ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ตามรอยวรรณคดี สุดสาคร 1 (ตอนพบชีเปลือย)

เริ่มโดย cobra, เมษายน 05, 2017, 04:42:57 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cobra




                           ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้  ของไทยแท้นั้นหรือคือภาษา
                           ซึ่งผลิดอกออกผลแต่ต้นมา  รวมรวมเรีบกว่า"วรรณคดีไทย"
                     จากส่วนหนึ่งของบทกลอนอาขยาน ม.ล.ปิ่น มาลากุล ผู้ประพันธ์บทกลอน

       ตอน 1 พบชีเปลือย
ขอเริ่มเรื่องตั้งแต่สุดสาครได้ขี่ม้านิลมังกรออกมาจากเกาะแก้วพิสดารเพื่อตามหาพระอภัยมณีผู้เป็นพ่อโดยต้องผ่านเมืองผีดิบ(ซอมบี้) จนแทบเอาชีวิตไม่รอดจนฤาษีต้องขี่รุ้งมาช่วยและแนะนำให้สุดสาครหนีไปอย่าไปคิดกำจัดพวกเหล่านี้เพราะมีเป็นล้านตัว ขนาดตัวฤาษีเองก็ยังไม่สามารถกำจัดพวกนี้ได้มีแต่ป้องกันตัวเท่านั้น
(สาเหตุที่พวกนี้เป็นซอมบี้อาจเป็นเพราะโดนไวรัสจากการทดลองของใครหรือเปล่า ยังไม่สามารถหายาแอนตี้ไวรัสได้ (ท่านสุนทรภู่ท่านเก่งสามารถคิดเมืองซอมบี้ได้ก่อนฝรั่งเสียอีก (เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง))
   เมื่อออกจากเมืองซอมบี้ กำลังเข้าสู่เมืองการะเวกก็พบอาศรมที่อยู่ของผู้ทรงศีลหลังหนึ่ง สุดสาครดีใจเพราะคิดว่าคงจะได้เจอกับผู้วิเศษเช่นเดียวกับพระฤาษีหลวงตาแห่งเกาะแก้วพิสดารจึงเข้าไปหาเพื่อนมัสการเป็นศิริมงคล
   (ตามท้องเรื่องสินสมุทรพึ่งมีอายุได้ 3 ขวบกว่าแต่เป็นเด็กมหัศจรรย์เติบโตเร็วมีสติปัญญาเทียบเท่าเด็กอายุ 10 ขวบ ตามที่เคยเกริ่นนำ แต่สุดสาครอยู่แต่ในเกาะแก้วพิสดารอ่อนต่อโลกมาก ใสซื่อบริสุทธิ์ประสาเด็กมองโลกในแง่ดีสวยงาม ก่อนออกจากเกาะแก้วพิสดารยังดูดนมแม่อยู่เลย)
   กล่าวถึงชีเปลือยเป็นคนหลอกลวง แสร้งทำเป็นพวกพ่อมดหมอผีว่าสามารถขจัดภัยอันตรายผีร้ายออกจากคนทำให้มีโชคลาภได้ มีผู้คนตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อจึงเรียกเป็นอาจารย์ก่อสร้างอาศรมให้อยู่ นำอาหารมาให้บ้างวันๆ ชีเปลือยจึงไม่ทำอะไร นอนชักว่าวเล่นอยู่แต่ในอาศรม ในท้องเรื่องบรรยายว่า ชีเปลือยไม่ใส่เสื้อผ้าเลย(ซึ่งต่อมาภายหลังจึงเป็นศัพท์เรียกคนแก้ผ้าว่าชีเปลือยอาจมีที่มาจากเหตุนี้)
ชีเปลือยมีหนวดถึงเข่า เคราถึงนม ผมถึงตีน (น่าจะมีหนวดถึงนม เคราถึงเข่ามากกว่าแต่เพื่อให้กลอนมันคล้องจึงว่า หนวดถึงเข่า เคราถึงนม แต่ช่างเถอะ)ที่สำคัญชีเปลือยยังมีควยยาวเป็นคืบเข้าไปร่วมครึ่งหน้าขาและอวบใหญ่ เส้นหมอยก็รกรุงรังยังกะรังนก และเป็นผู้มักมากในกามจึงมักเอาผู้หญิงที่ตนพบเห็นมาจินตนาการประกอบการชักว่าวน้ำแตกอยู่ทุกวัน
