ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รวมผลงานทั้งหมดของท่าน กิมย้ง 15 เรื่อง

เริ่มโดย zeech, พฤษภาคม 03, 2017, 11:34:45 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

zeech

รวมผลงานอันเกริกไกรทั้งหมด 15 เรื่อง ของกิมย้ง

ผมเป็นคนที่ชื่นชอบนิยายจีนกำลังภายในมาตั้งแต่วัยเด็ก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นผลงานของท่านกิมย้งด้วยแล้ว
ผมจะชื่นชอบเป็นพิเศษ  จึงได้คิดรวมเอาผลงานทั้งหมดของท่านมาลงไว้ในห้องนั่งเล่นนี้ เผื่อว่าจะยามว่างจากกระทู้อื่นๆ
จะได้มาหยิบอ่านกัน

Link ของ E-book ที่นำมาลงผมจะขอซ่อนไว้ เพราะต้องการทราบว่า เพื่อนสมาชิกในบอร์ดนี้
มีความสนใจต่อนวนิยายจีนกำลังภายในเป็นจำนวนเท่าใด  แต่หากว่าสามารถให้ความเห็น วิจารณ์ นิยายของกิมย้ง
ด้วยผมก็คิดว่าน่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนทีน่าจะสนุกนะครับ


เอาล่ะก่อนจะไปอ่านผลงานของท่าน  มาทราบประวัติของท่านกิย้งคร่าวๆกันก่อน





กิมย้ง (Jin Yong) หรือ ดร.หลุยส์ ฉา หรือ จาเหลียงหยง เป็นนักเขียนนิยายกำลังภายในชื่อดัง
เจ้าของผลงาน มังกรหยกไตรภาค ,  8 เทพอสูรมังกรฟ้า, อุ้ยเสี่ยวป้อ และอีกมากมาย เป็นบุคคลที่ได้รับฉายาว่า
"เจ้ายุทธจักรกำลังภายใน" ผลงานของท่านหลายเรื่องอาจกล่าวได้ว่าเป็นงานเขียนที่อมตะ และถูกนำมาทำเป็นภาพยนต์
มากกว่านักเขียนท่านอืนๆ จนเคยมีคนเปรียบเปรยเอาไว้ว่า 100 ปี จะมี 1กิมย้ง คือใน100 ปีจะมีคนแบบกิมย้ง
เกิดขึ้นซักที


กิมย้ง เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1924 ที่อำเภอไฮ้เล้ง เขตไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียง  แห่งภาคตะวันออกของจีน
เป็นบุตรคนที่ 2  บ้านของท่านมีฐานะค่อนข้างดี มีใจใฝ่อ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ ยังไม่ถึง 10 ชวบ ท่านอ่านทั้งหนังสือนิยายจีน
นิยายแปลต่างประเทศ มากมาย รวมทั้ง สุดยอดวรรณกรรมจีนทั้ง 4 อันได้แก่  ซ้องกั๋ง  สามก๊ก  ไซอิ๋ว และ ความรักในหอแดง
ซึ่งเป็นฐานสำคัญที่จุดประกายการเป็นนักเขียนนิยายของท่าน


การศึกษา

ค.ศ. 1929 ที่โรงเรียนเจียเซียง ไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียง

ค.ศ. 1944 เข้าเรียนในภาควิชาภาษาต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยการเมืองแห่งรัฐบาลกลาง

ค.ศ. 1946 ได้ย้ายมาเรียนที่ภาควิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยตงอู๋แห่งเซี่ยงไฮ้ เอกกฎหมายระหว่างประเทศ

ค.ศ. 2005 ได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และ ศึกษาปริญญาเอกในภาควิชาการศึกษาตะวันออก
เอกประวัติศาสตร์จีน ที่ เซนต์ จอห์น คอลเลจ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์


ผลงานทั้งหมดของกิมย้งมีด้วยกัน 15 เรื่อง ได้แก่ [ต้องตอบก่อน จึงจะเห็นลิงค์]

1.จอมใจจอมยุทธ หรือ ตำนานอักษรกระบี่ -Book and Sword: Gratitude and Revenge (พ.ศ. 2498)




เป็นตำนานที่เล่าขานกันว่า พระจักรพรรดิ์เคี่ยนหลงฮ่องเต้ (เฉียนหลงฮ่องเต้) แห่งราชวงศ์ชิง มีสายเลือดจีน (ชาวฮั่น)
แสดงให้เห็นความขัดแย้งระหว่างอำนาจกับเชื้อชาตินิยม นิยายเรื่องนี้ทำให้กิมย้ง ติดอันดับในยุทธจักรนิยายกำลังภายในทันที
เป็นพื้นฐานความสำเร็จในเรื่องต่อ ๆ ไป

 



2.เพ็กฮวยเกี่ยม หรือ กระบี่เลือดเขียว - Sword Stained with Royal Blood (พ.ศ. 2499)




