ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 20

เริ่มโดย saradio, กรกฎาคม 09, 2017, 06:58:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio

   ลิฉุย กุยกี หวนเตียว และเตียวเจ ที่อยู่ในกระโจม พอเห็นผมย้อนกลับมาก็แปลกใจ เตียวเจจึงถามว่า
   "เจ้าลืมอันใดรึ"
   ผมจึงยิ้มแล้วพูดว่า
   "ข้าพเจ้าหาทางออกให้กับพวกท่านได้แล้ว"
   พวกนั้นพอได้ยิน พลันตื่นตัวขึ้น ที่นอนก็รีบลุกขึ้นนั่ง ถามแทบจะเป็นเสียงเดียวกันว่า
   "วิธีการใด"
   ผมมองตาทุกคน ที่ดูแล้วมีความอยากรู้มากมาย แล้วพูดว่า
   "เราต้องสู้ สู้เพื่อยึดอำนาจคืนจึงจะรอดได้"
   คำพูดผมทำเอาพวกนั้น จะยิ้มก็ไม่ออกจะหัวเราะก็ลำบาก ได้แต่ส่งเสียง เฮอะ เฮอะ ในลำคอ ลิฉุยพูดว่า
   "นึกว่ามีวิธีอันร้ายกาจอันใด วิธีนี้มันจะส่งเราไปตายมากกว่า"
   กุยกี พูดต่อไปอีกว่า
   "ฝั่งโน้นมีทหาร 2 แสนกว่า เรามีไม่ถึง 3 หมื่น แค่จำนวนก็ต่างกันหนึ่งต่อเจ็ดแล้ว แล้วอย่างนี้จะให้เราไปรบ เหอะ เหอะ พวกเจ้าว่าข้าหูฝาดไปหรือเปล่า"
   หวนเตียวก็พูดว่า
   "ต่อให้มีทหารเท่ากัน ก็ยังจะไม่รู้จะเอาชนะลิโป้ยังไงเลย ท่านกาเซี่ยงท่านไปคิดมาใหม่เถอะ"
   เตียวเจก็ยังถอนหายใจ ดูแล้วมันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังพูดรักษาน้ำใจ ว่า
   "เฮ้ออ หลานเซี่ยง เรื่องนี่คงเหลือบ่ากว่าแรงพวกเรา พวกเราคงทำตามที่เจ้าแนะนำไม่ได้หรอก"
   ผมเห็นอาการพวกมันแล้วต้องหัวเราะน้อยๆ เพราะพวกมันยังไม่ทันฟังแผนโดยละเอียด ก็พาปฏิเสธเสียแล้ว จึงพูดว่า
   "ถ้าข้าพเจ้าสามารถหาทหารให้พวกท่านได้อีก 10 หมื่น และถ้าข้าพเจ้ามีวิธีปราบทัพลิโป้ได้ พวกท่านจะสู้หรือไม่"
     คำพูดผมพอกล่าวออกไป พวกนั้นถึงกับมองผมอย่างสงสัยใคร่รู้ ลิฉุย เลยถามอย่างครางแคลงใจสงสัยว่า
   "ท่านจะทำอย่างนั้นได้ยังไง"
   ผมจึงอธิบายว่า
   "ประการแรก การจะเพิ่มกำลังทหารนั้น เราจะต้องปลุกระดมชวนชาวเมืองเซียงไสให้ร่วมสู้กับเรา  ตอนนี้มีข่าวลือว่า อ่องอุ้นจะส่งลิโป้มาตีเมืองเซียงไส ทำให้ชาวเมืองหวั่นวิตกอยู่แล้ว เราจะใช้โอกาสนี้ โหมข่าวลือตีขยายข้อความในสารที่อ่องอุ้นส่งมา ในเรื่องที่ว่าจะฆ่าให้สิ้นซากนั้นก็ให้รวมไปถึงชาวเมืองเซียงไสที่มีเชื้อสายทางเสเหลียงด้วย จากนั้นให้ปิดประกาศคำปลุกใจร่วมกันต่อสู้เพื่อกำจัดอ่องอุ้นให้ชาวเมืองทุกคนได้พ้นเภทภัยในครั้งนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าการนี้จะมีชาวบ้านที่เป็นชาวเสเหลียงมาสมัครเป็นทหารเพื่อรบกับเรามากมาย
