ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

squeeze ตอน คำวินิจฉัยจากแพทย์

เริ่มโดย apinyaporn, พฤษภาคม 18, 2019, 02:57:54 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

apinyaporn

เราเดินทอดน่องออกมาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทอย่างสบายอารมณ์โปร่งโล่งใจเหมือนยกภูเขาใหญ่พ้นออกจากอก เพียงคำปรึกษาไม่กี่ประโยคจากอินบ๊อกซ์เพจเฟสบุ๊คของแพทย์หญิงท่านนึงที่ทำให้เราต้องเผ่นขอนัดคุยแบบเห็นหน้าเห็นตาที่โรงพยาบาล คุณหมอท่านดูเป็นสูตินารีแพทย์ที่สวยสง่ามากในชุดเสื้อกาวน์ถึงแม้จะวัยใกล้เกษียณ อาจเพราะรอยยิ้มของคุณป้าหมอและน้ำเสียงอบอุ่นใจดี ทำให้เรากล้าตอบคำถามให้ข้อมูลอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบังและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัย

ปัญหาที่เราปรึกษากับคุณป้าหมอคือ เราเป็นผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก ปัจจุบันเราอายุยี่สิบแปดรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่หน้าที่การงานมั่นคงพอใช้ แต่ยังไม่มีแฟน ไม่ใช่ไม่เคยมีใครมาจีบนะสมัยเรียนมหาลัยหนุ่มๆรุมตอมเรียกว่าหัวกระไดคณะไม่แห้งเลยเหมือนกัน(ยักไหล่) เราก็แค่คบเป็นเพื่อนคุยอะไรไปเรื่อยอาจมีอ่อยๆ(บ่อยๆ)บ้างอาจเลยเถิดถึงขนาดว้อนท์หน้าแดงหูแดงก็มี แต่สุดท้ายก็ต้องเบรกตัวเองห้ามใจเอาไว้ให้ได้เลยไม่เคยปลงใจลึกซึ้งกับใคร บางคนเค้าลือกันว่าเราเป็นทอมนะ(ฮา)

สมัยเด็กๆจำได้ว่าแม่เราชอบดูละครหลังข่าวมากแกดูในระดับที่เรียกว่าอินแทบทะลุเข้าไปเล่นเองในจอเลย ส่วนเราก็นั่งๆนอนๆดูบ้างหลับบ้างตื่นบ้างอยู่ข้างๆแม่จนถึงละครโน่นแหละจบถึงจะได้ปิดไฟนอน ตบตีแย่งผัวแย่งเมียใส่ร้ายป้ายสีแอบดูแอบฟังวางยาปลุกปล้ำครบรส

คำศัพท์คำนึงที่หลุดจากละครมาสะดุดหูสะดุดใจเรามากก็คือคำว่า ฮีสทีเรีย ตัวละครที่เป็นโรคฮีสทีเรียมักจะดูแรงส์เป็นพิเศษ นางจะแรดออกหน้าออกตา แต่งตัวเปิ๊ดสะก๊าด บทสนทนาโง่ๆ วันทั้งวันเธอจะคอยคิดวางแผนที่จะมอมเหล้าพระเอกเอามาทำผัว สรุปคือไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง เราจะรู้สึกเกลียดตัวละครที่รับบทนางร่านแบบนี้มากๆจนอินตามแม่ไปติดๆเลยทีเดียว อย่างที่เค้าว่าเกลียดอย่างไรก็มักจะได้อย่างนั้น เชื่อมั้ยคะว่าเราเริ่มคิดว่าตัวเองอาจเป็นโรคจิตเภท ฮีสทีเรีย ตั้งแต่เราอายุแค่สิบเอ็ดสิบสองเอง และก็คิดแบบนั้นเรื่อยมาจนถึงวินาทีก่อนที่จะมาฟังผลสรุปการตรวจวินิจฉัยจากคุณป้าหมอในเช้าวันนี้

