ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

กังปังตะลุยยุทธภพ ตอน สองดรุณีตีฉิ่ง

เริ่มโดย cobra, กุมภาพันธ์ 12, 2019, 08:58:15 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชอบตอนนี้หรือไม่

ชอบ
36 (100%)
ไม่ชอบ
0 (0%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 36

cobra

กังปังตะลุยยุทธภพ ตอน สองดรุณีตีฉิ่ง
   เนื่องจากประสบปัญหาคิวนักแสดงไม่ว่าง จึงขอเปลี่ยนตัวแสดงนำเป็นสองดรุณีง่อไบ๋


[center
[/center]

        "ท่านพี่ว่าไหมว่าเจ้าเศรษฐีฮิ่ม มันไม่น่าใช่เป็นคนดีเลย"
   เจียวเสียวเม่ยเปรยขึ้น หลังจากที่คนรับใช้นำทั้งสองมายังห้องพักในบ้านแล้ว
   "ยิ่งตอนสายตาที่มันมองพวกเรา มันส่ออาการลามกจนหน้าเกลียดไม่รู้จักเก็บอาการบ้างเลย"
   "ข้าก็รู้สึกเช่นกันว่ามันคอยจ้องเราอยู่ คงต้องระวังตัวไว้"
"แต่มันคงไม่กล้าล่วงเกินเราหรอก เพราะพวกเราเป็นศิษย์สำนักใหญ่ง่อไบ๋ แถมดูมันก็มีวรยุทธระดับปลายแถว ตอนที่มันอวดเพลงหมัดและกระบี่สอยดาว ข้ากลั้นหัวเราะแทบตาย"
นึกแล้วเจียวเสียวเม่ยก็หัวเราะคิกๆออกมาเล็กน้อย เมื่อนึกถึง
"นั่นนะซิ ดูแล้วฝีมือมันกระจอกมากสู้กับพวกเราคนใดคนหนึ่งก็คงไม่ได้ แต่เหตุใดจึงมีข่าวว่ามันปราบโจรท้องทะเลทรายถึง 40 คนและได้สมบัติมามากมาย"
   ทั้งคู่ต่างครุ่นคิดไม่ออก
"แต่ที่ปฎิเสธไม่ได้คือมันรวยจริงๆ แค่ห้องที่มันให้เราพักอยู่นี้ ก็ใหญ่โตโอ่โถงกว่าบ้านคนจนทั้งหลัง"
เจียวเสียวจูผู้เป็นพี่สาวพูดชึ้น
   "ใช่แล้ว เจ่เจ๊ ของประดับในห้องก็ล้วนหายากมีราคาประเมินค่าไม่ได้"
   (ตามวิสัยเศรษฐีฮิ่มมันเป็นคนชอบอวดรวย มันจึงประดับประดาห้องที่ให้แขกมาพักด้วยของมีราคาไม่ว่าจะเป็นแจกัน ถ้วยชาม รูปปั้น ฯลฯ เพื่ออวดความรวย ของบางชิ้นมาจากต่างประเทศ จากตรุกี เปอร์เซีย บางเป็นของมาจากพระราชา จักรพรรดิองค์ก่อน ที่อาจเรียกว่าเป็นของชิ้นเดียวในโลกก็ว่าได้ มีทั้งจัดโชว์ในตู้กระจก และวางไว้ภายในห้อง ดูอลังการ )
   "อืม เจียวเสียวเม่ยผงกศรีษะยอมรับ
   "พวกเราก็นับว่ามีวาสนาไม่น้อยเหมือนกันนะที่ได้มาพักชั่วคราวในสถานที่นี"
"โคมไฟนั่นก็ทำจากเพชรหรือไง จึงส่องประกายแววาวยามต้องกับแสงเทียนนับร้อยในห้อง ทั้งที่นอนก็ใหญ่แถมนุ่มสบาย ข้าไม่เคยนอนที่ไหนสบายเท่าที่นอนอันนี้มาก่อน คืนนี้เราคงต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันเพราะมีอยู่เตียงเดียวแต่นอนได้3-4คนได้สบาย"
   เจียวเสียวเม่ยพูดพร้อมลงไปนอนเกือกกลิ้งบนเตียงที่ยัดด้วยขนห่านอย่างอารมณ์ดี
   "ม่วยๆ เจ้ามาดูทางนี้ซิ"
   เสียงเจียวเสียวจูพูดทำให้เจียวเสียวเม่ยต้องลุกตามไปดู
   "โอโหในห้องมีอ่างน้ำขนาดใหญ่อย่างนี้ด้วยหรือ"
   "ใช่แถมไม่ต้องไปตักมาอาบ เพราะมีน้ำไหลออกมาจากกำแพงมีตัวปิดเปิดน้ำได้ ข้าคิดว่ามันต้องมีน้ำจำนวนมหาศาลอยู่หลังกำแพงนี้แน่"
เจียวเสียวจูอธิบาย
   "ข้ารู้มาว่าพวกชาวเคริดเปอร์เซียมีความนำสมัยด้านสถาปัตยกรรม คงใช้วิธีสูบน้ำมาจากลำธารมากักเก็บไว้ในด้านหลังห้องนี้ แล้วทำตัวเปิดปิดน้ำให้ใช้ได้ตลอดปีทีเดียว
   (ในสมัยนั้นชาวเคริดเปอร์เซียมีผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม เครื่องยิงหินขนาดยักษ์ืี่ถล่มเมืองเซี่ยงเอี้ยงก็มาจากพวกเคริดเปอรฺเซียคิดค้นขึ้น ส่วนห้องน้ำอันนี้ ผู้เขียนจินตนาการขึ้นเอง)
   "แถมน้ำใสไหลเย็นน่าอาบจัง เจ่เจํคิดเหมือนข้าไหม"
   เขาว่าผู้หญิงกับห้องน้ำเป็นของคู่กันคงจริงแท้
        "อืม เจ้าอยากลงเล่นน้ำใช่ไหม"
        "อืม ข้ารู้สึกเหนียวตัวทั้งวัน"
        "งั้นอย่าช้าเลย เรามาแก้ผ้าเล่นน้ำกันดีกว่า"
.............
          "บ้านอะไรวะ มันช่างใหญ่โตยังกะวัง ข้านึกว่าเดินอยู่ในเมืองซะอีก"
          ทางด้านกังปังได้เข้ามาสำรวจบ้านเศรษฐีฮิ่ม นานแล้ว
         "มีประตูเชิงเทินเหมือนป้อมปราการ ตัวบ้านกับปลูกยังสุเหร่าแขก รสนิยม เห่ยมากกว่า"
   "เวรยามมีมากแต่ก็หละหลวม คงคิดว่าบ้านใหญ่ไม่มีใครกล้าเข้ามากระมัง ข้าเดินซะรอบแล้วได้ยินเสียงรถม้ามาตั้งนานแล้วพาไปอยู่ทางไหนกัน"
   "เอ๊ เห็นมีใครเดินถือถาดอาหารออกมาจากตรงนั้น"
   กังปังหลบรอให้คนเดินไป ลองเอามือผลักกำแพงตรงช่องที่คนออกมา
