ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ตามหาคนที่ใช่(นักข่าวสาว)

เริ่มโดย twintower, ตุลาคม 20, 2017, 03:01:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

ผมนั่งมองพื้นดินเบื้องล่างผ่านหน้าต่างของเครื่องบิน พื้นดินของเมืองไทยในยามเช้าที่ปรากฏสู่สายตาที่ชัดเจนขึ้นทุกขณะจากที่นั่งชั้น 1 บนเครื่องบิน จากการเดินทางอันยาวนานคนละซีกโลกด้วยการนั่งเครื่องบิน 2 ต่อ  6 ปีกว่าแล้วสินะที่ผมไม่ได้กลับมาที่เมืองไทยเลย หลังจากที่เครื่องลงจอดและเทียบกับงวงช้างเป็นที่เรียบร้อย ผมปลดเข็มขัดก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมบิดตัวไปมาคลายความเมื่อยล้าแล้วลากกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆ เดินออกจากเครื่องบิน  ก่อนจะรับคำขอบคุณจากบรรดาพนักงานบนเครื่องโดยเฉพาะหัวหน้าพนักงานต้อนรับที่จะส่งยิ้มให้ผมเป็นพิเศษ และผมก็ตอบรับคำขอบคุณจากทุกคนด้วยความเต็มใจ  เพราะตลอดการเดินทางจากญี่ปุ่นมาเมืองไทย บรรดาพนักงานต้อนรับทั้งชายและหญิงต่างมาขอถ่ายรูปคู่กับผมและขอลายเซ็น ซึ่งผมก็มอบให้ด้วยความเต็มใจ เพราะเมื่อหลายปีก่อน ผมก็เจอแบบนี้เป็นประจำ แต่ที่สหรัฐอเมริกาประเทศที่ผมทำงานอยู่ในปัจจุบันผมคือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นทำไมนะหรือครับ

งั้นผมขอเล่าย้อนประวัติของผมให้ฟังก่อนแล้วกัน ผมเป็นคนไทยนี่แหละครับ แต่โชคดีที่เกิดในครอบครัวที่พอจะมีฐานะและก็เหมือนกับเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล  ทำให้ผมเริ่มหัดเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กๆและด้วยการสนับสนุนที่ดีจากพ่อ ซึ่งพ่อผมนั้นเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งทำให้รู้จักกับผู้คนมากมาย จนมีการเปิดคัดเลือกนักฟุตบอลเยาวชน ของสโมสรหนึ่งที่บริษัทที่พ่อผมทำงานเป็นผู้บริหารอยู่นั้นเป็น สปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนอยู่ ทำให้พ่อนำผมไปร่วมคัดเลือกด้วย  โดยอาศัยเส้นสายบวกกับฝีเท้าที่ผมฝึกฝนมาตลอดทำให้ผมได้รับคัดเลือกเข้าเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรที่มีอดีตนักเตะทีมชาติเป็นผู้ฝึกสอนอยู่นั้นไม่ยาก

และภายใต้การดูแลฝึกสอนของอดีตนักเตะทีมชาติทำให้ผมพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาแถมยังคลุกคลีอยู่ในวงการไม่ว่านัดสำคัญๆของสโมสรหรือทีมชาติ ผมได้รับเลือกให้ไปเป็นเด็กเก็บบอลข้างสนามเป็นประจำ จนในที่สุดผมได้รับเลือกให้ติดทีมชาติในชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ตั้งแต่อายุ 14 ขวบและแสดงผลงานในตำแหน่งกองกลางตัวรุกได้เป็นอย่างดี จนได้รับคัดเลือกให้เป็น 1ในเยาวชนที่ได้ไปฝึกกับสโมสรยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน ซึ่งนั่นถือเป็นจุดพลิกผันในชีวิตของผม เพราะตลอดการฝึกระยะสั้นๆ ใน 1 เดือน  ฝีเท้าของผมไปเข้าตาในโค้ชระดับเยาวชนของสโมสร แต่นอกจากฝีเท้าแล้วผมได้เปรียบเด็กไทยคนอื่นๆที่ไปฝึกด้วยคือเรื่องของภาษา เพราะผมนั้นเรียนในโรงเรียนนานาชาติทำให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลยเป็นข้อได้เปรียบทำให้สื่อสารกับทีมงานที่มาสอนได้อย่างดี  จนทางสโมสรเสนอให้เข้าร่วมเป็นนักเตะทีมเยาวชนของสโมสร ซึ่งทางผมกับครอบครัวตอบรับทันที แม้จะห่างบ้านห่างครอบครัว แต่ผมถือว่าเป็นโอกาสที่ไม่น่าจะปล่อยให้หลุดมือ ถึงจะมีปัญหาในการปรับตัวในช่วงแรกๆ ทั้งเรื่องภาษาวัฒนธรรม แต่ผมก็อดทนและฟันฝ่าไปได้ โดยผมอยู่ในหลักสูตรที่ทั้งฝึกฟุตบอลและการเรียนควบคู่กันไป

พอเริ่มปรับตัวได้และสามารถสื่อสารภาษาท้องถิ่นได้ชำนาญขึ้น ทำให้ผมไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิต ควบคู่กับการพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นตัวหลักของชุดเยาวชนของสโมสรในชุดอายุไม่เกิน 19 ปีพร้อมกับข้อเสนอให้โอนสัญชาติ ซึ่งผมได้ปรึกษากับทางบ้านกับผู้ใหญ่หลายๆคนก่อนจะปฏิเสธไปและได้รับการเรียกให้ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งมักจะเป็นตัวสำรองซะส่วนใหญ่ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับเยอรมันกับประเทศไทย ผมก็ยอมและทำให้ชื่อเสียงของผมได้รับการเอ่ยถึงในสื่อหลักๆของเมืองไทยจนกลายเป็นที่จับตามอง  จนในที่สุดผมได้รับข้อเสนอให้เป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของสโมสร ตรงจุดนั้นเองทำให้ผมมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที สื่อในเมืองไทยประโคมข่าวผมตลอดบางรายถึงกับส่งทีมงานบินมาสัมภาษณ์ผมถึงเยอรมัน  ชื่อเสียงของผมได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วและทำให้ถูกจับตามองเพิ่มขึ้น  ยิ่งพอผมได้รับโอกาสตรงนี้ทำให้ผมต้องเหนื่อยเพิ่มจากทั้งหน้าที่นักเตะอาชีพ และเรื่องการเรียนที่ผมเลือกทางด้านวิศวะ  จนผมพัฒนาฝีเท้าได้กลายเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสร  ถึงผมจะโชว์ฝีเท้าได้น่าประทับใจในระดับสโมสรแต่กลับกันในนามทีมชาติ ผมนั้นเล่นได้อย่างธรรมดามาก  แต่ตรงนี้หลายๆคนพอจะเข้าใจว่าผมนั้นมีพัฒนาการเล่นที่สูงกว่าคนอื่น จนมีปัญหาในเรื่องการเล่นเป็นทีมแต่ก็ถูกวิจารณ์ไปพอสมควร ซึ่งผิดกับสโมสรที่ผมได้เล่นร่วมกับผู้เล่นฝีเท้าดีระดับโลกหลายคน และบางทัวร์นาเมนท์  ทางสโมสรก็ไม่ปล่อยตัวมาให้เล่นทีมชาติเพราะไม่ใช่การแข่งขันที่ฟีฟ่ารับรอง

