ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่27

เริ่มโดย Monchai-S, มิถุนายน 22, 2018, 11:36:23 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S





มลทินดอกไม้-ตอนที่27



          ไคลเมฆสุดท้ายเคลื่อนตัวออกจากบุหลัน แสงขาวกระจ่างจับร่างระทวยของแววรัตน์ สีสันของผิวขาวสะท้อนออกรับแสง
อนิจจา..เพราะฤทธิ์ของเหล้าที่เข้าไปซึมอยู่ในเส้นเลือดบีบบังคับประสาททําให้แววรัตน์จะรู้สึกตัวสักนิดก็หาไม่ หล่อนอยู่ในสภาพของผู้ไร้ความรู้สึก ซึ่งมันยิ่งกว่าไร้เดียงสา
แววตาของกําบังราวกับตะเกียงถูกบิดไส้ให้ไฟ ลุกโชนสว่างยิ่งขึ้น
ร่างของแววรัตน์พรายพริ้มอิ่มไปหมด
เส้นผมสีดำสยายอยู่บนหมอนสีขาวและปรกยุ่งเหยิงอยู่แถวๆ หน้าผาก ใบหน้าลงมาจนต้นคอ
ดวงตาหลับพริ้ม สองแก้มอิ่มช่วยส่งสันจมูกให้โด่งเด่น ริมฝีปากยิ้มน้อยๆ เหมือนรอยจากความฝันอันแสนหวาน ต้นคออวบขาว สองไหล่ขยาย กว้างเต็ม หน้าอกกระเพื่อมพลิ้วด้วยลมหายใจ เหมือนดอกบัวงามสั่นไหวน้อยๆ ยามโดนระลอกคลื่นเล็กๆ หน้าท้องกิ่วรัดลงลึกซ่อนอยู่ในแพรสีไพล เฉพาะช่วงตรงเนินวิโลมันดันตัวเด่นขึ้นมานูนถนัด สองท่อนขาวอวบเรียวยาวได้ส่วนลงไปจนปลีน่อง จรดสองเท้าขาวอิ่มตัดด้วยสีแดงบนเล็บเท้า
หล่อนเป็นทาสของแอลกอฮอล์จนไม่มีเวลา เปลี่ยนสแล็กซึ่งเป็นชุดเดินทาง เป็นชุดเบาบางเหมาะ กับการเคลื่อนไหวในยามเดินทางไกล แต่มันกลับรัดรึงกระชับเนื้อจนออกมาเด่นในยามนอนหลับไหลไม่ได้สติเช่นนี้...ลมหายใจของหล่อนหอมด้วยกลิ่นเหล้านอก คละเคล้ากับความหอมของเนื้อตัวผสมความหอมของครีม
กําบังขยับตัวเล็กน้อยยามเมื่อหล่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ
จันทร์ไม่ยอมบรรเทาแสงดูจะเพิ่มความแรง และชวนให้กําบังเร่าร้อนมากขึ้น
สายลมโชยเข้ามาทางหน้าต่างเป็นความเย็นโดยธรรมชาติพัดพาเอากลิ่นหอมของพยอมพื้นบ้านเข้ามาไม่ขาดสาย
ไม่มีอํานาจใดๆ จะมาต่อรองยับยั้งเอาไว้ได้เสียแล้ว...กําบังค่อยๆ เคลื่อนตัวก้มหน้าลงไปหาใบหน้าของแววรัตน์ช้าๆ
กลิ่นเหล้าและลมหายใจของหล่อนเข้ามาในจมูกของเขาก่อนจะค่อยๆ กดปากหนาหยาบของเขาลงไปบนปากบางๆ แต่อิ่มด้วยรอยยิ้มของหล่อน...
สัมผัสจากริมฝีปากหอมของหล่อนประสานกับริมฝีปากของกําบัง...มันกระจายเข้ามาในตัวจนเลือดร้อนพล่าน... ริมฝีปากซึ่งบางครั้ง เคยมีรอยยิ้มเหยียดหยาม บัดนี้... โดนปากของไอ้ไพร่ในสายตาความคิดของหล่อนบดขยี้... กําบังเริ่มจากเบาไปหาหนัก...และมือขวาของเขาแตะลงไปบนเต้าข้างซ้ายของหล่อนที่ซ่อนอยู่ในแพรสีไพล...รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เนื้อเต้า อ่อนๆ ข้างนั้นของหล่อนถูกยกทรงบังเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง....จนต้องเพิ่มแรงกดแรงขยําจึงได้รู้ถึง ขนาด น้ำหนัก ความอิ่มของเต้าข้างนั้น...มัน ไม่แข็งจนกดไม่ยุบเหมือนของลูกเนียง แต่มันก็ไม่เหลว ไม่นุ่ม...
โดนขยําเอาขนาดนี้หล่อนก็ยังไม่รู้สึก ตรงข้ามกับกําบัง...เจ้าหน่อเนื้อของเขามันฉาดฉานทะยานออกมาเต็มแรง จนเจ้าตัวรู้สึกถึงความหนักของมัน...แต่ความแข็งแรงของมันมีเป็นทุน แม้จะหนักแสนหนักแต่มันก็แบกน้ำหนักตัวเองเอาไว้ได้อย่างน่าชม มันคอนตัวเองเอาไว้ได้ด้วยความมั่นใจ คล้ายกับมันมีอํานาจระดมเอาเลือดในตัวของเขาไปรวมอยู่ในตัวของมันจนหมดสิ้น กล้ามของมันขยายออกมาแข็ง แข็งขนาดกดไม่ยุบ มันแข็งราวกับแท่งเหล็ก ปลายบวมเบ่งกระจังแผ่ขยายเหมือนดอกเห็ดขนาดเขื่อง