   "เอ. ตรงนี้มีห้องเข้าไปได้ด้วย ข้าผ่านมาทีหนึ่งแล้ว ไม่ทันสังเกตุ"
   กังปังเดินเข้าไปเห็นมีบันไดลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงคนคร่ำครวญ
   "ไอ้หมูตอนบัดซบ เก่งแต่รังแกคนแก่ ใช้วิธีโกงแน่จริงคืนพิณข้ามาแล้วมาสู้กันสิ"
   เอ๊ะใครกันมาถูกขังที่นี้ มันมีคุกซ่อนไว้ในบ้านด้วยเหรอ
   กังปังคำนึงขึ้น เมื่อเห็นหญิงชราคนหนึ่งอยู่หลังกรงเหล็ก
   "ท่ายาย ท่านยาย"
   กังปังไปหยุดหน้ากรงเหล็กพลางส่งเสียงเรียก
   "นั่นใคร บังอาจมาทลึ่งนับญาติกับข้า เจ้ามาทำธุระอะไร"
   กังปังกลืนน้ำลายเอื้อก คิดในใจมาเจอคนแก่ขี้โมโหเจ้าอารมณ์เข้าแล้ว ทำใจดีสู้เสือประสานมือคำนับ
   "ข้าชื่อกังปัง มาตามหาสหายบังเอิญหลงทางมาทางนี้"
     "เจ้าคนเสร่อเฟอะฟะ ไหนมาใกล้หน่อยซิ แล้วเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร"
   กังปังเอามือไปเกาะกรงเหล็กเพื่อให้หญิงชราดูหน้าใกล้ๆ นึกในใจ
   "ยายแก่นี้ใครวะ"
   ฉับพลันหญิงชรากลับลงมืออย่างรวดเร็ว คว้าเอาชีพจรกังปังมากุมไว้ กังปังตกใจรีบเดินกำลังภายในต่อต้านการจับกุมของหญิงชราทันที
   "ข้าคือ พั้วะลิ้ม เจ้าของฉายาพิณสั่งฟ้า ผู้โด่งดังไงละ"
   ..........
   ตอน สองดรุณีตีฉิ่ง
   ทางด้านสองดรุณีตอนนี้กำลังลงเล่นพร้อมกันในอ่างน้ำใบใหญ่ในห้องแล้วโดยปราศจากอาภรณ์ ต่างนอนแช่น้ำอวดโฉมขาวสะอาดหมดจรด ราวกับประชันโฉมแข่งกันในอ่างน้ำ
   "เจ่เจ๊ว่าเราสองคนไปเสี่ยวลิ้มคราวนี้ จะสืบร่องรอยโจรที่เข้ามาขโมยของในง่อไบ๋พบหรือไม่"
   "เรื่องนี้ก็ไม่แน่ ว่าเชี่ยวเซี่ยงจื้อจะมีภาพวาดคนนั้นเป็นเช่นไร"
   "อาสมมุติว่าเราไปเจอภาพวาดของเราโดยเฉพาะภาพที่เจ้เจ๊นอนช่วยตัวเองยามค่ำคืนจะทำเช่นไร"
   "เจ้าเด็กบ้า มาทะลึ่งแล้ว" เจียวเสียวจูค้อนหน้าแดง
   "มาเห็นข้าทำแบบนั้นตอนไหนกัน"
   "ก็ตอนหลังจากที่เราไปพบคุณชายฮ่วยไง ท่านต้องมาจินตนาการถึงแน่ๆ"
   "เจ้าเด็กแก่แดด แล้ว หรือเจ้าไม่เคยรึ กลางวันแสกๆ ยังกล้าเอาเทียนไขมาแหย่หีตัวเองจนหักหมด จนเทียนในสำนักไม่พอ"
   ถึงคราวเจียวเสียวเม่ยโดนบ้าง อับอายหน้าแดงไม่แพ้กัน เริ่มสาวไส้กันเอง
   "ไฮ้...เจ๊เจ๊เห็นเมื่อใด ข้าไม่ยอม ศิษย์พี่คนอื่นก็ทำเช่นข้า ข้าว่าเจ๊เจ๊เองก็ต้องเคยทำเช่นกัน ไม่งั้นเทียนในสำนักจะหมดเร็วขนาดนี้หรือ"
   "อย่ามากล่าวหาพล่อยๆ "
    เจียวเสี่ยวจูรีบปัดเรื่องเทียนไขนางต่างรู้ดีว่าไม่เพียงเฉพาะศิษย์ฆราวาสในสำนักเท่านั้น แม้แต่นางชีหลายคนในสำนักไม่เพียงแต่เอาไปจุดไฟเท่านั้นยังใช้ประกอบกามกิจอื่น  แม้แต่แม่ชีตันหยงและศิษบเอกของนางทั้งสองว่านชืงและเซี่ยวหลิง ช่วง 2 เดือนนี้ก็เบิกเทียนไขไปเป็นจำนวนมาก
   "ไหนข้าพิสูจน์ดูก็ได้ ว่าของท่านมีเศษเทียนติดบ้างหรือเปล่า"
   ไม่พูดเปล่าเจียวเสี่ยวเม่ยยังยื่นมือมาตะปบหมับที่โคกนูนของเจียวเสียวจูทันที
   "อย่าทลึ่งเอามือมาจับหีข้านะ.."
   "ไม่    นี่ไง เศษเทียนยังระคายมือเลย"
   "เจ้าทลึ่งกล้ามุสา ข้าไม่เคยของเจ้าต่างหากที่มีเศษเทียน นี่ไงเม็ดเบ้อเริ่มเลย"
   ว่าแล้วเจียวเสี่ยวจูก็เอามือมาจับหีอวบอูมของม่วยม่วยนางดูบ้าง แถมแหย่นิ้วเข้าไปสะกิดตรงเม็ดก๋วยจี๋นางพอดี
   "ไฮ้....นี่เม็ดก๋วยจี๋ข้า....อูยศ์ซี้ดส์.....ข้าต้องเอาคืนบ้าง นี่แนะ"
   ทั้งสองพี่น้องต่างหยอกล้อกันผลัดกันล้วงควักหีให้กันและกันอย่างสนุกสนาน หนักเข้าเลยเกิดความเสี้ยนด้วยกันทั้งคู่จากที่ล้วงหีกันไปมา
กลายเป็นประกบตัวเข้าหากัน สอดไขว่ขากันเป็นตัวกากบาทประกบหีถูไถกันจนน้ำในอ่างแตกกระจาย เสียงดังเผาะ ต่างขมิบรูหีดูดรูหีอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมลดละให้กัน
   "โอ้ย เสียวๆ ดูซิใครจะสะ...เสร็จก่อนกัน"
   "ได้เลย ของเจ่เจ๊ดูดแรง เดี๋ยวข้าต้องดูด(เม็ดก๊วยจี๊(แตด)ของท่านบ้าง
   "เจ้าต้องแพ้ข้าแน่ ของเจ้าสั่นรัริกระรี้ในรูข้าไม่หยุดแบบนี้ "
   "โอ้ย เจ่เจ๊เป็นครั้งแรกที่เราได้เล่นสนุกกันแบบนี้ มันดีจังไว้เราต้องเล่นแบบนี้กันบ่อยๆแล้ว"
   "เจ้าอย่าเพิ่งเสร็จนะ ดูดของข้าด้วย อึ้ยสฺ เสียวซ่านไปหมด"
   จากการหยอกล้อกันจนเลยเถิด เล่นฉิ่งกันอย่างสนุก เจียวเสียวจูกับเจียวเสียวเม่ยต่างบดรูหีกันหนักๆไปมา จนเส้นหมอยถูไถกันดังแกร็กๆ มีหลุดร่วงออกมาไม่รู้ว่าเส้นใดเป็นของใคร


