ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

OUT OF AMMO EP 17 ชาวไร่ต้องสงสัย

เริ่มโดย cd13579, มิถุนายน 24, 2017, 11:18:08 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cd13579

แวะจอดก่อนจ๊ะ
งงเด้ๆ บอกเลยหมดแล้วนะ กลับไปรอกันรากออกเหมือนเดิมละนะ คืนนี้มาลงรูปให้นะ คิวต่อไป 7 sin ถ้าทันก็ต้นเดือนถ้าไม่ก็ปลายเดือนหน้า
ขอให้สนุกนะครับ  ::Falling::

ตอนที่ 17 ชาวไร่ต้องสงสัย
ไร่ แสนจะสุก
"นักศึกษาทุกคน ตื่นค่ะเรามาถึงกันแล้ว ทุกคนลงจากรถเลยค่ะ อย่าลืมข้าวของนะค่ะ ลงไปแล้วตั้งแถวเลยค่ะ เร็วค่ะเร็วๆ"
มายด์ตื่นขึ้นจากเสียงประกาศผ่านไมค์ของอาจารย์ที่ปรึกษาเธอขยี้ตาด้วยความงัวเงี้ยยืดแขนบิดขี้เกียจก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพาย

"ยัยมายด์รีบลงเร็วอย่าชักช้า เขาลงจะหมดรถแล้ว"
เสียงของยัยไหมเพื่อนสนิทของเธอรีบลุกขึ้นจูงมือเธอรีบลงจากรถทันที ทันทีที่พ้นประตูแสงแดดจ้ากับท้องฟ้าสดใสของสถานที่แห่งนี้สาดส่องลงมา เธอเดินจูงมือไหมไปต่อแถวทันที ขณะที่ยืนรออยู่นั้นเธอก็กดดูข้อความที่ส่งไปหลายข้อความแต่พบว่าปลายทางยังไม่อ่าน
เธอถอนหายใจเบาๆก่อนเก็บมือถือกลับไป

"อ้าว มาครบกันแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้พูดรอบเดียว" เสียงหญิงชราวัยใกล้เกณียถือทรรโข่งอยู่ข้างหน้า หญิงวัยกลางคนบุคคลิกเหมือนอาจารย์เจ้าระเบียบที่นักศึกษาแทบทั้งคณะจะเรียกกันว่าอาจารย์ป้า ผู้ดูแลการมาฝึกงานครั้งนี้ของพวกเธอนั้นเอง

อาจารย์ป้า:"อ้าว นักศึกษาทุกคนเดี้ยวเราจะเข้าไปในเรือนรับรองของท่านเจ้าของไร่แห่งนี้กัน เราจะเปิดการฝึกงานกันที่นั้น เอาพร้อมแล้วยัง"

เมื่อไม่มีเสียงคัดค้านเธอจึงเดินนำคณะนักศึกษาไปทันที ระหว่างทางที่รายล้อมไปด้วยตนไม้ที่ปลูกเรียงกันไว้เป็นแถวยาวเขียวขจีช่วยทำให้ที่นี้ดูรมรื่นขึ้นและยังช่วยบังแสงแดดให้ไม่ร้อนเกินไประหว่างทางเธอต่างชมพื่นที่ต่างๆ เช่นสวนเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น แพะ,แกะ,วัวและยังปลูกพืชผลทางเกษตรอีกหลายชนิด เดินไปสักพักพวกเธอก็มาถึงศาลาขนาดใหญ่ปูพื้นด้วยกระเบื้องมีเก้าอี้วางเรียงอยู่

"อ้าวนักศึกษานั่งเลยครับ" เสียงอาจารย์ภพ อาจารย์หนุ่มหน้าตี๊ใจดีบอกกับนักศึกษา หลังจากคนรอไม่นานก็มีชายหญิงวัยชราคู่หนึ่งเดินมาทั้งคู่ใส่ชุดผ้าธรรมดาๆ

"นักศึกษาค่ะ เงียบเสียงก่อนค่ะ"

เสียงอาจารย์จิ๊บ อาจารย์หมวยคนสวยตะโกนบอกนักศึกษา เสียงคุยดังก็ค่อยๆเงียบลงตามลำดับจนเงียบสนิท ตายายผู้มาใหม่เดินมาที่โพเดียมช้าๆ ก่อนหญิงชราจะเดินไปหาอาจารย์ป้า ทั้งคู่กอดกันอย่างสนิทสนม

มายด์:(ไม่น่าละจารย์ถึงอยากมาที่นี้) "เอ้าๆ สวัสดีลูกๆนักศึกษาทุกคน" ชายชรากล่าวขึ้น "ลุงชื่อนายขจร เป็นเจ้าของไร่เล็กๆที่นี้"

"เล็กเป็นร้อยๆไร่เลย ค่ะตา"เสียงเพื่อนสนิทตนดังขึ้นมายด์เอื้อมมือมาตีแขนเพื่อนสนิทเบาๆก่อนจะได้ยินเสียงระคายหูจากแถวด้านหน้าตนเอง

"โห สภาพนี้เจ้าของไร่ลุงแกจับสลากได้ไงวะ" เหล่าเพื่อนๆผู้ชายด้านหน้าต่างพูดกันอย่างคึกคะนอง

"ไร่ของเรามีกิจการหลายอย่างทั้งเลี้ยงสัตว์ปลูกพืช บ่ายๆนี้หลังกินข้าวตาจะให้พี่ๆในไร่แบ่งกลุ่มพาเราไปดูรอบๆนะ แต่ตอนนี้ให้ทุกคนจัดของไปพักผ่อนกินข้าวกันก่อน"
จากนั้นก็เป็นทางอาจารย์ต่างขึ้นมาพูดถึงกำหนดการและระเบียบๆต่างๆ รวมถึงที่พักหรือสถานที่ในไร่แห่งนี้ แล้วจึงปล่อยให้นักศึกษาไปเก็บของใส่ห้องพักให้เรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็มากินข้าวที่โรงครัว

แม้ทางไร่จะมีเพียงอาหารพื้นๆแต่ก็มีรสชาติอร่อยเพราะนอกจากวัตถุดิบแล้วก็ต้องยกให้เหล่าแม่ครัวที่ตั้งใจทำให้ทุกคนในไร่กิน มายด์เองก็กินไปหลายจานก่อนลุงขจรจะให้แบ่งกลุ่มพวกนักศึกษาออกไปชมไร่

คนงาน: "น้องๆครับขึ้นหลังรถบรรทุกเลยคอกสัตว์ใหญ่จะค่อนข้างไกลครับ"
มายด์ที่กำลังจะปืนขึ้นไปบนหลังรถบรรทุกขนาดใหญ่ของไร่ก็มีมือส่งมาให้

เมฆ:"น้องมายด์ครับส่งมือมาสิพี่ช่วยเอง" เธอมองชายผู้ยื่นมาอย่างชั่งใจ เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาอย่างเธอก็ต้องมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาตามตื้อไม่ใช้น้อยๆ ร่วมถึงคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน ขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือให้มัน

"เมฆ มาๆช่วยหน่อย" ไหมเพื่อนรักเธอต่างยืนมือมาให้ก่อน เมฆทำหน้าเหมือนโดนขัดใจก่อนจะดึงไหมขึ้นไป
ไหม:"มาๆมายด์ส่งมือมาเราช่วยๆ"
ไหมเพื่อนรักขยิบตาให้เธอ มายด์ยื่นแขนให้ก่อนทั้งสองสาวจะไปนั่งคุยกันในรถต่อ

ไหม:"ไอ้พวกผู้ชายนี้เผลอไม่ได้จริงๆเลย"

ก่อนเปรยตาไปทางเมฆ มายด์ยิ้มให้เพื่อนรักที่มาช่วยกันเหล่าตัวผู้ทั้งหลายที่ค่อยมาป่วนเปี้ยนเธอ ทั้งคู่นั่งคุยกันบนรถจนไปถึงปลายทางก็ต่างเข้าไปเยื่ยมชมคอกสัตว์ต่างๆ ทั้งม้า,วัว,แกะ,แพะ เหล่านักศึกษาสัตว์แพทย์ต่างสอบถามหลายละเอียดกับสำรวจสถานที่ๆพวกเขาต้องมาฝึกทำงานจริงๆกันระหว่างแยกย้ายกันสอบถามหลายละเอียดจากเหล่าคนงานที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มายด์ก็เดินสำรวจไปรอบๆคอกก่อนจะไปสะดุดตากับเจ้าแมวสีเทาตุ้ยนุ้ยแต้มดำที่นอนอยู่บนกองฟาง

มันมองเธออย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มหน้าลงเลียขนต่อ เธอเดินเข้าไปหามันช้าๆก่อนจะทรุดนั่งก่อนจะเอื้อมมือไปจับจะลูบหัวมันอย่างเอ็นดูสายตาของเจ้าแมวทำให้เธอนึกใครบ้างคน



?: "อ้าา คุณครับอย่าไปยุ่งกับมันครับอีเจ้านี้มันไม่ค่อยเล่นกับใคร มันขี้หงุดหงิดครับแถมมันกัดเจ็บจริงครับ"
เสียงดังออกมาจากจากห้องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ตรงข้ามกองฟาง เธอชะงักมือก่อนจะถึงตัวเจ้าเหมียวตัวนั้นไม่ใช่เพราะคำเตือน แต่เพราะน้ำเสียงเหมือนใครบางคน เธอลุกไปผลักประตูที่ปิดไม่สนิทออกให้เปิดกว้างขึ้น ชายคนหนึ่งกำลังหันหลังจัดอุปกรณ์ช่างทั้งหลายใส่คืนตู้ อย่างคล่องแคล้ว มายด์มองแผ่นหลังยิ่งรู้สึกคุ้นเคย ยิ่งคล้ายกับเธอรู้จักกับคนชายหนุ่มคนนี้ก่อนที่เธอจะพูดอะไรชายข้างหน้าก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

?: "อ้าวเข้ามาทำไมครับเนี่ย โดนไอ้โหดงับมือเข้าให้เหรอครับ แปปนะหยิบพลาสเตอร์ให้ก่อน" ก่อนจะคว้ากล่องยาเล็กๆ หันมาหาเธอ ตึง กล่องยาเล็กๆร่วงจากมือคนงานคนนั้นทันที ทั้งเขาและเธอต่างอ้าปากค้างทั้งคู่ โดยเฉพาะฝ่ายชายที่ตาแทบถลนออกมา
ทั้งคู่ยืนจ้องตากันพักใหญ่ๆ

มายด์: "ดะ...ดนัยทำไมมาอยู่ที่นี้ละ" เธอถามชายข้างหน้าด้วยความตะลึง เพื่อนชายที่อยู่ๆก็หายวับไปจากชีวิตเธอ ทั้งไม่รับสายทั้งไม่อ่านข้อความ ถามใครๆก็ไม่มีใครรู้ แต่เธอกลับเจอรองหัวหน้าหน่วยของผู้กองเข้มที่นี้ ในชุดคนงานไร่ซะด้วย

ดนัย:"เออ ไม่เจอกันนานเลยนะเนี่ย สบายดีมั้ย" ดนัยถามกลับไปซื่อๆ

มายด์:"นี้มันเรื่องอะไรกันเนี่ย! ทำไมมาโผล่ ไม่สิทำไมหายไปแบบนี้ละ"

ดนัยร่ำร้องโทษฟ้าโทษดินอยู่ภายในใจ ระหว่างที่สมองกำลังคิดหาคำตอบเพื่อเอาตัวรอด ระฆังห้ามมวยก็ดังขึ้น
"มายด์แกอยู่ไหน!"

