ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ไร้หัวใจ 2

เริ่มโดย twintower, มีนาคม 29, 2023, 03:45:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

hanabombam

เนื้อหาน่าติดตสมอย่างมาก ตัวเอกมีไฟแค้นสุ่มอก เป็นคนเทาๆ ออกดำเลย  ::Horror:: ::Horror:: ::Horror:: ::Ajark:: ::Ajark:: ::Ajark::

MAC

ลุงว่านะไร่หัวใจแต่อย่าไร่น้ำนะ(ถ้าไร่น้ำคงลำบาล)ฮิๆๆๆ ::Horror:: ::Thankyou::

Chava

 ::WooWoo::เก่งจริงๆกับชายแต่พฤฒิกรรมวิธีการที่ชายใช้จะถือว่ายอมรับได้โดยตลอดหรือเปล่า

Nomnaem

พระเอก.นี้จอนวีคชัดๆเลย

naja313


ราเมศ ช่วยประคอง


Chalothon

ชายเก่งครบเครื่อง ทั้งงานสนาม และงานบนเตียง

romajoe

พระเอกเป็นซีไอเอนี่เองถึงได้มีแบ๊คดี แถมยังมีฝีมือ งานนี้ท่าทางจะซับซ้อนนะ

suratad

แก้แค้นและเสียว ในเรื่องเดียวกัน สนุกมากเลยครับ

gateja

จะเปลี่ยนแปลงอะไรมั่ย

chongza1975

พระเอกเก่งทั้งบู๊ทั้งเซ็กเลยนะ

dodam

ถ้าเป็นนิยายจีนกำลังภายในมักจะใช้คำว่า "ลูกผู้ชาย 10 ปี ล้างแค้นยังไม่สาย" ... หมายถึง จะทำการใดให้อดทนรออย่างสุขุมจนถึงโอกาสอันสมควร

Teerapong2534

อ้างจาก: twintower เมื่อ มีนาคม 29, 2023, 03:45:07 หลังเที่ยงวันรุ่งขึ้นที่หน้าเรือนจำบางขวาง ขณะที่เถ้าแก่มีกับครอบครัวกำลังดีใจหลังจากที่ไม้ลูกชายคนโตได้เดินออกมาจากประตูเรือนจำ แต่ในขณะนั้นน้ำได้มองเห็นชายที่ยืนกอดอกแล้วจ้องมองมาอยู่ไม่ห่างไปนัก น้ำได้สะกิดบอกเถ้าแก่มี

"พ่อไอ้ชายมันยืนอยู่ตรงนั้น"

เถ้าแก่มีหันไปมองตามสายตาของลูกและเห็นชายที่มองมาด้วยสายตาที่ประสงค์ร้าย ขณะเดียวกันเมียเถ้าแก่ที่ได้ยินเหมือนกันได้มองตามไปด้วย

"เอายังไงดีพี่"

น้ำเสียงของเมียที่ถามด้วยความวิตกทำให้ไม้หันไปมองตาม

"ใครนะพ่อ"

เถ้าแก่ไม่ตอบคำถามลูกชายแต่สั่งให้ทุกคนไปขึ้นรถทันที

"ไปขึ้นรถกันก่อนแล้วค่อยพูดกัน"

แต่ลูกชายวัยรุ่นของไม้ที่มาด้วยนั้นพูดขึ้นทันที เพราะรู้เรื่องมาพอสมควรและยังเจ็บใจแทนลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่มาก

"ฉันไปคุยกับมันเองดีกว่าปู่ มันแค่คนเดียว"

"ไอ้บิ๊กไม่ต้องมายุ่ง แกกับมันคนละชั้นกัน พาพ่อกับย่าแกไปที่รถเดี๋ยวนี้"

เถ้าแก่ดุหลานชาย ทำให้อีกฝ่ายต้องทำตามคำสั่ง เถ้าแก่หันไปมองชายอีกครั้งแล้วเดินตามพรรคพวกไป ส่วนน้ำหันมามองชายเป็นระยะและชายยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้เดินตาม แต่พอหันมาอีกครั้งน้ำมองหาชายไม่เจอ

"มันหายไปไหนวะ"

น้ำบ่นออกมาเบาๆหลังจากที่มองไปรอบๆแล้วมองหาชายไม่เจอ แล้วรีบเดินตามเถ้าแก่มีไปที่รถตู้  ชายนั้นเดินเข้าไปในรถสปอร์ตสีขาวที่จอดอยู่ไม่ห่างออกไปนัก

"เก็บรูปได้ครบทุกคนไหม"

ชายถามไปยังอเล็กซ์ที่ในมือมีกล้องถ่ายรูปที่ใช้เลนส์ซูมระยะไกล  เธอพยักหน้าพร้อมยื่นกล้องให้ ชายรับมาดูและกดไล่ดูภาพที่หญิงสาวถ่ายไว้ อเล็กซ์ถ่ายได้ชัดทุกภาพชายยิ้มอย่างพอใจ  วันนี้ชายได้ภาพเป้าหมายที่ต้องการเกือบครบทุกคน

"คุณจะกลับเลยใช่ไหม"

อเล็กซ์ถามไปยังชายที่กำลังก้มหน้าดูรูปที่ถ่ายอยู่

"ใช่ ผมไปส่งคุณที่โรงแรมก่อนแล้วกลับบ้านเลย คงไปถึงค่ำๆ  รถคันนี้มันทำความเร็วได้สบายๆ"

อเล็กซ์พยักหน้ารับรู้ พร้อมถอนหายใจเบาๆ ถึงเธอใจเธอจะไม่เห็นด้วยกับการแก้แค้นของชายแต่ห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เธอเคยขอให้ชายทบทวนตั้งแต่ที่ชายติดต่อขอให้เธอมาช่วยงาน แต่ชายยืนยันตามความตั้งใจ อเล็กซ์รู้นิสัยของชายดีว่าเมื่อชายตั้งใจจะทำอะไรแล้วไม่มีอะไรที่จะมาล้มล้างความตั้งใจได้ ฝ่ายเถ้าแก่มีภายในรถตู้  เถ้าแก่กับน้ำเล่าเรื่องของชายให้ไม้ฟังทั้งหมด ทำให้ไม้นั้นนึกขึ้นได้

"หมายความว่าพวกไอ้นน เจอของแข็งเข้าไปแบบหมัดเดียวจอด"

"ใช่พี่ไม้อย่าลืมสิทั้งไอ้ชายกับไอ้บอย 2 พี่น้องนี่เก่งมวยทั้งคู่ ไอ้ชายเคยเป็นถึงนักกีฬาเทควันโดเยาวชนทีมชาติ ส่วนน้องมันไอ้บอยเป็นนักมวยเยาวชนของเขต"

ประโยคนี้ทำเอาไม้อึ้ง เพราะถึงเวลาผ่านมา 10 กว่าปี แต่รสศอกสั้นของบอยที่เป็นน้องชายของชายนั้นสร้างความอับอายให้กับตนเองที่ประกาศว่าเป็นนักเลงใหญ่มาแล้ว ไม้นั้นหลับกางอากาศหลังจากเจอศอกสั้นของบอยเข้าไป เจ็บตัวนั้นมันไม่เท่าไหร่ แต่ความเจ็บใจที่เกิดจากความอับอายให้นั้นนะสิ คนที่ประกาศตัวเป็นนักเลงใหญ่แถมเป็นลูกชายคนโตของเถ้าแก่มีผู้อิทธิพลนั้นทำใจไม่ได้ ทั้งลูกน้องของพ่อและคนอื่นๆต่างพากันมองดูด้วยสายตาที่เหยียดหยามเมื่อรู้ตนเองนั้นหมดสภาพสู้ไม่ได้ ทำให้ไม้ผูกใจเจ็บเลยตั้งใจที่จะฆ่าบอยเพื่อลบความแค้นที่ทำให้ตัวเองอับอาย แถมมั่นใจว่าอิทธิพลที่มีของพ่อตนเองนั้นทำให้ตนไม่ต้องรับโทษ แต่ด้วยความย่ามใจที่มีทำให้ตนเองนั้นพลาดจนต้องติดคุก

"ตอนนี้ไอ้นนเป็นยังไงบ้างละพ่อ"

เถ้าแก่มีถอนหายใจเบาๆด้วยความกลุ้มใจก่อนจะตอบลูกชาย

"มันก็ระบมไปทั้งตัว แผลนะไม่เท่าไหร่ เริ่มแห้งแล้ว แต่มันอายจนไม่กล้าออกจากบ้าน"

"ไว้ค่อยหาโอกาสเอาคืนมันนะพ่อ มันแค่คนเดียวไม่เท่าไหร่หรอก พี่นนมันประมาทถ้าเอาปืนไปก็จบแล้ว"

บิ๊กลูกชายของไม้พูดด้วยความแค้นเพราะเห็นสภาพของลูกพี่ลูกน้อง แต่เถ้าแก่มีนั้นดุหลานชายทันที

"ไอ้บิ๊ก ปู่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องยุ่งแกกับมันคนละชั้นกัน หาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ วันนั้นถ้าไอ้นนมันมีปืนมันตายไปแล้วไก่อ่อนอย่างแกมันจะไปรู้อะไร"

