ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กังปังตลุยยุทธภพ ตอนเผชิญศัตรูเก่า

เริ่มโดย cobra, กุมภาพันธ์ 10, 2019, 06:33:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชอบตอนนี้หรือไม่

ชอบ
60 (98.4%)
ไม่ชอบ
1 (1.6%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 61

cobra

     หากให้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้แสดงจะได้แก่

แสดงเป็น กังปัง เปิดตัวแสดงมาคงรู้ว่าเป็นหนังแนวไหน


screenshot windows 7
คนแรกคืออึ้งย้ง  คนต่อมา หวีอันอัน

กังปังตลุยยุทธภพ ตอนเผชิญศัตรูเก่า
นี้หรือคือเกาะดอกท้อ
ทิวทัศน์ไม่เลว เต็มไปด้วยดอกท้อสวยงามสมชื่อ
กังปังเดินเพลิดเพลินชมทัศนียภาพของเกาะดอกท้ออย่างรื่นรม ย์
"ทางนั้นมีน้ำตกด้วยหรือ เสียงเพลงอะไรมาจากทางนั้นใครช่างมีอารมณ์ดีมาร้องเพลงเป็นเสียงอิสตรีใครกันนะ สวยหรือเปล่า"
กังปังคิดคำนึง เดินเข้าไปใกลัเสียงเพลง จึงพบว่ามีสตรีนางหนึ่งกำลังร้องเพลงเต้นระบำอย่างสุขใจ ดูจากการแต่งกายไม่คล้ายชาวบู๊ลิ้ม แต่กลับแต่งกายคล้ายคนมาจากชมพูทวีปมากกว่า
"เข้ามาใกล้ๆซิ ยืนตรงนั้นจะเห็นอะไร"
กังปังต้องฉงนใจ นางพูดกับใครกัน
"ก็เจ้านั้นแหละ มัวทำเอียงอายไปใย"
"ข้าเหรอ?
นางหัวเราะคิก "ก็มีเจ้าคนเดียว ยังจะมีใครอีก"
กังปังถึงกลับหน้าแดง นางกลับเต้นยั่วยวน พร้อมกับโยนผ้าออกไปรั้งคอให้กังปังเข้ามาใกล้ ๆ
"อ้า สาวงามแดนภารตะนี้สวยชะมัด ตาคม นมโต .."
"เจ้าว่าข้าสวยงั้นหรือ ข้าจะให้เจ้าเห็นอะไรที่สวยงามกว่านี่อีก"
สาวงามแดนชมพูทวีปกลับส่งผ้าส่าหรี่ให้กังปังยึดถือไว้ ค่อยหมุนตัวออกผ้าส่าหรี่ที่ห่มกายนางออกค่อยคลี่ลงไปทีละน้อย
กังปังกลืนน้ำลายลุ้นใจระทึก มือกลับช่วยดึงสาหรี่นางออกโดยอัตโนมัติ
นางเหมือนร้องเริงรำปล่อยให้เปลืองผ้าออกจนหมด ปทุมถัน ทรวดทรงองค์เอวที่เปลือยเปล่าค่อยปรากฏแก่สายตากังปัง รู้สึกเกิดอารมณ์กระสันกำหนัดจนควบคุมไม่อยู่
จนลำควยของมันถึงกลับดีดผึงขึ้นมาจนอึดอัด จนมันทนไม่ไหวต้องถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็ว รีบตรงเข้าไปหมายสวมกอดนางมาเริงรักกัน
"หยุดเดี๋ยวนี้ กังปังเจ้ากำลังโดนระบำอสูรเข้าครอมงำแล้ว"
กังปังต้องสดุ้ง คนที่เข้ามาขวางกังปังไว้ คือ อึ้งย้ง นั่นเอง
อึ้งย้งนอกจากมาให้สติกังปังจนตื่นจากภวังค์ ยังส่งเสียงตวาดออกไป
"นางรัศมีเทวี เจ้าหยุดยั่วยวนลูกศิษย์เราได้แล้ว"
นางรัศมีเทวี ถึงกับหัวเราะคิกอย่างกวนประสาท
"ศิษย์หรือ แล้วลูกศิษย์เก่าสองคนนั้นไปไหนแล้ว หรือพวกมันเย็ดไม่ได้เรื่อง ดูท่าเจ้านี้มันจะช่ำชองคงเย็ดเจ้าได้ถึงใจกว่ากระมั่ง"
อึ้งย้งโกรธจนตัวสั่น
"ปากเจ้าช่างบัดซบจริง"
อึ้งย้งไม่พูดความยาวสาวความยึด สะบัดฝ่ามือเข้าจู่โจมทันที ดูเหมือนนางรัศมีเทวีจะเตรียมพร้อมไว้แล้วว่าอึ้งย้งจะมาไม้ไหนรับฝ่ามือที่อึ้งย้งโจมตี พร้อมกับกางกรงเล็บออกมาโต้คืน
อึ้งย้งพบว่าผิดท่ารีบเบี่ยงตัวหลบ แม้กระนั้นยังถูกกรงล์บปีศาจของนางมากระชากดึงที่อกเสื้อขาดติดมือดังแคว่ก
อึ้งย้งใส่แค่เสื้อคลุมออกมาตัวเดียว พอโดนกระชากอกเสื้อจนขาด เต้านมขาวสล้างก็กลับเผยออกมาให้เห็นกระจะตา กังปังจ้องมองดูนมอึ้งย้งอย่างไม่วางตา
"ฮ่า อึ้งย้งเรามาเปลือยร่างสู้กันดีกว่า ให้ลูกศิษย์เจ้าตัดสินใครมีรูปร่างสวยกว่ากัน"
"บัดซบ"
อึ้งย้งร้องด่า พลางลงมืออย่างหนักจนนางรัศมีเทวี ต้องถอยกลบเข้าไปในถ้ำที่อยู่ด้านข้าง อึ้งย้งไม่ยอมปล่อยให้นางหนีรีบตามติดเข้าไป กังปังได้ยินเสียงทั้งสองต่อสู้กัน พร้อมกับได้ยินเสียงผ้าถูกฉีกเป็นระยะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สักพักอึ้งย้งกลับเซถลันออกมานอกถ้ำ กังปังถึงกลับตาโตเพราะอึ้งย้งกลับไร้อาภรณ์ใดๆ ร่างกายเปลือยเปล่าขาวหมดจรด
