ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

โจ หมัดสั่ง (อัตชีวประวัติ)

เริ่มโดย footswitch, มีนาคม 03, 2019, 03:07:36 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

footswitch

สวัสดีครับ ผมชื่อโจ ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัทระดับผู้บริหารในสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ก็ว่าจะเล่ากันตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาเลย ย้อนไปยี่สิบกว่าปี สมัยที่เงินสิบเงินร้อยยังหายาก โดนเพื่อนล้อว่าเป็นลูกกะหรี่จนต้องขอแม่ลาออกจากโรงเรียน

ไม่รู้ว่าก่อนจะมาเกิดนี่ผมอธิษฐานจิตมายังไงหรือทำบุญด้วยอะไรมามิทราบถึงได้โชคดีเรื่องแอบดู ครับ อ่านไม่ผิด โชคดีเเรื่องแอบดูก็คือตั้งแต่เล็กจนโตจนถึงตอนนี้อายุสามสิบกว่ามักจะมีสาวๆมาแก้ผ้าแก้ผ่อนล่อนจ้อนให้ได้สอดส่องพิจารณาผ่านรูเล็กๆบนกำแพงอยู่บ่อยๆ

พ่อของผมเป็นข้าราชการวัยเกษียณส่วนแม่เป็นนักร้องในคาเฟ่ ในวันที่ผมเกิดแม่ยังอายุไม่เต็มสิบแปดปีส่วนพ่อเป็นชายแก่วัยหกสิบห้า ตอนสิบขวบหลังจากงานศพของพ่อญาติทางพ่อก็รับผมไปเลี้ยงดูตามคำสั่งเสียแลกกับเงินก้อนหนึ่งที่จ่ายให้แม่ หลังจากนั้นอีกเกือบยี่สิบปีผมจึงได้เจอกับแม่อีกครั้ง

จะเรียกว่าผมโตมากับคาเฟ่เลยก็ได้ ตามคำบอกเล่าได้ความว่าแม่เอาผมมาเลี้ยงในห้องแต่งตัวตั้งแต่ยังนอนแบเบาะ อยู่ไฟหลังคลอดจนครบวันพอมีกำลังวังชาดีแม่ก็กระเตงพาผมออกจากบ้านของพ่อ อาจด้วยเพราะเข้ากับญาติๆทางพ่อไม่ได้หรืออย่างไรก็ตาม แต่ในที่สุดเราสองแม่ลูกต้องต้องระเห็ดออกมาเผชิญโชคกันตามลำพัง

          "อีฝ้าย!! .. นี่มึงจะแก้ผ้าแก้ผ่อนก็เกรงใจลูกกูมั่ง ไอ้โจมันเด็กผู้ชายนะ!!" แม่ดุน้าฝ้ายสาวนักร้องรุ่นน้องคนบ้านเดียวกัน
          "โอ้ย!! พี่นิด ให้มันดูๆไปเถอะ ดีแล้วล่ะที่ไอ้โจมันชอบดูผู้หญิง"
          "ลูกกูใจแตกหมดอีพวกนี้" แม่เดินมาปิดตาพาไปนั่งเก้าอี้ติดชิดริมผนังห้อง

          "มันเห็นจนเบื่อแล้วมั้ง นี่มันห้องแต่งตัวนะพี่นิด วันๆนึงมีคนเดินเข้ามาแก้ผ้าในห้องนี้ไม่รู้กี่สิบคน"
          "ถามจริงๆว่าพวกมึงเป็นอะไรกับลูกกูมากมั้ยเนี่ย เด็กมันกำลังโตพวกมึงก็ชอบโชว์แกล้งมันกันจริ๊งงง"
          "โชว์หน่อยๆ โชว์เพื่อการศึกษาไงพี่นิด" น้าฝ้ายยิ้มหยิกแก้มผมเบาๆ "ชอบน้าเหรอจ้ะ แหม เจ้าชู้นะเราเนี่ย.."
          "เสี่ยเค้ารออยู่ไม่ใช่เหรอ รีบไปเลยไป" แม่ส่ายหน้าถอนหายใจ "ท่าทางเสี่ยแกจะเมามากนะนั่น แกระวังเนื้อระวังตัวล่ะ"
          "โอ้ย เพลานี้แล้วฝ้ายปล่อยเลยตามเลยตามเลยแล้วพี่นิด" นาฬิกาแขวนบอกเวลาเที่ยงคืนกว่า "ปิดการขาย.."
          "เออ แกก็เมามากแล้วนะนังฝ้าย ยังไงคืนนี้กลับกับพี่เถอะอย่าไปต่อกับไอ้เสี่ยนั่นเลย" แม่ออกปากชวนด้วยความห่วงใย
          "สบาย ไม่ต้องห่วงพี่นิด นี่ถ้าพวงมาลัยเกินยอดเร็วๆก็ดีสิ้นเดือนนี้ฝ้ายจะกลับบ้านสักสามสี่วัน คิดถึงแม่"
          "เออ เอาดีๆ.. เดินไหวมั้ยเนี่ย" แม่ประคองน้าฝ้ายไปส่งถึงหน้าห้อง

