ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 22

เริ่มโดย saradio, กรกฎาคม 11, 2017, 06:15:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio



   เมื่อผมเกลี้ยกล่อมตูตู้หลุนได้แล้ว มันก็เหลือที่ว่า จะทำยังไงให้ตั๋งไป่สยบยอม ให้เลิกถือตัวอวดดีในศักดิ์ศรีท่านหญิง เพราะถึงแม้นางจะชอบผม แต่การจะให้นางมาเป็นอนุ นางคงไม่ยอมแน่ๆ ดังนั้นเห็นทีหาคนช่วย
   พอวันรุ่งขึ้น ผมจึงหาโอกาสไปหาหวนเตียว เพื่อขอเข้าพบ หวนเตียวพอรู้ว่าผมมาหา ก็แปลกใจ รีบให้คนเชิญเข้ามา เมื่อเจอคาราวะทักทายกันแล้ว หวนเตียวก็พูดว่า
   "ท่านกาเซี่ยง มาหาข้าแต่เช้า มีเรื่องอะไรยังงั้นรึ"
    ผมพูดอย่างเกรงอกเกรงใจว่า
   "ข้าพเจ้า มีเรื่องลำบากใจ จึงอยากจะขอร้องให้ท่านขุนพลหวน ช่วยเหลือสักเล็กน้อย"
   หวนเตียวพอฟังก็หัวเราะ อย่างยินดีช่วยเหลือ พูดว่า
   "ท่านกาเซี่ยงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ ท่านมีเรื่องอะไร ก็บอกกล่าวได้เลย ข้ายินดีช่วยเหลือท่านเต็มที่"
   ผมจึงเข้าไปใกล้ แล้วชวนกระซิบบอกสิ่งที่ต้องการให้ช่วย หวนเตียวยิ่งฟังยิ่งฉงน ขมวดหัวคิ้วแทบจะชนกัน แล้วก็อดไม่ได้ถามว่า
   "ท่านไฉนทำเรื่องให้ยุ่งยากปานนี้ หากเป็นข้าพเจ้า ก็ใช้กำลังเผด็จศึกไปแล้ว คงไม่คิดแผนทำอะไรวุ่นวายเหมือนกับท่าน"
   ผมจึงถอนหายใจพูดว่า
   "ที่แรกข้าพเจ้าก็คิดเช่นท่าน แต่นั้นไม่อาจทำให้นางลดความยิ่งยโสในตัวลงไปได้ และอาจทำให้นางคิดว่ากรที่นางเป็นอนุข้าพเจ้า ก็เพราะถูกข้าพเจ้าใช้กำลังข่มเหง นางก็จะไม่ยอมสยบทั้งกายและใจนานไปอาจมีปัญหา แต่ถ้าใช้วิธีนี้ นางจะต้องยอมอย่างศิโรราบ"
   หวนเตียวได้ฟังก็คล้อยตาม พลันยิ้มนึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมา ที่จะได้เล่นงานยัยเด็กสาวตัวแสบนี่เนื่องจากสมัยที่ตั๋งโต๊ะยังเรื่องอำนาจ ตั๋งไป่ก็โขกสับพวกมันมาไม่น้อย ไม่เคยคิดเกรงอกเกรงใจทั้งที่พวกมันอายุนั้นรุ่นราวคราวพ่อ ถ้าหากทำตามแผนที่ว่า ก็เหมือนได้ระบายแค้นนางไปในตัวด้วย จึงหัวเราะปรบมือฉาดใหญ่ พูดว่า
   "ดี ตกลงตามนี้ ท่านกลับไปรอที่บ้านได้เลย สักครู่ข้าจะตามไป"
   ผมจึงยิ้ม คาราวะขอบคุณ แล้วอำลา ขึ้นขี่ม้ากลับไปที่จวน
   พอถึงช่วงสายๆ หวนเตียวก็นำทหารมาที่หน้าจวนผมประมาณร้อยกว่าคน มาถึงก็กล่าวอย่างวางท่าโอ่อ่า เสียงดัง
   "กาเซี่ยง เจ้าอยู่ที่ใด ยังไม่รีบออกมาเชิญเราเข้าจวน"
   ผมก็รีบออกไปต้อนรับ เข้ามาในจวน หวนเตียวยังพาทหารเข้ามาด้วย สร้างความแตกตื่นให้คนในบ้าน ทั้งตูตู้หลุน ตั๋งไป่ พ่อบ้านยันคนรับใช้ เพราะดูเหมือนจะมีเรื่องไม่ปกติ ที่หวนเตียวนำทหารเข้ามาแบบนี้