   ขณะที่ทั้งสองดรุณีต่างกำลังเล่นตีฉิ่งกันอย่างสนุกสนาน เสียวกระสันต์ในอารมณฺนั้น ทั้งคู่หารู้ไม่ว่าการกระทำของพวกนางต่าวตกอยู่ในสายตาของเศรษฐีฮิ่มตงกวงตลอดเวลา
   โดยมันอาศัยสถาปัตยกรรมชั้นสูงอาศัยการสะท้อนหักเหจากโคมไฟคริสตัลที่บนเพดานสะท้อนภาพภายในห้องมายังกระจกที่สามารถปรับมุมมองได้อย่างชัดเจนตามต้องการราวกับมันมีกล้องวงจรปิดในยุคปัจจุบัน
   มันดูสองดรุณีเล่นเกี่ยวเบ็ด กางขาต่างใช้รูหีของตนเข้าต่อสู้ขมิบตอดดูดกับรูหีอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร จนมันเกิดความเงี่ยนง่านสุดทนจนต้องล้วงเอาควยมันออกมาชักว่าวตามไปด้วย แม้กระนั้นมันยังรู้สึกไม้หายเงี่ยนมีแต่ความเงี่ยนที่เพิ่มขึ้น
   "สองดรุณีเล่นตีฉิ่งแบบนี้ ข้าทนไม่ไหวแล้วโว้ย ไม่รอให้ดึกแล้ว  เข้าไปจับพวกนางมาเย็ดตอนนนี้เลยดีกว่า"
   คิดแล้วมันก็หมุนกระจกบนโต๊ะคว่ำลง เดินไปที่ผนังกำแพงห้อง เอามือกดกลไก
   ผนังห้องจึงเปิดออก มันรีบถอดเสื้อกางเกงโยนออกอย่างรีบร้อน เดินแก้ผ้าอวดร่างอุจาดเข้าไปในนั้น
   ที่แท้มันกลับเป็นทางลับที่สามารถเข้าไปในห้องพักของสองดรุณีง่อไบ๋ได้
   แม้ว่าพวกนางจะปิดประตูลงกลอนแน่หนาแล้ว แต่ก็ไม่อาจคาดถึงว่ามันจะมีทางลับอิ่นที่เข้ามาได้
   สองดรุณีง่อไบ๋กำลังตกในอารมณ์เสี้ยนกระสันต์จนหูอื้อตามัว ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าจะมีใครเข้ามาในห้อง
   เศรษฐีฮิ่มตาวาวด้วยความชั่วร้ายหื่นกระหาย ค่อยก้าวขาลงไปในอ่างอาบน้ำ
   สองดรุณีง่อไบ๋รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมของน้ำอันเกิดจากน้ำหนักตัวอันอ้วนฉุของมัน ราวกับมีใครโยนของหนักลงมาในน้ำ จึงหยุดชงักหันไปดูต้องตกใจร้องขึ้นพร้อมกัน
   "ท่านเศรษฐีฮิ่ม!"
   "พวกเจ้าเล่นอะไรกันขอข้าเล่นด้วยคนซิ"
   ............