หญิงสาวกำลังจะขานตอบเพื่อนตน
ดนัยรีบกระชากตัวเธอและเขาเองเข้าไปซ่อนหลังตู้ ก่อนที่เพื่อนสาวของมายด์จะมาเห็นเธอคุยกับตนเอง

ดนัยรวบตัวเธอไปหลบหลังตู้ ร่างของทั้งคู่แนบชิดติดกันเพราะตู้ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไรเป็นแค่ซอกแคบๆเท่านั้น
อกกลมได้รูปแนบกับตัวเขาอยู่ เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกดนัยลากเข้ามาหลบด้วยกันในแบบแนบเนื้อ มือเธอวางที่บริเวณอกของเขา

มายด์:(ทำไมเราต้องหัวใจเต้นแรงอีกด้วยเนี่ย แล้วทำไมไอ้ตานี้ถึงมีกล้ามล้ำบึกขนาดนี้ ทำไมไม่เคยรู้เนี่ย)

จากที่เธอสัมผัสจากนิ้วพบว่าเพื่อนหนุ่มคนนี้ล้ำบึกขึ้นพอสมควร ไม่ใช้แค่รูปร่าง ผิวหน้าเองก็เปล่งขึ้นแม้จะดำคล่ำจากแดดไปบ้างแต่กลับกลายเป็นว่าดูดีขึ้นขึ้นหลายส่วนจากตี๊หนุ่มเนิรด์ๆ กลายเป็นคนงานชาวไร่รูปหล่อไปซะแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้หล่อแบบวัวตายควายล้มแต่ก็พูดได้ว่าตัวมายด์เองก็รู้สึกมองนายดนัยเท่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว

ส่วนทางชายหนุ่มก็กำลังระแวงว่าเพื่อนสนิทของมายด์จะมาพบตนตอนยืนคุยกับเธอ แค่เจอมายด์คนเดียวก็ทำแผนแฝงตัวหาคนร้ายสองเดือนของพวกเขานั้นมีความเสี่ยงเกินไปแล้ว ก่อนดนัยจะโผล่ไปดูข้างนอกพบว่าเพื่อนของมายด์นั้นกำลังจะลูบหัวไอ้แมวโหดตรงกองฟางหน้าห้อง
ดนัยรีบหลบหน้าเข้าไปก่อนรอฟังเสียงหายนะเล็กๆ

"เงี้ยวว"
"อย่าไอ้แมวบ้า โอยยอย่าตามมา"

ก่อนเพื่อนสาวของเธอจะโดนเจ้าแมวหน้าห้องวิ่งไล่งับเพราะไปลูบมัน ทันใดนั้นร้อยตำรวจตรีที่ปลอมตัวมาก็พึ่งรู้สึกถึงเรือนร่างอรชรที่อยู่ในวงแขนตัวเอง
ดนัยรีบหันมาจะขอโทษเธอแต่คำพูดทั้งหลายก็หายลงคอไป แค่เพียงหันหน้าไปปลายจมูกของทั้งคู่ก็แทบจะชนกันอยู่แล้ว ดนัยมองดวงตากลมใสข้างหน้าอย่างไม่วางตา ทั้งคู่รู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน
ใกล้จนทั้งสองได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตึกๆ ตึกๆ ดนัยรู้สึกถึงอกนุ่มๆที่กำลังเบียดหน้าอกตนอยู่ ดนัยตอนนี้รู้สึกปั่นป่วนในหัว

เขาควรทำอะไรต่อไป ปล่อยเธอออกแล้วรีบเดินหนีไป โกหกว่าโดนไล่ออก สารพัดวิธีไหลเข้ามาในหัวมากมายไปหมด แต่เมื่อดนัยมองลงไปในดวงตาของเธอ ดวงตาเธอกลับมีประกายความรู้สึกบางอย่างอยู่ลึกๆ

ดนัยกลับก้มหน้าลงไปขโมยจูบของเธอ เขาประกบปากเข้ากับริมฝีปากอมชมพูของเธอทันทีหญิงสาวทั้งตกใจและไม่ทันตั้งตัว

มายด์:"อื้อออ อื้ออ"

เธอรีบพยายามผลักตัวเขาออกแต่ดนัยกลับยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นก่อนส่งลิ้นเข้าไปในปากเธอลิ้นเข้าพัวพันในปากบางสีสวย เจอแบบนี้เข้ามายด์ก็ระทวยไปกับรสจูบของเขา แขนที่เธอพยายามผลักกลับไม่เหลือแรงจะทำอะไร
ดนัยดูดดื้มรสหวานจากปากเธอ มายด์เองก็แลกลิ้นกับเขาอย่างลืมตัว ทั้งคู่ต่างเพลิดเพลินไปในรสลิ้นอันหอมหวานของกันและกัน

จ็วบบ จ็วบบ

เสียงน้ำลายกับเสียงการจูบดำเนินเวลาสักพักก่อนดนัยจะยอมถอนปากออกมา เธอปรือตาหอบหายใจหูอื้อตาลายไปหมดเลือดสาวสูบฉีดไปทั้งตัวมายด์ทั้งตกใจและรู้สึกดีปนเปกัน ส่วนดนัยเองก็ยังไม่พอใจกับแค่จูบอีกแล้ว
มือของเขารั้งเอวเธอเข้ามาอีกและเริ่มลูบไล้ที่สะโพกงอนงามของเธอ ส่วนปากก็เอาไปสูดกลิ่นหอมจากซอกคออันหอมกรุ่นของเธออย่างมูมมาม

มายด์:" อื้อออ อาาา ยะ อย่า"

เธอร้องห้ามเบาๆราวกระซิบดนัยที่นาทีนี้ความต้องการบังตาเริ่มแล้วมีหรือจะยอมหยุด เธอรู้สึกถึงแก่นกายของเขาที่กำลังขยายตัวมันทิ่มหน้าขาเธออยู่ตอนนี้ ดนัยเลือนปากไปเลียหูเธอและงับเบาๆ แต่มายด์กับยิ่งอ่อนระทวยลงอีกเพราะความสยิว

มายด์:"อ้ายย ซี๊ดดด พอเถอะหยุ..อุ๊ปป อื้อๆ"
เสียงร้องห้ามไม่ทันจบประโยคดนัยก็ชิงประกบปากปิด ส่งลิ้นเข้าไปพัวพันเธออีกครั้ง มายด์เองพยายามฝืนตัวเบี่ยงหน้าหนี แต่มืออีกข้างออกดนัยก็มารั้งท้ายทอยไว้ เธอต้านทานไว้ได้ไม่นานก็จะถูกลิ้นสากๆบุกเข้ามาในช่องปากอีกครั้ง



มายด์:"อื้ออออ แผล็บบ จ็วบบบ อื้ออ"
ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปกว่านี้เธอรีบผลักตัวเขาออกด้วยแรงที่เหลือทั้งหมด พอดนัยโดนผลักถอยหลังออกมาก็ได้สติ
เพี้ยยย มือของเธอหวดเข้าไปที่ใบหน้าเขาเต็มฉาดก่อนเธอจะเดินออกไปทันที ดนัยยืนนิ่งไปซักพักก่อนจะกุมขมับด้วยความเครียด

ดนัย:"นี้กูทำบ้าอะไรไปวะเนี่ย"
เขาบ่นกับตัวเองแทนที่จะอธิบายทุกอย่างให้เธอเข้าใจกลับดันไปทำอะไรที่ไม่น่าทำ หลังจากสติแตกอยู่ซักพักเขาก็รวบรวมสติได้ ก่อนจะหยิบมือถือกดเบอร์ที่จดจำอย่างขึ้นใจแต่ก่อนที่เขาจะกดโทรออก

"ดนัยโว๊ยยย มาช่วยเอาม้าออกไปวิ่งหน่อยเร็ว ไม่ใครอยากขี่เจ้าลมของนายน้อยเลย"
ดนัยรีบเก็บมือถือก่อนเดินออกไปทันที

ดนัย:"ครับๆลุงศักดิ์" เขาเดินไปรับอานจากชายร่างอ้วนผู้เป็นหัวหน้างานของตน ก่อนจะเดินไปใส่อานให้เจ้าม้าตัวสีดำเข้มรูปร่างกำยำแต่ที่เป็นลักษณะเด่นคือมีขนสีขาวแซมที่บริเวณตาคาดยาวเหมือนมีผ้าผูกตา เจ้าม้านามว่าลมพ่นลมแรงใส่หน้าดนัยที่เดินเข้ามา ดนัยพูดกับมันอย่างคุ้นเคย
ดนัย: "เออ ตูเองนายน้อยเจ้านายเอ็งไปนั่งซึมกระทื่อเหมือนเคยละ"

เจ้าลมพ่นลมฝึดฟัดอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก แต่ก็ยอมให้ดนัยใส่อานแต่โดยดี ดนัยลูบหัวมันก่อนจะเอ่ยปากบ่นเบาๆ

ดนัย: "ไอ้ลมเอ่ย ทนๆรำคาณหน้าตูหน่อยเจ้านายเอ็งหายจิตตกเมื่อไหร่ เอ็งก็จะได้วิ่งตามใจซักที"

ก่อนจะจูงมันเดินเข้าไปในลานกว้าง เพื่อนร่วมงาน(ชั่วคราว)ทั้งหลายต่างกำลังขี่ม้าหลายตัวออกมาวิ่งเช่นกัน แต่วันนี้กลับมีกลุ่มนักศึกษาที่มายืนมุ่งดูกันอย่างสนอกสนใจ ดนัยจึงเข้าใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนคนงานทั้งหลายจึงแต่งตัวเสริมหล่อกันอย่างเต็มที่

ดนัยเองก็ยืนจ้องกลุ่มนักศึกษามองหามายด์จนเจ้าลมที้ยืนคอยแตะป้าปเข้าที่หลัง

ดนัย:"เออๆ รู้ว่าคึกรู้ว่าอยากวิ่ง แต่เอ็งไม่ต้องสะกิดกันแรงก็ได้"

ดนัยบ่นมันขณะปีนขึ้นหลังมัน มันรีบเดินควบออกตัวทันที ม้าหนุ่มกำยำควบเบาๆออกไปทันที เหล่าม้าที่เยื้องย้างอยู่ข้างหน้าต่างพากันหลบห่างเจ้าลมทันทีราวกับเกรงกลัวมัน มันควบเหยาะๆผ่านกลุ่มนักศึกษาดนัยจึงวาดสายตาหาร่างของมายด์

มายด์เองหลังจากตบหน้าดนัยไปแล้ววิ่งหนีออกมา
เธอสับสนอย่างมากทั้งตกใจทั้งวาบหวามใจกับจูบที่ถูกเพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)ชิงไปหน้าตาเฉยทั้งอายที่ยอมให้ดนัยล่วงล้ำร่างกายและผสมกับความโกรธเคืองที่อยู่ดีๆตำรวจหนุ่มคนนี้ก็หาบแว๊บไปจากชีวิตเธอเฉยๆ ไม่มีการติดต่อไม่มีการล่ำลาใดๆจากเขาเลยแต่พอเจอกันเขากลับจับเธอดูดปากซะงั้น แต่เธอโชคดีที่ไม่มีใครสังเกตุถึงหน้าแดงๆและโชคดีที่ชุดเธอไม่ยับอะไรใครเลยมายืนหลบหน้าดนัยในฝูงชนที่กำลังดูเหล่าคนงานเอาม้าออกมาวิ่งแต่ขณะที่เธอกำลังคาดโทษสาปส่งชายหนุ่มในใจอยู่เสียงกรีดและเสียงซุบซิบกันในระหว่างเหล่าสาวๆทั้งหลาย

"คนงานที่นี้ดีต่อใจจริงๆ"
"ทำไมคนงานคนนั้นต้องล้ำอะไรเบอร์นั้น"
"พี่ค่าาา มาเป็นผัวหนูที"
"ถ้าได้คนนี้เจ๊จะเลียให้ล้มเลย"

ซึ่งแน่นอนว่าการมีคนรักก็ย่อมมีคนชังเป็นธรรมดา
"โหห มันก็แค่คนงานชั้นต่ำปะวะ"
"เข้ นึกว่าว่ามึงเท่ห์มากเหรอวะ"
"กูยังหล่อกว่ามันอีก ที่ดูดีเพราะขี่ม้าหรอก"
"ถ้าให้กูขี่ม้านะกูหล่อกว่าแมร่งสิบเท่า"
"แต่กูว่าเขาหล่อดีนะมึง"
เหล่าเพื่อนชายต่างเสียวแวบที่ตูดกับประโยคสุดท้าย

ไหม:"เฮ้ยมายด์ แกคนนี้งานดีจริง"
มายด์ประหลาดใจเพราะขนาดเพื่อนรักตนที่จัดว่ามาตราฐานสูงยังออกปากเอง เธอจึงมองตามไปพบว่าชายที่ขี่ม้าดำมานั้นคือชายที่เธอพึ่งสาปส่งในใจเมื่อกี้นี้ ดนัยที่กำลังมองหาเธอสบตากับเธอที่กำลังเงยหน้าพอดี มายด์รีบสะบัดหน้าหลบเพราะความเขินอายกับเหตุการณ์หลังตู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้หัวใจเธอเต้นตึกตักๆอยู่ข้างใน

ดนัยเมื่อสบตาเข้ากับเธอแต่เธอกลับสะบัดหน้าหลบตาตนอย่างรวดเร็ว เขากลับเข้าใจไปเองว่า

ดนัย:(แย่ละ โกรธกูแน่ๆหลบตาแบบนี้หน้าไม่อยากจะมองชัดๆ หาเรื่องแท้ๆกูเอ่ย)

เขาพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุดพอดีจังหวะกับเจ้าลมจะห้อฝีเท้าเร่งความเร็วไป มันวิ่งเร็วจนดนัยที่ไม่ค่อยจะมีสมาธิเกือบร่วงตกจากหลังม้า มันวิ่วตะบึ่งอย่างเร็วผ่านสวนต่างๆของไร่เฉกเช่นทุกวัน แต่ขณะมันวิ่งผ่านลำธารเล็กๆมันก็บ่ายหน้าไปเข้าป่า

ดนัย:"เฮ้ยๆ พ่อม้าอินดี้เอ็งจะไปไหนละเฮ้ยวันนี้ไม่มีกำหนดการวิ่งออฟโรดนะเฮ้ย"
มันร้องฮี้ๆเบามาคำเดียวดนัยรู้สึกเหมือนมันจะตอบว่า
"เออกูจะวิ่งอะ"