ไม่มีสิ่งอื่นใดแผ้วพานเข้ามาในความสํานึกนอกจากร่างขาวอิ่มในสแล็กสีไพลถูกฉาบด้วยแสงจันทร์เนื้อขาวเหลืองเห็นชัดเพียงแค่ใบหน้า ลําคอ ท่อนแขนปลายเท้าเพราะมันถูกปกปิดด้วยสแล็ก มันช่างเป็นการท้าทายให้เปลื้องเอาออกเสียจริงๆ
มาถึงขนาดนี้ กําบังก็บอกกับตนเองว่า ถ้าหากไม่ได้กะซวกก็มีทางเดียว คือตาย...ตายกันทั้งคู่น่ะแหละ เรื่องจะปล่อยให้หลุดไปจากมือนั้นอย่าหวัง
ลมกรูเข้ามาอีกเฮือกใหญ่ พร้อมๆ กับการถอนหายใจของแววรัตน์ราวกับกําลังมีความสุขเกษมเสียเต็มประดา เนื่องจากความสําเร็จในธุรกิจของกองทุนสามีที่รู้ผลมาจากภาคเหนือ ทําให้เธอกับเขาดื่มมากกว่าปกติ แอลกอฮอล์มันเข้าไปมีอํานาจบีบบังคับสมองกดสติสัมปชัญญาะเอาไว้จนหมดสิ้น...นอกจาก สิ่งเดียวคือความฝันที่มันยังทําหน้าที่ของมันได้...
กําบังถอนใจลึกๆ จนหน้าอกนมตั้งเต้าของเขาพองอืด...มือหยาบหนาของเขาเอื้อมมาแตะที่ขอบสแล็กตรงหัวซิป...ค่อยๆ รูดลงมาช้าๆ ทีละน้อย เสียงซิปมันกรีดตัวเองดังออกมาเบาๆ มันค่อยๆ ถูกรูดเรื่อยมาจนสุด...กําบังปล่อยมือจากซิปมาที่ตาขอเล็กๆ เกี่ยวขอบสแล็กไว้...พอตาขอถูกปลดออก สแล็กสีไพลก็แหวกออกกว้าง...ซับในสีชมพูออกมาเด่นเต็มตา...เนินขนําเนื้ออมรําไรอยู่ในแพรชมพู...
กําบังแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตนเองเมื่อ รู้สึกถึงน้ำลายที่ออกมาสอ...เขามองดูใบหน้าของหล่อนสังเกตความรู้สึก แต่ก็ไม่มีแววรู้ตัวปรากฎ ขึ้นมาให้เห็น...กําบังจึงใช้สองมือของเขาค่อยๆช้อน ก้นของหล่อนให้สูงขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับค่อยๆ ดึงสแล็กลงต่ำ...พอขอบบนของสแล็กหลุดพ้น สะโพกมันก็ถูกรูดเรื่อยออกไปทางปลายเท้าสองข้างของหล่อนอย่างง่ายดาย เมื่อหมดหน้าที่มันก็โดนเหวี่ยงลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างไม่แยแส มันไม่มีความสําคัญที่จะให้ความคุ้มครองปกป้องเนื้อแท้ๆ ขอแววรัตน์ได้อีกแล้ว...
จากนั้น..ท้องน้อยและหน้าขาที่ซ่อนอยู่ในซับสีชมพูก็ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อเจ้าซับในก็มีสภาพไม่ผิดอะไรกับสแล็ก มันกระเด็นลงไปกองกอดรวมอยู่ กับสแล็กเนื้อแพรสีไพล
เนื้อทองหน้าท้องของแววรัตน์ปรากฏชัดออก มาเต็มตา...โอ...มันเบียดตัวอัดแน่นอยู่ตรงช่วงหน้าขาแซมด้วยไหมไรขนสีดํา ดูเหมือนจะมีการขลิบแต่งไม่รกเป็นพงหญ้าทึบเหมือนบางคนที่ปราศจาก การเอาใจใส่กลายเป็นรังเชื้อรา แต่สําหรับของแววรัตน์จะเห็นได้ว่าหล่อนรักษาและตบแต่งมันเอาไว้ เป็นอย่างดี ประกอบกับความสมบูรณ์เป็นทุนอยู่แล้ว มันจึงอิ่มสวย ซ้ํายังเม้มรอยสนิทเหมือนเม้มริม ฝีปากแดงเรื่อๆ
