ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

OUT OF AMMO EP 22 ผิดแผน2 เคราะห์ร้าย

เริ่มโดย cd13579, กรกฎาคม 15, 2018, 02:33:33 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cd13579

แวะทักทายกันก่อน

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะดองงานได้ถึงขนาดนั้น แต่ผู้อ่านโปรดเข้าใจ ยิ่งโตภาระยิ่งเยอะ และก่อนอื่นต้องขออภัยสำหรับสาวก 7 sin ในส่วนที่ผมแต่ง บอกเลยว่าตันมากถึงตันที่สุดเพราะเนื้อเรื่องที่เข้มข้นฉากมันต้องยิ่งใหญ่เช่นกัน และนี่ละปัญหา เขียนลบมาหลายทีมาก 55555+ บวกกับเรื่องมากด้วยพยายามเกลาเรื่องให้เนียบที่สุด
ช่วงนี้น่าจะออกบ่อยสุดคงเป็นเป็นเรื่องของ นายอินทรีกับน้องดาว เรื่องนั้นไม่ต้องลุ้นนานครับ ไม่หวือหวาอะไรใครที่ติดตามเตรียมเฮเลย ไม่รอดแน่ๆ

ส่วนตอนนี้มาดูกันสิว่า ดนัยกับมายด์ชีวิตรักของทั้งคู่จะเจอกับอะไรต่อไป
จะรอดหรือร่วง ชีวิตรักอับเฉาจะหายไปรึเปล่า เชิญรับชมครับ

ขอให้ทุกท่านอ่านอย่างมีความสุขครับ
Enjoy   ::Falling::

ตอนนี้ไม่มีซ่อนนะครับ ชดเชยที่หายไปนาน

ตอนที่ 22 ผิดแผน 2 เคราะห์ร้าย

เสียงแหวกแวกดังอยู่รอบตัว ประชันกับเสียงปืนหลายขนาดที่พวกของเจ้าหน้าที่กำลังดวลแลกเลือดกับพวกมัน ดนัยมองร่างในอ้อมแขนที่มาวินกำลังอุ้มเธอออกไปจากตน หมู่นาวิ่งเข้ามาดูอาการเธอทันที
ดนัยยิ้มน้อยๆให้ภาพตรงหน้า อย่างน้อยที่สุดเธอก็มีคนดูแลแล้ว หมดหน้าที่แล้วสินะเรา
"พี่.... พี่ดนัย....พี่ดนัยอย่าหลับนะพี่ พี่ต้องตื่นก่อน อยู่กับผม"
สมิงน้องรักรีบประคองเขาไว้ อีกมือก็อุดเลือดเขาที่กำลังไหลออกมาปากก็ตะโกนหาคนให้มาช่วยตน
เขาเอื่อมมือมาบีบหน้ามันเบาๆ
"เก่งขึ้นแล้วนิ พยายามได้ดีนะเรา"

อีกฝ่ายรีบจับมือเขาไว้
สมิง: "พี่พูดอะไรวะ พี่ยังต้องกลับมาช่วยฝึกก่อน พี่ดนัยอดทนหน่อยนะ พี่อินทรีมาช่วยทางนี้ก่อนพี่ดนัยแย่แล้วพี่"
เมื่อได้ยินเสียงอินทรีก็ผละออกมาที่กำบัง วิ่งลัดเลาะมาหาสมิงทันที


ดนัยมองเพื่อนซี้ที่วิ่งฝ่าดงกระสุนมาหาตน
"อินทรีระวัง!!"
ร่างใหญ่ที่คุ้นเคยตะโกนเตือน พุ่งรวบเอวอินทรีให้นอนลงหลบกระสุนที่ปลิวใส่อย่างบ้าคลั่ง ทั้งคู่ลงนอนคลุกฝุ่นและผู้กองเข้มรีบกลิ้งผละออกและยกปืนยิงกดดันกลับไป
เข้ม: "ไป วิ่งเลยๆ รีบช่วยไอ้จืดมัน"
เข้มกดระเบิด30.มม M203ใต้ลำกล้องไปยังดงศัตรู พร้อมกับที่บิ้ก จ่าดำกับดาบชัยจะขึ้นมาสมทบระดมอัดกระสุนใส่อีกฝ่ายจนไม่มีช่องให้ตอบโต้ เปิดโอกาสให้อินทรีวิ่งมาถึงตัวดนัยและช่วยยกร่างที่ใกล้จะสิ้นใจของเพื่อนไปยังหลังแนวรบ

"ผีป่าเรียกหมอผี ผมต้องการลำเลียงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัส"
"ทราบแล้ว เรากำลังเข้าไป"
สมิงที่พาดนัยมาถึงแนวหลัง รีบติดต่อหาผู้การเพื่อหาวิธีพาดนัยออกไป หมู่นารีบผละออกจากร่างที่นอนข้างๆวิ่งตรงมาหาดนัยทันที
หมู่นาทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อประคองอาการดนัยเอาไว้ แต่มันก็ยากเต็มกลืน อินทรีและสมิงมองสภาพดนัยที่ยับเยินไปทั่วร่างเลือดสดๆไหลรินออกมาอย่างน่าสยอง บาดแผลเต็มตัวมันเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายพยายามฆ่าดนัยอย่างทรมาน นี่มันเลือดเย็นเกินไปแล้ว

อินทรี: "ไปสมิง เราไปจัดการงานของเราต่อ ฝากด้วยนะหมู่"
อินทรีกัดฟันแน่นด้วยความแค้นมือกำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดออกมาก่อนเขาจะสะกิดรุ่นน้องให้กลับไปจัดการไอ้แดนคนต่อ
อินทรีนึกถึงสาวร่างน้อยที่มาร้องไห้จะเป็นจะตายเมื่อรู้ว่าพี่ชายเธอหายไปในป่าพร้อมเหล่าคนบาปที่จ้องเอาชีวิตและที่สำคัญคือเขารับปากดาวไว้แล้วว่าจะพาพี่ชายเธอกลับมา แต่เขาก็ทำเพื่อเธอไม่ได้
เขาชักปืนออกมาพร้อมกับวิ่งนำสมิงกลับไป แม้จะเป็นห่วงเพื่อนแค่ไหนแต่หน้าที่ของพวกเขายังไม่เสร็จ

"หมู่! หมู่นาครับ เธอโอเคใช่มั้ย"
ดนัยฝืนสติถาม หมอประจำทีม
หมู่นา: "หมวดอย่าพึ่งถาม หมวดนอนเฉยๆก่อน"
อดีตเสนารักษ์กองทัพบกรีบปฐมพยาบาลแผลหลายขนาดรอบตัวตำรวจหนุ่ม

ไอ้พวกโรคจิต หมู่นานึกได้คำเดียวไม่มีคนดีๆที่ไหนทรมานคนกันแบบนี้หรอก
ดนัย: "หมู่ บอกผมก่อน ผมไม่เคยขออะไรหมู่เลย แต่โปรดบอกผมก่อนว่าเธอปลอดภัยแล้ว"
หมู่นาพยักหน้าเบาๆ เข้าใจถึงความรู้สึกของหมวดดนัย เรียบเรียงคำพูดในหัวพักนึงก่อนจะยอมบอกดนัย
หมู่นา: "เธอปลอดภัยดี ตอนนี้ให้ยานอนหลับเธอเอาไว้แล้ว ส่วนเรื่องนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะหนักหนาขนาดไหน คงต้องรอถามหมอเอง"

ดนัยยิ้มอย่างอ่อนแรงและเอ่ยคำขอบคุณหมู่นาเบาๆเขาหลับตาลง หมู่นาตบหน้าเรียกสติแต่ก็ไร้การตอบสนอง หมู่นารีบวัดชีพจรทันทีแต่ไม่มีสัญญานชีพของดนัยอีกต่อไป
"ถึงวังยักษ์ ผมต้องการเลี้ยงขนผู้ป่วยด่วน ช้าอีกนิดหมวดไม่รอดแน่"
หลังรายงานจบหมู่รีบปั้มหัวใจยื้อชีวิตดนัยกับพญามัจจุราช ทำไมคนดีๆแบบดนัยต้องมาเจออะไรแบบนี้

20 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

"เจออะไรบ้าง?"
ต้นเดินนำวชิระมาพร้อมกับลูกสมุนอีกกลุ่มใหญ่
"เศษผ้าทำแผลแล้วก็ศพคนของเราที่ร่วงลงไปครับ ตรงนั่นมีคราบเลือดกองใหญ่"
ลูกน้องหน้าเหี้ยมชี้มือไปยังโคนต้นไม้ใหญ่

วชิระ: "มีพวกมันคนนึงบาดเจ็บแน่ นี่เป็นโชคดีของเรา รีบเดินทางต่อเราได้ตัวมันแน่ๆ"
พวกมันออกเดินไปไม่นานก็เจอรอยเท้าดนัยและมายด์ พวกมันค่อยๆเข้าใกล้พวกเขาแล้ว

ข้อผิดพลาดของดนัยคือไม่มีการกลบร่องรอยหลักฐาน มันเกิดจากความไม่ชำนาญของดนัยหากมีคนแกะรอยในป่าได้ก็แค่เดินตามรอยไปเท่านั้น ตอนนี้ก็เท่ากับดนัยและมายด์เป็นลูกไก่ในกำมือพวกมันขึ้นอยู่ที่พวกมันจะตามเขาทันเมื่อไหร่่

ถึงแม้พวกมันจะต้องตัดป่าฝ่าเขาอ้อมลงมาจากน้ำตกทำให้ช้าลง แต่อีกไม่เกินสองวันเขาได้ตัวมันแน่ๆ
ค่อยดูเถอะเขาจะกระทืบไอ้เด็กปากหมานั้นให้ตายคาตีน ส่วนแม่สาวน่ารักคนนั้น.....หึๆ
มันเลียริมฝีปากคิดถึงเรื่องสนุกๆที่กำลังจะเกิด



"เท่านี้ก็คงพอได้นะ อยู่ไม่กี่คืน มายด์ว่าไง"
ดนัยที่กลับมาเดินเหินได้อีกครั้งมองเพิงเก่าๆกลางป่าที่ คาดว่าสร้างเอาไว้ล่าสัตว์แต่เมื่อหมดยุคการล่าสัตว์ในประเทศก็ถูกปล่อยร้าง แม้สภาพไม่โสภาน่านอนแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
สาวเจ้าลองขึ้นไปนั่ง ไม้ไผ่ผุๆอ่อนยวบย้ายไปตามน้ำหนักตัว ดูแล้วแทบไม่เหลือความทนทานเท่าไหร่
มายด์: "มันไม่ร่วงตอนนอนแน่นะ"
เธอหันไปถามดนัยอีกรอบ ไม้ที่เพิงนี่มันผุจนต้องเธอกังวลจริงๆ
ดนัยลงมานั่งข้างๆก่อนจะจ้องเธอ อย่างครุ่นคิดดวงตาโตกวาดขึ้นกวาดลง
มายด์: "จ้องทำไม มองอะไรเนี่ย"
ดนัย: "กำลังละคิดว่าอ้วนๆแบบมายด์จะนอนได้มั้ย สงสัยต้องไปตัดต้นซุงมาวางให้แล้วละมั้ง"