ดนัยกลอกตาก่อนจะพยายามทรงตัวบนม้าหลังไปวิ่งฝ่าดงไม้โดยไม่ห่วงเจ้าคนขี่หลังมันแต่อย่างใดมันก็มาหยุดใกล้ลำธารสายหนึ่งก่อนจะร้องและย้ำเท้าดังๆเรียกร้องความสนใจจากบุคคลที่นั่งแช่ขาอยู่ในน้ำ ชายคนนั้นหันมาหามันก่อนจะลุกขึ้นมา เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาหาเจ้าลมนั้นไม่อ้วนไม่ผอมผิวขาวกระจ่างตาคมกลมโตใส่แว่นกรอบหนาดูแล้วเหมือนคุณชายจากตระกูลใหญ่แต่ชุดที่ใส่กลับดูยาจกบดบังความดูดีไว้แทบมิด

เขาลูบหัวเจ้าม้าอย่างคุ้นเคยมันเองก็เอาหน้าไปสีเด็กหนุ่มข้างหน้าอย่างกระตื้อรือล้น เจ้าม้าลมกรดเงยหน้าหันมาพ่นลมแรงใส่ดนัยคล้ายกลับไม่พอใจอะไรบ้างอย่าง

ดนัยที่ใบหน้าและปากเต็มไปด้วยใบไม้พึ่งถมใบออกจากปากหมดตอบเจ้าม้าเอาแต่ใจเหมือนเข้าใจที่มันบอก
ดนัย: "เออๆ กำลังลงแล้ว ทำมาเป็นฟึดฟัดใส่" ก่อนจะปืนหลังจากหลังมัน

มันรีบเข้าตัวสีเด็กหนุ่มอย่างหนักหน่วงคล้ายเชิญชวนไอ้หนุ่มผ้าขี้ริ้วตรงหน้าขึ้นบนหลังมัน เด็กหนุ่มกลับจับหน้ามันตรงก่อนพูดว่า
เด็กหนุ่ม: "โทษทีนะลม แต่ฉันยังอยากอยู่เงียบๆวะ"
เจ้าม้าได้ยินก็ถึงกับคอตก พ่นลมหายใจเบาๆคล้ายชายหนุ่มโดนหักอกมาก่อนจะเดินซึมไปจิบน้ำในลำธาร
ดนัย: "เออ นายน้อยครับอย่าหาว่ากระผมจุ้นเลยนะครับนาย แต่ว่านายลองเปลี่ยนบรรยายกาศไปขี่ม้าเล่นบ้างนึกว่าเห็นแก่ไอ้เจ้าลมมันเถอะครับ มันคิดถึงนายน้อยนะครับ มันแทบไม่วิ่งเลยนะครับถ้าปล่อยไว้มันจะ..."

เด็กหนุ่มที่ดนัยเรียกขานว่าเป็นนายน้อยยกมือขึ้นห้ามดนัย
นายน้อย:"บอกกี่ครั้งแล้วว่าพี่ดนัยเรียกชื่อผมเฉยๆก็ได้ มาเรียกอะไรแทบนั้นอึดอัดวะ"
ก่อนจะเดินมากอดคอดนัยอย่างสนิทสนม ดนัยยืนนิ่งซักพักก่อนถอยหลังออกมา

ดนัย:"โอยย กระผมมันขี้ข้าครับจะให้เรียกคุณๆแทบนั้นคงรับไม่ไหวครับ"

เด็กหนุ่มมองดนัยอย่างขัดใจเพียงพริบตาเดียวก่อนแววตาไม่สบอารมณ์จะหายไปจนแทบมองไม่ทัน แต่ระดับดนัยที่ระวังตัวจนแทบระแวงโดยเฉพาะกับชายตรงหน้าสัญชาติญานผิดมนุษย์ของเขามันร้องระงมว่าให้ระวังชายคนนี้ไว้ให้ดี

ดนัยลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเด็กหนุ่มมองมาที่เขาดวงตาใสๆไร้แววอันตรายมองมาอย่างเป็นมิตรแต่ดนัยกลับเหมือนโดนจ้องหาพิรุจ เขาเองรู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเองก็สงสัยตนพอๆกับที่ตนระแวงเขาเช่นกันแต่ด้วยยังไม่มีพิรุจอะไรนายน้อยแห่งไร่นี้จึงได้แต่เฝ้ามองดนัยอยู่

นายน้อย:"เอาไหงงั้นวะวันแรกเรายังซี้กันอยู่เลย"
ดนัยกลับยิ้มเจื้อนๆกลับไป

นายน้อย: (ไหลลื่นหลุดไปให้ตลอดนะมึง รอก่อนเถอะกูจะกระชากหน้าชากไส้ให้ได้)
เมื่อเห็นว่าวันนี้คงจะล้วงอะไรไม่ได้ดังเคยก็เลยพูดตัดบทไป
นายน้อย:"เรื่องไอ้ลมผมไม่ห่วงมันหรอก แรกๆก็กลัวมันป่วยเพราะไม่มีใครให้มันขี่เลยจนมันยอมให้พี่ขี่แหละผมถึงเบาใจ มันคงเห็นอะไรในตัวพี่ที่ไม่มีใครเห็นเหมือนผมนั้นแหละ"
ดนัยก็ยิ้มตอบไปอย่างซื่อๆ

ดนัย:(เออ ไอ้แว่นกูรู้ว่ามึงสงสัยกูไม่ต้องขู่ตูซ้ำๆก็ด้ายยย สาสสสกูไม่เผลอหรอกโวย) ทั้งสองจ้องตาอย่างรู้กันก่อนเด็กหนุ่มจะเดินเลียบลำธารออกไปดนัยก็กลับไปขึ้นหลังม้าก่อนขี่มันกลับไปทางเดิม

เมื่อกลับถึงไร่ก็นำพ่อม้าอินดี้ไปอาบน้ำแปรงขนและส่งเข้าคอกก่อนเขาจะเดินกลับบ้านพักคนงานแต่ระหว่างเดินผ่านทางโรยกรวดไปผ่านเรือนรับรองเขาก็มองเห็นมายด์อยู่ไกลๆ

เธอกำลังเดินกลับจากเรือนรับซึ่งเป็นที่พักของเหล่าอาจารย์ ดนัยรีบเปลี่ยนเส้นทางไปเดินอ้อมแต่ขณะเดินไปไม่กี่ก้าว เสียงดังโวกเวกด้วยความคะนองดังมาจากทิศที่เธออยู่

"อ้าวว น้องสาวจ้าเดินคนเดียวเหงามั้ยพี่เดินเป็นเพื่อนเปล่าจ๊ะ"

เหล่าคนงานแซวมายด์เพราะสนุกปากตากฤทธิ์เหล้าขาวที่พึ่งไปแอบกินกันมา
ดนัยเองก็มองดูอยู่ห่างๆเมื่อเห็นว่าเหล่าเพื่อนร่วมงานชั่วคราวนั้นเพียงแค่เย้าขำๆเพียงนึกสนุกไม่ได้มีทีท่าจะล้วงเกินอะไรก็เบาใจ



แต่บางครั้งความซวยก็มาเยือนเราได้เสมอ ขณะพวกคนงานทั้งหลายกำลังจะเดินไปเสียงห้าวๆก็ดังมาจากข้างหลัง
"เฮ้ยไอ้พวกกระจอกมึงมายุ่งอะไรกับแฟนกูวะ" เมฆผู้ผ่านเหตุการณ์ก็อาศัยจังหวะนี้สร้างคะแนนต่อเธอด้วยการโชว์แมนตะโกนข่มขวัญและเดินมาผลักไหล่พวกมันคนหนึ่งจนเซไปจนเพื่อนก่อนจะไปบังร่างมายด์ก่อนพูดเสียงหล่อ
เมฆ:"ไม่เป็นไรนะ เราอยู่นี้แล้ว"

ดนัยที่ยืนอยู่แทบอ้วกแตก
ดนัย:(น้ำเน่าไปอีกกก)

แต่แค่นั้นยังไม่พอ คนงานที่โดนพลักเดินเข้ามาหวังจะอธิบายแต่ด้วยความอยากโชว์ แม้คนงานจะเดินเข้ามาอย่างไม่มีทีท่าคุกคามแม้แต่นิด กำปั้นของนายเมฆก็หวดไปที่หน้าอย่างจัง คนงานคนแรกล้มลง เหล่าเพื่อนข้างหลังก็รีบมาพยุงเพื่อนตนลุกขึ้น

คนงาน2:"คุณๆ ผมอธิบาย"
เมฆ: "พวกชั้นต่ำอย่างมึงไม่ต้องมาตอแหลแถกู มึงเห็นแฟนกูสวยหน่อยเลยคิดอะไรต่ำๆ สมแล้วที่เป็นแค่คนงานกระจอกๆ ถุย! ไปไกลๆเลยนะไป!"

ดนัยกุมขมับด้วยความเซ็ง อยู่ดีๆไปต่อยไม่พอยังชี้หน้าด่ากันฉอดๆแบบนี้เหล่าคนงานก็ตบะแตก ก่อนขยับย่างสามขุมเข้าไปหาพ้อพระเอกจำเป็นอย่างมุ่งร้าย

"มีอะไรกันรึเปล่าครับ"

เด็กหนุ่มใส่แว่นในชุดเก่าๆเดินเข้ามาถาม เหล่าคนงานยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ

เมฆ:"ไม่ใช่เรื่องของเด็กรับใช้แบบมึงไปไหนก็ไปปะ" เด็กหนุ่มมองหน้าเมฆอย่างอึ้งๆก่อนแววตาจะเปลี่ยนไปคล้ายกับยินดี ก่อนหันไปพยักหน้ากับคนงานแล้วเดินออกมา

ดนัย:"อ้าวเชี่ยแว่น ไหงทิ้งกันแบบนี้ละวะเฮ้ย"
ดนัยร้องขึ้นมาแบบขัดใจ คนงานทั้งสามเมื่อทางสะดวกก็เฮไปรุมย่ำตีนใส่นายตรงหน้าพวกมัน นายเมฆพยายามสู้จนสุดความสามารถ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เพียงไม่กี่นาทีเขาก็พลาดท่าโดนสหบาทาร่วงไปนอนคลุกฝุ่นที่พื้นคนงานคนหนึ่งเดินไปล็อคแขนยกร่างโทรมๆขึ้นมา ก่อนจะผลัดกันต่อยไม่ยั้ง

มายด์:"พี่ๆค่ะ พอค่ะพอแล้วเพื่อนหนูจะตายแล้ว อย่าทำอะไรเขาต่อเลย"

เหล่าคนงานที่กำลังขาดความยั้งคิดจากฤทธิ์สุราและโทสะมันทิ้งร่างชายในมือลง ก่อนจะย่างเท้าเข้ามาล้อมเธอไว้แววตาที่เหย้าแหย่มันกลายเป็นแววตามุ่งร้าย
คนงาน1:"แฟนมึงต่อยกู มึงต้องรับผิดชอบด้วย" คนงาน2:"มันหวงมึงมากใช่มั้ยกูจะเย็ดมึงต่อหน้าแมร่ง ไอ้ทิวจัดการ!"
คนงานที่ชื่อทิวพยักหน้าให้
และเดินเข้าไปเอื้อมมือมันจะคว้าแขนเธอไปกับพวกมัน แต่วินาทีนั้นเหล่าพวกมันทั้งสามรู้สึกกลัวจนลุกวาบขึ้นไปทั้งตัว แผ่นหลังเหมือนถูกคมมีดเฉือนไม่ยั้ง พวกมันหันไปทางทิศที่มาของความรู้สึกทันที

ดนัย:"พวกพี่ๆคิดจะทำห่าอะไรกันครับ"
ดนัยเดินเข้ามาหาพวกมันช้าๆที่ละก้าว แววตาขี้เล่นที่เห็นประจำกลายเป็นเย็นเยือก ใบหน้านั้นยังอมยิ้มน้อยๆไว้เช่นเคย แต่พวกทันกลับรู้สึกว่าดนัยที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนละคนที่ทำงานกับพวกตน

ทิว:"ไอ้ดนัย มะ..มึงไม่ต้องมาเสือกนี้อย่าคิดนะว่าเป็นคนสนิทคุณๆแล้วพวกกูจะไม่กล้า"
พวกมันร้องรับคำไอ้ทิวพยายามข่มใจขู่ดนัย ดนัยแค่นยิ้มขึ้นก่อนจะหลับตาก่อนดวงตาจะเปิดขึ้นพร้อมกับคลื่นรังสีฆ่าฟันที่ทะลักไหลบ่าออกจากตัวเหมือนน้ำป่าทะลักแววตาแปรเปลี่ยนเป็นอำหมิต

