ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

7 Sin : Lust "เนตรราคะ" (EP.6) *Rewrite*

เริ่มโดย GoDeRsOuL, สิงหาคม 10, 2017, 12:50:39 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

GoDeRsOuL

สวัสดีครับ คิดถึงมากมาย ไม่ได้หายไปไหนนะครับ แว๊บๆเข้ามาตลอด

บอกตรงนี้ก่อนเลยครับว่าตอนนี้ เป็นแค่ฉากเปิดเรื่อง จะเรียกว่าเป็น Season 2 ก็ได้ครับ

อ่านจบแล้วถ้าแสดงความคิดเห็นให้หน่อยจะกรุณามากครับ จะได้นำไปปรับปรุงผลงาน

ซ่อนแต่รูปประกอบจินตนาการเพื่อเพิ่มอรรถรสนะครับ


-------------------------------------------------------------

"ฮัลโหล! ยัยอายถึงไหนแล้วเนี่ยแก ชั้นถึงมหาลัยแล้วนะ"
เสียงสดใสของนักศึกษาสาวกล่าวกับคู่สนทนาผ่านโทรศัพท์ขณะนั่งไขว้ห้างอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนหน้ามหาวิทยาลัย

"อ้าว! แกนัดพี่กายเอาไว้แล้วทำไมไม่บอกย่ะ พี่กายที่แกเล่าให้ฟังว่าเจอตอนรับน้องนะเหรอ
แหมๆ เห็นเงียบๆแบบนี้ร้ายนักนะ นี่ยัยมิ้นต์ก็ไม่รู้หายหัวไปไหนชั้นติดต่อไม่ได้เลย
เออๆ งั้นชั้นเข้าเรียนคนเดียวก่อนก็ได้ แค่นี้แหละ
" กล่าวจบหญิงสาวก็กดวางสายสนทนาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

ถึงเธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง
แต่วันแรกของการเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเช่นวันนี้ เธอก็ยังต้องการเพื่อนอยู่บ้าง
หญิงสาวไม่คิดเลยสักนิดว่าการที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องและปฐมนิเทศจะสร้างปัญหาให้เธอแบบนี้

"เห้อออ รู้งี้น่าจะรีบมาอยู่ที่หอก่อนก็ดี ไม่น่าเชื่อยัยตัวดีทั้งสองนั่นเลย แล้วชั้นจะนั่งเรียนกับใครหละเนี่ยวันนี้"
เธอกล่าวอย่างเซ็งๆและใช้สองมือเท้าคางอย่างเบื่อหนาย

อีกไม่ถึงชั่วโมงแล้วที่เธอจะต้องไปเข้าเรียน โทรศัพท์มือถือที่พึ่งจะซื้อมาใหม่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการถ่ายรูป
เธอจึงได้แต่ทำใจและนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา
โดยไม่ได้รู้ตัวซักนิดว่าตัวเองได้ตกเป็นเป้าสายตากลัดมันของบรรดาหนุ่มๆนักศึกษาที่อยู่ในบริเวณนั้นไปเรียบร้อยแล้ว

 

นั่นเป็นเพราะโต๊ะหินอ่อนที่หญิงสาวเลือกใช้นั่งรอเพื่อนสาวนั้นตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าใหญ่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าในยามเช้าแบบนี้จะต้องเต็มไปด้วยบรรดานักศึกษาที่เดินทางมาเพื่อเข้าเรียนรอบเช้า
อีกทั้งตัวเธอเองก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสวยคนหนึ่ง ยิ่งอยู่ในชุดนักศึกษาทรงนิยม
รูปร่างที่ได้รับการดูแลอย่างดีของเธอจึงทำให้กลายเป็นจุดเด่นได้ง่าย
หากหญิงสาวเลิกคิดเหม่อลอยและเดินไปชวนผู้ชายสักคนหนึ่งไปนั่งเรียนเป็นเพื่อน คงยากที่จะมีใครคิดปฏิเสธเป็นแน่

"เชอะ! ไปเรียนคนเดียวก็ได้ ถ้าเจอผู้ชายงานดีๆนะ ชั้นจะไม่แบ่งใครเลยค่อยดูซิ"
หญิงสาวกล่าวกับตัวเองพลางเก็บของเข้ากระเป๋าถือและลุกยืนขึ้น

การที่ต้องนั่งเฉยๆเป็นเวลานานทำให้เธอรู้สึกเมื่อยล้า หญิงสาวจึงกางแขนออกพร้อมกับแอ่นหน้าอกขึ้นบิดขี้เกียจช้าๆ
ท่วงท่าของเธอในยามนี้แม้จะดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆต่างก็ทำกัน
แต่อิริยาบถของเธอกลับทำให้บรรดาผู้ชายที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นพากันมองตามตาเป็นมัน

ถ้าจะเปรียบเทียบเธอกับเพื่อนสนิททั้งสอง เธออาจจะไม่ได้ดูสวยที่สุด
แต่หากให้ผู้ชายซักสิบคนเลือกว่าใครดูเย้ายวนที่สุด ทั้งสิบคนต้องเลือกเธอเป็นเสียงเดียวกันแน่
ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน หรือการนอน ทุกๆอิริยาบทของเธอล้วนแฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ซึ่งเป็นไปเองตามธรรมชาติที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่แรกเกิดเสมอ
โดยเฉพาะดวงตาของเธอที่ใครๆต่างก็บอกว่าเป็นจุดที่เด่นที่สุด นัยน์ตาสีดำขลับของเธอนั้นดูเย้ายวนลึกลับและน่าค้นหา
จึงไม่แปลกนักที่มักจะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาหาเพื่อหวังเคลมสวาทเธออยู่เป็นประจำ

และในครั้งนี้ก็เช่นกัน
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินตรงไปยังตึกของคณะเพื่อเข้าเรียน
พลันก็มีร่างสูงในชุดนักศึกษาชายเดินมาขนาบทั้งสองข้าง

"สวัสดีครับ พี่ชื่อกร อยู่ปีสี่ รีบเดินแบบนี้ น้องเป็นนักศึกษาปีหนึ่งที่กำลังจะไปเข้าเรียนรึเปล่าครับเนี่ย พวกพี่ไม่คุ้นหน้าเลย หรือเราจะไม่ได้มารับน้อง"
ชายที่อยู่ทางด้านซ้ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ก่อนที่คนทางขวาจะพูดตามมาเหมือนนัดกันไว้

"ส่วนพี่ชื่อบาส ปีสี่เหมือนกัน ดูจากเข็มกลัดแล้วน้องคงอยู่คณะเดียวกันกับพวกพี่ และถ้าน้องไม่ได้มารับน้องก็คงจะยังไม่รู้ทาง ให้พวกพี่พาไปส่งนะครับ
พวกพี่รู้ทางลัด ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับพวกพี่จะได้เรียกถูก
"
ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งขวาพูดพร้อมเร่งฝีเท้าแซงไปด้านหน้าเพื่อดักให้หญิงสาวต้องหยุดเดิน