   วันนี้ก็เช่นกันขณะที่ชีเปลือยกำลังชักว่าวอยู่ด้วยนึกถึงสาวรูปร่างอวบหน้าตาจิ้มลิ้มรายหนึ่งก็เป็นจังหวะที่สุดสาครเดินลงจากม้านิลมังกรเข้ามาพบเห็นพดี
   "อีหนูเอ่ย ข้าจะส่งเจ้าไปสวรรค์เดี๋ยวนี้แหละ เจ้าประคุณเอ่ย จวนแล้วๆ"
ชีเปลือยพูดพึมพัมอย่างกำลังเงี่ยนจัด มือสาวควยเป็นระวิง สุดสาครเดินเข้ามาพบต้องตกใจกลับเกิดอารมณ์แปลกๆ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหน้าชาตัวร้อนวูบวาบแก่นกายภายในเหมือนมันเกิดความรู้สึกพิกลขึ้นไม่เคยเป็นมาก่อน สุดท้ายเห็นชีเปลือยพ่นน้ำออกมาจากลำควยพุ่งปริ๊ดกระเด็นมาที่ฝาห้องด้านที่สุดสาครเข้ามา
   "เฮ้ย..ไอ้หนูเจ้าเข้ามาทำไมวะ"
   เสียงชีเปลือยร้องแบบตกใจไม่นึกว่าตอนนี้จะมีใครเข้ามา พอเห็นเป็นเด็กน้อยก็เบาใจ สินสมุทรยกมือไปจับน้ำว่าวเห็นมีลักษณะพิกลคล้ายเสลดน้ำมูกเหนียวๆ ก็ไม่ปาน ดูลักษณะของชีเปลือยแล้วก็ดูน่ากลัวไม่เหมือนคนที่น่าเคารพเท่าไร
   "ข้าชื่อสุดสาคร ต้องการมาพบผู้ทรงศีลเรืองฤทธิ์ในที่นี้"
   ชีเปลือยมองไปเห็นเด็กน้อยสุดสาคร แต่งตัวราวกับฤาษีดาบส ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน หน้าตาน่ารัก จึงคะเนว่าสุดสาครคงต้องเป็นลูกหลานผู้ดีมีเงินเป็นแน่ คงติดตามพ่อแม่มา จึงคิดในใจอย่างรวดเร็วว่าจะต้องหลอกให้มันพาพ่อแม่มาเสียเงินทองเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างไรดี จึงพูดประจบ
   "มาเถิด กุมารหลานชายผู้น่ารัก ตัวข้านั้นแหละคือผู้วิเศษแห่งอาศรมนี้"
   สุดสาครดูลักษณะของชีเปลือยไม่น่าเชื่อจึงถามไปว่า
"ท่านหรือคือผุ้วิเศษทำไมถึงแก้ผ้าอุจาดตาเช่นนี้"
   ชีเปลือยเห็นสุดสาครพูดจาฉลาดฉาดฉานเกินเด็กในวัยนี้ทั่วไปก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูแล้วสุดสาครก็มีท่ารังเกียจตนจึงแกล้งทำเป็นเคร่งขึมตอบไป
   "อันตัวเราละซึ่งถึงกิเลสทุกสิ่ง เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนแต่สิ่งที่มาประดับหลอกลวงผู้คนไม่ใช่สิ่งแท้จริง จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสวมใส่ สู้เผยให้เห็นภายในจะดีกว่า หากคนเราจะนับถือเลื่อมใสต้องมาจากข้างในใช่เพียงรูปกายของประดับภายนอกไม่"
   สุดสาครเห็นชีเปลือยพูดจามีหลักการน่าเลื่อมใสจึงคิดว่าตัวเองมองคนผิดไป จึงยกมือวันทาขอขมาต่อชีเปลือยแล้วไปนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า ชีเปลือยจึงสอบถามว่าสุดสาครเป็นมาอย่างไร สุดสาครพาซื่อเล่าความจริงทุกสิ่งที่ตนมีรวมถึงเรื่องคาถาอาคม ม้านิลมังกร ไม้เท้ากายสิทธิ์ให้ชีเปลือยทราบจนหมด ชีเปลือยฟังเรื่องที่สุดสาครเล่าแสนจะทึ่งว่ามันทำไมช่างวิเศษอะไรอย่างนี้เมื่อสุดสาครเล่าจบชีเปลือยจึงแกล้งพูดไป