   ประการที่สอง การเอาชนะลิโป้ ลิโป้ถึงแม้จะคุมกองทัพรบได้เก่ง แต่การเอาชนะมันก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับมันโดยตรง พวกเราจะแยกกันเป็นสี่ทัพ สองทัพตีเมืองเตียนอัน อีกสองทัพรบหลอกลิโป้ คอยสลับพลัดกันตีท้ายทัพมัน มิต้องรบจริง ประดุจหมาในสองตัวช่วยกันหลอกล่อสิงโต ตัวหนึ่งหลอกล่อให้มันวิ่งไล่ขย้ำเพื่อเปิดโอกาสให้อีกตัวโจมตีขาหลังสิงโตที่เป็นจุดอ่อน เมื่อสิงโตกลับตัวเพื่อไปเล่นงานตัวที่กัดขา หมาในตัวที่หลอกให้มันวิ่งไล่ทีแรกก็แว้งกัดขาหลังมันอีก สลับสับเปลี่ยนเช่นนี้ หากมันไม่หนีก็พ่ายแพ้ไปเอง"
   คนพวกนั้นนั่งฟังกันจนเงียบ รู้สึกนึกคิดว่ามันเป็นไปได้ พลางหันมองสบตากัน เหมือนถามหาความคิดเห็นตกลงใจ จากนั้นก็ซุบซิบปรึกษา ในที่สุดก็ได้ข้อตกลง ลิฉุยจึงลุกขึ้นพูดว่า
   "ดี ถ้าท่านทำได้ดังนี้ เราจะสู้ เริ่มจากการเพิ่มกำลังทหาร หากเรามีทหารไม่มากพอเราก็สู้ไม่ได้"
   ผมจึงพูดว่า
   "ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็จะไปจัดการหาทหารให้พวกท่าน"
   ลิฉุยจึงมอบทหารไว้ให้ใช้งานจำนวนหนึ่ง ผมจึงเริ่มจากการให้ทหารไปปล่อยข่าวลือ ว่าอ่องอุ้นจะฆ่าทุกคนในเมือง จากนั้นก็เขียนคำประกาศปลุกใจ ปลุกประชาชนให้ร่วมสู้ และรับสมัครทหารเข้าร่วมรบ
   ในการครั้งนี้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งอพยพหนีออกนอกเมืองเพราะไม่อยากตาย แต่ก็มีจำนวนมากเข้ารวมรบเพราะอยากป้องกันเมืองและครอบครัวตัวเอง เพียง10กว่าวัน นับคนมาสมัครเป็นทหารได้ถึง 15 หมื่นมากกว่าที่คาดหมายไว้ ทั้งยังมีคนที่ไม่สะดวกจะร่วมรบ แต่ก็มอบเงินทองข้าวของเสบียงให้ไว้แทน
   ลิฉุย กุยกี หวนเตียวและเตียวเจ เห็นดังนั้นพากันดีใจเหมือนเห็นทางรอดตาย ก็เริ่มมีกำลังใจจะรบพากันขยันฝึกทหารกันเป็นการใหญ่ ทัพที่ใช้มุ่งเน้นเป็นทัพม้า จึงเอาเงินทองที่ชาวบ้านช่วยบริจาคจัดซื้อม้าจำนวนมาก ชาวเมืองเซียงไสส่วนใหญ่เป็นชาวเสเหลียงอพยพมาอยู่ ครั้งเมื่อตั๋งโต๊ะตั้งเซียงไสให้มีสถานะขึ้นเป็นเมือง เรื่องขี่ม้ายิงธนูของชาวเสเหลียงนั้นเป็นเรื่องถนัด ดังนั้นไม่ต้องฝึกอะไรกันมาก ที่ฝึกก็คือเรื่องทำตามสัญญาณคำสั่งให้แม่นย่ำ สั่งถอยต้องถอย สั่งรุกต้องรุก
   ข่าวที่เมืองเซียงไส มีทหารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้อ่องอุ้นยังไม่กล้าให้ลิโป้ยกทัพมาบุก ทำให้พวกเรายังมีเวลายื้อออกไป
   ในตอนนั้น ลิบ้อง อ่องหอง ข้าราชการที่เคยได้รับการอุ้มชูจากตั๋งโต๊ะ ก็ส่งสารลับมาหาลิฉุย ว่าพวกมันนั้นติดอยู่ในเมืองเตียนอัน หนีออกมาไม่ได้ ตอนนี้หลบซ่อนตัวอยู่ในเตียนอัน ทราบว่าลิฉุยมีกำลังทหารมาก หากคิดจะตีเมืองเตียนอันเมื่อใด ก็จะลอบไปเปิดประตูเมืองให้
