ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอนิ้ง จบในตอน

เริ่มโดย footswitch, สิงหาคม 17, 2019, 06:33:44 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

footswitch

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่หนุ่มใหญ่ไฟแรงเดินถือไมโครโฟนอยู่บนเวทีคล้ายนักร้องประสบการณ์สูงกำลังแสดงคอนเสริต จะไม่เหมือนก็แค่ไม่มีเสียงเชียร์จากผู้ชม ทุกคนสีหน้าจริงจังคร่ำเคร่ง รู้ดีว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าคือสถานการณ์นรกของจริง คืนวันที่สามสิบเอ็ดธันวาคมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

          "สถิติสามวันจนถึงนาทีนี้มีผู้บาดเจ็บเกือบสามสิบคนผู้เสียชีวิตหกราย นั่นคือสัญญาณเตือนนะครับว่าคืนนี้ยังไงต้องหนักหน่วงแน่ๆ ขอให้ทุกท่าน ตั้งมั่น ตั้งใจ ยึดมั่นในแผนยุทธศาสตร์ที่ผมวางเอาไว้อย่างเคร่งครัด ประสิทธิภาพงานที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วแม้เพียงห้าเปอร์เซ็นต์หรือสิบเปอร์เซนต์นั่นอาจหมายถึงการรอดชีวิตของผู้ประสบอุบัติเหตุ" ผู้เข้าร่วมประชุมเกือบร้อยคนปรบมือให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างมิได้นัดหมาย

          "สุดท้ายนะครับ ขอคำตอบเสียงดังๆอีกซักที" เสียงท่านผอ.ดังผ่านเครื่องขยายได้ยินกันทั้งห้องประชุม "สีเหลือง ห้องฉุกเฉิน พร้อมมั้ยครับ" ท่านผอ.ชี้นิ้วไปยังผู้ฟังด้านหน้า
          "พร้อม..ครับ(ค่ะ)!!" เสียงปรบมือให้กำลังใจดังขึ้น
          "สีน้ำเงิน ฝ่ายคอมพิวเตอร์ ฝ่ายทะเบียน ฝ่ายช่าง ฝ่ายจัดการจราจร พร้อมมั้ยครับ"
          "พร้อมครับ" พนักงานหนุ่มยืนขึ้นตอบตะเบ๊ะแบบตำรวจ เสียงปรบมือให้กำลังใจดังกว่าเดิม 
         
          "สีแดง!! หน่วยแพทย์กู้ชีพ พร้อมมั้ย!!"
          "พร้อมค่ะ" นางพยาบาลสาวสวยยืนขึ้นตอบ คราวนี้เสียงปรบมือดังที่สุด

          "สุดท้ายนี้แจ้งให้ทราบเลยนะครับว่า ในคืนนี้บุคลากรและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกท่านเข้าเวรหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นเต็มอัตราศึกไม่มีใครลาหยุดลาป่วยใดๆทั้งสิ้น" เสียงปรบมือดังลั่นยาว คุณหมอทุกคนลุกขึ้นโค้งคำนับโบกไม้โบกมือขอบคุณ

          "ยังมีท่านใดไม่เข้าใจในขั้นตอนแผนการดำเนินงานบ้างมั้ยครับ มีมั้ยครับ ..ถ้าไม่มี สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนยึดมั่นในยุทธศาสตร์" ท่านผอ.สูดลมหายใจเว้นจังหวะ

          "จำไว้นะครับว่า.. จะไม่มีการคิดเองตัดสินใจเองโดยเด็ดขาด ทุกสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดล้วนมีแผนงานรองรับไว้แล้วเพียงแต่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเท่านั้น สุดท้ายนี้ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าประจำสถานี" ท่านผู้อำนวยการคนใหม่ยิ้มกวาดไปทั่วห้อง

          "สวัสดีปีใหม่ครับ"

          "ท่านผอ.ครับ!! ท่านผอ.ครับ" เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นแข่งกับเสียงปรบมือ ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่หยุดยืนเพ่งมองไปทางหลังห้อง

          "ท่านผอ.ครับ!! ท่านผอ.ครับ" ชายวัยใกล้เกษียณในชุดซาฟารีสีเข้มยืนขึ้น

          "โอเคๆ ได้ยินแล้วครับลุง" ท่านผอ.กดปุ่มเปิดไมโครโฟน "คุณลุงยังไม่เข้าใจตรงไหนครับ"

          "คือว่า ผม.. เอ่อ ผมไม่รู้จะทำอะไรครับ ไม่มีหน้าที่" เสียงหัวเราะเบาๆแต่รวมกันหลายคนดังหึ่งขึ้น

          "เดี๋ยวนะ.. นี่ลุงไม่รู้จะทำอะไรเหรอ" ท่านผอ.ก็หัวเราะเบาๆ
          "ครับ!!" ชายวัยใกล้เกษียณยืนตรง

          "แล้วคุณลุงได้รับมอบหมายให้อยู่สีอะไรล่ะ สีเหลือง สีน้ำเงิน หรือสีแดง"
          "ไม่มีสีครับ .. ไม่มีใครมาบอกว่าผมต้องอยู่สีอะไร"
         
          "อ้าว.. แล้วปกติลุงทำหน้าที่อะไรครับ"

          "ขับรถส่งของครับ.. ส่งพวกจดหมาย ครุภัณฑ์ พัสดุ ของโรงพยาบาลครับ"

          "ผมคิดว่าคืนนี้ผมว่าไม่น่าจะมีใครส่งอะไรให้ใครนะ" เสียงหัวเราะดังขึ้น "เอาเป็นว่าคุณลุงได้หยุดพักผ่อนก็แล้วกันครับ"
         
          "ให้ช่วยขับรถพยาบาลก็ได้ครับ ผมเห็นทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันช่วยผมก็เลยอยากช่วยบ้าง" ลุงพนักงานในชุดซาฟารียังตื๊อไม่เลิกรา
          "ขับรถพยาบาลเหรอ.."
         
          "ขออนุญาติท่านผอ.ครับ" ชายหนุ่มร่างกำยำในชุดเครื่องแบบหน่วยแพทย์ฉุกเฉินยืนขึ้น "ไม่ได้ครับ.. คนที่จะขับรถฉุกเฉินได้จะต้องมีใบอนุญาตพิเศษผ่านการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าแปดสิบชั่วโมงเท่านั้น ผมคิดว่าพวกเราคงไม่สามารถยินยอมให้คุณลุงเข้ามาร่วมงานในส่วนนี้ได้"
         
          "อืม.. งั้นเอางี้ เดี๋ยวหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมซักซ้อมแผนรับอุบัติภัย คุณลุงตามไปหาผมที่ห้องก็แล้วกันครับ" ท่านผอ.ส่งไมโครโฟนคืนให้พนักงานฝ่ายเครื่องเสียงแล้วเดินลงเวทีไป

....................

