ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กังปัง ตะลุยยุทธภพ ตอนเหล่าคนพิสดารในบู๊ลิ้ม

เริ่มโดย cobra, กุมภาพันธ์ 06, 2019, 12:49:03 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cobra

ก่อนอื่นต้องขอไว่อาลัยให้กับปรมจารย์กิมย้งที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นผู้ประพันธฺเรื่องมังกรหยกอันเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนนำมาสร้างสรรค์ต่อไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ท่านแต่อย่างใด ด้วยความรู้สึกชื่นชมมากกว่า และขอโทษท่านผู้อ่านที่หายไปนานด้วยมีปัญหาส่วนตัวไม่ได้น้อยใจตามที่บางท่านอาจเข้าใจผิด
เรื่องนี้ผู้เขียนอาจเขียนไม่จบด้วยจินตนาการมาได้เพียงครึ่งเรื่องแต่จะพยายามเขียนนำมาเสนอ ด้วยตั้งใจจะเปิดแนวใหม่ของนิยายกำลังภายใน ซึ่งอาจมีผู้ประพันธ์แนวนี้ออกมาเช่นกันอาจไปซ้ำได้(รางวัลโรเบลยังมีผู้คิดซ้ำกัน โดยไม่ได้ลอกเลียนกัน)
อย่างไรก็ตามผู้เขียนได้นำแนวคิดมาจากหนังซีรีย์ฝรั่งเรื่องดังเรื่องหนึ่งมาดัดแปลงโดยจะเขียนแบบซี่รีย์เช่นกัน
เรื่องกังปังตะลุยยุทธภพ เป็นเรื่องต่อจากเดชคัมภีร์นางฟ้า ภาคนี้กังปังจะได้พบกับคู่หูคนใหม่ ส่วนเป็นใครลองติดตามดูครับ
อาจไม่มีภาพประกอบเพราะภาพประกอบอยู่ในคอมฯอีกเครื่องไม่มีโอกาสไปเอาแต่จะพยายามหาภาพประกอบใหม่ในตอนต่อไป เชิญหาความสำรสญจากเนื้อเรื่องได้ครับ

