ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ตำนานเทพวายุ kirara story ตอนที่ 3 : ความรู้สึกที่กำลังก่อตัว

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, พฤษภาคม 27, 2019, 04:38:23 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

เมดสาวมาแล้ววว ขอบคุณ Fc น้องเมดที่ยังให้กำลังใจครับ ต้องออกตัวก่อนว่าเนื้อเรื่องก่่อนที่ คิราระจะมาเป็นสาวเมดนั้น แทบไม่มีบท sexเลย มีแต่การปูเนื้อเรื่องกับความรู้สึกขัดแย้งในใจของเธอล้วนๆ มันเป็นการพัฒนาความรู้สึก และ ความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ ต้องขอบอกว่าตอนที่ 2 หลายคอมเมนท์ถูกใจมากครับ ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็น และเป็นกำลังใจ มาหลายๆตอนครับ



ตอนนี้มีซ่อนข้อความครับ ต้องแสดงความเห็นก่อนนะครับ

1. แสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้เพื่อขออ่านเนื้อเรื่องที่เหลือ


2. เมื่ออ่านจบ อยากให้กลับมาทแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนี้


3. คิดเห็นอย่างไรกับความรู้สึกที่คิราระมีให้ริวกะ  และ คิดเห็นอย่างไรกับความรู้สึกที่ริวกะมีให้คิราระ





ปล. เนื้อเรื่องหลัก Ss2    อีก 5 หน้าเจอกันครับ ช่วยดันดันคนละจึ๊ก 2 จึ๊ก ก็ได้นะครับ

https://xonly8.com/index.php?topic=216660.0



ปล.2  ฝากกระทู้แนะนำตัวละครด้วยครับ

https://xonly8.com/index.php?topic=215066.0


• • • • •


ตอนที่ 3 :  ความรู้สึกที่กำลังก่อตัว



หลังจากวันนั้นผ่านไปร่วมเดือน คิราระเอง ก็มีโอกาสได้เข้าไปในบ้านอิซานางิจริงๆ ถึงตั้งใจจะไปช่วยงานของแม่ แต่ก็ถูกชินจับไปฝึกไอคิโด้อยู่ดี ถึงการฝึกของชินจะเข้มงวดมากๆแต่เธอก็สุขใจทุกครั้ง ถึงจะได้เจอริวกะบ้างไม่ได้เจอบ้างก็ตามเพราะริวกะนั้นฝึกการต่อสู้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวตลอด


แต่อย่างน้อยเธอก็ได้อยู่ใกล้ๆเขา และถึงจะบอกว่ามาช่วยงานแม่เฉยๆ แต่รินกับมิไรก็มักจะให้ค่าขนมตอบแทนกลับมาทุกครั้ง จนเธอไม่ต้องขอค่าขนมแม่แล้วในตอนนี้ เหมือนว่าความสุขจะกลับมาหาครองครัว โนโซมิ อีกครั้งด้วยสายลมที่ชื่อ อิซานางิจริงๆ




ส่วนริวกะเองก็ได้รับรู้หลายๆเรื่องทั้งเรื่องที่ยามิรับคิราระมาเป็นน้องสาวบุญธรรม ทั้งคิราระสามารถบัญชาเหล่าอีกาได้ ที่สำคัญเรื่องที่คิราระเข้ามาในบ้าน แต่ริวกะก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ก็ยังคงตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกซ้อมต่อเหมือนเดิม


จะมีบ้างที่เดินมานั่งพักตรงทะเลสาบก็จะเจอคิราระประจำ ถ้ามีเวลาพักเขาก็จะนั่งคุยกับเธอบ้างเล็กน้อยแล้วจึงกลับเข้าไปซ้อมในเขตอาคมต่อ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าความแค่เวลานิดเดียวนั้น ก็ทำให้คิราระมีความสุขและมีแรงฝึกซ้อมไอคิโด้ต่อแล้ว


••••••••


วันหนึ่ง ณ.ร้านคาเฟ่นมที่เดิม 16.00 น
คิราระกับเพื่อนๆกลุ่มเด็กเรียนก็ได้เข้ามาใช้บริการเช่นเดิม




