ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ทับทิม PT5

เริ่มโดย darkfrl, มีนาคม 21, 2017, 11:11:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

darkfrl

อย่างที่เกริ่นนำตั้งแต่ part แรกว่าผมตั้งใจจะเขียนเป็นแนว erotic porn ที่ไม่เน้นฉากอย่างว่าสักเท่าไร  แต่เขียนไปเขียนมาก็รู้สึกว่ามันเยอะกว่าที่คิดแฮะ  ไม่เป็นไร ถ้าท่านผู้อ่านชอบผมก็ยินดีจัดให้  แต่ตอนที่ 5 นี้ ขออนุญาตพักบ้างนะครับ ขอเดินเรื่องแพบ แฮ่  ตอนที่แล้วจัดหนักมาทั้งตอนแล้ว

ใจจริงผมอยากลากปริศนาต่อไปอีกสักพัก  ให้อ่านไปคิดไป แต่กลัวท่านผู้อ่านจะเบื่อและเลิกติดตามซะก่อน...  เรื่องราวของเรื่องนี้จะผูกโยงกับตำนานและเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ความเชื่อ ความศรัทธา ที่ทุกคนต้องเคยผ่านหูผ่านตามาแล้วบ้างไม่ว่าจะใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ  ซึ่งถ้าใครเคยเรียนรู้ศึกษารายละเอียดมาคงพอเดาได้ไม่ยาก  โดยเฉพาะเรื่องราวในส่วนของสามสาวเพื่อนบ้านผู้มาใหม่  ผมได้ใส่คำใบ้เอาไว้ในเรื่องตลอดเวลาแล้ว

จากนี้แล้วผมจะเริ่มคลี่คลายปริศนาของเรื่องต่อไปเป็นลำดับ  เรียนตามตรงว่าผมยังเขียนไม่เสร็จ และชอบมาอ่านความเห็นที่ทุกท่านวิจารณ์กันไปต่างๆนานาครับ

ถ้าใครอ่านแล้วพอเดาได้ว่าตัวละครแต่ละตัวคือใคร เป็นมาอย่างไร และมีจุดมุ่งหมายอะไร  ก็ลองเม้นไว้ดูครับ  ผมเองก็อยากจะรู้จริงๆ ว่ามีใครพอจะเดาออกบ้างหรือเปล่า