การพาดพิงน้ำหนักกับสุภาพสตรีมันมักจะมีผลกระทบตามมาเสมอ
มายด์: "ว่าใครอ้วน พูดอีกที ใครอ้วนๆ"
เธอหันมาทั้งทุบทั้งยิกแขนดนัยจนดนัยต้องลุกหนี
ดนัย: "กลัวแล้วจ้า เป็นผุ้หญิงตัวใหญ่กว่าอย่ารังแกผู้ชายตัวเล็กๆสิ"
มายด์: "ตัวใหญ่! ว่าเราตัวใหญ่เหรอ หาว่าเราอ้วนใช่มั้ย ปากแบบนี่ขอทุบซักทีเถอะ"
มายด์ชูกำปันแล้วลุกขึ้นวิ่งไล่ทุบชายแสนกวนคนเดิมที่เธอพึ่งได้เขาคืนมา ถึงจะชอบหยอกชอบกวนจนน่าหงุดหงิดแต่ก็เถอะ

ทั้งคู่วิ่งไล่จับกันราวกับเด็กๆ ถึงจะมีแผลแต่ดนัยก็ยังไวจนมายด์วิ่งไล่จนเหนื่อยจนในที่สุดเธอก็ต้องนั่งพักหายใจที่เพิง
ผิดกับดนัยที่เต้นส่ายเอวส่ายหัวเย้าแหย่ ไม่ได้มีวี่แววแบบคนที่พึ่งโดนยิงมา

 

มายด์: "ฝากไว้ก่อน อย่าเผลอ เผลอเมื่อไหร่น่วมแน่"
เธอชี้หน้าเขาอย่างหมั่นไส้ นี่เธอหลงรักผู้ชายบ้าๆบอๆคนนี้จริงๆเหรอเนี่ย เธอส่ายหัวเบาๆด้วยความสุขเล็กๆปนความระอาหน่อยๆ
ดนัย: "กำลังสนุกเลย ว๊าาา หมดแรงแล้วเหรอ"
ดนัยทิ้งลงข้างๆมายด์ก่อนจะซบลงที่ไหล่เธอมือเขากุมมือเธอเอาไว้ มายด์กับดนัยนั่งอิงแนบกายมองป่ามองต้นไม้กันครู่ใหญ่ ทั้งคู่นั่งอยู่ครู่ใหญ่ๆอาศัยแอบอิงพักใจกันมายด์ถึงกระเถิบตัวออก ก่อนจะบิดขี้เกียจเพราะนั่งท่าเดิมจนเมื่อยขบไปทั้งตัว

มายด์: "ดนัยเนี่ยนะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย วิ่งจนเหงื่อท่วมเลยเหนียวตัวไปหมด อยากกลับไปอาบน้ำอุ่นๆที่บ้านจัง"
สาวสวยที่ชื้นเหงื่อไปทั้งตัว บ่นถึงความอึดอัด ปกติเธอนี่อาบน้ำวันละสามรอบได้ พอต้องมาเหนียวมาตากเหงื่อเค็มๆก็ไม่ค่อยชอบใจนัก
ดนัย: "ก็ไปอาบสิ จะนั่งตากเหงื่อเป็นปลาเค็มทำไมละจ๊ะ"
มายด์: "มันมีให้อาบที่ไหนละ เหนียวตัวเหนียวหัวจะตายละ รอดกลับไปจะสปาทั้งตัวเลย"
มายด์ค้อนวงใหญ่และบ่นเสียงหน่ายๆ
ดนัย: "ก็มันมีที่อาบน้ำไง ไม่เชื่อละสิ"

ดนัยเดินจูงมือเธอมา มันเป็นสายธารที่ไหลผ่านแอ่งกระทะเล็กๆ ลึกสุดตรงกลางก็ดำลงไปได้ทั้งตัว แต่รอบขอบๆนั้นมีหินให้ใช้เหยียบยืนได้
น้ำใสไหลช้าๆ มีปลาน้อยๆว่ายเป็นกลุ่ม
มายด์ต้องสระว่ายน้ำกลางป่าด้วยความสดชื่นสระสวรรค์ของเธอแท้ๆ

ดนัยส่งขวดเล็กๆสองขวดให้
ดนัย: "เครื่องอาบน้ำฉบับพกพาครับ เชิญคุณหนูตามสะดวกเลยครับ"
ดนัยโค้งหนึ่งทีก่อนจะเดินถอยหายไปในป่า
เมื่อได้เวลาส่วนตัวเธอก็ก้มลงใช้มือจุมน้ำเบาๆกวักน้ำขึ้นมาลูบใบหน้า ความเย็นของมันเรียกความสดใสเธอกลับมาได้โข เธอต้องทนหมักขี้ไคลมาซะหลายวันในที่สุดเธอก็จะได้สบายตัวซักที

เธอมองหามุมมิดชิดดีๆก่อนจะถอดเสื้อยืดออกแต่ขณะที่เสื้อกำลังจะหลุดก็...
"ช่วยถอดมั้ยจ๊ะน้องสาว"

มายด์สะดุ้งหันหลังกลับไปหาต้นเสียง ก่อนจะถอยกรูดดดจนแทบสะดุดขาตัวเอง
มายด์: "ไอ้บ้าาา กลับมาอีกทำไม จะมาถ้ำมองเหรอ หรือจะทำแบบตอนนั้นอีก"
มายด์เอาแขนบังเนินอกอย่างหวาดระแวง

ดนัย: "รู้ทันซะได้ วุ้ยยย ไม่ใช่ลืมให้ไอ้นี้"
เอาเขวี้ยงมีดเล่มเล็กๆไปในน้ำในจุดที่เธอสามารถคว้ามันไว้ในกรณีฉุกเฉินใดๆ

ดนัย: "แต่ที่มายด์พูดมามันก็น่าคิดอยู่นะ สองต่อสอง กลางป่าลึกๆ มีกระท่อมด้วยฉากเสียตัวชัดๆมามะที่รัก"
มายด์: "บ้า! ไอ้บ้าอย่าเล่นแบบนี้ หยุดคิดเลย"
ดนัยฉีกยิ้มกวนๆให้อีกทีและเดินกลับเข้าไปในแนวไม้อีกครั้ง ส่วนมายด์ก็รอจนแน่ใจจึงเริ่มลอกคราบตนเองอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มชำระกายท่ามกลางธรรมชาติอย่างสบายใจอาบน้ำเสร็จก็เล่นน้ำ แช่น้ำอย่างสบายอกสบายใจ จนฟ้าเริ่มมืดเธอจึงกลับไปหาเสื้อผ้า แต่ความซวยคือเธอดันรีบร้อนแขวนเสื้อผ้าไม่ดี เสื้อผ้าเธอจึงร่วงลงน้ำเปียกชุ่ม และเธอก็มีเสื้อผ้าอยู่ชุดเดียว

เธอไม่มีทางเลือกอื่น มายด์จึงเดินตัวเปียกตัวเปื่อยกลับมา
ดนัยที่ออกไปจับปลาก็กำลังเสียบไม้ย่างเป็นมื้อเย็น พอมายด์กลับมาถึงดนัยก็ลืมปลาตรงหน้าเพราะชุดเปียกๆของเธอมันทำเขาเตลิดไปไกลส่วนเว้าส่วนโค้งมากันครบ เลือดในกายแล่นพุ่งพล่านไปทั้งตัว เขากลืนน้ำลายลงคอ แต่ก็ยังยั้งสติได้ทัน
ใจเย็นอย่าเตลิดสิ แข็งเลยมาแบบนี้แข็งเลย

มายด์: "ฮัดชิววว ขอเถอะเลิกจ้องเราและช่วยเราก่อนเถอะดนัย หนาวจะตายอยู่แล้ว"
ดนัยได้สติรีบกุลีกุจอรื้อเป้เล็กๆ โชคดีเขามีเสื้อรองอยู่ตัวนึง แต่พอเอาให้เธอผลัดออกมาไม่ได้ช่วยให้ดนัยหายเตลิด เพราะเธอต้องถอดทุกอย่างออกหมดเหลือแค่กางเกงในและเสื้อที่เขาให้

นมเป็นเต้านู้นออกมาจากเสื้อ เขาแอบเพ่งเผื่อจะเห็นจุกดันเสื้อออกมาบ้าง แต่สิ่งที่ชวนเขาทำบาปทำกรรมสุดๆคือเรียวขาขาวๆ กับเนินกลางตัวที่สังเกตเห็นช่องแคบที่เขาฝันใฝ่จะยัดเจ้างูป่าที่นู้นออกมาเป็นลำในกางเกงให้จมมิดด้าม มายด์สังเกตุเห็นอาการของดนัยก็หน้าแดงรีบแสร้งออกไปผิงไม้หลบหน้าเขา
ดนัยรีบสะบัดหัวไล่ความคิดทางเลวร้ายออกไป เขาเดินไปจัดการปลาและเสียบเนื้ออีกชุดใส่ไม้และปิ้งมัน ยังดีที่เขามีเกลือติดมาด้วยโรยเกลือบนเนื้อนิดก็เพิ่มรสชาติได้ แม้พ่อครัวแดนเถิ่อนจะไม่ค่อยพอใจกับรสชาตินักแต่ด้วยสถานการณ์ มันก็ได้แค่เท่านี้
หลังจากอิ่มหนำกันหลังจากกินพอประทังชีพมาพักใหญ่ๆ คนหิวกินอะไรก็อร่อย
ดนัยที่จัดที่หลับที่นอนให้เธอเรียบร้อยก็หายแวบออกไปทิ้งให้สาวสวยของเขาพักผ่อน
เขาเดินมาที่บ่อน้ำก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อออกอย่างอย่าลำบาก เขาพยายามให้แผลสะเทือนน้อยที่สุด ความจริงที่เลวร้ายคือไม่มียาาฆ่าเชื้อหรือแก้อักเสบให้เขาแบบนี้แผลเขาจะยิ่งแย่ลง เอาจริงๆคือเขาต้องฝืนทำเป็นปกติทั้งๆที่รู้ว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บจะค่อยๆบั่นทอนร่างเขาไปเรื่อยๆแม้แผลจะไม่ใหญ่มากแต่แค่นี้ก็มากเกินพอให้ไอ้พวกนั้นชิงความได้เปรียบ

เขาสะบัดหัวไล่ความเครียดทิ้งไปก่อนจะพยายามทำความสะอาดตัวเองให้ได้มากที่เท่าที่ร่างกายอำนวย เหงื่อเหนียวยันไข่ขนาดนี้ต่อให้ซกมกขนาดไหนก็ไม่ไหว
"ลำบากชิบหาย แผลเฮงซวย"
เขาบ่นอุบอิบเมื่อเขาขยับเขยื้อนตัวได้ไม่ถนัดนัก

"มานี่เราจัดการเอง"
มายด์ที่แอบเดินตามดนัยออกมาฉวยผ้าชุบน้ำในมือมาเช็ดหลังให้ดนัย
ดนัย: "เฮ้ย ไม่ต้องเราทำเองได้ มายด์พักผ่อนเถอะ"
ดนัยพยายามจะแย่งผ้ากลับมาแต่สาวสวยกลับตีมือเขาดังป้าป ก่อนจะชี้หน้าอันเป็นสัญญาณว่านั่งนิ่งๆไปซะ ดนัยจึงต้องนั่งรับบริการทำความสะอาดจากเธอโดยไม่อาจโต้แย้งใดๆ