   เมื่อพวกหวนเตียวเข้ามา ผมก็สั่งให้พ่อบ้าน นำสุราอาหารมาต้อนรับ แต่หวนเตียวยกมือโบกเป็นเชิงห้าม พูดว่า
   "ข้ามาธุระเพียงครู่ ก็กลับ อย่าได้วุ่นวายไปเลย"
   ผมจึงแสร้งถามว่า
   "ไม่ทราบว่า ท่านขุนพล มาด้วยธุระอันใด"
   หวนเตียวจึงพูดว่า
   "ตั๋งไป่ ปีนี้ อายุ 15 แล้ว ข้าจึงอยากนำนางไปเป็นอนุของข้า เรื่องนี้เจ้าเห็นว่าอย่างไร"
   ผมทำเป็นตกใจ อึกอักพูดอะไรไม่ออก ตั๋งไป่ ยิ่งตกใจมากกว่าผม สักพักแปลเป็นเดือดดาลถึงกับออกมาชี้หน้า พูดว่า
   "หวนเตียว เจ้ากล้าคิดแบบนี้กับข้าเชียวรึ"
   หวนเตียวพลันตบโต๊ะดัง ปัง ลุกขึ้นตวาดว่า
   "บังอาจ เจ้ากล้าชี้หน้าพูดกับข้าอย่างนี้เชียวรึ ตอนนี้ข้าเป็นใคร แล้วเจ้าเป็นใคร โทษลบลู่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ข้าสามารถสั่งประหารเจ้าได้.. ทหาร! จับตัวนางไว้ แล้วเอาไปที่จวนข้า ดูว่าหลังจากเป็นเมียข้าแล้วยังจะปากกล้ายังนี้อีกหรือไม่"
   สิ้นเสียงหวนเตียว ทหารก็เข้ามาจับตัวตั๋งไป่ กดแนบพื้น แล้วเอาเชือกมัด ตั๋งไป่ทั้งแตกตื่นทั้งหวาดกลัว ร้องด่าว่าหวนเตียวไม่หยุดปาก หวนเตียวจึงทำเป็นโมโห ตวาดว่า
   "หากเจ้ายังด่าข้าอีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าออกมา"
   ตั๋งไป่ ตอนนี้ได้ตระหนักแล้วว่าตัวเองไม่อยู่ในฐานะที่ใครจะให้ความเคารพยำเกรงเหมือนแต่ก่อน และหวนเตียวก็ดูท่าทางจะทำอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นนางจึงกลัวไม่กล้าด่าอีก พลันน้ำตาหลั่งไหลร่ำไห้ คิดว่าหากต้องไปเป็นเมียหวนเตียว นางก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น เลยหันมาทางผมร้องให้ช่วย
   นั่นก็ได้เวลาที่พระเอกจะต้องออกโรง ผมจึงรีบห้ามว่า
   "ช้าก่อน ท่านขุนพลหวนเตียว เรื่องรับนางไปเป็นอนุของท่านนั้น เกรงว่าจะทำไม่ได้ มีเรื่องหนึ่งท่านอาจจะยังไม่ทราบ ว่าข้าพเจ้านั้นได้รับตั๋งไปเข้าเป็นอนุแล้ว"
   หวนเตียวจึงแสร้งแปลกใจ พูดว่า
   "เจ้าพูดจริงหรือ ไฉนข้าจึงไม่รู้เรื่องนี่มาก่อน"
   "เรื่องนี้ ข้าพเจ้าตกลงกันเป็นการภายใน ยังไม่ได้บอกต่อผู้ใด หากท่านขุนพลมิเชื่อ ก็ลองถามนางดู"
   หวนเตียวจึงถามตั๋งไป่ว่าจริงหรือไม่ มีหรือตั๋งไป่กล้าปฏิเสธว่าไม่จริง เพราะถ้าให้เลือก ระหว่าง ผมที่นางพอจะมีใจให้อยู่ กับ หวนเตียวผู้นี้ แทบมิต้องคิดว่าจะเลือกใคร ตั๋งไป่จึงรีบผงกหน้ารับ บอกว่าจริง
   หวนเตียวฟังดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นเสียดาย ร้อง เพ้ย พูดว่า