คนที่ถูกถามแอบตกใจนิดๆที่พวกรุ่นพี่สองคนนี้โผล่มากะทันหัน
แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าพวกเค้าต้องการพาเธอไปส่งยังห้องเรียน ซึ่งจะว่าไปแล้วเธอก็ยังไม่รู้จริงๆว่าตึกที่เธอต้องไปอยู่ตรงไหน
ในตอนแรกเธอก็กะจะไปถามยามที่เฝ้าตึก แต่ถ้ามีคนมาเสนอจะพาไปแบบนี้เธอก็ไม่รังเกียจ
แถมทั้งสองคนก็ดูไม่น่ามีพิษมีภัยเท่าไหร่นัก แม้จะพอดูออกว่าตั้งใจเข้ามาเพื่อขายขนมจีบเหมือนคนอื่นๆก็ตาม

หญิงสาวจึงหันไปมองดูรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างละเอียด
พี่บาสเป็นชายหนุ่มหน้าตาตี๋ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งแบบคนจีนดูมีฐานะ
ส่วนพี่กรออกจะผิวคล้ำๆหน่อยหน้าตาคมคายดูหล่อแบบลูกทุ่งและสวมสร้อยทองเส้นเบ้อเร่อที่คอ
ทั้งคู่จ้องมองมาที่หญิงสาวและยิ้มบางๆให้ด้วยสีหน้าที่คิดว่าดีที่สุดในสามโลก

หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อแอบเบ้ปาก จากนั้นเธอก็ทำท่าทางคล้ายจะลังเลอะไรบางอย่าง ก่อนจะตอบรุ่นพี่ทั้งสองออกไปด้วยเสียงออดอ้อน

"หนูชื่อจ๋าคะ พอดีจ๋าติดธุระเลยไม่ได้มาตอนรับน้อง จะว่าไปแล้วจ๋าก็ไม่รู้ทางจริงๆด้วย
นี่ถ้าพี่กรกับพี่บาสไม่เดินมาทัก จ๋าก็ยังไม่รู้จะไปถามใครเลยค่ะ ยังไงรบกวนพวกพี่ด้วยนะคะ
"
หญิงสาวตอบคำถามพลางพยายามทำตัวให้น่าเอ็นดูมากที่สุดโดยการไขว้มือไว้ด้านหลังและแอ่นหน้าอกขึ้นมาเล็กน้อย
ซึ่งเธอมักจะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำเวลาที่มีผู้ชายเป็นฝ่ายเข้ามาหา

"ยินดีเลยครับน้องจ๋า เป็นหน้าที่ของพวกพี่ๆอยู่แล้วที่ต้องดูแลรุ่นน้อง เราเรียนชั้นห้าตึกสี่ใช่ไหมถ้าพี่จำไม่ผิด"
นายกรตอบพลางถูมือไปมาด้วยความยินดี

"แหม จำเก่งจังเลยนะคะ ใช่คะจ๋าเรียนชั้นห้าตึกสี่ตอนเก้าโมงเช้า"
หญิงสาวทำตาโตเหมือนแปลกใจที่พี่กรรู้ที่เรียนโดยเธอยังไม่ทันบอก

"งั้นเรารีบไปกันดีกว่าครับน้องจ๋า เดี๋ยวจะไม่ทัน วิชานี้อาจารย์ที่สอนยิ่งโหดๆอยู่ด้วย ไปครับ เดี๋ยวเราเลี้ยวไปทางลัดตรงตึกนี้เลย"
นายบาสพูดจบก็ยิ้มให้และหันหลังเดินนำออกไปก่อน จากนั้นจึงเป็นจ๋าที่ก้าวตามไปโดยมีนายกรเดินรั้งท้าย

 

ระหว่างเดิน นายบาสที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็หันกลับมามองนายกร
ทั้งสองสบตากันเพียงชั่วครู่และพยักหน้าให้แก่กันเบาๆก่อนจะพาจ๋าเดินเลี่ยงเข้าไปทางมุมตึกซึ่งทั้งคู่อ้างว่าเป็นทางลัด
โดยที่จ๋าไม่ได้สังเกตุเลยว่า นักศึกษารอบๆข้างต่างพากันหันไปคุยกระซิบกระซาบกันเต็มไปหมดตั้งแต่ที่เห็นรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นพอกันเดินเข้าไปหาเธอ

แท้จริงแล้วสองคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่โจษจันกันไปทั่วมหาลัย
พวกมันมักจะเล็งหานักศึกษาสาวหน้าตาดีไว้ตั้งแต่วันรับน้องโดยการเล่นบทบาทรุ่นพี่ผู้แสนดีหลอกให้เหยื่อตายใจ
ก่อนที่จะวางแผนแบล็คเมล์และเคลมสวาทจนกว่าพวกมันจะเบื่อ
และการที่พวกมันมีแบ็คอัพเป็นนักการเมืองผู้มีอิทธิพล ยิ่งทำให้เหยื่อของพวกมันไม่กล้าเอาผิด

มีครั้งหนึ่งที่พวกมันเกือบโดนแฉเพราะดันไปเล่นกับลูกสาวของผู้กำกับใหญ่
แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเพราะแบ็คอัพของพวกมันดูเหมือนจะมีเส้นสายที่ใหญ่กว่า
นั่นยิ่งทำให้เหยื่อรายหลังๆของพวกมันไม่กล้าคิดที่จะเอาผิดเข้าไปใหญ่

"รุ่นพี่ค่ะ ก่อนเข้าตึกนี้มา จ๋าเห็นป้ายติดไว้ว่าตั้งแต่ชั้นสองกำลังปรับปรุงนี่คะ แล้วพวกพี่พาจ๋าขึ้นมาแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอคะ"
หญิงสาวเอ่ยถามระหว่างกำลังก้มตัวลงลอดป้ายห้ามเข้าที่แขวนอยู่หลังจากเดิน

เธอเริ่มสังเกตุถึงความผิดปกติหลายๆอย่างเช่นจำนวนของนักศึกษาที่ลดน้อยลง หรือกองอุปกรณ์ก่อสร้างที่วางอยู่ด้านหน้าตึก
กว่าที่เธอจะนึกเอะใจได้ก็ตอนที่เดินขึ้นมายังชั้นสองและพบว่าชั้นนี้ไร้เงาผู้คนแล้ว จะหันกลับก็ไม่ได้เพราะมีพี่กรเดินประกบอยู่ตลอดเวลา
หากจะโทษก็ต้องโทษที่นิสัยมั่นใจในตัวเองสูงและคิดว่าจะเอาตัวรอดได้เสมอของเธอที่พาให้เธอมาตกอยู่ในสถาณการ์ณล่อแหลมแบบนี้