เป็นเรื่องราวของอดีตแมทัพผู้ขับไล่ทหารชิง ถูกใส่ร้ายจนโดนประหารชีวิต แล้วทิ้งลูกชายคนเดียวไว้แก่เสนาธิการทหารทั้งสี่เลี้ยง
ต่อมาเสนาธิการทหารได้หนีการตามล่า และฝากฝังอ้วงเซ็งจี่ไว้กับปรจารย์บนเขาหัวซาน เด็กคนนั้นโตขึ้นมาได้ฝึกวิชาท่องไปทั่วยุทธภพ
เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับพ่อจนได้ไปพบกระบี่งูทองของ เทพบุตรงูทอง โดยบังเอิญ ทำให้ฝีมือนั้นเก่งกาจขึ้นมาก

 



3.มังกรหยก ภาค 1 - The Legend of the Condor Heroes (พ.ศ. 2500)




เป็นยุทธจักรนิยายสำคัญยิ่งเรื่องหนึ่ง ของ กิมย้ง เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลกที่มีคนจีน มีคนกล่าวถึงมากที่สุด
นับตั้งแต่เรื่องนี้เป็นต้นไปนิยายของกิมย้งได้รับการยกย่องว่าเป็นงานชั้นครู เรื่องนี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของกิมย้ง
กิมย้งนำเสนอความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธ์ เป็นแก่นเรื่องหลัก ส่วนแก่นเรื่องรอง คือ ความรักชาติ (จีน) การแก้แค้น (ของก๊วยเจ๋ง)
ตัวละครทุกตัวค่อนข้างเป็นแบบฉบับ ในแนวจินตนิยม เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ต้วละครทุกตัวแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านมากที่สุด
นับแต่ ภูตบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ, พิษประจิม อ้าวเอี้ยงฮง, ยาจกอุดร อั้งชิดกง, ราชันทักษิณ อิดเต็งไต้ซือ,  เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง ฯลฯ

 



4.จิ้งจอกภูเขาหิมะ - Flying Fox of Snowy Mountain (พ.ศ. 2502)




เป็นนิยายกำลังภายในของกิมย้งจัดเป็นเรื่องสั้นที่เขียนได้ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดของยุทธจักรนิยาย โดยวิธีการดำเนินแบบเล่าเรื่อง
มาตรแม้นว่าเป็นเรื่องราวเดียวกันแต่เมื่อกล่าวจากปากแต่ละคนกลับผิดแผกแตกต่าง  ตลอดทั้งเนื้อเรื่องกล่าวถึงปริศนาลี้ลับมากมาย
ใช้วิธีการผูกเรื่องคล้ายกับการสืบสวนคดีแบบปากต่อปากจากนั้นนำเรื่องราวทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันจนได้ปรากฏข้อเท็จจริง
ในด้านของเนื้อหาแม้ไม่นับว่าเลิศพบจบแผ่นดินดุจดั่งสามไตรภาคมังกรหยก แปดเทพอสูรมังกรฟ้า และกระบี่เย้ยยุทธจักร
แต่นับว่าสามารถสะท้อนนิสัยใจคอพื้นเพของมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยมเรื่องหนึ่งโดยผ่านการกล่าววาจาซึ่งสะท้อนลักษณะนิสัย
และความคิดของมนุษย์

 



5.มังกรหยก ภาค 2 - The Return of the Condor Heroes (พ.ศ. 2502)




เป็นเนื้อเรื่องต่อจาก มังกรหยกภาค 1 (ก๊วยเจ๋ง กับ อึ้งย้ง เป็นตัวเอก) เรื่องนี้ฝีมือของกิมย้งพัฒนาขึ้นถึงชั้นครูที่หาผู้เสมอเหมือนได้ยาก
ตัวละครพัฒนาจากความสลักเสลาเกินจริงไปสู่ความสมจริงสมจังอย่างยิ่ง กลวิธีการแต่งมีการวางโครงเรื่องซับซ้อนกว่าภาคแรก
มีโครงเรื่องย่อยซ้อน และแทรกอยู่มาก เข้ามาช่วยเสริมโครงเรื่องใหญ่ได้อย่างลงตัว และ ใช้วิธีการเล่าเรื่องย้อนไปย้อนมาได้อย่างสนุกสนาน
น่าสนใจ ทำให้สามารถตามเรื่องได้ง่ายไม่สับสน ตัวละครแม้จะมีมาก แต่ก็มีความเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งมีทั้งที่ปรากฏตัวมาแล้วจากในภาคแรก
หรือ ปูพื้นเอาไว้ก็มี บทสรุปมาในภาคนี้เช่นเรื่อง ของ ความสัมพันธ์ ระหว่าง จิวแป๊ะทง เอ็งโกว อิดเต็งไต้ซือ และ หลวงจีนชื้ออิม (คิ้วโชยยิ่ม)
บางตัวละครอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ยังถูกนำมากล่าวถึง เช่น เรื่องราวของเฮ้งเต็งเอี้ยง และ ลิ้มเฉียวเอ็ง ส่วนตัวละครที่มีเปิดตัวในภาคนี้
ต่างก็มีความเด่นไม่แพ้กัน โครงเรื่องย่อยเหล่านี้ประสานสัมพันธ์กับโครงเรื่องใหญ่อย่างเหมาะสม ใช้ศิลปะการเล่าย้อนได้อย่างสนุกสนานน่าสนใจ
กิมย้งเองเคยกล่าวเอาไว้ว่า ท่านมีความรู้สึกผูกผันกับตัวละครในเรื่องนี้มาก เหตุที่แต่งให้เซียวเหล่งนึ่งได้กลับมาพบกับเอี้ยก้วยอีกครั้ง
ก็เนื่องเพราะเหตุที่ว่าท่านมีความรู้สึกสงสารตัวละครสองตัวนี้นั่นเอง