     "พลังอะไรนี้ ทำไมมันมากมายมหาศาลเช่นนี้ ข้าไม่เคยพบ"
   ยายเฒ่าพั้วะต้องร้องขึ้นอย่างตระหนกบ้าง ร่างนางถึงผงะถอยไปด้วยพลังที่ดีดสะท้อนออกมา
   "ดูท่าเจ้าจะไม่ใช่พวกมันจริงๆ"
   "เดี๋ยวท่ายายคอยสักครู่"
   กังปังพูดพร้อมกับนำกระบี่ที่ติดตัวมาออกจากแขนเสื้อ ส่งกำลังภายในไปฟันกุญแจประตูให้ขาด
"เคร้ง เครีง"
ได้ยินแต่เสียงกระบี่กระทบโซ่กุญแจประตูแต่ไม่มีผลอย่างไร
ยายพั้วะถอนหายใจกลับไปนั่งทอดอาลัย หันหลังให้กังปังตามเดิม
        "ไม่ประโยชน์หรอก มันทำจากเหล็กพิเศษดาบกระบี่ธรรมดา ไม่อาจทำให้มันขาดจากกันได้ ไร้ประโยชน์เจ้าไม่มีทางทำลายประตูนั้นได้หรอก"
        "ว๊าย...อุ้ย เจ้าเข้ามาได้อย่างไร"