กังปัง ตะลุยยุทธภพ ตอนเรื่องคนพิสดารในบู๊ลิ้ม
หลังจากที่กังปังได้หลบหนีลงจากเขาง่อไบ๊ไปแล้วกว่าหนึ่งเดือน ง่อไบ๋กลับยังไม่มีเบาะแสใด
ทางสำนักง่อไบ๊ถึงกับต้องมีการประชุมใหญ่ทั้งสำนักอย่างไม่เคยมีปรากฎมาก่อนในรอบหลายร้อยปีก็ว่าได้ แม้ว่าสำนักง่อไบ๊ต่างมีความสามัคคีกลมเกลียว แต่ก็เป็นความรับผิดชอบของแม่ชีอุงหลิงที่เป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันที่จะต้องจัดการเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้สงบราบคาบลงโดยเร็วไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิขิงสำนักที่มีรากฐานมากว่าหลายร้อยปี
ที่ประชุมต่างมีข้อเสนอต่างๆนานาที่เจ้าสำนักอุงหลิงรับไว้พิจารณา เมื่อเสร็จจากประชุม เจ้าสำนักอุงหลิงจึงขอหารือกับแม่ชีเฒ่าจือซือเหนียงและรองเจ้าสำนักตันหยงเพิ้มเติม
เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจที่มาของเรื่องดาบกระบี่มังกรหยกและเคล็ดลับวิชาในนั้น จึงขอสรุปโดยย่อดังนี้
เมื่อครั้งเกิดศึกประชิดเมืองเซียงเอี้ยง อึ้งย้งและก๊วยเจ๋งได้คำนึงถึงว่าหากค่อไปเมื่อสิ้นแผ่นดินถูกต่างชาติยึดครอง วรยุทธก็จะพลอยสาปสูญไปเพื่อรักษาวรยุทธของตงง้วนไว้และนำกลับมากู้ชาติบ้านเมืองต่อไป จึงได้หลอมดาบกระบี่ขึ้นมาคู่หนึ่งคือ กระบี่อิงฟ้าและดาบฆ่ามังกร โดยต่างนำคัมถีร์วิชาฝีมือและตำราพิชัยสงครามของงักฮุยซ่อนเอาไว้
ต่อมาอึ้งย้งกลับพบเห็นจุดอ่อนว่าดาบและกระบี่มีขนาดเล็กเกินไปที่จะสามารถนำคัมภีร์วิชาต่างๆไปบรรจุซ่อนไว้ได้หมด จึงได้แต่คัดย่อใจความสำคัญไว้ แต่ก็เกรงว่าวิชาฝีมือมีความล้ำลึกยากฝึกเพราะขนาดได้อ่านเนื้อหาเต็มๆยังต้องใช้เวลาตีความ
เพื่อให้เข้าใจจึงฝึกออกมาได้ถูกต้อง ยิ่งมาย่อลงยิ่งไปกันใหญ่ อึ้งย้งได้ค้นพบวิชาพิสดารที่สามารถคัดลอกทั้งวิชาฝีมือและพลังวรยุทธประสบการณ์การฝึกปรือจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่งได้ แต่เนื่องจากเวลามีจำกัดข้าศึกเข้าโจมตีเมืองเสียก่อน อึ้งย้งยังไม่รู้หนทางถ่องแท้ที่จะนำสิ่งที่ตัวเองค้นพบไปคัดลอกให้ผู้อื่นได้อย่างไร และไม่มีเวลาพอที่จะถ่ายทอดสิ่งที่ค้นพบให้แก่ผู้อื่นทราบได้อย่างไรเพราะกำลังจะสิ้นใจ
จึงได้แต่สั่งเสียก๊วยเซี้ยงลูกสาวของตัวเองที่ต่อมาได้เป็นผู้ก่อตั้งสำนักง่อไบ๊ว่าตัวเองเป็นเสมือนตำราฝีมือเล่มหนึ่งให้หาหนทางนำออกมาใช้ให้ได้ อึ้งย้งสั่งเพียงเท่านี้ก็สิ้นใจลาจากโลกไป
ต่อมาก๊วยเซี้ยงพบว่าศพของอึ้งย้งแปลกประหลาดไม่เน่าเปื่อยหรือเปลี่ยนสภาพไปเลยคล้ายคนนอนหลับก็ไม่ปาน ก๊วยเซี้ยงจึงเก็บรักษาศพอึ้งย้งไว้ในสำนักง่อไบ๊ แต่จนแล้วจนรอดก๊วยเซี้ยงก็ไม่สามารถค้นพบวิธีนำวิชาฝีมือของอึ้งย้งที่ซ่อนไว้ในตัวออกมาใช้ได้ ด้วยไม่กล้าแตะต้องทำลายศพมารดาของตัวเอง จึงได้แต่บอกความลับนี้ต่อไปยังเจ้าสำนักรุ่นต่อไป
เรื่องนี้ความจริงเป็นเรื่องลับระหว่างเจ้าสำนักต่อๆมา แต่ตอนนี้ศพอึ้งย้งถูกทำลายไปหมดสิ้นแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องลับต่อไปเพียงแต่ทางง่อไบ๊ไม่รู้ว่าคนร้าย(กังปัง) ได้วิชาฝีมือใดไปจากศพอึ้งย้งกันแน่
"ตอนนี้เรามีเพียงเบาะแสอยู่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือคนร้ายใช้กระบวนท่าสิบแปดฝ่ามือสยบมังกร อันเป็นสุดยอดวิชาของพรรคกระยาจกเรื่องอื่นคงยังมืดแปดด้าน คงต้องสืบไปยังพรรคกระยาจกเป็นอันดับแรก ไม่ทราบนอกจากนี้ศิษย์พี่และท่านอาจารย์มีข้อเสนออื่นหรือไม่"
