ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่16

เริ่มโดย Monchai-S, มิถุนายน 15, 2018, 07:09:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S





มลทินดอกไม้-ตอนที่16




           ลายตองเป็นเจ้ากี้เจ้าการช่วยแต่งตัวให้ เด็กสาวเพื่อไปหาหมอ เสื้อกระโปรงชุดสีขาวเหมือนจะขับสีของผิวที่ขาว แต่มีมลทินคาวจับเขรอะให้แลดูซีด ผมสีดําที่ลายตอง เคยช่วยถักเปียให้ตามแบบเด็กสาว คราวนี้กลับถูกลายตองเกล้าขมวดเป็นมวยอยู่ที่ท้ายทอย ดูลูกเนียงเป็นสาวขึ้นอีกโข
ลายตองไม่ได้ใช้ยกทรง หากใช้เสื้อชั้นในคอกระเช้าแบบเก่าสวมใส่ให้หน้าอกของเด็กสาวที่โดนมือของกําบังดึงและขยี้ขยํามันจึงคล้อยปลายและเขย่าไหวน้อยๆ เมื่อเนื้อตัวเคลื่อนไหว มันไม่ยอมเป็นก้อนเนื้อที่เกาะนิ่งแน่นอยู่กับหน้าอกเหมือนเช่นเดิม สะโพกดูออกจะผายเล็กน้อย เพราะมันโดนขยายด้วยหน่อเนื้อของกําบังที่ชําแรกเข้ามาในร่าง สองไหล่ดูจะตกลงมาเพราะโดนมือเหนี่ยวไม่ เชิดเหมือนก่อน แม้แต่การเดินก็ดูจะเสียศูนย์เนื่องจากยังปรับตัวไม่ทัน
แต่งตัวให้ ปากของลายตองก็พร่ำพูดถึงความสวยของเด็กสาว ใช้เล่ห์กระเท่ห์กล่อมเกลาต่างๆ นานา
ลูกเนียงเป็นเด็กสาวอยู่ในวัยที่ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างโดยง่าย ลายตองมีคารมเหตุผลพอที่จะทําให้ เด็กสาวหลงเชื่อเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กสาวเหมือนกับเด็กที่โดนทอดทิ้ง ถูกลืม ขาดความรักความอบอุ่นจึง ไขว่คว้ามือที่ยื่นเข้ามาให้เกาะโดยไม่รู้ว่ามันเป็นมือของปีศาจ
เด็กจํานวนไม่น้อยที่ตกอยู่ในสภาพนี้ โหยหาความรักความอบอุ่น หลายคนกลายเป็นเหยื่อทาง เพศ กลายเป็นสินค้าถูกนําออกเร่ขาย เด็กหลายคน ถูกกระทําโดยผู้ใหญ่ซึ่งเหมือนกับมีสัตว์ร้ายเลี้ยงเอาไว้ในหัวใจ มันแอบซ่อนอยู่ในความอ่อนน้อมถ่อมตน คารมอ่อนหวาน ใบหน้าท่าทางมีความซื่อสัตย์ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อมั่นก็จะปล่อยเจ้าสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ออกมากัดกินอย่างกักขฬะ โหดร้าย ขาดความปรานี เมื่อสมใจแล้ว มันก็จะกลับเข้าไปซ่อนและใช้อุบายหลอกลวงหาโอกาสออกมาเพื่อกัดกินใหม่
เด็กสาวอย่างลูกเนียงรู้ไม่ทันการ ตามไม่ทันเกม สิ่งที่มีค่าอันควรหวงแหนจึงสูญเสียไปโดยไม่รู้เรื่อง รู้ราว
พรหมจารีความสาวมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อเสียไปแล้วจะลงทุนสร้างใหม่ เพาะปลูกใหม่ย่อมไม่ได้... เฉพาะเด็กสาวอย่างลูกเนียงได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างปกปิดมิให้รู้เรื่องของเพศตรงข้าม ตั้งแต่เมื่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่เป็นคนหัวโบราณ ชีวิตร่างกายของแม่ มีไว้เพื่อผู้ชายเพียงคนเดียว แม่เคยพูดกับลูกเนียงเป็นนัยๆ เรื่องของผัวเดียวเมียเดียว... ครั้นมาพบเข้ากับตนเอง...เรามิต้องเป็นของ นายกําบังตลอดไปหรือ... ลูกเนียงคิดประสา เด็กๆ ที่ไม่รู้อะไรมาก ยิ่งนึกไปถึงหน้าหนา ตาโต คอเป็นหนอก เนื้อตัวดําหนา ไขมัน ดันออกมาตามพุงแข้งขายิ่งหวาดกลัว...