ทำเอาหลานชายนั้นเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมาแต่ไม้ได้พูดเสริมขึ้น

"วันนั้นพ่อน่าจะไม่ลองทำตามที่ตำรวจมันขอ จะได้รู้ว่าไปเลยว่ามันแน่สักแค่ไหน"

"เราเป็นฝ่ายผิด แถมไอ้นนต้องโดนคดีฉ้อโกงกับพยายามฆ่าเพิ่มอีก พ่อก็มีพึ่งรู้ว่ามันมีพฤติการณ์เบ่งกินฟรี ถ้าพ่อรู้พ่อก็ห้ามไปนานแล้ว ชาวบ้านเขายิ่งเกลียดเราอยู่ และอีกอย่างไอ้ชายมันต้องเส้นใหญ่น่าดู เพราะยังไปไม่ถึงโรงพัก รอง ผบ.ตร.โทรมาหาผู้กำกับแล้ว ลองคิดดูถ้าพ่อไม่ยอมมันจะเกิดอะไรขึ้น ไอ้ชายมันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ก็ดีเหมือนกันไอ้นนมันจะได้เข็ดเท่านี้มันก็อายจนไม่กล้าไปไหนมาไหนแล้ว"

เถ้าแก่มีบอกลูกชาย เพราะหลังจากวันที่เกิดเรื่องเถ้าแก่ให้น้ำไปลองถามเรื่องจากตำรวจที่รู้จักกันเลยรู้ว่าใครเป็นคนโทรศัพท์มาหาผู้กำกับ และยิ่งวันนี้ชายมายืนดักรอที่หน้าเรือนจำมันใช่เรื่องที่จะต้องปล่อยผ่าน อดีตเสือร้ายอย่างแกทำไมจะดูไม่ออกว่าชายนั้นมีความแค้นขนาดไหน ดูแล้วชายคงหาวิธีเล่นงานไม้อย่างแน่นอนเพื่อชำระความแค้น แกได้แต่คิดอยู่ว่าจะหาวิธีไหนที่จะทำให้ชายนั้นเลิกอาฆาตไม้ ส่วนบิ๊กนั้นคิดไปอีกอย่างตามประสาวัยรุ่นใจร้อนจากที่เห็นสภาพลูกพี่ลูกน้องทำให้บิ๊กนั้นอยากแก้แค้นแทน ถึงปู่จะห้ามแต่บิ๊กกำลังคิดหาวิธีเล่นงานชายอยู่ เพราะคิดว่าตนเองนั้นมีพวกพ้องอยู่จำนวนมาก ชายคนเดียวไม่มีพรรคพวกต่อให้เก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางสู้ได้ ส่วนไม้นั้นยังมองชายเป็นเรื่องรองไม้วางแผนกับน้ำมาตั้งแต่รู้ว่าตนเองจะพ้นโทษเมื่อไหร่

ถึงจะอยู่ในคุกแต่ไม้ก็รู้เรื่องของครอบครัวเป็นอย่างดีจากน้ำที่มาเยี่ยมตลอด ว่าพ่อนั้นไม่มีอิทธิพลเหมือนเดิมเริ่มปล่อยวางในหลายๆเรื่องหลังจากที่อาของไม้ตาย ทำให้ไม้คิดหาวิธีที่จะทำให้ตนเองนั้นเข้ามาแทนที่พ่อและมีอิทธิพลเหมือนเดิมทั้ง2 พี่น้องนั้นอยากที่จะให้ครอบครัวกลับมามีอิทธิพลเหมือนเดิม กาลเวลาในคุกร่วม 10กว่าปีไม่สามารถที่จะดัดสันดานไม้ได้ และตัวไม้เองตอนอยู่ในคุกได้สร้างบารมีจนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในคุก และได้เตรียมพรรคพวกที่รู้จักกันคุกไว้พอสมควรเพื่อจะมาเป็นพรรคพวกในการที่จะสร้างอำนาจขึ้นมาใหม่โดยที่ไม้เป็นผู้นำและมีน้ำเป็นคนวางแผน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งไม้กับเถ้าแก่บุญมีต่างรู้ดีว่าน้ำเป็นคนที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ที่สุดในบ้าน ถึงจะไม่ค่อยใส่ใจในการเรียนแต่ก็เรียนจบปวส.ในสายช่างกล ที่ผ่านๆมาในธุรกิจของเถ้ามี แก่น้ำจะเป็นคนคอยวางแผนและดูแลผลประโยชน์ให้กับครอบครัวตลอด และการติดต่อกับนักการเมืองท้องถิ่นน้ำจะเป็นคนคอยประสานให้กับเถ้าแก่มีทุกครั้งไปแต่จะไม่ออกหน้าคอยดูแลอยู่เบื้องหลัง และน้ำเองก็ปรึกษากับพี่ชายทุกครั้งที่ไปเยี่ยมในเรื่องที่จะกลับมามีอิทธิพลอีกครั้งโดยไม้อยู่เบื้องหน้าและน้ำเป็นกุนซือ คอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง

ส่วนที่ไปมีเรื่องกับบอยจนทำขายหน้าตัว ไม้รู้ดีว่าเพราะเหตุอะไรถึงไปมีเรื่องกับบอย วันนั้นไม้แกล้งทำเป็นเมาอย่างหนัก สาเหตุเพราะความหมั่นไส้ที่มีต่อ 2 พี่น้องนี้มานานแล้ว เพราะชาวบ้านมักจะพูดถึงชายกับบอยอย่างยกย่องทั้งเรื่องการเรียนและการกีฬาและ สาปแช่งครอบครัวของตนเองลับหลัง  แต่ไม้คิดผิดถนัดเมื่อเจอคนที่ฝึกมวยมาตั้งแต่เล็กๆยังไม่ทันนกกระจอกกินน้ำฤทธิ์ศอกสั้นจากบอยทำเอาไม้หลับกลางอากาศทันที เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ไม้นั้นอับอายเป็นอย่างมากจอผูกใจเจ็บและคิดแก้แค้น จากตอนแรกที่คิดจะฆ่าบอยเพียงคนเดียวแต่อาของบอยที่ขับมอเตอร์ไซด์มาส่งนั้นถูกลูกหลงไปด้วย ถึงวันนี้ชายจะมายืนมองแบบประสงค์ร้ายแต่ไม้คนที่ออกจากคุกสดๆร้อนๆนั้นมองเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญนัก ผิดกับเถ้าแก่มีที่ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก การที่ชายมายืนจ้องแบบนี้แสดงว่าชายไม่ปล่อยไม้อย่างแน่นอน เถ้าแก่มีกำลังคิดหาทางที่จะยุติเรื่องนี้อยู่ ไม่อย่างมันจะต้องมีผลร้ายตามมาอย่างแน่นอน.

ฝ่ายชายหลังจากที่ไปส่งอเล็กซ์เป็นที่เรียบร้อย ชายขับรถสปอร์ตที่เช่ามาขับกลับบ้านทันที ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามแผนที่ชายวางไว้ เป้าหมายแรกนั้นชายได้เปลี่ยนจากที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่ไม้แต่เป็นบิ๊ก ชายต้องการให้ไม้รู้สึกถึงการสูญเสียก่อนที่จะตายตามลูกชาย ความแค้นครั้งนี้มันฝังลึกอย่างมาก พอรู้ข่าวน้องชายกับอาถูกยิงตาย ชายรีบบินกลับมาเมืองไทยทันทีหลังจากที่เริ่มเรียนภาษาที่สหรัฐได้ไม่ถึง 2 เดือนดี บอยนั้นเรียนวิศวะอยู่ปีสุดท้ายเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบแล้วแต่ต้องมาตายเสียก่อน พร้อมกับอาที่มีลูกสาวอายุเพียงขวบเศษๆ แถมความอยุติธรรมที่ได้รับนั้นมันทำให้ชายผูกใจเจ็บอย่างมาก เมื่อมีโอกาสที่จะแก้แค้นชายนั้นไม่รอช้า ประวัติครอบครัวของชายนั้นค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่พอสมควร ปู่เป็นคนในพื้นที่ แต่ตานั้นพื้นเพเป็นคนจากปัตตานี  ปู่ของชายเคยเป็นนักศึกษาแพทย์ที่กำลังเรียนอยู่ปี 4 แต่ด้วยอุดมการณ์และสถานการณ์ในการเมืองช่วงนั้นปู่ของชายตัดสินใจเข้าป่าร่วมกับเพื่อนๆอีกหลายคนเพื่อเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจับอาวุธต่อสู่กับรัฐบาลในตอนนั้น ส่วนตาของชายนั้นเป็นไทยพุทธที่มีเชื้อสายมาจากพวกมาลายู แต่ครอบครัวถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในตอนนั้น จากการที่ถูกบีบคั้นทำให้ตาของชายต้องเข้าป่าไปจับปืน