          "แม่.. น้าฝ้ายเค้าเมาเหรอ" ผมถาม
          "อืม.. คืนนี้เสี่ยวินัยเค้าเหมารอบน้าฝ้าย เลยโดนกินหนักไปหน่อย" แม่ตอบอย่างไม่ปิดบัง
         
          "ไปเก็บหมอนกับผ้าห่มซะเดี๋ยวแม่จะเอากลับไปซักที่บ้าน แล้วก็ตอนที่พวกนั้นมันเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าเราก็ห้ามมอง แม่สั่งแล้วอย่าลืม!! มันเสียมารยาท เราเป็นผู้ชายมองผู้หญิงแบบนี้มันไม่สุภาพ รู้เปล่า ฮึ!!"
          "แต่นี่มันห้องแต่งตัวไม่ใช่เหรอครับ" ผมถาม
          "ก็นั่นแหละ!! ห้ามมอง!!.."
          "ครับ"
          "ครับแม่.." แม่ขมวดคิ้วมองสบตาผม
          "ครับแม่.."

เสียงเพลงอำลาถึงเวลาปิดร้านที่คุ้นหูอยู่ทุกคืนจบลง เสียงฝีเท้าสับสนอลหม่านก็ค่อยๆดังขึ้น พนักงานทุกคนมุ่งสู่ห้องแต่งตัว ผมขยับเก้าอี้หันหน้าเข้ากำแพงตามที่แม่สั่งเหมือนทุกวัน เวลานี้ข้างหลังผมมีสาวน้อยสาวใหญ่นับสิบชีวิตกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักร้องเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ผมเหลือบมองสะท้อนกระจกเงาตั้งโต้ะ ภาพอันน่าตื่นตาปรากฎขึ้นผ่านกระจกแต่งหน้าเล็กๆบานนั้น

          "เดี๋ยวไปหัวตลาดกันป่าววะฝ้าย เดินดูเสื้อผ้าแล้วค่อยกลับ"
          "ไม่อ่ะ เดี๋ยวกูไปต่อกับเสี่ย" เสียงคุ้นหูตอบกลับ
          "ใจคอมึงจะเอามาลัยให้ทะลุยอดคืนนี้เลยเหรอวะ ฝ้าย"
          "เออ สิ้นเดือนกะจะขอเจ๊กลับบ้านงานบวชน้องชายซักสามสี่วัน เคลียร์ยอดไปเลยละกัน" น้าฝ้ายตอบ
         
          "ไอ้ลูกน้องสามตัวนั่นน่ะนังฝ้าย ระวังให้ดี เมื่อกี้พี่กะจะไปดูลาดเลาให้แก ไอ้เสี่ยมันหลับ ห่า.. !! ไอ้หมาสามตัวนั่นมันรุมกันกินโต้ะพี่ เลวชาติ!!"
          "หนูก็โดน มันล้วงบนล้วงล่างสนุกกันใหญ่เลย เมื่อกี๊ฟ้องเจ๊เจ๊แม่งก็บอกให้เฉยๆไว้ก่อน ขนาดการ์ดร้านยังไม่กล้าหือกับไอ้พวกเสี่ยวินัยเลย"
         
          "อย่าไปเลยวะฝ้าย งานบวชน้องชายก็ตั้งสิ้นเดือนไม่ใช่เหรอ ขอเจ๊พี่ว่าเจ๊เค้าก็ให้ไป เค้าไม่ใช่คนใจร้ายหรอก"
          "ไม่เป็นไร หนูเอาตัวรอดได้" น้าฝ้ายยืนยัน
          "ถ้าโดนรุมขึ้นมาจะทำไงวะ"
          "เมื่อกี๊ก็โดนรุมไปแล้วไง มือใครเป็นมือใครบ้างก็ไม่รู้นัวเนียไปหมด"
          "อ๋อ.. แสดงว่า ยกทรงกับกางเกงในที่ไอ้พวกนั้นมันโยนเล่นกันนี่ของแกเหรอนังฝ้าย"
          "เออ.. มันอยากได้นักกูเลยให้มันถอดเอาไปเลย"
          "เชี่ยฝ้าย นี่มึงเมามากนะเว่ยรู้ตัวรึเปล่า"
         
          "ไม่กลัวเหรอวะ"
          "กลัวอะไรพี่ สี่รุมหนึ่งเหรอ มาเฮอะ.. กล้าๆหน่อย"
          "เมาแล้วแบบนี้ทุกที เฮ้อ.. ฝ้ายเอ๊ย"