"เจ้าอย่าได้คิดลามก รับมือนางก่อน ข้าจะไปหาเสื้อผ้ามาใส่"
อึ้งย้งพูดไม่ทันจบดี ก็ปรากฏมีอึ้งย้งในร่างเปลือยกายอีกคนออกมา
"กังปังเจ้าอย่าหลงกลปล่อยนางหนีไป จับนางไว้ก่อน"
กังปังงุนงงไม่รู้ทำไงดี ได้แต่ยืนขวางไว้ อึ้งย้งอีกคนออกมาจึงลงมือเข้าปะทะกับอึ้งน้งคนแรกอีกหนจนชลมุน
"กังปังเจ้าอย่ามัวยืนเฉย มารีบช่วยข้าจัดการนาง"
"กังปัง เจ้าแพศยาคนนั้นต่างหาก"
ต่างคนต่างร้องบอกทำให้สับสนไม่รู้จะช่วยใครกันแน่
"หยุดต่อสู้กันก่อน ข้ามีวิธีพิสูจนฺว่ใครตัวจริงตัวปลอมแล้ว"
อึ้งย้งทั้งคู่ได้ยินนึกฉงนต่างหยุดมือชั่วขณะ กังปังจึงตรงเข้ามาจับชีพจรทั้งสองคนแล้วดึงทั้งสองเข้ามาใกล้
อึ้งย้งทั้งสองกลับโดยคร่ากุมโดยง่ายยังไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร ด้วยอยากรู้เช่นกันว่ากังปังจะพิสูจน์อย่างไร
"เอาละหลับตาลงทั้งคู่เลย ใครไม่ทำตามคำสั่งข้าคือตัวปลอม"
อึ้งย้งทั้งคู่งงแต่ก็ยอมหลับตาลงตามคำสั่ง กังปังจึงสบโอกาสคว้าเอาอึ้งย้งคนซ้ายมือเข้ามาจูบปากทันที ยังไม่ทันที่อึ้งย้งคนขวาจะหรี่ตามองก็โดนกังปังคว้ามาจูบเช่นกัน
"เพี้ยะ"
เท่านั้นเองฝ่ามือก็กระทบใบหน้ากังปังจนสั่น
"เจ้าบังอาจมาต้ากำไรเช่นนี้ สมควรโดน"
อึ้งย้งคนขวาตวาดเกี้ยว ส่วนตนซ้ายกลับหัวเราะคิก
"ฮ่า ๆๆ เจ้านี้มันช่างขบขันจริงๆ"
   กังปังมองเห็นชายคนหนึ่งอายุประมาณกลางคนที่เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว แค่งตัวราวกับผู้สูงศักดิ์ใส่หมวกคล้ายชฎาทรงสูงบนศรีษะ
   "องค์ชายเจอรูดัล"
   เสียงอึ้งย้งร้องบแกคล้ายให้กังปังได้รู้ว่าผู้มาใหม่เป็นใคร
   "องค์ชายเจอ รู ดัน เหรอ ชื่อพิกลมาก"
   กังปังทวนคำ
   "อึ้งย้งดูเหมือนเจ้ารับลูกศิษย์แต่ละคนได้ดีมาก เจ้านี้ถ้าจะหื่นทะลึ่งกว่าพวกพี่น้องตระกูลบู๊ 2 คนนั่นอีก"
   (ความเป็นมาของทั้งหมดอยู่ในเรื่อง พิศวาสมังกรหยก  ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมได้ประพันธ์ไว้ก่อนหน้านี้)
   "รัศมีเจ้าจัดการเจ้านี้ส่วนอึ้งย้งเป็นข้าจัดการเอง"
   อึ้งย้งอีกคนเดินแยกออกมาอีกทาง และโดยฉับพลันนางได้เปลี่ยนร่างกลับคืนมาเป็นนางรัศมีเทวีต่อหน้าต่อตา
   "นางมีเวทมนต์อันใด นึกจะกลายร่างเป็นใครก็ทำได้หรือ"
   กังปังอดแปลกประหลาดใจกับความพิสดารไม่ได้ ส่วนอึ้งย้งกับเจอรูดัลก็เดินออกไปอีกทางคล้ายหาที่มั่นเพื่อจะเข้าต่อสู้ได้สะดวก
   กังปังไม่มีเวลาคิดมากเพราะถูกนางรัศมีพยายามเข้ามาโอบกอดกังปังไว้ ทำให้มันต้องพยายามหลบหนีไป 2- 3 ครั้ง
   "เจ้าอย่ามัวเล่นตัวอยู่เลย เมื่อกี้ยังอยากกอดข้าและยังจูบข้าอีก เจ้าดูสองคนนั้นซิ"
   นางรัศมีเทวีพูดขึ้นทำให้กังปังต้องหันไปดูการต่อสู้ระหว่างอึ้งย้งกับเจอรูดัล
   "เหหวอ ..อ้าวเฮ้ย ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้"
   กังปังร้องเสียงหลงเพราะคิดว่าจะพบการต่อสู้กันอย่างดุเดือด กลับกลายเป็นเห็นอึ้งย้งกับเจอรูดัลยืนกอดจูบกันอย่างดุเดือด ต่างแลกจูบกันนัว
   "มาเราก็มาทำอย่างทั้งคู่นั้นมั่ง"
   กังปังเสียสมาธิเลยทำให้นางรัศมีเทวีเข้าประชิดตัวโอบกอดจนต้องล้มลง โดยมีนางรัศมีเทวีเข้ามาตลอเคลียช่วยถอดเสื้อมันออก ส่วนนางรัศมีเทวีที่เปลือยกายอยู่แล้ว เอาหน้าอกของนางเข้าไปตรงหน้าของมัน ในเวลาไล่เลี่ยกันนางก็เอามือตรงเข้าไปจับลำควยของกังปังถอกขึ้นถอกลงอย่างสนุกมือ
   "ของเจ้ามันทั้งใหญ่ทั้งยาวไม่เบาเหมือนกัน แข็งๆอย่างนี้ข้าชอบ"
