ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่28

เริ่มโดย Monchai-S, มิถุนายน 23, 2018, 08:03:29 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S




มลทินดอกไม้-ตอนที่28




            ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง ลมจะพัด การแสดงออกของธรรมชาติไม่มีใครจะห้ามได้ เมื่อเป็นความต้องการของธรรมชาติก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ความรู้สึกในส่วนลึกของสัตว์โลก ยามถึงคราวต้องการเหมือนเมฆก่อตัวทะมึน ครั้นพายุกระหน่ำก็กระจายตัวแตกออกมาเป็นสายฝนหล่นหลั่งชนิดไม่ลืมหูลืมตา เหมือนพายุร้ายของราคะตัณหา เมื่อก่อตัวเต็มที่ก็จะโหมกระหน่ำไม่เลือกกาละหรือบุคคล
แม้จะรู้ว่าไอ้คนที่ขึ้นมาอยู่บนเตียงและสอดไส้เข้ามาขยับโขยกอยู่ในตัวขณะนี้เป็นใคร แต่แสงสว่างของปัญญาความคิดถูกปกปิดเอาไว้จนมืดมิด หมดสิ้นด้วยแรงตัณหาอย่างที่เรียกกันว่า "หน้ามืด"
กลายเป็นรูปร่างไม่ใช่สิ่งสําคัญ ผลงานนั้น สําคัญกว่า
กําบังเหมือนนักดนตรีที่รูปชั่วตัวดํา แต่ฝีมือการบรรเลงของเขายอดเยี่ยม สะกดคนฟังอย่างแววรัตน์ให้เคลิบเคลิ้มกับเสียงเพลงที่เขาบรรเลง ด้วยเครื่องมือคู่ใจ กําบังมีความสุขกับเสียงที่ตนบรรเลงออกไป แววรัตน์มีความสุขในฐานะผู้ได้รับรสชาติจากเสียงบรรเลงของเขา ทั้งสองโดนพันธนาการด้วยอารมณ์เดียวกันกับสิ่งที่ตนกําลังเสพ เขาพอใจที่หล่อนมีความสุขกับผลงานของเขา หล่อนพอใจที่ผลงานของเขาทําให้หล่อนออกอารมณ์ สมปรารถนา
เขาเหมือนนักเขียน พิถีพิถันกลั่นกรองผลงานออกมาด้วยปรารถนาสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้และรู้รส หล่อนเหมือนนักอ่านรู้รสรู้สื่อของเขาที่ส่งออกมา เขามีความสุขที่ได้เขียนให้หล่อนอ่าน หล่อนมีความสุขที่ได้อ่านงานซึ่งเขาเขียน
เขาและหล่อนเหมือนอักษรพยัญชนะที่มีอยู่ในจํานวนจํากัด แต่รู้ใจรู้จัดเรียงลําดับออกมาเป็นถ้อยคําอันเพราะพริ้ง บางคําใหดเถื่อน ซ่อนเงื่อนผูก ความหมาย บางคํานุ่มนวลเริงร่ายไหวๆ อยู่ในอารมณ์
เขาและหล่อนต่างใช้สิทธิ์บริโภคกันอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่จะกลายเป็นขยะน้ำเสียที่ปล่อยระบายหลังจากบริโภคแล้ว...
สองมือขาวๆ ของแววรัตน์ที่โอบร่างของเขา เอาไว้ค่อยๆ เกร็งเข้าหากัน มันเริ่มแน่นเข้าๆ จน กลายเป็นรัด...ริมฝีปากของหล่อนเผยอส่งเสียง ร้องครางออกมาเบาๆ เหมือนเสียงทารกอ้อนหานม... เมื่อได้ปากหนาๆ ของกําบังกดทาบลงมาหล่อนก็อ้าออกงับเอาไว้แล้วดูดปลายลิ้นของเขาอย่างกระหาย น้ำลายซึ่งปกติเหม็นคลุ้งกลายเป็นรสหวานอร่อย หล่อนสูดดูดกินอย่างไม่อินังขังขอบว่าเป็นของใคร...
