "

"ข้าเป็นเช่นนั้นหรือไม่อยากเขื่อเลย"

"กังปังเรื่องมันผ่านมานานมากแล้ว หากแม้นเจ้าจดจำอะไรขึ้นมาได้ หวังว่าเจ้าคงไม่กลับมาแก้แค้นกับใครอีกนะ

"ฟู่หงส์เองนางก็คล้ายได้รับการลงโทษภายหลังผู้ชายที่นางชอบก็ทอดทิ้งนางจึงเสียใจ กลับมาเอาแต่กินเพื่อลืมทุกข์ จนติดนิสัยเอาแต่กิน จนมีรูปร่างอ้วนใหญ่ตามที่เห็น อโหสิให้แก่กันเถอะ"

กังปังได้ฟังแล้วต้องตกใจอย่างมาก นึกไม่ถึงว่าเรื่องแต่หนหลังตัวเองจะเป็นแบบนี้

(ผู้หญิงอ้วนฉุแบบนี้นะหรือ คือคนที่ตนหลังรักหัวปักหัวป่ำ จนต้องทำให้กลายเป็นคนไม่ดีไปได้

หากกาลก่อนได้รู้ว่าอนาคตของฟู่หงส์จะมีรูปร่างอ้วนฉุแบบนี้ คงไม่ไปหลงนางจนเสียผู้เสียคนขนาดนี้

นี้หรือคือต้นเหตุทั้งหมดของข้า กังปังกลับคิดสังเวชในใจตัวเอง)

เผอิญมาถึงฮ้วงจุ้ย เจียงปิงจึงหยุดการสนทนาต่างพากันมาที่หน้าหลุมศพช่วยกันจัดเตรียมข้าวของไหว้

กังปังมาหยุดยืนเซื่องซึมอยู่ที่หน้าหลุมศพสลักชื่อว่า "ฟู่หนี่เอ๋อ"

ความทรงจำในวัยเด็กปรากฎภาพขึ้นในหัว

"ท่านแม่ โตขึ้นข้าจะเป็นวีรบุรุษ เป็นจอมยุทธที่ทรงคุณธรรม

จะใช้เพลงกระบี่ขจัดภัยของตระกูลเราปราบเหล่าร้ายให้สิ้นแผ่นดิน"

กังปังก็เป็นเช่นเด็กน้อยทั่วไปที่มีความฝันที่สวยงามเป็นวีรบุรุษที่มีชื่อเสียง

"ตอนนี้แม้เจ้ายังไม่ได้เป็นวีรบุรุษของใคร แต่ก็เป็นวีรบุรุษของแม่ แต่วีรบุรุษก็ต้องกินข้าว และเรียนหนังสือนะ"

"หยุดเล่นก่อน มากินข้าวก่อนแล้วมาหัดอ่านหนังสือกับแม่นะ"

กังปังนึกถึงภาพในวัยเด็กยามที่นางฟู่หนี่เอ๋อมีชีวิต ที่เอ็นดูรักใคร่ตนมากกว่าลูกคนไหน

เพราะกังปังเป็นเด็กฉลาด พูดจาอ่อนน้อมอ่อนหวาน รู้จักประจบประแจง ยิ่งกว่าใคร

กังปังอดน้ำตาหลั่งรินไม่ได้ ที่จากไปนานและไม่มีโอกาสได้พบนางอีกต่อไปแล้ว

จึงก้มลงโขกศรีษะคำนับร้องไห้ออกมา

"มารดาลูกช่างอกตัญญูยิ่งนัก ไม่สามารถเป็นวีรบุรุษได้ดั่งให้สัญญาแก่ท่าน ฮือ..."