   ลิฉุยจึงเอาข้อความนั้นให้ผมดู เพราะไม่ทราบว่าเป็นแผนล่วงข้าศึกหรือไม่ ผมพิจารณาดูแล้ว ถือว่าเรื่องนี้เชื่อถือได้ เพราะลิบ้อง อ่องหอง นั้นเป็นพวกประจบสอพลอ เลียตั๋งโต๊ะจนได้ดิบได้ดี คนเช่นนี้หากอ่องอุ้นจับได้คงไม่เอาไว้แน่ ดังนั้นข้อความในสารย่อมต้องเป็นเรื่องจริง เพราะพวกมันเองก็ต้องหาทางรอดเหมือนกัน
   ดังนั้นนี่ถือเป็นเรื่องดี จึงบอกลิฉุยว่า
   "เรื่องนี้นับว่าเชื่อถือได้ และถือเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะตีเมืองเตียนอันในตอนนี้ เพราะหากลิบ้อง อ่องหอง ถูกอ่องอุ้นจับได้เสียก่อน เราก็จะเสียโอกาสที่งดงามเช่นนี้ไป"
   ลิฉุยจึงเห็นด้วย ผมจึงให้ตอบสารนั้นไปว่า ให้พวกลิบ้องกับอ่องหองซ่องสุ่มคนให้มาก เมื่อพวกเราเข้าประชิดเมืองทางทิศใดก็ให้รีบเปิดประตูเมืองทางทิศนั้น หากการสำเร็จจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม แล้วส่งให้คนที่ลอบนำสารมาให้ นำกลับไปบอก ลิบ้องกับอ่องหอง
   จากนั้นผมก็วางแผนบุกเตียนอัน โดยหาชัยภูมิที่จะเป็นกำดักเล่นงานลิโป้ จากการที่ดูแผนที่ พบเนินสองเนินที่เหมาะสม จึงคิดจะตั้งค่ายซุ่มอยู่ที่สองเนินนั้น แล้วล่อให้ลิโป้ นำทัพมาติดอยู่ที่ระหว่างเนินสองเนินเพื่อเล่นงานมัน เมื่อได้แผนเสร็จสรรพอธิบายกันให้เข้าใจหมดแล้ว
   ลิฉุย กุยกี หวนเตียวและเตียวเจก็เตรียมพร้อมจะยกทัพ ทหาร 1แสน8หมื่นคน ถูกแบ่งเป็นสี่ทัพ ลิฉุย กุยกี คุมทหารคนละห้าหมื่น เป็นทหารม้า4หมื่นทหารเดินเท้าสองหมื่นจัดทัพเหมือนกัน เมื่อไปถึงเนินที่กำหนดก็ให้แยกย้ายกันไปตั้งค่ายบนเนินเขาสองลูกที่กำหนด และจัดเตรียมอาวุธสำหรับเล่นงานศัตรูจากเนินลงมาให้พร้อม
   ส่วนทัพเตียวเจกับหวนเตียว ส่วนใหญ่เป็นพลเดินเท้าเพื่อเข้าตีเมือง คุมทัพคนละ 4หมื่น เดินหลบเส้นทางอำพลางทัพ แล้วเข้าตีประตูเมืองทางทิศเหนือและใต้
    ทหาร 1แสนแปดหมื่นคนถูกนำมาใช้หมดสิ้น ทหารที่อยู่ในเมืองเซียงไสหลงเหลืออยู่ไม่กี่ร้อยคน ไว้สำหรับคุมกันครอบครัวของแม่ทัพทั้งสี่คนนี้ นอกนั้นพาออกสนามรบหมด เรียกว่างานนี้เทหมดหน้าตัก ไม่ชนะก็หนี หนีไม่ทันก็ตาย
   ขณะเคลื่อนทัพกันอยู่นั้น มีกองม้าเร็วลาดตระเวนวิ่งมาแจ้งข่าวว่า พบกองทัพของท่านงิวฮู นำกำลังมาจากเมืองซีหลงประมาณ 5พันจะไปบุกเมืองเตียนอันเพื่อแก้แค้นให้ท่านตั๋งโต๊ะ