ในระดับสโมสรผมประสบผลสำหรับอย่างมาก ได้แชมป์ในหลายรายการแม้จะมีบางครั้งที่ประสบปัญหาจากการบาดเจ็บเป็นเวลา3-4 เดือนก็ตามที  จนผ่านไปได้หลายปีผมได้รับข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้จากสโมสรยักษ์ใหญ่ในสเปนที่มีการทาบทามผมมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะที่ผมเรียนจบปริญญาตรีพอดี ผมจึงตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งที่สเปน ด้วยค่าตัวที่สมน้ำสมเนื้อแม้จะไม่เทียบเท่ากับนักเตะระดับโลกในยุคนั้น  ในตอนนั้นหลายๆคนได้ถามว่าผมทำไมผมถึงไม่ย้ายไปเล่นที่อังกฤษ ที่คนไทยสวนใหญ่สนใจติดตามอย่างมาก  แต่ผมก็บอกเหตุผลไปว่า สภาพอากาศในอังกฤษและลักษณะรูปแบบการเล่นบอลอังกฤษไม่เหมาะกับผม  แต่ในบอลในสเปนหรือเยอรมันนั้นเหมาะกับผมมากกว่าซึ่งผมทำได้จริงตามที่บอก เพราะในสเปนผมก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ผลงานในทีมชาตินั้นตรงกันข้าม จนในที่สุดผมตัดสินใจเลิกเล่นทีมชาติตอนอายุได้ 30 ปี หลังจากที่ทีมชาติไทยไม่ผ่านรอบคัดเลือกไปฟุตบอลโลก ทำเอาเป็นข่าวดังพอสมควร แต่ผมก็ยืนยันตามคำพูดแม้จะมีการร้องขอให้ทบทวนใหม่จากผู้ใหญ่ที่นับถือ และต่อมาหลังจากนั้นปีเศษๆ หลังจากที่จบฤดูกาลทีมที่ผมร่วมอยู่สามารถคว้าแชมป์ลาลีกาได้อีกสมัยรวมถึงแชมป์ยุโรป  ผมตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการโดยให้เหตุผลว่าผมพอแล้ว และถึงจุดอิ่มตัว แต่ลึกๆแล้วผมอยากเลิกเล่นในช่วงที่ผู้คนจดจำในฐานะนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่นักฟุตบอลที่โรยราแล้วไปเล่นกับทีมเล็กๆจนสภาพร่างกายไม่ไหว

หลังจากนั้นผมได้มาเรียนต่อปริญญาโทจนจบที่สหรัฐในด้านวิศวะ และได้เข้าร่วมงานกับบริษัทระดับโลกบริษัทหนึ่ง ในฐานะวิศวกรคอมพิวเตอร์ ซึ่งรายได้มันต่างกับช่วงผมเป็นนักฟุตบอลมากมาย  แต่ผมก็พอใจและอีกอย่างรายได้ต่างๆที่ผมได้มาในช่วงเป็นนักฟุตบอลนั้นมากมายมหาศาลจนเกินพอ  นี่แหละครับคือประวัติย่อๆของผม และตอนนี้เท้าของผมได้สัมผัสกับแผ่นดินเกิดหลังจากที่ไม่ได้กลับมาหลายปี ไม่ใช่อะไรหรอกครับ  ผมสนุกกับงานและเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวที่สหรัฐ แต่พ่อกับแม่ก็เดินทางไปหาผมเป็นประจำ และช่วงนี้ผมลาหยุดได้ 3 อาทิตย์ผมที่รู้สึกว่าตะลอนเที่ยวอเมริกามาจนเบื่อแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกอยากกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด หลังจากที่ผ่านเรื่องตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย  ผมเดินออกมาด้านนอกก็พบ  พ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่ผมตรงเข้าไปไหว้พ่อกับแม่และทักทายกันชั่วครู่ก่อนที่พ่อจะเดินนำออกมาภายนอกอาคารส่วนแม่นั้นโทรศัพท์บอกคนขับรถให้นำรถมารับ   ก่อนที่รถตู้คันหรูนำผมกับพ่อและแม่กลับบ้าน  บ้านที่ผมห่างหายไปนานหลายปี  ผมไม่ได้คุยอะไรกับพ่อและแม่มากนักเพราะยังอ่อนเพลียจากการเดินทาง ถึงแม้ผมจะดูแลร่างกายให้แข็งแรงเหมือนเดิมก็ตามทีด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ  หรือไม่ก็เข้าร่วมแข่งวิ่งมาราธอนเมื่อมีโอกาส แต่การเดินทางร่วม 1 วันนี้ก็ทำเอาเพลียไปเหมือนกัน

หลังจากที่มาถึงเมืองไทยได้ 1 วัน  ผมได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้ไปออกรายการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งซึ่งผมอยากจะปฏิเสธเพราะอยากจะมาพักผ่อนแบบเงียบๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะความเกรงใจและบุญคุณที่เคยเกื้อหนุนกันมา แต่ผมก็ยังยึดถือแบบตอนสมัยที่ผมเป็นนักฟุตบอลอยู่คือ ขอดูเนื้อหาที่จะสัมภาษณ์ก่อน  ซึ่งทางทีมงานรีบส่งมาให้ทันที ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการใช้ชีวิตของผมในปัจจุบันและความเห็นของฟุตบอลในยุคปัจจุบัน ซึ่งผมอ่านแล้วก็เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรก่อนจะยืนยันวันที่จะไปร่วมรายการซึ่งไม่ใช่รายการสด และในวันต่อมาผมได้ไปบันทึกเทปรายการซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดีเพราะพิธีกรหรืออีกนัยหนึ่งเจ้าของรายการนั้นสนิทกับผมเป็นอย่างดีแต่ระหว่างนั้นมีนักข่าวสาวคนหนึ่งเข้ามานั่งดูผมบันทึกรายการด้วย  ซึ่งผมกับเธอไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนแต่ เธอนั้นเป็นคนที่ดังพอสมควรเธอเป็นทั้งนักข่าวพิธีกรที่ฝีปากกล้าและเป็นดาราที่ไปรับเชิญเล่นหนังมาแล้วหลายเรื่อง  ยิ่งในยุคปัจจุบันโลกออนไลน์มันสามารถสื่อสารกันได้ทั่วและไร้พรมแดน ทำให้ผมนั้นรู้จักเธอผ่านทางสื่อออนไลน์