ตั้งแต่จำความปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้ผมก็รู้จักคุ้นเคยกับน้าฝ้าย แม่เคยบอกว่ารักน้าฝ้ายประหนึ่งน้องสาวแท้ๆผมจึงรู้สึกกับน้าฝ้ายเหมือนน้าสาว น้าสาวกับเพื่อนๆที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาอวดทรวดทรงให้มองสะท้อนกระจกเงา

          "โจ.. !!" น้าฝ้ายสบตากับผมผ่านกระจกเงาตั้งโต้ะบานนั้น
          "คะ.. ครับ"
          "โดนแม่สั่งให้นั่งหันหลังอีกแล้วสิ"
          "ครับ"
          "พี่นิดนี่ล่ะก็" ไอกลิ่นละมุดระเหยจากเนื้อตัวน้าฝ้ายโชยมาเตะจมูก

          "หันมาเถอะจะนั่งจ้องกำแพงห้องอยู่แบบนั้นทำไม หันมาสิ"

ผมหันกลับมาตามคำเชิญชวน เนื้อตัวของน้าฝ้ายเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์ปกปิดยืนอร้าอร่ามระยะประชิดเพียงแค่เอื้อมมือ ถึงแม้จะเคยเห็นอะไรต่ออะไรมาแล้วก่อนหน้านี้แต่นี่คือครั้งแรกที่ผมสามารถมองแบบไม่ต้องแอบเมื่อเจ้าของเรือนร่างเป็นผู้เชื้อเชิญให้มองเอง

          "โจดูสิ ผู้หญิงก็แบบนี้ ก็แค่นี้ มีขามีแขน" น้าฝ้ายทิ้งแขนลงผายมือ "เหมือนกันทุกคน มีนมสองเต้า แล้วก็มีไอ้ดำๆนี่" ผมมองตามที่น้าฝ้ายชี้
นิ้วไปที่กลางกลางลำตัว เส้นขนฟูหนาสีดำขลับนั่นชั่งน่าตื่นตาตื่นใจ

          "ดูสิ ก็เหมือนกันทุกคน แล้วทำไมผู้ชายถึงไม่เคยพอ"
          "..." ผมไม่รู้จะตอบอะไร

          "โจอายุเท่าไหร่แล้ว" น้าฝ้ายถาม
          "สิบเอ็ดขวบคับ ..เอ่อ ยังไม่สิบเอ็ดดี" ผมตอบเสียงแห้งผาก

          "เห็นผู้หญิงแก้ผ้าแบบนี้แล้วโจรู้สึกอะไรบ้างไหม ถามจริงๆ" น้าฝ้ายขยับย่อตัวลง
          "น้า.. น้าฝ้าย!!" ผมห่อตัวปกป้องเจ้าน้องชายเอาไว้เพราะน้าฝ้ายยื่นมือทำท่าจะจับ
          "โจ !! ก็น้าอยากจะรู้นี่ว่าเธอรู้สึกมั้ย ทางเดียวเท่านั้นคือต้องจับพิสูจน์" น้าฝ้ายทำตาดุ

          "น้าก็ช่วยเลี้ยงดูเธอมาใช่มั้ย" นิ้วเรียวบางกดลงไปที่หน้าอกของผม ค่อยๆเลื้อยเรื่องลงต่ำ
          "ครับ"
          "ถ้างั้นถือว่าน้ามีบุญคุณกับเธอมั้ย"
          "มีครับ" ผมตอบเสียงสั่น อุ้งมือของน้าฝ้ายลูบคลึงเน้นบริเวณเป้ากางเกง
         
          "แล้วทำไมกะเจี๊ยวเธอมันถึงได้โด่แบบนี้ล่ะ นี่เธอคิดกับผู้มีบุญคุณแบบนี้เหรอ กล้าคิดลามกกับน้าเหรอจ้ะ" น้าฝ้ายใช้สองนิ้วบีบมันจนผมสะดุ้ง
          "ป่าวคับ.." ผมได้แต่ก้มหน้างุด
         
           

จากวันนั้นผมก็ย้ายเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณเขตบ้านของญาติทางคุณพ่อ เพิ่งรู้ว่าตำแหน่งก่อนเกษียณของท่านเป็นถึงรองผู้ว่า ถึงแม้เราจะเคยพบกันแต่นั่นก็คงจะก่อนที่ผมจำความหรือเรียบเรียงอะไรได้ ชายแก่ในรูปบนหิ้งติดข้างฝาพร้อมกระถางธูปจึงรู้สึกไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเอาเสียเลย

ผมอยู่ภายใต้การดูแลของแม่ใหญ่ภรรยาหลวงของคุณพ่อซึ่งก็อายุอานามล่วงเข้าวัยชราแล้ว ถึงผมจะมีศักดิ์เป็นลูกแต่ก็เป็นลูกที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ สรุปได้ง่ายๆก็คือ ผัววัยเกษียณตัณหากลับไปติดนักร้องคาเฟ่รุ่นราวคราวหลาน แล้วผมก็ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกบูดเบี้ยวๆใบนี้ ถึงแม้ทุกคนในบ้านจะมารยาทดีตามแบบฉบับครอบครัวคหบดีที่มีแบบแผนมีกรอบกฏระเบียบ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเอือมระอากับพฤติกรรมมือถือสากปากถือศีลของผู้ออกกฏ ความมักมากทางเพศของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยปลดปลง ผมคือผลิตผลจากสาเหตุอันน่ารังเกียจนั้น

....................