   "แต่หนทางที่จะผ่านไปยังเมืองข้างหน้า มันเต็มไปด้วยอันตรายกว่าที่ผ่านมาหลายเท่ามีทั้งทะเลน้ำกรดขวางหน้าเจ้าและม้าของเจ้าจะผ่านไปได้หรือ"
   "โอ..หนทางช้างหน้ามันน่ากลัวเช่นนี้หรือ ข้าไม่แน่ใจว่าพี่ม้าของข้าจะผ่านไปได้หรือไม่เช่นกัน ต้องทำไงดีขอท่านโปรดเมตตาฃี้แนะด้วยเถิด"
   ชีเปลือยหัวเราะ ฮึ ฮึ เห็นสุดสาครพูดจาไพเราะนอบน้อมอ่อนหวานใจนึกนิยมชชอบพลางกล่าว
   "หลานเอย นี้นับเป็นโชคดีของเจ้ายิ่งที่เจอข้า ข้าจะสอนเวทยฺมนต์อาคมให้เจ้าเพิ่ม เจ้าจะได้ฟันฝ่าอุปสรรคไปคตามหาบิดาเจ้าโดยไม่ลำบาก"
   สุดสาครได้ฟังคิดว่าเป็นเรื่องจริงก้มลงกราบชีเปลือยขอฝากตัวเป็นศิษย์ทันที ชีเปลือยอยากรู้ว่าสุดสาครมีเวทย์มนค์อาคมใดบ้างและไม้เท้านั่นวิเศษแค่ไหนจึงให้สุดสาครแสดงให้ดู
   สุดสาครจึงพาชีเปลือยมาข้างนอกซึ่งตนผูกม้านิลมังกรไว้อยู่ พอม้านิลมังกรเห็นชีเปลือยด้วยสันชาติญาณสัตว์ยังมองรู้ว่าชีเปลือยเป้นคนไม่ดี จึงแสดงอาการดุร้ายจะจับชีเปลือยกิน สุดสาครจึงต้องห้ามไว้เอาไม้เท้ากวัดแกว่งตรงหน้าม้านิลมังกรถึงกับงงงวยตัวอ่อนไป
   "ไม้เท้าหลานวิเศษจริงแต่ทำได้แค่นี้หรือ"
   สุดสาครจึงโอ้อวดไปตามประสาเด็กว่าทำได้หลายอย่างมาก นอกจากทำให้งงงวยเชื่อฟังแล้ว ยังมีฤทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ชีเปลือยหลอกให้สุดสาครท่องมนต์ต่างๆให้ฟัง และแอบจดจำไว้ได้เพียงบางอย่างเพราะสุดสาครมีมนต์เยอะมาก นอกจากนี้สุดสาครยังสอนวิธีขี่ม้านิลมังกรต้องใช้บ่วงหวายอาคมคล้องคอเพื่อใช้บังคับสั่งให้ม้านิลมังกรไปยังที่ต้องการโดยสดวกทั้งขี่บนบกบนน้ำได้สารพัด ส่วนตนเองแทบไม่ต้องแล้วเพราะบัดนี้ตนรู้ใจกับม้านิลมังกรเป็นดั่งพี่น้องกัน
   เมื่อสุดสาครแสดงวิชาอาคมต่างๆ ให้ชีเปลือยได้รู้จนหมดสิ้นแล้วก็ถึงคราวที่ชีเปลือยจะต้องแสดงวิชาอาคมของตนบ้าง ชีเปลือยก็ไม่รู้ว่าจะแสดงอะไรดี แต่สังเกตุเห็นว่าสุดสาครชอบมองมาที่ควยตนเองอย่างสนใจตั้งแต่ตอนอยู่ในอาศรมแล้ว จึงหาทางหลอกสุดสาครเพื่อเอาตัวรอด
   "หลานเอย เจ้าอยากรู้วิชาใด เห็นเจ้าสนใจของกายสิทธิ์ประจำตัวข้างั้นหรือ"
   สุดสาครพาซื่อจึงตอบไปว่า
   "สิ่งนั้นของอาจารย์เป็นของกายสิทธิ์งั้นหรือ หลานเพียงแปลกใจว่าของท่านทำไมใหญ่ยาวไม่เหมือนของข้าเลย"
   ชีเปลือยได้ฟังเห็นช่องทางหลอกสุดสาครได้จึงใช้เล่หฺเพทุบายบอกไปว่า
"จะว่าไปแล้วของข้ามีความวิเศษกว่าไม้เท้าของเจ้าด้วยซ้ำไป"
"อา..วิเศษถึงเพียงนั้นเลยหรืออาจารย์" สุดสาครยังอ่อนต่อโลกเลยติดกับชีเปลือยโดยง่าย