คนผ่านงานมาอย่างกําบังมีหรือจะไม่รู้ว่าแววรัตน์อยู่ในสภาพไหน..เสร็จกูละ...กําบังคิดอย่างพล่ามพล่านพลันเปลี่ยนบท...กําบังหย่งตัวขึ้นจาก หน้าอกของหล่อน พลางจับขาขวาของหล่อนพลิก ผ่านหน้าของตนมาวางไว้บนไหล่ข้างขวา มือซ้ายหนาของเขากดไหล่ขวาของแววรัตน์เอาไว้...ร่างของหล่อนจึงอยู่ในลักษณะกึ่งตะแคงกึ่งหงายเมื่อ ถูกพลิกไพล่เบี่ยงเอาในรูปนี้...เนื้อตัวของหล่อนอ่อนยวบไปตามมือของเขาบอกถึงไม่ขัดใจสุดแต่เขาจะปรารถนา...
หล่อนปรือตาขึ้นมองใบหน้าของเขาเต็มตา... ดวงตาโปน กะโหลกศีรษะใหญ่ กรามยื่นออกมาหนา หน้าตาของเขาถมึงทึงราวกับโกรธเกรี้ยวเสียเต็มประดา เหมือนใบหน้าของคนที่อยากจะฆ่าคน แต่ในความรู้สึกของแววรัตน์ มันช่างเป็นใบหน้าที่น่าดูที่สุดในยามนี้ เมื่อมือขวาของเขาที่ว่างอยู่ขยําลงมาบนหน้าอกข้างซ้าย
หล่อนครางอย่างโหยหาเหมือนจะบอกว่า   ช่วยฆ่าให้ตายทีเถิด
สภาพของกําบังการเคลื่อนไหวหักโหมของเขา เหมือนการทําร้ายร่างกายของเมียนาย ยิ่งร่างขาวๆ เต็มไม้เต็มมือและบีบรัดดิ้นเร่าๆ อยู่ข้างล่างตรงหน้ายิ่งชวนให้เขาโหมกระหน่ำ...
กําบังไม่เคยทุ่มเทเรี่ยวแรงให้กับใครมากมายขนาดนี้
กับลูกเนียงตนยังมีความยับยั้งชั่งใจเพราะความเป็นสาวไร้เดียงสาไม่เคยมือ
กับส้มเช้าเครื่องเคราก็ธรรมดาๆ ไม่มีศักดิ์ศรีในตัวตนและค่อนข้างจะด้อยในการรักษาความสะอาด
ส่วนลายตองบางครั้งหล่อนจะเอ่ยปากขอร้อง ให้เขาเพลาๆ ความหนักหน่วงเพราะหล่อนเกิดความเจ็บปวด
แต่กับแววรัตน์...นี่คือนายสาว สตรีผู้มีศักดิ์ศรี มีความรู้ผ่านเมืองนอกมาแล้ว มีส่วนแข็งรับแรงปะทะได้อย่างถึงกั่น เนื้อของหล่อนถึงจะไม่แน่น เหนียวเคี้ยวยากเหมือนเนื้อสาวของลูกเนียง ไม่ยุ่ยเหมือนเนื้อของส้มเช้าหรือลายตอง แต่ก็เป็นเนื้อที่เคี่ยวเอาไว้ได้ที่ ไม่เหนียว ไม่ยุ่ย บางส่วนยังกรอบ - กรุบเคี้ยวอร่อยปากเหมือนกระดูกซี่โครงหมูอ่อนๆ
เด็กของเขาจึงดิ้นอยู่ในเธคของหล่อนอย่างเมามัน พลุ่งพล่าน เสียงคราง เสียงหอบหายใจ เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงกระฉอกน้อยๆ เหมือนย่ำอยู่ในรอยปลัก คล้ายกับเสียงเพลงจาก ดี.เจ. ประกอบ
เลือดออกมารวมตัวกันคับคั่ง พลังของสัตว์ ออกมาพล่าน...
พลัน...กําบังก็ถอนตัวออกจาก แววรัตน์
