ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

พบกันอีกครั้งในชีวิตจริง(copy)

เริ่มโดย 7946410, ธันวาคม 13, 2017, 08:18:58 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

7946410

พบกันอีกครั้งในชีวิตจริง

อันที่จริง ผมไม่อยากเอาเรื่องของแป๋วมาเปิดเผยเลย เธอเคยเป็นคู่ขาของผมมาตั้งแต่เรายังเรียนอยู่ด้วยกัน เสน่ห์ของเธอนั้นร้อนแรงเหลือหลาย หรือจะเป็นเพราะเธอรักผมด้วยก็ไม่รู้
จริงซินะ ถ้าหากเธอไม่รักผม รื่องอะไรเธอจะให้หมดทั้งเนื้อทั้งตัว
"ทั้งหัวใจด้วยจ้ะ ชาตรี" เธอบอกกะผมยังงั้น
แต่แล้วแป๋วกับผมก็ต้องแยกย้ายกันเมื่อเรียนจบ ผมได้ข่าวว่าเธอไปเป็นนางพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนผมก็ต้องตะลอนๆไปกับหน่วยเจาะบาดาลทั้งร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ขึ้นเหนือล่องใต้ไปมันดะตามประสาหนุ่มฮาร์ดล่ะครับ
ก็เรียนจบอาชีวะ แล้วงานน่ะหาง่ายอยู่ซะเมื่อไหร่ แค่พนักงานเจาะบ่อก็วิเศษเหลือหลาย แต่ที่วิเศษยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ ผมได้เจาะอย่างอื่นด้วย ยิ่งขึ้นทางเหนือด้วยล่ะคุณเอ๊ย...อย่าบอกใคร
สาวๆทางเหนือผิวนวลเป็นยองใย ดวงตานี้กลมเป็นประกาย
ที่ร้ายที่สุดก็หน้าอกหน้าใจของเจ้าหล่อนน่ะ...อึ้ม..เหลือรับประทานทั้งนั้น สะโพกสาวเจ้ายังงี้คุณเอ๊ย..มันพริ้วราวดอกไม้ไหว หนุ่มอย่างผมที่พลัดไปจากเมืองหลวง กล่อมเธอด้วยคำหวานๆพักเดียว ผมก็ได้เจาะบ่อสวาท
คุณเองก็คงรู้ไม่ใช่เหรอ...อย่างที่ลานสาวกอดน่ะ หนุ่มๆจะมาพร่ำพรอดกับสาวเจ้ากลางแสงจันทร์ แล้วจากนั้นต่างก็พากันขึ้นฉิมพลีตามหัวใจปรารถนา...

ผมมาเจอแป๋วอีกทีในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯนี่แหละ จำได้ว่าคืนนั้นเธอสวมชุดราตรียาวสีน้ำทะเล คอเสื้อลึกลงไปจนเห็นเนินถันที่เบียดกันแน่น และถูกยกด้วยบราฯ ยิ่งทำให้แลดูอวบอัดจนใครที่เห็นก็คงไม่อยากมองหน้าเธอ แต่คงเปลี่ยนมาจ้องตรงนั้นแทน
ผมยังจำคืนแรกที่ร่วมรสรักกับเธอได้
ที่หอพักของผมนั่นแหละครับ
เย็นนั้นเมื่อโรงเรียนผมเลิก กฌไปรอรับเธอที่ตึกพาณิชยการซึ่งอยู่ถัดไปในบริเวณเดียวกัน ตอนแรกก็กะว่าจะไปดูหนังกัน แต่ผมชวนเธอไปหอพัก
อย่างที่ผมว่าทีแรกน่ะแหล่ะ ...เธอเองก็รักผมไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ยอมผมอยู่ดี
อยู่ในห้องของผมสองต่อสอง ผมก็โอบกอดแล้วแล้วซุกใบหน้าลงไปบนลำคอขาว แป๋วตัวสั่นจนผมรู้สึก เธอพยายามปัดป้องท่าเดียว... แต่ผมนะไม่ยอมหร็อก
มือผมรั้งตัวเธอเข้ามาจนเบียดกันชิด
เจ้าหนูน้อยของผมมันพองตัวแข็งโด่จนแทบจะทะลุอะไรก็ได้ในตอนนั้น
"อย่า ชาตรี... อย่า...เธอไม่รักฉันเหรอ?"
"ก็รักนะซิ ถึงขอให้แป๋วเป็นของชาไงล่ะ"
"ไม่..เอา.." เสียงแป๋วครางราวกับละเมอ
ผมยังซุกไซ้จมูกไล่ดะจากใบหน้าเธอระเรื่อยมาตามหลังซอกหู มือที่กวัดอยู่ด้านหลัง ดึงซิปกระโปรงพร้อมทั้งแกะขอที่เกี่ยวอยู่ให้หลุดจากกัน กระโปรงของเธอลุ่ยลงไปกองอยู่ที่พื้น เธอพยายามดึงมันไว้ แต่ริมฝีปากของผมมันประกบริมฝีปากเธอเสียแล้ว
ผมจูบปากเธออย่างดูดดื่ม เนื้อตัวแป๋วอ่อนระทวยอยู่ในวงแขน เธอไม่ได้ต่อปากต่อเถียงอะไรผมอีกเลย ปัดป้องอะไรก็ดูแทบจะไม่มีแรง เสียงเธอครางอย่างมีความสุข
ผมล้วงมือข้างหนึ่งลงไปในเจอร์ซี่บางและอีกข้างก็จัดการกับกางเกงของผมเอง ไม่รู้ว่าผมทำได้ยังไง? มันถึงรวดเร็วอย่างนั้น... พอกางเกงผมลุ่ยลงไปถึงข้อเท้า ผมก็สลัดมันไปกองอยู่ข้างๆ
มือข้างหนึ่งของผมมันป่ายเปะมาด้านหน้าตรงเนินสวาทของเธอ แป๋วสะดุ้งเมื่อนิ้วผมไปถูกปุ่มกระสันทำให้ผมคลึงและบี้มันเบาๆ
ผมแยงนิ้วเข้าไปในรสวาทที่ชุ่มน้ำเมือก
สะโพกของแป๋วบิดอย่างสยิว เธอครางราวกับจะขาดใจ นิ้วของผมยังคว้านอยู่ในโพรงอุ่นนุ่มนั้นอย่างรวดเร็ว
"ชา...แป๋ว...ชา..อย่า..."