มายด์: "รู้ตัวมั้ยว่าตัวดนัยสกปรกมากเลย หัดใส่ใจเรื่องความสะอาดหน่อยสิย่ะ"
ดนัย: "ก็มันเสียเวลานิ อีกอย่างจะขัดแบบนี้ทุกวันคงไม่ไหว"
ดนัยตอบกลับเสียงเอื่อยๆ เขาทำลังสบายเนื้อสบายตัว มีคนอาบน้ำให้แบบนี้ทุกคนคงจะดี
มายด์: "คนซกมก ยี้! ไหนดูสิหัวก็เน่ามานี่เราสระผมให้ นี่ถ้ารู้ว่าสกปรกขนาดนี้ไม่คบด้วยหรอก"
มายด์แหย่ชายหนุ่มที่กำลังนอนลงเธอสระผม

ดนัย: "ก็มันไม่มีเวลา แถมเราพึ่งวิ่งหนีพวกมันขาขวิดมาน้ำท่าพึ่งจะได้อาบไม่ใช่เหรอครับ นี่ถ้ารู้ว่าขี้บ่นงี้ทิ้งไว้ที่ไร่ดีกว่า"
มายด์แยกเขี้ยวเงื้อมือจะทุบคนปากดี
ดนัย: "อย่านะถ้าทุบเราอีกทีเราปล้ำเลยนะ"
หญิงสาวก็เลยแค่ทำแก้มป่องแต่ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับดนัยอีก จนทุกอย่างเรียบร้อย

ผ้าผืนเล็กถูกนำมาเช็ดหัวตำรวจหนุ่มเบาๆ
มายด์: "นี่ดนัย ขอบคุณมากนะถ้าไม่มีดนัยเราตายในป่าแน่ๆ"
ดนัยหันมามองเธอด้วยหางตาก็ส่ายหัว
ดนัย: "มาทำซึ้ง นี้คุณหนูครับเรายังหนีมันไม่พ้นหรอกนะครับ เอาไว้ปลอดภัยกว่านี้ก่อนเถอะ"
ก่อนเขาจัขยับตัวมานั่งข้างๆเธอโอบกอดเธอไว้
ดนัย: "กลัวเหรอ?"
เธอผงกหัวรับ เธอกลัวตายทั้งตัวเองตาย กลัวดนัยตายกลัวไปหมดทุกสิ่ง ถ้าเธอติดอยู่ที่นี่คนเดียวเธอคงเป็นบ้าแน่ๆ

ดนัย: "ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องผิด เราก็กลัวเหมือนกัน แต่นั้นแหละกลัวไปก็เท่านั้น ยังไงเราก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดให้ได้"
ดนัยดึงเธอมาซบไหล่และลูบผมปลอบเธอ
ดนัย: "เราจะทำให้มายด์รอด ไม่ว่าต้องทำอะไรก็ตาม เข้าใจนะมายด์ต้องปลอดภัยสัญญาเลย"
เขาดึงเธอมากอดแน่นและเช็ดน้ำตาเธอเบาอย่างอ่อนโยนและก็ประทับจูบลงที่ปากเธออย่างแผ่วเบา ทั้งคู่กอดกันกลมแทบจะกลายเป็นร่างๆเดียว ทั้งคู่ดูดดื่มกับความรู้สึกดีที่มีให้กัน

"เอ๊ะ! ดนัยทำอะไร"
มายด์ที่กำลังฟินกับรสจูบผละออกมาถามเมื่อชายหนุ่มช้อนตัวอุ้มเธอเดินดุ่มๆกลับไปที่เพิงพัก
ดนัย: "อย่าถามในสิ่งที่รู้สิครับ มาจบสิ่งที่ค้างกันดีกว่า"
ดนัยยิ้มกวนๆให้ก่อนจะวางเธอลงอย่างนุ่มนวลและถอดเสื้อตัวเองออก เขาอดทนรออะไรอีกไม่ไหวแล้ว ร่างตรงหน้าดูแกร่งขึ้นเมื่อเธอเห็นแผงกล้ามไม่หนาทว่ามันช่างอบอุ่นของเขา แต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่มีแผลที่ข้างเอว

ดนัยทิ้งตัวลงทาบร่างเธอพรมจูบทั่วใบหน้าและค่อยคลอเคลียลงมาที่ซอกคอ
ถึงจะไม่เข้าระดับชำนาญแต่ประสบการณ์ก็ไม่ใช่ไม่มีเลย ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ใจตื่นโครมครามราวกับไม่เคยทำมาก่อน คงไม่แปลกที่เขาจะตื่นเต้นเขากำลังได้ทำในสิ่งที่อยากทำมานานเกือบสิบปี

ทว่าครานี้มันแตกต่างจากวันนั้นที่เขาใช้กำลัง วันนี้เขาค่อยๆทำความคุ้นเคยกับเรือนร่างและการตอบสนองจากเธอแบบกลัวๆกล้าๆ ดนัยฝืนใจอดกลั้นทำทุกอย่างไม่ต้องรีบร้อนไม่กดดัน ไม่มีความรุนแรง ทุกอย่างค่อยไปตามทางของมัน เช่นเดียวอารมณ์รักที่ค่อยร้อนแรงขึ้นช้าๆ จนหญิงสาวเองก็โอบกอดดนัยที่ซูดดมซอกไซร้คอขาวผ่องที่เร่งจังหวะมากขึ้นๆ แววตาและสีหน้าของชายหนุ่มแสนดีตอนนี้บ่งบอกว่าหื่นกระหายจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่

ดนัย: "มายด์ครับ เราขอนะ"
เขาผงกหัวออกจากซอกคอเพื่อถาม แต่เขาไม่รอฟังคำตอบ มันสุดจะทนแล้วจริงๆสำหรับชายหนุ่ม ดนัยล้วงมือเข้าไปบีบเคล้นเต้านมใต้เสื้อทันที มือทั้งสองบีบคลึงเบาๆและไม่ลืมจะใช้ซอกนิ้วบีบหัวนมเธอไปพร้อมๆกัน เขาหายใจเข้าลึกๆข่มใจตัวเองไม่ให้รีบจนเกินไป นี่เป็นครั้งแรกมันต้องค่อยเป็นค่อยๆไป

มายด์: "ซื้ดด คนขี้โกง เรายังไม่ได้อนุญาตเลย"
ดนัย: "ไม่รงไม่รอแล้วคำตอบ มายด์ครับนมมายด์โครตนุ่มเลยครับ โอยยยบุญแท้กู"
เธอเขินอายจนต้องทุบแขนอีกฝ่ายรัวๆ

 

แต่ชายหื่นตอนนี้เถิกเสื้อเธอขึ้นมาไม่พูดไม่จาก้มลงไปดูดปลายถันที่กำลังชูชันไว้ในปาก
มายด์: "อืออออ อูยยยย ดนัย โอยยย"
มายด์ยิ่งอารมณ์กระเจิงเมื่ออีกฝ่ายลากลิ้นวนไปวนมาที่เต้าซ้ายเต้าขวา แถมมือก็ไม่เคยอยู่นิ่งทั้งบีบทั้งเขี่ยจนเธอตัวอ่อนนอนระทวยได้แค่นอนครางเบาๆ

ส่วนดนัยตอนนี้แทบจะคลั่งอีกรอบอยู่แล้ว มันช่างนุ่มนวลหอมหวานอะไรขนาดนี้ เขาแข็งจนหน้าท้องเกร็งไปหมดแล้ว ถ้าไม่ติดที่จะทำครั้งแรกต้องนุ่มนวลเขาจับแหกขากระแทกไม่ยั้งแน่ แต่เขาจะยอมให้ครั้งแรกของเธอเป็นความทรงจำที่รุนแรงเด็ดขาด

รักจริงทำไมมันลำบากแท้วะ เขาอดนึกถึงสหายแบบอินทรีไม่ได้ ทั้งๆที่หลอกเขาแท้ๆทำไมมันดูสบายจังวะ ทีไอ้เขารักแท้บูชาความรักมันช่างลำบากลำบน เฮียเข้มก็อีกคนเต๊าะๆหยอดๆพี่เลนส์ยอมเป็นแฟนเฉย

หรือจริวๆปัญหามันอยู่ที่เขาวะ??

ดนัยเลิกคิดเรื่อยเปื่อยและกลับมาสนใจภารกิจตรงหน้าต่อ เขาละมือลงมาผ่านหน้าท้องล้วงเข้าไปในกางเกงของมายด์นิ้วเขาเคลื่อนเข้าไปขยี้ติ่งเนื้อเบาๆและกรีดไปตามร่องสวาทช้าๆค่อยเย้าหยอกไป

ดนัย: "ชอบละสิ น้ำเริ่มออกแล้วนะ"
มายด์: "คนบ้า!! โอยยย ซื้ดดด ไม่ต้องพูดแล้วทำอย่างเดียวก็พอ"
ร่างขาวที่นอนเบือนหน้าที่แดงเรื่อๆหลบ แบบนี้ก็เท่ากับไฟเขียวทุกแยก ลุยสิครับรอไร
เขารูดกางเกงออกแยกขาเธอออกและฝั่งหน้าลงไปทันที
มายด์: "อ๊ายยยย เบาๆดิอ๊ายยย อูยยยย เสียววววว ดนัยเราเสียวววว โอยยยย"
ลงไปถึงพื้นที่ดนัยก็จัดทุกกระบวนท่าทุกยุทธวิธีที่นึกออกจนสาวสวยครางระงม เธอยิ่งครางเขาก็ยิ่งกระหน่ำอย่างฮึกเหิม ดีนะที่เขาพอมีประสบการณ์มาบ้างลิ้นเขาสะบัดรัวไม่ยั้ง

มายด์: "ไม่ไหวแล้วววว อูยยยยยดนัย ดนัยอย่ารัวลิ้น ไม่เอาแล้ว เราแตก แตกแล้ววว"
หลังจากถล่มอย่างหนักข้าศึกก็ยอมแพ้หลั่งน้ำสวาทให้ดนัยเป็นรางวัล เอวบางกระดกดิกขึ้นมาสู้ลิ้น มือเรียวจิกผมดนัยแทบขาดคามือ ดนัยดูดดังซูดซาดดดเป็นรางวัลคืนไป นี่ถือว่าเขาทำคะแนนแรกได้ดี

มายด์นอนแผ่หอบหายใจไม่เท่าไหร่ก็ถูกดึงเข้ามานั่งบนตักดนัย เขาจับเธอจูบแลกลิ้นอย่างดุเดือด
และเขาใช้มือเขาจับให้มือเธอล้วงไปหางูยักษ์ของเขาที่จวนจะระเบิดเต็มที
ดนัย: "แอ๊กกก อย่ากระถอกแรงสิ นี่เอาคืนเหรอ"
ทันทีเธอกำเจ้างูที่แข็งตุงในกางเกงมายด์ก็รูดมันยิกๆจนดนัยต้องร้องออกมา ผิดคาดของชายหนุ่มจริงๆ แถมยังดันเขาให้นอนลงไปและควักมันออกมากระถอกต่อหน้าตัวเอง หัวบานสีอ่อนของดนัยอยู่เกือบแนบชิดใบหน้าสวยหวานภาพตอนนี้เล่นเอาดนัยแทบหยุดหายใจ

ดนัย: "โอยยย มายด์มือมายด์โครตนุ่ม แรงอีกๆ อูยยย"
ดนัยร้องบอกเธออย่างกระท่อนกระแท่น แข้งขาอ่อนยวบไปหมด
มายด์: "นี่แนะๆ เอาคืนได้แล้ว คิกๆ ส่วนอันนี้เราให้รางวัลแฟนที่แสนดี"
ดนัยมองปากสวยๆที่อมเจ้างูยักษ์ของตนลงไป
ดนัย: "อูยยยยย ตายๆกูตาย ซื้ดดดด มายด์ครับ อูยยยย มายด์ทำไมทำเป็นเนี่ย โอยยยย นุ่มชิบหายยยย อ่อยยยย"
ดนัยอึ้งไม่อาจพูดอะไรออกเลยเมื่ออีกฝ่ายดูดไม่พอยังใล้ลิ้นวนไปวนมาราวกับชำนาญ เล่นเอาเขาต้องกัดฟันตัวเกร็งเพื่ออดทนไม่ให้กระฉูดใส่ปากเธอก่อน พุ่งตอนนี้เสียหน้าตายกู