เหมือนกินรสอร่อยหลุดออกจากปากโดยไม่ทันรู้ตัว...สองมือหล่อนคว้าแต่ไม่ทัน กําบังจัดการกับหล่อนอย่างรวดเร็วโดยตนเองลงไปยืนอยู่ข้างล่างจับร่างของหล่อนพลิกผันกดลงหมอบคู้  หล่อนรู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนแต่ไม่ทันผลักไสจริต ด้วยมายาตามวิสัย กําบังเอื้อนเข้ามาในรอยแผลเว่อ อย่างรวดเร็ว...มันบิดตัวเป็นเกลียวและสะบัดหน้าไปมาอย่างรุนแรง แม้ความคับแคบของเนื้อที่ จะมีอยู่จํากัด มันก็ดิ้นพล่านอย่างสุดฤทธิ์ คล้ายการต่อสู้ที่อีกฝ่ายโดนล็อคเอาไว้อย่างแน่น แต่ก็ยังดิ้นรนขยอกเข้าขยอกออก เหมือนนักมวยที่ได้จังหวะ ดึงตัวออกแล้วเสียบเข่าเข้าไปในพุงกะทิคู่ต่อสู้เต็มแรง จังหวะที่ดึงตัวออกห่างแล้วอัดเข้าไปลึกย่อมได้ลูกหนัก และมีผลดีกว่าตีในขณะที่ประกบติด... เมื่อโดนเข้าลูกนี้ แววรัตน์ถึงกับร้องเพราะเครื่องในชิ้นสําคัญในตัวตนมันลอยขึ้นมาสูงรับการรุก อย่างถนัดถนี่...
กําบังหูอื้อเสียแล้ว ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งสิ้น สองมือจับเอวคอดกิ่ว มันแน่นยังกับจับเอาไว้ ด้วยกุญแจเลื่อนปากตาย สองมือของเขารั้งเข้ามา หาตัวและรุนเข้าออกไปตามจังหวะ...
อย่าว่าแต่กําบังเลย แม้แต่แววรัตน์ก็ยังหูอื้อเหมือนกันเมื่อโดนชําแหละเข้ามาขนาดนี้ก็สําลักร้องออกมาเหมือนจะขาดใจ การปฏิบัติภารกิจบนเตียง เคยผ่านมาแล้วมากต่อมาก แต่สาบานได้...ไม่เคยพบ กับบทบาทเครื่องเคราความหนักหน่วงและคล่องตัวแบบนี้ มันดุดัน แข็งแรง โหด แต่มันเข้าถึง เข้าถึงส่วนลึก ไปไหนๆ มันไม่ตื่น มันเต็มอัดปรี่ แรงเบียด แรงเสียดสี การขับเคลื่อนอย่างคล่องแคล่วตรงข้ามกับความอุ้ยอ้ายใหญ่หนาของร่างกาย หน่อเนื้อของมันก็แปลกประหลาด ขณะโชนครบชุด ใบหน้าของมันงอปลายราวกับจวัก มันมีส่วนช่วยควัก ช่วยตัก ช่วยเกี่ยว....โอ...กําบัง...เธอ...แววรัตน์คว้าหมอน หนุนสีขาวเข้ามากัด...กัดเต็มแรง..สองมือกําเอาไว้เกร็ง เนื้อตัวสั่นระริกๆ ราวกับปลาโดนทุบก่อนจะสิ้นใจ...
เสียงกรีดสุดท้ายของหล่อนโหยหวนออกมาลั่น แต่หมอนที่หล่อนกัดแน่นอยู่นั้นมันช่วยบรรเทาเสียงลงไปได้บ้าง...
หล่อนรู้สึกเหมือนกับอวัยวะทุกส่วนในตัว มันเคลื่อนหลุดออกมาจากที่เดิม ในหน้าท้อง หน้าอก หัวใจปราศจากสิ่งยึดเหนี่ยว เหมือนขันชะเนาะแล้วบิดเกลียวอย่างสุดแรงจนเชือกทนไม่ไหวถึงกับขาดผึงออกจากชะเนาะ
ทั้งเลือด ทั้งแรง ทะลักออกไปจนหมดสิ้น เสียวสุดท้ายซ่านสุดก่อนจะสั่งลาเหลือเพียงลมหายใจรวยริน เนื้อตัวเบาโหวงหวิวไปหมด แต่ใน ความรู้สึกเหล่านี้มันช่างแช่มชื่นเสียสุดประมาณ ราวกับนักกีฬาวิ่งเข้าสู่เส้นชัยความเหน็ดเหนื่อย ถูกกลบเกลื่อนด้วยความสําเร็จ...
หมดแรงยัน   แววรัตน์เลื่อนตัวลงนอนคว่ำ ราบกับที่นอนประคองลมหายใจระริน
กลิ่นเหงื่อเนื้อสาวออกมาจากซอกแขนซอกคอ หน้าอกและหลังชุ่มผ้าปูที่นอน
ตรงข้ามกับกําบัง เขายืนเอาสองมือเท้าเอวมองร่างขาวอมเหลืองอิ่มเปล่งปลั่งที่กองระทดระทวยอยู่ตรงหน้า ด้วยความรู้สึกถึงชัยชนะของผู้พิชิต