   (ผู้อ่านทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่ง่อไบ๋เท่านั้นที่ยังไม่รู้ จึงต่างคาดเดากันมั่วไปหมด)
เจ้าสำนักอุงหลิงขอความคิดเห็นไปยังแม่ชีเฒ่าและรองเจ้าสำนักตันหยง
"ดูเหมือนมันจะมีเบาะแสเบื้องต้นเพียงเท่านี้จริง แม่ชีเฒ่าชิงกล่าว ส่วนทางด้านแม่ชีตันหยงก็ไม่มีความเห็นใด
"ข้ามีคำถามคาใจอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกในที่ประชุมเอ่ยถึงชื่อ ติงซาน โดยผู้อาวุโสตึกตำราได้กล่าวขึ้นว่าอาจเป็นลูกศิษย์ของผู้นี้ได้หรือไม่ เพราะเราตรวจสอบแล้วเวรยามต่างๆ ไม่มีผู้ใดพบเห็นว่าคนร้ายขึ้นเขามาได้อย่างไร
   พอเจ้าสำนักกล่าวขึ้นพลอยทำให้สองดรุณีง่อไบ๊ที่เข้ามากับแม่ชีเฒ่าพลอยกระตือรือร้นสนใจรับฟังไปด้วย
   "ท่านติงซานเป็นหนึ่งในคนพิสดารที่คนกล่าวถึงกันมานาน ตัวข้ามีโอกาสได้พบอยู่ 2 ครั้ง ในช่วงเวลาต่างกัน ตอนที่ข้าอายุได้ 18 ปี กับตอนที่เป็นเจ้าสำนักง่อไบ๊ตอนอายุได้ 40 ปีเศษ แต่พบว่าท่านกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย"
"คนผู้นี้เดินทางไปทั่วประเทศไม่มีใครรู้ว่ายู่ที่ใด และมาจากค่ายสำนักใด สามารถไปมาได้ทุกที่โดยไร้ร่องรอยราวปีศาจ ดูเหมือนท่านอั้งชิกกงในอดึตจนทีแรกใครต่างนึกว่าเป็นคนของพรรคกระยาจก แต่ถูกปฎิเสธว่าไม่ใช่ ส่วนที่พิสดารคือคนผู้นี้คอยแต่เขียนหนังสือไม่เคยลงมือต่อผู้ใด และไม่ยอมช่วยเหลือใครแม้แต่เห็นใครกำลังจะถูกสังหารอยู่ตรงหน้า อ้างว่าตัวเองคือผู้บันทึกเรื่องในยุทธภพให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่สามารถช่วยใครได้เพราะจะทำให้ประวิติศาสตร์เปลี่ยนแปลง ผู้คนจึงขนานนามว่า บันทึกยุทธภพ"
   "หากไม่เป็นเพราะอาจารย์บอกว่าเคยได้พบคนผู้นี้ ข้าต้องนับว่าเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี ที่จะมีคนอะไรแปลกประหลาดดังนี้"
   แม่ชีตันหยงรองเจ้าสำนักอดไม่ได้ที่จะแทรกความคิดเห็นขึ้นมา ส่วนคนอื่นก็เห็นด้วยในใจแต่ไม่ได้แสดงความคิดใดออกมา
   "ประเด็นเรื่องท่านผุ้นี้อาจเป็นแค่ขอพิจารณาแต่อาจไม่มีความหมายใดกับคนร้ายในครั้งนี้ ส่วนอีกเรื่องที่ต้องขอความชี้แนะจากท่านอาจารย์คือ เรื่องที่ท่านพูดขึ้นตอนคนร้ายหนีไปว่า  หรือจะเป็นไปตามคำทำนายของเซี่ยวเซี่ยงจื้อ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีคำทำนายใดช่วยอาจารย์ให้รายละเอียดด้วยเถิด"
     "เป็นที่ทราบกันว่าเซี่ยวเซี้ยงจื้อเป็นพระที่ชอบวาดแต่ภาพเปลือย จนผู้คนนึกว่าเป็นพระลามก แต่จริงๆเซี่ยวเซี้ยงจื้อมีสมญานามว่า "ภู่กันปาฎิหารยฺ"
   "สืบเนื่องมาจากเซี้ยวเซี่ยงจื้อ เป็นคนมีพรสวรรค์ด้านการวาดรูปมาแต่เล็ก แต่ไม่ยอมเรียนหนังสือจึงอ่านตัวหนังสือไม่ออก เซี้ยวเซี่ยงจื้อทีแรกชอบวาดรูปสุตว์ สามารถวาดรูปสัตว์ได้ทุกชนิดทั้งๆที่ไม่เคยเห็น พ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไรไม่บังคับให้เรียนหนังสิอปล่อยให้วาดรูปไป เซี้ยวเซี่ยงจื้อ ไม่ยอมออกมาเล่นกับใครตามวิสัยเด็กทั่วไป เอาแต่วาดรูปอย่างเดียว จนวันหนึ่งด้วยความเป็นห่วงจึงไปดูปรากฎว่าเซี้ยวเซี่ยงจื้อ เปลี่ยนจากการวาดรูปสัตว์มาเป็นวาดรูปคนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แต่ทุกภาพล้วนแต่เป็นคนที่มีอยู่จริงภายในละแวกบ้านทั้งๆที่เซี้ยวเซี่ยงจื้อไม่เคยออกนอกบ้านแต่กลับวาดรูปผู้คนออกมาได้ถูกต้อง เพียงแต่ทุกรูปของที่วาดออกมาล้วนแต่เป็นภาพเปลือยทั้งสิ้น "