ท่านผอ.เปิดประตูห้องพักผู้อำนวยการโรงพยาบาล หญิงสาวหมวยผมยาวสลวยแบบผู้ดีกรุงเทพนั่งหน้าบูดบอกบุญไม่รับอยู่ที่ชุดรับแขก หลอดไฟส่องสว่างถูกเปิดไว้ทุกจุดจนภายในห้องสว่างไสวสีขาวโพลนไปหมด

          "บรรยากาศการประชุมอย่างกับงานกีฬาสีเลยนะคะ ..พี่จักร" เธอลุกขึ้นเดินเข้าประชิดหอมแก้มหนุ่มใหญ่หนึ่งฟอด สรจักรเคยเห็นแฟนสาวเปลี่ยนอารมณ์ฉับพลันแบบนี้บ่อยๆ ถือเป็นความสามารถ
         
          "จะมาจากโคราชทำไมไม่บอกพี่"
          "นิ้งติดรถเพื่อนมาน่ะค่ะ กะจะเซอไพรส์พี่จักรก็เลยไม่บอกก่อน ประชุมกันน่าสนุกนะคะ อย่างกับงานสัมนาขายตรง"

          "นิ้ง.. นี่มันเรื่องจริงจังนะ" สรจักรเดินผละไปวางเอกสาร "คืนวันขึ้นปีใหม่ปีที่แล้วสถิติของที่นี่ไม่ดีเลย"
          "ก็นั่นมันก่อนที่พี่จักรจะเข้ามารับตำแหน่งนี่คะ นิ้งรับรองว่าปีนี้สถิติจะต้องเป็นศูนย์ คุณหมอสรจักรเอาอยู่แน่นอนค่ะ" นิ้งพูดเอาใจแฟนหนุ่มใหญ่
          "เอาอยู่อะไรละ แค่สามวันเองตายไปแล้วตั้งหกคน"

          "อื้ม.. ว่าแต่คืนนี้นิ้งไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลเหรอ กระทรวงเค้าประกาศทั่วประเทศให้บุคลากรทุกคนเตรียมความพร้อมนะ" สรจักรเปรยเหมือนบ่นๆ
          "นิ้งเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลนะคะ คืนปีใหม่ทั้งทีขอมาสวีทกับแฟนดีกว่า"

          "คืนนี้คงสวีทไม่ได้หรอก ความจริงถ้านิ้งโทรมาก่อนพี่ก็จะบอกว่าอย่าเพิ่งมา" สรจักรถอนหายใจถอดแว่นสายตาออกมาเช็ด
          "นิ้งรู้ค่าาา..แหม แม่ทัพก็ต้องอยู่บังคับบัญชาสิคะจะออกไปเที่ยวได้ยังไง"
          "แม่ท้งแม่ทัพอะไรที่นี่เราทำงานกันเป็นทีม บอกตามตรงนะ พี่ไม่อยากให้พวกลูกน้องคิดว่าเข้มงวดกับพวกเค้าแต่สบายๆกับตัวเอง" ท่านผอ.ถอนหายใจ
          "งั้นพี่จักรก็หาอะไรให้นิ้งช่วยสิคะอย่าลืมนะว่านิ้งก็เป็นหมอ แถมยังเป็นคุณหมอที่สวยและเก่งซะด้วย" 

          "ที่นิ้งมาเนี่ย.. เพราะคุณแม่พี่จักรโทรมาบ่นเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลส่งข้าวส่งน้ำนิ้งก็เลยอาสาค่ะ เอางี้.. เดี๋ยวนั่งดูเงียบๆรับรองว่าจะไม่รบกวนตอนพี่จักรทำงานเลย" คุณหมอนิ้งค่อยๆดึงเน็คไทด์โน้มคอหมอสรจักรลงมาจูบ เพียงได้กอดแฟนสาวความตึงเครียดของหมอสรจักรก็เบาบาง

          "เอ่อ คุณหมอครับ.." ลุงคนขับรถเปิดประตูก่อนแล้วค่อยเคาะตามมารยาท สรจักรกับนิ้งรีบผละตัวออกอย่างกับทั้งสองเป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกัน

          "อ้าว.. ลุง" ท่านผู้อำนวยการคนใหม่สูดลมหายใจบรรเทาความเขินอาย "เชิญครับ เมื่อกี๊คุณลุงว่าไงนะ อ๋อ.. อยากจะช่วยทำอะไรใช่ป่ะ" ท่านผอ.ถามลูกน้องตกสำรวจ

          "ผมว่าท่านผอ.เลิกเรียกคุณลุงซักทีเถอะ ผมยังไม่เกษียณเลย ผมชื่อน้อยครับ"
          "โอเค.. นายน้อย คนขับรถ"

          "เห็นคนโน้นคนนี้เค้าทำโน่นนี่กันขันแข็งผมเองก็อยากจะช่วยอะไรบ้าง ใจก็คิดว่าเราขับรถได้ก็เลยอยากช่วยขับรถพยาบาล ก็แค่นั้นครับ"
          "ผมเข้าใจ แต่ว่า.." หมอสรจักรถอนหายใจ

          "ได้ยินที่ผมย้ำนักย้ำหนามั้ยว่าเราจะไม่มีการทำอะไรนอกเหนือจากแผนที่ซักซ้อมกันไว้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการที่จะไม่บรรจุคนใหม่ๆลงไปในแผนด้วย" ท่านผอ.เหลือบมองแฟนสาว
          "งานอะไรก็ได้ครับ ทิ้งขยะกวาดถูทำความสะอาดอะไรก็ได้ ผมก็แค่แค่อยากช่วย" ลุงน้อยยังตื๊อไม่เลิก

          "งั้นเอางี้ นายน้อยเป็นคนขับรถใช่มั้ย"
          "ครับ.."
          "ผมวานให้นายน้อยช่วยขับรถไปส่งคุณหมอนิ้งที่บ้านพักทีสิ" สรจักรเหลือบมองแฟนสาว

          "อะไรนะคะ!! พี่จักรจะไล่นิ้งให้ไปรอที่บ้านพักเนี่ยนะ นิ้งไม่เอาหรอกค่ะ!!"
          "นิ้ง.. คืนนี้ไปรอพี่ที่บ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวใกล้ๆเช้าแล้วพี่จะรีบกลับไป"

          "โอ้ย!! พี่จักรก็รู้ว่านิ้งเป็นแพนิคกลัวผีจนขึ้นสมองแล้วยังจะให้ไปรออยู่ในบ้านนั้นคนเดียวเนี่ยนะ"
          "ผีเผออะไรนิ้ง!! พี่อยู่มาตั้งหลายเดือนไม่เห็นจะมีเลยไอ้ผีเผออะไรที่คุณแม่ว่านั่นอ่ะ"

          "ไม่เอาค่ะ นิ้งรอพี่จักรอยู่ที่โรงพยาบาลนี่แหละ บ้านนั้นอ่ะนะขนาดกลางวันยังขนลุกเลย" หมอนิ้งลูบแขนตัวเอง

          "งั้นเอางี้สิ ให้ลุงย้อยอยู่เป็นเพื่อน"
          "ผมชื่อน้อยครับท่าน.."
         
          "โหย!! พี่จักร!! จะบ้าเหรอ รู้งี้นิ้งไม่มาหาดีกว่า"
         
          "ถ้าไม่ยอมไปรอที่บ้านงั้นนายน้อยก็ขับไปส่งคุณหมอนิ้งโคราชเลยก็แล้วกัน ค่าน้ำมันมาเบิกเอากับผม" ท่านผอ.ถอนหายใจสบตาแฟนสาวแล้วตัดบทจะเดินออกจากห้อง หมอนิ้งยืนกระทืบเท้าด้วยความโกรธ

          "เอ่อ ท่านผอ.ครับ ..ส่งคุณหมอเสร็จแล้วยังไงผมจะรีบกลับมาช่วยที่โรงพยาบาลนะครับ" นายน้อยน้ำเสียงเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์
          "เออ!! จะไปไหนจะทำอะไรก็เรื่องของลุงเถอะ!! ห่าเอ๊ย!! ผมก็บอกอยู่พยามอธิบายก็แล้วว่าใครไม่อยู่ในแผนก็ไม่เกี่ยว แม่ง..ก็ตื๊ออยู่ได้!! ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงวะ!!" ท่านผู้อำนวยการหนุ่มใหญ่ตวาดเสียงดังเดินออกจากห้องปิดประตูดังปัง เขาไม่ชอบที่ใครนึกจะทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่วางลำดับงานคิดไว้เป็นอย่างดีแล้ว




....................