จนอัดรายการเรียบร้อย ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องส่งเธอได้รีบเดินมาหาผม พร้อมแนะนำตัวว่าเธอชื่อพัช อยากจะขอให้ผมไปออกรายการที่เธอเป็นพิธีกรอยู่โดยใช้เวลาไม่นาน เธออยากจะชวนไปพูดคุยเรื่องการออกกำลังและการรักษาสุขภาพเพราะเธอเองนั่นก็เป็นคนที่ออกกำลังและรักษาสุขภาพตลอดเหมือนกับผมดูแลร่างกายตลอด แต่ผมได้ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ  เธอพยายามอ้อนวอนแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนเธอขอเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแทน แต่จะขอนำบทสนทนาไปบอกต่อในคอลัมน์เกี่ยวกับสุขภาพของหนังสือที่เธอเขียน ซึ่งผมตอบตกลงโดยให้เธอเป็นคนนัดวันเวลามา เราต่างแลกเปลี่ยนเบอร์กันและเธอขอเซลฟี่ผมเพื่อจะลงใน IG และผมขอแยกตัวไปทำธุระส่วนตัว  ธุระอะไรนะหรือผมมีนัดกับดาราสาวรุ่นใหญ่ชื่อดังคนหนึ่งไว้นะสิ

เพราะมีอยู่อย่างหนึ่งที่แทบจะไม่มีใครรู้เลยว่าระหว่างที่ผมเป็นนักฟุตบอลนั้นผมมีสัมพันธ์สวาทกับคนมีชื่อเสียงหลายคน ไม่ว่าจะเป็นดารา,นักร้อง,นางแบบ บางคนบินไปเสนอตัวให้ผมถึงเมืองนอกบางคนก็มานอนกับผมตอนกลับมาเมืองไทย มีทั้งความสัมพันธ์แบบคืนเดียว  แต่บางคนก็มีระยะเวลาที่นานหน่อยแต่ไม่ผูกพัน และก็มีบางคนที่ยังติดต่อกับผมอยู่ในฐานะเพื่อนหรือคนรู้จัก แต่มีนักร้องอยู่สองคนที่ยังไม่แต่งงานและถ้าไปที่อเมริกาเธอจะแวะไปปรนเปรอสวาทให้กับผมตลอด ซึ่งในปัจจุบันนี้หลายคนได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว แต่บางคนแต่งงานแล้วมีลูกแล้วและก็หย่ากับสามีเรียบร้อยและวันนี้ผมมีนัดกับดาราที่เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งเธอพึ่งหย่าขาดกับสามีของเธอไม่นานเท่าไหร่นัก  แต่เรื่องที่จะเล่าในตอนนี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ของผมกับเธอขอไว้เล่าในตอนต่อๆไปก็แล้วกันครับ

หลังจากนั้น2-3วันพัชได้โทรมาหาผมเพื่อจะทำตามที่เธอบอกไว้ เรานัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในช่วงค่ำของวันถัดมาซึ่งผมไปตรงตามเวลาแต่เธอนั้นไปถึงก่อน และเธอทำตามสัญญาระหว่างที่เราทานอาหารไปเราคุยกันไปถ้าถึงช่วงที่เธอสนใจเธอจะขอจดบันทึกไว้ และเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องของการออกกำลังกายได้อย่างดี เพราะตัวเธอนั้นได้ลงทำการแข่งวิ่งมาราธอนเช่นเดียวกัน แต่ก่อนหน้าที่หน้าที่ผมจะมาพบเธอ ผมได้ลองค้นหาข้อมูลของเธอมาพอสมควร เธอไม่ใช่คนสวยตัดผมสั้นและผิวคล้ำถึงอายุก็เข้าวัย 30แต่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ผมเข้าไปดูภาพที่เธอโพสต์ในเฟซบุ๊กหรือ IG ของเธอ ทำให้รู้ว่าเธอนั้นหุ่นนักกีฬาจริงๆ หน้าท้องมีซิกแพ็ค  เธอนั้นทานอาหารเพื่อสุขภาพและออกกำลังอย่างหนักทั้งฟิตเนสและเล่นโยคะ จนในที่เธอวกมาถามผมถึงเรื่องฟุตบอล

"ทำไมคุณถึงไม่สนใจวงการฟุตบอลอีกละคะ  เหมือนจะทิ้งไปเลยก็ได้ เพราะเท่าที่พัชรู้มาจากพวกนักข่าวสายกีฬาคุณก็มีความรู้เรื่องฟุตบอลเป็นอย่างดี  คือพูดง่ายๆว่าเป็นโค้ชฟุตบอลได้เลย"

ผมยิ้มก่อนจะพิงไปที่พนักเก้าอี้แล้วตอบเธอไป

"ไม่ละครับ  ผมมีข้อเสียตรงที่สอนหรือถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจยากครับ และไม่มีจิตวิทยาในการพูดเพื่อจะกระตุ้นนักกีฬาครับ  ผมรู้ตัวเองดีว่าไม่เหมาะ  ขอเป็นคนดูดีกว่าครับ"

"แต่พัชก็เห็นคุณอธิบายตอบข้อสงสัยได้ดีนี่คะ"

"มันไม่เหมือนกันครับ อืมมมมมมม ผมอธิบายยากจังเรื่องตรงนี้คือถ้าจะคุยกันแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาครับเหมือนถาม ตอบทั่วๆไป  แต่พอจะคุยกับหลายๆคนในเรื่องการสอนการแก้เกมส์ผมอธิบายให้คนอื่นเข้าใจลำบากครับ มันเป็นตั้งแต่สมัยเล่นฟุตบอลแล้ว คือบางทีโค้ชบอกกับผม ผมเข้าใจแต่พอไปบอกเพื่อนร่วมทีมกลับไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไหร่ครับ"

"อ๋อพอจะเข้าใจแล้วคะ"

เธอตอบพร้อมพยักหน้าก่อนจะชวนกลับคุยเรื่องการวิ่งมาราธอนกันอีกครั้ง  เพราะเธอนั้นก็พึ่งเข้าร่วมได้เพียง2-3ครั้งในระยะทาง 10กิโล แต่เธอนั้นสนใจที่อยากจะวิ่งให้ได้ถึง42กิโล เธอจึงได้สอบถามการเตรียมตัวจากผม  ซึ่งผมก็อธิบายคร่าวๆแต่เธอเข้าใจได้อย่างดี  เพราะพื้นฐานของการออกกำลังของเธอ แต่พอเธอสั่งไวน์มาดื่มซึ่งผมปฏิเสธเพราะปกติผมมักจะไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มทีมีแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แต่หลังจากเธอดื่มแก้วที่สองเข้าไปแววตาของเธอนั้นเริ่มเปลี่ยนไป พร้อมหัวข้อการพูดคุย  จากเรื่องของสุขภาพการออกกำลังกายเปลี่ยนมาเป็นเรื่องส่วนตัว  แต่ผมนั้นพอจะรู้มาบ้างว่าชีวิตของเธอนั้นแทบจะไม่เรื่องผู้ชายเข้ามาข้องเกี่ยวอาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของเธอที่เป็นผู้หญิงปากกล้า อาจจะไม่มีใครมากล้าจีบ ซึ่งในการสนทนาในเรื่องส่วนตัวผมตอบเท่าที่จะตอบได้และมีบอกปัดไปในหลายๆเรื่อง แต่จากประสบการณ์ในเรื่องผู้หญิงที่ผ่านมาผมก็แอบคิดไม่ได้ว่าเธอกำลังให้ท่าผม 