คิราระเธออยู่ในชุดนักเรียนญี่ปุ่นสีขาวผูกโบว์สีแดง  กระโปรงลายสก็อตสีน้ำตาลสั้นเสมอหัวเข่า ใบหน้าที่สวยใสชวนมอง ผิวขาวอมชมพู ดวงตาที่ใสราวกับกระจก อีกทั้งหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินเด็กอายุ 17 ใครเห็นเป็นต้องมองทั้งนั้น ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นนักเลงแล้ว จึงไม่แปลกที่จะกลับมาโดนล้อเช่นเดิม แต่เธอก็ไม่ใส่ใจเพราะสิ่งที่เธอสนใจนั้นคือการเรียน คือเพื่อนที่ดี และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่างหาก คิราระนั่งคุยเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆได้ซักระยะ ก็ได้เจอมิกุอีกครั้ง



[ มุกุ ]  :  คีจังงง เย้ดีใจได้เจออีกแล้ว


[ คิราระ ]  :  มิกุ มิกุจริงๆด้วย



คิราระขอตัวแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อไปนั่งคุยกับมิกุ ดูเหมือนมิกุจะดีใจมากๆที่คิราระกลับมาเป็นคนๆเดิม แถมคราวนี้จะดูมีความสุขมากกว่าที่ผ่านมาด้วย เพราะน้ำเสียง สายตา ภาษากายมันบ่งบอกว่าตอนนี้คิราระมีความสุขมากๆ



[ มิกุ ]  :  คีจัง มีความรักเหรอ



[ คิราระ ]  :  บ่ะ บ้าาาา มิกุพูดอะไร


[ มิกุ ]  :  เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทำไมชั้นจะดูไม่ออก ไปชอบใครเหรอ บอกมาเลยยยย



[ คิราระ ]  :  งือออ คือว่า



คิราระยอมเล่าทุกอย่างให้มิกุฟัง ยกเว้นชื่อและความสามารถของริว มิกุฟังไปด้วยความตื่นเต้นสนใจ เพราะคิราระดูมีความสุขมากๆที่ได้เล่าถึงคนที่เธอชอบไป สายตามันบ่งบอกว่าคิราระชอบคนๆนั้นจริงๆ



[ มิกุ ]  :  โห สุดยอดเลย คว่ำนักเลงได้หมดเลยเก่งมากๆ



[ คิราระ ]  :  ใช่ๆเขาเก่งมากๆเลย



[ มิกุ ]  :  คีจัง ชั้นดีใจที่คีจังมีความสุขแบบนี้นะ ไม่ได้เห็นยิ้มแบบนี้มานานมากแล้ว อยากเห็นคนๆนั้นจังเลย ว่าเขาเป็นใครกันนะ ถึงขโมยหัวใจของคีจังไปได้



[ คิราระ ]  :  งืออ ขโมยไปได้แต่ชั้นไม่มีทางได้จากเขาเลยสิ่มิกุ



[ มิกุ ]  :  ทำไมล่ะคีจัง ทำไมคิดแบบนั้น



[ คิราระ ]  :  บ้านเขารวยมากกก ชั้นไม่กล้าคิดเลย ถึงคนในบ้านเขาจะดีกับชั้นมากๆก็เถอะ



[ มิกุ ]  :  ได้ถามจากปากเขาหรือยัง ถึงคิดเอาเองว่าเขาไม่มีใจ คียังนี่ก็น๊าาา



[ คิราระ ]  :  ใครจะไปกล้าถามเล่ามิกุ แค่เจอกันก็เขินจะตายอยู่แล้ว งื๊ออออ ดันไปเผลอหอมแก้มเขาด้วย งือออ น่าอายที่สุด



[ มิกุ ]  :  ว๊ายยยยย ร้ายกาจจังเลยคีจัง เล่ามานะว่าเกิดอะไรขึ้น



คิราระก็คงเล่าทุกอย่างให้มิกุฟังแต่ก็ไม่เอ่ยชื่อริวกะเช่นเคย มิกุฟังแล้วก็ขำคิราระเพื่อนสนิทของตน ชนิดว่าน้ำหูน้ำตาไหล คิราระก็ยิ่งเขินหนักเข้าไปอีก