เสียงเธอขาดเป็นห้วงๆ ใบหน้าก็ซุกอยู่กับไหล่ผม ร่างกายท่อนล่างของเธอไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย ส่วนผมน่ะล่อนจ้อน
ลำพังเพียงมือผมตะโบมอยู่บนโคกสวาทของเธอ เท่านั้นผมก็รู้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน ขนอ่อนๆนั้นไม่ได้ทำให้ผมระคายเคืองเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้มันเปียกแฉะไปด้วยน้ำรักของเธอที่ไหลออกมาจนปริ่ม
จรวดเสน่ห์ของผมลุกชูชันราวกับเตรียมพร้อมที่จะพุ่งสู่อวกาศ มือข้างหนึ่งของเธอมากำมันไว้แน่น ยิ่งทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นทวีคูณ
"ชา...พอแล้วจ้ะ...พอแล้ว...แป๋ว...ทนไม่ไหว..."
"จ้ะ...แป๋ว..."
ผมรู้ว่าผมจะต้องทำยังไง มือหนึ่งเชยใบหน้าเธอขึ้นมาอีก แล้วประกบริมฝีปากลงไป ขณะเดียวกับที่ลึงค์ของผมก็ค่อยๆชำแรกลงไปในรูสวาท
แม้น้ำเมือกหล่อลื่นของเธอจะหลั่งออกมามากมายก็เถอะ แต่ความมโหฬารของสมบัติติดตัวชิ้นเดียวที่ผมรักมากที่สุดมันยิ่งใหญ่จริง ทำให้ผมรู้สึกคับติ้ว
แป๋วครางกระเส่าจนผมไม่กล้ากระแทกแรงๆ
"แป๋วเจ็บ...ชาอย่า...ชา...โอย...แป๋ว..."
"เอ้า..ชาค่อยๆนะ...เดี๋ยวหายแล้ว ชา...ช่วย..."
ผมเองก็กระท่อนกระแท่น พยายามอย่างเต็มที่ที่จะค่อยๆชำแรกยักษ์แคระลงไปในโพรงสวาทนั่น และผมก็ทำได้สำเร็จ มันชำแรกหายเข้าไปหมดทั้งดุ้น
ทันทีที่ผมกดท่อนเนื้อมหัศจรรย์ของผมลงไปมิดด้าม แป๋วดิ้นสุดแรง ผมยังรั้งสะโพกเธอให้แนบอยู่เช่นนั้น แล้วก็ค่อยๆชักของผมออกมา... เอวของเธอบิด และเนินสวาทก็แอ่นตามมาด้วย
"โอย...ชาคะ...ชา...ซี๊ด...ซี๊ด...โอย...เจ็บ..."
ผมเองก็รู้ว่ามันคับปึ๋ง ชักออกไม่ได้ง่ายๆ ผมเริ่มกระเด้าเพื่อให้รูสวาทนั้นเผยออกเต็มที่... อีกไม่นานแป๋วของผมจะต้องมีความสุขอย่างล้นเหลือยิ่งกว่านี้
ขาอวบใหญ่ค่อยๆอ้าออกเต็มที่ ผมดันเธอจนไปติดขอบเตียง แล้วโน้มทับจนแป๋วนอนลงไปบนฟูก
รูสวาทของแป๋วกับของผมไม่ฟิตแบบเมื่อครู่นี้แล้ว เอวของเธอยักย้ายไปตามจังหวะและลีลากระเด้าของผม ผมดันลงไปเธอก็แอ่นขึ้นมารับทุกครั้ง
"ชา...คะ...ชา...แป๋วววว"
ผมรู้สึกว่าเธอกำลังเสียวสุดยอด เสียงซูดปากด้วยความมันส์ถึงขีด ผมรีบกระเด้งเร็วและแรงขึ้น ขาของแป๋วเกร็งและเหยียด ร่างบิดจนผมเองก็แทบจะหัวใจวายไปด้วย
น้ำรักของผมถูกปล่อยออกมาเต็มลำกล้อง จังหวะที่ค่อนข้างช้าและเร็วขึ้นนั้นยิ่งกระชั้นหนักขึ้น ผมเองก็ตกอยู่ในสภาวะเสียวสุดขีด มันส์เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
"ชา..คะ...เร็ว..แป๋ว.."
"ชาก็เหมือนกัน..โอย..ซี๊ด..."
"ชาขา...โอย...ชา..."
ผมเร่งเครื่องเต็มที่ ยามนั้นเหมือนเพลิงโหมกระหน่ำ ไม่มีความสุขใดๆมาเทียบเท่า มันเสียวไปจนถึงขั้วหัวใจ น้ำรักของผมพุ่งกระฉูดพร้อมกับเสียงครางสะท้านของเธอ
ผมปล่อยให้ท่อนลึงค์ยักษ์เคล้าเคลียอยู่ในโพรงสวาทเช่นนั้นนานแสนนาน เธอก่ายกวัดร่างมากอดผมแน่น ปากต่อปากของเรายังจุมพิตกันดูดดื่ม
มันเป็นครั้งแรกของเด็กสาวที่ได้รับรสรักเช่นนี้ ผมเองแม้จะผ่านมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีครั้งใดจะสุขเหมือน
มือของผมสอดเข้าไปในเสื้อและเคล้าคลึงอยู่บนถันที่ยังไม่ได้ถอดบราออก
เรานอนมองหน้ากันอยู่บนฟูก หยาดน้ำตาของแป๋วไหลปริ่มออกมาจนเอ่อเบ้า เธอออาจจะเสียใจที่ต้องสูญเสียความสาวให้ผมในลักษณะนี้ แต่เธอก็ดูเหมือนจะมีความสุขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเท่าไรนัก
"ชาต้องรักแป๋วตลอดไปนะ..."