   "ไม้เท้าของเจ้าอาจเพียงรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยของคนได้เล็กน้อย แต่ของข้าสามารถทำให้สตรีมีความสุขไปถึงสวรรค์ได้ทีเดียวเลย"
   "ถึงสวรรค์ได้ต้องทำอย่างไร ข้าชอบช่วยเหลือผู้คน"
   ชีเปลือยหัวเราะเอิ้ก อย่างชอบใจ
   "เจ้ายังเด็กนักอาจไม่เข้าใจ กระเจี้ยวเจ้ายังคงเล็กอ่อนแอยังมิอาจเรียนวิชากำกับของวิเศษได้"
   "แล้วต้องทำอย่างไร เพื่อให้หลานทำได้ละท่านอาจารย์ได้"
   "ตอนนี้เจ้าอายุเท่าไรกันละ"
   "ข้าอายุสามขวบย่างเข้าสี่ขวบแล้ว"
   "เจ้าอายุน้อยไปคงเรียนวิชาข้าไม่ได้ อย่างน้อยๆ ที่สุดก็ต้องสิบขวบขึ้นไป"
   "แต่ข้าต่างจากเด็กทั้วไป หลวงตาบอกว่าข้ามีพัฒนาการมากกว่าคนทั่วไปตอนนี้เทียบเท่าเด็กสิบขวบเห็นจะได้"
   สุดสาครดึงดันด้วยความอยากรู้วิชาวิเศษของชีเปลือยให้ได้ ชีเปลือยเห็นว่าตัวเองมาถูกทางแล้วจึงชวนกลับไปที่อาศรมคุยกันตามเดิม ชีเปลือยทีแรกแค่ไม่รู้จะแสดงวิชาใดให้สุดสาครดูจึงพูดเพื่อหวังเอาตัวรอดแต่สุดสาครกลับให้ความสนใจอย่างจริงจังขึ้นมา จึงคิดแผนที่จะหลอกชิงไม้เท้าวิเศษของสุดสาครจากการนี้แทน
   "วิชาของข้าความจริงต้องรอให้เจ้ามีอายุมากสักหน่อยต้องเริ่มมีควยที่ขยายใหญ่ได้จึงมีอารมณ์ที่จะทำได้ แต่ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้ามีขนาดขยายใหญ่ได้ คือเจ้าต้องรู้จักชักว่าวเป็นก่อนลำดับแรก"
   "ชักว่าว "
   สุดสาครสนใจมากขึ้นดูท่าทางจะเป้นของสนุก
   "ใช้นอกจากมันจะทำให้ของเจ้าใหญ่ขึ้น เจ้ายังได้รับความเพลิดเพลินกับมันด้วยซ้ำ"
   "ดีจริงๆ ข้าอยากเรียนรู้มากๆ"
   "งั้นเจ้าถอดกางเกงออกมาให้ข้าดู ข้าจะสอนให้"
   สุดสาครไม่รอช้ารีบถอดกางเกงออกมาอย่างรวดเร็ว ชีเปลือยต้องตาค้างเมื่อเห็นของสุดสาครเพราะมันไม่ได้เล็กกระจ้อยเหมือนเด็กสามขวบทั่วไปแต่มันดูเหมือนของเด็กที่เริ่มโตขนาดเด็กสิบขวบมากกว่า อย่างนี้เองที่ฤาษีบอกว่าสุดสาครเหมือนเด็กสิบปี
        (ขอเล่าย้อนนิดหนึ่งสำหรับผู้ที่อาจไม่ได้อ่านตอนเกริ่นนำเรื่องสุดสาครเด็กมหัศจรรย์ สุดสาครเป็นเด็กลูกผสมระหว่างคนกับนางเงือก พอเกิดมากลับมีสรีระร่างกายเหมือนคนทั่วไป ไม่มีหางหรือเหงือกไว้หายใจในน้ำ นางเงือกจึงจำต้องฝากให้ฤาษีเลี้ยงโดยตนจะมาให้นมแก่สุดสาครแค่ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น สุดสาครเมื่อแรกเกิดก็สามารถคลานได้เลย พออายุ 10 เดือนเหมือนเด็ก 10 ปีมีพัฒนาการการเติบโตที่เร็วมาก มีสัดส่วนเหมือนเด็ก 3 ขวบทั่วไป แต่มีอวัยวะเพศพอๆกับเด็กอายุ 10 ขวบ สามารถวิ่งเล่นกระโดดขึ้นขี่ควายได้ทั้งๆที่อายุ 10 