กังปังส่งเสียงสอึกสอื้นแผ่วเบาสูดน้ำมูกที่ไหลออกมา อย่างเศร้าโศกและปวดใจยิ่งนัก

จนผู้เฒ่าฟู่เซิ่งที่มองอยู่ก็รู้สึกสเทือนใจไปด้วย เพราะอากัปกริยาของกังปังที่แสดงอย่างจริงใจไม่ได้แสร้งทำแต่อย่างใด ในใจให้อภัยและมองเห็นกังปังในยามที่เป็นเด็กน้อยน่ารัก และเชื่อมั่นว่ากังปังคงกลับตัวกลับใจได้ ผู้เฒ่าได้ถามสิ่งที่เจียงปิงได้พูดคุยกับกังปังจึงทราบความว่ากังปังได้สูญเสียความจำบางอย่างไปก็นึกเห็นใจ แต่ก็อดวิตกไม่ได้ว่าที่กังปังดูเหมือนเป็นคนดีในตอนนี้เพราะความจำยังไม่สมบูรณ์ หากความจำกลับมาได้หมดยังจะกลับไปเป็นคนที่มีแต่ความเกลียดชังอยู่หรือไม่

"ท่านพ่อไฉนยังให้กังปังกลับไปกับพวกเราอีก ตอนนี้มันอาจแค่ดีเพราะความจำเลอะเลือนก็ได้นะ "

"อืม...ไม่เป็นไรหรอก"

"แต่ข้าก็คิดว่า กอ(พี่)กังปังอาจเปลี่ยนเป็นคนดีได้แล้วนะ ที่ผ่านมาอาจแค่หลงทางไป"

เป็นฟู่หลิงออกความเห็นมาบ้าง

"ฮึ..เจ๊ยังไปนับถือมันเป็นกอกออีกทำไม"

"เอาละเจ้าไม่ต้องโต้เถียงกัน ขอข้าดูมันเองแล้วกัน กังปังก็คือคนในครอบครัวเรา แม้ทำผิดก็ยังคงเป็น

มารดาเจ้าก็ขอไว้ก่อนตายว่าให้อภัยให้กังปัง วันนี้ครบรอบวันตายของนางทำเพื่อนางสักวันเถอะ"

ฟู่หลิงจึงหุบปากเงียบ

"ผู้เป็นบุตรควรทราบ ในใจพ่อแม่ทุกคนย่อมรักและห่วงใยลูกเสมอไม่ว่าจะเติบใหญ่แค่ไหนก็ตามก็ยังเห็นเป็นเด็กที่น่ารักอยู่ร่ำไป แม้ทำผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหนก็ตามจะกี่ร้อยกี่พันครั้ง ถึงจะเป็นเรื่องเดิมๆที่ซ้ำซากอาจมีความโกรธบ้างในใจ แต่ก็ยินดีที่จะให้อภัยทั้งร้อยทั้งพันครั้ง..ขอเพียงที่ให้อภัยจะมีเพียงสักหนึ่งครั้งที่ลูกได้รู้สำนึก และเริ่มใหม่ในทางที่ถูกก็คุ้มค่าแล้ว"

ในใจของผู้เฒ่าฟู่เซิ่งที่รู้สึกต่อกังปังก็เป็นเช่นเดียวกัน

ในตอนเดินทางกลับกังปังจึงได้สนทนากับเจียงปิงจึงทราบว่า ตอนนี้บ้านที่อยู่ไม่ใช่สำนักกดูแลความปลอดภัยของหมู่บ้าน(ยาม) และส่งสินค้าอีกต่อไป เพราะมีครั้งหนึ่งตอนที่กังปังจากไปได้มีโจรมาปล้นแย่งชิงของสำคัญที่ต้องจัดส่งไป

ผู้เฒ่าฟู่เซิ่งสู้โจรไม่ได้แถมโดนดูถูกว่ามีฝีมืออ่อนด้อยไม่คู่ควรมาทำงานนี้เกิดท้อแท้ใจมาก และต้องจ่ายค่าสินค้าจนต้องขายทรัพย์สินสมบัติทั้งหมดจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ภาวะทางบ้านต้องประสบความลำบากไม่เลิกกิจการก็ต้องเลิกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างคนงานจนแทบจะต้องขายบ้านช่องทั้งหมดเพราะไม่มีรายได้อะไร  แต่กลับเป็นฟู่หงส์ที่มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าตั้งแต่เด็กที่ช่วยครอบครัวไว้ได้

ซึ่งกังปังพอจะจำได้ที่ฟู่หงส์มักทดลองตัดเสื้อผ้ามาให้กังปังเป็นหุ่นใส่แสดงเสื้อผ้าเป็นที่ขบขันแก่ผู้พบเห็นในสมัยก่อน