 




6.จิ้งจอกอหังการ - The Young Flying Fox (พ.ศ. 2503)




เป็นภาคต่อของ จิ้งจอกภูเขาหิมะ เขียนทีหลังแต่จับเนื้อเรื่องช่วงก่อนหน้า ความยาว 2 เล่มจบ จิ้งจอกภูเขาหิมะ เป็นช่วงที่พระเอก "โอ้วฮุย" อายุ 27 ปี
และย้อนไปช่วงที่โอ้วฮุยเพิ่งเกิดใหม่ๆ  ส่วนจิ้งจอกอหังการ จับช่วงที่โอ้วฮุยยังเด็กๆ 7-8 ขวบ และมาอีกทีช่วงวัยรุ่น 17-18 ได้ พูดง่ายๆ คือเล่าการเติบโต
ของโอ้วฮุยนั่นเอง

 





7.เทพธิดาม้าขาว - Swordswoman Riding West on White Horse (พ.ศ. 2504)




ในอดีตนานมาแล้ว เกิดความปั่นป่วนขึ้นในยุทธภพ เพราะแผนที่ปราสาทฮาปูมี ซึ่งซ่อนสมบัติมูลค่ามหาศาลได้ปรากฏขึ้น ข่าวคราวของแผนที่ได้แพร่สะพัด
ภายในยุทธภพจึงเกิดการหลั่งโลหิตขึ้น  ในที่สุดแผนที่นี้ ก็ได้ตกมาอยู่ในมือของ หลีซา ฉายา ม้าขาว และภรรยา นาม ซาเนี้ยจื้อ ฉายา กระบี่เล็กทองเงิน
ซึ่งถูกไล่ล่าจนมาถึงทะเลทรายอันกว้างใหญ่ ที่แห่งนี้เองที่ทั้งคู่ ได้ทอดร่างกลายเป็นศพ เหลือรอดเพียงบุตรสาวของพวกเขา นาม หลีบุ๋นซิ่ว
หลีบุ๋นซิ่วอาศัยพาหนะของมารดา ซึ่งก็คือม้าสีขาว หลบหนีไปถึงที่ตั้งของชนเผ่าชาวซาฮัค อาศัยอยู่กับชายชราแซ่โก้ย พวกชาวยุทธ์ที่ไล่ล่า ก็มาปล้นสะดมเผ่าซาฮัค
จึงทำให้เผ่านี้เกลียดชังชาวฮั่น  หลีบุ๋นซิ่วได้หลงรักซูปูบุตรชายของซูรูคนักรบอันดับหนึ่งของซาฮัค แต่ไม่อาจสมหวังด้วยกันได้ ซูปูจึงแต่งงานกับอามาน
ส่วนหลีบุ๋นซิ่วก็โดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง แผนที่สมบัติที่ล้ำค่า และ ความรักที่ไม่อาจสมหวัง หลีบุ๋นซิ่วจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ต้องติดตามเอาเอง


 




8.ดาบนกเป็ดน้ำ หรือ อวงเอียตอ -  Blade-dance of the Two Lovers (พ.ศ. 2504)




เรื่องดาบนกเป็ดน้ำเกิดขึ้น ในสมัยราชวงศ์ชิง สำนักคุ้มกันภัย ดาบนกเป็ดน้ำสองด้ามที่เป็นคู่กัน มีค่าล้ำ ไปยัง นครต้องห้าม ระหว่างการเดินทางมีกลุ่มโจรเข้ามาแย่งชิง
เนื่องจากมีข่าวล่ำลือว่า ดาบคู่นี้มีความลับวิชาไร้เทียมทานซ่อนอยู่ เรื่องนี้กิมย้งเขียนในแนวล้อเลียน ขบขัน ล้อเลียนความไร้สาระของผู้คน ที่ค้นหา แย่งชิงความลับยิ่งใหญ่
ที่จะส่งให้ผู้นั้นเลิศเลอไร้เทียมทาน ความลับนั้นคืออะไร เหตุใดพฤติกรรมเหล่านั้นจึงไร้สาระถึงเพียงนี้ ต้องติดตาม


 




9.มังกรหยก ภาค 3 (ดาบมังกรหยก) Heaven Sword and Dragon Sabre (พ.ศ. 2504)




ระยะเวลาถัดจากมังกรหยก ภาค 2 สามถึงสี่ชั่วอายุคน เกี่ยวกับการช่วงชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพของสำนักง้อไบ๊ และสำนักบู๊ตึ้ง ตัวเอก เตียบ่อกี้
(บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอมยุทธ์ที่ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าวอินทรีคิ้วขาว แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่) ซึ่งเป็นลูกหลานในบู๊ตึ้งต้องผจญภัยมากมาย
และสุดท้ายได้เป็นประมุขนิกายเม้งก่า (บางสำนวนใช้ พรรคจรัสหรือพรรครุ่งเรือง) ซึ่งมีบทบาทในการกอบกู้ประเทศจากมองโกล โดยนางเอกในภาคนี้ชื่อหมิ่นหมิ่น
(เตี๋ยเมี่ยง) เป็นลูกสาวของอ๋องมองโกล