         นางเฒ่าร้องอย่างตกใจ เมื่อหันกลับเห็นกังปังนั่งเท้าคางเอาโซ่เหล็กและแม่กุญแจหมุนเล่นในมือ
         "ไอ้กุญแจนั้มันเด็กๆ ข้าเอาลวดไขแป้บเดียวก็ออก"
กังปังเป็นหัวขโมยมาก่อนทั้งได้วิชามือมายากลจากจูชงหนึ่งในเจ็ดตัวประหลาดกังหนำที่เป็นอาจารย์ของก๊วยเจ๋งมาก่อน กังปังชมชอบทางด้านนี้จึงนำมาใช้ได้อย่างเชี่ยวชำนาญ
   เฒ่าพั้วะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบนร่างกายกังปังจึงร้องบอกออกมา
   "เจ้าไฉนจึงมีเลือดกำเดาไหลออกมา"
   กังปังได้ยินจึงตกใจยกมือเช็ดจมูกปรากฏมีเลือดกำเดาสีดำติดมือมา
   "ไหนข้าขอจับชีพจรเจ้าดูอีกหน"
   นางเฒ่าพั้วะเอามือไปจับข้อมือกังปังไว้
   "อย่าได้สบัดดิ้นรนตกใจ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก บิดาข้าเป็นจอมแพทย์ข้าพอมีวิชาแพทย์ติดตัวมา"
   พอนางเฒ่าพั้วะร้องบอกเช่นนั้นกังปังจึงคลายใจ ยอมให้นางตรวจดูแต่โดยดี
   นางเฒ่าจับตรวจชีพจรกังปังต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เอามือจับตรวจดูศรีษะ  ให้กังปังอ้าปากแลบลิ้นออกมา จับหนังตากังปังเลื่อนลงเพื่อตรวจดู เป็นเวลาสักพักจนกังปังอึดอัดต้องถามขึ้น
   "เป็นยังไงบ้างท่านยาย"
   "อาการเจ้าน่าวิตกบ้าง เจ้าอาจมีอายุไม่ยืนไม่ถึงปีเจ้าอาจต้องเสียชีวิต"
   "หา จากอาการสมองบวมนั้หรือ"
นางเฒ่าส่ายหน้า
   "เจ้าไม่ใช่สมองบวมธรรมดา แต่มีเนื้องอกในสมอง"
โรคเนื้องอกในสมองสมัยนั้นเป็นโรคค่อนข้างใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและพบเห็น กังปังก็เช่นกันไม่เข้าใจ
"หมายถึงข้ามีมันสมองเพิ่มขึ้นทำให้ข้าฉลาดขึ้นหรืออย่างไร"
"เจ้าโง่เอย ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เนื้องอกในสมองเป็นก้อนเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นไปกดทับเส้นประสาท ทำให้เจ้ามีความแปรปรวนทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ บางทีเกิดวิงเวียนหน้ามืดหมดสติ นอนไม่ค่อยหลับ มีอาการฝันร้ายประจำ ต้องรีบกำจัดทิ้งเพราะอาจทำให้เจ้าตายได้ อาการเจ้าจะหนักขึ้นทุกวันเพราะเจ้าเนื้อร้ายมันจะโตขึ้น ยิ่งทำให้เจ้ามีอาการเพิ่มขึ้น"
   "เอ..อย่างนี้เท่ากับข้าต้องตายสถานเดียวหรือ"
   "ยังไม่ต้องตกใจอาจมีทางแก้ไขทำให้มันหายได้ ด้วยเสียงพิณของข้า เพียงแต่เราต้องหาพิณข้าให้พบ"
   "ให้ข้าฟังเสียงเพลงที่ท่านบรรเลงแล้วทำให้หาย พิลึกกึกกือ"
   "เจ้าไม่รู้จักวิชาดนตรีบำบัดหรือไง ตอนนี้มีผู้ใช้ดนตรีบำบัดมี 2 คนคือข้าฉายาพิณสั่งฟ้า และหลานสาวข้าคือพั้วะยิ้มยี้ ฉายาพิณสยบฟ้า"
   "นางพั้วะยิ่มยี้หนึ่งใน 10 โฉมสะคราญที่แท้เป็นหลานสาวท่านหรือ"
   "แหมเจ้านี้มันช่างชีกอจริงๆ เจ้าเหมือนคนไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างในยุทธภพ แต่กลับรู้เรื่องโฉมสคราญเพียงอย่างเดียว"
   กังปังยิ้ม พูดประจบเอาใจ
   "ท่านยายแสนดี ข้ายินดีช่วยท่าน ถามอีกนิดเสียงพิณท่านจะวิเศษเช่นนั้นเชียวหรือ"
   "เจ้าพอรู้ว่าข้ามีหลานสาวสวยเปลี่ยนเป็นมารยาทดีเชียว"
   "ฟังให้ดี อันดนตรีมีคุณทุกสิ่งไป ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์"
"เดี๋ยวก่อนท่านยายนี้มันกลอนสุนทรภู่ในเรื่องพระอภัยมณีไม่ใช่หรือ ทำไมเอามาปนกับกำลังภายใน"
   ยายพั้วะโดนกังปังเบรคต้องชงักกึก
   "เอ้างั้นข้ายกตัวอย่าง ตอนสุมาอี้ยกทัพไปล้อมเมือง ขงเบ้งได้ขึ้นไปดีดพิณบนเชิงเทินจนสุมาอี้ต้องยกทัพถอยไป รู้ไหมเพราะอะไร
"งั้นเพราะอะไร"
   "เพราะขงเบ้งมีความสามารถพิเศษสามารถใช้เสียงเพลงสะกดจิตใจให้ผู้ฟังเคลิบเคลิ้มคล้อยตามทำตามสั่งได้ดังใจ แต่อานุภาพของเสียงพิณข้าสามารถสั่งฟ้าดินได้มีอานุภาพมากกว่าเสียงพิณของขงเบ้งตั้งหลายเท่า
   "แหมคุยไม่ค่อยเก่งเลยนะท่านยาย"
   นางเฒ่าพั้วะถึงกับหุบยิ้ม ชงักกึก
   "เจ้าเด็กไม่มีมายาท คอยเบรคข้า ชอบมาพูดจาแซวผู้ใหญ่ เห็นข้าเป็นเพื่อนเล่นหรือไง"
   "โอ๋ โอ๋ ท่านยายนิสัยข้าไม่ดีอย่าถือสาเลย ท่านเล่าต่อสิ"
   "ไม่เล่าแล้วโว้ย " ยายเฒ่างอน แต่กลับเอยถามกังปังบ้าง
   "ที่เจ้าเข้ามาหาเพื่อนคือใคร"
"เป็นสองดรุณีงีอไบ๋"
   "ท่ีแท้เจ้าก็หน้าหม้อมาติดตามคนสวย ป่านนี้ เฮอะ"
   "ปานนี้อะไรท่านยาย"
   กังปังซักไซร้บ้าง
   "ตลอดปีที่ผ่านมาไอ้ฮิ่ม กับสมุนของมันนางรูมีปาน กับไอ้กูเย็ดแม่มาทำร้ายผู้คนตั้งมาก โดยเฉพาะหญิงสาว
   "ฮ่า ฮ่า ท่านยายนี้หนักกว่าข้าอีก มันชื่อกูเย็ดมันส์ ไม่ใช่เย็ดแม่
"เออ มันจะเย็ดใครช่างมันเถอะ แต่ไอ้ฮิ่มมันตัวร้ายชั่วชาติมาก
   "มันเที่ยวบริจาคเงินให้ใครเดินทางมาพักบ้านมัน แล้วจับลูกเมียเขาเย็ดหมด ไม่ว่าจะเป็นเมียเจ้าสำนักคงท้ง ลูกสาวสำนักคุนลุ้น แม้แต่นางชีก็ไม่เว้น โฉมสคราญทั้งคู่เข้ามาในบ้านมันนานหรือยัง สวยๆอย่างพวกนางป่านนี้โดนมันจับเย็ดไปทั้งคู่แล้วมั่ง"
   กังปังใจหายวาบได้ฟังรู้สึกเดือดดาลโมโหอย่างมาก ด้วยความหึงหวงและอดวิตกเป็นห่วงสองดรุณีง่อไบ๋อย่างมาก ทั้งๆที่มันก็ยังไม่เคยพูดคุยกับพวกนางสักคำ จึงพูดคล้ายตวาดไปที่ยายพั้วะ
   "เฮ้ย ท่านพูดจามั่วซั่วหรือเปล่าจะเป็นได้ไง ทำไมถึงไม่มีใครโวยวายออกมาเปิดโปงเรื่องนั้
   "ข้อนี้ข้าไม่รู้ แต่มันชอบคุยอวดโอ้ให้นางรูกับไอ้กูฟังให้ข้าได้ยิน ว่าวันนั้นวันนี้มีใครมาให่มันเย็ดถึงบ้านบ้าง ต่อไปจะเป็นใคร"

