ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่6

เริ่มโดย Monchai-S, พฤษภาคม 10, 2018, 01:28:13 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S

จากนวนิยายใน นิตยสาร คำสารภาพ  นามผู้ประพันธ์   กาย สกุลบุหลัน   ช่วงปีพศ. 2533
มีทั้งหมด 85 ตอน  เป็นเรี่องที่ประพันธ์ได้เยี่ยมยอดมากสำหรับผม แทบจะไม่มีคำหยาบเลยครับ แต่ให้ความรู้สึกลึกมาก
ผมคัดลอกมาจากนิตยสารอีกทีนะครับ ตอนต่างๆอาจจะมีมาไม่ครบ ที่ผมมีเริ่มต้นก็ตอนที่6 ตอนนี้ล่ะครับ เผื่อมีท่านใดเก็บไว้บ้างมาแบ่งปันกันครับ ลองอ่านดูครับว่าชอบแนวนี้กันหรือเปล่า

มลทินดอกไม้-ตอนที่6

             "เอาเหอะน่า" เสียงลายตองกระตุ้น  "เชื่อตองเถอะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ดองกับ กําบังทําทุกอย่างก็เพราะความหวังดีกับตัวคุณหนู
  ไม่ได้ทําเพื่อใคร คุณหนูอาบน้ําอาบท่าชำระเนื้อตัวให้ "สะอาดเสียก่อน มาสิตองจะช่วย"
"ไม่ ไม่ต้อง" ลูกเนียงขึนมือเอาไว้เมื่อสายตองทํา ท่าจะจูง ใบหน้าของเด็กสาวส่ายไปมา
"ไม่ต้องอะไรเล่า" ลายตองพูดแกมตวาด "เนื้อตัว สะอาดแล้วเขาจะได้ช่วยคุณหนูอย่างสนิทใจ บางทีเวลาที่คิดว่าอาจจะนาน คงเร็วกว่าที่คิดก็เป็นได้" 
  ซุ่มเสียงของลายตอง ดูวางอํานาจกรายๆ
"ตองแน่ใจเหรอ นอกจากเขาแล้วไม่มีใคร" ลูกเนียงชักรู้สึกกลัว กลัวลายตองจะขัดใจ
"มีใครที่ไหนอีกเล่า หรือจะให้ดองขึ้นรถไปตาม ตัวหมอโฉมมาทําให้"
"ไม่ ไม่ใช่" ลูกเนียงส่ายหน้า "ฉันหมายถึง... หมายถึงไม่มีคนอื่นรู้เห็น"
"ไม่มีหรอกค่ะ" ลายตองลากเสียงยาวๆ พลาง ค้อนแบบหมั่นไส้ "จะมีแต่นังส้มเช้าเท่านั้นแหละ ที่มันชอบไปแด๊ะแด๋แถวๆ นั้น"
"แด๊ะแด๋ แด๊ะแด๋ เป็นยังไง" เด็กสาวไม่เข้าใจคําพูดแปลกๆ ของลายตอง
"อ๋อ" ลายตองรู้ตัวว่าพูดเกินเลยไป "เปล่า ส้มเช้ามันชอบไปเดินเล่นแถวๆ นั้นค่ะ คนอื่นๆ ไม่มี ใครไปกันหรอก"
"แล้วถ้าสัมเช้าเขาไปล่ะ" ปากพูดใจก็คิดว่าถ้า
ส้มเช้าไปเห็นนายกําบังกําลังเอาเลือดเสียออกจากตัว ของเราจะทํายังไง
"โธ่ คุณหนูก็ ตอนบ่ายส้มเช้าจะต้องขึ้นมาทํา ความสะอาดบนตึก กว่าจะเสร็จก็สามสี่โมงเย็น ถึง ตอนนั้นคุณหนูก็เสร็จเรียบร้อยไปไหนๆ แล้ว" หาง เสียงของลายตองออกมาอย่างเยาะเย้ย "งานบนตึก ไม่ใช่งานต้องทําอย่างลวกๆ ยิ่งคุณแววรัตน์เป็นคน ละเอียด จู้จี้กลับมาเห็นอะไรไม่เรียบร้อยเป็นต้องโดน เล่นงานทันที ลองขึ้นมาทํางานบนตึกแล้วคุณหนูไม่ ต้องกลัวหรอกค่ะว่ามันจะวางมือหลบไปไหนได้ง่ายๆ มันต้องทํากันจนเสร็จแหละค่ะ"
"แล้วป้านุ่นกับอิ่ม"
"ก็บอกแล้วป้านุ่นแกไปตลาด อิ่มมันรีดผ้า คุณ หนูกลัวเหรอคะ"
ลูกเนียงพยักหน้า