   ส่วนกังปังโดนจู่โจมเช่นนี้ก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เพียงแต่มันเป็นสถานการณ์ที่พลิกความคาดหมาย ทำให้รับมือไม่ทัน
   มองไปทางอึ้งย้งก็ปรากฏว่าทั้งคู่กำลังเย็ดกันแล้ว
   "ไอ้เจอรูดัน มันร้ายสมชื่อจริง โผล่เข้าแป้บเดียวได้เย็ดอึ้งย้งแล้ว ข้าแค่หลอกจูบได้ทีเดียวเท่านั้น "
   กัวปังแสนงงกับเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะคิดว่าจะต้องต่อสู้กันเป็นต้องมาเย็ดกัน มันพะว้าพะวัง กลับตัดสินใจสกัดจุดนางรัศมีเทวีให่หยุดนิ่ง แล้วรีบเข้าไปหาอึ้งย้ง
   องค์ชายเจอรูดัลทั้งๆที่รับรู้ว่ามีคนเข้ามา แต่ไม่สนใจตั้งหน้าตั้งตาเย็ดเอาเย็ดเอากับอึ้งย้งอย่างสนุก อึ้งย้งกำลังหลับตาครางระงมปล่อยให้องค์ชายเจอรูดัลกระเด้าเย็ดฉุบๆ พอลืมตาเห็นกังปังจึงส่งเสียงทางลมปราณพูดขึ้นเสียงกระเส่าให้กังปังได้ยินเท่านั้น
   "กัง...ปัง โอ๊ะ เจ้า..ดูให้ดี อาจารย์ จะแสดงวิ.. วิชาดูดพลัง ยอด..วิชา พลังดูดดาว ให้เจ้าเห็น.."
   อึ้งย้งว่าแล้วก็เอามือโอบรอบตอเจอรูดันไว้แน่น พร้อมกับขมิบรูหีพเยิบพยาบ ร้องบอกเคล็ดลับกำกับยอดวิชาให้กังปังรู้ด้วยเสียงกระสันกระเส่า
กังปังเห็นเจอรูดันโหมควยเข้าใส่รูหีอย่างไม่รู้ความว่าจะต้องเจอกับอะไร จนเจอรูดันที่กำลังซอยกระเด้าอย่างเมามันส์จวนเสร็จ ทนไม่ไหวต้องโหมกระเด้าลงเป็นทีสุดท้าย กลั้นน้ำกามไม่อยู่ต้องกระฉูดออก โดยอึ้งย้งขมิบรูหีวาบๆ อย่างแรงดูดน้ำกามออกจากควยหมดจนหยดสุดท้าย ก็ยังแข็งชักควยไม่ออก รู้สึกสุดยอดซ้ำแล้วซ้ำอีก
   "โออึ้งย้ง สุดยอดจริง โอว...อา. อึ้งย้งนี้...เจ้ากล้าใช้พลังดูดดาวกับข้าหรือ เดี๋ยวได้เสียวตายกันหมดหรอก โอว..มันเสียวพอได้แล้ว"
   "อ๊ะ จึ้ย ที่แท้อาจารย์อึ้งย้ง ใช้อุบายหลอกให้ศัตรูมาเย็ด แล้วใช้พลังดูดดาวจัดการเสียราบคาบ กลยุทธนี้ช่างล้ำลึกจริงๆ ไม่มีผู้ใดคาดถึง สุดยอดจริงๆ"
   "เอ๊ะ แล้วนางรัศมีเทวีมีอุบายเช่นกันหรือเปล่า ดีที่ข้าไม่หลงกล ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องตกอยู่ในอันตรายเหมือนกันแน่ พวกสตรีนี้มีมารยาอุบายเยอะจริงต้องระวังไว้"
   กังปังคำนึงในใจ ตอนนี้
   กังปังแลเห็นเจอรูดันสั่นสะเทิ้มไปทั้งร่าง หน้าซึดขาว ดูชราภาพลง ก็เกิดการวิตกสงสาร จึงเอามือไปจับตัวเจอรูดัลหมายช่วยเหลือ แต่ต้องตกใจ เพราะมือที่คว้าไปกลับเหมือนคว้าอากาศธาตุไม่ปาน แลเห็นร่างของเจอรูดัลคล้ายขี้เภ้าที่ปลิวสลายไปกับสายลม
   "อะไรกันนี้ วิชาดูดดาวช่างร้ายกาจ อาจารย์อึ้งย้งเล่นดูดแรงจนน้ำหมดตัวถึงตายร่างสลายเลยหรือนี้"
   กังปังหันไปมองที่นางรัศมีเทวี ที่กำลังเดินเข้ามาแล้วหยุดกะทันหัน ร่างของนางก็เหมือนจะแปรเปลี่ยนเป็นขึ้เถ้าปลิวหายไปกับสายลมเช่นกัน
   "นั้นก็ร่างสลายไปอีกคน แต่นางไม่โดนดูดพลัง แต่ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้"
   จึงหันไปหาอึ้งย้งเพื่อสอบถาม
   "กังปังเจ้าจงไปประยุกต์ต่อยอดวิชาที่ข้าค้นพบให้ดี ตอนนี้เจ้ามาถูกทางแล้วละ"
   อึ้งย้งกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มสดใสให้กังปัง พร้อมกับร่างของอึ้งย้งก็ค่อยสลายปลิวไปกับสายลมเช่นเดียวกัน
   "อะไรกัน ทำไมอยู่ๆ ร่างสลายหายกันไปหมด จะรวมทั้งข้าด้วยหรือเปล่า"
   กังปังสนเท่ห์ ยกมือขึ้นดูว่าจะปลิวสลายไปเช่นกันหรือไม่
   "มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือเป็นเพียงข้าฝันไปเท่านัน"
   "ฝันเหรอ ฝันใช่ไหม"
   กังปังทวนคำ เมื่อนึกถึงว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน
   พลันดวงตากังปังก็ลืมขึ้น จึงพบสภาพความเป็นจริงที่ตัวเองตอนนี้นอนอยู่บนเตียงในหอหอมกระจาย