"ชาก็รักแป๋วอยู่แล้วไง แล้วตอนนี้ก็ยิ่งรักมากขึ้นอีก ว่าแต่แป๋วเถอะ รักชามั่งรึเปล่า?"
"บ้า...แป๋วเป็นของชาแล้ว..."
"ชาหมาถึงหัวใจน่ะ"
"ทั้งหัวใจด้วย" เธอยืนยัน
ไม่มีอะไรที่จะต้องเคลือบแคลงต่อไป เธอยินยอมมอบหัวใจให้ผมจนหมดสิ้น แม้ว่าทีแรกจะเพียงแค่รัก จนกระทั่งกลายเป็นของผม
ผมค่อยๆแกะกระดุมเสื้อชั้นนอกของเธอออก แล้วปลดตะขอบราเซียร์บางแจ๋วด้านหลัง มันหลุดติดมือผมจนท่อนบนเธอเปลือยเปล่าเช่นท่อนล่าง แป๋วยกมือขึ้นเกาะกุมปทุมถันเมื่อเจ้าบราเซียร์ตัวนั้นหลุดติดปลายนิ้วผมมา
เพียงชั่วแวบเดียว ผมก็แลเห็นเม็ดสวาทปลายถันสีชมพูอ่อน มันงอนเต่งขึ้นมาเพราะรสสวาทที่ผ่านไปเมื่อครู่
"อายอะไรกัน...เมียจ๋า?...ผมกล่อมเธอพลางซุกหน้าเข้าไปที่หว่างอก ค่อยๆแกะมือเธอออก
"บ้าจริงเลย ชาเนี่ย..."
"ให้ผมหอมทีนะ"
"พอแล้ว... แป๋ว..."
ไม่มีทางเสียล่ะ จมูกของผมชอนไชไปในหว่างอกกระเปาะนั่นแล้วก็ดูดเม็ดทับทิมเคล้าคลึง พลางเคล้นฐานไปด้วย ส่วนมืออีกข้างเริ่มล้วงลงไปที่โคกสวาทของเธออีกครั้ง
แป๋วไม่ขัดขืนผมเหมือนครั้งแรกแม้แต่น้อย เธอพร่ำกระซิบอะไรอยู่ข้างหูผมฟังไม่ได้ศัพท์ เจ้าหนูน้อยของผมมันเริ่มแข็งตัวอีกครั้งหลังจากพักผ่อนมาพอสมควร ผมเริ่มบรรเลงเพลงรักบทใหม่ ไซ้ใบหน้าเลื่อนลงมาจนถึงท้องน้อยขาวผ่อง
มือสองข้างของแป๋วขยี้หัวผมด้วยเสียวซ่าน ความรู้สึกอยากร่วมรักของเธอคงเริ่มอีกเหมือนผมนั่นแหละ ยิ่งเธอครางผมก็ยิ่งเคล้นจมูกลงไปบนนูนหนั่นของเนินเหนือโคกของเธอเต็มที่ ผมเหลือบมองไปที่เนินสามเหลี่ยมสวาทสวรรค์ของเธอ
แคมทั้งสองข้างบวมเป่งอวบอูม...สีเนียนขาวละไม
ขาทั้งสองข้างที่แบะออกเล็กน้อยเผยให้เห็นเนื้ออ่อนริมในแคมสีชมพูเรื่อ...ลึงค์ยักษ์ของผมมันกระสันขึ้นมาจนเด่ เม็ดละมุดแต่สีชมพูจัดบนสุดของแคมเผยอติ่งขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
ผมเลื่อนปากลงไปบนเนินสามเหลี่ยมนั่นอย่างรวดเร็ว แล้วลิ้นก็ตวัดลงบนเม็ดสีชมพูงาม
ลำพังเพียงผมจุดกระสันสวาทธรรมดาให้เธอ แป๋วซึ่งยังไม่เคยต้องรสรักก็แทบจะขาดใจอยู่แล้ว แต่เมื่อผมเพิ่มบทสวาทชั้นพิเศษให้เธออีกชั้น แป๋วก็ดินเร่า
น้ำเมือกสวาทเอ่อล้นออกมาปริ่มแคมทั้งสองข้างจนลิ้นของผมได้รส
เอวของเธอบิดไปบิดมา สะโพกแอ่นขึ้นเพื่อให้เม็ดสีชมพูขึ้นมารับกับปลายลิ้น ผมยังคงกวาดปลายลิ้นเป็นวงรอบทั่วภายในบริเวณปากทางสู่โพรงสวรรค์ของเธอ
"ชาขา...โอย...พอเถอะ...แป๋วจะตายแล้ว...แป๋วทน..ทนไม่..."
สะโพกขาวลอยตัวยกขึ้นเอง มือทั้งสองข้างของผมยังลูบไล้ไปบนสะโพก ใบหน้าของผมยังฝังอยู่กับเนินสวรรค์
โคกสวาทของแป๋วกลิ่นหอมอย่างบอกไม่ถูก แม้จะเพิ่งผ่านเพลงรักไปเมื่อครู่
กลิ่นเนื้อสาวนั่นเอง
ผมค่อยๆเลื่อนมือทั้งสองขึ้นไปขยำปทุมถันที่เป็นกระเปาะอย่างมีความสุข
"แป๋วมีความสุขเหลือเกิน...ชาคะ...แป๋ว..ทนไม่ไหวแล้วล่ะ...ทำให้..ทำให้แป๋ว..."