"ถ้าคุณหนูโดนเลือดทํามันจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้" เสียงของลายตองฟังดูน่ากลัวไปด้วย "มาแหอะน่าคุณ หนู มาอาบน้ําเสียก่อนตองจะช่วยทําให้คุณหนูจะได้เบา เนื้อเบาตัว เมื่อถึงตอนนั้นอะไรต่ออะไรที่มันเสียๆ อยู่ ข้างในจะได้ออกมาจนหมดไม่มีเหลือให้เป็นอันตราย กับตัวเอง"
ลายตองเห็นลูกเนียงรีรอจึงลากครึ่งจูงครึ่งพาเข้า ห้องน้ํา
พลัน.สายตองก็คิดไปถึงตอนที่นายกองทุน โยนสปูให้ตนแล้วสั่งให้ไปอาบน้ํา ทําความ สะอาดเนื้อตัวให้เรียบร้อย...ลายตองไม่รู้ความ หมายของนายกองทุน แต่ก็อาบน้ําชําระเนื้อตัว
ให้สะอาดทุกขอกทุกมุมอย่างถี่ถ้วนตามคําสั่ง ของเขา
ออกมาจากห้องน้ําเนื้อตัวยังหอมกรุ่นด้วย กลิ่นสบู่นายกองทุนก็ข่มขึ้นจนเลือดโชกออกมา เคล้ากลิ่นหอมหมาดๆ ของสบู่และน้ําตา
วันนี้แหละ..ลูกสาวของนายกองทุนจะ โดนฉีกความสาวเหมือนกับเราบ้าง...ลายตอง คิดแล้วมันให้รู้สึกสาแก่ใจนัก...ขนาดและ น้ําหนักของนายกําบังมันยิ่งกว่านายกองทุน ไม่ใช่เข็บเย็บผ้าแต่เป็นการตอกเสาเข็มลงพื้น...
สายตองลูบไล้ไปบนเนื้อตัวของลูกเนียง ขัดถูกทุกซอกทุกมุมอย่างแผ่วเบา...ยิ่งนึก ไปถึงอีกสักครู่เนื้อเนียนแน่นๆ เต็มมืออยู่ ในขณะนี้จะต้องถูกบดขยี้...
ดอกไม้เพิ่งจะตูมไม่ทันลืมกิ่งจะต้องมาถูก เด็ด
ผลไม้เพิ่งจะห่ามไม่ทันลืมต้น จะต้องถูก ปลิดใส่ปากเคี้ยวทั้งๆ ที่ยังเปรี้ยวยังฝาด - เด็กหลงเดินตามผู้ใหญ่เพราะเชื่อว่าหมาไม่ กัดแต่กลับถูกผู้ใหญ่กัด..หมากัดคงจะไม่เจ็บ
ปวดเท่าโดนผู้ใหญ่กัด - กองทุนมีส่วนร่วมกระทําความผิดครั้ง
สําคัญของลูกสาวตนเอง เหมือนกองทุนจะช่วย - ผลักไสให้ลูกเนียงต้องตกเป็นเหยื่อของมนุษย์ ชั่วช้า สกปรก กักขฬะ สารเลวทารุณโหดร้าย
กฎของกรรมมันแก้กันไม่ได้ ถึงคราว ต้องเป็นไปตามกฎ
อาบน้ําเรียบร้อย ลายตองเอาผ้าขนหนูที่คลุมตัวลูก เนียงแล้วพามานั่งที่หน้ากระจก ใช้ผ้าขนหนูที่คลุมตัว เช็ดไปตามเนื้ออ่อนๆ
สําหรับลายตองลูกเนียงไม่มีความอายอยู่อีกแล้ว เพราะลายตองทําเหมือนกับที่แม่ช่วยทําให้เมื่อครั้งแม่ยัง มีชีวิตอยู่ ความว้าเหว่ ขาดความอบอุ่น ตลอดถึงความ หวาดกลัวทําให้ลูกเนียงมองเห็น ลายตองไม่ผิดอะไร กับแม่ที่จะช่วยให้พ้นจากสิ่งเหล่านั้นได้ ลูกเนียง เยาว์วัย จนไม่รู้ว่ากําลังหลงเดินเข้าไปเป็นเหยื่อของ สัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ในร่างของมนุษย์ซึ่งตนมองเห็นเป็น แม่พระ
ลายตองจัดแจงหวีผมอันอ่อนสลวยของเด็กสาว แล้วถักเป็นเปียหางเดียวผูกปลายด้วยโบสีตองอ่อน ตัดกับสีดําของผมเข้ากับสีนวลขาวอมแดงของผิวเนื้อ และข่มความสาวที่กําลังจะเริ่มให้ลดลงมองดูเป็นเด็ก มากยิ่งขึ้น จากนั้นลายตองไปเลือกเสื้อชุดที่แขวนไว้ เป็นระนาวอยู่ในตู้ครู่หนึ่งจึงหยิบเอาชุดเสื้อกระโปรง ติดกันเป็นสีฟ้าอ่อนๆ กลับมาปลดผ้าขนหนูออกจากตัว
