ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

แก้วกานดา ตอนที่ 28 – หย่าศึก

เริ่มโดย assasin008, สิงหาคม 01, 2017, 10:14:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

แก้วกานดา ตอนที่ 28  – หย่าศึก
.....................................
Assasin008 2017-08-01

        กานต์ นักศึกษาสาวดาวเด่นของมหาวิทยาลัยนั่งอมยิ้มหวานฉ่ำมีความสุขจนแก้มแทบปริ เสียงบรรยายของอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าชั้นเรียนแทบไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักคำ หัวสมองของเธอในตอนนี้ยังคงเคลิบเคลิ้มอยู่กับรสรักวาบหวามที่เพิ่งได้ลิ้มลอง

        เธอนึกไปถึงบทรักของอาร์ตชายหนุ่มที่เธอวางตัวให้เป็นคนรัก จากนั้นก็นึกไปถึงบทรักของบอล แล้ววนไปถึงชายลึกลับที่จับตัวเธอไปปลุกปล้ำในค่ำคืนก่อนหน้า แม้แต่ตอนที่โดนพวกยามสามคนรุมลวนลาม และเกือบเสียตัวให้กับลุงหน้าเหี้ยม ภาพเหล่านี้กลับยังคงชัดเจนในห้วงความคิด กานต์รู้สึกว่ามันคือประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจแปลกพิลึกที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะได้พบเจอ

        "กานต์ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกัน ตกลงเมื่อวานแกโดดเรียนหายไปไหนทั้งวัน เช้านี้ถึงได้ยิ้มมีความสุขแบบนี้ อย่าบอกนะว่าแกไปขลุกอยู่กับแฟนของแกทั้งวัน"

        เสียงกระซิบจากปรางเพื่อนสาวร่างอ้วนท้วมกระชากดึงกานต์กลับมาจากภวังค์แห่งความสุข กานต์หันไปมองเพื่อนสาวคนสนิทแล้วครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้มขวยเขิน

        "อือ เมื่อวานชั้นไปอยู่กับพี่อาร์ตทั้งวันเลย"

        ปรางเบิกตากว้างตื่นตกใจ เธอหันซ้ายหันขวาเหมือนเกรงว่าจะมีใครได้ยินบทสนทนา ก่อนจะโน้มหน้าไปกระซิบเตือนเพื่อนสาวด้วยความหวังดี

        "ตายจริง ตกลงแกเอาจริงเหรอเนี่ย คนที่แกบอกว่าเป็นยามคนนั้นน่ะเหรอ แล้วนี่แกกับเค้าไปกันถึงไหนแล้ว ป้องกันหรือเปล่า เดี๋ยวจะมีเรื่องเอานะ"

        "... อือ ไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นกินยาคุมไว้แล้ว"

        "กินยาคุม ... เดี๋ยวนะ นี่แกจะบอกว่า ... เอ่อ ... นี่แกกับเค้า แบบว่า ... เอ่อ ไม่ได้ใส่ ... ไม่ได้ใส่ถุงยางกันเหรอ"

        "อืม ... พี่อาร์ตไม่ชอบใส่ถุงยาง เราก็ไม่อยากให้พี่เค้าใส่"

        กานต์หันไปมองปรางที่ทำหน้าตาแตกตื่น ก่อนจะกระซิบส่งเสียงตอบกระอักกระอ่วน สาเหตุที่เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนนั้นก็เพราะไม่ใช่แค่อาร์ตที่เคยมีอะไรกับเธอแบบไม่ได้ป้องกัน ครั้งแรกสุดที่เธอเสียสาวให้บอลนั้น เธอก็โดนเขาปลดปล่อยเข้ามาหลายรอบ อีกทั้งยังมีชายปริศนาที่จับตัวเธอไปนั่นอีก เขาปล่อยใส่เธอไม่ต่ำกว่าสี่รอบในค่ำคืนนั้น เกรงว่าหากเธอพลาดท่าท้องขึ้นมา เธอคงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกของใคร

        "... กานต์ ... แกนี่มัน ... เฮ้อ ... นี่ถ้าพวกผู้ชายรู้ คงอกหักกันดังเป๊าะ ใครจะคิดว่าดาวมหาลัยขี้อายแล้วก็แสนเรียบร้อยอย่างแกจะมาใจแตกเอาดื้อ ๆ แบบนี้"

        "นี่ ยายปราง น้อย ๆ หน่อยย่ะ ชั้นก็แค่มีแฟนเฉย ๆ"

        "ไม่น้อยหรอกย่ะ สาวขี้อายอย่างแกไปถึงขั้นนี้ก็น่าตกใจแย่แล้ว แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงสวย น่ารัก รวย ชาติตระกูลสูงอย่างแก ดันไปคบกับยามธรรมดา ๆ ถ้าพวกผู้ชายรู้เข้ารับรองว่าอกแตกตายกันทั้งบาง ... นั่นไง แอบหันมามองแกอีกคนแล้วนั่น"

        ปรางพูดไม่ทันจบ หนุ่มนักศึกษาหน้าเปื้อนสิวคนหนึ่งที่นั่งเยื้องไปด้านหน้าก็แอบชำเลืองมองมาทางกานต์ และเมื่อหันมาพบว่ากานต์และปรางกำลังมองอยู่ นักศึกษาหนุ่มคนนั้นก็สะดุ้งโหยงรีบหันขวับกลับไปทำทีเป็นว่ากำลังตั้งใจเรียน

        "เป็นยามแล้วทำไมล่ะ นี่แกเหยียดชนชั้นด้วยเหรอยัยปราง"

        "เปล่า ๆ ชั้นก็แค่เป็นห่วงแกเฉย ๆ ... นั่นแน่ะ พอมีแฟนแล้วเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนเชียวนะ พูดกระทบนิดหน่อยไม่ได้เชียว"

        กานต์ไม่สนใจชายหนุ่มคนนั้นแม้แต่น้อย เธอหันไปส่งสายตาดุใส่จนปรางต้องรีบส่งเสียงแก้ตัว แต่ครู่เดียวปรางก็ทำตาวิบวับกระซิบหยอกกลับ กานต์จึงต้องแกล้งทำเมินสะบัดหน้าหันมองไปทางอาจารย์หน้าห้องเหมือนไม่อยากคุยกับปรางอีก ปรางเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะคิกคักเบา ๆ ก่อนจะแอบกระซิบหยอกเพื่อนสาวอีกครั้ง

        "อ่ะ ไม่พูดก็ได้ ชั้นขอโทษนะกานต์ ว่าแต่ทำไมวันนี้กลับมาใส่เสื้อหลวมโพรกแบบป้าเฉิ่มอีกแล้วล่ะ แถมแว่นนี่อีกแกจะใส่ทำไมเนี่ย สายตาก็ไม่ได้สั้นอะไรสักหน่อย ใส่ชุดรัดสั้นแบบเมื่อวันก่อนนี่แหละ ชั้นว่าเข้ากับแกมากเลย หนุ่ม ๆ มองตามตาเป็นมันน้ำลายไหลยืด หางกระดิกดุ๊กดิ๊กเชียว"

        "นางบ้า นั่นมันน้องหมาแล้ว ใครจะน้ำลายไหลยืด ส่ายหางดุ๊กดิ๊ก"

        "เอ้า พูดจริงนี่นา แล้วตกลงทำไมแกใส่ชุดนั้นแค่วันเดียว น่าจะใส่ต่ออีกสักหลายวัน หรือยังไงก็หาชุดที่มันปิดเนื้อตัวมากกว่านั้นอีกหน่อยก็ได้ ถ้าแกเขิน แต่อย่าใส่ชุดป้าเฉิ่มแบบนี้เลย ชั้นเสียดาย อุตส่าห์สวยหุ่นดีขนาดนี้"

        กานต์ขมวดคิ้วน้อย ๆ สาเหตุที่เธอไม่กล้าสวมใส่ชุดรัดสั้นอีกก็เป็นเพราะเธอรู้สึกว่ามันทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ วันนั้นเพียงวันเดียวเธอเกือบจะต้องมีสามีใหม่เพิ่มอีกหลายคน อีกทั้งเมื่อสวมใส่ชุดรัดสั้นวาบหวิวแบบนั้น จิตใจของเธอก็รู้สึกขัดเขินไม่สงบ สุดท้ายเธอจึงไม่กล้าสวมใส่มันอีก

        "ไม่เอา ไม่ใส่แล้ว ใส่แล้วมีแต่คนมอง เขินจะตาย"

        "แหม ก็ปล่อยให้คนมองไปซิ ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย เรามีของดีก็แสดงออกมาเลยอย่าเก็บไว้ ... เอ ว่าแต่แฟนแกชื่ออาร์ตใช่หรือเปล่า หน้าตาเป็นยังไง ชั้นยังไม่เคยเห็นรูปเลย เหมือนแกจะบอกว่าหล่อมาก ๆ"

        "ชั้นไม่ให้แกดูหรอก กลัวแกจะหลงพี่อาร์ตไปอีกคน"

        "นางบ้า ชั้นไม่แย่งแฟนเพื่อนหรอกน่า หรือต่อให้ชั้นอยากแย่งก็เถอะ แกคิดว่าหุ่นโอ่งมังกรอย่างชั้นใครเค้าจะมาสนใจ"

        "อ้ะ งั้นก็ได้ ดูแล้วก็เงียบ ๆ ไว้ล่ะ"

        กานต์หัวเราะคิกคักแผ่วเบา ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ๆ แล้วยื่นไปให้ปราง โดยที่สายตานั้นยังคงทำทีเป็นมองไปทางอาจารย์หน้าห้องทำท่าเหมือนยังคงสนใจฟังคำบรรยาย ทั้งที่ความจริงแล้วกานต์กำลังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยอยากอวดของเล่นให้เพื่อนดู กานต์กำลังอยากได้ยินปรางพูดว่าแฟนหนุ่มของเธอนั้นหล่อกระชากใจขนาดไหน

        "เอ๊ะ!!!"