   "เช่นนี้เป็นข้าก็มาเสียเที่ยว ไม่ได้ๆ ถึงเจ้าตกลงรับนางเป็นอนุ แต่ก็ยังไม่ได้เข้าหอ ด้วยข้าหมายตานางมานานแล้ว ข้าก็นับว่ายังมีส่วนอยู่ เพียงแต่พอเข้าเมืองมางานยุ่ง จนยังไม่มีเวลามาทาบทาม เจ้าตัดหน้าข้าไปเยี่ยงนี้ถือว่าไม่ยุติธรรม"
   "ถ้าเช่นนั้นท่านขุนพลจะให้ทำเยี่ยงไร"
   หวนเตียวจึงทำเป็นคิด ก่อนจะพูดว่า
   "เอาเช่นนี้เถอะ เจ้าเอาคนของเจ้าคนหนึ่ง มาสู้กับคนของข้าคนหนึ่ง ผู้ใดชนะ ก็ได้ตัวตั๋งไป่ไป"
   ผมแสร้งทำเป็นคัดค้าน แต่หวนเตียวก็จะยืนกรานตามนั้น ผมจึงจำต้องตกลง หวนเตียวจึงส่งคนของมันมาคนหนึ่ง ผมก็เลือกให้ตูตู้หลุนให้ออกไปสู้ ตูตู้หลุนนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นต่อแผนการนี้ แต่เมื่อผมบอกให้ออกไปสู้นางก็ทำตาม
   ผมจึงบอกตูตู้หลุนว่า
   "หลุนเอ๋อ ถึงข้าอยากจะรับตั๋งไป่เป็นอนุ แต่อย่างไรก็ต้องให้นางมีความเคารพต่อเจ้าด้วย นางนั้นมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่เชื่อฟังใครง่ายๆ แต่ตอนนี้จะเป็นโอกาส ให้เจ้าสร้างบุญคุณกับนาง หากเจ้าเอาชนะได้ ตั๋งไป่ย่อมสำนึกขอบคุณเจ้า นางก็จะไม่กล้ากำแหงกับเจ้าแน่นอน"
   ตูตู้หลุนยิ้มรับที่ผมยังให้ความสำคัญกับนางมากกว่าตั๋งไป่ แล้วตูตู้หลุนก็เดินไปที่ตั๋งไป่ที่ถูกมัดกองอยู่กับพื้น ยิ้มถามเบาๆว่า
   "เจ้าอยากให้ข้าชนะหรือแพ้ ถ้าอยากให้ข้าแพ้ก็ไม่ต้องพูดอะไร แต่ถ้าอยากให้ข้าชนะ ก็เรียกข้าว่า พี่หลุนเอ๋อ คำหนึ่ง แล้วต่อไปก็ต้องเชื่อฟังข้า"
   ตั่งไป่ ไหนมีทางเลือกอื่น ทั้งยังกลัวตูตู้หลุนริษยาไม่อยากให้นางเป็นอนุผม กลังจะแสร้งทำเป็นแพ้ รีบพูดว่า
   "ได้ๆ พี่หลุนเอ๋อ ข้าอยากให้ท่านชนะ ต่อไปข้าจะเชื่อฟังท่าน"
   ตูตู้หลุนจึงยิ้ม และกำทวนออกไปสู้ คนของหวนเตียวนั้นเตรียมมาแพ้อยู่แล้ว สู้ไม่กี่กระบวนเพลง ถูกตูตู้หลุนถีบทีเดียวก็แสร้งทำเป็นลุกไม่ขึ้น
   หวนเตียวจึงแสร้งโมโห ด่าคนของตน รีบไล่ออกไปให้พ้นหน้า จากนั้นก็หันมาบอกผมว่า
   "เมื่อเจ้าชนะก็เอาตัวนางไป แต่อย่าให้ข้ารู้ภายหลังว่าเจ้าร่วมหัวกันโกหกข้า หาไม่แล้วข้าจะกลับมาเอาตัวนางไป"
   แล้วมันก็พาพวกมันกลับ ผมก็รีบตามออกไปส่งที่หน้าจวน ตอนนั้นไม่มีใครตามมา ผมจึงประสานคาราวะขอบคุณหวนเตียว พูดว่า
   "ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยส่งเสริม"
   หวนเตียวหัวเราะสนุกสนาน พูดว่า
   "ไม่เป็นไรๆ เราคนกันเอง ที่ควรขอบคุณควรเป็นข้าต่างหาก ที่ท่านหาโอกาสระบายแค้นกับนางให้ข้า ฮ่าฮ่า ข้ายังนึกถึงสีหน้านางได้ นึกถึงที่ไรก็สาใจทุกที ถ้าอย่างไรละก็ ตอนท่านเข้าหอ เจ้าก็อย่าได้ยั้งมือกับนางเป็นอันขาด ฮ่าฮ่า"
   ผมได้แต่แย้มยิ้มรับคำ แล้วก็กล่าวลาหวนเตียว หวนเตียวก็นำทหารของมันจากไป