เพื่อ จะสวมชุดให้กับลูกเนียง
"เดี๋ยว" เด็กสาวร้องห้าม "ไม่สวมชั้นในก่อนเหรอ" "ไม่ต้องดีกว่าค่ะ" ลายตองพูดหน้าตาเฉย
"ได้เหรอ มันบางออกอย่างนี้" ความจริงชุดนี้ถึง จะไม่บางจนมองเห็นอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่มันก็พอจะ เห็นเป็นรูปร่างได้รางๆ เมื่อตอนแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็กำชับ เป็นนักเป็นหนา เรื่องชุดชั้นในต้องสามเป็นประจําอย่า ได้ขาด
"คุณหนูจะสวมชั้นในไปทําไม ถึงยังไงก็ต้องเอา ออกอยู่ดี" ลายตองพูดแล้วค้อนประหลับประเหลือก "อย่าให้นายบังเขาต้องยุ่งยากมากนักเลขค่ะ"
"ไม่ ไม่เอา" ลูกเมียงส่ายหน้าเบี่ยงตัวขัดขืน
"เอ๊กคุณหนูนี่" ลายตองออกเสียงไม่ค่อยจะพอใจ "คุณหนูไม่เชื่อฉันเหรอ" ลายตองใช้นิ้วมือเหน็บ เบาๆ ที่ต้นแขนเด็กสาว
"ก็..ก็ฉับไม่เคยนี่" ลูกเนียงพูดกระเง้ากระงอด
"ถ้าไม่เชื่อตองก็ไม่ต้องไป" ลายตองทิ้งไพ่ตาย และก็ได้ผลเมื่อเห็นลูกเนียงหยุดขัดขืนจึงฉวยโอกาส ดึงผ้าขนหนูออกจากตัวจนหมดแล้วรีบจัดการสวมชุด สีฟ้าอ่อนให้ทันที เรียบร้อยจึงจับเด็ก สาวลุกขึ้นยืนหมุน ไปหมุนมาต่อหน้ากระจก
"ดูซิ มันน่าเกลียดหรือเปล่า น่ารักเสียด้วยซ้ํา คุณหนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วน้า เป็นสาวแล้วน้า"
ลูกเนียงมองดูตัวเองในกระจก เห็นเป็นภาพของ เด็กสาวแขนขายาว หน้าอกดันออกมาเป็นพุ่มผิดปกติ อยู่ในชุดสีฟ้าอ่อนๆ ซึ่งชายชุดรั้งขึ้นไปเหนือเข่า ความ จริงชุดนี้ตัดเอาไว้นานแล้ว ความเติบโตของร่างกาย สะพรั่งเกินวัยทําให้ค่อนข้างจะคับ มันจึงดันเนื้อตัวออก มาเด่นชัด
ขณะที่ลายตองกําลังจัดการแต่งเนื้อแต่ง ตัวให้ลูกเนียง....
เป็นเวลาเดียวกับที่รองพลกําลังตระเตรียม ขึงผ้าให้ตึงอยู่กับกรอบ ฟูกับและสีพร้อม เขาคิต มาแต่เช้าเล้วจะต้องมาหาถูกเนียง และควรจะมี อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง คิดอยู่นานจึงตัดสินใจ
จะวาดรูปของลูกเมียงเอามาให้เป็นของขวัญ ฝีมือการเขียนภาพของรองพลแม้จะไม่ชํานาญ แต่ก็จัดว่าไม่เลว
เรือนร่างและขนาดตลอดจนหน้าตาของ ลูกเนียงอยู่ในความทรงจําของเขาแล้ว
รองพลคิดไปถึงสีสันและลายเส้นที่เหมาะ สมกับความงามอันบริสุทธิ์ของเด็กสาว
ศิลปะทั่วไปเป็นความงามเพื่อยกระดับ จิตใจมนุษย์ เขาจะต้องมอบความงาม ความ บริสุทธิ์ให้กับเด็กสาวที่เขารัก
เขาใช้สมาธิอยู่นานก่อนจะเลือกสีสันและ ลงลายเส้นลายแรก
เขาปลดปล่อยความคิดอื่นๆ ออกไปให้ หมดจดจ่ออยู่เพียงสิ่งเดียวคือลูกเนียง