[ คิราระ ]  :  ว่าแต่ มิกุ มาทำอะไรแถวนี้เหรอ


[ มิกุ ]  :  อ๋อ  นัดเพื่อนไว้น่ะ จะเอาผลการเรียนมาให้  แย่ๆเทอมนี้เกรดตก เดี๋ยวต้องฟ้องคุณลุงแล้ว



แค่ทันใดนั้นเพื่อนคนนั้นของมิกุก็มาทันที และมาแบบเซอร์ไพรส์ซะด้วย



[ ???? ]  :  โย่ว เมกุมิ ( ชื่อจริงของมิกุ ) มาแล่ววววว



[ มิกุ ]  :  ริวจังมาช้าจังเลย หมดนมไป 2 แก้วแล้วเนี่ย



คิราระคิดในใจทันที เสียงนี้โคตรคุ้นหูเลย แถมมิกุยังเรียกว่าริวจังอีก คิราระจึงค่อยๆหันไปมองก็ถึงกับตกใจเพราะเพื่อนที่มิกุเรียกว่าริวจัง คือ ริวกะ นั่นเอง



[ มิกุ ]  :  ริวจัง เทอมนี้เกรดตกนะ เดี๋ยวชั้นจะฟ้องคุณลุง



[ ริวกะ ]  :  เดี๋ยวๆ เมกุมิ เกรดตกที่ว่ามันเท่าไร ชั้นจำได้ว่าไม่เคยขาดเรียนนะ ตกก็ไม่ตกสักตัว แล้วเลิกเรียกว่าริวจังได้แล้ว อายคนอื่นเขา



[ มิกุ ]  :  นี่ไงเทอมที่แล้ว เกรด 3.5 เทอมนี้ตกลงมาเหลือ 3.1


[ ริวกะ ]  :  โห มันก็ยัง 3 นี่นา


[ มิกุ ]  :  ริวจังเป็นถึงคณะกรรมการนักเรียนแต่ทำตัวไม่น่ารักเลย เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยเนี่ย



[ ริวกะ ]  :  เดี๋ยวสิ่ เมกุมิ ชั้นอยู่ฝ่ายคุมประพฤตินะ ไม่ใช่ฝ่ายวิชาการโถ่



ทั้งคู่คุยกันไปมาอย่างสนิทสนมจนลืมว่าคิราระอยู่ตรงนั้น ส่วนคิราระนั้นถ้าทำได้เธอก็คงอยากใช้ชุนโปแว๊บหายไปจากตรงนี้เหมือนกัน เพราะหัวใจเธอเต้นแรงมากพอรู้ว่าเป็นริวกะ แต่เหมือนจะไม่ทันเสียแล้วเพราะมิกุนั้น......



[ มิกุ ]  :  อ้อ ริวจังนี่คีจังเพื่อนสนิทของชั้นเอง


[ ริวกะ ]  :  อ๋อ ครับๆสวัสดีครับ


ริวกะที่ยืนข้างหลังคิราระก็ยังไม่เห็นคิราระจึงได้ไม่สนใจอะไร แต่มิกุสังเกตุเห็นความผิดปกติของคิราระเพราะตั้งแต่ริวกะเข้ามาคิราระก็นิ่งไม่ขยับเลย



[ มิกุ ]  :  ริวจัง นี่ริวจังไปไหนต่อมั๊ย



[ ริวกะ ]  :  งืม.....แปปนะ


ริวกะหยิบสมุดเล่มหนาๆหนึ่งเล่มออกมาจากกระเป๋าสะพาย มันถูกแปะด้วย Post it หรือ กระดาษเน้นข้อความไว้มากมาย ถ้าให้เดานั่นคงจะเป็นตารางเวลาในแต่ละวันของริวกะนั่นเอง



[ ริวกะ ]   :   วันนี้ไม่มี เดี๋ยวคงกลับบ้านเลย


[ มิกุ ]  :  กลับไปฝึกซ้อมตามเคย นี่แหละน๊าาา คุณคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายคุมประพฤติ


[ ริวกะ ]  :  เปล่าหรอก วันนี้วันพักผ่อน


[ มิกุ ]  :  เย้ๆ งั้นนั่งกินนมเป็นเพื่อนกันก่อนสิ่


[ ริวกะ ]  :  คร๊าบๆ ได้คร๊าบคุณหัวหน้าห้อง แต่ว่าขอเป็นกาแฟนะ



ริวกะทำตามที่มิกุขอร้องอย่างว่าง่าย มิกุร้องดีใจเย้ๆ แต่คิราระนี่สิ่ถึงกับร้องแย่ๆ เพราะริวกะนั้นขออนุญาตนั่งข้างๆคิราระ ซึ่งตัวเธอเองก็จำใจเขยิบให้ทั้งๆที่ก้มหน้าอยู่ ฟุดฟิด ฟืดฟือ ริวกะได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นเคย และทำให้เขาก็รู้ทันทีว่าคนข้างๆเป็นใคร



[ ริวกะ ]  :  โดดเรียนเหรอ โนโซมิ  ชั้นไปฟ้องน้าคุรุมินะ



[ คิราระ ]  :  อ๊าาาา ไม่ได้โดดเรียนนะ อย่าไปบอกคุณแม่นะ



อยู่ดีๆริวกะก็รู้ซะเฉยๆว่าคนข้างๆคือคิราระนั่นเอง แถมยังแกล้งขู่จะไปฟ้องคุรุมิเสียด้วย ทำให้คิราระถึงกับสะดุ้งจนลืมตัวพูดตอบโต้ไป แถมยังเด้งตัวขึ้นมาอีกทันที



[ คิราระ ]  :  อย่าฟ้องนะ นะ นะ  เอ๊ะ !!!!



คิราระตกใจเพราะริวกะแกล้งจนลืมนึกไปว่าตอนนี้มันเลิกเรียนแล้วนี่นา แล้วเธอจะตกใจทำไมแต่พอจะนึกได้ตอนนี้ตัวเธอก็เบียดเข้าไปริวกะจนแนบสนิทแถมยังไปจับตรงเป้าของริวกะจนเจอมังกรที่หลับอยู่เต็มๆ จนเธอตกใจรีบเด้งตัวกลับมานั่งที่เดิม แน่นอนว่ามิกุไม่เห็นว่าคิราระไปจับริวน้อยเสียแล้ว แต่เธอเห็นทุกอากัปกิริยาของเพื่อนสนิท มันจึงทำให้มิกุรับรู้ได้ทันทีว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ



และถ้าเธอเดาไม่ผิดผู้ชายคนที่คิราระชอบก็คือริวจังหรือริวกะนั่นเอง ยิ่งพอริวกะเริ่มพูดคุยกับมิกุ ตัวมิกุนั้นจะแอบชำเลืองมองคิราระตลอด คิราระนั้นจะแอบมองไปที่ริวกะบ่อยมากๆ แต่พอริวกะหันมาก็จะหลบหน้าทันที คิราระมองมาที่มิกุก็ต้องพบกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ราวกับว่ารู้ทุกอย่างแล้วนั่นเอง คิราระเลยได้แต่นิ่งทำอะไรไม่ถูกเลย



[ ริวกะ ]  :  เมกุมิ ชั้นไปเข้าห้องน้ำแปปนะ


[ มิกุ ]  :  จ้าาาาา



ริวกะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ยังหันมามองคิราระที่นั่งตัวแข็งโป้งเป็นหินเลย เขาแอบหัวเราะและยื่นมือไปขยี้หัวคิราระเบาๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ ซึ่งตลอดทางเดินก็มีสาวๆมัธยมมองไม่วางตา คงเพราะความหล่อของเขานั่นแหละ



[ มิกุ ]  :  อ่ะหื้มม คีจางงงง มีอะไรจะบอกชั้นมั๊ย


[ คิราระ ]  :  หะ หา มะ ไม่ ไม่มีอะไรจะบอกนี่


[ มิกุ ]  :  อื้มมม ไม่มีแน่นะ แน่ใจเหรอ



[ คิราระ ]  :  อ่ะ อื้อๆ ไม่มีจริงๆ


คิราระหลบตาอย่างมีพิรุธจนผิดสังเกตุ นั่นมันจึงทำให้ข้อสงสัยของมิกุที่คิดว่าริวกะเป็นคนที่คิราระแอบชอบนั้นกลายเป็นจริงทันที มิกุแอบยิ้มมีความสุขเพราะคนที่เพื่อนสนิทของเธอชอบเป็นริวกะ ทั้งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะรู้ความลับ คิราระก็เหมือนเป็นเจ้า ที่ถือไพ่แต้มบอด ส่วนรอบวงถือแต่ป๊อก8 ป๊อก9 ตอนนี้เธออับจนหนทางจริงๆที่จะปฏิเสธ