กระนั้นกําบังก็ยังไม่ผลีผลาม เขาพยายามให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ หากแววรัตน์รู้สึกตัวขึ้นมาเสียก่อนก็จะหมดโอกาสได้ชวดชมของสวยของสูง ยังไงๆ ก็ขอให้ผ่านแดนมธุรส ปล่อยไถเนื้อเข้าไปไถในนาเนื้อทองเสียก่อน ถึงตอนนั้น หล่อนจะดิ้นจะร้องยังไงก็ช่าง เพราะมันจะกลายสภาพเป็นเนื้ออยู่ ในอุ้งเล็บเสือเสียแล้ว มีแต่จะโดนขม้ำท่าเดียว และ ในที่สุดหล่อนก็จะหมดกําลังต่อต้านต้องปล่อยให้เลยตามเลย...กําบังคิดอย่างนี้จึงค่อยๆ เอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อสีไพลเม็ดบนของหล่อนเบาๆ มือของเขาสั่นเทาเล็กน้อยแต่ละเม็ดของกระดุมมันช่างกลัด ติดแน่นเสียเหลือเกิน กว่าจะหลุดออกมาได้ช่างยากเย็น...จนกระทั่งเม็ดสุดท้าย...เสื้อแพรสีไพลถูกแหวะออก จากต้นคอลงมาจนหน้าท้อง...ขาวโพลนสะพรั่ง เฉพาะเมื่อสองเต้าที่ซ่อนอยู่ในยกทรงสีชมพู เช่นเดียวกับซับในมันเบ่งตัวเองออกมาจนล้นขอบยกทรง...
ตาขอตัวเล็กของยกทรงหมดความหมาย มันถูกปลดออกมาอย่างง่ายดาย
เนื้อสล้างขาวเหลืองของสองเต้าก็โผล่โฉมออกมาเปล่าเปลือยอวบอั๋นขนาดของมันราวๆผลน้ำเต้าพันธุ์งามค่อนข้างเขื่อง แม้จะผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่หล่อนคงจะหวงแหนและรู้จักใช้มันพอสมควร มันจึงไม่ทรุดโทรม ยังคงความงามไว้สะพรั่ง ถ้าโดนมือชายและผ่านการใช้งานโดยไม่รักษา ใน สภาพการนอนหงายของหล่อนเช่นนี้ ฐานของเต้าจะยันเอาไว้ไม่อยู่ มันจะแผ่ขยายออกไปเขละอยู่ข้างๆ มองดูเหมือนกองขี้วัวขี้ควายและๆ เผละผละ แต่ของแววรัตน์ไม่มีสภาพเช่นนั้น แม้จะนอนหงายแต่มันก็เหยียดตัวขึ้นมาชูชันเหมือนบัวตูมเปล่งปลั่ง ถึงจะมีรอยยุบรอยอ่อนไหวแต่ก็เป็นรอยอ่อนช้อยอันงดงาม
กําบังขบกรามจนขึ้นเป็นสัน เหมือนนายสาวนอนแบะอกท้า เขาขยับหน้าลงไปจะเฟ้นฟัด กัด ดูด แต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ จุดอมฤตไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้...จริงอยู่ ถ้าเป็นคู่รักคู่ขวัญเกิดจากความยินยอมพร้อมใจ ควรจะเริ่มเกลี่ยไกล่มาตั้งแต่การสัมผัสที่ริมฝีปากเลาะได้ตามซอกหู ซอกคอ เรื่อยลงมาจนยอคติ่งปลายเต้าและทุกจุดตามเนื้อตัวเพื่อปลุกเร้า แต่ระหว่างเขากับเมียของนาย ไม่ใช่เป็นการสมยอม มันเป็นการลักขโมย แอบเสพแอบกิน ในขณะที่หล่อนไม่รู้ตัว ดังนั้น มันควรจะเริ่มด้วยการรุกเข้าไปในขนําเนื้อเสียก่อน ยวงเนื้อหน้าอกเอาไว้ค่อยขยํากันในภายหลัง...
กําบังขยับตัวเลื่อนสายตาลงมาล่างที่ขนําเนื้อของหล่อน เนื้อสะอาดไร้คราบไคล รอยต่อมิดชิด เหมือนปากหุบสนิทไม่เห็นฟันหรือลิ้น...แม้จะ ไม่งอนง้ำจนหน้าคว่ำเหมือนของลูกเนียง แต่ก็กว้างใหญ่เหมือนลักษณะของผู้มีบุญ รอยระแหงแดงเรื่อๆ มีรอยช้ำเล็กน้อยไม่สดเหมือนเด็กสาวก็จริง แต่ ระหว่างแววรัตน์กับลูกเนียงมันคล้ายกับหม้อดินหุงข้าว ของลูกเนียงเป็นหม้อดินเนื้อใหม่ไม่เคยไฟเคยน้ำ หุงหม้อแรกเม็ดข้าวยังไม่ค่อยละมุนเนื้อข้าวยัง ไม่หอมกรุ่นจากไอดิน แต่ของแววรัตน์ เป็นเหมือนหม้อดินที่เคยไฟเคยน้ำ เนื้อดินกําลังได้ที่ ข้าวแต่ละหม้อหุงออกมาแต่ละที มันมีรสชาติผิดกับหม้อเนื้อดินใหม่ หากคนหุงรู้จักวิธีเร่งไฟ ราไฟ เช็ดน้ำข้าว และดงให้พอดี ข้าวแต่ละเม็ดที่ออกมาจะหอมละมุน มีรสชาติไม่น้อย
กําบังก้าวลงจากเตียงจัดการกับเสื้อผ้าของตนเอง ครู่เดียว เสื้อกางเกงมันก็ถูกโยนกองไปรวมกับ สแล็กและซับในของนายสาว กลิ่นและสีของมันตัดกันอย่างตรงข้าม
ความดันของกําบังขึ้นมาสูง หน่อเนื้อของเขาราวกับฉมวกมาเจอปลาเนื้ออ่อน...
เสียงเตียงดังเบาๆ เมื่อร่างอ้วนหนาเตอะ บางส่วนพลุ้ยยุ้ยด้วยไขมันของกําบังก้าวขึ้นมา...