จนตาของชายได้ถูกย้ายให้มาอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ ทำให้มารู้จักกับปู่ที่อยู่ในกองกำลังที่เคลื่อนไหวในพื้นที่แถบจังหวัดน่านจนทั้งคู่ได้กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน หลังจากที่ทั้งคู่ได้เข้ามามอบตัวตามนโยบาย66/23 ปู่ได้ชวนตาให้ตั้งรกรากทำมาหากินอยู่ที่น่าน เพราะรู้ว่าตากลับไปใต้ก็ไม่มีอาชีพอะไรรองรับ ส่วนปู่นั้นไม่คิดที่จะกลับไปเรียนต่อได้ผันตัวมาทำไร่ข้าวโพดกับครอบครัวที่ทำไร่ข้าวโพดมานานแล้ว และมีอาชีพเสริมคือหาของป่ามาชาย เหมือนกับตาที่ทำอาชีพหาของป่าเช่นกันเพราะทั้งคู่นั้นมีความชำนาญในพื้นที่อย่างมากและหลังจากตั้งตัวได้แล้วตาได้เปิดค่ายมวยเล็กๆมาเป็นอาชีพเสริม เพราะก่อนจะเข้าร่วมกับ ผกค.ตาเคยเป็นนักมวยไทยที่มีฝีไม้ลายมือพอสมควร ด้วยความสนิทของคู่ทำให้หลังจากมีครอบครัวแล้ว ลูกของทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ดังนั้นเมื่อมีหลานจากลูกชายคนโตถึง 2 คน จึงไม่ยากที่จะทำให้ชายกับบอย 2 พี่น้องนั้นต่างมีใจรักในกีฬามวย ตานั้นถ่ายทอดวิชาให้หลานทั้ง 2 อย่างเต็มที่

ทำให้ชายนั้นเอาพื้นฐานที่ตนเองนั้นเป็นมวยไทยนำเอามาฝึกเทควันโดจนสอบได้สายดำแถมผ่านการคัดเลือกจนติดทีมชาติชุดเยาวชน ส่วนบอยได้นำมาเป็นพื้นฐานในการชกมวยสากลสมัครเล่นจนได้เป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นตัวแทนเขตในชุดเยาวชน ซึ่งพ่อกับแม่นั้นต่างสนับสนุนให้ลูกชายเล่นกีฬาทั้งคู่แถมผลการเรียนของลูกชายทั้ง 2 นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีซึ่งทำให้ทั้งคู่ต่างได้โควตาเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งชายนั้นเลือกเรียนด้านรัฐศาสตร์และตัดสินใจที่จะไม่เล่นให้เทควันโดกับทีมชาติชุดใหญ่ เล่นให้กับมหาวิทยาลัยเท่านั้นเพราะให้ความสำคัญในเรื่องเรียนมากกว่า เหมือนกับบอยที่เลือกเรียนวิศวะและให้ความสำคัญกับการเรียนมากกว่าที่จะเป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น จนปู่กับตานั้นจากโลกไปในช่วงที่ทั้งคู่เรียนมหาวิทยาลัย และยายได้จากไปก่อนที่ชายจะเรียนจบปริญญาตรี ส่วนย่านั้นยังมีชีวิตอยู่

ตอนช่วงที่ชายจวนจะจบปริญญาตรีนั้น ทางอาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำให้เรียนปริญญาโทต่อเพราะผลการเรียนที่ดีจนได้ เกียรตินิยมอันดับ 1 รวมถึงเรื่องภาษาอังกฤษของชายนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและมีมหาวิทยาลัยในสหรัฐนั้นได้ให้โควตาทุนการศึกษามาด้วย ชายจึงตกลงเข้าไปสอบชิงทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยนั้น ด้วยผลการเรียนที่ดีแถมเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำที่เคยติดทีมชาติชุดเยาวชนอีกด้วยชายจึงผ่านการคัดเลือกให้ได้ทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐ ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว แต่จากการที่ครอบครัวได้สูญเสียอากับน้องชายไป ทำให้ชายรู้ได้ถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น จากอิทธิพลของเถ้าแก่มีที่ทำให้ลูกชายคนโตนั้นไม่ได้รับโทษ พ่อกับแม่ของชายเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อยเท่านั้นไม่สามารถที่จะไปสู้รบปรบมือกับผู้มีอิทธิพลได้  พ่อเป็นข้าราชการฝ่ายทะเบียนที่อำเภอส่วนแม่เป็นครูโรงเรียนประถม ทั้งครอบครัวได้แต่ฝืนทนต่อความอยุติธรรมที่ได้รับ ยิ่งเถ้าแก่มีเสนอเงินชดใช้ให้เพียง 2 แสน ชายที่ตอนนั้นกลับไปเรียนที่สหรัฐแล้วหลังจากที่พ่อกับแม่โทรศัพท์มาปรึกษาชายได้บอกกับพ่อแม่ว่าอย่ารับเงินจำนวนนี้อย่างเด็ดขาดเพราะมันเป็นการดูถูกอย่างมาก ชายได้แต่เก็บความแค้นนี้ไว้ในอก

อิทธิพลของเถ้าแก่มีในตอนนั้นมีมาก ธุรกิจหลักของเถ้าแก่คือรถขนส่ง ที่มีรถสิบล้อร่วม 20คัน ที่วิ่งอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายคนขับรถส่วนมากเป็นนักเลงที่เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น และยิ่งไปกว่านั้นคือการรุกพื้นที่ป่าสงวนซึ่งเถ้าแก่อยู่เบื้องหลัง หลายครั้งที่ถูกจับจะมีชาวบ้านออกรับแทนให้ตลอดโดยที่สาวไปไม่ถึงเถ้าแก่และส่วนใหญ่จะเป็นการจับเป็นพิธี เถ้าแก่มีในตอนนั้นใช้เงินหว่านไปยังพวกตำรวจ และข้าราชการในท้องถิ่นรวมถึงการส่งคนไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ทำให้อิทธิพลและบารมีของเถ้าแก่บุญมีนั้นมีมากมาย ไม่มีใครในตอนนั้นที่จะทำอะไรได้ แต่แล้วชะตาชีวิตของชายนั้นพลิกผัน เพราะชายไม่รู้ตัวว่าถูกจับตามองอย่างเงียบๆจากแมวมองของ ซีไอเอ ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่สหรัฐด้วยผลการเรียนที่ดีแถมเชียวชาญทางด้านศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่า เพราะระหว่างเรียนชายทางมหาวิทยาลัยได้ให้ชายมาเป็นครูสอนเทควันโดในชมรมของมหาวิทยาลัยอีกด้วย  และชายไปฝึกการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพิ่มอีกหลายรูปแบบ ทั้งยูโดและยิวยิตสู ยิ่งมีพื้นฐานการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็กทำให้ชายนั้นเชี่ยวชาญอย่างมากในศิลปะการป้องกันตัว

แถมสิ่งที่ติดตัวชายมาแต่เด็กนั้นโดยที่ชายไม่รู้ตัวคือ ตั้งแต่เริ่มโตเวลาที่ปู่หรือตาออกไปหาของป่า ชายมักจะตามออกไปด้วยผิดกับบอยที่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องนี้ทำให้ชายนั้นมีความเชี่ยวชาญในการเดินป่าอยู่พอสมควรและชายนั้นเป็นเด็กที่ติดผู้เป็นตาอย่างมากทำให้ตาเล่าและถ่ายทอดความรู้หรือเรื่องต่างๆให้ชายอย่างเต็มใจ ตาของชายนั้นรู้เรื่องและประเพณีของพวกมุสลิมอย่างมาก ถึงจะนับถือพุทธก็ตามที ยิ่งในช่วงวัยรุ่นตาเคยเข้าไปทำงานให้กับครอบครัวเศรษฐีมุสลิมครอบครัวหนึ่งที่ปัตตานี ทำให้ตาของชายนั้นสื่อสารภาษายาวีได้คล่องแคล่ว เรื่องพวกนี้ได้ถ่ายทอดเข้ามาถึงชายโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ในภายภาคหน้า แถมหน้าตาที่คมเข้มคล้ายๆพวกแขกขาวทำให้แมวมองของ ซีไอเอสนใจในตัวชาย จนชายได้รับการทาบทามด้วยนิสัยที่ชอบการผจญภัย ทำให้ชายตอบตกลง

ในขั้นตอนแรกชายถูกทดสอบอยู่พอสมควร และได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปฝึกอบรมที่ The Farm( สถานที่ฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ตั้งอยู่ที่แคมป์ แพรี่ เมืองวิลเลียมสเบิร์ก รัฐเวอร์จิเนียร์)ตอนนั้นชายได้รับกรีนการ์ดก่อนเพราะตามข้อตกลงชายจะได้สัญชาติสหรัฐเมื่อได้รับบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ ซีไอเอ ซึ่งระว่างการฝึกชายได้ฉายแววออกมาจนมีคะแนนนำเพื่อนร่วมรุ่นโดยเฉพาะเรื่องการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ไม่มีเทียบได้แม้กระทั่งครูฝึก ที่เคยทดลองให้ครูฝึก 3คน เข้ารุม ชายเพียงคนเดียว ผลคือครูฝึกทั้ง 3 คนนั้นสู้ไม่ได้ หรือการเดินป่าที่ชายจะพาเพื่อนในกลุ่มเข้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นกลุ่มแรกทุกครั้งไป แต่ความคิดของชายได้เปลี่ยนไปจากเรื่องหนึ่งที่มีผลต่อจิตใจและความคิดของชาย มันมาจากการทดสอบครั้งสุดท้าย เจ้าหน้าที่ฝึกหัดทุกคนจะได้รับมอบหมายให้เดินทางออกนอกประเทศด้วยพาสปอร์ตปลอมเพื่อไปทำภารกิจในต่างประเทศ ชายนั้นได้รับภารกิจให้ไปรับตัวแหล่งข่าวคนสำคัญที่คอยให้ข้อมูลของกลุ่มก่อการร้ายของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมาหลายปี และตอนนี้ได้เป็นตกเป็นผู้ต้องสงสัยของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวว่าเป็นคนขายข้อมูลให้กับทางสหรัฐ