[ มิกุ ]  :  โอเค ไม่มีก็ไม่มี งั้นชั้นเล่าเรื่องที่คีจังเล่าให้ฟัง  ให้ริวจังฟังดีกว่า


[ คิราระ ]  :  งื๊อออออ อย่านะมิกุ งืออออ อย่าแกล้งกันสิ่



[ มิกุ ]  :  5555 ว่าแล้ว คีจังชอบริวจังจริงๆด้วย



คิราระจำใจยอมรับจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง มิกุก็ยิ้มอย่างมีความสุขจริงๆที่เห็นคิราระมีความรัก จนสักพักริวกะก็เดินกลับมาและนั่งลงที่เดิม คิราระก็เข้าสู่โหมดจำศีลต่อ เธอเคยชินเสียแล้วกับการนั่งในกลุ่มแต่ไม่มีใครสนใจเรียกเธอเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว


เพราะมิกุจะชวนเธอให้มามีส่วนร่วมในการพูดคุยด้วยตลอดถึงจะเขินริวกะมากๆ แต่คิราระก็คุยตอบโต้ทุกครั้ง จนผ่านไป 30 นาที มิกุจึงได้ขอตัวกลับก่อน คิราระนั้นจะขอกลับด้วยแต่มิกุห้ามไว้ เพราะเธอจะให้คนที่บ้านมารับ
ซึ่งอันที่จริงเธอจงใจที่จะให้ริวกะกับคิราระอยู่ด้วยกันต่างหาก



ตึ้ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  นี่คือจังหวะเต้นหัวใจของคิราระ หลังจากมิกุโบกมือบ๊ายบายและขึ้นรถกลับบ้านไปแล้ว ทำให้ตอนนี้เขาและเธออยู้ด้วยกันสองต่อสอง ริวกะน่ะเฉยๆแต่คิราระเกร็งแทบจะตัวแข็งเป็นหินอยู่แล้ว



[ ริวกะ ]  :  เธอไปไหนต่อเปล่าโนโซมิ จะ 5 โมงเย็นแล้ว


[ คิราระ ]  : กะ กะ กลับบ้าน


[ ริวกะ ]  :  อื้ม ป่ะเดี๋ยวไปส่ง



ตาย ตาย แบบนี้ตายแน่นอน ริวกะออกปากจะเดินไปส่งแบบนี้ มันทำให้คิราระถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย จนเธอต้องหาเรื่องชวนคุยแก้เขิน


[ คิราระ ]  :  ริวกะ คือว่า กรรมการนักเรียนฝ่ายคุมประพฤติที่ริวกะเป็น คืออะไรเหรอ


[ ริวกะ ]  :  หืม พูดได้ด้วยเหรอเนี่ย เห็นเงียบตั้งแต่เมกุมิกลับไป


[ คิราระ ]  :  งื้อออ ริวกะบ้า อย่าแซวสิ่


คิราระหน้าแดงแจ๋เลยพอโดนริวกะแซว ซึ่งมันก็จริงเพราะตอนนี้เธอได้อยู่กับเขาสองต่อสอง มันก็ยิ่งทำให้ความเขินของเธอนั้น ทวีคูณเข้าไปอีก



[ ริวกะ ]  :  ล้อเล่นๆ อืมงานกรรมการนักเรียนเหรอ ก็ดูแลความเรียบร้อยของนักเรียนนั่นแหละ แต่ชั้นจะดูแลแค่ ปี.1  ( ม.4 ) แต่ก็มีแวะเวียนไปทักทายพวก ปี 2 ปี 3 บ้าง



[ คิราระ ]  :  เง้อออ โรงเรียนเซริวมีแต่พวกคนมีตังส์ไปเรียน มีคนไม่ดีด้วยเหรอ ถึงต้องมีการคอยสอดส่องควบคุม