รถโตโยต้าแวนห้าประตูติดตราเครื่องหมายโรงพยาบาลค่อยๆขโยกเขยกไปตามทางลูกรัง มองตามไฟหน้าสองข้างทางเห็นเพียงป่าหญ้าคารกๆ

          "ตกลงจะให้ผมไปส่งที่ไหนครับคุณหมอ ที่บ้านพักท่านผอ.หรือว่าที่โคราช" นายน้อยถามจากที่นั่งคนขับเบาะหน้า
         
          "ลุงเคยไปที่บ้านนั้นมั้ยอ่ะ" หมอนิ้งถาม
          "เคยครับ เคยไปสองสามครั้ง"
          "ลุงว่า.. บ้านนั้นมันมีผีมั้ยอ่ะ" หมอนิ้งโน้มตัวเกาะเบาะตัวหน้า

          "ไม่รู้สิครับ แต่ว่าท่านผู้อำนวยการคนก่อนๆก็ไม่มีใครอยู่บ้านนี้นะ มีแต่คุณหมอสรจักรนี่ล่ะที่ไม่เคยเห็นท่านกลัวอะไรเลย" นายน้อยเล่ายิ้มๆ

          "แล้วคุณหมอรู้ได้ไงล่ะครับว่าบ้านนั้นมีผี" นายน้อยถาม
          "คุณแม่ของผอ.ท่านไปดูดวงมา หมอดูบอกว่าที่บ้านนั้นมีผี" หมอนิ้งเล่าเสียงตื่นเต้น
          "55 หมอดูก็คู่กับหมอเดาล่ะครับ ถ้ามีผีจริงๆคุณหมอสรจักรท่านคงอยู่ไม่ได้หรอก ผมว่าที่ท่านเลือกจะไม่ออกไปเช่าบ้านเพราะตั้งใจแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความสมถะมากกว่า"
         
          "ผีผู้หญิงน่ะสิ.." หมอนิ้งเปรย

          "ตกลงคุณหมอจะให้ผมไปส่งที่ไหนครับเนี่ย.." นายน้อยถาม
          "ไปโคราช .. ลุงขับไหวมั้ย"
          "ไหวครับ แต่ช่วงเทศกาลรถมันก็คงจะติดหน่อย สี่ห้าทุ่มก็คงถึง"
          "งั้นไปโคราช เดี๋ยวหมอหาห้องพักให้แล้วลุงค่อยกลับตอนเช้า"
          "เออ.. แต่ว่า ผมคงต้องตีรถกลับไปที่โรงพยาบาลเลยครับ คืนนี้ใครมีแรงเท่าไหร่ก็ต้องช่วยกัน"
          "นี่ผอ.เค้าพูดกับลุงขนาดนั้นแล้วยังจะกลับไปช่วยอีกเหรอ"
          "ครับ.." 

....................
         
          "สงสัยต้องเลี้ยวแยกใหญ่ข้างหน้านี้เลยครับ ขืนไปเส้นหลักรถติดขนาดนี้เช้าจะถึงรึเปล่าก็ไม่รู้" นายน้อยเสนอ
          "จะไม่หลงแน่นะ" หมอนิ้งถาม
          "ไม่หลงหรอกครับ"
          "ว่าแต่ลุงน้อยไหวมั้ยอ่ะ ถ้าไม่ไหวแวะปั๊มล้างหน้าล้างตามั้ยเดี๋ยวหมอซื้อกระทิงแดงให้
          "ไหวครับ พอดีเมื่อคืนดูบอลดึกไปหน่อยแต่ก็ยังไหว เห็นตำรวจเมื่อกี๊เค้าบอกว่าเปิดเส้นทางใหม่อีกทางคงจะวิ่งใช้ความเร็วยาวๆได้"
         
....................

เสียงดังโครมครามดังสนั่นหมอนิ้งตกใจตื่น มองไปข้างหน้าเห็นแต่ฝุ่นขาวๆตลบคลุ้งเต็มไปหมด โชคยังดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยแม้จะนั่งที่เบาะหลังไม่งั้นแรงโยนตัวอาจส่งให้เธอหัวจนเพดานรถไปแล้ว

          "ลุงน้อย!! อะไรอ่ะ!!" หมอนิ้งถามเสียงดัง รถโตโยต้าแวนห้าประตูจอดสนิทเกือบจะตกลงไปในคูข้างถนน

          "ไม่มีอะไรครับ ผมแค่วูบไปหน่อยนึง"
          "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!!" เพียงชั่วอึดใจสายตรวจอาสาจราจรขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอด เดินลงมาที่รถสอบถามถึงอุบัติเหตุที่เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ

          "ไม่เป็นไรค่ะ" หมอนิ้งหมุนลดกระจกลงตอบ
         
          "จะไปไหนกันคับเนี่ย" อาสาจราจรถาม
          "ไปโคราชค่ะ ดิชั้นเป็นหมอที่โรงพยาบาล"
          "คุณหมอกำลังจะไปจุดเกิดอุบัติเหตุข้างหน้ารึเปล่าครับ เดี๋ยวซ้อนมอไซค์ผมไปดีกว่า"
          "เปล่าค่ะ.. ข้างหน้ามีอุบัติเหตุเหรอคะ"
          "มีครับ หลายจุดเลย" อาสาจราจรตอบ
          "ถึงว่า เมื่อกี๊ตำรวจโบกให้เข้ามานึกว่ารถว่างนะเนี่ย" นายน้อยคุยบ้าง
          "ไหวมั้ยพี่.."
          "ก็ไหวแหละ นี่ถ้ามันวิ่งได้ยาวๆก็ไม่ง่วงหรอก สองชั่วโมงเพิ่งมาได้สิบกว่าโลเองนะเนี่ย" นายน้อยบ่น
          "อุบัติเหตุหลายจุดครับ ถ้าไม่เป็นอะไรกันงั้นผมขอตัวก่อนนะ ขับดีๆพี่" เขาโบกมือให้นายน้อยคนขับรถ
          "เอ่อ.. เดี๋ยวนะคะ แบบนี้จะถึงโคราชซักกี่โมงคะเนี่ย"
          "ก็น่าจะมีตีสี่ตีห้านั่นล่ะครับ ข้างหน้าอีกสามสิบโลจะมีบังกะโล ผมว่าเปิดห้องนอนแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปดีกว่า แต่ป่านนี้ห้องเต็มรึยังก็ไม่รู้นะ"
          "ขอบคุณค่ะ"
          "เอ่อ.. ถ้ายังไงคุณหมอขึ้นไปนั่งหน้าเป็นเพื่อนคอยคุยกับคนขับดีกว่าครับ จะได้สังเกตุด้วยเผื่อลุงแกวูบอีก 
          "อ๋อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ" หมอนิ้งหาวฟอดใหญ่ด้วยความง่วงดูนาฬิกาเลยเวลาเที่ยงคืนไปสักพักใหญ่แล้ว

          "ไหวมั้ยลุงน้อย" หมอนิ้งนั่งเบาะข้างคนขับ
          "ไหวครับ ทีนี้ตาสว่างเลยไม่ง่วงแล้ว เคราะห์ดีที่ไม่ชนท้ายคันหน้า"

หมอนิ้งระแวงคอยสังเกตุอาการของลุงน้อย ช่วงแรกแกก็ตาสว่างอย่างที่ว่าแต่พอรถติดขยับได้ทีละนิดลุงน้อยก็ออกอาการ

          "ไหวมั้ยลุงน้อย"
          "คุณหมอขับรถเกียร์กระปุกเป็นไหมครับ ผมของีบซักชั่วโมงเดียวก็พอ" นายน้อยถามหมายใจจะเปลี่ยนให้หมอนิ้งขับแทน
          "ไม่เป็นอ่ะ หมอขับเป็นแต่เกียร์ออโต้"
          "ไม่เคยขับรถกะบะเหรอครับ"
          "ก็เคยแต่ขับกระบะเกียร์ออโต้อยู่ดีอ่ะ"
         
          "งั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวข้างหน้าอาจมีปั๊ม" นายน้อยถอนหายใจ มองเห็นแต่ไฟท้ายรถสีแดงตัดกับถนนสีดำมืด

          "หมอชวนลุงน้อยคุยดีกว่า จะได้ไม่ง่วง" หมอนิ้งเสนอ
          "เอาสิครับ คุยอะไรดี"
         
          "ลุงน้อยก็คุยสิ หมอไม่รู้จะคุยอะไร"
          "อ้าว.."