"อ้อ ชั้นนี้มันมีทางเชื่อมไปตึกสี่นะครับ เลี้ยวขวาตรงสุดทางเดินข้างหน้านี้เองครับ"
นายบาสที่เดินนำอยู่ข้างหน้าตอบโดยไม่หันมามองจ๋า และดูเหมือนเค้าจะเร่งฝีเท้าขึ้นนิดหน่อยจนทิ้งห่างจากหญิงสาวช่วงใหญ่

"พอดีเค้ากำลังปรับปรุงตึกอยู่อย่างที่น้องจ๋าเห็นจากป้ายข้างล่างแหละครับ แต่ถ้าเวลารีบๆนักศึกษาส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกใช้เส้นทางนี้อยู่ดีครับ
เพราะทางขึ้นตึกสี่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทางนี้ไม่ต้องเดินอ้อมจะประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยนะครับ
"
นายกรที่อยู่ด้านหลังเอ่ย คำพูดของพวกมันฟังดูแล้วคล้ายกับท่องจำมา

"เหรอคะ.... อืม.... ก็สะดวกดีนะคะ ว่าแต่...  เอ๋!!"
จ๋าส่งเสียงอุทานออกมาเพราะประหลาดใจที่เห็นพี่บาสยืนหยุดรออยู่นิ่งๆเมื่อเธอเดินเลี้ยวขวามา

"เอ.... ไม่กี่วันก่อนยังไม่เป็นแบบนี้นี่นา" นายบาสที่ยืนรออยู่พูดพลางส่ายหัว ดูเหมือนริมฝีปากของมันจะมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่

ด้านหน้าของจ๋านั้นปรากฎช่องประตูสูงประมาณสามเมตรที่น่าจะเป็นทางเชื่อมอยู่จริง
เพียงแต่ทางเชื่อมนี้มีลักษณะเหมือนกำลังปรับปรุงเพราะพื้นทางเดินนั้นถูกทุบทำลายทิ้งไปแล้ว
อีกทั้งยังมีนั่งร้านเหล็กที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างกั้นบังไว้

อารามตกใจจ๋าจึงหยุดเดินกะทันหัน ทำให้ไอ้กรที่พึ่งจะเลี้ยวตามหลังมาชนเข้ากับด้านหลังของเธออย่างแรง
ส่งผลให้หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักเซล้มลงไปด้านหน้าทันที

"กรี๊ด!!" จ๋าร้องเสียงหลงเพราะบริเวณนั้นเต็มไปฝุ่นผง แถมยังมีอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆวางอยู่ระเกะระกะเต็มไปหมด
เธอถึงกับหลับตาปี๋เพราะคิดว่าต้องล้มลงไปโดนอะไรซักอย่างจนบาดเจ็บแน่ๆ

"เฮ้ย!! ระวัง!!" จ๋าได้ยินเสียงตะโกนพร้อมกับมีวงแขนเข้ามารองรับร่างของเธอไว้ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับพื้น

"ฟู่.... ไอ้กร! มึงระวังหน่อยซิวะ เดินดูตาม้าตาเรือซะบ้าง ถ้าตัวน้องเค้าเป็นรอยหรือช้ำ เดี๋ยวพวกเราก็ซวยกันหมดหรอก"
เป็นนายบาสเองที่เป็นคนยื่นแขนพุ่งเข้าไปรองรับตัวของจ๋าเอาไว้ มันดูโมโหเอามากๆที่เกิดเหตุการ์ณแบบนี้ขึ้นจนต้องตวาดเพื่อนชายเสียงดัง

"โธ่! กูขอโทษ ก็ใครมันจะไปรู้วะว่าน้องเค้าจะหยุดเดิน พอเลี้ยวมาก็ชนเลย" นายกรถึงกับหน้าเสียจนจ๋าที่ตอนนี้ลืมตาขึ้นมาแล้วรู้สึกงุนงงไปหมด
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกรุ่นพี่ทั้งสองคนนี้ถึงต้องโมโหขนาดนี้
ถ้าช่วยไม่ทันจนเธอแค่เจ็บตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่พวกนี้ซักหน่อย

นายบาสลุกยืนขึ้นพร้อมกับดึงร่างของจ๋าตามมาด้วยอย่างทะนุถนอม
ถึงแม้จะไม่บาดเจ็บอะไรมากมายเพราะมีแขนของนายบาสมารองไว้
แต่ชุดนักศึกษาของหญิงสาวก็ปรากฏรอยเปื้อนอยู่ไม่น้อย

"จ๋าไม่เป็นไรค่ะ พี่บาสเจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ.... เพราะจ๋าแท้ๆเลย" หญิงสาวหันไปถามหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความเป็นห่วง

ถึงแม้จ๋าจะยังไม่หายสงสัยในหลายเรื่องๆ แต่ตอนนี้เธอกลับลืมเลือนมันไปจนเกือบหมด
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยเวลาถูกช่วยเหลือก็มักจะเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นมาในใจเสมออย่างที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้

"อ่ะ อ้อ! พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ เออ..." นายบาสตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก
ตาของมันจ้องเขม็งตรงหน้าอกของหญิงสาวจนผิดสังเกต
แถมนายกรที่ยืนอยู่ข้างๆหลังจากเดินมาดูเพื่อนก็มีอาการแบบเดียวกัน

 

"ว๊ายย!!" จ๋าร้องลั่นทันทีที่ก้มลงมองหน้าอกของตัวเอง
เพราะตอนนี้กระดุมสองเม็ดบนที่ปกติก็แทบจะหลุดได้ทุกเมื่ออยู่แล้วตอนนี้กลับสูญหายไป
เผยให้เห็นเนินอกขาวขนาดสามสิบหกนิ้วและเสื้อยกทรงตะขอหน้าสีดำเข้ม
หญิงสาวจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองและหันหลังให้สองหนุ่มทันที

"กูว่าจัดแม่งเลยเหอะได้โอกาสแล้วด้วย กูชักเริ่มเงี่ยนแล้วหว่ะ ตอนกุเดินชนตัวแม่งทั้งนิ่มทั้งหอมฉิบหาย" ไอ้กรหันไปกระซิบกระซาบถามไอ้บาสด้วยเสียงหื่นกระหาย

"เออ! เชี้ย! นมแม่งก็โคตรนิ่ม โดนแขนกูแล้วควยตุงเลยเนี่ย ชักจะทนไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมึงอ้อมไปดักด้านหลังแล้วลากมันเข้าห้องเดิมเลย"
ไอ้บาสสั่งการก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปหาร่างของเหยื่อคนใหม่ช้าๆพร้อมกับที่ไอ้กรออกเดินเพื่อจะอ้อมไปปิดทางหนี

ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ชั้นสองที่ทั้งสามกำลังยืนอยู่นี้กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุง และยิ่งวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนจึงไม่มีใครคิดสนใจจะเหยียบย่างขึ้นมาเป็นแน่
นั่นจึงทำให้หญิงสาวได้ยินสิ่งที่รุ่นพี่ชั่วทั่งสองกำลังจะทำชัดเต็มสองรูหูแม้ทั้งคู่จะพูดกันเบาแค่ไหนเพราะไม่มีเสียงอื่นรบกวน

แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ชะตาจิ๋มของสาวจ๋าจะยังไม่ถึงฆาต....

