ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Choice ตอนที่ 22 - สาวใช้

เริ่มโดย assasin008, พฤษภาคม 19, 2017, 09:59:38 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เลือกได้ 2 นะครับ

โบกี้ - เธอแสดงความรักขนาดนี้แล้ว เราก็ควรจะสนิทสนมกับเธอยาว ๆ ไปเลย
กิ๊ฟ - สาวใช้หน้าเด็กตัวเล็กนมโตคนนี้กำลังน่าขย้ำ
แป้ง - ท่าทางเธอจะน้อยใจแล้วนะ ควรจะไปเอาใจเธอหน่อย
แอล - แม่สาวน้อยท่าทางจะคิดถึงเราแย่แล้ว ไปหาเธอหน่อย
พาแอลไปห้องแป้ง - รับคำเชิญของแป้ง ลองดูซิว่าแอลจะเป็นยังไง
ชวนกิ๊ฟไปห้องแป้ง - เห็นวางแผนกันดีนัก ลองจัดการคู่ไปเลย
เข้าวัด ฟังธรรม ปลูกต้นไม้ ดำน้ำ งมหอย ดูปะการัง

assasin008

คุยเรื่อยเปื่อย

ผลโหวตรอบนี้สูสีมาก น้องกิ๊ฟกับโบกี้คะแนนไล่ตามกันติด ๆ
แต่ถึงตอนนี้คะแนนน้องกิ๊ฟเยอะกว่า ผมก็เลยเลือกให้กิ๊ฟเป็นตัวละครหลักในตอนนะครับ

ขอทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ว่านิยายเรื่องนี้ผมไม่มีโครงเรื่องวางไว้ล่วงหน้า
ผมเขียนไปเรื่อย ๆ ตามผลโหวต ซึ่งจะเป็นไปตามผู้อ่านส่วนใหญ่

ตัวละครที่ได้รับผลโหวตมากที่สุดในตอนนั้น
จะกลายเป็นตัวละครหลักในตอนถัดไป แต่ก็อาจจะมีตัวละครอื่นมาแจมตามเรื่องตามราว
หากตัวละครไหนไม่ถูกโหวตเลย ก็จะค่อย ๆ โดนลดความสำคัญ จนอาจจะไร้บทบาท

ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าทำไมไม่ใช้แว่นสร้างฮาเร็มไปเลยให้จบ
ผมขอตอบว่าถ้าทำแบบนั้น นิยายเรื่องนี้ก็จะจบเร็วครับ
แต่ผมเมื่อถึงจุดหนึ่ง ผมก็จะเผื่อทางเลือกไว้ว่าต้องการรวบหัวรวบหางกันหรือยัง
หากคนอ่านเห็นว่าให้รีบรวบ ผมก็จะไปตามทางนั้น

Choice ตอนที่ 22 –  สาวใช้
....................................
Assasin008 2017-05-19
       

        เช้าวันนี้อากาศไม่ค่อยดีนัก ท้องฟ้าออกจะมืด ๆ ครึ้ม ๆ เต็มไปด้วยเมฆสีดำ อากาศน่านอนเป็นอย่างยิ่ง ผมอ้าปากหาวหวอด ๆ รู้สึกเหมือนอยากจะกลับไปนอนซุกผ้าห่มกอดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของโบกี้ต่ออีกสักหน่อย แต่เช้านี้มีเรียน ผมเลยต้องฝืนแงะตัวเองออกจากเตียงแล้วขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว

        จะว่าไปผมชักอยากจะเอาเสื้อผ้าไปฝากไว้ห้องของโบกี้เหมือนกัน ผมจะได้ไม่ต้องขับรถไปกลับให้เหนื่อยเสียเวลา แต่ก็กลัวจะมีเรื่องถ้าพ่อแม่ของเธอมาเยี่ยม ผมเลยไม่ได้ทำแบบนั้น

        อะแฮ่ม ผมก็บ่นไปงั้นแหละ ความจริงก็คือผมมีชุดสำรองแขวนอยู่ในรถ เพราะเผื่อเอาไว้แล้ว ถ้าจำเป็นผมก็แค่อาบน้ำในห้องโบกี้แล้วเอาชุดใหม่ไปใส่ และความจริงผมก็วางแผนเอาไว้แบบนั้น แต่เมื่อคืนผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปหากิ๊ฟเพื่อคุยให้รู้เรื่องเสียหน่อย ว่าคืนก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมเลยบอกโบกี้ว่าต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน

        เมื่อคืนผมตัดสินใจว่าจะไปหากิ๊ฟก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะไปหาเธอตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ คนที่บอกให้ผมทำแบบนี้คือแป้ง เอ่อ ไม่ต้องงงนะครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

        แรกสุดผมคิดจะคุยกับกิ๊ฟแล้วนัดเจอกัน แต่ผมนึกได้ว่ากิ๊ฟเธอได้เบอร์ผมมาจากแป้ง ดังนั้นแป้งต้องรู้ว่ากิ๊ฟติดต่อกับผม และด้วยความสนิทของแป้งกับกิ๊ฟ ผมว่าแป้งน่าจะรู้เรื่องเกือบทุกอย่าง ดังนั้นถ้าผมแอบ ๆ ติดต่อกิ๊ฟแบบข้ามหน้าข้ามตาแป้ง แป้งอาจจะเคืองผมเรื่องนี้ก็ได้ ผมเลยตัดสินใจโทรหาแป้งระหว่างที่โบกี้กำลังอาบน้ำ

        ผมเริ่มจากทำเนียนคุยกับแป้งประสาหนุ่มสาวโดยไม่ได้พูดถึงกิ๊ฟเลยสักคำ รอจนแป้งเป็นคนเอ่ยปากเองว่าเธอให้เบอร์ติดต่อผมไป ผมถึงค่อยคุยถามรายละเอียด แป้งทำอุบเงียบไม่ยอมบอก เธอแค่บอกให้ผมไปคุยกับกิ๊ฟที่หอพักตอนพรุ่งนี้เช้ามืดเลย แป้งจะเป็นคนนัดกิ๊ฟให้เองอีกต่างหาก

        ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดดี โบกี้ก็อาบน้ำเสร็จพอดี ผมเลยไม่ได้คุยต่อว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง แต่ตอนนั้นผมคิดว่าช่างมัน ยังไงผมก็คิดจะไปเจอกิ๊ฟอยู่แล้ว ไม่ว่าแป้งจะวางแผนอะไรไว้ แต่ผมว่าแป้งไม่ได้คิดร้ายอะไรกับผม อย่างน้อยผมก็ไว้ใจแป้งในระดับหนึ่ง หรือถ้ามีอะไรขึ้นมา อย่างดีผมก็ค่อยใช้แว่นวิเศษเอาตัวรอดไปก่อนก็ยังได้

        ก๊อก ก๊อก ก๊อก

        ผมขับรถออกมาจากคอนโดดของโบกี้ครู่เดียวก็ถึง ผมเดินขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องพักของน้องกิ๊ฟแล้วยืนรอ ไม่นานนักประตูห้องก็แง้มออกเล็กน้อย สาวสวยหน้าเด็กโผล่หน้าออกมายิ้มให้ผมแบบเขิน ๆ แต่ไม่ได้เปิดประตูให้ผมเข้าไปด้านใน ผมเลยยืนงง ๆ ทำตัวไม่ถูก

        "เอ่อ สวัสดีกิ๊ฟ คุยกับแป้งแล้วใช่หรือเปล่า"

        ผมยิ้มและพูดทักทายเพราะเริ่มไม่แน่ใจว่ากิ๊ฟรู้เรื่องหรือเปล่า แต่กิ๊ฟเธอทำท่าเหมือนรู้ว่าผมจะมา เพียงแต่เธอกำลังยิ้มเขิน ๆ เหมือนลังเลอะไรบางอย่าง หรือเธอจะลังเลว่าควรให้ผมเข้าห้องไปหรือเปล่า ผมเลยถามเธอไปอีกรอบให้แน่ใจ

        "ถ้าไม่สะดวกให้เข้าห้องก็ไม่เป็นอะไรนะ"

        "เปล่าค่ะ เปล่า ... คือ ... เอ่อ พี่หนุ่มเข้ามาเลยก็ได้ค่ะ"

        พอผมถาม กิ๊ฟก็ทำหน้าตาตื่นส่งเสียงโพล่งออกมา จากนั้นประตูห้องก็เปิดเข้าไปด้านใน ผมเบิกตากว้างให้กับภาพที่ได้เห็น เจ้าหนอนน้อยที่นอนสงบนิ่งอยู่ตรงเป้ากางเกงก็ตื่นตัวผงกหงึก ๆ ขึ้นมาทันที ตอนนี้ผมพอจะรู้แล้วว่าทำไมกิ๊ฟทำท่าเขิน ๆ เหมือนไม่กล้าเปิดประตู

        แรกสุดผมเห็นแค่หน้า แต่พอประตูเปิดผมก็เห็นเธอเต็มตัว ตอนนี้กิ๊ฟกำลังยืนหน้าแดงบิดตัวไปมาด้วยท่าทางเขินสุดชีวิต ร่างขาวโพลนท่อนบนของเธอมีแค่เสื้อกล้ามสีขาวเนื้อบางตัวเล็กจิ๋วปิดทับอยู่แค่ชิ้นเดียว มันตัวเล็กมาก ๆ จนหน้าอกอวบเกินตัวของกิ๊ฟดันชายเสื้อลอยขึ้นมาจนเกือบเห็นฐานเต้า แถมยังบางเฉียบจนมองทะลุเห็นปลายถันได้เต็มตา

        ส่วนท่อนล่างของกิ๊ฟก็เซ็กซี่ไม่แพ้ท่อนบน เธอใส่กางเกงในสีขาวแค่ตัวเดียว ไม่มีกางเกงหรือกระโปรงอะไรอีก ผมเลยเห็นท่อนขาขาว กับความโหนกนูนที่ผมเพิ่งได้เสพสัมผัสไปเมื่อคืนก่อนจนเป้ากางเกงของผมตุงโด่ขึ้นมา

        "ส ... สวัสดีค่ะพี่หนุ่ม ..."