[ ริวกะ ]  :   คนดีคนเลวไม่ได้วัดที่ฐานะหรอก รวยแต่ทำตัวเลวร้ายบ้าอำนาจก็มีเยอะแยะ คนที่จนๆแต่เป็นคนดีก็มีถมไป โรงเรียนชั้นที่ดูสวยงามนั่นมันก็แค่ภายนอก ภายในน่ะมันเต็มไปด้วยการแบ่งชนชั้นของพวกนักเรียนมากมาย ตั้งแก๊งค์รีดไถ ใครหัวอ่อนหน่อยก็โดนแกล้ง โดนBully  บ้านใครรวยแต่ถ้าทำตัวติ๋มๆก็จะโดนพวกนักเลงไถเงินทุกวัน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก สำนวนนี้คงเหมาะกับโรงเรียนชั้นในตอนนี้จริงๆ โรงเรียนชั้นก็เหมือนโรงเรียนทั่วไปนั่นแหละ มีพวกนักเลง แยงกี้ มีพวกใช้อำนาจพ่อแม่จนเหลิง บลาๆ ๆ




[ คิราระ ]  :  อื้ออ เหมือนกันทุกที่จริงๆเลย แล้วริวกะทำงานของคณะกรรมการยังไงเหรอ



[ ริวกะ ]  :   ถ้าเป็นปัญหาด้านนิสัยส่วนตัวเช่น เกเร ไม่ตั้งใจเรียน รังแกกันในห้องเรียน ตรงนี้มันเป็นหน้าที่ของอาจารย์ที่ปรึกษาและครอบครัวของแต่ละบุคคล ชั้นจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ถ้าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่ม ระหว่างชมรมจนมันเข้าข่ายทะเลาะวิวาทผิดกฎโรงเรียนโรงเรียน  ชั้นก็จะเข้าระงับเหตุ



[ คิราระ ]  :  ยังไงเหรอริวกะ เข้าระงับเหตุ



[ ริวกะ ]  :  ขั้นแรกก็พูดจาให้ใจเย็นๆ ให้ใช้เหตุผลในการเข้าพูดคุย ให้เลิกทะเลาะวิวาท ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ต้องใช้กำลังเข้าระงับเหตุอย่างรวดเร็วและจับตัวส่งห้องปกครอง ส่วนบทลงโทษทางโรงเรียนจะพิจารณาเอง



คิราระได้ฟังก็ตกใจ เพราะริวกะพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆเลย แต่มันก็ไม่แปลก เพราะริวกะเก่งซะขนาดนี้นี่นา



[ คิราระ ]  :  ริวกะใจร้ายจัง


[ ริวกะ ]  :  นี่โนโซมิ งานของชั้นคือจับกุมและระงับเหตุนะ ในบางกรณีถ้ามันร้ายแรงถึงขั้นนักเรียนก่อเหตุบานปลาย อย่างเช่น ตีกันในโรงเรียน ถ้าการทำให้สลบมันคือการทำให้เหตุวุ่นวายจบโดยเร็ว มันก็จำเป็น


[ คิราระ ]  :  งื้อออ แต่ริวกะใจดี ริวกะคงไม่ทำอะไรรุนแรงหรอก ริวกะเป็นคนดีจะตาย


คิราระพูดถึงคำว่า ริวกะเป็นคนดี คำๆนี้ทำให้ริวกะสะดุดกึ้กเลย สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที เป็นสายตาที่เศร้าหมองทันที


[ ริวกะ ]  :  คนที่เคยทำให้คนดีๆตาย แถมยังฆ่าคนไปอีก 8 คน ไม่เรียกว่าคนดีหรอก ชั้นมันก็แค่คนเลวคนนึง


คิราระรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ ริวกะรู้สึกยังไงคิดอะไรอยู่ เธอกุมมือเขาด้วยมือเล็กๆของเธอพร้อมบีบไว้ราวกับจะบอกว่า ชั้นอยู่ตรงนี้นะ ชั้นอยู่ข้างๆ เธอมองริวกะด้วยสายตาที่เป็นห่วงซึ่งริวกะเองก็เหมือนจะรับรู้ได้ เขาจึงค่อยๆปรับอารมณ์ตัวเองที่ตอนนี้ดาวน์มากๆ จนหลายนาทีมันก็ค่อยๆดีขึ้น