ผมทำตามอย่างว่าง่าย เสียงครางอย่างมีความสุขกับสำเนียงกระเส่าที่เธอบอก ยิ่งเร้าอารมณ์ผมยิ่งนัก
ผมค่อยเลื่อนตัวแล้วชำแรกกวางน้อยของผมลงไปในบ่วงมหาเสน่ห์อันนูนหนั่นของเธอ ขยับเบาๆ...
"อู๊ย...เสียวจ้ะ..ชา...แป๋ว...มันส์...มันส์จังเลย"
"ชาก็เหมือนกัน..กระเด้งให้ชาเร็วหน่อย..."
ผมเองก็มีความสุขอย่างถึงขนาด ไม่มีความเจ็บปวดใดๆสำหรับผมอีก ถึงมันจะตึงและคับแต่ก็ไม่เหมือนเมื่อครู่
น้ำเมือกของเธอพรูพรั่งออกมาหล่อลื่นจนไอ้จ้อนของผมมันเข้าออกได้ไม่ฝืดเลย เสียงน้ำเมือกกับรูสวาทคับๆของเธอและแรงที่เกิดจากการกระเด้าของผมมันดังหนึบหนับ...หนึบหนับเบาๆ...เอวของเธอส่ายร่อน พลางซูดปากในรสรัก
"แป๋วรักชา...ชาคะ...ชา..."
"ชาก็เหมือนกัน...รักแป๋วเหลือเกิน..."
ผมสอดมือเข้าไปช้อนสะโพกผาย แล้วยกขึ้นรับจังหวะกระแทก มันพริ้วราวกับดอกไม้ต้องลม มือทั้งสองข้างของแป๋วตะเกียกตะกายดึงผ้าปูที่นอนบิด หน้าส่ายครางเต็มไปด้วยอารมณ์ดื่มด่ำ
"แป๋ว...จะ...จะ..ออ...ออก...ชา..โอค...ซี๊ด...โอย..เร็ว...ชา..."
ผมเองก็จวนเจียนอยู่แล้ว เหลืออีกเพียงนิดเดียว เร่งเครื่องเต็มที่ แล้วปล่อยน้ำรักฉีดพุ่งเข้าไปในโพรงนั้น เวลาเดียวกับที่แป๋วมันส์ในอารมณ์สุดขีด พรั่งพรูน้ำสวาทออกมาพร้อมกัน
"โอย...อือ...ชา..ชา...แป๋ว...อื๋อย์"
แล้วเธอก็หลับพริ้มอยู่บนเตียง มือที่กำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อกี้คลายออก อารมณ์ลอยละล่องไปสู่ฉิมพลี

"อ้าว!! ชาตรีเหรอคะนั่น"
เสียงทักไพเราะดังขึ้นข้างๆ ผมตื่นจากภวังค์ที่นึกไปถึงความหลังที่มีกับแป๋ว
"แป๋วรึนี่?..."
"ก็ใช่น่ะซิ...กำลังนึกถึงใครอยู่เหรอ?"
"ก็นึกถึงแป๋วนั่นแหละ ตอนที่เราอยู่โรงเรียนโน้น ผมเห็นคุณตอนเดินเข้ามาในง่นตั้งแต่ทีแรก เลยนึกถึงความหลังเก่าๆ..."
"บ้า!!!..." แป๋วตบต้นแขนผมเบาๆ
"บ้าก็เพราะแป๋วน่ะแหละ"
"มากับแฟนเหรอ?" ผมแกล้งถามไปยังงั้นเอง
"แฟนเฟินที่ไหนกัน..คนเดียวย่ะ"
แป๋วคนที่กำลังยืนคุยอยู่กับผมเดี๋ยวนี้ช่างไม่เหมือนคนเดิมเสียเลย เธอพูดจาฉาดฉาน ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไร้เดียงสาไว้จนกระเบียดนิ้ว สิ่งที่ยังเหลือเพียงอย่างเดียวตลอดระยะเวลาเกือบ ๘ ปีที่ไม่ได้พบกับผม ก็คือความหวานละไมของใบหน้า และยิ่งดูจะมีเสน่ห์ร้อนแรงกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ
"ชาแต่งงานแล้วเหรอ?"
"ยัง..."
ผมหยิบแก้วเบียร์จากถาดที่บ๋อยเอามาเสิร์ฟให้เธอแก้วหนึ่ง ส่วนตัวผมหยิบคอนยัค
"พบเธอขอเปลี่ยนเป็นวิสกี้..ดีกว่า"
ผมทำตามอย่างที่เธอร้องขอ แล้วชายหางตาไปที่คอเสื้อเว้าจนลึกตัวนั้น ยกคอนยัคขึ้นดื่มแล้วตามด้วยน้ำเย็น
"แล้วเธอละ เมื่อไหร่จะแต่งงานซะที?" ผมพยายามชมเธอทางอ้อม
"แต่งมาสองหนแล้วย่ะ แต่ซวยชะมัดยาด.."
"ทำไมเหรอ?" ผมตีหน้าเด๋ดด๋ษ
เธอจูงแขนผมไปนั่งเงียบๆที่โซฟานอกห้องงานเลี้ยง แล้วก็พรั่งพรูเรื่องส่วนตัวให้ผมฟัง...