"อ้าว! จ๋า! มาทำอะไรที่นี่เนี่ย กำลังจะเข้าเรียนแล้วนะ แล้วนั่น.... ใครน่ะ"
เป็นพลที่ดูเหมือนจะบังเอิญโผล่ออกมาจากมุมทางเดินพอดิบพอดีที่เป็นคนเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มดูแปลกใจไม่น้อยกับสภาพของคนทั้งสาม
หนึ่งหญิงสาวที่มีสีหน้าตื่นตระหนกและกำลังใช้สองมือปิดอกอวบ
กับสองชายหนุ่มหน้าตาหื่นกระหายที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วเพราะแปลกใจที่พลปรากฎตัวออกมา

"พล! ไม่ต้องถามอะไรแล้ว พาเราไปจากตรงนี้เร็วเข้า!" จ๋าแทบจะร้องตะโกนด้วยความดีใจที่เห็นพล
เธอไม่รอช้ารีบพุ่งไปจับมือพลที่กำลังงงและเป็นฝ่ายพาเขาออกวิ่งย้อนกลับไปทันที

"เห้ย!! หยุดนะ!!" ไอ้กรที่อยู่ใกล้ที่สุดเพราะกำลังจะเดินไปดักจ๋าทำท่าจะวิ่งตามไป

"ไอ้กร! ไม่ต้อง! ปล่อยพวกมันไป ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้เฮียสั่งห้ามเราทำอะไรเอิกเกริก"
ไอ้บาสเอ่ยเตือนพลางควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เพราะเรื่องที่พวกมันทำพลาดครั้งที่แล้วพึ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน
หากยังมีครั้งที่สองติดๆกันอีก แบ็คใหญ่ที่หนุนหลังพวกมันคงจะตัดหางปล่อยวัดแน่ๆ

"เหี้ยเอ้ย! ไอ้เด็กนั่นโผล่มาจากไหนว่ะ! เสียเวลาฉิบหาย แล้วกูจะระบายความเงี่ยนกับใครละเนี่ย แม่งเอ้ย!"
ไอ้กรหันไปเตะอัดเศษขยะแถวๆนั้นเพื่อระบายอารมณ์โกรธให้ตัวเอง

"ช่างมัน อีจ๋านี่ไว้คราวหน้าก็ได้ ยังไงมันก็อยู่คณะเดียวกันกับเรา
และมึงอย่าลืมว่าเรายังมีน้องหยาอีกคน เบอร์อยู่ที่เครื่องมึงกูจำได้ มึงรีบโทรเรียกมันมาเลย กูก็เงี่ยนจนปวดไข่แล้วเนี่ย
"
ไอ้บาสกล่าวเสียงเรียบเฉยเหมือนสิ่งที่มันทำอยู่เป็นเรื่องธรรมดาจนไอ้กรหัวเราะหึๆเมื่อได้ยิน ก่อนที่มันจะควักมือถือขึ้นมากดเบอร์เหยื่อสาวผู้โชคร้าย

"เออๆ กูตลอด วันหลังหัดเมมไว้เครื่องมึงบ้างก็ได้นะ อ่ะ! ฮัลโหล! สวัสดีครับน้องหยาคนสวย........."

........................................................................

"อะ.. พอดีพลพกเข็มกลัดมาพอดี จ๋าเอาไปติดไว้ก่อนนะ" พลล้วงเข็มกลัดที่มีพกไว้เสมอจากเป้สะพายหลังส่งให้จ๋าเพื่อใช้แทนกระดุมเสื้อ

"ขอบคุณนะ ถ้าพลไม่โผล่มาเราต้องแย่แน่ๆเลย" จ๋ากล่าวขอบคุณและรับเข็มกลัดมาติดที่เสื้อ

ทั้งคู่นั่งอยู่ใต้ตึกสี่ตรงม้านั่งส่วนที่มีคนพลุกพล่านที่สุด หญิงสาวเป็นคนเลือกที่จะอยู่ตรงนี้เองเพราะเธอยังคงหวาดระแวงไอ้รุ่นพี่ชั่วพวกนั้นอยู่
จ๋ารู้สึกอับอายที่เป็นฝ่ายโดนหลอกจึงไม่ได้บอกอะไรกับพลมากมายนักเพราะกลัวจะเสียหน้า
แต่หญิงสาวไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆนั่นรู้เรื่องราวและจงใจโผล่ออกไปในจังหวะนั้นเพื่อช่วยเธอ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ในตอนที่จ๋ากำลังเดินขึ้นไปยังชั้นสองของตึก
พลที่กำลังจะเดินไปตึกสี่ด้วยเส้นทางปกติเพื่อเข้าเรียนกลับสัมผัสได้ถึงจิตใจที่เต็มไปด้วยราคะถึงสองดวง
เขารับรู้ได้ว่ามันแตกต่างจากราคะของคนปกติ มันเป็นราคะที่ดำมืด

พลรู้ได้ถึงความอันตรายบางอย่าง เขาจึงแผ่สัมผัสออกค้นหาและลอบติดตามไป
ตอนที่พลไปถึงเป็นตอนที่ไอ้กรกำลังชนจ๋าพอดี เขาสัมผัสได้ทันทีถึงราคะดำมืดที่พุ่งขึ้นสูงกว่าเก่า
พลรู้ทันที่ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวคนนั้นเขาจึงรีบพุ่งเข้าไปช่วยโดยที่ยังไม่ได้คิดวิธีด้วยซ้ำ
แต่พอโผล่พ้นขอบกำแพงออกไป ปรากฏว่าหญิงสาวตรงหน้ากลับเป็นคนรู้จักซะได้ แถมเธอยังเป็นฝ่ายลากเขาออกมาเองอีกด้วย

"เรายังขึ้นไปเรียนกันทันนะ มีเวลาอีกห้านาที รีบไปกันเถอะ" พลที่เห็นว่าจ๋าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเอ่ยพร้อมกับลุกยืนขึ้นสะพานกระเป๋า