ที่ซัดเอาคู่ต่อสู้ลงไปหมอบกองอยู่อย่างหมดท่า หมดพลังที่ต่อสู้ แต่ว่า...ยัง...มันยังไม่จบสิ้น ความคั่งของเลือดราคะยังรวมตัวอยู่อย่างเหนียวแน่น มันยังไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกไปจากตัวของเขา มันมารอกันอออยู่ตรงทางออก แม้มันจะรวมตัวกันอยู่อย่างมากมายพร้อมที่จะผลักดันออกมาจากที่ กักกัน แต่ก็ไม่อาจจะล่วงพ้นออกมาได้ เพราะเขาควบคุมมันอยู่ เขาใช้ความอดกลั้นเป็นทํานบ กักมันเอาไว้ ไม่ยอมให้มันทะลักออกมา และมันก็จะไม่ออกมาเป็นอันขาดหากเขาไม่ต้องการเช่นนั้น... แต่การบีบบังคับแบบนี้ กลับทําให้หน่อเนื้อของเขา โชติโชนหน้าตาแดงก่ำ ปลายของมันงองุ้มราวกับจมูกของพ่อมด ลําตัวมันพองขยายออกมายาวเหยียด เต็มพิกัดใต้พุงที่ค่อนข้างพลุ้ย เนื้อตัวของมันชุ่มโชก ด้วยเมือกไคลขยะของคู่ต่อสู้ที่เพิ่งหลุดออกมา...
ร่างของนายสาวขาวเปลือยนอนคว่ำหน้า หลังแผ่เต็ม ก้นงอน เอวคอดเร่งเร้าไฟราคะของกําบังให้โหมหนัก...ดูสิ...ร่างของหล่อนขาวเปล่าเปลือย อยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวที่ขยุกขยุยยับยู่ยี่ สองขาเรียวยาวของหล่อนไขว้บิดตะแคงเล็กน้อยดันสะโพก ขึ้นมาเด่นงอนง้ำ มันดูเหมือนจะช้ำไปหมดแล้วทั้ง เนื้อตัวเพราะแรงบดขยี้ กําบังรู้ว่านายสาวของเขาเจอไม้นี้เข้าไปถึงกับลืมญาติ...
ยัง...มันยังไม่จบสิ้น...ไม่สิ้นสุดเพียงแค่นี้...เหมือนนักฆ่าที่มองเห็นเหยื่อยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ต้องซ้ำให้ตาย...
กําบังจับร่างของแววรัตน์เมียนายให้นอน พลิกหงาย...เนื้อตัวของหล่อนอ่อนยวบเหมือนไม่มีกระดูก ไม่มีเรี่ยวแรงอะต้านทาน...
กําบังก้มตัวก้มหน้าลงไป...ปากของเขา บดลงบนปากบางๆ ของหล่อนอย่างรุนแรง...
เขาจูบดะระเรื่อยมาแถวๆสองไหล่ไล่มา จนสองเต้า....ปลายจะงอยสีแดงฉานโดนคว้า ด้วยปากได้ด้วยลิ้น ลูบและบีบด้วยมือ...
มันเหมือนกับเธอเพิ่งคลอดลูก ไปหยกๆ ก็เกิดอาการปวดขึ้นมาติดๆ เพราะเป็นลูกแฝดที่จะต้องปล่อยให้ออกมาอีก...
มันจูบ มันกัดจนเจ็บ แต่ก็สาแก่ใจลึกๆ เป็นความรู้สึกของหล่อน...
ปากและจมูกหนาๆ ของเขาเลื่อนต่ำลงมาที่หน้าท้อง...และหน้าขา...กําบังเลาะเล็มขนําเนื้อของหล่อนด้วยลิ้นและปากทรามๆ อย่างหยาบคายตามกลีบเนื้อในสีแดงถวิลและปลายตุ่มต้อย มันวนเวียน ฉวัดเฉวียนไปมา มันก็เป็นบทบาทซ้ำๆ ซากๆ น่ะแหละ แต่มันบังเอิญถูกปากถูกใจ...
ครู่เดียว...ร่างกายที่อ่อนระโหย เลือดเนื้อประสาทของแววรัตน์ก็กลับฟื้นคืนมา...ความเคยสังเวียน แม้จะโดนถลุงลงไปกองนับแปด แต่ประสาทก็สามารถคืนตัวได้อย่างรวดเร็ว...เรี่ยวแรงที่โรยราหายไปพลันกลับคืนมาเหมือนมีอาถรรพณ์ วิญญาณถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยอาคมของ หมอผีตัณหา