        กิ๊ฟยืนแอ่นอกอวบอูมและเอาสองมือไขว้หลัง เธอส่งเสียงทักผมด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักแตกตื่น หน้าของเธอแดงซ่านเหมือนกำลังเขินสุดชีวิต แต่ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะปกปิดเนื้อตัวไม่ให้ผมมองสักนิด หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือเธอเจตนาแต่งตัวแบบนี้ให้ผมดูอยู่แล้วตั้งแต่แรก

        "... กิ๊ฟสวยจัง"

        ผมกลืนน้ำลายลงคอดังอึกแล้วพูดชม สายตาของผมโดนเรือนร่างของน้องกิ๊ฟดูดไปจนหมด ท่าทางขี้อายกับการเสนอสนองของเธอเข้ากันได้อย่างลงตัวไม่น่าเชื่อ ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอทำแบบนี้ แต่ก็รู้สึกว่าเสน่ห์ของเธอตอนนี้สุดยอดเอามาก ๆ

        "ขอบ ... ขอบคุณค่ะพี่หนุ่ม"

        กิ๊ฟตอบด้วยเสียงตะกุกตะกักเหมือนเดิม เธอยืนบิดส่ายไปมาจนเต้านมกระเพื่อม ผมชักจะเริ่มสงสัยว่าที่จริงแล้วเธอกำลังเขินหนักมาก หรือเธอเจตนาจะส่ายนมอวบ ๆ ของเธอเพื่อยั่วผมกันแน่

        "พี่อยากคุยเรื่องเมื่อคืนก่อน"

        ผมกลั้นใจพูดเข้าเรื่อง เพราะเจตนาแรกคืออยากขอโทษเผื่อกิ๊ฟโกรธที่ผมปล้ำเธอตอนเมา กับอีกอย่างก็คือผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคืนนั้น แต่สองตายังมองนมเต้าอวบคู่นั้นของกิ๊ฟแทบไม่กระพริบ โดยเฉพาะตรงเม็ดจุกที่ดันเสื้อยืดออกมา รู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เป้ากางเกงของผมกำลังบวมเป่งขึ้นมาแล้ว

        พอพูดถึงเรื่องนี้นอกจากกิ๊ฟจะไม่ได้แสดงท่าทีโกรธอะไรแล้ว เธอยังสะดุ้งรีบพูดขอโทษผมหน้าตาเฉย ผมเลยงงหนักเข้าไปอีกว่าทำไมเธอต้องขอโทษผมด้วย

        "หนูขอโทษนะคะ เรื่องคืนนั้น หนูไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ หนูไม่น่าทำตัวแบบนั้น หนูทำให้พี่หนุ่มต้องเผลอนอกใจพี่โบกี้ หนูขอโทษนะคะพี่หนุ่ม"

        "... ไม่รู้ตัว?"

        "ค่ะ สงสัยหนูจะเมา มันเบลอ ๆ ร้อน ๆ วูบวาบ ยิ่งเห็นพี่หนุ่มมีอะไรกับพี่โบ หนูก็อยาก ... เอ่อ ... อยากโดนทำเหมือนพี่โบบ้าง หนูก็เลยเผลอยั่วพี่หนุ่มไป"

        กิ๊ฟพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอก้มหน้าไม่กล้าสู้สายตาผม ผมเลยยิ่งมองนมเธอได้สะดวกกว่าเดิม ท่าทางของเธอเหมือนเป็นฝ่ายทำความผิด แต่ความจริงแล้วผมคิดว่าผมต่างหากที่ทำเรื่องผิด เจอแบบนี้ผมเลยงงแล้วก็อึ้งไปอีกดอก

        "เดี๋ยวนะ กิ๊ฟไม่โกรธเหรอ ที่โดนทำแบบนั้น ... ครั้งแรกของกิ๊ฟด้วยใช่หรือเปล่า"

        "ค่ะ ครั้งแรก แต่ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ถ้าเป็นพี่หนุ่มก็ไม่เป็นอะไร"

        ผมมองท่าทางเขินอายของกิ๊ฟแล้วรู้สึกใจกระตุก ลมหายใจกลายเป็นหอบแรงขึ้น ผมรู้สึกเหมือนกำลังโดนยั่ว และอารมณ์ของผมก็กำลังพุ่งทะยาน ทั้งที่เมื่อคืนเพิ่งจะมีอะไรกับโบกี้ไปหลายยก

        รู้สักตัวอีกทีผมก็เดินเข้าไปหากิ๊ฟ เธอยืนตัวสั่นมองผมด้วยสายตาเอียงอายแต่ไม่ได้แสดงท่าทางจะหลบหนี เสียงของเหล่าปีศาจร้ายในตัวผมก็เลยตะโกนร้องกันอย่างพร้อมเพรียงว่าให้ผมจัดการเธอซะ

        ผมหยั่งเชิงด้วยการยื่นมือไปแตะแก้มนวลเนียนแล้วลูบเบา ๆ กิ๊ฟยืนนิ่งไม่หลบ เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับผม ทั้งยังเอียงแก้มคลอเคลียเข้าหาฝ่ามือของผม ท่าทางของเธอคล้ายลูกแมวน้อยขี้อ้อนแสนน่ารักตัวหนึ่ง

        "ทำไมล่ะ ทำไมกิ๊ฟยอม"

        ผมถามพลางลูบมือไปตามแก้มเนียนนิ่ม กิ๊ฟมองผมอีกครู่หนึ่ง ถึงค่อยยอมเอ่ยปากตอบคำถามนี้

        "หนูชอบพี่หนุ่ม พี่ใจดี"

        "ชอบ?"

        ผมทวนคำด้วยความงุนงง ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเธอจะชอบผมได้ยังไง ในเมื่อเราก็เพิ่งจะได้คุยกันจริงจังเมื่อวาน พอตกกลางคืนผมก็ขึ้นเตียงกับเธอ แต่นอกจากนั้นแล้วเราก็ไม่ได้สนิทสนมกันเลย และผมไม่ได้ใช้แว่นวิเศษปรับความคิดอะไรของกิ๊ฟเลยสักนิดด้วยซ้ำ

        "ค่ะ เพราะว่าพี่หนุ่มช่วยหนูโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน หนูก็เลยชอบพี่หนุ่ม ... คือ ... หนูอยากจะบอกว่า เมื่อวานหนูปฏิเสธข้อเสนอของพี่โต๋ แล้วหนูก็เลิกคบกับพี่โต๋แบบเด็ดขาดแล้ว"

        กิ๊ฟพูดจบก็ระบายลมหายใจออกจนหน้าอกกระเพื่อมเหมือนโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย ผมมองเธอด้วยความแปลกใจที่เธอเอาเรื่องนี้มาบอกผม เธอคงไม่บอกเฉย ๆ แต่ต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่าง

        "หนูเคยชอบพี่โต๋มากก็จริง แต่เราไม่เคยมีอะไรกัน อย่างมากก็แค่จับมือ หนูเกือบจะยอมให้พี่โต๋มีอะไรด้วยอยู่แล้ว แต่ว่าบ้านหนูเจอปัญหาเสียก่อน ทีแรกหนูนึกว่าพี่โต๋จะช่วยเหลือตอนที่หนูลำบาก แต่พี่โต๋กลับเหยียบย่ำซ้ำเติมหาเรื่องเอาเปรียบ หนูก็เลยได้เห็นธาตุแท้ของพี่โต๋ แล้วตอนนั้นพี่หนุ่มก็เข้ามา หนูไม่นึกเลยว่าอยู่ดี ๆ จะมีคนยื่นมือมาช่วยแล้วไม่เรียกร้องเอาอะไร"

        "ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือหนูไว้ หนูเอาเงินที่พี่ให้ไปจ่ายค่าเทอมค่าห้องหนี้สินทุกอย่างที่ค้างเอาไว้แล้ว เหลือเงินส่วนหนึ่งหนูจะเก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ หนูสัญญาว่าถ้าวันไหนหนูฟื้นตัวมีเงิน หนูจะรีบหามาคืนพี่ให้เร็วที่สุด"

        "เรื่องเมื่อคืนนั้นหนูอาจจะเบลอ ๆ แต่หนูรู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไร ถ้าหนูไม่อยากทำหนูก็คงปฏิเสธได้ แต่หนูก็ยังเผลอตัวทำไปตามอารมณ์ หนูอยากจะบอกว่าหนูไม่ได้เสียใจเรื่องที่ทำไป และหนูเองก็มีความสุขมากที่ได้มีอะไรกับพี่แบบนั้น"

        "พี่แป้งก็เหมือนพี่สาวของหนู พี่โบกี้ก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่แป้ง หนูไม่รู้ว่าพวกพี่มีความสัมพันธ์ซ้อนกันยังไง แต่หนูรับรองว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ให้พี่โบรู้"

        กิ๊ฟมองสบตากับผมแล้วพูดระบายออกมาเป็นชุด ผมไม่แปลกใจนักเพราะเดาเรื่องพวกนี้ไว้บ้างแล้ว ยกเว้นก็แต่เรื่องความรู้สึกของเธอตอนเสียสาวให้ผม พอได้ยินว่าเธอไม่โกรธ ผมก็เลยโล่งใจแล้วเผลอถามคำถามที่ตรงไปตรงมาเกินไปสักหน่อย

        "หัวใจหนูเต้นแรงตอนที่พี่ให้เงินแล้วก็เดินหนีไปเหมือนไม่หวังสิ่งตอบแทน พี่ช่วยฉุดหนูจากหลุมบ่อ แต่พี่ไม่ได้เรียกร้องอะไรตอบแทนเลย ตั้งแต่ตอนนั้นหนูก็ใจเต้นแรงทุกครั้งที่เจอพี่"

        เสียงตอบของเธอทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นมา จะว่าไปมันก็ฟังดูมีเหตุผล ก่อนหน้านี้พี่โต๋คนที่เธอคบเป็นแฟนไม่ได้ช่วยเหลือเธอ แต่เลือกที่จะสร้างเงื่อนไขให้เธอใช้ร่างกายแลกเงิน เธอคงจะรู้สึกแย่มากพอดู แต่พอผมโผล่เข้าไปช่วยแบบไม่เรียกร้องอะไร อารมณ์ของเธอก็เลยอาจจะตีกลับมาในแง่บวก