หลังจากต่างคนต่างเรียนจบ และผมถูกส่งขึ้นไปเจาะบาดาลอยู่ที่ภาคเหนือ เธอก็เข้าเรียนต่อพยาบาลจนกระทั่งจบ จากนั้นพ่อก็บังคับให้เธอแต่งงานกับเสี่ยหนุ่มคนหนึ่ง
"มิน่าเธอขาดหายการติดต่อไปเลย" ผมรีบทวงความผิด
"มันช่วยไม่ได้จริงๆชา...แป๋วก็รักเธอ"
ผมไม่ต่อล้อต่อเถียง...
สามีคนแรกของเธอดดนจับติดคุกหัวโตอยู่ที่ฮ่องกง เพราะดันไปค้าเฮโรอีน เธอสารภาพว่าผัวคนแรกของเธอบทบรรเลงรักไม่เอาไหนเลย
"แล้วคนที่สองล่ะ?" ผมซักต่อ
"พ่อเขาก็ตามใจแป๋วบ้าง เลยแต่งงานกะฝรั่ง..."
"โอโห...แล้วเป็นไง?"
"จะบ้าเรอะ!!" เธอค้อนวงเบ้อเริ่ม แล้วก็ดื่มวิสกี้ท่เหลือจนหมดแก้ว ใบหน้าของเธอผุดผาดขึ้นเมื่อเลือดฉีดซ่าน ผมเดินเข้าไปหยิบจากถาดบ๋อยที่เดินผ่านมาทางนั้นอีกแก้ว ยื่นให้เธอ
แป๋วเปิดกระเป๋าถือใบเล็ก หยิบดันฮิลขึ้นมา ผมรีบล้วงไฟแช็กขึ้นมาจุดให้เธออย่างรวดเร็ว เธออัดควันเข้าปอดครั้งหนึ่งก่อนจะปล่อยมันออกมาเป็นก้อนกลมลอยคว้างขึ้นไปในอากาศ
"แป๋วยอมรับว่าได้เรียนรู้อะไรจากเขาเยอะ เขาเป็นนักบิน"
"อ้าว...แล้วเขาไปไหนซะล่ะ?"
"อุปัศวเหตุปีกลายนี้เอง เครื่องตกที่ฟิลิปปินส์" เธอเล่าหน้าตาเฉย ผมคงไม่ต้องวาดภาพมากว่าอุปัศวเหตุทางเครื่องบินนั้นจะทำให้สามีของเธออยู่ในสภาพไหน...
"ก็หมายความว่า เธอเป็นหม้ายละซี...แต่เพื่อนเรายังพริ้งอยู่เลย"
เธอพยักหน้าช้าๆ...จิบวิสกี้อีกอึกหนึ่ง
"แล้วเธอทำอะไรชา? ยังเจาะบ่ออยู่รึเปล่า?"
"ก็ยังทำอยู่ แต่บ่อเล็กไม่ค่อยได้เจาะแล้วนะ.."
แป๋วตีต้นแขนผมดังเผี๊ยะ!!
"เราไปในงานเขาหน่อยเถอะ" เธอชวนผมลุกขึ้นกลับเข้าไปทักทายเจ้าภาพพร้อมกัน
คืนนั้น หลังจากงานเลิกแล้ว ผมกับแป๋วก็ไปเที่ยวกันต่อ รสนิยมของเธอดูช่างวิไลสูงจัดจนผมเกือบสิ้นหวัง... เธอพาผมปีนป่ายขึ้นไปจนถึงเทียร่าคลับ ชั้นบนสุดของดุสิตธานี เดชะบุญที่วันนั้นผมเพิ่งรับตกเบิกมาหยกๆ
"ไม่ได้พบชาตั้งนาน แป๋วเลี้ยงชาเอง" อ้าว..เป็นงั้นไป
"ไม่เป็นไรน่า" ผมกลั้นใจตอบ ก็ลำพังเงินเดือนข้าราชการตัวเล็กๆอย่างผม เงินเดือนจะสักกี่อัฐฬล
"สมัยที่เจฟยังอยู่ เขาพาแป๋วมาที่นี่บ่อย" เธอหมายถึงสามีฝรั่งคนนั้น แป๋วเต้นรำเป็นไฟ ผมงี้ยอมแพ้ แป๋วเก่งขึ้นมากจริงๆ และเธอก็ใช้เงินฟุ่มเฟือยได้สบายเพราะมรดกสามีคนล่าสุด
เธอสั่งคอนยัคให้ผมอีกแก้ว ส่วนเธอเปลี่ยนมาเป็น"บลัดดี้แมรี่"
"แป๋วเธอพักที่ไหน?" ผมถามเพื่อให้แน่ใจ
"แฟล็ต...คนเดียว แล้วชาเธอล่ะ?"
"โรงแรมนะซิ หนุ่มโสด แล้วนานๆเข้ากรุงเทพฯที ไม่รู้จะมีบ้านไว้ทำไมกัน..." ผมตอบตามตรง
คอนยัคของผม และวิสกี้และบลัดดี้แมรี่ของเธอทำให้ความสัมพันธ์เมื่อ ๘-๙ ปีก่อนที่เหินห่างกันไปนั้นกระชับแน่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว เหมือนเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปเมื่อวันวาน
จังหวะเต้นรำที่ทำให้ร่างของผมกับเธอแนบชิดสนิทกันนั้น ช่วยกระพือไฟแรงของความรักครั้งกระโน้นให้กลับขึ้นมาอีก
สิ่งหนึ่งที่เรามีตรงกัน ก็คือความเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย

ดึกของคืนนั้น ผมจึงกลายเป็นอาคันตุกะรับเชิญ ณ ห้องพักเธอ
"โอ้โห...หรูหราน่าอยู่จังเลย.."