ดนัย:"แล้วผมบอกเหรอว่าผมขู่พวกคุณในฐานะคนงาน? พวกพี่ไปดีกว่าอย่าให้ผมต้องลงมือเลย"
พวกมันรู้สึกเหมือนมีแรงปะทะบางอย่างมาดันตัวพวกมันให้ถอยหลังไป เหล่าเสียงแมลงแถวนั้นหายไปราวกับหลบซ่อนตัวจากอันตราย พวกมันถอยออกจากมายด์ช้าๆ พวกมันรู้สึกเหมือนมีมีดมาจ่อคออยู่ก่อนจะรีบวิ่งหนีหายไปเมื่อออกมาไกลจากดนัยแล้ว ดนัยเอามือมาลูบหน้าก่อนบรรยากาศอึดอัดรอบตัวจะสลายไปเหมือนไม่เคยมี สีหน้าและแววตากลับมาสดใสเหมือนดังเคย ดนัยถอนหายใจและพูด
ดนัย:"ฟู่! เกือบไปแล้วๆ มายด์โอเคใช่มั้ย" เขาเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสาว
มายด์:"อะ...เออ ระ...เราไม่เป็นไร"

เธอตอบโดยไม่สบตาร่างกายสั่นเทิ่ม มายด์รู้สึกว่าไอ้บรรยากาศรอบตัวรอบนี้กรีดลึกรุนแรงกว่ารอบที่เธอเคยเห็นตอนที่ดนัยฆ่าคนต่อหน้าเมื่อนานมาแล้ว

ดนัยยืนมือมาให้เธอ"ก็บอกแล้วว่ายังไงๆเราก็ไม่ทำร้ายมายด์ จำได้มั้ย"
มายด์เลื่อนสายตามามองหน้าเขาก็รับรู้ถึงความรู้สึกเดิมๆเหมือนครั่งที่เขายืนมือให้เธอตอนนั้น ทุกความรู้สึกของเขามันชัดเจนเช่นเคยเธอรับรู้ได้ผ่านแววตาของเขา แต่ที่เพิ่มมาใหม่คือความหล่อดูดีขึ้นและก็คงเป็นความรู้สึกของตัวเองที่เริ่มจะสั่นไหวไปกับเขามากขึ้น

เธอมองตาเขาก็จะส่งมือมาให้ดนัยเหมือนทุกที

"ไอ้คนงานกระจอกมึงจะทำอะไรวะ"
นายเมฆที่พึ่งลุกขึ้นมาได้เดินเข้ามาผลักดนัยออกไป ดนัยพยายามข่มใจไม่ให้กระโดดถีบมันในตอนนี้และนายเมฆก็ยังคงพล่ามไม่หยุด

เมฆ:"มายด์ไม่ต้องกลัว เราไล่พวกมันไป3คนแล้วอีกคนเดียวก็ไม่มีใครทำอะไรมายด์ได้"
มายด์:"เออ..คือนายคนนี้เขามา..."
เมฆ:"มาทำอะไรมายด์บอกเราดิ"

ก่อนจะถือวิสาสะเอามือเธอมาจับเฉย ดนัยข่มฟันแน่นพยายามปลดระเบิดลูกใหญ่ในตัวที่กำลังจะระเบิด

ดนัย:(ไอ้หมอหมามึงเนียนไปไหม ไม่เอาไม่ใช่ที่ไม่ใช่เวลารีบชิ่งเถอะ)
เมฆ:"มึงมายุ่งอะไรกับแฟนกู ไอ้สวะ! มากูจะสั่งสอนมึง..."

ประโยคนี้เหมือนมีใครไปกดโดนปุ่มระเบิดภายในตัวของหมวดตำรวจตรงหน้า เมฆที่กำลังเดินฮึดฮัดเข้ามาหาดนัยขนลุกวาบขึ้นเหงื่อแตกพลั่ก
พริบตาเดียวกับที่นายเมฆรู้สึกถือลางอัปมงคล มือของดนัยซึ่งน็อตหลุดไปแล้ว ก็บินมาที่ลำคอมันมือดนัยบีบจับเอาไว้ดุจคีมเหล็กมันพยายามง้ากมืออกแต่ก็ไร้ผล ดนัยกระชากตัวมันไปเหวี่ยงอัดกระแทกกับต้นไม้ใกล้ๆ แม้ว่ารูปร่างจะเล็กกว่าพอสมควรดนัยก็ยกร่างมันขึ้นด้วยแขนข้างเดียวเมฆมองหน้าดนัยอย่างหวาดกลัวดวงตาของดนัยเย็นเยือกไร้แววความเมตตาปราณีความรู้สึกเมื่อเห็นใบหน้าของดนัยตอนนี้คงเป็น ความดิบเถื่อนกระหายเลือดเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันจนร่างของเมฆนั่นสั่นพับๆ แม้มายด์ที่ยืนอยู่ห่างออกไปแม้จะไม่ได้ตกเป็นเป้าของดนัยโดยตรงก็ยังรู้สึกถือรังสีอำหมิตที่พวยพุ่งออกมาอย่างไม่คิดจะปกปิดตัวตนใดๆอีกแล้ว

ดนัย:"ถ้ามึงยังจะโชว์ถ่อยแล้วทำให้เธอซวยอีกแบบนี้ละก็กูจะกระชากลูกตามึงออกมายัดใส่ปากมึง...เข้าใจชัดเจนนะไอ้หน้าเหียก"

ก่อนจะหวดฮุกขวาเข้าไปที่ใบหน้าส่งร่างนายขี้เก๊กปลิวไปนอนวัดพื้น
นายเมฆรีบลุกขึ้นรีบวิ่งหนีหายไปทิ้งหญิงสาวไว้ลำพังกับดนัย ดนัยสบถอย่างไม่สบอารมณ์ก็จะเดินไปหามายด์

ดนัย:"โทษทีที่พูดตรงๆ แต่นี้หาแฟนได้กีแค่นี้เหรอวะครับ ผู้หญิงสมัยนี้คบคนที่หนังหน้ากันหมดจนลืมตรวจสอบคุณภาพภายในกันรึไงครับ นี้ถ้าเราเป็นโจรเนี่ยเราหิ้วมายด์เข้าพงไปปูยี้ปูยำสบายตัว ฟินน้ำแตกแล้วนะ เฮ้ยขอละหาดีๆกว่านี้เถอะ"
มายด์หน้าเหวื้อไปกับดนัยที่เหมือนกินรังแตนมาสวดเธอไม่หยุดเรื่องการหาแฟนเพราะพาลเข้าใจไปจริงๆว่าเมฆเป็นแฟนเธอ แต่ไอ้คนที่พูดมันก็หายไปจากชีวิตเธอไปดื้อๆเนี่ยนะเธองงกับเพื่อนชายตรงหน้าเหลือเกิน

ดนัย:"เฮ้ยพูดมาอะฟังบ้างเปล่าวะ นี้จริงจังนะเราห่วงมายด์แต่ไหนรู้บ้างปะ"
มายด์:"ก็อย่างน้อยเมฆก็ไม่เคยหนีหายเราไปแบบใครแถวนี้ละกัน"
จู่ๆเธอก็หงุดหงิดพาลตอบไปแบบนั้นก่อนจะเดินหนีหายไป ดนัยยืนอึ้งไปก่อนรีบวิ่งตามไปทันที

ร่างบุคคลหนึ่งเดินออกมาจากมุมตึกก่อนจะยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะเดินมาสำรวจพื้นที่ก่อนจะ วางแผนบางอย่างในใจแล้วเดินออกไปอย่างมีความสุข

ดนัยรีบวิ่งตามร่างงามที่อยู่ดีๆก็เดินหนีเขาเฉยๆ
มายด์:(อีตาบ้า เป็นห่วงบ้าอะไรหายตัวไปเฉยๆ เกลียดที่สุดมาพูดว่าห่วง แล้วทีหายไปแบบนี้ห่วงมากเลย อีตานี่มันน่าตบอีกที)
เธอรู้ว่าเขาตามมาก็รีบเร่งฝีเท้าหนีแต่ด้วยทางมันมืดและไม่คุ้นชินเธอจึงสะสุดรากไม้ล้มลง เธอรีบยันตัวลุกขึ้นแต่ก็เจ็บข้อเท้าจนลุกไม่ไหวจนดนัยมาถึงตัว

ดนัย:"เอาสิ เข้ามาในพงมืดๆก็ล้มอะดิ มาเราช่วย"
ก่อนจะดึงตัวเธอขึ้นมาอย่างง่ายดาย แต่พอเธอยืนข้อเท้าขวาก็เจ็บแปล๊บจนเซไปซบดนัยเข้า ความทรงจำหลังตู้ก็พุ่งวาบเข้ามา เธอรีบพลักตัวเขาออกแต่ด้วยตนเองยังยืนไม่ได้มั่นคงจะพลอยจะล้มลงเสียเอง ดนัยจึงรีบคว้ามือออกไปโอบตัวเธอไว้แต่ด้วยความบังเอิญหรือเทวดา(บ้ากาม)อยากให้มี มือเขาดันมาคว้าอกงามๆไว้ข้างหนึ่งอย่างพอดิบพอดี เมื่อสัมผัสนุ่มๆโดนมือดนัยก็เผลอบีบคลึงเบาๆไป ด้วยความลืมตัวก่อนมายด์จะได้สติรีบดันตัวเขาออกไปส่วนตนก็ออกมาใช้ต้นไม้พยุงตัวแทน

มายด์:"มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะ"
ดนัย:"อ้าวอุสาห์ตามมา แน่ใจนะว่ากลับเองได้ไม่ให้ช่วยอะไร"
มายด์:"เออ ดิฉันกลับเองได้ไม่ต้องรบกวนคุณคนงานหรอกค่ะ"
ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
ดนัย:"แล้วจากนี้บ้านพักพวกคุณไปทางไหน"
ดนัยกล่าวยิ้มๆ มายด์เองชะงักไปด้วยรอบตัวนั้นมือไปหมดมองไปทิศไหนก็มีแต่ต้นไม้และความมืด
เธอพลาดซะแล้วถ้าดนัยกลับไปจริงเธอคงต้องนั่งหลงทางทั้งคืนแน่ๆ ดนัยมองหน้าเธออย่างขบขันเขาแปลกใจที่แม่สาวที่ชาญฉลาดรอบคอบไปหมดจะพลาดง่ายๆแบบนี้ เขาเดินมารวบช้อนขาเธอไปอุ้มในท่าเจ้าชายแบกเจ้าหญิง มายด์ดิ๊นอย่างตกใจ

มายด์:"จะๆ...จะทำอะไรปล่อยเลยนะ"
ดนัย:"ก็ข้อเท้าแพลงอยู่ก็ต้องอุ้มไปสิ ให้เดินเองคงเช้าพอดีหรือจะไปนอนกับเราปะละ แต่อาจจะไม่ได้นอน เอาแบบนั้นเหรอ"
หญิงเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี่
ก่อนร่างชายหนุ่มจะออกเดินฝ่าความมืดไปอย่างชำนาญทาง ดนัยแบกร่างเธอไปสักพักเธอก็ถาม
มายด์:"แกทำไมมันมืดแบบนี้อะ เราไม่ค่อยชอบอะ"
ดนัยก้มลงมองหน้าเธอ
ดนัย:"เกาะแน่นๆละ"
ก่อนจะปล่อยแขนที่ช้อนหลังเธอออก เธอหวีดร้องอย่างตกใจก่อนมือทั้งสองจะโอบรอบคอดนัยด้วยความตกใจ ก่อนดนัยจะล้วงไฟฉายอันเล็กๆส่งให้เธอและเดินต่อไป การใช้มือโอบรอบคอทำให้ใบหน้าของเธอชิดกับตัวเขามากขึ้น อกนิ่มเบียดอัดกับกล้ามเขามากขึ้นดนัยพยายามตั้งสมาธิให้จดจ่อกับการเดินแต่แก่นกายของเขามันยิ่งชูชันยิ่งเธอเปิดไฟฉายเขายิ่งเห็นร่างเธอชัดขึ้นแต่เห็นวงหน้าสวยๆใกล้ขนาดนี้ความเป็นชายของดนัยก็พลุ่งพลาน

มองไล่ไปเสื้อนักศึกษาดันเต้างามออกมาเป็นก้อนขาวๆกระโปร่งรนขึ้นมาถึงครึ่งน่องขาขาวเนียนชวนฝันดนัยหายใจเข้าลึกๆพยายามละสายตาออกจากเรือนร่างอันแสนยั่วยวนนั้นแต่ถึงจะเบือนสายตาจมูกก็ยังได้กลิ่นหอมจากร่างหญิงสาวอยู่ดี



แม้จะพยายามเป็นคนดียังไงแต่แท่งความเป็นชายก็ชี้โด่ดันกางเกงนู้นขึ้นมา มายด์เองก็รู้สึกดีในอ้อมแขนของชายหนุ่มเช่นกันมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

แต่เมื่อเธอสังเกตดีๆ ชายหนุ่มจะหายใจหนักๆทุกครั้งที่แอบเหลือบมองเธอ เธอแอบสำรวจตัวเองก่อนจะพอเดาได้ว่าชายหนุ่มพยายามข่มใจห้ามตัวเองอยู่