        ผมมองกิ๊ฟด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เพราะว่าเธอแตกต่างจากคนอื่น โบกี้ แป้ง และน้องแอลอาจจะรักผม แต่ว่าผมได้สนิทสนมกับพวกเธอก็เพราะพลังของแว่นวิเศษ ส่วนกิ๊ฟนั้นผมไม่ได้ใช้พลังอะไรของแว่นเลย เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เปิดใจรับผมเข้าไปด้วยตัวเธอเอง

        "... หนูรู้ว่าพี่หนุ่มคบกับพี่แป้งกับพี่โบกี้ก่อนหน้าแล้ว หนูเองก็ไม่อยากเข้าไปแทรก ... ถ้าพี่ไม่รังเกียจ หนูอยากจะเป็นเด็กเลี้ยงของพี่หนุ่ม พี่อยากจะทำอะไรกับหนูเมื่อไหร่ก็ได้ หนูรับรองว่าจะเก็บเป็นความลับไม่บอกใครเด็ดขาด"

        "เมื่อวานหนูคุยกับที่บ้านแล้ว ที่บ้านกำลังแย่ ไม่มีเงินส่งเสียหนู พ่อแม่ขอให้หนูพักการเรียนแล้วไปช่วยที่บ้านทำงานหาเงินก่อน หนูไม่รู้ว่าต้องทำยังไง หนูเลยปรึกษาพี่แป้ง แล้วพี่แป้งก็บอกให้หนูมาขอให้พี่หนุ่มช่วย หนูไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้พี่ช่วยค่าเทอมกับค่ากินอยู่ทั่วไปก็พอ หนูจะย้ายไปอยู่หอพักที่ราคาถูกกว่านี้"

        สาวร่างเล็กขี้อายคนนี้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากความ แต่พอเธอพูดออกมาก็ตรงประเด็นเสียจนผมตั้งตัวไม่ทัน สรุปว่าเธอปฏิเสธข้อเสนอของพี่โต๋ แต่เลือกที่จะยื่นข้อเสนอนั้นให้ผมแทน เพราะแบบนี้เองเธอถึงได้บอกว่าเลิกคบกับพี่โต๋โดยเด็ดขาดแล้ว

        ตอนนี้ผมถึงค่อยเข้าใจว่าทำไมแป้งถึงย้ำบอกให้ผมรีบมาเจอกิ๊ฟทันที นั่นเพราะว่าเธอกำลังเข้าตาจนหาคนช่วย ถ้าไม่มีใครช่วยเธอก็ต้องพักการเรียนแล้วกลับบ้านไปช่วยพ่อแม่ทำงาน แต่ถ้าผมช่วย เธอก็จะสามารถเรียนได้เหมือนเดิม

        "... แน่ใจเหรอว่าอยากทำแบบนี้"

        "ค่ะ หนูคิดมาทั้งคืนแล้ว หนูจะเก็บเป็นความลับ ถ้าพี่อยากจะทำอะไรกับหนูเมื่อไหร่ก็ได้แล้วแต่พี่จะต้องการ"

        ผมมองตาเธอแล้วเริ่มรู้สึกลังเล พูดกันตามประสาลูกผู้ชาย ผมก็อยากช่วยสาวสวยอย่างกิ๊ฟ และผมก็อยากมีอะไรกับเธอด้วย แต่ถ้าพูดกันระยะยาวแล้วผมไม่แน่ใจนัก

        ก่อนนี้ผมช่วยเพราะสงสารและอยากขัดขาพี่โต๋ไม่ให้สมหวัง เงินก้อนนั้นมันถือว่าเล็กน้อย เป็นแค่เงินค่าขนมที่สะสมไว้ส่วนหนึ่งถือว่าไม่เยอะอะไร แต่ถ้าผมจะเลี้ยงดูกิ๊ฟระยะยาว เงินที่ต้องใช้ก็ไม่ใช่น้อย ๆ ถึงผมจะแน่ใจว่าจ่ายไหว แต่ก็ดูไม่ค่อยเหมาะ เพราะว่าผมยังไม่ได้หาเงินเอง ผมยังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่

        ปัญหาอีกอย่างก็คือ ถึงเธอจะพูดแบบนี้ แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วกิ๊ฟคิดอ่านอะไรยังไง หรือเธอมีความคาดหวังอะไรมากกว่าที่พูดหรือเปล่า ถ้าพูดสั้น ๆ ก็คือผมยังไม่ได้ไว้ใจกิ๊ฟนั่นล่ะครับ ถ้าไม่มีอะไรก็แล้วไป แต่ถ้ามีก็อาจจะเป็นเรื่องราวได้

        โชคดีที่ปัญหานี้อาจจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนอื่น แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นเหมือนปัญหาเล็ก ๆ เพราะผมมีเจ้านี่อยู่กับตัว ผมหมายถึงเจ้าแว่นวิเศษของผมนั่นล่ะครับ

        "กิ๊ฟ มองแว่นพี่หน่อยซิ"

        ผมบอกเธอและรีบกดปุ่มเล็ก ๆ ตรงกรอบแว่นทันทีเมื่อเธอมองมา ผมเห็นแสงสีขาวแวบหนึ่ง ส่วนน้องกิ๊ฟนั้นเธอสะดุ้งเบา ๆ นิดหน่อย แล้วเธอก็ทำท่าเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ซึ่งเป็นอาการปกติของคนที่โดนพลังของแว่น แต่ครู่เดียวสายตาของเธอก็กลับมาเป็นเหมือนปกติ

        "เรามานั่งคุยกันดี ๆ สักหน่อยนะกิ๊ฟ"

        "ค่ะพี่หนุ่ม"

        ผมมองเธอแล้วขยับไปนั่งบนขอบเตียง ผมสูดลมหายใจปรับสติอารมณ์เพื่อเตรียมสอบถามความจริง ผมคิดจะนั่งคุยกันดี ๆ ก่อนจะได้รู้เรื่อง แต่หัวสมองดันคิดแต่เรื่องนมเต้าอวบ ๆ ของเธอ กิ๊ฟเลยไม่ได้นั่งคุยกันดี ๆ อย่างที่ผมบอกให้ทำ เธอขยับตัวมานั่งคร่อมบนหน้าขาผม แล้วก็จับหน้าของผมซุกเข้าหาร่องนมขาวอวบนุ่มแน่นจนผมแทบหายใจไม่ออก

        กลิ่นหอมกรุ่นกับความนุ่มนิ่มของสองเต้าขาวโพลนทำให้ผมเกือบสติหลุดไม่อยากคุยอะไรให้เสียเวลาอีก แต่ยังดีที่ผมเพิ่งระบายอารมณ์กับโบกี้มาแล้วทั้งคืน อารมณ์หื่นมันเลยไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่

        ผมซุกหน้ากับร่องนมครู่เดียวก็ถอนหน้าออกมามองกิ๊ฟแล้วพยายามตั้งสติคุยกับเธอ เรื่องอื่นเอาไว้ผมอยากทำทีหลังก็ยังได้

        "กิ๊ฟ อยากจะขายตัวจริงเหรอ เอ่อ ผมหมายถึง กิ๊ฟอยากจะใช้ร่างกายขายเซ็กส์กับผม เพื่อแลกกับให้ผมช่วยเหลือเรื่องเงิน น้องกิ๊ฟอยากทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ"

        "ไม่อยากทำค่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากทำแบบนั้นหรอก"

        คำตอบของกิ๊ฟในตอนนี้แตกต่างจากก่อนหน้าจนผมขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่ายินดีที่จะทำ แต่ว่าคำตอบที่แท้จริงหลังจากโดนพลังของแว่นสะกดกลับเป็นอีกแบบ ซึ่งจะว่าไปแบบหลังมันก็ดูสมเหตุสมผลกว่า ใครกันจะอยากทำแบบนั้น

        "ไม่อยากทำ แล้วทำไมต้องทำล่ะ"

        "ถ้ากิ๊ฟไม่ทำ กิ๊ฟก็ต้องหยุดเรียนกลับบ้าน พ่อกับแม่บอกว่าจะให้กิ๊ฟไปแต่งงานกับเสี่ยแก่ ๆ เพื่อช่วยเรื่องเงิน"

        พอฟังถึงตรงนี้ความหงุดหงิดก่อนหน้าของผมก็หายไปโดยสิ้นเชิง ผมเริ่มรู้สึกสงสารเห็นใจเธอขึ้นมา ก่อนหน้านี้เธอแค่บอกว่าจะต้องกลับไปช่วยงานที่บ้าน เธอไม่ได้พูดเรื่องจะโดนจับไปแต่งงานกับเสี่ยแก่ ๆ เลยสักคำ

        "ทำไมไม่บอกก่อนล่ะ ว่าจะโดนจับไปแต่งงานกับเสี่ย"

        "กิ๊ฟกลัวคนอื่นจะด่าพ่อกับแม่ว่าทำเรื่องไม่ดีกับลูกสาว"

        ผมอึ้งไปอีกรอบ นอกจากจะน่าสงสารแล้วเธอยังคิดเผื่อพ่อกับแม่ด้วย แม้จะไม่พอใจเรื่องการโดนจับแต่งงาน แต่กิ๊ฟก็ยังเลือกที่จะไม่พูดให้ใครรู้เพื่อเรียกคะแนนสงสาร ยอมรับเลยว่าผมใจอ่อนลงไปอีกเยอะ

        "ถ้าพี่ไม่ยอมรับข้อเสนอของกิ๊ฟ กิ๊ฟจะทำยังไง จะหาคนอื่นอีกหรือเปล่า เช่นพี่โต๋"

        "ถ้าพี่หนุ่มไม่รับ กิ๊ฟก็ต้องรับชะตากรรม กลับบ้านไปแต่งงานกับใครก็ได้เพื่อปลดหนี้ให้พ่อกับแม่"

        "ทำไมต้องเป็นพี่ล่ะ ทำไมถึงเสนอให้พี่คนเดียว กิ๊ฟสวยน่ารักขนาดนี้ มีผู้ชายอยากช่วยออกจะเยอะแยะ"

        "เพราะว่ากิ๊ฟชอบพี่หนุ่ม"

        "..."