          "คุณหมอกลัวผีแล้วมาเป็นหมอทำไมอ่ะครับ" นายน้อยเปิดฉากเริ่มคุย
          "หมอขอไม่คุยเรื่องผีได้มั้ย"
          "ครับ.."
          "เรื่องอื่นมีตั้งเยอะแยะไม่คุยจะคุยเรื่องผีทำไมเนี่ยยิ่งมืดๆอยู่"
          "รถติดบนถนนเป็นร้อยๆคันแบบนี้ผีมันไม่ออกมาหรอกครับ"
          "คุยเรื่องอื่น.. เรื่องผีหมอไม่คุย"

          "งั้นคุยเรื่องท่านผอ.ก็ได้ครับ" นายน้อยเปลี่ยนเรื่อง "ทำไมคุณหมอไม่มาประจำที่โรงพยาบาลเดียวกับท่านผอ.ล่ะครับจะได้ไม่ต้องไปๆมาๆ"
          "โรงพยาบาลที่โคราชเป็นธุรกิจของครอบครัวหมอค่ะ"
          "อ้าว.. แล้วถ้างั้นทำไมคุณหมอสรจักรถึงไม่ไปอยู่ที่โคราชล่ะครับ จะมาอยู่ที่หนองวัวขุ่นนี่ทำไม กันดารก็กันดาร แทนที่จะอยากอยู่ใกล้ๆแฟน"
          "ไม่รู้ค่ะ พ่อหมอก็ถามหมอแบบนี้เหมือนกัน" หมอนิ้งชักเริ่มรู้สึกว่านายน้อยพูดจาไม่เข้าหู

          "ไม่ใช่จะยุแยงอะไรนะครับ พยาบาลที่หนองวัวขุ่นโสดๆสวยๆตั้งหลายคน ผอ.ท่านก็หล่อเป็นคนหนุ่มไฟแรง อยู่ห่างแฟนแบบนี้.."
          "พอแล้วค่ะลุงไม่ต้องเล่าแล้ว กลับรถเดี๋ยวนี้เลย!!"
          "กลับไปที่โรงพยาบาลเหรอครับ" นายน้อยดีใจ

          "เมื่อกี๊ผ่านมาฝั่งโน้นหมอเห็นมีบังกะโลที่พักริมทาง เปิดห้องนอนพรุ่งนี้เช้าค่อยไปก็แล้วกัน หมอขี้เกียจจะคุยกับลุงแล้วค่ะ!!"





....................

นี่ถ้าไม่เห็นรถที่จอดเต็มแน่นหน้าโรงแรมหมอนิ้งคงจะบอกให้นายน้อยผ่านเลยไปในทันที โรงแรมก่ออิฐถือปูนสามชั้นเก่าคร่ำคราบราดำเกาะเกรอะกรังแห่งนี้โถงรับแขกแฝงกลิ่นอับแปลกๆที่ปลายจมูก ไม่ถึงกับมีสัมผัสที่หกแต่หมอนิ้งก็จับความรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องของตัวเองได้

          "เหลือห้องเดียว .." พนักงานโรงแรมบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
          "เตียงคู่หรือเตียงเดี่ยวคะ" หมอนิ้งถาม
          "เตียงเดี่ยว .."
          "คือ.. มากับคนขับรถอ่ะค่ะ อยากจะเปิดสองห้อง"
          "เหลือห้องเดียว .."
          "งั้น.. สักครู่นะคะ"

          "เหลือแค่ห้องเดียวอ่ะลุง หมอว่าเราไปหาดูข้างหน้าอีกดีกว่ามั้ยน่าจะมีแหละ" หมอนิ้งถามนายน้อย
          "แต่นี้เราหามาห้าที่แล้วนะครับ ผมว่าขับต่อไปก็คงจะเจอแต่ห้องเต็มอีกอยู่ดีรถบนถนนเป็นร้อยๆคันแบบนี้"
          "เอาไงดีอ่ะ.."
          "กลับไปหาท่านผอ.ที่โรงพยาบาลมั้ยครับ" นายน้อยถาม
          "ไม่เอาอ่ะ ยังไงหมอก็ไม่กลับ จะให้นอนริมถนนก็ยอม" หมอนิ้งโชว์ความเด็ดเดี่ยว

          "งั้นเอางี้ เดี๋ยวผมนอนในรถก็ได้ ตอนเช้าคุณหมอตื่นแล้วก็ลงมาละกัน" นายน้อยเสนอ
          "ไม่เอาอ่ะ ขืนให้ลุงนอนในรถมีหวังหนีกลับโรงพยาบาลแน่ๆ" หมอนิ้งดักทาง
          "ก็เดี๋ยวผมมารับตอนเช้าไงครับ"
          "ถ้าลุงหนีกลับหมอจะฟ้องผอ.ให้เอาโทษ โทษฐานที่ลุงทิ้งหมอ!! เอาสิ"

          "โอเคครับ ผมนอนในรถนี่แหละไม่ไปไหนหรอก นี่ก็จะตีสองแล้วเชิญคุณหมอพักผ่อนเถอะครับ" นายน้อยถอนหายใจ
          "ขึ้นไปอาบน้ำมั้ย"
          "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมถามที่เคาน์เตอร์ว่ามีห้องน้ำข้างล่างมั้ย"
       
          "ขึ้นไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ"
          "คุณหมอกลัวผีเหรอครับ" หมอนิ้งกระชับกระเป๋าสะพายถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินจ้ำอ้าวเข้าตัวอาคารทันที

.................... 

          "พนักงานต้อนรับให้พักห้องนี้เหรอ.." เด็กยกกระเป๋ารุ่นพ่อหยุดยืนที่หน้าประตูห้องถามแปลกๆ
          "อ้าว.. ก็มันใช่ห้องสามศูนย์สี่รึเปล่าล่ะ ถามหนูแล้วจะให้หนูถามใครอ่ะ"
         
          "เปลี่ยนไปนอนห้องอื่นมั้ย.." เข้าถามแปลกๆอีกแล้ว หมอนิ้งเริ่มระแวง ไม่น่าใส่เสื้อเปิดไหล่กับกางเกงขาสั้นตัวนี้มาเลย
          "ก็เค้าบอกว่าเหลือห้องเดียวไม่ใช่เหรอ มีห้องไหนอีกล่ะ"

          "ห้องนอนพนักงาน .."

          "นี่อย่ามาทำรุ่มร่ามนะ!!คนที่มากับชั้นเค้าเป็นตำรวจนะจะบอกให้" หมอนิ้งตวาดเสียงเบาเพราะเกรงใจห้องอื่นๆ

          "แล้วทำไมคุณตำรวจไม่ขึ้นมาด้วยล่ะ ชวนเค้าขึ้นมาด้วยสิ"
          "เดี๋ยวเค้าก็ตามขึ้นมา!!ตกลงว่าห้องนี้ใช่มั้ย!! อ้าว แล้วทำไมมันไม่มีเลขห้องอ่ะ สามศูนย์สาม สามศูนย์ห้า.. ห้องนี้ก็ต้องสามศูนย์สี่สิ"
         
          "เดี๋ยวอีกคนเค้าจะตามขึ้นมาใช่ไหม" พนักงานยกกระเป๋าย้ำถามเรื่องเดิม
          "ใช่ เดี๋ยวเค้าก็มา ลุงไปเถอะถ้าไม่จะอยากเดือดร้อน อ่ะนี่.. ให้ร้อยนึงเลย" หมอนิ้งยื่นแบงค์สีแดงให้

          "ขออีกร้อยนึงได้มั้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแบ่งไปทำบุญให้"
          "ยกกระเป่าเนี่ยนะจะเอาสองร้อย ขู่กรรโชกผิดคนแล้วล่ะลุงเอากุญแจมานี่เลย!!"

....................     