หญิงสาวจึงนึกสนุกขยับตัวคล้ายเมื่อยขบ บดอกคู่งามเข้ากับแผงอกเข้าไปอีกก่อนจะขยับองศาให้ดนัยมองเห็นลอดเข้าไปเห็นยกทรงสีขาวจากมุมบนได้ชัดๆก่อนจะทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ฝั่งดนัยเมื่ออกนุ่มๆบดเบียดมามากขึ้นก็แอบเหลือบมองลงมาที่ใบหน้าพบว่าไม่มีพิรุจอะไรก็เข้าไปว่าบังเอิญแต่ตากลับเหลือบมองเห็นเนินอกขาวในชั้นในสีขาวก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนไล่สายตาเก็บลายละเอียดไปหญิงสาวแกล้งมองกลับมาชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหลบทำเป็นไม่เห็นอะไรหญิงสาวอมยื้มน้อยๆก่อนจะกะพื่อเสื้อน้อยคล้ายว่าร้อนแค่กลับทำให้จุดชมวิวของดนัยชัดขึ้นอีก

ดนัยเหลือบไปเห็นก็ตาโตราวไข่ห่านอกขาวอวบที่เขาฝันจะครอบครองอยู่แค่เอื้อมแถมเธอยังขยับขาให้กระโปร่งรนขึ้นมาอีก แต่พอเห็นสายตาของเธอจะมองขึ้นมาอย่างจับผิดก่อนสะดุ้งก่อนเบือนหน้าอย่างไม่รู้ไม่ชี้

มายด์:"ยังชอบแอบมองนมเราเหมือนเดิมเลยนะ"
ดนัยยิ้มแห้งๆให้ใบหน้าเขาก็ขึ้นสีนิดๆ

มายด์:"ทำไมตรงนี้เหมือนผ่านมาแล้วละ"    ดนัยแอบหวาดเสียวในใจเพราะตนแอบเดินอ้อมไปอ้อมมามาซักระยะแล้วดนัยรีบกลบเกลื่อน

"ก็ป่ามันก็คล้ายๆกันหมดละครับ"

มายด์เองก็ไม่ว่าอะไรเพราะในใจก็แอบรู้สึกชอบเวลานี้ขึ้นมานิดๆ ก่อนจะขยับเยียดอกใส่ชายหนุ่มเป็นระยะๆแกล้งจนเธอรู้สึกถึงเหงื่อของดนัยที่ไหลชุ่มใบหน้าก่อนจะรู้สึกถึงอะไรอย่างอย่างทิ่มเข้าไปสะโพกและก้นมันแข็งหยุ่นๆ

มายด์:"อะไรทิ่มก้นเราอะดนัย"
ดนัยรีบตอบ:"อะเอออ ไฟฉายๆ"
เธอส่งไฟฉายในมือให้ดนัยดู

ดนัย:"อ่อเอองั้นคงเป็นหัวเข็มขัดละ อ้อจะถึงละนะอีกแปปเดียว"

พอพิรุจของเขาทำให้เธอนึกขึ้นไปว่าชุดคนงานที่นี้ไม่มีเข็มขัดเพราะฉะนั้นไอ้แท่งแข็งๆที่สีกับก้นตนคืออะไรพอหญิงสาวพอจะทราบว่าวัตถุปริศนานั้นคืออะไรเลือดสาวที่วูบวาบร้อนขึ้นมาและปล่อยให้ดนัยบดเอวเบาๆให้ท่อนเนื้อของเขาสัมผัสกับก้นเธอผ่านชั้นผ้าไปเงียบๆราวกับเธอไม่รู้
มายด์:(อ้าว บดเอวใส่ใหญ่เลยทนไม่ไหวแล้วละสิ ฮิฮิ)
เธอแอบภูมิใจลึกๆที่ทำให้สุภาพบุรุษอย่างดนัยทนไม่ได้จนถึงขนาดต้องสีหัวบานกับสะโพกและก้นของเธอ

ดนัย:(ทนไม่ไหวแล้วโว๊ยแค่ถูๆก็ได้วะ เบาๆเดะโดนจับได้ ซื้ดดดขาวไปแล้วโอยย)
มายด์กลับแอ่นเอวเบาสวนกลับไปในบางจังหวะดนัยเองก็เด้าเอวเธอไปมองนมเธอไปอย่างสุดจะระงับ

ดนัย:"อาา จะไม่ไหวละโวยย" เขารำพึงเบาๆร่างกายเธอทรงเสนห่มากไปสำหรับเขา แต่ก่อนที่ดนัยจะทนไม่ได้ขาของเขาก็พาเธอออกมาพ้นแนวป่ามาโผล่ที่หน้าบ้านพักเธอทันที

ดนัย:(เชี่ยลืมดูทางเฉยเลย ชิบหายละ)

"ยัยมายด์ อ้าวทำไมค้องอุ้มกันมาละเนี่ย"
เสียงไหมรูมเมทเพื่อนรักของเธอรีบวิ่งมาหา ดนัยปล่อยเธอลงก่อนมายด์จะเป็นคนตอบคำถามเพื่อนตัวเอง

มายด์: "อ่อทางมันมืดเราสะดุดล้มขาแพลงพี่คนงานเลยต้องส่งไง"

ไหมมองดนัยสลับกลับมายด์ก่อนจะช่วยประคองมายด์แต่สายตาของเธอไม่วายมองเห็นแท่งเอ็นที่ยังไม่สงบลงในกางเกง หล่อนเองไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่ก็ไม่เคยเห็นแท่งเอ็นที่อวบยาวขนาดนี้เธอรีบเบือนสายตาออกก่อนจะพามายด์เข้าไปในบ้าน มายด์เองก็ร้องบอกดนัยก่อนจะลับสายตาไป
มายด์:"ขอบคุณค่ะ"

ก่อนร่างงามทั้งสองจะหายลับเข้าประตูไป

สองสาวเองหลังจากกลับเข้ามาไหมก็รีบจัดการปัญหาข้อเท้าของเธอจนทุเลาลงจนเกือบหาย

ไหม:"คุณคนงานนี้งานดีนะแก ทั้งหล่อล่ำแถมยังสุภาพบุรุษอีก"
มายด์:"ขนาดนั้นเลย?"
ไหม:"อ้าวฉันเป็นเขานะฉันเดินพาแกไปที่เงียบแล้วจัดการก็ได้ อุ้ยยพูดแล้วอยากได้จัง"

มายด์:"ย่ะ ยัยบ้ากาม ฉันไปอาบน้ำละง่วง" ไหม:"แกไม่เคยมันก็นึกไม่ออกสิย่ะ อูยยแทงขนาดนั้นหุ่นขนาดนี้อยากได้ค่ะอยากโดนค่ะ ดูดีไม่เหมือนชาวไร่บ้านๆเลยแก รีบไปไหนของมันเนี่ย"

เธอรีบเข้าห้องน้ำเปลื้องเสื้อผ้าออก แล้วเปิดฝักบัวชะโลมร่างกายจนเปียกก่อนจะเริ่มถูสบู่แต่เมื่อถูผ่านหน้าอกข้างที่ดนัยขย่ำเธอก็รู้สึกพุ่งพลานขึ้นเธอพยายามสะบัดเขาออกจากความคิดแต่ภาพเหตุการณ์หลังตู้ กับสีหน้าท่าทางและความรู้สึกตอนเขาแบกเธอกลับมาก็วนเวียนอยู่ในหัวความรู้สึกที่ดนัยเอาแท่งเอ็นมาสีและสีหน้าเขาเวลาแอบมองหน้าอกเธอมันทำเธอว้าวุ่นใจ มือซ้ายเธอเลื่อนมาเคล้นหน้าอกตัวเองเบาๆก่อนจะแรงขึ้น
มายด์:"ดนัยยจ้าซื้ดดด"
มือทั้งสองขยับมาเคล้นอกงามของตัวเองอย่างสุดระงับและจิตนาการถึงดนัยอย่างลืมตัว

มายด์: "ดนัยจ้าบีบแรงๆเลย เรายอมแล้วอ่อยยย ซื้ดดดด"
มือขวาเลื่อนลงมาที่หว่างขาก่อนนิ้วเรียวบางจะถูไถไปตามกลีบช้าและเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ที่ไต่ทะยานขึ้นไป
มายด์ซู๊ดปากอย่างเสียวซ่าน
"อ๊ายยย โอยยยดนัยจ้า โอยยย"
ยิ่งนึกอารมณ์เธอยิ่งเตลิดก่อนจะสะท้านเกร็งขมิบปล่อยเมือกใสออกมา

มายด์:"ดนัยจ้าเราออกแล้วกริ๊ดดดโอยยแตกๆแล้ว"
เธอทรุดตัวลงหอบหายใจก่อนจะได้สติรีบอาบน้ำจนเรียบร้อยหลังจากนั้นก็เข้านอนเรียบร้อยและหลับไป

บ้านพักคนงาน ห้องดนัย
ดนัยนั้นกำลังใช้กระดาษเช็ดทำความสะอาดคาบน้ำกามตัวเองหลังจากที่ส่งเธอเสร็จเขารีบตรงดิ่งมาจัดการสาวเอ็นตัวเองไม่ยั้งถึงสองรอบก่อนจะนึกขึ้นได้กดส่งข้อความรายงานสภาพความเสี่ยงกลับไปหาทางหน่วย
ก่อนจะอาบน้ำนอนหลับด้วยความเพลีย

เช้าวันต่อมา ขณะที่ดนัยนั่งกินข้าวรวมกับคนงานทั้งหลายเฉกเช่นปกติ

ลุงศักดิ์ก็บอกว่าเรียกประชุมคนงานด่วนคนงานทุกคนต่างเดินมารวมตัวที่เรือนรับรองก่อนจะเห็นคณะนักศึกษายืนรอกันอยู่แล้วโดยที่มีชายหน้าตาบวมช้ำไปหมดยืนอยู่ข้างอาจารย์ป้าแก่ๆ หลังจากที่พวกคนงานมากันครบ

ลุงขจรเจ้าของไร่ก็ประกาศผ่านเครื่องเสียง

"เมื่อวานฉันได้ยินข่าวไม่สู้ดีนักจากอาจารย์ว่ามีคนงานของทางเราลวนลามและทำร้ายนักศึกษา ฉันจึงขอให้คนที่กระทำออกมารับผิดซะ"

กลุ่มคนงานจอแจกันซักพักไอ้ทิวกับพวกก็ออกมาตรงกลางพร้อมบอกลุงขจรที่ยืนอยู่

ทิว:"คุณท่านครับ พวกผมอธิบายได้นะครับผมแค่ตะโกนแซวน้องผู้หญิงคนขำๆเท่านั้นนะครับ"

อาจารย์ป้า:" นี้พวกแกกำลังจะบอกว่าลูกศินย์ฉันโกหกเหรอ ใครจะไปโง่เชื่อแกห๊ะ!"

ลุงขจร: "เอ้า พ่อหนุ่มสามคนนี้ใช่มั้ยเมื่อคืนที่เอ็งกล่าวหาพวกมัน"
เมฆ: "ขาดไปคนครับ"

ทันใดดนัยเดินอาดๆเข้ามาในวงสร้างความตกใจให้เหล่าชาวไร่ทุกคนไม่เว้นกระทั้งลุงขจรเอง

ลุงศักด์: "เฮ้ย มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอวะ กูไม่เชื่อละว่ามึงทำ"
ลุงขจร: "เอ้าๆทุกคนฟังข้า ไอ้หนุ่มที่ตาบวมๆเอ็งยืนยันว่าเป็นสี่คนนี้"
พอนายเมฆยืนยัน ลุงขจรก็ให้ทุกคนเหล่าเรื่องให้ฟังเริ่มจากนายทิวกับพวกและดนัย

และพอเหล่าคนงานทั้งหลายเล่าจบอาจารย์ป้าก็ออกงิ้วเต้นทันที
จารย์: "เหลวไหลทั้งเพ คนการศึกษาสูงๆแบบลูกศิยน์คุณน้องจะทำอะไรแบบนี้เหรอค่ะพี่จร พวกมันต้องรวมหัวกันปั้นเรื่องแน่ๆไอ้พวกแรงงานราคาถูกพวกด้อยพัฒนา"

ลุงศักดิ์: "อ้าวไม่ได้เรียนแล้วจะทำไมละอาจารย์ พูดแบบนี้ไม่ถูกน้าครับ"
ลุงศักดิ์หันมามองอาจารย์ตาเขียว
ลุงศักดิ์ลืมตัวฉุนขึ้นมาแต่จารย์ป้ากลับโวยไม่เลิก
จารย์ป้า: "พี่จรต้องไล่พวกมันออกนะไม่งั้นน้องจะแจ้งความ"

ลุงขจรมองกลุ่มคนตรงหน้าอย่างหนักใจอีกฝากก็จะเอาเรื่อง ส่วนฝากลูกน้องก็ไม่น่ากล้าโกหกตนก่อนเรื่องจะบานปลายก็มีเสียงดังออกมาจากเรือนพักของเจ้าของสวน

"พี่ดนัยพูดความจริงครับผมเป็นพยานได้"        เมฆ: "คนใช้แบบแกก็ต้องเข้าข้างคนงานด้วยกันละ ท่านเจ้าของไร่ต้องให้ความยุติธรรมนะครับ"

แต่ทันทีที่นายเมฆตะโกนด่าคนใช้ที่เดินมาเหล่าคนงานก็ต่างเงียบเสียงไปเสียหมดราวกลับมีคนปิดเสียงลำโพง