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยลายตองก็แทบจะประคอง เด็กสาวลงมาจากตึก
กําบังเอารถมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว
พอเด็กสาวมองเห็นร่างใหญ่หนาของกําบังเข้า จึงต้องเบียดบังแอบหลังของลายตองด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา เหมือนคนโดนซ้อมมาพบกับคนที่ซ้อมตนเอาไว้ แม้หน้าตาของกําบังในขณะนี้จะมองดูเฉยเมย ไม่ดุดันเหมือนช่วงสุดท้ายขณะที่อยู่บนตัวของเด็กสาวตอนนั้น แต่ก็ไม่วายหวาดหวั่น
ลายตองเหมือนจะรู้ความรู้สึกของเด็กสาวจึงโอบกอดเอาไว้
"ไม่ต้อง"
เสียงลายตองตวาดเมื่อกําบังทําท่าจะเข้ามาช่วยพยุงเด็กสาว...ดูท่าที่กําบังจะเกรงอกเกรงใจลายตองไม่ใช่น้อย จึงได้แต่ยั้งมือเอาไว้
เด็กสาวพยายามแอบซ่อนอยู่หลังลายตอง... กําบังขบกรามเล็กน้อยเมื่อเห็นเนื้อขาวๆ ส่วนสัดรัดรึงแน่นด้วยเนื้อหนังอันบริสุทธิ์ที่ตนได้บดเบียด ขยําขยี้มาแล้ว ยิ่งเด็กสาวแสดงท่าที่หวาดกลัวและเขินอายมัน ยิ่งเรียกร้องความรู้สึกอยากจะถลาเข้าไปฟัดให้จมเขี้ยว...
ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ...กําบังคิดคํารามอยู่ในใจ... เพราะเขากับลายตองได้ร่วมความคิดจัดฉาก จัดบทต่อไปเอาไว้แล้ว สําหรับเขากับเด็กสาวในชุดต่อไป
ลายตองประคองเด็กสาวขึ้นรถทางด้านหลัง
กําบังขับรถออกมาจากบ้านไม่ไกลเท่าไรก็พูด ขึ้นมาเบาๆ
"คุณลูกเนียงไม่สบายมากเรอะ...เจ็บมากเรอะ..."
คําพูดดูเหมือนสงสารห่วงใย. แต่ในหัวใจเหมือนลําพองที่ประสบชัยชนะอันสําคัญ ได้เป็นผู้ขยี้ความสาวเป็นคนแรกของเด็กสาวลูกของนายจ้าง
"ยังจะมีหน้ามาถามอีก"   ลายตองแกล้งพูดเสียงกร้าวมือรัดร่างเด็กสาวแน่นขึ้นอีก ซึ่งลูกเนียงกําลังซบหน้าอยู่กับอกของตน  "แกไม่น่าจะทํากับคุณหนูอย่างงี้เลย หรือว่าแกอยากจะเข้าคุก...เอามั้ย ลองดูมั้ย"
เสียงของลายตองจริงจัง... เด็กสาวบีบมือของลายตองเบาๆ เป็นการห้าม ถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องคุกเรื่องตารางสําหรับเขา ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องมันก็จะต้องอื้อฉาว แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหากใครต่อใครรู้เรื่องเข้า...ขอให้มีคนรู้กันเพียงสามคน แค่นี้เถอะ
กําบังนิ่งเฉยไปสักพักหนึ่งจึงเอ่ยขึ้นโดยไม่หันหน้ามา
"ผมไม่มีเจตนา ผมยอมรับผิด ตอนนั้นผม... ผมลืมตัวไปจริงๆ ผมอดใจเอาไว้ไม่อยู่"
เด็กสาวรู้สึกปวดมวนในท้องขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงตอนนี้ เพราะภาพที่เขาเคยเขย่าขย้อนอยู่บนตัวมันติดอยู่ในตาและความรู้สึก...หางตาชําเลือง มองด้านหลังของเขา เห็นหนอกคอหนา ศีรษะใหญ่ สองไหล่กว้าง ลมพัดพาเอากลิ่นตัวของเขาเข้ามาหา
"พอเหตุการณ์มันผ่านพ้นมาแล้ว"  กําบังพูดต่อโดยไม่หันหน้ามา "ผมนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน" กําบังแกล้งถอนใจหนักๆ ให้เด็กสาวได้ยิน "ถ้าหาก...ถ้าหากเหตุการณ์อย่างนี้ มันเกิดขึ้นกับลูกสาวของผมบ้าง" ถึงตอนนี้กําบังทําเสียงเครือคล้ายกับจะร้องไห้...ชั้นเชิงของเขายิ่งกว่าหมาป่ากับลูกแกะเป็นไหนๆ