 





10.กระบี่ใจพิสุทธิ์ - A Deadly Secret (พ.ศ. 2506)




เป็นนิยายขนาดกลางของกิมย้ง เรื่องนี้แสดงถึงความเลวร้ายสารพัดอย่างของมนุษย์ อาจารย์ แกล้งบอกเคล็ดวิชาผิดๆให้ศิษย์ บิดาฆ่าลูกสาวเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา
ตลอดจนความเลวร้ายอีกนานัปการ จอมยุทธในเรื่องนี้เมื่อมีความตายมาเยือนก็หวาดกลัวคิดเอาตัวรอด บางคนกล้าทำความชั่วเพียงเพื่อให้ตัวมีชีวิตรอด
การกลัวตายเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ทุกคน กิมย้ง ชี้ให้เห็นว่า คนยิ่งสูงใหญ่เท่าใด ก็ยิ่งรักตัวกลัวตายและพลัดพรากจากสิ่งที่รักมากขึ้นเท่านั้น


 




11.แปดเทพอสูรมังกรฟ้า - Semi-Gods and Semi-Devils (พ.ศ. 2506-2509)




เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง นับตั้งแต่ชื่อเรื่อง และที่มาของแรงบันดาลใจ แสดงความใฝ่ใจในพุทธศาสนาของเขา ชื่อภาษาจีน "เทียนหลงปาปู้"
หมายถึง เทพและอมนุษย์ 8 จำพวก ในตำนานของพุทธศาสนานิกายมหายาน กิมย้งเขียนเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในปี พ.ศ. 2506-2510 และปรับปรุงพิมพ์
เป็นเล่มในปี พ.ศ. 2521 ฉบับภาษาไทย จำลอง พิศนาคะ แปลสำนวนแรกในปี พ.ศ. 2522 ใช้ชื่อว่า "มังกรหยกภาคพิเศษ" แต่เนื้อหาและเหตุการณ์ตามท้องเรื่อง
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรหยกทั้ง 3 ภาคเลย ฉากหลังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนมังกรหยกภาคแรกประมาณ 100 ปี
เป็นเรื่องราวในช่วงระหว่างการปกครองของราชวงศ์ซ่งที่กำลังเป็นศัตรูกับมองโกล เฉียวฟงประมุขหนุ่มแห่งพรรคยาจก  สุดยอดจอมยุทธ์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมผู้เป็นที่ศรัทธา
ของเหล่าชาวยุทธ์ ถูกเหล่าคนชั่วนำเรื่องชาติกำเนิดของตนมาเปิดเผยและยังถูกดดันให้สละตำแหน่งประมุขเฉียวฟงจึงออกจากพรรคยาจก พยายามสืบหาประวัติที่แท้จริงของเขา
ระหว่างเดินทางได้รู้จักกับต้วนอี้ องค์ชายแห่งเมืองต้าหลี่ และหลวงจีนซีจุ๊  ทั้งสามได้สาบานเป็นพี่น้องกัน ตลอดเวลาเฉียวฟงถูกกลั่นแกล้งจนท้อแท้และพลั้งมือสังหารอาจู 
หญิงที่เขารักตายไปอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เขาต้องโศกเศร้าเสียใจ และยังต้องระงับศึกระหว่างเมืองเหลียวบ้านเกิด และเมืองซ่ง แผ่นดินที่เขาเติบโตมา ท้ายที่สุดกลับต้องตัดสินใจ
ทำอะไรบางอย่างเพื่อยุติสงคราม

แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ถูกแฟนๆของกิมย้งจัดอันดับให้เป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหมดของกิมย้ง  จะจริงหรือไม่คงต้องลองด้วยตัวท่านเอง


 




12.มังกรทลายฟ้า - Ode to Gallantry (พ.ศ. 2509-2510)




มีบางคนกล่าวไว้ว่า "มังกรทลายฟ้า" ภายใต้การรจนาตัวอักษรของ "กิมย้ง" เปรียบได้เพียงเรื่องคั่นเวลาระหว่างการพักผ่อนหลังจากผลงานอันยิ่งใหญ่ "8 เทพอสูรมังกรฟ้า"
ที่ได้รับการกล่าวขานเป็นหนึ่งในสามสุดยอดของกิมย้ง อันประกอบด้วยอีกสองเรื่องคือ "มังกรหยก" และ "กระบี่เย้ยยุทธจักร" เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มยากไร้ไม่รู้หนังสือ
ที่บังเอิญชีวิตผกผันไปพัวพันอยู่กับวังวนความวุ่นวายในบู๊ลิ้ม จนนำพาตัวเองเข้าสู่แวดวงยุทธจักร และพบกับเรื่องราวปาฏิหาริย์นับไม่ถ้วน จนในที่สุดสำเร็จเป็นยอดยุทธ

ซึ่งคงต้องพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองเช่นกันว่า มังกรทลายฟ้านี้ เป็นเพียงผลงานคั่นเวลาจริงหรือไม่  แต่สำหรับผมแล้วขอตอบอย่างหนักแน่นว่า ท่านไม่ควรพลาด