"พอดีเลย ตอนแรกเราก็ไม่รู้จะนั่งกับใครเพราะอายยังไม่มา งั้นเดี๋ยวเราขอไปนั่งกับพลก่อนก็แล้วกัน ป่ะ ขึ้นไปกัน"
จ๋าขยับตัวลุกขึ้นและพลิกตัวกลับออกเดินนำไปยังลิฟท์โดยมีพลเดินตามมาห่างๆ

ทั้งคู่ยืนรออยู่พักเดียวลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลงมา ด้วยความรีบร้อนพอประตูเปิดจ๋าก็พุ่งตรงเข้าไปทันที
แต่ลิฟท์ที่ควรจะว่างเปล่าเพราะเป็นตอนเช้าที่มีแต่คนขึ้นไปเรียนกลับมีนักศึกษาสาวหน้าตาน่ารักเดินสวนออกมาด้วยความเร่งรีบ
ไหล่ของทั้งคู่กระทบกันเล็กน้อยจนโทรศัพท์ที่สาวแปลกหน้าถือแนบหูหลุดร่วงออกจากมือ

แต่โชคดีที่ตอนนี้ประสาทสัมผัสของพลเฉียบคมมากขึ้นเพราะพลังแห่งบาปโดยที่เค้าไม่รู้ตัว
พลจึงสามารถยื่นมือไปรับโทรศัพท์เครื่องนั้นได้ทันก่อนที่มันจะหล่นลงกระแทกพื้น หลังจากนั้นเค้าก็ส่งมันคืนกลับไปให้หญิงสาวแปลกหน้า

"อุ้ย! ขอบคุณมากเลยค่ะ" เธอคนนั้นกล่าวขอบคุณพลก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่จ๋า

"ขอโทษด้วยค่ะ พอดีเรากลัวจะเข้าเรียนไม่ทัน เอะ คุณอยู่คณะเดียวกับเรานี่นา ไม่เข้าเรียนเหรอคะ" จ๋าเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เพราะเธอรู้มาว่าคณะของเธอเรียนวิชาเดียวกันที่ตึกนี้ทั้งหมดในช่วงเก้าโมง และหญิงสาวตรงหน้าก็ติดตราสัญลักษณ์แบบเดียวกันกับเธอและพล

"พอดีเรามีธุระด่วนค่ะ ต้องรีบไป ยังไงคราวหน้าให้คนด้านในเดินออกมาให้หมดก่อนที่จะเข้าไปนะคะ มันอันตราย อ่า.... แล้วก็ขอบคุณนายด้วยนะที่รับโทรศัพท์ให้เรา...."
หญิงสาวกล่าวตำหนิจ๋าก่อนจะหันมาขอบคุณพล

ระหว่างที่พูดเธอแอบหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้มองใบหน้าอันหล่อเหลาของพลชัดๆ
แต่อยู่ดีๆเธอก็ชะงักและเบิกตาโตขึ้นทันทีที่ได้ประสานสายตาเข้ากับพล
ดวงตาของเธอปรากฏประกายวาวสีน้ำเงินขึ้นก่อนจะสลายไปในพริบตาโดยไม่มีใครทันสังเกตุเห็น
หญิงสาวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอดจนหน้าอกสะท้าน เธอเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้ามาในลิฟท์ทันทีจนจ๋ารู้สึกแปลกใจ

แต่ผู้ถือครองพลังแห่งราคะอย่างพลสามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงได้ทันที
เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์สวาทที่พลุ่งพลานขึ้นโดยไม่มีที่มาของหญิงสาวหลังจากที่ได้สบตากับเขาเพียงชั่วครู่
แต่รู้ก็ส่วนรู้ ตัวของพลเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหญิงสาวตรงหน้าถึงได้มีอาการแบบนี้ได้

หลังจากเรื่องของเหมยเวลาก็ล่วงผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว ระหว่างนั้นพลเฝ้าพยายามศึกษาเกี่ยวกับพลังที่ได้มาแต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
อาจจะเป็นเพราะว่าชายหนุ่มไม่ได้ออกไปลองใช้งานพลังแห่งราคะกับผู้หญิงคนอื่นอีกเลยก็ได้
มีเพียงพยาบาลแก้วที่ตามมาปรนเปรอให้ถึงที่บ้านโดยที่เธออ้างกับคนอื่นๆว่าพลยังไม่หายขาดและต้องคอยระวังอาการข้างเคียง
หากจะเรียกแอสโมดิวส์มาถามตอนในตอนนี้ก็คงจะไม่เหมาะ แถมพักหลังๆที่พลเรียกหาเธอก็มักจะอ้างว่าติดธุระอะไรซักอย่างและไม่โผล่มาด้วยซ้ำ

"ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่.... คุณไม่ไปไหนแล้วเหรอครับเห็นตอนแรกบอกรีบ"
ชายหนุ่มเลิกคิดซับซ้อนในหัวก่อนจะเอ่ยถามหลังจากเดินตามเข้าไปในลิฟท์อีกคนโดยยืนแทรกกลางทั้งคู่
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอคนนี้ต้องมาจากพลังของเขาแน่ๆ พลจึงตัดสินใจว่าจะลองทดสอบพลังใหม่นี้ด้วยตนเองแม้จะยังไม่รู้อะไรเลยก็ตาม

"อะ..... อา.... เออ.... พอดีเรานึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้ในห้องต้องกลับไปเอา นายรีบปิดลิฟท์ได้เลยนะนี่เก้าโมงแล้ว" หญิงสาวเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
จนคราวนี้จ๋าเป็นฝ่ายขมวดคิ้วบ้างเพราะรู้สึกงุนงงจนแอบคิดว่าผู้หญิงคนนี้ท่าทางจะประสาท

เมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามาเพิ่มอีกพลจึงกดปุ่มปิดก่อนที่สัญญานเตือนจะดังเพราะประตูถูกเปิดไว้นาน
ลิฟท์ขนาดกลางค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไปช้าๆโดยมีชั้นห้าเป็นจุดหมายของทั้งสาม
ในระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นช้าๆเพราะต้องการความปลอดภัย
หญิงสาวแปลกหน้าก็เอนร่างของเธอมาเบียดกับแขนซ้ายของพลและค่อยๆใช้หน้าอกสีไปมาช้าๆ

"อะแฮ่ม!!" จ๋าซึ่งคอยสังเกตุอยู่ตั้งแต่แรกกระแอมเสียงดังขึ้นด้วยความหมั่นไส้จนหญิงสาวรู้สึกตัวและผละร่างออกไป