"นั่นสิ หากลูกสาวของแกโดนเข้าอย่างงี้แกจะรู้สึกยังไง" ลายตองรับบทอย่างรู้กัน
"ไม่ควรเลยจริงๆ เรื่องมันเป็นเพราะเธอคนเดียวแหละลายตอง"
"เรื่องเป็นเพราะฉันเรอะ...เป็นเพราะฉันยังไง" ลายตองส่งเสียงตวาดแหว
"เธอไม่ควรมาขอร้องให้ฉันช่วยเหลือคุณลูกเนียงน่ะสิ"
"แกสาบานแล้วใช่มั้ย แกจะช่วยเอาเลือดเสียออกอย่างเดียว ไม่เลยเถิดไปยิ่งกว่านี้ แกสาบานหรือเปล่า พูดมาตรงๆ นะตากําบัง"
"ใช่...ฉันสาบาน" กําบังยอมรับ
"สันดานของคนอย่างแกมันระยำเอง" ลายตอง แกล้งด่าให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
"ถ้าใครอยู่ในสภาพอย่างฉันในขณะนั้น...มันก็ ต้องระยำกันทุกคน" พูดถึงตอนนี้ กําบังอดที่จะหัน มาดูเด็กสาวเนื้อตัวขาวแน่นอยู่ในอ้อมกอดของ ลายตองเสียมิได้
ลายตองรู้ทันความรู้สึกของกําบังจึงถลึงตาใส่ เป็นเชิงปราม กําบังจึงหันหน้ากลับไปอย่างเดิม
"ถึงระยําอย่างไรก็คงไม่เหมือนแกหรอก แกมันระยําเสียจนคุณหนูบอบช้ำไปหมดทั้งตัว...เห็นแล้ว ฉันอยากจะฆ่าแกเสียเหลือเกิน" ลายตองพูดแบบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
คราวนี้กําบังจอดรถแอบเข้าข้างทาง ดับเครื่องแล้วหันหน้ามา
หน้าโตตาโปนของเขาทําให้เด็กสาวต้องเบียดตัว ซ่อนหน้าเข้าหาลายตองมากขึ้น
"แกจอดรถทําไม แกจะทําไมเรารี" ลายตองโอบร่างของเด็กสาวแน่นยิ่งขึ้นเหมือนจะป้องกันอย่างเต็มที่ กิริยาที่ลายตองแสดงออกเหมือนหมาลูกอ่อนที่หวงลูกของมัน
บทบาทของคนทั้งสองแนบเนียน ตบตาเด็กสาวอย่างลูกเนียงได้ง่ายดาย...ลูกเนียงกลัวเขา แต่ก็ไว้ใจ เชื่อว่าลายตองให้ความคุ้มครองตนเองได้แน่
"คุณลูกเนียงยกโทษให้ผมได้มั้ย"
เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อรู้สึกมือหยาบหนาของเขามาจับที่ท่อนแขน...มันสากและด้านเมื่อเขาลูบ...
แต่กําบังทําได้เพียงแค่นั้น ลายตองก็ชิงปัดออกไปเสียก่อน...กําบังดูจะไม่ยอมง่ายๆ ดังนั้นลายตองจึงทุบที่มือที่แขนของเขาไปจนหน้าตา ตลอดจนศรีษะ ปากก็พูด
"แกอย่ามาทําบ้าๆ กับคุณหนูกลางถนนหน ทางอย่างงี้นะ"
กําบังทําเหมือนยอมรับโทษ ปล่อยให้ลายตอง ทุบตีจนกระทั่งรู้สึกเจ็บมือหยุดไปเอง
บทบาทของคนทั้งสองทําให้เด็กสาวนึกกลัว... กลัวกําบังจะตอบโต้ทําร้ายและ...กลัวเขาจะฆ่าเอา
"หยุดทําไมล่ะ ด่าฉัน ทุบตีฉันให้มันสาแก่ใจของเธอสิ ช่วยลงโทษฉันแทนคุณหนูด้วย เพราะคุณหนูทําอย่างนี้ไม่ได้หรอก และคุณหนูจะไม่มีวันทําอย่างนี้กับฉัน มีแต่เธอเท่านั้นที่จะทําได้...หรือเธอ ...เธอจะฆ่าฉันก็ได้ ฉันพร้อมอยู่แล้ว" น้ำเสียงของกําบังฟังดูแล้วเหมือนจะชวนให้น่าสงสาร
"แกอย่ามาท้าฉันนะ ฉันฆ่าแกได้จริงๆ นะ" ลายตองกระแทกเสียงขึงขังให้สมจริงสมจัง
"ฉันไม่ได้ท้า แต่ถ้าหากเป็นความต้องการของคุณหนู ต้องการให้ฉันตายไปเสีย ฉันก็ยอม"
เด็กสาวรั้งแขนของลายตองเอาไว้ เมื่อหล่อนขยับตัว เนื่องจากกลัวจะมีการฆ่ากันขึ้นมาจริงๆ แค่ ได้ยินคําว่าฆ่า หัวใจของเด็กสาวก็เต้นแรงแทบไม่เป็นส่ำอยู่แล้ว...เกิดมาแต่อ้อนแต่ออกไม่เคยเห็นใคร แสดงกิริยาโกรธแค้น ใช้กําลังทุบตีเอาเหมือนลายตองทํากับกําบัง