ความบริสุทธิ์ ความไร้เดียงสา ความ เคลื่อนไหวที่ปราศจากมายา ธรรมชาติอัน สวยงามสะพรั่งอยู่ในเรือนร่างของเด็กสาว เหล่านี้อัดแน่นอยู่ในความคิดของเขา เขาจะ ต้องค่อยๆ ระบายออกมาจากสมองผ่านมือและ ฟูกันลงบนผืนผ้าให้สวยสดงดงามที่สุด
สีสันและลายเส้นเป็นคําพิพากษาตัดสิน
ความรักของเขาที่มีต่อลูกเนียง
เรือนร่างของเด็กสาวอยู่ในความทรงจํานั้น น่าถนอม
ทุกครั้งที่เขาลากพู่กันลงบนผืนผ้าเขาจะ ต้องถนอมเท่ากับสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต
ดังนั้น...รองพลจึงต้องใช้เวลาอยู่นานก่อน จะลงพู่กันบนผืนผ้าสีขาวสะอาด
ตรงข้ามกับคนอย่างกําบัง
เขารอเด็กสาวอยู่ในห้องด้วยความกระเหี้ยน กระหือรือ
เด็กสาวขาวอวบ เปล่งปลั่งด้วยธรรมชาติ ปราศจากการตบแต่งด้วยเครื่องประทินใดๆ
ผู้หญิงที่เดินเข้าหาเครื่องสําอางหมายถึงเริ่ม เสื่อมโทรม
ลูกเนียงไม่รู้จักเครื่องปรุงแต่งเหล่านี้ไม่รู้ ตัวเองด้วยซ้ําว่าสวยและมีค่าแค่ไหน
แต่ในสายตาของคนอื่น...เฉพาะกําบัง ลูกเนียงกําลังอยู่ในวัยสาวที่น่าทําลาย น่าบดขยี้ให้ ยับเยิน สัญชาตญาณความเคียดแค้นมีอยู่ลึกๆ ภาย ในจิตใจของเขา แค้นที่ตนเองยากจน ต่ําต้อย ถูกกดขี่ทางชั้นวรรณะ เป็นฝ่ายรับใช้ผู้อื่นมาตั้ง แต่หนุ่มจนเริ่มจะแก่ ความเป็นมนุษย์ของเขามี ขีดจํากัด มีการเขียนวงให้อยู่ เขาเหมือนสุนัขมี สิทธิ์เห่าได้แต่หางจะต้องกระติกขณะที่ปากเห่า เหล่านี้มันเป็นแค้นลึก เป็นความรู้สึกว่าโดนคน อื่นข่มเหง โดยเฉพาะพวกที่เป็นนายจ้างเขา ไม่มี โอกาสตอบโต้ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาเก็บกดเอาไว้
บัดนี้
เขามีโอกาสที่จะตอบแทน มีโอกาสระบาย สิ่งที่เก็บกดเอาไว้ มีโอกาสยกวรรณะที่โดน กีดกันให้ขึ้นมาเสมอกับวรรณะที่สูงกว่า มี โอกาสที่จะขึ้นไปอยู่บนตัวของเด็กสาวผู้เป็น ลูกของนายจ้างที่เคยกดขี่เขามาตลอดเวลา
เลือดของเขาที่เป็นเลือดไพร่จะได้มีโอกาส เข้าไปคละเคล้ากับเลือดของผู้ดีและเป็นเลือดสาว
เขาจะเป็นผู้ชายคนแรกของลูกเจ้าลูกนาย
เขานึกไปถึงความบริสุทธิ์ ซึ่งตนเองยังไม่ เคยลิ้มลอง
กําบังรินเหล้าใส่แก้วเล็กน้อยยกขึ้นดื่ม...
เขาไม่ต้องการให้เมามากเกินไป แค่ร้อนๆ ใน ท้องเล็กน้อยมันช่วยให้เขาเกิดอารมณ์พอเหมาะพอดี
เขาอดที่จะชื่นชอบลายตองเสียมิได้ หล่อน เข้าใจหาความสุขให้เขา เขาจะต้องตอบแทน ความดีของหล่อนให้คุ้มค่า
เป็นวันที่ต้องจดจํา
ลูกเบียงเดินลงจากตึกลัดเลาะเข้าไปในสวนด้าน หลัง...ช่วงขาที่ก้าวแต่ละก้าวลังเล ขาดความมั่นใจ กุหลาบข้างทางดูหงอยเหงาเพราะแดดจัด นกที่เคย ร้องระเบ็งเซ็งแซ่ดูเหมือนจะเงียบเสียงกันไปหมด บางตัวเกาะมองดูการเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าของเด็ก สาว พื้นดินประทับรอยเท้าของเด็กสาวเอาไว้เลือนราง เหมือนไม่เต็มใจ เนื้อขาวบริสุทธิ์ในชุดฟ้าอ่อนผ่านไป ในแมกไม้สีเขียวเป็นครั้งสุดท้าย อีกไม่นานเมื่อผ่าน กลับมาความบริสุทธิ์จะไม่มีเหลืออีกแล้ว...