   หลังจากที่มันล้างหน้าล้างตาเช็ดตัวทำความสะอาดดีแล้ว จึงไปหยิบห่อเสื้อผ้าซึ่งก่อนออกเดินทางมาฟู่หงส์ได้มอบเสื้อผ้าให้มันมากมายว่าเป็นเสื้อผ้าที่นางตัดเย็บสะสมให้มันมาหลายปี กังปังเห็นกองเสื้อผ้ามากมายจึงทักท้วงว่าจะให้มันนำไปขายหรืออย่างไร จึงทำการคัดเลือกให้แต่กระนั้นก็ยังมีร่วมเกือบ 30 ตัว ซึ่งมันมากมายอยู่ดี (สมัยก่อนขาวยุทธใส่เสื้อผ้าปีละ 2-3 ตัวเท่านั้น เราจึงเห็นในหนังจึงแต่งตัวซ้ำๆกันทุกวัน)

   กังปังมาชอบใจอยู่ตัวหนึ่ง ด้านหนึ่งเป็นสีขาวอีกด้านเป็นสีดำ ใส่กลับกันได้ทั้งสองด้าน และมีกระเป๋าซ่อนในตัวเสื้อทั้งด้านหน้าด้านข้างอีกหลายแห่ง ทำให้ใส่ของได้เยอะดี ไม่ได้มีกระเป๋าในแขนเสื้อ เพราะฟู่หงส์ มีไอเดียออกแบบเสื้อผ้าค่อนข้างล้ำยุคกว่าใคร กังปังเห็นจดหมาย้ขียนด้วยลายมือฟู่หงส์ใจความว่า
   
   "ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ และคิดถึงข้าด้วยเจ้าโง่"
   
กังปังอดยิ้มในความเป็นห่วงของฟู่หงส์ไม่ได้ ถัดมาเป็นห่อยาขนาดใหญ่ซึ่งบิดามอบให้ ซึ่งก่อนออกเดินทางมาบิดาได้กล่าวไว้
   "กังปัง มีเรื่องที่เจ้าควรรู้เกี่ยวกับอาการของเจ้า
   ตอนนี้เจ้าไม่ได้สติข้าได้เชิญซินแสที่เก่งที่สุดในเมือง ได้จับชีพจรเจ้าแล้วพบว่าตัวเจ้ามีคลื่นพลังประหลาดหมุนวนในตัวสับสนไปหมด จำต้องจัดระเบียบใหม่โดยการปรับให้มันสมดุลอาจด้วยใช้หลักวิชาผสมลัทธิเต๋า
   กังปังพยักหน้ารับว่า มันมีหลักวิชาเดินลมปราณของชวนจิ้นก้าซึ่งคล้ายกับหลักของเต๋าอยู่แล้ว (การเดินลมปราณของชวนจิ้นก้า กังปังได้มาจากการที่ก๊วยเจ๋งเคยฝึกกับนักพรตเบ๊เง็กมา เมื่อกังปังได้รับการโอนพลังจากอึ้งย้งมาจึงได้พลังการฝึกปรือนี้ติดมาด้วย รายละเอียดอยู่ เดชคัมภีร์นางฟ้าของผู้เขียนเช่นกัน)
   ผู้เฒ่าฟู่เซิง จึงพูดต่อ ด้วยเพราะเหตุคลื่นพลังที่สะเปะสะปะนี้ จึงไปโจมตีกับสมองเจ้าบางครั้งจึงทำให้เกิดอาการกำเริบขึ้น
   กังปังพยักหน้ารับทราบ แต่ผู้เฒ่าฟู่เซิงกลับพูดต่อ