นั่งรอคุณป้าหมอนิ่งเงียบอ่านแฟ้มผลการวินิจฉัยอยู่สักพัก กรี๊ดเลยค่ะ เราไม่ได้เป็นอีฮีสทีเรียโรคจิตวิปริตแบบนังร่านในละครทีวี จากผลการทำทีซีสแกน เมมโมเรียลสแกน อัลตราซาวน์ อีกทั้งส่องกล้องตรวจภายในโดยตัวคุณป้าหมอเอง ผลการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดสรุปว่า คริสตอริส ของเรามีขนาดใหญ่ผิดปกติ สาเหตุเพราะเรามีฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน (Testosterone) อยู่ในตัวสูงระดับผิดปกติ แถมฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน (Estrogen) และ โพรเจสโทเจน/โปรเจสโตเจน ก็อยู่ในระดับสูงกว่าผู้หญิงทั่วไป

คริสตอริส มีขนาดใหญ่ผิดปกตินะคะไม่ใช่ HEEใหญ่ต้องเข้าใจด้วย มันคือจุดรวมปุ่มปลายประสาทสัมผัสที่อยู่ข้างในตัวสูงขึ้นจากรอยแยกสองกลีบเนื้อนิดนึง และการที่มันใหญ่กว่าปกติสองเท่าก็หมายถึงจะสัมผัสโดนได้ง่ายและโดนพร่ำเพรื่อ แค่ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นนั่งบิดไปบิดมาคนก็เยอะดันเกิดอารมณ์ฟินกับเบาะที่นั่งรอในธนาคารซะงั้น(เฮ้อ..) สายลมแสงแดดใบไม้ร่วงลมเย็นๆฝนตกหนักตกเบาอะไรก็มีผลทั้งนั้นค่ะ ยิ่งอยู่คนเดียวก็ยิ่งอ่อนไหวง่ายขนลุกบรื๋อทั้งตัวเลย

เวลาได้อยู่ในสถานที่ที่พิเศษบรรยากาศดีๆแต่งตัวสวยๆ ไม่รู้ว่าความฟินของสาวคนอื่นๆจะเป็นยังไงนะ แต่ของเรามันคอยแต่จะมุ่งลงต่ำไปจุกหน่วงๆคันๆอยู่ที่ระหว่างสองง่ามขา ขอโทษนะคะถ้าจะเปรียบความรู้สึกคล้ายปวดอึปวดฉี่ ความรู้สึกหงุดเงี้ยวนี้มันก็อัดอั้นต้องการปลดปล่อยในลักษณะเดียวกัน มันเหมือนอาการคันที่ต้องดับด้วยการเกาเรารู้สึกแบบเนี้ยเป็นสิบๆครั้งในหนึ่งวัน ยิ่งถ้าไม่ต้องไปโรงเรียนก็จะแทบจะแก้ผ้านอนอยู่ในห้อง ชอบช่วยตัวเองมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไปเข้าค่ายแอบก็ดูเพื่อนผู้หญิงอาบน้ำ เปิดกระโปรงแอบจับนมอะไรนี่ชอบแกล้งมากเพื่อนก็คิดว่าเล่นๆแต่เรารู้ตัวเองว่าคิดจริง แต่ที่แน่ๆคือไม่ได้เป็นทอม

รู้สึกขัดแย้งมั้ยคะ ในเมื่อเราหื่นจัดขนาดนี้แล้วทำไมถึงไม่เสาะหาผู้ชายเป็นตัวเป็นตนมาปลดเปลื้องความกำหนัดเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวจบข่าวสารคดีสัตว์โลกกันไป แต่ก็เพราะมัวแต่หลอนว่าตัวเองเป็น ฮีสทีเรีย นี่ล่ะค่ะ ถึงบทเข้าพระเข้านางจริงๆแล้วกลัวจะครองสติตัวเองไม่อยู่ กลัวผู้ชายเค้ารังเกียจด่าว่าเราเป็นนังร่านนังโรคจิตเหมือนที่ทุกคนรุมด่านังตัวอิจฉาในละคร อยากให้ผู้ชายเห็นเราใสๆแบบนางเอกมากกว่า