มายด์: "ตกใจละสิ เราโดนบังคับให้ทำแบบนี้ต้องหลายครั้งแล้ว ทั้งในห้าง ทั้งจากแก๊งค้ามนุษย์ไงและทุกครั้งดนัยก็มาช่วยเราได้ ยังกับนิยายเลย นี่ถือว่าเราทดแทนบุญคุณแล้วน้า"
เธออมยิ้มก่อนจะเลียไปมาผ่านหัวบานไล่ลงไปตามความยาวสลับกับดูดเม้มที่หัว ก่อนใช้ริมฝีปากรูดเอ็นเขาเข้าไปปาก ดนัยกัดฟันกรอดเกร็งเขม็งไปทั้งตัว ร่างทั้งร่างแทบระเบิดออกมา เขาอดทนมากที่สุดในชีวิตเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำกามทะลักใส่อุ้งปากน้อยๆที่ดูดจ็วบๆตอนนี้

ดนัย: "อูยยย เอาเป็นว่าพอก่อนเถอะ ถึงเวลาแล้ว"
มายด์: "อะไรกันกลัวเสร็จก่อนละสิ คิกๆ"
ดนัยพลิกกลับมาดันร่างเธอให้นอนลง ขืนให้เธอดูดต่อเขาเรียบร้อยก่อนแน่ๆ น้ำรักดอกแรกต้องแตกในเท่านั้น เขาจ่อหัวบานที่ร่องเนื้อสีชมพูที่ปิดแน่นดนัยถูมันไปมาเบาๆ ก่อนจะเกร็งท้องดันมันเข้าไป
มายด์: "โอยยย แน่นอะ เจ็บด้วย"
ดนัย: "แน่นแบบนี้เข้าไปได้ละสนุกแน่กู"
เขาเกร็งตัวดันเข้าไปอีกครั้ง หัวบานค่อยๆมุดเข้าไปอย่างยากลำบาก แต่ทว่ามายด์กลับรู้สึกอุ่นวาบที่หน้าท้อง ของเหลวข้นอุ่นๆเปรอะหน้าท้องเธอเต็มไปหมด

มายด์: "ดนัย....ดนัยแตกแล้วเหรอ อะไรมันหยดใส่ท้องเราอะ ร้อนๆเหนียวๆ"
ดนัยที่กำลังดันงูลงถ้ำชะงักไปเขากลั้นมันสุดฤทธิ์ ไม่มีทางที่เขาจะยอมล่มปากอ่าวจอดก่อนแน่ๆ ในคือคืนในฝันไม่ทางที่เขาจะพลาดล่มก่อนเด็ดขาด

แล้วอะไรมันหยดใส่วะ
ดนัยและมายด์ลืมตามองพร้อมกัน
ดนัย: "แตกแล้ววว ชิบหายแตกเฉย"
มายด์: "แบบนี้ก็ได้เหรอดนัย หมดกัน"

ของเหลวบนท้องไม่ใช่สีขาว ทว่าเป็นสีแดงเข้ม ด้วยความที่แผลยังไม่สมานดีพอเกร็งกล้ามมากๆเข้ามันก็เลยฉีกออกมาอีกรอบ หยดเป็นทางลงมาที่หน้าท้องขาวผ่องของเธอ

และแล้วชายหนุ่มผู้แสนดีก็พลาดโอกาสงามๆอีกครั้ง

"มายด์ครับ มายด์จ้าาา"
ดนัยที่พึ่งทำแผลใหม่โอบกอดสาวสวยจากด้านหลังหวังขอโอกาสแก้ตัว แต่สาวเจ้าที่เสียอารมณ์หมดความยากไปซะสิ้นแล้วก็กระเถิบตัวหนีเขาแบบไม่มีเยื้อใยใดๆ

เขาละอยากจะให้กระสุนนัดที่เอวเปลี่ยนมาทะลุหัวให้จบๆไป ทำไมมึงต้องมายิงโดนกูวันนี้วะ เขาสาบานว่าถ้ารู้ว่าหมาตัวไหนเป็นคนยิงโดนเขา เขาจะจ้องเวรมันไปตลอดชีวิต อับอายขายขี้หน้าที่สุด ตายซะยังดีกว่ามาเจออะไรแบบนี้

ดนัยยังไม่ละความพยายามเขากระเถิบตัวตามไปกอดรัดสัตวแพทย์สาวอีกครั้ง แต่รอบนี้เธอนิ่งให้เขากอด ดนัยเริ่มใจชื่นขึ้นมาบ้าง
ดนัย: "มายด์ครับ ขอโอ....อั้กกกก!!"
สาวสวยตะปบเข้าที่งูใหญ่ที่ตอนนี้หดหมดสภาพอีกครั้ง แต่เธอไม่ได้จับเฉยๆ อุ้งมือนุ่มบีบมันแน่น แน่นจนดนัยจุกหน้าเขียวเล็บทั้งห้าจิกลงไปในเนื้อแบบไม่ออมแรง

ดนัยตีแขนเธอรัวๆ เป็นสัญญาณยอมแพ้ แต่กว่าเธอจะยอมปล่อยดนัยก็นอนตัวงอเป็นกุ้งไปซะแล้ว
เธอละอยากจะบ้าตาย เข้าใจเลยว่าทำไมผู้หญิงหลายคนต้องมีชู้เพราะสามีไม่สู้งาน ปัญหาเรื่องนี้ควรเป็นวาระแห่งชาติได้แล้ว ตอนนี้เธอเกลียดดนัยจนไม่อยากจะเห็นกระทั่งเงา เธออยากจะทุบๆๆๆๆ ทุบไอ้บ้าข้างๆให้ตายไป กล้าดียังไงทำสวรรค์เธอสลายไปแบบนี้ เธอยอมทำแผลให้ก็ถือว่าใจดีแล้ว ถ้าไม่มีความดีครั้งก่อนๆนะ เธอจะปล่อยให้นอนจมกองเลือดตาย ไม่ได้เรื่องเลยผู้ชายอะไรวะเนี่ย

นี่เธอต้องทบทวนเรื่องคบกับดนัยอีกรอบซะแล้ว

....................................................

รุ่งเช้าร่างทั้งสองก็กอดกันกลม เนื่องจากอากาศหนาวในกลางดึกร่างกายเลยวิ่งเข้าหาแหล่งความร้อนข้างๆตัวเอง ดนัยเองแม้จะตื่นนานแล้วแต่เขาไม่มีความคิดจะลุกขึ้นแม้แต่น้อยแถมยิ่งกระชับร่างในอ้อมกอดและแน่นแนบกับตัวมากขึ้น

เขามองร่างที่นอนกอดแขนเขาอย่างไม่รู้สึกตัวนึกถึงอนาคตของเขาที่จะมีภาพแบบนี้ให้มองทุกวัน แสงแดดส่องมาช่วยทำให้ภาพเธอในสายตาเขาเป็นดั่งความฝัน เขาปัดผมเธอออกจากใบหน้าไร้เครื่องสำอางที่แม้จะไม่มีแต่ความงามของเธอก็ไม่ลดลงจากวันแรกที่เขาเห็นเธอ แม้มันจะหลายปีมากแล้วเธอก็ยังคงงดงามที่สุดในสายตาเขาตลอดไป

เขาลูบหัวไล่ไปตามเรือนผมมายด์อย่างนุ่มนวลที่สุด เขาอยากชมความงดงามนี้ไปเรื่อยๆ อยากดูแลอยากปกป้องอยากทะนุถนอมผู้หญิงคนนี้ ปกป้องความงดงามและความดีของเธออยากแก่ไปพร้อมๆกับเธอ

เขาก้มลงไปจูบหน้าผากเธอเบาๆ ทว่ามันกลับทำให้เธอตื่น
หญิงสาวขยี้ดวงตาปรับสายตาเข้ากับแสงยามเช้า และเมื่อพบว่าเธอนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดดนัยเธอก็ค่อยๆผลักตัวออกมา
ดนัย: "จะไปไหน ขอกอดก่อนสิ"
มายด์: "ก็กอดทั้งคืนแล้วไม่ใช่เหรอ ปล่อยได้แล้ว"
เธอเอี้ยวตัวออกจากอ้อมอกด้วยความเขิน ทว่าชายหนุ่มกลับรวบเธอมากอดไว้แน่นจนเธอกระดิกตัวไม่ได้ เธอก้มหน้าแดงๆหลบสายตาหวานเยิ้มจากดนัย นี่เขากะแก้ตัวจากเมื่อคคืนใช่มั้ยเนี่ย
ลมหายใจอุ่นจากดนัยรดไปที่ต้นคอเรียกเธอกลับมาจากห้วงความคิด ดนัยค่อยๆสูดกลิ่นกายจากซอกคอไล่ขึ้นมาพรมจูบทั่วใบหน้า มายด์ลืมเรื่องเมื่อคืนทิ้งไปเธอเลือกให้โอกาสดนัยอีกรอบ ปล่อยตัวปล่อยใจตามแรงอารมณ์อีกครั้ง

ร่างเธอถูกดันมานอนราบ ดนัยขึ้นคล่อมเธอทันทีเขาจูบแก้มซ้ายขวาเธอหลายรอบจนเธอต้องปัดป้องไปมา ดนัยจ้องตาเธอตรงๆและเอ่ยขึ้น
ดนัย: "ขอเราแก้ตัวนะ รับรองไม่มีสะดุดแน่"
มายด์: "ทำไรก็ทำไปสิ ไม่ต้องมาขงของหรอก"
เธอโน้มคอดนัยก่อนจะตอบแท้จริงแล้วเธอก็อยากได้อยากโดนเต็มแก่แล้วเหมือนกัน เมื่อคืนเธอก็ผิดหวังไปรอบ ดนัยจะแก้มือเธอก็ยินดี คำตอบนั่นทำให้ดนัยยิ้มอย่างลิงโลด แต่ความสุขไม่มีให้ชายที่ชื่อดนัย
วินาทีที่ปากทั้งคู่กำลังจะสัมผัสกันอีกครั้ง ดนัยก็สะดุ้งพลิกตัวออกจากเธอทันที

มายด์: "อะไรอีกเนี่ย!!! นี่สรุปเอาไง..."
ขณะที่เธอหันมาโวยดนัยก็รีบตะครุบปากเธอไว้ ชายตาชายหนุ่มไม่เหลืออารมณ์รักๆใคร่ๆอีกแล้ว มันแปรเป็นจริงจังเย็นชา หญิงสาวจึงยอมสงบปากสงบคำเพราะรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
ดนัยโยนเสื้อผ้าให้เธอ และเทของในกระเป๋าออกมาหยิบกระสุนที่มีทั้งหมดใส่กระเป๋าตนเอง ของส่วนที่อาหารและแผนที่เข็มทิศเขายัดคืนและส่งให้เธอ