        เสียงอุทานของปรางดังขึ้นจนคนในห้องบรรยายพากันสะดุ้งโหยง กานต์ย่อมเป็นคนที่ตื่นตกใจมากที่สุด เธอรีบหันไปมองเพื่อนสาวด้วยความแตกตื่นไม่เข้าใจ และเมื่อกานต์หันไปก็พบว่าปรางกำลังหันซ้ายหันขวายกมือขอโทษเพื่อนร่วมห้อง

        อาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนส่งเสียงดุเล็กน้อยแต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี ปรางก็นั่งก้มหน้าก้มตามองดูภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ราวกับเพิ่งเห็นเรื่องราวน่าตื่นตะลึงอะไรสักอย่างหนึ่ง

        "อะไร เป็นอะไรของแกน่ะปราง แกตกใจอะไร"

        เมื่อเสียงบรรยายของอาจารย์ดังขึ้นอีกครั้ง กานต์ก็รีบโน้มตัวส่งเสียงกระซิบถามเพื่อนสาวด้วยความงุนงง หากทว่าปรางยังคงไม่ตอบ ปรางยังคงจ้องมองดูภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะลากนิ้วเลื่อนดูภาพอื่น ๆ อีกหลายภาพ ภาพบนหน้าจอนั้นคือภาพถ่ายคู่ของกานต์และอาร์ต แน่นอนว่ามีบางภาพที่ค่อนข้างวาบหวิวไม่ควรเปิดเผย แต่กานต์เชื่อใจปรางจึงยอมเปิดให้ดู

        "... กานต์ ... แกบอกว่าเมื่อวานแกขลุกอยู่กับพี่อาร์ตของแกทั้งวันใช่หรือเปล่า"

        "อื้อ ใช่ ทำไมเหรอ"

        "ทั้งวันที่ว่านี่หมายถึงเวลาไหน เอาแบบชัด ๆ หน่อย"

        "... อือ ก็ตั้งแต่เช้าน่าจะแปดหรือเก้าโมง ชั้นอยู่กับพี่อาร์ตจนดึกสี่ห้าทุ่มโน่นเลย"

        "แกแน่ใจนะว่าแกอยู่กับเขาตลอดเวลา"

        "อื้อ ใช่ แกนี่ถามอะไรแปลก ๆ แกต้องการอะไรเนี่ยปราง"

        "ถ้างั้นก็คงไม่ใช่ ... ไม่มีอะไรหรอก ชั้นแค่สงสัย"

        "อะไรของแก สงสัยอะไร ยังไง"

        "พูดยังไงดี คือตอนแรกที่ชั้นเห็นรูปพี่อาร์ตของแก ชั้นก็นึกไปถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ชั้นเคยเจอ ผู้ชายคนนั้นชื่ออาร์ตเหมือนกัน หน้าตาก็เหมือนกับพี่อาร์ตของแกมาก แต่ว่าเค้าเป็นลูกชายของอภิมหาเศรษฐีของประเทศ ไม่ได้เป็นยามเหมือนพี่อาร์ตของแก"

        "ยายปราง ถ้าเธอพูดไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งยามอะไรอีก ชั้นจะโกรธแล้วนะ"

        "เดี๋ยว ๆ ชั้นไม่ได้จะพูดเรื่องนั้นนะกานต์ ชั้นแค่เปรียบเทียบ ตอนแรกชั้นคิดว่าจะเป็นคนเดียวกัน แต่แกบอกว่าเมื่อวานแกขลุกกับพี่อาร์ตของแกทั้งวัน ชั้นเลยค่อยหายสงสัย คิดว่าคงแค่คนหน้าเหมือนกันเฉย ๆ"

        "อ๋อ ... อือ แล้วคนที่แกว่านั่นคือใคร"

        กานต์กระพริบตาปริบ ๆ นิ่งไปครู่หนึ่ง เธอเพิ่งเข้าใจว่าทำไมปรางจึงมีท่าทางแปลก ๆ ตอนเห็นรูปของพี่อาร์ต ตอนนี้เธอจึงเริ่มสนใจขึ้นมาว่าชายคนที่หน้าเหมือนกับพี่อาร์ตของเธอนั้นคือใครกันแน่

        ปรางมองดูรูปบนโทรศัพท์มือถือของกานต์อีกครู่หนึ่ง แต่ก่อนที่เธอจะตอบคำถามของกานต์ เสียงกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้นมาพอดี บรรดานักศึกษาหนุ่มสาวต่างพากันเก็บข้าวเก็บของส่งเสียงสนทนากันอื้ออึง เพื่อนสาวในกลุ่มเดียวกันก็เริ่มขยับเข้ามาคุยกับกานต์และปราง ปรางจึงยังไม่มีโอกาสได้ตอบคำถามของกานต์

        กานต์เก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วหันไปคุยกับกลุ่มเพื่อนสนิท พวกเธอเดินออกจากชั้นเรียนและพากันพูดคุยกันว่าเที่ยงนี้จะไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ไหน หากทว่าเดินออกจากห้องเรียนไปได้ไม่ทันไร กลุ่มของกานต์ก็หยุดชะงักมองดูนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่ยืนขวางทางด้วยสายตาไม่เป็นมิตร นั่นเพราะนักศึกษาสาวคนนั้นคืออรอนงค์ผู้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับกานต์มาตั้งแต่ต้นนั่นเอง

        "วันนี้ลมอะไรหอบเธอมาถึงที่นี่ยะอนงค์ คิดอะไรชั่ว ๆ อีกล่ะคราวนี้"

        ปรางสาวหุ่นอ้วนท้วมซึ่งมีนิสัยปกป้องเพื่อนตีหน้ายักษ์เดินออกมาประจันหน้ากับอนงค์ก่อนใครอื่น ในขณะที่เพื่อนร่วมก๊วนคนอื่นนั้นต่างพากันตีหน้าขึงขังไม่ต้อนรับอนงค์กันอย่างเต็มที่

        "แกอย่ามายุ่งเลยนะนางปราง วันนี้ชั้นมีเรื่องจะมาคุยกับนางกานต์เป็นการส่วนตัว ชั้นก็แค่อยากจะมาเจรจาสงบศึก"

        อรอนงค์ยืนยิ้มหวานไม่สะทกสะท้านกับท่าทีไม่เป็นมิตรของกลุ่มนักศึกษาสาว และคำพูดที่อนงค์เอ่ยออกมานั้นได้ทำให้ทุกคนกระพริบตาปริบ ๆ ทำท่างุนงงหันไปมองหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

        "หล่อนพูดว่าอะไรนะอนงค์ ไหนพูดใหม่อีกรอบซิ แกบอกว่าจะสงบศึกกับเพื่อนชั้นงั้นเหรอ"

        "อื้อ ชั้นอยากจะคุยกับกานต์เป็นการส่วนตัว เพื่อสงบศึกเรื่องของเราสองคน กานต์เราไปหาที่คุยกันสองคนหน่อยได้หรือเปล่าจ๊ะ ไม่นานหรอก ขอสักสิบห้านาที"

        อรอนงค์พูดเสียงหวานเป็นมิตร ทั้งที่ปกติแล้วเธอจะพูดจาแข็งกระด้างกับกลุ่มเพื่อนกานต์มาตลอด ผู้ฟังจึงเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเตรียมใจรับไม่ทันขึ้นมาบ้าง

        ปรางขมวดคิ้วหันกลับไปมองกานต์ที่อยู่ด้านหลังเหมือนจะขอความเห็น กานต์เองก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด ความคิดของกานต์ในตอนนี้สลับซับซ้อนกว่าคนอื่นหลายเท่า นั่นเพราะว่าเธอมีเรื่องราวที่เพื่อน ๆ ไม่รู้ ค่ำคืนก่อนนั้นเธอโดนจับตัวไปพร้อมกับอนงค์ และทั้งคู่ต่างก็โดนชายปริศนานั้นข่มขืนเช่นเดียวกัน เพียงแต่สิ่งที่กานต์นั้นได้รับรู้เรื่องราวมากกว่าที่อนงค์เข้าใจ

        "อื้อไปซิ พวกเธอไปกินข้าวกันก่อนเลย เดี๋ยวชั้นเดินตามไปนะ ไม่ต้องห่วงหรอก"

        กานต์พยักหน้าให้กับอนงค์ ก่อนจะหันมาบอกให้เพื่อน ๆ ล่วงหน้าไปรับประทานอาหารกันก่อน เธอแน่ใจว่าเรื่องราวที่กำลังจะคุยกับอรอนงค์นั้นไม่ใช่เรื่องที่สมควรให้คนอื่นล่วงรู้ แม้แต่ปรางที่กานต์ไว้ใจที่สุดก็ยังไม่ควรรับรู้เรื่องราวดำมืดเช่นนี้

        ปรางแสดงท่าทีคัดค้านเล็กน้อยเหมือนไม่ไว้ใจอรอนงค์ แต่เมื่อขบคิดแล้วก็พบว่าตอนนี้อยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีผู้คนพลุกพล่าน ต่อให้อรอนงค์คิดร้ายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ปรางจึงยอมถอยให้แต่ก็ยังอดไม่ได้ต้องหันไปเตือนกานต์ด้วยความเป็นห่วง

        "โอเค ชั้นจะไปรอที่โรงอาหาร แต่ถ้าแกไม่ไปภายในยี่สิบนาที ชั้นจะรีบตามตัวแกทันที พวกเราไปกันเถอะ"

        สาวร่างท้วมหันไปเขม้นตามองข่มขู่อนงค์ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กานต์แล้วเดินไปทางโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ทิ้งให้กานต์ยืนอยู่กับอรอนงค์เพียงสองต่อสอง

        ไม่ง่ายนักที่นักศึกษาสาวสวยอันดับแรก ๆ ของมหาวิทยาลัยทั้งสองคนจะเดินด้วยกัน หนุ่มนักศึกษาและครูบาอาจารย์จึงพากันมองดูสองสาวกันตาเป็นมัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขากำลังมองด้วยความรู้สึกหื่นกระหาย และนั่นก็เป็นปกติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชาย

        "คุยกันที่นี่แหละ เงียบดี ไม่มีใครกวน"

        อนงค์เดินนำกานต์ไปหยุดในซอกหลืบแห่งหนึ่ง กานต์ขมวดคิ้วรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพราะสถานที่แห่งนี้คือซอกประตูด้านหลังของห้องประชุมใหญ่ มันคือสถานที่ซึ่งวันก่อนนี้เธอโดนบอลปลุกปล้ำ จากนั้นก็เกือบทำให้ต้องโดนยามหน้าเหี้ยมข่มขืนซ้ำอีกครั้ง กระนั้นสถานที่ตรงนี้ก็นับว่าเงียบและไม่มีใครกวนจริง ๆ อย่างที่อนงค์กล่าวอ้าง

        "เธอต้องการอะไร อนงค์"

        "ชั้นก็บอกแล้วไง ว่าชั้นต้องการเจรจาสงบศึก"

        "แต่เท่าที่ชั้นจำได้ ชั้นไม่เคยไปหาเรื่องอะไรเธอก่อนเลยนะ เธอเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายมาหาเรื่องชั้นเอง"

        กานต์ขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว ในขณะที่อนงค์นั้นกลับยิ้มแย้มและส่งเสียงหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี เธอขยับไปยืนพิงหลังกับกำแพงแล้วหันมาพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายเยาะเย้ยกับกานต์

        "อือ นั่นซินะ งั้นเอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้ชั้นจะไม่ไปหาเรื่องเธออีกก็แล้วกัน แบบนี้โอเคหรือเปล่ากานต์ ยังไงเสียเธอก็เคยโดนสามีของชั้นข่มขืนไปแล้ว แถมยังต้องเป็นนางบำเรอโดนผู้ชายข่มขืนอีกตั้งหลายคน แต่ยังไงชั้นก็ยินดียกตำแหน่งนางบำเรอให้เธอนะกานต์ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน"

        กานต์บอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกอย่างไร เธอย่อมยินดีหากอนงค์จะเลิกหาเรื่องกับเธอ หากทว่าคำพูดคล้ายเยาะเย้ยที่ตามมานั้นทำให้กานต์รู้สึกเหมือนกับโดนเหยียดหยาม ประเด็นสำคัญก็คือกานต์ทราบว่าสิ่งที่อนงค์เข้าใจนั้นผิดพลาดไม่ใช่ความจริง อรอนงค์นั้นโดนชายปริศนาคนนั้นปั่นหัวจนเข้าใจเรื่องราวผิดเพี้ยนไปไกลลิบลับ

        ท่าทีนิ่งอึ้งของกานต์ทำให้อรอนงค์ยิ่งรู้สึกยินดี ก่อนหน้านี้เธอได้ยินจากชายปริศนาว่ากานต์โดนเขาข่มขืน แต่เขาไม่ชื่นชอบจึงโยนกานต์ให้พวกลูกน้องนับสิบคนรุมข่มขืนต่อ แม้ก่อนหน้าอนงค์จะเชื่อคำพูดนี้แต่ก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย จวบจนกระทั่งตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นสีหน้าขมวดมุ่นแก้ตัวไม่ออกของกานต์ อนงค์จึงยิ่งรู้สึกเบิกบานยินดี เธอแน่ใจแล้วว่ากานต์จะต้องโดนเหยียดย่ำมา

        กานต์นิ่งเงียบเพราะกำลังสับสนในตัวเอง เธออยากจะทักท้วงว่าอนงค์เข้าใจผิดไป ความจริงก็คือค่ำคืนนั้นเธอเพียงแค่เสียตัวให้ชายปริศนาคนเดียวเท่านั้น อีกทั้งเขายังติดอกติดใจส่งอรอนงค์กลับแล้วมาขึ้นเตียงกับกานต์ต่ออีกหลายครั้ง หากทว่าเมื่อนึกไปถึงคำพูดของชายปริศนา กานต์ก็อ้ำอึ้งรู้สึกว่าปล่อยให้อรอนงค์เข้าใจผิดต่อไปอาจจะเป็นการดีกว่า

        "โอ้ กานต์ กานต์ กานต์ ... ใครจะคิดว่าดาวมหาวิทยาลัยคนสวยจะโดนพวกชั้นต่ำจับไปรุมโทรมข่มขืนกันอย่างเมามัน คิก คิก แถมยังน่าเศร้านะ เปลือกนอกเธอดูดี แต่กลับทำให้เขาติดใจเธอไม่ได้ เธอไม่ต้องเสียใจหรอกนะที่เค้าเลือกชั้นมากกว่าน่ะ"

        อนงค์หัวเราะคิกคักส่งเสียงพึมพำเหยียดหยามราวกับแม่มด น้ำเสียงนั้นไม่เข้ากันกับหน้าตาน่ารักสะสวยแม้แต่น้อย และยิ่งไม่เข้ากันกับรอยยิ้มมีความสุขที่ชวนให้ผู้ชายหลงใหล

        "เธอต้องการพูดอะไรอนงค์ ถ้ามีแค่นี้ชั้นจะไปแล้ว"

        กานต์ส่งเสียงด้วยอารมณ์หงุดหงิด แม้จะอยากแก้ตัวมากแค่ไหน แต่กานต์ยังเชื่อในคำพูดของชายปริศนาอยู่บ้างเธอจึงไม่พูดแก้ตัว นอกจากนี้ต่อให้เธอพูดแก้ตัว กานต์ก็แน่ใจว่าอนงค์คงไม่เชื่อเธออยู่ดี

        "โอ๋ ๆ ไม่ต้องโกรธหรอกนะกานต์ เรามาดีกันดีกว่า ชั้นก็แค่อยากจะบอกว่าเรื่องทีเกิดขึ้นชั้นรับรองว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง และชั้นก็หวังว่าเธอจะทำแบบเดียวกัน แล้วเธอก็อย่าได้สิ้นคิดไปแจ้งความกับตำรวจเชียวนะ นอกจากจะต้องเสียชื่อแล้ว เธอยังไม่มีหลักฐานจะฟ้องเอาผิดใครด้วย สามีของชั้นน่ะรวยแล้วก็เส้นใหญ่น่าดูเชียวล่ะ"

        อนงค์ยิ้มเยาะคล้ายยิ่งพอใจเมื่อเห็นท่าทีขุ่นเคืองของกานต์ จากน้ำเสียงที่สื่อออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าอนงค์เรียกชายปริศนาเป็นสามีอย่างเต็มปากเต็มคำ แม้แต่ตัวเธอเองก็อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าสามีของเธอคนนี้มีคุณค่าทางใจกับเธอมากกว่าแค่เรื่องเงินทองและผลประโยชน์อย่างที่เธอคิดเข้าใจ

        "อือ ชั้นไม่ฟ้องตำรวจหรอก เธอมีเรื่องแค่นี้ใช่หรือเปล่า"

        "เดี๋ยวซิ จะรีบไปไหน ชั้นอยากจะขอโทษด้วยที่เข้าใจเธอผิดไป เมื่อเช้าชั้นโทรคุยกับไอ้บอลแล้ว มันสารภาพแล้วว่าเรื่องที่มันเคยมีอะไรกับเธอน่ะ มันกุเรื่องขึ้นมาทั้งนั้น คิก คิก แต่ไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไงนะกานต์ ถ้าเธอเสียตัวให้ไอ้บอล ยังไงก็น่าจะดีกว่าโดนพวกยามกรรมกรรุมโทรมแบบนั้น ถ้าเธอเกิดท้องป่องขึ้นมาล่ะก็คงไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็กแน่ ๆ ยังไงเธอก็น่าจะไปอ่อยผู้ชายดี ๆ สักคนแล้วยัดเยียดให้เป็นพ่อของเด็กก็ได้นะกานต์"

        เสียงเยาะเย้ยเหยียดหยามของอนงค์ทำให้กานต์ต้องสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ กานต์แอบแปลกใจอยู่บ้างที่บอลยอมเสียหน้าบอกว่าเป็นเรื่องโกหก เธอแอบรู้สึกดี ๆ กับบอลขึ้นมาอีกหน่อย แต่เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าความคิดของอรอนงค์ผู้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นจะดำมืดได้ขนาดนี้ เธอจึงอยากจะถอยหนีให้ห่างจากอนงค์

        "... เธอพูดจบแล้วใช่หรือเปล่า"

        "ยังจ้ะ ยังมีอีกหน่อย"

        อรอนงค์พูดจาแย้มยิ้มส่งสายตาวิบวับพลางเดินเข้าไปหากานต์ แม้อีกฝ่ายจะเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มแต่กานต์กลับรู้สึกไม่ไว้วางใจ เธอขยับถอยหนีหากแต่ถอยได้แค่สองก้าวก็ชนเข้ากับผนังกำแพงจนถอยไม่ได้อีก จังหวะนั้นอรอนงค์ก็ขยับเข้ามาใกล้ในระยะประชิดจนกานต์แตกตื่น

        กานต์ยังไม่ทันได้ตั้งตัว อนงค์ก็ยื่นมือไปจับสาบเสื้อของกานต์แล้วกระชากอย่างแรงจนหลุดลุ่ย กานต์สะดุ้งโหยงรีบยกมือขึ้นปิดป้องร่างกาย แต่อนงค์กลับคว้าจับสองมือของกานต์เอาไว้อย่างแน่นหนา สองฝ่ายนับว่ามีเรี่ยวแรงใกล้เคียงกัน แต่กานต์นั้นไม่ทันตั้งตัวและอยู่ในอารมณ์ตื่นตกใจ อนงค์จึงถือความได้เปรียบกว่า เพียงแค่พริบตาเดียวยกทรงสีขาวที่รัดรั้งทรวงอกอวบอิ่มของกานต์ก็โดนกระชากหลุดออกมาอีกชิ้นจนสองเต้าเด้งทะลัก

        "อย่า อนงค์ เธอเป็นบ้าอะไรของเธอน่ะ อย่านะ"