   ผมจึงรีบบอกว่า ให้ ท่านงิวฮูมาเจรจาทัพกันก่อน อย่าเพิ่งบุกไปเพียงลำพัง ม้าเร็วจึงนำสารไปบอกงิวฮู แต่งิวฮูกลับตอบมาว่า ข้าจะเป็นทัพหน้าบุกตีเตียนอันก่อน หากแม้ได้ชัยก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยพวกท่าน หากแม้พ่ายแพ้ก็รบกวนพวกท่านช่วยล้างแค้นให้
   ทหารเมื่อนำความมาบอก ผมก็พอจะอ่านความนัยออก ว่าไฉน งิวฮูจึงไม่เข้ามาเจรจาทัพปรึกษากัน นั้นเพราะงิวฮูถือตัวว่าเป็นเจ้านายพวก ลิฉุย กุยกี ทั้งสี่คนนี้มาก่อนร่วมกระทั้งผมด้วย ตอนนี้ทัพทั้งสี่คนใหญ่กว่า การที่จะให้มันเข้ามาร่วมด้วยแล้วลดตัวลงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานั้นย่อมทำใจได้ลำบาก ดังนั้นจึงคิดบุกทัพไปแต่ลำพัง ซึ่งนั้นยากที่จะมีชีวิตรอดกลับมา
   ตอนนั้นตั๋งไป่ก็มากับผมด้วย พอได้ยินว่างิวฮูมาก็อยากจะไปหางิวฮู เพราะการที่ได้ไปอยู่กับน้าเขย นางย่อมได้ความสำคัญมากกว่าคนพวกนี้ ผมดูแล้วยังไงงิวฮูก็ไม่รอด ถ้าให้ตั๋งไป่ไป ก็เท่ากับว่าส่งนางไปตาย พยายามจะพูดอธิบายนางก็ไม่ฟัง ตูตู้หลุนนึกรำคาญ จึงตีท้ายทอยนางให้สลบ แล้วจับมัดไว้เอานางไปไว้กับรถม้าขนกองสัมภาระ แม้จะเป็นวิธีที่ดูรุนแรงไปหน่อยแต่ก็เด็ดขาดดี
   ไม่นานงิวฮูก็บุกไปหน้าเมืองเตียนอัน ร้องท้าทายให้พวกอ่องอุ้นออกมารบ ยามนั้น ลิซก อยากมีความดีความชอบ อยากคุมทัพกองทหาร จึงขออาสาลิโป้นำทหารหนึ่งหมื่นออกไปรบกับงิวฮู ลิโป้ก็อนุญาต
   ลิซกจึงคุมกำลังทหารหนึ่งหมื่นออกมารบกับงิวฮู ทั้งสองทัพสู้กันอย่างตะลุมบอน งิวฮูมีทหารน้อยกว่าสู้ไม่ได้ต้องทัพแตกถอยหนี
   ลิซกได้ชัยอย่างงดงาม ก็ย่ามใจ จัดตั้งค่ายเลี้ยงฉลองความสำเร็จ แต่งิวฮูพอแพ้ล่าถอยมาแล้วก็ไปรวบร่วมทหารที่แตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทางกลับมารวมกันใหม่ แล้วบุกตีค่ายตอนกลางคืน ขณะที่ลิซกกำลังฉลองชัยชนะกันอยู่ ทำให้ลิซกไม่ทันตั้งตัว ถูกบุกโจมตีค่ายจนแตกยับ ตัวมันก็แทบเอาชีวิตไม่รอด กระทั้งต้องทิ้งค่ายทิ้งทหาร รีบหนีตายกลับเข้าเมือง
   ลิโป้ฟังรายงานก็โกรธ ที่ลิซกทิ้งค่ายทิ้งทหารหนีตายมาคนเดียว ทำให้เสียทหารหนึ่งหมื่นไป จึงสั่งให้เอาไปตัดหัวลงโทษ ลิซกจึงตายในบัดนั้น
   ลิโป้ หลังจากสั่งประหารสิซกแล้วก็นำทัพออกปราบ งิวฮู ด้วยตัวเอง เพียงพริบตาที่ประจันทัพกัน ทัพงิวฮูก็สู้ไม่ได้ ถูกฆ่าตายเป็นใบไม้ร่วง อีกทั้งลิโป้ยังขี่ม้าเซ็กเธาว์ฝ่าแนวทหารงิวฮูเข้ามาหมายจะฆ่างิวฮู จนงิวฮูตกใจทิ้งทหารหนีกองทัพ ตอนนั้นมีคนหนีตามงิวฮูไปคือซกยี มันผู้นี้เห็นหมดทางรอดแล้ว จึงอาศัยจังหวะเผลอตัดหัวงิวฮู แล้วเข้าไปสวามิภักดิ์ลิโป้
   ทหารกองลาดตระเวนไปพบทหารงิวฮูที่รอดตาย จึงรู้ข่าว นำข่าวการตายของงิวฮูกลับมาบอก ตั๋งไป่พอทราบข่าวก็ร่ำไห้ ผมจึงไปแก้มัดให้นางแล้วพูดปลอบว่า