        ก่อนนี้ผมได้ยินเธอบอกว่าชอบผมแล้ว แต่ความรู้สึกของผมยังไม่รุนแรงเท่าตอนนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าเธอชอบผมจริงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ทุกคำพูดที่เธอสื่อออกมาล้วนแล้วแต่ความเป็นจริง และเธอชอบผมจริง ๆ

        "ทำไมชอบพี่ล่ะ เราเพิ่งได้คุยกันจริง ๆ เมื่อวานเองด้วยซ้ำ"

        "ตั้งแต่พี่ช่วยหนูโดยไม่หวังอะไรตอบแทน หนูก็ชอบพี่แล้ว แล้วตอนนี้เรามีอะไรกันแล้ว หนูเป็นผู้หญิงของพี่แล้ว หนูก็เลยอยากเป็นของพี่แค่คนเดียว ไม่อยากยุ่งกับคนอื่นอีก"

        "เรื่องแค่นี้น่ะเหรอ ทำให้กิ๊ฟชอบพี่"

        "ยังมีอีกค่ะ พี่โบกี้เป็นไอดอลของหนู พอเห็นพี่โบกี้คบพี่หนุ่มเป็นแฟน หนูก็แน่ใจว่าพี่จะต้องเป็นคนดี สำหรับพี่อาจจะเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับหนูแลว้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก"

        "อืม ... กิ๊ฟรู้แล้วว่าพี่เป็นแฟนกับโบกี้ แต่กิ๊ฟก็ยังจะมาเสนอขายตัวกับพี่อีกเหรอ"

        "ค่ะ หนูรู้ว่าพี่เป็นแฟนกับพี่โบกี้ แล้วพี่ก็ยังมีอะไรกับพี่แป้งด้วย แต่หนูก็ยังอยากเป็นของพี่"

        "แล้วกิ๊ฟคิดเรื่องนี้ยังไง หึง หวง ไม่พอใจหรือเปล่า"

        "หนูอิจฉาพี่โบกี้ หนูอยากเป็นแฟนกับพี่หนุ่ม"

        "... แค่อิจฉาเหรอ กิ๊ฟคิดจะทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า"

        "หนูไม่ทำหรอกค่ะ พี่โบกี้เป็นคนดีช่วยดูแลหนูมาตั้งเยอะ แล้วที่สำคัญ หนูไม่กล้าทำเรื่องที่ทำให้พี่หนุ่มเกลียดหนูหรอก ถ้าพี่เกลียดหนูเข้า ชีวิตหนูคงไม่มีอะไรอีกแล้ว"

        ฟังน้ำเสียงของเธอแล้วผมต้องอึ้งไปอีกรอบ ถ้าผมได้ยินเธอพูดแบบนี้ตอนไม่โดนแว่นควบคุม ผมคงจะคิดว่าเธอพูดเพ้อเจ้อไปตามอารมณ์ แต่ว่าตอนนี้เธอโดนแว่นควบคุม แสดงว่าเธอพูดแต่ความจริง และนั่นหมายความว่าเธอวางตัวผมเป็นคนสำคัญในชีวิตของเธออย่างยิ่ง

        ผมรู้สึกเครียดขึ้นมาสักหน่อย ความจริงมันก็น่าภูมิใจหรอกนะที่มีผู้หญิงมาหลงเราขนาดนี้ แต่ผมคิดว่ากิ๊ฟจะเป็นผู้หญิงแนวที่ทุ่มความรักแบบหมดใจไม่เผื่อพลาดในภายหลัง ผู้หญิงแบบนี้ถ้าเจอรักที่สมหวังก็จะมีความสุขมหาศาล แต่ถ้าเจอเรื่องไม่สมหวังก็ยิ่งทุกข์หนัก

        "กิ๊ฟทนได้เหรอ ถ้าเห็นผมคบกับผู้หญิงคนอื่น แต่พอมีเวลาว่างก็ลากกิ๊ฟไปขึ้นเตียงระบายอารมณ์"

        "หนูจะอดทนรอวันที่พี่หนุ่มหันมาชอบหนูค่ะ หนูจะไม่เรียกร้องอะไร หนูแค่จะทำหน้าที่ของหนูให้ดีที่สุด ถ้าพี่เห็นหนูเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ใคร่หนูก็จะเป็นให้พี่"

        ความคิดของน้องกิ๊ฟทำให้ผมนึกถึงนางเอกในละครน้ำเน่าขึ้นมาทันที ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนคิดแบบนี้จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้

        ผมนั่งนิ่งสูดลมหายใจเรียบเรียงความคิด ผมแน่ใจแล้วว่าน้องกิ๊ฟชอบผมจากใจจริง และเธอไม่ได้มีความคิดในแง่ร้าย หรืออย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มี ดังนั้นผมจึงโล่งใจไปได้ส่วนหนึ่ง ผมเลยเริ่มหันไปถามในคำถามที่ผมยังไม่เคยถามคนอื่น มันคือความฝันของผม หรืออาจจะเป็นความฝันของผู้ชายหลายคน

        "ถ้าพี่จะคบผู้หญิงหลายคนเป็นแฟนพร้อมกัน แล้วให้กิ๊ฟเป็นหนึ่งในผู้หญิงของพี่ กิ๊ฟจะคิดยังไง เช่น โบกี้ แป้ง กิ๊ฟ อยู่บ้านเดียวกัน เป็นเมียของพี่เหมือนกัน"

        "... ถ้าทุกคนไม่ทะเลาะกัน กิ๊ฟก็ยอมรับได้ค่ะ ถึงจะไม่มีความสุขนัก แต่ก็รับได้"

        คำตอบที่ได้รับทำให้รอยยิ้มคาดหวังของผมหายไปส่วนหนึ่ง เธอตอบว่ายอมรับได้ แต่อาจจะไม่มีความสุขนัก ก็แสดงว่าหากจำเป็นเธอก็อาจจะรับสภาพได้ แต่คงไม่ยินยอมพร้อมใจ และอาจจะไม่มีความสุข

        ผมถอนหายใจผิดหวัง ซึ่งความจริงผมก็คิดไว้แล้วว่าคำตอบน่าจะออกมาประมาณนี้ สมัยนี้จะมีผู้หญิงที่ไหนยอมให้แฟนมีผู้หญิงคนอื่น ถึงแม้สมัยก่อนจะมี แต่นั่นก็เป็นเพราะความจำเป็นทางสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่บางบ้านผู้หญิงยังมีอำนาจมากกว่าผู้ชายเสียอีก

        ความคิดของกิ๊ฟย่อมสะท้อนความคิดของผู้หญิงคนอื่น โบกี้ แป้ง และแอล พวกเธอน่าจะคิดคล้ายกัน ผมอาจจะใช้พลังของแว่นบีบบังคับให้พวกเธอยอมทำ แต่ถ้าทำแบบนั้นพวกเธอจะมีความสุขในระยะยาวหรือเปล่านั้นยังเป็นคำถามที่ผมอยากรู้

        "เฮ้อ ช่างเถอะ เรื่องเครียด ๆ แบบนี้ค่อยคิดก็แล้วกัน ... กิ๊ฟ นอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว ถ้าพี่ให้เธอทำงานบ้าน เช่นไปกวาดบ้าน ทำอาหาร สักสัปดาห์ละวันสองวัน เธอจะยอมทำหรือเปล่า"

        "หนูชอบทำงานบ้าน หนูชอบทำอาหาร ถ้าพี่ให้หนูช่วยทำหนูจะดีใจมาก"

        "ทำไมดีใจล่ะ ไม่รู้สึกว่างานแม่บ้านไม่น่าทำเหรอ"

        "หนูชอบทำงานบ้าน ถ้าทำให้พี่ก็ยิ่งดี อีกอย่างหนูอยากให้หนูมีคุณค่ากับพี่บ้าง ถ้าทำแต่เรื่องบนเตียง หนูกลัวว่าวันหนึ่งพี่จะเบื่อหนูแล้วเขี่ยหนูทิ้ง"

        "อือ งั้นก็ดีเลย พี่จะให้กิ๊ฟรับหน้าที่แม่บ้านด้วย ไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ ปกติที่บ้านจะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดสัปดาห์ละวันอยู่แล้ว พี่อยากให้กิ๊ฟไปช่วยคุมในส่วนนี้ เพราะพี่ไว้ใจกิ๊ฟมากกว่า พอทำแบบนี้พี่ก็จะเอาเงินส่วนที่แบ่งไว้จ่ายค่าทำความสะอาดบ้านให้กิ๊ฟได้ด้วย"

        ผมยิ้มและส่ายหน้าเพราะรู้สึกว่ากิ๊ฟเธอจะปักใจกับผมเสียเหลือเกิน จากนั้นก็อธิบายเรื่องงานให้เธอฟัง ถ้าทำแบบนี้ผมก็จะแก้ปัญหาเรื่องการทำความสะอาดบ้านดูแลบ้านได้ส่วนหนึ่ง แถมผมยังสามารถเอางบส่วนหนึ่งมาให้กับกิ๊ฟได้ด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

        หลังจากสอบถามเรื่องสำคัญแล้ว ผมก็ถามเธอเรื่องเล็กเรื่องน้อยอีกหลายอย่าง เช่นจำนวนเงินที่เธอคาดหวัง หรืออยากได้อะไร พอพลังของแว่นหมดลงผมจะได้คุยตกลงกับเธอให้ง่ายขึ้น แต่นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ผมยังแอบสอบถามพวกรสนิยม สิ่งที่เธอชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ

        ผมเจอรสนิยมความชอบของกิ๊ฟอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ผมเลยแอบสอดแทรกความทรงจำบางอย่างเข้าไปด้วยอีกส่วนหนึ่ง โดยหลักการแล้วผมสอดแทรกความทรงจำที่ทำให้เธอชอบและเชื่อฟังผมมากกว่าเดิม

        แล้วก็แอบสอดแทรกความคิดให้เธอยอมรับ และเข้ามาอยู่ในฮาเร็ม ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลจริงหรือเปล่า แต่อย่างน้อยทดลองดูก่อนก็ไม่เสียหาย และผมก็คิดจะทดลองกับสาว ๆ คนอื่นด้วยเหมือนกัน

        พอเรียบร้อยแล้วผมก็สั่งปลดพลังการควบคุม เพราะเดี๋ยวผมกับกิ๊ฟต้องไปเรียน ถ้าปล่อยให้เธอไปเรียนในสภาพโดนควบคุมผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และผมก็รู้สึกชอบการคุยกันแบบไม่โดนควบคุมมากกว่า

        "อุ๊ย ... พี่หนุ่ม ..."