        กานต์พยายามออกแรงดิ้นพล่านและส่งเสียงร้องห้าม หากแต่ไม่กล้าส่งเสียงร้องดังเกินไปจนทำให้มีคนเดินเข้ามามอง เธอไม่เข้าใจว่าอนงค์กำลังคิดอะไรอยู่ หากว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่ทำด้วยความหื่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ว่าอนงค์เป็นผู้หญิงเหมือนกัน หากจะบอกว่าอนงค์มีอารมณ์หื่นกับเธอ กานต์ก็คงไม่เชื่อ

        "... อื้ม ... คิก คิก รอยแดงเต็มเลยนะ ท่าทางจะผ่านศึกมาหนักเชียว เมื่อวานเธอไม่มาเรียนนี่นะกานต์ โดนรุมไปกี่คนล่ะ รอยแดงเต็มไปหมดเลย คิก คิก น่าอิจฉาจริง ๆ นะมีผัวตั้งหลายคนแบบนี้น่ะ"

        อนงค์ปลุกปล้ำจับมือของกานต์อยู่ครู่ใหญ่ หากแต่ไม่ได้มีท่าทีจะล่วงล้ำลวนลามร่างกายแต่อย่างใด สายตาของอนงค์เพียงแค่ทอประกายวิบวับขณะมองดูริ้วรอยจ้ำแดงจำนวนนับไม่ถ้วนบนทรวงอกขาวโพลน ยิ่งได้เห็นรอยฟันอ่อนจางฝังอยู่บริเวณปลายถัน อนงค์ก็ยิ่งยิ้มยินดีจนออกนอกหน้า

        เมื่อได้เห็นสิ่งที่ต้องการแล้ว อนงค์ก็ถอยออกมายิ้มเหยียดหยาม เธอส่งเสียงหัวเราะคิกคักรอบหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะราวกับแม่มดร้ายในนิทาน ตอนนี้อนงค์แน่ใจอย่างยิ่งว่ากานต์เพิ่งจะผ่านศึกหนักมา เพียงแค่หลักฐานบนร่างกายนั้นก็มากเพียงพอแล้ว อนงค์ก็แค่อยากให้แน่ใจว่ากานต์เพิ่งจะโดนรุมโทรมมาจริง ๆ และคนอย่างอนงค์ย่อมไม่เชื่อใครง่าย ๆ เธอแค่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นเท่านั้น

        กานต์ส่งเสียงบ่นอุบขณะรีบร้อนสวมใส่ยกทรงด้วยความลนลาน เธอรีบจับชายเสื้อนักศึกษารวบเข้าเพื่อปิดป้องร่างกาย และเมื่อพบว่ากระดุมเสื้อนั้นขาดเสียหายไปส่วนหนึ่งก็ยิ่งหนักใจ โชคยังดีที่กานต์มีเข็มกลัดติดกระเป๋าอยู่บ้าง เธอจึงหยิบเอาเข็มกลัดมาใช้แทนกระดุมเสื้อเสียก่อน ส่วนกระดุมเสื้อนั้นพอจะแกล้งเอามาติดหลอก ๆ เอาไว้ก่อนได้อยู่บ้าง

        "บ้าจริง ๆ เลย"

        กานต์โล่งใจอยู่บ้างที่พอจะแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ เธอหันมองไปยังทิศทางที่อนงค์เพิ่งจากไปด้วยความขุ่นเคือง ถึงตอนนี้กานต์เริ่มสับสนในตัวเองว่าควรปล่อยให้อนงค์เข้าใจผิดเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ เธอย่อมคาดเดาได้ถึงเหตุผลที่อนงค์ฉีกเสื้อผ้าของเธอออก กานต์ทราบว่าอนงค์ต้องการมองดูหลักฐาน

        ริ้วรอยจ้ำแดงและรอยฟันบนเนินอกขาวโพลนนั้นกลายเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้อนงค์ยิ่งปักใจเชื่อ หากทว่าความจริงแล้วริ้วรอยเหล่านี้ล้วนแต่เกิดจากการร่วมรักกับอาร์ตเมื่อวาน แน่นอนว่าบางรอยนั้นอาจจะเป็นฝีมือของบอลด้วยเหมือนกัน

        กานต์ยืนสูดลมหายใจพยายามปรับสติครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อยก้าวเท้าเดินออกจากสถานที่ไม่น่าพิศมัยนี้ด้วยอารมณ์ว้าวุ่น แม้ว่าภายในใจจะวุ่นวายปั่นป่วนสับสน แต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์อันยุ่งเหยิงเหล่านั้นไว้ภายใน เธอเดินกลับไปเข้าไปที่โรงอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย และเมื่อเพื่อน ๆ รุมถามว่าเธอไปคุยกับอรอนงค์มา กานต์ก็ตอบไปว่าอีกฝ่ายมาขอเจรจาสงบศึก ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านี้

         

        .................................................

       

        ดาริกา ถอนหายใจด้วยความผิดหวังหลังจากอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือ เธอเพิ่งอดทนตั้งใจนั่งเรียนในห้องอันแสนน่าเบื่ออยู่ครึ่งค่อนวัน กระทั่งเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนตอนบ่ายสาม สาวน้อยผมสั้นแสนสวยก็แอบคาดหวังว่าจะไปหาแฟนหนุ่มสุดที่รักอย่างที่หัวใจเรียกร้อง หากแต่ข้อความที่เขาตอบกลับมานั้นกลับบ่งบอกว่าวันนี้ไม่สามารถปลีกตัวมาหาได้เพราะติดงาน

        แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของดาริกาจะค่อนข้างแข็งกร้าว หากแต่ภายในนั้นเธอกลับอ่อนไหวไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนี้เธอเป็นสาวน้อยที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งรัก ช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดก็คือช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มคนรัก นอกจากนั้นแล้วล้วนแต่จืดชืดเหงาหงอยน่าเบื่อ หากชายหนุ่มเอ่ยปากเพียงคำเดียวดาริกาก็พร้อมที่จะโดดเรียนไปอยู่กับเขา หากเขาต้องการเธอก็ยังพร้อมที่จะแอบย่องออกจากห้องพักกลางดึกเพื่อไปหาเขาก็ยังได้ นั่นคือเรื่องปกติของผู้หญิงที่กำลังมีความรัก

        น่าเสียดายที่ชายหนุ่มคล้ายเจตนาเว้นระยะห่างเอาไว้ช่วงหนึ่ง ความรักอันร้อนระอุของดาริกาจึงบังเกิดช่องว่างที่ไม่ได้รับการเติมเต็ม ช่องว่างที่ว่านั้นย่อมเป็นเรื่องของจิตใจ ดาริกานั้นโหยหาไออุ่นและความรักที่ขาดหายไปหลายปี ส่วนช่องว่างอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คือรสวาบหวามแห่งกามราคะที่ร่างกายวัยสาวเรียกร้องหา เพียงแต่ดาริกายังไม่ตระหนักถึงจุดนี้

        "อ้าว ... เบลล์"

        ดาริกาหยุดชะงักแล้วส่งเสียงทักทายเมื่อพบเจอกับคนคุ้นเคย สาวร่างบางวัยเดียวกันที่ยืนอยู่เบื้องหน้าดาริกานั้นคือเบลล์ เบลล์เคยเป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อน พวกเธอสองคนเคยมีความสัมพันธ์ในรูปแบบที่เรียกว่ารักร่วมเพศ ดาริกาอาจจะไม่ได้ฝักใฝ่ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้นัก หากทว่าเมื่อเบลล์จริงจังดาริกาก็ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านอะไรมากมาย สุดท้ายทั้งคู่จึงเคยมีสัมพันธ์วาบหวามกันสองสามครั้ง

        "สวัสดีจ้ะ ดา ... พอดีเราเห็นดาเดินมาทางนี้ เราก็เลยรอเจอ เราอยากขอโทษ"

        เบลล์ฝืนยิ้มและกล่าวขอโทษต่อดาริกา เบลล์ย่อมหมายถึงเหตุการณ์ที่เธอชวนดาริกาไปร้านนวดของพี่ชาย วันนั้นเบลล์แอบสั่งให้หมอนวดใส่ยาปลุกอารมณ์ให้ดาริกา เบลล์มีเจตนาที่จะกระชับความสัมพันธ์กับดาริกาให้แน่นแฟ้นขึ้น หากแต่ผลลัพธ์กลับพลิกตลบจนเบลล์งุนงงไม่เข้าใจ

        สิ่งที่เบลล์รับรู้เรื่องราวในวันนั้นก็คือ สติของเธอหดหาย ส่วนดาริกานั้นกินยาปลุกมากเกินไป จนพี่สิงห์และคนในร้านต้องพาไปหาหมอ หลังจากนั้นเบลล์ก็โดนแม่สั่งกักบริเวณ กระทั่งเมื่อครบกำหนดเบลล์ก็ออกมาและได้เห็นดาริกาขี่หลังอาร์ต เบลล์จึงไปหาเรื่องกับอาร์ตจนเรื่องราวพลิกตาลปัตรอีกรอบ เบลล์ต้องเสียสาวให้อาร์ตโดยไม่ทันตั้งตัว และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เบลล์อยากขอโทษต่อดาริกา เพียงแต่ไม่กล้าพูดออกมา

        "อือ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะ เราไม่อยากพูดถึง"

        ดาริกาฝืนยิ้มกล่าวราวกับไม่มีอะไร หากทว่าเรื่องราวในวันนั้นเธอย่อมไม่มีทางลืม เพราะมันคือวันที่เธอต้องเสียสาวให้พี่สิงห์โดยไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ดาริกาจึงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก

        "ขอบใจนะดาที่ยกโทษให้เรา"

        เบลล์เห็นท่าทีของดาริกาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย หากทว่าเธอยังคงมีเรื่องราวรบกวนจิตใจจนยิ้มได้ไม่เต็มปาก เธอเริ่มรู้สึกผิดที่ตัดสินใจทำเรื่องบ้าบออย่างการไปมีอะไรกับพี่นัทเมื่อเช้าก่อนไปโรงเรียน เธอรู้สึกโล่งเรื่องความเสี่ยงที่จะตั้งท้องในอนาคตก็จริง หากทว่าหนุ่มรุ่นพี่กลับทำให้เบลล์รู้สึกเคร่งเครียดในด้านอื่น ๆ อีกมากมายไม่แพ้กัน