มันเป็นอย่างผมอุทานบอกเธอจริงๆ แต่ดูเธอจะไม่สนใจนัก แป๋วล้มตัวลงเอนหลังบนโซฟาตัวงาม สลัดส้นสูงทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
"ห้องน้ำอยู่โน้นนะชา.." เธอชี้ไปที่มุมห้อง
ผมถือวิสาสะเข้าไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่จากตู้ ถอดเสื้อผ้าแล้วดุ่มๆเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นผสมให้พอดีแล้วเปิดทิ้งไว้ ก่อนจะเดินกลับมาที่โซฟาซึ่งแป๋วนอนอยู่
ผมโน้มตัวลงไปจุมพิตหล่อนเบาๆ
"แป๋วยังจำวันนั้นได้มั๊ย?"
"จำได้ซิ ครั้งแรกของแป๋ว ใครจะลืมลง..."
ผมขยี้ปากลงบนกระจับสีชมพูของเธออีกครั้ง สองแขนของเธอโอบขึ้นรอบคอผม
"ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ" ผมคะเนว่าน้ำคงเต็มอ่างแล้ว
"ชาอาบก่อนเถอะ เดี๋ยวแป๋วอาบมั่ง"
ผมลุกขึ้นอย่างว่าง่ายเพราะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาตลอดวัน ออกจากที่ทำงานก็ตรงไปงานเลี้ยงทันที จึงอยากจะแช่น้ำอุ่นให้ชุ่มอุรา
น้ำอุ่นที่ท่วมร่างเปลือยเปล่าของผมนี่มันช่างทำให้เลือดลมเดินดีแท้... ผมจับเจ้าหนูน้อยขึ้นมาดูความยิ่งใหญ่ของมัน... คืนนี้มันคงจะต้องติดบ่วงบาศก์ของพรานสาวคนเดิมอีกแล้วล่ะ
ประตูที่ผมเปิดแง้มทิ้งไว้เปิดออก ผมเหลียวหน้าไปดู
แป๋วอยู่ในชุดวันเกิดก้าวเข้ามา แสงไฟฟ้าในห้องน้ำส่องให้เห็นทุกอณูของเรือนร่างเธอ...
ปทุมถันที่เป็นกระเปาะเล็กๆเมื่อผมได้ลิ้มรสรักครั้งแรกจากเธอนั้น บัดนี้มันพุ่งชูชันราวกับภูเขาหิมาลัย เนื้อหนังมังสาของเธอไม่ได้หย่อนยานไปเลย หากมันกลับเต่งตั่งขาวเนียนละไมไปทั้งตัว สะโพกที่เคยกลมนั้นผายออกนิดๆและสั่นระริกราวกับมีชีวิตเมื่อเธอก้าวเข้ามาหาผม
เนินสวาทยิ่งอวบอูมกว่าแต่ก่อน ขนอ่อนฟูที่มีเพียงบางเบานั้น ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับโคกสวาทนั้นยิ่งนัก
ไอ้หนูของผมมันแข็งพองตัวขึ้นทันที...อารมณ์สวาทผมไหลไปทั่วสรรพางค์
ผมเปลี่ยนจากท่านอนมาเป็นนั่ง
แป๋วก้าวเข้ามาในอ่าง ซึ่งยังมีที่เหลืออีกเยอะแยะ และก่อนที่ผมจะได้ทันทำอะไร เนื้อตัวของแป๋วก็มาประกบอยู่กับตัวผมเสียแล้ว
"ชาคะ...ชารังเกียจแป๋วมั้ย?"
"ใครว่า...ผมยังรักแป๋วอยู่นะ"
"แป๋วไม่ขอทั้งหมดหรอก แป๋วไม่ขอหัวใจ ขอแป๋วแค่เพียงสิ่งที่ชาเคยให้..."
แทนคำตอบ ผมรั้งใบหน้าของเธอเข้ามาแล้วประกบริมฝีปาก มอบจุมพิตอันดูดดื่มให้ ลิ้นของเธอกวัดกับของผมอย่างมีอารมณ์... อา...ไฟเก่านั้นลุกคุโชนขึ้นมาอีกแล้วเธอครางอย่างมีความสุข
แป๋วเอื้อมมือลงไปคว้าเจ้าหนูน้อยของผมไว้ แล้วเธอก็จับมันยัดเข้าไปในระหว่างแคมมหาเสน่ห์
"แป๋ว..." ผมตะลึงลาน
"ชาอยู่ข้างล่าง น้ำอุ่นจะได้ไม่เข้า แป๋วทำให้..."
จริงอย่างเธอว่า ผมเพิ่งจะได้รับความรู้สึกแปลกใหม่เดี๋ยวนี้เอง
แรงกดของน้ำในอ่างตื้นๆเช่นนั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการยักย้ายส่ายตะโพก ของแม่หม้ายพราวเสน่ห์อย่างแป๋วเลย ผมเองก็มีความสุขอย่างประหลาด... เธอพลิกแพลงเพลงรักอย่างรวดเร็ว
"ชาคะ... ชาจำไว้นะ แป๋วตั้งชื่อว่า.. ท่ากินรีเล่นน้ำ"
เธอบอกผมพร้อมกับค่อยๆขยับสะโพกเร็วขึ้น... ผมกระเด้งเอวขึ้นไปรับรูสวาทที่เธอกดลงมาอย่างชำนาญเกม
มือทั้งสองข้างของเธอเกาะขอบอ่าง ขาทั้งสองของผมก็เกร็งเต็มที่ ผมยอมรับว่าเธอทำให้ผมคาดไม่ถึง... เธอเก่งอย่างประหลาด ทำให้ผมมีความรู้สึกมันส์อย่างล้นเหลือ
"ชาคะ... แป๋วมันส์จังเลย...เสียว...อูย..."