สุดท้ายนี้ขอให้มีความสุขกันทุกท่านทุกคนครับ



Part5 : สัมพันธ์

รถเอสยูวีคันหรูฝ่าเปลวแดดร้อนแรงผิดฤดูฝนเข้าจอดเทียบบาทวิถีหน้าร้านกาแฟกว้างใหญ่โอ่โถง  เมื่อเครื่องยนต์ดับลง เทพก้าวลงจากรถด้านคนขับ  พลอยและทับทิมทยอยลงมาจากรถทั้งตอนหน้าและตอนหลัง
วันนี้เทพสังเกตเห็นว่าทับทิมรู้สึกสดใสและสดชื่นเป็นพิเศษ  ดูเป็นมิตรมากขึ้นในความเห็นของเทพจากเดิมที่ดูเดาอารมณ์ได้ยาก  ส่วนพลอยนั้นยังคงร่าเริงสดตามปกติ  เสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายการ์ตูนฟองน้ำสีเหลืองฟันเหยิน  ดูขัดๆ กับกระโปรงยีนส์สั้นบานออกเล็กน้อย  แต่โดยรวมเมื่อประกอบกับรองเท้าผ้าใบคู่หนาสีขาวแล้วก็น่ารักดีมากในสายตาของชายหนุ่ม  ส่วนทับทิมนั้น  เทพมองดูแม่บ้านสาว  เธอแต่งตัวด้วยเสื้อคอปกสีแดงเข้ารูป  กับกางเกงยีนส์ตัวเดิมๆ ที่เขาเคยเห็นอยู่บ่อยๆ  ทว่าใบหน้าขาวใสสว่างนั้นมีรอยเลือดฝาดแดงเรื่อกว่าปกติ
ในวันหยุดที่อากาศร้อนผิดปกติเช่นนี้เทพรู้สึกยินดีกับการที่ได้ออกมาเดินเล่นซื้อของในเมืองมากกว่าจะนอนอุดอู้อยู่ในบ้าน  เขาชวนพลอยและทับทิมออกมาด้วย  แต่แรกคิดว่าทับทิมจะปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง  แต่ครั้งนี้เธอตอบตกลงทันที  ดูเหมือนว่าเธอจะต้องซื้อของใช้ส่วนตัวบางอย่าง
ทั้งสามเดินฝ่าเปลวแดดระยับตรงเข้าไปในร้านกาแฟสร้างด้วยไม้เทียมสีน้ำตาลเข้ม 
"ใครจะกินอะไรจะสั่งอะไรตามสบายเลยนะ กินได้ทั้งร้านเลย" เทพประกาศกับสองสาว
ทันทีที่ผลักประตูกระจกเข้าไป  ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศวูบมาปะทะหน้า  กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นในอากาศ  บาริสตาร์หนุ่มหน้าใสในชุดขาวหนวดเคราเล็มเรียบร้อยใส่แว่นใสกรอบบางทรงกลมยืนอยู่หลังเคาเตอร์หิน  ก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่างที่เทพมองไม่เห็น  เทพมองหาโต๊ะเหมาะๆนั่ง
"อ้าว คุณเทพ"  เสียงหญิงสาวทักขึ้นที่มุมหนึ่ง  ธัญ รัค และอรสามพี่น้องนั่งอยู่ที่ชุดโซฟาบุนวมหนาชุดใหญ่ที่สุดในร้าน  ตรงหน้ามีเครื่องดื่มเย็นคนละแก้ว ตรงกลางมีจานอะไรสักอย่างหนึ่งพร่องไปไม่ถึงครึ่ง  วันนี้ทั้งสามแต่งกายค่อนข้างลำลองดูสบายๆ แม้ธัญจะยังสวมสูทอ่อน และมัดผมตึงแน่นรวบไว้ด้านหลัง
"มาเจอกันที่นี่เอง  มานั่งด้วยกันซีคะ"  รัคกล่าวเชิญชวน
"ครับ ขอบคุณครับ... เอ่อ พลอย กับทับทิม  นี่คุณธัญ คุณรัค และคุณอร  ที่เพิ่งมาอยู่บ้านตรงข้ามบ้านพี่ไง"
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"  ทับทิมยิ้มเปิดเผย
"เชิญค่ะ ทั้งสามคนเลย"  อร สาวร่างบางเชิญย้ำมาอีกคน
เทพหันรีหันขวางแล้วทรุดตัวลงนั่งที่โซฟายาวข้างธัญ  พลอยนั่งที่เก้าอี้นวมเดี่ยว  ส่วนทับทิมลากเก้าอี้เตี้ยๆ จากโต๊ะข้างๆ มาร่วมวง
"ขอรบกวนถามเรื่องส่วนตัวสักหน่อยเถอะครับ"  เทพกล่าวขึ้นหลังจากทุกคนได้รับเครื่องดื่มเย็นแล้ว  "ทำไมทั้งสามคนถึงได้มาอยู่นอกเมืองแบบนี้  ดูเหมือนพวกคุณจะไม่ใช่คนแถวนี้นะครับ"
"ค่ะ พวกเราไม่ใช่คนแถวนี้  จริงๆเราย้ายที่อยู่บ่อย  ก็ตามไปช่วยกิจการงานของคุณพ่อน่ะค่ะ  พอดีคุณพ่อท่านไม่อยู่ ไปต่างประเทศยาว  ประกอบกับงานที่ทำที่อื่นก็ลงตัวหมดแล้ว  ดิฉันก็เลยตัดสินใจมาลงตัวที่นี่"  ธัญอธิบายช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ  "กิจการที่นี่เราบริหารเอง ก็แบ่งงานกันไประหว่างดิฉันกับรัค  ส่วนอรให้เรียนไปอย่างเดียวก่อน ค่อยๆ เรียนรู้งานไป"
"โทษนะคะ คุณพ่อคุณพี่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรคะ"  พลอยถามขึ้นบ้าง
"เกี่ยวกับสถานบันเทิงน่ะจ้ะ  แล้วก็พวกธุรกิจบันเทิงจำพวกสื่ออีกนิดหน่อย" 
เทพครางในลำคอเบาๆ โปรไฟล์ของทั้งสามนางไม่ธรรมดาเลยทีเดียว  แต่สำหรับเรื่องสถานบันเทิงหรือธุรกิจบันเทิงแล้ว  เขาก็คือไอ้โง่ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนั่นเอง
"แล้วก็เลยให้อรเรียนทางสาขานี้"  ธัญเสริม
"ว่าแต่พี่เทพล่ะคะ อรได้ยินว่าเพิ่งมาอยู่ใหม่เหมือนกัน  ทำไมมาอยู่แถวนี้ล่ะ
"ผมก็คนที่นี่แหละครับ เกิดที่นี่โตที่นี่  แล้วพอเริ่มทำงานก็ตัวคนเดียวอยู่ในกรุงเทพ  พออิ่มตัวแล้วเลยกลับมาใช้ชีวิตสบายๆ ที่นี่"
"แล้วคุณทับทิมล่ะคะ  เป็นเพื่อนคุณเทพหรือว่ายังไงเนี่ย"  รัคหันไปถามยิ้มๆ
"เป็นแม่บ้านค่ะ มีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดบ้านคุณเทพ วันนี้ติดรถเขามาซื้อของเฉยๆ"  เธอตอบเรียบๆ ริมฝีปากแย้มยิ้ม แต่แววตาดุดันนั้นไม่ยิ้มด้วย
"จริงๆแล้วต้องบอกว่าเธอเป็นเพื่อนผมคนหนึ่งจะถูกกว่าครับ" เทพหัวเราะ  "เพียงแต่เธอคอยดูแลบ้านให้ผมด้วย บ้านหลังขนาดนี้ผมคนเดียวไม่มีปัญหาดูแลหรอก"
"เป็นหน้าที่ที่น่ายกย่องมากค่ะ เราทุกคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ  จะว่าไปพวกเรานี่ก็มาเจอกันเพราะหน้าที่ และหน้าที่ทำให้ชีวิตเราเคลื่อนไปข้างหน้า  และทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไป"  ธัญพูดช้าๆ กวาดตามองไปทั่วโต๊ะ
เทพเกือบจะคล้อยตามคำพูดของสาวร่างใหญ่  ถ้าไม่ติดที่เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเธอนัก  เขาจึงไม่รู้จะกล่าวตอบว่าอย่างไร
"ฉันขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ"  โดยไม่รอคำตอบ ทับทิมลุกขึ้น เดินหายไปทางหลังร้าน
"อรไปด้วยคนค่ะ"  อรลุกขึ้นเดินตามทับทิมไป