พันตรีขุนเกียรติ อภิบาลเขต คือชื่อของผู้ชายในรูปขาวดำบนฝาผนัง เขากับแม่ใหญ่มีลูกด้วยกันสี่คน คนโตเป็นผู้ชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถ ที่เหลือสามใบเถา ชื่อพี่ต้อยเป็นบีโอไอจังหวัด คนกลางชื่อพี่ติ๋มเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประจำจังหวัด ส่วนคนเล็กชื่อพี่ต่ายเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมในกรุงเทพ(ถึงจะเรียกพี่แต่อายุก็ต่างกันกับผมราวสี่สิบปี) พี่ต้อยกับพี่ติ๋มปลูกบ้านของตัวเองอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับเรือนใหญ่

ช่วงอยู่ที่บ้านแม่ใหญ่ผมก็เดินสำรวจไปทั่วครับ ขนาดหมาอัลเซเชียนที่บ้านพี่ติ๋มว่าดุๆแค่ผมผิวปากยังกระดิกหางรอรับแต่ไกล มานึกตอนนี้นอกจากมีดวงเรื่องแอบดูแล้วก็ยังมีดวงเรื่องเป็นมิตรกับหมานี่ล่ะ

บ้านของพี่ต้อยและพี่ติ๋มเป็นบ้านสองชั้นที่ปลูกสร้างแบบก่ออิฐถือปูนโครงสร้างสมัยใหม่ ห่างจากบ้านเก่าของแม่ใหญ่ที่เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่แบบบ้านคหบดีตามต่างจังหวัดประมาณห้าสิบเมตร คั่นด้วยห้องน้ำและห้องอาบน้ำเก่ากับแนวสวนกล้วย

ที่บ้านของแม่ใหญ่อยู่กันหลายคน นอกจากผมแล้วก็ยังมีญาติผู้หญิงคู่พี่น้องที่อยู่อำเภอห่างไกลเข้ามาเรียนอาชีวะในอำเภอเมืองชื่อพี่หนิงกับพี่หนุ่ย ญาติกึ่งคนรับใช้คอยช่วยทำโน่นทำนี่ชื่อพี่สา ชั้นล่างก็ยังมีครอบครัวของญาติกึ่งยามกึ่งคนงานอยู่อีกสามคน

มีอยู่ค่ำคืนหนึ่งประมาณสามทุ่ม ผมเดินกลับจากเรียนพิเศษที่บ้านพี่ติ๋มเพื่อสอบวัดระดับกศน. รู้สึกปวดฉี่จึงเดินลัดเข้าทางป่ากล้วยดึกดำบรรพ์ที่ยืนต้นตระหง่านทับซ้อนกันจนมืดทึบ กะว่าจะจัดการธุระทั้งน้ำทั้งเนื้อให้เสร็จกิจในป่ากล้วยนั้นเลยเพราะที่บ้านแม่ใหญ่มีห้องอาบน้ำกับห้องส้วมแยกกันอย่างละห้อง ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงไพรม์ไทม์ของการใช้ห้องน้ำกับจำนวนคนเกือบสิบคนในบ้าน จะได้ไม่ต้องทรมานไปยืนรอบิดไปบิดมา

ระหว่างเดินแหวกไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยผมสังเกตเห็น ลุงม่วง ญาติห่างๆกึ่งยามกึ่งคนงานกำลังก้มทำลับๆล่อๆอยู่ข้างหลังห้องอาบน้ำ เข้าใจได้ไม่ยากว่าลุงม่วงกำลังแอบดูใครสักคนอาบน้ำอยู่ แต่ไม่เข้าว่าแอบดูใคร จริงๆผมสำรวจหมดแล้วทั้งห้องอาบน้ำและห้องส้วม ผนังอิฐฉาบปูนตกยุคถูกเจาะทะลวงหยาบๆเพื่อท่อทางน้ำที่เพิ่งเดินระบบใหม่ ทิ้งช่องร่องรูไว้ให้แนบสายตาดูได้อย่างไม่ยากนัก