   "ข้าพเจ้าที่ไม่ให้ท่านไป ก็กลัวจะมีอันตราย จะอย่างไรท่านก็ทำใจเสียเถอะ"
   ตั๋งไป่มองผมด้วยความคับแค้นพูดว่า
   "ไฉนเจ้าจึง ไม่ส่งทหารไปช่วยน้าเขยข้า"
   "ข้าทำไม่ได้ ข้าไม่ใช่แม่ทัพ"
   "แต่เจ้าบอกลิฉุยกับกุยกีได้ ถ้าเจ้าบอกพวกมันคงเชื่อเจ้า"
   "สิ่งนั้นข้าก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำมันจะเสียงานใหญ่ สิ่งที่เราลงทุนลงแรงมานี้ มีผลสำเร็จเพียงครั้งเดียว จะไม่มีครั้งที่สอง จะผิดผลาดไม่ได้ ชีวิตคนทั้งหมดนี้อยู่ในมือข้า ข้าจะไม่เอาพวกเข้าไปแลกเพื่อช่วยคนๆเดียว"
   ตั๋งไป่กลับหัวเราะทั้งน้ำตา พูดว่า
   "ดีเจ้าพูดได้ดี กาเซี่ยง ข้าจะดูว่าเรื่องนี้เจ้าจะแก้ตัวกับงิวอี้หลางว่ายังไง"
   เรื่องนี้ทำเอาผมสะเทือนใจจนพูดไม่ออก แต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ข่มสีหน้าให้ราบเรียบ แล้วพูดช้าๆว่า
   "ท่านหญิง สิ่งที่ข้าทำทุกอย่างในตอนนี้ นั้นก็เพื่อชาวเสเหลียง เพื่อเมืองซีหลง เพื่อครอบครัวข้า และก็เพื่อท่านด้วย เพื่อทุกคนจะได้มีที่ยืนไม่ต้องหนีตายกันหัวซุกหัวซุน เพราะฉะนั้นหากท่านทำอะไรให้แผนการข้าเสียหาย จนเราต้องประสบความพ่ายแพ้แล้วละก็ ความผิดทั้งหมดก็จะเป็นของท่าน ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่านเด็ดขาด"
   เสียงของผมนั่นดูราบเรียบนุ่ม แต่แฝงคำหนักแน่นที่เด็ดขาด ทำเอาตั๋งไป่ไม่กล้าสบตาหลุบหน้าลง และเงียบสงบไม่กล้าต่อคำ
   ในตอนนั้นค่ายถูกสร้างเสร็จ แล้วก็พร้อมจะรบแล้ว ผมให้ตูตู้หลุนแยกไปคุมค่ายอีกค่ายหนึ่ง แล้วลิฉุย กุยกี ก็นำทหารม้ามารวมกัน ผมก็ให้ติดธงชื่อทั้งสี่แม่ทัพเพื่อลวงลิโป้ ว่าทั้งสี่คนอยู่ในทัพเดียวกัน พร้อมกับพูดบอกว่า
   "ท่านแม่ทัพลิฉุย ท่านแม่ทัพกุยกี งานนี้จะสำเร็จได้หรือไม่นั้นอยู่ที่ความพร้อมใจของท่านทั้งสองคน ความสามัคคีจะเป็นพลังให้เราเอาชนะข้าศึก ขอให้ท่านทั้งสองไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน และความสำเร็จจะมีแด่ท่าน"
   ลิฉุย กุยกี พยักหน้ารับ จากนั้นก็นำทหารม้า 8 หมื่นเคลื่อนพล อย่างช้าๆ ส่งข่าวการเคลื่อนพลออกไปเพื่อดึงจังหวะ ล่อให้ลิโป้นำทหารออกมารบ ข่าวการเคลื่อนทัพของลิฉุยกุยกีไปถึงเมืองเตียนอัน มีกำลังมากนับแสน ลิโป้จึงนำทัพสองแสนออกมาสกัด ทิ้งทหาร5หมื่นไว้กับอ่องอุ้นไว้เฝ้ารักษาเมือง
   เมื่อทัพทั้งสองมาประจันกันระหว่างทาง ลิโป้เห็นธงแม่ทัพ ลิฉุย กุยกี หวนเตียว และเตียวเจ ทั้งสี่คนอยู่ในทัพเดียวก็คิดหมายจะบดขยี้ให้แหลกลาญไปในคราเดียว จึงนำทหารบุกเข้าตะลุมบอน