แต่แล้วในสุดทุกอย่างมันก็เป็นไปตามที่ผมคิดเพราะแววตาของเธอผมดูออกว่าเชื้อเชิญ นิ้วมือของเธอมาเขี่ยที่หลังมือของผมที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่เธอจะเอ่ยเชิญชวน

"เราจะไปต่อที่ไหนกันดีคะ"

ผมเห็นแบบนี้แล้วคงจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือในเมื่อแววตาของเธอเชื้อเชิญขนาดนี้เลยตอบไปว่า

"แล้วแต่คุณพัชแล้วกันครับ  ผมไม่ค่อยรู้จักร้านสักเท่าไหร่"

เธอยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะบอกกับผม

"งั้นขับรถตามพัชมาแล้วกันคะ"

ผมยิ้มตอบก่อนจะจัดการชำระค่าอาหารแล้วเดินตามเธอๆไปที่รถ ซึ่งรถของเราทั้งคู่จอดกันไม่ห่างเท่าไหร่นัก เธอทิ้งสายตาให้ผมอีกครั้งก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถของเธอ ผมเดินไปที่รถแล้วขับรถตามรถของเธอไปจนถึงคอนโดแห่งหนึ่ง ผมขับรถไปจอดด้านหน้าคอนโดซึ่งเธอจอดรถรอผมเพื่อจะได้เข้าไปในคอนโดพร้อมๆกันจนไปถึงห้องของเธอซึ่งตลอดทางจากลานจอดรถไปจนถึงหน้าห้องของเธอเราไม่ได้คุยอะไรกันเลย พอก้าวเข้าไปในห้องของเธอ ผมถอดรองเท้าตรงประตูแล้วเธอเชิญให้ผมนั่งบนโซฟาร์ตัวหรู ก่อนที่เธอจะหยิบรีโมทมาเปิดแอร์แล้วถามผมว่าอยากดื่มอะไร ผมตอบไปสั้นๆ

"แล้วแต่คุณพัชแล้วกันครับ"

เธอยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขก ทำให้ผมมีโอกาสมองสำรวจห้องพักของเธอ ที่จัดว่ากว้างใหญ่  ซึ่งเป็นคอนโดหรู ห้องแบ่งเป็นสัดส่วนซึ่งไม่น่าจะแปลกใจเพราะเธอนั้นทำเงินจากงานที่รับอยู่เป็นจำนวนมากรวมถึงรถที่เธอขับเป็นรถราคาแพงถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ไม่ต่ำกว่า4-5ล้านบาทส่วนห้องนี้น่าจะ 10 ล้านขึ้นไป  พัชเดินกลับเข้ามาพร้อมขวดไวน์และแก้วไวน์อีก 2ใบ เธอนั่งลงบนโซฟาร์ตัวที่ติดกับผมนั่งอยู่จนเข่าของเราชนกัน เธอจัดการรินไวน์ให้กับผมซึ่งเรื่องมาถึงขนาดนี้ผมไม่ปฏิเสธแล้ว แถมยังกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างดี เราจัดการชนแก้วกัน ก่อนที่เธอจะถามผม

"ห้องพัชสวยไหมคะ"

"แต่งได้ดีครับ"

"แล้วบ้านคุณที่สหรัฐละคะ"

"ก็ธรรมดาครับ ไม่ได้แต่งอะไรพิเศษ  ผมจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ทุกวันเพราะผมไม่มีเวลา"

"แม่บ้าน"

เธอทวนคำบอกของผม

"ใช่ครับ เพราะผมอยู่คนเดียวนานๆพ่อกับแม่ผมถึงจะบินไปเยี่ยม"

"แล้วไม่คิดจะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยหรือคะ"

"คงอีกนานครับ ผมชอบใช้ชีวิตทำงานที่เมืองนอกมากกว่าและที่ทำอยู่มันก็ตรงกับที่เรียนมา"

"คงเหมือนกับพัชที่สนุกกับงาน"

เธอพึมพำออกมาก่อนจะชวนผมคุยเรื่องทั่วๆไป  เธอเล่าถึงชีวิตการเรียนการทำงานของเธอและการหาข้อมูลเพื่อจะมาเขียนหนังสือรวมถึงสาเหตุที่เธอสนใจมาออกกำลังกายก่อนที่เธอจะถามผมในเรื่องนี้ ผมจึงตอบไป

"ก็ไม่มีอะไรมากครับ ชีวิตผมมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว  และอีกอย่างถ้าผมไม่ออกกำลังรับรองว่ากล้ามเนื้อที่มีอยู่มันจะกลายเป็นไขมันและผมจะกลายเป็นคนที่อ้วนฉุแน่นอน  ตัวอย่างมีให้เห็นหลายคนแล้ว"

ผมพูดจบก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว พอผมวางลงบนโต๊ะเธอรีบหยิบขวดไวน์ขึ้นมาเพื่อจะรินให้แต่ผมรีบเอามือไปจับที่ขวดเพื่อจะห้ามเธอ ทำให้มือของเราสัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจ สายตาของเราทั้งคู่ประสานกัน  ซึ่งถึงตรงนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก  เพราะจังหวะทุกอย่างมันลงตัวใบหน้าของเราทั้งคู่ต่างยื่นเข้าหากัน พร้อมกับปากประสานกันทันที พัชรับการจูบของผมอย่างเต็มใจและดูดดื่ม เราต่างแลกลิ้นกันไปมาจนผมถอนหน้าออกมา ตาของพัชหลับสนิทและลืมขึ้นหลังจากที่ผมถอนหน้าออกมา เธอไม่พูดอะไรมา แต่ทำกิริยาเชื้อเชิญให้ผมมานั่งบนโซฟาร์ตัวยาวที่เธอนั่งอยู่ ผมจึงเลื่อนตัวมานั่งข้างๆเธอ และก่อนที่ผมจะทันตั้งตัวพัชใช้มือทั้งสองข้างโอบรอบคอผม ดึงให้ตัวผมเข้ามาชิดกับเธอ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้า และเอาปากมาประกบกับปากผมอีกครั้ง มือของผมก็ไม่อยู่เฉยโอบรอบตัวเธอเช่นกัน ก่อนที่เธอจะปล่อยให้ผมซุกไซร้ไปตามลำคอของเธอ พัชครางออกมาอย่างแผ่วเบา