        เบลล์ไม่อยากจะเชื่อว่าระหว่างนัทและอาร์ตนั้นมีความแตกต่างราวนรกกับสวรรค์ เธออาจจะไม่ได้รังเกียจนัท แต่เธอก็ไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเลยเมื่อโดนเขาเล้าโลม เธอถึงกับหงุดหงิดรำคาญด้วยซ้ำ และนั่นผิดกับอาร์ตที่สามารถทำให้เธอคลุ้มคลั่งอารมณ์ล้นปรี่ได้ตลอดเวลา

        นาทีนี้เบลล์รู้สึกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เธออาจจะยอมเสี่ยงเรื่องตั้งครรภ์แล้วให้อาร์ตเป็นพ่อของเด็กด้วยซ้ำ ต่อให้เขาเป็นยามแล้วจะเป็นอะไร อย่างน้อยเขาก็ทำให้เธอมีความสุขได้ ไม่ใช่ทำให้รู้สึกค้างคาหงุดหงิดอย่างเช่นพี่นัทของเธอ

        "ไม่เป็นอะไรหรอกเบลล์"

        ดาริกาตอบพลางมองดูแววตาซึมเศร้าเคร่งเครียดของเบลล์ด้วยความฉงนสงสัย เธอไม่ทราบว่าเบลล์มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ หากแต่เมื่อทั้งสองฝ่ายมองสบตากัน ภาพในอดีตก็เหมือนจะย้อนกลับมาเตือนให้ระลึกถึง ทั้งเบลล์และดาริกาต่างนึกย้อนกลับไปในช่วงที่ทั้งสองกอดก่ายมอบความสุขให้แก่กัน และเมื่อนึกถึงภาพนั้นใบหน้าของทั้งคู่ก็เริ่มปรากฏริ้วรอยแดงซ่านออกมาให้เห็น

        สองสาวน้อยต่างมองหน้ากันและกันด้วยอารมณ์แปลกประหลาด ความจริงแล้วพวกเธอต่างก็กำลังเหงาและต้องการความรักมาปลอบประโลมทั้งทางร่างกายและจิตใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อหวนนึกไปถึงรสชาติแห่งความสุขที่เคยมีให้กัน พวกเธอก็เริ่มบังเกิดความคิดไปในแนวทางเดียวกันโดยไม่รู้ตัว

        "... เอ่อ ... ว่าแต่ทำไมวันนี้ดาเดินมาทางนี้ล่ะ ไม่กลับบ้านเหรอ หรือจะไปหาเพื่อน"

        เบลล์รู้สึกใจเต้นแรง เธอมีอาการตอบสนองรุนแรงกว่าดาริกานหนึ่งขั้น นั่นเพราะว่าเธอกำลังอัดอั้นมาจากพี่นัท แต่เมื่อเธอเดินไปถึงอาคารกลางเก่ากลางใหม่แห่งหนึ่ง เบลล์ก็ชะงักเท้าและหันไปถามดาริกา นั่นเพราะว่าเบลล์ถึงที่หมายแล้ว มันคืออาคารหอพักของบอล สถานที่ซึ่งเธอเคยร่วมรักกับอาร์ตนั่นเอง

        "อือ เรา ... เราว่าจะมาหาเพื่อนน่ะ"

        ดาริกาคล้ายเพิ่งรู้สึกตัว เธอมองซ้ายมองขวารอบหนึ่ง และเมื่อพบว่าเธอมาถึงที่หมายแล้ว เธอจึงค่อยหยุดชะงักพูดตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ดาริกาก็มีที่หมายเช่นเดียวกันกับเบลล์ ซึ่งก็คือหอพักของบอลสถานที่ซึ่งเธอเคยร่วมรักกับอาร์ต

        สองสาวต่างมองหน้ากันด้วยความกระอักกระอ่วนเล็ก ๆ เมื่อพบว่าต่างฝ่ายต่างต้องการมาที่แห่งเดียวกัน ดาริกานั้นยังไม่รู้ว่าเบลล์เคยมีอะไรกับอาร์ต เธอจึงนึกเชื่อมโยงไม่ออก ดาริกาเพียงคิดว่าพวกเธอสองคนบังเอิญมาหาเพื่อนที่เดียวกัน

        เบลล์นั้นคิดแตกต่างออกไป เธอทราบว่าดาริกามีสัมพันธ์รักกับอาร์ต ดังนั้นเมื่อทราบว่าดาริกามาที่นี่เบลล์จึงแน่ใจว่าอีกฝ่ายเจตนามาหาอาร์ต และนั่นทำให้เบลล์ยิ่งแน่ใจว่าวันนี้อาร์ตอาจจะมานอนพักที่ห้องของบอลอีกครั้ง ความคิดนี้ทำให้เบลล์รู้สึกน้อยใจขึ้นมา เธอรู้สึกว่าอาร์ตไม่ยอมรับนัดหมายพอเจอกับเธอ หากแต่เลือกที่จะมาพบเจอกับดาริกาแทน

        ดาริกาย่อมไม่ทราบว่าเบลล์คิดอย่างไร เธอเองก็ไม่ได้มีนัดหมายกับอาร์ตในวันนี้ แต่เธอแอบถามบอลทางระบบสนทนา และบอลก็บอกเธอว่าบางครั้งอาร์ตก็มักจะไปนอนที่ห้องโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้ดาริกาจึงทดลองเสี่ยงมาหาอาร์ตถึงที่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าบอลนั้นแค่แกล้งโกหกหาโอกาสให้ดาริกาไปรอที่ห้องเผื่อว่าจะมีโอกาสดีงามให้ฉกฉวยอีก

        "อ้าว น้องดา กับน้องเบลล์ มากันเร็วเชียวนะ ขึ้นไปบนห้องกันดีกว่า"

        ในช่วงจังหวะอันกระอักกระอ่วนนั้น บอลหนุ่มนักศึกษาร่างกำยำก็เดินมาส่งเสียงทักทายด้วยน้ำเสียงยินดี ดวงตาของเขาแอบมองสำรวจเรือนร่างและความสวยน่ารักของสองสาวด้วยอารมณ์กลัดมันกระหาย

        บอลไม่ได้คุยกับเบลล์ก่อนหน้า แต่ได้สนทนากับดาริกาเรื่องอาร์ต บอลจึงเดาว่าดาริกาอาจจะเสี่ยงมารอเจออาร์ต เขาไม่ได้นึกว่าเบลล์จะมาด้วยกัน ดังนั้นเมื่อเห็นสองสาวมารอด้วยกัน บอลจึงเข้าใจว่าดาริกาชวนเบลล์มาด้วยกัน เขาเข้าใจว่าสองสาวต่างก็รู้ความจริงเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายต่างก็เป็นเมียของอาร์ตแล้ว

        สองสาวหันไปมองดูบอลแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองหน้ากันด้วยความงุนงง ดาริกางุนงงที่บอลทำท่าเหมือนสนิทสนมกับเบลล์ อีกทั้งยังพูดเชิญชวนขึ้นห้องอย่างเป็นธรรมชาติไม่อายปาก ดาริกาจึงเจ้าใจว่าเบลล์กับบอลมีสัมพันธ์สวาทกัน

        ส่วนเบลล์นั้นกลับคิดไปอย่าง ตอนแรกเธอเข้าใจว่าดาริกามีนัดกับอาร์ตที่นี่ แต่ฟังจากประโยคที่บอลพูดนั้นเหมือนกับว่าดาริกามีนัดกับบอล เบลล์จึงเข้าใจว่าดาริกาแอบมีอะไรกับบอลด้วยอีกคน ซึ่งความจริงก็คือทั้งคู่ต่างก็เคยมีสัมพันธ์สวาทกับบอลมาแล้ว แม้จะไม่ได้เต็มใจก็ตาม

        "อ้าว ยืนงงอะไรกัน ขึ้นไปกันได้แล้ว อยู่ตรงนี้ร้อนแดด ถ้าพี่อาร์ตจะมาก็ค่ำ ๆ โน่นแหละ"

        บอลเห็นสองสาวมองหน้ากันไปมาก็บังเกิดความสงสัย แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมากเพราะกำลังร้อนจนเหงื่อชุ่มหลัง บอลไม่พูดอะไรอีก เขาเดินนำไปทางลิฟต์โดยสาร เพราะแน่ใจว่าสองสาวต้องตามมาเพื่อรอพบเจอกับอาร์ต

        สองสาวเห็นท่าทีของบอลก็ยิ่งแน่ใจในการคาดเดาของตัวเอง เบลล์เชื่อว่าดาริกากับบอลต้องมีสัมพันธ์กัน ส่วนดาริกาก็เชื่อว่าเบลล์กับบอลคบหากัน เมื่อคิดเช่นนี้ต่างฝ่ายต่างก็เริ่มลังเลที่จะตามขึ้นไปเป็นก้างขวางคออีกฝ่าย แต่พวกเธอก็ยังอยากเจอกับอาร์ต

        นอกจากนี้เมื่อลองขบคิดให้ดีแล้ว หากต้องไปอยู่กับบอลสองต่อสองพวกเธอก็คงไม่กล้าเสี่ยง ดังนั้นการที่มีอีกคนอยู่ด้วยอาจจะดีกว่าก็ได้ สุดท้ายพวกเธอจึงตัดสินใจเดินตามบอลต้อย ๆ เข้าไปในลิฟต์

        "ทำตัวตามสบายเลยนะ นึกเสียว่าเป็นห้องตัวเอง"