 




13.กระบี่เย้ยยุทธจักร - The Smiling, Proud Wanderer (พ.ศ. 2510-2512)




กระบี่เย้ยยุทธจักร เป็นเรื่องราวการแย่งชิงความเป็นหนึ่งในยุทธจักร ระหว่าง ธรรมะ และ อธรรม ท่ามกลางความขัดแย้งและการแย่งชิงอันรุนแรง เหล้งฮู้ชง จอมยุทธฝ่ายธรรมะ
ศิษย์เอกของสำนักหัวซาน เป็นคนเปิดเผย ไม่ยึดติดกฎเกณฑ์ คบหาคนด้วยใจ ไม่สนว่าจะเป็นคนฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม จนถูกขับออกจากสำนัก แต่ยังไม่พ้นเข้าไปพัวพัน
เหตุความขัดแย้งต่างๆ ทั้งการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายธรรมะ และการชิงความเป็นใหญ่ภายในของฝ่ายอธรรม จนสับสนวุ่นวายว่าใครกันแน่ที่เป็นมาร ใครกันที่เป็นฝ่ายอธรรม
และใครที่เป็นฝ่ายธรรมะ เพียงต้องการที่จะเป็นที่หนึ่ง ไม่เลือกวิธีการ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน ผู้ได้ฉายาว่ากระบี่ผู้ดี ถึงกับทรยศครอบครัว และศิษย์ของตัวเอง จ้อแหน้เซี้ยง เจ้าสำนักซงซาน
กำจัดทุกคนที่ไม่คล้อยตามตนเอง ก็เพียงต้องการได้ชื่อว่า เป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ

นวนิยายเรื่องนี้ เป็นนวนิยายที่ล้วนแฝงไว้ด้วย แนวคิดปรัชญาการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีการเสียดสีสังคมอยู่ตลอด แต่ก็หาได้ขาดอรรถรสของนวนิยายกำลังภายในไปแต่อย่างใด
ในขณะที่เรื่องดำเนินไป จะเกิดคำถามขึ้นตลอดเวลา ถึงเรื่องของความถูกผิดในพฤติกรรมของตัวละครแต่ละตัว ตัวละครฝ่ายธรรมะ หรือตัวละครฝ่ายอธรรม ต่างมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง
โดยมีตัวละคร เหล้งฮู้ชง เป็นตัวดำเนินเรื่อง และเป็นตัวเปรียบเทียบ ว่าความสุขของชีวิตที่แท้จริงนั้น อยู่ที่ไหนกันแน่

นี่คือ หนึ่งในสามสุดยอดผลงานของกิมย้ง ที่ท่านไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


 




14.กระบี่นางพญา - Sword of the Yue Maiden (พ.ศ. 2513)




กระบี่นางพญา เป็น เนิยายขนาดสั้นเรื่องสุดท้ายของ กิมย้ง เขียนทีหลังอุ้ยเสี่ยวป้อ แต่เมื่อกิมย้งเขียนเรื่องนี้จบ   อุ้ยเสี่ยวป้อยังไม่จบ เป็นเรื่องราวใน ยุคชุนชิว ประมาณก่อนพุทธศักราช
228 - พ.ศ. 67 อันเป็นยุคที่นักปราชญ์บัณฑิตแต่ละสาขาได้ถือกำเนิดและมีชีวิตอยู่ ได้แก่ ขงจื๊อ เล่าจื๊อ เม่งจื๊อ ม่อจื๊อ ซุนวู

เรื่องนี้ดำเนินบนความขัดแย้ง ระหว่าง แคว้นอ้วก (รัฐเยว่) และ แคว้นโง้ว (รัฐอู๋) ในภาคใต้ของ ประเทศจีน  แคว้นโง้วส่งมือดาบมาท้าทายแคว้นอ้วก   ฮ่วมลี่ (ฟ่านหลี) กุนซือแคว้นอ้วกค้นพบ
อาแช  มือกระบี่สาวโดยบังเอิญ อาแชนั้นเป็นสาวชาวบ้านธรรมดาที่มีอาชีพเลี้ยงแพะ ทุกวันได้แต่ฝึกกระบี่กับลิง เนื่องจากไม่มีทุนทรัพย์ที่จะหาซื้อกระบี่จริงมาใช้ เมื่ออาแชต่อสู้กับลิงไปเรื่อยๆ
จนมีฝีมืกระบี่ที่แก่กล้า  อาแชได้สอนเพลงกระบี่แก่นักรบ แคว้นอ้วก (เย่ว์)   ในที่สุด แคว้นอ้วก เอาชนะ แคว้นโง้ว (อู๋) ได้ง่ายดาย

ตอนที่แสดงความเป็นสุดยอดฝีมือของอาแชได้เป็นอย่างดี คือ ตอนที่อาแชบุกฝ่ากองทัพแคว้นเวียดเข้าไปหมายสังหารไซซี เนื่องจากถูกไซซีแย่งชายอันเป็นที่รักไป แต่เมื่ออาแชบุกฝ่าไปถึงตัวไซซีได้
อาแชกลับถูกอานุภาพความงามของนางหยุดยั้งสภาวกระบี่ลง ทำให้ไม่สามารถสังหารไซซีได้ตามใจปรารถนาแต่แรก และด้วยความแรงของกระบี่นั้นของอาแชได้ฝากรอยแผลไว้ที่หัวใจของไซซี
ทำให้ไซซีต้องกุมหัวใจตลอดเวลา เกิดเป็นภาพ ไซซีกุมหัวใจ อันงดงามที่สุดบนพื้นพิภพ