[ ริวกะ ]  :  ขอบใจนะ โนโซมิ ชั้นดีขึ้นแล้ว


[ คิราระ ]  :  อื้อออ ฮี่ๆๆ ชั้นรู้ริวกะเป็นคนดี คงไม่เป็นเหมือนไอ้พวกที่อวดรวยหรอกเนอะ เนอะ เนอะ



[ ริวกะ ]  :  ชั้นจะมีอะไรให้อวดล่ะ คนที่รวยคือพ่อกับปู่ ชั้นมันก็แค่โชคดีเกิดมาเป็นลูกคนรวย เงินทุกวันนี้ก็ขอพ่อใช้ ชั้นจะมีหน้าอะไรไปอวดล่ะ



[ คิราระ ]  :  งื้ออออ ริวกะถามจริงๆนะ ทำไมริวกะเรียนเก่งจังเลย ทำนู่นทำนี่มากมายแต่เกรดยังสูงมากๆเลย



[ ริวกะ ]  :  การเรียนมันเป็นสิ่งเดียวที่ชั้นพอจะทำให้พ่อไม่อายคนได้ ถ้าใครต่อใครรู้ว่าลูกชายคนเดียวของพ่อการเรียนไม่เอาไหน พ่อคงอายเขาแย่เลยเนอะ



[ คิราระ ]  :  คุณท่านไม่อายหรอก สำหรับชั้นริวกะเก่งจะตาย


[ ริวกะ ]  :  ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ่



ทั้งสองต่างยิ้มให้กันและกันราวกับมีบางอย่างในใจที่มันเกิดขึ้นและต่างก็รับรู้ซึ่งกันและกันแต่ไม่มีใครพูดออกมา คิราระไม่ยอมปล่อยมือริวกะเลย เพราะอ้างว่ากลัวริวกะร้องไห้ขี้มูกโป่ง ส่วนริวกะก็ไม่ได้ว่าอะไร ทั้งคู่เดินจับมือกันมาถึงย่านตลาดก่อนจะถึงหน้าบ้านของคิราระ แต่ก็มีเสียงดังโวยวายลั่นตรงหน้า นักเรียนตีกัน ภาพตรงหน้าคือ เด็กนักเรียนมัธยมปลายกว่า 30 คนกำลังเขม่นกันและเตรียมจะพุ่งเข้าหาในไม่ช้า



คิราระถึงกับกลัวจนตัวสั่นเพราะพวกนั้นคือ โรงเรียนฟุคุซัน ( โรงเรียนของทาเครุ ) และ โรงเรียนสาธิตคาวากิ ซึ่งทั้งคู่ได้ชื่อว่าโรงเรียนที่มีนักเรียนอันธพาลเต็มไปหมด แต่ริวกะก็ไม่มีท่าทีกลัวอะไรและยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ต่างกับพ่อค้าแม่ค้าย่านนั้นที่กลัวลูกหลง กลัวแผงค้าของตนเองจะได้รับความเสียหายแทบทุกคน



[ ริวกะ ]  :  เห้ย !!! พวกแก จะทำอะไรกัน แถวนี้ย่านการค้านะ


 





เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน




I2ta3ta3

ได้รับรูเรื่องราวของริวสมัยเรียนอยู่ญี่ปุ่นด้วยดีจังคับ

kirito.ryu

ยิ่งอ่านยิ่งสนุกน่าติดตาม อยากให้เขียนภาค2 ต่อ อยากรู้ว่าเวย์คือใครกันแน่



mewzira

โหหายนานเกิน ไอ้เราก็รอไปสิโกดๆ กำลังฟินคิราระ หายนานขนาดนี้ จะได้ไหมนิ 555

suriwong

กำลังเข้าโหมดหวานอยู่แท้ๆเลย ต้องชะงักเพราะพวกอันธพาลเสียนี่

Nithiwit Sakfan

คิราระเหมือนกับว่าเป็นโชคชะตาของเธอที่ได้มาพบกับริวไม่อย่างนั้นยามิคงไม่รับเป็นน้องบุญธรรม

dwarf

ขอบคุณครับ..รู้สึกฟินไปกับคิราระที่มีความรู้สึกกับริวกะเลย แอบยิ้มในใจครับ


munkza

เดินจับมือประหนึ่งเป็นคู่รักกันเลย ริวกะกับคิราระ หวานเชียวแม่คุณเอ้ยย