ที่แปลกใจสงสัยก็คือลุงม่วงแกแอบดูใคร ขนาดว่าสถานที่สะดวกโยธินเอื้ออำนวยอย่างที่กล่าวมาผมยังไม่นึกอยากจะแอบดูใครในบ้านนี้เลย พี่หนิงกับพี่หนุ่ย โอเคพี่หนิงหุ่นทรงหน้าตาพอใช้ได้แต่ทั้งคู่ก็ผิวคล้ำผมหยิกแบบคนใต้แถมพี่หนุ่ยยังหุ่นทรงตัวป้อมๆเตี้ยๆไม่รู้สึกว่ามีความน่าดูน่าสนใจตรงไหน พี่สาญาติกึ่งคนรับใช้ของแม่ใหญ่ก็หน้าเหมือนชนเผ่าผสมโรฮิงญายังไงก็ไม่รู้(ด้วยความเคารพ วิจารณ์เพื่ออรรถรส) หรือจะกำลังแอบดูแม่ใหญ่ก็ไม่น่าใช่ ผมซุ่มรอจนรู้ว่าคนที่นุ่งกระโจมอกเดินออกมาจากห้องอาบน้ำคือพี่หนิง

หลังจากนั้นผมก็มองพี่หนิงเปลี่ยนไป โครงหน้าคมๆร่างกายที่ผอมบางแบบคนประหยัดกินน้อยใช้น้อย เคยคิดเล่นๆว่าอย่างพี่หนิงคงไม่ต้องใส่ยกทรงไปเรียนเพราะใส่ไปก็เท่านั้น ข้างหน้าข้างหลังแบนเท่ากันหมดขนาดสังเกตยังมองแทบไม่ออก

          "โจ.." พี่หนิงทักภาษากลางสำเนียงใต้
          "ครับ"
          "คืนนี้โจไปเรียนที่บ้านป้าติ๋มรึเปล่า"
          "ไป ทำไมเหรอ" ผมถาม
          "กลับกี่โมงอ่ะ สามทุ่มใช่มั้ย"
          "ทำไมอ่ะ"

          "แค่จะวานให้มายืนเฝ้าหน้าห้องน้ำตอนพี่อาบน้ำหน่อย ลุงม่วงแกไปโรงพยาบาลผ่าใส้ติ่ง เมียกับลูกแกก็ไปนอนเฝ้าด้วยคืนนี้ข้างล่างไม่มีคนอยู่ที" พี่หนิงบอก "หลังๆนี้ตอนพี่อาบน้ำมันมีเสียงอะไรดังซวบซาบๆ เสียงเหมือนมีคนเดินเหยียบใบกล้วยแห้งๆ"
         
          "งูมั้ง" ผมโบ้ยไปเรื่อยเพื่อเซฟลุงม่วงเอาไว้ก่อน "งูมันคงเลื้อยผ่านใบกล้วยน่ะ"
          "จริงเหรอ!! อึ๋ย.. งูอะไรอ่ะ มีพิษมั้ยพี่อาบน้ำมืดๆทุกคืนนิ"
         
          "แล้วทำไมไม่ให้พี่หนุ่ยมาเฝ้าล่ะ"
          "โกรธกับมันอยู่ไม่อยากขอมัน แม่ง.. กวนส้นตีน"
          "ได้ งั้นคืนนี้โจลงมานอนใต้ถุนเอง" ผมเสนอตัว "เดี๋ยวนอนมุ้งลุงม่วงก็ได้ เห็นแกกางนอนหน้าห้องแล้วก็น่านอนดีเหมือนกัน"
          "อื้อ.. งั้นเรานัดกันสามทุ่มนะ" พี่หนิงนัดหมายซ้ำอีกครั้ง

....................

ผมทำโจทย์คณิตศาสตร์เสร็จเรียบร้อย ระหว่างที่รอพี่ติ๋มมาตรวจลุกขึ้นเดินดูรูปสมาชิกในครอบครัว สามีของพี่ติ๋มชื่อพี่อัฐอายุประมาณห้าสิบกว่าเป็นข้าราชการกรมประมง พี่ติ๋มกับพี่อัฐมีลูกสาวสองคนชื่อนิ้งกับนัด ทั้งสองไปเรียนที่กรุงเทพพักอยู่บ้านพี่ต่าย ซึ่งจอยกับแจงลูกสาวของพี่ต้อยก็พักอยู่บ้านเดียวกัน ผมสะดุดตากับรูปของสาวน้อยวัยไล่เลี่ยกัน อนุมานเอาเองว่าคงจะเป็น จิ๊กซอว์ ลูกสาวคนเดียวของพี่ต่าย เธอดูสวยน่ารักน่ามองสดใสทันสมัยอย่างสาวกรุงเทพ

          "วันนี้คุณแม่เป็นยังไงบ้าง โจ" พี่ติ๋มถาม
          "แม่ใหญ่นอนหลับอย่างเดียวเลยครับ ตื่นขึ้นมาก็มีไอบ้าง กินยาแล้วก็หลับต่อ"
         
          "โจ.. พวกพี่คุยกันแล้วนะ โจไปอยู่ที่บ้านพี่ต่ายที่กรุงเทพเถอะ อยู่ที่นี่แม่ใหญ่คงดูแลโจไม่ไหวแล้วล่ะ"
          "ยังไงก็ได้ครับ" ผมเก็บอาการลิงโลดเอาไว้เพราะจะได้เจอตัวจริงของจิ๊กซอว์สักที พี่นิ้งกับพี่นัด พี่จอยพี่กับแจง ผมเคยเจอแล้วแต่ยังไม่เคยเจอกับลูกสาวของพี่ต่าย