พ้นพุ่มไม้สุดท้ายห้องพักเล็กๆ ทืมๆ ก็ปรากฏใน สายตา
หัวใจของลูกเนียงเกิดเต้นขึ้นมาอย่างไม่เป็นส่ำ.... บอกไม่ถูกหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร
ห้องเล็กหลังนั้นยืนอยู่กลางแมกไม้ มันทึบทืม เหมือนโกดังเก่าๆ ซึ่งถูกทิ้งเอาไว้เป็นที่อาศัยของ สัตว์ร้าย
อีกสภาพหนึ่งคล้ายกับโรงฆ่าสัตว์ สิ่งมีชีวิตถูก ต้อนเข้ามาฆ่าอย่างทารุณโดยไม่รู้ตัวมาก่อน
ลูกเนียงให้อ่อนอกอ่อนใจเมื่อนึกถึงว่าตนจะต้อง เข้าไปหานายกําบังในห้องเล็กๆ หลังนี้
เด็กสาวยืนเอาหลังพิงไม้ใหญ่เรี่ยวแรงพานอ่อน ระโหย ร่ำๆ จะหันหลังกลับ...แต่เมื่อนึกไปถึงความ ตายอันทารุณของพี่สาวลายตองที่โดนเลือดเสียมันทําเอา....ความกลัวตายมีมากกว่าความน่ากลัวของห้อง เล็กๆ ที่เห็นอยู่ข้างหน้า
นายกําบังก็ไม่เคยมีพิษมีภัยอะไร ออกจะเซ่อๆ ซ่าๆ ด้วยซ้ํา กะโหลกศีรษะใหญ่ ตอนเขานั่งขับรถ มองเห็นคอด้านหลังขึ้นเป็นหนอก เหมือนวัวควายที่ เทียมเกวียน แขนขาใหญ่หนาเทอะทะ...แม่เคยบอกว่า กําบังอยู่มาตั้งแต่สมัยคุณตา เป็นคบซื่อที่วางใจได้... กําบังไม่เคยมีอะไรน่ากลัว
และขณะ นี้เป็นความหวังดีของเขา ลายตองบอก ต้องอ้อนวอนอยู่เป็นเวลานาน ถ้าหากลูกเนียงไม่ใช่ ลูกสาวของคุณกองทุน และแม่เทียมบัว เขาจะไม่ยอมทำให้เป็นอันขาด 
เด็กสาวจึงตัดสินใจเดินตรงไปที่หน้าห้องพักเล็กๆ ของกําบัง...
ประตูห้องไม่ได้ใส่กลอน...มือขวาของเด็กสาว ค่อยจับลูกบิตสีดํากลมๆ แบบเก่าดึงเบาๆ
กําบังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวเก่ามุมห้องที่ ค่อนข้างมีดเพราะปิดหน้าต่างเอาไว้
ตัวของเขาใหญ่หนาเต็มเก้าอี้...
เสียงฝีเท้าผ่านใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่กับพื้น หน้าห้องดังกรอบแกรบเบาๆ
ประตูเก่าๆ ส่งเสียงครางดัง "แอ็ด" ยาวๆ
กําบังนั่งนิ่งไม่ผิดอะไรกับนายพรานนั่งห้าง ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของสัตว์เข้ามากิน โป่ง เนื้อตัวของเขาไม่กระดิกราวกับว่าถ้า เคลื่อนไหวเพียงนิดเดียว สัตว์ที่จะต้องตกเป็น เหยื่อจะไหวตัววิ่งถลันหลบไปพ้นทางปืนของ เขา
กําบังแทบจะหายใจให้เบาเท่าที่จะเบาได้ เมื่อเห็นมือขาวๆ ยื่นเข้ามาเกาะประตูด้านในไว้
ช่วงไหล่และอกข้างหนึ่งเคลื่อนตามเข้ามา อย่างช้าๆ จนซีกแก้มข้างหนึ่ง ในที่สุดก็ตาม เข้ามาจนหมดทั้งตัวยืนเด่นอยู่ในแสงสลัวๆ
สายตาของกําบังชินกับความมืดอยู่แล้วจึง เห็นร่างอวบของเด็กสาวในชุดสีฟ้าอ่อนที่ไม่มี ชั้นในชัดเจน