เดือน แต่เหมือนอวัยวะเพศกลับหยุดไม่ได้เติบโตทลึ่งพรวดพราดเหมือนตอนแรกในเวลาต่อมา ครั้นเมื่ออายุ 3 ขวบไปเที่ยวทะเลสามารถจับม้านิลมังกรซึ่งเป็นสัตว์ดุร้ายกินคนและพืชมาขี่เล่นได้ สุดสาครนับเป็นเด็กอัจฉริยะถ้าเทียบกับยุคนี้ เพราะมีไอคิวสูงสามาถพูดคิดอ่านได้เกินเด็กทั่วไปจัดเป็นเด็กอัศจรรย์ของโลก ประวัติพอสังเขปของสุดสาคร ขอแทรกกลอนตอนกำเนิดสุดสาครมาให้ลองพิจารณาประกอบ
             ๏ นางกราบกรานท่านสิทธาว่าสาธุ   ให้อายุยืนยงอสงไขย
                สืบตระกูลพูนสวัสดิ์กำจัดภัย   แล้วอุ้มให้กินนมนั่งชมเชย
                โอ้เกิดมาอาภัพอัปภาค   จะจำจากมารดานิจจาเอ๋ย
                อย่าเศร้าสร้อยน้อยใจอาลัยเลย   บุญแม่เคยครองเลี้ยงเจ้าเพียงนั้น
                ไปชาติหน้ามาเกิดกับอกแม่   อย่าห่างแหเสน่หาจนอาสัญ
                ในชาตินี้วิบากจะจากกัน   เพราะต่างพันธุ์ผิดเพศสังเวชใจ
                สะอื้นพลางนางแลดูลูกรัก   สงสารนักนึกน่าน้ำตาไหล
                จึงหยิบของสองสิ่งซึ่งซ่อนไว้   เป็นของพระอภัยให้โอรส
                ทำขวัญลูกผูกธำมรงค์รัตน์   ไว้กับหัตถ์เบื้องขวาให้ปรากฏ
                กุณฑลทองขององค์พระทรงยศ   ให้ดาบสเก็บไว้ให้กุมาร
                แล้วเรียกบุตรสุดสาครของแม่   เฝ้าแลแลมารดาน่าสงสาร
                ให้กินนมชมชูพระกุมาร   แล้วให้คลานขึ้นบนเพลาพระเจ้าตา
                พระสอดกรช้อนอุ้มว่านุ่มนิ่ม   ดูจิ้มลิ้มลูกพ่อเจียวหนอหวา
                ไปด้วยกูอยู่ด้วยกันที่ศาลา   แล้วอุ้มพามากุฎีพระชีไพร
                จึงเสี่ยงสัตย์อัธิษฐานการกุศล   เดชะผลเมตตาได้อาศัย
                จะเลี้ยงดูกุมารแม้นนานไป   เขาจะได้สืบกษัตริย์ขัตติยา
                จงมีเมาะเบาะฟูกเครื่องลูกอ่อน   ทั้งเปลนอนหน่อนาถตามวาสนา
                พอขาดคำรำพันจำนรรจา   ก็มีมาเหมือนหนึ่งในน้ำใจนึก
                จึงวางองค์ลงบนเปลแล้วเห่ช้า   ทำขนมแชงม้าเวลาดึก
                โอระเห่เอระโห่โอระหึก   อึกทึกทั้งศาลาจนราตรี
                ถึงดึกดื่นตื่นนอนป้อนกล้วยน้ำ   กุมารกล้ำกลืนกินจนสิ้นหวี
                ทั้งฟูกเมาะเบาะหมอนอ่อนอินทรีย์   พระโยคีคอยระวังเป็นกังวล
                ครั้นรุ่งอุ้มดุ่มเดินไปเนินเขา   ให้ดื่มเต้ากษิราสี่ห้าหน
                เป็นแถวเทือกเงือกบุรุษมนุษย์ปน   แรงกว่าคนเมืองเราชาวบุรี
                ได้สิบเดือนเหมือนได้สักสิบขวบ   ดูขาวอวบอ้วนท้วนเป็นนวลฉวี
               ออกวิ่งเต้นเล่นได้ไกลกุฎี   เที่ยวไล่ขี่วัวควายสบายใจ