อาคมของกําบังมันอยู่ที่ปลายลิ้นและเขารู้จุดเร้า เขาขบปลายของมันเพียงเบาๆ เหมือนขบปลายหัวแม่มือของเด็กตัวน้อยๆ เขาทําให้กับหล่อนเหมือนการปรนนิบัติให้ด้วยความรัก ความภักดีอย่างสุดซึ้ง เหลือประมาณ
บัดนี้..เสน่ห์ของกําบังไม่ได้อยู่ที่รูปร่าง แต่มันอยู่ที่ปลายลิ้น และมือไม้ที่ลูบไล้แผ่วเบาสลับความหนักหน่วง เขาทํากับร่างกายของหล่อนเหมือน นักดนตรีเล่นเครื่องมือตามโน้ต มีจังหวะ เว้นระยะ ช่องไฟเป็นดนตรีที่ไร้เสียง เป็นภาพศิลป์ที่ไร้สี เป็นวลีที่ฟังไม่ออก แต่มันเข้าลึกกลายเป็นตกผลึกอยู่ในอารมณ์
ด้วยแรงของแอลกอฮอล์ผสมราคะ แววรัตน์ก็เกิดอาการหลวมและในที่สุดก็หลุด...
มันหลุดเหมือนดอกไม้งามพลิ้วจากก้านลิ่วลงไปลอยงามอยู่ในสายชล
ร่วงปานดาวที่หล่นจากฟ้าด้วยเสน่หาดิน แม้ดินจะต่ำต้อยแต่เมื่อถึงคราวปรารถนาดาวก็ยังปลดตนเองหลุดจากฟ้าลงมาหาดิน...
แล้วแววรัตน์ก็ทําในสิ่งที่กําบังนึกไม่ถึง...
หล่อนพลิกผันร่างอย่างรวดเร็วดันร่างของกําบังให้หงายลงแล้วหล่อนก็กระหย่งตัวขึ้นทับ... แต่ไม่ใช่เป็นการทาบทับในแบบธรรมดา หากมันเป็น การทาบทับแบบกลับหัวกลับหาง...
ขนําเนื้อของหล่อนประจันอยู่กับใบหน้าของเขา
ขณะเดียวกับที่หน่อเนื้อของเขาประจันอยู่กับใบหน้าของหล่อน
ราวกับต่างฝ่ายต่างได้รับสัญญาณ...
พอปลายลิ้นของเขาตวัด...
ปลายลิ้นของหล่อนก็ฉวัดเฉวียนลงบนใบหน้าของหน่อเนื้อของเขา...จากใบหน้าลงไปตามลําตัว แล้วย้อนกลับขึ้นมาหาบน...
ไฟกิเลสตัณหาอันร้อนแรงยามเมื่อมันเกิด เหตุผลความถูกต้อง ความดีงามอะไรเหล่านั้นโดนละลายเลือนหายไปจนหมดสิ้น สัญชาตญาณของสัตว์ ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์กําหนด พลังของมันดิ้นออกมาอย่างสุดฤทธิ์ ไม่มีอะไรขัดขวาง ขัดขืนมันเอาไว้ได้ ตัณหาเป็นตัวกลางเชื่อมโยง ดึงดูด ให้สัตว์สองเพศ เข้าหากันแม้แต่...มนุษย์กับสัตว์...
แล้วทําไมมนุษย์กับมนุษย์ระหว่างแววรัตน์ ผู้มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีความรู้ดีกับชายร่างอัปลักษณ์ ไร้สกุลรุนชาติ ไม่มีความรู้อะไรมากจะผ่านช่องว่างระหว่างนายกับบ่าวเข้าหากันไม่ได้
ความเป็นนายกับบ่าวขณะนี้ถูกบีบรัด อุดตัน ไม่มีรอยแยกเหลืออีกแล้ว ทุกส่วนกลมกลืนเป็นหนึ่งเนื้อเดียวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นปาก ลิ้น ฟัน อวัยวะควรสงวน คราบไคล กลิ่นหอม กลิ่นเหม็น กลิ่นคาว รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น รสชาติผ่านเข้ามาทางปาก ลิ้น เข้าไปสู่ความรู้สึก...
กามเทพไม่ได้ทําหน้าที่ แต่มอบให้กามทัณฑ์ ทําหน้าที่แทน