เปิดประตูเข้าห้องนี่ถึงกับอึ้ง กลิ่นอับคล้ายกับกลิ่นโถงรับแขกที่เดินผ่านมาเมื่อกี๊เลย เครื่องปรับอากาศเก่าคร่ำมองเห็นคราบสนิมส่วนรีโมทติดผนังก็อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานปุ่มกดเปลี่ยนอุณหภูมิถลอกปอกเปิก ดูคล้ายห้องที่โรงแรมจัดไว้ให้คนขับรถหรือผู้ติดตามอย่างไรอย่างนั้น โทรทัศน์เปลี่ยนไปช่องไหนก็มีแต่เสียงซ่าาา..รับสัญญาณอะไรไม่ได้

หลังจากเปิดสวิทช์ไฟส่องสว่างครบทุกดวงก็สำรวจห้องน้ำ ถึงอุปกรณ์ข้างของเครื่องใช้จะเก่าจะเป็นคราบสนิมสีแดงเข้มไหลลงตามผนังแต่ก็ยังสะอาดกว่าที่คิด กระเบื้องสีเหลืองอมเก่าทาบทาด้วยแสงวอร์มไวท์บรรยากาศคล้ายอยู่ในหนังฆาตกรรมเกรดต่ำ หมอนิ้งไม่สนใจจะแช่อ่างอาบน้ำนั่นเลย รีบอาบน้ำรีบนอนดีกว่า

....................

          "ครับ คุณหมอ" นายน้อยสะดุ้งตื่นงัวเงียรับโทรศัพท์
          "ลุงน้อยอยู่ที่จอดรถป่ะคะ"
          "อยู่ครับไม่ได้ไปไหน คุณหมอไม่ต้องห่วง" นึกไปว่าหมอนิ้งคงโทรมาเช็คชื่อ

          "ลุงน้อยตามขึ้นมาบนห้องหมอหน่อยได้มั้ยคะ.."
          "ไม่ดีมั้งคับคุณหมอ ผมนอนตรงนี้ก็ดีแล้ว"
          "คือ.. เอ่อ.. มันมีอะไรแปลกๆค่ะ ลุงน้อยขึ้นมาได้มั้ย"
         
          "โอเคครับ เดี๋ยวผมขึ้นไป" นายน้อยแอบคิดเรื่องทะลึ่งอยู่ในใจ

....................

          "โห.. ทำไมเปิดแอร์หนาวขนาดนี้ล่ะครับคุณหมอ" นายน้อยกวาดตามองไปรอบห้องที่เปิดไฟส่องสว่างไว้ทุกดวง
          "แอร์มันปรับไม่ได้" หมอนิ้งเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นพันผ้าขนหนูพรางรูปร่างกันไว้อีกชั้นนึง

          "ลุงน้อยนอนที่พื้นก็แล้วกันนะ นั่นผ้าห่มกับหมอนหมอเตรียมไว้ให้แล้ว"
          "ความจริงให้ผมนอนในรถก็ได้ครับ เดี๋ยวผอ.รู้เข้าคุณหมอจะเสียหาย" นายน้อยนอนหงายห่มผ้าอยู่ข้างเตียง ไม่มีทีท่าว่าคุณหมอสาวสวยจะคิดเรื่องทะลึ่งกับเขา

          "ปิดไฟได้มั้ยครับคุณหมอ สว่างขนาดนี้ผมนอนไม่หลับ"
          "เปิดไว้แบบนี้แหละ นะ"

          "มีอะไรรึเปล่าครับ"
          "เมื่อกี๊หมอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น เตียงมันยุบยวบเหมือนมีคนเดินบนเตียง" หมอนิ้งนอนก้มหน้าซุกหมอนเสียงขาดๆหายๆเหมือนคนกำลังสะอึกสะอื้น
         
          "ไม่มีอะไรหรอกครับ รถบรรทุกอาจวิ่งผ่าน หรือไม่ก็แผ่นดินไหว" สงสัยนายน้อยจะง่วงจนตาลาย เห็นเงาดำเป็นเค้าโครงร่างคล้ายผู้หญิงผมยาวกำลังลอยตัวอยู่บนเพดาน
          "แล้วก็เหมือนมีเงาดำๆไหวๆอยู่บนเพดานด้วย" หมอนิ้งเล่าต่อ มิน่าถึงได้นอนซุกหมอนร้องไห้แบบนั้น
          "ไม่มีอะไรหรอกครับ อาจภาพซ้อนติดมาจากถนนน่ะ" นายน้อยปลอบ

เขาจับตามองเงาสีดำค่อยๆลอยเลื่อนต่ำลงมาที่เตียง ขอบเค้าโครงค่อยๆชัดขึ้น เป็นผู้หญิงคว่ำหน้าผมทิ้งตัวลงสยายยาว กลิ่นสาบแรงๆเตะจมูก

          "ลุงน้อย!! มีอะไรนอนบนเตียงอีกแล้ว!!" เสียงหมอนิ้งตกใจสุดขีด ถ้าเธอเงยหน้าขึ้นมามองก็คงจะเห็นภาพอย่างที่นายน้อยเห็น
          "รถปูนวิ่งผ่านน่ะครับไม่มีอะไรหรอก คุณหมอรีบๆหลับพักผ่อนเถอะ"
          "หมอหลับไม่ได้!! มันยังอยู่ใช่มั้ยลุง" คราวนี้หมอนิ้งปล่อยโฮร้องไห้ ความกลัวผีพุ่งถึงขีดสุด

          "สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ นิททุกขา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิดฯ" นายน้อยท่องบทแผ่เมตตา ร่างผีผู้หญิงค่อยๆยืนขึ้นแบบไร้น้ำหนัก เลื่อนถอยหายไปในกำแพง

          "คุณหมอลองลืมตาดูสิไม่มีอะไรเลย"
          "แต่เมื่อกี๊หมอรู้สึกได้เลยนะว่ามีคนนอน" หมอนิ้งเถียงทั้งน้ำตา

          "พวกนี้มันทำอะไรเราไม่ได้หรอกครับคุณหมอ มันทำได้อย่างเดียวคือทำให้เรากลัว"
          "แต่หมอกลัว!! ลุงน้อยไล่มันไปทีได้มั้ย" สัมผัสได้ว่าหมอนิ้งสติแตกไปแล้ว
          "จะให้ผมไล่อะไรครับมันไม่มีอะไร เปิดไฟสว่างจ้าขนาดนี้ผีเผอกระเจิงหมดแล้วครับ" วางใจไม่ทันได้สักนาทีเสียงน้ำไหลจากก๊อกก็ดังขึ้น

          "ฮือ.. ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ววว ไม่เอาแล้ว.. กลัว" หมอนิ้งเริ่มร้องไห้หนักอีกครั้ง แบบที่เค้าว่ากลัวจนขี้ขึ้นสมอง
         
นายน้อยสูดลมหายใจตั้งสมาธิ เขาแผ่เมตตาให้แล้วสัมพะเวสีก็คงจะไป นี่ขนาดหมอนิ้งไม่เห็นภาพแบบที่เขาเห็นยังสติแตกขนาดนี้ ถ้าได้เห็นท่าฟรีสไตล์ฝืนแรงโน้มถ่วงแบบเมื่อกี๊นี้อาจกู่ไม่กลับ

          "ฮือ.. " หมอนิ้งยังไม่หยุดร้องไห้ อาการน่าเป็นห่วง

          "ยิ้มสิครับคุณหมอ ยิ้มนิดๆทำจิตใจเราให้สูงเข้าไว้ ยิ้มให้เกิดเมตตา" นายน้อยแนะนำเท่าที่นึกออก "ความกลัวมันคือมโนภาพที่เราสร้างขึ้นมาเอง พวกนกหนูกระรอกกระต่ายไม่เห็นมันกลัวผีเลยครับ"
          "ฮือ.. " เห็นชัดว่าไม่ได้ผล หมอนิ้งยังร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว จิตของเธอตกต่ำดำดิ่งสู่ห้วงแห่งเดรฉานมิจฉาทิฏฐิ

นายน้อยยังนอนหงายอยู่ในท่าเดิม เสียงน้ำจากก๊อกอ่างล้างหน้าหยุดเองสลับเป็นเสียงน้ำจากฝักบัวฉีดแรงใส่ผนังยิ่งสั่นประสาทของหมอนิ้ง จากเมื่อกี๊ที่หนาวจนต้องห่มผ้ายิ่งหนาวขึ้นไปอีก กลิ่นอับเอียนๆเหมือนกลิ่นขนนกไหม้ลอยมาเตะจมูกอีกครั้ง มันกำลังจะมา นายน้อยสัมผัสได้ถึงความโกรธความง่วงความรำคาญที่กำลังก่อขึ้นในใจของเขา