        พอได้สติคืนมากิ๊ฟก็มองผมตาปริบ ๆ และส่งเสียงอุทาน เธอคงกำลังงงว่าทำไมอยู่ดี ๆ ตัวเองก็มานั่งคร่อมบนตักผม แถมยังโดนผมกอดซุกหน้าลงไปในร่องนมอีกต่างหาก แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนะ แค่ทำท่าเขิน ๆ เกร็ง ๆ นิดหน่อย

        "ตกลงผมรับเลี้ยงกิ๊ฟล่ะนะ กิ๊ฟไม่ต้องกลับบ้าน แต่กิ๊ฟจะต้องทำหน้าที่เป็นสาวใช้ให้ผม ดังนั้นนับจากนี้เวลาอยู่กันสองคน กิ๊ฟต้องเรียกผมว่านายท่าน แล้วก็เชื่อฟังคำสั่งของผมทุกอย่างด้วย เข้าใจหรือเปล่า"

        ผมยิ้มและพูดหยอกเธอ กิ๊ฟถึงกับเบิกตากว้างทำท่าเหมือนตกใจ เรื่องนี้คือเรื่องน่าสนใจที่ผมพูดถึงก่อนหน้า ผมได้รู้ว่ากิ๊ฟนั้นมีรสนิยมชอบอ่านการ์ตูนแนวสาวใช้ เธอมีชุดคอสเพลย์สาวใช้ซุกแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าด้วยสองชุด แต่ผมยังไม่อยากแฉเรื่องนี้

        "... นาย ... นายท่าน ... เข้าใจค่ะ"

        เธออ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก็ส่งเสียงเรียกผมด้วยรอยยิ้มหวาน ผมไม่แน่ใจว่าเธอดีใจเรื่องนี้ หรือว่าดีใจเรื่องที่ผมตกลงรับเลี้ยงเธอเอาไว้ หรืออาจจะทั้งสองอย่างก็เป็นได้

        เห็นเธอยอมเรียกผมแบบนี้ ผมก็จัดการซุกฝังใบหน้าลงไปเสพความนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของร่องนมอย่างมีความสุข กิ๊ฟสั่นสะท้านผวากอดผมแน่น ส่วนผมก็ทั้งซุกหน้าในเต้านมใหญ่ ๆ ของเธอแล้วก็ใช้สองมือบีบขยำเบา ๆ กระตุ้นเพิ่มอารมณ์เสียวให้

        "อือออ ... อือออออ ..."

        กิ๊ฟส่งเสียงร้องครางเบา ๆ ออกมาไม่ขาดปาก พอผมซุกหน้าจนพอใจก็เริ่มอ้าปากงับตรงปลายถันที่ดันเสื้อกล้ามเนื้อบางออกมาเป็นปุ่ม ผมงับลงไปโดยที่ไม่ได้ถอดเสื้อนั่นล่ะครับ ผมเคยเห็นแบบนี้ในหนังผู้ใหญ่ก็เลยอยากจะลองบ้าง

        สาวหน้าเด็กตัวเล็กนมโตคนนี้ถึงกับตัวกระตุกเฮือก เธอผวากอดผมแน่นกว่าเดิม ผมจัดการอ้าปากงับละเลงลิ้นจนเสื้อสีขาวเนื้อบางเปียกชุ่ม พอเนื้อผ้าเปียกมันก็เลยแนบลู่ไปกับส่วนปลายถันเหมือนไม่มีเนื้อผ้า ดูแล้วเร้าใจได้อารมณ์ไปอีกแบบ

        ผมมองภาพนี้ก็ยิ่งหื่น ผมเลยจัดการถลกเสื้อกล้ามรัดติ้วของเธอขึ้นไปด้านบนจนเต้าอวบเด้งทะลักออกมาให้ผมเห็นความขาวโพลน กิ๊ฟส่งเสียงร้องวี้ดว้ายเล็กน้อยแต่ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากมาย ผมขยับมืออีกหน่อยเดียวก็ปลดเสื้อกล้ามตัวจิ๋วออกไปจากร่างของเธอได้สำเร็จ

        "... พี่หนุ่ม ... อืออออ ... นายท่านขา ... อืมมม ..."

        กิ๊ฟร้องครางออกมาเสียงดัง ตอนที่ผมก้มหน้าอ้าปากงับดูดเลียเต้าเต่ง เธอแอ่นหน้าเริดด้วยท่าทางสุดเสียว แถมยังแอ่นนมป้อนเขาหาปากเปิดทางให้ผมดูดทึ้งอย่างเต็มที่ ผมเลยจัดการลงลิ้นดูดทึ้งไอ้อย่างอิ่มหนำสบายอารมณ์

        ถ้าเทียบกันแล้วหน้าอกของกิ๊ฟนับว่าสวยมาก ใกล้เคียงกับของโบกี้เลย แต่ว่าเธอเป็นสาวตัวเล็กแถมยังหน้าเด็ก นมของเธอมันก็เลยดูใหญ่เกินตัวยั่วน้ำลายผู้ชายมากกว่าสักหน่อย ผมเองก็เคยแอบมองนมกิ๊ฟบ่อยครั้ง เรียกว่าเป็นจุดเด่นจุดใหญ่ของดาวคณะนิเทศน์คนนี้เลย

        ผมทั้งดูดทั้งกัดทั้งฟัดขยี้สองเต้าของกิ๊ฟด้วยอารมณ์เมามัน เธอตอบสนองด้วยการส่งเสียงครางแล้วก็บิดส่ายตัวไปมา อาการตอบสนองของเธอตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อคืนก่อนเสียทีเดียว คืนก่อนเธอแสดงอารมณ์หื่นแบบไม่มียั้งเหมือนโดนยาปลุกเซ็กส์ก็มิปาน แต่ตอนนี้เธอยังมีท่าทีเขินกระดากนิดหน่อย ผมว่าแบบตอนนี้ดูมีเสน่ห์เร้าใจกว่า

        หลังจากขย้ำนมเต้าของกิ๊ฟจนเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง ผมก็เงยหน้ามองตาหวานฉ่ำของเธอ ผมจัดการพลิกตัวจับเธอลงไปนอนหงายบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมทับ เมื่อคืนก่อนผมก็จัดการเปิดซิงกิ๊ฟบนเตียงนี้ และวันนี้ผมก็จะย้ำกับเธออีกรอบก่อนไปเรียน

        "กิ๊ฟสวยจังครับ"

        ผมพูดชมแล้วก็โถมทับลงไปจูบปากจิ้มลิ้มแล้วละเลียดเลียลิ้มรสริมฝีปากของเธอ จากนั้นจึงค่อยสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เธอผวากอดผมแน่นแต่ก็ยังไม่ประสาเรื่องจูบสักเท่าไหร่ ผมเป็นฝ่ายบุกเล้าโลมปลุกอารมณ์ของเธออยู่ฝ่ายเดียว

        ผมจูบปากพลางลูบมือลงไปตะปบตรงเนินสาวโหนกนูน พอกดนิ้วลงไปหน่อยเดียวกิ๊ฟก็ดิ้นพราด ๆ ส่งเสียงสูดปากด้วยความเสียว ผมนวด ๆ คลึง ๆ ครู่เดียวกางเกงในสีขาวก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น สะโพกของกิ๊ฟเริ่มอยู่ไม่สุขต้องเด้งร่อนส่ายไปมา

        "อืออออ ... พี่หนุ่มขา ... ทำเลยนะคะ ไม่ไหวแล้ว ... อืออออ ... เสียว ... ซี้ดดสสส ... นายท่านขา ... อูยยยย"

        ใช้นิ้วแหย่เข้าแหย่ออกไม่นานกิ๊ฟก็เหมือนจะทนไม่ไหว เธอส่งเสียงขอร้องอย่างน่าเวทนา ความจริงผมอยากจะเล่นกับกิ๊ฟต่อไปอีกหน่อย แต่พอเงยหน้าเห็นนาฬิกาก็ได้แต่ตัดใจรีบทำให้เสร็จ เพราะเดี๋ยวผมยังต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ถ้าไม่เร่งเกรงว่าจะไม่ทันเวลาเรียน

        "อื้ออออออ ... นายท่าน ... อื๊อออออ ... อือออออ ..."

        เนื่องจากเงื่อนไขเรื่องเวลา ผมเลยรีบขยับตัวปลดถอดเสื้อผ้าตัวเก่าที่ใส่ตั้งแต่เมื่อวาน แล้วขยับตัวลงไปนอนจับกิ๊ฟถ่างขาออก จากนั้นผมก็ขย่มกดใส่กิ๊ฟแบบหนัก ๆ จนเธอสะดุ้งโหยง ตอนกดครั้งแรกส่วนปลายหัวของผมมันมุดเข้าไปได้หน่อยเดียว แต่พอผมขยับเอวขย่มซ้ำอีกสี่ห้าครั้งมันก็มุดผลุบเข้าไปได้เกือบหมด

        กิ๊ฟตัวกระตุกเฮือกหลับตาปี๋กอดผมแน่นเชียว ความจริงผมควรจะให้เธอปรับตัวสักหน่อย แต่ตอนนี้อยากเร่งเวลาผมเลยเริ่มขยับบั้นเอวซอยยิกทันที

        "อ๊ออยยย ... อูยยยยส ... ซี้ดดสสส ... อูยยยย ..."