          "เป็นไง รู้แล้วสบายใจขึ้นมั้ย"
          "สบายใจขึ้นมากเลยค่ะ ทีแรกหนูคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตเป็นแบบพวกวิปริตอะไรแบบนี้ พอคุณป้าหมอว่ามันเป็นผลที่เกิดจากอาการทางกายหนูก็โล่งเลย"
          "โล่งยังไง นี่ทีแรกป้าหมอตกใจคิดว่าก้อนเนื้อนะเนี่ย ถึงได้ขอส่องกล้องดูข้างในให้ชัดๆ"
          "โล่งสิคะ ก็แสดงว่าหนูไม่ได้เป็นฮีสทีเรีย ไม่ได้บ้า ไม่ได้ร่าน ..แค่ไม่สบายจากอาการทางร่างกายเท่านั้นเอง" เรายิ้ม นึกติดใจฟีลลุ้นๆตอนที่ป้าหมอส่องกล้องเข้าไปตรงนั้นอยู่เหมือนกัน

          "เออ.. แล้วไอ้อาการแบบที่เธอเป็นนี่เค้าไม่ได้เรียกว่าฮีสทีเรียหรอกนะ ที่ว่าร่านขาดผู้ชายไม่ได้อะไรนั่นน่ะมันคืออาการของโรค นิมโฟมาเนีย ต่างหาก" คุณป้าหมอเปิดแฟ้มประวัติของเราถึงหน้าสุดท้ายแล้วก็พลิกดูหน้าแรกใหม่อีกรอบ "ถ้าเธอยังไม่นึกสนุกถึงขนาดออกมาเดินแก้ผ้าโชว์นอกบ้านป้าหมอคิดว่าก็ยังไม่ได้วิกฤตต้องรักษาอย่างเร่งด่วนอะไร ตราบใดที่ยังสามารถใช้ชีวิตยอมรับกฏระเบียบขนบธรรมเนียมของสังคมได้ก็โอเค"

          "แล้วเรื่องที่หนู เอ่อ.. แบบ ..โชว์ ล่ะคะ ใช่เป็นโรคจิตมั้ย" เราถามอายๆ
          "ถ้าในเคสอื่นๆก็อาจเป็นไปได้ที่การชอบแต่งตัวโป๊โชว์เนื้อหนังมังสาอาจเกิดจากสาเหตุทางภาวะจิตเภท" คุณป้าหมออ่านแฟ้ม "แต่เคสของเธอคาดว่าเกิดจากฮอร์โมนเพศชายที่สูงผิดปกติมากกว่า"
          "หืม.. ที่แท้เกิดจากฮอร์โมนเหรอคะ" เราพยักหน้าเข้าใจ

          "โดยปกติแล้วในตัวคนคนนึงเนี่ยจะมีฮอร์โมนเพศทั้งสองแบบปะปนกันอยู่ ส่วนแบบไหนจะสูงกว่าก็แล้วแต่สภาพเพศ ซึ่งก็อาจเกิดการไม่ตรงเพศขึ้นมาได้บ้างเช่นในกรณีของเป็นกระเทยหรือกรณีของเธอ เป็นต้น"
          "แต่ถึงจะมีฮอร์โมนเพศชายสูงหนูก็ไม่ใช่ทอมนี่คะ" เราแย้ง
          "แต่เธอก็ชอบอวด ชอบโชว์ ชอบความโดดเด่น ชอบการยอมรับยกย่องแบบที่ผู้ชายชอบ" คุณป้าหมอดักทางจนเราต้องเบรกเอี๊ยด

          "เคลียร์มั้ยคะ ยังสงสัยอะไรอีกมั้ย" คุณป้าหมอยิ้มอบอุ่น
          "เอ่อ.."
         