   เมื่อผมกลับเข้าไปในจวนอีกที ก็เห็นตูตู้หลุนกำลังแก้มัดให้ตั๋งไป่ ผมจึงสงบตัววางมาดนิ่ง ถอนหายใจเหมือนหนักใจ พูดว่า
   "แล้วนี่จะเอาอย่างไรกันดี"
   ตูตู้หลุนได้ฟัง ก็งงงัน ขมวดคิ้วอย่างสงสัย พูดว่า
   "จะเอาอย่างไร ก็พี่เจ๋งจะรับนางเป็นอนุมิใช่รึ เหตุไฉนจึงถามว่าจะเอาอย่างไร"
   ตั๋งไป่ได้ยินดังนั้นก็ใจร้อนรุ่ม คิดว่าผมก็ไม่ต้องการ จึงร่ำไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กถูกทิ้งไม่มีใครรัก พูดงอแงปนสะอื้นว่า
   "ถ้าเจ้าไม่ต้องการก็ส่งข้าให้หวนเตียวไปเถอะ ข้า. ข้าเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการอยู่แล้ว"
   แล้วนางก็กอดเข่าก้มหน้าสะอึกสะอื่น ผมจึงพูดว่า
   "ไม่ใช่ไม่ต้องการ เพียงแต่กลัวว่าเจ้าไม่ยินยอมพร้อมใจ หากเจ้าพร้อมใจแล้ว เราก็รีบแต่งเถอะ เมื่อเข้าสู่วิวาห์แล้ว ท่านขุนพลหวนเตียวก็คงอ้างอะไรไม่ได้อีกแล้ว"
   ตั๋งไป่จึงค่อยๆหยุดร้องข่มสะอื้นลง เหมือนเป็นการตอบรับกลายๆแทนคำพูด ผมจึงยิ้มพูดว่า
   "ถ้าอย่างนั้น ก็จัดพิธียกน้ำชาพาเข้าสกุลกาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากล่าวกันที่หลัง หลุนเอ๋อ อาเจินเคยสอนเจ้าเรื่องนี้มาแล้ว เจ้าก็สอนนางต่ออีกทีแล้วกัน"
   ตูตู้หลุนพยักหน้า แล้วก็พาตั๋งไป่ไปตระเตรียมตัวพร้อมให้คำแนะนำในการเป็นเจ้าสาวในห้องหอ ตั๋งไป่ขณะอาบน้ำในถังอาบน้ำกับตูตู้หลุนฟังคำแนะนำเรื่องบนเตียงจนใจตื่นเต้นแก้มแดงเป็นผลตำลึง แต่ก็รับฟังและถามตามความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาววัยสิบห้า ตอนนั้นนางไม่กล้าวางมาดท่านหญิงกับตูตู้หลุนแล้ว กลายเป็นศิษย์ผู้น้องที่ต้องฟังคำแนะนำของศิษย์ผู้พี่
   เมื่อตระเตรียมตัวกันเสร็จสรรพ ตูตู้หลุนก็พานางมาที่ห้องนอน ที่ตอนนี้มีเก้าอี้ เพื่อรอทำพิธียกน้ำชาอยู่ ทั้งคู่แต่งตัวกันสระสวยด้วยชุดงามหรู ผมมองดูจนยิ้มกริ่มแต่ก็ยังทำเป็นวางมาดนิ่ง แล้วทั้งคู่ก็มาทำพิธียกน้ำชาให้กันและกัน เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ตูต็หลุนก็ถามผมว่า
   "พี่เจ๋ง พี่จะเข้าหอเลยหรือไม่"
   ตูตู้หลุนถามเพราะ เห็นว่ายังเป็นกลางวันอยู่ แต่ตอนนี้ผมไหนเลยสนว่ากลางวันกลางคืน จึงพยักหน้า ตูตู้หลุนจึงพาตั๋งไป่ไปยังตั่งเตียงนอน แล้วปลดม่านลง แล้วก็ถอดเสื้อผ้าให้ตั๋งไป่ ตั๋งไป่ตอนนี้ตื่นเต้นจนตัวแข็งทื่อไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