ลุงขจร: "ทุกคนที่ไม่ใช้คู่กรณีแยกย้ายไปทำงานได้หมดเรื่องแล้ว"
ทุกคนต่างเดินแยกย้ายกันไป

จารย์ป้า:"นี้พี่จรเลือกเชื่อไอ้แว่นนี้มากกว่าน้องเหรอค่ะ"

ลุงขจร: "ไอ้แว่นที่น้องกำลังด่าคือทายาทคนสุดท้ายของที่นี้ เขาชื่อว่ามาวิน หลานคนเดียวของฉัน"

นายเมฆถึงกับหน้าซีดส่วนทางอาจารย์ป้ากลับอึ้งไป ก่อนพูดขึ้นมา
อาจารย์: "อย่างไรคนของคนก็เจ็บ"
ลุงขจร: "งั้นทุกเย็นพวกเอ็งสามคนไปด้ายหญ้ารอบไร่ทำจนกว่าจะครบรอบไร่นะ"
ฟังผ่านๆคล้ายจะไม่ได้ลงโทษหนักมาก
แต่กรุณาฉุกคิดก่อนว่าที่นี้มีกี่ไร่
เมื่อพิพากษาจบก็เบือนหน้ามาหาดนัย

ลุงขจร: "เอ็งหนักสุด ให้ไปนอนเฝ้าคอกม้าซักสามวันละกัน เขายังไม่ตีดันเสือกที่ตีเขาก่อนหักเงิน3เดือนด้วย เอ้าจบ ไปทำมาหากิน"

จากนั้นแก่ก็คว้าจอบกับหมวกเดินหายไป ลุงศักดิ์แกก็นำนักศึกษาทั้งหลายที่ศึกษางานตามกลุ่มต่างๆตามปกติทิ้งมนุษย์ป้าและชายหนุ่มตาบวมไว้เบื้องหลัง

เล้าไก่

เหล่านักศึกษาหญิงต่างหวีดว๊ายไปกับเหล่าลูกเจี๊ยบลูกไก่ทั้งหลายสิบตัวรวมถึงมายด์ด้วยเธอกำลังเล่นกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆในมืออยู่แต่ก็ชะงักไปเพราะว่าเห็นใครคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเมื่อมองไปยังหน้าก็พบว่าเป็นหลานชายคนเดียวของเจ้าของไร่

วิน: "พี่คนสวยครับ ผมต้องขอโทษในเรื่องเมื่อวานด้วย"
มายด์: "อ้อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะเรื่องมันจบไปแล้วก็แล้วๆกันไป"
วิน:"ดีจังเลยครับ ผมกลัวพี่คนสวยจะรู้สึกแย่กับไร่ลุงผม แต่ได้ยินอย่างนี้ก็สบายใจ" มายด์:"เออ เรียกชื่อดีกว่าค่ะ มายด์ค่ะเรียกคนสวยแล้วมันฟังพิกลๆ"
วิน:"อ้อครับๆพี่มายด์ ผมวินนะครับ จริงๆเรียกพี่คนสวยก็ไม่แปลกหรอกครับ แต่ก็เรียกพี่มายด์ก็ได้"
ก่อนวินจะยิ้มให้เธอ เธอหลบสายตาเขินๆ

วิน:"แต่แปลกนะครับว่าคนงานที่โดนไล่ไปนอนคอกม้าจะกล้าลงไม้ลงมือกับใคร แกดูใจดีซื้อแต่ทำไมต้องไปต่อยตีกันนะปกติอยู่นี้ก็นิสัยดีจะตาย"

เธอแอบอมยิ้มเพราะใครที่รู้จักกับดนัยห่างๆก็จะคิดว่าเขาเป็นคนแบบนั้น แน่นอนว่าปฏิกิริยาของเธออยู่ในสายตาวินตลอดและซึ่งนั้นช่วยยืนยันในสิ่งที่เขาคิด

มายด์:"ดนัยก็แบบนี้ละค่ะ เหมือนจะเนียบๆที่เรื่องจริงนี้ไม่ใช่เลย"

วิน:"รู้จักกันด้วยเหรอครับ"
มายด์:"เปล่าค่ะ แค่เท่าเคยคุยกันเท่านั่นเอง เออขอตัวก่อนนะค่ะ"

เมื่อรู้ตัวว่าพูดเยอะไปเธอก็รีบปลีกตัวออกมาแต่มาวินกลับดันแว่นแล้วยิ้มออกมาก่อนจะเดินหายไป
ตอนนี้ได้เวลาเริ่มแผนของเขาแล้ว

วิน: (ไอ้ดนัยมันเจอกูแน่ อยากรู้จังว่ามันจะหน้ายังไง)

ช่วงเวลาพักเที่ยง ณ โรงอาหาร
ขณะที่มายด์กับเพื่อนๆกำลังนั่งกินข้าวไปคุยกันไปอย่างสนุกสนานอยู่ ร่างของมาวินก็เดินเข้ามามายด์อย่างจงใจแต่ที่แปลกคือวันนี้นายน้อยที่มักแต่งตัวมอซ่อกลับมาในชุดลำลองเสื้อยืดคอปกกับกางเกงยีนส์ซึ่งหากปกติไม่มีงานหรือธุระใดๆเขาจะไม่แต่งกายเช่นนี้
สำนวนไทยว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ไม่ได้เกินไปเลยสำหรับกรณีนี้

ด้วยหน้าตาและผิวพรรณที่ดีเกินคนทั่วไปแล้วเมื่อแต่งตัวดีๆก็ย่อมเสร่มส่งกันให้มาวินนั้นกลายเป็นคุณชายบ้านไร่รูปงามทันที วินเดินไปยังที่มายด์นั่งอยู่ทันที

วิน: "พี่มายด์คนสวยครับกินข้าวเสร็จ ว่างมั้ยครับ ผมจะชวนไปเดินเล่นอะครับ"

คำพูดแม้จะชวนตรงๆแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ด้วยรูปลักษณ์,น้ำเสียงหรืออาจเพราะพรสวรรค์ของชายหนุ่มทุกคนที่นั่งอยู่รู้สึกวางใจและสนิทกับวินได้ไม่อยากและไม่กี่นาทีต่อมาเพื่อนๆก็ส่งมอบมายด์ออกมาให้กลับมาวินโดยง่าย แม้แต่ตัวมายด์ก็ไม่ปฏิเสธชายคนนี้และเขาก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง

หนุ่มหน้าใสพาเธอมายังแปลงดอกไม้ แน่นอนว่าทั้งสวยและสงบรมรื่น หญิงสาวตาโตกับบรรยากาศที่เห็นนับได้ว่างานนี้มาวินได้คะแนนเต็มอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่นั้นไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเขา เขาแบนสายตาไปในสวนดอกไม้ของไร่ ป้าของเขาที้กำลังลงดอกไม้เพิ่มและนายดนัยไอ้ลูกจ้างกำมะลอเป็นคนช่วย แต่ต้องยอมรับที่ทุกคนในไร่รักและเอ็นดูมันโดยเฉพาะลุงกับป้าของตน แต่นั้นก็เป็นเพราะละครหน้าฉากของมัน

วิน: (การที่แฝงตัวมามันต้องการอะไรกันแน่นะ) วินมองดนัยอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเริ่มดำเนินการตามแผนต่อทันที เขารีบปั้นหน้าปกติต้องเรียกหน้ากากมาตราฐานเพราะสำหรับมาวินแล้วโลกนี้มันก็แค่การลวงหลอกกัน ต่างกันเพียงจะโง่ให้โดนหลอกหรือจะลงมือหลอกก่อนแค่นั้น

มาวิน:"อ้าวพี่ดนัยมาช่วยป้าทำสวนเหรอครับ ดีเลยๆมาพาพี่มายด์คนสวยไปดูวิธีปลูกสิครับ อ้อป้าจ้าหลานฝากพี่สุดสวยแปปหนึ่งนะคับ ลืมของไว้บนห้องอะ"
ก่อนจะทิ้งให้เหยื่อล่อสาวนั้นทำหน้าที่เผยพิรุธของลูกจ้างปลอมๆออกมา

ป้า:"เอ้าหนู มาๆป้าจะทำให้ดู เอ้าไอ้ดนัยมามองน้องเขาตาค้างได้ไงหน้าเกลียด มาขุดดินต่อ ตรงนี้"

ก่อนคู่ชีวิตของเจ้าของไร่จะมาสั่งดนัยขุดหลุมตามคำสั่งโดยที่ระหว่างนั้นก็พูดจากับมายด์อย่างเป็นกันเอง และด้วยความสดใสและความน่ารักของเธอก็สร้างความเอ็นดูต่อหญิงชราได้โขและร้อยวันพันปีเจ้าหลานชายตัวดีก็ไม่เคยพาผู้หญิงมาแนะนำกับเธอเลยจนมาวันนี้
หญิงชราก็หมายมั่นปั้นมือว่าคนนี้หลานชายพาว่าที่หลานสะใภ้มาให้ดูตัวกลายๆ

แต่ที่น่ารำคาญหูตาของท่านคือเจ้างานตัวดีเอาแต่แอบชำเหลืองว่าแต่หลานสะใภ้ของท่านอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั้นไม่ใคร่ทำให้ท่านชอบใจนัก จริงอยู่ที่ท่านเอ็นดูคนงานคนนี้เป็นพิเศษเพราะมันทั้งฉลาดกว่าคนงานคนอื่นคล่องแคล่วกว่าและมีจักมารยาทนอบน้อมเป็นเยื่ยม แต่มันเองก็ฝันสูงไป

คนงานก๊องแก็งในไร่กับนักศึกษาสัตว์แพทย์มันไปกันไม่ได้และคนนี้หลานชายคนเดียวของท่านจะให้มาเป็นหลานสะใภ้อีก ท่านมองดนัยอย่างครุ่นคิด ไม่นานนักนายน้อยแห่งไร่ก็กลับมาพร้อมหมวกสานที่ตบแต่งมาอย่างสวยงามมาในมือ มาวินยิ้มร่าก่อนจะใส่ให้มายด์ทันที

มาวิน:"ขออนุญาตินะครับ โหใส่แล้วยิ่งดูสวยกว่าเดิมอีกครับใช่มั้ยครับคุณป้า"
ชายสวมแว่นรีบโยนบทไปหาหญิงชรา

ป้า: "ใช่จ๊ะสวยมาก สวยพอๆกับป้าตอนอายุเท่าหนูเลย แหม่น่าจับเปลี่ยนชุดแต่งตัวซะหน่อยนะ หนุ่มๆทั้งไร่ได้ตาค้างกันหมดแน่"

คำชมจากสองป้าหลานทำเอาหญิงสาวอายม้วนหน้าแดงและขณะที่ทั้งสามพูดจากระหนุงกระหนิงจ๊ะจ้ากันนั้นไอ้ลูกจ้างจำแลงที่อยู่ดูแต่แรกก็ได้แต่มองตาปริบๆ และขมุบขมิบปากด่ามาวินในใจ

ดนัย: (ขออนุญาติเตี่ยมึงดิ ไม่ทันอนุญาติก็สวมแล้ว อ้าวทำไมไม่โกรธวะ ทีตูโดนด่ายับ เฮ้ย กูฟ้องใครได้วะ เอ้าๆป้าไหงช่วยหลานวะ นี้ก็เขินอีก อ้าวอายม้วนอีก วุ้ยขัดใจ)

เมื่อมองแล้วทำอะไรไม่ได้ดนัยจึงเอาความหงุดหงิดไปลงที่จอบในมือแทน เสียงจอบฟันดินชึ้บๆๆ ดังขึ้นมาเหมือนจะทำลายบรรยากาศเมื่อครู่และมันก็ได้ผล

"เจ้าดนัย แกจะขุดหลุมปลกต้นไทรเหรอไง! เอาเล็กแบบทุกวันสิ ฉันปลูกต้นไม้ไม่ใช่ปลูกป่า" หลังจากนั้นก็เป็นการเทศน์ล้วนๆ จนมาวินต้องห้าม

มาวิน: "ป้าจ้า ใจเย็นจ๊ะดนัยวันนี้อาจจะมึนๆไปหรือเสียสมาธินิดหน่อยนะป้าไม่เอาไม่โกรธเดะแก่เร็ว"

พอพ่อหลานชายออกตัวช่วยหูของดนัยจึงได้รับความสงบทันตา แต่ดนัยรู้ดีว่ามันใช้โอกาสนี้ทำคะแนนให้กับตนและเมื่อดนัยมองไปยังเจ้านายหนุ่มของตนก็พบว่าแววตาที่ตีซื่อๆวันนี้จะมีแววเยาะเย้ยอย่างชัดเจน

แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือสาวมายด์สุดสวยของเขาก็ดันลอยหน้าลอยตาชวนมาวินคุยซะเองด้วย และหลบสายตาเหมือนว่าดนัยไม่มีตัวตน แต่มรสุมพิษรักแรงหึงไม่จบเพียงเท่านี้มาวินล้วงหนึ่งในอาวุธที่ใช้ลวงหญิงสาวได้ดีออกมา
มันคือกล้องถ่ายรูป