          "ติ๋ม.. คุณโทรไปเรียกหนิงมาหน่อยสิมีเบอร์รึเปล่า" พี่อัฐถาม
          "เรื่องแทงหยวกงานวันเฉลิมน่ะเหรอ"
          "ใช่ เรียกหนิงให้เดินมาหน่อย ผมขอคุยด้วยนิดเดียว"

หัวใจผมเต้นไม่เป็นระส่ำจนพี่ติ๋มตำหนิว่าไม่ตั้งใจเรียน ตามันคอยแต่จะมองออกไปทางหน้าบ้าน พี่หนิงนุ่งผ้าถุงคลุมไหล่ด้วยผ้าขนหนูสีชมพูอ่อนยืนกอดอกคุยกับพี่อัฐเรื่องงานแทงหยวกกล้วยที่จะจัดวางหน้าอบต.

ผมกับพี่ติ๋มออกมายืนสมทบที่หน้าบ้าน ผมเอาแต่มองเรือนร่างผอมบางห่อด้วยผ้าถุงสำหรับอาบน้ำลายพื้นเมือง นึกสงสัยว่าเธอกล้าใส่แบบนี้เดินมาที่บ้านพี่ติ๋มได้อย่างไร จะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้เท่าไรนัก พี่หนิงน่าจะใส่ชุดชั้นในแน่ๆ คงจะไม่กล้าโนบราโนแพนท์อย่างคนเตรียมตัวจะอาบน้ำจริงๆหรอก

พี่อัฐกับพี่ติ๋มเสนอแนวความคิดลวดลายของหยวกกล้วยออกท่าออกทางไปหน่อยจนมือตวัดไปโดนไม้กวาดหยากไย่เกี่ยวเอารางน้ำฝนหลุดลงมาตรงหัวพี่หนิงพอดี พี่ติ๋มร้องเตือนเสียงหลงพี่หนิงจึงยกสองมือขึ้นรับรางน้ำฝนสังกะสีไว้ทัน โชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ ผ้าขนหนูที่คลุมไหล่เอาไว้เลื่อนหลุดลงมากองที่พื้น ตามด้วยผ้าถุง

พี่หนิงยืนตัวเปลือยเปล่าแต่ยังคงชูสองแขนยกรางน้ำฝนเอาไว้ มองคล้ายรูปปั้นเทพวีนัสปางถือคบเพลิง ผิดกันแค่หน้าตาของพี่หนิงเหยเกเหมือนจะร้องไห้ พี่ติ๋มกับพี่อัฐก็ยืนนิ่งตกใจทำอะไรไม่ถูกกันทั้งคู่

          "โจ.. ช่วยที ดึงผ้าถุงขึ้นให้พี่ที" พี่หนิงสบตาขอร้อง

ผมขยับเข้าไปดึงผ้าถุงพี่หนิงขึ้นมา พี่อัฐกับพี่ติ๋มได้สติรีบเข้ามาช่วยรับรางน้ำฝนที่ตัวรัดรับน้ำหนักเก่าขึ้นสนิมจนขาด พี่หนิงขมวดปมผ้าถุงได้ไม่ยอมพูดจาออกวิ่งหนีกลับไปทางบ้านของแม่ใหญ่ พี่ติ๋มก้มหยิบผ้าขนหนูส่งให้ผมบุ้ยหน้าให้วิ่งตาม

คืนนั้นผมนอนเฝ้าอยู่ที่ใต้ถุน พี่หนิงวิ่งหนีขึ้นไปบนบ้านไม่มีทีท่าว่าจะลงมาอีก ลุงม่วงก็อยู่โรงพยาบาล ในที่สุดผมก็พาตัวเองมาก้มเงยๆอยู่หลังห้องอาบน้ำจนได้ พี่หนุ่ยหุ่นทรงไม่ได้เรื่องจริงๆอีกทั้งผิวพรรณยังดำคล้ำยิ่งตามข้อพับดำจนเกือบจะม่วง ส่วนพี่สาก็เล่นเอาผมอ้วกแทบพุ่ง นอกจะนมจะยานแล้วตรงนั้นของเธอมีเหนียงสีคล้ำเป็นติ่งห้อยลงมาอย่างกับหินย้อยหินงอก

ผมเลยกลายเป็นพวกมีแนวคิดเหยียดผิวเหยียดอัตลักษณ์ไปโดยปริยาย เฮ้อ.. ไม่น่าดูเลย เซ็งชิ้บหาย

....................