   ลิฉุย กุยกี เตรียมพร้อมตามแผนอยู่แล้ว เมื่อทัพลิโป้บุกเข้ามา ก็สั่งทหารม้าธนูยิงสกัด เพื่อลดกำลังฝ่ายตรงข้าม พอเข้ามาจวนตัวใกล้แนวปะทะ กุยกีก็สั่งทหารตัวเองแยกตัวถอยหนีก่อน เหลือลิฉุยไว้ต้านรับ ลิโป้เห็นดังนั้นก็หัวเราะว่า
   "ไอ้กุยกีขี่ขลาดมันหนีไปแล้ว ลิฉุยงานนี้เจ้าไม่รอดแน่"
   ลิฉุยพอเห็นกุยกีหนีไปได้ระยะหนึ่ง ก็สั่งถอย ลิโป้จึงไล่ตามตีทัพลิฉุยไปติดๆ ทหารลิฉุยตอนล่าถอยถูกตามฆ่าเสียทหารไปมาก แต่ทัพก็ยังไม่ถึงกับเสียหาย อีกทั้งกองทัพของมันมีแต่ทหารม้า การหนีจึงไม่ยุ่งยาก พอถอยตั้งทัพได้ ก็ตีม้าล่อให้ ทัพลิโป้ตามหลังม้า ลิโป้ย่ามใจไม่ทันคิดติดกับอย่างง่ายดาย
   ตามทัพลิฉุยไปถึงช่องเนินเขาขนาบ ที่พวกผมตั้งข่ายสุ่มอยู่ พอลิฉุยมาถึงเนินก็รีบพาทหารหนีขึ้นเนิน ลิโป้นำทหารตามขึ้นเนินมา ก็ปรากฏเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง ทหารที่อยู่ในค่าบบนเนินก็พากันกลิ่งหินลงเนิน ทั้งยังยิงธนูสกัดทัพลิโป้ที่ตามตีทัพลิฉุยขึ้นมา ส่วนด้านหลังก็ถูกกองทัพของกุยกีที่หนีมาที่แรกสุ่มอยู่บนเนินตรงข้ามอีกลูกหนึ่ง วิ่งกรูลงมาโจมตีตอนท้ายกองทัพของลิโป้
   กองทัพที่ตามตีกองทัพผู้อื่น ท้ายกองทัพนั่นก็คือจุดอ่อน เพราะแม่ทัพนายกองและทหารพร้อมรบจะอยู่ข้างหน้า ข้างหลังเป็นพวกกองเสริม กองเสบียงที่วิ่งตาม เมื่อถูกโจมตีจุดนี้ ทหารพวกนั้นก็สู้ทหารที่พร้อมรบบุกโจมตีไม่ได้ ถูกฆ่าล้มตายเป็นอันมาก
   ลิโป้ข้างหน้าก็ถูกสกัดจนตามตีลิฉุยไม่ได้ ข้างหลังก็ถูกโจมตี จึงสั่งให้กลับทัพไปสู้กุยกีก่อน กุยกีไล่ฆ่าทหารลิโป้จากด้านหลังอย่างมันมือ พอเห็นลิโป้กับแม่ทัพของพวกมันขี่ม้าวิ่งมาแสดงว่ามันจะกลับทัพมาสู้ จึงโห่ร้องให้ทหารถอย ตูตู้หลุนที่อยู่บนเนินเขาเห็นกุยกีถอยแล้ว ก็ให้ทหารตีกลองส่งสัญญาน
     พอลิฉุยได้สัญญาณกลองลั่น ก็พาทหารม้าวิ่งลงเนิน เข้าตีท้ายทัพลิโป้อีก พวกบรรดาแม่ทัพวิ่งไปทางกุยกี ไม่ใครสั่งการตรงนี้ ทหารย่อมเกิดความสับสน ถูกฆ่าตายเป็นอันมาก
   ลิโป้ถึงรู้ตัวว่าติดกับอยู่กลางทัพขนาบของลิฉุยกับกุยกี จะขึ้นตีฝั่งใดก็ไม่ได้อีกฝั่งจะเข้ามาช่วยตีซ้ำด้านหลัง คิดจะเอาทหารล้อมให้พวกมันอดตายกันอยู่บนเนินก็ทำไม่ได้ พื้นที่กว้างใหญ่ทั้งสองเนิน อีกทั้งมันยังเสียทหารไปมาก ย่อมล้อมไม่อยู่ ยามกะทันหันคิดอะไรไม่ออก สั่งทหารตั้งค่ายหยุดรอดูคุมเชิง
   ลิฉุยจึงให้ทหารไปด่าท้าทาย ให้มันออกมารบ ทหารที่ไปก็ร้องด่าว่า
   "ไหนผู้ใดว่า ลิโป้ คือขุนพลอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ฮ่าฮ่าฮ่า ขี่ขลาดอันดับหนึ่งของแผ่นดินไม่ว่า ตอนนี้เอาแต่หดหัวอยู่แต่ในค่าย"