               แล้วลงน้ำปล้ำปลาโกลาหล   ดาบสบ่นปากเปียกเรียกไม่ไหว
               สอนให้หลานอ่านเขียนร่ำเรียนไป   แล้วก็ให้วิทยาวิชาการ
               รู้ล่องหนทนคงเข้ายงยุทธ์   เหมือนสินสมุทรพี่ยาทั้งกล้าหาญ
               ได้เห็นแต่แม่มัจฉากับอาจารย์   จนอายุกุมารได้สามปี ฯ )
   "ของเจ้าเป็นอย่างนี้มาแต่เมื่อไร"
        "ข้าก็เป็นอยู่อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ดูเหมือนมันขยายขึ้นมาเองตอนที่เข้ามาเห็นอาจารย์นั้นทำอะไรไม่รู้นั่นแหละ"
   "อย่างนี้มันใช้ได้แล้วนิ เจ้าช่างเป็นเด็กมหัศจรรย์ต่างจากเด็กทั่วไปจริงๆ"
   "ที่เจ้าเข้ามาเห็นข้าทีแรก นั่นคือข้ากำลังชักว่าวโดยช่วยส่งกระแสจิตโน้มน้าวให้สตรีที่ข้าคิดถึงได้ไปสู่ดินแดนสวรรค์ยังไง ข้าจะทำให้ดูแล้วก็ทำตาม"
   ชีเปลือยว่าแล้วก็เอามือสาวควยขึ้นลง บอกให้สุดสาครจินตนาการถึงเพศตรงข้ามพลันของเจ้าชีเปลือยก็พองโตหัวบานขึ้น แต่สุดสาครยังทำไม่ได้ถึงแม้สุดสาครจะมีกระเจี้ยวเท่าเด็กสิบขวบก็ตามแต่หนังยังหุ้มกระเจี้ยวอยู่ และมิหนำซ้ำสุดสาครยังไม่รู้จักสตรีคนใดนอกจากมารดาของตนที่เป็นเงือกเท่านั้นไม่สามารถจินตนาการได้ดั่งชีเปลือยผู้มีความลามก
   "อาจารย์ข้าทำไม่ได้เหมือนท่านเลย ข้าไม่รู้ว่าต้องจินตนาการยังไง"
   ชีเปลือยหัวเราะร่า นึกขำในความไม่ประสาของสุดสาคร
   "ข้าก้ลิมไปว่าเจ้าเพิ่งออกจากเกาะมาคงไม่เคยพบเห็นสตรีเพศกระมั่ง"
   สุดสาครพยักหน้า
   "อันนี้เป็นก้าวแรก และต่อไปเจ้าจะต้องรู้จักเย็ดให้สตรีมีความสุขโดยใช้ของวิเศษเจ้าใส่ในรูสวาทของสตรีช่วยกันกระเด้ากระเด้งจนถึงสวรรค์ทั้งคู่"
   สุดสาครยิ่งฟังยิ่งงง ชีเปลือยจึงออกอุบายว่าคงต้องทำให้สุดสาครดูเป็นตัวอย่าง ว่าตอนเย็นจะมีแม่ลูกคู่หนึ่งมาเพื่อขอพรให้ลูกสาวมีบุตร ถึงเวลาให้สุดสาครใช้ไม้เท้าทำให้ทั้งคู่งงงวยแล้วตนจะได้ทำให้สตรีผู้นั้นได้มีความสุขมีบุตรสมหวังตั้งใจ
"หลานเอยเจ้าเป็นเด็กหัวไวมาก หาได้เห็นตัวอย่างจากข้าเชื่อว่าเจ้าต้องเก่งกว่าข้าแน่นอน
สุดสาครรับคำดัวยความดีใจ ว่ายินดีที่จะช่วยให้ชีเปลือยได้ช่วยคนให้มีความสุข
   แหม เจ้าชีเปลือยช่างชั่วช้าลามกดีแท้ สุดสาครแค่สามขวบมันก็ไปชักพาเสี้ยมสอนให้เสียคนตั้งแต่เด็กแล้ว แถมยังใช้เด็กเป็นเครื่องมือทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยหวังตักตวงความสุขแก่ตน
   อนิจจาสุดสาครเด็กไร้เดียงสาต้องตกเป็นเครื่องมือของชีเปลือยคนชั่วช้าลามกโดยไม่รู้ตัวแล้ว