ทับทิมเดินลัดเลาะข้างร้านกาแฟที่ปลูกต้นไม้ยืนต้นร่มรื่น ประดับไว้ด้วยกล้วยไม้มีใบรูปทรงต่างๆ กัน ทำให้อากาศไม่ร้อนเท่าบริเวณริมถนน  เธอเดินไปตามทางเดินปูด้วยบล็อกตัวหนอนไปยังห้องน้ำหญิง  ทับทิมหยุดยืนที่กระจกบานใหญ่  เปิดน้ำล้างมือ
อรตามเข้ามาเงียบๆ ยืนเปิดน้ำล้างมือที่อ่างล้างหน้าเคียงกับทับทิม  ตากลมโตใต้กรอบแว่นบางมองทับทิมผ่านกระจกเงาบานใหญ่  เธอสูงพ้นไหล่ของทับทิมขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น อรอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กับกระโปรงสีขาวประดับผ้าบางเบาดูฟูฟ่อง
"คิดว่าใครเสียอีก  ที่แท้ก็พวกโลกลืมนี่เอง" อรเป็นผู้กล่าวขึ้นก่อน
ทับทิมสบตาอรผ่านกระจกเงา หัวเราะในลำคอหึๆ
"ธุรกิจสถานบันเทิงกับสื่อบันเทิงเนี่ยนะ  คิดได้ยังไง"  เธอตอบโต้
อรมีท่าทีไม่สนใจกับคำถามลอยๆ ของทับทิม  เธอถามอย่างเป็นการเป็นงานมากขึ้น
"เป็นยังไงล่ะ นานจนป่านนี้แล้ว เข้าใกล้ความสำเร็จบ้างหรือยัง"
"เข้าใกล้มากกว่าที่แกคิดก็แล้วกัน  อีกไม่นานหรอก  ฉันก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตสุขสบาย อยากได้อะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำอย่างที่ฉันเคยเป็นมา  ส่วนเด็กฝึกงานอย่างแกกับพี่ๆ ของแก ยังต้องตรากตรำอยู่อีกยาวจนฉันไม่อยากจะคิดถึงมันเลยแหละ"  ทับทิมยิ้มกว้าง
เปลือกตากลมโตของอรกระตุกเยือก เธอหันมาสบตากับทับทิมตรงๆ
"เรามันคนละชั้นกัน ทับทิม  รอบนี้แกไม่มีวันทำสำเร็จหรอก"
"คนละชั้นกันแล้วยังไง  หญิงชายคู่นั้นมีพื้นฐานของตัวเองที่ดี  ไม่มีทางหลงกลพวกแกง่ายๆหรอก อรดี"
"อรพรรณ" อรกัดฟันพูดอย่างเริ่มรู้สึกเดือดขึ้นมาจริงๆ
"อรพรรณ...  ฮ่าๆๆ"  ทับทิมหัวเราะอย่างขบขันเต็มที่  "เปลี่ยนชื่อเสียด้วย  เปลี่ยนไปเถอะ จะเปลี่ยนยังไงก็ได้  แต่นังขี้อิจฉาอย่างแกมันก็เปลี่ยนตัวตนไม่ได้หรอก  ความจริงก็คือความจริง"
ใบหน้าสวยหวานของอรบิดเบี้ยวด้วยความเดือดดาล  มือกำแน่น  อุณหภูมิในห้องน้ำหญิงนั้นเหมือนจะพุ่งสูงขึ้นกว่าอากาศข้างนอกขึ้นมาวูบหนึ่ง แล้วพลันลดลงเป็นปกติ
"อย่าให้พ่อฉันต้องมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเชียว"
ทับทิมจงใจหยุดหัวเราะ ทำหน้าจริงจังขึ้นมาอย่างเสแสร้ง โดยเจตนายั่วยวนประสารทคู่สนทนา
"พ่อของแก นั่นสินะ เอาจริงๆ จากใจเลยนะ ฉันเคารพนับถือพ่อของแกมากจริงๆ"  ทับทิมพูดอย่างเป็นการเป็นงาน  "แต่พวกแกสามคนเนี่ย มันไม่ได้เรื่องจริงๆเลย  พ่อของแกพอแพ้ก็รู้ตัวว่าแพ้  แต่ลูกๆของท่านแต่ละคนนี่สิ ไม่ยอมรับความจริง  เพียรจะหาเรื่องใส่ตัวจนขายขี้หน้า ให้เขาร่ำลือกันไปทั่ว"  ทับทิมหยุดนิดหนึ่ง ยกนิ้วขึ้นชี้อกอรแวบหนึ่ง กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม "พี่แกพูดถูกอย่างหนึ่ง  เราต่างก็มีหน้าที่ หน้าที่ทำให้เรามาเจอกัน  แล้วเรามาดูกันว่าใครจะทำหน้าที่ได้ดีกว่าใคร"  ว่าแล้วเธอก็หัวเราะเสียงดัง  ไม่สนใจว่าอรจะตอบโต้อย่างไรอีก  เดินออกจากห้องน้ำกลับเข้าไปในร้านโดยไม่หันกลับไปมองอรที่เดือนเดือดดาลตามหลังมาติดๆ
ในร้าน เทพหันไปมองสองสาวที่เดินกลับเข้ามาพร้อมกัน
"เอ้า ไปกันนานเลย"
"พอดีอรชวนพี่ทับทิมดูกล้วยไม้ข้างนอกค่ะ มีหลายชนิดเลย  เลยถือโอกาสให้พี่ทับทิมสอนเรื่องการดูแลกล้วยไม้  เมื่อก่อนพี่ทับทิมเคยทำกล้วยไม้ขาย"  อรตอบด้วยแววตาใสซื่อกลมโต
ทับทิมขยับปากเป็นคำว่าอะไรสักอย่างหนึ่งโดยไม่มีเสียงและไม่มีใครทันเห็น  แล้วยิ้มกว้างโดยไม่ได้ตอบว่าอย่างไร  ผายมือเชิญชวนให้อรแทรกเข้านั่งบนโซฟาที่เดิม  อรกล่าวขอบคุณเบาๆแล้วทรุดตัวลงนั่ง
"พอดีเมื่อกี้ธัญกับรัคเขาชวนให้พวกเราสามคนไปปาร์ตี้เพื่อนใหม่ที่บ้าน" เทพพูดถึงสองสาวโดยไม่มีคำว่าคุณนำหน้าแล้ว  "ให้ฉันชวนเพื่อนคนอื่นไปด้วย  เธอจะไปหรือเปล่า"
ทับทิมยิ้มบางๆ สบตากับธัญที่มองดูเธออยู่ตลอด  มือทั้งสองประสานกันที่หน้าตัก
"ขอบคุณมากค่ะที่กรุณา  ถ้าไม่ติดขัดอะไรฉันคงได้ไปร่วมแน่ๆ  พลาดไม่ได้เลยทีเดียว"
เทพรู้สึกพอใจกับคำตอบนั้น  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทับทิมมีกิริยาตอบสนองสามสาวอย่างเป็นมิตรมากกว่าที่เขาคิดว่าจะพบเจอได้ในคนนิสัยอย่างเธอ
โดยรวมแล้วการพบปะโดยบังเอิญวันนั้นเทพรู้สึกว่าเป็นการสนทนาที่ดีเลยทีเดียว  เพื่อนบ้านใหม่ของเขาเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี  และสวยไปคนละแบบ  เขารับปากว่าจะพาทับทิม พลอย และชวนเพื่อนคนอื่นๆ ของเขาไปร่วมงานปาร์ตี้เพื่อนใหม่ที่บ้านของสามสาว