ภารกิจที่ได้รับมอบหมายนั้นชายต้องปลอมเป็นคนฟิลิปปินส์ที่จะเดินทางกลับประเทศ เพื่อไปพาตัวแหล่งข่าวมาที่สถานทูตสหรัฐในเยอรมันนี ซึ่งชายจะเดินทางจากสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดีไปฟิลิปปินส์ แต่ช่วงที่ชายไปถึงสนามบินมีการวางระเบิดขึ้นที่ย่านธุรกิจกลางเมืองนิวยอร์ค มีคนตายร่วม 30 คน ซึ่งคนที่คุมภารกิจนี้คือเจ้าหน้าอาวุโสของซีไอเอชื่อชาร์ลี แทนที่ชาร์ลีจะยกเลิกภารกิจแต่ตัดสินใจให้ทำต่อทั้งๆที่ถูกทักท้วงมาบรรดาทีมงานแต่ชาร์ลีไม่สนใจ ทำให้ผลร้ายไปตกที่ชาย เพราะมีการแจ้งเบาะแสของคนร้ายว่าเป็นคนเอเชียรูปร่างนั้นไกล้เคียงกับชาย ภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดคนร้ายสวมหมวกไหมพรมมีผ้าพันคอปิดหน้าเห็นแต่ดวงตา ชายถูกเจ้าหน้าที่สนามบินควบคุมตัวทันที

ซึ่งตอนนั้นชายเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบของการฝึก ชายไม่ยอมปริปากใดๆตอนถูกสอบสวนจากทางตำรวจของนิวยอร์กซึ่งพยามยามบังคับให้ชายรับสารภาพ จนชายเริ่มถูกซ้อมโดยทางตำรวจให้นักโทษที่อยู่ในห้องขังเดียวกันรุมซ้อม ชายไม่มีทางสู้เพราะถูกจับมัด ตอนนั้นชายเริ่มเอะใจแต่ยังไม่ปริปากตามที่ได้รับการอบรมมา จนทาง เอฟบีไอเข้ามาคุมการสอบสวน และชายถูกทางเอฟบีไอซ้อมอีกครั้งซึ่งทางชาร์ลีที่รู้มาตลอดกว่าจะยื่นมือเข้ามาแจ้งว่าชายเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดของ ซีไอเอเวลานั้นผ่านมาร่วม 5 วันซึ่งชายไม่ได้ปริปากบอกอะไรออกมาว่าตนเองถูกสั่งให้ทำภารกิจอะไร  สภาพร่างกายของชายนั้นบอบช้ำอย่างมากและฟันกรามนั้นหักถึง 2 ซี่ แขนซ้ายนั้นหัก รวมไปถึงกระดูกมือข้างขวาที่ร้าว

พอเอฟบีไอรู้ความจริงชายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีพร้อมกับการรักษาพยาบาลดูแลเป็นอย่างดีจากตอนแรกที่มีแต่คำขอโทษจากทางเอฟบีไอเท่านั้น และเรื่องเหมือนจะถูกปล่อยให้เงียบหาย ชายที่รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิด จึงเตรียมที่จะฟ้องร้อง กรมตำรวจนิวยอร์กกับเอฟบีไอ และเตรียมทำรายงานความผิดพลาดของชาร์ลีให้ทางซีไอเอ ทำให้ทางกรมตำรวจนิวยอร์กได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เดินทางมาเยี่ยมและแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับหัวหน้าของเอฟบีไอในนิวยอร์กได้มาขอโทษและเสนอเงินให้จำนวน 5หมื่นเหรียญเพื่อชดใช้ความผิดพลาดในครั้งนี้ แต่ชายที่ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมากตั้งแต่เรื่องที่อากับน้องชายถูกฆ่า และตนเองมาเจอเรื่องแบบนี้มันรู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ได้รับ ยิ่งรู้ว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะไม่ถูกลงโทษเพราะถูกทางผู้ใหญ่เร่งรัดลงมาและได้แอบไฟเขียวให้ทำการอะไรก็ได้กับผู้ต้องสงสัยเพื่อเค้นความจริงกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิด

เรื่องงที่เกิดขึ้นทำให้ชายเตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 10 ล้านเหรียญ โดยไม่สนใจคำขอร้องและคำขู่ ทั้งเรื่องที่จะถอนกรีนการ์ดส่งกลับประเทศไทยและห้ามเข้าสหรัฐตลอดชีวิต รวมถึงเรื่องใช้พาสปอร์ตปลอม แต่ชายอ้างกลับว่าทำงานที่ได้รอบมอบหมาย ซึ่งมีคำสั่งที่ออกมาอย่างชัดเจนและต่อให้ชายผิดเรื่องนี้แต่การที่ทางตำรวจปล่อยให้ชายถูกนักโทษซ้อมโดยไม่การห้ามปรามและทำการปฐมพยาบาล แถมทางเจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอได้ซ้อมชายอีก มันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้รองผู้อำนวยการเอฟบีไอได้เดินทางมาเยี่ยมและขอโทษชายด้วยตนเอง แต่ชายไม่รับคำขอโทษและยืนยันว่าจะดำเนินการฟ้องร้องอย่างแน่นอน ทุกคนรู้ดีว่าถ้าถูกฟ้องเรื่องต่างๆจะถูกเปิดเผยขึ้น มันจะลามไปถึงเรื่องความล้มเหลวของซีไอเอที่แหล่งข่าวคนสำคัญนั้นหายสาบสูญไปเพราะความตัดสินใจผิดพลาดของคนคุมปฏิบัติการคือชาร์ลี

ทางเอฟบีไอและซีไอเอได้พยายามต่อรองเมื่อเห็นชายมีทีท่าไม่ยอม พร้อมข้อเสนอให้ชายได้สัญชาติอเมริกันทันทีและได้บรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ โดยภารกิจทดสอบนั้นถูกยกเลิกและจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหาย 5 ล้านเหรียญและให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ซ้อมชายมาขอโทษ ชายจำได้ดีในวันนั้นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่เป็นอเมริกันเชื้อสายไอร์แลนด์ที่มาพร้อมกับรองผู้อำนวยการเอฟบีไอได้มามาขอโทษชายที่โรงพยาบาล  ซึ่งในตอนนั้นชาร์ลีกำลังกล่อมให้ชายยอมรับข้อเสนออยู่ เพราะถ้าชายไม่ยอมมันจะกระทบไปถึงชาร์ลีด้วยในฐานะคนควบคุมปฏิบัติการนี้ที่ไม่ยอมยกเลิกภารกิจ จนทำให้เจ้าหน้าที่ฝึกหัดถูกจับกุมและแหล่งข่าวคนสำคัญได้สูญหาย เพราะมาจากที่ชายไม่ได้เดินทางไปรับตัว พอคนจากเอฟบีไอเข้าไปในห้อง ชายที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง พอเห็นคนที่ซ้อมตนเอง ชายนั้นคว้าไม้เท้าที่พิงอยู่ข้างเตียงเพื่อจะฟาดไปยังเอฟบีไอที่ซ้อมตน ชาร์ลีได้เข้ามาขวางทัน และพวกเอฟบีไอที่คิดตามรองผู้อำนวยการมาได้เข้ามาช่วยห้าม ซึ่งชายได้ตะโกนด่าขณะที่อีกฝ่ายถูกพาออกไปนอกห้องพยาบาล

"ไอ้เย็ดแม่ กูสาบาน กูไม่รามือแน่ไอ้สวะไอริช ระวังตัวไว้เถอะมึง"

ชาร์ลีได้พยายามขอร้องชายให้สงบลงหลังจากที่รองผอ.เอฟบีไอพาเจ้าหน้าที่คนนั้นกลับไปแล้วเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้นทำท่าบานปลาย

"ชายผมอยากให้คุณรับข้อเสนอนี้ มันเป็นทางออกทีดีที่สุด สิ่งที่คุณทำมันจะทำให้เป็นชนวนบาดหมางของ 2หน่วยงาน"

"ไม่มีทางชาร์ลี ผมรู้ที่คุณมากล่อมผมเพราะคุณกลัวจะมีความผิดไปด้วย ยิ่งสายข่าวที่สำคัญที่สุดในฟิลิปปินส์กับอินโดนีเซียหายสาบสูญไป เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดจนทำให้ผมมีสภาพแบบนี้ ฟันหัก แขนหัก ที่หัวที่หน้าเย็บไปร่วม 20 เข็ม กระดูกมือร้าว ต้องมาทำกายภาพอีก นี่หรือสิ่งที่ผมต้องเจอ ถ้าคุณตัดสินใจยกเลิกหรือรีบแจ้งไปที่ไอ้พวกตำรวจ ผมจะไม่มีสภาพแบบนี้ บอกแล้วผมยอมกลับไปเมืองไทยแต่ผมต้องได้รับความยุติธรรม"