          "คุณหมอครับ.. อย่าไปฟังครับ อย่ามอง อย่าคิด ตั้งสติตั้งใจดีๆ เราอยู่ในภพภูมิที่สูงกว่าอย่าไปกลัวมันครับ"
          "ฮือ.. กลัวแล้ววว ฮือออ.. อย่ามาหลอกเลยนะ กลัววแล้วว"

คิดถึงภรรยาและลูกสาวที่ลาจากไปเมื่อหลายปีก่อนจากอุบัติเหตุทางรถในคืนเทศกาล บุญกุศลทุกอย่างที่สามารถจะทำได้เขาก็ทำทั้งนั้น ถึงคืนนี้จะไม่สมความตั้งใจสร้างบุญด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่วินาทีนี้เขากำลังจะได้ช่วยหมอนิ้งฉุดเธอขึ้นจากห้วงอเวจีภายในจิตใต้สำนึกของตัวเอง ปล่อยไปแบบนี้ถ้าไม่ร้องไห้จนขาดใจตายก็คงสติแตกเตลิดเปิดเปิงแบบกู่ไม่กลับ นึกถึงภาพใบหน้าของภรรยาสุดที่รักอีกครั้ง ความปราถนาเดียวในชีวิตคือการได้พบหน้าเธออีกครั้ง

          "ฮือ.. กลัววว ฮือ.."
          "คุณหมอ.. คุณหมอเคยอมควยผอ.รึเปล่าครับ ไอ้ตี๋แว่นนั่นได้ซอยหีคนสวยๆเนียนๆอย่างคุณหมอเนี่ย บอกตามตรงผมโคตรอิจฉาผอ.เลย" ได้ผล เสียงสะอื้นของหมอนิ้งเงียบลง

          "คุณหมอรู้จักพยาบาลที่ชื้อแต๋มมั้ยครับ คนที่สวยๆก้นงอนๆอ่ะ เค้าก็รู้กันทั้งโรงพยาบาลว่าคั่วอยู่กับผอ. คุณหมอทราบมั้ยครับ" หมอนิ้งเงยหน้าขึ้นมา เค้าโครงร่างผู้หญิงผมยาวสยายยืนอยู่ข้างหลังนายน้อยพอดี เธอกรี๊ดหวีดขึ้นมาด้วยความกลัวที่ได้เห็นผีเป็นครั้งแรกแบบเต็มสองตา

          "คุณหมอดูนี่สิครับ" นายน้อยลุกขึ้นยืนท่อนล่างเปลือยเปล่า คลานขึ้นคุกเข่าบนเตียง "ควยของผมกับของผอ.ใครใหญ่กว่ากันครับ" หมอนิ้งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก

          "ทำให้มันแข็งทีสิครับ ไม่กล้าเหรอ เดี๋ยวผมทำให้ดูเองก็ได้" นายน้อยชักว่าวห่างจากใบหน้าคุณหมอคนสวยไม่ถึงคืบ มังกือหนังเหี่ยวใกล้เกษียณผงาดตัวเป็นมังกรฟ้าสองกำโผล่ผูเกรียงไกร หมอนิ้งอดคิดไม่ได้ว่าขนาดลำของนายน้อยใหญ่โตกว่าของแฟนเธอจริงๆด้วย

          "เป็นไงครับอยากลองมั้ย นี่ตั้งแต่เมียตายไปผมยังไม่ได้เย็ดใครเลยนะเนี่ย เห็นขาขาวๆของคุณหมอแล้วเงี่ยนจัง ถ้ามีบุญถึงขั้นได้เย็ดรับรองผมจะประเคนให้หีบวมขาถ่างจนหุบไม่ได้เลย เอามั้ยครับคุณหมอ"

          "นี่มึงจะบ้าเหรอ!! อย่านะ!! กูจะฟ้องผอ.ให้ไล่แม่งออกไปเลย อย่าทำอะไรนะ!!" หมอนิ้งสบถกร้าว หวังว่าพนักงานต่ำชั้นจะกลัวคำขู่

          "ขอโทษครับคุณหมอ" นายน้อยยกมือไหว้ท่วมหัว "ผมเห็นแต่ทางนี้นี่แหละครับที่จะทำให้คุณหมอหลุดจากภวังค์มืดได้ พวกจับไข้หัวโกร๋นก็เป็นแบบนี้ละครับเสียผู้เสียคนพูดจาไม่รู้เรื่องไปเลยก็มี ผมกลัวคุณหมอจะหลุดสติแตกก็เลยต้องชี้ชวนให้คิดอย่างอื่น สัมพะเวสีพวกนี้ถ้าจิตใจเราเข้มแข็งเพียงพอมันก็จะทำอะไรเราไม่ได้เลยครับ เสียพลังงานเสียเวลาของมัน" นายน้อยพูดไปพลางยัดเก็บปืนประจำกายลงกางเกง หมอนิ้งหน้าแดงระบบไหลเวียนเลือดกลับมาปกติอีกครั้ง จริงอย่างที่คนขับรถพูด บรรยากาศในห้องดีขึ้นหายใจคล่องกว่าเมื่อกี๊มาก เงาสีดำนั้นหายไปแล้ว

          "นอนเถอะครับจะตีสี่แล้ว ผมว่าปิดไฟดีกว่ามั้ยเปิดสว่างแบบนี้ก็เลยนอนไม่หลับซักที คิดโน่นคิดนี่สร้างมโนคติเหลวไหล" นายน้อยไล่เดินปิดสวิทช์ไฟส่องสว่างทีละดวงเหลือทิ้งไว้แค่แสงไฟลอดจากประตูห้องน้ำ ทรุดตัวลงนอนที่พื้นข้างเตียง

          "ลุงน้อย.."
          "ครับ.."

          "ขึ้นมานอนบนเตียงกับหมอได้มั้ย หมอกลัวว่าผีเมื่อกี๊มันจะกลับมานอนอีกอ่ะ"
          "ครับ.." นายน้อยขยับปีนขึ้นเตียง รู้สึกง่วงเต็มที

          "แล้วเรื่องพยาบาลที่ชื่อแต๋มนั่นอ่ะเรื่องจริงมั้ย หรือว่าแค่หลอกให้หมอโกรธผอ.จะได้ลืมเรื่องผี" หมอนิ้งถาม
          "นอนเถอะครับหมอ พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางอีกตั้งสองร้อยกว่าโลกว่าจะถึง"

....................

หมอสรจักรทรุดกายลงบนเก้าอี้ในห้องพักอย่างเหนื่อยอ่อนตามเนื้อตัวมีคราบเลือด ดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาตีห้ากว่า แสงสีน้ำเงินแกมแดงเริ่มทาบทาขอบฟ้า อีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะผ่านพ้นสิบสองชั่วโมงมรณะ ภาพเด็กชายสองคนที่เขาและคณะแพทย์ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้จากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ยังวนเวียน

          "เยี่ยมยอดไปเลยค่ะผอ. สถิติของปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วเกินห้าสิบเปอร์เซนต์อีกค่ะ" พยาบาลแต๋มเปิดประตูแล้วค่อยเคาะ
          "เริ่มประเมิณผลกันแล้วเหรอ เร็วจริง"
          "ทุกคนเห็นผอ.ลงมาลุยกำกับดูแลเองก็เลยช่วยกันเต็มที่ค่ะ"
          "แต่ก็อย่างเพิ่งดีใจกันงานของพวกเรายังไม่จบ ยังเหลืออีกตั้งสามวันถึงจะพ้นช่วงเจ็ดวันอันตราย"

          "แต๋มนวดให้เอามั้ยคะผอ." พยาบาลสาวถือวิสาสะเดินอ้อมโต้ะมาบีบนวดบ่าไหล่ให้ผอ.หนุ่ม
          "อืม.. ขอบคุณนะ สบายดีจัง"
       
....................