        บอลบอกสองสาวโดยที่สายตายังคงเต็มไปด้วยความกลัดมัน เขาแอบมองสองสาวสลับไปมา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมองดาริกามากกว่าเพราะเธอสวยกว่าและมีรูปร่างทรวดทรงที่เร้าใจกว่า ตอนนี้บอลแอบรู้สึกขัดใจเล็กน้อยที่พวกเธอมากันสองคน หากพวกเธอมาเพียงคนเดียว เขาอาจจะสามารถเปิดเกมรุกได้แน่ใจกว่านี้ และเรื่องสำคัญก็คือพวกเธอไม่ได้มารอเขา หากแต่รออาร์ต ตอนนี้บอลจึงยังไม่กล้าลงมือทำอะไร

        สองสาวนั่งเงียบมองดูบอลถอดเสื้อนักศึกษาอวดกล้ามเป็นมัดเดินเข้าห้องน้ำ จากนั้นทั้งคู่จึงค่อยหันมามองสบตากันด้วยความกระอักกระอ่วน พวกเธอต่างเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองมาเป็นก้างขวางคออีกฝ่าย ต่างฝ่ายจึงเกิดความรู้สึกเกรงใจกระอักกระอ่วนจนพูดอะไรไม่ออก

        ทั้งสองนั่งรอในความเงียบครู่หนึ่ง จากนั้นบอลก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้ผืนเดียว เจ้าดุ้นเนื้อที่แข็งเป็นลำจึงดันผ้าขนหนูโด่เด่ขึ้นมาท้าทายสายตาสองสาว เรื่องนี้ย่อมเป็นความเจตนาของบอล เขาอาจจะไม่กล้าเปิดฉากรุกเต็มรูปแบบกับดาริกา เพราะว่าเธอเป็นเด็กของอาร์ต แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่กล้าอวดของดีที่พ่อแม่ให้มาเพื่อจุดประกายไฟราคะให้พวกเธอ

        สองสาวอาจจะไม่ได้คิดรักหรือพิศวาสอะไรในตัวบอลนัก หากทว่าพวกเธอทั้งสองต่างก็เคยลิ้มลองรสชาติของขนาดที่ไม่ธรรมดานี้กันจนเสร็จสมมาแล้ว เมื่อสายตาเหลือบไปเห็น ภาพในอดีตจึงปรากฏวาบขึ้นมาจนเกิดอาการใจสั่นหวิว แม้จะพยายามเบือนหน้ามองไปทางอื่น แต่ภาพที่เห็นไปแล้วนั้นยังคงติดตาอยู่ไม่คลายหายไปไหน

        เบลล์และดาริกาต่างก็เกิดอาการกระอักกระอ่วนจนหน้าแดงซ่าน ส่วนบอลนั้นเมื่อเห็นอาการของสองสาวก็ยิ่งรู้สึกคึกคักจนดุ้นเอ็นผงกหงึก ๆ ในผ้าขนหนู ยิ่งเขามองดูสองสาวก็ยิ่งหื่นกระหายอิจฉาอาร์ตแทบคลั่ง โดยเฉพาะเมื่อเขาเหลือบตามองไปที่ทรวงอกอวบอูมเกินวัยของดาริกา อารมณ์หื่นก็ยิ่งพุ่งพรวด ๆ จนเกือบสติหลุดได้ในทุกวินาที

        "เอ่อ ... ดา ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ"

        ดาริกาเห็นสายตาหื่นกลัดมันของบอลแล้วก็บังเกิดอาการแตกตื่นขึ้นมา เธอไม่ได้นึกรังเกียจบอลจึงไม่ได้ต่อต้าน เธอรู้สึกสำนึกบุญคุณของบอลเสียด้วยซ้ำที่เขาช่วยไม่ให้โดนรุมโทรมข่มขืนในสวนสาธารณะ อีกทั้งเธอทราบดีว่าเขาเคยสอดใส่เข้าไปมาในร่างกายของเธอแล้วตอนที่เธอโดนฤทธิ์ยาปลุกสวาท

        ความคิดโดยรวมของดาริกาก็คือเธอไม่แน่ใจนักว่าตนเองจะสามารถขัดขืนเขาได้หรือไม่หากเขาลงมือปลุกปล้ำ แต่เธอยังยึดมั่นกับอาร์ตจึงไม่อยากเสี่ยงทำเรื่องผิดจารีตไม่ดีงาม

        เมื่อพูดจบดาริกาก็รีบลุกหนีเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูใส่กลอนด้วยความลนลาน เธอเข้าใจว่าบอลและเบลล์คบหากัน เธอจึงมีเจตนาที่จะเปิดทางให้ทั้งคู่มีอะไรกันตามสะดวก ส่วนเบลล์ที่นั่งอยู่ด้านนอกนั้นกลับขบคิดอีกอย่าง เธอเข้าใจว่าดาริกาเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดเพื่อเตรียมทำเรื่องอย่างว่า เบลล์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นก้างขวางคอของบอลและดาริกา เบลล์จึงลุกขึ้นพูดเตรียมไปรอนอกห้อง

        "งั้น เดี๋ยวเบลล์ไปรอข้างนอกนะ บอลกับดาจะทำอะไรกันก็ตามสบายเลย"

         บอลเห็นท่าทีของดาริกาที่วิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำก็คาดเดาอีกอย่างหนึ่ง เขาเดาว่าดาริกาเปิดทางให้เขากับเบลล์ แม้บอลจะหลงดาริกามากกว่า แต่จะอย่างไรดาริกาก็ยังเป็นเด็กของลูกพี่ บอลจึงยังมีความเกรงใจอยู่บ้าง แต่สำหรับเบลล์นั้นแตกต่างกัน บอลทราบว่าอาร์ตวางดาริกาในตำแหน่งที่สูงกว่าเบลล์ เขาจึงกล้าที่จะรุกใส่เบลล์มากกว่ารุกใส่ดาริกา

        "เบลล์จะรีบไปไหนล่ะ บอลคิดถึงจะแย่เลยรู้หรือเปล่า"

        บอลรีบถือวิสาสะยื่นมือไปคว้าจับแขนของคุณหนูร่างบางแล้วดึงมาสวมกอด เขาพูดชมที่ข้างใบหูของเบลล์จนเธอสั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่าเบลล์ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนอะไรมากมายนัก ร่างบอบบางเพียงแค่ดิ้นเบา ๆ อยู่ในอ้อมกอดของร่างกำยำ

        "อย่า ... บอลจะทำอะไร ... เดี๋ยวดาเห็นนะ ..."

        เสียงห้ามของเบลล์สั่นสะท้านพร่าเลือนไม่เต็มเสียง อาจเพราะว่าเธอเองก็กำลังมีอารมณ์อัดอั้นค้างคามาจากเกมรักในตอนเช้ากับนัท ตอนนี้เมื่อโดนร่างกำยำที่เคยมอบความสุขเสียวให้เธอโอบกอด ร่างกายของเธอก็ร้อนผ่าวบังเกิดอาการตอบสนองอย่างรุนแรง

        "ผมรักเบลล์นะ เรามาเป็นแฟนกันได้หรือเปล่า"

        บอลสวมกอดร่างบางเบา ๆ พร้อมกับลูบมือไปตามผิวขาวปลั่ง เขาไม่ลืมที่จะทำตามคำแนะนำของอาร์ต อาร์ตเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าอยากจีบเบลล์ก็ไม่ยาก ตอนนี้บอลอยู่ในสถานะที่เบลล์ปฏิเสธไม่ลงอยู่แล้ว ขอแค่ให้บอลบอกรักและขอเป็นแฟนจริงจังก็น่าจะเพียงพอ

        ร่างของเบลล์สั่นสะท้านลืมตาโตเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอเงยหน้ามองสบตากับบอลด้วยอารมณ์ยินดีแปลก ๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะไม่ค่อยชอบหน้าบอลนัก แต่เมื่อเขาแสดงท่าทีจริงจังเอ่ยปากขอเป็นแฟน เบลล์กลับเริ่มรู้สึกดีกับเขาขึ้นมามากโข

        เบลล์เหม่อมองดูใบหน้าที่ขยับใกล้เข้ามา เธอหลับตาพริ้มเมื่อบอลประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม อารมณ์ของเบลล์คล้ายถังน้ำมันที่โดนเพลิงไฟเผาผลาญ เธอผวากอดร่างของบอลสุดแรง สองมือบอบบางลูบไล้ไปบนแผ่นหลังกำยำราวกับอดอยากโหยหาห้วงอารมณ์เช่นนี้มานานแสนนาน

        เพียงแค่จูบเดียวสาวร่างบางก็อารมณ์เตลิดเปิดเปิงจนแทบยืนทรงตัวไว้ไม่อยู่ จูบของบอลนั้นยังคงดุเดือดร้อนแรงเช่นเดิม เบลล์เคยรู้สึกว่ารุนแรงเกินไป แต่ตอนนี้ความดุเดือดกลับช่วยกระตุ้นอารมณ์ที่กำลังอัดอั้นของเธอได้เป็นอย่างดี เบลล์จูบตอบแลกลิ้นกับบอลอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน

        บอลกระหน่ำจูบด้วยอารมณ์หื่นกระหาย ในขณะเดียวกันนั้นมือสองข้างก็เริ่มทำการปลดเปลื้องชุดเครื่องแบบของเบลล์จนหลุดลุ่ย ชายหนุ่มบีบขยำใส่ก้อนเนื้อกลมดิกขนาดพอดีมือจนร่างบางสั่นกระตุกสะท้านไปด้วยความเจ็บและเสียวสยิว

        "อือออ ... ดีจัง ... บอลจ๋า ... อืมมมม"

        เบลล์ส่งเสียงครางอือสุขสมออกมาเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากลงไปจูบไซร้บนซอกคอ เธอผวากอดเขาสุดแรงเมื่อเขาอ้าปากงับดูดเลียตรงตำแหน่งปลายถันอย่างแรง ทุกครั้งที่เขาออกแรงดูด ร่างบางเป็นต้องแอ่นผวาพร้อมกับส่งเสียงครางแข่งกับเสียงจ๊วบไปด้วยกัน เธอกำลังคลั่งไปกับรสรักที่บอลมอบให้