จุดที่แสดงความเป็นสุดยอดฝีมือของอาแชได้ดีที่สุดคือการที่อาแชบุกฝ่าเข้าไปในกองทัพแคว้นเวียดด้วยไม้ไผ่เพียงกิ่งเดียว และที่สำคัญนางได้กลับออกมาด้วยอาการไร้ซึ่งรอยขีดข่วน
ยากที่จะหายอดฝีมือในเรื่องใดของกิมย้งเทียบเคียง ด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้อาแชได้ฉายา หนึ่งเดียวสยบกองทัพ และชื่อเพลงกระบี่ของนางก็มีชื่อว่า เพลงกระบี่แคว้นเวียด


 




15.อุ้ยเสี่ยวป้อ - Deer and the Cauldron (พ.ศ. 2512-2515)




เป็นนิยายเรื่องสุดท้ายของ กิมย้ง  และถือเป็นสุดยอดพัฒนาการทางการประพันธ์ แสดงให้เห็นถึงฝีมือกิมย้งว่า " ไม่มีใครเป็นคู่แข่งได้ " ความเป็นยอดของเรื่องนี้อยู่ที่เป็นนิยายกำลังภายใน
ที่ไม่ใช่นิยายกำลังภายใน นิยายกำลังภายในโดยทั่วไปมีขนบในการแต่งที่เห็นได้ง่ายอยู่สองประการคือ ตัวเอกต้องเป็นจอมยุทธหรืออย่างน้อยต้องมีวิทยายุทธ และตัวเอกต้องเป็นคนดีในแง่ของคุณธรรม
แต่อุ้ยเสี่ยวป้อในเรื่องนี้มีลักษณะตรงข้ามกับขนบดังกล่าวทุกประการ ลักษณะดังกล่าวไม่เคยปรากฏในนิยายกำลังภายในเรื่องใดมาก่อน และคงไม่มีเรื่องอื่นอีกต่อไป เรื่องนี้กิมย้งหันกลับไปใช้ประวัติศาสตร์จีน
สมัยจักรพรรดิคังซี แห่ง ราชวงศ์ชิง มีส่วนสะท้อนการเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่หลังปฏิวัติวัฒนธรรมอยู่ไม่น้อย แต่ความเด่นอยู่ที่สะท้อนธรรมชาติวิสัยมนุษย์ในสังคมปัจจุบันที่ต้องลดมาตรฐานศีลธรรมลง
เพื่อความอยู่รอด เป็นนิยายที่มุ่งสะท้อนความจริงมากกว่าจะชี้นำผู้อ่านอย่างที่กิมย้งเคยสอดแทรกไว้ในแทบทุกเรื่อง นับเป็นการแหวกวงล้อมครั้งยิ่งใหญ่ของนักประพันธ์เอกผู้นี้


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

librarian

ติดตามอ่านงานของท่านกิมย้งเหมือนกัน ขาดแค่สองเรื่องคือ อวงเอียตอ กับกระบี่นางพญา ขอตามเก็บหน่อยครับ

navy868

ผลงานที่ชอบมากคือ ดาบมังกรหยก  มังกรหยกภาคเอี้ยก้วย  แล้วก็แปดเทพอสูรมังกรฟ้าครับ... ::Thankyou:: ::Orz::

kaithai

ในวงการนิยายกำลังภายใน "กิมย้ง"  คือผู้ที่ผงาดเป็นหนึ่ง ฝีมือการประพันธ์ของเขา
ได้รับการยกย่องว่า "ดั่งอาภรณ์สวรรค์ไร้ตะเข็บ" 
ทุกเรื่องที่ท่านประพันธ์ขึ้นมีเอกลักษณ์ของตัวเอก
เป็นที่จดจำของผู้อ่านได้ อย่างมิมีวันลืมเลือน

tampaidoo

ผมชอบเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร มากที่สุด

tacklove

ท่านzeechครับ กระบี่นางพญา ทำเป็นหนังหรือยังครับ ผมหาไม่เจอ

zeech

อ้างจาก: tacklove เมื่อ พฤษภาคม 03, 2017, 08:15:12 หลังเที่ยง
ท่านzeechครับ กระบี่นางพญา ทำเป็นหนังหรือยังครับ ผมหาไม่เจอ

เคยทำเป็นหนังสองครั้ง  แต่หาดูไม่ได้เลย อยากดูอาแชฟาดฟันกระบี่มากๆครับ

neangt


Pem Samsan

กิมย้งเรื่องที่เด่นมากๆนอกจากมังกรหยกแล้ว ก็เรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ซึ่งเป็นต้นตอของคำว่า "วิญญูชนจอมปลอม" กิมย้งเขียนเรื่องเนียนละเอียดอิงประวัติศาสตร์ อีกอย่างปู่แกแก้ไขงานบ่อยมากๆ

kazu36

ขอบคุณครับ
ไม่ทราบว่าท่านอยู่ในห้อง ไทยบู้ลิ้มด้วยหรือเปล่าครับ
https://www.facebook.com/groups/thai.wulim/

P Eet ✦Diamond✦

OMB ... I absolutely loveeeeeee  Jin Yong 's work, One of the best world class writer ever !!!  About 4-5 years ago I started collecting his work ... I own 12 of these 15 titles ... the older one are really hard to find. I looked for them every time I went to BKK !!  Lately... I am trying to collect the whole set of ( ร้อยยุทธจักรนิยายทอง ) ... Sadly... Since I don't live in Thailand .. currently I have only about 22-23 of those sets.