สองขาของแววรัตน์แยกออกจากกันด้วยสองมือของเขา ร่างอ้วนหนาขอเขาเข้ามาแทรกอยู่ในระหว่างกลาง...
ปลีน่องสองข้างของหล่อนถูกยกขึ้น... แยก...
ขนําเนื้อของหล่อนพลันแยกออกเหมือนส่งยิ้ม
กามเทพง้างศร แต่ไม่ใช่ศรดอกไม้หากเป็นศรเนื้อเล็งเข้าที่เป้า
ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆที่จะมาขัดขวาง
ไม่มีเจ้าชายขี่ม้าขาวองค์ไหนเข้ามาช่วย แม้แต่สายลมยังหยุดเงียบเฉย จันทร์ยังทอดสายตาทอแสงด้วยความสงสาร
เมฆก็หยุดนิ่งไม่มีเคลื่อนไหว
มีเพียงดอกแก้ว พิกุล ราตรี จําปี จําปา เท่านั้น ที่ทําหน้าที่ส่งกลิ่นขึ้นมาไม่ขาดสาย
พรหมลิขิตไม่ได้ขีดเส้นชะตาชีวิตให้มีใครเข้ามาช่วยแววรัตน์
ตัวของหล่อนเองยังไม่อยู่ในสภาพที่จะช่วยตัวเองได้ แล้วใครจะเข้ามาช่วยหล่อนได้ เล่า...
เหมือนระฆังบอกยกแรกดังกังวานขึ้น...
ปลายฉมวกของกําบังจ่อลงที่ปากปลาเนื้ออ่อน
ประสานแรกระหว่างความแข็งของกล้ามเนื้อกับเนื้ออ่อนทําให้เกิดอาการขมวดเขม็งเนื้อตัวของมันเองขึ้นมาอีกเป็นทวีคูณ มันเบ่งตัวเองสุดฤทธิ์ราวกับจะพยายามระเบิดกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้มันแหลกกระจุย
มันรู้ภาระหน้าที่ของมันดี มันจึงค่อยๆ เคลื่อน ตัวเข้าไปอย่างแผ่วเบา .
สองแขนของเขาสอดเข้าสองขาพับของหล่อน
ร่างอ้วนของกําบังเคลื่อนขยับอีกเล็กน้อย ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทาง ลงตัว...ลมหายใจของเขาเริ่มดังกว่าเดิม...บั้นท้ายและสะโพกของเขาออกแรงรัน... รันไปข้างหน้า...รันไปเรื่อยๆ
ในที่สุด...เจ้าสิ่งชั่วร้ายของเขาก็หลุดเข้าไป ในซอกเนื้อของเมียนายจนได้...
ความรู้สึกราวกับโดนล็อคเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด
กําบังเหลือบสายตาลงมองข้างล่าง...ดูจะมองเห็นไม่ถนัดเขาจึงดันสองแขนตนเองที่สอดใต้ขาพับของหล่อนให้สูงขึ้น...
ปากของปลาเนื้ออ่อนโดนอุดด้วยฉมวกของเขาจนเต็มคํา ไม้ผิดอะไรกับปากสีแดงของเด็กทารก อ้าออกอมหัวมันเทศขนาดเขื่องคับปาก
ความรู้สึกกระหยิ่มและมันบวกกับการได้เสพกับเมียของนายที่เคยเหยียดหยามเกิดขึ้น...
ไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว...กําบังออกแรงมากกว่าเดิม... เจ้าหน่อเนื้อของเขามันก็ค่อยๆ ลื่นไหลโรยตัว ลงไปช้าๆ ทุกๆ ระยะเส้นทาง ดูมันจะแผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นเครื่องเร่งให้หน้าตาของเขาดูถมึงทึง หน่อเนื้อขมวดเขม็งตัวด้วยเลือดอัดคัดคั่ง ความรู้สึกที่ตนได้มีโอกาส ลิ้มรสของสูง ของนายสาว ของมีค่าทําให้มันเบ่งบานออกมาเขื่องใหญ่ พลังของสัตว์มีอยู่เท่าไร มันพองตัวออกมาจนหมด ทั้งเนื้อตัวและวิญญาณ ความเป็นสัตว์ครอบงำตามวิถีทาง
โอ...บัดนี้...ตนกําลังจะได้มีโอกาสถ่ายเลือดเนื้อลงไปในซอกเนื้อของนายสาว ดังนี้กำบังก็เริ่มเร่งร้อนออกมาหนักกว่าเดิม ซอกเนื้อของหล่อนดูจะฉ่ำออกมาเล็กน้อยๆ
แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่เหลือเนื้อที่อยู่... กําบังหมดความคิดที่จะยับยั้งค่อยๆ ผ่อนปรนเสียแล้วเขาออกแรงรันเข้าไปเต็มแรง...พรวดเดียว... รูปร่างอันยาวเหยียดของมันก็ไปพบเข้ากับทางตัน ยันอยู่กับปากก้อนเนื้อมดลูก...