"ไปเถอะ" นิ่งกันอยู่ครู่หนึ่ง ลายตองจึงเอียขึ้น "คุณหนูไม่สบายอย่าเสียเวลากันเลย รีบพาคุณหนูไปหาหมอเถอะ แกเป็นตัวการทําให้เดือดร้อนจะมา มัวรีรออะไรอยู่ล่ะ ไปสิ" ลายตองพูดเหมือนออกคําสั่ง
แต่กําบังกลับรีรอไม่ยอมไปง่ายๆ
"คุณหนูยกโทษให้ผมหรือเปล่า" สายตาเขา จับอยู่ที่คอเสื้อตรงเนื้อขาวๆ จากร่องไหปลาร้าหายลงไปในขอบคอเสื้อ...กระโปรงชุดของเด็กสาวสั้นเหนือเข่าอยู่แล้ว เมื่อนั่งในลักษณะห้อยขา มันจึงรั้งชายกระโปรงขึ้นไปอีก...นึกไปถึงทุกสัดส่วนของเด็กสาวที่ตนบดขยี้เสียจนไม่มีเนื้อส่วนไหนพ้นมือไปได้ แม้แต่ในซอกกลีบอันเร้นลับ...เจ้าหน่อเนื้อของเขาก็ส่งความรู้สึกบอกความปราถนาขึ้นมาทันที... มันโชนจนสุดจะห้ามได้...แต่พนักของที่นั่งกั้นเอาไว้ เด็กสาวและลายตองจึงไม่เห็น...แต่ในแววตาของเขาลายตองรู้ หล่อนยิ้มน้อยๆ แต่พูดออกมาด้วยเสียง อันดุดัน
"คุณหนูจะไม่มีวันยกโทษให้แกหรอก" ลูกเนียงได้ยินเสียงเขาถอนหายใจหนักๆ
"จะให้ผมกราบเท้าขอโทษมั้ย" เสียงของกําบัง พูตอย่างอ้อนวอน 
"ไม่ต้อง" ลายตองกระแทกเสียงตอบ
"ผมรู้ เรื่องนี้มันให้อภัยกันไม่ได้ง่ายๆ สําหรับ ผม มันเป็นบาปกรรมที่จะต้องชดใช้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าหากว่ามันเป็นกรรมเก่า ก็ถือว่าเราได้ใช้หนี้กันไป แต่ถ้ามันเป็นกรรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ ผมก็ต้องใช้หนี้ให้คุณหนูไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า...แต่ที่ผมจะต้องใช้หนี้ให้อย่างเห็นๆ กันชัดๆ"
กําบังแกล้งหยุดนิ่งคล้ายกับจะตัดสินใจแล้วเอ่ยขึ้น
"ผมจะต้องออกไปจากบ้านนี้ บ้านที่ผมเคยกินเคยอยู่อย่างสุขสบายมาหลายปี"
"แกมันอยากเลวเองนี่" ลายตองสอดขึ้นให้ดูเป็นจริงเป็นจัง แต่ทุกอย่างก็เดินไปตามแผนที่เตรียมจัดฉากกันเอาไว้
"ผมจะไปให้พ้นจากคุณหนู คุณผู้ชายกลับมาจากเหนือในวันไหน ผมก็จะขอลาออกในวันนั้น ผมจะไปโดยไม่ให้คุณต้องเห็นหน้าผมอีก จะได้ ลืมๆ กันไปเสียให้หมด...ผมทําได้แค่นี้ พอใจไหมคุณหนู
"แต่ว่า..."  ลายตองเอ่ยขึ้นเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้น มาได้
"แต่ว่าอะไร"
ลายตองทําท่าจะพูดแต่แล้วเหมือนจะนึกขึ้นมา ได้ก็เลยนิ่งเฉยเสีย
"แต่อะไร" กําบังถามย้ำ
"ฉัน...ฉันไม่อยากจะพูด"
"พูดมาเถอะ มีปัญหาอะไร"
"หากว่า...หากว่าเกิดท้องขึ้นมาล่ะ"
ประโยคนี้ของลายตองทําเอาลูกเนียงเสียววูบสุดจะยับยั้ง น้ำตาไหลออกมาพร้อมกับสะอื้นน้อยๆ เมื่อนึกไปถึงเรื่องการมีท้องขึ้นมา
มันช่างทารุณในความรู้สึกเหลือเกิน
"คงไม่ละมั้ง"  เสียงของกําบังพูดคล้ายกลับจะ ปลอบใจ
"แกรู้ได้ยังไง คุณหนูเพิ่งจะหมดประจําเดือนไปหยกๆ แล้วแกเสือกทํากับคุณหนูอย่างงี้"
"ถ้าหากเป็นอย่างงั้น...เฮ่อ"  กําบังถอนหายใจ หนักๆ "แล้วเราค่อยพูดกันใหม่เหอะ"