แต่พอผมจะดันตัวเธอให้นอนราบไปบนโซฟาร์เธอกลับขืนตัวไว้ แต่ยอมให้ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแต่ผมยังปลดไม่หมด  มือของเธอข้างหนึ่งได้เลื่อนลงมาลูบที่เป้ากางเกงผม ก่อนจะขยำเบาๆ แต่มือของผมได้ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมสัมผัสกับยกทรงซึ่งเจอแต่ฟองน้ำ พอผมทำท่าจะล้วงเข้าไปภายในยกทรงเพื่อจะสัมผัสกับเนื้อแท้ มือของพัชกลับเลื่อนมาปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงของผมก่อน  นี้เป็นไม่กี่ครั้งที่ผมถูกฝ่ายหญิงรุกก่อน เธอจัดการถอดทั้งกางเกงตัวนอกตัวในรวมทั้งถุงเท้า เมื่อท่อนล่างผมเปลือยเปล่า พัชไม่รอช้าเอามือไปลูบคลำควยของผมที่เริ่มจะแข็งตัวก่อนจะรูดไปมา ทำเอาผมครางออกมาอย่างแผ่วเบา เธอเงยหน้าขึ้นมาดูผมก่อนจะพูดด้วยสียงที่เบาๆว่า

"ได้สัมผัสของจริงแล้วขนาดยังไม่แข็งเท่าไหร่ยังขนาดนี้"

"ก็จัดการซะสิครับ"

ผมตอบไปด้วยเสียงที่กระเส่า

พัชไม่รอช้าก้มหน้าลงไปทันทีก่อนจะเอาลิ้นแตะที่หัวควยของผม แล้วเลียไปมา ผมหายใจหนักขึ้นแต่เธอยังไม่เอาปากครอบลงไป พัชใช้ลิ้นเลียไปทั่วแท่งควยของผมรวมทั้งลูกกระโปก จนควยผมแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆพัชถึงเอาปากครอบลงแล้วผงกหัวไปมา  เธอใช้ปากได้คล่องจริงๆ ฝีปากของเธอนั้นถือว่าจัดจ้านแต่ลีลาการใช้ปากกับควยของผมในตอนนี้ผมบอกได้ว่าผู้หญิงฝรั่งบางคนสู้ไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ยอมเสียเปรียบเอามือล้วงไปในเสื้อของของเธอแล้วลอดไปใต้ยกทรง และเป็นไปตามที่คาด หน้าอกเธอไม่ใหญ่ เพราะจากที่ผมเคยดูในภาพที่เธอโพสต์ ลงใน IG และเธอคงเป็นผู้หญิงที่หน้าอกไม่ใหญ่อยู่แล้ว แต่นมเธอยังแข็งอยู่ แต่ผมก็จับไม่ถนัดเอื้อมมือไปด้านหลังของเธอปลดตะขอยกทรง คราวนี้ทำให้ผมจับนมเธอได้ถนัดมือขึ้นพร้อมกับบี้หัวนมของเธอเข้าไปด้วยซึ่งมันบานขยายรองรับนิ้วมือของผม แต่เธอก็ไม่หยุดใช้ปากกับผม  พัชดูเพลิดเพลินกับการดูดเลียควยผม  โดยไม่สนเสียงครางของผมที่ร้องไม่หยุดและยิ่งดูจะไปกระตุ้นอารมณ์เธอ แต่เธอไม่รู้อย่างหนึ่งว่าผมนั้นมีน้ำอดน้ำทนในเรื่องแบบนี้เป็นอย่างยิ่งผลมาจากการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ จนเวลาผ่านไปพอสมควรและพัชนั้นเริ่มเมื่อยปากมีสลับมาใช้มือรูดควยผมบ้างก่อนจะก้มหน้าไปใช้ปากต่อ  จนผมเริ่มที่จะเต็มที่และส่งสัญญาณบอกเธอด้วยการขยำนมเธอแรงขึ้น ทำให้พัชเร่งการใช้ปากขึ้น แล้วผมได้ปล่อยน้ำกามทะลักออกมาในปากของเธอ ซึ่งพัชกลืนกินไปจนหมด ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาริมฝีปากของเธอยังมีคราบน้ำกามสีขาวของผมหลงเหลืออยู่  ผมหายใจแรงและถี่ พัชก็เอาหน้าไปซบกับหน้าขาผมชั่วขณะก่อนจะลุกขึ้นมานั่ง แล้วบอกกับผมด้วยน้ำเสียงหอบๆ

"โอ๊ย  พัชเมื่อยปากแทบแย่นึกไม่ถึงว่าคุณจะอึดขนาดนี้"

"แล้วชอบหรือเปล่าครับ"

ผมถามเธอไปด้วยรอยยิ้ม พัชไม่ตอบแต่ค้อนผมเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมฉุดให้ผมลุกขึ้นเช่นกัน เธอเอามือมาคล้องเอวผมก่อนจะพาเดินผมที่เปลือยท่อนล่างเข้าไปในห้องนอนของเธอ เธอจัดหยิบผ้าเช็ดตัวให้ผมแล้วบอกมาว่า

"ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนเถอะคะ"

ผมรับผ้าเช็ดตัวจากเธอแล้วเดินเข้าไปห้องน้ำหลังจากชำระร่างกายเรียบร้อย ผมเดินถือเสื้อออกมาโดยนุ่งผ้าเช็ดตัว และเห็นเจ้าของห้องที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกายอยู่ เธอส่งยิ้มให้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกว่ายั่วยวนว่า

"นอนรอพัชบนเตียงก่อนก็ได้คะ"

ก่อนจะเดินสวนผมเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่รอคำตอบ ผมเดินไปที่เตียงอันกว้างใหญ่และผ้าปูที่นอนอันขาวสะอาด ผมนอนลงบนเตียงแล้วมองไปรอบๆห้องนอน เป็นห้องนอนที่ตกแต่งได้ลงตัว ผนังข้างห้องมีรูปเธอขนาดใหญ่แขวนอยู่รวมถึงรูปที่อยู่ในกรอบบนโต๊ะข้างหัวเตียง  ผมมองไปรอบแต่พัชนั้นใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก แต่เธอทำเอาผมตะลึงอีกครั้ง เพราะร่างกายของเธอนั้นแทบจะเปลือยเปล่าเธอใช้ผ้าเช็ดตัวคุมไหล่ออกมา  ผิวกายของเธอนั้นค่อนข้างคล้ำ นมเธอเล็กจริงๆหัวนมค่อนข้างคล้ำตามสีผิว ส่วนหน้าท้องนั้นเป็นกล้ามท้องซิกแพ็คอย่างที่เธอโพสต์อวดบ่อยๆ โคกหีนั้นสมตัวและหมอยที่ปกคลุมอยู่ไม่ดกเท่าไหร่นัก เธอเดินมาที่เตียงแล้วนั่งลงข้างผมที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ พัชหอมแก้มผมก่อนจะเอาปากมาทาบเราต่างแลกจูบเมื่อปลุกอารมณ์กันครู่ใหญ่ก่อนที่เธอจะถอนหน้าออกมา แล้วเอาแก้มมาพิงที่ไหล่ผม ส่วนมือนั้นลูบไล้ไปตามหน้าอกของผมแล้วเธอพูดขึ้นมาว่า