   แรกๆก็ยังไม่เอะใจเท่าไรคิดว่าเซี้ยวเซี่ยงจื้อเคยวาดแต่รูปสัตว์ที่ไม่มีเสื้อผ้าพอมาวาดรูปคนจึงไม่สวมเสื้อผ้าตาม แต่พอมาพิจารณาแล้วเห็นว่ารูปคนที่วาดล้วนมีสัดส่วนที่ถูกต้องจริงๆ"
อาจารย์เฒ่าหยุดไปชั่วขณะ สองดรูณีง่อไบ๊จึงนำน้ำชามาให้ท่านดื่มแก้กระหาย
   "นับว่าเป็นเรื่องประหลาดแล้วมาเกี่ยวข้องกับคำทำนายได้อย่างไร
รองเจ้าสำนักตันหยงอดถามไม่ได้
ต่อมาภายหลังบิดาของเซี่ยวซึ่ยงจื้อ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมือง (เทียบได้ประมาณนายสิบตำรวจปัจจุบัน)ได้รับคำสั่งให้สืบคดีลักทรัพย์คดีหนึ่ง เกิดมาเห็นรูปที่เซี่ยวเซี้ยงจื้อวาด เป็นรูปเมียน้อยและชายชู้ข้างบ้านกำลังร่วมประวณีกัน ที่แรกโกรธมากเพราะเห็นว่าเซียวเซี้ยงจื้อไปหัดวาดรูปลามกเหล่านี้มาได้ยังไง แต่พอดูไปดูมามันเกิดมาต้องกับรูปคดี เพราะในรูปต่อมาเป็นภาพเมียน้อยเปิดประตูให้ชายชู้มาขโมยของในห้อง ครั้นเอาภาพต่างๆมาปะติดต่อกัน กลายเป็นเรื่องที่เข้ากับเหตุการณ์ลักทรัพย์ที่สืบอยู่ จึงสามารถนำจับคนร้ายได้ พอสอบถามเซี่ยวเซี่ยงจื้อพบว่าภาพเหล่านี้ได้วาดก่อนเกิดเหตุเมื่อเดือนที่แล้ว จึงมีการทดสอบเซี่ยวเซี้ยงจื้อพบว่ามันสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าโดยเขียนมาเป็นภาพ กล่าวง่ายๆคือ เซี้ยวเซี่ยงจื้อสามารถวาดภาพอนาคตได้นั้นเอง"
ทั้งหมดพรับฟังถึงตอนนี้ต่างส่งเสียงกันอื้ออึงด้วยความประหลาดใจ
"ที่ข้าได้ยินมาว่าเซึ้ยวซึ้ยงจื้อได้บวชเป็นพระและถูกกักบริเวณอยู่แต่ในวัดด้วยเหตุใดกัน"
สาเหตุก็มาจากภาพวาดเช่นกัน เพราะเซี่ยวเซี้ยงจื้อวาดแต่ภาพผู้คนโดยไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ จึงทำให้ยากจำแนกว่า ในตอนนั้นคนได้ในเสื้อผ้าจริงหรือไม่ใส่กันแน่
เพราะบางทีก็ไปวาดภาพคนอยู่ในห้องกันสองต่อสองโดยมิได้ใส่เสื้อ หากเป็นเรื่องคนอื่นก็จะมองว่าดีตลกขบขัน แต่พอเป็นเรื่องตัวเองก็จะอับอายขายหน้า
"อืม...
ทุกคนฟังต่างยอมรับในข้อนี้
"และมีสิ่งที่คนต้องหวาดผวาคือ เซี่ยวเซี้ยงจื้อตอนวาดรูปคล้ายโดนผีเข้า ทุกครั้งที่วาดรูปปรากฎว่าเหมือนดวงตาดำของมันจะหายไปเหลือแต่เพียงตาขาวราวปีศาจ หากมีใครไปขัดขวางไม่ให้วาดรูปมันก็จะจ้องมองผู้นั้นด้วยเพียงตาขาวทั้งสองข้างเพิ่มความหวาดกลัวให้ผู้พบเห็น
มารดาเซี้ยวเซี่ยงจื้อหวาดกลัวจึงส่งลูกมาบวชที่เส้าหลิน แต่ก็ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมอันนี้ของมันได้ มิหนำซ้ำเซี่ยวเซี้ยงจื้อยังวาดรูปทั้งพระแม้กระทั่งเจ้าอาวาส อยู่ในภาพเปลือยทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่สำนักเราก็ถูกมันวาดออกมาเช่นกัน"
พูดถึงตอนนี้ทั้งเจ้าสำนักอุงหลิงและแม่ชีตันหยงต่างหน้าแดงขึ้นมา
ดังนั้นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินจึงไม่อยากให้เซี่ยงเซี้ยงจื้อออกมาข้างนอก หากไปวาดรูปพระกับนางชีอยู่ด้วยกันในรูปเปลือยคงไม่เหมาะสม จึงกักบริเวณให้วาดรูปอยู่แต่ผู้เดียว เพราะภาพที่เซี่ยวเซี้ยงจื้อวาดสามารถบอกอนาคตได้นั้นเอง
"อาจารย์เช่นนั้นเจ้าอาวาสจัดการรูปเหล่านั้นอย่างไรบ้าง"
"ก็มีการทำลายไปบ้างและเก็บไว้บ้างแต่ก็มีที่หลุดออกมาคือรูปสิบโฉมสะคราญนั้นแหละ"
"แล้วเหตุการณ์ในครั้งนี้เซี่ยวเซี้ยงจื้อได้มีการทำนายไว้หรือ"
อาจาย์เฒ่าพยักหน้า