   ผมเห็นเงาสองสามกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ภายในผ้าม่านนั้น ควยก็แข็งปั๋ง คงไม่ต้องรั่งรออะไรอีกแล้ว จึงตามไปที่ตั่งเตียง พอเลิกผ้าม่าน ก็เห็นรูปร่างเปลือยเปล่าของตั๋งไป่ สาววัย 15อย่างเต็มตา รูปร่างของนางผอมอ้อนแอ้น นมของนางไม่ได้ยังไม่ใหญ่มากนัก แต่เป็นเต้าสวยเหมาะมือ ผิวของนางขาวราวกับหิมะ ขนตรงเนินของเธอยังขึ้นเป็นไรอ่อนๆ ไม่ดกดำ
   ตั๋งไป่เห็นผมจ้อง จนนางอายไม่กล้าสู้หน้า ต้องก้มหน้าต่ำหลบเลี่ยงสายตา ผมจึงขยับตัวขึ้นไปนอนบนเตียงที่สองสาวเปลือยกายอยู่ แล้วพูดว่า
   "หลุนเอ๋อ เจ้าทำให้นางดูก่อน นางจะได้เรียนรู้ไว้"
   ตูตู้หลุนยิ้มรับ แล้วค่อยๆปลดเสื้อผ้าผมออก พร้อมกับจูบไซด์ไล่เลียงไปตามร่างกายผมเพื่อปลุกอารมณ์ ตั๋งไป่มองดูจนหายใจแรง ตื่นเต้นจนต้องกำมือแน่น
   ตูตู้หลุนจูบปากไซด์บน จนถึงช่วงล่าง พอถลกกางเกง ควยผมก็ตั้งเด้งโด่ขึ้นมา ตั๋งไป่มองอยู่ก็ตกใจสะดุ้งตาโพลง เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นของผู้ชาย มันใหญ่โตและยาวเสียจนนางหวาดกลัว รู้สึกขยักแขยง      
   แต่เมื่อเห็นตูตู้หลุนกำมันรูดชัก ก่อนจะใช้ปากโลมลิ้นเลียอย่างเอร็ดอร่อย ส่งเสียงจ๊วบจั๊บ อย่างกับดูดน้ำจากผลไม้ ความขยักแขยงหวาดกลัวก็หายไป กลายเป็นอยากลิ้มรสมันขึ้นมา
   ผมนั้นเสียวควยจนต้องจับหัวตูตู้หลุน นับวันนางยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ รู้ว่าผมชอบอะไรตรงไหนยังไง ทั้งดูดทั้งเลียโลมตอดหัวควยผมเสียวไปหมด ยามนั้นพลันเห็นตั๋งไป่มองตาไม่กระพริบ สีหน้าท่าทางเหมือนอยากลิ้มลองรส ผมจึงเรียกนางเข้ามา ตั๋งไป่เหมือนโดนมนต์สะกด คืบคลานเข้าไปหา
   ผมจึงบอกว่า
   "ท่านหญิง อยากจะลองชิมดูหรือไม่"
   ตั๋งไป่หันไปมองควยผมที่แข็งโด่ อย่างชั่งใจ ใจหนึ่งก็อยากลอง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกกลัว แล้วมือของนางก็เอื้อมแตะสัมผัสมันอย่างกลัวๆกล้าๆ แต่พอได้แตะสัมผัสกำแล้ว รู้สึกเหมือนเป็นท่อนเอ็นที่เด้งสู้มือ ยามรูดขึ้นลงก็เพลินมือมิได้น่ากลัวอย่างที่คิด
   ท่าทางของนางทำเอาผมตื่นเต้นไปด้วย จึงพูดว่า
   "ท่านหญิงลองใช้ปากทำแบบหลุนเอ๋อสิ"
   "ข้า.. ข้า ทำไม่เป็น"
   นางบอกหน้าแดง สีหน้าผะวงเขอะเขิน ผมเลยพูดว่า
   "แต่ก่อนหลุนเอ๋อก็ไม่เป็น แต่เดี๋ยวนี้นางก็ชำชอง เจ้าลองดูเถอะ"
   ตั๋งไป่นัยตาสั่นไหว จ้องมองควยเหมือนกำลังลังเล แต่แล้วก็ตัดสินใจก้มลงไปใช้ลิ้นแตะชิม จากนั้นก็ลองทำเลียนแบบตูตู้หลุน
   นางยังทำไม่เป็นจริงๆ ตูตู้หลุนเห็นแล้วนึกถึงตัวเองสมัยก่อน ต้องยิ้มมองอย่างเอ็นดู พลันเอามือลูบหัวนางเบาๆแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหูบอกแนะนำ คนหนึ่งทำคนหนึ่งแนะนำที่ข้างหู ตั๋งไป่ก็เริ่มทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมตอนแรกแค่เพลินๆ ตอนนี้ก็เริ่มเสียว ตูต็หลุนเห็นนางกินอร่อยแล้ว ก็นึกอยากกินบ้าง จึงขอแบ่งตั๋งไป่ และสอนให้ช่วยกันทำ