        บอลเองก็พออกพอใจกับเรือนร่างนุ่มนิ่มเต่งตึงของเบลล์ไม่แพ้กัน อารมณ์ของเขาเดือดพล่านด้วยความหื่นกระหาย สาวสวยน่ารักแบบเบลล์นั้นความจริงนับว่าหายากลำบาก ก่อนหน้านี้บอลไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้มีอะไรกับสาวสวยขนาดนี้ หากทว่าหลังจากที่เขาได้มีอะไรกับกานต์ และดาริกา เสน่ห์ตราตรึงใจของสองสาวก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่สามารถลืมเลือนสองสาวได้

        ชายหนุ่มเงยหน้าจากลำคอขาวผ่องหันไปมองดูทางห้องน้ำด้วยดวงตาวาววับ เขามองดูเรือนร่างงามดั่งนางฟ้าของดาริกาที่แอบแง้มประตูออกมาด้วยดวงตาหื่นกระหาย บอลหอบหายใจพลุ่งพล่านจ้องเขม็งมองดูดาริกา ขณะที่สองมือนั้นเลื่อนตะปบลงไปขย้ำเต้าเต่งแล้วบีบเคล้นอย่างแรงจนเบลล์กระตุกเร่า ๆ ด้วยความเสียวซ่าน

        "อืมมมม อืออออ อูยยสสส บอลจ๋า"

        เบลล์ยืนหลับตาปี๋ตัวสั่นสะท้านขนลุกด้วยความเสียวสยิว ปลายถันของเธอกำลังโดนปลายนิ้วหยาบบีบบี้เขี่ยระรัว บอลกำลังทำให้เธอเสียวซาบซ่านถึงใจอย่างที่สุด ผิดกับลีลารักของนัทราวกับหน้ามือหลังมือ เวลานี้เบลล์จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าสายตาของบอลนั้นไม่ได้มองที่ตัวเธอ หากแต่กำลังมองดูดาริกาที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ

        ดาริกายืนตัวสั่นระริกมองดูฉากรักของเบลล์และบอลด้วยใบหน้าแดงฉาน เธอรับรู้ถึงสายตาของบอลที่จับจ้องมองดูเธอด้วยความหื่นกระสัน เธอทราบว่าเขาอยากลิ้มลองรสสวาทของเธอ และเธอก็เลือกที่จะยืนมองอยู่เช่นนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุว่าทำไม

        เมื่อได้เห็นว่านางฟ้าเดินดินอย่างดาริกาจับจ้องมองดูลีลารักของเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ บอลก็ยิ่งรู้สึกคึกคักอักโข ชายหนุ่มปล่อยมือจากเต้าเต่งของเบลล์ลงไปสอดนิ้วแหย่แยงตรงร่องสาวฉ่ำเยิ้ม เบลล์สะดุ้งเฮือกดิ้นพราด ๆ ราวกับโดนไฟฟ้าช๊อต ลีลารักของบอลนั้นนับว่ารุนแรงดิบเถื่อนตามปกติ หากทว่าเธอกลับรู้สึกสาแก่ใจยิ่ง โดยเฉพาะหากนำไปเทียบกับลีลารักที่เหมือนเด็กน้อยของนัทที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บโดยแทบไม่เสียวเลยสักนิด

        "อือออ ไม่ไหวแล้วบอล ใส่เข้ามาเลยนะ อืออออ"

        เบลล์โดนนิ้วเล้าโลมจนน้ำหล่อลื่นหลั่งทะลักย้อยลงไปตามง่ามขา เธอส่งเสียงขอร้องชายหนุ่มด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน หากทว่าบอลยังคงใช้นิ้วตะปบขยำโหนกเนื้อสะกิดลากไม่หยุดยั้ง ทั้งที่ปกติแล้วเขาน่าจะจับเธอจัดการไปแล้ว แต่ว่าคราวนี้บอลมีเจตนาที่จะกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้ชมอย่างดาริกายอมเป็นของเขาอย่างเต็มใจ

        บอลแลบลิ้นเลียรอบปากขณะมองดูดาริกาด้วยสายตาหื่นกระหาย มือขวาของเขาแหย่แยงซอยยิกจนเบลล์ดิ้นพราดถี่ยิบ เบลล์บิดตัวส่ายเอวไหวไปมาด้วยอารมณ์ร้อนร่าน ใบหน้าสวยตามแบบฉบับลูกคุณหนูบิดเบี้ยวเหยเกปริ่มว่าจะขาดใจตาย

        ดาริกาเหม่อมองดูเกมกามพร้อมกับพ่นลมหายใจร้อนผ่าว ทรวงอกอวบอิ่มเกินตัวนั้นสั่นกระเพื่อมขึ้นลงเรียกความสนใจจากสายตาของบอลได้เป็นอย่างดี บอลบีบเคล้นเต้านุ่มนิ่มของเบลล์ในมืออย่างหนักหน่วง หากทว่าความคิดของเขากลับปักตรึงอยู่กับดาริกาอย่างแน่วแน่ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นว่าดาริกาเริ่มเอื้อมมือขึ้นมาบีบขยำนมเต้าของเธอเองเพื่อระบายอารมณ์เสียว

        บอลรู้สึกเหมือนใกล้เวลาแล้ว เขาปล่อยมือออกจากร่องสาวที่เปียกฉ่ำของเบลล์ ก่อนจะผลักร่างอ่อนปวกเปียกลงไปนอนแผ่หราบนเตียงนอน เบลล์นอนมองดูบอลด้วยดวงตาหวานเยิ้มเชิญชวน ในขณะที่บอลนั้นเริ่มขยับลงไปนั่งตรงกลางหว่างขา เขาจับสองขาของเบลล์ถ่างอ้าจนสุด ก่อนจะขยับเข้าไปอยู่ในท่าเตรียมกระแทกกระทั้น

        "อ๊ะ ... อื๊อออออ ... ซี้ดดดสสส ..."

        เบลล์สูดปากร่ำร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านและคับแน่น เธอหลับตาปี๋ตัวเกร็งดิ้นสะบัดใบหน้าไปซ้ายทีขวาที กระทั่งเมื่อบอลเดินหน้าสอดใส่ดุ้นเนื้อยาวใหญ่เข้ามาได้จนสุดลำ ร่างบางก็กระตุกเร่า ๆ บิดเกร็งไปมา

        บอลเหลือบตามองไปทางดาริกาซึ่งกำลังยืนบีบขยำนมด้วยความตื่นเต้นกระสัน ตอนนี้ดาริกาหน้าแดงก่ำ นอกจากจะกำลังขยำนมแล้ว เธอยังเริ่มล้วงมือลงไปใต้กระโปรงเพื่อกระตุ้นอารมณ์ร้อนร่านที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

        ชายหนุ่มมองดูดาริกาพร้อมกับเริ่มโหมโยกขย่มซอยยิกใส่เบลล์อย่างดิบเถื่อนบ้าคลั่งตามปกติ บอลสูดปากด้วยความมันสะใจในความคับแน่น หากทว่าในใจยังคงนึกไปถึงรสสวาทที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าของกานต์และดาริกา แม้เบลล์จะจัดว่ายอดมากแล้ว แต่บอลกล้าพูดได้เต็มปากว่ายังสู้ของสองพี่น้องไม่ได้

        ขณะที่เบลล์นอนหลับตาปี๋ด้วยความเสียว ดาริกาก็เริ่มทนไม่ไหวต้องลากนิ้วกดลงไปบนกางเกงในเพื่อระบายอารมณ์ร้อนร่าน ส่วนบอลนั้นได้แต่โหมเร่งเสพสมกระแทกกระทั้นอย่างบ้าคลั่งเมามันราวกับสัตว์ป่า

        เบลล์ร้องครางออกมาไม่เป็นภาษาคน ยิ่งเขากระแทกแรงขึ้นเธอก็ยิ่งเสียวซ่านแทบขาดใจ เธอพบว่าบอลและนัทนั้นมีลีลารุนแรงคล้ายกัน หากทว่าความรุนแรงของบอลกลับทำให้เธอเสียวซ่าน ส่วนความรุนแรงของนัทนั้นเพียงแต่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บระบม

        เบลล์ตัวกระตุกเฮือกหวีดร้องเสียงหลงเมื่อโดนส่งถึงห้วงหฤหรรษ์ ร่างบางกระตุกเฮือกรุนแรง ร่องสาวออกแรงตอดอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายบอลก็ทานทนไม่ไหว เขาส่งเสียงคำรามออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามคาวข้นทะลักเข้าไปในร่องสาวอย่างมากมายมหาศาล

        บอลฟุบร่างลงไปนอนกอดกับเบลล์ เธอกอดเขาแนบแน่นเพื่อซัมซับดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งตัณหาราคะ รอจนกระทั่งสองร่างคลายจากอาการสั่นระริก บอลจึงค่อยขยับถอนตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาดาริกาที่กำลังยืนช่วยตัวเองหน้าแดงก่ำ

        "น้องดา ให้พี่บอลช่วยนะ"

        บอลเดินเข้าใกล้พร้อมกับพูดร้องขอด้วยน้ำเสียงหื่นกาม เขาไม่รอให้ดาริกาตอบรับ หากแต่ถือวิสาสะยื่นสองมือออกไปเกาะกุมหน้าอกอวบเต่งจากด้านนอกเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาด ร่างงามของดาริกาสั่นสะท้านเล็กน้อยหากแต่ไม่มีท่าทีต่อต้าน เธอเหม่อมองดูบอลด้วยใบหน้าแดงก่ำเร้าอารมณ์อย่างเงียบงัน

        ชายหนุ่มยิ้มกริ่มยินดีก่อนจะเริ่มบีบขยำเบา ๆ เป็นการลองเชิง เพียงแค่ได้สัมผัสบอลก็สูดปากด้วยความสะใจ ขนาดของดาริกานั้นล้นมือกว่าของเบลล์ อีกทั้งยังอวบเต่งแน่นเด้งยิ่งกว่าจนเขาขนลุกวูบ สัมผัสแบบนี้คล้ายกับของกานต์ และสัมผัสเร้าเร้าใจแบบนี้เองที่ทำให้บอลหลงใหลติดใจจนแทบคลั่ง

        "อืออออ ..."