"เราไม่ต้องพูดอะไรกันมากนะคะ โตๆกันแล้วพัชพึงพอใจ คุณก็พอใจ พรุ่งนี้เราก็แยกย้ายว่างๆเราก็มาเจอกันใหม่ แต่วันนี้ไม่ต้องกลัวนะคะพัชปลอดพอดี"

ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะเรื่องพวกนี้ผมเจอมาจนชิน ผมเชยคางเธอขึ้นและจูบกับเธออีกครั้งแทนการตอบรับด้วยคำพูดแล้วรวบร่างอันเปลือยเปล่าของเธอขึ้นมานอนบนเตียง ซึ่งเธอไม่ขัดขืน ยิ่งพอผมพลิกร่างเธอให้นอนหงาย เธอทำตามทันที พร้อมเอามือมาโอบรอบคอผม ก่อนจะดึงให้ใบหน้ามาแนบกับซอกคอเธอพร้อมบอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกว่ายั่วยวน

"ยังมีแรงอีกหรือคะ  อุตส่าห์ใช้ปากแล้วพัชจะได้ไม่ต้องเปลืองตัว"

"เดี๋ยวก็รู้"

ผมตอบเธอก่อนจะเริ่มซุกไซร้ไปตามซอกคอของเธอ พัชแอ่นกายรองรับการซุกไซร้ของผมก่อนที่ปากของเราจะทาบกันอีกครั้ง เธอแลกจูบกับผมอย่างเต็มใจ ก่อนที่ผมจะเลื่อนหน้าลงไปที่เต้านมของเธออันเล็กของเธอ หัวนมเธอเริ่มบานขยาย เธอมีอาการห่อไหล่เล็กน้อยเมื่อลิ้นผมไปแตะที่หัวนมของเธอเหมือนคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้และนมของเธอยังแข็งอยู่ผมดูดสลับไปมาทั้งสองข้างพร้อมกับนิ้วไปบี้หัวของเธอด้วย เสียงครางของพัชดังออกมาอย่างแผ่วเบา  ก่อนที่ผมจะเลื่อนไปสัมผัสหน้าท้องอันแข็งแกร่งของเธอ ผมระดมจูบไปทั่วที่หน้าพัชแอ่นกายพร้อมเอามือจับหัวผมแน่นขึ้น แล้วดันลงไปตรงเบื้องล่างพร้อมคำพูดที่พึมพำออกมา

"เลียให้พัชหน่อยคะ"

ผมสนองตอบความต้องการของเธอทันที แต่งับหมอยของเธอก่อน แล้วถึงเอาปากไปจูบที่หีของเธอ ซึ่งเริ่มแฉะก่อนจะเอาลิ้นทะลวงเข้าไปในรูหี  เจ้าของรูหีร้องครางทันที

"อู้ววววววววววววววววว"

พร้อมแอ่นตัวขึ้นรองรับการลงลิ้นของผม  ทำให้ผมเลียไม่หยุด จากที่ผมสัมผัสได้ตอนนี้เนื้อของเธอนั้นแน่นจริงๆ  แสดงว่าเธอดูแลร่างกายดีจริง และยิ่งผมเอามือยกก้นเธอให้สูงขึ้น เนื้อตรงก้นเธอแน่นจริงๆ  ผมจึงหยุดเลียหีของเธอ แล้วจับเธอพลิกตัวให้นอนคว่ำ พัชไม่มีขัดขืน  พอเธอนอนคว่ำผมพรมจูบไปทั่งแผ่นหลังไล่ลงมาถึงเอวที่คอด พร้อมขยำเนื้อก้นที่เต่งตึงและแข็งปัง ทำเอาเธอสูดปากอย่างสบอารมณ์มาเบาๆ  ผมเลื่อนไปถึงก้นของเธอแล้วกัดอย่างเบาๆไปที่ก้น ทำเอาเจ้าก้นครางออกมา รูปร่างของเธอนั้นจัดอยู่ในประเภทเอวคอดก้นเด้งขาแน่น ผมจับก้นเธอยกให้สูงขึ้นแล้วเลื่อนตัวไปด้านหลังก่อนจะเลียหีเพื่อปลุกอารมณ์เธออีกครั้ง เจอแบบนี้เข้าไป พัชครางไม่หยุด ก้นส่ายไปมาจนเธอส่งสัญญาณว่าอยากจะให้ผมมอบความเป็นชายให้กับเธอ พอผมทำท่าจะเย็ดเธอท่าด็อกกี้ เธอหันมาส่ายหน้าแล้วบอกผมว่า

"ไม่เอาครั้งแรกของเราพัชอยากได้ท่าธรรมดาก่อนคะ"

พอเธอพูดจบเธอพลิกกายลงมานอนหงาย ก่อนจะทำท่าเชื้อเชิญ ผมจัดท่าทางให้เรียบร้อยแล้วค่อยดันควยเข้าไปในรูหีที่เจ้าของรองรับอยู่  ช่องทางรักเธอยังแน่นอยู่แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมมันไม่ใช่ครั้งแรกของเธอแต่แสดงว่าเธอผ่านมาไม่มากนัก ผมค่อยดันเข้าไปจนสุดแล้วโน้มตัวลงไปทาบกับเธอ พัชเอามือทั้งสองข้างโอบกอดผม แล้วเอวผมเริ่มขยับขึ้นลง พัชเริ่มส่งเสียง ผมไม่เร่งจังหวะเท่าไหร่ เพราะรูหีของเธอนั้นแน่นพอสมควรขาของเธอกางออกเต็มที่ พร้อมมีเด้งรับการกระเด้าของผม  มีบางครั้งที่เราแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนแต่เอวผมก็ไม่หยุดกระเด้าช้าสลับเร็วเมื่อช่องทางรักมันเริ่มสะดวกขึ้น  และเธอยอมให้ผมเปลี่ยนไปเย็ดเธอท่าด็อกกี้ ซึ่งเธอส่งเสียงครวญครางไม่หยุดแถมเด้งรับตลอดและเธอส่งสัญญาณไปว่าไปถึงจุดหมายแล้ว แต่ผมยังไม่ถึง พร้อมจับเธอให้หันหน้ามาในท่านั่ง เรานั่งหันหน้าเข้าหาก่อนแต่เธอก็มิวายบอกมาว่า

"ยังไม่ถึงอีกหรือคะ ของคุณทั้งใหญ่ทั้งยาวทำเอาพัชแสบไปหมดแล้วนะ"

ปากเธอก็พูดแต่จับเอาควยผมมาจ่อที่รูหีเธอแล้วบรรจงยัดเข้าไป ก่อนที่ผมจัดการดันเข้าไปจนสุด คราวนี้เราทั้งสองกอดกันแน่นปากก็จูบไปตามไปหน้าเอวก็เด้งเข้าหากัน คราวนี้โหนกเนื้อของเราทั้งคู่ที่กระทบกันส่งเสียง

"ตั่บ ตั่บ ตั่บ"