ดนัยพาเธอย่องออกจากเพิงพัก อ้อมหลังไปยังอ่างน้ำที่ใช้อาบเมื่อคืน
ดนัย: "ฟังเรานะ เดินลุยน้ำไปทางนั้น ตรงไปเรื่อยๆจนสุด จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆอย่าหยุด ไม่เกินสองวันก็เจอหมู่บ้าน ในกระเป๋ามีวิทยุเราตั้งคลื่นไว้แล้วถ้ามีทีมช่วยเหลือมาใกล้ๆมายด์ใช้คุยกับเขาได้ ออกไปจากป่านี้ให้ได้ ไม่ต้องหันกลับมา"
ดนัยสั่งเธออย่างเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน ก่อนจะผลักให้เธอเดินลงน้ำไป แน่นอนว่าหญิงสาวไม่ยอมปล่อยดนัยไว้แล้วหนีไปลำพังเธอกอดแขนเขาแน่น
มายด์: "ไม่! ไปก็ไปด้วยกัน ถ้าดนัยเป็นอะไรละ ไม่เอาเราไม่อยากเสียดนัยไป เราหนีไปพร้อมกันนะ ออกไปด้วยกัน รอดด้วยกันไปสร้างอนาคตด้วยกัน"

ดนัยสะบัดเธอออกผลักเต็มแรงจนเธอเสียหลักร่วงลงไปนั่งจ้ำเบ้าในลำธาร เธออ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเมื่อดนัยผลักไสตนออกอย่างรุนแรง
ดนัย: "นี่ไม่ใช่ละคร! ถ้ารักเราก็รีบไป ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาตายกันสองคน เป้าหมายหลักของมันคือเรา มายด์ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงกับเรา เราสู้ไปดูแลมายด์ไปไม่ได้เข้าใจมั้ย"
ดนัยพูดเสียงดังราวตวาดเธอ แต่ยิ่งพูดเสียงก็สั่นเครือออกราวกับระงับอารมณ์ไม่อยู่
ดนัย: "ไปเถอะมายด์ เราสัญญาว่าเราจะไม่ตาย เราจะไม่ยอมตายก่อนได้ใช้ชีวิตกับมายด์หรอก ยิ่งมายด์อยู่ใกล้เรายิ่งพะวงเสียสมาธิ ถ้ารักเราอยากให้เรารอดก็รีบไป"
ดนัยฝืนใจพูดจนจบก่อนจะรีบหันหลังเดินหนีเธอ ขืนไม่รีบไปเขาต้องกลั้นน้ำตาไม่อยู่แน่

เขารู้ว่าทำได้ดีที่สุดคือถ่วงเวลาลากพวกมันออกห่างเธอไกลที่สุด ยื้อชีวิตหนีไปเรื่อยๆจนมันฆ่าเขาหรือจนทีมช่วยเหลือมาเจอเขาก่อน แน่นอนว่าโอกาสรอดน้อยกว่าตายหลายเท่าตัว เขาเสียเปรียบทุกทางแต่ทว่าเขาจะไม่ยอมเสียเธอให้พวกมัน เขาต้องตายก่อนเท่านั้นพวกมันถึงจะทำร้ายเธอได้

"ดนัย เรารักดนัยนะรอดออกมาให้ได้นะ"
เสียงตะโกนทำให้เขาชะงักไป เขาเหลือบมองร่างที่วิ่งไปตามทางน้ำตามคำสั่งตนก็หลุดยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เขากระชากลูกเลื่อนปืนส่งกระสุนเข้าสู่รังเพลิงพร้อมทำงานที่อาจเป็นงานสุดท้ายในชีวิต รอยยิ้มบนใบหน้าชายใจดีแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างกระหายเลือด แววตาใสหมดสิ้นความเป็นห่วงเป็นใยมายด์มีเพียงความเย็นชาไร้จิตใจ พร้อมกับจิตสังหารที่คมกริบ

..................................................................

"ครับนาย ผมเจอเพิงหลังนึงน่าจะเป็นตรงนี้ครับ ครับเดินกลับมาที่แยกแล้วตรงมาอีกทางเลยครับ"
ลูกน้องขบวนการชั่วเดินตัดป่าออกมาพร้อมเพื่อนอีกคน ท่าทางมันจะเจอกับเบาะแสใหญ่แล้ว
"ช่วยกูดูรอบๆ เพื่อเจออะไรดีๆใช้แกะรอยได้"
มันตะโกนบอกเพื่อนให้เขาไปดูในเพิง ก่อนมันจะเจอกับกองไฟที่มอดเหลือแค่ขี้เถา แต่มันกูรู้ว่าพึ่งมอดไปไม่นานเท่าไหร่ พวกมันใกล้ได้ตัวเป้าหมายแล้ว

โครม!
เสียงเหมือนของชิ้นใหญ่ล้มดังมาจากในเพิงพัก มันคว้าปืนพกกระโจนเข้ามาในเพิงพักพบเพียงร่างไร้ชีวิตของเพื่อนมัน มันรีบล้วงวิทยุแจ้งหัวหน้า มันอยู่ใกล้ๆนี้เท่านั้นแต่ก่อนที่มันจะทันกดคีย์กรอกเสียงเตือนพรรคพวกลำคอก่อนถูกรวบจากท่อนแขน วัตถุแหลมเสียบกระซวกมันจากด้านหลังมันพยายามฝืนใจหันกลับไปมองศัตรู แต่มัจจุราชด้านหลังก็แทงมันอีกหลายครั้งมันกระตุกเฮือกสุดท้ายหมดแรงทรุดลงนอนนิ่ง ตาเบิกโพล่งอย่างคับแค้นใจ

ดนัยหยิบปืนมันมาเก็บที่เอว ก่อนจะเริ่มทำตามแผนขั้นต่อไปทันที
จริงอยู่ที่เขาต้องหนี แต่ใช้ว่าเขาจะยอมไปเงียบๆเขาจะค่อยๆล่าหัวมันทีละคนๆ เขาจะบีบไม่ให้พวกมันกระจายตัวมากกว่านี้และพวกมันจะต้องแห่มาทางเขามากกว่าไปทางมายด์ สุดท้ายเสียงบู๊สนั่นป่าจะนำทางพวกเขาที่ตามมาช่วยถูกทาง
เป็นแผนที่สมใจเขานัก พวกมันจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่เหยื่อที่คิดจะล่า เมื่อเขาไม่ต้องพะวงถึงเธอตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะล่าพวกมันคืนบ้างแล้ว


"ลูกพี่ตรงนี้มีอีกศพนึงครับ"
สมุนตัวร้ายวิ่งหน้าตื่นมาหาวชิระที่กำลังพิจารณาร่างลูกน้องมันอีกศพ ไม่น่าเชื่อว่าแค่คนๆเดียวสามารถเก็บชายติดอาวุธได้ถึงห้าคนโดยไม่มีใครไล่ตามทัน ตำรวจพวกนี้มันคืออะไรกันระดับผิดกับพวกที่เคยเจอมา สมแล้วที่เล่นงานกันได้เจ็บแสบขนาดนี้ ปีนี้ปีเดียวผู้การถวิลและลูกน้องสร้างความชิบหายแก่องค์กรพวกมันเป็นสิบๆล้านแล้ว

แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเกมมันจะได้สนุกหน่อย วชิระยืนสูบบุหรี่ใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ก็นึกแผนการได้
วชิระ: "พราน ฉันมีเรื่องให้ช่วย"
เขาหันไปหาชายผิวแดงคล้ำที่ถือปืนไรเฟิลล่าสัตว์ในมือที่ยืนสงบเสงื่ยมอยู่กับชายอีกสองที่ดูการแต่งตัวก็รู้ได้เลยว่าเป็นชาวบ้านชาวป่า ชายที่ถูกเรียกว่าพรานคือนายหม่อง เป็นชาวเมียนม่า เป็นชาวกะเรี่ยงในหมู่บ้านเล็กๆ อาชีพหลักคือลักลอบพาเศรษฐีมาล่าสัตว์ในป่าหาเงินกินเหล้าตีกะหรี่ไปวันๆ งวดนี้ด้วยเงินหลายหมื่นมันเลยมาล่าคนแทนสัตว์
พรานหม่อง: "ขรับนาย มีไร๊ครับ"
พรานสูงวัยพยายามพูดภาษาไทยให้ชัดที่สุด ตลอดทางมันเอาอกเอาใจต้นสารพัดเพราะหวังทิปก้อนโตหลังจบงาน เงินมากมายขนาดนี้ให้ไปไหนมันก็ยอมไป

วชิระ: "ลุงกับลูกน้องไปที่เพิงพักของมัน หาเด็กผู้หญิงนั้นให้เจอลากมันมาหาฉัน"

ในเมื่อเก่งมากนัก ไวมากนักก็บีบให้อีกฝ่ายต้องบุกมาสู้ตรงๆก็สิ้นเรื่อง ไอ้ตำรวจนั้นลุยสุดตัวได้ขนาดนี้มันต้องอยู่ห่างจากผู้หญิงแน่ๆ แถมหนีทิ้งระยะให้เขาตามทันแล้วก็ดักฆ่าลูกน้องเขาไปเรื่อยๆ แผนดีใช่ได้ แต่สำหรับคนอื่นไม่ใช่เขา
วชิระเชื่อฝีมือพรานหม่องมากถ้าไม่ได้นายคนนี้พวกมันอาจจะหลุดมือไปแล้วก็ได้ทักษะตามร่อยในป่าของพรานหน้าเงินจะทำให้เขาเสร็จงานที่นี้เสียที รางวัลก้อนงามใกล้เข้ามาอีกก้าวนึง

มันมองพรานรับจ้างเดินไปลับตาก็กระซิบลูกน้อง
"มึงไปบอกให้ไอ้ต้นตามไอ้พวกนั้นไป อย่าให้พรานบ้านนอกโง่ๆขโมยของเล่นของพวกเรา"

ลูกน้องมันแสยะยิ้ม มันรู้ใจลูกพี่ดี ทุกครั้งที่มีใบสั่งให้ฆ่าใครถ้าเป้าหมายมีผู้หญิงในบ้าน จะเมียจะลูกหลานหากว่าสวยก็ไม่แคล้วต้องโดนโทรมทุกรายไป มันนึกหน้าสวยของเหยื่อรอบนี้ก็รีบจ้ำอ้าวออกไปทันที งวดนี้คงได้เพลิดเพลินกันยาวๆ

เปรี้ยงๆๆๆ
เสียงแผดคำรามของปืนพกดังสามนัดซ้อน วชิระกระชับปืนวิ่งนำสมุนไปทางเสียงปืน ทว่ามาถึงก็พบเพียงศพลูกน้องที่นอนไร้ลมหายใจเรียงกัน สองคนถูกยิงส่วนอีกศพโดนหอกไม้แทงทะลุอก
จากประสบการณ์ของวชิระมันเดาไม่ยากว่า อีกฝ่ายคงหมายจะฆ่าแค่คนเดียวแต่โชคร้ายไปพบอีกสองคนที่ตามมาเลยต้องใช้ปืนเป็นครั้งแรก นี่ละโอกาสที่เขารอคอย
วชิระ: "จับคู่กันวิ่งออกไป มันยังไปได้ไม่ไกลแน่ ใครเจอมันก่อนกูมีรางวัลห้าแสนบาทไปได้แล้ว ไป!"
บางครั้งสิ่งที่ทำให้คนลืมกลัวตาย ไม่ใช่ความกล้า ความเสียสละ หากคือความโลภ...