เสียงไก่ข้างโรงแรมโก่งคอแข่งกันขันรับอรุณ อุณหภูมิในห้องลดต่ำฮวบลงจนหนาวสั่นเข้ากระดูก หมอนิ้งค่อยๆลืมตาเพราะรู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองอยู่ ปรับสายตาให้ชินกับแสงสลัวความรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มาเป็นสิบ เค้าโครงร่างต่างๆนั้นชัดเจนมีทั้งผู้หญิงผู้ชายทั้งเด็กยืนรายล้อมอยู่รอบเตียงนอน ร่างชโลมไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรังเสื้อผ้าเก่าจนจำแนกสีสันไม่ได้ ทุกใบหน้าแสดงความโกรธแค้น นัยตาสีแดงช้ำเลือด

หันไปข้างๆเจอนายน้อยนอนลืมตา สองมือกำลังสาวท่อนเนื้อลำเขื่องอย่างเมามันส์ เขาคว้ามือนุ่มนิ่มของหมอนิ้งไปช่วยกำรูดขึ้นลงถี่ๆ

          "ไอ้พวกเหี้ยอยากดูควยเหรอ ดูสินี่ไงควย เย็ดแม่"

นายน้อยลุกขึ้นนั่งคุกเข่ามือยังสาวไม่หยุดแต่เหมือนจะไม่เป็นผล ทุกร่างยังยืนนิ่งไม่ไหวติง ลูกตาของเจ้าตัวสูงเริ่มค่อยๆไหลยืดย้อยหยดจากเบ้า เจ้าร่างเด็กหยิบหัวตัวเองวางบนเตียง ร่างที่ยืนอยู่ตรงหัวเตียงแหวกท้องให้เห็นอวัยวะเน่าเหม็นสีดำสนิท ที่หนักที่สุดคือกลิ่น หมอนิ้งหวีดร้องกรี๊ดในลำคอ มือเท้าสั่นเกร็งคล้ายกำลังจะชัก

          "ทนอีกไม่กี่นาทีครับคุณหมอจะเช้าแล้ว!! ต้องทนนะครับ มันจะหลอกจะทำอะไรก็ชั่งแม่มัน!!" เสียงไก่ขันคือกำลังใจเดียว ทุกอย่างกำลังจะสิ้นสุดลงเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ต่างคนต่างไป "ไอ้เย็ดดดแม่มมมมม!!" นายน้อยตะโกนใส่ผี

          "เมียจ๋าพี่ขอโทษนะจ้ะ.. เมียจ๋าช่วยคุณหมอนิ้งด้วยนะ" นายน้อยยกมือไหว้มองสวรรค์

          "อยากดูหีเหรอไอ้พวกเหี้ย!! นี่ไง หีอูมๆมึงดูสิไอ้เดรฉาน!!"

นายน้อยเลิกผ้าห่มกระชากกางเกงขาสั้นพร้อมกางเกงในของหมอนิ้งออก จัดท่าแหวกสองขาให้เป็นรูปตัวเอ็ม พวกผีหยุดหลอกหลอนในทันทีเหมือนมันจะสนใจสองกลีบอูมขาวเนียนบดเบียดรอยแยกฉ่ำเยิ้มสีชมพูเข้ม หมอนิ้งหยุดชักเกร็งไม่มีแม้เสียงสะอื้น นายน้อยซุกหน้าลงที่หว่างขาลากลิ้นสลับฉกแย็บรัวๆ

          "ซื้ดดด.. ลุง จะทำอะไรอ่ะ" หมอนิ้งหายใจหอบถี่
          "เป็นไง มีความสุขก็ครางดังๆเลยสิจ้ะจะเขินทำเหี้ยอะไร มึงเตรียมตัวหีบานได้เลยอีหมอแรด!! อีหมอนทอง!!" นายน้อยสบถ
          "อืมม.. อื้มมมม ซื้ดดดด"

หมอนิ้งจัดการถอดเสื้อผ้าท่อนบนของตัวเอง สองเต้าขนาดมาตรฐานหญิงไทยเนียนแน่นหัวนมสีน้ำตาลแข็งเป็นก้อนลูกเกด ไม่รู้ว่าการสบถคำหยาบคายจะเป็นเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าแต่หมอนิ้งยังไม่เคยได้ยินใครพูดกับเธอแบบนี้ มันเร้าอารมณ์แปลกๆที่นายน้อยกำลังกล่าวหาว่าเธอเป็นอีหมอแรดอีหมอร่าน

          "อมซะดอกทอง จะได้รู้ว่าควยที่แท้จริงมันเป็นยังไง" หมอนิ้งยันตัวขึ้นมาพอได้ระดับ เธอเคยทำออรัลเซ็กให้หมอสรจักรมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกเต็มปากเต็มคำแบบนี้

          "เฮ้ย!! อีหมอ!! มึงดูไอ้พวกผีเหี้ยนั่นดิ 55 ผีชักว่าวเว่ย!! ผีดูหีหมอไปชักว่าวไปควายเอ๊ยแม่งโคตรฮาสัส นี่เพิ่งรู้นะว่าเป็นผีก็ชักว่าวได้"

          "ไหนดูดิ๊ ไอเหี้ย!! นี่ควยพวกมึงเหรอเนี่ยไอ้สัสดำอย่างกับควันรถสิบล้อ ถ้าเปิดพัดลมเป่านี่ควยพวกมึงปลิวหายเลยนะเย็ดแม่ อ้าว.. แบบนี้ควยมึงก็ไม่แข็งดิ ควยไม่แข็งก็อดเย็ดหีหมอนิ้งน้าาาา 55" นายน้อยอิมโพรไวซ์ไปเรื่อย

          "อีหมอ!!มานี่ดิ๊!! โก้งโค้งโก่งตูดท่าหมาอ่ะทำเป็นรึเปล่าผัวไม่เคยเย็ดท่านี้รึไงวะ เออ โก่งแคมให้เพื่อนๆดูหน่อยสิ 55!!" นายน้อยจัดท่าทางให้หมอนิ้งหันก้นไปทางพวกกลุ่มผีผู้ชายที่กำลังชักว่าว ผีเด็กก็มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย 

          "เย็ดดิเสียบเลยเพื่อนกระแทกเลย กระหน่ำให้หีแม่งแหกไปเลยดิ ค้วย.. เย็ดแม่ อ้าวเชี่ย..โทษทีกูลืมไป ควยไม่แข็ง 55 ควยแม่งมีแต่ควัน" นายน้อยหัวเราะเยาะเย้ย "ดูดนมมั้ย เอามั้ย นี่กูดูดให้ดู" หมอนิ้งสะดุ้งเฮือก ลิ้นสากๆฉกตวัดเสียวจนต้องคว้าคอนายน้อยมาจูบ จูบโชว์ผี

....................

สิบโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ลดกระจกโบกมือทักทายยามหน้าประตูโรงพยาบาล เขาภูมิใจในตัวบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาล ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่แต่ทุกคนก็แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในตัวผอ.คนใหม่คนนี้ ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเพื่อลดความสูญเสีย

          "โห.. ท่านผอ.เพิ่งกลับไปเมื่อเช้าไม่ใช่เหรอครับ นี่เพิ่งสิบโมงเองมาอีกแล้ว" รปภ.หน้าประตูกล่าวทักทายด้วยความชื่นชม

          "ยามเห็นคนขับรถที่ชื่อน้อยมั้ย แก่ๆหน่อย เข้ามารึยัง" ผอ.ถาม
          "อ๋อ พี่น้อยเหรอ วันนี้ยังไม่เห็นเลยครับ ก็เมื่อวานท่านผอ.บอกบนเวทีว่าอนุญาติให้พี่น้อยหยุดช่วงปีใหม่ มีอะไรหรือเปล่าครับเดี๋ยวผมโทรตามแกให้"
          "งั้นขอเบอร์นายน้อยให้ผมละกัน เดี๋ยวผมโทรเอง"

....................