ชายตอบกลับอย่าดุเดือด จนอีกฝ่ายนั้นถอนหายใจที่แสดงถึงความกลัดกลุ้ม

"ชาย ผมยอมรับว่าผมตัดสินใจผิดจนภารกิจมันเสียหายรวมไปถึงตัวคุณที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าคุณรับข้อเสนอนี้ผมจะเป็นหนี้บุญคุณกับคุณ และผมสัญญาด้วยชีวิตของลูกสาวผมว่าผมจะชดใช้ให้คุณโดยไม่มีข้อแม้ ผมสัญญา โปรดรับไว้เถอะ"

ชาร์ลีเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง

ด้วยคำพูดนี้และท่าทีของชาร์ลีทำให้ชายยอมรับข้อเสนอ

"ได้ผมตกลง แต่ไอ้เวรไอริชระยำนั่นต้องโดนลงโทษด้วย"

 ชาร์ลีพยักหน้าด้วยความดีใจหลังจากนั้นชายได้รับการบรรจุให้เป็นเจ้าหน้าที่ ซีไอเอพร้อมได้รับสัญชาติอเมริกาทันที แต่ชายนั้นต้องรักษาตัวเพื่อทำกายภาพและการฟื้นฟูสภาพจิตใจอยู่ร่วม 6 เดือน ส่วนเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ซ้อมชายถูกลดตำแหน่งจากเจ้าหน้าที่พิเศษไปเป็นเจ้าหน้าที่ธรรมดา และถูกย้ายไปทำงานด้านเอกสารแทนซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด หลังจากนั้นชายได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม จากความรู้เกี่ยวกับเรื่องขนบธรรมเนียมของมุสลิมและการอบรมเพิ่มเติมทางด้านภาษาอาหรับ ด้วยหน้าตาที่ใกล้เคียงกับพวกแขกขาว ยิ่งถ้าใส่ผ้าคลุมหัวและปิดหน้าที่เห็นแต่ดวงตา ทำให้ดูเหมือนคนอาหรับยิ่งขึ้น ชายจึงถูกส่งไปเป็นเจ้าหน้าที่สนามในแถบตะวันออกกลาง

ด้วยความสามารถบวกกับความฉลาดที่มี ทำให้ชายสร้างผลงานได้อย่างดีในการประสานกับกลุ่มต่างๆในแถบตะวันออกกลางโดยเฉพาะประเทศที่เป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ชายรับหน้าที่ในการหาข้อมูล ประสานงานกับหน่วยรบพิเศษต่างๆของกองทัพสหรัฐเวลาเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ ที่ชายรับผิดชอบอยู่ การชี้เป้าหมายในการลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ซึ่งผลงานเหล่านี้ทำให้ทางซีไอเอนั้นพอใจในตัวชายอย่างมาก งานของชายนั้นไม่ต้องถึงขั้นแฝงตัวเพราะชายจะแสดงให้รู้ว่าตนคือเจ้าหน้าที่ของซีไอเอ คนที่ติดต่อกับชายแทบทุกคนนั้นจะรับรู้ว่าชายเป็นซีไอเอ

แต่ชายไม่ใช่คนที่มือสะอาดนัก ความคิดของชายเปลี่ยนไปหลังจากเกิดเหตุการณ์กับตัวเอง ชายฝังใจตั้งแต่เรื่องอากับน้อง และสิ่งที่ตนเองเจอเงินจำนวน 5 ล้านเหรียญมันมากพอที่จะทำให้ชีวิตของชายอยู่อย่างสุขสบาย แต่ชายไม่พอใจกับสิ่งที่ตนได้รับ อย่างน้อยเจ้าหน้าที่เอฟบีไอกับตำรวจของนิวยอร์กต้องรับผิดชอบให้มากกว่านี้ แต่มีเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบและโทษนั้นเบามาก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสชายจึงใช้เรื่องของงานนั้นแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างเต็มที่ เช่นเงินที่ซีไอเอจ่ายให้แหล่งข่าวหรือชาวบ้านทั่วไปที่มาขายข่าวให้ หรือเงินรางวัลที่เป็นค่าหัวของผู้ก่อการร้ายคนสำคัญที่ชายดูแลก่อนจะไปส่งมอบให้ชายจะชักไป5-10 เปอร์เซ็นต์  รวมไปถึงบรรดาอาวุธต่างๆที่ทาง ซีไอเอมอบให้กลุ่มต่างๆที่ทางซีไอเอให้การสนับสนุนนั้นชายจะจัดการดึงออกไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อไปชายในตลาดมืดหรือถ้าตกลงกับกลุ่มพวกนั้นได้ชายจะนำไปขายทั้งหมดและแบ่งเงินให้กับกลุ่มพวกนี้ รวมไปถึงการขายข้อมูลพื้นๆเช่นเส้นทางขนส่งที่ปลอดภัยให้กับพวกพ่อค้าในตลาดมืด

ส่วนทางบ้านของชายนั้นจัดว่ามีฐานะอันจะกินอยู่พอสมควร  เพราะมีไร่ข้าวโพดอยู่ร่วม 30 ไร่ ที่เป็นมรดกตกทอดกันมา ตอนนี้พ่อกับแม่ของชายเกษียณกันทั้งคู่แล้วจึงมาช่วยกันดูแลไร่ข้าวโพดซึ่งอาสะใภ้นั้นมาช่วยดูอีกแรงหลังจากขายของเสร็จ ตอนที่ปู่เสียไร่ข้าวโพดได้แบ่งให้อาไป 15 ไร่ แต่หลังจากที่อาเสียชีวิต อาสะใภ้ได้ขายที่คืนให้พ่อของชายเพราะดูแลเองไม่ไหว แต่เข้ามาช่วยดูแลไร่ตลอด ส่วนเรื่องของงานชายบอกที่บ้านว่าได้งานทำที่บริษัทน้ำมันและต้องไปทำงานที่โอมานมีบางครั้งที่จะติดต่อไม่ได้เพราะต้องไปกับเรือที่ขนส่งน้ำมันทำให้ไม่มีใครสงสัยอะไร

ชายส่งเงินมาให้พ่อกับแม่เดือนละ สามหมื่นและส่งอาสะใภ้เดือนละสองหมื่น เพราะชายคิดว่าครอบครัวตนเองนั้นต้องรับผิดชอบต่อการตายของอา ที่อาไปส่งน้องเพราะพ่อเป็นคนบอกให้ช่วยไปส่ง ตัวพ่อของชายวันนั้นติดธุระไปส่งไม่ได้ทำให้อาต้องมารับเคราะห์แทน แถมอายังมีลูกสาวที่ยังเล็กอยู่อีกคน ทำให้อาสะใภ้นั้นต้องรับภาระอย่างหนักในการดูแลลูกแถมลูกสาวยังเป็นโรคอ้วนอีกด้วย ที่ผ่านมาไม่ใช่ชายจะไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้าน ชายแอบกลับมา3-4ครั้งโดยที่ไม่มีคนอื่นรู้ มีแต่คนในบ้านเท่านั้นที่รู้เวลามาบ้านชายจะถึงช่วงดึกและอยู่ในบ้านเกือบตลอดเวลากลับก็จะไปตอนมืดไม่ก็เช้ามืด บางครั้งชายกลับมาเพราะภาระกิจที่เกี่ยวข้องกับ"คุกลับ"ของซีไอเอในเมืองไทย ชายจึงหาโอกาสแอบกลับมาที่บ้าน ชายนั้นห่วงย่าอย่างมาก ถึงย่าจะยังแข็งแรงความจำดีอยู่แต่ชายก็อดห่วงไม่ได้ ชายเอาเงินส่วนหนึ่งมาปรับปรุงบ้านให้ดีขึ้น จากครึ่งไม้ครึ่งปูนเป็นปูนทั้งหลังและติดแอร์อีกหลายตัว รั้วจากรั้วไม้เป็นรั้วปูนที่สูงขึ้นและมิดชิดทำให้ชาวบ้านไม่มีทางรู้ว่าชายได้เคยกลับมาเยี่ยมบ้าน  แถมชายยังสั่งให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดอีกหลายทำให้ชายได้เห็นคนที่บ้านแม้จะอยู่ห่างออกไปอีกมุมโลกก็ตามที