"คาดว่าคงมีเพราะเมื่อปีที่แล้ว เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินได้มาบอกว่า ให้ระวังสำนักง่อไบ๊เราจะมีคนเข้ามาเอาของสำคัญไป"
"แต่เนื่องจากมันเป็นความลับของง่อไบ๊ทั้งเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินทั้งข้าจึงไม่กล้าที่จะเปิดเผยว่าสิ่งล้ำค่าสำคัญนั้นคืออะไร "
"แล้วภาพวาดอนาคตของเซี่ยวเซี้ยงจื้อถูกต้องทุกเรื่องไม่มีผิดบ้างหรือ"
"ส่วนใหญ่ถูกต้อง 9 ใน 10 ที่มีผิดเป็นเพราะคนเราสามารถเปลี่ยนชะตาตนเองได้"
"อืม ข้าเกิดความคิดอยู่ประการหนึ่ง ซึ่งต้องขอความเห็นและความยินดีร่วมมือจากสองดรุณีง่อไบ๊ที่อยู่ในขณะนี้พอดี"
สองดรุณีง่อไบ๊ต่างทำหน้าฉงนที่เจ้าสำนักอุงหลิงพูดมา
"เจ้าลองว่ามาซิ"
"ในตอนนี้สำนักเราเกิดเหตุขึ้น หากจะขอให้ทางสำนักเส้าหลินช่วยโดยให้สองดรุณีง่อไบ๊ไปขอยืมดูภาพของเซี่ยงเซี่ยงจื้อได้หรือไม่
เพราะมันมีส่วนคำทำนายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ ซึ่งพวกเราทั้งหมดต่างเป็นผู้ทรงศีลก็ไม่เหมาะที่จะไปขอดูภาพเหล่านั้น จึงขอส่งสองดรุณีง่อไบ๊ซึ่งเป็นฆราวาสไปแทน แต่ถึงกระนั้นแม่นางทั้งสองก็อาจจะตะขิดตะขวงใจที่อาจต้องไปเห็นภาพอุจาดตา ที่ข้าเสนอเป็นแนวทางหนึ่งเท่านั้น
อาจารย์เฒ่าหันไปมองสองดรุณีง่อไบ๊กึ่งขอความเห็น เจียวเสียวจู ผู้พี่จึงพูดขึ้น
"ในส่วนของข้านั้นไม่ขัดข้อง เพราะอยากจะช่วยทำเรื่องนี้ให้กระจ่างเช่นกันว่าคนร้ายได้ของล้ำค่าของสำนักเราไปหากเซี่ยวเซี้ยงจื้อได้วาดภาพทำนายไว้ แต่ทางเส้าหลินจะคิดยังไง"
"เรื่องนี้ข้าก็เห็นว่าเป็นแนวทางที่ดี แต่เส้าหลินจะคิดยังไงขึ้นกับเส้าหลินเถอะ"
"ก็น่าจะทดลองดูเช่นกัน ตอบรับหรือปฎิเสธไว้เป็นอีกเรื่อง" แม่ชีตันหยงก็สนับสนุนเช่นกัน
ในเมื่อทุกคนเห็นต้องกันในเรื่องนี้ก็เอาตามนี้ พอดีในเดือนหน้าก็ครบกำหนดที่จะต้องไปรับเงินบริจาคจากเศรษฐีฮิ่ม ไปเส้าหลินก็คตัองผ่านไปทางนั้นพอดี เอาเป็นเดือนหน้าค่อยดำเนินการเรื่องนีเป็นไร
เจ้าสำนักอุงหลิงพูด พร้อมมองเห็นแม่ชีตันหยงกำลังคิดอะไรในใจ
"ศิษย์พี่เมื่อห้าเดือนก่อนที่ท่านกับว่าชิงไปพักบ้านเศรษฐีฮิ่มดูแล้วเป็นคนยังไง"
"พูดตามตรงก็ออกรู้สึกแปลกๆ เหมือนข้ากับว่านชิงจะจำอะไรไม่ค่อยได้ตอนอยู่ทีนั้น"
"แต่หากถามถึงนิสัยใจคอของคนผู้นี้ก็กลับไม่แน่ชัดว่าเป็นคนดีหรือไม่ แม้จะดูเหมือนใจบุญเที่ยวบริจาคเงินให้แก่สำนักต่างๆมากมายถึงคราวละ 5000 ตำลึงในทุก 6 เดือนก็ตาม"
"แล้วทางด้านวรยุทธคนผู้นี้เป็นเช่นไร"
"ดูเหมือนธรรมดายิ่ง ไม่อาจจัดในชนชั้นยอดฝีมือได้ แต่กลับมียอดฝีมือมาอยู่ด้วย 2 คนเป็นชาย 1 หญิง 1 มาจากชมพูทวีป"
"แล้ว 2 คนนั่นเป็นไงบ้าง"
"รู้สึกแปลกๆเช่นกัน แต่คนมิอาจวัดจากบุคคลิกหน้าตาได้ ดูอย่างตัวเศรษฐีฮิ่มเองก็ดูเหมือนฝีมือไม่เท่าไรแต่มีเรื่องเล่าว่ามันสามารถปราบโจรแห่งทุ่งทะเลทรายได้ถึง 40 คน และไปพบขุมทรัพย์ของโจรที่สะสมไว้จนร่ำรวยมหาศาลเช่นตอนนี้ เดิมทีเส้นทางที่ใช้ค้าขายนี้กับต้องขาดทุนเพราะต้องจ่ายให้โจรหรือไม่ก็โดนปล้น พอเศรษฐีฮิ่มมาปราบโจรได้จึงใช้เป็นเส้นทางค้าขายแต่ผู้เดียว คนอื่นมาทำการค้าก็ต้องจ่ายให้มัน"
"หรือมันเป็นประเภทคมในฝัก งำวิชาฝีมือไว้"
"ข้าไม่แน่ชัด หากเจ้า 2 คนไป อยากให้ระมัดระวังตัวอย่าได้พักอยู่นาน หรือข้าอาจคิดมากไปเองW
สองดรุณีประสานมือรับพร้อมขอบคุณ เมื่อหมดสิ้นเนื้อหาประชุมแล้วทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไป
...