azerothx

#1
เล่เหลี่ยมไม่ธรรมดาเจ้าชีเปลือย
cobra[/right]

gritkin

#2
สมกับเป็นชีเปลือย เล่ห์จัดสุดๆ 555 สนุกมากครับผม มีท้าวความให้ด้วย เข้าใจมากขึ้นครับ
cobra

ponchan80

#3
เยี่ยมมากๆครับผม ชีเปลือยหลอกเด็ก
cobra

review1972

#4
ฮ่าๆๆๆคิดได้ไงเนี่ย ชีเปลือยสอนสุดสาครชักว่าว ชอบมากครับ ภาพประกอบนางเงือกก็เซ็กซี่น่าปี้มากกก
cobra

Seraphia13

#5
ท่านตาก็ไม่สอนโลกภายนอกมั่งเลยนะ
::Sweat::
ท่านสอนไม่ทัน ขนาดท่านหยั่งรู้แล้ว ยังคาดไม่ถึงว่าหลานจะเจอชีเปลือยแบบนี้ cobra

somc217

#6
ชอบจินตนาการของท่านผู้เขียนครับ เพราะกำลังจะทำให้สุดสาครกลายเป็น นักจิ้มรุ่นจิ๋วไป ซะแล้ว
รอลุ้นครับ
ขอบคุณมาก
cobra

pinmonkey

#7
ได้วิชาดีจากชีเปลือยเสียแล้วสุดสาคร จะเสียท่าเขาไหมนี่ ขอบคุณมากครับ
cobra

sunnie06

#8
ร้ายกาจนัก หลอกเด็กได้ลงคอ
cobra

chanky2007

ได้งานดี ตั้งแต่สามขวบ

เสร็จชีเปลือย

ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป


luckkung8


suriyamahajit


eakfon

ขอบคุณครับ
ท่านชีเปลือยนี่ลึกล้ำนะ ปัญญาเลิศ

hanabombam