ใบหน้าหวาดหวั่นตัวสั่นเมื่อครู่จางไปจากหน้าสมุนทุกคนและถูกแทนด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม
ไม่กี่นาทีต่อมาดนัยก็รับรู้ว่าความได้เปรียบก็เริ่มเอนเอียงไปทางพวกมัน
เสียงยิงกันสนั่นป่าเป็นสัญญานว่าตอนนี้เวลาของตำรวจหนุ่มกำลังเริ่มนับถอยหลัง

"ปัดโถ่โว๊ย ทำไมไม่กลัวตายกันบ้างวะ"
ดนัยโยนปืนกลค่ายโซเวียดยอดนิยมที่ไม่มีกระสุนทิ้งก่อนจะวิ่งซิกแซกหนีห่ากระสุนจากศัตรูอีกกลุ่มที่วิ่งไล่มาติดๆ เขากัดกรามกรอดแค่นสมองเปลี่ยนแผน ที่เขาย่องไปฆ่าพวกมันทีละคนไม่ใช่แค่ซ่อนตัว ใจจริงเขาหวังจะสร้างความกลัว ความหวาดระแวงให้ศัตรูจนไม่กล้าเคลื่อนไหวผลีผลามกดดันพวกมันด้วยความตายอันเงียบเชียบพวกมันจะต้องเคลื่อนไหวช้าลง แต่อยู่ดีๆพวกมันก็เลิกกลัวหันมาวิ่งไล่ฆ่าเขาแบบไม่แคร์โลกแคร์ชีวิต

ดนัยเสียดายที่ไม่ได้หัดทำกับดักในป่าจากสมิงมาด้วย ตอนนี้เขาเลยทำได้แค่วิ่งไปตามจุดซ่อนปืน คว้าปืนออกมา ยิงสู้จนกระสุนหมด แล้วก็วิ่งไปอีกจุดและถ้าดนัยปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่นานเขาก็จะไม่มีปืนไว้ต่อสู้อีก แต่ที่แย่คือตอนนี้เขายังนึกวิธีพลิกเกมไม่ออกนี่สิ ไม่ได้เขาจะไม่ยอมตายตรงนี้แน่

เขากระโดดเขาพุ่มไม้หลบลูกตะกั่ว คลานไปคว้าลูกซองออกจากหลุมพอดีกับที่วายร้ายวิ่งเข้าใส่แบบไม่ระวังเพราะชะล่าใจ ดนัยกลิ้งตัวหลบกระสุนจากมันและตวัดปืนจับเป้าที่กลางลำตัวนิ้วเหนี่ยวไกทันที
โป้ง!
ทรวงอกมันแทบทั้งซีกถูกเป่าด้วยฤทธิ์ลูกซองในมือถีบร่างมันปลิวกลับไปหยาดเลือดเศษเนื้อกระเซ็นไปทั่ว ดนัยยังคงซื้อเวลาต่อความตายได้อยู่พักเขาตะกายลุกขึ้นมาหลบหลังต้นไม้ ก่อนต้นไม้ที่ดนัยแอบจะพรุนจากปืนหลายกระบอก
ดนัย: "เหี้ยๆๆ แมร่งมีกี่คนวะตายห่ายากเย็นนักนะพวกมึง ตายไปให้หมด!"
ดนัยโดนยิงถล่มบีบให้จนตรอก เขาคำรามอย่างบ้าเลือดล้วงระเบิดมืออันแสนล้ำค่าออกมาแจกจ่ายสัมนาคุณคืนแก่พวกมัน

ดนัยไม่รอดูผลงานทันทีอาวุธลับทำงานเขาก็โกยหนีทันที

ตูมมมม!
เสียงระเบิดแว่วมาถึงมายด์ที่ตอนนี้พึ่งนั่งพักเหนื่อย เธอถึงสะดุ้งหลับตาด้วยความหวาดกลัว
เธอมองกลับไปทางที่พึ่งเดินมา อดคิดไม่ได้ว่าระเบิดที่ได้ยินอยู่ตอนนี้ใครเป็นคนใช้มัน เธอได้แต่ภาวนาให้ดนัยเป็นคนที่ใช้ระเบิด เธอกลั้นใจเก็บน้ำที่ใกล้จะหมดกระติกและออกเดินทางต่อ ยิ่งเธอหนีไปไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับดนัยเท่านั้น เธอรู้แก่ใจว่านอกจากเป็นตัวถ่วงแล้วเธอก็ช่วยอะไรดนัยในตอนนี้ไม่ได้เลย สิ่งทำได้ตอนนี้คืออย่าไปเกะกะดนัย เธอพยายามคิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยเธอก็ไม่ถูกใช้ล่อเขาออกมา

มันแน่นอนมากๆว่าดนัยจะต้องมาช่วยเธอแม้จะรู้ว่าเป็นแผนของพวกคนเลว
เธอคือจุดอ่อนของเขา เพราะฉะนั้นเธอทำได้ดีที่สุดคือไม่สร้างภาระเพิ่มให้ดนัยอีกและรีบไปหาคนมาช่วยดนัยให้ทันเวลา หญิงสาวเดินจ้ำๆแม้จะหายใจหอบแฮ่กๆ เธอไม่ใช่สาวแกร่งอะไรแต่ด้วยแรงใจเธอถึงฝืนสังขารลากตัวเองให้เดินต่อไปเรื่อยๆ
ในที่สุดเธอก็ต้องนั่งพักอีกรอบ เธอนอนราบลงกับแผนหินเรียบที่อยู่ใกล้ๆ หอบหายใจเอาอากาศชดเชยให้ร่างกาย

เธอน่าจะมาไกลพอแล้ว คงน่าจะพักบ้าง จริงๆเธอก็เต็มกลืนแล้วสำหรับสภาพร่างกายลูกไฮโซแบบเธอ
มายด์พักพอหายเหนื่อยก็กำลังจะลุกขึ้นนั่งแต่ทว่าก็มีมือกร้านจับเธอกดนอนลงไป ที่น่าตกใจคือมันมีมากกว่าคนเดียวและยังเข้ามาใกล้เธอได้ถึงขนาดนี้

มายด์ดิ้นรนสุดชีวิต คำถามในหัวคือเธอทนเดินมาต้องไกลทำไมพวกมันตามเธอมาได้ทัน? เจ้าหญิงเมืองกรุงย่อมไม่รู้ว่าไอ้ที่ไกลของเธอสำหรับพรานหม่องมันก็คือเดินเล่นเท่านั้น
ที่จริงพวกมันเฝ้าดูเธอมาครู่ใหญ่ พอเห็นว่าเธอจะลุกก็ชิงจู่โจมทันที

 

และสำหรับชาวป่ากันดารแบบมันนางฟ้านางสวรรค์แบบมายด์ก็ล้ำค่ายิ่งกว่าเพชร เธอสวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านมือมันรวมกันเสียอีกนั้นทำให้เฒ่าหื่นตละสุดๆ
พรานม่อง: "งามป๊านนางเอ๊กละคร งามยังกั๊บนางไม๊ กูลุยละเจ้าป่าเอ๊นดูกูแท้ๆ"

ชายวัยดึกตะกายคล่อมร่างมายด์แบบไม่รีรอ ลูกมือทั้งสองก็ได้แต่มองตาละห้อยเพราะเสียดายแต่ก็ไม่กล้าแซงคิวลูกพี่
มายด์: "โอยยย ปล่อยยยย ปล่อยนะไอ้บ้ากาม"
เธอพยายามบิดตัวปิดซอกคอหนีลมหายใจเน่าๆกลิ่นเหงื่อเหม็นอับทำให้เธอหน้ามืดแทบเป็นลม แต่สำหรับพรานเฒ่าร่างเธอนี่มันราวกับฝัน ตามันเบิกโพล่งเมื่อสูดกลิ่นกายหอมๆจากตัวเธอ แค่กลิ่นกายร่างไอ้แก่คนนี้ก็ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที เรือนร่างอ้อนแอ้นนุ่มนิ่มโดนมือหยาบลูบไปมาก่อนจะขย้ำทรวงอกเธอเต็มแรงไม่สนว่าเธอจะเจ็บแค่ไหน มันขย้ำได้ไม่นานตาเฒ่าพรานพม่าก็ตบะแตก มันลุกขึ้นถอดผ้าออกทันที

"หยุดนะไอ้พราน มึงถอยออกมา"
ไอ้ต้นชี้ปืนกลมาทางแก๊งค์พรานบ้ากามทั้งสามแต่แทนที่พรานวัยเก๋าจะตื่นกลัวมันกลับคว้าปืนขึ้นมาเล็งกลับไป เมื่อลูกพี่เปิดลูกน้องก็ยกปืนตาม ต้นที่มากับคนสนิทวชิระอีกคนแม้อาวุธจะดีกว่าแต่ก็เสียเปรียบอยู่เรื่องจำนวน ก่อนที่สถานการณ์จะเครียดจนมีใครยิงกันให้เสียเรื่องต้นก็เริ่มต่อรองกับพรานหม่องแทน

ต้น: "พราน พรานรับเงินฉันแล้ว พรานต้องฟังฉันสิ"
ต้นตัดสินใจลดปืนลง และพูดจาดีๆน้ำเสียงสุภาพกับพรานม่อง มันยอมเสียเงินอีกนิดเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกจ้างรายนี้
พรานระยำพวกนี้ยังจำเป็นกับพวกเขาอยู่ในตอนนี้ เก็บมันไว้ก่อน
พรานหม่อง: "ไม่ นางค้นนี๊สะสวย กูจะเอามันทำเมีย"
พรานหม่องที่หื่นจนไม่ฟังเหตุผลใดๆ มันรู้ว่าโอกาสจะได้คนสวยๆครั้งนี้มีครั้งเดียวเท่านั้น

ต้น: "อีกสามหมื่น ว่าไงลุง ห้าหมื่นเลยก็ได้ เราลากอีนี่ไปสนุกกันหลายๆคนดีกว่า อย่าอุบไว้คนเดียวสิ"
มายด์: "สนุกบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ"
พรานหม่องที่คิดคำนวณความคุ้มหันไปตบหน้าเธอจังๆ
พราน: "อย๊าปากมากนั๊งนี่"

ต้นยกปืนขึ้นอีกครั้ง
ต้น: "หนึ่งแสนหรือตาย!! เลือกมาชั้นยอมลุงมากแล้วมาก ตัดสินใจเอา"
มันยอมทุนเงินแสนเพื่อให้ได้เด็กสาวคนนี้ แม้ใจจริงมันจะเล็งน้องไหมเพื่อนสนิทมายด์ไว้ แต่ได้มายด์ก็ถือว่าบุญหล่นทับแล้ว แถมอนาคตมันอาจจะใช้มายด์ลวงไหมมาให้มันได้ลุงทุนคราวนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม

พรานเฒ่าคิดอยู่นานก็ผงกหัวอย่างไม่สบอารมณ์นัก มันเองก็ไม่อยากเสี่ยงกับอีกฝ่ายได้เงินเพิ่มดีกว่าต้องตายในป่าอยู่แล้ว พวกมันดึงมายด์ขึ้นมาก่อนจะมัดมือและบังคับให้เธอเดินตามไป

ดนัยนั่งพิงก้อนหินหยิบกระสุนบรรจุปืนกลที่เอาแอบไว้ สายตาเหลือบมองทรชนที่ตั้งแนวรอถล่มเขาอยู่ เขาใช้กระสุนและปืนที่เตรียมมาเกือบจะหมดแล้ว แต่ก็สังหารศัตรูได้อีกแค่สองสามคน
เขาคงยังแกร่งไม่พอที่จะปราบพวกมันจริงๆคิดแล้วก็เจ็บใจตัวเอง