        สาวหน้าเด็กเสียวตัวเกร็งจนหน้าเบี้ยวเหยเก จากนั้นก็สะบัดไปซ้ายทีขวาทีตามจังหวะกระแทกกระทั้นของผม แรงขย่มทำให้นมเต้าคู่งามในฝันของผู้ชายหลายคนเด้งขึ้นเด้งลงอย่างบ้าคลั่ง ผมอดไม่ได้ต้องยื่นมือลงไปตะปบแล้วบีบขยี้แรง ๆ จนบิดเบี้ยว กิ๊ฟโดนไม้นี้ก็ยิ่งเสียวตัวเกร็งตอดใส่ผมหนักกว่าเดิม

        ผมขย่มไปได้ราวสิบนาทีกิ๊ฟก็ทนไม่ไหว เธอดิ้นพราด ๆ ตัวกระตุกอย่างแรง และส่งเสียงหวีดร้องออกมาลั่นห้อง ผมโดนเธอกอดแน่นจนทำต่อไม่ได้เลยหยุดรอให้ตัวเธอหายเกร็ง แต่พอหยุดพักผมก็เปลี่ยนใจไม่อยากแตกในตัวเธอแล้ว แต่อยากจะลองแตกใส่เต้าอวบ ๆ ของเธอบ้าง

        พอเธอหายเกร็งผมก็ถอนเจ้าหนอนน้อยที่ยังแข็งเป็นลำออกมา ผมขยับไปนั่งคร่อมบนหน้าท้องแล้ววางเจ้าหนอนน้อยพาดลงไปในร่องนม กิ๊ฟปรือตามองผมด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนเหมือนสงสัยว่าผมกำลังจะทำอะไร

        ผมยิ้มให้กิ๊ฟแล้วก็ขยับตัวจัดท่า สองมือจับขยำนมเต้าทั้งคู่แรง ๆ แล้วให้ก้อนเนื้อนิ่มหนีบใส่หนอนน้อย ผมสูดปากครางด้วยความสะใจพร้อมกับเริ่มซอยเอวใส่ร่องนมของเธอเบา ๆ เป็นการเริ่มต้น ผมอยากลองทำแบบนี้กับกิ๊ฟมานานแล้ว

        เจ้าหนอนน้อยวิ่งเบียดอยู่ในร่องนมแน่นหนึบ น้ำหล่อลื่นเลอะนองผิวขาวโพลนเป็นมันวาว ผมซอยเอวพลางขยำนมเธอเล่นด้วยความเมามัน พอเริ่มเข้าที่เข้าทางผมก็ซอยยิกกับร่องนมของกิ๊ฟเร็วถี่ขึ้น เธอก้มหน้ามองเจ้าหนอนน้อยของผมด้วยดวงตาวาบหวามร้อนแรง

        "อ้าปากหน่อยกิ๊ฟ เลียให้ด้วย"

        พอเริ่มคล่องผมก็ขยับดันตัวขึ้นไปด้านบน หน้าขาดันเต้าเต่งขึ้นไปพร้อมกับเจ้าหนอนน้อยที่บุกขึ้นไปถึงริมฝีปากบางสวย กิ๊ฟเธอทำท่าลังเลเล็กน้อยคงเพราะไม่เคยทำ แต่พอเห็นผมมองด้วยความคาดหวังเธอก็อ้าปากเปิดทางให้ผมกดเจ้าหนอนน้อยเข้าไปได้อย่างหวัง

        "อู้ววว ... สุดยอด"

        ผมสูดปากด้วยความสะใจ ตอนนี้เอวของผมซอยใส่ร่องนมเบา ๆ เพราะไม่อยากให้หลุดออกมาจากปากของกิ๊ฟ แรก ๆ เธอแค่อ้าปากเฉย ๆ ปล่อยให้ผมขยับเข้า ๆ ออก ๆ แต่พอสักพักก็เริ่มแลบลิ้นเลียสลับกับอ้าปากดูด ผมเลยยิ่งเสียวกว่าเดิม

        ก่อนหน้านี้ผมเองก็ใกล้เสร็จแล้ว พอได้ซอยร่องนมกับโดนปากนุ่ม ๆ ดูดให้ผมก็เริ่มจะทนไม่ไหว ผมขยับตัวขึ้นมาอีกหน่อยแล้วเดินหน้ากดเจ้าหนอนน้อยเข้าไปในโพรงปากของกิ๊ฟ เธอทำท่าตกใจหน่อย ๆ เหมือนไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ผมเองก็กลัวเธอจะหายใจไม่ได้เลยกดเข้าไปหน่อยเดียวแล้วก็ลากออกมา

        พอเธอเริ่มปรับตัวได้ผมก็กระเด้าใส่ปากเธอเร็วถี่ขึ้น แต่ยังไม่กล้าใส่แรง ๆ เหมือนที่เคยเห็นในหนัง ครู่เดียวผมก็เริ่มทนไม่ไหวต้องกดแช่เจ้าหนอนน้อยเข้าไปในโพรงปากนุ่มจนมิดลำ แล้วก็ระเบิดปล่อยน้ำคาวข้นเข้าไปในปากของเธอ

        กิ๊ฟหลับตาปี๋ทำท่าตกใจพอสมควร แต่ว่าลิ้นของเธอก็ยังเลีย ๆ ใส่แถมปากยังออกแรงดูดเอาน้ำของผมเข้าไป ถึงอย่างงั้นน้ำผมก็ยังทะลักเป็นฟองฟอดออกมาจากมุมปากของกิ๊ฟแล้วไหลย้อยลงไปตามแก้มสวยจนเลาะใบหูกับเส้นผม

        ผมกดแช่ปลดปล่อยอารมณ์และซึมซับความสุขอีกพักใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับถอนตัวออกมา ผมจับเจ้าหนอนน้อยที่เปียกชุ่มปาดไปบนริมฝีปากและปรางแก้มของกิ๊ฟ ก่อนจะลากลงไปละเลงฝากความมันลื่นบนเต้าเต่ง แล้วผมก็พลิกตัวลงไปนอนหอบอยู่ข้างเธอ

        เราสองคนนอนพักได้ครู่ใหญ่ กิ๊ฟก็ลุกไปอาบน้ำ เธอคงรู้สึกตัวแล้วว่ากำลังจะไปเรียนสาย แถมผู้หญิงยังต้องแต่งตัวอีก ผมนึกสนุกเลยเดินตามเธอเข้าไปในห้องน้ำแล้วอาบน้ำด้วยกัน ตอนแรกกิ๊ฟเขินไม่ยอมอาบด้วยกัน แต่ผมจับเธอถอดผ้าขนหนูออกแล้วลากมายืนใต้ฝักบัว

        เธอส่งเสียงร้องวี้ดว้ายตอนผมช่วยล้วงมือถูเนื้อถูตัว แต่ดูเหมือนว่าผมจะเล่นมากไปหน่อยกิ๊ฟเลยหอบกระเส่าทำท่าเหมือนจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ เจ้าหนอนน้อยของผมก็แข็งเป็นลำขึ้นมา ผมมองหน้าเธอ เธอมองหน้าผม

        "ขออีกรอบนะกิ๊ฟ"

        ผมถามเธอแบบไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะระหว่างถามผมก็จับหมุนตัวหันหน้าเข้าหากัน แล้วผมก็เริ่มด้วยการใช้แขนช้อนขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นมาพาดบนบั้นเอว กิ๊ฟเธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรแถมยังมองผมตาหวานเยิ้ม ผมเลยเดินหน้าจับขาอีกข้างของเธอขึ้นมาพาดแล้วกระเด้าเอวในท่าลิงอุ้มแตง

        กิ๊ฟส่งเสียงร้องครางระงมกอดผมแน่น กว่าจะอาบน้ำกันเสร็จเลยต้องใช้เวลากันอีกเกือบยี่สิบนาที

        ผมเป็นผู้ชายแต่งตัวแวบเดียวก็เสร็จ แต่กิ๊ฟใช้เวลาพอสมควร แถมพอเธอแต่งตัวเสร็จ ผมเห็นเธอในชุดนักศึกษาก็เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกรอบ พอโดนผมเดินเข้าไปกอดจากด้านหลัง กิ๊ฟก็ส่งเสียงวี้ดว้ายและพยายามดิ้นหนีใหญ่เธอคงไม่อยากแต่งหน้าแต่งตัวใหม่อีกรอบ

        ความจริงผมก็ไม่ได้หื่นมีอารมณ์ขนาดนั้นหรอก แต่ผมอยากแกล้งเธอมากกว่า ผมเลยใช้แรงฝืนปลุกปล้ำจับเธอยืนโก้งโค้งเอามือยันกับหน้าโต๊ะกระจก กิ๊ฟดิ้นสะบัดไปมาเบา ๆ คล้ายขัดขืนคล้ายเสนอสนอง มองไปก็คล้ายกับพวกนางเอกหนังผู้ใหญ่

         ผมถลกกระโปรงนักศึกษาเธอขึ้นไปแล้วลูบตรงเนินสาวเบา ๆ จนกิ๊ฟตัวเกร็ง พอเธอเริ่มเคลิ้มผมก็รีบรูดกางเกงในเธอลงมา แล้วก็จัดการจับใส่เข้าไปทั้งที่เธอยังขัดขืนอยู่หน่อย ๆ

        แปลกดีที่ผมกล้าทำกับกิ๊ฟแบบนี้ ถ้าเป็นโบกี้พอเธอบอกว่าไม่ ผมก็ถอยไม่กล้าลุยต่อ ส่วนแป้งนั้นน่าจะออกแนวอยากทำเรื่องตื่นเต้นอยู่แล้วคงไม่ขัดข้อง แต่สำหรับกิ๊ฟแล้วผมรู้สึกแตกต่าง ผมรู้สึกว่าเธอน่าแกล้งน่ารังแก ซึ่งคงเพราะนิสัยของเธอเอง และเธอก็จะออกแนวไม่ค่อยขัดเรื่องที่ผมต้องการ

        พอโดนใส่เข้าไปได้กิ๊ฟที่จัดเสื้อผ้าหน้าผมเรียบร้อยก็ยืนโก้งโค้งตัวเกร็งสะท้าน ผมสูดปากจับสะโพกของเธอแล้วซอยใส่เบา ๆ เห็นกิ๊ฟเธอร้องห้ามอย่างโน้นอย่างนี้ แต่สะโพกของเธอร่อนรับเป็นระวิงจนผมแทบไม่ต้องกระเด้าเอวเลยด้วยซ้ำ