สายตาของลูกเนียงยังไม่ชินกับความมืด หลังจากมองกราดไปรอบๆ ห้องแล้วถึงมา หยุดที่ร่างของกําบังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มันมืด
มองไม่เห็นชัดร่างของเขาดูคล้ายกับจอมปลวกกองอยู่
เมื่อสายตาชินกับความมืดจึงเห็นกําบังยิ้ม ฟันขาว
กลิ่นในห้องค่อนข้างอับซ้ำยังมีกลิ่นจาก ห้องน้ําออกมาเล็กน้อย
เด็กสาวห่อสองไหลเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเห็นสายตาของกําบังจ้องมาที่ตน แม้จะไม่ เห็นชัดเจนว่าสายตาของเขาจับที่หน้าอก แต่ก็ เกิดจากสัญชาตญาณการปิดป้องของเด็กสาว
กลิ่นหอมจากความเป็นสาวของลูกเนียง คละเคล้ากับความหอมของแป้งที่ลายตอง บรรจงตบแต่งมาให้เร้าอารมณ์เหลือหลาย... แต่กําบังก็รู้ว่ามีของดีๆ กินต้องค่อยๆ ละเลียด
อย่าเพิ่งมูมมามเอาแต่ใจตัว ความอร่อยมันอยู่
ที่ค่อยๆ ป้อนใส่ปากที่ละคําๆ
" กําบังขบกรามแน่นจนขึ้นมาเป็นสัน หน้า อันใหญ่โตของเขาเหงื่อเริ่มซึมออกมาเล็กน้อย...
ลูกเนียงขยับถอยหลังแต่ติดประตูเมื่อร่าง อันใหญ่โตของกําบังลุกขึ้นจากเก้าอี้
เขาเดินเข้ามาหาเด็กสาวช้าๆ ลมหายใจ ของเขาค่อนข้างแรงจนเห็นอกกระเพื่อม
กําบังเอื้อมมือผ่านหลังของเด็กสาว... เสียงกลอนดัง "แกร็ก" ราวกับเป็นเสียง สัญญาณบอกการเริ่มต้น
ลูกเนียงตัวสั่นเทาไม่ผิดอะไรกับลูกกวาง อ่อนๆ ถูกส่งเข้ามาเป็นเหยื่อสิงโตในกรง
เสียงลมหายใจของเขา กลิ่นตัวของเขา มันมีอํานาจอาถรรพณ์สะกดเด็กสาวให้หมด แรงขัดขึ้น
ตรงข้าม...ร่างของเด็กสาวที่ไร้เดียงสา กลิ่นสาวที่เพิ่งจะเริ่มในร่างขาวอิ่ม อกเต็มเต่ง เหมือนบัวพ้นน้ําขึ้นมาดูโลก หน้าท้องเว้าเข้าไป เป็นแรงส่งสะโพกออกมาเต่ม..เหล่านี้กลับเป็นแรงกระตุ้นให้เรียวแรงของกําบังมีมากขึ้น โดยไม่ รู้ตัว..
"โอ๊ย" เสียงลูกเนียงร้องเบาๆ เมื่อกําบังคว้า ข้อมือของเด็กสาวและเผลอบีบ
เสียงของลูกเนียงทําให้กําบังรู้สึกตัวจึงผ่อนคลาย เมื่อของตนแต่ไม่ยอมปล่อย..เนื้อมนแน่นของเด็กสาว อยู่ในมือ..เป็นสัมผัสแรกเหมือนหยดแรกของสีดํา ลงบนสีขาว...
และเป็นสัมผัสแรกของเด็กสาวที่โดนมือ คนต่างเพศ ยกเว้นจากพ่อของเธอ
ลูกเนียงรู้สึกมือของกําบังหยาบหนา ความด้าน ของมือทําให้รู้สึกระคายสากคล้ายกับโดนรัดด้วยงูที่ คราบของมันแก่ใกล้จะลอกคราบ
เด็กสาวพยายามจะดึงมือของตนออกมาให้เป็น อิสระแต่ไม่สําเร็จ
ก้าบังเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจและพุง ของเขาขึ้นมาเกือบชิดหน้าท้องของเด็กสาว
ลูกเบียงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา สายตาของ หล่อนจึงอยู่เพียงแค่หน้าอกหนาทึบที่อยู่ในเสื้อยืดคอ กลมสีมอๆ