ขณะที่นั่งอับจนหนทางอยู่เสียงขากฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นมา
วชิระ: "อ้าว พ่อตำรวจคนเก่ง ทำไมเงียบไปละเก่งไม่ออกละสิมึง"
ดนัย: "ใครจะเก่งแบบมึงละ ยืนเห่าท่ามกลางลูกน้อง เก่งจริงๆเลย"
เขาตะโกนเย้ยมันสวนกลับ พยายามมองหาหัวหน้าศัตรู ฆ่าไอ้นี่ได้ที่เหลือไม่ใช่ปัญหาแน่ๆ แต่อยู่ดีๆมันกลับโผล่ออกมายืนเท่ห์ๆในที่โล่งซะงั้น เขากระชับปืนแน่นระยะแค่นี้ไม่มีทางที่มันจะรอดแน่ ฆ่าไอ้เวรนี้ก่อนคือปลอดภัยสุด ผู้ชายคนนี้มีบางอย่างอันตรายสังหรณ์เขาบอกแบบนั้น

แต่ในจังหวะผลิกตัวออกไปเป่ากระโหลกวชิระที่เตรียมพร้อมก็กดเปิดลำโพงวิทยุทันที
วิทยุ: "ปล่อยฉัน ไอ้พวกบ้านี่ โอยยย...."
เสียงของมายด์ทำให้เขาชะงักไป วชิระจึงกระโดดพุ่งตัวหลบกระสุนได้ทัน แม้ดนัยจะกวาดปืนกราดตามแต่ก็ไม่ได้ถูกมันแม้แต่น้อยซ้ำยังเปิดเผยตำแหน่งให้เพรชฆาตของทางฝั่งมันลงมือได้

ฟู่....ฟิ้ววววว
จรวดRPG วิ่งฉิวมายังดนัย ควันจรวดสีขาวเห็นเป็นเส้นชัดเจน
บรึมมมมม!!

โชคดีของดนัยคือคนยิงไม่ชำนาญจากที่เขาต้องร่างแหลกเหลวจึงแค่โดนแรงระเบิดปลิวเท่านั้น แต่ลำพังแค่นั้นดนัยก็เซซวนลุกกระเสือกกระสนฝืนความมึนงงหนีเข้าดงไม้อีกครั้ง
วชิระ: "ไอ้ควาย ยิงพลาดได้ไงวะ ไปๆตามไปฆ่ามัน"
วชิระเดินตามลูกน้องไป ยังไงมันก็ไม่โชคดีทุกครั้งหรอก อีกอย่างตัวประกันก็กำลังมาหาเขาแล้วชัยชนะของพวกมันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

แต่มันก็คิดผิดอีกครั้ง
เมื่อมันไม่สามารถเผด็จศึกดนัยลงจริงอยู่เขาล้อมมันไว้ได้แล้ว แต่การฆ่าตำรวจคนนี้ก็เป็นอีกเรื่อง ตอนนี้ดนัยพึ่งฆ่าคนของมันไปอีกสามจากกันปะทะกันจังๆ เมื่อดนัยหนีไปเจอกับลูกน้องมันเรื่องมันจะจบที่คนของตายหรือเจ็บและส่วนดนัยก็ตีฝ่าหนีหายไปทุกครั้ง

"แฮ่กๆ"
ดนัยยืนพิงต้นไม้มองบาดแผลตามตัวของตัวเอง จริงอยู่ที่เขาจะยังคงรอดและทำลายพวกมันไปได้เรื่อยๆ แต่สิ่งที่เขาต้องยอมรับคือบาดแผลที่เต็มตัวที่ได้รับทุกครั้งที่ปะทะ แม้จะยังไม่มีแผลใหญ่ฉกรรจ์ก็ตาม แต่สภาพตอนนี้ดนัยตอนนี้ก็ไม่รู้จะกล้ำกลืนทนไปได้อีกนานแค่ไหน

ดนัยถือมีดในมือซ้ายมือขวาหยิบปืนที่ขโมยจากศพออกมา พวกมันกำลังวิ่งมาทางเขาอีกครั้งไม่มีทางที่เขาจะซ่อนพ้นสายตา ดนัยสูดหายใจเข้าออกลึกๆคล้ายเข้าสมาธิ พอได้ระยะเขาก็เพิกตาโพล่งพร้อมกับจิตสังหารที่พุ่งออกมา ร่างดนัยหมุนตัวออกไปยิงใส่สองคนที่อยู่ใกล้สุด พร้อมกับพุ่งร่างไปหาเหยื่อที่ใกล้ที่สุด
สวบบบ! คมมีดทะลุคอเหยื่อรายแรกทันทีวินาทีต่อมาศพที่ถูกยิงก็ล้มฟาดพื้นดังโครม ดนัยดันร่างที่กุมคอใส่พวกมันอีกสองคนที่ยกปืนขึ้นจะพยายามยิงเขา แต่ด้วยร่างเพื่อนก็ถูกดันถอยมาหาทำให้พวกมันเล็งไม่ได้ ดนัยจึงประชิดสองคนที่เหลือได้

ตำรวจหนุ่มกระโดดจ้วงแทงเต็มแรง ทว่าเหยื่อคมมีดเอี้ยวตัวหลบพ้นหวุดหวิด ดนัยเสียจังหวะเพราะโจมตีพลาด แต่เขายังตั้งตัวทันและก้มหลบพานท้ายปืนที่ฟาดใส่หน้าได้ ดนัยสบช่องตวัดมีดใส่ข้อมือมันแทน โจรชั่วทิ้งปืนกุมข้อมือด้วยความเจ็บปวด เลือดสดๆไหลรินจากปากแผลมันแผดร้องและถอยเซออกไป ดนัยสะบัดมือมาจับมีดแบบเขาคมมีดลงด้านล่างเงื้อและแทงไปที่กลางหัวมันทันที

แต่เขาก็โดนตีนโจรอีกคนที่ลุกมาทันฟาดแตะไปที่กลางอก มันรีบโยกตัวตามมาซัดหมัดที่หน้าดนัยทันที แต่ดนัยที่กำลังเซเสียหลักก็เอี้ยวคอปล่อยให้หมัดมันถากหน้าไป และเมื่อยันตัวตั้งหลักได้เขาก็ตอบแทนด้วยศอกที่ฟันเงยคืนไปที่ปลายคาง มันที่รั้งแขนมากันไม่ทันก็หน้าหงายผงะขึ้น สบไม่รอช้าเมื่อเห็นโอกาสมีดในอีกมือกรีดลำคออีกฝ่ายทันที

ดนัยไม่รอดูมันขาดใจ เขาก้าวเท้าไปหาแดนคนที่ยังรอดอยู่ทันที มันที่พยายามห้ามเลือดที่ข้อมือที่ดนัยตัดเส้นเลือดใหญ่ไปเมื่อครู่ พยายามคลานหนีดนัยด้วยความกลัวตาย

ปังๆๆๆๆ
วชิระรำลูกน้องอีกสามคนมาทันกราดยิงไปยังดนัยทันทีตำรวจจนตรอกต้องวิ่งหนีอีกครั้ง แต่รอบนี้กระสุนนัดหนึ่งทะลุน่องซ้ายเขา ดนัยร้องออกมาก่อนจะเซล้มลง เขากัดฟันหันมายิงปืนพกสกัดพวกมันก่อนจะลุกวิ่งหนีไปอีกครั้งโดยที่ไม่มีใครตามทัน

อีกมุมหนึ่งในป่าหน่วยของผู้การในชุดพร้อมรบเดินมุ่งหน้าไปยังจุดที่ได้รับรายงานว่ามีควันไฟในป่าออกมา นี่ไม่ใช่ฤดูแล้งเพราะฉะนั้นต้องเป็นระเบิดแน่ ในที่สุดเขาก็เจอไอ้จืดน้องรักแล้ว

คนคุมทีมด้านนี้คือเข้มนั่นเอง เขาจ่าดำสมิงอินทรีพร้อเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกสามคนรีบก้าวขายาวๆเร่งฝีเท้าสุดฤทธิ์
เขาน่าจะอยู่ใกล้ดนัยที่สุดแล้ว เขามั่นใจในฝีมือลูกน้อง แต่เพราะว่ารู้จักฝีมือมันดีเขาเลยยิ่งต้องรีบ ดนัยเก่งพอจะฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ถ้าสถานการณ์และอาวุธพร้อม แต่เขาเจอร่องรอยว่ามีคนบาดเจ็บ และวิธีทำแผลที่เนียบทั้งฆ่าเชื้อล้างแผลอย่างดีคนเจ็บย่อมไม่ใช่มายด์ พวกเขาไม่ละเอียดอ่อนขนาดนี้แน่ๆ ด้วยเหตุผลที่ดนัยบาดเจ็บทำให้ดนัยไม่มีทางรอด

"ห่วงไอ้หนูมันเพราะเรื่องนั้นสินะครับผู้กอง"
จ่าดำที่เดินตามมาติดๆ พูดขึ้นอย่างรู้ใจ
เข้มผงกหัวรับเบาๆ
อินทรี: "ผมห่วงพวกมันมากกว่า ไอ้จืดแปลงร่างเมื่อไหร่ป่าแตกแน่ๆ คนอะไรน่ากลัวชิบ"
เข้ม: "แต่ถ้ามันฆ่าไม่ทันเวลา มันไม่มีทางรอดแน่ กูละปวดหัวกับพรสวรรค์ประจำตระกูลมันจริงๆ"

เขาย้อนนึกถึงตอนฝึก
หลังจากลงเขามาดนัย สมิง อินทรี รวมถึงคนอื่นๆต้องฝึกเข้มข้นทั้งยิงปืน การต่อสู้และทักษะจำเป็นอื่นๆ
ในการฝึกการต่อสู้มือเปล่า แน่นอนว่าเข้มและจ่าดำเป็นครูฝึก อินทรีทดสอบไม่นานก็ผ่านเกณฑ์ได้ไม่ยาก

แต่ดนัยกับสมิงชีวิตช่วงนั้นเรียกว่ารัดทดสุดๆ
สามวันแรกดนัยต้องเผชิญหน้ากับจ่าดำที่เคยรุมกันสามคนยังหืดจับ เจอกันตัวๆเขาก็กระสอบทรายให้จ่าดีๆนี่เอง นับวันด่าจำยิ่งลงมืดหนักขึ้นๆราวกับจะฆ่าเขาให้ได้ พอเขาดิ้นรนจนพ้นสามวันคนที่มาเปลี่ยนกับเป็นพี่เข้มตัวใหญ่คนเดิม สามวันที่แล้วกลายเป็นสวรรค์ไปเลย

ดนัยหวดหมัดซ้ายขวาตามด้วยหมุนตัวฟันศอกอย่างคล่องแคล่ว แต่นั้นไม่แม้จะโดนตัวผู้กองร่างยักษ์มิหนำซ้ำพี่แกยังแทงเข่าสวนอย่างสวยงามจนดนัยลงไปนอนกุมอกดิ้นพราดๆ แต่ไม่มีคำว่าปราณีเข้มตอกสันเท้าฟาดใส่กลางหน้าดนัยทันที ดนัยรีบกลิ้งหมุนตัวลุกถีบเด้งตัวออกมาตั้งหลักทันที แต่เข้มก็อ่านทางออกและพุ่งตัวตามมาทันทีก่อนปลายตีนพี่ชายตัวใหญ่จะฟาดเสยหน้าเขาส่งสติเขาให้บินหายไปทันที