   ที่ว่ามาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่อาจมาเกี่ยวข้อง สาเหตุอีกประการคือไม่รู้ว่าเจ้าไปได้รับพลังที่มากมายมหาศาลนี้มาอย่างไร และดูเหมือนจะมีการกระทบไปที่ประสาทสมองโดยตรง จนทำให้สมองอักเสบหรืออาจมีเส้นสมองแตกมีเลือดคลั่งในสมองจนเกิดอาการสมองบวม ซึ่งอันนี้ซินแสท่านไม่แน่ใจ ออกตัวว่ามีความรู้ไม่ถึงต้องหาผู้เชี่ยวชาญกว่านี้ เพราะตามที่ท่านรู้มาหากเป็นเช่นนี้ ซึ่งเจ้ารอดตายมาได้และไม่พิกลพิการเป็นอัมพาตก็บุญมากแล้ว

ความจริงเจ้าจะต้องออกอาการมากว่าที่เห็น เช่น ปากเบี้ยว และอาจเป็นอัมพาตได้ แต่เจ้ายังเดินเหินคล่องแคล่วมีอาการปวดหัว และเลือดกำเดาไหล หมดสติเป็นบางครั้งเท่านั้น ท่านหมอจึงได้แค่จัดยาบำรุงสมองเท่านั้น การเดินลมปราณให้ขึ้นไปกลางกระหม่อมก็จะช่วยทำให้ลดการบวมของสมองได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าต้องใส่ใจ หากมีอาการกำเริบหรือผิดปกติต้องรีบหาหมอทันที ทางที่ดีเจ้าควรแสวงหาแพทย์ที่เก่งๆดูอาการของเจ้าไว้เนิ่น อาการข้างเคียงของโรตนี้คือ จะทำให้เจ้ามีพฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนแปลงไป ในบางครั้งเจ้าอาจแยกเรื่องจริงกับเรื่องฝันไม่ออก
   
   "อืมส์ ที่ข้าฝันแปลกๆบ่อยๆมาจากอาการสมองบวมงั้นหรือ"
   
   กังปังมาคิดคำนึงถึงวิชาที่ได้รับการถ่ายโอนมาจากอึ้งย้งที่ผ่านมาล้วนนำมาฝึกปรือใช้ได้ดี คงติดแต่เพียงวิชาลับที่อึ้งย้งคิดขึ้นใหม่ที่กังปังยังไม่สามารถนำมาใช้ได้ แม้ว่ามันจะได้ทั้งกระบวนท่า พลังวรยุทธ และทักษะการฝึกปรือทั้งหมดมา แต่กลับวิชาลับของอึ้งย้งไม่ว่าจะเป็นการดูดพลังหรือพลังดูดดาว วิขาคืนพรหมจรรย์ และวิชาส่งต่อคัดลอกถ่ายโอนฝีมือไปให่ผู้อื่น มันล้วนทำไม่ได้ทั้งสิ้น แม้จะเข้าใจจดจำเคล็ดวิชาเหล่านี้ได้ก็ตาม แต่ดูเหมือนสาเหตุที่ทำให้มันไม่สัมฤทธิ์ผลจะเป็นเพราะด้วยสรีระ ระหว่างชายหญิงแตกต่างกันหรือไม่
กังปังจึงคิดว่าต้องทำการทดลองหาแนวทางนำวิชาสุดยอดนี้มาใช้ให้ได้ จำต้องอาศัยสตรีมาร่วมทดลอง ซึ่งสถานที่ที่กังปังคุ้นเคยและมีสตรีจำนวนมาก คือ หอนางโลมหอมกระจายแห่งนี้ และด้วยคำสอนของบิดาว่าต้องหาทางนำพรสรรค์ที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทันทีที่ได้ทุนรอนจากบิดากังปังจึงออกเดินทางมายังสถานที่นี้โดยทันที เพื่อค้นหาสุดยอดวิชาของอึ้งย้งที่แม้ไม่ได้เป็นอาจารย์แต่ในใจกังปังยอมรับนับถือ ทั้งก๊วยเจ๋ง และอึ้งย้ง เป็นอาจารย์ที่ประสิทธิประสาทวิชาให่กับมัน เพราะวิชาฝีมือทั้งหมดล้วนมาจากทั้งสองคน

   "ข้าได้ลองดูตามเคล็ดของอาจารย์อึ้งย้งแล้วยังไม่เห็นสัมฤทธิ์ผลอย่างใด หรือวิชานี้ต้องเป็นสตรีเท่านั้นที่จะทำได้ แต่ในความฝันอาจารย์อึ้งย้งว่าข้าเดินมาถูกทางแล้วนี่"
   กังปังพูดรำพึงกับตัวเองเบาๆ
   "เมื่อวานตอนทดลองกับหวีอันอันก็ดูก้าวหน้าขึ้น จดบันทึกทบทวนดูดีกว่า"
   กังปังว่าแล้วจึงหยิบพู่กันฝนหมึกเขียนลงบนกระดาษ
   "เมื่อวานทดลองร่วมรักกับหวีอันอัน ได้ส่งผลเกิดความร้อนขึ้น ส่งผลให้ละลายขนหมอยของนางหายเป็นจุล"