กองทุนรู้สึกเย็นๆ ที่ใบหน้า ลําคอ หน้าอก ท่อนแขน...
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็น...ด้วยสติที่มีอยู่เล็กน้อย...เจ้าของมือที่กําลังเช็ดหน้าเช็ดตาเนื้อ ตัวให้กับเขานั้นคืออิ่มหลานสาวของป่านุ่น...กลิ่นเนื้อสาวๆ ของเด็กสาวขาวอวบในเสื้อคอกว้างแขน สั้นกุดฉุดอารมณ์ของเขาให้ตื่นขึ้น...แต่ด้วยความมึนงงจากฤทธิ์เหล้าผสมยานอนหลับที่ลายตองมอมเอาไว้ทําให้เขายื่นมือออกไปอย่างสะเปะสะปะ แต่ก็คว้าร่างของอิ่มเข้ามากอดรัดเอาไว้ได้
เนื้อสาวของอิ่มมันไม่เต็มไม้เต็มมือเพราะสติสัมปชัญญะของเขาไม่มีมากพอจะรับรู้ มันรู้สึก ครึ่งๆ กลางๆ มือของเขาจึงโอบรัดไขว่คว้าอย่างส่ง เดช เขาระดมจูบไปตามท่อนแขน หน้าอก ใบหน้า ขณะที่อิ่มก็พยายามผลักไสเขา แต่มันช่างเบาเหลือเกิน มันเบาในความรู้สึกของเขา และเบาจากน้ำหนักมือของอิ่ม เขาได้ยินเสียงใสๆ ของอิ่ม
"อุ๊ย...อย่า...อย่าค่ะ"
"อิ่ม...อิ่ม..." เขาพร่ำเรียกชื่อของเด็กสาว
"อย่า...ปล่อยอิ่มเถอะค่ะ..." เสียงของเด็กสาว วิงวอนเอี้ยวตัวหลบมือของเขาเป็นพัลวัน
เขารั้งร่างของเด็กสาวจนล้มหงายลงบนเก้าอี้ เขาไถมร่างลงไปหา...
ความรู้สึกครั้งสุดท้ายของเขาจําได้แค่เสื้อของ เด็กสาวถูกกระชาก
"อุ๊ย...ว้าน"
เขาเห็นเนื้ออวบๆ ขาวๆ รําไรอยู่ในรอยแยกของเสื้อ
เขารวบรวมกําลังและสติคว้าชายผ้าถุงของ เด็กสาวเอาไว้แล้วกระชาก....มีเสียงดัง
"ควาก"
"ว้าย"
ในความรู้สึกรางเลือนสะลึมสะลือ... เขาพยายามจะกดร่างของเด็กสาวลงแต่ไม่สําเร็จ...เขารู้สึกว่าตนเองโดนผลักแต่ยังคว้าชายผ้าถุงของเด็กสาวเอาไว้ได้... แต่แล้ว... ประสาทของเขาก็โดนกดให้นิ่งสนิท...เขาหมดสติหลับไหลอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม...