   สองสาวคูตัวก้มตูดโด่งรุมกันพลัดดูดเลียควยผม จนผมเริ่มเสียวเงี่ยนเกร็ง ยามนั้นนึกอยากชิมรสหีสาวพรหมจรรย์วัยสิบห้าของท่านหญิง จึงดึงเอวนางให้เคลื่อนตัวเอาหว่างขามาคร่อมหน้าผม โดยที่ปากของนางยังช่วยตูตู้หลุนเลียควยอยู่ไม่หยุด
   ผมใช้สองมือจับแหวกแก้มก้นของตั๋งไป่ที่คร่อมโก่งตูดลอยอยู่บนหน้า ดูหีนางที่เนียนสวยในท่าโก่งตูดงอน ในใจนึกกระหยิ่มยิ้มอย่างอดไม่ได้ เมื่อนึกถึงวีรกรรมที่นางเคยทำกับผมเอาไว้ นึกในใจอย่างมันเขี้ยวว่า เดี๋ยวจะเลียให้ร้องเลย
   แล้วผมก็กดสะโพกนางลงมาให้หีนางตรงแนบปาก และใช้ลิ้นชอนไชเลียทั้งหีแคม และดูดแตดนางจนเสียงดัง
   ตั๋งไป่เสียวจนร้องซีดส์ มือกำควยผมแน่นแต่ไม่อาจใช้ปากทำต่อได้ ต้องปล่อยให้ตูตู้หลุนอร่อยปากไปคนเดียว
   "อ๊ออยยยย ซีดดดส์ กาเซี่ยง นี่เจ้า อ๊อยยย ซีดดส์ เจ้าทำข้าใจสั่นไปหมดแล้วว"
   ตั๋งไป่ร้อง ขณะที่ผมเลียตอดดูดัง จ๊วบแจ๊บๆ เสียงร้องของตั๋งไป่และเสียงกินหีของผมยิ่งทำให้ตูตู้หลุน ดูดเลียควยเสียงดังแข่งกับผม
   อืมส์ จ๊วบบบ โบ๊ะ บ๊วบๆ แจ๊บ อืมส์
   ผมทั้งเสียวควยทั้งอร่อยหี จนเงี่ยนเด้งควยใส่ปากตูตู้หลุนไม่หยุด ตั๋งไป่ก็เสียวหีร้องคราง หลับตาเกร็งตัวคอเอียงแนบไหล่
   ตูตู้หลุนรู้ว่าผมเงี่ยนอยากเย็ดแล้ว เพราะเด้งควยใส่ปากนางไม่หยุด นางจึงจัดการขึ้นขย่มให้ แล้วดันตัวตั๋งไป่ที่โดนเลียหีอยู่ให้แอ่นตัวขึ้นมาเกาะตัวนางไว้ กลายเป็นทั้งสองคน นั่งขย่มควยผมคนหนึ่ง นั่งคร่อมให้ผมเลียหีคนหนึ่ง แล้วตูตู้หลุนก็ดึงตั๋งไป่มากอดจูบลูบไล้เสริมสร้างความกำหนัด
   ไม่นาน ตั๋งไป่ก็ทนไม่ไหว ร้องลั่น จนตัวกระตุก รู้สึกเสียวเสร็จจนไม่อาจทนโดนเลียได้อีก พลันต้องขยับตัวขึ้นให้หีพ้นปาก ตัวสั่นกระตุกไม่หยุด ตูตู้หลุนรู้ว่านางถึงจุดสุดยอดแล้ว ก็กอดจูบนางนั่วเนียให้นางผ่อนคลาย จากนั้นตูตู้หลุนก็เงี่ยนจนอยากเสร็จตามตั๋งไป่ นางเปลี่ยนท่าขยับตัวเป็นขย่มในท่านั่งย่องๆ เอามือจับเอวผมไว้ แล้วขย่มกระแทกใส่จนเนื้อตีกันเสียงดัง ตับ
   ตับๆๆๆๆๆๆๆๆ
   "อ้อยยยย พี่เจ๋ง อาห์ ซีดดดสส์ หลุนเอ๋อจะเสร็จอยู่แล้วววว ซีดดดส์"
   "อาห์ ซีดดดส์ หลุนเอ๋อเจ้าขย่มท่านี้ทำเอาข้า สะท้านเลยจริงๆ"
   ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
   ตูตู้หลุนขย่มใส่ไม่หยุด ยิ่มมาน้ำในหีนางยิ่งเยอะ จนเล็ดกระเซ็นออกมาตามแรงโดยควยกระแทกอัดรูหี แล้วตูตู้หลุนก็กัดฟันเร่งถี่ยิบ จนมันเสียวสุดทนแล้ว นางก็ยกตัวขึ้นจนควยหลุดหี กรีดร้องเสียงดัง พลันน้ำหีก็แตกพุ่งรดควยผมลงมา ตูตู้หลุนหอบหายใจอยู่ในท่านั้นค้างรอกจนเสร็จสะเด็ดน้ำแล้ว ก็ขยับตัวออก ให้ผมได้มีโอกาสจัดการกับตั๋งไป่