   อีกคนก็พูดเสียงดังว่า
   "ฟังว่าเมียมันสวย ไม่รู้ป่านนี้ เสร็จแม่ทัพเตียวเจ กับแม่ทัพหวนเตียวหรือยัง สองคนนั้นคงตีเมืองเตียนอันใกล้แตกแล้ว"
   ลิโป้โกรธจนตัวสั่น แต่คิดว่าเรื่องเมืองเตียนอันแตกเป็นเรื่องที่พวกมันกุขึ้นมาเพื่อหลอกล่อให้มันออกนอกค่าย จึงพยายามทำใจให้สงบ แต่ผ่านไปคืนหนึ่งมีม้าเร็ววิ่งมาจากเตียนอัน แจ้งข่าวว่า หวนเตียวกับเตียวเจ นำกำลังเข้าประชิดเมืองเตียนอันแล้ว
   ข่าวนี้ทำเอาลิโป้ ถึงกับใจผวานึกถึงชะตากรรมเตียวเสี้ยนขึ้นมาทันใด ลิโป้นั้นลุ่มหลงเตียวเสี้ยนจนทรยศตั๋งโต๊ะได้ มีหรือจะไม่ห่วงนาง ดังนั้นรีบสั่งทหารทิ้งค่ายล่าถอยกับไปช่วยรักษาเมืองเตียนอัน แม้มีแม่ทัพนายกองคัดค้านว่าจะเสียทีศัตรูก็ไม่ฟัง
   เมื่อลิฉุยกุยกี เห็นลิโป้ทิ้งค่ายถอยหนีแล้วก็ดีใจเห็นเป็นโอกาสทอง ทั้งสองก็ผนึกกำลังกันใช้ทัพม้าทั้งสองทัพไล่บดขยี้กองทัพลิโป้ที่กำลังล่าถอย
   ลิโป้ไม่ได้ห่วงหลัง พาทหารควบม้ารีบกลับเมืองเตียนอัน ทหารเดินเท้าที่ตามไม่ทันก็ถูกทัพลิฉุยกุยกีไล่ฆ่าสังหาร ที่รอดตายจวนตัวก็หนีทัพกระเจิดกระเจิง บางส่วนก็ยอมจำนนแปรพักตร์เข้ากับลิฉุยกุยกี
   พอลิโป้กลับถึงเมืองเตียนอัน จากทหารสองแสน เหลือทหารตามหลังมันมาไม่ถึงหมื่น ยามนั้นยังเจอกับทัพหวนเตียวกับเตียวเจ กำลังจะเข้าตีประตูเมือง หวนเตียวกับเตียวเจ ตีประตูเมืองได้ไม่เท่าไหร่ ประตูเมืองก็เปิด เพราะมี ลิบ้อง กับอ่องหอง ก่อการอยู่ภายใน นำคนของมันต่อสู้ทหารภายในยึดประตูเมืองไว้เปิดให้หวนเตียวกับเตียวเจเข้าเมืองมา
   ลิโป้ตอนนั้นถึงแม้กองทัพมันจะฉิบหายวอดวายไปแล้ว แต่ตัวมันและแม่ทัพในกองทัพมันก็ยังเก่งกล้าสามารถ และยังมีเตียวเลี้ยวเป็นทหารเอกให้มันอีกด้วย มันพาทหารที่เหลือของมันตีฝ่าวงล้อมทหารของทหารหวนเตียวและเตียวเจ เข้าไปในเมือง จนไปถึงจวนชักชวนอ่องอุ้นและเตียวเสี้ยนให้หลบหนี เพราะดูสถานการณ์แล้วเตียนอันรักษาไว้ไม่ได้แล้ว
   แต่อ่องอุ้นไม่ยอมไป จะขอตายอยู่ที่เมืองนี้ ลิโป้จำต้องทิ้งอ่องอุ้นแล้วพาเตียวเสี้ยนและทหารที่เหลือของมัน ตีฝ่าวงล้อมหนีออกจากเมืองเตียนอัน
   ไม่นานลิฉุย กุยกี ก็ตามมาสมทบ เข้าช่วยเตียวเจกับเตียวสิ้วจัดการทหารของอ่องอุ้นในเมือง ผมกับตูตู้หลุนและตั๋งไป่ตามมาทีหลัง ตอนนั้นทหารอ่องอุ้นยอมจำนนพ่ายแพ้หมดแล้ว ตัวอ่องอุ้นหนีขึ้นไปที่ตำหนักพระเจ้าเหี้ยนเต้ พร้อมทหารจำนวนหนึ่ง ลิฉุย กุยกี หวนเตียวและเตียวเจเข้าล้อมไว้ เป็นเวลาที่ผมและตูตู้หลุนและตั๋งไป่มาถึงพอดี