คำสอนของบิดา

กังปังเจ้าแม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆของบิดาแต่บิดาก็รักเจ้าเสมือนลูกแท้ๆ
ที่ผ่านมาก็ได้แตเสียใจ ยิ่งพอรู้ว่าเจ้ากลายเป็นคนไม่ดีก็ยิ่งเสียใจมากขึ้น
นึกโทษตัวเองที่ทำให้เจ้าต้องหนีจากบ้านไป ไม่มีโอกาสได้อบรมสั่งสอนเจ้า
จริงๆจะตำหนิเจ้าก็ไม่ถูก เพราะขีวิตคนจะดีได้ต้องมาจาก 3 ส่วนคือ
1.ได้ครอบครัวที่ดี 2.มีครูที่ดี 3.มีเพื่อนหรือคู่ครองที่ดี
เจ้าดูเหมือนขาดทั้งสามสิ่งเพราะต้องจากครอบครัวไป และไปได้สหายที่ไม่ดีนักหรือเจ้าไปได้อาจารย์ดีมาก็ไม่รู้ เพราะฝีมือและวรยุทธเจ้ายอดเยี่ยมในเวลารวดเร็ว ตอนนี้มีข่าวว่าของวิเศษของง่อไบ๋ถูกขโมยไป ไม่รู้เจ้าเกี่ยวพันด้วยหรือไม่
กังปังถึงกับขนลุกซู่ด้วยขนาดบิดาอยู่ห่างไกลยังสามารถคาดการณ์ได้ถูก
แต่ดูเหมือนฟู่เซิ่งไม่คิดจะซักไซ้อะไรในเรื่องนี้ เพียงแต่หยุดไปสักพักแล้วจึงพูดต่อ
การที่เจ้าไปคบกับหม่าหยง จะว่าหม่าหยงเป็นเพื่อนที่ไม่ดีก็อาจไม่ถูก เพราะหม่าหยงก็เช่นเดียวกับเจ้าคือเสมือนคนหลงทาง
ไม่มีคนชี้นำจึงไม่รู้จะทำเช่นไร เมื่อคนหลงทางสองคนมาเจอกันจึงหาหนทางไม่เจอ
ได้แต่เลือกเดินกันไปสะเปะสะปะ แทนที่จะพากันไปในทางที่ถูกกลับพากันเดินทางเข้ารกเข้าพงลงเหว
ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ จนชีวิตมืดบอด
การที่เจ้าสามารถออกจากความมืดบอดกลับตัวกลับใจได้เองจึงนับว่าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง มากเสียยิ่งกว่าตระกูลของเราที่พลิกฟื้นจากความจนขึ้นมาได้อีก
การที่บิดาไม่ได้ให้ทั้งเจ้าและเจียงปิงใช้แซ่ฟู่ ไม่ใช่รังเกียจเจ้าทั้งสอง แต่คิดไว้แล้วว่าพวกเจ้ากับฟู่หงส์ และฟู่หลิงต่างเติบโตมาด้วยกันอาจจะทำให้มีใจปฎิพัทธต่อกันขึ้นมาได้ หากมีเรื่องเช่นนั้นเมื่อต่างมีใจรักกันหากมีแซ่เดียวกันจะแต่งงานกันก็ไม่สะดวก แต่ทั้งนี้เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาสที่มีต่อกันเถอะ อันนี้เป็นความคิดของมารดาบุญธรรมเจ้าที่แนะนำข้า"
กังปังฟังแล้วอดหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจไม่ได้ที่เข้าใจผิดมาตลอดที่แท้บิดาและมารดาดีต่อตนมากเพียงนี้เอง
ผู้เฒ่าฟู่เซิ่งจึงพูดต่อ
"ในกระบวนลูกสี่คน เหลือแต่เพียงเจ้าเท่านั้นที่บิดาเป็นห่วงที่สุด เพราะทั้งสามคนต่างมีหลักฐานทมั่นคงกันแล้ว และดูเหมือนเจ้ายังมีเรื่องติดค้างอยู่ในยุทธภพอยู่มาก คงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบในตอนนี้ได้ คงต้องออกไปสะสางกระมัง
ผู้เฒ่าหยุดเหมือนรอคำตอบจากกังปัง ซึ่งผงกศรีษะรับไม่สามารถตอบอะไรออกมาได้ เพราะสับสนยุ่งเหนิงในใจ ฟู่เซิงจึงกล่าวต่อ
เจ้าต้องหาพรสรรค์เจ้าให้พบ ฝึกให้ช่ำของแล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เช่นเดียวกับที่ฟู่หงส์ค้นพบพรสวรรค์ในตัวทำให้พลิกฐานะขึ้นมาได้
"ก๊อกก๊อก" คุณชายข้าเข้าไปได้หรือไม่
ความคิดของกังปังจึงค้างลง ปากร้องออกไป
"เข้ามาได้"
พลันประตูเปิดปรากฎดรุณีร่างท้วมเล็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนางหนึ่งเข้ามา
"เจ้ามีชื่ออะไร"
"ข้าหวีอันอัน แม่นางตู้เสียวเกียวส่งมาปรนนิบัติท่านคืนนี้"
กังปังร้อง อืมม์ อย่างพอใจ
"ข้าต้องหาทางนำพรสวรรค์ทีมีอยู่มาหัดให้ช่ำของให้ได้ "
กังปังคิดตามคำสอนของบิดาบุญธรรม
อย่ารอช้าเลย เจ้ารับถอดเสื้อผ้าออกแล้วรียขึ้นมาหาข้าบนเตียง
ความจริงแล้วตอนนี้กังปังกลับมาอยู่ในหอคณิกามีขื่อว่า หอหอมขจาย ในเมืองเชี่ยงอัน ซึ่งเป็นหอนางโลมที่มีขื่อแห่งเมือง ภายหลังที่กังปังจำต้องออกเดินทางด้วยมิอาจใช้ชีวิตอย่างสงบได้ในตอนนี้ ดังที่บิดาบุญธรรมได้คาดการณ์ ก่อนออกเดินทางบิดาได้มอบเงินให้กับกังปังจำนวนหนึ่งซึ้่งมากพอที่จะใช้ได้หลายเดือน พร้อมกับม้าตัวหนึ่งเพื่อออกเดินทาง
กังปังหวนคืดถึงคำสอนของบิดาฟู่เซิงว่าต้องค้นหาตัวเองให้พบว่าตัวเองมีดีอะไรแล้วใช้สิ่งที่มีในตัวให้เกิดประโยชน์ มันจึงครุ่นคิดแล้วออกเดินทางมุ่งหน้ามายังหอนางโลมที่มันเคยมาเป็นประจำเมื่อสมัยก่อน
การปรากฎตัวของกังปังในครั้งนี้ กลับในมาดคุณชายที่โอ่อ่าด้วยเสื้อผ้าชั้นดีออกแบบไม่เหมือนใคร มองปราดเดียวราวกับผู้ดีตระกูลใหญ่ ทำไมคนในหอจึงจะไม่ต้อนรับ
กังปังสั่งจองห้องพักพร้อมจ่ายเงินที่มันเคยติดค้างแถมจ่ายล่วงหน้าเป็นเดือน สั่งให้จัดหานางคณิกาที่งดงามในหอมาให้มันคืนละคน วันนี้เป็นคืนที่สามแล้ว
กังปังมันอดอยากมาเนิ่นนานหรือไร
หรือมันแปลเจตนาของท่านผู้เฒ่าผิดไป
ที่ให้ค้นหาความสามารถของตนนำมาใช้ ด้วยมันก็ช่ำของ
แต่ในเรื่องโลกีย์หมกมุ่นนารีมาตลอดมันจึงเจาะจง
มาที่หอนางโลม เรียกหานางคณิกามาตอบสนองตัณหา
โดยทันที มิใยคำสอนผู้เฒ่าอาจเสียเปล่าไปแล้วกระมัง
กังปังนอนแก้ผ้าอวดควยชี้โด่ราวเสากระโดง หวีอันอันพอถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อนหมดก็ตรงเข้าลูบโลมเลียที่หน้าอกของกังปังอย่างรู้งาน หวีอันอันนางโลมคนสวยโลมเลียต่ำลงมาเรื่อยจนถึงแท่งควยโด่ของมันพลางเอามือขยับขึ้นลงจนมันขยายหัวบานโร่ราวกับหัวกิ้งก่าขนาดยักษ์ ก่อนแลบลิ้นออกมาโลมเลียรอบหัวขยักของมันอย่างช่ำชองแล้วอ้าปากออกกว้างอมเจ้าหัวควยเข้าไปเต็มปากออกแรงอมดูดราวกับว่ามันเป็นของอร่อย กังปังต้องสูดปากซี้ดซ้าดออกมาด้วยความเสียว พร้อมสั่งให้หวีอันอันขึ้นคร่อม หวีอันอันรีบดำเนินการตามสั่งอย่างชำนาญ กระเด้าหีเย็ดควยเหย็งๆ
   "วิเศษ เจ้ายอดเยี่ยม"
   "ถ้าเช่นนั้นท่านต้องใช้บริการข้าบ่อยๆ และต้องตบรางวัลข้าให้หนัก"
   "ย่อมแน่นอนอยู่แล้ว อุ๊ อุ๊ เดี๋ยวเรามาเปลี่ยนท่ามั่งจะได้เย็ดกันได้นานๆ"
   "อูยส์ ๆ ข้ากำลังมันส์อยู่เลย อย่าเพิ่งได้ไหม "