   "เมื่อวานทดลองร่วมรักกับหวีอันอัน ทำให้เกิดความร้อนขึ้น ส่งผลให้ละลายขนหมอยของนางหายเป็นจุล"
   เสียงมีคนอ่านหนังสิอที่กังปังกำลังเขียนอยู่ด้านหลัง
   "เหวอ เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร มาอ่านบันทึกข้าเสียมารยาทมาก"
   กังปังตกใจเพราะกำลังครุ่นคิดเหม่อลอยจนไม่รู้ว่ามีคนแอบเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร
   "ข้าเพียงนำน้ำร้อนมาให้ เจ้าต้องปรุงยากินไม่ใช่หรือ แล้วเจ้าก็ไม่ได้ล็อคประตูห้องไว้"
   ผู้เข้ามาคือ นางตู้เสียวเกียว เจ้าของหอนางโลมแห่งนี้

นางตู้เสียวเกียว
   นางตู้เสียวเกียวจัดเป็นสาวสยเทียบได้กับโฉมสะคราญคนหนึ่ง มีอายุราว 25-26 ปี แต่ได้เป็นถึงเจ้าของหอนางโลม ความว่านางถูกนำมาขายเป็นนางคณิกาตั้งแต่อายุ 14 ปี ด้วยความสวยอันโดดเด่นและมีความฉลาดจึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของเจ้าของหอคนเดิม ภายหลังเจ้าของหอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ตู้เสียวเกียวจึงได้รับมรดกสืบทอดกิจการแห่งนี้ แม้มีอายุน้อยแต่นางก็มีความสารถบริหารดูแลกิจการได้เป็นอย่างดี ด้วยความฉลาดเอาใจเก่ง จึงทำให้นางสามารถเรียนรู้เรื่องต่างๆ และได้ข่าวสารจากแขกผู้มาพักที่นำมาพูดคุยกับนางมากมาย จึงทำให้นางจัดเป็นผู้รอบรู้และชำนาญหลายๆด้าน
   "ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ไม่ควรมาแอบอ่านบันทึกข้า"
   กังปังขึ้นเสียงว่ากล่าวพร้อมรีบเก็บบันทึกซ่อนไว้
   "เจ้ากลายมาเป็นนักวิชการตั้งแต่เมื่อไร"
   นางตู้เสียวเกียวรินน้ำร้อนจากกาที่นำเข้ามาใส่ถ้วย พร้อมกับนำยาในห่อผ้าที่กังปังวางเตรียมไว้มาละลายส่งให้กังปังดื่มอย่างอ่อนโยน กังปังค่อยเย็นลงเพราะการรู้จักช่างสังเกตุและปรนนิบัติอันอ่อนโยนของนางเช่นนี้กระมั่งจึงทำให้ใครต่อใครชื่นชอบนาง
   "กังปัง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้ามาพักในหอหอมกระจายข้า แล้วใช่ลูกน้องข้าเป็นตัวทดลองอะไร ? เมื่อวานนางหวีอันอันจึงร้องเอ็คตะโรว่าเจ้าใช่ไฟเผาหีนางจนไหม้ มีคนมาบอกข่าว่าเป็นแบบนี้จริงหรือไม่"
   "เอ..จริงๆเรื่องมันไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย"
   "หรือเจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าร่วมรักกับนาง เย็ดกันจนเกิดไฟไหม้ มันออกจะเหลือเชื่อ เรื่องแปลกประหลาดในบู๊ลิ้มข้าล้วนเคยได้ยิน แต่เรื่องเย็ดกันแล้วเกิดไฟไหม้นี้เพิ่งเคยได้ยินและออกจะเหลือเชื่อ"
   กังปังอ้าปากค้างเพราะเรื่องเป็นเช่นนั้น เมื่อนางพูดออกมากังปังจึงไม่รู้จะอธิบายยังไง
   "กังปังถึงแม้ตอนนี้เจ้าจะมีเงินจ่ายไม่ติดค้างเหมือนก่อน แต่หากเจ้ามาทำเรื่องวิตถารจนคนของข้าเสียหาย ข้าก็ไม่อาจให้เจ้าพักที่นี้อีกต่อไปนะ"
   กังปังรู้สึกอึดอัด จึงลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงห้องพัก ขณะนั้นมีสตรี 2 นางกำลังเดินหน้าแล้วมีรถม้าโอ่โถงคันหนึ่งมาหยุดรออยู่
   อา....นั้น 2 ดรุณีง่อไบ๋โฉมสะคราญแห่งยุค มาที่นี้หรือ ขนาดดูไกลๆยังสวยน่ารักปานนี้ หากอยู่ใกล้จะน่าหลงใหลแค่ไหน"
   อาการหื่นของกังปังกำเริบขึ้นอีกครา จึงเอาแต่จ้องมองจนน้ำลายแทบหยด แต่ต้องสดุ้งเมื่อเห็นมีคน 3คน ลงจากรถม้า หนึ่งในนั้นเป็นสตรีแต่งกายเหมิอนชาวแดนชมพูทวีป มิหนำซ้ำยังมีใบหน้าประพิมประพรายคล้ายนางรศมีเทวีในฝันอยู่หลายส่วน
   "นี้เจ้าฟังทีข้าพูดเข้าใจหรือเปล่า มัวดูอะไรอยู่"
   นางตู้เสียวเกียวเดินตามกังปังไปที่ระเบียง
   "อ๋อ เจ้าชีกอ มัวมองแต่สาวงามจนปากอ้า ตาค้างเชียว ระวังน้ำลายจะหยดออกมา"
   กังปังรีบหุบปากกลืนน้ำลายหันไปหานางตู้เสียวเกียว
   "ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดสักหน่อย ข้ามองไปที่ 3 คนที่ลงมาจากรถม้า พวกนั้นเป็นใคร"
   ตอนนี้เหมือนสองดรุณีง่อไบ๋กับทั้งหมดพากันไปเดินเลือกชมซื้อสินค้ากัน กังปังกับนางตู้เสียวเกียวจึงพากันกลับมาคุยต่อในห้อง