การเบียดกระชับแน่นกันและกันระหว่างเนื้อ กับเนื้อ กําบังหมดความยับยั้งชั่งใจ สองมือปล่อยออกจากสองขาพับของหล่อนปล่อยท่อนขาขาวอวบ ลงมาพาดกับท่อนขาหนาด้วยเนื้อและขนของเขา เส้นขนหนาสีดําของเขาเสียดสีกับเนื้อของหล่อนราวกับแปรงขนหยาบขัดถูเนื้อขาว..แล้วสองมือหยาบหนา ของเขาก็ขยําลงบนพวงเต้าสองข้างของเมียนาย มันเต็มแน่นอยู่ในกํามือ กําบังเริ่มจากเบาๆ เพลาๆ เอาไว้บ้าง หัวแม่มือสองข้างของเขากดลงบนปลายแดงก่ำ เนื้อเต้าหวั่นไหวดิ้นพล่านอยู่ในสองกํามือ ของเขา...
ดูเถอะ...ฤทธิ์ของเหล้า ขนาดหน่อเนื้อเข้าไปคับแน่นอยู่ในหน้าท้องสองมือขยี้ขยําหน้าอกหล่อน ยังไม่มีความรู้สึก
กําบังปล่อยมือออกจากเต้าของหล่อนช้อนด้านหลังของหล่อนให้สูงขึ้น...เขาใช้ความพยายามอยู่ครู่หนึ่ง เสื้อแพรสีไพลและยกทรงก็หลุดออกไปจากตัวของแววรัตน์...ไม่มีอะไรเหลือ..ไม่มีอะไร กีดขวางระหว่างเขากับหล่อน ระหว่างบ่าวกับนาย มีแต่เนื้อกับเนื้อล้วนๆ ที่ประกบติดร้อยรัดเย็บแน่น...
กําบังยิ้มอย่างผู้ประสบชัยชนะ มาถึงช่วงนี้ ไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว
เขาเคลื่อนตัวออกมาเล็กน้อยแล้วก็ทุ่มตัวลง ไปสุดแรง...ร่างของแววรัตน์สดุ้งขึ้นมาสุดตัว..
เสียงหล่อนร้องออกมาเบาๆ "อุ๊ย..."
สติสัมปชัญญะค่อยๆ รวมตัวเข้ามาหากันทีละน้อย เพราะความรู้สึกที่โดนกระทุ้งเข้าไปในท้องน้อยนั้นมันเจ็บ...ไม่เคยโดนขนาดนี้...เจ้าตัวการที่เข้าไปทําให้เกิดความรู้สึกเจ็บมันช่วยปลุกความรู้สึกให้ค่อยๆ กลับคืน แต่มันก็ช้าเหลือเกิน เพราะก่อนหน้าที่จะโดนวางเนื้อๆ เข้ามาขนาดนี้ หล่อนกําลังเปรมปลื้มอยู่กับความฝัน...
เป็นความฝันที่ตนได้ประสบมาครั้งหนึ่งในชีวิตจริง...ในความฝันนั้นมันเป็นภาพของตนกําลัง อยู่ในวัยสาวแรกรุ่น เฉิดฉายอยู่ในชุดราตรียาว สีน้ำทะเล บนศีรษะสวมมงกุฎเพชรเนื่องจากตนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความงามเป็นหนึ่งในงานประกวดความงามของสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะ...ในความฝัน...ตนเดินไปท่ามกลางแสงไฟ สายตา ดอกไม้สดถูกโรยรายโปรยปรายลงมาจากเบื้องบน สายรุ้ง ลูกปลา ขว้างปามาไม่ขาดสาย เธอเห็นแววตาของชายหนุ่มทั้งหลาย มองดูเธอด้วยความชื่นชมและหื่นกระหาย...ใน " ฝันนั้นเหมือนตัดภาพอย่างรวดเร็วเมื่อเธอถูกโอบอุ้ม ด้วยข้อลำอันแข็งแรงของชายหนุ่มขึ้นมาวางบนเตียง...
และก็ให้รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มที่โอบอุ้มเอาเธอมาวางบนเตียงนั้นคือ...รองพล... ลูกของพี่สาวเธอเอง หล่อนพยายามผลักไส แต่เขาไม่ยอมให้ทําได้เช่นนั้น มือของเขากรีดไปมาตาม เนื้อตัวของอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล ริมฝีปากของเขา จูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ เขาเคลื่อนไหวแผ่ว เบาจนตนเองแทบไม่รู้สึก...มารู้อีกทีก็ชุดราตรีโดนเปลื้องออกไป...ดูเขาจะจัดการกับเนื้อตัวของเธอ อย่างแคล่วคล่องเด็กหนุ่มอย่างเขาทําราวกับมีจิตวิทยาในทางเพศสูงเสียเหลือหลาย...แววรัตน์รู้สึกสองขาถูกยกลอยขึ้นจากพื้น...ซอกเนื้อร้อนวูบวาบ สองติ่งปลายเต้าเหมือนโดนไฟร้อนๆจี้  ในความฝันนั้น ร่างของตนถูกสอดใส่เข้ามาทีละน้อย มันคืบหน้าเข้ามาเรื่อยๆ มันกินเวลานานสักหน่อยกว่าจะเข้ามาจนสุด มันเบียดตัวอัดแน่นจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้ แม้เธอจะพยายามขยายออกรับแต่ก็สุดความสามารถ มันเข้ามาเบียดแทรกจนกระทั่งไม่มีเนื้อที่ว่าง หน้าอกโดนเขาขยําบีบเคล้นหนักๆ แล้ว เนื้อตัวของเธอก็เริ่มเขย่าคลอน