   หวีอันอันพูดพร้อมกับขย่มหีใส่ควยกังปังไม่หยุด
"เถอะน่า เดี๋ยวเจ้าได้มันส์กว่านี้แน่"
   กังปังพูดพร้อมกับชักชวนนางลุกขึ้น แล้วอุ้มพานางลงจากเตียง
"อ๊ะ ท่านจะพาข้าไปไหนกัน"
"เย็ดกันบนเตียงอาจจำเจ ลองพาเจ้าไปเล่นท่าใหม่ๆ บ้างอาจได้ผล"
"เอ๊ะ ได้ผลอะไรหรือ"
กังปังไม่ตอบคำ จับพานางไปชิดติดฝาห้อง
"ว๊าย อะไรกันนี้"
หวีอันอัน ร้องตกใจเมื่อโดนกังปังจับตีลังกาขาชี้ฟ้าห้อยหัวลงข้างล่างชิดฝาห้อง แล้วตัวมันกลับจับข้อเท้านางไว้ อัดควยกระเด้ารูหีนางอย่างรุนแรง
"อุ้ยๆ ทำไมทำพิสดารอย่างนี้ ท่าอะไรกันนี้"
"ท่าเย็ดกำแพงพัง ข้าเพิ่งคิดขึ้นมา"
หวีอันอันถึงกลับหัวเราะคิก กลับคำพูดทะลึ่งของมัน ปล่อยให้มันเย็ดในท่ากลับหัวอย่างตื่นเต้น สักพักนางกลับรู้สึกร้อนระอุในรูหี รู้สึกร้อนอบอ้าวไปทั้งตัว
"เอ๊ะทำไมมันร้อนจัง มีควันอะไรเข้ามาในห้อง"
หวีอันอันรู้สึกผิดสังเกต ในรูหีนางร้อนราวกับไฟลุกก็ไม่ปาน
"เอ๊ะ เจ้าหยุดก่อนทำไมข้ารู้สึกร้อนจัง ควันอะไรเต็มห้องไปหมด ไฟไหม้หรือไร"
   กังปังกลับไมสนใจเร่งซอยเย็ดเข้ารูหีนางไปเรื่อยพร้อมกับจับขานางไว้แน่น หวีอันอันดิ้นไม่ออก พอก้มหน้ามองลงไปที่รูหีของนางจึงแลเห็นควันที่แท้มันพวยพุ่งออกมาจากรูหีนางนี้เอง มิหนำซ้ำแลเห็นเส้นหมอยบนรูหีนางกลับหงิกงอด้วยโดนความร้อนเผาจนเส้นหมอยหลุดหายหมด
แม้เคยรู้มาว่าของสองสิ่งเมื่อนำมาเสียดสีกันจะทำให้เกิดความร้อนไฟลุกไหม้ แต่การร่วมรักเย็ดกันไม่เคยได้ยินว่าควยกับหีถูกันจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ มีแต่จะทำให้น้ำแตกเท่านั้น
นี้นับเป็นครั้งแรกที่เจอกับตนเองไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ
"เจ้าหยุดเย็ดเดี๋ยวนี้นะ หีข้ากำลังจะไหม้หมดแล้ว ฮือๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย มันกำลังจะเผาหีข้า"
หวีอันอันร้องลั่นอย่างตกใจ กังปังกำลังได้ที่พ่นน้ำอสุจิออกมาอย่างสุขสม หวีอันอันกลับรู้สึกเหมือนโดนลาวาร้อนพ่นออกมาใส่ในรูหีนางไม่ปาน อาศัยจังหวะที่กังปังกำลังลืมตัว ตีหลังคาล้อเกวียนพลิกหนีออกมา
"โอ้ย ควยข้าหักหมดกัน"
กังปังยังปล่อยน้ำไม่หมดดี โดนหวีอันอันตีลังกาจนควยหลุดออกจากรูหี
"ยังดีที่ข้ากำลังจะชักออก ไม่งั้นควยหักแน่"
"ช่วยด้วย ๆ ไม่เอาแล้ว มันจะเผาหีข้า "
หวีอันอันร้องลั่นรีบหอบเสื้อผ้าวิ่งหนีออกไปจากห้องโดยเร็ว ปล่อยให้กังปังบีบนวดควยคนเดียวในห้อง
"เกือบสำเร็จแล้ว ไม่น่าเลยอีกนิดเดียวเท่านั้น อูยส์ ควยเกือบหัก"
กังปังพูดพร้อมกับนอนแผ่หราบนเตียง
กังปังกลายเป็นคนวิตถารไปหรือไร หรือมันกำลังทำอะไรกันแน่
โปรดติดตามต่อไป