กําบังติดเครื่องเข้าเกียร์เอารถออกด้วย ความกระหยิ่มเพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผน...นึกไปถึงเนื้อหนังมังสาของเด็กสาวแล้ว มันยังหอม มันยังหวานอยู่ในความรู้สึกไม่หาย กลิ่นไอของเด็กสาวไม่จางไปจากจมูก ความแน่นของเนื้อหนังราวกับมันติดอยู่ตามมือของเขา ซอกเนื้อหน้าขาด้วยแล้ว เจ้าหน่อเนื้อของเขามันเข้าไปคว้านแล้วส่งกระแส ความกระชับแน่นขึ้นมา บอกถึงความยากเย็นกว่าจะผ่านเข้าไปได้ ราวกับกล้ามเนื้อส่วนนั้นของเด็กสาวมีแรงมหาศาล บีบรัดจนหน่อเนื้อของเขาขยับเขยื้อนแต่ละครั้งด้วยความยาก แต่เรี่ยวแรงของเขามีอยู่เหลือ เฟือ มันจึงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไร
บทบาทเหล่านี้ที่ผ่านมาจะต้องกลับมาอีก...คราวนี้... กําบังนึกอย่างมันเขี้ยว...มันจะต้องยิ่งกว่าคราวที่แล้ว...เพราะลูกเนียงรู้แล้วว่ามันคืออะไร...ธรรมชาติของร่างกาย ความสาว ได้ขยายตัวเบ่งบานออกมารับ...เพียงแต่ด้าน จิตใจ ต้องอาศัยลายตองกล่อมเกลาให้เห็นดี เห็นงาม โอนอ่อนผ่อนตามโดยไม่ขัดขืน
เหมือนม้าที่รู้รสมือรสแซ่เสียแล้ว ย่อมบังคับให้วิ่งไปตามความต้องการได้ง่ายขึ้น
สําหรับลูกเนียง...ความไร้เดียงสาทําให้มีความรู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมาบ้าง...เขาคงไม่มีเจตนา แต่ก็ดีแล้วเมื่อพ่อกลับมาเขาจะลาออกไปให้พ้นหน้าพ้นตา เท่ากับเขาได้ลงโทษตนเองอย่างสาสมแล้ว
แต่ว่า...หากตนเองเกิดมีท้องขึ้นมาล่ะ...มีท้อง ขึ้นมาจะทําอย่างไร...คําพูดของลายตองบอกตนเพิ่งหมดประจําเดือนไปหยกๆ แล้วกําบังมาทําอย่างงี้... ความหมายของลายตองบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าทําอย่างงี้อาจจะมีท้องแน่นอน กําบังเองก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่ให้ความเห็นว่า แล้วค่อยพูดกัน...มันอาจจะ เป็นไปได้...แล้วถ้ามีท้องขึ้นมาจริงๆ จะทําอย่างไร...ก็เห็นมีแต่ลายตองคนเดียวจะช่วยได้ แต่จะช่วยอย่างไรก็ยังไม่รู้ เอาไว้กลับบ้านค่อยหารือกันให้มันรู้ชัด...เด็กสาวเริ่มมีความคิดสับสนน้ำตาไหลรินมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงร้านหมอ ลายตองจัดการเช็ดน้ำตาตามใบหน้าของเด็กสาว ปลอบโยนอย่าให้แสดงกิริยาเหล่านี้ให้หมอรู้ และเรื่องสําคัญอย่าบอกหมอเป็นอันขาดว่ากําบังได้ทําอะไรกับเด็กสาว ซ้ำเข้ามาอยู่ต่อหน้าหมอลายตองก็เป็นเจ้ากี้เจ้าการช่วยตอบแทนแทบหมดทุกคําถาม
หมอคนนี้ก็เป็นกันเอง เพราะรักษากันมาตั้งแต่แม่ของลูกเนียงยังมีชีวิตอยู่...แต่เมื่อลูกเนียงไม่บอกความจริงเสียแล้ว นอกจากบอกว่าเป็นไข้ธรรมดาๆ   หมอก็ไม่สามารถจะถอดเสื้อผ้าเด็กสาวออกดูได้ จึงจ่ายยามาให้พร้อมกําชับกําชา หากตามกําหนด เวลาไข้ไม่หายให้มาพบใหม่
หากความผิดปกติในการเดินของเด็กสาวหาได้พ้นไปจากความสังเกตของหมอไม่ เพราะการเดินของเด็กสาวเหมือนมีอะไรเข้าไปขัดอยู่ในหว่างขา สะโพกยื่นออกมาข้างหลังเล็กน้อยราวกับว่าถ้าตั้งอยู่ที่เดิมแล้ว จะโดนเข้ากับอะไรสักอย่าง สิ่งเหล่านี้หากไม่สังเกตแล้วจะไม่เห็น แต่หมอผ่านโลกผ่านคนไข้มามากมายมีหรือหมอจะไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นกับเด็กสาว แต่เมื่อเด็กสาวไม่บอกอาการ ไม่บอกความจริง