ฝ่ายอเล็กซ์หลังจากที่ชายได้มาส่งเธอที่โรงแรม หลังจากที่เข้าห้องพัก เธอได้แต่คิดถึงเรื่องที่จะตามมา เธอที่อยู่ในฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเองก็รู้ว่าชายนั้นถูกจับตาจากทางผู้บริหารอยู่เหมือนกัน จากเรื่องที่ชายทำอยู่ แต่มันยังได้ผลดีต่อองค์กรเรื่องพวกนี้เลยถูกมองข้ามไป หลายครั้งที่ชายควบคุมการปฏิบัติงานลอบสังหารบรรดาแกนนำของกลุ่มก่อการร้าย ถ้าใช้ทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐงานจะไม่มีปัญหาอะไรเพราะมีกฎหมายและข้อบังคับควบคุมอยู่ แต่ถ้าใช้พวกทหารรับจ้างหรือบรรดานักฆ่ามืออาชีพ มักจะมีคนบริสุทธิ์ถูกลูกหลงไปด้วย ทำให้ชายจัดอยู่พวกเจ้าหน้าที่สนามที่ทำงานสกปรกเพราะไม่นึกถึงชีวิตของคนบริสุทธิ์

อย่างปฏิบัติการล่าสุดของชายในประเทศซีเรียตรงพื้นบริเวณพื้นที่ ที่มีความขัดแย้งมาก มีข่าวกรองรายงานถึงการปรากฏตัวของรองหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งที่ทางสหรัฐตั้งค่าหัวไว้ 1 ล้านเหรียญ ชายเป็นคนแจ้งข่าวนี้และได้รับมอบหมายให้คุมงานลอบสังหาร ซึ่งพื้นที่เสี่ยงเกิดกว่าที่จะส่งทหารสหรัฐเข้าไป เพราะอยู่ในเขตดูแลของรัฐบาลซีเรียที่มีทหารรัสเซียประจำในพื้นที่ ชายจึงเลือกใช้งานพวกอาหรับที่เป็นนักรบรับจ้างให้ทำงานนี้ การลอบสังหารนั้นใช้วิธีวางระเบิดบนรถที่จอดอยู่ริมถนน เพื่อให้ระเบิดใส่รถของเป้าหมายขณะกำลังวิ่งผ่านซึ่งงานสำเร็จไปด้วยดี

แต่มีชาวบ้านที่ผ่านมาเสียชีวิตไป 3คน 1 ในนั้นเป็นเด็กอายุ 10 ขวบ ชายถูกเรียกไปสอบสวนอย่างลับๆ ซึ่งชายบอกว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยเพราะพวกชาวบ้านผ่านมาพอดีทำให้สั่งยกเลิกไม่ทัน และภารกิจนี้เป็นภารกิจลับ แต่เพราะมีคนบริสุทธิ์เสียชีวิตทางซีไอเอจึงปล่อยข่าวออกไปว่าเป็นการฆ่ากันเองของกลุ่มก่อการร้าย  หรือก่อนหน้านั้นชายมีภารกิจลอบสังหารนายทหารเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยข่าวกรองของอิหร่านที่พาครอบครัวมาพักผ่อนที่อิสตันบูล ซึ่งภารกิจนั้นสำเร็จ แต่ภรรยาของนายทหารที่เป็นเป้าหมายนั้นถูกลูกหลงเสียชีวิตไปด้วย

ถึงจะทำให้ผู้ใหญ่ในซีไอเอหลายคนไม่ชอบใจกับวิธีการทำงานของชายที่ค่อนข้างจะเลือดเย็นและโหดร้าย แต่ผลงานที่ได้นั้นมันคุ้มค่าจึงถูกมองข้ามไป อเล็กซ์รู้จักกับชายตั้งแต่เริ่มเข้าฝึกอบรมที่ The Farm เธอนั้นเป็นลูกครึ่งปากีสถาน พ่อเป็นคนอเมริกันแม่เป็นคนปากีสถาน ครอบครัวของตากับยายของเธอนั้นอพยพมาอเมริกาตั้งแต่ช่วงที่ปากีสถานแยกตัวออกจากอินเดีย แม่ของเธอนั้นเกิดที่อเมริกา จนเรียกได้ว่าเธอเป็นคนอเมริกาคนหนึ่งยกเว้นหน้าตาที่บ่งบอกว่ามีเชื้อสายของพวกแขกปากีสถาน พ่อของเธอนั้นเป็นตำรวจส่วนแม่เป็นพนักงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์  หลังจากจบมหาวิทยาลัยเธอได้ทำงานด้านนักวิเคราะห์การเงินอยู่ระยะหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนอาชีพไปเห็นไกด์ ซึ่งอเล็กซ์นั้นพูดได้ 4 ภาษาทั้งอังกฤษ,ฝรั่งเศส,อิตาลีและ อูรดูซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในปากีสถาน  และความจำที่เป็นเลิศ ทำให้เธอถูกทาบทามให้มาร่วมงานกับซีไอเอ

ช่วงระยะเวลาการฝึกที่ The Farm เธอรู้สึกทึ่งกับผู้ชายชาวเอเชียที่ชื่อชัยพรมาก จากทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการเดินป่า ตอนแรกเธอกับชายไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่หลังจากที่เธอโดนชายอัดจนคว่ำจากการที่ครูฝึกบอกให้สู้กันแบบ 3 รุม 1 ซึ่งกลุ่มเธอที่มีผู้ชายร่างใหญ่ถึง 2 คน นั้นสู้ชายไม่ได้ และเธอได้เคยร่วมกลุ่มเดินป่ากับชาย ซึ่งชายแสดงให้เห็นถึงทักษะการเดินป่าอย่างยอดเยี่ยม ทั้งการดูแผนที่ เข็มทิศ หรือการสังเกตทิศจากดวงดาว จนเธอได้จับคู่กับชายในภารกิจทดสอบที่สุดโหดภารกิจหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝึกหัดทุกคนถูกพาไปที่แคนาดา และครูฝึกได้จับคู่ให้เจ้าหน้าที่ฝึกหัดก่อนจะยึดพาสปอร์ตของทุกคนโดยโจทย์ของภารกิจนี้ คือให้เจ้าหน้าที่ฝึกหัดหาวิธีกลับไปที่ The Farm โดยไม่ถูกจับ

ตอนแรกอเล็กซ์นั้นวิตกมาก ผิดกับชายที่ดูไม่มีอาการวิตกอะไร ชายพาเธอไปซื้อแผนที่และเข็มทิศพร้อมกับของกินสำหรับ 2 มื้อก่อนจะพาขึ้นรถไปยังชายแดน และพาเธอเดินลัดเลาะเข้าไปในพื้นที่ป่าที่เป็นพรมแดนคั่นของแคนาดากับสหรัฐ ช่วงพักระหว่างทาง เธอได้ถามชายด้วยความสงสัยในหลายๆเรื่องเพราะที่ผ่านๆมาเธอไม่ค่อยจะได้มีโอกาสคุยกับชายมากนัก

"ชัยพรฉันสงสัยมานานแล้วทำไมคุณถึงเดินป่าได้เก่งมากทั้งๆที่ ตัวคุณเองก็ไม่เคยผ่านพื้นที่ที่พวกเราไปฝึกมาก่อน ฉันเห็นคุณดูแผนที่กับเข็มทิศไม่นานเท่าไหร่คุณก็ชี้ไปทิศที่ถูกต้องได้ ขนาดที่พวกเราผ่านการฝึกมาพร้อมๆกับคุณยังใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะจับทิศได้"

ชายยิ้มออกมาก่อนจะจะบอกอเล็กซ์

"ถึงไม่เคยผ่านมาก่อนแต่ถ้าเรารู้ทิศ มันก็จะไม่ยากหรอกคุณ ผมนะเดินป่าเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ"

ชายเล่าเรื่องในในวัยเยาว์ให้อเล็กซ์ฟังว่าเพราะอะไรตนเองถึงมีความสามารถในการเดินป่า

"ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมผมถึงต้องซื้อเข็มทิศมาด้วย เพราะในโทรศัพท์มันก็มีแอปเข็มทิศ แต่ถ้าแบตหมดก็จบกัน ผมเลยซื้อเช็มทิศมาด้วยไง"

"อ๋อฉันหายสงสัยแล้วว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณเก่งถึงเดินป่า บางครั้งที่พวกเราหลงทิศ แต่ได้ประสบการณ์ของคุณที่พาพวกเราไปถึงจุดหมายได้ แต่ฉันยังมีเรื่องติดใจอยู่ เรื่องเกี่ยวกับมุสลิมดูคุณจะรู้เรื่องมากกว่าตัวฉันซะอีก ถึงตัวฉันเองตอนนี้ก็เรียกว่าไม่ได้เป็นมุสลิมแล้ว แต่ฉันก็มาจากครอบครัวของมุสลิม"

ชายหัวเราะเบาๆก่อนจะเล่าเรื่องของตนเองให้ฟัง ซึ่งอเล็กซ์ก็ซักถามเพิ่มเติมพอสมควร

"มันฝังอยู่ในหัวไง เพราะดึกๆกลางป่าก่อนจะนอน ผมจะถามตาตลอดเพราะตอนนั้นสงสัยอยู่หลายเรื่อง และตาก็เต็มใจที่จะอธิบายให้ฟังตลอด  ผมเลยมีความรู้เกี่ยวกับพวกนี้พอสมควร"

"ถ้าฝึกเสร็จแล้วคุณคงได้ไปประจำแถวๆตะวันออกกลางแน่นอน"