   กังปังยิ่งฟังยิ่งเกิดอารมณ์ทั้งโมโหทั้งหึง ใจร้อนรุ่มกระวนกระวายห่วงสองดรุณีง่อไบ๋มาก
   " หากมันชั่วขนาดไม่เว้นลูกเมียใครอย่างนี้ข้าจะจัดการมันเองเพื่อขจัดภัยของบู๊ลิ้ม"
   "มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดนะสิ เพราะทั้งไอ้ฮิ่มกับนางรูและไอ้กูมันมีวิชาประหลาด"
   "แหมท่านยายอาจไม่รู้ว่าข้าเก่งขนาดไหน คนพวกนี้ไม่คณามือข้าหรอก"
   "ดูเหมือนเจ้าก็คุยไม่เก่งเหมือนกัน"
   ยายพั้วะเอาคืนกังปังกลับบ้าง
   "แต่เอาเถอะข้าเชื่อว่าเจ้าเก่งไม่อย่างนั้นคงไม่เข้ามาถึงนี้ได้ แต่จงระวังไว้ไม่ต้องถึง 3 คนหรอก หากเจ้าเผชิญกับไอ้ฮิ่มคนเดียวเจ้าก็อาจสู้มันไม่ได้
   กังปังอดแปลกใจไม่ได้ ดูท่าไอ้ฮิ่มไม่เห็นจะมีวรยุทธใด ทำไมข้าจะสู้มันไม่ได้
   ก็เพราะมันมีพลังจิตคุมกาย
พลังจิตคุมกาย
กังปังทวนตำ

   .......................................................
   กังปังตะลุยยุทธภพ ตอนพลังจิตคุมกาย

สองดรุณีง่อไบ๋ตกตะลึงพรึงเพริศ ขยับตัวจะขึ้นจากอ่างน้ำ

          "จะรีบไปไหนละ เล่นหอยจิ้มหอยมันไม่สนุกเท่ากับโดนดุ้นเนื้อจริงๆจิ้มหรอกมันส์กว่าเยอะ
           สองดรุณัง่อไบ๋รู้สึกตกใจและอับอายอย่างมากที่มันกล้าพูดจาหยาบคายแบบนี้กับพวกนาง