may_290607908

สุดยอดเลยครับทำให้อยากกลับไปอ่านสามก๊กเลยครับ

ไร้๑๓


navy868


cobra888

สุดยอดกว่ากาเซี่ยง คือท่านผู้เขียน เร็วทันใจดีครับ ::Orz::


biggiggog

สุภาษิตจีนว่าไว้ " วีรบุรุษ ยากจะฝ่าด่านนางงามได้ "
ท่าทางจะจริง ::Hmmm::
ขอบคุณมากๆครับ

sparrow_ap

แผนการสุดยอดมากครับ 
8 หมื่นสู้กับ 2 แสนได้ เก่งจริงๆครับกาเซี่ยงคนนี้

offroad

สนุกมากครับ ตื่นเต้นดี อยากให้พระเอกเอาวิธีคิดแบบใหม่ หรือ สร้างอาวุธแบบใหม่เหมือนตอนแรก จะได้รู้สึกว่ามันเป็นนิยายย้อนเวลามากขึ้น หรือไม่ก็สร้างไข่สั่นโบราณมาใช้ในฮเร็ม แม่มเบย 555555

kupong


cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

nsrichantamit


633sqd

ไม่คิดว่าจะมีตอนต่อ โชคดีที่แวะเข้ามา สนุกมากครับแผนรบยอดเยี่ยมจริงๆ ::Thankyou::


n2610