หมอก็ไม่มีสิทธิ์จะไปก้าวก่ายอะไรมาก ถ้าหากแม่ของลูกเนียงยังมีชีวิตอยู่ หมอคงจะได้ปรึกษาหารือกันเป็นส่วนตัว เพราะหมอก็เป็นเพื่อนกับแม่ของลูกเนียง เป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริงแม้จะเป็นคนละเพศ หมอเป็นผู้ชาย แต่ความรักระหว่างเพื่อนไม่เปลี่ยนไปเป็นอื่น กับคุณกองทุนพ่อของลูกเนียงหมอคงจะหารือเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะขาดความสนิทสนม...หมอได้แต่มองดูเด็กสาวด้วยความสงสาร
กลับมาถึงบ้าน ลูกเนียงก็เห็นรองพล นั่งรออยู่ก่อนแล้วในห้องรับแขก ยิ้มแรกที่เขาส่งให้ลูกเนียงรู้สึกเหมือนมันผิดกับรอยยิ้มครั้งก่อน
ไม่ใช้ยิ้มของเพื่อน...ไม่ใช้ยิ้มของพี่น้อง...มันเป็นยิ้มต่างเพศที่มีความหมายลึก...
คงเป็นเพราะประสบการทางเพศที่ผ่านมาจากกําบังเพียงครั้งเดียว...ทําให้ลูกเนียงอ่านรอยยิ้มของรองพลออก
เด็กสาวรีบนั่งบนเก้าอี้ทันที เหมือนจะกลัวเขาจับผิดได้ว่าขณะนี้เนื้อตัวของเธอยับเยินหมดแล้วความเป็นกันเองแต่แรกดูจะหายไป...มีความเขินอาย แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
"พี่...พี่ได้ข่าวว่าเธอไม่สบาย" รองพลกว่าจะเรียกตัวเองว่าพี่ออกมาได้ดูช่างยากเย็น เพราะเพิ่งเป็นครั้งแรกที่อยู่กันสองต่อสอง ลายตองนั้นหลบออกไปจากห้องเพราะเมื่อมีรองพลอยู่ ฐานะของตนเองก็คือคนใช้เท่านั้นเอง
"ค่ะ" ลูกเนียงตอบรับแผ่วเบา สายตามองดูใบหน้าของรองพล น้ำตาออกมาคลอเบ้า...เขาจะเป็นที่พึ่งของเราได้ไหมหนอ...เด็กสาวคิตวุ่นวาย...เขาจะรู้เรื่องของเราหรือเปล่า หากเขารู้...หากเขาเห็นเรามีท้องยื่นออกมา
"นั่นสิ"  รองพลคล้อยตามเมื่อเด็กสาวรับคํา "หน้าตาของเธอดูซีดเซียวลงไปเป็นกอง" รองพล พูดตามความจริง เพราะเด็กสาวดูซีดเซียวจริงๆ "คุณพ่อรู้หรือเปล่า"
"คุณพ่อ"  พอเอ่ยถึงพ่อความน้อยเนื้อต่ำใจ ก็พลันเกิดขึ้น...ลูกไม่สบาย...ลูกโดนเขาทําเอาจนยับเยิน พ่อแค่แตะหน้าผากบอกลูกตัวร้อนสั่งให้ลายตองพาไปหาหมอ แล้วพ่อก็ออกจากบ้านพาอาแววรัตน์เดินทางขึ้นเหนือ แทนที่จะหยุดการเดินทางหันมาเอาใจใส่ ถ้าแม่ยังอยู่ แม่คงเป็นทุกข์เป็นร้อนความเจ็บไข้ของลูก และลูกคงไม่โดนกําบังหลอกทํากับเนื้อตัวเอาอย่างยับเยินเช่นนี้...นึกขึ้นมาแล้วลูกเนียงก็สุดจะยับยั้งเอาไว้ได้ เด็กสาวยกสองมือขึ้นปิดหน้า ร้องไห้โฮออกมาทันที
รองพลพอจะเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาว เพราะพอเอ่ยคําว่าคุณพ่อ ก็ร้องไห้ออกมาทันที รองพลรู้แล้วว่าคุณกองทุนพาน้าแววรัตน์ขึ้นไป เชียงใหม่เพื่อธุรกิจ แต่ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องของความรัก ความหลงใหลในตัวน้าแววรัตน์มากกว่า ยิ่งคิดยิ่งสงสารเด็กสาวเพราะรองพลรู้ว่าลูกเนียงถูกทอดทิ้ง วัยของลูกเนียงยังต้องการความรัก ความอบอุ่นจากผู้ให้กําเนิด...หากเป็นโอกาสของตน รองพลจะต้องให้ความรักความอบอุ่นกับลูกเนียงอย่างเต็มที่...ลูกเนียงยังไร้เดียงสาและบริสุทธิ์จริงๆ สําหรับเขา
"น้องคงไม่เป็นอะไรมากหรอก เป็นไข้ธรรมดา ใช่ไหม"
"ค่ะ" ลูกเนียงรับด้วยเสียงสะอื้นน้อยๆ ใช้ หลังมือป้ายน้ําตา