ตัดกลับมาในห้องน้ำส่วนตัวของแววรัตน์กับกองทุบ...แต่คนที่อยู่ในห้องน้ำกับแววรัตน์ไม่ใช่ กองทุน มัมกลับเป็นกําบังผู้ยังไม่ยอมจบบทบาทของตนเองอย่างง่ายๆ  ฮอร์โมนเลือดเนื้อที่ถูกกลั่นกรองจนกลายเป็นเมือกยังไม่ถูกปลดปล่อย แม้แววรัตน์จะหลิวๆ หวิวๆ ไปแล้วสองครั้งสองครา กําบัง ก็ยังไม่ยอมปล่อยพลังออกมาเอิบอาบ ซึมสยิว ในซอกเนื้อและอวัยวะภายในทุกส่วนที่เตรียมรอรับ
มาถึงบทนี้...ความรู้สึกของแววรัตน์นายจะเป็นใคร อัปลักษณ์ถ่อยแค่ไหน โฉดชั่วโง่เขลาสักปานใด ก็ไม่มีความหมาย สิ่งที่แววรัตน์ต้องการคือเมือกหยาดเหนียวของเขา หล่อนไม่มีความทรงจําใดๆ เหลืออีกแล้วแม้แต่นายกองทุนสามีที่นอนหลับอยู่ข้างล่าง
หัวใจ สมอง รวมอยู่จุดเดียวคือรอเวลาการหลั่งเลือดเนื้อจากผู้ชายคนนี้ หล่อนต้องการให้มันทะลักออกมาเอิบอาบเหมือนคนกระหายน้ำได้ ดื่มมันอย่างสมความอยาก
ในความรู้สึก...เนื้อตัวของมันช่างร้อนฉ่าจนหล่อนต้องหล่อเลี้ยงมันเอาไว้ด้วยความลื่นเพื่อลดความร้อน
ในห้องน้ำ...แววรัตน์อยู่ในสภาพเหมือนนาง สวาหะยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมในเรื่องรามเกียรติ์ แต่สําหรับหล่อนไม่ได้ยืนตื่นเดียวแต่เพียงลําพัง หล่อนยืนขาเดียวเพราะขาอีกข้างหนึ่งถูกยกขึ้นไป ด้วยข้อลําของกําบัง มันถูกดันขึ้นไปสูงจนมือของหล่อนทั้งสองข้างต้องเหนี่ยวไหล่ของเขาเอาไว้ และ สิ่งที่หล่อนกินนั้นมันไม่ใช่ลม แต่เป็นหน่อเนื้อของเขา มันเข้ามาอัดแน่นเป็นลําลึกและแรงจนหลังของหล่อนที่พิงอยู่กับฝาผนังถูกกดเอาไว้ชิดแน่นไม่มีทางออกทางรอด มันขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา บางครั้งหนัก บางคราวเบาเหมือนสิ่ว ในมือประติมากรซอกซอนอยู่กับเนื้อไม้เนื้อหินอันเป็น ผลงานของเขา แต่บางคราว มันเผลอไผลกระหน่ำเอาอย่างรุนแรงเหมือนค้อนในมือช่างไม้หัวตะปู รุนแรง แม่นยํา ปากของกําบังคว้าเนื้อที่ต้นคอกับ ไหปลาร้าของหล่อนเอาไว้ เสียงขู่คํารามเหมือนแมว คว้าคอตัวเมียขย้ำขณะมันติดสัด แต่มันกินเวลานานกว่าแมวเหลือหลาย มือที่ว่างอีกข้างหนึ่งของเขา คว้าเต้าของหล่อนกําเอาไว้แน่น กําแล้วกด แล้วบด ขยี้ ขยํา ขาดความบันยะบันยังเหมือนไม่รู้คุณค่า ในสิ่งที่อยู่ในมือของตน ผิวสีคล้ำตัดกับผิวสีขาวเหลืองอ่อนเหมือนสีของจาวมะพร้าว ร่างอ้วนหนา ไขมันตัดกับร่างอวบที่รีดจนไม่มีไขมันเหลือ ดูเหมือนอุรังอุตังกําลังเสพกับมนุษย์
ดูเหมือนหล่อนจะถูกต้อนติดจนมุมอยู่กับฝาผนังไม่มีทางออก ร่างอ่อนปวกเปียกถูกอัดด้วยเนื้อผสมไขมันหนาทึบ เสียงคํารามของกําบังดังเหมือนเสียงขู่เข็ญ ผู้ไร้เดียงสามาพบภาพนี้จะต้องคิดว่าเป็นการกระทําต่อกันอย่างโหดร้าย แต่ความจริงแล้ว...ความรู้สึกของแววรัตน์...นี้ไม่ใช่เป็นการทําร้าย แต่เป็นการรับใช้ตอบสนอง ปรนเปรอ มันเสียด เซียดเข้าไปลึก
มันอึดและไม่อืดไม่ยืดยาด ธรรมชาติบงการให้หล่อนตอบสนองด้วยการบีบรัดกล้ามเนื้อเหมือนปลาตอดเหยื่อ ตุ๊บๆ
ทั้งเขาและหล่อนอยู่ในสภาพของสัตว์ที่โปรดไม่ขึ้น ไม่รู้ศีลธรรมความดีงามนั้นคือประการใด สิ่งเหล่านั้นถอยห่างออกไปปล่อยให้ตัณหาราคะของสัตว์โลกทําหน้าที่ของมัน ตัณหาเหมือนยางเหนียวเริ่มเกาะแน่นเข้าๆ มันหนาขึ้นทุกขณะ เขาและหล่อนต่างช่วยกันและกันเพื่อทําลายก้อนเหนียวของราคะตัณหา ให้เหลวทะลักทลายออกมา เรี่ยวแรงอารมณ์ มีเท่าไรปล่อยออกมาจนหมด
ความเย็นของกระเบื้องหินอ่อนในห้องน้ำ ไม่อาจช่วยระงับซับเหงื่อเอาไว้ได้มันไหลออกมา จนชุ่มโชกกันไปหมด
กําบังขยับตัวรั้งร่างของแววรัตน์ห่างออกมาจากผนังเล็กน้อย เอื้อมมือบิดปล่อยน้ำจากฝักบัวเป็นฝอยรดเนื้อตัวตั้งแต่ผมจนจรดปลายเท้าของเขาและหล่อน มันไหลลงไปชโลมขนําเนื้อของแววรัตน์และหน่อเนื้อของเขาที่กําลังโกรธเกรี้ยว
ความเย็นของฟองฝอยช่วยให้มีความรู้สึก เหมือนระเริงอยู่ในกลางสายชล
ผมเผ้าของหล่อนเปียกโชก จากความยุ่งเหยิง จนไม่เป็นรูปร่างกลายมาเป็นราบเรียบ
เมคอัพไม่มีเหลือ ใบหน้า ริมฝีปากตลอดทั้งเนื้อตัวของหล่อนขาวปลอด เป็นสีสันของธรรมชาติแท้ๆ มันเปลือยออกมาให้เห็นของจริงๆ ล้วนเป็นเครื่องชวนให้กําบัง ทั้งฟัด ทั้งซัด ทั้งกระหน่ำไม่มีหยุด
ศักดิ์ศรีคนละชั้น เลือดเนื้อกรรมพันธุ์ที่ผิดกัน การเป็นบ่าวแต่ได้มาเล่นงานนาย เมียของนายและซัดเอาจนขนาดเรียกว่าอยู่ในอุ้งมือแล้วรู้สึกเหล่านี้ เป็นตัวเร่งให้เล่นแรง
ความใหญ่หนา ยาวเหยียด แข็งแกร่ง และปลุกสะดมได้อย่างถูกจุด การเคลื่อนตัวเสียดสีไม่มีหยุดกลางสายน้ำเป็นฟองฝอย ทําให้แววรัตน์ไม่ได้คิดคํานึงถึงสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ชนชั้นไม่มีความหมาย กําแพงกีดกั้น ระหว่างบ่าวกับไพร่โดนพังทลายไม่มีเหลือ ราคะกลายเป็นตัวนําความเสมอกัน และ มันปรนเปรอความสุขให้ในชนิดที่เรียกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยปะแบบนี้ ความเปรียว ความเปรี้ยวไม่มีเหลือ ความเค็มเป็นเกลือกลายเป็นความจืดสนิท...