เธอครางกระเส่าเมื่อผมเสือกลึงค์ยักษ์เข้าไปในโพรงเสน่ห์ที่เธอกระเด้าลงมา
ผมมีความรู้สึกว่าแรงดูดภายในโพรงสวาทต่อจรวดของผมนั้น มันมีมากเสียจนเสียวไปหมด แป๋วเปิดจุกยางท่อน้ำทิ้ง ปล่อยให้น้ำไหลออกจากอ่างอย่างรวดเร็ว
"แป๋ว...ชาจะออกแล้วนะ...แป๋วจวนรึยัง?...ชาจะไม่ไหวแล้ว"
"แป๋วก็เหมือนกัน...ชากระเด้งอีกหน่อย"
ผมรีบกระเด้งเร็วขึ้น ในขณะที่เธอก็กระเด้าลงมาเต็มที่ สะโพกผมมันแอ่นขึ้นไปจนเกือบจะเหนือน้ำ
"ชาคะ...ชา...เร็ว...แป๋ว...เร็ว..โอย...แป๋ว..ออก...แล้ว...โอย..."
ผมต้องบิดตัวด้วยความสยิว แป๋วไม่ยอมปล่อยให้ผมดึงท่อนเสน่ห์ของผมออกจากโพรงสวาทเธอเลย แต่กลับยิ่งกดโคกนั้นลงมาจนมิดด้ามของผม แล้วก็โยกย้ายสะโพก ขมิบจนท่อนเนื้อของผมแทบขาดออกจากกัน
ผมปล่อยให้ยอดโปรตีนสีขาวข้นพุ่งกระฉูดออกจากลำลึงค์เข้าไปในช่องแคบของสามเหลี่ยมสวรรค์นั้น ส่วนหนึ่งมันย้อยกลับออกมาเลอะอยู่บนหนอกของผม แป๋วใช้ฝ่ามือเรียวบางของเธอละเลงเป็นวง
น้ำในอ่างที่เหลืออยู่เพียงฝ่ามือจากพื้นอ่าง เธอรีบปิดฝาจุกยางแล้วค่อยๆวักน้ำขึ้นมาราดตัวผม
เธอยังปล่อยให้เจ้าหนูขนาดยักษ์ของผมแช่อยู่ในรูเสน่ห์ของเธอ
"เธอยังแข็งแรงเหมือนเดิมนะชา"
"แป๋วเก่งขึ้นเยอะ...ผมไม่นึกเลยว่าจะทำได้ยอดยังงี้"
"ยังมีอีกหลายท่าที่แป๋วตั้งชื่อไว้หมด...อย่างเช่น..กระเรียนเหิรฟ้า,อัศดรออกศึก,เหยี่ยวถลาลม,ชิวหาพาเพลิน..."
"โรแมนติกจัง" ผมคราง แล้วเราก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ผมกับแป๋วถ้อยทีถ้อยอาศัยอาบน้ำชำระร่างกายจากฝักบัวไหลแรง ภายหลังเสร็จการสร้างวิมานฉิมพลีครั้งแรก
แป๋วบีบสบู่เหลวออกจากขวดพลาสติกสีสวยน่ากิน ละเลงไปจนทั่วตัวผม พื้นห้องน้ำขาวสะอาดเปียกโชกจนทั่ว เธอนั่งลงไปบนพื้นก่อนแล้วก็ดึงแขนผมให้ทรุดลงไปด้วย
ละอองน้ำที่เกาะบนเนื้อตัวเธอแทบทุกอณู ยิ่งเพิ่มความงามให้ผมตะลึงตะลาน
"แป๋วจะนวดตัวให้"
ดีเหมือนกัน.. อาบน้ำเสร็จผมคงหลับสบาย
แป๋วบุ้ยใบ้ให้นอนหงายแล้วเธอก็เอนตัวลงตาม มือเรียวงามของเธอทั้งสองข้างลูบไล้ผะแผ่วไปที่สะโพก แล้วใช้ปทุมถันทั้งสองข้างบดขยี้ลงบนแผ่นอกผม ริมฝีปากเธอประกบปากผมแน่น แล้วเธอก็เป็นฝ่ายกวัดลิ้นระรัว
มือของเธอเลื่อนจากสะโพกลงไปที่ลึงค์ยักษ์ที่หมดแรงหลับไหลเบาๆ
แป๋วร้อนแรงและชำนาญเหลือเกิน... ผมเริ่มมีความรู้สึกอยากจะร่วมรักกับเธออีก แต่เจ้าหนูน้อยของผมดูมันจะเพลียมาก
ขาอวบเต่งตึงของเธอทาบทับลงไปบนขาผม มือยังประคับประคองหนูน้อยของผมอย่างทนุถนอม ลูบหัวไปมา

"ชาตรี คุณดื่มนี่สักแก้ว"
แป๋วยื่นส่งแก้วที่มีน้ำใสสีเหลืองบางมาให้ เธอเดินตัวเปล่านวยนาตมาที่เตียงซึ่งผมนั่งอยู่ กลิ่นน้ำหอมระรวยจากตัวเธอชวนให้ฝัน
"น้ำโสมอย่างดี...เพิ่มพลังนะ" เธอบอกเมื่อเห็นผมทำหน้าสงสัย
"ขอบใจจ้ะ..."
เราลงนอนคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ รสรักที่หวานหอม และท่ามกลางบทสนทนานั้น ผมก็ไม่วายที่จะจุมพิตและเคล้าคลึงปทุมถันอันงดงามนั้นด้วย
"ตอนนั้นน่ะเหรอ...เจ็บจะตาย" แป๋วเธอต่อว่า
"แต่แป๋วก็มีความสุขด้วยนี่" ผมยังแย้ง
เธอไม่ตอบ แต่โอบคอผมแล้วจูบอย่างรุนแรง
"เมื่อกี้เธอพูดถึงชื่อเพราะๆตั้งหลายชื่อ..." ผมยังติดใจในชื่อท่าแสนโรแมนติกเหล่านั้น
"ทำไมเหรอ?"
"อยากรู้น่ะซิ ว่าแต่ละท่าน่ะทำยังไงมั่ง?"