        แรกสุดผมกะว่าจะไม่แตะเสื้อนักศึกษาของเธอ จะได้ไม่ทำให้ยับ แต่พอมองเห็นนมเต้าอวบของเธอเด้งไปเด้งมาผ่านทางกระจกเงาผมก็ทนไม่ไหวต้องเอื้อมมือสอดขึ้นไปปรดกระดุมเสื้อนักศึกษาของเธอออก แล้วก็จัดการบีบขยำเคล้นคลึงด้วยความเมามันสะใจ

        สรุปว่ากิ๊ฟเสร็จไปอีกหนึ่งรอบ น้ำของผมแตกเลอะจนเต็มร่อง กางเกงในของเธอเลอะชุ่มจนต้องซักใหม่ ส่วนกระโปรงนักศึกษานั้นแค่เลอะเล็กน้อย ยังดีที่ในห้องเปิดแอร์ไว้ ไม่งั้นเสื้อนักศึกษาอาจจะชุ่มเหงื่อจนต้องเปลี่ยนอีกตัว

        กิ๊ฟมองค้อนผมแล้วส่งเสียงบ่นอุบประมาณด่าผมว่าหื่น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการเปลี่ยนกางเกงในและทำความสะอาดกระโปรง ตอนออกมาเธอถึงกับเดินเลี่ยงหลบไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยท่าทางหวาด ๆ ผมเลยหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ แต่ก็ยังจับเธอมากอดจูบอีกรอบหนึ่งอยู่ดี สรุปว่าเช้านี้เราสองคนไปเรียนสายเหมือนกันทั้งคู่

        "วันนี้ตอนเช้าทำไมมาเรียนสายล่ะหนุ่ม รถติดเหรอ"

        บ่ายวันนั้นโบกี้กระซิบถามผมเบา ๆ ตอนนั่งทำงานกลุ่มที่คณะนิเทศน์ ผมถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความร้อนตัว แต่ก็รีบกลบเกลื่อนโบกี้ด้วยการพยักหน้าบอกว่ารถติด เมื่อเช้าผมเข้าเรียนสายโบกี้จะสงสัยก็ไม่แปลก เพราะผมออกจากห้องเธอไปตั้งแต่เช้ามืด

        เมื่อเช้าผมกับเธอนั่งคนละที่เธอคงไม่สะดวกถาม แต่ตอนนี้พวกเรามีเรียนวิชาเลือกที่คณะนิเทศน์ ผม โบกี้ แป้ง และกิ๊ฟ นั่งร่วมกลุ่มกัน โบกี้ได้นั่งใกล้ผมเธอเลยกระซิบถามไม่ยาก

        "คราวหลังหนุ่มเอาเสื้อผ้าติดรถไว้ซิ แล้วค่อยอาบน้ำที่ห้องโบ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไป ๆ มา ๆ"

        โบกี้กระซิบแนะนำผมด้วยความเป็นห่วง ส่วนผมนั้นได้แต่ยิ้มรับด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเช้าก็อย่างที่เล่าไปนั่นล่ะครับ ผมแอบแวะไปหากิ๊ฟ แถมยังเล่นกันจนเพลินเราสองคนเลยมาสายด้วยกันทั้งคู่

        กิ๊ฟคล้ายจะได้ยินคำถามของโบกี้ด้วย พอผมมองสบตากับเธอโบกี้ก็หน้าแดงรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จากนั้นพอผมชำเลืองมองไปทางแป้ง แป้งก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับผมเหมือนว่าเธอรู้เรื่องราวอะไรบางอย่าง

        "ข้าวใหม่ปลามันระวังนะจ๊ะ ทำกันวันละหลายรอบ เดี๋ยวจะต้องอุ้มท้องมาเรียน"

        แป้งส่งเสียงหยอกแบบไม่ระบุคนออกมา โบกี้เขินหน้าแดงและมองค้อนแป้ง ส่วนกิ๊ฟกับผมนั้นแอบมองหน้ากันแวบหนึ่งแล้วพยายามเก็บซ่อนอาการร้อนตัวกันยกใหญ่ จะว่าไปโบกี้เธอกินยาคุมอยู่ แต่กิ๊ฟเธอกินหรือยังผมก็ไม่แน่ใจ

        "บ้า อย่าพูดเสียงดัง เดี๋ยวเถอะ"

        โบกี้ส่งเสียงกระซิบห้ามแป้งด้วยท่าทางกระวนกระวาย เธอคงกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเข้า แต่แป้งยักไหล่ไม่สนแล้วหันมาขยิบตาให้ผมและส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ผมว่าแป้งจะต้องรู้อะไรบางอย่าง และนั่นหมายความว่ากิ๊ฟคงจะเล่าให้แป้งฟังแล้ว

        "ไม่เสียงดังก็ได้ แต่หนุ่มต้องเล่าให้ฟังนะว่าจัดการเพื่อนของแป้งไปกี่รอบ เล่นกันบนโซฟาหรือหน้าโต๊ะกระจก เล่นท่าไหนยังไง เล่ามาให้หมดเลย"

        แป้งรุกไล่ผมอีกครั้งแบบไม่ระบุชื่อว่าหมายถึงโบกี้หรือกิ๊ฟ โบกี้ย่อมคิดว่าแป้งหมายถึงตัวเธอเองเพราะโดนอ้างถึงโซฟา โบกี้จึงฟาดมือตีใส่แขนของแป้งเพื่อแก้เขิน ส่วนกิ๊ฟนั้นกำลังก้มหน้าเงียบไม่พูดอะไรสักคำเพราะหน้าโต๊ะกระจกน่าจะหมายถึงกิ๊ฟ

        ผมนั่งฟังแล้วก็ไม่แน่ใจว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ ผมแน่ใจว่าแป้งไม่ได้คิดจะแฉพฤติกรรมของผม เธออาจจะงอนสักหน่อยที่ผมไม่ได้สนิทสนมกับเธอมาแล้วระยะหนึ่ง แถมผมยังหันไปสนิทสนมกับกิ๊ฟที่เพิ่งมาใหม่อีกต่างหาก ผมเลยรู้สึกว่าน่าจะต้องหาเวลาไปสนุกกับแป้งบ้างแล้ว

        เราสี่คนหยอกล้อกันไปเรื่อย แต่ก็ยังแบ่งสมาธินั่งทำงานกลุ่มจนเสร็จเตรียมนำเสนอ ผมรู้สึกได้ถึงสายตาอิจฉาที่มองผม เพราะว่าผมได้ร่วมกลุ่มกับสามสาวแสนสวย ส่วนผมนั้นกำลังหัวเราะในใจด้วยความภาคภูมิ ผมอยากรู้เหลือเกินว่าถ้าพวกนี้ได้รู้ว่าผมจัดการสาวสวยทั้งสามมาแล้ว พวกเพื่อน ๆ มันจะอิจฉาผมขนาดไหน

        "หนุ่มหักโหมมากระวังเถอะ เดี๋ยวจะไม่ไหว คืนก่อนโน้นก็เล่นเหมาสามสาว เมื่อคืนก็ทำกับโบกี้ ตอนเช้ายังจะมีแรงไปทำกับกิ๊ฟอีกนะ"

        ช่วงที่โบกี้กับกิ๊ฟออกไปนำเสนองานหน้าห้อง แป้งที่นั่งอยู่ข้างผมก็โน้มหน้ามาพูดกระซิบหยอกด้วยรอยยิ้มแพรวพราว ผมหันไปยิ้มแห้ง ๆ ให้ ผมเดาออกอยู่แล้วว่าโบกี้ต้องคุยกับแป้งในฐานะเพื่อนสนิท ส่วนกิ๊ฟนั้นก็ไม่แปลกที่จะเล่าเรื่องให้แป้งฟัง แต่ผมแปลกใจเล็ก ๆ เรื่องที่แป้งพูดว่าผมเหมาหมดทั้งสามสาวในคืนก่อนหน้า เพราะก่อนหน้านี้แป้งพยายามออกตัวว่าเธอเมาหลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด

        "ตกลงคืนนั้นยังไงกันแน่ ฝีมือแป้งใช่หรือเปล่า"

        "คิก คิก ไม่บอก ถ้าอยากรู้ ก็ต้องแบ่งเวลามาหาเราบ้าง"

        แป้งหัวเราะเสียงสดใสแต่ไม่ยอมตอบ ผมเลยแน่ใจว่าเป็นฝีมือแป้ง เพียงแต่ยังไม่รู้รายละเอียดว่าอะไรเป็นอะไร ผมสงสัยว่าทำไมคืนนั้นโบกี้เมาหลับสนิทไม่รู้ตัวเลย ทำไมแป้งถึงนอนนิ่งเหมือนหลับแต่กลับรู้ทุกเรื่อง ทำไมกิ๊ฟถึงได้แสดงท่าทีร้อนร่านเหมือนโดนยาปลุก และคำถามทุกอย่างนี้ผมรู้สึกว่าแป้งน่าจะรู้

         "แป้งรู้ทุกเรื่องเลยนะ"

        "แหม เราไม่ได้รู้ทุกเรื่องหรอกนะ แต่รู้เรื่องพอสมควร ยกตัวอย่างเช่นไอดอลสาวมัธยมปลายชื่อแอลที่นั่งรถไปกับหนุ่ม"

        ผมสะดุ้งโหยงทันทีพอได้ยินแป้งพูดถึงแอล เพราะไม่คิดว่ามีใครรู้เรื่องนี้ ส่วนแป้งพอเห็นผมตกใจก็ทำท่าเหมือนกลั้นหัวเราะเสียยกใหญ่

        "แป้งรู้ได้ยังไง"

        "หอเราก็อยู่แค่นั้น แล้วเราก็จำรถของหนุ่มได้ วันนั้นบังเอิญแอบเดินไปดูว่าจอดรถทำอะไร แล้วก็เห็นน้องแอลจูบปากกับหนุ่มบนรถ แต่ไม่ต้องกลัวแป้งไม่ได้บอกใครหรอก"