ชายไม่ได้ตอบเธอ เพียงแต่ยิ้มรับ และชายพาเธอกลับไปที่ The Farm สำเร็จอย่างง่ายดาย ทำให้อเล็กซ์แอบให้ความสนใจตัวของชายขึ้นมา  ช่วงที่ชายอยู่โรงพยาบาลอเล็กซ์ไปเยี่ยมแทบทุกวัน แต่หลังจากที่ชายออกจากโรงพยาบาล ระหว่างที่ทำกายภาพบำบัด อเล็กซ์รับรู้ได้ว่าชายนั้นเปลี่ยนไปพอสมควร จนทั้งคู่ได้เข้าทำงานในซีไอเอ ช่วงแรกอเล็กซ์ได้ไปทำงานภาคสนามแถบเอเชียใต้ก่อนจะถูกย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข่าวในตะวันออกกลาง จนวันหนึ่งเธอต้องลงพื้นที่เพื่อไปคุยกับแหล่งข่าวคนหนึ่งที่เป็นชนเผ่าเบดูอินที่เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างชายแดนของอิรักกับอิหร่าน การเดินทางนั้นค่อนข้างที่จะลำบากเพราะเธอต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปเจอกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่จุดนัดพบที่ไม่ห่างจากโอเอซีสแห่งหนึ่ง และต้องนั่งรถไปอีก 6 ชั่วโมงเพื่อไปพบแหล่งข่าว ที่ต้องเดินทางแบบนี้มันจะได้ไม่สะดุดตานักและจุดที่ต้องไปพบแหล่งข่าวมันห่างจากชายแดนอิหร่านไม่ถึง 3กิโล และเจ้าหน้าที่ซีไอเอคนที่จะพาเธอไปพบแหล่งข่าวคือชาย

ตั้งแต่แยกย้ายกันทำงานอเล็กซ์ไม่ได้พบกับชายอีกเลย  งานครั้งนั้นผ่านไปด้วยดีและชายทำหน้าที่ใด้อย่างดีจนช่วงขากลับ ระหว่างทางมีพายุทรายเกิดขึ้นทำให้ชายพาอเล็กซ์ถึงที่โอเอซิสล่าช้าเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาค่ำเสี่ยงเกินกว่าที่เฮลิคอปเตอร์จะบินเข้ามารับ ทำให้ทั้งคู่ต้องพักที่โอเอซิสแห่งนั้น 1 คืน  เพื่อรอให้เฮลิคอปเตอร์มารับในตอนเช้า คืนนั้นภายในเต็นท์ที่ชายมีติดรถมา ทั้งคู่ขณะที่นอนไหล่เบียดกันชายได้พูดเปรยๆขึ้นมา

"ถ้าไม่ติดพายุทราย ป่านี้คุณคงได้อนสบายกว่านี้ในห้องพักที่ฐานทัพ"

"ช่วยไม่ได้มันเกิดเหตุไม่คาดฝันแต่ยังดีที่มีน้ำให้อาบ"

อเล็กซ์ตอบชายพร้อมพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปทางชายหนุ่ม

"ข้อมูลที่ได้มาวันนี้คุณคิดว่ายังไง"

"นั้นมันหน้าที่ของคุณไม่ใช่หรืออเล็กซ์ ตอนที่เรียนคะแนนเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลคุณได้ที่ 1 มาตลอดนี่"

"ชายคุณนี่กวนไม่เลิก ฉันถามคุณ"

"เบดูอินพวกนี้ถ้าเราทำให้เขาไว้ใจได้ เขาจะซื่อสัตย์ต่อเรา แต่ถ้าเราทำให้พวกเขาแค้นเราจะถูกโต้ตอบแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ตั้งแต่ผมมาทำหน้าที่ประสานหาข่าวจากพวกนี้ผมมีความจริงใจกับเขาตลอด คำตอบแบบนี้คุณพอใจไหมละ"

"มันก็จริงถ้าคุณช่วยยืนยัน แต่ฉันเห็นเบดูอินกลุ่มนี้มีอาวุธที่ค่อนทันสมัยนะชาย ทั้ง M-4ทั้งปืนลูกซองรุ่นใหม่ๆทั้งนั้น"

ในแสงไฟจากตะเกียงแบตเตอรี่เธอเห็นชายยิ้มออกมาก่อนจะตอบเธอ

"อย่างที่ผมบอกถ้าเราแสดงความจริงใจให้พวกเขาเห็น มันต้องมีอะไรที่แสดงความจริงใจให้พวกเขาเห็นด้วยไม่ใช่เพียงแค่คำพูด"

"แค่เท่าที่ฉันรู้ เราไม่เคยหาอาวุธให้พวกเขานี่"

"พวกเบดูอินเขาขอมาแค่เล็กน้อยเรื่องพวกนี้ไม่ต้องมีในรายงาน และพวกเขามีไว้แค่ป้องกันตัวเท่านั้น ทางตัวใหญ่ของซีไอเอเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เขาสนแต่ว่างานจะสำเร็จไหมและมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่พวกเบดูอินยอมเป็นหูเป็นตาให้กับเรา"

ชายตอบเธอก่อนจะหลับตาลง  ส่วนอเล็กซ์มองไปที่ชายหนุ่มอย่างเงียบๆตอนขาไปเธอเห็นในรถมีลังกระสุนอยู่2-3ลังนั่นคงเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนกับเบดูอินกลุ่มนี้เพื่อจะได้ข้อมูลมา แต่เธอพยายามระงับอารมณ์ที่พลุกพล่านอยู่ภายในใจ ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปนานหลังจากที่ไม่ได้เจอชาย แต่มันหวนกลับมาอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้มีอะไรที่สะดุดความรู้สึกของเธออย่างมาก ยิ่งเคยได้ใกล้ชิดตอนเดินข้ามพรมแดนจากแคนาดามาสหรัฐ แต่ชายกลับดูเฉยๆกับเธอทั้งๆที่ผ่านมา อเล็กซ์สามารถใช้เรือนร่างและเสน่ห์ของเธอดึงดูดผู้ชายได้ตลอดแต่ไม่ได้ผลกับผู้ชายคนนี้  ในที่สุดเธอไม่สามารถห้ามความต้องการของตนเองได้ อเล็กซ์เอามือไปวางบนหน้าอกของชายแล้วลูบไปมาก่อนจะถาม

"ชาย คุณว่าฉันเป็นผู้หญิงที่สวยไหม"

ชายลืมตาขึ้นมาและพลิกตัวไปหาหญิงสาว

"ถามทำไมหรือ"

"เห็นคุณเฉยๆกับฉันมาตลอด ฉันแลยแปลกใจ"

ชายอมยิ้ม เพราะในที่สุดอเล็กซ์ก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน  ชายแอบมองเรือนร่างของอเล็กซ์มาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก รูปร่างของเธอนั้นสะดุดตาอย่างมาก นอกจากหน้าตาที่สวยแบบแขกขาว หุ่นของเธอนั้นเรียกได้ว่าจัดอยู่ในพวกเนื้อนมไข่ ยิ่งสะโพกที่อวบอัดนั้นสะดุดตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาอยู่ในชุดว่ายน้ำมันเด่นทั้งตรงหน้าอกทั้งสะโพก แถมตรงเป้านั้นดูจะสะดุดตาไม่แพ้นมกับก้น แต่ชายยังหาโอกาสไม่ได้ยิ่งตอนนั้นอเล็กซ์กำลังคั่วอยู่กับเจ้าหน้าที่ฝึกหัดอีกคน ชายเลยไม่อยากเข้าไปยุ่งและเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ผ่านการฝึก จนวันโอกาสมาถึงแล้วโดยที่ฝ่ายหญิงเป็นคนเริ่มก่อน ชายไม่ได้ตอบหญิงสาว แต่ขยับตัวเข้าไปชิดจนเป้ากางเกงนั้นทาบสนิท  ชายเอามือไปวางตรงหน้าอกเธอ พร้อมยื่นหน้าเข้าไปหา ริมฝีปากของชายทาบกับริมฝีปากของอเล็กซ์ เธอตอบรับการจูบของชายอย่างเต็มใจ

อเล็กซ์พลิกตัวมานอนหงายพร้อมดึงตัวของชายให้ขึ้นมานอนทาบบนตัวเธอ ทั้งคู่ต่างแลกจูบกันอย่างร้อนแรง ก่อนจะช่วยกันถอดเสื้อผ้าโดยไม่สนใจว่าสภาพอากาศกลางทะเลทรายช่วงดึกนั้นจะหนาวเย็นขนาดไหน  แต่ไฟสวาทของทั้งคู่นั้นลุกโชนจนกลบความเย็นลงได้ ต่างฝ่ายต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายจนร่างของทั้งคู่นั้นเปลือยเปล่า

"ชายดับตะเกียงก่อน"