"หมอเขาว่าไง"
"เขาให้ยามาทาน เขาบอกถ้ายาหมดแล้วไม่หาย ให้ไปหาใหม่" .
"ไปตากฝนตากแดดที่ไหนหรือเปล่า อยู่ดีๆ ถึง ได้เป็นไข้"
"เปล่า" เด็กสาวสันศรีษะใจก็นึกไปถึงการทําอย่างหักโหมรุนแรงของกําบัง...เขาเล่นทําอย่างงั้นจะไม่เป็นไข้ได้อย่างไร พอคิดถึงเรื่องนี้ความรู้สึกเจ็บระบมกับความรู้สึกแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้น...เด็กสาวก้มหน้าหลบสายตาของรองพลด้วยความเอียงอายเหมือนจะรู้ว่าเขารู้ทันเสียแล้ว
รองพลไม่ใช่คนผ่านโลก ผ่านงานมาอย่างหมอจึงจะรู้ถึงความผิดปกติในเนื้อตัวเด็กสาว ความเขินอายของลูกเนียงกลับทําให้เขายิ่งเกิดความรักมากขึ้น มันเป็นความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ รักอย่างสิ่งที่มีค่าควรแก่การถนอมเอาไว้ชั่วชีวิต
เขานึกถึงช่วงที่ตนจะต้องไปเรียนต่างประเทศ ช่วงนี้เขาจะต้องห่างเหินเด็กสาว เขาจะทนได้หรือ ถ้าไม่มีโอกาสได้พบลูกเนียงเป็นเวลานานขนาดนั้น ยิ่งได้รู้ว่าลูกเนียงเหมือนเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเอาใจใส่ให้ความคุ้มครอง พ่อของลูกเนียงก็หลงใหลน้าแววรัตน์ของเขาจนไม่เอาใจใส่ลูก
และขณะนี้เขาก็เหมือนได้หมั้นหมายเด็กสาวเอาไว้แล้ว เพียงแต่เด็กสาวยังไม่รู้ เพราะวัยของเธอยังไม่สมควรที่จะรู้ แต่สักวันหนึ่งเด็กสาวจะต้องรู้แหวนทองคําขาวลงยาอันมีค่าของย่าทวดที่เขาให้เอาไว้มันเป็นเครื่องหมายบอกความเป็นเจ้าของอยู่แล้ว
ความคิดอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมอง...เขาจะปล่อยลูกเนียงเอาไว้ที่นี่ไม่ได้ เขาจะต้องบอกกับแม่ให้มาพูดกับน้าแววรัตน์ให้จัดการส่งลูกเนียงไปเรียนที่อังกฤษกับเขา
ลูกเนียงจะได้อยู่ในสายตาอยู่ในความคุ้มครองของเขา...เขาเชื่อตนเองว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะถนอมความบริสุทธิ์ของเด็กสาวเอาไว้จนกว่าจะถึงวันวิวาห์
รองพลเป็นคนจริงจังในเรื่องความรัก...ความรักของเขาไม่มีความใคร่เข้ามาเจือปน...เมื่อเขารัก เขาก็จําเป็นต้องถนอมคนที่เขารักเอาไว้...
รองพลนั่งคุยกับลูกเนียงไม่นานเท่าไรก็ขอตัวกลับเพื่อให้เด็กสาวได้พักผ่อน และสิ่งสําคัญก็คือเขาจะต้องนําความคิดของเขามาบอกกับแม่ ให้แม่พูด กับคุณกองทุนและน้าแววรัตน์เรื่องพาลูกเนียงไปเรียนต่อที่อังกฤษ
เขาสงสารเด็กสาวผู้บริสุทธิ์
รองพลกลับไปแล้ว...เด็กสาวรู้สึกโล่งอกคล้ายกับตนเองพ้นจากความผิด เพราะอยู่ต่อหน้าเขากลัวเขาจะรู้...รู้ว่าตนเอง....ตนเองมีผัวเสียแล้ว...ตนได้เสียกับกําบังตัวใหญ่หนา เหมือนวัวเหมือนควาย
พอนึกถึงกําบัง...ความคิดเรื่องมีท้องก็เข้ามาทันที
เราจะมีท้องหรือเปล่า...มันเป็นคําถามที่บีบคั้นทรมานหัวใจเหลือเกิน...
แม้จะยังไม่ปรากฏออกมา แต่มันก็เหมือนรอฟังคําพิพากษา... ไม่รู้จะโดนลงโทษ หรือจะโดนปล่อยพ้นความผิด...จิตใจกระสับ กระส่ายไม่มีความสุข...เป็นคําพิพากษาของศาลเดียว ไม่มีอุทธรณ์ฎีกา...ท้องหรือไม่ท้อง...
แล้วเด็กสาวก็เดินตามบทเข้าไปในฉาก ที่กําบังกับลายตองจัดเตรียมเอาไว้อีกครั้ง...