แต่แล้ว..ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป มันไม่ใช่ใบหน้าของรองพลหลานชายของเธอ...มันเป็นใบหน้าหนาใหญ่ ตาโต ปากกว้างพร้อมกันนั้น...ทุกอวัยวะที่ซ่อนอยู่ในช่องท้องน้อยก็เกิดความรู้สึกถูกกระแทกอย่างรุนแรง...เป็นการชนกันอย่างถนัดถนี่...ลูกนี้เอง ทําให้แววรัตน์ตื่นจากความฝัน สติสัมปชัญญะค่อยๆ กลับคืน...แต่อํานาจของแอลกอฮอล์ยังมีอยู่ไม่น้อย สติจึงยังไม่มั่นพอที่จะรู้ว่าอะไร ความรู้สึกอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น...ครึ่งฝันครึ่งจริง...ครึ่งเจ็บครึ่งเสียวเมื่อถูกสอดไส้...
ความรู้สึกเหมือนเลนส์ที่พร่าๆ มัวๆ ต้องใช้ เวลาปรับอีกนาน ขณะเดียวกัน เจ้าความร้อนความแข็งในเนื้อตัวมันก็เริ่มถอยออกไปและกลับเข้ามาใหม่ มันเคลื่อนไหวในรูปนี้ซ้ำซากๆ และรุนแรงหนักขึ้น...นอกจากเคลื่อนไหวในรูปนั้นแล้วมันเบี่ยงเบนมาทางซ้ายบ้างขวาบ้างสลับกันไป...ปลายติ่งเต้าถูกขยําขยี้อยู่ในกอบกําอันกํายําแข็งแกร่ง...
ก่อนสติสัมปชัญญะจะเข้าที่...กลิ่นแปลกๆ จะเข้ามาก่อน เป็นกลิ่นเนื้อ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นลมหายใจที่ไม่เคยได้พบมาก่อน...
ภาพที่รางเลื่อนเหมือนเลนส์ถูกปรับค่อยๆชัดขึ้นๆ ขณะที่เนื้อตัวของตนโดนเถลือกไถลขึ้นๆ ลงๆ และสั่นคลอน
พอสติกลับเข้าสู่สภาพปกติ...แววรัตน์ก็รู้ว่าคนที่กําลังโขยกขย่มปล่อยเจ้าหน่อเนื่อเข้ามาดิ้นพล่านอยู่ในซอกเนื้อของตัวคือ ใคร...!!!
แววรัตน์ยกสองมือขึ้นผลักอกหนาๆ ให้ผละออกแต่สองมือของหล่อนกลับโดนสองมือใหญ่กว่า หนากว่าและแข็งแรงกว่าจับเอาไว้และกดลงบนที่ นอน...ร่างของหล่อนจึงอยู่ในลักษณะถูกขึงพืด... ร่างอันอ้วนพีของกําบังกดทับเอาไว้มันหนักอึ้งราวกับเอาหินขึ้นมาทับไว้ทั้งก้อน
เจ้าหน่อเนื้อของเขาก็เคลื่อนไหวไม่มีหยุดมันเข้าออกได้จังหวะราวกับติดเอาไว้ด้วยมิเตอร์
หน้าอกหนาๆ ของกําบังกดสองเต้าของหล่อน ไว้แน่นซึ่งสองเต้าของตนก็ทํายังกับจะสะเออะ ลอยหน้าขึ้นไปรับ ซึ่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น แต่ความอวบแข็งชูชันของมันทําให้ลอยขึ้นไปหาโดยธรรมชาติจึงโดนเบียดบดด้วยหน้าอกหนาๆ ทั้งเนื้อ และขนของกําบังบดเอาด้วยการสายร่างไปมา
ร่างของเขาเคลื่อนไหวไปหมดทุกส่วน เฉพาะเจ้าหน่อเนื้อของเขามันดิ้นไม่มีหยุดยั้ง มันเข้าไปร้อน เข้าไปชน เข้าไปเบียด เสียดสีอยู่ในซอกน้ำซึม
- "เปลาะ...เปลาะ...เปลาะ...ปล่อย.."
เสียงแววรัตน์พูดออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น เพราะโดนเขย่าจนคลอนไปหมดทั้งตัว
เสียงกําบังตอบออกมาไม่เป็นภาษาแต่มันดัง "ฮี่...ฮี่...ฮี่...ฮี่..."
มันดังออกมาเป็นจังหวะพร้อมกับการเขย่าโขยก
"เดี๋ยว...เดี่ยว...เดี๋ยว...เดี๋ยว...เดี่ยว...หยุด... หยุดก่อน..."
แววรัตน์พยายามเบี่ยงหน้าหลบปากกับจมูกของกําบังที่ก้มลงมาจูบไซ้เสียงจุ๊บๆ จั๊บๆ แต่ก็ไม่ค่อยจะพ้น แขนขาหน้าอกหน้าท้องโดนตรึงแน่นไปหมด