"อะ... เออ.... นายชื่ออะไรเหรอ" เธอก้มหน้างุดๆด้วยความเขินอายเพราะเห็นชายหนุ่มตรงหน้าอมยิ้มด้วยความขำขัน
หญิงสาวกำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าทำไมเธอถึงได้เกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงขนาดนี้
ความสวยของเธอนั้นไม่ได้แพ้จ๋าเลยสักนิดเดียว เรียกได้ว่าแทบจะมีชายหนุ่มมาเข้าคิวจีบเธอด้วยซ้ำไป
แต่ตอนนี้ในหัวของเธอกลับต้องการเพียงแท่งเอ็นอุ่นๆของใครซักคนที่จะช่วยมาดับความร้อนรุ่มตรงหว่างขาของเธอได้
มันเป็นความต้องการที่ไม่อาจจะทานทนได้อีกต่อไป
เธอแทบอยากจะผลักชายหนุ่มตรงหน้าของเธอให้ล้มลงและขึ้นควบขย่มเองเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ
อ่าาาาาห์.... นี้มันเกิดอะไรขึ้นตัวเธอกันแน่นะ

 

"นี่! ก่อนจะถามชื่อคนอื่นคุณควรจะแนะนำชื่อตัวเองก่อนรึเปล่าคะ!" จ๋าสงเสียงกระแทกกระทันด้วยความรำคาญ
เกิดมาเธอก็พึ่งจะพบผู้หญิงที่แค่ได้มองหน้าก็ถูกใจจนแสดงอาการอยากโดนออกมาชัดเจนขนาดนี้
เธอมั่นใจว่าตัวเองค่อนข้างจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวกว่าผู้หญิงคนอื่นอยู่มากแล้วเพราะมั่นใจในความสวย
แต่วันนี้เธอกลับต้องรู้สึกยอมแพ้ให้กับผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ

"จริงด้วยซิ ขอโทษนะเราลืมไปเลย.... เออ... เราชื่อหยาหน่ะ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ...."
สาวหยากล่าวแนะนำตัวเองเสร็จก็เป็นจังหวะที่ลิฟท์เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ตรงชั้นห้าพอดี

ขณะนี้ตรงระเบียงทางเดินแทบจะไม่มีนักศึกษาคนอื่นเหลืออยู่แล้ว
พลจึงยกนาฬิกาที่สวมใส่อยู่บนแขนขวาขึ้นมาดูเวลาก่อนจะพบว่าพวกเค้าสายมาแล้วเกือยสิบนาที

"ผมว่าตอนนี้เรารีบไปกันก่อนดีกว่าครับสายมากแล้วด้วย เดี๋ยวเราค่อยไปคุยกันในห้องนะครับ"
พลเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้หยาและเดินนำออกไปเป็นคนแรกก่อนที่จ๋าจะรีบเดินตามออกไปโดยไม่สนใจหยาอีก

แต่หยากลับไม่ได้เดินตามไปในทันที เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ภายในลิฟท์และเม้มริมฝีปากล่างแน่นขณะมองดูร่างของพลค่อยๆเดินห่างออกไป
มโนธรรมในจิตใจส่วนที่ลึกสุดของเธอในของตอนนี้กำลังพยายามต่อต้านแรงราคะที่กำลังพวยพุ่งเป็นเฮือกสุดท้าย
แต่เพียงไม่นานนักตัณหาดำมืดก็เป็นฝ่ายชนะ มันกลืนกินสำนึกผิดถูกของหญิงสาวให้หายไปจนหมดสิ้น
ร่างบางของหยาจึงรีบวิ่งตามชายหนุ่มตรงหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ห้องเรียนนี้เป็นห้องเรียนที่ค่อนข้างใหญ่ ในห้องมีเก้าอี้สำหรับนักศึกษาถูกวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเป็นจำนวนมาก
ดูผ่านๆแล้วคงสามารถรองรับนักศึกษาได้เป็นร้อยๆ และตอนนี้กว่าครึ่งของห้องก็มีนักศึกษาคนอื่นนั่งจับจองเป็นกลุ่มๆอยู่เต็มไปหมด
เมื่อเข้ามาในห้องทั้งสามก็พบว่าอาจารย์สาวประจำวิชาเริ่มสอนไปเรียบร้อยแล้ว จะมีก็แต่นักศึกษาบางคนเท่านั้นที่หันมามองเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนรู้จักของตัวเอง

พวกพลที่เข้ามาใหม่จึงเลือกที่นั่งว่างซึ่งเป็นแถวสุดท้ายที่อยู่ใกล้กับประตูหลังห้องเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
ถึงทั้งสามจะเข้ามาด้วยกันแต่ก็ไม่ได้เลือกที่นั่งติดกันมากนัก พลนั่งอยู่ซ้ายสุดริมทางเดิน จ๋านั่งถัดไปจากพลโดยเว้นที่ว่างไว้สองที่ 
ส่วนหยานั้นนั่งห่างออกไปจากจ๋าจนเกือบจะริมขวาสุดของแถว เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วทั้งสามคนนี้แทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ

อย่างจ๋าพอจะรู้จักชื่อและเห็นหน้าพลอยู่บ้างเพราะเธอเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับมิ้นและอาย แต่นั่นก็แทบจะนับจำนวนครั้งที่เธอเคยเจอและพูดคุยกับพลได้
ที่วันนี้ดูเธอเหมือนจะให้ความสนิทสนมกับพลเป็นพิเศษ ก็เป็นเพราะชายหนุ่มบังเอิญโผล่มาและช่วยให้เธอวิกฤตพอดี
อีกทั้งจู่ๆจ๋าก็ยังรู้สึกเหมือนว่าพลจะหน้าตาหล่อเหล่าและมีเสน่ห์ขึ้นกว่าที่เคยเจออย่างไม่มีสาเหตุ
นั่นจึงทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกดีกับพลทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอก็แทบจะไม่ได้สนใจอะไรในตัวชายหนุ่มมากนัก
นอกเสียจากเงินในกระเป๋าและบัตรเครดิตจำนวนมากที่พลมักจะพกไว้เสมอ

ส่วนกับหยายิ่งแล้วใหญ่
เธอเพียงแค่รู้สึกมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอย่างประหลาดจนแทบทนไม่ไหวหลังพบเจอกับพล
หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่างจนอยากจะหาที่ระบายอารมณ์นี้ให้เร็วที่สุด
สัมผัสลึกลับบางอย่างบอกให้เธอรับรู้ว่า ผู้ชายตรงหน้านี้เท่านั้นที่จะเป็นคนคลี่คลายอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเธอให้หายไปได้
จ๋าจึงตัดสินใจที่จะติดตามชายหนุ่มที่พึ่งจะได้พบคนนี้เพื่อหาโอกาสปลดเปลื้องอารมณ์ของตัวเอง จนยอมทิ้งเรื่องสำคัญที่กำลังจะไปทำจนหมดสิ้น
หญิงสาวไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิดว่าการพบเจอกับพลในครั้งนี้ จะเป็นทั้งโชคดีและโชคร้ายในอนาคตที่กำลังจะมาถึง