แต่ต่อมาการออกแบบเสื้อผ้าของนางกลับพัฒนาขึ้น เป็นที่ชอบใจของผู้พบเห็น จากขายได้เพียงหนึ่งตัว เป็นสองตัว แล้วในที่สุดคนกลับนิยมเสื้อผ้าที่นางออกแบบมากขึ้นด้วยความแปลกตาสวยงามกว่าใคร จนบัดนี้กลายเป็นร้านตัดเสื้อผ้าชื่อดังไม่เพียงเฉพาะตำบล ยังแพร่หลายไปยังต่างถิ่น ฟู่หลิงกับฟู่หงส์จึงมีความคิดริเริ่มจัดทำเป็นหนังสือภาพ(แคตตาล็อก) ให้คนเลือกแบบซึ่งไม่เคยมีร้านไหนจัดทำสมุดภาพมาก่อนเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมี

ตระกูลฟู่ที่กำลังตกอับพลิกฐานะขึ้นมาใหม่กลายเป็นเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่ากาลก่อนที่เป็นสำนักรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(เทียบได้กับบริษัทยามในสมัยนี้) ทุกคนติดใจเรียกหาให้แต่ฟู่หงส์ออกแบบเสื้อผ้า มีชื่อเสียงเลื่องลือไปถึงเมืองหลวง

เทียบแล้วฟู่หงส์คือดีไซน์เนอร์ในสมัยนี้นี่เอง

กังปังได้ฟังแล้วอดทึ่งไม่ได้ ออกปากชมฟู่หงส์อย่างจริงใจ

"อย่างนี้ต้องขอบใจโจรกระมั่งที่มาปล้นทำให้ฟู่หงส์นำพรสวรรค์ที่มีมาใช้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ ฮ่า ๆ"

กังปังพูดไม่ทันคิดอะไร ทำให้เจียงปิงต้องชงักไม่กล้าบอกว่า คนที่ชักนำโจรมาปล้นที่ทำให้ตระกูลฟู่ต้องตกระกำลำบากก็คือตัวกังปังนั้นเอง

"มีอีกเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับตัวข้า ที่ลืมบอกไป..."

"คือ ท่านกับม่วยใหญ่ฟู่หลิง ได้ลงเอยเป็นสามีภรรยากันแล้ว"

เจียงปิงยิ้มไม่นึกว่ากังปังจะเดาถูก

"ข้ารู้ตั้งแต่ท่านเรียกบิดาบุญธรรมเป็นพ่อตา และเห็นฟู่หลิงที่ลงจากรถม้ามาก๋คาดเดาออกแล้วละ"

"เจ้าบอกได้ถูกต้อง "

"หากการมาครั้งนี้ของเจ้าเพียงเพื่อต้องการฟื้นฟูความจำเท่านั้น เรื่องสำตัญเกี่ยวกับตัวเจ้าที่ผ่านมาข้าก็เล่าให้เจ้าฟังหมดแล้วละ ไม่รู้จะช่วยอะไรเจ้าได้หรือไม่ และนับจากนี้เจ้าจะทำไงต่อก็อยู่ที่เจ้าแล้ว แต่เราก็คิดว่าเจ้าคือคนในครอบครัวเราตลอดนะ"

ตอนนี้เริ่มจะเข้าเมืองแล้วกังปังมองไปที่ลานเด็กเล่น คล้ายมีความรู้สึกผูกพันกับที่ตรงนี้จึงบอกเจียงปิงว่าตนอยากใช้เวลาอยู่ตรงนี้สักหน่อย ร้านหลิงหงส์หาง่ายใครก็รู้จัก เสร็จธุระแล้วค่อยตามไปแล้วกัน เจียงปิงกล่าว กังปังจึงคืนม้าให้เจียงปิง

แล้วเดินมาที่ลานเด็กเล่น ก้มลงเก็บกิ่งไม้ได้ท่อนหนึ่งเดินไปยืนบนแท่นไม้ที่ตอนเด็กตนชอบมายืนตรงนี้