For those that are Chinese period DIE HARD fans.... YOU MUST read at least some of those 100 !!!

Another one of my fave of all time is another Chinese legendary author  .. อ้อเล้งเซ็ง ... fantastic Hero ... Lovely Heroine ... love story that will keep your eyes burning , cuz of non-stop reading !!!
Disclaimer: The view and opinion expressed on this website are solely those of my very own. It is solely for the purpose of entertainment and has NO meaningful value of any kind. They DO NOT necessarily represent those of the majority of READERS & WRITERS of this website staff, and/or any/all contributors to this site.

ஜ۩۞۩ஜ THANK YOU ஜ۩۞۩ஜ 



❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

DIAMONDS ARE FOREVER !!!

   ..... (¯`v´¯)♥
   .......•.¸.•´
   ....¸.•´
   ... (
   ☻/
   /▌♥♥
   / \ ♥♥

zeech

อ้างจาก: kazu36 เมื่อ พฤษภาคม 03, 2017, 09:43:41 หลังเที่ยง
ขอบคุณครับ
ไม่ทราบว่าท่านอยู่ในห้อง ไทยบู้ลิ้มด้วยหรือเปล่าครับ
https://www.facebook.com/groups/thai.wulim/

ไม่ได้อยู่ครับ แต่ขอบคุณมากเลยที่ส่งลิงค์เพจมา  คงต้องขอไปอยู่ด้วยคนแล้ว   ::WooWoo::

zeech

#12
อ้างจาก: P Eet เมื่อ พฤษภาคม 03, 2017, 09:50:59 หลังเที่ยง
OMB ... I absolutely loveeeeeee  Jin Yong 's work, One of the best world class writer ever !!!  About 4-5 years ago I started collecting his work ... I own 12 of these 15 titles ... the older one are really hard to find. I looked for them every time I went to BKK !!  Lately... I am trying to collect the whole set of ( ร้อยยุทธจักรนิยายทอง ) ... Sadly... Since I don't live in Thailand .. currently I have only about 22-23 of those sets.

For those that are Chinese period DIE HARD fans.... YOU MUST read at least some of those 100 !!!

Another one of my fave of all time is another Chinese legendary author  .. อ้อเล้งเซ็ง ... fantastic Hero ... Lovely Heroine ... love story that will keep your eyes burning , cuz of non-stop reading !!!

เจอแฟนกำลังภายในตัวจริงเข้าซะแล้ว ขอตอบเป็นภาษาไทยนะครับ ผมเป็นวิศวกรที่มีจุดบอดทางภาษาอังกฤษอย่างมาก จนถูกนายตำหนิอยู่บ่อยๆ  คุณ P Eet พูดถึงงานของ อ้อเล้งเซ็ง กับ ร้อยยุทธจักรนิยายทอง ผมก็เชื่อแล้วว่าเป็นแฟนนิยายแนวนี้จริง  ตัวผมเองพอเสพงานของกิมย้งแล้ว ก็ขอบอกตรงๆครับว่าพออ่านงานของท่านอื่นก็ยังไม่รู้สึกโดนใจ ผมเสพติดแนวทางของกิมย้งไปแล้วครับ แล้วก็คาดหวังอยู่เสมอว่าท่านจะมีผลงานใหม่ออกมาอีกซักครั้ง  ผมทดลองหาแนวทางการเขียนของนักเขียนท่านอื่นเพื่อจะหางานมาทดลองเสพตามที่มีคนเคยสรุปไว้ ก็ขอนำมาลงไว้ท้ายการตอบกระทู้ของ คุณ P Eet เผื่ออาจมีท่านอื่นๆสนใจ

กิมย้ง โครงเรื่องยิ่งใหญ่เหมือนอ่านมหากาพย์ วางตัวละครดีมาก เห็นพัฒนาการของตัวละคร

เนี่ยอู้เซ็ง เนื้องเรื่องลื่นไหล ละมุนละไม

อ้อเล้งเซ็ง จุดเริ่มต้นของแนวมาตรฐาน พระเอกสู้กับขบวนการยิ่งใหญ่ ตัวเอกหญิงเจ้าปัญญา

ซีเบ๊เหล็ง เขียนบุคลิกตัวละครได้ดีมาก เป็นผู้ริเริ่มการต่อสู้ที่อาศัยสภาวะจิตใจเป็นพื้นฐาน

โกวเล้ง คือจุดหักเหในวงการกำลังภายใน จุดเด่นคือ การเขียนธาตุแท้ใจของคน และสำนวนโวหารกินใจเป็นหลัก