        ผมยิ้มแห้ง ๆ เพราะความจริงหอแป้งก็อยู่แถวนั้นจริง ผมเคยคิดจะพาแอลไปลงที่ห้องของแป้งด้วยซ้ำ ผมเลยเกรง ๆ เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน คือกลัวว่าแป้งจะเห็นเข้า และแป้งก็เห็นเข้าจริง ๆ แถมยังรู้จักแอลด้วย

        "เดี๋ยวนะ แป้งรู้จักแอลด้วยเหรอ"

        "ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ เนตไอดอลเหมือนกันก็ต้องศึกษาข้อมูลกันบ้าง แต่ก็ต่างกันนิดหน่อย เราน่ะไอดอลสายเซ็กซี่ ส่วนแอลน่ะไอดอลสายน่ารักสดใส"

        "อืม ก็จริงนะ ไอดอลเหมือนกัน"

        ผมส่งเสียงพึมพำเหมือนลืมไปว่าแป้งก็เป็นเนตไอดอล จริง ๆ ยอดคนติดตามของแป้งยังมากกว่าแอลด้วยซ้ำ เพียงแต่แป้งเธอเป็นสายโชว์หวิวไม่ให้เห็นหน้า ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าตัวจริงเธอคือใคร ยกเว้นผม

        "ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ เรายังเคยคุยกับแอลด้วย ที่ร้านกาแฟแถวนั้นแหละ ท่าทางหยิ่งเย็นชาเหยียดชนชั้น หนุ่มไปจีบอีท่าไหนถึงจีบติด จูบปากแสดงความรักกันขนาดนี้น่าจะฟันไปแล้วแน่ ๆ ร้ายกาจจริง ๆ"

        "อะแฮ่ม เอ่อ ก็อะไรแนวนั้น"

        "ถ้าไม่มีที่ลง วันหลังพาไปลงห้องเราก็ได้นะ ดีไม่ดีจะได้เล่นสนุกกันสามคน แต่ก็ระวังเอาไว้หน่อยล่ะกัน ผู้หญิงเวลามีความรักแล้วอันตรายนะ"

        ผมหูผึ่งสนใจคำอนุญาตของแป้งที่บอกว่าให้ใช้ห้องเธอได้ ผมเคยคิดอยู่เหมือนกันว่าเวลาเจอกับแอลแล้วมีข้อจำกัดเรื่องเวลา จะให้ไปที่อื่นก็กลัวกลับมาไม่ทัน ผมเคยคิดว่าจะเช่าหอพักแถวนั้นเพื่อสนิทสนมกับแอล แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ ถ้าจะให้เช่าหอพักไว้ใช้เพื่อการนี้โดยเฉพาะแค่อย่างเดียว แต่ถ้าแป้งอนุญาตให้ใช้ห้องเธอได้ ผมก็คิดว่าน่าสนใจ

        "อันตรายยังไง ..."

        "ผู้หญิงเวลามีความรักน่ะ เธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อมัดใจผู้ชายที่เธอรัก แถมตามธรรมชาติของร่างกาย พอผู้หญิงมีความรัก ร่างกายก็จะเตรียมรับการสืบพันธ์ ผู้หญิงจะยิ่งมีอารมณ์ได้ง่ายกว่าเดิม แล้วหนุ่มเล่นทำให้ผู้หญิงหลงรักตั้งสี่คนแบบนี้ ระวังเถอะจะฟ้าเหลืองตัวซีดรับไม่ไหว"

        ผมยิ้มฝืน ๆ เพราะกังวลเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ว่าเดี๋ยวนะ แป้งบอกว่าผู้หญิงสี่คน แต่ถ้านับแล้วน่าจะมีแค่โบกี้ กิ๊ฟ แล้วก็แอล แค่สามคน

        "สี่คน?"

        "เดี๋ยวเถอะ นายบื้อ สี่คนน่ะซิ หรือนายมีมากกว่านี้อีก ก็มีโบกี้ กิ๊ฟ น้องแอล แล้วก็เราไง นายทำเราเสียวถึงใจขนาดนี้คิดว่าเราจะไม่หลงรักนายหรือไง เราทำอะไรให้นายตั้งเยอะ นายไม่เห็นเลยหรือไง นายบื้อ"

        พอผมถามไปแบบงง ๆ แป้งก็ทำหน้าบึ้งใส่และใช้เท้าเหยียบจนผมสะดุ้งโหยง ผมหันไปมองแป้งที่กำลังงอนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมรู้สึกมึน ๆ งง ๆ ความจริงผมก็รู้อยู่หรอกว่าแป้งเธอก็ชอบผม แต่ว่าเธอมักจะออกตัวเปิดทางให้โบกี้ แถมยังมักจะเห็นดีเห็นงามให้ผมทำเรื่องวาบหวาม ผมเลยเข้าใจว่าเธอแค่อยากหาเรื่องสนุกทำกับผม ไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะใช้คำว่าหลงรักกับผม

        ผมอยากจะถามแป้งให้ชัดกว่านี้ แต่ว่าโบกี้กับกิ๊ฟที่ออกไปนำเสนองานหน้าห้องเดินกลับมาพอดี ผมเลยไม่สะดวกที่จะถาม รอจนเรียนเสร็จพวกเราก็เตรียมแยกย้าย

        แป้งพูดเปรย ๆ ว่าเธอจะไม่ไปไหน แต่จะกลับไปนอนเล่นที่ห้อง แป้งแอบมองผมด้วยสายตาเชื้อเชิญเหมือนจะบอกให้ผมไปหาเธอ ส่วนน้องกิ๊ฟนั้นเธอยังก้มหน้าก้มตาแสดงท่าทีเขินอาย แต่ก็พูดคล้ายกับแป้ง คือเธอจะกลับห้องพัก และยังแอบมองส่งสายตาเชื้อเชิญให้ผมด้วย

        ตอนนี้เหลือผมยืนอยู่กับโบกี้ เธอบอกว่าเย็นนี้เธอมีนัดกับเพื่อน แต่ว่ากลางคืนเธอจะกลับคอนโด ถ้าผมจะไปรอเธอที่นั่นก่อนก็ได้ ยังไงผมก็มีกุญแจห้องของโบกี้แล้ว

        ผมยืนเกาหัวแบบมึน ๆ ไม่แน่ใจว่าควรเอายังไงดี เพราะในโทรศัพท์มือถือของผมตอนนี้ก็มีข้อความส่งมาจากน้องแอลว่าคิดถึงอยากเจอด้วยอีกหนึ่งคน

        แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย

       

       

       
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

dwarf

ขอบคุณครับ....แป้งเปิดทางให้แบบนี้ดูน่าสนใจที่จะพาแอลไปที่ห้องแป้งนะ..แต่คงต้องดูท่าทีของน้องแอลว่าจะออกมาแบบไหน...แต่แป้งรับได้แน่นอน..ซึ่งอาจมีการโชว์หวิวผ่านเว๊ปก้อเป็นได้

revoltman

ต้องจัดชุดสุดคุ้มแฮปปี้มิล แอล + แป้ง สิครัชชช

ทราย ไม่เปลี่ยนแปลง

อ่านแล้วเหนื่อย แทนหนุ่มเลย มีสาว 4 คน เซ็กสบึมส์ขนาดนั้น ตัวซีดแน่เลย แป้งก็สุดยอด รู้ไปหมด แถมคอยจัดการให้ซะด้วย อันนี้เรียกว่าสุดยอดแฟน สนุกมากครับ แปลกดีครับ เดินเรื่องตามผลโหวต ชอบครับ รอติดตามตอนต่อไป และรอเรื่อง XO อยู่นะครับ ขอบคุณครับ ที่แต่งเรื่องสนุกๆ หลายเรื่องมาให้อ่าน

gamemer

เล่นกันสามคนเลยเย้ๆเอาเหมือนที่แป้งบอกเลยรักแป้งที่สุดเลย รู้เรื่องแต่ก็ยังให้ทำเป็นคนที่ดีจริงๆรักแป้งที่สุดเลย มีชอบการบรรยายฉากกตอนเปิดประตูมากเอาซะผมเห็นภาพชัดเจนเลยครับตอนแซวก็ด้วยโอ้ยชอบชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยครับไม่ต้องรีบจบนะครับเลยๆเอาเท่าที่ยาวได้ครับขอบคุณครับ ::Confident:: ::Bloody::

thum2520

ขอบคุณครับ รู้สึกว่าผลโหวตนี้ ไปในแนว สองต่อหนึ่ง ตลอดเลย

akine

 ::Oops:: โหวตโบกี้ไป แต่............พักไปดำน้ำเข้าวัดบ้างก้อดี 555555

gufferau0000


tacklove

เรื่องราวไม่ธรรมดาเสียแล้วหละหนุ่มเอ๋ย แต่ละคนนางฟ้าชัดๆ แว่นวิเศษแบบนี้มีขายไหมเนี่ย แถมได้ยายแป้งมาเป็นหัวโจกอีก แต่ยังไงขอโบกี้เป็นหลวงเถอะนะ

gritkin

ฮาเร็มเเน่นอน 555 สุดยอดเลยครับ คนเเรกที่ไม่ต้องใช้เเว่นก็รักเราเเล้ว ถึงเเม้จะต้องใช้บ้างเพื่อเอาความในใจบางอย่าง สงสารเหมือนกันครับ ผญ. น่ารักๆต้องมาทำอะไรแบบนั้น สังคมอยู่ยากจริงๆครับ

pitsanume

ขอบคุณครับ จะมีแรงเหลือหรือป่าวนะ จัดไป 2 แล้ว แต่ยังไงก็ต้องจัดที่เหลือ ไม่งั้นมีน้อยใจแน่นอน เป็นกำลังใจให้ผู้ประพันธ์ครับ รอติดตามตอนต่อไป

legacy

ตอนนี้ต้องให้น้องแป้งมั่งแระ อยู่คนเดียวมาหลายตอนแระ แต่หลังๆชักเลือกยากจังเลย ชอบหมดทุกคนอ่ะครับ

patkungna01

อย่างนี้ต้องให้รางวัลแป้งนะ
จัดแอล กับแป้งเลย

JJJJJJJJJ


hikarunaka

ต้องไปหาความตื่นเต้นกับแป้งบ้างแล้ว
ชอบจังสาวร้อนแรงแบบนี้