พี่ต่ายอ้างกับลูกสาวว่าสงกรานต์ปีนี้อาจเป็นสงกรานต์สุดท้ายที่คุณยายจะยังอยู่เพราะอาการป่วยปีนี้มีแต่ทรงกับทรุด จิ๊กซอว์จึงยอมติดตามคุณแม่และพวกพี่ๆสี่สาวลงมาเยี่ยมภูเก็ต ถ้าไม่อ้างแบบนี้เธอก็คงจะไม่ยอมออกจากบ้านไปท้าแดดไหนในช่วงวันซันไชน์เดย์แบบนี้แน่นอน

ขบวนรถสองคันที่ไปรับจากสนามบินค่อยๆเคลื่อนเข้าประตูรั้วบ้านตามกันมา พี่จอยพี่แจง พี่นิ้งกับพี่กับพี่นัดเปิดประตูรถลงมา ราศีออร่าของคนที่มาจากกรุงเทพมันชั่งเรืองรองสว่างไสว และแล้วคนที่ผมรอคอยก็ลงจากรถตามมา จิ๊กซอว์ ตัวจริงของเธอเลอค่ากว่าที่ผมจินตนาการไว้มาก ปากนิดจมูกหน่อย ผมสีดำขลับทิ้งตัวตรงสลวย ผิวขาวเนียนอมชมพู เธออยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดเนื้อบางแลเห็นยกทรงตัวจิ๋วสีขาวลางๆ ผมแอบมองสาวกรุงเทพทั้งห้าคนจากมุมมืดหลังสุ่มไก่ใต้ถุนเรือน นี่ผมเป็นญาติกับคนพวกนั้นจริงๆหรือนี่

สี่สาวกลับไปค้างที่บ้านของตัวเองกับพ่อแม่ ส่วนพี่ต่ายออกปากว่าจะนอนกับแม่ใหญ่ ซึ่งต้องปูฟูกนอนในมุ้งและไม่มีเครื่องปรับอากาศ ตอนแรกจิ๊กซอว์จะปลีกตัวขอไปนอนกับพี่นิ้งพี่นัดแต่ก็โดนแม่ปรามเอาไว้ให้นอนด้วยกัน "ไม่มีแอร์สักสองสามคืนมันจะตายมั้ย" เล่นเอาคนสวยของผมหน้าหงิกไปเลย

          "กับข้าวอร่อยมั้ย โจ" พี่ต่ายถามผมตอนพลบค่ำหลังมื้ออาหาร "แล้วมานั่งทำไมมืดๆคนเดียวตรงนี้ล่ะ ขึ้นไปดูทีวีด้วยกันข้างบนไป"
          "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกางมุ้งนอนตรงนี้แหละ ข้างบนมันร้อน"
          "โถ.. น่ารักจัง นี่คงเสียสละที่นอนให้พี่กับยัยจิ๊กล่ะสิ ถึงต้องระเห็ดลงมานอนตรงเนี้ย" พี่ต่ายยิ้ม "ว่าแต่จะนอนเลยเหรอ นี่เพิ่งทุ่มกว่าเองนะไปคุยกันข้างบนไป"
          "ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ตรงนี้แหละ"

          "พี่ติ๋มเค้าบอกโจแล้วใช่มั้ยเรื่องที่จะให้ย้ายไปอยู่กับพี่ที่กรุงเทพ" พี่ต่ายถาม
          "บอกแล้วครับ"
          "โจเอาผลสอบเทียบม.สามไปต่อม.สี่ได้เลย โรงเรียนที่พี่เป็นผอ.นั่นแหละ ยัยจิ๊กกับแจงก็เรียนอยู่ เรื่องค่าใช้จ่ายเงินทองอะไรพี่ต่ายจะเป็นคนดูแลให้โจเอง"
         
          "ผมอยากเรียนอาชีวะครับ"
          "ทำไมล่ะ" พี่ต่ายยิ้มแปลกใจ
          "อยากมีงานทำครับ อยากมีอาชีพ" ผมบอกเสียงเบา

          "เอาเถอะ อาชีวะก็อาชีวะ เดี๋ยวยังไงจะดูโรงเรียนดีๆให้ แต่ไปอยู่ด้วยกันนะ" พี่ต่ายยิ้มชวน
          "ครับ"
          "ว่าแต่ไปคุยข้างบนเถอะไป ตรงนี้ยุงเยอะมาก โจไม่โดนยุงกัดเหรอ"
          "โดนครับ"
          "นั่นสิ ไปข้างบนเหอะ คืนนี้นอนข้างบนก็ได้นะ"
          "ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ตรงนี้ล่ะ" ผมยังยืนยัน
          "เขินยัยจิ๊กรึเปล่าเนี่ย แอะ.. เขินเหรอ 55 แหม นี่ถ้าลูกสาวพี่น่ารักได้อย่างโจก็คงจะดี" พี่ต่ายแตะหัวไหล่ผมเบาๆ "ว่าแต่ไม่ขึ้นไปข้างบนแน่นะ"
          "ครับ.." ผมยิ้ม