กันตลอดพร้อมเสียงครางของเราทั้งคู่และผมยิ่งเร่งจังหวะขึ้นเพราะรู้ว่าจวนจะถึงจุดหมายเสียงยิ่งถี่ขึ้น  พร้อมกับพัชที่ร้องมาว่า

"พัชจวนจะถึงอีกครั้งแล้วนะคะ โอ้ววววว  ซี๊ดดดดดดดดดด อีกนิดคะ อีกนิด โอ้วววววววววววววววว"

สิ้นเสียงเธอผมปล่อยน้ำกามเข้าสู่รูหีของเธอเหมือนกับเธอที่มีอาการเกร็งอีกครั้ง เรานั่งซบกันพร้อมลมหายใจที่ถี่ แต่เธอเป็นฝ่ายประคองหน้าผมเพื่อจะจูบกับผมอีกครั้งก่อนที่ผมจะถอนควยที่อ่อนปวกเปียกออกมาจากรูหีเธอ เราทั้งคู่ต่างเอนตัวลงไปนอน  พัชเอาหน้ามาซบที่ไหล่ผม ก่อนที่จะถามอย่างเขินอายว่า

"มีความสุขไหมคะ"

"มีสิครับแล้วคุณพัชละ"

"เกินพอคะ  แล้วเกินคาดนะน้ำอดน้ำทนนานเหลือเกิน ทำเอาพัชแทบขาดใจไม่เคยเจอแบบนี้"

"ก็ออกกำลังบ่อยๆสิครับ"

ผมตอบพร้อมหอมไปที่เรือนผมของเธอ  เธอไม่ตอบอะไรแต่นอนเบียดเข้ามาชิดตัวผมยิ่งขึ้นจนเราเคลิ้มๆไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วบอกผม

"พัชไปล้างตัวก่อนนะคะ"

ผมไม่ตอบเธอแต่พยักหน้าเหมือนรับรู้ และขอพักตา เพราะตอนนั้นยังไม่ติดสินใจว่าจะนอนค้างที่ห้องเธอหรือเปล่า  แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะพอเธอกลับมา เธอเป็นฝ่ายชวนให้ผมนอนค้าง เราทั้งคู่ต่างหลับไปด้วยความอ่อนเพลียแต่ตอนกลางดึกเธอเป็นฝ่ายสะกิดให้ผมตื่นอีกครั้งและคราวนี้เธอเป็นฝ่ายขออยู่ด้านบน จนเธอพาผมไปสวรรค์อีกครั้ง แล้วครั้งนี้เราหลับสนิทไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย  จนเช้าผมตื่นสายกว่าเธอและพบว่าเจ้าของห้องนั้นไม่อยู่บนเตียง  ผมเดินไปห้องน้ำก็ไม่เจอเธอเห็นแต่แปรงสีฟันด้ามใหม่วางอยู่บนขอบอ่างล้างหน้า  ผมจัดการกับตนเองและใช้ผ้าเช็ดตัวพันกายเดินออกจากห้องนอน  พอไปถึงห้องรับแขกเห็นเจ้าของห้องอยู่ในชุดออกกำลังกายแบบรัดรูปโดยท่อนบนใส่สปอร์ตบราอย่างเดียว  เธอออกกำลังบนเสื่อโยคะ พอเหลือบมาเห็นผมเธอได้บอกว่า

"รอแป็บนึงนะคะ เดี๋ยวพัชจะทำอาหารเช้าให้ทาน"

ผมยืนดูเธอออกกำลังกาย แต่ด้วยชุดที่รัดรูปและคงเพราะอยู่ในบ้านเธอเลยไม่เซฟเท่าไหร่นัก จนบางครั้งร่องหีและร่องก้นของเธอปรากฏให้เห็นและเธอก็ไม่แคร์สายตาที่ผมจ้องมอง จนผมเกิดอารมณ์ขึ้นอดไม่ไหว ได้เดินเข้าไปหาเธอที่กำลังนอนหงายเพื่อเตรียมที่จะเล่นกล้ามท้อง ผมนั่งข้างๆและก้มลงไปจูบเธอ พัชไม่มีทีท่าตกใจยอมรับการจูบของผมพร้อมเอามือทั้งสองข้างโอบรอบตัว จนรางกายท่อนบนเอาแนบสนิทกัน จนผมเลื่อนมาทับทั้งตัวแต่เธอทำท่าจะดันอกผมก่อนจะบอกมาว่า

"อย่าพึ่งคะตัวพัชเหม็นเหงื่อ"

"ใครว่าครับ  แบบนี้ละปลุกอารมณ์ผมดีนัก"

พอได้ยินแบบนี้เธอเปลี่ยนมาโอบกอดผมอีกครั้ง และไม่นานนักชุดออกกำลังที่เธอสวมอยู่ก็พ้นจากร่างกายด้วยฝีมือของผมกับของเธอ โดยก่อนหน้านี้ผ้าขนหนูผมหลุดออกด้วยมือของเธอเรียบร้อยแล้ว  เธอจับให้ผมอยู่ข้างล่าง ก่อนจะก้มหน้ามาดูดที่หัวนมผมทั้งสองข้างและเอานมของเธอมาจ่อที่ปากผม  ตอนแรกผมนึกว่าเธอจะใช้ปากให้ผมแต่เธอกลับมาจัดท่าให้เราอยู่ในท่า 69 เราแลกกันกินพักใหญ่ ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนมานอนคว่ำปล่อยให้ผมระดมจูบไปทั่งแผ่นหลังเธอ และเธอเป็นฝ่ายยกก้นให้สูงขึ้นเอาแขนทั้งสองข้างยันบนเสื่ออกกำลังกายและเชื้อเชิญโดยการบอกกับผมตรงๆว่า

"ก่อนมื้อเช้าขอท่าด็อกกี้คะเมื่อคืนทำเอาพัชเสียวสุดๆ"

ผมไม่รอช้าสนองตอบความต้องการของเธอทันที  เอามือจับเอวเธอแล้วดันควยเข้าทันที พัชเด้งรับตลอดจนมือผมร่นมาลูบที่ก้นอันเต่งตึงของเธอ  ถึงมันจะไม่ขาวแต่ผิวของเธอก็ปลุกอารมณ์ผมได้อย่างดีผมทั้งบีบทั้งขยำก้นของสาวที่ผมกำลังกระเด้าอย่างต่อเนื่องรับแสงแดดยามเช้า  พัชครางออกมาอย่างพอใจแถมเด้งรับพร้อมส่ายตัวไปมา

"ซี๊ดดดดๆดีคะ แบบนั้นแหละคะ พัชชอบโอ้วว คนบ้าอย่าวนซิพัชเสียววววววววว อู้วววววววอีกนิดคะอีกนิด"