"ไปนั่งเถอะ" เสียงของกําบังแตกพร่า "มาสิ" เขาออกเดินโดยมีมือของเด็กสาว ติดไปกับมือของเขา ร่างของเด็กสาวจึงแทบจะปลิวตามเขาไปด้วย
"คุณหนูนั่งที่นี่" เขาจับร่างของลูกเนียงนั่งบนเก้าอี้ ที่เขานั่งอยู่ก่อน
"นาย...นายบัง" เสียงของลูกเมียงอ่อนระโหย
"ทําไมรึคุณหนู" กําบังพยายามคัดเสียงให้ฟังดู อ่อนโยน แต่มันไม่เป็นอย่างใจ เพราะเมื่อเด็กสาวลง นั่งห้อยขาชายกระโปรงก็รั้งขึ้นไปสูงเหนือเข่าช่วงขา
ท่อนบนสีขาวกลม ไม่อวบใหญ่เทอะทะ แต่กะทัดรัด เหมือนหยวกกล้วยกําลังพอเหมาะพอดีปรากฏออกมา ให้เห็นเต็มตา
"มืด...มืดออก" ลูกเนียงยกมือที่เป็นอิสระจาก กําบังขื้นกอดอกมองไปรอบๆ ห้อง
"มืดเหรอ" กําบังยิ้มน่าเกลียด "ฮือ" เด็กสาวพยักหน้า
กําบังผละจากเด็กสาวเดินไปเปิดประตูห้องน้ํา แล้วเข้าไปเปิดหน้าต่าง แสงสว่างตอนบ่ายจัดส่องผ่าน เข้ามามันแทงแสงออกทางประตูห้องน้ําเข้ามาในห้อง ความขาวโพลนก็เกิดขึ้น การเปิดหน้าต่างห้องน้ําแบบ นี้แม้จะมีคนมองผ่านหน้าต่างเข้ามาก็ไม่อาจเห็นคนใน ห้องได้ เนื่องจากมุมของห้องน้ําบังอยู่  แต่นอกจากแสงสว่างแล้ว กลิ่นของมันโชยเข้า มามากขึ้น
กําบังเดินกลับเข้ามาหาเด็กสาวดวงตา ของเขาฉายโชนขึ้นมาฉับพลันเมื่อเห็นร่างของ เด็กสาวขาวอิ่มอยู่กลางแสงสว่างกระจะตา.. เฉพาะที่เนื้อขาวตรงช่วงท่อนขาเหนือเข่า...
แววตาวาวน่ากลัวของกําบังทําให้ลูกเนียงรู้ สึกว่าช่วงขาของตัวกําลังตกเป็นเป้าจึงดึงขาย กระโปรงให้ลง เพื่อปิดเข่า แต่ก็ทําได้เพียงเล็กน้อยเพราะความคับและเป็นกระโปรงของเด็กสาวที่ต้องยกให้สูงเหนือเข่าประกอบกันลงนั่ง เช่นนี้ชายย่อมรั้งขึ้นมาสูงเป็นธรรมดา..เด็กสาว จึงได้แต่นั่งเอามือจับชายกระโปรงก้มหน้าหลบ สายตาวาวของกําบัง
กิริยาที่เอียงอายและหวาดกลัวด้วยความ บริสุทธิ์ ไร้เดียงสาเป็นตัวเร่งเร้าให้กําบังตัดบท ให้สั้นเข้า..เขาลงนั่งคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าเด็กสาวสองมือวางลงบนหัวเข่าของลูกเนียงและ
คลึงเบาๆลูกเนียง ไม่รู้จะทําอะไรดีไปกว่าปัดมือของ เขาออกเพราะมันสากและระคายชอบกล
มือของกําบังจึงเปลี่ยนมาจับที่มือของเด็ก สาว เขาบีบเบาๆ ระเรื่อยจากข้อมือ ท่อน แขน หัวไหล่และขึ้นมาเกลี่ยไกล่อยู่ที่ใบหู
เด็กสาวรู้สึกผิดปกติจนต้องยกสองไหล่ ขึ้นมาถึงปลายหูที่เขาจับมันสากระสายคล้าย เอากระดาษทรายละเอียดมาถูเบาๆ กับเนื้ออ่อนๆ
เสียงลมหายใจของเขาแรงและเร็วขึ้น เด็กสาวรู้สึกมันร้อนและมีกลิ่นชอบกล...เด็ก สาวรู้สึกความร้อนและกลิ่นของลมหายใจใกล้ เข้ามาที่ใบหน้า
ลูกเนียงเอามือยันใบหน้าของเขาเอาไว้มอง เห็นนัยน์ตาของเขาโตและดูเหมือนจะมีเลือดคั่ง
เด็กสาวออกแรงผลักเขาออกไปขยับจะลุกขึ้น แต่เขากลับเอามือกดร่างของเด็กสาวเอาไว้...