พี่ต่ายเดินขึ้นบันไดกลับขึ้นเรือนไป ผมคว้าเอาผ้าขี้ริ้วมาปัดตามตัวไล่ยุงที่เหมือนจะพร้อมใจแห่กันมา สายตาจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องชั้นใต้ถุนของลุงม่วง แกคอยแง้มเปิดออกมามองไปทางห้องอาบน้ำเป็นระยะๆคาดว่าคงกลัวยุงเข้าห้อง

ไม่ว่าจะเป็นใครเดินลงมาอาบน้ำลุงม่วงก็ยังสงบนิ่งสงวนทีท่าอยู่ จนกระทั่งมีเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดจากพื้นบ้านชั้นบน ขาเรียวขาวค่อยๆเดินไต่บันไดไม้ลงมา จิ๊กซอว์อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นผ้าเช็ดตัวคล้องแขนถือขันใส่อุปกรณ์อาบน้ำในมือ เธอเดินลากรองเท้าแตะถือไฟฉายส่องทางไปห้องอาบน้ำ เสียงลงกลอนประตูสังกะสีเป็นสัญญานให้ลุงม่วงเปิดประตูกระโจนออกมา แกกึ่งเดินกึ่งย่องไปทางหลังห้องน้ำ แสงไฟฟลูออเรสเซนซ์สีขาวสว่างลอดช่องหลังคาพร้อมกับหัวใจที่ร้อนรนเต้นแรงของผมที่กำลังสังเกตการณ์จากมุมมืด

ก่อนที่ลุงม่วงจะหยิบชิ้นปลามันไปกิน เจ้าเหมียวแมวหลงก็เดินเข้ามาคลอเคลียหน้าแข้งพอดี ไวเท่าความคิด ผมจับเจ้าเหมียวนิรนามเขวี้ยงไปทางรั้วหน้าบ้าน มันตกใจกระโจนลงกะละมังสังกะสีเสียงดังลั่น ลุงม่วงวิ่งออกมาด้อมๆมองๆแต่ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร แกกำลังจะหันกลับไปทางห้องอาบน้ำเหมือนเดิม ผมถอดรองเท้าโยนไปทางสวนชมพู่ กะว่าขว้างให้ไกลสุดแรงเสียงดังซวบ!!

          "ลุงม่วง!! แม่ใหญ่ให้มาถามว่าเสียงอะไร ใครเอะอะ" ผมแสร้งถาม
          "ตอนแรกนึกว่าแมว สงสัยจะคนมาขโมยชมพู่ครับคุณโจ เดี๋ยวผมไปเอาปืนในห้องก่อน"
          "โอ้ย ไม่ต้องเอาแล้วเดี๋ยวตามไม่ทัน"
          "เอ่อ.." ลุงม่วงท่าทางพะว้าพะวง หันรีหันขวาง
          "อ้าว ก็รีบตามไปสิ!!"
          "ครับ ครับ" ลุงม่วงคว้าจอบติดมือวิ่งหายไปในความมืด

 

....................

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

neung_cm

#1
ครูคนแรกน่าจะเป็นน้าฝ้าย






ขอฝากคำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

zeromaster


gigantic

ปกติต้องบรรยายตัวละครหญิงหน้าตาดีหน่อย เรื่องนี้บรรยายแปลกตัวละครผู้หญิงไม่ค่อยสวยเลย

live20

อยากรู้ว่าโจจะขึ้นครูกับใครเป็นคนแรก

Wannadit Iempan

รอบตัวมีแต่ผู้หญิง ได้ฝึกปรือตั้งแต่เด็กแน่ๆ

Man_On_The_Moon


numvego


bunchucherd


champcass005

ผมดูทรงละเสพติดแน่ๆคับเรื่องนี่ตัวละครเยอะได้ใจจริงๆ พระเอกน่าจะออกแนวสร้างฮาเร็ม นะเนี่ยหึๆ จะคอยติดตามต่อไปนะคับ ขอบคุณสำหรับผลงานมีคุณภาพอีกผลงานหนึ่งนะคับ

ballnakrab

นายโจจะเป็นนักแอบดูหรือนักฟันกันนะ  รอบตัวมีแต่ผู้หญิง โอกาสเพียบแน่ ::DookDig::

zero009

นายโจเคยเป็นตากุ้งยิงเปล่าครับ

นพๆๆ อิอิ

 ::Confident::โจเก็บเรียบแหงๆ ได้ฝึกปรือตั้งแต่เด็กแน่ๆ

buark

โจเก็บเรียบแน่ แต่ก่อนจะมาอยู่กับแม่ใหญ่ น้าฝ้ายเป็นยังไงบ้างแล้วครับ ตัดตอนมาเลย น้าฝ้ายจะได้สอนโจให้มีวิชาติดตัวก่อน

bkambang

อยากรู้ว่าโจจะขึ้นครูกับใคร  ต้องติดตาม