ไม่มีคําตอบจากกําบัง...คําตอบของเขาก็คือ การเคลื่อนขยับ หน่อเนื้อควักคว้านเบี่ยงสะบัด
ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังไม่หมดไปง่ายๆ มันยังค้างคาอยู่ในกระเพาะ เส้นเลือด ประสาท
ผู้หญิงเปรี้ยวอย่างหล่อน การอุ่นให้เลือดและประสาทร้อนเสียก่อนด้วยเหล้าทําให้เกิดรสพิลึกในขณะร่วมเพศ แอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นความใคร่ได้อย่างวิเศษ...ตามรสนิยมของหล่อน...
กับกองทุนสามี หล่อนต้องอุ่นให้เลือดร้อนเช่นนี้ทุกครั้ง เป็นกิจวัตรที่ประสาทจะต้องถูกครอบงําด้วยเหล้าเสียก่อน รสระหว่างเพศจึงจะเกิดความโอชะ...
แต่ครั้งนี้...ผู้ที่กําลังสอดเข้ามาร่วมเพศ ในตัวของเธอไม่ใช่สามี...
มันเป็นอย่างงี้ได้ยังไง...และก็...โอ... อะไรของมันกันถึงขนาดนั้น...ไอ้ที่เข้ามาเบียดเสียดถอยหลังเดินหน้าอยู่ในขนําเนื้อ ธรรมชาติช่างประทานมาให้มันอย่างเหลือหลาย...
มันผิดขนาดจากที่เคยพบ
ผู้หญิงที่ผ่านการศึกษามาจากต่างประเทศอย่างหล่อน เคยได้รู้เห็นเครื่องเพศ อันโอระทึก ของเพศตรงข้าม แต่ไม่เคยลองรส ออกจะคร้ามๆ เอาเสียด้วยในสมัยที่ ยังเป็นสาวๆ ต่อมาเมื่อได้รู้รสสัมผัสทางเพศ ก็ไม่เคยได้เจอะเจอไซส์มหากาฬ แม้แต่ของกองทุนสามีมันก็เพียงแค่รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์ ซ้ำยังคร่ำครึทําให้ตนเสร็งบ้างไม่เสร็จบ้าง เนื่องจากเท่าที่รู้มาเป็นเลาๆ นายกองทุนชอบเด็กสาวๆ มีรสในทางกดขี่ทางเพศ...แต่ขณะนี้...ของเจ้ากําบัง...มันไม่ใช่แค่รุ่นเฮฟวี่เวท...แต่มันรุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวท ตลอดจนท่าทีของมันก็เป็นพวกม้าต้นร้ายปลายจัด...บทบาทของมันขณะที่กําลังมั่วอยู่ในซอกเนื้อของตัวเดี๋ยวนี้ไม่ผิดอะไรกับวัยรุ่นกําลังดิ้นด้วยสไตล์แปลกๆอยู่ในเธค...มันยึกยักๆเยื้อย่าง พลิ้วสั่น ซัดส่าย กระดิ๊กกระดั๊กในจังหวะแปลกๆ มันโยกมันหมุนกระแทกกระทั้นตัวเองชวนให้เกิดความมันอันเร้าใจ...มาโดนเด็กดิ้นอยู่ในเธคด้วยสไตล์แปลกๆ โดยไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย แววรัตน์ก็เริ่มอ่อนไหวคล้อยตามไปกับการดิ้นของเด็กในเธอ...
เสียงของหล่อนครางออกมาเบาๆ ฟังไม่ออกเป็นเสียงครางขอความกรุณาให้เบาๆ หรือเป็นเสียงครางอย่างมีความสุข แต่สองแขนของหล่อนที่ยกขึ้นมาไม่ใช่เป็นการผลักไส มันค่อยๆ โอบรั้งร่างหนาของไอ้ไพร่ราวกับกลัวจะหลุดหาย