   พลอยนั่งอยู่ที่โต๊ะหินในสวนสาธารณะร่มรื่นเหมือนเช่นเวลาเย็นของทุกวัน  ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นหน้าโรงเรียนมัธยมที่เธอเรียนอยู่  แม้จะเลยเวลาเลิกเรียนมานานพอสมควรแล้ว  แต่สนามหญ้าเขียวที่อยู่ในรั้วตะแกรงเหล็กโปร่งฝั่งตรงข้ามถนนนั้นยังไม่ถึงกับเงียบเหงา  จุดสีขาวเล็กๆของชุดนักเรียน เคลื่อนไหวไปมาช้าๆ เป็นกลุ่มๆ ไปตามถนนและสนามหญ้า  ลมพัดอ่อนๆ จากฝั่งตรงข้ามโรงเรียนตีผิวน้ำในแม่น้ำกว้างอันเคยเป็นเส้นเลือดใหญ่ของทั้งเมืองเป็นระลอก  แม่น้ำตรงข้ามโรงเรียนสีน้ำตาลแดงหมุนวนเป็นเกลียวเล็กๆ อยู่ทั่วไป ไม่กี่อึดใจเกลียวน้ำนั้นก็หาย  แล้วเกลียวน้ำระลอกใหม่ก็ปรากฏแทนที่  ไหลเป็นลำดับไปทางปลายน้ำ
   แม่น้ำนี้เคยเป็นเส้นเลือดของเมือง  พลอยคิด จำที่ครูวิชาประวัติศาสตร์สอนได้  คนโบราณใช้น้ำในแม่น้ำนี้ในการดื่มกิน ทำการเกษตร และใช้เป็นเส้นทางเดินทางคมนาคม  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  เทคโนโลยีเข้ามา วิถีชีวิตคนเปลี่ยน  คนเมืองไม่ทำการเกษตร จะดื่มกินน้ำก็ใช้น้ำประปา  พลอยไม่แน่ใจนักว่าน้ำประปาจะได้มาจากแม่น้ำนี้หรือไม่
   แม้แต่การคมนาคมเราก็ไม่ค่อยได้ใช้น้ำกันแล้ว เราใช้รถ  แต่ไหนล่ะรถที่จะพาเธอกลับบ้าน  แม่น้ำนี้คงไปได้ไม่ถึงหน้าบ้านเธอ เธอถอนหายใจโดยไม่รู้สึกตัว
   พลอยนั่งอยู่ที่นั่นคนเดียวตั้งแต่ที่เพื่อนคนสุดท้ายจากไปพร้อมกับรถประจำทางที่แล่นผ่านมา  อันที่จริงเธอน่าจะไปก่อนเพื่อนสาวคนนั้นด้วยซ้ำ  เพราะรถสายที่ผ่านไปทางหน้าบ้านก็ผ่านมาหลายคันแล้ว  แต่เพราะระยะหลังนี้เธอรอที่จะกลับพร้อมกับเทพ  และวันนี้เทพก็ส่งข้อความมาบอกว่าจะมารับช้ากว่าปกติเล็กน้อย
   พลอยเลือกที่จะตอบตกลงไปกับชายหนุ่มว่าเธอจะรอไปกับเขา  รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องกลับถึงบ้านช้ากว่าขึ้นรถประจำทางและยังต้องนั่งรอคนเดียว  แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงไม่ปฏิเสธเทพ  เอาเข้าจริงๆ เธอไม่คิดว่าจะมีครั้งไหนที่เธอจะปฏิเสธเทวาได้  เพราะอะไร เป็นคำถามที่อยู่ในใจเรื่อยมา
   พ่อของเธอมักจะบอกว่าที่ครอบครัวมีพออยู่พอกิน ไม่ต้องระหกระเหเร่ร่อนไม่รู้ชะตากรรมก็เพราะครอบครัวของเทพที่มีคุณแก่ครอบครัวของเธออยู่มาก  ซึ่งข้อนั้นเธอก็เข้าใจดีอยู่  แต่เธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัววิทยพิสิษฐ์มากนัก  เกิดมาเธอก็พบกับครอบครัวของตัวเองที่มีบ้านมั่นคง มีที่ดินทำกินผืนใหญ่พอที่จะส่งให้เธอเรียนได้สูงเท่าที่จะเรียนไหว  ซึ่งพ่อบอกว่าเป็นที่ดินที่ครอบครัวผู้ดีเก่ายกให้  ครอบครัวที่เธอพบว่าไม่มีใครหรืออะไรเลย นอกจากบ้านหลังใหญ่ทิ้งร้างทรุดโทรมที่เธอเห็นตั้งแต่จำความได้
   อย่างไรก็ตาม  วิทยพิสิษฐ์คนแรกที่เธอได้พบก็ไม่ทำให้เธอรู้สึกเสียความคาดหวังในคำพูดของพ่อแต่อย่างใด  เทวาเป็นชายหนุ่มที่แม้จะไม่ได้หน้าตาดีเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายแต่ก็เป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้  ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเกรงใจหรือมีช่องว่างระหว่างวัยกับเขาเหมือนอย่างพ่อ  แต่ก็ไม่ได้ขาดความเคารพขนาดจะนับว่าเป็นเพื่อน  จริงๆแล้วเธอรู้สึกเหมือนกับว่าตั้งแต่เธอรู้จักกับเทพ  เพื่อนซึ่งเธอมีน้อยอยู่แล้วก็ดูเหมือนจะลดความสำคัญลงไปกว่าแต่ก่อน
   พลอยแทบจะหลุดปากร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกว่ามือใหญ่หนาข้างหนึ่งแตะที่ไหล่เธอจากด้านหลัง  เธอสะดุ้งสุดตัว  ก่อนที่เธอจะหันไปมองฆานประสาทก็สัมผัสกลิ่นน้ำหอมชายบางๆ ที่เริ่มจะเก่าผสมกลิ่นกายเฉพาะตัวที่เธอคุ้นเคย
   "นั่งทำอะไรอยู่ล่ะ"  เทพถามเสียงเบาๆ
   "เปล่าค่ะ ก็คิดอะไรดูอะไรไปเรื่อย ไม่มีสาระ"  พลอยยิ้มตอบ
   "รอพี่นานหรือเปล่า"  เขาเดินอ้อมมานั่งที่โต๊ะหินทางซ้ายมือของพลอย  เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวไม่ติดกระดุมคอ แขนเสื้อทั้งสองข้างพับขึ้นมาเหนือศอก  ชายเสื้อยังอยู่ข้างในขอบกางเกงสแล็กขายาวสีดำ  ซึ่งเป็นภาพที่เธอเห็นบ่อยๆ ในเวลาเย็นหลังจากที่เทพเสร็จภารกิจในตัวเมือง
   "ไม่หรอกค่ะ..." พลอยพูดปด กระพริบตาปริบๆ  "...เพื่อนเพิ่งกลับไปเมื่อกี้เอง พี่เทพก็มาพอดี"  เด็กสาวก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมตอบไปเช่นนั้น