          "ไฉนเจ้าพูดจาปากหมาเช่นนี้ เสียแรงที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ทันไรออกสันดานชั่วลามกมาให้เห็นแล้ว"
           ฮ่า ฮ่า ฮ่า เศรษฐีฮิ่มหัวเราะเสัยงมันช่างกวนประสาทยิ่งนัก
           "เจียวเสียวจู เจียวเสียวเม่ย นั่นพวกเจ้าจะไปไหนข้ายังไม่อนุญาต"
           "เจียวเสียวจูมามะมาให้ข้ากอดหอมแก้มเสียหน่อย"
เศรษฐีฮิ่มพูดอย่างลำพอง
          "ไอ้ชาติชั่ว เห็นพวกข้าง่ายนักหรือ เจ๊เจ๊ข้าไม่มีวันที่จะ..."
          เจียวเสียวเม่ยผู้น้องพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเจียวเสียวจูโผร่างเข้าไปให้มันสวมกอดและเอียงแก้มซ้ายขวาให้มันจูบดังฟอดๆ โดยที่เจียวเสียวจูหลับตาปี๋อย่างขยะขแยง
         "เจียวเสียวจูคนสวย แก้มนวลใสข้าอยากจูบตั้งแต่แรกเห็นแล้ว"
เจียวเสียวเม่ยเห็นการกระทำพี่สาวต้องตกใจ
         "ไฉน เจ๊เจ๊ถึงได้ยอมให้มันล่วงเกินแบบนี้ได้โดยไม่ต่อต้านละ"
        "เสียวเม่ย มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าเข้าใจ ข้าก็ไม่รู้ทำไม"
         เจียวเสียวจูร้องบอก
        "ฮ่า ฮ่า ทีนี้ถึงตาเจ้าแล้วเสียวเม่ย เจ้านี้นมบึมน่าดูดดีแท้ เสียวจูไปยื่นข้างๆก่อน"
         เสียวเม่ยเตรียมตัวจะขึ้นจากอ่างน้ำหนัไป
        "เสียวเม่ยมากอดกับข้าเหมือนพี่สาวเจ้ามามะ"
         เสียวเม่ยต้องร้องเหวอ อย่างงงันตัวเอง เหมือนตอนนี้เหมือนร่างกายไม่ใช่ของนาง กลับหันกลับไปโผเข้าหาเศรษฐีฮิ่มที่กางมือรอรับ เมื่อเสียวเม่ยเข้ามาก็โอบกอดกับมัน แถมเอียงแห้มที่เป็นให้มันบรรจงจูบทั้งสองข้างเช่นเดียวกับพี่สาวนาง
        "ว้าย อะไรกันนี้ มาจูบแก้มข้าได้ไง"
         เสียวเม่ยร้องอย่างตกใจทำท่าขยะขแยงหลับตาปี๋เช่นเดียว
         "ตนน้องช่างสะดีดสะดิ้งนักต้องโดนหนักกว่าพี่สาว"
         เสียวเม่ยแม้หลับตาปี๋ แต่รู้สึกจั้กจี้ซู่ซ่า อัยงอก้มนวลใสเป็นพวงให้มันจูบแล้วจูบอีก
         "เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรานี้ เหมือนร้างกายเราไม่ตอบสนองตัวเองแต่ไปทำคามที่มันสั่งทุกอย่าง"
"แก้มหอมทั้งคู่ ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว คราก่อนง่อไบ๋ส่งแม่ชีคนสวยกับรองเจ้าอาวาสมาให้ข้าชิม ครั้งนี้ส่งเบอร์หนึ่งของสำนักมาให้ข่าเลยถูกใจจริงๆ"
           "อ๊ะเกิดอะไรกับทั้งสองหรือเป็นเช่นพวกเรา" สองดรุณีง่อไบ๋ต่างคำนึง
           "ทีนี้มาจูบกัน เริ่มจากเจียวเสียวจูก่อน"
           เจียวเสียวจูเหมือนร่างกายยับเองเอามือจับแก้มเศรษฐีฮื่มเชยคางเผยอริมฝีปากแดงสดออกเล็กน้อยให้ไอ้ฮิ่มมันประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม มันเป็นจูบแรกของนางที่คิดว่าจะมอบให้กับชายที่รัก แต่ต้องถูกไอ้ฮิ่มคนโสโครกมาชิมก่อน น้ำตาที่โศกเศร้าสะเทือนใจ พลันหลั่งออกมาเป็นสาย เจียวเสียวเม่ยเห็นพี่สาวร้องไห้สุดแสนสงสารไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะอีกเดี๋ยวตัวเองก็ตกในสภาพเดียวกันทำได้เพียงร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมาเช่นกัน
   ไอ้ฮิ่มถอนจูบออกมามองเห็นน้ำลายยืด มันกลับแลบลิ้นเลียพูดว่า
   "ปากเจ้าช่างหวานหอมนัก"
   คำพ๒ดการกระทำของมันยิ่งเพิ่มความสะอิดสะเอียนให้กับสองดรุณี
   "ตาเจ้าแล้ว มาให้ข้าจูบ ดูซิจะหวานหอมเช่นพี่สาวหรือไม่"
   เจียวเสียวเม่ยพยายามที่จะขัดชืนพยายามเม้มปากแน่น แต่ร่างกายเหมือนทำไม่ได้ พอไปถึงตรงหน้ามันปากที่เม้มกลับเผยอยื่นปากชมพูสวยให้มันประทับจูบ มันเป็นจูบแรกของเสียวเม่ยเช่นกัน ตั้งใจว่าหากมันแลบลิ้นเข้ามาจะกัดให้ขาด แต่พอถึงเวลานางกลับส่งลิ้นไปตีพัวพันกับลิ้นของมันซะอย่างนั้น
   "ปากช่างหอมหวานอร่อยทั้งเจ๊ม่วยด้วยกันทั้งคู่"

