ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Xfreeman

โลกเราก็เป็นแบบนี้ ตอนที่ 10 บทสรุปแรก

เริ่มโดย Xfreeman, กรกฎาคม 02, 2019, 12:07:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Xfreeman

ตอนที่ 10 บทสรุปแรก


   บทสรุปของพี่เลี้ยงทีรัก  จากที่พี่บัวกลับบ้านไปผ่านไปเดือนนึงแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพี่บัวจะกลับมา
น้องนัทเองก็คิดถึงและเศร้า จนแทบจะลืมความเศร้าไปแล้ว เพราะชีวิตก็ต้องมีอย่างอื่นให้ทำไม่หยุด
สองเดือนให้หลังก็มีจดหมายจากทางไกลมาส่ง เรื่องราวของพี่บัว  ที่เล่าว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้กลับมาหาที่บ้านน้องนัทแล้ว
เพราะแม่เพียงคนเดียวแก่มากแล้ว ไม่มีคนดูแล และธรรมเนียมของหมู่บ้านเธอ ก็จะนิยมให้หญิงสาวดูตัวกับผุ้ชายในหมู่บ้านแล้วแต่งงานกัน
เธอก็คงขัดที่บ้านไม่ได้ เพราะออกจากบ้านมานานแล้ว คงต้องแต่งงานและอยู่ดูแลแม่ที่หมู่บ้านของเธอ
แต่เธอบอกว่า จะเขียนจดหมายมาหาที่บ้านน้องนัท กับ มาหาน้องนัทบ่อย ๆ ซึ่งก็เธอก็ทำตามสัญญาได้อยุ่ประมาณปีแรก ๆ
พี่บัวเธอเล่าเรื่องที่เธอแต่งงาน  เล่าเรื่องเธอมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบครัวที่อบอุ่น มีบ้านหลังเล็ก ๆ และช่วยกันกับผัวของเธอทำอาชีพปลูกผักขาย
   
   3 ปีต่อมา เมื่อตอนน้องนัทเรียนจบ ม.6 และเข้ามาสอบเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในกทม. ช่วงที่รอมหาวิทยาลัยเปิดเทอม
นัท จึงตัดสินใจนั่งรถทัวร์ไปเที่ยวเชียงใหม่ เป็นครั้งแรกในชีวิต  โดยที่ก่อนมา 2 อาทิตย์ได้เขียนจดหมายมาบอกพี่บัวไว้ล่วงหน้า
โดยไม่รู้ว่าพี่บัวจะได้รับจดหมายมั้ย   เมื่อมาถึงสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ซึ่งในยุคนั้น รถรายังไม่ได้เยอะแยะวุ่นวายแบบนี้
นัท เดินไปร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์ แล้วตัดสินใจเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าดรีม ซึ่งถือว่า สุด ๆ แล้วในยุคนั้น (บ่งบอกอายุ ฮ่า ๆ)
จากนั้นก็เปิดแผนที่ขี่ไปตามเส้นทาง ที่อยู่ตามจดหมาย จุดมุ่งหมายคือ อ.แม่แจ่ม
ซึ่งก่อนถึงทางขึ้นดอยอินทนนท์  นัทได้แวะกินข้าวที่อำเภอจอมทอง ก่อนได้รู้จักกับก๊วนมอเตอร์ไซค์ท้องถิ่นกลุ่มหนึ่ง
เป็นกลุ่มรุ่นพี่มหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้น ขี่รถออกมาเที่ยวกัน และขากลับจากบ้านพี่บัว  นัทก็แวะหาก๊วนมอเตอร์ไซค์รุ่นพี่กลุ่มนี้
ขี่เที่ยวด้วยกันหลายวัน จนเกิดวีรกรรมสุดเสียวขึ้นอีก 1 เรื่องราว "จะเล่าแยกทีหลังนะครับ"

   กว่าน้องนัทจะถึง อ.แม่แจ่ม ก็เป็นเวลาบ่ายสามบ่ายสี่โมงแล้ว  ด้วยความที่สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์ติดต่ออะไร
การนัดแนะกันก็เพียงแค่นัดแนะสถานที่และเวลาคร่าว ๆ   โดยนัทบอกในจดหมายว่า จะมารอพี่บัว ที่ ว่าการอำเภอ
เพราะดูแล้ว น่าจะหากันเจอง่าย และ ถ้าไม่เจอ  นัทก็ยังสามารถหาที่พักพิงนอนค้างคืนได้ไม่ยาก
หลังจากนั่งรออยุ่ชั่วโมงกว่า ๆ ก็มีรถกะบะดัทสันเก่า ๆ คันนึงมาจอดข้างหน้า พร้อมกับเสียง ที่คุ้นเคย
"น้องนัทคะ ใช่น้องนัทรึเปล่าคะ"  เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย เอ่ยถามเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความอบอุ่น ความรัก
นัทเงยหน้าขึ้นมาดู พร้อมกับรอยยิ่มกว้าง "พี่บัว พี่บัว  ดีใจจังเลย"
ด้วยความคิดถึง นัทกำลังจะวิ่งเข้าไปกอด แต่ก็ต้องชะงัก เพราะ พี่บัวไม่ได้มาคนเดียว
อุ้มลูกน้อยน่ารักมาด้วย และมีผู้ชาย ซึ่งคงจะเป็นผัวของเธอขับรถมาให้
   ยังไม่ทันได้ทักทายอะไร มาก พี่บัวก็บอกว่า รีบขึ้นรถกลับบ้านก่อนดีกว่า
ถ้าฝนตก ถนนจะมีแต่โคลนอาจจะทำให้รถติดหล่มเข้าหมู่บ้านไม่ได้       นัทขี่รถตามรถของพี่บัวเข้าหมู่บ้าน
ซึ่งเป็นถนนลูกรัง ดินโคลน ห่างจากอำเภอแม่แจ่มประมาณ 30-40 กิโลเมตร
กว่าจะถึงหมู่บ้านก็มืดเสียแล้ว  ซึ่งตอนนั้นไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ต้องอาศัยไฟจากแสงตะเกียง
ผัวพี่บัวเล่าด้วยภาษาไทยที่ไม่ชัดเจนว่า ถ้าฝนตกสิ่งแรกทีจะเกิดขึ้น คือไฟฟ้าดับ เป็นเรือ่งปกติของหมู่บ้าน
     หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้ว พี่บัวให้ผัว พาลูกไปนอน  ส่วนพี่บัว ก็ออกมานั่งคุยกับน้องนัท ที่ลานหน้าบ้าน
นัทเอง อยากจะเข้าไปกอดไปหอมพี่บัวให้หายคิดถึง มาก ๆ แต่ก็เกรงใจที่พี่บัวเองก็มีผัวแล้ว
แม้ในสายตาจะดูออกว่าพีบัวก็คิดถึงน้องนัทมาก  แต่ทั้งสองก็ทำได้เพียงจับมือกันเบา ๆ แล้วนั่งคุยกันเท่านั้น
พี่บัวในช่วงเวลาผ่านไป 3 ปีกว่า ๆ คงจะได้รับความลำบากมากกว่าตอนอยู่บ้านน้องนัท
ผิวพรรณก็ดูหมองคล้ำมากกว่าเดิม  ผมเผ้าก็ไม่ได้เรียบร้อยสวยงามเหมือนแต่ก่อน
มีเพียงแค่แววตาทียังดูอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลง 
   หลังจากนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง ตลอดทั้งวัน
นัทตื่นเช้ามาสูดอากาศสดชื่น ของหุบเขาทีเต็มไปด้วยต้นไม้ อุดมสมบูรณ์ 
หมอกยามเช้า ชวนให้ไม่อยากจากสถานที่แห่งนี้ไปเลย    แต่หลังจากจิบชาสมุนไพรอุ่น ๆ
ซึ่งเป็นชาทำเองของหมู่บ้าน    นัทเรียกเด็กสาวตัวน้อยวัย สองขวบกว่า ๆ มาหา
แต่เด็กสาวคงมีความกลัวคนแปลกหน้าทีพึ่งเจอ  ไม่กล้าเข้ามาเล่นด้วย
ได้แต่นั่งตักแม่บัว แล้วมองหน้านัท ด้วยความงง ปน หวาดกลัว
"พี่บัวเดี๋ยวผมเดินทางกลับเลยนะครับ"  น้องนัทบอก ขณะที่กำลังจิบชาอยุ่นั้นเอง
สร้างความตกใจ และความงุนงง ให้กับ สองผัวเมีย  เพราะคิดว่า นัทจะมาอยู่ด้วยหลายวัน
"ทำไมรีบกลับละคะน้องนัท อยุ่กับพีบัวหลาย ๆ วันก่อน อุตส่ามาถีงนี่แล้ว"  พี่บัวถามด้วยความสงสัย
"ไม่เป็นไรครับ พอดีผมนัดเพื่อนเอาไว้ในเมือง ครับ" นัทโกหกไปทื่อ ๆ แบบนั้น
หลังจากนั้นก็ซักถามพูดคุยกันอีกเล็กน้อย  สองผัวเมีย ชักชวนให้น้องนัทอยุ่กินข้าวเช้าก่อน เดินทาง
แต่น้องนัท ตัดสินใจว่าจิบชาเสร็จแล้วจะเดินทางเลย  ก่อนแสงแดดจะแรง และร้อน ไปกว่านี้
อย่างน้อยก่อนขึ้นรถกลับ เด็กสาวชาวเขาตัวน้อย ลูกสาวของพีบัว ก็ยินยอมให้น้องนัทเข้าใกล้ ลูบหัวเล่นได้
   
   ขณะขี่รถกลับ ผ่าน อ.แม่แจ่ม ขึ้นดอยอินทนนท์ เพื่อไปลงทาง อ.จอมทอง
นัทเปิดหมวกกันน๊อคออก ปล่อยให้ลมเย็น ๆ ปะทะหน้า ไปเรื่อย ๆ
หวนคิดถึง คำพูดของพี่บัวเมื่อคืนก่อนที่จะเข้านอนว่า  ที่จริงแล้ว พี่บัวเธอท้องก่อนแต่งงานได้เดือนกว่า ๆ
พี่บัวเธอคิดว่า ลูกสาวคนนี้ น่าจะเป็นลูกสาวของนัท มากกว่าลูกผัวคนนี้
แต่เธอก็ได้ขอร้องให้นัทเก็บความลับไว้  ไม่ต้องการให้นัทมาแสดงความรับผิดชอบใด ๆ
และห้ามแสดงออกให้คนอื่นรับรู้ว่า  นี่เป็นลูกสาวของนัท   แต่พี่บัวไม่ได้ห้ามนัทมาเจอ
พร้อมทั้งบอกว่า เมื่อลุกโตขึ้นจะให้ไปเรียนในเมือง แล้ว ไปอยุ่กับนัทที่ กทม. ก็ได้
   ความจริง ที่ได้รับรู้ จนไม่รู้ว่า นัทควรดีใจ หรือ เสียใจ   
มันสับสนจนอยากออกไปให้พ้นพื้นทีตรงนี้เสียก่อนเพื่อตั้งหลัก   คิดอะไรเพลิน ๆ
พร้อมกับปล่อยให้รถไหลลงไปตามแรงโน้มถ่วงโลกเรื่อย ๆ ไม่นานนัก นัทก็ถีงทางแยก อ.จอมทอง
หลังจากแวะหาที่ล้างหน้า ตั้งสติ  นัทก็บอกตัวเองว่า วันนี้ ตอนนี้ ตัวเองยังไม่สามารถรับผิดชอบเรือ่งราวอะไรได้
มากไปกว่า กลับไปทำหน้าทีตัวเอง รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ดี เพื่อทีวันหนึ่ง จะได้สามารถดูแลคนที่ตัวเองรัก
ดูแลลุกสาวของตัวเอง เมื่อโอกาสนั้นมาถึง    จากนั้นก็ตัดสินใจขี่รถกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
เพื่อไปเจอกลุ่มมอเตอร์ไซค์ก่อนหน้านี้ ที่แลกที่อยู่กันเอาไว้ 
ทิ้งความทรงจำที่ดี ระหว่างน้องนัท กับพี่เลี้ยงที่แสนดี แสนรักเอาไว้ตรงนี้ก่อน
วันหน้าวันหนึ่ง นัทจะกลับมาด้วยความพร้อมของตัวเองมากกว่านี้ 
เก็บความรู้สึกที่ดี ทั้งหมดเอาไว้ เป็นอดีต ที่สอนตัวเอง ให้นัทได้เรียนรู้ เป็นนัทในวันนี้
    ก่อนที่จะเริ่มปฐมบทชีวิตครั้งใหม่    "โลกเราก็เป็นแบบนี้"



-------

ช่วงเวลา 3 ปี ที่หายไป เป็นช่วงเวลาอีกเรื่องราวหนึ่ง ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับนัท
ชีวิตม.ปลาย ที่โลดโผน ทั้งการเรียน เพื่อนฝูง แฟน และ เซ็กส์
ถ้ายังไม่เบื่อกันซะก่อน ไว้รอติดตามใน ภาคมัธยมปลายที่หายไป ตอนหน้าครับ
เป็นเรื่องราวการเรียนในโรงเรียนประจำอำเภอใหญ่ของจังหวัด
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับชีวิตตอนเรียนมหาวิทยาลัยใน กทม. แล้ว
ผมมองว่า ต่างจังหวัดที่ดูเรียบง่าย ไม่มีอะไร
แต่แท้จริงแล้ว ผู้คนแค่ไม่แสดงออก ในเรื่องเซ็กส์  มากเท่าเมืองใหญ่
ซึ่งลึก ๆ ข้างใน มันมีอะไรที่ สนุก และ ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันครับ
ม.ปลายนี้ ผมได้มีประสบการณ์กับคนมีอายุมากกว่า ทั้งเปิดซิงครูฝึกสอน
โดนรุ่นพี่สาวสวยรุม ไว้ติดตามกันนะครับ
ขอบคุณครับ


------- 



   


icanfly

นึกว่ากระสุนตานัทจะด้านซะแล้วแตกในมาก็หลายเดือน ::YehYeh::

พี่บัวที่รักก็ขอให้มีความสุขกับชีวิตคู่สักวันคงได้เจอกันอีก ::Crying::
แต่ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป


psm_mach

ผมเม้นตอนที่แล้วว่าน้องนัทเอากับพี่บัวแล้วพี่บัวไม่ท้องเหรอ ตอนนี้เฉลยแล้วน้องนัทมีลูกกับพี่บัว เป็นความทรงจำกับพี่บัว โตแล้วคงส่งมาอยู่กับพ่อนัท

วิดัล

ติดตามมาแบบไม่ได้แสดงตัว อ่านจนมาถึงตอนนี้ ก็รับรู้ได้เลยว่าทำไมชื่อเรื่องจึงเป็นเช่นนี้
รอรับฟังเรื่องราวตอนมอปลายและมหาลัยนะครับ 

jibxonly

รอติดตามเรี่องราวน้องนัท ตอนม.ปลาย แค่ปูเรื่องราวก็น่าตื่นเต้นแล้วครับ

Noproblemman

ชีวิตก็แบบนี้แหละ มีเรื่องที่เหนือความคาดหมายอยู่มากมาย
ขอบคุณครับ

Otaza

ต่อกับฝ้ายตอนเข้าค่ายลูกเสือหน่อยครับ สมัยม.ต้น เด็กผู้ชายก็คิดเรื่องนี้กันบ่อยๆ

Asura4237


swss2511

ม.ปลายนี่แหละเป็นช่วงชีวิตที่สนุกที่สุด

alohaseed

โอ้​ รออ่านชีวิตช่วงม.ปลายเลย ช่วงนี้ละมีความสุขที่สุดละ

txxt30


tee1402

อ่านมาจบทันชอบมากเลยครับ รอติดตามผลงานอยู่นะครับ

bigbuff

ใช่แล้ว เพราะชิวีตมันต้องเดินต่อไปข้างหน้า แข็มแข็งเพื่อภาระหน้าที่ข้างหน้าต่อไป

อิทธิพล ทบชา