   "ดีเลย  งั้นพี่นั่งตรงนี้ด้วยคนนะ ไม่ต้องรีบกลับมั้ง"  เทพเอนตัวหลังพิงพนักม้านั่ง  มองมาที่พลอยอย่างพินิจ
   พลอยหันไปสบสายตาคู่นั้นโดยไม่ตั้งใจ  แล้วตาเด็กสาวก็หลบวูบ  ผิวแก้มสีเข้มแดงเปล่งปลั่งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
   "ดูท่าทางพี่เหนื่อยๆ พลอยคิดว่าจะอยากรีบกลับไปพักผ่อนซะอีก"
   "ไม่ดีกว่า  พี่ว่าพี่อยู่ตรงนี้กับพลอยมีความสุขกว่า  ได้พักผ่อนเหมือนกัน"  เทพพูดเสียงเรียบๆ แต่ฟังดูจริงจัง  "หรือว่าพลอยอยากกลับบ้านมากกว่า  กลับก็ได้นะ"
   "ไม่ค่ะ พลอยก็อยากอยู่กับพี่..." เด็กสาวเพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป  "...หมายถึง กลับบ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไร  พลอยอยู่เป็นเพื่อนพี่เทพดีกว่า"
    "พอดีเพื่อนพี่ ชื่อกัน  เพื่อนตั้งแต่มัธยมแล้ว มันเปิดร้านอาหารใหม่  สวยหรูเลยแหละ ทีแรกว่าจะชวนพลอยไปกิน"
   "คะ"  พลอยตอบอย่างไม่รู้จะตอบว่าอะไร
   "แต่เห็นว่าพรุ่งนี้เราก็ต้องเรียน พี่ก็มีงาน แล้วก็ไม่ได้บอกพ่อไว้ด้วย"  พลอยรู้สึกชินกับการที่เทพเรียกพ่อของเธอว่าพ่อเวลาอยู่กับเธอแล้ว  "เดี๋ยวจะเป็นห่วง  เลยไว้วันหลังดีกว่า"
   "เพื่อนสนิทเลยเหรอคะ"
   "ใช่ สนิทที่สุดโดยเฉพาะช่วงหลังนี้  เพราะคนอื่นเขาแต่งงานมีลูกมีเมียกันหมดแล้ว  เหลือแต่พี่กับมันเนี่ยแหละ"
   "อ้าว"  พลอยหัวเราะออกมาเบาๆ  "นั่นสิ พลอยก็กำลังสงสัยอยู่  ว่าทำไมไม่มีกันเสียล่ะคะ อย่างพี่เทพนี่น่าจะหาได้ไม่ยากนะ  หรือว่าเลือกมาก"
   "อืม..."  เทพเปลี่ยนสีหน้าเมื่อได้ยินคำถามนั้น ใบหน้าชายหนุ่มเคร่งขรึมชัดเจน
   พลอยใจหายวูบ เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดไป
   "พี่เทพคะ" พลอยเรียกเขาเบาๆ มือแตะที่ต้นขา
   เทพยกมือแตะที่ปลายนิ้วนุ่มนวลนั้นเพียงครึ่งนิ้ว  พลอยเกือบจะดึงมือกลับ  แต่ความรู้สึกบางประการก็หยุดความคิดนั้นไว้ก่อน
   "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เอ่อ พลอยขอโทษนะคะถ้า..." 
   "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ"  เทพพูดแซงขึ้น มองตาเด็กสาว ยิ้มกว้าง  "ก็แค่พี่นึกถึงอะไรขึ้นมา  คน หรืออะไรร้ายๆ ที่ควรที่จะลืมๆไป มันก็กลับนึกขึ้นมาอีก  คือพลอยคงเข้าใจนะ บางช่วงชีวิตที่เราอยากจะตัดให้มันหายไป"
   พลอยเข้าใจความหมายในทันที  ยิ้มให้เขา
   "ค่ะ แต่พลอยว่ามันไม่ควรจะมีหรอกนะสิ่งที่ควรจะลืม  น่าจะเรียกว่าส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทำให้เราเป็นเรามากกว่า"
   พลอยสังเกตเห็นว่าเทพพยายามทำสีหน้าให้แช่มชื่นขึ้น
   "อย่างพลอยเนี่ยก็มีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของเด็กวัยรุ่น"  พลอยกล่าวอย่างสำบัดสำนวนผู้ใหญ่
   "ยังไงล่ะลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ"
   ถึงตรงนี้พลอยก็เริ่มจะออกจะกระดากอยู่เหมือนกันที่จะต้องพูดถึง  แต่ก็คิดว่าเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เทพไม่สบายใจ  ประกอบกับเธอกำลังดีใจที่เทพดูเป็นปกติขึ้นมาแล้ว  จึงตัดสินใจเล่าต่อ
   "ก็แค่ เคยมีคนมาชอบน่ะค่ะ รุ่นพี่ ตั้งแต่ ม.สามแล้ว"  พลอยเล่าช้าๆ มือลูบแขนเสื้อนักเรียนจีบโป่งของตัวเองอย่างลืมตัว "ก็คุยกันไปๆมาๆ  หลังๆ ก็มีจับมือถือแขนบ้าง..."
   เทพขยับตัว แต่ไม่ได้พูดอะไร
   "...แล้วพอวันลอยกระทง ปีก่อน เขาก็ชวนพลอยไปตอนกลางคืน คือพลอยก็รู้นะว่ามันหมายถึงอะไร ม.สามก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น  พลอยก็บอกว่าไม่ไป จะไปกับพ่อ  เขาก็พยายามชวนให้ได้ จะไปรับที่บ้าน อะไรต่ออะไร แล้วก็เลยทะเลาะกัน"
   เทพครางในลำคอเบาๆ พยักหน้าช้าๆ อย่างสนใจ
   "แล้วตั้งแต่นั้นต่อมาก็เลยเจอกันน้อยลง คุยกันน้อยลง  พอมาปีนี้เขาเรียนจบ ม.หก ไปแล้ว เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก  คือพลอยก็เสียใจนะคะพี่เทพ  แต่ไม่ได้เสียใจที่เขาหายไป หรือเสียใจที่ตัวเองเป็นสาเหตุให้เขาหายไปนะ  พลอยเสียใจที่พลอยกำลังเกือบจะรู้สึกดีกับเขาแล้ว  แต่กลายเป็นว่าเขาหวังแต่เรื่องนั้น  คือผิดหวังที่คนที่เราคิดว่าจะดีกลายเป็นร้าย  มันทำให้รู้สึกว่าเราจะหวังอะไรกับใครได้อีกไหม..."  เด็กสาวทอดเสียงเบาลงในประโยคท้าย
   ทั้งสองนั่งเงียบไปครู่หนึ่งในความคิดของตนเอง เสียงเด็กนักเรียนที่แว่วมาจากสนามหญ้าเบาบางลง ทางเดินคอนกรีตแคบๆ ก็ไร้คน  แสงอาทิตย์ต่ำกระทบคลื่นผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ 