   มันมีเวทมนต? ผีบ้าอะไรถึงทำให้เป็นอย่างนี้

   สองดรุณีง่อไบ๋ไม่เคยจะประสบกับเหตุการณ์อันน่าอดสูและอับอายเช่นนี้มาก่อน ต่างพากันคลั่งแค้นใจที่ตกในสภาพนี้ ทำได้แค่เพียงแผดเสียงด่าดังลั่น
   "ไอ้ชั่วช้า ลามก กล้าทำแบบนี้กับเรา อาจารย์ข้าเอาเจ้าตายแน่" เจียวเสียวจูร้องด่า
   "ข้าจะขอจดจำ อาฆาตเจ้าไปจนตาย หากรอดไปเจอเจ้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น"
   เศรษฐีทิ่มหัวเราะลั่น ตอนนี้ทั้งสองถูกมันโอบกอดทั้งซ้ายขวาข้างละคน มันไม่เพียงกอดเปล่ายังเอามือละลาบละล้วงทั้งนมทั้งรูหีของทั้งสองนางไม่หยุด
   "ฮ่า ฉ่า ฮ่า มันช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเจ้าจะจำคืนแห่งความสุขนี้ไม่ได้ซิ"
   ทั้งสองต่างพากันประหลาดใจ
   "จะบอกให้อาจารย์เจ้าแม่ชีตันหยง และศิษย์พี่มู่ว่านชิงของเจ้าก็ถูกข้าเย็ดไปแล้วทั้งคู่ ต่อให้อาจารย์เจ้าอาวาสอุงหลิง มาเอง ก็จะถูกข้าจับเย็ดเช่นกัน"
   "เป็นไปได้ไง เจ้าโกหกข้าไม่เชื่อหรอก"
   ทั้งสองนึกขึ้นได้ว่าเมื่อหกเดือนก่อนรองเจ้าอาวาสแม่ชีตันหยงและศิษย์พี่ว่านชิงต่างก็มาพักที่นี้ แต่หากประสบเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้ทำไมถึงนิ่งเฉยไม่บอกกล่าวหรือมีท่าทีแค้นเคืองบ้างละ
   "ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเอาหลักฐานมาให่เจ้ายังไง มาดูซิว่าเจ้าทั้งคู่จะเด็ดสู้อาจารย์และศิษย์พี่เจ้าได้ไหม"
   "แช่น้ำนานเดี๋ยวตัวเปื่อยเปล่า พวกเจ้าลุกขึ้นจากน้ำไปเช็ดตัว แล้วไปนอนรอข้าบนเตียง เราไปนอนเย็ดบนเตียงที่แสนนุ่มนั้นดีกว่า มันจะเป็นค่ำคืนแห่งความสุข ที่มันส์เหาะอร่อยกว่าที่พวกเจ้าเล่นกันเองหลายเท่า"
   แล้วไอ้ฮิ่มแสนชั่วก็หัวเราะก้องออกมาอย่างกวนตีนสุดๆ
   ทั้งสองเดินขึ้นจากอ่างน้ำ ต่างมองหน้ากันอย่างสุดแสนขมขืน ราวกับนัดกัน ต่างฝ่ายต่างตะโกนร้องจนสุดเสียง

   "ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยพวกเราด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย"

   เสียงร้องของพวกนางตะโกนก้องดังไปทั่ว จนฮิ่มต้องเอามืออุดห๓ ด้วยความหนวกหู
   สองดรุณีง่อไบ๋ กำลังจะโดนไอ้แสนชั่วฮิ่มตงกวง จับทิ่มหีอยู่รอมร่อ มันช่างแสนชั่วและลำพองยิ่ง ขนาดสองดรุณีเอาชื่ออาจารย์และสำนักง่อไบ๋ขึ้นมาขู่เพื่อเอาตัวรอด แถมมันนอกจากไม่กลัวแล้ว มันยังจะจับอาจารย์พวกนางเย็ดอีกคน ทำไมมันถึงมั่นใจอย่างนี้ได้
   กังปังจะได้ยินเสียงร้องของพวกนาง และมาช่วยเหลือ ต่อสู้กับพลังจิตคุมกายได้หรือไม่
   ล้วนต้องติดตามในตอนหน้า วิงวอนท่านโปรดช่วยพวกเราด้วย






biggiggog

ลุ้นให้โดนหรือไม่โดนดีหว่า
แต่ท่าทางลีลาไอ้อ้วนน่าจะไม่เบานะ
ไอ้เรามันสายหื่นลุ้นโดนแล้วกัน ::Sobad::
ขอบคุณมากๆครับ

samsung014

"ฟังให้ดี อันดนตรีมีคุณทุกสิ่งไป ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์"
"เดี๋ยวก่อนท่านยายนี้มันกลอนสุนทรภู่ในเรื่องพระอภัยมณีไม่ใช่หรือ ทำไมเอามาปนกับกำลังภายใน"
5555 ถึงกับลั่น กำลังตั้งใจอ่านแท้ๆ หวังว่ากังปังจะมาช่วยสองสาวทันและได้เปิดซิงนะ

navy868

ไอ้เศรษฐีนี่มันชั่วร้ายจริงๆ กังปังจะสู้มันไหวมั้ย? ::Angry:: ::Horror::

somc217

รอลุ้นว่าจะกังปังช่วย 2 สาวได้ทันหรือไม่ และถ้าทันจะได้ใครเป็นรางวัล ?
น่าติดตามมากๆ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ

pongsap


Sawat Songprasop

   กังปังรีบมาช่วยสองดรุณีเร็ว แล้วเสียบแทนไอ้เศรษฐีชั่วด้วย แต่วิชาอะไรของมันน่ะ บังคับกายให้ทำตามที่มันสั่งได้ด้วย ร้ายกาจพิลึก

ppyyaa

ตอนนี้ชอบมาก พลังแบบนี้ อ่านแล้วลุ้นตามตลอด


5555maemoo

มาตามคำขอเลยครับ ได้มีกระทู้เขียนขอความเห็นเรื่ งชอบแต่ละตอน ขอตอบทุกตอนว่าชอบมาก