kapook6336

เรื่องนี้สนุกมากครับ เคยอ่านนานมากแล้ว ถ้ามีตอนอื่นๆ ช่วยแบ่งบันกันหน่อย ขอบคุณครับ

cdx

#2
สุดยอดเลย ผมตามหามานานแล้ว เคยอ่านแต่2-3ตอนในหนังสือ

review1972

เนื้อเรื่อง สำนวน แสดงถึงความตั้งใจของคนแต่งมากครับ ขอบคุณท่านผู้นำมาโพสต์ต่อด้วยครับ

Monchai-S

ใช่ครับท่านผู้แต่ง ใช้คำได้สวยงามสละสลวย ลุ่มลึกในอารมย์และจินตนาการณ์มากครับ

peddo

อ่านแล้วต้องยกนิ้วให้ เนื้อเรื่องที่โหดร้อย แต่สำนวนที่น่าอ่าน และให้กลิ่นอายย้อนยุคทำให้ต้องไล่อ่านรวดเดียว อยากอ่านตอนต้นจังครับ พยายามตามหาอยู่ ดำเนินเรื่องช้าแต่ได้จังหวะ ชอบจริงๆครับ

sunnie06

เคยอ่านนานหลายปีแล้ว แต่อ่านแค่ไม่กี่ตอน

Monchai-S

เรื่องนี้ต้องแนะนำท่านผู้อ่าน ต้องค่อยๆละเลียดอ่านนะครับ อยากใจร้อน เพราะท่านผู้ประพันธ์แต่งเรื่องละเอียดมาก
ลงไป 5 ตอนแล้ว กำบังยังไม่ได้ลูกเนียงเลยครับ

solosealer

เรื่องนี้ ผมเคยได้ยินชื่อมานานแล้วครับ
ลองไปตามหาตามบอร์ดต่างๆ ก็ไม่เจอ 


ขอบคุณจริงๆ ที่นำมาให้ได้อ่านกัน
(แล้วตอนที่ 1-5 หายไปไหนหรอครับ)

Monchai-S

ผมมีต้นฉบับ เริ่มต้น ตอนที่ 6 นี้ล่ะครับ พยามหาเหมือนกันแต่หาไม่ได้เลยครับ

Bct Bangk


pinmonkey

ถ้อยคำงดงามสื่ออารมณ์ได้ดีมากครับ จนอยากเป็นกำบังเลย ขอบคุณมากครับ

johnywalker

 ::Reader:: นิยายเก่า แต่แต่งได้ละเมียดละไม น่าอ่านและเก็บสะสมมากเลยครับ

Suchart Thanee

ใช้คำที่ไม่ค่อยรุนแรงแต่แฝงด้วยอารมณ์ครับ

Suchart Thanee