วิชาที่ทั้งสามเข้าเรียนนี้คือวิชาสถิติเบื้องต้น ใช้เวลาเรียนทั้งหมดถึงสองชั่วโมงครึ่ง
ในคาบแรกนี้ส่วนใหญ่เป็นการทบทวนพื้นฐานและบอกถึงสิ่งที่นักศึกษาจะต้องเรียนในเทอมนี้
นักศึกษาแทบทุกคนในห้องต่างก้มลงจดรายละเอียดตามที่อาจารย์สาวประจำวิชาบอก แต่ก็มีนักศึกษาบางส่วนไม่ได้สนใจนัก
บางคนจับกลุ่มคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ส่วนบางคนก็ฟุบหลับเพราะนอนดึก ส่วนพลกับจ๋าเองก็กำลังก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดไปตามปกติ

"โธ่! มาหมดอะไรเอาตอนนี้เนี่ย" จ๋าบ่นอย่างหัวเสียเมื่อปากกาของเธอเริ่มเขียนไม่ติด
เธอพยายามสะบัดมันไปมาและลองเขียนใหม่อยุ่หลายครั้งก็ยังเป็นเช่นเดิม
หญิงสาวพ่นลมหายใจยาวก่อนจะก้มลงรื้อหาจากกระเป๋าถือส่วนตัวโดยหวังว่าจะบังเอิญเจอด้ามอื่น

"แย่แล้วๆ ทำยังไงดีเนี่ยจดไม่ทันแล้ว ยัยอายบ่นแน่ๆเลย" จ๋าพึมพำพร้อมกับโคลงหัวช้าๆเมื่อนึกถึงเพื่อนสาวของเธอที่คอยกำชับนักหนาว่าต้องจดรายละเอียดให้ครบ
แต่ตอนนี้ถึงเธอจะหาปากกาสักด้ามได้ก็คงจดไม่ทันแล้วอยู่ดี
สิ่งเดียวที่จ๋านึกออกก็คือหายืมสมุดของใครสักคนเพื่อเอามาคัดลอก และคนที่จ๋านึกถึงเป็นคนแรกก็คือพลนั่นเอง
เมื่อคิดได้ดั่งนั้นหญิงสาวจึงหันไปมองดูพลที่กำลังนั่งจดรายละเอียดอย่างตั้งใจ
สีหน้าขณะกำลังมุ่งมั่นทำอะไรสักอย่างของชายหนุ่มทำให้จ๋ารู้ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างประหลาด
หญิงสาวจ้องมองดูใบหน้าของพลอยู่นานจนเขารู้สึกตัวและหันมามอง

"มีอะไรรึเปล่าครับจ๋า" พลเอ่ยถามจ่าด้วยความสงสัยพอดีกับที่สายตาของเค้าประสานกับจ๋า

"ซื้ดด...." จ๋าสูดปากเบาๆโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะตรงท้องน้อย มันเป็นความรู้สึกเสียวสบายอย่างบอกไม่ถูก

"เออ.... มะ ไม่มีอะไร เราแค่จะขอยืมสมุดจดพลหลังจบคาบหน่ะ พอดีเราจดไม่ทัน พลรีบจดก่อนเถอะเดี๋ยว" จ๋ากล่าวจบเธอก็รีบก้มหน้าทันที
ยิ่งได้มองหน้าพลมากเท่าไหร่ เธอยิ่งใจเต้นแรงและรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น ทำไมชายหนุ่มตรงหน้านี้ช่างหล่อเหล่าขนาดนี้นะ

พลยิ้มบางๆให้จ๋าและรีบหันกลับไปจดต่อ อันที่จริงเขาก็แอบสงสัยอยู่ไม่น้อย
ว่าทำไมเพียงแค่จ๋ามองหน้าของเขาเธอก็เกิดอารมณ์สวาทขึ้นมาได้ และมันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขามองเธออยู่
'หรือว่าแค่มองก็สามารถปลุกอารมณ์คนอื่นได้' นั่นคือสิ่งที่พลคิดสงสัยในใจ
เขาจึงลองไล่มองไปยังผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ภายในห้องช้าๆทีละคน แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเธอยังคงนั่งนิ่งเฉยโดยไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา

"พะ พล... เราจะไปเข้าห้องน้ำ ฝากของด้วยนะ" อยู่ดีๆสาวจ๋าก็ลุกพรวดพราดขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าและรีบเดินออกไปทันที

ต้องย้อนกลับไปหลังจากที่จ๋ามองสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินสวยของพล
ยิ่งเธอมองสบตาเขานานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกเสียวสบายจนขนลุกชูชันไปทั่วทั้งตัว
อวัยวะเบื้องล่างของเธอร้อนวูบวาบจนต้องรีบหนีบขาทั้งสองข้างและบี้เบียดไปมาเพื่อคลายความรู้สึกนี้
เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองจนเมื่อรับรู้ถึงความเหนอะหนะตรงหว่างขา

"อึ้ยส์... ทำไม่เราฉี่เล็ดได้เนี่ย อู๊ยส์... เปียกไปหมดเลยทำยังไงดี"
จ๋ากระซิบกับตัวเองด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ล้วงมือไปสัมผัสกางเกงในและพบว่ามันเปียกชุ่มไปหมด
เธอเริ่มรู้สึกคล้ายกำลังปวดปัสสาวะมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องพยายามอั้นเอาไว้ ตอนนี้หญิงสาวกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
จนท้ายที่สุด เธอก็สรุปว่าตัวเองน่าจะเริ่มเป็นไข้และกำลังปวดปัสสาวะอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ
หลังจากนั้นเธอก็ตัดสินใจเอ่ยฝากของกับพลและรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที

"อ่าห์... ค่อยสบายตัวหน่อย แล้วจะทำยังไงกับกางเกงในดีเนี่ย เห้อ.... เปียกแบบนี้คงใส่ไม่ได้แล้ว"
จ๋าบ่นอย่างเซ็งๆหลังจากปล่อยของเหลวสีเหลืองใสออกจากร่องสาวจนหมด
เธอรู้สึกโล่งสบายขึ้นมากพลางนึกขำตัวเองที่ปล่อยให้ฉี่เล็ดจนเปียกกางเกงในแบบนี้

"ช่างมัน คงไม่มีใครรู้หรอก เดี๋ยวก็หมดคาบแล้วค่อยไปซื้อมาใส่ใหม่ก็ได้"
จ๋าตัดสินใจถอดกางเกงในที่เปียกโชกออกและม้วนมันใส่ถุงพลาสติกที่พกไว้เสมอก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะ
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอก็พยายามที่จะดึงรั้งกระโปรงสั้นทรงเอที่สวมใส่ไว้ให้ต่ำลงมาเยอะที่สุด
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่สามารถที่จะดึงให้ต่ำลงมามากกว่าหัวเข่าของเธอได้
สุดท้ายจ๋าจึงต้องปล่อยเลยตามเลยและเดินกลับเข้าห้องเรียนไปโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตุเห็น

..................................................................