กล้องพร้อมวิวดีๆบรรยายกาศสวยๆแบบนี้ การมีคนถ่ายรูปให้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีเช่นกัน ทั้งสองคุยหยอกล้อกันพลางหามุมถ่ายรูปพลาง โดยมีป้าค่อยผสมโรงช่วยเติมช่วยเชียร์อยู่ไม่ห่าง
ทิ้งคนงานไร่ทำงานของมันไป

"เฮ้อ ต้นสุดท้าย" ดนัยเอามือกดดันรอบๆหลุมเพื่อจัดการงานของตนให้เรียบร้อย เขาลุกขึ้นยืนปาดเหงื่อก่อนจะมองสองคนที่กำลังเพลิดเพลินกันอยู่ในสวนดนัยพยายามไม่คิด ไม่คิดถึงเรื่องในอดีต

ดนัย:(ก็เหมาะสมกันดี ทั้งฐานะทั้งชาติตระกูล พ่อมายด์คงดีใจ)

ดนัยนึกภาพตัวเองไปยืนข้างๆเธอไม่ออกต่อให้ไม่ใช่ในฐานะคนงาน เขาก็แค่พนังงานกินเงินหลวงตัวเล็กๆจะไปสู้อะไร นักเรียนแพทย์ทายาทไร่ใหญ่ได้

เมื่อยืนดื่มดำความพ่ายแพ้และความขมขื่นจนพอใจแล้วก็คว้าจอบขึ้นบ่าเดินเลี่ยงออกไปเงียบๆ แม้จะรู้สึกว่าวันนี้แสงแเดดก็ร้อนและจอบบนบ่าจะหนักขึ้นกว่าทุกวันก็ตาม

ฝั่งมายด์ที่เพลินอยู่กับสวนดอกไม้และสองป้าหลานที่ต่างพูดจาชวนคุยอย่างสนุกสนานจนแสร้งลืมคนงานที่อยู่ใกล้ๆ

ก็ใครใช้ให้ตานั้นหายไปเป็นเดือนๆละ เธอเลยจะแกล้งเอาคืนสักหน่อยจนรู้ตัวอีกทีดนัยก็ไม่อยู่แถวนั้นแล้ว เธอมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอแม้แต่เงา

วิน:"หาอะไรอยู่ครับ" เธอหันมาส่ายหน้าก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู

มายด์:"จะหมดเวลาพักเที่ยงแล้วหนูขอตัวกลับไปหาเพื่อนก่อนนะค่ะ วินพี่ไปแล้วนะ"

เมื่อเป้าหมายหลักไปแล้วมาวินก็ไม่คิดจะรั้งเธอไว้เช่นกัน ทั้งสองป้าหลานมองร่างงามก็เดินห่างออกไป
ป้า:"น่ารักดีนะ ว่ามั้ยเจ้าวิน"

วิน:"ครับก็ดีครับ" วินเองก็ประทับใจกับความสดใสของเธอเช่นกัน แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญคนเราจะตัดสินกันเพียงนาทีแรกไม่ได้มายด์เองก็อาจจะประจบประแจงไปเอง มาวินคิดเองสรุปเองตามกระสาคนมองโลกในแง่ร้ายเสร็จก็พาป้าตัวเองกลับไปพักที่บ้าน

เมื่อมายด์กลับมาก็โดนเพื่อนรักลากไปสวบสวนทันที

ไหม:"เป็นไงบ้างแก เด็ดปะ"
มายด์:"เด็ดอะไรเขาแค่พาไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สวนดอกไม้เอง"
ไหม:"มีแค่เนี๊ย ซุ่มปะจ๊ะ มีหนุ่มมาจีบแล้วจะคิดปิดปังเพื่อนอีก"
มายด์:"โอยย แกก็ไม่มีไรเลยเจอคุณป้าเจ้าของไร่อีกคน"
ไหม:"พาไปหาผู้ใหญ่ด้วย ตายแล้วหนุ่มๆแถวนี้เจอคู่ต่อกรที่น่ากลัวซะแล้ว"

ไหมแซวยิ้มๆก่อนทั้งคู่จะออกไปศึกษางานในช่วงบ่าย

และตลอดช่วงบ่ายหนุ่มตี้สุดหล่อก็ยังตามกระกบ ทำคะแนนกับมายด์และตลอดจนเพื่อนๆของเธอ สร้างความหมั่นไส้ให้กับหนุ่มๆเพื่อนร่วมคณะกันไม่น้อย

ส่วนฝั่งสาวๆกลับนิยมชมชอบหนุ่มรุ่นน้องคนนี้เพราะนอกจากหน้าและฐานะแล้ว ยังคุยสนุกเข้ากับคนง่าย ใจกว้างยิ้มเก่งและดูแลเอาใจผู้หญิงเป็นและปากหวาน
จนคล่อยตกเย็นทุกคนต่างย้ายเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนเพื่อให้มีแรงสำหรับวันพรุ่งนี้

ชายหนุ่มผู้ต้องถูกเนรเทศไปนอนเฝ้าม้าอย่างดนัยก่อนหอบเครื่องนอนมาจัดแจกกางมุมขึงเปลนอนในคอกม้าที่ไม่มีใครอยากมานอน ก็ทั้งกลิ่นทั้งความมืดและยิ่งช่วงหน้าหนาวอากาศยานนี้ก็เย็นจัดซึ่งคนกรุงโดยกำเนิดอย่างดนัยล้วนทำใจชินกับมันได้ยากยิ่ง จะหนีไปนอนในบ้านแล้วม้าหายก็ไม่วายโดนไล่ออก แน่นอนว่าที่นี้เคยโดนขโมยม้ามาก่อนเมื่อไม่นานมานี่

ซึ่งราคาตัวที่ถูกสุดในคอกเงินเดือนตำรวจผสมเงินคนงานทั้งปีก็ยังซื้อไม่ได้ คนงานกำมะลอเดินตรวจรอบคอกอีกครั้งก่อนไม่ลืมที่จะเติมน้ำใส่ทุกรางน้ำและที่สำคัญคือฟางนุ่มๆให้เจ้าเหมียวบอสแห่งไร่นี้

มันยืนรอดนัยอยู่เมื่อเขาจัดการเรียบร้อยมันก็ร้องเบาๆให้คำหนึ่งก่อนโดดเข้าประจำที่ประจำของมันคือกองฟางข้างๆเจ้าม้าอินดี้ตัวเดิมและเจ้าม้าก็มาคลอเคลียกับเจ้าแมวเช่นทุกวัน และเจ้าแมวก็ใช้อุ้งตีนลูบหัวเจ้าม้าอย่างเอ็นดู

พฤติกรรมของเจ้าสัตว์โลกแสนรู้ทั้งสองแม้ดนัยจะมองกี่ครั้งก็ยังสร้างความประหลาดใจเมื่อตรวจดูเจ้าสองตัวลูกรักของเจ้าของไร่จนไม่น่าจะมีอะไรให้กังวลอีกเขาก็ลากถังเหล็กออกมาจุดกองไฟเล็กๆในข้างในไล่ความหนาวได้พอสมควรและชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงบนแปลนอน

เวลาผ่านไปจนกองไฟมอดเหลือแค่สีแดงๆ ร่างหนึ่งก็แอบย่องเข้ามาในคอกม้าอย่างเงียบๆ ร่างนั้นย่องเข้ามาใกล้ร่างของคนยามที่นอนอยู่บนเปลร่างนั้นเงื้อมือขึ้นสูงและฟาดลงมาใส่หัวดนัย

หมับ มือของคนที่เธอคิดว่าหลับอยู่คว้าข้อมือนั้นไว้ก่อนอีกมือมืแจะรวบคอเสื้อจับแขนเธอลอยข้ามร่างตนลงไปกระแทกพื้น แต่โชคยังดีที่ข้างเปลมีแต่กองฟางอัดก้อนร่างอรชรจึงไม่ลอยไปกระแทกพื้น ดนัยหลังจากจัดการบุกรุกยามวิกาลลอยข้ามไปในจุ่มในกองฟางแล้วก็ลวงไปในกองฟืนข้างหยิบลูกซองแฝดออกมาประทับบ่าพร้อมๆกับไฟฉายคู่ชีพก่อนฉายส่องไปทางร่างที่นอนอยู่

ดนัย:"ชูมือขึ้น ช้าๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไม่ชูพ่อยัดด้วยลูกปรายจริงๆนะ ลองดูได้"

ดนัยกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงกระด้าง ร่างที่นอนมึนอยู่เมื่อเห็นว่ายามเฝ้าคอกม้าเอาปืนมาจ่อตนอยู่ก็กลัวจนแทบสลบหมายจะตะโกนอธิบายชายตรงหน้าก็ดันห้ามส่งเสียงอีกเธอจึงจำใจยืนมือชูขึ้นไปให้เขาเห็น

ดนัย: "ดีมากค่อยยืนขึ้นช้าๆ ยืนพรวดพลาดตกใจปืนลั่นไส้แตกศพไม่สวยอย่ามาแค้นกันนะ....ช้าๆ"

เมื่อชายหนุ่มขู่สำทับมาเช่นนี้เธอก็ได้แต่หลับตาปี๊ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นออกมาจากกองฟางช้าๆ หล่อนหลับตาเบือนหน้าอย่างหวาดเสียวแต่ทุดอย่างกลับเงียบสงัดจนเธอค่อยแอบเปิดตามองพบว่าชายหนุ่มที่เธอย่องมาจะแกล้งกลับยืนยิ้มกลั้นหัวเราะจนหน้าแดง

ดนัยรู้ตัวตั้งแต่มีคนแอบเข้าในบริเวณคอกม้าแล้วเขารอจังหวะที่มันจะลงมือทุ่มมันกลับคืนแต่ทันทีที่กำลังเหวี่ยงร่างเบาหวิวลอยข้ามตัวผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆก็รู้ว่าเป็นมายด์ ก็ผู้หญิงที่ไหนจะกล้าย่องเข้ามาหาผู้ชายที่ไม่สนิทกัน เขาเลยย้อนรอยแกล้งขู่เธอด้วยลูกซองแฝดในมือเขาไม่เอานิ้วเข้าโกร่งไกปืนเลยด้วยซ้ำ

เธอก็โดนย้อนเกล็ดเข้า ดนัยมองใบหน้าที่มีเศษฟางติดตามหน้าและผมอย่างนึกขำอยู่นาน แต่แม้ใบหน้าจะเลอะเศษฟางแค่ความงดงามก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด

เธอมองดนัยอย่างเคืองๆก่อนดนัยจะลดปืนลงใส่ไม้กับฟางแห้งเข้าไปในกองไฟไม่นานมันก็ลุกติดสว่างขึ้นอีกครั้ง ดนัยวางกาน้ำบนขาตั้งเหนือกองไฟ ก่อนจะผายมือเชิญให้นั่งลงบนเปลของตนก่อนตัวดนัยเดินไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัว เธอมองเพื่อนชายของตนอย่างเคืองๆที่โดนแกล้ง

ใบหน้างอง่ำของเธอนั้นกลับคืนชีวิตชีวาแต่ชายตรงหน้าดนัยมองร่างบนเปลนอนที้กำลังเอาเศษฟางออกจากตัวอยู่ เธออยู่ในเสื้อวอร์มหนารูดซิปเก็บมิดคอเหลือขอบเสื้อยืดให้เห็นเล็กน้อย กางเกงก็เป็นวอร์มหน้าเช่นกันหลังจากเธอจัดการเศษฟางออกจากตัวจนหมดก็พบว่าตำรวจหนุ่มนั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่สายตาก็ไม่ได้ละออกจากเธอเลย

มายด์: "ไม่ต้องมามองเลย เพื่อนอุสาห์เดินมืดมาหา กลับโดนทุ่มไม่พอโดนเอาปืนจ่อหน้าอีก อ้าวยังจะหัวเราะอีก"

เสียงกระเง้ากระงอด ใบหน้าเธอ ทำให้ดนัยนั้นหัวเราะออกสบายใจที่สุดนับแต่มาแฝงตัวที่นี้ ยิ่งคนที่มาพบเขาเป็นมายด์ด้วยแล้วโลกแห้งๆของดนัยก็ชุ่มชื่นขึ้นทันตา

มายด์: "เรากลับแล้วดีกว่าหมั่นไส้หน้าคน"

ก่อนจะลุกขึ้นจะเดินออกไป ดนัยรีบยกมือห้ามเป็นพัลวัน ก่อนจะหลับตาทำสมาธิปั้นหน้าปกติแต่เธอกลับมองค้อนใส่

ดนัย:"โอ้ๆ อย่างอนจิ ง้อๆยิ้มหน่อยๆ"
ดนัยรีบทำสีหน้าให้น่าสงสารที่สุดพร้อมเสียงอ้อนๆ



เธอจึงยอมนั่งลงบนเปลอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นวัตถุทรงกระบอกตัวอวบๆก็กระโจนออกมายืนจังกาต่อหน้ามายด์ มันคือเมฆฝนหรือเจ้าแมวเจ้าถิ่นของสรรสัตว์ที่นี้ตัวเดิมและตัวเดียวของไร่นี้