กำลังทาบทามคู่นี้มาแสดงเป็นสองดรุณีง่อไบ๋

kaithai

ขอฝากคำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

sainsain

เยี่ยมจ้า เนื้อเรื่องใหม่มาละเอิ้กรอติดตามตอนต่อจ๊ะ




somc217

เรื่องแนวกำลังภายในแบบนี้หาอ่านได้ยากมากๆ ชอบจริงๆ
ขอบคุณมากๆครับ




navy868


dwarf

ขอบคุณครับ...เป็นกำลังใจให้ผู้ประพันธ์ที่พบกับปัญหาส่วนตัวที่บางครั้งเราอาจแก้ไขไม่ได้...ผมคิดว่าเราอาจเจอปัญหาคล้ายคลึงกันแน่

ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ และขอให้ท่านผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาไปได้เช่นกันครับ สู้ๆ ครับ

Kacey Chase

cast ได้ดี  สำหรับสองดรุณีแห่งง๊อไบ๊   :/D


::Dribbling::ขอบคุณครับ

Sawat Songprasop

   แนวสวาทกำลังภายในนี่น่าอ่านมากครับ ติดตามมาตั้งแต่เดชคำภีร์นางฟ้าแล้ว รออ่านตอนต่อไปครับ อย่าให้รอนานนะครับ

OK จะพยายามไม่ให้นานครับ

isukjai5


samsung014

กังปังใช้วิชาพิศดารอะไรเนี่ย แล้วต่อไปไม่เผาสตรีทุกคนที่ร่วมรักหรือ อิอิ

devilzoa


biggiggog

กังปังเล่นอะไรของมัน
ล่อซะไฟลุกเลย
ขอบคุณมากๆครับ

Aochayaporn



tantawanjames