กังปังพบเห็นตัวเองเป็นเด็กอีกครั้ง ยกมือถือกิ่งไม้ต่างกระบี่ประกบนิ้วชี้และนิ้วกลางยื่นไปข้างหน้า ในมือขวาถือกิ่งไม้ดันข้อศอกไปทางด้านหลัง ตามองเล็งปลายกระบี่ไปตามนิ้วมือข้างซ้ายเป็นเครื่องเล็งชี้นำ

"เหล่าร้ายต้องสยบเมื่อพบกงจื้อกังปัง ระวังกระบี่ขจัดภัยของเราให้ดี"

"กระบวนท่าแรก เทอดฟ้าคำนับดิน ยากส์..."

เด็กน้อยกังปังพูดจบพร้อมกระโดดตัวลอยลงมาจากแท่นไม้ ใช้กระบี่ทิ่มแทงเหล่าร้ายในจินตนาการต้องตกตายไปหลายคน ที่เหลือก็ไม่อาจหลุดรอดเมื่อกังปังพลิกกระบี่ในมือแปรเปลี่ยนกระบวนท่า เพียงแค่สามกระบวนท่าเท่านั้นเหล่าร้ายก็ตายจนหมดสิ้น สามารถขจัดภัยในยุทธภพทำให้เกิดความสงบขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยฝีมือของจอมยุทธกังปัง

"ใครอยู่หลังต้นไม้นั้นออกมาซะดีๆ เป็นพวกเจ้านั่นแหละข้าเห็นว่าพวกเจ้าติดตามข้ามาตั้งแต่ออกจากฮ้วงซุ้ยแล้ว"

พลันปรากฎคนหลังต้นไม้ออกมา 3 คน หนึ่งในนั้นตบมือแปะ ๆ

"กงจื้อกังปังยอดเยี่ยมยิ่ง เจ้ามาที่นี้ตั้งแต่เมื่อไร แถมมาเล่นเป็นเด็กๆอีก"

คนที่ก้าวออกมารูปร่างสันทัด ท่าทางเป็นพวกนักเลงอันธพาลที่หว่างเอวมีกระบี่เหน็บไว้ 2 เล่ม อีก 2 คนท่าทางจะเป็นลูกน้อง

"เมื่อเดือนก่อน ที่ร้านอาหลงมีคนถูกฆ่าตายหมด แม้แต่สหายเจ้าเปียกน่ำเฮาะ ก็ถูกตัดคอหัวขาด แต่ไม่พบเจ้า ยังเข้าใจว่าเจ้าอาจตกเขาตายไปแล้วกระมั่ง"

คนพูดเดินเข้าหาพร้อมจับมือกังปังอย่างสนิทสนม กังปังกลับจดจำคนผู้นี้ออกโดยทันทีว่ามันคือ

หัวหน้าอันธพาลใหญ่หม่าหยง ที่ถูกทางการจับกุมไปเมื่อสามปีก่อน ตอนกังปังหนีออกมาจากตระกูลฟู่ก็ได้คนผู้นี้ช่วยเหลือ เข้าสู่เส้นทางอธรรม เป็นพวกมิจฉาชีพ จึงภือว่าหม่าหยงเป็นทั้งคนดีและคนร้ายสำหรับกังปัง เพราะที่รอดชีวิตเติบใหญ่ขึ้นมาก็เพราะคนผู้นี้เช่นกัน

"พี่หม่า ท่านมาได้ยังไง ไม่เจอกันนานทีเดียว"

"ฮ่า ๆ ๆ "หม่าหยงหัวเราะเสียงดัง

"มันคงเป็นชตาที่ต้องกันของเราสองคนอีกครั้ง ที่ทำให้เจอกันในจังหวะพอดี ข้ากำลังวางแผนจะปล้นร้านหลิงหงส์ในคืนนี้ เจ้ามาได้ช่วยทำเรื่องให้ง่ายขึ้น"

ชักเขียนชักยาวแหะ ว่าจะเขียนตอนนี้ให้จบลวดเดียว เพื่อจะได้เข้าเรื่องในตอนใหม่สักที