แสงแดดร้อนยามสายสาดส่องผ่านเข้าทางหน้าต่าง ไร้เงาหรือสัญญาณใดๆของภูติผีปีศาจแล้วอีกแล้ว เสียงเตียงไม้เก่าโยกถี่ดังเอี๊ยดอ๊าด

          "โฮ้ย.. ลุงน้อย อื้มมม... ซื้ดด...." หมอนิ้งขยับเอวถี่ขย่มตอที่แยงยาวเกือบชนมดลูก "หมอจะเสร็จแล้ว.."
          "คุณหมอ!! ต้องท่านผอ.แน่เลย ทำไงดีครับจะให้บอกว่าไง"
          "ลุงก็ไม่ต้องรับสิ เดี๋ยวเค้าก็โทรเข้าเครื่องหมอเองแหละ"

ตามคาด โทรศัพท์เครื่องของหมอนิ้งมีสัญญาณสายเรียกเข้า เธอถอนสมอนอนเอนหลังสบายอารมณ์รับโทรศัพท์

          "นิ้ง อยู่ที่ไหนเนี่ย" หมอสรจักรถาม "เมื่อเช้าพี่กลับไปที่บ้านไม่เห็น"
          "นิ้งกลับมาโคราชแล้วค่ะ พี่จักรเป็นไงคะเมื่อคืนเหนื่อยมั้ย"

นายน้อยจับท่อนเนื้อลำเขื่องของตัวเองลากไปทั่วใบหน้าเนียนใสของหมอนิ้ง เธอแลบลิ้นส่งสายตายั่วคนขับรถรุ่นพ่อ

          "พี่พูดเล่นนะที่ให้นายน้อยขับรถไปส่งที่โคราชน่ะ ไม่คิดว่าจะไปจริงๆ"
          "อ๋อ.. ไอ้เอ็นไออ่ะ.."
          "อะไรนะพูดอีกทีซิ สัญญาณมันไม่ค่อยชัดจ้ะ"
          "นิ้งบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ" คุณหมอสาวดึงท่อนเอ็นของคนขับรถออกจากปาก "ไม่ใช่สัญญาณไม่ดีหรอก พอดีเมื่อกี๊นิ้งกินไอติมอยู่ค่ะ"

          "แล้วนี่ทานขาวรึยัง"
          "ซื้ดดดด อื้มมม.. โอ้ย.."
          "นิ้ง เป็นไร"
          "นิ้งเสียวค่ะพี่จักร อื้มมมม เสียวหิ ...ซื้ดด อ่าฮ เสียวจัง"
          "เสียวอะไร อะไรเสียว นิ้ง!!"
          "เสียวฟันน่ะค่ะ อื้มมม.. กินไอติมเสียวฟันเลย ซื้ดดดด.."

          "เรื่องเมื่อคืนพี่ขอโทษนะ"
          "เอ๊าะ... อื้มมม อูยย" หมอนิ้งหอบถี่เผลอครางเพราะนายน้อยยัดดุ้นเข้าไปเต็มร่องสวาท
          "เป็นอะไรเนี่ย ดูเหนื่อยๆหอบๆ"
          "อ๋อ.. นิ้งวิ่งออกกำลังกายอยู่ค่ะ อ่าห์.. ซื้ดดดด"

          "เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ลงไปหาที่โคราชนะ คืนนี้พี่ต้องเข้าเวรอีกคืนนึง"
          "เดี๋ยวนะคะพี่จักร พอดีนิ้งจะไปเที่ยวกับเพื่อนสองสามวัน พี่จักรไม่ต้องลงมานะคะ ซื้ดดด อืมมม... โอ้ยยย" นายน้อยกระแทกถี่จนสองเต้ากระเพื่อม "แค่นี้ก่อนนะคะพี่จักร เดี๋ยวค่อยคุยกัน"
          "นิ้ง!! เดี๋ย.."

นายน้อยเร่งถี่จนคุณหมอสาวหน้าตาเหยเกเผลอบดเขี่ยติ่งของตัวเองไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ

          "โอ้ย.. อื้ทมมมม ซื้ดดดดดสสสส อู้ยยหมอจะเสร็จแล้ว แรงๆเลยค่ะ"
          "พี่จักรกับพี่น้อยใครเย็ดหีมันส์ถึงใจกว่ากันครับคุณหมอ"
          "อื้มมม โอ่ห์.. พี่น้อยสิค่ะ โอ้ยย.. จะเสร็จ พี่น้อยพูดหยาบๆอีกสิคะ"
          "ได้ครับ โธ่.. อีดอกช้างเย็ด หน้าตาดีๆการศึกษาสูงๆอย่างมึงนี่กูไม่คิดเลยนะว่าจะร่านควยขนาดนี้ ติดใจควยใหญ่ๆแล้วละสิคับร่องหีมึงเลยใช่มั้ยล่ะ"
          "โอ้ย... อื้มมมมม เสร   จ อื้ มมม ม"

          "เสร็จกี่รอบแล้วครับคุณหมอ"
          "หลายรอบค่ะไม่ได้นับ โอย.. เหนื่อย ขาสั่นไปหมดเลย"

          "บอกตามตรงนะว่าผมยังอยากเย็ดคุณหมออยู่เลยหมอยคุณหมอสวยน่าเอามาก ติดตรงที่ผมจะหกสิบแล้วนี่สิ นี่ถ้าตอนหนุ่มๆนะเย็ดยาวทรหดยิ่งกว่านี้เยอะ"

....................

          "ได้เวลาเช็คเอาท์ครับ" เด็กยกกระเป๋ารุ่นพ่อหน้าเหียกเคาะประตูบอกเวลา
          "ต่ออีกคืนนึงค่ะ" คุณหมอนิ้งพันผ้าเช็ดตัวออกไปเปิดประตู เนื้อโนมขาวจั๊วะยั่วยวนใจให้ตรึงตา

          "ย้ายห้องมั้ยครับ" เด็กยกกระเป๋ารุ่นพ่อเผลอกลืนน้ำลายเลียปาก
          "ไม่ย้ายค่ะ เอาห้องเดิมนี่แหละ"
     
          "มีอะไรอีกรึเปล่าคะ ยืนนิ่งเชียว"
          "อ๋อ.. เปล่าครับ โอเคครับ ไม่ย้ายห้องนะ"

          "สั่งอาหารได้ไหมคะ รูปหล่อ.." หมอนิ้งบริหารสเน่ห์
          "ได้ครับ เอาอะไรดี"

          "เอากระดอทอด ราดหน้าหมอยกรอบ ยำเย็ดสดค่ะ" หมอนิ้งยิ้มหวาน
            



เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

MAC

คุณหมอครับระวังนะครับเดียวจะถูกผีลักหลับเออผีกดทับเอะอะไรนะงง ::Horror::

Pichit Ekz Sangkarn

ตกลงนายน้อยเขาปลอบหรือเงี่ยน

superman1010

ปลอบให้หายกลัวแต่เป็นเงี่ยนแทนนะเนี่ย

085fu0210111

มาแบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย สนุกดีครับ

alex2432

กลัวผีซะขนาดนี้คงไม่รอดแน่นอน ::Thankyou::

palmy ed

ยาวมากการปูเรื่อง แต่ชอบแนวนี้มากนะ ชายแก่กับสาวสวย

noknoi13

ลุงน้อย ควักปลัดขิก ออกมาไล่ผีล่ะ คุณหมอไม่ต้องกลัว

hunterkung

โห จะได้หมอคนสวยเลยเหรอ กลัวจนโดนจัดเลยนะหมอ

amnasi

นายน้อยมันร้ายกาจมาก ปราบผีซะจุกเลย

ryg123456

คุณหมอร่านได้ใจเลยนะครับเนี่ย

juheshas hiskon


sp502

นี่นายน้อยเขาจะปลอบคุณหมอแบบไหนนะ สงสัยจริงๆ

yoyoman

หมอนิ้งก็ร่านเหมือนกันนะนี่

Popeye5555