"เห้ย! ไอ้กร! ทำไมมันเงียบไปเลย ไหนบอกกำลังมาไงวะ กูรอจอควยหดหมดแล้วเนี่ย"
เสียงของไอ้บาสดังขึ้นอย่างอารมณ์เสียหลังจากที่นั่งรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่มีใครโผล่มาแม้แต่เงา

"ไม่รู้ว่ะ เห็นบอกว่ากำลังมาๆ อยู่ใกล้แค่นี้เอง กูลองโทรไปแม่งก็ไม่ยอมรับสาย สงสัยอีนี่จะวอนซะแล้ว" ไอ้กรเองก็หัวเสียไม่แพ้กัน
พวกมันทั้งคู่ไม่เคยพบเจอหญิงสาวที่กล้าขัดคำสั่งของพวกมันมาก่อน
ปกติแค่กระดิกนิ้ว หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของพวกมันก็แทบจะคลานเข้ามาหาแล้ว

"เอาไงดีวะไอ้บาส จัดชุดใหญ่ให้อีนี่เลยดีมั้ยจะได้รู้ว่านรกมีจริง"

"ใจเย็นๆเพื่อน อีนี่พึ่งมาใหม่ อาจจะยังไม่รู้ชื่อเสียงของเรา กูว่าแค่สั่งสอนมันก็พอ"

"สั่งสอน? มึงจะสั่งสอนมันยังไงวะ" ไอ้กรถามด้วยน้ำเสียงสงสัย เพราะไอ้บาสมักจะมีความคิดอะไรดีๆให้มันแปลกใจอยู่เสมอ
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไอ้บาสนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนที่มันจะแสยะยิ้มและเอ่ยสิ่งที่มันคิดให้เพื่อนของมันฟัง

"มึงรู้ที่อยู่มันใช่ไหมหล่ะ ในเมื่อเราเรียกแล้วมันไม่ยอมมา สงสัยคืนนี้เราคงจะต้องแวะไปทักทายน้องหยาถึงที่ห้องกันซะหน่อยแล้วว่ะ ฮ่าๆ"
ไอ้บาสหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจจนเพื่อนชั่วของมันพากันหัวเราะตามไปด้วย
พวกมันทั้งคู่แทบจะอดใจรอให้เวลากลางคืนมาถึงไม่ไหวแล้ว....

..................................................................

ทุกท่านสามารถเข้าไปแนะนำติชมเพิ่มเติม หรืออ่านเรื่องอื่นๆได้ที่นี่
My living room [GoderSoul]...

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

cd13579

#1
เริ่มปั้นลงบ้างดีกว่าแย่งลูกค้า 555555 ผู้ครองพลังแห่งบาปไปไหนซะละ

เต็มร้อยสักที จ๋ารอดเฉย แต่ตอนหน้าพลต้องเก็บแต้มเพิ่มละมั้ง หาทาสเยอะๆเวลจะอัพไวๆ
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

avena

สาวจ๋าคงจะไม่รอดจากคู่หูเอบี คงต้องรอลุ้นว่าพระเอกจะโพล่มายังไง คงจะต้องรอติดตามตอนต่อไป ::Shower::

forzakhan

มาลองดูว่า จ๋าจะมีอะไรพลิกล็อคหรือเปล่า ดูแล้วร้ายพอตัวเลย

thep59

น้องจ๋าจะรอดเงื้อมือจากคู่หูเอบีไหมนะ ต้องรอลุ้นรอติดตาม

SNGOT


ZeldaZ

#6
เยสสส นึกว่าจะเลิกเขียนไปแล้ว ขอรับไปอ่านก่อนนะครับไรท์ เดี๋ยวมาให้feedback  ::DookDig::
////////////
สมเป็นภาคใหม่ พลหายไปเลยสงสัยฟาร์มเวลอยู่ 5555

sunnyman

ขอบคุณมากครับ ที่กลับมา ถ้าเป็นเรื่องอื่น AB คงได้ สาวไปทะลวง แต่พอเป็นเรื่องนี้ ก็มีลุ้นครับว่า ใครจะเป็นเหยื่อใคร รอชมฉบับเต็มนะครับ ขอบคุณมากครับ

ballbergkamp


may_290607908


winds

แวะมาลงชื่อว่ายังติดตามอยู่ครับ
สาวจ๋าจะรอดจากเอบีมั้ยนั้น..

WACHIRA SAKAEW

ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับเลยครับ ลุ้นทุกตอนเลย555
ไม่รู้ว่าทำเป็นจักรวาลหรือป่าว  อย่างนั้นยาวๆเลยครับชอบ

peddo

น่าสนนะครับว่าเอบีจะเจอดีหรือเปล่า เรื่องแนวนี้เด่น แต่ชอบครับ ลึกลับดี ขอบคุณครับ

eveden

#13
สวัสดีครับ  แวะเวียนเข้ามาให้กำลังใจครับไรเตอร์
ึ7 sins  เป็นเรื่องนึงที่ผมเฝ้าติดตามมานาน  มีรีไรท์เสริมหลายรอบซึ่ง  ก็อ่านครบทุกอัน  สำนวน รายละเอียดอ่านแล้วชอบมากขึ้นเรื่อยๆ
คิดว่ารูปแบบ ไรท์คงจะให้ความใคร่เป็นตัวนำหลักรึเปล่า   ใจก็อยากให้เพื่อนพระเอกวัยเด็กได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งนะครับ ออกมาสองตอนเอง T T
ขอบคุณที่สละเวลามาแบ่งปันเรื่องราวครับ

************

ติดตามต่อไปเรื่อยๆครับบอกได้แค่นี้ อิอิ

GoDersoUL 11/08/60

P Eet ✦Diamond✦

Hhmmm ... this is getting interesting ...   ::GiveMe:: 

Since the title is "eye of lust"
I would think... those 2 will become her victims by "lust" will be poetic justice... 555  ::HoHo:: 

Will hold my review until full EP ...   ::Doubt:: 

Disclaimer: The view and opinion expressed on this website are solely those of my very own. It is solely for the purpose of entertainment and has NO meaningful value of any kind. They DO NOT necessarily represent those of the majority of READERS & WRITERS of this website staff, and/or any/all contributors to this site.

ஜ۩۞۩ஜ THANK YOU ஜ۩۞۩ஜ 



❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

DIAMONDS ARE FOREVER !!!

   ..... (¯`v´¯)♥
   .......•.¸.•´
   ....¸.•´
   ... (
   ☻/
   /▌♥♥
   / \ ♥♥