แต่ก็กลัวว่าหากผู้อ่าน อ่านยาวๆแบบยังไม่มีบทพิศวาสจะเบื่อก่อน เลยขอแบ่งเป็นตอนหน้าอีกตอน

ดูท่ากังปังจะย้อนรอยเดิมอักหรือไม่ ที่เจียงปิงเล่าให้กังปังฟังถึงอดีตมีแค่นี้หรือ

เจียงปิงเล่าไม่หมดหรือไม่รู้รายละเอียดปลีกย่อยอื่นที่ทำให้กังปังแค้นเคืองใดนักหนา

เชื่อว่าผู้อ่านคงเดาออกว่า สุดท้ายกังปังจะตัดสินใจเช่นไร

จึงจะขอเสนอในตอนหน้าว่า ตอนกระบี่กลับหลัง กังปังกลับใจ เป็นตอนจบของเรื่องในอดีตของกังปัง
(ช่วงนี้คอมมีปัญหาเปิดไม่ได้ขึ้นจอฟ้าบ่อยมาก ยังแก้ไม่ตก กลัวงานหายหมดอีก)


kaithai

(ช่วงนี้คอมมีปัญหาเปิดไม่ได้ขึ้นจอฟ้าบ่อยมาก ยังแก้ไม่ตก กลัวงานหายหมดอีก)


ขอแนะนำ  ก้อปข้อมูลออกทั้งหมด  ฟอร์แมตเครื่อง  ลงวินโด ใหม่ ลงโปรแกรมใหม่ทั้งหมด
เพราะจอฟ้า ส่วนมากเนื่องจาก วินโด มีปัญหา แต่ก็มีบางสาเหตุ เนื่องจากอุปกรณ์ในเครื่อง หรือเมนบอร์ด มีปัญหาเช่นกัน

อย่าทิ้งไว้ครับ เพราะมันจะเป็นจอฟ้า ถี่ขึ้นเรื่อยๆ



cd13579

ตามคเฮียไก่ว่าเลยครับ ให้ดีถ้าข้อมูลไม่มากนักอัพไปเก็บออนไลน์ถ้าเยอะหน่อยก็ย้ายออกจาก ไดร C ไปเก็บไดรอื่นไม่งั้นหาดิสอีกลูกมาดูดไป พองานหายละขี้เกียจเขียนใหม่แน่นอน
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

Seraphia13

อัพพวก ออนไลน์ไดร์ฟชีวิตจะปลอดภัย
ปล เป็นคนดีมันลำบากนะเออ กังปัง

navy868

กังปังกลับใจเหอะจะได้เป็นวีรบุรุษจริงๆซะที...

err

กังปังน่าจะโดนใส่ร้าย แล้วครอบครัวก็เข้าใจผิด  เขาเลยประชดชีวิตเป็นโจรซะเลย

kongrith

กังปังตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว วิทยายุทธก็ก้าวหน้าไปมากมาย

somc217

เดาไม่ออกเลยครับว่าสุดท้ายแล้ว กังปังจะเป็นคนดี หรือคนเลว
รออ่านตอนต่อๆไปครับ
ขอบคุณมาก

biggiggog

เอาแบบโจรกลับใจก็ดีครับ
อ่านแล้วมันจรรโลงใจดี
ขอบคุณมากๆครับ

wattana2015

ช่างน่าสงสารกังปังยิ่งนัก  โดนคู่ปรับเก่าตบหน้า  แต่ยังไม่รู้สาเหตุก็ยังวิจารณ์อะไรมากไม่ได้คงต้องให้ท่านไรท์เตอร์มาเฉลยกันต่อไป  ::Dizzy::

dwarf

ขอบคุณครับ..บางเวลาความทรงจำที่ไม่สามารถฟื้นคืนออกมาได้ อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้นั้นเอง

Nikubou

ถึงจะห่างหายไปบ้างแต่ก็กลับมาตามอ่านเหมือนเดิมครับ ขอบคุณที่ประพันธ์เรื่องดีๆให้ได้อ่านครับ จะติดตามอ่านผลงานของท่านตลอดไปครับ

Pem Sittiwat

 ::Fighto::กังปังตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว