ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_cdx

เพลิงรัก ไฟแค้น ตอนที่ 7

เริ่มโดย cdx, พฤษภาคม 30, 2019, 08:21:39 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cdx

.........................
หลายครั้งที่ผู้คนไม่เข้าใจกัน เพราะไม่พูดคุยกัน
.........................
จากคอมเม้นที่หลายท่านเห็นใจพิยดา นั่นคือเครื่องบ่งบอกว่าท่านเป็นคนดี
ท่านเป็นคนมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
........................
เพลิงรัก ไฟแค้น ตอนที่ 7
   หากจะถามว่า พิพัฒน์ ได้ตัวพิยดามาอย่างไร คำตอบก็คือ จากความแค้นของพิพัฒน์ ที่มีต่อคุณนาย กัญญา สิ่งที่พิพัฒน์ทำคือให้ทีมงานที่บ่อนรวมหัวกันเล่นโกงคุณนายกันยาและคุณหญิงวิยดา จากนั้นก็หลอกล่อให้ทั้งสองเอาที่ดินมาขายฝากด้วยเงินจำนวนมาก แล้วให้ทีมงานเล่นการพนันโกงเอาเงินกลับคืนมาจนหมด
งานนี้ พิพัฒน์จ้างทีมงานด้วยเงินจำนวนไม่น้อย แต่มันก็คุ้ม
   พิพัฒน์วางแผนเข้าหา พิยดา และเอมกับอร เพื่อที่จะได้ตัว หญิงสาวทั้ง 3 จากนั้นค่อยเปิดเผยตัวตน สร้างความเจ็บปวดให้คุณนายกันยาและคุณหญิงวิยดา  อันเป็นการจบเกมส์ทวงคืนความแค้นที่ทั้งสองได้ทำกับแม่ของตน เมื่อครั้งวัยเด็ก
   ความดีของผู้คน มักชนะความร้ายของผู้คนได้เสมอ  จากที่เคยเกลียดชัง เมื่อได้สัมผัส พิพัฒน์ เริ่มรู้แล้วว่า พิยดา หรือเอมกับอร หาได้เกี่ยวข้องกับบุญคุณความแค้นนี้เลย ฝ่ายดีในตัวพิพัฒน์บอกให้เลิกจองเวร ฝ่ายดีแสดงให้เห็นว่า ระหว่างที่พิพัฒน์กระทำกับครอบครัวนี้ ทั้ง คุณนายกันยาและคุณหญิงวิยดา แท้จริงแล้ว ตนหามีความสุขไม่  และเมื่อสลัดไฟแค้นออกจากอกไป ตัวเขาเองกลับรู้สึกเป็นสุข
   เป็นอีกวันเหมือนเคย ที่พิพัฒน์ มารับเอมกับอร แต่ที่ต่างจากทุกวันก็คือ วันนี้ น้องพริ้งมาด้วย แรกสุด เอมกับอรรู้สึก งง เพราะ ไม่เคยเห็นน้องพริ้งมาก่อน ยิ่งตอนน้องพริ้งยกมือไหว้ บอกว่า "สวัสดีค่ะ น้าเอมน้าอร"
สองสาวยิ่งงงหนัก กระทั่งพิพัฒน์ แนะนำให้รู้จัก ว่าน้องพริ้งเป็นหลานของตน สองสาวถึงเข้าใจ
"ไม่เอา......นี่ ถ้าจะคบกันนาน ๆ นะ ให้เรียกพี่ ไม่ให้เรียกน้า ...."  น้องเอมกล่าวอย่างอารมณ์ดีกับน้องพริ้ง
"เอ้า.......เอางั้นก็ได้....." น้องพริ้งกล่าวแล้วหัวเราะบ้าง
   ร้านอาหารในห้างดัง อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ กับอาหารบางส่วนที่ไหลมาตามรางเลื่อน สามสาว ต่างคีบหยิบจับ ยื่นให้กันวุ่นไปหมด เอม อร และ น้องพริ้ง เข้ากัน ได้อย่างดี ต่างละลายพฤติกรรมเข้าหากัน เอมกับน้องพริ้ง พูดคุยกันอย่างสนุสนานเพราะต่างเป็นคนอารมณ์ดี ช่างพูด ขณะที่อรซึ่งเป็นคนพูดน้อย จะเป็นฝ่ายรับฟังเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพิพัฒน์ ได้แต่นั่งดู นี่มัน เป็นอาหารที่พิพัฒน์พอกินได้ แต่ไม่ใช่อาหารที่เขาโปรดปราณนัก
วันแรกผ่านไปเพียงให้น้องพริ้งรู้จักเอมกับอรเท่านั้น
............................................................................
............................................................................
ร้านอาหารหรู ย่านชานเมือง พิพัฒน์ นั่งคู่กับอนุวิทย์ทนายคู่ใจ วัย 60 ขณะที่มินตรา นั่งคู่กับสามี อยู่ฝั่งตรงข้าม บนโต๊ะ มีแก้วน้ำวางอยู่ตามจำนวนคน กับแฟ้มเอกสาร
   พิพัฒน์มองบรรยากาศโดยรอบ นี่เป็นครั้งที่สองของเขาที่มาที่นี่ แขกมีไม่มากนัก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ในภาวะเศรษฐกิจ ย่ำแย่ ที่กระทั่งรัฐบาลยังจัดตั้งไม่ได้เช่นนี้  ใครจะมากินมาเที่ยว  การมากินอาหารที่นี่แค่มื้อเดียว มันสามารถเอาไปกินอาหารธรรมดา ได้ตั้ง2-3วัน ชายหนุ่มวัย 35 หันมามองที่มินตรา หญิงสาววัย 31 มินตราเกิดปีเดียวกันกับ แพรวนภา พิพัฒน์รู้ ว่ามินตราคือน้องสาวพ่อเดียวกันกับตน แต่คนละแม่ แต่มินตราไม่รู้
.................................................................
"คือยังงี้ ...นะครับ...."  ทนายอนุวิทย์กล่าว "ที่ดินแปรงนี้ คุณพิพัฒน์ ได้ซื้อมันมาแล้ว จากเจ้าของเดิม..."  มินตรากับสามีหันมามองหน้ากัน แล้วหันกลับไปมองเอกสาร ที่ทนายอนุวิทย์ยื่นให้ดู พิพัฒน์สังเกตดูอาการ มินตรา หญิงสาวแสดงอาการกังวลไม่น้อย
"แต่คุณก็สบายใจได้...." ทนายอนุวิทย์พูดต่อ  "ทางเรารู้ว่าที่ดินนี่นะมัน ติดสัญญาเข่ากับพวกคุณ คุณยังสามารถเช่าต่อได้ ด้วยเงินค่าเช่าตามสัญญาเดิม..คือเดือนละ สองหมื่นบาท...."  ทนายอนุวิทย์กล่าว มินตรากับสามี มีสีหน้าดีขึ้นบ้าง
"ค่ะ.... ขอบคุณ.... " มินตรากล่าว
"คุณพิพัฒน์ มีข้อเสนอให้คุณทั้งสองพิจารณา........" ทนายพูดต่อขณะที่อนุวิทย์ยังไม่กล่าวอะไรสักคำ สายตายังคงมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย มองเหมือนจะมองหาใครสักคน
"ข้อเสนออะไรครับ..." สามีของมินตราถามขึ้น
"คุณพิพัฒน์ ต้องการเป็นหุ้นส่วนในกิจการนี้ "......
"ไม่มีทาง......." มินตราขัดขึ้นทันที
"ฟังเค้าพูดก่อนก่อน....." ฝ่ายสามีของมินตรา กล่าวขึ้น
"ที่ดินส่วนนี้ ถือว่าเป็นหุ้นของทางคุณพิพัฒน์ ต่อไปพวกคุณไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ในส่วนของการดำเนินกิจการ ต่อไปพวกคุณทั้งสองจะได้รับเป็นเงินเดือน ผลกำไรในแต่ละเดือน เอามาแบ่งกัน พวกคุณเอา 60 คุณพิพัฒน์ เอา 40 และเมื่อทำธุรกิจนี้ด้วยกันครบ 10 ปี คุณพิพัฒน์ จะถอนตัว ที่ดินกับสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ยกให้เป็นของคุณมินตรา...."  ทนายอนุวิทย์กล่าว มินตราทำสีหน้า งง ทางฝ่ายสามีของมินตรา กดเครื่องคิดเลข แล้วยื่นให้ภรรยาดู
   ........///...นี่มันเป็นสัญญาที่ผู้เสนอเสียเปรียบเต็มประตู นายพิพัฒน์นี่ เค้าต้องการอะไร....///....สามีของมินตราคิดในใจ
..." คุณต้องการอะไร คุณพิพัฒน์....." มินตราหันไปทางพิพัฒน์ ที่ตั้งแต่มา ยังไม่พูดอะไรสักคำ
"..ก็ไม่มีอะไร...แค่ผมอยากมาเปลี่ยนร้านนี้ จากอาหารอิตาเลี่ยน เป็นร้านอาหารไทย-อีสานแบบไฮโซ เท่านั้น..." พิพัฒน์พูดยิ้ม ๆ
"คุณ...กำ...ลัง...ดูดูกร้านของฉัน..." มินตรากล่าว
"ไม่รู้สิครับ แต่เท่าที่ผมดู ผมว่ารายได้ของร้านคุณ หักค่าเข่า ค่าคนงาน มันอาจะน้อยกว่าร้านไก่ย่างส้มตำธรรมดาเสียด้วยซ้ำ.....ผมว่าพวกคุณลงจากหอคอยงาช้างมารับความจริงเถอะน้องสาว....." พิพัฒน์กล่าว มินตรากัดฟัน เธอถือว่านี่เป็นการดูถูกกิจการของเธออย่างร้ายแรง แต่สามีเธอกลับมีความเห็นคล้อยตาม ที่พิพัฒน์พูด
"...ก็น่าสนใจนะครับ....." สามีของมินตรากล่าว แน่นอนเขามองออกว่ามันเป็นข้อเสนอที่วิเศษสุดของพิพัฒน์ โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน ซึ่งมันมีราคาเกือบ 10 ล้าน
"ผมให้เวลาพวกคุณตัดสินใจ 10 วัน " พิพัฒน์กล่าว แล้วลุกขึ้นยืน หยิบมือถือรุ่นปุ่มกด ที่วางอยู่บนโต๊ะ
"ตกลงวันนี้เลยก็ได้ครับ...." สามีของมินตรากล่าวขึ้น โดยไม่ปรึกษาฝ่ายภรรยาที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่
"งันวันหลังผมจะให้ทนายของผมเอาสัญญามาให้เซ็นนะครับ..." พิพัฒน์กล่าวพลางทำท่าเดินแต่แล้วก็หยุดชงัก หันมามองหน้ามินตรา ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก ก่อนที่จะกล่าวคำหนึ่งออกมา
"...ไม่ทราบว่า คุณมินตรา พอจะเห็น พิยดา บ้างไหมครับ....." พิพัฒน์เจาะจงถามมินตรา
"ฉันนั่งอยู่ที่นี่ ฉัน ไม่เห็น...."  มินตราตอบแบบเลี่ยงบาลี พิพัฒน์พยักหน้าแล้วเดินออกไป   
พิพัฒน์เดินออกไป ขณะที่สายตาอีกคู่หนึ่ง มองดูพิพัฒน์ ขึ้นรถไปกับลูกน้อง หญิงสาว ใช้นิวเรียวงามปัดน้ำใส ๆ ที่หางตาออก
.............................................................
"เค้าถามถึงเธอด้วยนะ....." มินตรากล่าวกับน้องสาวหลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้ให้ฟัง
"ค่ะพี่....." พิยดากล่าว
"พี่ว่า เค้ารักเธอนะ และเธอก็รักเค้า...."
"แต่ดา....เกลียดน้องสาวเค้า.....และถ้าเลือกระหว่างดา กับคุณแพรวนภา เค้าย่อมเลือกน้องสาวเค้าแน่นอน...."
   พิยดากล่าว มินตราได้แต่มองน้องสาวด้วยความเห็นใจ
...........................................................
............................................................
ด้วยสายสัมพันธ์ทางสายเลือดเป็นทุนเดิม แค่ครั้งสองครั้งที่พบกัน เอม อร กับน้องพริ้ง ก็สนิทถูกคอกัน
ทั้งสามพูดคุยหยอกล้อประดุจพี่น้อง
"พริ้งมีคำถาม 3 ข้อ มาถามพี่เอมกับพี่อร " น้องพริ้งกล่าวขึ้น ขณะนั่งเล่นพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้ พิพัฒน์ นั่งคุยอยู่กับคุณหญิงวิยดา วงสนทนาของสามสาว ค่อนข้างเฮฮา ขณะที่วงขอพิพัฒน์กับคุณหญิงวิยดาค่อนข้างเงียบขรึม
"ถามมา...".....อรกล่าวขึ้น.....
"ห้ามโกรธนะ...." น้องพริ้งกล่าว ... สองสาวซักเอะใจ
"ก็ได้...." เอมกล่าว
"ข้อ 1 พี่เอมรู้ไหม  ทำไม่ลุงพัฒน์ ถึงไปรับพี่เอมพี่อรที่โรงเรียน เป็นประจำ.......ข้อ2 รู้ไหม ทำไมลุงพัฒน์ ชอบมาบ้านพี่เอมกับพี่อร  ข้อ 3 รู้ไหม ทำไม ลุงพัฒน์ดีกับคุณยาย......" จบคำถาม สองสาว เอม อร ทำท่างง แน่นอน เอมกับอรเข้าใจคำถาม แต่เอมกับอร ไม่เข้าใจ สิ่งที่น้องพริ้งต้องการในการตั้งคำถาม
"ใครจะไปรู้...."  อรกล่าว
"ยอมไหมละ พริ้งจะเฉลย..."  น้องพริ้งกล่าวทำสายตาเจ้าเล่ห์
"ยอมก็ ได้..." อรตอบ  "อืม...ยอม " เอมกล่าวขึ้นบ้าง ทั้งสองบอกว่ายอม ทั้ง ๆ ที่ในใจก็มีคำตอบอยู่แล้ว เพียงแต้สองสาวไม่กล่าวคำออกมาเท่านั้น และเมื่อน้องพริ้งเฉลย สองสาว เอมกับอร ก็หัวใจพองโต เพราะคำเฉลยของน้องพริ้ง มันตรงกับที่เธอทั้งสองคิดในใจ
"....เฉลยนาค้า...คำตอบคือ.....ข้อ1..เพราะลุงพัฒน์รักพี่เอมกับพี่อร  ข้อ2..เพราะลุงพัฒน์รักพี่เอมกับพี่อร  ข้อ3..เพราะลุงพัฒน์รักพี่เอมกับพี่อร  ......."
"...บ้า..!!!!!..." สองสาว เอมกับอรกล่าวพร้อมกัน เด็ก 14 อย่างน้องพริ้ง ถึงกับทำให้สองสาวฝาแฝด วัย 17 ไปไม่เป็น
"จริง ๆ นะคะ ไม่เชื่อถามลุงพัฒน์ เลยก็ได้...." น้องพริ้งกล่าวทำท่าจริงจัง สองสาวโบกไม้โบกมือพันลวัน
.........................................................
..........................................................
เย็นวันเดียวกัน หลังจากพิพัฒน์ พาน้องพริ้งกลับไปแล้ว
"เหมือนคุณยายมีเรื่อง ไม่สบายใจ...." น้องอรผู้ซึ่งมีจิตรละเอียดกว่าเอมกล่าวขึ้น หญิงชรา เอามือลูบหัวหลานสาวทั้งสอง หลายปีแล้วที่นางเลี้ยงดูหลานมา หลังจากลูกสาวคนเล็ก แม่ของเอมกับอร เสียไปแล้ว หญิงชราถอนหายใจ..ทำท่าครุ่นคิด  ก่อนจะกล่าวคำออกมา
"นายพิพัฒน์ เค้าขอหลานยายแต่งงาน...." หญิงชรา กล่าว
"ขอใครค่ะ....."  เอมถาม หัวใจเต้นแรง
"นายพิพัฒน์ ขอ.....เอม หรือไม่ก็ อร....ใครก็ได้...." สองสาวได้แต่หันมองหน้ากัน
"แล้วคุณยายว่าไงคะ....."  น้องอรถาม
"ยายยังไม่ตกลง ยายต้องถามหลานยายก่อน..... " หญิงชรากล่าว
"คุณ ยายคะ ถ้าหนูจะแต่งงาน หนูจะแต่งกับคนที่เค้ารักหนู และหนูรักเค้าเท่านั้น ที่สำคัญ พวกหนูยังเรียนอยู่นะคะ........." น้องอรกล่าว
"ก็นั่นละ ยายถึงไม่รับคำ ถึงแม้เค้าบอกว่าจะโอนบ้านคืนให้เป็นชื่อของหนูทั้งสองคน พร้อมให้สินสอดยายอีก 5 ล้าน เชียวนะ....  แต่ไม่มีทางหรอก ที่คนอย่างยายจะขายหลานกิน......"  หญิงชรากล่าวทำตาปริบๆ
" จะห้าล้านหรือสิบล้าน หนูก็ไม่ยอม ถ้าเค้าไม่รักหนู......." น้องอรกล่าว
"หรือยายจะบังคับพวกเราก็ได้นะ ถ้าเงินสินสอดที่ได้จากการแต่งงานของพวกเรามันจะจะทำให้ชีวิตคุณยายดีขึ้น..." น้องเอมเสริม
"แต่บอกไว้ก่อนนะคะ ตลอดชีวิต พวกเราสองคน ไม่เคยแยกจากกัน จะอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน จะไปก็ต้องไปด้วยกัน..." เป็นคำพูดของน้องอร  หญิงชรานิ่งเงียบ ได้แต่เก็บความรู้สึก
"ไปนอนเถอะลูก...ดึกมากแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ......" หญิงชรากลาว พลางมองดูหลานสาวทั้งสอง ที่ประนมมือไหว้ แล้วพากันเดินแยกขึ้นบ้านไป
   หญิงชรา นั่งนิ่ง มองตามหลังหลานสาว จนลับตา นางกำมือสองข้างแน่น แล้วทุบลงที่โต๊ะ ...........
............///.....สองคน 10 ล้าน.....โว้ โว้ โว้.........///.....  นางพึมพำกับตนเอง พลางนึกถึงคาสิโน ที่นางไม่ได้ไปนานแล้ว.........................หญิงชราหยิบมือถือมากดเบอร์ของพิพัฒน์ตอนนั้นเลย....................
"นี่พ่อพัฒน์.......ยายว่า  มีหวังอยู่นะ... แค่พ่อพัฒน์ แสดงออกให้หลานยายมั่นใจ ว่าพ่อพัฒน์นะรักเธอ เธอก็จะยอมแน่นอน   .....ไช่....... อืมมมมม.......แต่มันเป็นแบบนี้นะ...หลานยายทั้งสองนะ...เค้าเป็นแผดกัน ไม่เคยห่างกัน...พ่อพัฒน์ คงต้องจีบทั้งสองคนนั่นพร้อมกันเลยละ.....จ้า.....พ่อหลานชาย........"  หญิงชรา กดวางสายด้วยรอยยิ้ม สรรพนามที่เรียกขานพิพัฒน์เปลี่ยนไปโดยที่นางไม่รู้ตัว
....................................................................................
....................................................................................
...................................................................................
   หากจะถามว่า มันมากไปหรือไม่ แน่นอนมันมากเกินไป สำหรับเงินจำนวนนี้....... แต่สำหรับพิพัฒน์ มันเป็นเงินเพียงน้อยนิด โดยเฉพาะ คุณค่าด้านความรู้สึก ด้วยความที่ว่าพิพัฒน์ ไม่คิดว่าจะเอาแค่สนุก เท่านั้น พิพัฒน์ กะจะเอาจริง........ ครั้นจะตามจีบแบบหนุ่มสาว แน่นอน ด้วยวัย 35 ของพิพัฒน์ เขาย่อมทำไม่ได้
.........................................     ..................
   เช้าวันเสาร์นี้ต่างจากทุกวันตรงที่ แทนที่ เอมกับอร จะได้นอนตื่นสาย พิพัฒน์กลับมารับเอมกับอรแต่เช้า
.......................................    .....................
"พวกเรากินเก่งนะคะ..พี่ชาย.." น้องเอมกล่าว
"ไม่เป็นไร.....พี่จะหาให้กิน....."
"แล้ว ถ้า พี่ดากลับมาละ..."  น้องอร หมายถึงพิยดา พิพัฒน์ อึ้งกับคำถามนี้
" อร รู้ เรื่องนี้..ได้ไง.."
"น้องพริ้งเล่าให้พวกเราฟังค่ะ......." เอมตอบ
"พี่รักพิยดา ไม่น้อยไปกว่า เอมกับอร........" พิพัฒน์ตอบไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตน.......
   น้องเอม  ที่นั่งอยู่เบาะหลัง ขยับตัวมาด้านหน้า เอามือเกาะไหล่พิพัฒน์ เอาแก้มแนนที่เส้นผมของพิพัฒน์
"ขอบคุณค่ะ....ที่พี่ชายไม่โกหกเรา...."  น้องเอมกระซิบ
"เอม....."  น้องอรทำเสียงดุ ที่เห็นคู่แฝดของตนทำกิริยาเช่นนี้ .........
"พี่ชายคะ...พี่ชายกับน้องพริ้ง เข้าใจพี่ดาผิด เรื่องหนึ่งนะคะ...." น้องอรพูดต่อ "พี่ดาไม่ได้ติดการพนันนะคะ
ที่พี่ชายเห็น พี่ดาในบ่อนนะ พี่ดาตามไปเป็นเพื่อนป้ากัญญาเฉย ๆ "  น้องอรกล่าว
"....อืมมมมม...."  พิพัฒน์พึมพำ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็แปลว่าตนเข้าใจพิยดาผิดมาตลอด
"จะกลับไปหาพี่ดาก็ได้นะคะ ยังไม่สายที่จะเปลี่ยนใจ...." น้องอร ผู้ละเอียดอ่อนกล่าว
"เฮ้ย....!!!    ได้ไง ฉันไม่ยอมนะ...."  น้องเอมสวนทันที  พิพัฒน์  ไม่พูดอะไร เลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง ดับเครื่องแล้วหันมากล่าวกับสองสาว
" เอม อร.....ตอนนี้ พี่มีเพียงเอมกับอร....และพี่รักเธอทั้งสองมาก....หยุดพูดถึงคนอื่น ไปทำธุระของเรา เรื่องของเรา นะคนดี...."  พิพัฒน์กล่าว มองสบตาสองสาว ประกายตาของพิพัฒน์ ทำให้สองสาวสงบลง
"ค่ะ....."  น้องอรตอบรับอย่างว่าง่าย  พิพัฒน์ จูงมือสองสาว เดินเข้าไปยังร้านเสื้อผ้าหรูที่อยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถ
"ไม่รู้จะอะไรนักหนากับเสื้อผ้า ก็แค่งานเล็ก ๆ ในครอบครัว ...." น้องอร บ่นอุบอิบ
"น่า......."   พิพัฒน์กล่าว
....................................................
ท่ามกลางพนักงานต้อนรับ 3-4 ตน สองสาวเอมกับอร หายเข้าไปในห้องลองชุด  ขณะที่พิพัฒน์ เดินเลี่ยงออกมาข้างนอก ชายหนุม จุดบุหรี่ อัดควันเข้าปอด จนเดือนหมดมวน
"ขอโทษนะคะ....เออ... คุณพิพัฒน์ มาช่วยดูหน่อย เพื่อมีข้อบกพร่อง จะได้แก้ไข...."   พนักงานวัยกลางคนกล่าว
พิพัฒน์ ทิ้งก้นบุหรี่ลงที่พื้นถนน แล้วเหยียบมันด้วยปลายเท้า ก่อนที่จะเดินตามพนักงานวัยกลางคน เข้าไปในร้าน
......................................................
มันเป็นเพียงชุดเจ้าสาว ราคาไม่กี่หมื่น สองชุดที่ตัดออกมาเหมือนกัน ขนาดเท่ากัน แต่ เด็กสาว สองคนที่สวมไส่มัน กลับทำให้ชุดทั้งสองนั้นทรงคุณค่าประดุจ ชุดราคาเป็นแสน........
น้องเอมยืนเชิดหน้าด้วยความเชื่อมัน...ขณะที่นองอรมีท่าทีเขินอายนิด ๆ
..............////......" สวยเหลือเกิน....เอม...อร......."  ///......พิพัฒน์ พึมพำ....
......................................................

kkk555


pompan

ลุงพิพัฒน์มีตัวชงให้แบบว่า...ดี

kit Nana

#3
พูดคุยเข้าใจกัน ดูแลกัน ปล่อยวาง
ก็สุข
พริ้งทำได้ช่วยให้เข้าใจกัน
ลุ้นอีกคนนะ

pada

เมื่อแสดงใจจริง ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

retirenavy



Popeye5555

สองสาวไปลองชุดเจ้าสาว ลงเอยกันยังไงเนี่ย

vongola10

ในที่สุดเอมกับอรก้อจะได้แต่งงานแล้ว

pizzahutcha

แต่งตั้งแต่ 17 เลยเหรอ แต่พิพัฒก็ร้ายกาจจัดการคู่แฝดได้

aek01

นับว่าโชคดีที่ตั้งใจจะแก้แค้นที่ไหนได้รักจริงแถมสาวๆก็รักตอบทั้งสามคนเลย

ชาญวุฒิ เนระภูสี

มีตัวช่วยดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

วสันต์ ชาญวิทย์


gai

สุข  หรือ  ทุก  อยู่ที่ใจคน 
  แต่ได้ทั้งบ้านนี้ละ สุข มากๆ

mario

รูปเอมกับอรเอามาจากไหนครับ
น่ารักมาก
อยากติดตามดูรูปอื่นๆด้วย