มันจดจ้องเธออยู่ซักพักก่อนเจ้าแมวตัวอวบๆจะย่างเข้าไปหาเธอช้า
ดนัยที่หน้าซีดเพราะไอ้แมวนี้มันไม่ชอบคนแปลกถิ่นยิ่งเข้ามาในรังของมันยามดึกแถมปลุกมันตอนดึกๆข้างเป็นขี้ข้าประจำตัวแบบดนัยมันยังกระโดดข่วนป้าปใหญ่เข้าให้แล้วอย่างเธอมันคงกัดยับ

ดนัย:"อะ..เออนายท่านขนปุยของข้า อย่าโกรธเพื่อนเค้าเลยนะตัว เดะไปแอบฉกทูน่ากระป๋องที่ครัวมาให้นะ อย่าลงไม้ลงมือกันเลยเก๊าขอ"

แต่มันกลับเดินไปใกล้ๆก่อนจะทำจมูกฟุดฟิตมายด์กลับยืนมือไปลูบหัวมัน ดนัยตาเหลือกกับสิ่งที่เธอทำแต่แทนที่จะกระโดดจ้วงหน้าคนที่ลูบก่อนได้รับอนุญาติดังบุคคลอื่นมันกลับกระโดดขึ้นไปนอนบนตักอุ่นๆของเธอแบบหน้าเฉย และมันยังส่งเสียงในคอเบาๆพร้อมกับนอนกลิ้งไปมาอย่างกระจบทำเอาสาวสวยตรงหน้าวี๊ดว้ายลูบหัวลูบตัวเล้นกับมันอย่างสนุกสนาน และถ้าดนัยตาไม่ฝาดเจ้าเมฆมันหันมายิ้มเยาะดนัยอีกตั้งหาก

ดนัย:(ดนัยตูรู้จักมาเกือบ8 ปีพึ่งได้จับมือ อยากเกิดเป็นแมววุ้ย อีห่า มันสีใหญ่ถูใหญ่ คลุกยาเบื่อใส่ข้าวแมร่ง หรือกรอกหน้าแมร่งด้วยซองแฝดดีวะ)
พ่อคนรักแมวแบบเขาถึงกับเกลียดแมวขึ้นมาทันตา

หลังจากทำตัวเป็นสัตว์โลกน่ารักจนมันเล่นกับมายด์จนพอใจมันก็ลุกขึ้นกระโดดกลับไปนอนต่อทิ้งหนุ่มสาวไว้ลำพังอีกครั้ง

มายด์:"นี้ใช่ตัวเดียวกับที่กัดไหมใช่มั้ย?"

เธอชิงถามทำลายความเงียบขึ้น
ดนัยยกกาน้ำขึ้นเทน้ำอุ่นจัดๆใส่แก้วให้เธอกับตัวเอง

ดนัย:"ทั้งไร่นี้มีตัวเดียวครับ เราก็แปลกใจที่มันกระโดดใส่ นึกว่าต้องนั่งทำแผลให้มายด์ซะแล้ว"
มายด์:"ดนัยใส่ความคุณแมวอะมันออกน่ารักตาใสๆไม่มีพิษภัย"

เธอส่งเสียงประท้วงราวกับเขากำลังกล่าวหาลูกของเธอ
ดนัย:"อะจ๊ะแม่ใจงาม เห็นมันตอนอาดละวาดแล้วจะร้อง"
เธอย่นหน้าใส่อย่างไม่เชื่อคำเขา
ดนัยส่ายหัวเบาแล้วพูดต่อ

ดนัย: "ปกติมันยอมแค่ นายเจ้าของไร่ นายหญิงเมียเจ้าของไร่กับนายน้อยหลานเจ้าของไร่ คนเก่าคนแก่หรือกับเราก็ผีเข้าผีออกแหละ"

มายด์:"เออพูดถึงหลานเจ้าของไร่ ดีเลยว่าจะถามว่าปกติน้องมาวินเป็นคนเฟรนลี่แบบนี้เหรอ แล้วมีแฟนยัง นิสัยใจคอเป็นไง"

เธอหยุดถามเพราะดนัยยกมือห้ามขึ้นมา ดนัยที่อยู่อารมณ์สดใสเมื่อครู่แต่เมื่อได้ยินเสียงมายด์ที่ถามถึงไอ้แว่นมาวินด้วยน้ำเสียงสนอกสนใจเสียเต็มประดา แถมหน้าตายังฉายแววอยากรู้อยากเห็นได้ชัด
ดนัย: "ถ้าจะถามเรื่องส่วนตัว ไปถามเจ้าตัวเองดีกว่านะครับ"

เขาสวนกลับไปทันทีด้วยน้ำเสียงห้วนขึ้น
ใครที่รู้จักชายหนุ่มดีจะรู้ว่าหากคุยกับบุคคลที่สนิทสนมหากเมื่อใดพี่แกเริ่มพูดจาเสียงเย็นๆ สุภาพทุกคำแสดงว่าไม่จริงจังก็เริ่มมีอารมณ์เสียแล้ว

มายด์: "โกรธเหรอ เราแค่..."

ดนัยส่ายหัวปฏิเสธและเบือนหน้าหลบ เธอรู้ตัวว่าพลาดแล้วที่ดันถามดนัยแบบนั้น ก้มหน้าหลบเบือนหน้านี้สีหน้านิ่งขรึมจนแข็งกระด้างน้ำเสียงห้วนสั้นราบเรียบถ้อยคำสุภาพเอาปืนพาดไหล่กอดอกและสายตาวาวโรจน์ไม่เหลือทีท่าสบายๆที่เคยเห็นอีก

เธอเห็นสภาพนี้ก็บ่นในใจ
นี้ขนาดไม่โกรธนะ ถ้าโกรธดนัยคงปืนไปปาดคอมาวินแล้วแน่ๆ

ที่จริงเธอแค่จะมาถามเรื่องราวว่าทำไมดนัยจึงหายไปและมาโผล่หน้าที่นี้ มายด์อ้าปากจะอธิบายแต่ดนัยกลับลุกพรวดขึ้นก่อน

ดนัย:"มันเริ่มดึกมากแล้ว กลับไปนอนเถอะถ้าใครมาเห็นตอนนี้เราจะลำบากทั้งคู่"

ก่อนผายมือเชิญเธออกไปทันที มายด์เม้มปากต่อหน้าดนัยก่อนจะยอมลุกขึ้น

ดนัย: "ขออนุญาตเสียมารยาทไม่ส่งนะครับ ไอ้เจ้าแมวไปส่งแทนที"

ไอ้เมฆลืมตามองดนัยก่อนจะโดดลงมาเดินนำหล่อนอย่างว่าง่าย เธอเกินออกไปแต่ก็ตัดสินใจหันหน้ามารอบนี้ไม่ทันจะอ้าปากกิ่งไม้ทำฝืนขนาดพอดีมือพุ่งฉิวออกจากมือลงกลางกองไฟอย่างแรงและร่างของดนัยก็ทิ้งลงเปลไปทันที ระหว่างทั้งสองมีเพียงกองไฟที่กัดกินไม้แห้งแตกปะทุดังเปรี้ยะๆ บรรยากาศน่าอึดอัดลอยพุ่งออกมาจากตัวดนัย ทั้งคอกม้ามีแต่เสียงฟืนปะทุดังเสียงหมู่แมลงเงียบหายไปทิ้งไว้เพียงเสียงฟืนแตกกับจิตสังหารที่ลอยออกมาจางๆจากร่างชายที่นอนอยู่

มายด์มองเปลอย่างกังวลแต่เจ้าแมวก็งับขากางเกงกระตุกเป็นสัญญานให้กลับเธอจึงยอมออกเดินตามเจ้าแมวตัวอวบไปพร้อมกับจิตใจที่เป็นกังวล

หงุดหงิด เป็นสิ่งเดียวที่ชายหนุ่มให้คำจำกัดความของอารมณ์ตัวเองได้ในคืนนี้ ดนัยนอนพลิกตัวไปมาในเปลเขานอนกระสับกระส่ายมาพักใหญ่ๆ ก่อนจะหมดความอดทนจะขาดลง ไปพร้อมกับความง่วงนอนเขาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยความหงุดหงิดและทิ้งตัวนั่งลงก่อนจะเริ่มคิดฟุ้งซ่าน

ดนัย:(เหอะมาหากูแต่กลับไม่ถามเรื่องกู น้องมาวินอย่างนั้นอย่างนี้ เอาเถอะยังไงกับเหมาะสมกันดีแล้วนิ วันหลังพ่อจะไล่ให้ไปหามันเลย อยากจะรู้อยากจะถามกันทั้งคืนเลยไป๊ โว๊ยยยย)

แต่ชายหนุ่มนี้ขยี้ผมตัวเองหงุดหงิดนั้นกลับไม่ทราบว่าที่มายด์ถามถึงมาวินไม่ใช่เพราะสนใจ แต่สงสัยต่างหากเพราะจากที่เธอรู้สึกจากมาวินนั้นมันดูกลวงๆลวงๆมันดูไม่ชัดเจนแปลกๆ คล้ายว่ามาคุยกับเธอเพื่อต้องการอะไรมากกว่า แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้ถาม

ดนัยที่ถอดเสื้อกันหนาวออกจากตัววันนี้เขารู้สึกร้อน ร้อนจนควันแทบออกจากหัวหรือสมัยนี้เรียกสั้นๆว่าหัวร้อนนั้นเอง

ดนัย: "อ้อ ไอ้แมวนั้นยอมเล่นด้วยเพราะมายด์กำลังจะมาเป็นหลานสะใภ้ของไร่สินะ กูมันคนงานจนๆ เขาก็ต้องเลือกคนรวยคนดีกว่าไม่แปลก ไม่แปลกแต่ทำไมกูนอนไม่หลับวะ โอยยย ฉุนเฉียวววว"

ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งแต่หลับตาภาพหน้าเธอก็ลอยมาแต่ภาพนั้นคือคือตอนมายด์ยิ้มมีความสุขตอนที่อยู่กับมาวิน แต่พอนึกถึงตนที่ถูกกีดกันจากพ่อของเธอ เขานอนพลิกตัวไปมาหวังสลัดภาพนั้นออกไปแต่มันก็ไม่มีประโยชน์

ดนัยนอนครุ่นคิดพักใหญ่ๆก่อนล้วงมือถือเครื่องเดิมออกมาแต่แล้วก็เก็บไป หยิบเครื่องชั่วคราวออกมาก่อนส่งข้อความสั้นๆไปที่มือถือของเธอ ก่อนจะนอนทำใจปลงจนถึงเช้าวันใหม่
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

xonly-1786

มาเร็วจัง แต่ชอบครับ ได้อ่านต่อเนื่องได้อารมณ์ดี ขอบคุณมากๆครับ

tetete

คนมันเป็นเนื้อคู่กัน หนียังไงก็ไม่พ้น

peddo

จุดประสงค์ภารกิจของดนัยคืออะไรน้า   คุณหนูนายน้อยนี่ท่าทางโรคจิตแฮะ จะมีฉากอีโรติกกับมายด์มั้ยเนี่ย ดนัยก็เหี่ยวไปตามฟอร์ม เอาใจช่วยครับ ขอบคุณครับ

wsxc

ขอบคุณครับ สงสัยได้งอกรากแน่ๆทีนี้ เชียร์ดนัยเต็มตีน

gritkin

สู้ๆนะครับ writer ผมเป็นกำลังใจให้ครับ ชีวิตต้องก้าวต่อไปครับ 555

naitoom

555 author สู้ๆ ถึงจะนานก็รอได้ครับ รอดูดนัยสมหวังในรัก?
ดูการปิดคดีก่อการร้ายที่ยังคาอยู่

beeriero

ยังงัยซะมันก้อมีเรื่องให้มาเจอกันอยู่ดี

pitsanume

ขอบคุณครับ แล้วดนัยของเราทำทำภารกิจที่ไหน น้องมายด์นะเจอหรือป่าว ยังไงก็รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้ประพันธ์ครับ

biggiggog

แล้วไอ้มาวินมันเป็นใครวะเนี่ย
ท่าทางเอาเรื่องใช่ย่อย
ขอบคุณมากๆครับ

phantompain

ขอบคุณสำหรับผลงานครับ แต่ชาวไร่นี่ดูคุ้นแบบแปลกๆ นะ 555+  ::Yes!::

tantawanjames

นายน้อยมาทรงแปลกๆเจ้าเล่ห์ไม่เบา แล้วมายด์จะตกเป็นเหยื่อไหมนะ

chanky2007

สงสารมาย์ โดนจับอีกแน่ๆ
ดนัยก็น่าสงสาร สู้ทั้งเรื่องคดี ทั้งความรัก

ลุ้นกันต่อ ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

กำพล

ดนัยน่าสงสารมาก อกหักแถมไปเสี่ยงตายอีก

thum2520

รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ นาทีนี้คงไม่ต้องบอกอะไรแล้ว
นอกจากคำว่า ติดหงมแหง่ม แล้วครับ