เสียงของอเล็กซ์บอกกับชายเพราะกลัวเงาของจะสะท้อนขึ้นบนผ้าใบของเต็นท์ เพราะที่โอเอซิสแห่งนี้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง มีพวกที่เดินทางตามทะเลทรายมาแวะพักอยู่เหมือนกัน ถึงชายจะพาเธอมาพักห่างจากพวกนั้นก็ตามที ชายทำตามก่อนจะเลื่อนมาทาบบนตัวอเล็กซ์อีกครั้ง หญิงสาวกดหน้าชายลงไปแนบทรวงอกที่อวบใหญ่ของเธอ ชายฝังจมูกลงไปกลางร่องอกแล้วสูดหาความหอมแรงๆ ก่อนจะเลื่อนหน้าขึ้นมาที่หัวนม ริมผีปากของชายเม้มไปแรงๆบนหัวนมที่ชูชัน พร้อมนำมืออีกข้างไปบี้ที่อีกเต้า ก่อนจะทำสลับไปมา ซึ่งตัวอเล็กซ์เองนั้นแอ่นกายขึ้นเป็นระยะเพื่อรองรับการเล้าโลมของชาย เธอใช้มือดันบ่าให้เลื่อนลงไปด้านล่าง พร้อมกับเริ่มครางออกมาเป็นระยะเมื่อเจอกับลิ้นที่ลากผ่านไปตามหน้าท้อง เธอรับรู้ขนหมอยของเธอถูกริมฝีปากของชายเล็มไปมาแล้วค่อยๆไล่ลงมาถึงรูหีที่ชุ่มชื้น ก่อนที่ลิ้นของชายจะกวาดเข้าไปในรูหีเธอ และแตะไปที่เม็ดแตดทำเอาเธอผวามือบีบไหล่ชายแน่น ก้นเธอส่ายไปมาพร้อมกับเสียงคราง จนเธอทนไม่ไหวหลังจากที่ชายเลียหีเธอไม่หยุด

"ชายทำเถอะทนไม่ไหวแล้ว"

เสียงอันกระเส่าดังจากปากของเธอ ชายเลียหีเธออีก 2-3 ครั้งแล้วเลื่อนตัวขึ้นมา จนใบหน้าของชายขึ้นมาอยู่ไม่ห่างจากหน้าเธอ อเล็กซ์ใช้มือโอบรอบคอชายแล้วโน้มหน้าลงมาหาทั้งคู่ต่างแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ชายขยับควยให้ตรงกับรูหีของเธอ พร้อมดันเข้าไปในรูหีเธอ อเล็กซ์กางขาออกเพื่อรองรับสิ่งที่เธอรอคอยมานาน ควยของชายดันเข้ามาในรูหีเธอเต็มแรง อเล็กซ์ผวาตัวเด้งรับทันที พร้อมกับครางออกมา

"อู้ววววว แบบนั้นละเด็กดี"

ชายกระเด้าอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับอเล็กซ์ที่เด้งรับไม่หยุด เสียงโหนกเนื้อที่กระทบกันของทั้งคู่นั้นดังผสมกับเสียงครางที่ออกจากปากอเล็กซ์ไม่หยุด จนชายจวนจะถึงจุดหมายชายกระเด้าถี่ขึ้นเหมือนกับเธอที่เด้งรับไม่หยุดเช่นกัน จนน้ำกามของชายพุ่งเข้าไปในรูหีของเธอ ชายร้องครางออกมาพร้อมกับซบหน้าลงไปหาเธอ เหมือนกับอเล็กซ์ที่โอบรัดชายแน่นก่อนจะคลายออก ใบหน้าของทั้งคู่คลอเคลียกัน อเล็กซ์ยื่นหน้าขึ้นมาจูบชายเบาๆแล้วชายพลิกตัวลงไปนอนข้างๆเธอ

"เรื่องแบบนี้ของเราน่าจะเกิดขึ้นมานานแล้วนะ แต่ดูคุณไม่เคยสนใจฉันเลย"

"ตอนนั้นคุณพัวพัวอยู่กับเจสันอยู่ ผมไม่อยากไปยุ่งมันจะผิดใจกันเปล่าๆ"

"มิน่าเป็นอย่างที่ฉันคิด ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่แอบมองฉัน"

"ก็หุ่นคุณมันน่ามองนี่ พอมาเจอของจริงแล้วผมบอกได้ว่าไม่ผิดหวัง"

ชายพูดพร้อมเอามือไปขยำนมเธอแรงๆ ทำให้อเล็กซ์พลิกตัวขึ้นมานอนบนตัวชาย

"คุณก็เหมือนกัน"

เธอตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย ก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าลงไปด้านล่าง หัวนมทั้งสองข้างของชายถูกลิ้นของเธอ สัมผัสตามด้วยริมฝีปากที่หนาอวบอิ่ม สลับไปมาเป็นระยะ ทำเอาชายหายใจแรงขึ้น ใบหน้าของอเล็กซ์ค่อยๆเลื่อนลงไปด้านล่าง จนไปถึงควยที่อ่อนตัว เธอใช้ลิ้นเลียไปมาโดยไม่สนใจคราบน้ำกามที่ติดอยู่ ก่อนจะเอาปากอม พร้อมจับมือชายทั้งสองข้างมาวางที่นมของเธอทั้ง 2 เต้า ชายนั้นเคล้นคลึงอย่างเต็มที่จากความเสียวที่กำลังได้รับ อเล็กซ์ใช้ปากปลุกควยชายให้แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้งด้วยลีลาการใช้ปากของเธอนั้นจัดว่าสุดยอดเมื่องลองเทียบจากผู้หญิงหลายๆคนที่ชายเคยผ่านมาตั้งแต่สมัยเรียน ด้วยการที่เป็นถึงนักกีฬาทีมชาติไม่ยากเลยที่จะดึงดูดผู้หญิงเข้ามา นอกเหนือจากเรื่องของหน้าตาเริ่มตั้งแต่อาจารย์ฝึกสอนผู้เร่าร้อน เพื่อนผู้หญิงที่อยู่คนละห้อง จนมาเรียนในมหาวิทยาลัย ชายไม่เคยขาดผู้หญิงเลย

อเล็กซ์ใช้ลิ้นเลียไปตามแท่งควยที่แข็งตัวไล่ลงมาถึงลูกกระโปกเธอใช้ลิ้นเลียไปมา ก่อนจะค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นพร้อมจับควยของชายมาถูไปมาที่หัวนมของเธอทั้งข้างแล้วเอาไปสีที่ร่องนมอยู่พักใหญ่ เธอจึงเลื่อนตัวสูงขึ้นมาอีก จนโคกหีเลื่อนมาตรงกับควยของชาย อเล็กซ์จับควยของชายให้จ่อที่ปากรูหีเธอ แล้วจับสีไปมาตามร่องหีที่แฉะไปด้วยน้ำเงี่ยนและน้ำกามอยู่2-3 ครั้ง แล้วค่อยๆยัดเข้าไปในรูหีจนสุด เธอจึงเริ่มโยกตัวไปมาอย่างช้า แถมจับมือของชายที่ตอนนี้โอบรอบสะโพกเธออยู่ ให้มาวางบนนมของเธออีกครั้ง ยิ่งชายเริ่มบี้ไปที่หัวนมเธอยิ่งร้องครางดังขึ้น อเล็กซ์แอ่นตัวให้ชายเคล้นคลึงนมที่อวบอิ่มได้ถนัดมือ จนชายลุกขึ้นมานั่ง มือทั้งสองเลื่อนลงไปรวบที่เอวของเธอ พร้อมซุกหน้าไปที่เต้านมที่อวบอิ่มแล้วใช้หน้าไซร้ไปมา อเล็กซ์นั้นเริ่มขย่มตัวแรงขึ้น แถมชายนั้นเด้งรับ

"อู้ววว ชาย  โอ้วววว ดีจังแบบนั้นละ ซี๊ดดดดด โอ้วววว"

เสียงร้องครางของเธอนั้นเปล่งออกมาจากปากไม่หยุด พร้อมกับการขย่มตัวที่เร็วขึ้น ยังดีที่เต็นท์นี้อยู่ห่างจากลุ่มคนที่มาพักอยู่พอสมควร จึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องครางอย่างรัญจวนใจของอเล็กซ์ ยิ่งจวนจะถึงจุดหมายอเล็กซ์ยิ่งขย่มแรงขึ้น จนชายปล่อยน้ำกามเข้าเข้ารูหีเธออีกครั้ง ทั้งคู่ต่างกอดกันแน่นพร้อมกับลมหายใจอย่างถี่ๆ จนชายดึงตัวหญิงสาวให้ลงมานอน ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับลงไปด้วยความเหนื่อยอ่อน  จนช่วงสายวันต่อมาชายขับรถพาอเล็กซ์ไปยังจุดที่นัดหมายซึ่งชายได้รับคำสั่งใหม่ให้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับมาพร้อมอเล็กซ์ด้วย ชายจัดการเผารถคันที่ขับก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ หลังจากที่ทั้งคู่กลับไปถึงค่ายทหารในอิรักระหว่างที่ชายรอรับคำสั่งสำหรับภารกิจใหม่ ส่วนอเล็กซ์อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสอยู่ด้วยกันมากขึ้น หลังจากนั้นอเล็กซ์มีโอกาสได้ลงไปทำงานภาคสนามกับชายอีก 3-4 ครั้ง ทั้งคู่ทำงานเข้าขากันมากทั้งเรื่องงานและเรื่องบนเตียงจนชายขอให้เธอมาช่วยงานในครั้งนี้


/

Teerapong2534

ลูกชาและ​เถ้า​แก่บุญมี คงโดนการแก้แค้นแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบแน่เลย