โดนบทบาทของกําบังในแบบนี้เข้าแววรัตน์ก็อยู่ในสภาพ...ลืมญาติ...




peddo

เปรียบเปรยจนเข้าใจอุปมาของหม้อเลยครับ บังเล่นมาตีหม้อตอนเผลอหลับ ดีว่าเป็นคุณนาย ไม่ใช่เด็กสาวซิง งานนี้ได้ลุยกันอีกยาวเพราะฝ่ายสาวดูจะไม่ขยาด เล่นกันจนลืมญาติ นี่ผัวคงไม่ต้องพูดถึง ลุยนานๆเลยบัง เอาใจช่วยครับ ขอบคุณครับ

Phoowadol

โอ๊ะ! อะไรจะระเมียดละมัย ปานนี้ไม่มีอีกแล้วครับ นี่ขนาดเป็นฉากข่มขืนสาวนะ
ยังถายทอดออกมาได้ แบบนุ่มนวล ค่อยๆดำเนินสอดใส่ โยกย้ายส่ายสะโพก ฉับ...ฉับ...ฉับ....ตรับ..ตรับ..ตรับ ตับๆๆๆๆ. จากได้สติทำท่าจะขัดขืนฝืนใจ สุดท้ายแววรัตน์ ก็พ่ายต่อดำกฤษณา แรงราคะที่กำบัง.ป้อนให้อย่างต่อเนื่อง
ถูกใจในเครื่องเพศที่ไม่คุ้นชินบวกลีลาทีไม่คุ้นเคย เลยทำให้คุณนายถึงกับลืมญาติกันไปเลย ที่ๆต่อไปจะลืมผัวเอาด้วยนะผมว่า คืนนี้กว่าจะจบเกมส์ ก็คงเช้ามืดโน่นแหละ จัดกันไปยาวๆ เลยครับ

happyman2554

บังได้ตีหม้อสมใจอล้ว มากาผู้ใหญ่น่าจะเหมาะกว่า

cdx

แววรัตน์ จะติดใจกำบังแล้วสิ....อย่าลืมลูกเนียนนะกำบัง

jiras3203

การบรรยายถึงบทรักที่แนบเนียน อ่านกี่ครั้งไม่มีเบื่อเลยครับ ขอบคุณมาก จะรอคอยติดตามจนกว่าจะถึงบทรักของตัวละครที่ชื่อ"อาเฉย"ครับ

Suchart Thanee

บรรยายได้เห็นภาพ คำสวยงามครับ

pinmonkey

ลักหลับจนคุณนายเสียวจนลืมญาติเลยนะกำบัง ขอบคุณมากครับ

suriyamahajit

จากลักหลับเป็นตื่นมาร่วมกิจกรรมมันๆแล้ว

ohodaya