        ดาริกาส่งเสียงครางแผ่วเบาเมื่อบอลบีบขยำนมเต้าแรงขึ้น ชายหนุ่มเริ่มขยับตัวซุกหน้าไปจูบไซร้ซอกคาขาวเนียนหอมกรุ่นราวกับนางฟ้า กลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใครของดาริกาทำให้อารมณ์ของบอลพุ่งกระฉูด ผิวกายที่เนียนละเอียดยิ่งกว่าใครทำให้ชายหนุ่มซุกไซร้จูบซอกคอของเธอโดยไม่รู้เบื่อ

        "อืมมม ... อย่า ... พอแล้ว ... อือออ ..."

        สาวสวยส่งเสียงร้องห้ามแผ่วเบา นาทีนี้ต่อให้ดาริการ้องห้ามดังกว่านี้สักร้อยเท่าบอลก็คงหยุดตัวเองไม่อยู่ เขาลากลิ้นจากซอกคอไล่ผ่านแก้มปรั่งไปถึงติ่งหู เขาขบเม้มเบา ๆ ก่อนจะแหย่ลิ้นเข้าไปละเลงเลีย ส่วนสองมือนั้นเริ่มทำการปลดกระดุมเสื้อของสาวน้อยอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว

        "อืออออออ ..."

        ดาริกาเสียววาบจนขนลุกซู่ เธอหอบหายใจหนักหน่วงเมื่อฝ่ามือหยาบของเขาเคล้นคลึงอยู่บนเต้าอวบทั้งสองข้าง เธอไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาปลดเสื้อและถอดยกทรงของเธอออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่

        บอลหอบหายใจฟืดฟาดหนักหน่วง สัมผัสของความนุ่มนิ่มอวบหยุ่นของดาริกาช่างยอดเยี่ยมยากหาใครเทียม บอลแน่ใจว่าคงมีแต่กานต์พี่สาวของเธอที่เทียบเทียมได้ ตอนนี้บอลจึงค่อย ๆ เคล้นคลึงละเล่นปลุกเร้าอารมณ์กระสันให้ดาริกาโดยไม่เร่งรีบ

        "อือออ ... อือออ ..."

        ดาริการ้องครางดังขึ้น ปลายถันที่แข็งเต่งเป็นเม็ดของเธอกำลังโดนเขาดูดทึ้งอย่างหิวโหยตะกละตะกลาม เธอจิกนิ้วทั้งสิบลงไปบนแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่มสุดแรง ร่างงามสั่นสะท้านระริกบิดไหวแอ่นอกเข้าหาลีลาการดูดเลียโดยไม่ได้ควบคุมบังคับ

        "อ๊ะ ... อืออ ... อย่า ... พอแล้ว ... พอ ... อย่า ..."

        สาวสวยส่งเสียงร้องห้ามอีกครั้งหลังจากอาการกระตุกเฮือก บอลเริ่มรุกหนักล้วงมือลงไปตะปบตรงเนินสาวแล้วเขี่ยสะกิดเล้าโลมด้วยลีลาพริ้วไหว ดาริกาขนลุกวูบวาบรู้สึกได้ถึงความฉ่ำชื้นที่เพิ่มพูนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

        "ไม่เอา พอแล้ว อย่านะ หยุด ... อื๊อออ ..."

        ดาริกาคล้ายได้สติคืนมาเมื่อโดนโจมตีใส่ส่วนอ่อนไหว หากทว่าบอลไม่สนเสียงร้องห้ามแม้แต่น้อย เขายิ่งเร่งนิ้วมือบดบี้ขยี้ใส่ร่องสาวหนักหน่วงขึ้นด้วยซ้ำ ส่วนปากของเขาก็ยังคงง่วนอยู่กับการลิ้มชิมรสของหน้าอกอวบใหญ่เกินตัวของดาริกาโดยแทบไม่สนใจมองสิ่งอื่นใดอีก

        สาวสวยโดนรุกเร้าเช่นนี้เสียงร้องห้ามก็ยิ่งอ่อนแรงลง บอลเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มกริ่มดีใจเพราะแน่ใจว่าดาริกาคงไม่รอดมือเขาอย่างแน่นอน ชายหนุ่มตัดสินใจใช้ปากและมือกระตุ้นเล้าโลมสาวสวยต่อไป เขาทำจนอารมณ์ของดาริกาพุ่งไปจนเกือบถึงขีดสุดแต่ไม่ให้เสร็จสม จุดนี้บอลแน่ใจว่าดาริกาจะต้องค้างคาในอารมณ์จนยอมทำตามเขาทุกอย่าง

        "ไปต่อกันบนเตียงนะครับน้องดา ... อุ๊บบบบบ!!!"

        บอลตัดสินใจอ้าปากปล่อยมือจากจุดยุทธศาสตร์แล้วหันมาพูดเชิญชวน และเมื่อเขาเอื้อมมือไปหมายจะจับแขนดาริกาพาไปนอนบนเตียงเพื่อสานต่อให้จบ บอลก็ต้องส่งเสียงร้องออกมาดังลั่นด้วยความเจ็บปวดจุกเสียดในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน

        ชายหนุ่มร่างกำยำถึงกับทรุดฮวบลงไปนั่งกุมมือตรงกล่องดวงใจด้วยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว ที่แท้แล้วดาริกาเพิ่งจะออกแรงตีเข่าโจมตีเข้าไปตรงจุดสำคัญอย่างแม่นยำราวกับจับวาง แม้แขนขาของเธอจะบอบบางกว่าบอลมากนัก แต่เมื่อโจมตีตรงเป้าหมายบอลก็ยากจะทนไหว

        บอลทรุดฮวบหน้าซีดหมดสภาพ เบลล์ซึ่งนอนมองมาจากบนเตียงอ้าปากส่งเสียงอุทานด้วยความแตกตื่น ส่วนดาริกานั้นยืนหอบหายใจด้วยใบหน้าแดงก่ำสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เธอก้มหน้ามองดูบอลก่อนจะขยับเดินหลบหนีไปทางประตูพร้อมกับจัดแต่งเสื้อผ้าและยกทรงของตัวเองให้เรียบร้อย

        ดาริกามองดูเบลล์แวบหนึ่ง หากแต่ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายดาริกาก็หมุนตัวเปิดประตูหนีออกจากห้องไป เธอไม่ทราบว่าสิ่งที่ตนเองเพิ่งกระทำลงไปนั้นรุนแรงเกินไปหรือไม่ เธอทราบแค่ว่าหากไม่ทำเช่นนี้เธอคงจะต้องเสียตัวให้กับบอลโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง และนั่นคือสิ่งที่เธอทนรับไม่ได้

        ดาริกาทราบแล้วว่าความใคร่นั้นหอมหวานเร้าอารมณ์ถึงเพียงไหน เธอไม่แปลกใจเลยที่พี่กานต์ของเธอถึงได้ทำตัวร่านสวาท แม้แต่ตัวเธอเองที่ต่อต้านเรื่องผิดจารีตศีลธรรมเช่นนี้ยังเกือบเผลอปล่อยตัวไปด้วย แต่ว่าสุดท้ายแล้วเธอก็สามารถฝืนทนกระแสความต้องการอันร้อนแรงได้สำเร็จ เธอไม่คิดจะทำตัวเหมือนกานต์ ผู้ชายคนเดียวที่เธอเต็มใจมีอะไรด้วยคืออาร์ตเท่านั้น

       

       

       
เวปส่วนตัว - http://www.novel008.com
Discord - https://discord.gg/DkT2Mf8q

alaaum

สุดยอดเลยครับ เบล ดา ขอบคุณนะครับ

adios2nd

มาเป็นชุดเลยครับ เอาอีก ดาร์กอีกครับ ดาร์กกว่านี้

ขอบคุณครับ ::HeyHey:: ::Sobad::

tetete

ดีมากน้องดา อัดเจ้าบอลได้ดีจริงๆ

mr_nt9

หูยยยยยย น้องดาเกือบไปแล้ว
บอลชักได้ใจนะเนี่ย จะเป็นไงต่อน้อ
ขอบคุณครับ

bb bb

หายไปนานกลับมาแบบติดๆกันเลย แบบนี้ก้อเหนื่อยหน่อยน้ะครับ 55555

tdt14023

ขอบคุณมากๆครับท่านassเนื้อเรื่องเริ่มนำสามพี่น้องมาได้สามีคนเดียวกันแล้วนะครับแต่จะทำอย่างไรให้คุณแก้วเปลี่ยนทัศนคติที่อยู่ในใจมาชอบนายอาร์ตเราที่เป็นยามธรรมดาผมว่าเป็นงานยากของนายอาร์ตเลยนะครับผมเข้าไปอุดหนุนผลงานท่านเรื่องนี้ในmebแล้วนะครับฝากภาคสามกับเรื่องน้องผิงภาคสองด้วยนะครับ

harzard

ขอบคุณครับท่านแอส มาได้จังหวะไม่ขาดตอนเลย  ::Fighto::

Hunter191

 ::Oops:: เจอเข่าสอยดาวไป เห็นดาวเห็นเดือนกันเลยที่เดียว

zero009


Asura4237

บอล ตอนนี้นี่แอบกินคนเดียว แต่สุดท้ายโดนเล่นงานเข้าให้ 555

thep59

หายไปนานเลย แต่มาทีเดียว 2 ตอนเลย ขอบคุณครับ ติดตามมาตลอด รอตอนต่อไปครับ

review1972

หวังลึกๆว่าอาจจะมีอีกตอนตามมาติดๆสมหวังเลยครับ ขอบคุณมากครับ

eka1325

น้องดา เกือบโดนบอลจัดการซะแล้ว จะรอดได้นานไหมนะ  ลุ้นสนุกทุกตอน ขอบคุณครับ

darkdd1999

ช่วงนี้จะเมื่อยมือหน่อย //คาดว่าอาร์ตถ้าไม่มีฝาแฝด ก็ต้องมีตัวปลอม จากบทตอนปรางคุยกับกานต์