   "คนร่างอ้วนฉุ เหมือนหมูตอนมีชื่อว่าฮิ่มตงกวง แต่ทุกคนเรียกว่าเศรษฐีฮิ่ม เป็นผู้ที่รวยที่สุดในเมือง อาจเรียกว่าเป๋นคนที่รวยที่สุดของแผ่นดินก็ได้ ว่ากันว่ามันมีทรัพย์สมบัติมากกว่าฮ่องเต้เสียอีก"
   "หา..คนอะไรจะโคตรรวยเว่อร์ขนาดนั้น แล้วสครีต่างแดนกับชายผิวดำท่าทางโง่งมนั้นเป็นใคร"
   นางตู้เสียวเกียวหัวเราะก่อนตอบ
   "นางผู้นั้นชื่อลูมิปันส์ กับข้าทาสของชื่อกูเยซมานส์ เดินทางจากเปอเซียมาอยู่กับเศรษฐึฮิ่มได้ปีเศษแล้ว"
   กังปังเอามือตบโต๊ะหัวเราะลั่น
   "ก๊าก...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าอยากจะขำตาย"
   "เอ..ขำเรื่องไรข้าพูดอะไรผิดหรือ"
   "ก็ที่เจ้าบอกชื่อมันทั้งสองนี้แหละ คนประเทศนี้ทำไมชอบตั้งชื่อตัวเองแปลกประหลาด ฝ่ายหญิงกล้าเปิดเผยตัวเองว่าที่รูมีปาน ส่วนฝ่ายชายกลับโอ่อวดตัวเองว่า กูเย็ดมันส์ "
   "เอ๊ะ ข้าว่าข้าไม่ได้ออกเสียงอย่างนั้น พูดได้ถูกต้องแล้วนิหน่า แล้วเจ้าจะฟังต่อไหมเนี้ยะ"
กังปังจึงหยุดหัวเราะ
   "มันจะชื่ออะไรแล้วแต่เจ้าเรียกแล้วกัน"
   "ทั้หมด ดูอย่างไรก็ไม่ใข่คนดี โดยเฉพาะไอ้หมูตอน ทิ่มตรงกลางนั้นมันก็หน้าตาเจ้าเล่ห์ผู้ร้ายชัดๆ
   "มันชื่อฮิ่มตงกวง เจ้าชอบไปเปลี่ยนชื่อให้คนอื่นอยู่เรื่อย
   "คนเราบางทีแม้อาจไม่รู้จัก แต่ก็สามารถรับรู้ถึงคลื่นพลังจิตที่อีกฝ่ายมีได้ เหมือนเจ้าที่ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือนจะคล้ายเป็นคนที่ดีขึ้น"
   "เอ แล้วแต่กอ่นข้าเป็นยังไง"
   "เจ้าเหมือนคนที่มีจิตใจชิงชัง มองโลกในแง่ร้ายและไม่สนว่าจะไปทำร้ายใคร ตอนนี้เหมือนจะมีจิตใจเบิกบานเห็นใจและอภัยผู้อื่น แม้แต่แววตาของเจ้าก็ดูเหมือนจะสัตย์ซื่อขึ้น"
   "เอ๊ะเป็นเช่นนั้นหรือ เรื่องข้าพักไว้ก่อน บอกเรื่องของคนทั้ง 3 เท่าที่เจ้ารู้มาให้ข้าฟังอีกหน่อย"
   "ก็ไม่มีอะไรมาก ก็เหมือนที่เจ้ารู้สึกว่าทั้งหมดเหมือนคนไม่ดี แต่ยังไม่เห็นทำอะไรออกมา หน้าฉากเศรษฐีฮิ่มเหมือนคนใจบุญ เที่ยวบริจาคเงินให้สำนักต่างๆทุก 6 เดือน ศิษย์ง่อไบ๋คงมารับเงินบริจาค"
   "อืม.. มันมีแผนอะไรในการบริจาคเงินกันนะ"
   "แต่เศรษฐีฮิ่มมันก็มีข้อดี คือ ตั้งแต่มันมาอยู่ทำให้เศรษฐกิจการค้าดีขึ้น มันมาจับจ่ายใช้สอยไปเลี้ยงผู้คนในป้อมของมันจำนวนมากจนสินค้าไม่พอขาย"
   "ประเภทเดียวกับสายเปย์ ป้อมที่ว่าตืออะไร"
   "ก็คฤหาสน์ที่มันอยู่นะแหละ ปลูกซะใหญ่โตยิ่งกว่าป้อมปราการ"
   "แล้วป้อมของมันอยู่ที่ใด"
   "เจ้าไปทางตลาดออกนอกเมืองไปไม่ไกล จะเป็นป้อมปราการใหญ่นั้นแหละบ้านมัน"
   "ดีละ ข้าต้องลองไปเยี่ยมชมสักหน่อย ตอนนี้ขอไปเดินเล่นก่อนไว้จะกลับมา"
   "เจ้าอย่าไปหาเรื่องใส่ตัวละ"
   กังปังไม่ตอบคำออกจากห้องไปทันที