อุนสุยอัน บางเรื่องรู้สึกเหมือนอ่านบทกวี ลึกซึ้ง ได้อารมณ์

อี่บุ้น สุขนาฎกรรม พระเอกเก่ง เมียเยอะ

เซี่ยวอิด แต่ละเรื่องไม่เคยซ้ำ สร้างแนวทางใหม่ตลอด ต้นฉบับการฝึกวิชาจากธรรมชาติ

ลิ้วชั้งเอี้ยง จ้าวแห่งบทบู๊ล้างผลาญ เขียนชีวิตและคุณธรรมในวงการมิจฉาชีพได้ดี

เซี่ยวเส็ก แนวมาตรฐานแต่อ่านสนุกกว่าอ้อเล้งเซ็ง บางเรื่องสอดแทรกคุณธรรมอย่างแนบเนียน

ซีเบ๊จี่อิง นิยมสิทธิสตรี ตัวเอกผู้หญิงมักเก่งกว่า ฉลาดกว่าผู้ชาย เนื้อเรื่องแปลกพิศดาร

ฮุ้นตงงัก เน้นความสมจริง พฤติกรรมลูกผู้ชาย ทุกอย่างได้มาด้วยความพยายาม

ฉิ่นอั้ง เนื้อเรื่องแหวกแนว น่าอ่าน

ต๊กโกวอั้ง ลงตัว ประทับใจ บรรยายความรู้สึกได้ดี

ฮ้วมเล้ง ให้บรรยากาศนิยายจีนรุ่นเก่า เปิดตัวน่าติดตาม (แต่มักจบห้วน)

จูกั้วแชฮุ้น เรียบ ๆ เรื่อย ๆ ต้นตำรับการใช้พิษ

ตั้งแชฮุ้น แนวฝึกวิชา วาสนาซ้ำซ้อน

หวงอี้ ฉากสงครามยิ่งใหญ่ เน้น ยุทธศาสตร์การทหาร การเมือง และเทคโนโลยี หล่อหลอมวิทยายุทธเข้ากับการบรรลุธรรมขั้นสุง

ชิวมั้งฮุ้น เจ้าพ่อแนวแฟนตาซี พระเอกเหาะได้

อึ้งเอ็ง กระชับ เดินเรื่องเหมือนภาพยนตร์ เขีนนบทบู๊เห็นภาพ มันส์สะใจ

พัวเฮี้ยเล้าจู้ พระเอกเลวได้สุด ๆ (เทพกระดูกขาว)

เชาเยียกปิง เรียบ ๆ มาเรียง ๆ พระเอกมักใช้วิชาและอาวุธไม่ครบ
เซียงกั้วเตี้ย เขียนตัวละครเอกได้ดี เนื้อเรื่องไม่ธรรมดา


joker socool

#13
ผลงานของกิมย้งผมติดใจเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อที่สุดครับเพราะเป็นตัวเอกตัวเดีนวที่กิมย้งเขียนให้ไม่มีวิทยายุทธสำหรับสู้เลยผมชอบตรงที่อุ้ยเสี่ยวป้อใช้สมองแทนการเข้าไปสู้เองนี่แหละครับ

จะเรียกว่าชอบอ่านแนววางแผนมากกว่าสู้รบก็ได้ครับ

DR.MAN

8 แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ถ้าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับมังกรหยกก็คงเป็นพวกเคล็ดวิชาต่าง เช่น ดรรชนีสุริยันของตระกูลต้วน , 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร ของพรรคกระยาจก (ซึ่งภายหลังยุคเฉียวฟง ก็ไม่มีใครใช้ได้ดีเท่านี้อีกเลย และกระบวนท่าหายไป 3 ท่า สุดท้ายอั้งชิดกงใช้ความอัจฉริยะของตนเอง สร้างเพิ่มให้ครบ 18)  นอกจากนี้ความเชื่อมโยงของตัวละคร ตวนอี้เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์   และมีศักดิ์เป็นปู่ของอิดเต็งไต้ซือในมังกรหยกครับ

ยอมรับเลยว่า ผมไม่ค่อยได้อ่านผลงานของท่านกิมย้งเท่าไร  เคยอ่านดาบมังกรหยกสำนวนแปลของคุณจำลอง พิศนาคะ แล้วรู้สึกไม่ประทับใจ 5555 เลยเลิกอ่าน โดยส่วนตัวชอบสำนวนการแปลของท่าน ว ณ.เมืองลุง  ของท่านกิมย้งนี่โดยส่วนใหญ่เสพเอาจากพวกหนังกำลังภายใน   ผมมักจะอ่านของท่านโกวเล้งมากเป็นพิเศษ  กับของท่านหวงอี้   แต่ก็ยอมรับว่าสไตล์การเขียนของแต่ละท่านนั้นแตกต่าง และมีเสน่ห์เฉพาะบุคคลจริงๆ

เสียดายท่านหวงอี้ก็เพิ่งมาเสียชีวิต ไม่งั้นน่าจะได้อ่านนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์+การเมืองเข้มข้นๆอีก  เพราะช่วงหลังๆนี้ท่านกิมย้งก็ไม่คลอดผลงานออกมาเลย

ยังไงก็ขอบคุณท่านสำหรับการแบ่งปันนะครับ