   ผมจึงลุกขึ้น ลากตั๋งไป่มาจับถางขากว้าง จนนางอายเอาท่อแขนปิดหน้า ผมนั้นกำลังเงี่ยนมันส์สุดๆ ก็จับเอาควยถูหีนางก่อนจะดันจมเข้าไป
   "อ้อยยยย กาเซี่ยง ข้าเจ็บบ"
   "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หาย"
   ผมบอกปลอบ พร้อมกับดันเข้าไปโดยไม่ได้ทำอย่างถนุถนอมมากนัก ไม่รู้เป็นอะไรมันบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นนางทรมารผมกลับรู้สึกสะใจ สงสัยเก็ดกดจากที่เคยโดนนางข่มเหง เมื่อเสียบเข้าได้ผมก็เริ่มกระเด้า แม้ไม่แรงมากนัก แต่ก็ทำให้ท่านหญิงถึงกับน้ำตาเล็ดเกร็งตัวแข็ง
   ตูตู้หลุนผ่านผระสบการณ์นี้มาแล้ว จึงเข้ากอดปลอบว่า
   "เจ้าอย่าได้เกร็งตัว หากเกร็งจะยิ่งเจ็บ ให้ปล่อยตามสบาย เดี๋ยวความเจ็บก็จะหายไป"
   ตั๋งไป่พยายามทำตามที่บอก โดยมีตูตู้หลุนกอดจูบให้ผ่อนคลาย สักพักนางก็เริ่มชินจนผมโยกเย็นนางได้
   "โอ้วววว ซีดดดส์ แน่นจริงๆ ซีดดดสส์"
   "อ้อยยยยย อ้อยยยยยย อ้อยยยยย เจ้าอย่าได้รักแกข้า อย่าทำแรงนัก อ้อยยยย"
   ตั๋งไป่ร้องกอดตูตู้หลุนแน่น ตอนนี้นางถึงดูน่าสงสารหน่อย ผมจึงลดแรงลง ทำให้นุ่มนวลขึ้น จนนางเลิกหน้านิ้ว คลายความเจ็บปวดลง ตอนนั้นควยผมอาบไปด้วยคราบเลือดบรสุทธิ์และคราบน้ำเงี่ยนที่หล่อลื่นในหีนาง สักพักนางก็เริ่มเคลิ้มตัวอ่อนน้ำในหีออกมาหล่อลื่นมากขึ้น ทำให้ค่อยๆล้างคราบเลือดนั้นไป แสดงว่า ผ่านจุดเจ็บไปแล้ว ที่เหลือจึงมีแต่ความเสียว ผมจึงทำได้เร็วขึ้น
   ตับๆๆๆๆๆๆๆ
   "อาห์ ซีดดดส์ ท่านหญิง ต่อไปนี้จะดื้อกับข้ามั๊ย ซีดดดส์"
   ตับๆๆ
   "อ้อยยยย ไม่ดื้อแล้ววว ข้าไม่ดื้อกับเจ้าแล้วว อ้อยยยยย"
   "ดี โอ้ววว ซีดดดส์ ถ้าเจ้าไม่ดื้อ ข้าก็จะมอบความสุขให้แบบนี้ อาห์ ซีดดดส์"
   ตับๆๆๆๆๆๆๆ
   "อ้อยยยยย ข้าไม่ไหวแล้วววว อ้อยยยยย"
   ตั๋งไป่กรีดร้องเสร็จจนหีขมิบ ผมเองก็สุดทนแล้วเหมือนกันต้องรีบชักออก เอาไปแตกใส่หน้านาง หน้าของตั๋งไป่จึงเลอะไปด้วยน้ำควยผม ในขณะที่นางนอนหอบหายใจ แบะถ่างขาหุบไม่ลงจนเห็นหีขมิบเสร็จเป็นจังหวะหลายที ตูตู้หลุนเห็นใบหน้านางเลอะเปอะเปื้อนไปด้วยน้ำรัก ก็เข้าไปจูบเลียใช้ลิ้นเก็บกวาดทำความสะอาดให้ เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายก็นอนกอดกายกันสามคน พอผมเริ่มฟื้นพลังก็ต่อกันอีกรอบ วันนั้นทั้งวันทั้งคืนพวกเราคลุกตัวกันอยู่แต่ในห้อง จนถึงสว่างของอีกวัน
   -----------------------------------------------------------