"ถ้าชาทำได้หมดทุกท่าในคืนนี้ พรุ่งนี้แป๋วอาจไม่มีชา...อย่าโหมนักซิ"
อาจจะเพราะพลังโสมออกฤทธิ์ หรือเพราะเสน่ห์ร้อนแรงของเธอก็ไม่รู้ ยักษ์แคระของผมมันค่อยๆฟื้นตัว ยิ่งได้สัมผัสกับเนื้อหนั่นเนียนนุ่มของเธอด้วย มันก็แข็งเด่เตรียมสู้อีกครั้งหนึ่ง
"ผมอยากรู้อีกซักกระบวนเพลง..." พลางมือป่ายเปะปะลงไปคลึงที่เม็ดสวรรค์บนโคกสวาท แป๋วส่ายสะโพกรับแรงนิ้วที่คลึงบี้ลงไป
"เอา..ชิวหาพาเพลิน..นะ"
ผมไม่ตอบ...นึกว่าผมคงจะต้องกลับไปทำให้เธอเหมือนเมื่อครั้งกระโน้นอีก แต่ผมผิดถนัด
แป๋วค่อยๆเริ่มกลับตัว...โคกสวรรค์มหึมามาลอยเด่นอยู่ไม่ห่างริมฝีปากผมนัก เธอค่อยๆตวัดลิ้นเรียวเล็กลงไปบนหัวถอกของผมอย่างแผ่วเบา แล้วเริ่มเร็วๆขึ้น... ลึงค์ยักษ์ของผมตั้งโด่แข็งตัวเต็มที่ โคกสวาทของเธอร่อนอยู่ตรงหน้า ผมเองก็มันส์สุดขีดเหมือนกัน ลิ้นตวัดขึ้นไปที่แตดสีทับทิม เสียงเธอครางฮือด้วยสยิว
ท่อนลึงค์ของผมมันถูกดูดเข้าไปในลำคอของเธอเกือบทั้งแท่ง เพียงเธอยกใบหน้างามขึ้นลง ผมก็ซ่านไปทั้งตัว แคมของเธอก็กดลงมาที่ริมฝีปาก จนผมชอนไชลิ้นเข้าไปในรูได้ถนัด ยิ่งกระสันกันมากขึ้น ผมก็เลยเปลี่ยนเป็นเอาฟันเผลอขบแตดเธอเข้าโดยไม่รู้ตัวเบาๆ
"ยังงั้นแหละคะชาตรี... เธอก็เรียนรู้เหลือเกิน...ซี๊ด..เสียวจังเลย"
แป๋วครางลั่นราวลูกนก ก่อนจะหันกลับไปดูดแท่งลึงค์ยักษ์ต่อ
น้ำเมือกของเธอไหลปริ่มออกมาเลอะแคม
ผมทั้งขบทั้งจุ๊บแตดและขยี้ปลายถัน แป๋วเริ่มเร่าร้อนมากขึ้น สะโพกของเธอส่ายสุดระงับ
"ชาคะ...เอาเถอะ...แป๋วอยากแล้ว เสียวจังเลย"
เธอพูดกระเส่าๆแล้วหันมานอนเคียงข้างกับผม ยกขาอวบงามของเธอขึ้น ให้อยู่หว่างขาผมข้างหนึ่ง แล้วยกอีกข้างให้ทับอยู่บนขาผม พลางจับเจ้าลึงค์ยัดเข้าไปในรูของเธอ
เรากอดกวัดรัดกันแน่น ทั้งเธอและผมต่างกระเด้งจนเข้าจังหวะกัน มันเป็นท่าที่วิเศษจริงๆ... ของผมเข้าไปจนมิดด้าม ไม่ต้องออกแรงกระเด้ามากนัก และต่างหันหน้าชนกัน ผมยังจุมพิตเธอได้อย่างเมามันอีกด้วย
นิ้วมือของผมสอดเข้าทางประตูหลังเธอ ทำให้รูสวาทข้างหน้าคับมากยิ่งขึ้นไปอีก ประตูหลังขมิบแรงอย่างร้ายกาจ จนผมคิดว่าถ้านิ้วผมเป็นเจ้ายักษ์เล็ก มันคงถูกขมิบจนแบนแน่
"ดีเหลือเกินชาตรี คุณต้องมาหาแป๋วบ่อยๆนะ...มันส์จังเลย...อูยยย..."
เราต่างกระเด้าเข้าหากัน มือของเธอกวัดรัดสะโพกผมแน่น ในขณะที่ผมก็สอดนิ้วเข้าทางประตูหลังของเธอลึกเข้าไปอีก
"โอย...ชา...เร็ว..เร็วหน่อย..จะออกแล้ว...เร่งให้...ให้.."
"ชาก็จะออก..และ...แล้ว...เร็ว"
เราต่างกระเด้ากันสุดแรงเกิด น้ำอสุจิของผมพุ่งกระฉูดสองสามหน ปลายหัวถอกผมเต้นกระดุบๆเป็นจังหวะอยู่ในโพรง ในขณะที่ตัวมันเองก็ถูกตอดที่หัวจนผมรู้สึกด้วย
ผมยังคาบักเอาไว้เช่นนั้นจนหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...
หลังจากนั้น ผมก็แวะเวียนไปหาเธอเรื่อยมา จนกระทั่งเธอสอนกระบวนเพลงกามให้ผมจนครบหลักสูตร... แต่ดูเหมือนผมจะเป็นนักเรียนที่อาจารย์ไล่ไม่ยอมไปซะแล้ว...

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ จบ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


therasak

ต้องไปหาโสมมากินสัก 10 หัว ขอบคุณครับ

johnywalker

 ::Shy:: ชาตรีเจอแบบนี้ก็สบายตัว สบายใจไปเลยสิ