   ฝ่ายสองดรุณีง่อไบ๋ทีแรกตั้งใจจะมาพบเศรษฐีฮิ่มเพื่อรับเงินบริจาคแล้วเดินทางต่อไปเสี่ยวลิ้มเลย แต่ถูกขยั้นขยอให้ช่วยเดินเลือกซื้อของ เลี้ยงอาหาร และเลือกซื้อสินค้าทั้งของใช้จุกจิก เครื่องประดับให้พวกนางมากมาย จนเวลาตกไปเกือบถึงเย็นใกล้ค่ำ จึงเชิญพวกนางไปพักยังคฤหาสน์ของมัน
   สองดรุณีง่อไบ๋เกรงใจไม่กล้าขัดจึงตอบรับคำที่จะไปยังบ้านของมัน
   โดยหารู้ไม่ว่าเศรษฐคฮิ่ม มันมีแผนดึงเวลายอมจ่ายเงินจำนวนมาก แต่เล็กน้อยสำหรับมันเพื่อพาทั้งคู่ไปฟัน มันจึงยิ้มกริ่มนั่งในรถม้าร่วมทางมากับทั้งสอง
   ซึ่งต่างตื่นเต้นดีใจที่ได้รับของกำนัลถูกใจมากมายตามประสาหญิงสาวทั่วไป

   "สองดรุณีง่อไบ๋ งามสมคำร้ำลือจริงๆ คนพี่สวยหวานงามพริ้งเพรา คนน้องอวบอั๋น ดูสดใส หน้าหวานนวลใย ขาวสวยทั้งคู่ น่าเย็ดทั้งสองคน มาทำเป็นหัวเราะข้า ไว้คืนนี้ข้าจะจับเย็ดให้จั๋งหนั่บทั้งคู่เลย"
   เศรษฐีฮิ่มรำพึง จ้องมองตาวาวโรจน์ดุจเสือจ้องตะครุบเหยื่อ
   "เอาละซิ เศรษฐีฮิ่มที่ท่าทางใจดี ทำท่าไม่ดีเสียแล้ว
   งานนี้สองดรุณีง่อไบ๋ จะชะตาหอยขาด โดนฟาดไข่แดงหรือไม่ ต้องติดตาม





somc217

#1
ชื่นชอบกับไอเดียที่บรรเจิดของผู้เขียนมากๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุก รออ่านตอนต่อๆไปอย่างใจจดใจจ่อครับ
ขอบคุณมากๆ
::Shy::

navy868

กังปังต้องการทดลองวิชานี่เอง...เอาสองดรุณีง่อไบ๋มาทดลองซะเลย

Sawat Songprasop

   สุดยอดวิชาลึกลับ กังปังคงต้องหาสาวงามมาร่วมฝึกเคล็ดวิชาด้วย สองดรุณีนางงามแห่งยุคสำนักง่อไบ๊ คงเหมาะที่กังปังจะพามาทดสอบ

Peter Taowating

#4
ผู้แต่งเลือกโจวซิงฉือ เป็นกังปัง นี่เหมาะกับบทนี้มากๆเลยครับ คนยุคผมอึ้งย้งนี่จะนึกถึงหมีเซี๊ยะเลย เดินเรื่องได้สนุกน่าติดตามมากเลยครับ สำนวนเรียกว่ากลมกล่อมมากๆเรย

ขอบคุณครับ คุณกับผมน่าจะรุ่นเดียวกัน

samsung014

สองสาวง่อไบ๊จะเสร็จใครกันแน่ ฮิ่มตงกวงหรือกังปัง

biggiggog

เห็นหน้าโจวซิงฉือก็รู้แล้ว
ยังไงก็ต้องฮาแน่นอน ฮาแบบหน้าตายด้วยนะ
ขอบคุณมากๆครับ


zeebraa

#8
อ่านตอนนี้ เหมือน เอาหลายๆเรื่อง ที่มีคนเคยแต่งมายำกัน เช่น ชื่อ นางรัศมีเทวี ถ้าจำไม่ผิด ใครเคยอ่านมังกรหยกภาคพิสดาร น่าจะมีชื่อนี้ และเนื้อหาบางตอนคล้ายตอนนี้เลย ในช่วงต้นๆ แต่ก็เอาใจช่วยนะที่พยายามดัดแปลงเนื้อหา ทางที่ดีถ้าแต่งเป็นแนวของตนเองจะดีมาก

หากผู้อ่านได้อ่านมาโดยตลอดจะทราบว่าเรื่องพิศวาสมังกรหยก ก็เป็นเรื่องที่ผมเขียนเช่นกัน ซึ่งผมก็ได้อรรถาธิบายไว้ในเรื่องนี้แล้วเข่นกัน โดยไม่ได้นำของผู้ใดมาครับ
(ขออภัยทั่ไม่ได้เขียนบอกให้ชัดเจนครับ( ขอแก้ข้อความใหม่)
ตอนแต่งเรื่องพอศวาสมังกรหยก ผมใช้นามว่า งาบเอามาฝากครับ เขียนให้บอร์ดครอบครัว

5555maemoo

สายฮาชอบแน่ สายหื่นยิ่งชอบครับ  จะมีฉากสองสาวง้อไบ๊ โดนเอาโดยคนแก่ไหมครับชอบมาก

aek01

สุดยอดขนาดนี้กัมปังต้องไปช่วย แล้วจัดเองเลย

sunnie06