sunnie06

บรรยายได้วิจิตรพิสดารเหลือหลาย

cdx

บอกได้คำเดียวว่า โอ้ววว งดงามมาก แล้วจะรอตอนต่อไปครับผม

kapook6336

สนุกตื่นเต้น สำนวนน่าอ่านมาก เนื้อเรื่องดำเนินการให้จินตนาการไปไกลสุดๆ ขอตอนต่อไปด้วยครับ มาไวๆนะ

br007

รสชาติที่คุณแววรัตน์หามานานมั้งครับ ถึงได้ติดใจขนาดนี้

minky way

สุดยอดของร้อยแก้วเลยครับ เคยอ่านในลักษณะการประพันธ์ด้วยภาษาแบบนี้ในหนังสือบนดินเมื่อซัก30ปีก่อน แต่ยังไม่ละเมียดละมัยเท่านี้เลยครับ และเดี๋ยวนี้คงหาผู้ประพันธ์แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ส่วนใหญ่ออกแนวใต้แผงสนามหลวง...
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ 

pinmonkey

ฉากเสียวดุดันมากครับ ขอบคุณมากครับ

Boran Mark

อ่านแล้วจิตนการไปไกลมาก บทรักก็ดุเดือดมาก

suriyamahajit

กำบังมีบทรักที่ดุเดือดเลือดพล่านบรรเลงได้มันมาก