เทพเป็นผู้ทำลายความเงียบขึ้นก่อน
   "หวังว่าพลอยคงจะไม่มองผู้ชายทุกคนเป็นอย่างนั้นไปเสียหมดนะ"  เทพมองสบตากลมโตคู่งามนั้นซึ่งกำลังมองเขาอยู่เช่นกัน "อย่างน้อยก็เหลือพี่ไว้สักคนก็ยังดี"
   "ก็ไม่แน่นะคะ ในความเป็นจริง พี่เทพอาจจะเป็นเสือผู้หญิงตัวร้ายเลยก็ได้  พลอยจะไปรู้ได้ยังไง"  เธอพูดตาวาวอย่างน่ากลัว
   เทพหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ได้ถือสา
   "ถ้าพี่เป็นเสือผู้หญิงจริงๆ จะเอาเวลาที่ไหนมาคอยรับส่งพลอยอย่างนี้ทุกวันเล่า  แล้วอีกอย่าง ถ้าเป็นเสื้อผู้หญิง  พี่ต้องกัดพลอยไปแล้วแน่ล่ะ"  ประโยคสุดท้ายเทพแยกเขี้ยว สองนิ้วชูขึ้นทำนิ้วงอๆ เหมือนกรงเล็บ  พลอยหัวเราะคิกคัก
   "ล้อเล่นหรอกค่ะ  พี่เทพดีกับพลอยเสมอ  ใจดีและไม่กัดแน่ๆ  และพลอยก็เชื่อว่าพี่เทพจะดีกับพลอยอย่างนี้ตลอดไป"
เสียงเธอเบาต่ำลง
"ว่าแต่พี่เทพเองล่ะ คงไม่เอาความผิดหวังในอดีตมาคิดจนไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้นะ
   "ไม่หรอก ถ้าพี่จะเจอคนที่ดี ที่น่ารัก คนที่พี่รัก  อดีตไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหนก็ทำอะไรพี่ไม่ได้"
   พลอยยิ้มอย่างหนึ่ง  เธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่  สายตาของเทวาที่มองเธอขณะที่กล่าวประโยคสุดท้ายมันทำให้เธอจำเป็นต้องคิดมาก  แต่จะอย่างไรเสียเธอก็แค่เด็กอายุสิบหก  จะให้ตีความสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตผ่านโลกมาแล้วทั้งชีวิตคงเป็นไปไม่ได้  สาววัยแรกรุ่นชาวบ้านธรรมดากับชายหนุ่มเต็มตัวผู้ดีฐานะระดับเศรษฐี  ซ้ำอายุมากกว่าเธอเท่าตัวหนึ่ง  มันน้ำเน่าเสียจนแม้แต่นิยายหรือละครหลังข่าวสมัยนี้ยังไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ  เด็กสาวเบือนหน้าจากชายหนุ่ม  หันไปมองบุษราคัมจำนวนนับไม่ถ้วนที่ส่งประกายระยับบนผิวแม่น้ำอย่างไม่มีความหมาย
   "ขอให้พี่เทพได้เจอคนที่ดี ที่น่ารักคนนั้นเร็วๆ นะคะ"
   เทพเงียบไปครู่หนึ่ง  แล้วจึงขยับตัวนั่งตรง  กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
   "ถ้าพี่บอกว่าพี่เจอแล้วล่ะ"
   "คะ?"  พลอยตอบรับเชิงถามโดยยังไม่หันมามอง สายตาจับจ้องอยู่ที่สายน้ำเหลืองอำพัน
   "ถ้าพี่...  ถ้าพี่ได้เจอคนคนนั้นแล้ว น้องสาวคนนั้น  คนที่พี่ปล่อยวางและลืมเรื่องเลวร้ายได้ คนที่พี่มีความสุขเวลาอยู่ด้วย ได้คอยดูแลห่วงใย  คนที่พี่อยากจะอยู่ดูแลใกล้ชิดด้วยกันตลอดไป  เพียงแต่พี่กลัวว่าคนนั้นเขาจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยกับตัวพี่  เพราะพี่เองก็เคยมีครอบครัวมาแล้ว อีกอย่าง  อายุเขาก็พี่ก็ห่างกันเหลือเกิน  พี่กลัวว่าเขาจะไม่คิดอะไรกับพี่มากไปกว่าแค่พี่น้องกัน..."
   พลอยกลั้นหายใจ  หัวใจของเธอแทบจะระเบิดออกมา  แม้ก่อนหน้านี้จะเคยแอบคิดอยู่บ้างว่าเธอกับเทพจะอยู่ในสถานะที่เกินกว่าพี่น้องได้ในสักวัน  แต่เมื่อมันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ เธอกลับทำตัวไม่ถูก  แค่คิดถึงชีวิตที่เปลี่ยนไปจากโลกของนักเรียนมัธยมที่มีแต่เพื่อนๆ กับชีวิตครอบครัวที่มีเพียงพ่อและละแวกบ้าน  เธอต้องเพิ่มเติมชีวิตที่มีเทพ  โลกของเขา สังคมเพื่อนฝูงของเขา เธอก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว
แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่คิดล่ะ  ถ้าเขามีลูกมีเมียอยู่แล้วที่กรุงเทพ  ถ้าเขาแค่หลอกให้เธอเป็นเพียงเพื่อนยามเหงา  ถ้าเขาต้องการเพียงแค่สิ่งเดียวกับอดีตแฟนรุ่นพี่ของเธอ  เธอไม่รู้ ที่จริงเธอแทบไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา  ที่เธอสัมผัสเป็นเพียงด้านที่ดี  ด้านที่เขาดูแลเอาใจใส่เธอเพียงด้านเดียว  ไม่เคยเห็นอีกด้านของเขา ด้านเลวร้ายที่อาจจะมีอยู่นั้นเลยด้วยซ้ำ  เธอแค่เด็กมัธยมปลายอายุสิบหก กับชายหนุ่มเต็มตัวที่ผ่านโลกมาทั้งชีวิต  เทพไม่มีอะไรเหมือนกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นหลายคนที่เคยหมุนเวียนเข้ามาพยายามสานสัมพันธ์กับเธอตามพัฒนาการแห่งวัย  พลอยเข้าใจดีว่าเธออ่อนต่อโลกเสียจนไม่มีทางที่จะเท่าทันคนอย่างเทวา หากเพียงแต่เขาคิดจะหลอกลวงเธอแม้สักนิด
แต่สุดท้ายแล้ว พลอยก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันก็เหมือนทุกๆ เรื่องที่เทพบอก สั่ง ร้องขอ...
เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลย

เทพรู้สึกชาไปทั้งตัว  มือเท้าเย็น  เหงื่อชื้นสัมผัสได้ในฝ่ามือที่กำไว้หลวมๆ หัวใจเต้นโครมครามแทบจะหลุดออกมานอกอก
คู่สนทนาของเขาเงียบไปครู่หนึ่ง  ความเงียบที่ยาวนานราวชั่วกาล  พลอยยังไม่หันมามองเขา เขายอมแลกอะไรต่อมิอะไรแทบทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้คำตอบโดยเร็วก่อนที่เขาจะขาดใจตายก่อนที่จะได้ฟัง  ที่สุดแล้วใบหน้านั้นจึงหันมา ดวงตาโตเบื้องล่างกรอบคิ้วหนาเข้มไม่ผ่านการตัดแต่งนั้นสุกใสสว่าง  ยิ้มบางๆ เจือบนใบหน้า
"ถ้าพี่เทพเจอคนคนนั้นแล้ว..."  เธอเว้นระยะไปครู่หนึ่ง  "ถ้าพี่เทพเจอคนคนนั้นแล้ว  พลอยก็เจอคนคนนั้นของพลอยแล้วเหมือนกันค่ะ"
ชายหนุ่มรู้สึกว่าประโยคนั้นคือน้ำอุ่นที่ราดรดลงบนหัวใจของเขา  แผ่ซ่านไปตามเส้นเลือด  ขับไล่ความหนาวเย็นออกจากปลายมือ ปลายเท้า  เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ยามเย็นอีกครั้ง  รอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กสาวช่วยปลอบประโลมเขา  โดยไร้ซึ่งคำพูด ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนยกความอึดอัด ความอัดอั้น ความทุกข์ทรมานบนความสุขใจที่มีมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานี้ออกไปจนหมดสิ้น  ไม่มีอะไรที่เขาต้องกังวลอีกแล้วในโลกนี้
ไม่มีการบอกกล่าวคำหวานใดอันเป็นพิธีกรรม  ไม่มีถ้อยคำใดอันแสดงถึงการเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์  ไม่มีคำมั่นสัญญาว่าจะรักกันไปจนชั่วเวลาไหนๆ  และไม่มีสัมผัสใดๆ เกินเลยไปกว่าการสัมผัสด้วยสายตาและจิตใจของกันและกัน  เหนือความทะยานอยากได้อยากมี  เหนืออำนาจแห่งราคะดำฤษณา เหนือความพยายามเอาชนะคะคาน  ณ ที่ตรงนี้ ริมแม่น้ำอันงดงามด้วยแสงแดดยามเย็นและลมพัดอ่อนเป็นพยาน หัวใจของชายหนุ่มและเด็กสาวหลอมรวมเข้าเป็นสิ่งเดียวกันโดยบริบูรณ์ 