เข้มมองดนัยที่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางสบายๆหายไป ดนัยลุกขึ้นคำรามออกมาราวสัตว์ป่า ก่อนพุ่งใส่ตรงๆเข้มออกหมัดตรงสวนไปแต่หมัดที่ควรโดนกลับไม่โดน หากในสายตาเขาที่เห็นทุกอย่างชัดเจนเสมอเห็นได้ชัดเลยว่าก่อนมือเขาจะโดนเป้าดนัยก็พลิกตัวหลบอย่างผิดธรรมชาติ
เข้มรัวหมัดใส่อีกหลายหมัดแต่ไม่โดนเต็มๆเลยมีแค่เฉียดกับถาก เขาเคยคิดว่าดนัยปฎิกริยาตอบสนองไวเหนือมนุษย์ แต่หลายครั้งมันก็ไม่สามารถหลบของที่เขวี้ยงใส่มันทันบ้าง รับของที่โยนให้ไปไม่ทันบ้าง
เข้มจึงรู้ว่าดนัยไม่ได้มีสุดยอดปฎิกริยาตอบสนอง แต่ดนัยมีสิ่งที่เรียกว่าสุดยอดสัญชาตญาณในตัวต่างหาก

เป็นเหตุผลที่ดนัยบังคับมันไม่ได้ทั้งหมดเพราะมันไม่เหมือนกับพวกเขา มันผิดกับเขาที่มีสายตาที่พิเศษ ซึ่งเขาต้องพยายามมองวัตถุเร็วๆจนมันค่อยๆช้าลงในสายตาเขา ผิดกับอินทรีที่ทำทุกอย่างพร้อมกันได้สองอย่าง สมิงที่มีปฎิกิริยาไวผิดมนุษย์

สัญชาตญาณมันอยู่นอกการควบคุมของสมอง ไม่อาจควบคุมได้หมด แต่ในเมื่อผู้การสั่งลงมาให้ฝึกดนัยให้ได้สำเร็จ เขาเลยอาศัยให้ร่างกายของดนัยโดนเคียวกร่ำอย่างแสนสาหัสกระตุ้นสัญญาณเบื้องลึกให้ตื่นออกมามากขึ้น ให้ร่างกายคุ้นชินมากขึ้นโดยวิธีที่เขาเห็นว่าได้ผลสุดคือกระทืบให้ดนัยร่วงลงไปหลายๆรอบ มันก็จะเจอโหมดสัญชาตญาณแบบนี้เอง ยิ่งโหมดนี่ออกมาบ่อยยิ่งร้ายกาจขึ้นอันตรายขึ้นบ้าเลือดขึ้น

เข้มหวดเตะตัดขาดนัยเปลี่ยนมาบุกดนัยคืนบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับกระโดดลอยตัวถีบขาคู่เต็มอกเขาแทน เข้มเซจนเกือบล้มดนัยที่ลุกขึ้นเร็วกว่าก็พุ่งหาเข้มราวผีร้าย แต่ก่อนที่ผู้กองหนุ่มจะโดนเอาคืนดนัยก็ร่วงลงไปนอนนิ่งราวถ่านหมด
เข้มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะยกนาฬิกาดูเวลา
เข้ม: "คราวนี้นาทีครึ่ง แต่ความเร็วทุกด้านเพิ่มราวเท่าตัวแล้ว เอ็งเป็นตัวอะไรวะไอ้จืด"

ดนัยไม่อาจคุมสัญชาตญาณได้ สัญชาตญาณเองก็ไม่อาจตอบสนองต่ออันตรายได้นานนัก เข้มเองก็ไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะได้ผล เขาหวังแค่ว่าสัญชาตญาณกับดนัยจะปรับเข้าหากันได้เรื่อยๆผ่านเหตุอันตรายที่บีบคั้นดนัย นี่คือเหตุผลที่เขาต้องใส่สุดแรงในการฝึกดนัยและเขาต้องลงมือให้หนักขึ้น

"นี่มันอะไร?"
ดนัยมองสภาพสนามซ้อมที่เสียหาย รอบด้านมีเข้ม จ่าดำและอินทรียืนจ้องเขาอย่างระวังตัว ตามตัวมีร่องรอยแผลจากการต่อสู้ตามตัว นี่คือวันฝึกวันสุดท้าย สามคนรุมยำดนัยจนสลบแบบทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับครึ่งหลับครึ่งตื่น เขารู้ว่าเขาที่ไม่อาจสู้1ใน3คนรอบตัวได้แค่ เขารู้สึกว่า ไม่สิเขารู้ว่าเขาเป็นคนทำ แค่เขาไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร

เข้ม: "ได้ผลจริงๆด้วย เริ่มคุมได้แล้วสินะ แมร่งทำไมยากนักว่าเรื่องมึงเนี่ย"
ดนัย: "นี่ผมสู้สามคนพร้อมกันได้! ได้ไงวะ?"
ดนัยมองสภาพร่างกายที่แทบจะหาจุดที่ไม่บาดเจ็บไม่เจออย่างงงๆ
อินทรี: "มึงน่ากลัวจริงๆวะ มันคล้ายตอนนั่นไง ที่มึงล้มกูด้วยดาบอะ บนเขาจำได้มั้ย"

เข้ม: "งั้นแสดงว่าไม่ใช่ควบคุมไม่ใช่ แค่เราพยายามผิดวิธีเหรอ?"
เข้มกอดอกมองอินทรีสลับกับดนัยพยายามใช้ความคิดสรุปผลออกมา
จ่าดำ: "ผมว่าเรามาถูกทาง ผู้กองเห็นแล้วนิว่าไอ้หนูนี่มันค่อยๆชินกับสภาพนั้นได้แล้ว ไม่งั้นเราจะเหนื่อยกันถึงขนาดนี้เหรอ"
คนที่แก่สุดปาดเหงื่อขณะพูด
ดนัย: "อย่าพูดกันรู้เรื่องอยู่สามคนสิครับ นี่สรุปฝึกอะไรให้ ผมเก่งขึ้นขนาดนั้นได้ไง"

เข้ม: "แกบอกฉันว่าแกมักเคลื่อนที่ไวกว่าคนอื่นใช่มั้ย แกมันก็ไม่ใช่ทำได้ทุกครั้ง ฉันก็เลยคิดไปดูมันก็สรุปได้ว่าแกไม่ใช่พวกปฎิกริยาตอบสนองไว แต่แกมีสัญชาตญาณ เออ.... อธิบายไงดีวะ?"
เข้มหันไปมองจ่าดำขอความช่วยเหลือ
จ่าดำ: "สรุปคือผู้กองบอกว่า เอ็งเซ็นต์ดี ดีจนร่างกายไม่อาจตอบสนองทัน เอ็งจะไวต่ออันตรายเท่านั้น อะไรที่ไม่มีอันตรายสัญชาตญาณเอ็งจะไม่ตอบสนองพวกข้าเลยต้องรุมกระทืบเอ็งบีบให้ไอ้เซ้นต์บ้าๆในตัวทำงานบ่อยๆ ร่างกายจะได้ชินไง"

ดนัย: "วิธีบ้าอะไรวะ นี่กระทืบกันเห็นๆ โอยยยย นี่ซี่โครงร้าวปะวะกู"
ดนัยที่เปลี่ยนจากยืนทรุดลงไปนั่ง เห็นได้ชัดว่าสภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว

อินทรี: "ตอนนั้นในป่ามึงใช้วิชาดาบสุดท้ายชนะได้ยังไง มันคล้ายกันมากนะ"
ดนัย: "วิชาดาบของปู่วะ เห็นว่าสืบสายมาจากเจ้านายซักพระองค์ แบบเอาเพลงดาบหลายแบบมาประยุกต์แล้วก็สืบกันมาเรื่อยๆ จนแทบจะไร้คนสืบต่อ พ่อกูก็ฝึกไม่ได้ ปู่บอกว่าพ่อไม่มีคุณสมบัติจะฝึก"

ดนัยทรุดนั่งลงและค่อยเล่าต่อไป
เข้มสบตากับจ่าดำคล้ายมีคำถามในใจ
ดนัย: "เอาจริงวิชาที่กูสืบมาก็ไม่สมบูรณ์ กูโดนปู่จับฝึกตอน 8-9 ขวบมั้ง ปู่ก็เสียวิชามันก็เลยเลือนๆไปบ้างแล้ว"
เข้ม: "คุณปู่ได้บอกมั้ยว่า คุณสมบัติที่ปู่ต้องการคืออะไร"
ดนัย: "ท่านบอกเป็นโคลงกลอนครับ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจเลยจำไม่ได้"
ดนัยยิ้มแห้งให้คนรอบๆ จ่าดำส่ายหัวลุกเดินออกไปอย่างเซ็งๆ
อินทรี: "ฟังต้องนานไม่ได้ไรเลย มึงนี่นะ"
อินทรีตบหัวดนัยทีนึงและเดินตามจ่าดำไป
เหลือแต่เข้มที่มองดนัยอย่างครุ่นคิด

เข้มหลุดออกจากภวังค์เมื่อวิทยุดังขึ้นมา
วิทยุ: "จากวังยักษ์ เครื่องเราน้ำมันใกล้หมดต้องออกไปจากพื้นที่ก่อน เราจะรีบกลับมา"

ดาบชัย: "น้ำมันหมดตอนนี้เนี่ยนะ กำลังจะขอให้ไปดูลาดเลาก่อนซะหน่อย"
เข้ม: "งั้นเราก็เลิกบ่นและเร่งฝีเท้าขึ้นอีก"
บิ้ก: "ไปช่วยคนของเราออกมาให้ได้กันเถอะ"
ทุกคนมุ่งหน้าเต็มฝีเท้าทันที


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

thesee

#1
สภาพมายด์จะเปนไงบ้างนะ @_@




ขอฝากคำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

Pong Pan

อยากให้ มีฉากสยิวคู่  เข้ม กับ เลนล์บ้างเลย

beeriero

มันสุดๆตอนนี้อยากอ่านตอนต่อเร็วๆจัง เลยไรต์สุดหล่อ

zero009

น้องมายเมื่อไรจะสมหวังกับดนัยซะที

ปรีชา เกตุสวัสดิ์


sunnyman

ขอบคุณมากครับ สนุกตื่นเต้น ลุ้นระทึกเช่นเคยครับ (แต่เหมือนลืมใส่ชื่อเรื่องรึเปล่าครับ)

ktbb1966

ดนัยไม่รีบไปช่วยมายด์ๆเสร็จไอ้ต้นแน่

Peera canalitartis

อยากสมหวัง??? ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ไรต์ จงชาบูวววว  ::Thankyou::

Suchart Thanee

รอติดตามน้องมายด์จะเสดสมหวังเมื่อไร เอาใจช่วยดนัยด้วยครับ

tameable

เพิ่งอ่านครั้งแรก เขียนได้สนุกมากครับ

minky way

มิน่าล่ะ สงสัยว่าทำไมดนัยถึงรอดจากการฝึกโหดและเหตุการณ์เสี่ยงตายจากการปฏิบัติการได้ เล่นมีสกิลพิเศษในตัวเองนี่ แต่ก็ยังช่วยให้ได้แอ้มสาวมายด์ไม่ได้เสียที พยายามต่อไปนะดนัยนะ

sun_307

น้องมายด์ผิดหวังแน่เลย ดนัยดันเสร็จก่อนเสียบ

tooboy

นี่จะสงสารหรือขำดนัยเนี่ย ล่มอีกละ

3hman

ถึงคราวซวยจริงๆแล้วนางเอกเรา จะรอดไหมเนี่ย