633sqd


n2610

ท่านกาปราบม้าพยศให้เต็มที่ทั้งคืนเลยนะ เอาให้หายพยศ

kaithai

#3
วางแผนรัก นี่ดูเหมือนจะเหนือกว่า วางแผนรบอีกนะ  อิอิ

จากภาพปลากรอบ เชื่อว่า คนที่สี่คือ "งิวอี้หลาง"  ชัวร์

cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

ifamily03

พวกซึนเดเระนี่ลองโดนเข้าไปซักที ต่อไปจะกลายเป็นแค่ลูกแมวเชื่องๆ เชื่อผม

cobra888

พระเอกของเรา เก่งทั้งรักและ(วางแผน)การรบจริงๆ ::Ahoo::

BooM_Za

ชุดใหญ่ไฟกระพิบเลยนะครับ เก็บแรงไว้บ้างนะครับระวังฟ้าเหลือง

sparrow_ap

ระดับกุนซือทั้งที จะรวบสาวงามยังต้องมีแผนเลย  ::WowWow:: ::HoHo::
และแล้วก็เก็บได้อีกหนึ่งคน  ::DookDig:: ::Fighto::

wattana2015

 ::Glad:: ถ้าตามรูปนะอาเจินหน้าเด็กสุด รองลงมาก็ตั๋งไป่ น้องงิ้วหน้าแก่อันดับสาม ตูตู้หลุนหน้าแก่กว่าเพื่อน อิอิ  ::HoHo:: อาเจินเจ้ใหญ่กินเด็กหน้าอ่อนสุด 555+  ::Hungry::

i_robot

โดนจนได้สินะ เมียสองต้องห้าม เมียสามสบายไป


xonly-2020

ตั๋งไป๋เสร็จพี่เจ๋งจนได้ สมกับที่รอลุ้นจริงๆ คนต่อไป ใครดีครับ อยากรู้จริงๆ

yoyoh

ข้าน้อยขอคารวะท่านกุนซือ แผนท่านช่างแยบยลนัก นับถือๆ

sunshine9

writer ขยันส่งการบ้านทุกวันแบบนี้ reader รักตายเลยครับ ::JubuJubu::