dwarf

ขอบคุณครับ..รู้สึกอิจฉาเทพนะครับ..ได้กุมหัวใจของสาวพลอยไว้เต็มใจของเธอ...แต่คาดว่าสามสาวเพื่อนบ้านใหม่คงจะเป็นอุปสรรคต่อความรักของสองหนุ่มสาวนี้...แต่เอาเถอะคิดว่าทับทิมคงช่วยได้

kaithai

สถานะความ "สัมพันธ์"   ด้วยการสัมผัสด้วยสายตาและจิตใจของกันและกัน
ของหนุ่มเทพกับสาวพลอย  ย่อมเป็นที่อิจฉาของใครๆ แน่ๆ






คำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................................................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

naitoom

ผมยอมรับว่ายังเดาเรื่องของสามสาวกับทับทิมไม่ออก
เพียงเดาได้ตั้งแต่ตอนที่แล้วว่าทับทิมต้องมีอะไรๆเกี่ยวข้องกับ 3สาวเพื่อนบ้านแน่
ตอนนี้โรมานติกครับ สาวพลอย รู้จักไว้ตัว น่ารักจัง

peat

ชอบบทสนทนาของทั้งสองจัง..
มันอ่านทำให้อินไปกับบรรยากาศและความรู้สึกของทั้งสอง..

sunnie06


Seraphia13

คือพี่แกจะกินเด็กสินะ (เดาไม่ออกก็ฮาไปละกัน)

adas

เดาเนื้อเรื่องไม่ถูกเลยครับ
แต่งได้ดีมากๆ

swss2511

ความรักของเทพลงตัวแต่สี่สาวรอบข้างมีเบื้องหลังไม่ธรรมดา  คงต้องฝ่าฟันอีกเยอะ

zonique

เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆครับ สนุกได้ลุ้น เป็นกำลังใจให้ฝากผลงานต่อไปครับ

navy868

ยังเดาไม่ออกอยู่ดีครับสำหรับความสัมพันธ์ของทับทิมและสามสาว ว่าเป็นใครมีที่มายังไงเกี่ยวข้องกันยังไง...

psm_mach

เดาตั้งแต่ตอนที่แล้วว่า ทับทิมกับสามสาวเป็นเผ่าเดียวกัน แต่สามสาวต้องการอะไรจากเทพกับพลอยแล้วทับทิมต้องมาปกป้อง เทพเป็นผู้ดีเก่าต้องมีของเก่าอะไรที่ทำให้สามสาวมีพลังมากขึ้น ทับทิมเป็นเผ่าเดียวกันไม่ต้องการหรือ ทับทิมหลังจากดูดวิญญาณสามโจรแล้วมีก็พลังมากขึ้น แสดงว่าเผ่านี้อย่างน้อยต้องดูดวิญญาณเพื่อเพิ่มพลัง

tkatlek

ชอบตอนนี้ที่สุดอ่านไปยิ้มไปผมเป็นพวกสุขนิยมหัวใจสีชมพูขอบคุณครับ

peddo

ภาษาสวยเนื้อเรื่องน่าสนครับ เสียวปนสยอง อยากรู้จังว่าสาวๆเค้าจะสู้กันยังไง คงไม่ใช่วิธีเดียวกับการดูดวิญญาณนะครับ ขอบคุณครับ

kabyala

ผมละเป็นห่วงเทพกับพลอยจริงๆ ข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง เล่นปูเรื่องแบบนี้หายใจไม่ทั่วท้องเลย แต่เนาะอะไรจะเกืดมันก็ต้องเกิดตามกฎแห่งการิเลโอ @_^ ขอบคุณครับ