ต่อจากตอนนี้ ตอนที่ 17-18-19-20 ผมไม่มีต้นฉบับนะครับ ต่ออีกที ที่ผมจะลงจะเป็น ตอนที่21 ข้ามไป 4 ฉบับ ตระเวนหาเท่าไรก็ไม่เจอ หากใครมีรบกวนช่วยกันลงได้นะครับ ยังดีที่ท่านผู้ประพันธ์ดำเนินเรื่องอย่างละเอียด เดินเรื่องค่อยเป็นค่อยไป หายไป 4 ตอน มาต่อตอนที่ 21 ก็ยังพอประติดประต่อเรื่องได้อยู่ครับ
และต่อๆไปก็ยังมีกระโดดข้ามตอนบ้าง เพราะไม่มีต้นฉบับ ซึ่งผมจะแจ้งให้ทราบในช่วงท้ายของตอนนั้นๆ ก่อนที่ตอนต่อไปจะไม่มี หวังว่าผู้อ่านที่คอยติดตามคงไม่โกรธกันนะครับ


peddo

ละเมียดจริงๆครับ แม้แต่ตัวร้ายก็ลึกซึ้ง หวังว่าคงไม่มีใครเอาไปทำละครแล้วให้นางร้ายอาชีพเล่นเป็นลายตองนะครับ จากการบรรยายนี่รู้สึกแนบเนียนมาก แต่นางร้ายไทยต้องโชว์ความร้าย ต้องแอบยิ้มสะใจ อันนี้ไม่ชอบเลย แต่แม้ในเรื่องจะมีตอนแอบร้าย ก็ยังมีเรื่องราวให้น่าเห็นใจ จริงๆ ก็อยากอ่านตอนลายตองโดนเปิดเหมือนกันนะครับ แต่ท่าจะโหดร้ายไปหน่อย หรือจริงๆ นี่เป็นความรู้สึกของลายตอง นายกองทุนอาจคิดอีกแบบก็ได้
โล่งใจที่ ได้ยินว่า หายไปหลายตอนก็ยังปะตอดปะต่อเรื่องได้ แต่หวั่นใจว่าบทอัศจรรย์แสนละเมียด แต่ปวดตับจะหายไปด้วย ไขว้นิ้วรอนะครับ ขอบคุณ​ครับ​

sunnie06

ไม่โกรธครับ แค่เอามาให้อ่านก็เป็นพระคุณอย่างสูงแล้ว

sofee

ผมติดเรื่องนี้ไปเสียแล้วครับ
ผู้แต่งวางโครงเรื่องได้อย่างแยบคายมาก
ทำให้ลุ้นไปกับตัวละคร แถมเดาเนื้อเรื่องไมไ่ด้อีกด้วยว่าจะเกิดอะไรบ้าง
แอบเสียดายกับ 4 ตอนที่หายไปด้วยครับ

Suchart Thanee

อ่านแล้วสนุกครับ ภาษาสวยงามมากครับ

cdx

อืมมม ตอนที่หายไปจะเป็นตอนสำคัญไหมนี ยังไงก็จะรอครับ ตอน21

Monchai-S

จากการคำนวน  4 ตอนที่หาย น่าจะยังเป็นการปูครับ แต่ยังไงก็ยังเสียดาย เพราะผู้ประพันธ์ ปูเรื่องได้อรรถรสมาก

Somkiat Ruangsubvilai

รอตอนที่21ครับ ที่หายก็หายไป ที่ ีอยู่เอามาลงให้อ่านก็ขอบคุณแล้วครับ ยังไงอย่าทิ้งช่วงนานจะรออ่านนะครับ

Phoowadol

เรื่องราว.มีการสอดแทรกหลายอารมณ์ถ่ายทอดมุมมองให้เห็นตัวตนของตัวละครได้อย่างชัดเจน คนอ่านจึงมีความเข้าใจในบทบาทของแต่ละคนได้ดี ด้วยความไร้เดียงสาของลูกเนียง จึงมีแต่ความกังวลใจมากๆในขณะนี้  เหมือนตัวเองกำลังทำผิดต่อ.รองพล และคงจะเป็นแบยนี้ไปสักพักจนกว่าจะหลุดพ้นจาก กำบัง แต่ที่กังวลใจคือ ทั้งสองอยู่ในย้านเดียวกัน.สักวันคงมีซ้ำรอย อีกรึเปล่าแค่นั้น ลูกเนียงจะคิดถึงรสเสน่หาของกามาที่กำบังได้มอบไว้ให้ในครั้งก่อน จนต้องมาทอดกายให้กำบัง เชยชมอีกครั้งรึเปล่า แต่ถ้าหากไปเรียนต่อต่างประเทศได้ก็ คงรอดตัวไป  จะยอยติดตามนะครับถึงแม้ว่า จะจาดตอนไปบ้างในบทครั้งหน้าก็ตาม ขอขอบคุณท่านที่นำมาแบ่งปันครับ

varanus_deaw

นับว่า คนแต่งเดิม มีความสุนทรีทางภาษามาก
::JubuJubu::

johnywalker

ตั้งชื่อเรื่องได้ดีจริง ๆ ครับ ลูกเนียงก็เหมือนดอกไม้พึ่งตูม แต่ก็โดนซะละ

naluk888

กลัวใจลูกเนียงจะพลิกจากใสซื่อเป็นร้ายเหลือเพราะลายตอง

pinmonkey

ลายตองนี่ร้ายจริงๆ กำบังก็หื่นได้ใจ สงสารแต่ลูกเนียงกับรองพล ขอบคุณมากครับ

suriyamahajit

เสียดายที่ขาดหายไปแต่ต้องขอบคุณผู้ที่เอามาลง