ผมเริ่มดึงเกมรักให้ช้าลง กระเด้าอย่างช้าๆพร้อมมีวนไปมาในบางครั้ง  มันสร้างความเสียวให้กับเธอเป็นอย่างมาก หน้าของเธอนั้นแนบลงไปซบกับเสื่อโยคะพร้อมยกก้นให้สูงขึ้นเพื่อรองรับการเย็ดจากผม จนผมเริ่มจะสุดกลั้นเลยเร่งจังหวะขึ้นปากก็บอกกับเธอไปว่า

"พัชครับผมจวนจะถึงแล้วนะ"

"คะๆๆๆ ถึงพร้อมกันอูยยยยยยยยย เสียววววววววว"

จนผมเร่งจังหวะการเย็ดถี่ขึ้นก่อนจะดันเข้าไปจนสุดพร้อมปล่อยน้ำกามให้หลั่งออกมาในรูหีของเธอพร้อมๆกับที่เจ้าตัวร้องครางออกมาและมีอาการตอดรัด ก่อนที่ตัวของเธอแนบลงไปกับพื้นโดยมีผมนอนทับอยู่ข้างบน ผมหอมแก้มขอเธอเบาๆแต่เราไม่พูดอะไรกัน จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเธอชวนผมไปอาบน้ำ คราวนี้ผมเป็นฝ่ายอุ้มเธอไปในอ่างน้ำตอนแรกผมอยากขอเย็ดอีกครั้งแต่เธอไม่ยอม บอกว่าไม่ชอบจนมาจบกันที่เตียงนอน ตอนนั้นผมพยายามจะขอประตูหลังกับเธอแต่เธอไม่ยอมแถมเป็นฝ่ายนั่งขย่มผมอย่างเดียว วันนั้นกว่าเธอจะยอมให้ผมออกจากห้องก็เกือบเที่ยงแล้ว เพราะเธอมีงานช่วงบ่ายไม่งั้นคงไม่ยอมปล่อยผมมาอย่างแน่นอน และเราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่าความต้องการแบบนี้มันไม่ยังไม่จบ มันต้องมีครั้งต่อๆไปแน่นอนและผมก็บอกได้ว่าเธอนั้นตอบสนองความต้องการของผมได้ดีระดับหนึ่ง



-------------------------------------------------------------------------------------------------
****จากผู้เขียน****

เรื่องนี้ผมจะเขียนเป็นเรื่องสั้นเป็นตอนๆนะครับ กะจะแต่งไปเรื่อยๆและจะพยายามให้จบในตอนหรืออย่างมากก็สองตอนจบครับ

ขอบคุณครับ ::Thankyou::

kaithai

เรื่องนี้ คงมาในแนว  "เรื่องสั้นมันหยด"
ขอบคุณมากครับ




คำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย

ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ.
อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆ

ครับ
ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่

ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อ

สมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์

เอามักง่ายมั่ว
ๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก

6 เดือนเป็น 1ปี.
.


กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง

เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็

แบนไปใช้เวปอื่น.
.

................................................................................................................

olemantu

ท่านหายไปจากบอร์ดนานมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะผมไม่ได้ติดตามข่าวคราวของท่านโดยเฉพาะ  นอกจากดูจากเรื่องที่โพสในบอร์ด
ดีใจที่ยังได้อานเรื่องของท่านอีก ยังติดตามงานของท่านอยู่นะครับ

twintower

อ้างจาก: olemantu เมื่อ ตุลาคม 20, 2017, 06:56:55 หลังเที่ยง
ท่านหายไปจากบอร์ดนานมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะผมไม่ได้ติดตามข่าวคราวของท่านโดยเฉพาะ  นอกจากดูจากเรื่องที่โพสในบอร์ด
ดีใจที่ยังได้อานเรื่องของท่านอีก ยังติดตามงานของท่านอยู่นะครับ

มัวแต่ไปแต่งนิยายเตรียมที่จะขายอยู่ครับ  แต่ผ่านไปหลายเดือนยังไม่เสร็จสักทีครับ

xnosex

ชอบมากครับ ต้นเรื่องเกริ่นมากไปนิด
แต่กลางกับท้้้ายาได้อารมณ์มากครัับ

นัทโตะ

#5
ชอบแนวเรื่องเซเล็บแบบนี้ดีครับ

เดี๋ยวจะลองตามไปอ่านเรื่องเก่าๆของคุณดูครับ


ว่าแต่แต่งมานี่อิงจากบุคคลจริงๆด้วยไหมครับ

samsung014

แนะนำตัวละครช่วงแรกยาวจนคิดว่าตอนนี้จะยังไม่มีอะไร ที่ไหนได้พอจะมีก็มาไวปานจรวดเลย สนุกมากครับ

ทราย ไม่เปลี่ยนแปลง

นักข่าวสาว เป็นคนใช่ที่เราค้นหาหรือป่าว เรื่องเซ็กส์เข้ากันได้ดีเลยนะ

elviswhat

คุณ twintower ห่างหายไปนานมากคิดถึงผลงานแบบนี้

hanabombam

เจ้พัชถึงจะโดมมาแล้วไม่มาก แต่ลีลาเจ้แกจัดจ้านไม่เบา

whitebag

ผู้เขียน เขียนได้ละเมียด ละไม เหมือนดื่มไวน์ ที่ค่อยค่อยจิบ ไม่กระแทกกระทั้นรุนแรง จนกว่าจะถึงตอน..นั้น ที่พายุกระหน่ำ

naitoom

จบในตอน เป็นแบบ ซีรีย์หนังฝรั่งในโทรทัศน์ หรือ ซิตคอมของไทย น่าสนใจมากครับ ในแต่ละตอนก็อาจจะแทรกอะไรบางอย่างที่จะนำไปสู่ตอนใหม่ๆ หรือเชื่อมต่อกับตอนอื่นได้ เหมือนซีรีย์ ซีเอสไอ ที่ผมชอบดู มักจะทิ้งเงื่อนบางอย่างไว้ตอนละนิดๆ 3-4ตอน จนไปไฮไลท์ในตอนหนึ่งหลังจากนั้น เช่น ใน 3-4 ตอนจะมีการแทรกหลักฐานหรือเงื่อนของฆาตกรรมต่อเนื่องเพิ่มจากคดีที่จบไปในแต่ละตอน จนในที่สุดก็มาถึงตอนที่จะมาปิดฆาตกรรมต่อเนื่องที่ปูทางไว้แล้วนั้น ถ้าไม่ได้ติดตามมาอาจ งงๆหน่อย แต่ก็รู้เรื่อง

somc217

#12
เรื่องของคุณ twintower สนุกทุกแนว อ่านแล้วไม่เคยผิดหวังเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน
เขียนได้เหมือนเป็นนักเขียนอาชีพเลย
รออ่านทุกๆตอนครับ
ขอบคุณมาก

cooking_gear

จากการเปิดเรื่อง สมกับที่จะเขียนหนังสือขายเลยครับ รอนักร้องและคนอื่นๆต่อไปนะครับ  ::GiveMe::

BooM_Za

สนุกมากเลยครับ สุดยอกไปเลยแม่นักข่าว หายไปนานเลยนะครับคิดถึงผลงานมากเลยครับ