          "มีประกันสังคมมั้ย"
          "ใช้สิทธิประกันสังคมได้ด้วยเหรอคะ" เราประหลาดใจ
          "ได้.. เอาบัตรมาสิจะได้แนบไปกับแฟ้มทีเดียวเลย"

          "เอ่อ.. ตกลงว่าไอ้ คริสตอริส ของหนูที่มันใหญ่ผิดปกตินี่มันไม่อันตรายใช่มั้ยคะ" เราถามย้ำ
          "ตรวจดูแล้วไม่ใช่เนื้องอกก็ไม่อันตรายค่ะ แต่ปัญหาก็คือจะสัมผัสโดนง่ายเพราะมันใหญ่ ลุกนั่งเดินอาจจะสร้างความรำคาญวูบๆวาบๆหวิวๆแบบนี้แหละ เพราะมันไวต่อความรู้สึกมาก"
         
          "อืม.. แล้วถ้ารักษาต้องรักษายังไงอ่ะคะ"
          "ก็ ลองกินยาลดฮอร์โมนดูก่อน นัดมาอัลตร้าซาวน์ดูเรื่อยๆว่ามันลดขนาดลงมั้ย ยาตัวนี้จะทำให้ระดับการตื่นตัวทางเพศก็จะลดลงด้วย"
          "ค่ะ"
         
          "ในขณะมีเพศสัมพันธ์โดนเสียดสีสอดใส่แค่ครั้งสองครั้งเธอก็อาจถึงจุดสุดยอดได้และแถมยังสามารถถึงได้หลายครั้งด้วย กว่าแฟนจะเสร็จเธอก็ล่วงหน้าไปกลับสวรรค์โลกมนุษย์ไม่รู้กี่รอบแล้ว นี่มันของขวัญจากพระเจ้าชัดๆ" คุณป้าหมอขยับแว่นยิ้มหัวเราะเบาๆ
         
          "แหะๆ.. ถ้างั้นหนูก็ปล่อยมันเอาไว้แบบนี้ล่ะค่ะ ดูไปเรื่อยๆยังไม่กินยาลดดีกว่า"
          "โอเคนะ.. ถ้าเป็นไปได้ก็พยามตรวจสุขภาพให้ได้ซักปีละครั้ง" คุณป้าหมอยิ้ม ปิดแฟ้ม "และก็แนะนำให้หาแฟนสักคน"

(ซ่อนข้อความไม่มีอะไรสำคัญกับเนื้อหาครับ)

          
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

songsak

วินิจฉัยได้ละเอียดมากครับคุณป้าหมอ

Farewell

โอ้ ละเอียดมากครับ สงสัยผู้แต่งศึกษาเรื่องนี้มาดีระดับนึงเลย

forzakhan


aioros13


Badboybaby2

ป้าหมอ บอกให้หาแฟน !!! อย่าบอกนะ นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง .... !!!

Mr Donut

ลุ้นป้าหมอเลยครับ มีเซอร์ไพรส์แน่ๆ

zenon8088

ด้วยสภาพอาการแบบนี้ชวนให้ติดตาม ว่าชีวิตของเธอจะโลดโผนขนาดไหน


dome704


วิสูตร พยัคฆ์เพศ

บรรยายไดัละเอียดมาก นี่เป็นเรื่องจริงของผู้หฌิงใช่ไหม

Tulasa Maluda


betty2556

ป้าหมอก็อยากแอบมีความพิเศษแบบนี้แน่ๆ

tapakron22

 ::Glad::อยากได้แฟนที่เงี่ยนบ่อยๆแบบนี้เลย

Kritpidech Prasertmekakul

อ่านแล้วได้ความรู้ด้านเพศมากขึ้นด้วยเลย